ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 นางณัฐมน สชุ ัยรัตน์ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรียนอยธุ ยาวทิ ยาลยั สงั กดั สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษาเขต 3 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 คานา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์ 1 รหัสวิชา ว21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ฉบับน้ีจัดทาเพื่อประกอบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ สาหรับนักเรียน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 โดยนาเสนอในรูปแบบของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนสามารถฝึกปฏิบัติ กิจกรรม ศกึ ษาหาความรู้ด้วยตนเองหรือเป็นกล่มุ รว่ มกับการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้ มีเนื้อหาสาระและกิจกรรมเก่ียวกับเร่ือง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ปจั จัยที่มีผลต่อการสังเคราะหแ์ สง ผลทีไ่ ดจ้ ากการสังเคราะห์แสงของพืช และการสงั เคราะหแ์ สงของพืชท่ีมผี ล ต่อส่ิงมีชีวิต เป็นกิจกรรมท่ีเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่ม และได้ค้นพบองค์ความรู้จากการ ปฏิบตั จิ รงิ ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ผู้จัดทาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์ 1 รหัสวิชา ว21101 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ได้รวบรวมกิจกรรมและเนื้อหาสาระไว้ในชุดกิจกรรมนี้แล้ว หวังว่าผู้ใช้ชุด กิจกรรมการเรียนรู้น้ีจะได้รับประโยชน์ในการเรียนรู้ และเกิดทักษะในการทดลอง สามารถสร้างความรู้ด้วย ตนเองเพือ่ ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวันต่อไป ณฐั มน สชุ ยั รตั น์ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ยั รัตน์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ก
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 สารบัญ เร่ือง หนา้ คานา ก สารบญั ข คาช้แี จง 1 แผนผังแสดงขัน้ ตอนการเรยี นชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 2 คาแนะนาสาหรบั ครู 3 คาแนะนาสาหรับนกั เรยี น 4 มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และสาระสาคัญ 5 บตั รคาสัง่ เรอ่ื ง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช 7 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 8 บัตรกิจกรรมท่ี 1.1 เรอื่ ง คลอโรฟิลลก์ ับการสร้างอาหารของพชื 11 เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 1.1 เร่ือง คลอโรฟิลล์กับการสรา้ งอาหารของพชื 16 บตั รกจิ กรรมท่ี 1.2 เรอื่ ง แสงกบั การสร้างอาหารของพชื 18 เฉลยบัตรกิจกรรมท่ี 1.2 เรื่อง แสงกบั การสรา้ งอาหารของพืช 23 บัตรกิจกรรมที่ 1.3 เรื่อง ผลผลติ ทเ่ี กิดจากการสงั เคราะหด์ ้วยแสง 26 เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 1.3 เรื่อง ผลผลิตทเี่ กดิ จากการสงั เคราะหด์ ้วยแสง 31 บัตรความรู้ เรื่อง การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช 33 บัตรใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง ปัจจยั ทีจ่ าเป็นกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง 39 เฉลยบัตรใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ปัจจัยท่จี าเปน็ กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง 40 บัตรใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง ผลที่ไดจ้ ากการสังเคราะห์ดว้ ยแสง 41 เฉลยบตั รใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง ผลท่ีได้จากการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง 42 บัตรใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง ถูกหรือผิด 43 เฉลยบตั รใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง ถกู หรอื ผดิ 44 บัตรใบงานท่ี 1.4 เร่ือง ฉนั คือใคร 45 เฉลยใบงานที่ 1.4 เร่ือง เรอื่ ง ฉันคอื ใคร 46 บัตรใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื ง ความสาคัญของการสงั เคราะห์ด้วยแสง 47 วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ยั รตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ข
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพืช ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 สารบัญ เร่อื ง หนา้ บัตรใบงานที่ 1.6 เรื่อง สรุปองคค์ วามรู้ 48 แบบทดสอบหลังเรียน 49 บรรณานุกรม 53 ภาคผนวก 54 55 - เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 56 - เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 57 - แบบบันทกึ คะแนน วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ัยรตั น์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ข
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 คาช้แี จง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ฉบับนี้ จัดทาขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ 1 รหัสวิชา ว21101 สาหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช โดยนักเรียนเรียนรู้ด้วยการศึกษาค้นคว้า จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองหรือเรียนรู้เป็นกลุ่มและปฏิบัติกิจกรรม โดยมีครูผู้สอนคอยกากับดูแล แนะนาสรุปเนอื้ หารว่ มกับผเู้ รยี น ซ่งึ นักเรยี นต้องปฏิบัติตามข้ันตอน ดังน้ี 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ใช้ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 1 รหสั วิชา ว21101 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ใช้เวลา 3 ช่วั โมง 2. สว่ นประกอบของชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ชุดน้ีประกอบดว้ ย 2.1 คาชี้แจง 2.2 แผนผงั แสดงขั้นตอนการเรียนโดยใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้ 2.3 คาแนะนาการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรสู้ าหรบั ครู 2.4 คาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนร้สู าหรบั นักเรยี น 2.5 มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชว้ี ดั จุดประสงค์การเรียนรู้ และสาระสาคัญ 2.6 บัตรคาส่งั 2.7 ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 2.8 บัตรกิจกรรม 2.9 บตั รบันทึกกจิ กรรม 2.10 บัตรเฉลยบนั ทกึ กจิ กรรม 2.11 บัตรความรู้ 2.12 บัตรใบงาน 2.13 บัตรเฉลยใบงาน 2.14 ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 2.15 แบบบนั ทึกคะแนน 2.16 บรรณานกุ รม 2.17 ภาคผนวก ประกอบดว้ ย เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน แบบบนั ทึกคะแนน 3. ผ้ใู ชช้ ุดกิจกรรมนี้ควรศกึ ษาคาแนะนาในการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นร้กู ่อนใช้ วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ยั รตั น์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ 1
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 แผนผังแสดงขน้ั ตอนการเรยี น ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื 1. อา่ นคาชีแ้ จง/คาแนะนาการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. ศึกษาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยปฏบิ ัตดิ งั น้ี ไม่ผา่ น - อา่ นบตั รคาส่งั - ทาแบบทดสอบก่อนเรียน - ทาบตั รกิจกรรม - ศึกษาบัตรความรู้ - ทาบตั รใบงาน - ทาแบบทดสอบหลังเรียน 3. ตรวจสอบแบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน บัตรกจิ กรรม ประเมนิ ผล บัตรใบงาน จากบตั รเฉลย ผ่าน วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชัยรตั น์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ 2
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 คาแนะนาสาหรับครู คาชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สาหรับครูผู้สอนน้ีใช้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 1 รหัสวิชา ว21101 ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 กาหนดให้เป็นแนวทางให้ครผู ้สู อนควรปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเรียนการสอน ดงั น้ี 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ใช้เวลาศึกษาทั้งหมด 6 ชั่วโมง 2. ศึกษาส่วนประกอบของชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์อย่างละเอียด 3. เตรียมส่ือ อุปกรณ์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้พร้อม และครอบจานวนนักเรียนในช้ันเรียน แตล่ ะกลมุ่ 4. เมื่อมีกิจกรรมกลุ่มให้แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละ 5-6 คน จานวนกลุ่มข้ึนอยู่กับนักเรยี นในช้ันเรียน โดยคละนักเรียนเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน ให้มีการเลือกประธาน เลขานุการกลุ่ม และแบ่งหน้าท่ีความ รับผิดชอบแกส่ มาชิกในกลุ่ม 5. ก่อนทากิจกรรมการเรียนรู้ ครูควรชี้แจงให้นักเรียนเข้าใจบทบาทตนเอง และแนะนาการใช้ชุด กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวปฏิบตั ใิ นระหวา่ งการดาเนินกิจกรรมการเรยี นรู้แลว้ จึงให้ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 6. ขณะที่นักเรียนทากิจกรรม ครูควรกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม และ ควบคุมการทากิจกรรมของนักเรียนอย่างใกล้ชิด เพ่ือความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์ และเกิดประสิทธิภาพ สูงสดุ ในการทากิจกรรม 7. เม่อื นกั เรียนทากิจกรรมครบแล้ว ครูและนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายและลงขอ้ สรปุ และให้นักเรียนทา แบบทดสอบหลังเรียนแล้วนาผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนแจ้งให้นักเรียนทราบความก้าวหน้า ทางการเรยี น 8. เม่ือส้ินสุดการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ครูให้นักเรียนร่วมตรวจสอบเก็บชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ใหเ้ รยี บร้อยเพอื่ สะดวกในการใช้ครง้ั ตอ่ ไป วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชัยรัตน์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ 3
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 คาแนะนาสาหรับนกั เรยี น คาช้ีแจงการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาหรับนักเรียนเพื่อศึกษาและลงมือทากิจกรรม การเรียนรู้ เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 1 รหัสวิชา ว21101 ระดับชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ัติตามขัน้ ตอนด้วยความซอ่ื สตั ย์ และความตัง้ ใจ ดังน้ี 1. ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ใชเ้ วลาศึกษาทัง้ หมด 6 ชั่วโมง 2. แบ่งกลุม่ ละ 5-6 คน เลอื กประธานกลุ่ม กรรมการกลมุ่ และเลขานุการกลุ่ม 3. อ่านคาชีแ้ จงการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื อย่างละเอียดให้ เข้าใจก่อน ลงมือศึกษาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ 4. ศกึ ษา มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั และจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระสาคัญ 5. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพชื พร้อมทั้งตรวจคาตอบและบนั ทึก ผลคะแนนที่ได้ลงในแบบบันทึกคะแนน 6. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ตามบัตรกิจกรรมและบัตรใบงาน เสร็จเรยี บร้อยแลว้ ให้ตรวจสอบคาตอบได้ จากเฉลยบัตรกิจกรรมและเฉลยบัตรใบงาน 7. ทาแบบทดสอบหลังเรียน เรอ่ื ง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช จานวน 10 ข้อ 8. ตรวจคาตอบจากเฉลยแบบทดสอบหลังเรยี นพร้อมบนั ทึกผลคะแนนที่ เพ่ือตรวจสอบ ความกา้ วหน้าทางการเรยี น ซึ่งนกั เรียนตอ้ งทาแบบทดสอบหลงั เรียน ได้ร้อยละ 80 ขึน้ ไป จงึ จะผา่ นเกณฑ์ ถ้า นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ตามท่ีกาหนด ให้ทบทวนเนอ้ื หาแล้วใหท้ าแบบทดสอบหลงั เรียนอีกคร้ัง หากผ่านเกณฑ์ จงึ จะเรียนรใู้ นเรื่องต่อไป ขอ้ ควรปฏิบตั ิ 1. หากมขี ้อสงสัยใหข้ อคาอธบิ ายหรอื ถามครูผูส้ อนเพอ่ื รว่ มกันสรปุ ข้อสงสยั น้ันๆ 2. เพ่อื ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสดุ นักเรยี นต้องมีความซ่อื สัตยต์ ่อตนเองไม่เปิดดเู ฉลยจนกวา่ นกั เรียนจะทา กจิ กรรมเสร็จเพื่อตรวจสอบความก้าวทางการเรียน อา่ นกอ่ นนะคะ วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รัตน์ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 4
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวัด จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และสาระสาคญั มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าทข่ี องอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์และมนษุ ยท์ ่ีทางานสัมพันธ์กันความสัมพันธ์ ของโครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธก์ นั รวมทง้ั นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวช้ีวดั ว 1.2 ม.1/6 ระบปุ ัจจยั ท่ีจาเปน็ ในการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงและผลผลิตทเ่ี กิดขึน้ จากการสังเคราะห์ด้วย แสง โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ว 1.2 ม.1/7 อธิบายความสาคญั ของการสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื ต่อส่งิ มีชวี ติ และส่ิงแวดลอ้ ม ว 1.2 ม.1/8 ตระหนกั ในคุณคา่ ของพืชท่ีมีตอ่ สง่ิ มีชีวิต และสิง่ แวดล้อม โดยการรว่ มกันปลกู และดูแล รักษาตน้ ไม้ในโรงเรยี นและชุมชน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1) อธิบายปจั จัยท่จี าเปน็ ในการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงได้ 2) อธิบายผลทไี่ ด้จากการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืชได้ 3) อธิบายความสาคัญของกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงท่มี ีตอ่ ส่งิ มีชีวิตและส่งิ แวดลอ้ มได้ 4) ตระหนักในคุณค่าของพชื ทมี่ ีต่อส่งิ มชี ีวิตและส่ิงแวดล้อม วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ยั รัตน์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ 5
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพืช ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process) 1) ทดลอง สังเกต และระบุปัจจยั ในการสร้างอาหารของพืช 2) ทดลอง และระบุผลผลิตของการสังเคราะห์ด้วยแสง 3) สืบคน้ ข้อมลู เกีย่ วกบั กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงทีม่ ีตอ่ สง่ิ มชี ีวิตและสิง่ แวดลอ้ มได้ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude) 1) ซื่อสตั ย์สจุ ริต 2) มีวนิ ยั 3) ใฝ่เรยี นรู้ 4) มุ่งม่นั ในการทางาน สาระสาคัญ กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื เปน็ กระบวนการสร้างอาหารของพืชสีเขยี ว แสง คลอโรฟิลล์ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์และน้า เป็นปจั จัยทจี่ าเปน็ ตอ่ กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช นา้ ตาล แก๊ส ออกซิเจนและนา้ เป็นผลิตภัณฑ์ท่ีได้จากกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วย แสงมีความสาคัญตอ่ การดารงชีวิตของสิ่งมีชีวติ และต่อสิง่ แวดลอ้ มในด้านอาหาร การหมุนเวียนของแก๊ส ออกซเิ จนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เม่อื เข้าใจแล้ว เราไปอ่านหน้า ตอ่ ไปเลยคะ่ วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ยั รัตน์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ 6
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 บัตรคาส่ัง เรอ่ื ง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื โปรดอา่ นบตั รคาส่ังใหเ้ ข้าใจแลว้ ปฏบิ ัตติ าม 1. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประจาชุดกิจกรรม เร่อื ง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช จานวน 10 ขอ้ และตรวจคาตอบจากเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มแบง่ หน้าที่ความรับผิดชอบในกลมุ่ พร้อมสง่ ตัวแทนออกมารับชุดกิจกรรมการ เรยี นรู้ เร่อื ง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช 3. นักเรียนอา่ นบัตรคาสัง่ ให้ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทลี ะข้ันตอน โดยปฏบิ ัตติ ามคาสั่งอยา่ งเคร่งครัด และต้อง ตั้งใจปฏบิ ตั กิ ิจกรรมอย่างจริงจงั ไม่ชวนเพื่อนในกลมุ่ คุยหรือเลน่ จนทาให้การเรียนช้ากว่าเวลาทก่ี าหนด 4. ให้นักเรียนทกุ คนทาแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช เม่อื เขา้ ใจแลว้ เราไป ทาแบบทดสอบก่อน เรยี นกันเลยคะ่ วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รัตน์ กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ 7
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 แบบทดสอบก่อนเรียน วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 รหสั วิชา ว21101 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื คาชี้แจง ให้นกั เรียนทาเครือ่ งหมาย X ลงในช่องว่าง ที่เป็นคาตอบที่ถกู ต้องท่สี ุดเพียงคาตอบเดียว ลงในกระดาษคาตอบ ( ใชเ้ วลา 10 นาที ) 1. พืชสรา้ งอาหารไดเ้ องโดยการสังเคราะหด์ ้วยแสง อาหารดังกลา่ วคืออะไร ก. แป้ง ข. กลโู คส ค. ไขมัน ง. เกลอื แร่ 2. ส่วนใดของพชื ท่ีมกี ารสังเคราะห์ด้วยแสง ก. ใบ ข. ราก ค. ดอก ง. ทกุ สว่ นของพชื ทม่ี ีสเี ขียว 3. สมการแสดงการสรา้ งอาหารของพืชตอ่ ไปน้ี 1 และ 2 คืออะไร (1) + (2) ออกซเิ จน + กลูโคส + น้า ก. นา้ + น้าตาล ข. ออกซิเจน + นา้ ตาล ค. คารบ์ อนไดออกไซด์ + นา้ ง. คารบ์ อนไดออกไซด์ + ออกซเิ จน 4. รากกลว้ ยไม้สดสามารถสังเคราะห์ดว้ ยแสงได้ นกั เรียนเหน็ ดว้ ยกับคากล่าวนห้ี รือไม่ เพราะเหตุใด ก. เห็นด้วย เพราะรากกลว้ ยไม้มีสารสีเขยี วที่เรียกวา่ คลอโรฟิลล์อย่ภู ายในเซลล์ ข. ไม่เหน็ ดว้ ย เพราะรากกลว้ ยไมท้ าหน้าที่ยึดเกาะให้กล้วยไม้ทรงตวั อยไู่ ด้เทา่ น้นั ค. เห็นด้วย เพราะรากกลว้ ยไม้จะดดู นา้ ทีเ่ ป็นวตั ถุดบิ สาคัญในการสงั เคราะหด์ ้วยแสง ง. ไมเ่ หน็ ด้วย เพราะรากกลว้ ยไมอ้ ย่ใู นดนิ ไมส่ ามารถรับแสงสวา่ งได้ วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ัยรตั น์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 8
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 5. อาหารทพี่ ชื ใช้เป็นแหลง่ พลังงานในกิจกรรมต่างๆ ของการดารงชีวิตได้แก่ ก. แสงแดด ข. แป้ง นา้ ตาล ค. คลอโรฟลิ ล์ ง. คาร์บอนไดออกไซด์ และนา้ 6. การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง แตกตา่ งจากการหายใจในข้อใด ก. การหายใจใหแ้ ก๊สออกซเิ จน แตส่ ังเคราะห์แสงใหแ้ กส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ข. การสงั เคราะหแ์ สงเกิดข้ึนกับเซลลท์ ีใ่ บ ส่วนการหายใจเกดิ ข้นึ กับเซลลท์ ุกเซลลใ์ นต้นพืช ค. การหายใจเกิดขึ้นตลอดเวลา แตก่ ารสงั เคราะห์ด้วยแสงเกิดในเวลาทไี่ ด้รับแสงสวา่ งเท่านนั้ ง. การหายใจจะได้น้ากบั แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แต่การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงจะได้น้าตาลกลูโคสกับ ออกซเิ จนเทา่ นั้น 7. กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช ถือวา่ เปน็ การเปลย่ี นแปลงพลงั งานอยา่ งไร ก. พลังงานแสง เปน็ พลังงานเคมี ข. พลงั งานแสง เป็นพลงั งานกล ค. พลงั งานความร้อน เปน็ พลังงานเคมี ง. พลงั งานแสง เปน็ พลงั งานความร้อน 8. การเก็บตน้ ผกั บุ้งไวใ้ นกล่องทบึ 1 คืน เพื่ออะไร ก. เพอื่ ให้ไม่ถูกกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ข. เพือ่ ให้นา้ ตาลเปล่ียนไปเป็นแปง้ ก่อนจะนามาทดสอบ ค. เพอ่ื ใหแ้ ป้งสลายตัวไปเป็นคารบ์ อนไดออกไซด์และน้า ง. เพื่อใหแ้ ปง้ ในใบหมดไปเม่ือไม่มกี ารสงั เคราะหด์ ้วยแสง 9. ข้อใดไม่ใช่วตั ถุดิบทใี่ ช้ในการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง ก. นา้ ข. แสง ค. กา๊ ซออกซิเจน ง. กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ 10. การสงั เคราะห์ด้วยแสงเกดิ ทบ่ี ริเวณใดของตน้ มะมว่ ง คะแนนเต็ม 10 ก. ส่วนท่ีมีสีขาว ข. สว่ นทม่ี ีสเี ขยี ว คะแนน ขอ้ ละ 1 ค. ส่วนทมี่ ีสีดา คะแนน ตอบถูกได้ 1 ง. ส่วนท่มี ีสีม่วง คะแนน ผิดได้ 0 9 วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ัยรตั น์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาคสตะรแ์ นน
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 รหสั วิชา ว21101 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช ชอื่ ...........................................................................................ชั้น....................เลขที่.............. ขอ้ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนทไี่ ด้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ผา่ น ทดสอบก่อนเรียนได้ .............. คะแนน ไม่ผา่ น วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชยั รัตน์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ 10
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 บตั รกิจกรรมท่ี 1.1 เรอ่ื ง คลอโรฟิลลก์ ับการสรา้ งอาหารของพชื คาช้แี จง ให้นกั เรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมการทดลอง ดงั นี้ จานวน / กลมุ่ 1 ใบ เวลาทากิจกรรม 30 นาที 1 กลัก 1 ใบ จุดประสงคก์ ารทดลอง 1 หลอด 1 หลอด ทดลอง สังเกต และระบุปจั จัยในการสร้างอาหารของพืช 1 อนั 1 ใบ วัสดอุ ปุ กรณ์และสารเคมี 1 อนั 1 ชุด รายการ 1 cm3 1. ใบชบาดา่ ง 5 cm3 2. ไมข้ ดี ไฟ 15 cm3 3. บีกเกอร์ขนาด 250 cm3 40 cm3 4. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 5. หลอดทดลองขนาดเล็ก 6. หลอดหยด 7. ถว้ ยกระเบ้ือง 8. ปากคีบ 9. ตะเกยี งแอลกอฮอล์พร้อมท่ีก้ันลมและตะแกรงลวด 10. สารละลายไอโอดนี 11. นา้ แป้ง 12. แอลกอฮอล์ 13. น้า วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รตั น์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 11
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 วิธกี ารทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล 1. เดด็ ใบชบาด่างที่ถกู แสงมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง มา 1 ใบ 2. วาดรปู ใบไม้นเ้ี พอ่ื แสดงสว่ นท่ีเปน็ สขี าวและสเี ขียว 3. สกัดคลอโรฟลิ ลใ์ นใบชบาด่างโดยตม้ น้า 40 cm3 ใบบีกเกอรจ์ นเดอื ด ใสใ่ บชบาด่างท่ีเด็ดตามข้อ 1 ลงไป ตม้ ต่อไปอีก 1 นาที แลว้ คบี ใบชบาด่างจากบีกเกอร์ใสล่ งในหลอดทดลองขนาดใหญ่ เติมแอลกอฮอล์ลงไป 15 cm3 (หรอื พอทว่ มใบ) แช่หลอดทดลองในบีกเกอรท์ ่ยี ังตม้ อยู่ ต้ม ต่อไปอกี ประมาณ 1 – 2 นาที จนกระทั่งใบมีสีซดี คบี ใบชบาดา่ งจากหลอดทดลองจุ่มลงในน้า เยน็ 4. นาใบชบาด่างขึน้ จากน้าวางในถว้ ยกระเบื้อง หยดสารละลายไอโอดนี 2 – 3 หยด ลงบนชบา ด่าง ทิง้ ไวค้ รง่ึ นาที จงึ ลา้ งน้า สังเกตการเปลย่ี นแปลงท่ีเกิดขนึ้ บนั ทึกผล 5. รินน้าแปง้ 5 cm3 ลงในหลอดทดลองขนาดเล็ก หยดสารละลายไอโอดนี 2 หยด ลงในน้าแปง้ สังเกตการเปลยี่ นแปลง และบันทกึ ผล 6. เปรียบเทียบผลที่ได้ในข้อ 4 กับสีของนา้ แป้งหลงั จากใสส่ ารละลายไอโอดนี ภาพที่ 1 การสกดั คลอโรฟิลลใ์ นใบชบาด่าง ทม่ี า : ศรีลักษณ์ ผลวัฒนะและคณะ. (2552 : 40) หมายเหตุ : ใบไม้ท่ีใชท้ ดลองอาจใช้ใบขาไกห่ รือใบไมด้ ่างชนดิ อืน่ ที่หาได้ง่าย และควรเป็นไปที่อยใู่ กลส้ ่วนยอด วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ยั รตั น์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ 12
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ช่ือกลุ่ม.......................... สมาชกิ ในกลุ่มได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………………….เลขท.่ี .............. 2…………………………………………………………………………………………………….เลขท่.ี .............. 3…………………………………………………………………………………………………….เลขท.่ี .............. 4…………………………………………………………………………………………………….เลขที.่ .............. 5…………………………………………………………………………………………………….เลขที.่ .............. 6…………………………………………………………………………………………………….เลขท่.ี .............. คาถามก่อนทดลอง 1.ปัญหาของกจิ กรรมนค้ี ืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.สมมตฐิ านของกิจกรรมน้คี ืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรควบคุมของการทดลองนี้คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นยิ ามเชงิ ปฏบิ ัติการของการทดลองนคี้ ืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เราไปบันทึกผลการทดลองหน้า 13 ตอ่ ไปกนั เลยคะ่ วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ยั รตั น์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 บันทกึ ผลการทดลอง ภาพวาดใบชบาดา่ งก่อนทดลอง ภาพวาดใบชบาดา่ งหลงั ทดลอง ตารางบนั ทึกผลการทดลอง ผลการทดสอบด้วยสารละลายไอโอดนี สงิ่ ท่ที ดสอบ ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ใบชบาดา่ งส่วนท่มี สี ีเขยี ว ……………………………………………………………… ใบชบาด่างส่วนทีม่ สี ขี าว นา้ แปง้ สกุ ตอบคาถามเพ่อื การวเิ คราะห์การทดลอง 1. เพราะเหตใุ ดการวาดรูปใบชบาดา่ งจงึ ต้องแสดงส่วนทีเ่ ป็นสขี าวและสีเขียว ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. เพราะเหตุใดใบชบาด่างที่นามาทาการทดลองตอ้ งถูกแสงมาแลว้ ประมาณ 3 ชัว่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. น้าแปง้ สุกซง่ึ มสี ีขาวเมือ่ ทาปฏิกิรยิ ากับสารละลายไอโอดีนซง่ึ มสี ีนา้ ตาลจะเปลี่ยนเป็นสีอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. การทดสอบใบชบาดา่ งด้วยสารละลายไอโอดีนตรงบริเวณท่เี คยเป็นสีเขยี วและเคยเป็นสขี าว ได้ผล เหมือนกนั หรือไม่ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชัยรัตน์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ 14
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพืช ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 สรปุ ผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ทาเสร็จเรากไ็ ป ตรวจสอบ คาตอบกนั เลยนะ ครับ วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รตั น์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 15
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เฉลยบัตรกจิ กรรมที่ 1.1 เร่อื ง คลอโรฟลิ ล์กบั การสรา้ งอาหารของพืช คาถามกอ่ นทดลอง 1.ปัญหาของกจิ กรรมนค้ี ืออะไร ส่วนสขี าวหรอื สว่ นสีเขยี วของใบชบาด่างท่ีสามารถสร้างอาหารของพืชได้ 2.สมมตฐิ านของกจิ กรรมนีค้ ืออะไร ถ้าสีเขียวของพชื เกย่ี วข้องกบั การสงั เคราะห์ด้วยแสง ดงั นั้นส่วนท่ีมสี ีเขยี วของใบชบาด่างก็จะมีการ สังเคราะหด์ ้วยแสง 3. ตวั แปรตน้ ตวั แปรตาม ตวั แปรควบคุมของการทดลองนี้คืออะไร ตวั แปรตน้ สว่ นทม่ี สี ีขาวหรือส่วนที่มีสเี ขียว ตวั แปรตาม การเกิดแปง้ ในใบชบา ตัวแปรควบคุม ขนาดและอายุของใบชบา 4. นิยามเชงิ ปฏิบัตกิ ารของการทดลองน้ีคืออะไร การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของใบชบาดา่ งตรวจสอบได้จากแป้งซงึ่ เกิดขึ้นที่สามารถทดสอบได้ดว้ ย สารละลายไอโอดนี บนั ทึกผลการทดลอง สีขาว สนี า้ ตาล ภาพวาดใบชดาด่างก่อนทดลอง สมี ่วงแกมน้าเงิน สเี ขยี ว ภาพวาดใบชบาดา่ งหลงั ทดลอง ภาพวาดใบชบาดา่ งกอ่ นทดลอง วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รัตน์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 16
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ตารางบนั ทึกผลการทดลอง ผลการทดสอบด้วยสารละลายไอโอดนี สงิ่ ที่ทดสอบ สีม่วงแกมน้าเงิน สีนา้ ตาล ใบชบาดา่ งสว่ นท่ีมสี ีเขียว สีมว่ งแกมนา้ เงิน ใบชบาด่างส่วนทม่ี ีสขี าว น้าแปง้ สุก ตอบคาถามเพื่อการวเิ คราะห์การทดลอง 1. เพราะเหตใุ ดการวาดรูปใบชบาด่างจงึ ตอ้ งแสดงสว่ นทีเ่ ป็นสีขาวและสีเขยี ว ไว้เปรยี บเทยี บหลังการทดสอบหาแปง้ เพื่อระบุไดว้ ่าส่วนของใบสใี ดมีแป้ง 2. เพราะเหตใุ ดใบชบาด่างท่ีนามาทาการทดลองต้องถูกแสงมาแล้วประมาณ 3 ช่วั โมง เพ่ือให้เกิดกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงในเซลล์ของใบชบาด่าง 3. นา้ แปง้ สุกซ่งึ มสี ีขาวเม่อื ทาปฏกิ ิริยากบั สารละลายไอโอดีนซงึ่ มีสีนา้ ตาลจะเปล่ียนเปน็ สีอะไร สีม่วงแกมนา้ เงิน 4. การทดสอบใบชบาดา่ งด้วยสารละลายไอโอดนี ตรงบรเิ วณที่เคยเป็นสเี ขียวและเคยเป็นสีขาว ได้ผล เหมอื นกนั หรือไม่ อย่างไร ไม่เหมือนกัน ส่วนท่เี คยเป็นสีเขียวจะเปล่ียนเปน็ สีมว่ งแกมน้าเงิน สว่ นท่ีเปน็ สขี าวเปน็ เปน็ สนี ้าตาล สรปุ ผลการทดลอง ส่ิงทจ่ี า้ เปน็ ในการสังเคราะหด์ ้วยแสง คือสารสเี ขียวในพืช มีชอื่ ว่าคลอโรฟิลล์ เกณฑก์ ารให้คะแนน 17 1. นักเรียนบนั ทกึ ผลการทากิจกรรมได้ถูกต้องสมบรู ณ์ให้ 5 คะแนน 2. นักเรียนบันทกึ ผลการทากิจกรรมได้ถกู ต้องบางส่วนให้ 3 คะแนน 3. นักเรียนสรปุ ผลการทากจิ กรรมได้ถูกต้องสมบรู ณ์ ให้ 2 คะแนน 4. นักเรียนสรุปผลการทากจิ กรรมได้ถูกต้องสมบรู ณ์ ให้ 1 คะแนน 5. นักเรียนตอบคาถามได้ถูกต้องให้ข้อละ 1 คะแนน รวม 7 คะแนน รวมคะแนน 14 คะแนน วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ัยรตั น์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 บัตรกิจกรรมที่ 1.2 เร่อื ง แสงกับการสร้างอาหารของพืช คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง ดงั น้ี จานวน / กลมุ่ 3 ตน้ เวลาทากิจกรรม 30 นาที 1 แผ่น 1 อนั จดุ ประสงค์การทดลอง 1 กลัก 1 ชดุ ทดลอง สังเกต และระบุปัจจัยในการสรา้ งอาหารของพชื 1 อนั 1 อนั วสั ดุอปุ กรณ์และสารเคมี 1 อัน 1 หลอด รายการ 5 cm3 1. ตน้ ผกั บงุ้ จนี ขนาดสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร 1 ใบ 2. กระดาษสดี าขนาด 3 cm x 5 cm 20 cm3 3. ที่เย็บกระดาษ 150 cm3 4. ไมข้ ีดไฟ 5. ตะเกยี งแอลกอฮอล์ พรอ้ มท่กี ้นั ลมและตะแกรงลวด 6. ปากคีบ 7. กระจกนาฬกิ าหรือจานเพาะเชอ้ื 8. หลอดหยด 9. หลอดทดลองขนาดนหญ่ 10. สารละลายไอโอดีน 11. บกี เกอรข์ นาด 250 cm3 12. เอทิลแอลกอฮอล์ 13. น้าเปล่า วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ยั รตั น์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ 18
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ขอ้ ควรระวังในการทากิจกรรม !!! - นกั เรยี นควรระมัดระวังการใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ อย่านาภาชนะทบี่ รรจุแอลกอฮอล์ไปต้มกับเปลว ไฟโดยตรง เนื่องจากแอลกอฮอล์ติดไฟง่าย อาจเกดิ อนั ตรายในระหว่างการทดลองได้ - ควรดับไม้ขดี ไฟ โดยปักด้านท่ตี ิดไฟในกระป๋องทราย วธิ ีการทดลองและเก็บรวบรวมขอ้ มลู 1. เพาะต้นผักบุ้งให้สูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร จากนน้ั นาไปไว้ในทม่ี ืดเป็นเวลา 2 คืน 2. นากระดาษทบึ แสงสีดามาหุม้ ใบผักบุ้ง จานวน 1 ใบ 3. นากระถางผักบ้งุ ไปตั้งไว้กลางแดดประมาณ 3 ชว่ั โมง 4. เดด็ ใบผกั บงุ้ ที่หุ้มและไม่ได้ห้มุ ด้วยกระดาษทบึ แสงสีดามาทาเคร่ืองหมาย แลว้ นามาต้มสกัด คลอโรฟิลล์และทดสอบด้วยสารละลายไอโอดนี โดยวิธีการดังน้ี 4.1 ใส่นา้ เปลา่ ลงในบกี เกอร์คร่งึ บีกเกอร์ ตม้ นา้ บนชดุ ตะเกียงแอลกอฮอล์จนเดือด 4.2 ต้มใบผักบงุ้ ท้งั 2 ใบ ในนา้ เดือด 5 นาที 4.3 คีบใบผกั บ้งุ ที่ต้มแลว้ ทง้ั 2 ใบใส่ในหลอดทดลองขนาดใหญ่ เติมเอทานอลจนทว่ มใบ ผกั บงุ้ แล้วนาหลอดทดลองแช่ในบีกเกอรท์ ี่มีน้ารอ้ นอยตู่ ้มต่อไปจนใบผักบงุ้ ซีดขาว 4.4 คีบใบผักบุง้ ทัง้ 2 ใบออกจากหลอดทดลองนาไปล้างน้า วางบนจานเพาะเช้ือ คลใี่ บออก หยดสารละลายไอโอดนี ลงบนใบทงั้ 2 ใบให้ท่ัว สังเกต และบนั ทกึ ผลโดยการวาดภาพหรือถ่ายภาพ ภาพที่ 2 ขั้นตอนการทดลองแสงกับการสรา้ งอาหารของพืช 19 ทีม่ า : ศรลี ักษณ์ ผลวฒั นะและคณะ. (2552 : 40) วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชัยรตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ช่อื กลมุ่ .......................... สมาชกิ ในกลุ่มไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………….เลขท.่ี .............. 2…………………………………………………………………………………………………….เลขท.่ี .............. 3…………………………………………………………………………………………………….เลขท่.ี .............. 4…………………………………………………………………………………………………….เลขท่ี............... 5…………………………………………………………………………………………………….เลขที่............... 6…………………………………………………………………………………………………….เลขที่............... คาถามก่อนทดลอง 1.ปญั หาของกิจกรรมนี้คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.สมมติฐานของกิจกรรมน้ีคืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ตัวแปรตน้ ตัวแปรตาม ตัวแปรควบคุมของการทดลองน้ีคอื อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นิยามเชิงปฏบิ ัติการของการทดลองนี้คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รตั น์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ 20
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 บันทกึ ผลการทดลอง ภาพใบผักบงุ้ ท่หี ุ้มด้วยกระดาษทึบแสงสีดา ภาพใบผกั บุ้งไม่ได้หุ้มดว้ ยกระดาษทึบแสงสดี า ตารางบนั ทึกผลการทดลอง ผลการทดลอง ………………………………………………………………………….. การทดลอง …………………………………………………………………………. 1. ใบผกั บ้งุ ที่ไดร้ ับแสง …………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………. 3. ใบผกั บุง้ ทถี่ ูกปดิ ด้วยกระดาษสดี า ตอบคาถามเพ่ือการวเิ คราะห์กจิ กรรม 1. เหตใุ ดจงึ ต้องนาต้นผักบงุ้ ไปไว้ในทม่ี ดื สนิทเป็นเวลา 2 คืน กอ่ นการทดลอง ............................................................................................................................................................ .................. ............................................................................................ .................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. การเปลี่ยนแปลงของสีสารละลายไอโอดีนบนใบผักบงุ้ ทง้ั 2 ใบ เหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร ...................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................ .................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. เพราะเหตุใดจงึ ต้องนาต้นผักบุ้งไปวางกลางแดด ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................... .......... .................................................................................................................. ............................................................ วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชัยรตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 21
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 4. การทดลองน้ีใบผกั บุง้ ใบใดทีม่ แี ปง้ และใบใดไม่มแี ป้ง ทราบไดอ้ ย่างไร และเหตุใดจงึ เป็นเช่นนัน้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. สรุปผลการทดลอง .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ทาเสรจ็ แล้ว เรากไ็ ป ตรวจสอบ คาตอบกันเลย คะ่ วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รัตน์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ 22
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 1.2 เรื่อง แสงกับการสร้างอาหารของพชื คาถามกอ่ นทดลอง 1.ปญั หาของกิจกรรมน้ีคืออะไร แสงจา้ เปน็ ตอ่ การสรา้ งอาหารของพืชหรือไม่ 2.สมมติฐานของกจิ กรรมน้คี ืออะไร ถา้ แสงเปน็ ปัจจัยทจี่ ้าเปน็ ต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื ดงั น้ันเมอื่ นา้ ใบผกั บงุ้ ทไ่ี ดร้ บั แสงไป ทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีน สีของสารละลายไอโอดนี จะเปลย่ี นจากสีน้าตาลเป็นสีน้าเงิน 3. ตวั แปรตน้ ตวั แปรตาม ตัวแปรควบคุมของการทดลองน้ีคอื อะไร ตวั แปรตน้ คอื การได้รับแสงของใบผกั บงุ้ ตวั แปรตาม คือ การเปลีย่ นแปลงสีของสารละลายไอโอดนี เมอื่ ทดสอบกบั ใบผักบ้งุ ตวั แปรควบคมุ คือ ขนาดและอายุ ของใบผกั บุ้ง บรเิ วณท่วี างกระถางผักบงุ้ 4. นิยามเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารของการทดลองนี้คืออะไร การสังเคราะหด์ ้วยแสงของใบผกั บุง้ ตรวจสอบได้จากแป้งทีเ่ กิดข้นึ ท่ีใบ บนั ทกึ ผลการทดลอง ภาพใบผกั บุง้ ที่หุ้มด้วยกระดาษทึบแสงสีดา ภาพใบผกั บุ้งไม่ได้หุ้มดว้ ยกระดาษทบึ แสงสีดา วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชัยรตั น์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ 23
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ผลการทดลอง สีมว่ งแกมนา้ เงิน การทดลอง สีน้าตาล 1. ใบผกั บุ้งที่ไดร้ บั แสง 3. ใบผักบุ้งทถ่ี ูกปิดดว้ ยกระดาษสีดา ตอบคาถามเพอ่ื การวเิ คราะห์กจิ กรรม 1. เหตุใดจึงต้องนาต้นผักบุ้งไปไว้ในทม่ี ดื สนิทเป็นเวลา 2 คืน กอ่ นการทดลอง การนา้ ต้นผักบงุ้ ไปไวใ้ นทม่ี ดื ก่อน 2 วัน เพราะไม่ต้องการให้พชื มีการสรา้ งอาหารก่อนทจ่ี ะนา้ มาทดลอง 2. การเปลยี่ นแปลงของสสี ารละลายไอโอดนี บนใบผักบุง้ ท้งั 2 ใบ เหมอื นหรือแตกต่างกัน อย่างไร เมอื่ หยดสารละลายไอโอดีนบนใบผักบุ้งที่ไม่ได้หุ้มดว้ ยกระดาษทึบแสงสีด้า สขี องสารละลายไอโอดนี เปล่ียน จากสนี ้าตาลเปน็ สมี ว่ งแกมน้าเงิน ส่วนใบผกั บ้งุ ท่หี ้มุ ดว้ ยกระดาษทึบแสงสดี า้ สีของสารละลายไอโอดีนไมม่ ี การเปลย่ี นแปลง 3. เพราะเหตุใดจงึ ต้องนาตน้ ผักบ้งุ ไปวางกลางแดด การทต่ี ้องนา้ ตน้ ผักบุ้งไปวางกลางแดด เพ่ือให้ผักบุ้งได้รบั แสงและท้าให้มีการสร้างอาหาร 4. การทดลองน้ีใบผกั บ้งุ ใบใดที่มแี ป้ง และใบใดไม่มีแปง้ ทราบได้อย่างไร และเหตุใดจงึ เป็นเชน่ นน้ั ใบผกั บุ้งที่ไม่ได้หุม้ ดว้ ยกระดาษทึบแสงมีแป้ง ทราบไดจ้ ากการเปลีย่ นสขี องสารละลายไอโอดีนเมื่อ หยดลงบนใบ ส่วนใบผกั บุ้งท่ีหุ้มดว้ ยกระดาษทบึ แสงสดี ้าไม่มีแปง้ เพราะสีของสารลายไอโอดนี บนใบไม่เกิด การเปลยี่ นแปลง ทเี่ ป็นเชน่ น้ี เพราะว่าแสงเป็นสงิ่ ทีท่ า้ ใหใ้ บพชื สงั เคราะหน์ ้าตาลขน้ึ จากนัน้ นา้ ตาลจะ เปลย่ี นไปเป็นแป้ง เมื่อไมไ่ ดร้ ับแสงจึงไม่มกี ารสร้างน้าตาล สรุปผลการทดลอง แสงเปน็ สงิ่ ทีจ่ ้าเปน็ ต่อการสร้างอาหารของพชื วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ัยรตั น์ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 24
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 15 คะแนน 1. นักเรียนบนั ทกึ ผลการทากิจกรรมได้ถกู ต้องสมบูรณ์ให้ 5 คะแนน 2. นกั เรียนบันทึกผลการทากิจกรรมได้ถูกต้องบางส่วนให้ 3 คะแนน 3. นักเรยี นสรปุ ผลการทากิจกรรมไดถ้ ูกต้องสมบูรณ์ ให้ 2 คะแนน 4. นักเรยี นสรุปผลการทากจิ กรรมได้ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ให้ 1 คะแนน 5. นกั เรียนตอบคาถามได้ถูกต้องให้ข้อละ 1 คะแนน รวม 8 คะแนน รวมคะแนน วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ัยรัตน์ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ 25
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 บัตรกิจกรรมที่ 1.3 เรอื่ ง ผลผลติ ที่เกิดจากการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง คาช้แี จง ให้นกั เรียนปฏิบัติกจิ กรรมการทดลองดงั นี้ จานวน / กลมุ่ เวลาทากิจกรรม 30 นาที 1 ตน้ 1 ใบ จุดประสงค์การทดลอง 1 หลอด 1 อนั ทดลอง และระบุผลผลติ ของการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง 1 กลกั 1 ดอก วสั ดุอุปกรณแ์ ละสารเคมี 1,000 cm3 รายการ 1. สาหร่ายหางกระรอก 2. บีกเกอร์ขนาด 250 cm3 3. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 4. กรวยแกว้ 5. ไมข้ ดี ไฟ 6. ธปู 7. นา้ ขอ้ ควรระวัง!!! กิจกรรมน้มี กี ารใชไ้ ม้ขีดไฟ และการจดุ ธปู ควรระวังไม่ใหป้ ลายธปู ถูกรา่ งกาย และควรดบั ใหส้ นทิ ในกระป๋องทรายก่อนทง้ิ วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รัตน์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ 26
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 วิธกี ารทดลองและเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 1. ใส่ตน้ สาหร่ายหางกระรอกไว้ในกรวยแก้วก้านส้ันแล้วคว่าลงในบกี เกอร์ขนาด 250 cm3 ซ่งึ มนี ้าอยู่ ดว้ ย โดยให้ปลายก้านกรวยแกว้ จมอยู่ในน้า 2. ใส่น้าจนเต็มหลอดทดลองท่ีมขี นาดใหญ่กว่าก้านแกว้ เล็กนอ้ ย คว่าหลอดทดลองครอบก้านกรวย แก้ว ดงั ภาพ ระวังอย่าให้มีฟองอากาศเกดิ ขึ้นในหลอดทดลอง 3. จัดชดุ ทดลองตามขอ้ 1-2 จานวน 2 ชดุ ชุดหนง่ึ นาไปวางกลางแดดจัด อกี ชดุ หนง่ึ นาไปวางใน กล่องทบึ แสง 4. ใส่ผงฟู 1 ชอ้ นเบอร์ 1 ลงในบกี เกอร์ ของชดุ การทดลองทง้ั 2 ชุด 5. สงั เกตและบนั ทึกสง่ิ ท่ีเกิดขึ้นในหลอดทดลองทั้ง 2 ชุด ทกุ 30 นาที เปน็ เวลา 90 นาที 6. เมอ่ื ครบ 90 นาที ค่อยๆ ยกหลอดทดลองออกจากปลายกรวยแก้ว โดยใช้นว้ิ หัวแมม่ ือปดิ ปาก หลอดไว้ใหส้ นิท ขณะที่ปลายหลอดทดลองยงั จมอยใู่ นน้า แลว้ ยกหลอดทดลองขนึ้ 7. แหย่ธูปตดิ ไฟลงไปในหลอดทดลองอย่างรวดเร็ว สังเกตปลายธปู ที่ตดิ ไฟ บนั ทกึ ผล ภาพที่ 3 แสดงฟองแก๊สท่เี กดิ ขึ้นในหลอดทดลองของชดุ การทดลองที่วางกลางแดดจดั ทีม่ า: สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2561: 297) วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ยั รัตน์ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ 27
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ชือ่ กลุม่ .......................... สมาชิกในกล่มุ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………………….เลขที.่ .............. 2…………………………………………………………………………………………………….เลขท่.ี .............. 3…………………………………………………………………………………………………….เลขท.่ี .............. 4…………………………………………………………………………………………………….เลขที.่ .............. 5…………………………………………………………………………………………………….เลขท่ี............... 6…………………………………………………………………………………………………….เลขที.่ .............. คาถามก่อนทดลอง 1. ปัญหาของกจิ กรรมน้ีคืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. สมมตฐิ านของกจิ กรรมนี้คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ตวั แปรต้น ตัวแปรตาม ตวั แปรควบคุมของการทดลองน้ีคอื อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั ิการของการทดลองน้คี ืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชัยรตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 28
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 บนั ทกึ ผลการทากิจกรรม ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง สงั เกตการเปล่ียนแปลง การแหย่ธูปทต่ี ิดไฟ ชุดการทดลอง ในหลอดทดลอง แตไ่ มม่ ีเปลวไฟ ชดุ การทดลองท่ีวางกลางแดดจดั …………………………………………… ……………………………………………… …………………………...……………… ………………………...…………………… ชดุ การทดลองท่วี างไว้ในกลอ่ งทบึ แสง …………………………………………… ……………………………………………… …………………………...……………… ………………………...…………………… ตอบคาถามเพอ่ื การวิเคราะห์กิจกรรม 1. เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งใส่ผงฟูในบีกเกอร์ ...................................................................................................................... ........................................................ .................................................................................... .......................................................................................... 2. ชดุ ทดลองทีว่ างไว้กลางแดดจดั มกี ารเปลยี่ นแปลงหรือไม่ อยา่ งไร ...................................................................................................................... ........................................................ .............................................................................................................................................................................. 3. ชดุ ทดลองท่วี างไวใ้ นกลอ่ งทบึ มีการเปลี่ยนแปลงหรอื ไม่ อย่างไร .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................ .................................................................................. 4. สาหรา่ ยหางกระรอกในชดุ ทดลองที่ไดร้ ับแสง มีการสงั เคราะห์ด้วยแสงหรอื ไม่ อย่างไร ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................. ............................................ 5. สงิ่ ทีเ่ กดิ ข้ึนจากการสังเคราะห์ดว้ ยแสงในกิจกรรมน้ีคืออะไร ทราบได้อย่างไร ....................................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................ .................................................................................. วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ยั รัตน์ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 29
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 สรปุ ผลการทากจิ กรรม ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .................................................................................... .......................................................................................... .............................................................................................. ................................................................................ ทาเสรจ็ แลว้ เราก็ ไปตรวจสอบ คาตอบกันเลยค่ะ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชยั รัตน์ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 30
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 1.3 เรือ่ ง ผลผลติ ทีเ่ กิดจากการสังเคราะหด์ ้วยแสง คาถามก่อนทดลอง 1. ปญั หาของกิจกรรมน้ีคอื อะไร ผลผลิตจากการสังเคราะห์ดว้ ยแสง คอื อะไร 2. สมมตฐิ านของกจิ กรรมน้ีคืออะไร ถ้าส่ิงที่เกิดขนึ้ จากการสงั เคราะหด์ ้วยแสง คือ แก๊สออกซิเจน กจ็ ะพบว่าสาหรา่ ยหางกระรอกท่ีมีการ สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงจะใหผ้ ลผลติ เป็นแก๊สออกซเิ จน 3. ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตวั แปรควบคุมของการทดลองน้ีคอื อะไร ตัวแปรต้น การวางสาหรา่ ยหางกระรอกไว้กลางแดดจัดและกลอ่ งทึบแสง ตวั แปรตาม การเกดิ แก๊สออกซเิ จน ตัวแปรควบคมุ ขนาดและอายุของสาหร่ายหางกระรอก 4. นิยามเชิงปฏบิ ัติการของการทดลองน้ีคืออะไร การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของสาหรา่ ยหางกระรอกจะได้ผลผลิตเปน็ แก๊สออกซิเจน ทราบได้จากการท่ี แกส๊ ที่ไดจ้ ากการทดลองท้าให้ปลายกา้ นธูปทต่ี ดิ ไฟแต่ไม่มเี ปลวไฟ สวา่ งวาบขน้ึ บนั ทกึ ผลการทากจิ กรรม ตารางบันทกึ ผลการทดลอง สังเกตการเปล่ยี นแปลง การแหยธ่ ูปท่ตี ดิ ไฟ ชดุ การทดลอง ในหลอดทดลอง แตไ่ ม่มเี ปลวไฟ ชุดการทดลองทวี่ างกลางแดดจัด เกิดฟองแก๊สลอยขึน้ มาสะสมท่ี ปลายธูปสวา่ งวาบข้ึน กน้ หลอดทดลอง ชดุ การทดลองที่วางไว้ในกล่องทึบแสง ปลายธปู ไม่เปล่ียนแปลง ไมม่ ีฟองแก๊สเกิดขนึ้ ในหลอด ทดลอง วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชัยรตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ 31
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ตอบคาถามเพือ่ การวเิ คราะหก์ จิ กรรม 1. เพราะเหตุใดจงึ ต้องใสผ่ งฟูในบกี เกอร์ เพ่ือเป็นการเพมิ่ ปริมาณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ในน้า ซึ่งจะช่วยเพม่ิ ปิิกริ ยิ าการสังเคราะหด์ ว้ ย แสงของพชื ใหส้ งู ข้นึ 2. ชุดทดลองที่วางไว้กลางแดดจัดมกี ารเปล่ียนแปลงหรือไม่ อย่างไร ชุดทดลองทว่ี างไวก้ ลางแดดจัดเกดิ การเปล่ียนแปลง คอื จะมฟี องแกส๊ ผดุ ขน้ึ ในหลอดทดลอง 3. ชดุ ทดลองทีว่ างไว้ในกล่องทบึ มกี ารเปล่ียนแปลงหรือไม่ อย่างไร ชุดทดลองทว่ี างไวใ้ นกล่องทึบแสงไม่เกิดฟองแก๊สในหลอดทดลอง 4. สาหร่ายหางกระรอกในชุดทดลองท่ีไดร้ ับแสง มีการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงหรือไม่ อย่างไร ชดุ ทดลองที่ไดร้ บั แสง มีการสังเคราะห์ดว้ ยแสง ทราบไดจ้ ากการมเกิดข้ึนฟองแก๊สขนึ้ ใน หลอดทดลอง 5. สงิ่ ท่ีเกิดขึ้นจากการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงในกิจกรรมนคี้ ืออะไร ทราบได้อยา่ งไร สิง่ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการสงั เคราะห์ด้วยแสงในกจิ กรรมน้ี คือ แก๊สออกซเิ จน ทราบได้จากการทแี่ ก๊สท่ี ไดจ้ ากการทดลองท้าให้ปลายกา้ นธูปที่ติดไฟแตไ่ ม่มีเปลวไฟ สว่างวาบขึน้ สรุปผลการทากิจกรรม ผลผลิตจากการสงั เคราะหด์ ้วยแสง คือ แกส๊ ออกซเิ จน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1. นกั เรียนบันทกึ ผลการทากิจกรรมได้ถกู ต้องสมบูรณ์ให้ 5 คะแนน 2. นักเรียนบนั ทึกผลการทากิจกรรมได้ถูกต้องบางสว่ นให้ 3 คะแนน 3. นักเรียนสรุปผลการทากิจกรรมได้ถูกต้องสมบรู ณ์ ให้ 2 คะแนน 4. นกั เรยี นสรปุ ผลการทากจิ กรรมไดถ้ ูกตอ้ งสมบรู ณ์ ให้ 1 คะแนน 5. นักเรยี นตอบคาถามได้ถูกต้องให้ข้อละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน รวมคะแนน 16 คะแนน วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สุชยั รตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ 32
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 บตั รความรู้ เร่ือง การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช การสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis) หมายถึง กระบวนการสร้างอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต ของพืชสีเขียว จาก น้า และ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยอาศัยคลอโรฟีลล์ แสงเป็นตัวช่วย และเอนไซม์ใน เมด็ คลอโรพลาสต์เปน็ ตัวเร่งปฏกิ ริ ยิ า (catalyst) เขียนสมการได้ดังนี้ นา้ + ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แสง น้าตาล + น้า + กา๊ ซออกซเิ จน คลอโรฟลิ ล์ การเปลย่ี นรูปพลงั งานและการเปลีย่ นแปลงของผลติ ภณั ฑจ์ ากกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง 1. พลังงานจากแสงจะเปลี่ยนรูปเปน็ พลังงานเคมีแลว้ สะสมอยใู่ นรปู ของผลิตภัณฑ์ คอื นา้ ตาลกลโู คส น้า และกา๊ ซออกซิเจน 2. น้าตาลกลูโคสจะถูกเปลยี่ นไปเปน็ แปง้ ทันที และสะสมไวใ้ นเซลล์สเี ขียว และแป้งจะเปลี่ยนกลบั ไปเปน็ น้าตาลกลูโคสอีกครัง้ เม่ือพชื ต้องการนาไปใชใ้ นการดารงชีวติ 3. นา้ และก๊าซออกซเิ จนจะถูกคายออกมาทางปากใบกลับคนื สู่ส่งิ แวดล้อม การสังเคราะห์ด้วยแสง เป็นกระบวนการเปล่ียน พลังงานแสง --------> เคมี สารอินทรีย์ ----------> สารอนนิ ทรยี ์ วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชยั รัตน์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 33
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ประโยชนข์ องการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง 1. เปน็ กระบวนการสรา้ งอาหารเพอื่ การดารงชีวติ ของพืช 2. เปน็ กระบวนการซ่ึงสรา้ งสารประกอบชนดิ อ่นื ซึ่งจาเปน็ ต่อกระบวนการเจริญเตบิ โตของพชื 3. เป็นกระบวนการซึ่งใหก้ ๊าซออกซเิ จนแกบ่ รรยากาศ 4. ลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซดใ์ ห้อยู่ในสภาวะสมดุล โครงสร้างของใบพชื กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงส่วนใหญจ่ ะเกดิ ข้นึ ทใ่ี บในภาพ คอื ใบพชื ตดั ตามขวาง จากด้านบน (ด้านท่รี ับแสง) มายังดา้ นล่าง ซึ่งประกอบด้วยเซลลท์ ่มี ีรูปรา่ งและหน้าท่ีแตกตา่ ง ดงั นี้ ภาพท่ี 4 โครงสรา้ งของใบพชื ทมี่ า: http://biology-society.blogspot.com/2014/09/blog-post_13.html คลอโรฟิลล์ คลอโรฟิลล์ทาหน้าที่ดูดคล่ืนแสงได้ดีในบางช่วงของความยาวคล่ืน โดยเฉพาะในช่วงแถบสีม่วงและสี นา้ เงิน คลอโรฟลิ ล์ดูดพลังงานแสงได้ดที ี่สดุ ช่วงคลื่นท่ดี ูดพลงั งานแสงได้รองลงมาคือ แถบแสงสีแดง ส่วนแถบ แสงสีเขียวดูดได้น้อยทสี่ ุดและปลอ่ ยแถบแสงสเี ขยี วออกมามากท่ีสุด จึงทาให้มองเหน็ คลอโรฟลิ ลม์ ีสีเขียว การ ทดลองวัดปริมาณการดูดพลังงานแสงจากแสงสีต่างๆทาได้โดยสกัดเอาคลอโรฟิลล์ออกจากใบไม้แล้วผ่านแสง แต่ละสีเข้าไปในสารละลายคลอโรฟิลล์วัดปริมาณแสงท่ีคลอโรฟิลล์รับเอาไว้ นาผลท่ีวัดได้ไปเขียนกราฟแสดง การดูดกลนื แสงของคลอโรฟิลล์ วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ัยรัตน์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ 34
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาพที่ 5 ลกั ษณะของคลอโรพลาสต์ ท่ีมา: https://ib.bioninja.com.au/standard-level/topic-2-molecular-biology/29- photosynthesis/chloroplasts.html รงควัตถุในคลอโรพลาสต์ที่สามารถดูดแสงสว่างได้ มิใช่จะมีแต่คลอโรฟิลล์เพียงอย่างเดียว รงควัตถุ อย่างอ่ืน เช่น แคโรทีนอยด์ และ ไฟโคบิลิน ก็สามารถจับแสงสว่างได้ แต่ทาการสังเคราะห์ด้วยแสงเองไม่ได้ ต้องถ่ายทอดพลังงานให้คลอโรฟิลล์ก่อน แล้วคลอโรฟิลล์ก็จะนาพลังงานดังกล่าวไปใช้ในปฎิกิริยาการ สังเคราะห์ด้วยแสง สาหรับใบพืชที่มีสีอ่ืน เช่น สีแดง สีเหลือง หรือสีน้าตาล จะมีคลอโรฟิลล์อยู่ด้วย แต่มี ปรมิ าณนอ้ ย ทาให้มองเห็นสเี ขียวไมช่ ัดเจน ซง่ึ ใบพชื เหลา่ นส้ี ามารถสร้างอาหารได้ เชน่ ใบโกสน เป็นต้น ใบโกสน ใบฤๅษผี สม ภาพที่ 6 พชื ทีม่ ีหลายสี สิ่งที่เกดิ ขน้ึ จากกระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง พืชต้องการแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และน้าเป็นวัตถุดิบในการ สังเคราะห์ด้วยแสง โดยมี คลอโรฟิลล์ แสง และแร่ธาตุเป็นตัวกระตุ้น ทาให้เกิดน้าตาลกลูโคสและแก๊ส ออกซิเจน ซึ่งสามารถเขียนแสดงปฏิกิริยาที่เกิดข้ึนได้ด้วยสมการเคมีที่เรียกว่า สมการการสังเคราะห์ด้วยแสง ดังนี้ 6CO + 12H2O คลอโรฟลิ ล์ C2H12แOรธ่ 6าต+ุ ค+ลอโรฟิล6ลO์ 2 + 6 H2O แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ นา้ น้า แสง น้าตาลกลโู คส แกส๊ ออกซิเจน แสง วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ยั รตั น์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 35 Cgvkdpf gk
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาพท่ี 7 องคป์ ระกอบที่สาคัญในกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง ทมี่ า: https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/11164-photosynthesize ขอ้ ควรทราบ คลอโรฟลิ ล์จะดูดแสงสีต่างๆ จากแสงขาวของดวงอาทิตย์ไว้ได้ไม่เท่ากัน โดยจะดูดแสงสีแดงและแสง สนี ้าเงินไดม้ ากตามลาดับ ส่วนแสงสเี ขียวจะถูกดูดไว้ได้น้อยท่ีสุด เราจึงมองเห็นใบไม้เป็นสเี ขียว เน่ืองจากแสง สเี ขียวสะทอ้ นมาเขา้ สตู่ าเรา น้าตาลกลูโคสเป็นสารประเภทคาร์โบไฮเดรต ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน (C) ไฮโดรเจน (H) และ ออกซิเจน (O) น้าตาลที่ได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชพบวา่ มีปริมาณมากเกินกว่าท่ีพืชต้องการใช้ พืช จึงเปลี่ยนน้าตาลส่วนที่เหลือให้อยู่ในรูปของแป้ง เก็บสะสมไว้ตามส่วนต่างๆของต้นพืช ได้แก่ ราก ลาต้น ใบ ผล และเมล็ด เมื่อพืชจะใช้พลังงานในการดารง ได้แก่ จะใช้น้าตาลกลูโคสเป็นสารตั้งต้นในกา รผลิต สารประกอบประเภทอื่นๆเพื่อใชใ้ นการเจรญิ เตบิ โตและการดารงชวี ติ ไดแ้ ก่ - ผลติ สารท่ชี ว่ ยสร้างเนอื้ ไม้สว่ นลาต้น และเพิ่มความแขง็ แรงให้กบั ลาต้น - ผลิตสารท่ีชว่ ยในการยึดเกาะของเซลล์ - เซลลโู ลสถกู ใชใ้ นการสรา้ งผนงั เซลล์ - เม็ดแปง้ เป็นแหลง่ สะสมพลงั งานในเซลล์ วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชยั รัตน์ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ 36
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 พชื จะเก็บสะสมอาหารไว้ในรูปของแป้ง บางชนิดเก็บไวใ้ นรูปของน้าตาลและนา้ มัน ส่วนตา่ งๆของต้น พชื ทใ่ี ชใ้ นการสะสมอาหารมีดงั น้ี 1. ราก จะเกบ็ สะสมแป้งและนา้ ตาล เชน่ หวั ผกั กาด แครอท เปน็ ตน้ 2. ลาตน้ บางชนดิ จะเกบ็ สะสมน้าตาล เช่น ออ้ ย บางชนดิ จะเก็บสะสมแป้ง เชน่ มนั ฝร่ัง 3. ใบจะเก็บสะสมนา้ ตาลและแป้ง เชน่ ผักบงุ้ ผักคะน้า กะหล่าปลี เปน็ ตน้ 4. ผล จะเก็บสะสมนา้ ตาลทาให้มรี สหวาน เชน่ มังคุด เงาะ ทุเรยี น เป็นต้น 5. เมล็ดจะเก็บสะสมน้าตาล แป้ง และนา้ มัน เช่น ถงั่ เหลือง ถั่งลสิ ง เมล็ดขา้ วโพด เปน็ ตน้ ภาพที่ 8 พืชท่ีเกบ็ สะสมอาหารไว้ในรปู ของแป้งและน้าตาลไว้ตามส่วนต่างๆ ของตน้ พืช เราสามารถตรวจหาแป้งในพืชได้ โดยสกัดสารสีเขียวออกจากใบพืชด้วยแอลกอฮอล์ แล้วทดสอบกับ สารละลายไอโอดนี แป้งจะทาปฏิกริ ิยากับสารละลายไอโอดีนไดส้ ีม่วงแกมนา้ เงิน พืชบางชนิดทม่ี ีใบด่างจะไม่มี คลอโรฟลิ ลใ์ นส่วนที่เปน็ สีขาว ดังนั้นเราจึงตรวจพบแปง้ เฉพาะในส่วนทเี่ ปน็ สีเขียวเท่าน้ัน แหล่งท่เี กดิ การสังเคราะห์ด้วยแสง การสงั เคราะห์ด้วยแสงเกิดข้ึนได้กับทุกส่วนของพืชทม่ี ีสเี ขียว (มีคลอโรฟิลล์) ตามปกติจะเกิดที่ใบมาก ท่ีสุด จึงถือว่าใบพืชมีหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสงโดยตรง นอกจากนี้ส่วนต่างๆ ของพืชที่มีสีเขียวก็จะสามารถ สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงได้ เชน่ รากกล้วยไม้ รากพลดู า่ ง ต้นกระบองเพชร ตน้ ข้าวโพด ตน้ หญา้ ถอดปล้อง ตน้ พญาไร้ใบ ตน้ แก้วมงั กร เปน็ ต้น วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ัยรัตน์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 37
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 กล้วยไม้ หญ้าถอดปล้อง แกว้ มงั กร ภาพท่ี 9 สว่ นตา่ งๆของพชื ทีเ่ กิดการสงั เคราะห์ด้วยแสง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงกับกระบวนการหายใจของพืช ในเวลากลางวัน อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชมากกว่าอัตราการหายใจ ทาให้พืชใช้แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์สาหรับสร้างอาหารในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง พร้อมท้ังปลดปล่อยแก๊สออกซิเจน ออกมาจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ในเวลากลางคืน ไม่มีแสงสว่าง พืชไม่สามารถเกิดกระบวนการ สงั เคราะหด์ ้วยแสงได้ จึงเกิดกระบวนการหายใจเพียงอย่างเดียว โดยใช้แกส๊ ออกซเิ จนเป็นวัตถุดิบ แล้วได้แก๊ส คารบ์ อนไดออกไซด์เกดิ ขึ้น ความสาคัญของการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ที่มีต่อส่ิงมีชวี ิตและสง่ิ แวดลอ้ ม 1. เป็นแหลง่ อาหารและแหล่งพลังงานท่สี าคัญของสง่ิ มชี ีวติ ทกุ ชนิด เนือ่ งจากพืชสีเขียวได้ดดู น้า รบั แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และดูดพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์ไปสร้างอาหารพวกน้าตาล และสารอาหารน้ี สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นสารอาหารอื่นๆ ได้ เช่น แป้ง โปรตีน ไขมัน ซึ่งส่ิงมีชีวิตได้นาไปใช้ประโยชน์ใน กระบวนการต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวติ จึงถอื ว่าสารอาหารเหล่าน้ีเปน็ แหล่งพลงั งานที่สาคญั ของสง่ิ มีชวี ิตทุกชนิด 2. เป็นแหล่งผลิตแก๊สออกซิเจนที่สาคัญของระบบนิเวศ โดยแก๊สออกซิเจนเป็นผลที่เกิดจาก กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ซ่ึงแก๊สออกซิเจนเป็นแก๊สท่ีสิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องนาไปใช้ในการเผา ผลาญอาหาร เพ่ือสร้างพลังงานหรอื ใชใ้ นกระบวนการหายใจนัน่ เอง 3. ช่วยลดปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ เพราะพืชต้องใช้แก๊สน้ีเป็นวัตถุดิบในการ สงั เคราะห์ด้วยแสง โดยปกติแก๊สชนิดนี้เป็นแกส๊ ท่ีไม่มีสีไม่มีกล่ิน มีอยู่ในบรรยากาศประมาณ 0.03 % เท่าน้ัน แต่เน่ืองจากในปัจจุบันการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์มีมากขึ้น จึงทาให้มีแก๊ส ชนิดน้ีเพิ่มมากข้ึนด้วย สัดส่วนของอากาศที่หายใจจึงเสียไป ทาให้ได้รับแก๊สออกซิเจนน้อยลง จึงเกิดการ ออ่ นเพลียและแก๊สชนดิ นีย้ ังทาใหโ้ ลกของเรามีอุณหภูมสิ ูงข้ึนเร่ือยๆเรยี กว่า “ปรากฏการณ์เรอื นกระจก” วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชยั รัตน์ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 38
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 บัตรใบงานที่ 1.1 เรื่อง ปจั จัยท่จี าเปน็ กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง คาชแี้ จง ให้นักเรยี นตอบคาถามให้ถกู ตอ้ ง 1. วิธกี ารทดสอบว่าสารใดใช่แปง้ หรอื ไม่ ควรทดสอบอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. นกั เรียนคดิ ว่าอะไรเปน็ ปจั จยั สาคัญในการสร้างแปง้ ของพชื ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. กระบวนการสร้างอาหารของพืชเรยี กวา่ อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. สารทส่ี รา้ งจากการสังเคราะห์ด้วยแสงคืออะไรสารทไ่ี ด้นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. นกั เรียนจงอธิบายขั้นตอนการสกดั คลอโรฟิลล์จากใบชบาดา่ งและการทดสอบหาอาหารที่พืชสรา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. นักเรยี นคิดว่าสว่ นอนื่ ๆของพชื เช่น กงิ่ กา้ น ลาตน้ ราก มีคลอโรฟลิ ล์หรือไม่ และสามารถ สงั เคราะห์ด้วยแสงได้หรอื ไม่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. นกั เรียนคดิ วา่ รากกล้วยไม้บริเวณทีม่ ีสีเขียวสามารถสังเคราะหด์ ้วยแสงไดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 8. การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงทาใหเ้ กิดนา้ ตาล แลว้ ยังทาใหเ้ กิดสารใดได้อกี บา้ ง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชยั รตั น์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ 39
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เฉลยบตั รใบงานที่ 1.1 เร่ือง ปัจจยั ทจี่ าเป็นกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง 1. วธิ ีการทดสอบว่าสารใดใช่แป้งหรอื ไม่ ควรทดสอบอยา่ งไร ตอบ นา้ สารนนั้ มาเติมน้าแลว้ ต้มให้สกุ หยดสารละลายไอโอดนี ลงไป 2 หยด ถ้าสารท่ีน้ามา ทดสอบเปล่ยี นเป็นสมี ว่ งแกมน้าเงนิ สารน้ันคือ แป้ง 2. นกั เรยี นคดิ วา่ อะไรเปน็ ปัจจยั สาคญั ในการสรา้ งแป้งของพืช ตอบ คลอโรฟลิ ล์หรือสารสเี ขียวในคลอโรพลาสต์ ซึง่ อยู่ในเซลลข์ องพืช 3. กระบวนการสร้างอาหารของพืชเรียกว่าอะไร ตอบ กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพืช 4. สารท่สี รา้ งจากการสงั เคราะห์ด้วยแสงคืออะไรสารท่ีได้นั้นจะมกี ารเปลยี่ นแปลงอีกหรือไม่ อยา่ งไร ตอบ สารที่พชื สรา้ งได้ คือ น้าตาลกลูโคส จะเปลย่ี นเป็นแป้งทันทแี ละแปง้ นี้จะเปลีย่ นกลับเป็นน้าตาล อกี เม่ือพืชน้าไปใช้ในการด้ารงชวี ิต 5. นักเรียนจงอธิบายข้ันตอนการสกดั คลอโรฟลิ ล์จากใบชบาด่างและการทดสอบหาอาหารทีพ่ ืชสรา้ ง ตอบ 1.ตม้ ใบไมใ้ นน้าเดอื ด 1 นาที 2.สกัดคลอโรฟิลล์ออกด้วยแอลกอฮอล์รอ้ นโดยแชใ่ บไม้ในหลอดทดลองขนาดใหญ่ ซึ่งมี แอลกอฮอลพ์ อท่วมใบ แลว้ นา้ หลอดทดลองไปแช่ในน้ารอ้ น จนกระท่ังแอลกอฮอล์สกดั คลอโรฟลิ ล์ ออกไดห้ มด 3.น้าใบไม้ซึ่งมีสขี าวออกจากหลอดแลว้ ลา้ งน้า 4.ใสใ่ บไม้ในถ้วยกระเบ้ืองแล้วหยดสารละลายไอโอดนี พอท่วม ทิ้งไว้สกั ครู สงั เกตการเปล่ยี นแปลงว่า ส่วนทมี ีสใี ดของใบเกิดกระบวนการสร้างอาหาร 6. นกั เรียนคิดวา่ ส่วนอ่นื ๆของพชื เช่น กิ่ง ก้าน ลาตน้ ราก มีคลอโรฟิลลห์ รอื ไม่ และสามารถ สงั เคราะห์ด้วยแสงไดห้ รอื ไม่ ตอบ สว่ นตา่ งๆ ของพืชที่มคี ลอโรฟลิ ล์ แต่รากของพืชบางชนิดเทา่ นน้ั ที่มีคลอโรฟลิ ล์ และสว่ นทีม่ ี คลอโรฟลิ ลส์ ามารถสงั เคราะห์ด้วยแสงได้ 7. นักเรียนคิดว่ารากกลว้ ยไม้บริเวณที่มสี เี ขยี วสามารถสังเคราะห์ดว้ ยแสงได้หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ตอบ ได้ เพราะมคี ลอโรฟิลล์ 8. การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงทาให้เกิดน้าตาล แล้วยังทาให้เกดิ สารใดได้อกี บ้าง ตอบ ได้กา๊ ซออกซิเจนและน้า เกณฑ์การใหค้ ะแนน นักเรยี นตอบคาถามได้ถกู ต้อง ให้ขอ้ ละ 1 คะแนน รวมคะแนน 8 คะแนน วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ัยรัตน์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ 40
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 บัตรใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง ผลท่ีได้จากการสงั เคราะหด์ ้วยแสง คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง 1. ผลติ ภณั ฑ์จากกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงที่พืชคายออกมาทางใบคอื อะไร ............................................................................................................................. ................................................. 2. พชื เกบ็ อาหารทส่ี ร้างข้นึ ไวใ้ นส่วนใดของพืช ....................................................................................................................................................................... 3. นกั เรยี นมวี ธิ พี สิ ูจน์ได้อย่างไรวา่ แก๊สทเ่ี กิดข้นึ จากการทดลองเป็นแกส๊ ออกซิเจน …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 4. ผลติ ภณั ฑ์จากกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงที่พืชคายออกมาทางใบคืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. นกั เรียนจะชว่ ยลดปริมาณแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ในบรรยากาศ ได้ดว้ ยวธิ ใี ดบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………… 6. นกั เรียนคิดว่าสาเหตกุ ารเกิดโลกร้อนเกิดจากอะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. จากคากล่าวท่ีวา่ “พืชสามารถช่วยฟอกอากาศเสยี ใหด้ ีได้” นักเรยี นเช่อื หรือไม่ เพราะเหตุใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชมผี ลต่อชุมชนและชีวิตของนกั เรยี นหรือไม่ อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิชา วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ัยรตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ 41
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 เฉลยบตั รใบงานที่ 1.2 เรื่อง ผลท่ไี ด้จากการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง 1. ผลิตภัณฑ์จากกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงท่ีพชื คายออกมาทางใบคืออะไร ตอบ นา้ ตาลกลูโคสและแกส๊ ออกซเิ จน 2. พชื เกบ็ อาหารทีส่ ร้างขึน้ ไว้ในสว่ นใดของพืช ตอบ ใบ ลา้ ต้น และราก 3. นักเรยี นมีวิธพี สิ ูจนไ์ ด้อย่างไรว่าแก๊สทเ่ี กดิ ข้ึนจากการทดลองเป็นแก๊สออกซเิ จน ตอบ จุดธูปใหเ้ ปน็ ถ่านแดงแลว้ แหยล่ งในหลอดทดลอง ถ้าเปน็ แกส๊ ออกซเิ จน บรเิ วณที่เปน็ ถ่านแดง จะสว่างวาบขึ้น 4. ผลติ ภณั ฑจ์ ากกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงที่พชื คายออกมาทางใบคอื อะไร ตอบ แก๊สออกซเิ จน 5. นักเรยี นจะช่วยลดปรมิ าณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ ไดด้ ว้ ยวธิ ใี ดบ้าง ตอบ ปลูกต้นไม้ และลดการเผาขยะ 6. นกั เรยี นคดิ ว่าสาเหตุการเกิดโลกร้อนเกดิ จากอะไรบา้ ง ตอบ การตดั ไม้ท้าลายปา่ การเผาขยะ การใช้พลงั งานเกนิ ความจ้าเปน็ การใชเ้ ครอ่ื งปรับอากาศ กระป๋องสเปรย์ 7. จากคากลา่ วท่วี ่า “พชื สามารถชว่ ยฟอกอากาศเสยี ให้ดีได้” นักเรยี นเชื่อหรือไม่ เพราะเหตใุ ด ตอบ ต้นไม้จะเอา CO2 ในอากาศไปใชใ้ นกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง และได้คายแก๊สออกซิเจน ออกมา ทา้ ให้ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ และเพ่ิมออกซเิ จน ในอากาศ 8. การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืชมีผลตอ่ ชุมชนและชีวิตของนกั เรียนหรอื ไม่ อย่างไร ตอบ การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงท้าให้มีอาหาร และมแี ก๊สออกซเิ จนส้าหรบั ทุกคน รวมถึงทา้ ให้ปริมาณ แกส๊ ออกซเิ จนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ทเี่ ปน็ ส่วนประกอบของอากาศภายในชุมชนมีความสมดลุ เกณฑก์ ารให้คะแนน นักเรยี นตอบคาถามได้ถูกต้อง ใหข้ ้อละ 1 คะแนน รวมคะแนน 8 คะแนน วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ยั รตั น์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ 42
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 บตั รใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง ถกู หรือผิด คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเขยี นเครอื่ งหมายถูก √ หนา้ ข้อที่กลา่ วได้ถกู ต้อง และเขียนเครื่องหมายผิด X หนา้ ขอ้ ท่ีกลา่ วไม่ถูกต้อง …………… 1. การสงั เคราะหด์ ้วยแสง คอื กระบวนการสร้างอาหารของพืช …………… 2. ปัจจยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การสังเคราะหด์ ้วยแสง คอื ความหนาแน่นของอากาศ …………… 3. ผลิตภัณฑท์ ่ไี ดจ้ ากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง คือ น้าตาล เพยี งอย่างเดยี ว …………… 4. หนา้ ท่ขี องคลอโรฟลิ ล์ในคลอโรพลาสต์ คอื พลงั งานจากแสงสวา่ งเปล่ยี นเปน็ พลังงานเคมี …………… 5. สารเร่ิมต้นในการสังเคราะห์ดว้ ยแสง คือ น้าตาล น้า และแกส๊ ออกซเิ จน …………… 6. พชื เกบ็ สะสมอาหารในรูปของแปง้ และไขมัน …………… 7. สว่ นต่างๆ ของพืชที่มีสเี ขียว สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ เชน่ รากกลว้ ยไม้ รากพลดู ่าง ตน้ กระบองเพชร ตน้ หญ้าถอดปล้อง ต้นพญาไร้ใบ ต้นแก้วมังกร …………… 8. ใบพชื ท่มี ใี บสีแดง เหลอื ง มว่ ง ไม่สามารถสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงได้ …………… 9. กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื มีความสาคัญต่อส่ิงมีชวี ิต คอื เป็นแหลง่ ผลติ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์และลดปรมิ าณแกส๊ ออกซเิ จน …………… 10. พชื เป็นแหลง่ อาหารทส่ี าคัญใหก้ บั สตั ว์อ่นื ๆ อีกมากมาย วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ยั รตั น์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ 43
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เฉลยบตั รใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง ถูกหรอื ผดิ ……√…… 1. การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง คือ กระบวนการสร้างอาหารของพืช 2. ปจั จัยทส่ี ่งผลต่อการสังเคราะหด์ ้วยแสง คอื ความหนาแน่นของอากาศ ……X…… 3. ผลิตภณั ฑ์ท่ีได้จากกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง คอื น้าตาล เพยี งอย่างเดยี ว …… X…… 4. หนา้ ทีข่ องคลอโรฟลิ ล์ในคลอโรพลาสต์ คือ พลงั งานจากแสงสวา่ งเปลี่ยนเป็น ……√…… พลังงานเคมี 5. สารเรมิ่ ต้นในการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง คือ น้าตาล นา้ และแกส๊ ออกซิเจน ……X…… 6. พชื เกบ็ สะสมอาหารในรูปของแปง้ และไขมนั ……X…… 7. สว่ นตา่ งๆ ของพชื ที่มสี เี ขียว สามารถสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงได้ เชน่ รากกลว้ ยไม้ รากพลูดา่ ง ตน้ กระบองเพชร ต้นหญ้าถอดปล้อง ตน้ พญาไร้ใบ ตน้ แก้วมงั กร ……√…… 8. ใบพชื ท่มี ใี บสีแดง เหลือง ม่วง ไมส่ ามารถสังเคราะหด์ ว้ ยแสงได้ 9. กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืชมคี วามสาคญั ต่อส่ิงมีชีวิต คือ เป็นแหล่ง ……X…… ผลติ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และลดปริมาณแก๊สออกซเิ จน ……X…… 10. พืชเป็นแหลง่ อาหารที่สาคญั ใหก้ บั สตั ว์อื่นๆ อกี มากมาย ……√…… เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน นักเรยี นตอบคาถามได้ถกู ต้อง ให้ขอ้ ละ 1 คะแนน รวมคะแนน 10 คะแนน วชิ า วทิ ยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สุชัยรัตน์ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ 44
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 บตั รใบงานที่ 1.4 เร่อื ง ฉันคอื ใคร คาชี้แจง ให้นักเรยี นตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง 1. ฉนั มีสเี ขยี วอยใู่ นคลอโรพลาสต์ ชว่ ยใหพ้ ืชสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงได้ ฉันคอื ............................................... 2. ฉนั เป็นสารละลายทส่ี ามารถใช้ทดสอบแป้งได้ โดยจะเปล่ียนจากสนี า้ ตาลเป็นสมี ่วงแกมน้าเงนิ ฉันคือ............................................... 3. ฉนั เปน็ พลังงานรปู แบบหน่ึงท่ีพืชจาเป็นต้องใช้ในกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง ฉนั คอื ............................................... 4. ฉันเปน็ สารประเภทคารโ์ บไฮเดรต ประกอบดว้ ยธาตุคาร์บอน (C) ไฮโดรเจน (H) และออกซเิ จน (O) ทีเ่ กดิ จากการเปลยี่ นแปลงมาจากกลูโคส ฉันคือ............................................... 5. ฉนั เปน็ แก๊สท่ีไมม่ สี ีไม่มีกลิ่น และเกดิ จากการเผาไหม้เช้ือเพลิง ฉนั คือ............................................... 6. ฉันเปน็ สารทีเ่ ปลย่ี นมาจากน้าตาล และเกบ็ สะสมไว้ในส่วนต่างๆ ของพืช ทง้ั ราก ผล ลาตน้ ฉนั คือ............................................... 7. ฉันเป็นผลผลติ ที่เกดิ จากกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช และจาเป็นตอ่ การหายใจของสิง่ มชี ีวิต ฉนั คอื ............................................... 8. ฉนั เปน็ ของเหลว ใส ประกอบดว้ ย ไฮโดรเจน (H) และออกซเิ จน (O) และพืชจะดูดเข้าทางรากเทา่ นน้ั ฉันคอื ............................................... 9. ฉนั เป็นของเหลวสีขาวเม่ือทาปฏกิ ริ ยิ ากบั สารละลายไอโอดนี ซ่งึ มสี นี ้าตาลจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแกมน้าเงนิ ฉนั คือ............................................... วิชา วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณฐั มน สชุ ัยรัตน์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ 45
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 เฉลยบตั รใบงานท่ี 1.4 เร่ือง ฉนั คือใคร 1. ฉันมสี ีเขียวอยู่ในคลอโรพลาสต์ ช่วยใหพ้ ืชสังเคราะหด์ ้วยแสงได้ ฉันคือ คลอโรฟิลล์ 2. ฉันเป็นสารละลายที่สามารถใชท้ ดสอบแป้งได้ โดยจะเปลีย่ นจากสีนา้ ตาลเปน็ สมี ่วงแกมน้าเงนิ ฉนั คอื สารละลายไอโอดีน 3. ฉันเป็นพลังงานรูปแบบหน่ึงทพ่ี ืชจาเป็นต้องใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ฉนั คอื แสง 4. ฉันเป็นออร์แกเนลลท์ ี่อยใู่ นเซลล์พืชทาหน้าทีด่ ูดซับพลงั งานแสงเพ่ือใช้ในการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง ฉนั คอื คลอโรพลาสต์ 5. ฉันเป็นแกส๊ ที่ไม่มีสีไม่มีกลิน่ และเกิดจากการเผาไหม้เช้ือเพลงิ ฉันคือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 6. ฉันเปน็ สารทเ่ี ปลย่ี นมาจากนา้ ตาล และเกบ็ สะสมไว้ในสว่ นต่างๆ ของพชื ท้ังราก ผล ลาต้น ฉันคอื แป้ง 7. ฉนั เป็นผลผลิตทีเ่ กิดจากกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื และจาเป็นต่อการหายใจของสงิ่ มีชวี ิต ฉันคอื แก๊สออกซิเจน 8. ฉันเป็นของเหลว ใส ประกอบด้วย ไฮโดรเจน (H) และออกซเิ จน (O) และพชื จะดดู เข้าทางรากเท่านั้น ฉนั คอื นา้ 9. ฉนั เปน็ ของเหลวสขี าวเมื่อทาปฏกิ ริ ยิ ากับสารละลายไอโอดนี ซึ่งมสี นี ้าตาลจะเปลย่ี นเป็นสีมว่ งแกมนา้ เงนิ ฉันคอื น้าแปง้ สุก เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน นกั เรยี นตอบคาถามได้ถูกต้อง ให้ข้อละ 1 คะแนน รวมคะแนน 9 คะแนน วชิ า วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) โดย นางณัฐมน สชุ ยั รัตน์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 46
Search