Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบงานการปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่างเรียน 1

ใบงานการปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่างเรียน 1

Published by monthidayuma, 2021-12-06 12:20:32

Description: ใบงานการปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่างเรียน 1

Search

Read the Text Version

ใบงานการปฏบิ ัติงาน การฝกึ ประการณว์ ชิ าชีพครู ชุดวิชา‟การฝกึ ปฏบิ ัตวิ ิชาชพี ครูระหวา่ งเรียน 1 ” (Practicum 1 ) ชือ่ นักศึกษา นางสาวมนธิดา อยมู่ า รหัสประจาตวั นกั ศกึ ษา 6412106045 สาขาวิชา คณิตศาสตร์ ฝกึ ทโ่ี รงเรยี น อุดมดรณุ ี อาเภอ เมืองสุโขทัย จงั หวดั สุโขทยั คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั พบิ ลู สงคราม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

บนั ทกึ ใบงานการปฏิบตั ิวิชาชพี ครรู ะหวา่ งเรียน 1 การฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู ชดุ วิชา \"การฝึกปฏบิ ตั ิวิชาชีพครูระหว่างเรียน 1 \" (Practicum 1 ) ช่ือนกั ศกึ ษา นางสาวมนธดิ า อยู่มา รหสั ประจาตัวนักศกึ ษา 6412106045 สาขาวชิ า คณติ ศาสตร์ ฝกึ ทโี่ รงเรยี น อดุ มดรุณี อาเภอ เมอื ง จังหวัด สุโขทัย คณะคุรุศาสตร์ มหาลัยราชภัฏพบิ ลู สงคราม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

คานา การฝกึ ปฏบิ ัตงิ านวิชาชีพครูเปน็ ส่ิงสาคญั และจาเป็นสาหรับนักศกึ ษาหลักสตู รครศุ าสตร์ บณั ฑติ การฝึกปฏิบตั ิงานวิชาชีพครรู ะหว่างเรียน 1 (Practicum 1) เป็นการเตรียมความพรอ้ ม สาหรับการกา้ วเข้าไปสวู่ ิชาชีพครูทีส่ มบูรณแ์ บบ และเป็นกระบวนการทช่ี ว่ ยสร้างเสรมิ ให้นกั ศึกษา วชิ าชพี ครไู ด้ฝกึ ฝนความรู้ ความสามรถ การควบคุมช้นั เรียน ดา้ นการจดั การเรียนการสอน ฯลฯ รวมถึงดา้ นกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในโรงเรียนทนี่ อกเหนือจากการเรยี นการสอน และเปน็ การรวบรวมขอ้ มูล ของโรงเรียน อีกทั้งยงั ใหน้ ักศึกษาเปน็ ผรู้ ู้จักคดิ ร้จู กั สังเกตจัดทาออกมาในรูปแบบในงาน 8 ใบงาน ประกอยด้วย แบบบันทึกการวเิ คราะหต์ นเอง การสังเกตการณป์ ฏบิ ัติหน้าที่ครู การสังเกตการจัดการ เรยี นรูข้ องครู การศึกษาสังเกตบรบิ ทของสถานศึกษาและความสัมพนั ธ์กบั ชุมชน การศกึ ษารายกรณี กิจกรรมแลกเปลยี่ นเรียนรูใ้ นรปู แบบกจิ กรรม PLC กิจกรรมวเิ คราะห์ตนเองตามสมรรถนะครู สรปุ องคค์ วามรทู้ ่ีได้จากประสบการณ์เรียนรใู้ นสถานศึกษา การจดั ทาเอกสารเลม่ น้ี ผจู้ ัดทาได้ทาการรวบรวมข้อมลู จากหลายส่วนซึง่ ไดร้ บั ความ อนุเคราะห์สนบั สนนุ จาก คณะผ้บู ริหารและครโู รงเรยี นอุดมดรณึ ี และครพู ่ีเล้ยี ง คุณครูกฤษฎา คล้าย โพธศ์ิ รที ใ่ี หค้ าแนะนา ความรู้ แนวทางการศึกษา รวมถึงรนุ่ พีแ่ ละเพ่อื นๆ ทุกคนทชี่ ว่ ยเหลือมาโดย ตลอด ผ้จู ดั ทาหวังว่ารายงานฉบับนจ้ี ะใหค้ วามรู้ และเป็นประโยชนแ์ ก่ทุกท่าน นางสาวมนธดิ า อยมู่ า ผู้จดั ทา

ใบงานที่ 1 แบบบนั ทึกการวิเคราะหต์ นเอง คาชแี้ จง ใหน้ กั ศึกษาบนั ทกึ ผลการวิเคราะห์ตนเอง ในประเดน็ ดงั ต่อไปนี้ 1. ความใฝฝ่ ันอยากเปน็ ครู ความใฝ่ฝันท่ีอยากเป็นครู เพราะตอนที่ดิฉันเรียนอยู่ระดับชั้นประถมดิฉันได้มีโอกาสสอนรุ่นน้องท่ี เด็กกว่าดิฉันเพราะครูได้วานกลุ่มเพื่อนดิฉันและฉันช่วยสอนและดูแลรุ่นน้องตอนที่ครูไปทาธุระ ดิฉันรู้สึกว่าการ สอนสนุกเพราะได้ให้ความรู้แก่ผู้อื่น การทาให้รุ่นน้องได้รับความรู้จากเราดิฉันรู้สึกดีใจและสนุกมาก รวมไปถึง มอบหมายงานต่าง ๆ เชน่ ใบงานเกย่ี วกับวชิ าทไี่ ด้สอนไปหรอื การฝึกปฏิบตั ติ ่าง ๆ ดิฉันรูส้ กึ วา่ วิชาชพี นีเ้ ป็นวชิ าชีพ ที่น่าสนุกตลอดเวลาเพราะได้พฒั นาตนเองให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ต้องเข้ากับนักเรยี นท่ีเราสอนด้วย และยงั เป็นอาชีพท่มี ั่นคงดว้ ย 2. ความรักและศรัทธาในวชิ าชีพครู เป็นวิชาชพี ท่ีน่าเคารพอยา่ งมาก และเปน็ วชิ าชีพที่นา่ ยกย่องเพราะวชิ าชีพครูนัน้ ช่วยส่ังสอนนักเรียน ของตนให้มคี วามรู้และไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพต่าง ๆ และช่วยชแ้ี นวทางในการใช้ชวี ติ ให้แก่นักเรยี นของตน ดว้ ย นอกจากนั้นวิชาชพี นีย้ ังต้องมคี วามรบั ผิดชอบท่ีสูงและต้องเป็นแบบอย่างท่ีดีใหแ้ ก่เดก็ นกั เรยี น 3. ทัศนคติทด่ี ตี ่อวิชาชพี ครู เปน็ วิชาชีพทตี่ ้องมีความเสียสละ มีความรบั ผิดชอบ มีความเมตตา และต้องมนี า้ ใจในการใหส้ ง่ิ ตา่ ง ๆ กับเด็กนกั เรยี นและผู้อนื่ ครูต้องรจู้ ักพฒั นาต้องเองอยเู่ สมอและรู้จกั แกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ไดด้ ี และต้องมีเทคนคิ การสอนท่ีทาใหเ้ ด็กนกั เรียนเขา้ ใจในส่ิงทส่ี อนใหไ้ ด้ และท่ีสาคัญตอ้ งทาความเข้าใจกบั ให้มาก ๆหรือเข้ากับเด็ก นักเรยี นให้ไดม้ ากทสี่ ดุ ด้วย 4. ความสนใจเร่ืองราวเกี่ยวกบั ครู (การติดตามข้อมูลขา่ วสารเกย่ี วกับคร)ู ดิฉันไดต้ ดิ ตามขอ้ มูลข่าวสารเกีย่ วกับครอู ย่เู สมอ ทงั้ เรอ่ื งการเปลย่ี นแปลง งบประมาณกระทรวง ศึกษาของแต่ละปี การสอบใบประกอบวิชาชพี ครู การสอบบรรจขุ ้าราชการครูและหนา้ ท่ีอ่ืน ๆ ของครูทท่ี าใน โรงเรยี น 5. การเตรยี มพรอ้ มสคู่ วามเป็นครู ดิฉนั ได้มีการเตรยี มพรอ้ มดว้ ยการทบทวนบทเรยี นเก่าๆและใหมอ่ ยู่เสมอ และเทคนิคการสอนการ ควบคมุ เด็กนักเรียนในขณะสอน และอา่ นข่าวสารเกี่ยวกบั การระบาดของไวรสั โคโรนา 2019

6. สามารถนาผลจากการเรียนรูใ้ นสถานศกึ ษามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพอ่ื นรว่ มชน้ั เรียน ได้อยา่ งไร เน่อื งจากดิฉันได้มีโอกาสไปสงั เกตการณ์สอนที่โรงเรยี นอมุ ดรุณี ดิฉนั สามารถแลกเปล่ยี นวิธีการสอน ใหแ้ กเ่ พ่ือนรว่ มชน้ั ปไี ด้ และในสถานการณต์ อนน้ีมกี ารระบาดของไวรสั โคโรนา 2019 อยู่ดฉิ ันสามารถบอก มาตรการการปอ้ งกันจากการระบาดที่ทางโรงเรยี นไดจ้ ัดขึ้นได้

ใบงานที่ 2 การสงั เกต การปฏิบัตหิ นา้ ท่ีครู สาระสาคญั ครมู คี วามรักและศรทั ธาในวิชาชีพครู ปฏบิ ตั ติ นตามจรรยาบรรณและวินยั ครู ปฏิบัติตามบทบาทหนา้ ที่ ครผู ู้สอนและครูประจาชนั้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม วตั ถปุ ระสงค์ 1.แสดงพฤติกรรมทส่ี ะท้อนถึงการมจี ิตวญิ ญาณความเป็นครู 2.ระบุบทบาทหนา้ ที่ของครูผู้สอนและครปู ระจาชั้นในการชว่ ยเหลือและพัฒนาผ้เู รียน เนือ้ หาสาระ 1. ความรักและศรัทธาในวชิ าชีพครู 2. จรรยาบรรณและวนิ ัยครู 3. บทบาทหน้าท่ีครผู สู้ อนและครปู ระจาชัน้ กจิ กรรมการเรียนการสอน 1. ศกึ ษาเอกสารเกีย่ วกบั บทบาทหน้าที่ครผู ู้สอนและครปู ระจาช้นั จรรยาบรรณวชิ าชีพครู 2. สนทนา อภิปราย แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั คุณลักษณะทีด่ ขี องครูตามจรรยาบรรณวชิ าชีพครู ความ รกั และศรทั ธาในวชิ าชีพครู 3. กาหนดหวั ขอ้ สาหรับการศึกษาสังเกตและสรปุ ลงในแบบบนั ทึก 4. นาผลการศึกษาสังเกตมานาเสนอเพือ่ อภิปรายในชั้นเรยี น สือ่ การเรยี นรู้ 1. แบบบนั ทึกการสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติหนา้ ท่ีครู 2. เอกสารประกอบการศกึ ษาดว้ ยตนเอง การวัดประเมนิ ผล 1. ตรวจแบบบันทกึ การสงั เกต 2. สงั เกตพฤติกรรมการใหค้ วามร่วมมอื ในชั้นเรียน

1.วธิ กี ารแสดงออกท่ีใหเ้ หน็ ถึงความรกั และความศรัทธาในวชิ าชพี ครู ครูมกี ารดแู ลเอาใจใส่แกน่ ักเรียน เชน่ การจดจาช่อื ของนักเรยี นแต่ละคนแตล่ ะช้ันปี การพดู คยุ แลกเปล่ียนกบั นักเรียน การทาความสะอาดห้องเรียนเพือ่ ใหเ้ ตรียมพรอ้ มกับการเรยี นในวนั ถัดไป การเตรยี มเทคนิคการสอนให้ เข้ากับนกั เรยี นเพ่อื ให้นักเรยี นเข้าใจให้ไดม้ ากที่สุด ความม่งุ มนั ในการปฏบิ ัตกิ ารสอนและภารกิจต่าง ๆทไี่ ดร้ ับ มอบหมายอย่างเตม็ ที่ 2. การปฏบิ ัตติ นตามจรรยาบรรณและวนิ ยั ครผู ู้สอนและครูประจาช้ันต่าง ๆ ดังนี้ 2.1 จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง ครมู ีความรบั ผิดชอบต่อตนเอง มีวนิ ยั ที่ดี เช่น ความม่งุ มัน่ ตง้ั ใจในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ในการสอน อย่างตัง้ ใจ การแตง่ กายทส่ี ุภาพเรยี บรอ้ ย การตรงต่อเวลา เพื่อเปน็ แบบอย่างท่ีดีให้กับนักเรยี น 2.2 จรรยาบรรณตอ่ วิชาชพี ครมู คี วามรับผิดชอบและตั้งใจปฏิบัติหน้าทใี่ นการสอนและภารกิจทีต่ นได้รับอย่างต้ังใจ และมี ความมุง่ มนั่ ในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีของตนและเป็นบุคลาการท่ดี ีขององคก์ ร 2.3 จรรยาบรรณต่อผรู้ ับบรกิ าร ครูมคี วามรักและเอาใจใส่นักเรยี นทุกคนอยา่ งเทา่ เทยี มกนั คอยให้ความชว่ ยเหลอื แกน่ กั เรียน เสมอ และให้คาปรึกษาทุก ๆเรื่องใหแ้ ก่นักเรียน และคอยส่งเสรมิ นักเรียนในเรื่องต่าง ๆ 2.4 จรรยาบรรณต่อผูร้ ่วมประกอบวชิ าชพี ครูมคี วามชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกันกับเพอื่ นร่วมงาน และมคี วามสามคั คีกับเพอื่ นรว่ มงาน เชน่ การ ให้ยมื อุปกรณต์ ่าง ๆ การใหค้ าปรกึ ษาซึ่งกนั และกนั 2.5 จรรยาบรรณตอ่ สงั คม ครเู หน็ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมมากกวา่ ของตนเปน็ สาคัญ และยดึ มั่นในการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์เป็นประมุข 3. บทบาทหนา้ ทขี่ องครผู ้สู อนและครปู ระจาช้ันดา้ นตา่ ง ๆ ดังน้ี 3.1 ความรับผดิ ชอบของครู ครมู ีความรบั ผิดชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีในการเตรยี มความพรอ้ มในการสอน เชน่ การเตรียม เนอื้ หา การเตรียมเทคนคิ ในการสอน การเตรียมอุปกรณต์ า่ ง ๆ เปน็ ตน้ การเขา้ สอนให้ตรงเวลา และการ ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีครูประจาช้ันท่ีดี 3.2 การเอาใจใส่ สง่ เสริมผเู้ รยี นตามความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ครมู กี ารเอาใจใสน่ กั เรยี นรายบุคคล การเข้าใจความแตกตา่ งของนกั เรียนแตล่ ะคน และคอย สนบั สนุนและส่งเสรมิ แก่ผูเ้ รยี น 3.3 การปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างทด่ี ีแก่ผเู้ รียน

ครูปฏบิ ัติตนเปน็ แบบอยา่ งที่ดแี ก่ผู้เรยี น เช่น การพูดอย่างสภุ าพ การแต่งกายสุภาพเรยี บร้อย การ ตรงต่อเวลา การเห็นผลประโยชนข์ องสว่ นรวมมากกว่าตน การแบ่งปันและการให้ความช่วยแก่ผูอ้ นื่ 3.4 การสรา้ งแรงบันดาลใจให้กบั ผเู้ รียน ครูมีการชืน่ ชมนักเรยี น และคอยกระตุ้นในสิ่งที่นกั เรยี นสนใจ และกระตุ้นความสนใจนนั้ โดยการ นาคะแนนหรอื ของรางวัลเป็นแรงจูงใจ

ใบงานที่ 3 การสังเกตการจดั การเรียนรขู้ องครู วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อใหน้ กั ศึกษาสังเกตการควบคมุ ชนั้ เรยี นของครูผู้สอน 2. เพือ่ ใหน้ ักศึกษาสงั เกตการจัดการเรียนรขู้ องครูผูส้ อน เพอ่ื ใหน้ ักศึกษานาส่ิงที่ได้จากการสงั เกต การ ควบคมุ ชนั้ เรยี น และการจัดการเรียนรขู้ องครูผสู้ อนมาเป็นแนวทางในการจดั การเรยี นรู้ ของตนเอง 3. เพอ่ื ให้นกั ศึกษาสงั เกตและฝกึ ทกั ษะการแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ขอบเขต ให้นกั ศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทกั ษะจากผูท้ เ่ี ก่ียวขอ้ งในสถานศกึ ษา แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มูล ใน แบบบนั ทกึ ตามประเดน็ ดงั นี้ 1. สงั เกตเทคนิคการควบคมุ ช้นั เรยี นของครูผสู้ อน 2. สังเกตการจดั การเรียนรูข้ องครูผสู้ อน 3. นาสงิ่ ท่ไี ด้จากการสังเกตการควบคุมช้ันเรียน และการจดั การเรยี นร้ขู องครูผู้สอนมาประยุกตใ์ ชใ้ นการ จดั การเรียนรู้ 4. สังเกตปัญหาท่พี บในการจดั การเรยี นร้ขู องครูผู้สอน และเทคนิคแนวทางในการแกไ้ ขปญั หา ผเู้ กีย่ วข้อง/แหลง่ ขอ้ มูล 1. ผู้อานวยการ / รองผ้อู านวยการโรงเรียน 2. ครูผู้สอน / ครูพ่ีเล้ยี ง / นักเรียน หมายเหตุ สงั เกต 3 คร้งั ต่อสปั ดาห์ รวมอย่างน้อย 9 ครง้ั

แบบสังเกตการจดั การเรยี นรู้ ครั้งท่ี 1 โรงเรยี น อดุ มดรณุ ี ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี3/9 รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหสั วิชา ค23102 จานวน 1.5 หน่วยกติ วันท่ี 17 เวลา 14:00-14:55 น. จานวน 55 นาที ครูผูส้ อน นาย กฤษฎา คล้ายโพธศิ์ รี ประเด็น รายละเอียด ด้านท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ อธบิ าย และถามตอบ ด้านที่ 2 การใช้จิตวิทยาในการจัดการเรียนรู้ การพูดด้วยคาพูดที่สุภาพและสอดแทรกเกรด็ ความรูห้ รอื มขุ ตลกเพ่ือให้ นกั เรยี นตัง้ จฟังมากขึ้น ด้านที่ 3 สงั เกตการจัดการเรยี นรู้ (ตัวอย่างข้ันตอนการจัดการเรยี นรูส้ ามารถปรบั เปลี่ยนได้ตาม สถานการณ์จรงิ ) - ขน้ั นา คุณครอู ธิบายทบทวนเนื้อหาของคาบกอ่ นหน้าน้ี - ข้ันสอน คณุ ครอู ธิบายเนือ้ หาต่อเรื่อง มุมคร่งึ วงกลม คณุ ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หดั คณุ ครเู ดินเข้าไปอธบิ ายเพิม่ เติมแตล่ ะบุคคล - ขัน้ สรปุ คุณครูพดู คยุ กบั นักเรียนในการนัดเวลาในการสง่ แบบฝึกหดั ดา้ นท่ี 4 ปญั หาท่พี บ / แนวทางแกไ้ ข ปญั หาทพ่ี บในการจัดการเรียนรู้ นกั เรียนไม่คอ่ ยตอบคาถามที่คุณครถู าม นักเรยี นไม่ค่อยเข้าใจในเนื้อหาทส่ี อน การแก้ไขปญั หาในชนั้ เรียนของครูผสู้ อน คณุ ครูแทรกมขุ ตลกเพื่อใหน้ ักเรยี นตั้งใจฟังมากข้นึ คุณครูเขา้ ไปหานกั เรียนรายบุคคลเพ่อื อธบิ ายใหเ้ ขา้ ใจมากมากข้ึน ดา้ นที่ 5 ครมู ีรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี นใน ครูจะมีการรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพรายกรณี คือ ครผู สู้ อนถาม รูปแบบการศึกษารายกรณหี รือไม่ อยา่ งไร คาถามซา้ ๆ ยา้ ๆ เพื่อกระตนุ้ ให้นักเรียนสนใจท่ีจะตอบคาถาม ด้านท่ี 6 สิง่ ท่ีไดร้ ับ / การประยกุ ตใ์ ช้ ได้เรียนรู้เทคนิคกระบวนการสอน และเทคนคิ การสร้างแรงกระตุน้ ให้ สนใจมากขึ้น หมายเหตุ สังเกต 3 คร้ังตอ่ สัปดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 คร้งั

แบบสงั เกตการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 2 โรงเรียน อดุ มดรุณี ระดบั ชน้ั 3/6 รายวชิ า คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวิชา ค23102 จานวน หนว่ ยกิต วนั ท่ี 22 เวลา 14:55-15:30 น. จานวน 55 นาที ครผู ูส้ อน นายกฤษฎา คล้ายโพธศ์ิ รี ประเด็น รายละเอียด ด้านท่ี 1 การออกแบบการเรียนรู้ อธิบาย ละถามตอบ ด้านท่ี 2 การใช้จติ วทิ ยาในการจัดการเรยี นรู้ การพูดดว้ ยคาพูดทสี่ ภุ าพและสอดแทรกเกร็ดความร้หู รือมุขตลกเพือ่ ให้ นกั เรียนต้ังจฟังมากขึน้ ด้านท่ี 3 สงั เกตการจดั การเรียนรู้ (ตวั อย่างขัน้ ตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรบั เปล่ยี นได้ตาม สถานการณ์จริง) - ขนั้ นา ครูบอกว่าจะเรียนบทที่ 2 เร่อื ง วงกลม เรยี นทงั้ หมด 6 ทฤษฎี ครนู ดั นักเรียนว่าคาบหนา้ จะสอบ - ข้ันสอน ครอู ธบิ ายวา่ วงกลม ประกอบไปดว้ ยอะไรบ้าง เชน่ องค์ประกอบของวงกลม สว่ นของวงกลม มุมที่จดุ ศนู ยก์ ลาง มุมใน ส่วนโคง้ ฯลฯ ครเู ฉลยแบบฝกึ หดั พรอ้ มกบั นกั เรยี น - ขั้นสรปุ ครบู อกวา่ คาบหนา้ จะสอบเกบ็ คะแนน ดา้ นท่ี 4 ปญั หาท่ีพบ / แนวทางแกไ้ ข ปญั หาทพี่ บในการจดั การเรียนรู้ ครถู ามนักเรยี นแต่นกั เรียนไม่ค่อยตอบ นักเรียนไมค่ อ่ ยเข้าใจในบางทฤษฎี การแก้ไขปัญหาในช้ันเรยี นของครูผู้สอน ครูใช้มขุ ตลกและพูดคุยกบั นักเรียน ครูพยายามอธบิ ายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจมากข้ึนโดยยกตวั อยา่ งเพอ่ื ให้เห็น ภาพ ดา้ นท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียนใน ครจู ะมีการรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพรายกรณี คอื ครูผสู้ อนถาม รปู แบบการศึกษารายกรณหี รอื ไม่ อยา่ งไร คาถามซ้า ๆ ย้า ๆ เพื่อกระตุ้นใหน้ ักเรียนสนใจที่จะตอบคาถาม ด้านที่ 6 สิง่ ทีไ่ ดร้ บั / การประยุกตใ์ ช้ เทคนคิ ในการอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจมากขึ้นโดยการยกตัวอย่างและ อธบิ ายเพ่มิ เตมิ หมายเหตุ สงั เกต 3 ครัง้ ตอ่ สปั ดาห์ รวมอยา่ งน้อย 9 ครง้ั

แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ ครั้งท่ี 3 โรงเรยี น อุดมดรณุ ี ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3/9 รายวิชา คณติ ศาสตร์พื้นฐาน รหสั วิชา ค23102 จานวน 1.5 หนว่ ยกิต วันท่ี 23 เวลา 09:25-10:20 น. จานวน 55 นาที ครูผู้สอน กฤษฎา คล้ายโพธ์ศิ รี ประเดน็ รายละเอยี ด ด้านที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ อธิบาย และถามตอบ ดา้ นที่ 2 การใชจ้ ิตวทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ การพดู ด้วยคาพูดทีส่ ภุ าพและสอดแทรกเกร็ดความร้หู รือมุขตลกเพอ่ื ให้ นักเรียนตั้งจฟังมากขนึ้ ด้านที่ 3 สังเกตการจดั การเรยี นรู้ (ตวั อย่างขัน้ ตอนการจดั การเรยี นรู้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม สถานการณ์จรงิ ) - ขน้ั นา ครพู ูดคุยกบั นกั เรียนวา่ คาบหน้าจะสอบบททผ่ี ่านมาและเก็บคะแนน ครูสง่ั ให้นกั เรยี นสง่ สมดุ ของแบบฝกึ หดั ทส่ี ั่งคาบทแ่ี ล้ว - ข้นั สอน ครูเริ่มบทใหมค่ อื บทที่2 เรอ่ื ง วงกลม อธิบายทั้งหมด 6 ทฤษฎี องค์ประกอบของวงกลง ความหมายของแตล่ ะส่วนของวงกลม มมุ แต่ ละมมุ ในวงกลม ครอู ธิบายแบบฝกึ หัดพรอ้ มเฉลยและทาไปพร้อมกับนกั เรียน - ขนั้ สรุป ครนู ัดหมายกับนกั เรียนว่าคาบหนา้ จะสอบเรื่อง สมการเชงิ เสน้ กับ นกั เรียน ครูใหน้ ักเรยี นส่งสมดุ ตอนหมดคาบ ดา้ นท่ี 4 ปัญหาทีพ่ บ / แนวทางแก้ไข ปญั หาทพ่ี บในการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นบางคนยงั ไมค่ อ่ ยเข้าใจในบางเร่ืองที่สอน การแก้ไขปัญหาในช้นั เรียนของครูผู้สอน ครอู ธบิ ายซา้ และยกตัวอย่างใหเ้ หน็ ภาพมากข้ึน ดา้ นที่ 5 ครูมีรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนใน ครจู ะมีการรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครผู สู้ อนถาม รปู แบบการศกึ ษารายกรณหี รือไม่ อย่างไร คาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ กั เรยี นสนใจท่ีจะตอบคาถาม ดา้ นที่ 4 สง่ิ ทไ่ี ด้รบั / การประยุกต์ใช้ เทคนิคในการสอนโดยการยกตัวอยา่ งและให้เห็นภาพมากขึน้ การ อธิบายในการสอนของครูพ่เี ลี้ยง หมายเหตุ สงั เกต 3 คร้งั ตอ่ สปั ดาห์ รวมอยา่ งนอ้ ย 9 ครง้ั

แบบสังเกตการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 4 โรงเรียน อดุ มดรุณี ระดบั ชนั้ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3/3 รายวิชา คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวชิ า ค23102 จานวน 1.5 หนว่ ยกติ วันที่ 23 เวลา 14:55-15:50 น. จานวน 55 นาที ครผู ู้สอน กฤษฎา คล้ายโพธิ์ศรี ประเด็น รายละเอยี ด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรียนรู้ อธบิ าย และถามตอบ ด้านที่ 2 การใช้จิตวทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ การพดู ดว้ ยคาพูดทีส่ ภุ าพและสอดแทรกเกรด็ ความรู้หรอื มขุ ตลกเพอ่ื ให้ นักเรียนตง้ั จฟงั มากขึน้ ดา้ นท่ี 3 สงั เกตการจดั การเรยี นรู้ (ตัวอย่างข้นั ตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม สถานการณ์จริง) - ขน้ั นา ใหน้ ักเรยี นสง่ สมุดหลังสอนเสรจ็ นัดสอบบทที่ 1 เรอ่ื งสมการเชิงเส้น - ขน้ั สอน ครูสอนบทท่ี 2 เรื่อง วงกลม เรียนท้งั หมดจานวน 6 ทฤษฎี เชน่ องค์ประกอบของวงกลม การเรยี กชอ่ื ในส่วนวงกลม มุมในส่วนโคง้ ของ วงกลม ฯลฯครทู าแบบฝกึ หัดพรอ้ มกับนักเรยี น - ข้นั สรปุ นัดสอบคาบหนา้ เร่ือง สมการเชงิ เสน้ สรุปทัง้ หมด 6 ทฤษฎี ดา้ นที่ 4 ปญั หาท่พี บ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาทพี่ บในการจดั การเรยี นรู้ นกั เรยี นชอบชวนคยุ นอกเร่ือง ครูสอนแตบ่ างคนก็ไมต่ ัง้ ใจฟงั ชอบชวนกนั คุยนอกเรือ่ ง และไม่ค่อย เข้าใจในบางเรื่อง การแก้ไขปัญหาในชนั้ เรยี นของครูผู้สอน ครพู ยายามกระตนุ้ เดก็ โดยการเลน่ มุขเกย่ี วกบั คณติ ศาสตร์ อธบิ ายยกตัวเพม่ิ เตมิ โดยการยกตัวอย่างใหน้ ักเรียนเหน็ ภาพ ดา้ นท่ี 5 ครูมรี ายงานผลการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นใน ครูจะมีการรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คือ ครูผู้สอนถาม รูปแบบการศกึ ษารายกรณีหรือไม่ อยา่ งไร คาถามซ้า ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตนุ้ ให้นักเรียนสนใจท่จี ะตอบคาถาม ด้านที่ 4 สงิ่ ทไี่ ด้รบั / การประยุกตใ์ ช้ กระบวนการสอนของแตล่ ะบท การสรุปเน้อื หาใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจ การจัด แผนการสอน หมายเหตุ สังเกต 3 ครง้ั ตอ่ สปั ดาห์ รวมอย่างน้อย 9 คร้งั

แบบสังเกตการจดั การเรียนรู้ ครง้ั ที่ 5 โรงเรยี น อดุ มดรณุ ี ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3/9 รายวชิ า คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหสั วิชา ค23102 จานวน 1.5 หน่วยกติ วันที่ 24 เวลา 14:00-14:55 น. จานวน 55 นาที ครูผู้สอน กฤษฎา คล้ายโพธศิ์ รี ประเด็น รายละเอียด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ อธบิ าย และถามตอบ ด้านท่ี 2 การใชจ้ ิตวทิ ยาในการจัดการเรียนรู้ การพูดดว้ ยคาพูดทส่ี ุภาพและสอดแทรกเกร็ดความร้หู รอื มุขตลกเพอื่ ให้ นักเรยี นต้งั จฟงั มากขนึ้ ด้านที่ 3 สังเกตการจดั การเรยี นรู้ (ตัวอย่างขัน้ ตอนการจัดการเรียนรสู้ ามารถปรบั เปลยี่ นได้ตาม สถานการณจ์ ริง) - ขั้นนา ครูสอนตอ่ จากคาบทีแ่ ล้ว เรอื่ งวงกลม - ขนั้ สอน ครสู อนทฤษฎีวงกลม อกี 2 ทฤษฎี คอื มมุ ในครงึ่ วงกลม และรูป ส่เี หล่ียมแนบตดิ วงกลม ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั - ข้ันสรปุ ครูสรุปบททส่ี อนในคาบ ครใู ห้นกั เรยี นส่งสมุด ด้านท่ี 4 ปญั หาท่ีพบ / แนวทางแก้ไข ปญั หาทพี่ บในการจดั การเรียนรู้ นกั เรยี นคยุ กันเสียงดงั ไมค่ อ่ ยสนใจเรยี น นักเรียนบางคนไม่เขา้ ใจ การแกไ้ ขปัญหาในช้ันเรียนของครผู ้สู อน ครูจะถามนักเรียนวา่ ทาไดไ้ หม และเข้าไปอธิบาย ครูพูดคยุ กบั นกั เรยี นเพื่อกระตุ้นใจนกั เรยี นตั้งใจฟังและทางาน ด้านที่ 5 ครมู รี ายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียนใน ครูจะมีการรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครผู ้สู อนถาม รูปแบบการศึกษารายกรณหี รอื ไม่ อยา่ งไร คาถามซ้า ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจท่ีจะตอบคาถาม ด้านท่ี 4 สง่ิ ทีไ่ ด้รบั / การประยกุ ตใ์ ช้ กระบวนการสอนของแต่ละบท การสรปุ เนอ้ื หาให้นกั เรยี นเข้าใจ การจัด แผนการสอน เทคนคิ ในการสอนโดยการยกตวั อยา่ งและให้เหน็ ภาพมาก ข้ึน การอธบิ ายในการสอน หมายเหตุ สังเกต 3 ครั้งตอ่ สัปดาห์ รวมอยา่ งนอ้ ย 9 ครั้ง

แบบสงั เกตการจดั การเรียนรู้ คร้งั ท่ี 6 โรงเรยี น อดุ มดรณุ ี ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3/6 รายวชิ า คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน รหสั วิชา ค23102 จานวน 1.5 หน่วยกติ วนั ท่ี 25 เวลา 08:30-09:25 น. จานวน 55 ชั่วโมง ครูผสู้ อน กฤษฎา คลา้ ยโพธิศ์ รี ประเดน็ รายละเอยี ด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ อธบิ าย และถามตอบ ดา้ นท่ี 2 การใชจ้ ติ วิทยาในการจดั การเรยี นรู้ การพดู ดว้ ยคาพูดทสี่ ภุ าพและสอดแทรกเกรด็ ความร้หู รอื มุขตลกเพ่ือให้ นักเรยี นตัง้ จฟังมากขึ้น ดา้ นที่ 3 สังเกตการจัดการเรยี นรู้ (ตวั อย่างข้นั ตอนการจดั การเรียนรูส้ ามารถปรบั เปล่ียนได้ตาม สถานการณ์จรงิ ) - ข้นั นา ครูเชค็ ชือ่ คนขาด ลา ครบู อกนักเรยี นว่าคาบนจ้ี ะเรียนตอ่ - ขั้นสอน ครสู อนต่อจากคาบทแ่ี ล้วอกี 2 ทฤษฎี คือ มุมในครึ่งวงกลม และรปู สีเ่ หลย่ี มแนบตดิ วงกลม ครใู ห้นักเรียนทาแบบฝึกหดั พร้อมอธิบายขอ้ ที่นกั เรยี นทาไมไ่ ด้ - ขัน้ สรปุ ครูใหน้ กั เรียนสามารถถามครไู ด้ในช่วงเวลาพัก ครูให้นกั เรียนถ้าเสร็จสง่ สมดุ ดา้ นที่ 4 ปญั หาทีพ่ บ / แนวทางแก้ไข ปัญหาทพ่ี บในการจดั การเรียนรู้ นักเรยี นไม่เขา้ ใจบางขอ้ นกั เรยี นจาทฤษฎีกอ่ นหน้านไี้ มไ่ ด้ นกั เรียนบางคนไมต่ ั้งใจเรียน หลบั ในคาบ หรอื ชวนคุยกนั การแกไ้ ขปัญหาในชน้ั เรยี นของครูผู้สอน ครอู ธิบายขอ้ ท่นี ักเรยี นไม่เข้าใจครูให้นกั เรยี นออกมาทาเพือ่ ทดสอบ ความเข้าในครพู ดู คุยและถามนักเรยี นเพ่อื กระตุ้นให้นกั เรียนสนใจ ดา้ นท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนใน ครูจะมีการรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครูผู้สอนถาม รูปแบบการศกึ ษารายกรณหี รือไม่ อย่างไร คาถามซ้า ๆ ยา้ ๆ เพ่ือกระตุน้ ใหน้ ักเรยี นสนใจทจ่ี ะตอบคาถาม ด้านท่ี 4 สง่ิ ทไ่ี ด้รับ / การประยกุ ตใ์ ช้ การวางแผนการสอน การกระตนุ้ ให้นักเรยี นสนใจเรียน การสอนและ การอธิบายให้นักเรียนเขา้ ใจ และการควบคมุ นกั เรยี น หมายเหตุ สงั เกต 3 ครั้งต่อสปั ดาห์ รวมอยา่ งนอ้ ย 9 คร้งั

แบบสงั เกตการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 7 โรงเรียน อุดมดรณุ ี ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3/6 รายวิชา คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวชิ า ค23102 จานวน 1.5 หน่วยกติ วนั ท่ี 29 เวลา 14:05-15:50 น. จานวน 55 ชวั่ โมง ครผู สู้ อน กฤษฎา คล้ายโพธ์ศิ รี ประเด็น รายละเอียด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรียนรู้ อธิบาย และถามตอบ ดา้ นที่ 2 การใช้จติ วิทยาในการจดั การเรยี นรู้ การพูดดว้ ยคาพูดทส่ี ุภาพและสอดแทรกเกร็ดความรูห้ รือมุขตลกเพ่อื ให้ นกั เรยี นต้ังจฟังมากข้ึน ด้านท่ี 3 สังเกตการจัดการเรียนรู้ (ตวั อย่างขั้นตอนการจดั การเรยี นรูส้ ามารถปรับเปลยี่ นได้ตาม สถานการณจ์ รงิ ) - ขน้ั นา เนือ่ งจากนกั เรียนมารวมกันครบ 2 กลุ่ม กลมุ่ 1 เรยี นนากล่มุ 2 จงึ ตอ้ ง เรียนซ้าอกี ครัง้ - ขัน้ สอน ครูสอนตอ่ จากคาบท่แี ลว้ อีก 2 ทฤษฎี คือ มุมในคร่ึงวงกลม และรูป สเ่ี หลย่ี มแนบตดิ วงกลม (กลุ่ม 2 ) ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝึกหัด พรอ้ มอธิบายขอ้ ท่นี กั เรียนทาไม่ได้ - ขน้ั สรปุ ครูให้นักเรียนสง่ สมดุ ท้ัง 2 กลมุ่ เช็คชอื่ ว่าใคร ขาด หรือลา ด้านท่ี 4 ปญั หาทีพ่ บ / แนวทางแกไ้ ข ปญั หาทพ่ี บในการจัดการเรยี นรู้ นกั เรยี นบางสว่ นจาทฤษฎีที่เรยี นเมื่อคาบทแ่ี ล้วไม่ได้ นักเรียนบางสว่ นไม่เข้าใจในเรยี นทีส่ อน การแก้ไขปญั หาในช้นั เรยี นของครูผู้สอน ครทู วนทฤษฎีเดิมใหน้ ักเรยี น ครพู ยายามถามนักเรียนเพือ่ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจ ดา้ นท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี นใน ครูจะมีการรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพรายกรณี คือ ครผู ูส้ อนถาม รูปแบบการศึกษารายกรณีหรอื ไม่ อย่างไร คาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุน้ ให้นกั เรยี นสนใจที่จะตอบคาถาม ด้านท่ี 4 สง่ิ ท่ีไดร้ ับ / การประยุกต์ใช้ การปรบั ตัวใหเ้ ข้ากับนกั เรยี น เทคนิคการสอน และการอธิบายให้ นักเรียนเข้าใจ และการควบคมุ นักเรยี น หมายเหตุ สงั เกต 3 ครง้ั ต่อสปั ดาห์ รวมอย่างน้อย 9 คร้งั

แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ คร้ังท่ี 8 โรงเรียน อุดมดรุณี ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3/9 รายวิชา คณติ ศาสตรพ์ นื้ ฐาน รหัสวชิ า ค23102 จานวน 1.5 หนว่ ยกิต วันที่ 30 เวลา 09:25-10:15 น. จานวน 55 ชัว่ โมง ครูผสู้ อน กฤษฎา คลา้ ยโพธศ์ิ รี ประเด็น รายละเอียด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ อธิบาย และถามตอบ ดา้ นที่ 2 การใชจ้ ติ วทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ การพดู ดว้ ยคาพูดทสี่ ภุ าพและสอดแทรกเกรด็ ความรหู้ รอื มุขตลกเพือ่ ให้ นักเรยี นตัง้ จฟงั มากข้ึน ดา้ นที่ 3 สงั เกตการจัดการเรียนรู้ (ตวั อย่างขัน้ ตอนการจัดการเรียนรู้สามารถปรับเปลยี่ นได้ตาม สถานการณจ์ ริง) - ขั้นนา ครบู อกกบั นกั เร่อื งวา่ คาบนนี้ ะเรยี นต่อคือ เรื่องคอรด์ - ขนั้ สอน อธบิ ายคอรด์ และทฤษฎจี านวนทัง้ หมด 6 ทฤษฎี คอื คอรด์ และสว่ นโค้ง ของวงกลม คอร์ดและจดุ ศนู ย์กลางของวงกลม คอรด์ ท่ียาวเท่ากนั ครใู ห้นกั เรยี นทาและฝึกหดั และ อธบิ ายใหน้ ักเรียนทาพร้อมกนั - ขั้นสรปุ ครูสง่ั ใหนกั เรียนสง่ วันพฤหสั บดี ด้านท่ี 4 ปญั หาทพี่ บ / แนวทางแกไ้ ข ปญั หาทพ่ี บในการจดั การเรยี นรู้ นักเรยี นบางส่วนจาทฤษฎีท่เี รียนเมื่อคาบทแี่ ล้วไมไ่ ด้ นักเรยี นบางส่วนไมเ่ ข้าใจในเรียนทส่ี อน การแกไ้ ขปญั หาในชั้นเรยี นของครผู ู้สอน ครทู วนทฤษฎเี ดมิ ใหน้ กั เรียน ครพู ยายามถามนกั เรยี นเพ่อื ให้นักเรียนเขา้ ใจ ดา้ นท่ี 5 ครูมรี ายงานผลการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี นใน ครจู ะมีการรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครูผู้สอนถาม รปู แบบการศึกษารายกรณีหรือไม่ อย่างไร คาถามซา้ ๆ ยา้ ๆ เพื่อกระตนุ้ ให้นกั เรยี นสนใจท่ีจะตอบคาถาม ด้านที่ 4 ส่ิงท่ีได้รับ / การประยกุ ตใ์ ช้ ไดซ้ มึ ซับบรรยากาศในห้องเรียนมากขนึ้ ไดส้ ังเกตเห็นถึงการ เรียนการสอนจรงิ ๆ ว่าคนละแบบกับทเ่ี ราเป็นนักเรยี นเลย ตอนเป็นนักเรียนจะทาอะไรกไ็ ด้แตพ่ อมาเป็นครูเราต้องรู้จัก การควบคุมอารมณ์ให้ได้ หมายเหตุ สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสปั ดาห์ รวมอยา่ งน้อย 9 ครั้ง

แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ ครงั้ ที่ 9 โรงเรยี น อดุ มดรุณี ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3/3 รายวิชา คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน รหัสวชิ า ค23102 จานวน 1.5 หน่วยกิต วนั ท่ี 01 เวลา 08:30-09:25 น. จานวน 55 ชัว่ โมง ครูผสู้ อน กฤษฎา คล้ายโพธศ์ิ รี ประเดน็ รายละเอยี ด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ อธบิ าย และถามตอบ ด้านที่ 2 การใช้จิตวทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ การพูดด้วยคาพูดทส่ี ุภาพและสอดแทรกเกรด็ ความรหู้ รือมุขตลกเพ่อื ให้ นกั เรยี นต้ังจฟงั มากข้ึน ด้านท่ี 3 สังเกตการจดั การเรยี นรู้ (ตัวอย่างขัน้ ตอนการจัดการเรียนร้สู ามารถปรับเปล่ยี นได้ตาม สถานการณ์จรงิ ) - ข้นั นา ครูบอกนกั เรยี นว่าคาบน้จี ะเรียนต่อจากเรอื่ งวงกลมคอื เรอื่ ง คอรด์ เช็ค ชื่อนกั เรยี น - ขน้ั สอน อธบิ ายคอร์ดและทฤษฎจี านวนท้ังหมด 6 ทฤษฎี คอื คอรด์ และส่วนโคง้ ของวงกลม คอรด์ และจุดศนู ย์กลางของวงกลม คอร์ดทยี่ าวเทา่ กัน ครูให้นกั เรียนทาและฝกึ หดั และ อธบิ ายให้นกั เรียนทาพร้อมกัน - ขน้ั สรปุ ครูใหน้ กั เรยี นสง่ แบบฝกึ คาบทีม่ ีเรียน ด้านที่ 4 ปัญหาท่ีพบ / แนวทางแก้ไข ปัญหาทพ่ี บในการจัดการเรยี นรู้ นกั เรียนบางส่วนจาทฤษฎีทเ่ี รียนเมื่อคาบท่แี ล้วไม่ได้ นักเรียนบางสว่ นไม่เข้าใจในเรยี นทส่ี อน การแก้ไขปัญหาในช้นั เรยี นของครูผสู้ อน ครทู วนทฤษฎเี ดิมใหน้ กั เรียน ครพู ยายามถามนักเรียนเพอื่ ใหน้ กั เรียนเข้าใจ ด้านที่ 5 ครมู ีรายงานผลการพฒั นาคุณภาพผ้เู รียนใน ครูจะมีการรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพรายกรณี คือ ครผู สู้ อนถาม รูปแบบการศึกษารายกรณีหรอื ไม่ อยา่ งไร คาถามซ้า ๆ ยา้ ๆ เพื่อกระตุ้นให้นกั เรยี นสนใจที่จะตอบคาถาม ดา้ นที่ 4 สงิ่ ที่ได้รับ / การประยุกตใ์ ช้ ได้ซมึ ซับบรรยากาศในหอ้ งเรียนมากขึ้น ได้สังเกตเหน็ ถึงการ เรียนการสอนจริง ๆ วา่ คนละแบบกบั ท่เี ราเปน็ นกั เรยี นเลย ตอนเป็นนกั เรียนจะทาอะไรกไ็ ด้แต่พอมาเปน็ ครเู ราต้องรจู้ ัก การควบคุมอารมณ์ใหไ้ ด้ หมายเหตุ สงั เกต 3 คร้ังต่อสปั ดาห์ รวมอย่างน้อย 9 คร้ัง

ใบงานที่ 4 การศึกษาสงั เกตบริบทของสถานศึกษาและความสัมพนั ธก์ ับชมุ ชน วตั ถุประสงค์ เพือ่ ใหน้ ักศึกษาสงั เกตบริบทของสถานศึกษา ขอบเขต ให้นกั ศกึ ษา ศกึ ษา สังเกต และฝกึ ทักษะจากผ้ทู ี่เก่ียวข้องในสถานศกึ ษา แลว้ บันทึกข้อมลู ในแบบบนั ทกึ ตามประเด็น ดงั น้ี 1. ทาเล ที่ตง้ั ของสถานศกึ ษาสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครผู สู้ อน 2. อาคารเรยี น และอาคารประกอบการอนื่ ๆ 3. หอ้ งเรียน และเครือ่ งใช้ต่าง ๆ ในห้องเรียน 4. มุมพยาบาล / ห้องพยาบาล / เรอื นพยาบาล 5. โรงอาหาร / ทรี่ ับประทานอาหาร 6. โรงประชุม / หอประชมุ 7. หอ้ งพกั ครู 8. ห้องสมุด / หอสมุด 9. ห้องปฏิบัติการตา่ ง ๆ (วทิ ยาศาสตรฯ์ ลฯ) 10. น้าด่มื / นา้ ใช้ 11. ห้องน้า / หอ้ งส้วม / ท่ีปัสสาวะ 12. สนามกฬี า / สนามเดก็ เลน่ ตา่ ง ๆ 13. สถานท่ีพักผ่อนหยอ่ นใจ 14. แหลง่ ข้อมลู ทใ่ี ช้ในการศกึ ษาคน้ ควา้ / อา้ งองิ หนว่ ยท่ี 1 สภาพทวั่ ไปของสถานศกึ ษา ผ้เู กย่ี วข้อง/แหล่งขอ้ มูล ผู้อานวยการ / รองผอู้ านวยการโรงเรยี น ครูผ้สู อน / ครพู เ่ี ลี้ยง / นกั เรยี น

ข้อมูลทีเ่ กี่ยวกบั สถานศกึ ษา ชื่อสถานศกึ ษา โรงเรียนอดุ มดรุณี ปรัชญา วสิ าสา ปรมาญาติ แปลว่า ความคนุ้ เคย เปน็ ญาติอย่างยง่ิ คติธรรม เรียนเยย่ี ม ประพฤตดิ ี กีฬายอด วสิ ัยทัศน์ ภายในปี 2566 ผู้เรยี นเปน็ บคุ คลแหง่ การเรียนรู้ มีสมรรถนะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 เปา้ หมาย 1. ผเู้ รยี นมผี ลสัมฤทธิ์ทางวชิ าการ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะแห่งศตวรรษที่ 21 มคี ุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและมาตรฐานสากล 2. สถานศกึ ษามีหลกั สูตร กระบวนการจดั การเรยี นรทู้ ีเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั ตามมาตรฐานการศึกษาและ มาตรฐานสากลตอบสนองต่อศกั ยภาพของผู้เรยี นแห่งศตวรรษท่ี 21 3. ครูและบุคลากรทางการศึกษาเปน็ ผูน้ าทางวชิ าการ มคี ุณภาพตามมาตรฐานวชิ าชีพทางการศกึ ษา 4. สถานศกึ ษามีสภาพแวดล้อม และแหล่งเรียนร้ทู ี่เอือ้ ต่อการจัดการเรียนรอู้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ 5. สถานศกึ ษานานวัตกรรมและเทคโนโลยมี าใชใ้ นการจัดการเรียนรู้ และการบรหิ ารจัดการ 6. สถานศกึ ษามกี ระบวนการบริหารจดั การสู่ความเปน็ เลศิ ด้วยระบบคุณภาพ 7. สถานศึกษามีเครือขา่ ยร่วมพัฒนาในการจัดการศกึ ษาอยา่ งมีประสิทธภิ าพสมู่ าตรฐานสากล 1. อาคารเรยี น และอาคารประกอบการอืน่ ๆ 1. อาคาร 1 / สตั ตบุษย์ 2. อาคาร 2 / พทุ ธรกั ษา 3. อาคาร 3 / ปาริชาติ 4. อาคาร 4 / ราชพฤกษ์ 5. อาคาร 5 / อดุ มวิทย์ 6. อาคารพยาบาลมหาแถลง 7. อาคารพลานามัย 8. อาคารการงานอาชีพ 9. อาคารศิลปะ 10. หอประชุมนพมาศ 11. อาคารประชาสมั พันธ์

12. อาคารพระพทุ โธดมมงคล 13. อาคาร ศาลา 80 ปี อุดมดรุณี 14. อาคารปัญญาพัฒน์ 15. อาคารเอนกประสงค์ / โดม 16. โรงอาหาร 2. ห้องเรยี น และเคร่อื งใช้ต่าง ๆ ในหอ้ งเรยี น 1. กระดานไวทบ์ อร์ด 2. ปากกาไวท์บอร์ด 3. โตะ๊ นักเรียน 4. โปรเจคเตอร์ 5. พดั ลม 6. เคร่อื งปรับอากาศ 7. ถงั ขยะ 8. ไม้กวาด 9. ทต่ี ักขยะ 10. ไม้ถูพ้ืน 3. ห้องพกั ครู ห้องปฏบิ ตั ิงานและเจ้าหน้าท่ี ห้องพกั ครมู จี านวนทั้งหมด หอ้ ง ห้องปฏิบัติงานและเจ้าหน้าท่ี ได้แก่ 1. สาระสงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม 2. สาระคณิตศาสตร์ 3. สาระวิทยาศาสตร์ 4. สาระสขุ และพลศึกษา 5. สาระองั กฤษ 6. สาระศลิ ปะ 7. สาระการงานเทคโนโลยี 8. หอ้ งคอมพวิ เตอร์

4. ห้องปฏบิ ัติการตา่ ง ๆ (วทิ ยาศาสตร์ฯลฯ) 1. หอ้ งเรยี นเขยี ว 2. ห้องสมดุ 3. หอ้ งดนตรี 4. หอ้ งศิลปะ 5. ศูนยก์ ารเรยี นรู้ ICP 90 ปี 5. สถานทีพ่ กั ผ่อนหยอ่ นใจ/สนามเดก็ เลน่ ศาลาน่ังพกั ผ่อน ซุ้มนัง่ พักตา่ ง ๆ ลานกว้างและใต้ถนุ อาคารเรยี น 6. แหลง่ ข้อมูลทใ่ี ช้ในการศกึ ษาค้นควา้ / อา้ งองิ หน่วยท่ี 1 สภาพทัว่ ไปของสถานศกึ ษา 1.หอ้ งสมุด 2.หอสมุดแห่งชาตจิ งั หวัดสุโขทัย 3.อุทยานประวตั ิศาสตร์สุโขทัย ข้อมูลความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโรงเรียนกับชมุ ชน 1. ศกึ ษาบริบทของชมุ ชนที่สถานศึกษาต้ังอยู่ 1.สภาพชุมชนรอบบรเิ วรโรงเรียนเปน็ สถานที่ราชการ เทศบาลและบา้ นเรอื นราษฎรหนาแน่นมากอาชพี หลงั ของชุมชนส่วนใหญ่ คา้ ขาย เพราะมตี ลาดอยู่ใกลๆ้ 2.โอกาสและขอ้ จากดั ของโรงเรียน โอกาสของสถานศกึ ษาตัง้ อย่ใู กลเ้ ทศบาลจงึ สะดวกในการติดต่อส่อื สารไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ขอ้ งจากดั ของสถานศึกษา ทตี่ ้ังบา้ นเรือนของนกั เรียนกระจายอยู่เกือบทุกตาบลและหม่บู ้านทั้งบรเิ วรในและไกลอาจจะทาให้การประสาน สัมพันธร์ ะหว่างโรงเรียนกบั ผู้ปกครองอาจจะไมค่ อ่ ยใกลช้ ดิ กัน และคลอ่ งตัวเท่าที่ควร 2. ศึกษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโรงเรียนกับชมุ ชน

ทางโรงเรยี นใหท้ างชมุ ชนใช้สถานทีจ่ ัดงานกจิ กรรมต่าง ๆ ทางโรงเรยี นพานักเด็กเขา้ รว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ ท่ี ชุมชนจัดข้ึน เชน่ ดุรยิ างค์ นางรา ฯลฯ ให้ยืมอุปกรณต์ ่าง ๆ

ใบงานท่ี 5 แบบรายงานผลการศึกษาชั้นเรียนคณติ ศาสตร์ เร่อื งทีส่ อน วงกลม ระดบั ชั้น 3/3 ชื่อครูประจาชน้ั 1. นางสาวอมตา จงมสี ุข 2. นาย กฤษฎา คลา้ ยโพธิ์ศรี 1. สภาพปัญหาในชัน้ เรยี น นกั เรยี นบางสว่ นคอ่ นขา้ งเสยี งดงั นกั เรียนชอบชวนคุยกนั ตอบคาถามที่ครูสอนดีแต่ตอบแบบไม่คดิ คาตอบทถ่ี กู กอ่ น ส่วนใหญ่จะตอบแบบเดามั่วๆ บางคนกเ็ ลน่ โทรศพั ทห์ รือนอนในคาบ และนกั เรียนบางส่วนไม่ เขา้ ใจในเนือ้ หาแตไ่ มก่ ล้าถามครู 2. จดุ ประสงค์ในการศึกษา 2.1 เพ่อื ใหท้ ราบถงึ ปญั หาของนกั เรยี น และสาเหตุของปัญหาที่เกดิ ข้ึนจริงกับนกั เรียน 2.2 เพอ่ื นาปัญหาน้ันมาแกไ้ ข และปรับให้เขา้ กับนนกั เรยี น 2.3 เพือ่ รวบรวมความร้แู บบการสอนและปรบั ให้เขา้ กับนกั เรียนในอนาคต 3. สภาพทั่วไปของชัน้ เรียน หอ้ งเรียนส่วนใหญ่จะจดั โต๊ะเว้นระยะหา่ งกัน เนอ่ื งจากสถานการณ์ COVID 19 (โควดิ 19) จงึ จาเป็นให้ นักเรียนเวน้ ระยะห่างกนั บางหอ้ งมแี อรเ์ นอ่ื งจากเปน็ หอ้ งพเิ ศษ สว่ นห้องธรรมดาจะเป็นพัดลม โต๊ะครสู ว่ นใหญจ่ ะ เป็นโต๊ะคลา้ ยกบั นักเรียน ไมใ่ ช่โตะ๊ ครตู วั ใหญ่ เน่ืองจากพนื้ ทีไ่ ม่เพยี งพอเพราะจานวนนักเรียนเยอะจงึ ไมส่ ามารถ นาโต๊ะตัวใหญม่ าได้ 4. แนวทางการแก้ปญั หา/สง่ เสรมิ 1. ขณะทสี่ อนพอสอนจบทฤษฎหี รอื จบเรื่องย่อยแตล่ ะเรือ่ งควรถามความเข้าใจของนักเรยี น เพือ่ ให้แน่ใจ ในการข้ึนเรอ่ื งถัดไป 2. ขณะที่สอนถา้ นักเรยี นพูดคุยเสยี งดงั หรอื ชวนกนั คยุ ควรควบคมุ นักเรยี นใหเ้ บาเสียงและตัง้ ใจฟังในเร่ือง ท่ีสอนก่อนโดยชวนนักเรยี นถามตอบ และบอกกับนกั เรียนว่าขณะทีส่ อนไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือ ถ้าจะใชใ้ ช้หา ข้อมลู ตอนที่ครูสงั่ เพ่ือไมใ่ หน้ กั เรียนมวั แตเ่ ลน่ โทรศัพทม์ อื ถือ

3. ขณะทถ่ี ามนักเรยี นหากนกั เรยี นตอบคาถามโดยคาตอบทีไ่ ม่ถกู หรือตอบแบบมวั ๆมา ควรบอกให้ นกั เรยี นคดิ คาตอบท่ีถูกก่อนค่อยตอบ เพอื่ เน้นยาความเขา้ ใจของนักเรยี น 5. การศกึ ษาช้นั เรยี นครั้งนี้มปี ระโยชนต์ ่อการประกอบวชิ าชพี ครขู องนกั ศกึ ษา ดังน้ี 1. ได้สมั ผัสกับบรรยากาศการเป็นครูจริง ๆ 2. ไดเ้ รียนรู้บทบาทหน้าทีข่ องครนู อกจากการสอน 3. เพ่ิมประสบการณใ์ นการทางานและเพ่ิมการสังเกตเพ่มิ ขึน้ 4. เพ่อื จะได้ปรับปรงุ วธิ กี ารสอนและวิธกี ารแก้ปญั หาให้เหมาะสมกบั ผู้เรยี น (ลงชอื่ )…………………………………………ผู้บนั ทกึ (นางสาว มนธิดา อยู่มา) (ลงช่ือ)………………………………………ครพู เ่ี ลย้ี ง (นาย กฤษฎา คล้ายโพธิศ์ รี)

ใบงานท่ี 6 กจิ กรรมการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ในรูปแบบกจิ กรรม PLC (กรณีท่ีทางโรงเรยี นไมท่ ำกิจกรรม PLC) ชอ่ื -สกุล นางสาวมนธดิ า อยู่มา รหสั นักศึกษา 6412106045 สาขาวิชา คณติ ศาสตร์ ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชพี (Professional Learning Community : PLC) 1. ตอนที่ 1 ทาไมต้องเป็น PLC ชมุ ชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ ( Professional Learning Community: PLC) ซงึ่ มที ีม่ าจากทฤษฎีพหุปัญญา ของ Gardner ทไ่ี ดก้ ล่าวถงึ ประเดน็ สาคัญเกี่ยวกับการเรยี นรู้ วา่ “How students learn in a holistic & natural way” (Gardner, 1983) ซง่ึ หมายความวา่ นกั เรยี นเรยี นรใู้ นวถิ ีทางทเี่ ป็นองค์รวมและธรรมชาติอย่างไร นอกจากนี้แล้ว สติปัญญาของนักเรยี นถกู เปดิ ไวเ้ พื่อการเรยี นรแู้ ละครตู ้องพฒั นาโอกาสทห่ี ลากหลายเพื่อให้ นกั เรยี นได้สบื เสาะและคดิ 2. ตอนที่ 2 PLC มลี กั ษณะอยา่ งไร เป็นการรวมตวั กันทางานไปพฒั นาทกั ษะและการเรยี นรเู้ พื่อปฏบิ ตั ิหน้าทค่ี รูเพ่ือศษิ ยไ์ ป โดยรวมตัวกัน แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ จากประสบการณต์ รง ทาให้การทาหนา้ ทค่ี รูเพือ่ ศิษยเ์ ป็นการทางานเปน็ กลมุ่ หรือเปน็ ทีม ซ่งึ อาจเป็นทีมในโรงเรียนเดยี วกันก็ได้ ต่างโรงเรียนกนั ก็ได้ หรืออาจจะอยหู่ ่างไกลกันก็ได้ โดยแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ผา่ น ICT 3.ตอนท่ี 3 กระบวนการสรา้ ง PLC ทาอย่างไร 1. รวมกลมุ่ ครูที่มลี กั ษณะใกล้เคยี งกัน เช่น กลุ่มครูท่ีสอนวชิ าเดียวกัน สอนในระดบั เดียวกัน หรอื มลี กั ษณะ เหมือนกนั 2. จานวนสมาชกิ ตง้ั แต่ 2 คน ข้ึนไป 4.ตอนท่ี 4 อะไรคอื ปจั จัยแหง่ ความสาเร็จของ PLC 1. ยอมรบั วา่ หัวใจหลกั ของการเรยี นรู้ของครคู อื การเรยี นรู้ของผูเ้ รยี น 2. ยอมรับว่าการสอนและการปฏบิ ัตงิ านของครมู ีผลตอ่ การเรียนรขู้ องผู้เรียน 3. เข้าใจความแตกต่างของระดบั การเรียนรู้ 4. สรา้ งบรรยากาศความร่วมมอื ร่วมใจ 5. สรา้ งความสัมพนั ธ์แบบกลั ยาณมติ ร 6. รบั ฟังและแสดงความคดิ เหน็ ด้วยทศั นคติเชงิ บวก

ใบงานท่ี 7 กิจกรรมรายวิเคราะห์ตนเองตามสมรรถนะครู ชอ่ื -สกลุ นางสาว มนธิดา อยู่มา รหัสนักศึกษา 6412106045 สาขาวชิ า คณิตศาสตร์ ช่อื อาจารยน์ เิ ทศก์ รศ.ดร.ภัคพล ปรีชาศลิ ป์ ชอ่ื ครพู ่ีเล้ยี ง นาย กฤษฎา คลา้ ยโพธ์ศิ รี ชอื่ โรงเรียนทีอ่ อกปฏบิ ตั กิ ารสอน อดุ มดรุณี สมรรถนะ ตวั บ่งชี้ รายงานพฤติกรรมของ นกั ศกึ ษา 1. การมงุ่ ผลสมั ฤทธิ์ ในการ 1.1 ความสามารถในการวางแผน การกาหนดเป้าหมาย การ ไดม้ กี ารกาหนดเป้าหมายใน ปฏิบัตงิ าน (Working วิเคราะห์ สังเคราะหภ์ ารกจิ งาน การออกปฏิบตั กิ ารไวแ้ ลว้ Achievement Motivation) กอ่ นท่ีจะไป ทาใหส้ ามารถ ทาตามท่ีตง้ั ไวไ้ ดง้ ่าย 1.2 ความมงุ่ มน่ั ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ใหม้ ีคณุ ภาพ ถกู ต้อง มคี วามมุง่ ม่นั ในการสังเกต ครบถ้วนสมบูรณ ครพู ีเ่ ลีย้ งในขณะสอนเพอื่ นามาประยกุ ต์ใชใ้ นอนาคต 1.3 ความสามารถในการติดตามประเมิน ผลการปฏิบตั ิงาน ได้ตามประเมินหรือสงั เกต การสอนของครพู ี่เลย้ี งทุก 1.4 ความสามารถในการพฒั นา การปฏิบัตงิ านให้มี คาบเรยี น ประสิทธิภาพอย่าง ต่อเนอ่ื งเพ่อื ให้งานประสบความสาเรจ็ ชว่ งอาทิตยแ์ รกค่อนข้างจะ เกบ็ ความรอู้ าจจะไม่คอ่ ย 2. การบริการทดี่ ี (Service 2.1 ความตัง้ ใจและเต็มใจใน การให้บริการ ครบถว้ นจงึ พยายามเก็บ Mind) 2.2 การปรบั ปรุงระบบบรกิ ารให้มี ประสทิ ธิภาพ รวบรวมข้อมูลให้มากขนึ้ มีความเตม็ ใจอยา่ งยง่ิ ที่ได้มี 3. การพฒั นาตนเอง (Self- 3.1 การศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ ติดตาม องคค์ วามรใู้ หม่ๆ สว่ นร่วมในการช่วยงานครู Development) ทางวชิ าการและวชิ าชีพ พยายามถามครพู ี่เลี้ยงว่า สามารถชว่ ยอะไรไดบ้ า้ ง หรอื มีอะไรใหท้ าหรือไม่ พยายามหาข้อมูลและ รวบรวมการสอนของครพู ี่ เลย้ี งแล้วนามาศกึ ษาเพ่ือ นาไปใชใ้ นอนาคต

3.2 การสร้างองคค์ วามรู้และนวตั กรรมใน การพฒั นาองค์กร เขียนองคค์ วามรู้ตา่ ง ๆท่ี และวชิ าชีพ สามารถพัฒนาการสอนได้ ไว้เพื่อนามาประยกุ ตใ์ ช้ 3.2 การแลกเปล่ียนความคิดเห็น และสร้าง เครือขา่ ย มกี ารแลกเปลย่ี นความคดิ กบั เพ่อื นของดฉิ ันและครพู ี่ 3. การทางานเป็นทีม (Team 4.1 การให้ความร่วมมอื ชว่ ยเหลอื และ สนบั สนุน เล้ยี งแล้วเขยี นรายงาน Work) เพ่อื นรว่ มงาน ดฉิ นั กับเพ่อื นช่วยกันทาใบ งานแต่ละใบงานท่ีสามารถ 5. จรยิ ธรรม และ 4.2 การเสริมแรงใหก้ าลงั ใจเพื่อนร่วมงาน ท่ี ชว่ ยกันได้และรวบรวมข้อ จรรยาบรรณวิชาชพี ครู บางข้อมูลที่ใช้รว่ มกันได้ (Teacher’s Ethics and 4.3 การปรับตัวเขา้ กับกล่มุ คนหรือ สถานการณ์ ดิฉันกบั เพือ่ นจะพูดคยุ กัน Integrity) หลากหลาย และใหก้ าลงั ใจซงึ่ กันและกัน พยายามปรับตวั ให้เขา้ กบั 4.5 การเข้าไปมีส่วนรว่ มกับผอู้ นื่ ใน การพัฒนาการจัด คณะครแู ละสถานท่ีเพือ่ การ การศกึ ษาให้บรรลุ ผลสาเรจ็ ตามเป้าหมาย สังเกตการสอนตาม ระยะเวลาท่มี าสังเกต 1. ความรกั และศรทั ธาในวิชาชพี ได้เขา้ ไปมีส่วนในกิจกรรม ตา่ ง ๆ และเข้าไปชว่ ยงาน 2. มีวินัย และความรบั ผดิ ชอบในวิชาชพี ต่าง ๆของกจิ กรรมน้ัน ๆ มีความรักและศรัทธาใน 3. การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ น เป็นแบบอยา่ งทดี่ ี วชิ าชีพครเู ป็นอยา่ งยิ่ง พยายามทาตามกฎของ โรงเรียนและรับผิดชอบใน ส่วนงานของดิฉันอยา่ ง เต็มที่ แตง่ ตัวถูกระเบียบการ เคารพผูใ้ หญ่ รักษามารยาท เพ่อื เป็นแบบอย่างให้ นกั เรียน

ใบงานท่ี 8 สรุปองคค์ วามร้ทู ่ีไดจ้ ากประสบการณ์เรยี นรใู้ นสถานศกึ ษา ชอ่ื -สกลุ นางสาว มนธิดา อย่มู า รหสั นกั ศกึ ษา 6412106045 สาขาวิชา คณิตศาสตร์ ชอ่ื อาจารยน์ ิเทศก์ รศ.ดร.ภคั พล ปรชี าศลิ ป์ ช่อื ครพู เ่ี ลีย้ ง นาย กฤษฎา คล้ายโพธศิ์ รี ชอ่ื โรงเรยี นที่ออกปฏบิ ตั กิ ารสอน อดุ มดรณุ ี 1. ถอดบทเรียนจากการสงั เกตการเรยี นรู้ เน่อื งจากท่มี ีสถานการณ์โควิด 19 ทาให้ต้องสลับกันเรียนเป็นกลุ่ม เพอ่ื ปอ้ งกันการตดิ เชอ้ื ของโควดิ 19 และกลมุ่ ท่ีมา เรยี นทโี่ รงเรยี นจะต้องเวน้ ระยะหา่ ง และมกี ารตรวจก่อนเขา้ โรงเรียนทุกครั้งและทุกคนเพื่อป้องกนั การตดิ เชอื้ ในโรงเรียน ทาง โรงเรียนกไ็ ดจ้ ดั การเรียนการสอนแบบ On-site ซ่งึ ทางโรงเรยี นก็ได้มีมาตรการในการดูแลความปลอดภยั ของนกั เรยี นและ บคุ ลากรภายในโรงเรียน ไมว่ า่ จะเป็นการรณรงค์ให้สง่ หน้ากากอนามัย การลา้ งเจลแอลกอฮอล์ การเวน้ ระยะห่างภายใน หอ้ งเรียน รวมไปถึงการปรับเปลยี่ นรปู แบบการเรียนในบางรายวิชา เช่น อบรมจรยิ ธรรม ชุมนุม 2. สงั เคราะห์องค์ความร้ทู ี่นักศกึ ษาไดร้ บั ได้รูว้ ิธกี ารปรับตวั ในการจดั การเรยี นการสอนแบบ On-site ท้ังการเตรยี มตวั ในเนื้อหาท่ตี ้องสอน และการเตรยี มเทคนิค วิธีการสอนที่จะดึงดูงความสนใจของเด็ก การเสรมิ แรงเด็กในการจดั การเรียนการสอน วธิ กี ารควบคุมห้องเรียนแบบ On-site ไดร้ ูก้ ารจดั การปญั หาเฉพาะหนา้ ต่าง ๆ เช่น ส่อื ในการจดั การเรยี นการสอนมีปัญหา เปน็ ต้น ได้ร้มู าตรการในการดูแลความ ปลอดภยั ของนกั เรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน ไดร้ ู้ถึงความแตกต่างของเด็กแตล่ ะคนและไดเ้ ห็นการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีของครู ในโรงเรยี นมากข้ึน และการจดั การเรยี นการสอนให้เรยี นเหมอื นกนั ท้ัง 2 กลุ่ม 3. การนาผลองคค์ วามรู้ทไ่ี ดร้ ับมาประยุกตใ์ ช้ สามารถนาสง่ิ ท่ีได้ไปปรบั ใช้ได้ทัง้ การดารงชวี ติ ประจาวนั และการเป็นครใู นอนาคต ไม่ว่าจะเปน็ การทาหน้าทข่ี องตนให้ เตม็ ความสามารถ การพัฒนาตนเองอยู่เสมอ การแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการแก้ไขสถานการณเ์ ฉพาะหนา้ ซึง่ ตอ้ งใชไ้ หว พรบิ ในการแก้ปัญหา การปรบั ตวั ตามสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้รกู้ ารเตรียมความพรอ้ มในการจดั การเรียนการสอน เทคนิคต่าง ๆใน การจดั การเรยี นการสอน เพอ่ื ดงึ ดดู ความสนใจของเดก็ และได้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างบคุ คล ซงึ่ จะทาให้เขา้ ใจเด็กมากยิ่งข้นึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook