Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สุวรรณสามชาดก

สุวรรณสามชาดก

Published by สิรีธร พุ่มจันทร์, 2022-08-03 15:33:08

Description: สุวรรณสามชาดก

Search

Read the Text Version

ครั้งหนึ่ง มีสหายสองคนรักใคร่กันมากต่างก็ตั้งบ้านเรือนอยู่ ใกล้เคียงกันไปมาหาสู่กันอยู่เสมอทั้งสองคนตั้งใจว่า ถ้าฝ่าย หนึ่งมีลูกสาวอีกฝ่ายหนึ่งมีลูกชายก็จะให้แต่งงานเพื่อ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายจะได้ผูกพันใกล้ชิดกันไม่มีเสื่อมคลาย

อยู่ต่อมาฝ่ายหนึ่งก็มีลูกชายชื่อว่า ทุกูลกุมาร อีกฝ่ายหนึ่งมีลูกสาวชื่อว่า ปาริกากุมารี เด็ก ทั้งสองมีรูปร่างหน่าตางดงาม สติปัญญาฉลาดเฉลียว และมีจิตใจมั่นอยู่ในศีล มื่อเติบโตขึ้นพ่อแม่ของทั้งสองก็ตกลงจะทำตามที่เคยตั้งใจไว้ คือให้ลูกของทั้งสองบ้านได้ แต่งงานกัน แต่ทั้งทุกูลกุมารและปาริกากุมารีต่างบอกกับพ่อแม่ของตนว่าไม่ต้องการ แต่งงานกัน แม้จะรู้ดีว่าฝ่ายหนึ่งเป็นคนดี รูปร่างหน้าตางดงาม และเป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่ เด็กก็ตาม

ในที่สุด พ่อแม่ของทั้งสองก็จัดการแต่งงานให้จนได้ แต่แม้ว่าทุกูลและปา ริกาจะแต่งงานกันแล้ว ต่างยังคงประพฤติ ปฏิบัติเสมือนเป็นเพื่อนกัน ตลอดมา ไม่เคยประพฤติต่อกันฉันสามีภรรยา

ทั้งสองคนมีความปราถนาตรงกัน คือประสงค์จะออกบวชไม่อยากดำเนินชีวิต อย่างชาวบ้านธรรมดาซึ่งจะต้องพัวพันอยู่กับการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อเป็น อาหารบ้าง เพื่อป้องกันตัวเองบ้าง เมื่อได้อ้อนวอนพ่อแม่ทั้งสองบ้านอยู่เป็นเวลานานในที่สุดทั้งสองก็ได้รับคำ อนุญาตให้บวช

ทั้งสองบำเพ็ญธรรมอยู่ ณ ศาลาในป่านั้น ด้วยความเมตตา อันมั่นคงของทั้งสองคน บรรดาสิงสาราสัตว์ที่อาศัยอยู่ใน บริเวณนั้นต่างก็มีเมตตาจิตต่อกัน ไม่ทำร้ายซึ่งกันและกันต่าง หากินอยู่ด้วยความสุขสำราญ

ต่อมาวันหนึ่ง พระอินทร์เล็งเห็นอันตรายซึ่งจะบังเกิดแก่ทุกูลดาบสและปาริกาดาบ สินี จึงตรัสบอกแก่ดาบสว่า \"ข้าพเจ้าเล็งเห็นว่า อันตรายจะเกิดขึ้นแก่ท่าน ขอให้ท่านจงมีบุตรเพื่อเป็นผู้ช่วยเหลือ ปรนนิบัติในยามยากลำบากเถิด\" ทุกูลดาบสจึงถามว่า \"อาตมาบำเพ็ญพรตเพื่อความพ้นทุกข์ อาตมาจะมีบุตรได้อย่างไร อาตมาไม่ต้องการดำเนินชีวิต อย่างชาวโลก ที่จะทำให้ต้องวนเวียนอยู่ในความทุกข์ อีก\"

พระอินทร์ตรัสว่า \"ท่านไม่จำเป็นต้องประพฤติปฏิบัติอย่างชาวโลก แต่ท่านจำเป็นต้อง มีบุตรไว้ช่วยเหลือปรนนิบัติ ขอให้เชื่อข้าพเจ้าเถิด ท่านเพียงแต่เอามือลูบท้องนางปา ริกาดาบสินี นางก็จะตั้งครรภ์ลูกในครรภ์นางจะได้เป็นผู้ดูแลท่านทั้งสองต่อไป\" เมื่อพระอินทร์ตรัสบอกดังนั้น ทุกูลดาบสจึงทำตาม ต่อมานางปาริกาก็ตั้งครรภ์ ครั้น ครบกำหนด ก็คลอดบุตร มีผิวพรรณงดงามราวทองคำบริสุทธิ์ จึงได้ชื่อว่า \"สุวรรณ สาม\"

ปาริกาดาบสสินีเลี้ยงดูสุวรรณสามจนเติบใหญ่อยู่ในป่านั้น มีบรรดาสัตว์น้อยใหญ่นานา ชนิดแวดล้อมเป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่ยังเป็นเด็กอยู่สุวรรณสามหมั่นสังเกตจดจำสิ่งที่ พ่อและ แม่ได้ปฏิบัติ เช่น การไปตักน้ำ ไปหาผลไม้เป็นอาหารเส้นทางที่ไปหาน้ำและอาหาร สุวรรณ สามพยายามช่วยเหลือ พ่อและแม่ กระทำกิจกรรมต่างๆ เท่าที่จะทำได้ เพื่อให้พ่อแม่ได้มี เวลาบำเพ็ญธรรมตามที่ประสงค์

วันหนึ่ง เมื่อทุกูลดาบสและนางปาริกาออกไปหาผลไม้ในป่า เผอิญฝนตกหนักทั้งสองจึงหลบฝน อยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้จอมปลวก โดยไม่รู้ว่าที่จอมปลวกนั้นมีงูพิษอาศัยอยู่ น้ำฝนที่ชุ่มเสื้อฝ้าและ มุ่นผมของทั้งสองไหลหยดลงไปในรูงู งูตกใจจึงพ่นพิษออกมาป้องกันตัว พิษร้ายของงูเข้าตา ทั้งสองคน ความร้ายกาจของพิษทำให้ดวงตาบอดมืดมิดไปทันทีทุกูลดาบสและนางปาริกาดาบ สินีจึงไม่สามารถจะกลับไปถึงศาลาที่พักได้ เพราะมองไม่เห็นทางต้องวนเวียนคลำทางอยู่แถวนั้น เอง

คนทั้งสองต้องเสียดวงตาเพราะกรรมในชาติก่อน เมื่อครั้งที่ทุกูลดาบสเกิดเป็นหมอรักษาตา ปาริกาเกิดเป็นภรรยาของหมอนั้น วันหนึ่งหมอได้รักษาตาของเศรษฐีคนหนึ่งจนหายขาดแล้ว แต่ เศรษฐีไม่ยอมจ่ายค่ารักษา ภรรยาจึงบอกกับสามีว่า \"พี่จงทำยาขึ้นอย่างหนึ่งให้มีฤทธิ์แรง แล้วเอาไปให้เศรษฐีผู้นั้น บอกว่าตายังไม่หายสนิท ขอให้ใช้ยานี้ ป้ายอีก\" หมอตาทำตามที่ภรรยาบอก ฝ่ายเศรษฐีเชื่อในสรรพคุณยาของหมอก็ทำตาม ตาของเศรษฐีก็กลับ บอดสนิทในไม่ช้าด้วย บาปที่ทำไว้ในชาติก่อนส่งผลให้ทั้งสองคนต้องตาบอดไปในชาตินี้

ฝ่ายสุวรรณสาม คอยพ่อแม่อยู่ที่ศาลาไม่เห็นกลับมาตาม เวลาจึงออกเดินตามหา

ในที่สุดก็พบพ่อแม่วนเวียนอยู่ข้างจอมปลวก เพราะนัยน์ตาบอดหาทางกลับไม่ได้ สุวรรณ สามจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพ่อแม่เล่าให้ฟัง สุวรรณสามก็ร้องไห้ แล้วก็หัวเราะ พ่อแม่จึงถาม ว่าเหตุใดจึงร้องไห้แล้วก็หัวเราะ เช่นนั้น สุวรรณสาม ตอบว่า \"ลูกร้องไห้เพราะเสียใจที่พ่อแม่นัยน์ตาบอด แต่หัวเราะเพราะลูกดีใจที่ลูกจะได้ปรนนิบัติดูแล ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกมา พ่อแม่อย่าเป็นทุกข์ไปเลยลูกจะปรนนิบัติไม่ให้พ่อแม่ ต้องเดือดร้อนแต่อย่างใด\"

จากนั้น สุวรรณสามก็พาพ่อแม่กลับไปยังศาลาที่พักจัดหาเชือกมาผูกโยงไว้โดยรอบสำหรับพ่อ แม่จะได้ใช้จับเป็นราวเดินไป ทำอะไรๆ ได้สะดวกในบริเวณศาลานั้น ทุกๆ วันสุวรรณสามจะไปตัก น้ำมาสำหรับพ่อแม่ได้ดื่มได้ใช้ และไปหาผลไม้ในป่ามาเป็นอาหารและตนเอง

เวลาที่สุวรรณสามออกป่าหาผลไม้ บรรดาสัตว์ทั้งหลายจะพากันมาแวดล้อม ด้วยความไว้วางใจเพราะสุวรรณสามเป็นผู้มีเมตตาจิตไม่เคยทำอันตรายแก่ฝูง สัตว์ สุวรรณสามจึงมีเพื่อนแวดล้อมเป็นบรรดาสัตว์นานาชนิด พ่อแม่ลูกทั้ง สามจึงมีแต่ความสุขสงบ ปราศจากความทุกข์ร้อนวุ่นวายทั้งปวง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook