แผนการจัดการเรียนรู้หุ่นยนต์ ม.3

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หุ่นยนต์ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรมิ่ ต้นรจู้ ักหนุ่ ยนต์ เวลา 4 ช่ัวโมง เรือ่ ง รู้จักหนุ่ ยนต์ เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ผ้สู อน นายวุฒิพงษ์ ศรเี มอื ง วันท่ีสอน......................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอยา่ งเป็นขนั้ ตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รูเ้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวชี้วดั ว 4.2 ม.3/2 รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมนิ ผล นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตาม วตั ถุประสงคโ์ ดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ ที่หลากหลาย 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของหนุ่ ยนต์ได้ (K) 2. สามารถเขียนความหมายของหุ่นยนต์ได้ (P) 3. นักเรียนเหน็ ความสาคัญและเอาใจใสใ่ นการทางาน (A) 3. สาระสาคัญ เครอ่ื งจักรกลชนิดหนึ่ง มลี กั ษณะโครงสร้างและรปู รา่ งแตกต่างกนั หุน่ ยนตใ์ นแต่ละประเภท จะมีหน้าท่ีการทางานในด้านต่าง ๆ ตามการควบคุมโดยตรงของมนุษย์ การควบคมุ ระบบตา่ ง ๆ ในการ สง่ั งานระหวา่ งหุน่ ยนต์และมนษุ ย์ 4. สาระการเรียนรู้ - รจู้ ักหุ่นยนตเ์ บือ้ งต้น - ระบบเซฟิ เวอร์ -ระบบอนิ ทราเนต็ ์ -เว็บเรยี นหนุ่ ยนตค์ รวู ฒุ ิ 5. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา 1. ครสู รา้ งบรรยากาศในห้องเรียน โดยกลา่ วคาทักทาย ซักถามนกั เรยี นเก่ียวกบั ความรู้เดิมจากช่วั โมง ทีแ่ ลว้ เพ่ือทบทวนความรเู้ ดิมของนักเรียน 2.ครนู ากจิ กรรมจิตปัญญามาใช้ในการเรียนการสอนซึง่ เป็นกิจกรรมทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญในการทา กิจกรรม เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นเกดิ ความสนใจและสมาธิ พรอ้ มทจี่ ะเรยี น ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมกระดาษพูดได้ 3. หลังจากทากิจกรรมเสร็จแล้ว ครแู จ้งจุดประสงค์และนาเสนอหวั ขอ้ ทจ่ี ะสอนในวนั นี้ ข้นั สอน 1. ครูอธบิ ายเกี่ยวกบั ขอบเขตของเน้ือหาของบทเรยี นให้นกั เรียนทราบ 2. ครูไดเ้ พิ่มความเขา้ ใจของนักเรียนโดยครคู รไู ด้อธบิ ายเร่ือง รูจ้ ักห่นุ ยนต์ ผ่านสือ่ Power Point บน โปรเจคเตอร์ เพอ่ื ทจี่ ะให้นักเรียนเรยี กใช้งานโปรแกรมword ได้อย่างถูกต้อง โดยครจู ะมีภาพตวั อย่าง เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกิดความเข้าใจมากยงิ่ ข้ึน 3. เมื่อครูอธิบายเสรจ็ ให้นักเรียนหาความรู้เพิ่มเติม และตอบคาถามท้ายชว่ั โมง เมอ่ื นกั เรียนตอบจะ ไดค้ ะแนน เพื่อเป็นการเสริมแรงใหก้ ับนักเรยี น ขนั้ สรุป 1. ครสู งั เกตพฤติกรรมการทากิจกรรมของนักเรยี นและจากการตอบคาถาม 6. สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1. สื่อในระบบอนิ ทราเน็ตโรงเรียน 2. เว็บไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 3. กจิ กรรมจติ ปญั ญา 4. แบบทดสอบในระบบอนิ ทราเน็ต 7. การวดั และประเมินผล 7.1 การวัดผล จุดประสงการเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน - ได้คะแนนระดบั 1. อธบิ ายความหมาย - การตอบคาถาม - การตอบคาถาม คุณภาพ 2 ข้ึนไป ของหนุ่ ยนต์ได้ (K) -ไดค้ ะแนนระดับ 2. สามารถเขียน -ตรวจผลงานนักเรยี น -แบบประเมินผลงาน คุณภาพ 2 ขนึ้ ไป ความหมายของหุ่นยนต์ ได้ (P)

3. นกั เรียนเห็น -ประเมินคุณลกั ษณะ -แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั -ได้คะแนนระดับ ความสาคัญและเอาใจใส่ อันพึงประสงค์ พึงประสงค์ คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป ในการทางาน (A) 7.2 เกณฑ์การประเมินผล (รูบรกิ ส์) ประเด็นการประเมนิ ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ตอ้ งปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้(2) ไม่สามารถอธิบาย ความหมายของ 1. อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย อธิบายความหมาย อธิบายความหมาย หุน่ ยนตไ์ ด้ ของห่นุ ยนต์ได้ (K) ของหุ่นยนต์ได้ ของห่นุ ยนต์ได้ ของหุ่นยนต์ได้บาง ถูกต้องสมบูรณ์ เกอื บทกุ ประเดน็ ประเดน็ 2 . สามารถเขียน สามารถเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขียน ไมส่ ามารถเขยี น ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ หุน่ ยนตไ์ ด้ (P) ห่นุ ยนต์ไดอ้ ย่าง หุ่นยนตไ์ ดอ้ ยา่ ง ห่นุ ยนต์ได้บางสว่ น หุ่นยนต์ได้ ถูกต้องสมบรู ณ์ ถกู ต้อง 3. นักเรยี นเห็น เห็นความสาคัญ เห็นความสาคัญ เห็นความสาคญั ไม่เห็น ความสาคญั และเอาใจ และเอาใจใสใ่ นการ และเอาใจใส่ในการ และเอาใจใส่ในการ ความสาคัญ ใสใ่ นการทางาน (A) ทางานทุกคร้ัง ทางานเปน็ สว่ น ทางานเปน็ บางครงั้ และเอาใจใส่ใน ใหญ่ การทางาน 7.3 เกณฑก์ ารตัดสิน รายบคุ คล : นกั เรียนมีผลการเรียนรูไ้ ม่ต่ากว่าระดบั 2 จงึ ถือว่าผา่ น รายกลุ่ม : ร้อยละ 60 ของจานวนนกั เรยี นทัง้ หมดมผี ลการเรียนร้ไู มต่ ่ากวา่ ระดบั 2 8. ขอ้ เสนอแนะ [ ] ใช้สอนได้ [ ] ควรปรบั ปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝ่ายวชิ าการ

............/.................................../............ ลงช่อื ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผ้อู านวยการสถานศึกษา ............/.................................../............

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หุ่นยนต์ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรม่ิ ตน้ รจู้ ักห่นุ ยนต์ เวลา 4 ชั่วโมง เรอ่ื ง บทเรียน IPST รุ่น 1 รุน่ 2 เวลา 1 ชัว่ โมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ผสู้ อน นายวุฒพิ งษ์ ศรเี มอื ง วันทส่ี อน……………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเป็นข้นั ตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2 ม.3/2 รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมนิ ผล นาเสนอข้อมูล และสารสนเทศตาม วตั ถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรอื บริการบนอนิ เทอร์เนต็ ที่หลากหลาย 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ a. อธิบายความแตกต่างห่นุ ยนต์ IPST ร่นุ 1 รุ่น 2 ได้ (K) b. สามารถตรวจสอบหนุ่ ยนต์ IPST รุ่น 1 รุ่น 2 ได้ (P) c. นักเรียนเห็นความสาคัญและเอาใจใสใ่ นการทางาน (A) 3. สาระสาคัญ เคร่อื งจักรกลชนดิ หนงึ่ มีลกั ษณะโครงสรา้ งและรปู ร่างแตกต่างกัน ห่นุ ยนต์ในแตล่ ะประเภท จะมีหนา้ ที่การทางานในดา้ นต่าง ๆ ตามการควบคมุ โดยตรงของมนษุ ย์ การควบคุมระบบตา่ งๆ ในการ ส่ังงานระหวา่ งหุ่นยนต์และมนุษย์ 4. สาระการเรียนรู้ - บทเรียน IPST ร่นุ 1 รนุ่ 2 5. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา 1. ครสู ร้างบรรยากาศในห้องเรยี น โดยกลา่ วคาทักทาย ซักถามนักเรยี นเก่ียวกับความรเู้ ดมิ จากชว่ั โมง ทแี่ ล้วเพอ่ื ทบทวนความรเู้ ดิมของนักเรยี น 2. ครนู ากิจกรรมจิตปัญญามาใชใ้ นการเรียนการสอนซึ่งเป็นกจิ กรรมท่เี น้นผู้เรียนเป็นสาคัญในการทา กจิ กรรม เพอ่ื ให้ผ้เู รียนเกดิ ความสนใจและสมาธิ พร้อมทจ่ี ะเรียน ซึ่งเปน็ กิจกรรมกระดาษแปลงกาย

3. หลงั จากทากจิ กรรมเสร็จแลว้ ครแู จง้ จดุ ประสงค์และนาเสนอหวั ข้อทจ่ี ะสอนในวันน้ี ขัน้ สอน 1. ครอู ธิบายเกี่ยวกับขอบเขตของเนื้อหาของบทเรยี นใหน้ ักเรยี นทราบ 2. ครไู ดเ้ พิ่มความเข้าใจของนักเรยี นโดยครูครูได้อธิบายเร่ือง บทเรียน IPST ร่นุ 1 รนุ่ 2 ผา่ นสอื่ Power Point บนโปรเจคเตอร์ เพื่อที่จะใหน้ ักเรยี นเรยี กใช้งานโปรแกรมword ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง โดย ครูจะมีภาพตัวอยา่ งเพื่อให้นักเรยี นเกดิ ความเข้าใจมากยิง่ ขึ้น 3. เมอ่ื ครูอธิบายเสร็จ ให้นกั เรยี นหาความรูเ้ พ่ิมเตมิ และตอบคาถามท้ายชวั่ โมง เม่อื นักเรียนตอบจะ ได้คะแนน เพื่อเป็นการเสริมแรงให้กบั นักเรยี น ขัน้ สรุป 1. ครสู งั เกตพฤตกิ รรมการทากจิ กรรมของนักเรยี นและจากการตอบคาถาม 6. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 5. สอ่ื ในระบบอินทราเน็ตโรงเรยี น 6. เว็บไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 7. กจิ กรรมจติ ปญั ญา 8. แบบทดสอบในระบบอนิ ทราเนต็ 7.การวดั และประเมนิ ผล 7.1 การวัดผล จดุ ประสงการเรียนรู้ วิธกี ารวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ - การตอบคาถาม - ได้คะแนนระดบั 1. อธบิ ายความแตกตา่ ง - การตอบคาถาม คุณภาพ 2 ขึน้ ไป -แบบประเมนิ ผลงาน หุน่ ยนต์ IPST รุ่น 1 รุ่น -ได้คะแนนระดับ -แบบประเมินคณุ ลักษณะอัน คณุ ภาพ 2 ข้ึนไป 2 ได้ (K) พงึ ประสงค์ -ได้คะแนนระดับ 2. สามารถตรวจสอบ -ตรวจผลงานนกั เรียน คุณภาพ 2 ขึ้นไป หนุ่ ยนต์ IPST รุ่น 1 รุน่ 2 ได้ (P) 3. นักเรยี นเห็น -ประเมินคุณลกั ษณะ ความสาคัญและเอาใจใส่ อนั พงึ ประสงค์ ในการทางาน (A) 7.2 เกณฑก์ ารประเมินผล (รูบรกิ ส)์

ประเดน็ การประเมนิ ดมี าก (4) ระดบั คณุ ภาพ ตอ้ งปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้(2) 1. อธบิ ายความ อธบิ ายความ อธิบายความ อธบิ ายความ ไม่สามารถอธบิ าย แตกต่างห่นุ ยนต์ IPST แตกต่างห่นุ ยนต์ แตกตา่ งหุน่ ยนต์ แตกต่างหนุ่ ยนต์ ความแตกต่าง รนุ่ 1 รุ่น 2 ได้ (K) IPST รนุ่ 1 รนุ่ 2 IPST ร่นุ 1 รนุ่ 2 IPST ร่นุ 1 รนุ่ 2 หุ่นยนต์ IPST รนุ่ ไดถ้ ูกตอ้ งสมบรู ณ์ ได้เกือบทุกประเด็น ไดบ้ างประเดน็ 1 รุ่น 2 ได้ 2. สามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ ไม่สามารถ หุ่นยนต์ IPST รุ่น 1 หุ่นยนต์ IPST รุ่น 1 ห่นุ ยนต์ IPST ร่นุ 1 หุ่นยนต์ IPST รนุ่ 1 ตรวจสอบ รนุ่ 2 ได้ (P) รนุ่ 2 ได้ อย่าง รุ่น 2 ได้ อยา่ ง ร่นุ 2 ไดบ้ างส่วน หนุ่ ยนต์ IPST รนุ่ ถกู ต้องสมบูรณ์ ถกู ต้อง 1 รุน่ 2 ได้ 3. นกั เรียนเห็น เห็นความสาคญั เหน็ ความสาคัญ เหน็ ความสาคญั ไม่เห็น ความสาคัญและเอาใจ และเอาใจใสใ่ นการ และเอาใจใสใ่ นการ และเอาใจใส่ในการ ความสาคัญ ใส่ในการทางาน (A) ทางานทุกคร้งั ทางานเป็นสว่ น ทางานเป็นบางครัง้ และเอาใจใสใ่ น ใหญ่ การทางาน 7.3 เกณฑก์ ารตดั สนิ รายบคุ คล : นักเรยี นมีผลการเรยี นรู้ไม่ตา่ กว่าระดับ 2 จึงถือว่าผ่าน รายกลุ่ม : ร้อยละ 60 ของจานวนนักเรียนทง้ั หมดมผี ลการเรยี นรู้ไมต่ า่ กว่าระดับ 2 8. ข้อเสนอแนะ [ ] ใชส้ อนได้ [ ] ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝา่ ยวชิ าการ ............/.................................../............ ลงชอื่ ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผู้อานวยการสถานศกึ ษา

............/.................................../............

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ รายวิชาเพม่ิ เตมิ หนุ่ ยนต์ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ิมตน้ รจู้ ักหุ่นยนต์ เวลา 4 ช่วั โมง เร่อื ง บอรด์ IPST เบ้ืองตน้ เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ผสู้ อน นายวฒุ ิพงษ์ ศรีเมือง วนั ทส่ี อน................................................ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอยา่ งเป็นขนั้ ตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวช้วี ัด ว 4.2 ม.3/3 ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล วเิ คราะหส์ ื่อ และผลกระทบจากการให้ ขา่ วสารท่ีผดิ เพอ่ื การใช้งานอยา่ งรู้เท่าทัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ a. อธบิ ายการเปดิ ใช้งาน Arduino IPST ได้ (K) b. สามารถตรวจสอบการเขยี นโปรแกรมการวดั ค่าแสงได้ (P) c. นักเรยี นเห็นความสาคัญและเอาใจใสใ่ นการทางาน (A) 3. สาระสาคญั แผงวงจร IPST-SE เปน็ แผงวงจรสาหรับการควบคมุ หลักมีไมโครคอนโทรลเลอร์เบอร์ ATmega644P เป็นหัวใจในการควบคมุ การทางาน โดยการเขยี นโปรแกรมจะทางานผ่านคอมพวิ เตอร์ ดว้ ยโปรแกรมภาษา C/C++ จากซอฟต์แวร์ Arduino IDE 1.7.10 กอ่ นส่งข้อมลู มายงั ตัวบอร์ดด้วยพอรต์ USB บนแผงวงจรควบคุม 4. สาระการเรียนรู้ - วธิ กี ารเปิด Arduino IPST - เขยี นโปรแกรมการวัดค่าแสง - การหาคา่ reff - การสร้างฟังกช์ น่ั แบบต่าง ๆ

5. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา 1. ครสู ร้างบรรยากาศในห้องเรยี น โดยกลา่ วคาทักทาย ซักถามนักเรียนเกยี่ วกบั ความรเู้ ดมิ จากช่วั โมง ท่แี ล้วเพ่อื ทบทวนความรเู้ ดิมของนักเรียน 2.ครูนากจิ กรรมจิตปัญญามาใชใ้ นการเรยี นการสอนซง่ึ เปน็ กจิ กรรมทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเป็นสาคัญในการทา กจิ กรรม เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความสนใจและสมาธิ พร้อมที่จะเรยี น ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมกระดาษแปลงกาย 3. หลงั จากทากิจกรรมเสร็จแล้ว ครแู จง้ จุดประสงค์และนาเสนอหัวข้อที่จะสอนในวนั น้ี ขนั้ สอน 1. ครูอธิบายเก่ยี วกับขอบเขตของเน้ือหาของบทเรยี นใหน้ ักเรียนทราบ 2. ครูไดเ้ พิ่มความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยครคู รูไดอ้ ธบิ ายเรื่อง บอรด์ IPST เบ้อื งตน้ ผา่ นส่ือ Power Point บนโปรเจคเตอร์โดยจะมเี น้อื ดงั นี้ - วธิ กี ารเปดิ Arduino IPST - เขียนโปรแกรมการวัดค่าแสง - การหาคา่ reff - การสรา้ งฟังก์ชัน่ แบบตา่ งๆ 12 ฟังกช์ ่ัน เพ่ือทจี่ ะใหน้ ักเรยี นเรียกใชง้ านบอรด์ IPST เบื้องต้นไดอ้ ย่างถูกต้อง โดยครูจะมีภาพตวั อยา่ งเพ่อื ให้ นกั เรยี นเกิดความเขา้ ใจมากย่ิงขึ้น 3. ครูใหน้ ักเรยี นนาหนุ่ ยนตม์ าทดลองวดั แสง และเขียนโปรแกรมการวัดคา่ แสง จากคอมพิวเตอร์ลง ในห่นุ ยนต์ IPST 4. เม่ือครูอธิบายเสร็จ ให้นกั เรียนหาความรู้เพิ่มเติม และตอบคาถามท้ายช่ัวโมง เมอื่ นกั เรียนตอบจะ ได้คะแนน เพื่อเปน็ การเสริมแรงให้กับนักเรยี น ขั้นสรปุ 1. ครสู ังเกตพฤติกรรมการทากิจกรรมของนักเรียนและจากการตอบคาถาม 6. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 9. สือ่ ในระบบอินทราเน็ตโรงเรยี น 10. เวบ็ ไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 11. กิจกรรมจติ ปัญญา 12. แบบทดสอบในระบบอินทราเนต็

7. การวดั และประเมินผล 7.1 การวดั ผล จดุ ประสงการเรยี นรู้ วิธกี ารวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ - การตอบคาถาม 1. อธิบายการเปิดใชง้ าน - การตอบคาถาม - ไดค้ ะแนนระดบั Arduino IPST ได้ (K) คุณภาพ 2 ขึ้นไป 2. สามารถตรวจสอบ -ตรวจผลงานนักเรยี น -แบบประเมินผลงาน -ไดค้ ะแนนระดับ คุณภาพ 2 ข้ึนไป การเขยี นโปรแกรมการ -แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ -ไดค้ ะแนนระดับ วดั คา่ แสงได้ (P) คณุ ภาพ 2 ข้ึนไป 3. นักเรียนเห็น -ประเมินคุณลกั ษณะ ความสาคญั และเอาใจใส่ อนั พงึ ประสงค์ ในการทางาน (A) 7.2 เกณฑก์ ารประเมินผล (รูบริกส์) ประเดน็ การประเมนิ ดีมาก (4) ระดบั คณุ ภาพ ต้องปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้(2) 1. อธบิ ายการเปดิ ใช้ อธบิ ายการเปิดใช้ อธบิ ายการเปิดใช้ อธบิ ายการเปดิ ใช้ ไม่สามารถอธิบาย งาน Arduino IPSTได้ งาน Arduino IPST งาน Arduino IPST งาน Arduino IPST การเปดิ ใช้งาน (K) ได้ ถูกต้องสมบรู ณ์ ได้ เกอื บทุก ได้ บางประเด็น Arduino IPSTได้ ประเด็น 2. สามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ ไม่สามารถ การเขียนโปรแกรมการ การเขียนโปรแกรม การเขยี นโปรแกรม การเขียนโปรแกรม ตรวจสอบการ วดั คา่ แสงได้ (P) การวัดคา่ แสงได้ การวัดค่าแสงได้ การวัดค่าแสงได้ เขยี นโปรแกรม อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง บางส่วน การวัดคา่ แสงได้ สมบรู ณ์ 3. นักเรยี นเหน็ เห็นความสาคญั เหน็ ความสาคญั เห็นความสาคญั ไม่เห็น ความสาคญั และเอาใจ และเอาใจใสใ่ นการ และเอาใจใสใ่ นการ และเอาใจใส่ในการ ความสาคัญ ใสใ่ นการทางาน (A) ทางาน ทุกครั้ง ทางานเปน็ สว่ น ทางานเป็นบางคร้งั และเอาใจใส่ใน ใหญ่ การทางาน

7.3 เกณฑ์การตัดสนิ รายบคุ คล : นกั เรยี นมีผลการเรยี นรูไ้ มต่ ่ากวา่ ระดบั 2 จึงถือวา่ ผา่ น รายกล่มุ : รอ้ ยละ 60 ของจานวนนกั เรยี นทัง้ หมดมีผลการเรียนร้ไู ม่ต่ากว่าระดับ 2 8. ขอ้ เสนอแนะ [ ] ใชส้ อนได้ [ ] ควรปรับปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝ่ายวชิ าการ ............/.................................../............ ลงช่อื ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผู้อานวยการสถานศึกษา ............/.................................../............

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนุ่ ยนต์ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เริ่มต้นรจู้ ักหุ่นยนต์ เวลา 4 ชว่ั โมง เรอ่ื ง โครงสรา้ งการเขียนโค้ด บอร์ด IPST เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ผสู้ อน นายวฒุ ิพงษ์ ศรเี มือง วนั ท่สี อน............................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ขัน้ ตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2 ม.3/3 ประเมินความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู วิเคราะห์สือ่ และผลกระทบจากการ ใหข้ ่าวสารทผ่ี ดิ เพอ่ื การใช้งานอย่างรเู้ ทา่ ทัน 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายโครงสรา้ งการเขยี นโค้ด บอร์ด IPST ได้ (K) 2. สามารถเขียนโครงสรา้ งการเขียนโค้ด บอรด์ IPST ได้ (P) 3. นกั เรยี นมคี วามต้ังใจเรยี นและเอาใจใสใ่ นการทางาน (A) 3. สาระสาคญั แผงวงจรสาหรับการควบคมุ หลักมไี มโครคอนโทรลเลอร์เบอร์ ATmega644P เปน็ หวั ใจใน การควบคุมการทางาน โดยการเขยี นโปรแกรมจะทางานผา่ นคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมภาษา C/C++ จากซอฟต์แวร์ Arduino IDE 1.7.10 กอ่ นส่งข้อมูลมายังตัวบอร์ดดว้ ยพอรต์ USB บนแผงวงจรควบคมุ 4. สาระการเรยี นรู้ - โครงสรา้ งการเขยี นโค้ด บอรด์ IPST -การประกาศตัวแปร ใหส้ มั พันธก์ ับพอร์ตอะนาลอ็ ก

5. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนา 1. ครสู รา้ งบรรยากาศในห้องเรียน โดยกลา่ วคาทักทาย ซักถามนักเรยี นเกยี่ วกบั ความรเู้ ดิมจากช่ัวโมง ท่แี ลว้ เพ่ือทบทวนความรูเ้ ดิมของนักเรียน 2.ครนู ากจิ กรรมจิตปัญญามาใช้ในการเรยี นการสอนซง่ึ เปน็ กิจกรรมที่เน้นผูเ้ รยี นเปน็ สาคัญในการทา กจิ กรรม เพ่ือให้ผู้เรยี นเกดิ ความสนใจและสมาธิ พร้อมทีจ่ ะเรยี น ซ่ึงเปน็ กิจกรรมกระดาษจินตนาการ 3. หลังจากทากิจกรรมเสร็จแล้ว ครแู จง้ จุดประสงค์และนาเสนอหวั ขอ้ ทีจ่ ะสอนในวันนี้ ข้นั สอน 1. ครูอธิบายเกีย่ วกบั ขอบเขตของเนื้อหาของบทเรยี นใหน้ ักเรียนทราบ 2. ครไู ดเ้ พิ่มความเข้าใจของนักเรียนโดยครูครไู ด้อธิบายเรื่อง โครงสรา้ งการเขยี นโค้ด บอรด์ IPST ผ่านสือ่ Power Point บนโปรเจคเตอร์โดยจะมีเน้อื ดงั น้ี - โครงสร้างการเขยี นโคด้ บอรด์ IPST -การประกาศตัวแปร ให้สัมพันธ์กับพอร์ตอะนาลอ็ ก เพื่อที่จะใหน้ ักเรยี นเรยี กใชง้ านบอรด์ IPST เบอื้ งต้น ได้อย่างถูกต้อง โดยครูจะมภี าพตัวอย่าง เพื่อให้นักเรยี นเกิดความเขา้ ใจมากยิ่งข้นึ 3. ครใู หน้ ักเรยี น เขยี นโครงสร้างโค้ดของ บอร์ด IPST และทดลองเขียนโคด้ ในบอร์ด และทดสอบการ เดนิ ของ ห่นุ ยนต์ 4. เมื่อนักเรียนทดลองเขียนโค้ดในบอร์ดและทดสอบเสร็จ ให้นักเรยี นหาความร้เู พมิ่ เติม และตอบ คาถามทา้ ยชั่วโมง เมือ่ นักเรียนตอบจะได้คะแนน เพ่อื เป็นการเสรมิ แรงให้กับนักเรยี น ขั้นสรุป 1. ครสู ังเกตพฤติกรรมการทากิจกรรมของนักเรยี นและจากการตอบคาถาม 6. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ 13. ส่ือในระบบอินทราเน็ตโรงเรียน 14. เวบ็ ไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 15. กิจกรรมจิตปัญญา 16. แบบทดสอบในระบบอนิ ทราเน็ต 7.การวัดและประเมนิ ผล 7.1 การวดั ผล

จดุ ประสงการเรียนรู้ วิธกี ารวัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน - การตอบคาถาม - การตอบคาถาม 1. อธิบายโครงสรา้ งการ - ได้คะแนนระดบั เขยี นโค้ด บอร์ด IPST คุณภาพ 2 ข้ึนไป ได้ (K) 2. สามารถเขยี น -ตรวจผลงานนักเรยี น -แบบประเมินผลงาน -ไดค้ ะแนนระดับ โครงสร้างการเขียนโคด้ คุณภาพ 2 ขึ้นไป บอรด์ IPST ได้ (P) -ประเมินคุณลกั ษณะ -แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอัน 3. นกั เรยี นมีความต้ังใจ อันพงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ -ไดค้ ะแนนระดับ เรยี นและเอาใจใสใ่ นการ คณุ ภาพ 2 ข้ึนไป ทางาน (A) 7.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รูบริกส์) ประเด็นการประเมิน ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ตอ้ งปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้(2) 1. อธบิ ายโครงสร้าง อธิบายโครงสร้าง อธิบายโครงสรา้ ง อธิบายโครงสร้าง ไมส่ ามารถอธิบาย การเขยี นโคด้ บอรด์ การเขียนโคด้ การเขยี นโค้ด การเขยี นโค้ด โครงสรา้ งการ IPST ได้ (K) บอร์ด IPST ได้ บอรด์ IPST ได้ บอร์ด IPST ได้ เขยี นโค้ด บอรด์ ถกู ต้องสมบูรณ์ เกอื บทุกประเด็น บางประเดน็ IPST ได้ 2. สามารถเขียน สามารถเขียน สามารถเขียน สามารถเขียน ไมส่ ามารถเขยี น โครงสร้างการเขยี น โครงสร้างการเขยี น โครงสร้างการเขยี น โครงสรา้ งการเขียน โครงสร้างการ โคด้ บอรด์ IPST ได้ โค้ด บอร์ด IPST โค้ด บอร์ด IPST โคด้ บอรด์ IPST เขยี นโค้ด บอรด์ (P) ได้ อยา่ งถูกต้อง ได้ อย่างถกู ต้อง ได้ บางสว่ น IPST ได้ สมบรู ณ์ 3. นกั เรียนมีความ นักเรยี นมีความ นกั เรยี นมีความ นกั เรยี นมีความ นักเรยี นไม่มคี วาม ต้งั ใจเรียนและเอาใจใส่ ต้ังใจเรยี นและเอา ต้ังใจเรยี นและเอา ต้ังใจเรยี นและเอา ตงั้ ใจเรียนและเอา ในการทางาน (A) ใจใสใ่ นการทางาน ใจใสใ่ นการทางาน ใจใส่ในการทางาน ใจใส่ในการ ทุกครั้ง เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางครง้ั ทางาน 7.3 เกณฑก์ ารตัดสิน รายบุคคล : นักเรียนมผี ลการเรยี นรู้ไมต่ ่ากว่าระดบั 2 จึงถือว่าผา่ น

รายกลุ่ม : รอ้ ยละ 60 ของจานวนนกั เรียนทงั้ หมดมผี ลการเรยี นรไู้ ม่ต่ากวา่ ระดบั 2 8. ข้อเสนอแนะ [ ] ใช้สอนได้ [ ] ควรปรบั ปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝ่ายวชิ าการ ............/.................................../............ ลงช่ือ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ............/.................................../............

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ รายวชิ าเพ่ิมเติม ห่นุ ยนต์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ศกึ ษาบอร์ด IPST เวลา 2 ชว่ั โมง เรอื่ ง การสร้างฟังก์ชันแบบ tkl เวลา 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ผ้สู อน นายวฒุ พิ งษ์ ศรเี มอื ง วนั ที่สอน.................................................. 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวัด ว 4.2 ม.3/3 ประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล วเิ คราะหส์ ่ือ และผลกระทบจากการให้ ขา่ วสารทผ่ี ิด เพ่อื การใช้งานอยา่ งร้เู ทา่ ทนั 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ a. อธบิ ายการสร้างฟงั กช์ ันแบบต่าง ๆ (K) b. สามารถเขยี นฟงั กช์ ันแบบต่าง ๆ (P) c. นกั เรียนมีกระตือรือร้นและเอาใจใสใ่ นการทางาน (A) 3. สาระสาคญั ตัวแปร เปน็ ส่ิงสาคญั ในการเขียนโปรแกรมทุกภาษา มนั ใช้ในการเกบ็ ขอ้ มูลไว้ใน หน่วยความจา เพ่ือทีจ่ ะนามาใช้ได้ในภายหลังในโปรแกรม นอกจากนเี้ รายังใช้ตวั แปรในการจดั การกับ ข้อมูลประเภทตา่ ง ๆ 4. สาระการเรียนรู้ -การสร้างฟงั กช์ ัน tkl -เซฟเข้าเซฟิ เวอร์

5. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นา 1. ครสู ร้างบรรยากาศในห้องเรยี น โดยกล่าวคาทักทาย ซักถามนักเรียนเกีย่ วกบั ความรูเ้ ดมิ จากช่วั โมง ทีแ่ ลว้ เพือ่ ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน 2.ครนู ากจิ กรรมจิตปัญญามาใช้ในการเรยี นการสอนซง่ึ เป็นกิจกรรมทีเ่ น้นผ้เู รยี นเป็นสาคัญในการทา กิจกรรม เพอ่ื ให้ผู้เรียนเกดิ ความสนใจและสมาธิ พร้อมที่จะเรียน ซ่ึงเป็นกิจกรรม เกมทายใจ 3. หลงั จากทากจิ กรรมเสร็จแล้ว ครแู จง้ จุดประสงค์และนาเสนอหวั ข้อที่จะสอนในวนั นี้ ขนั้ สอน 1. ครูอธิบายเกย่ี วกับขอบเขตของเนื้อหาของบทเรียนใหน้ ักเรยี นทราบ 2. ครไู ด้เพ่ิมความเข้าใจของนักเรยี นโดยครคู รไู ด้อธบิ ายเรื่อง การสรา้ งฟังกช์ ันแบบตา่ ง ๆ ผ่านสอ่ื Power Point บนโปรเจคเตอรโ์ ดยจะมีเน้ือดังน้ี -การสรา้ งฟงั กช์ นั แบบตา่ ง ๆ เพอ่ื ท่จี ะใหน้ ักเรียนเรียกใชง้ านบอรด์ IPST เบื้องตน้ ได้อยา่ ง ถกู ต้อง โดยครจู ะมีภาพตัวอย่างเพ่ือให้นกั เรยี นเกิดความเข้าใจมากย่งิ ข้ึน 3. ครใู หน้ กั เรยี นสร้างฟังกช์ นั แบบต่าง ๆ เพ่ือฝึกฝนใหน้ ักเรียนการสรา้ งฟงั ก์ชนั แบบตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้อง และลงมอื ปฏบิ ัติ 4. เม่อื นักเรยี นทดลองการสร้างฟงั กช์ นั แบบตา่ ง ๆ เสรจ็ ให้นักเรียนหาความร้เู พ่ิมเติม และตอบ คาถามทา้ ยชั่วโมง เมอื่ นักเรียนตอบจะไดค้ ะแนน เพ่ือเป็นการเสริมแรงให้กบั นักเรยี น ขนั้ สรุป 1. ครูสังเกตพฤตกิ รรมการทากิจกรรมของนักเรยี นและจากการตอบคาถาม 6. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 17. สอื่ ในระบบอนิ ทราเน็ตโรงเรยี น 18. เว็บไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 19. กิจกรรมจิตปัญญา 20. แบบทดสอบในระบบอินทราเนต็

7.การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการวัด เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 7.1 การวดั ผล - การตอบคาถาม - การตอบคาถาม - ได้คะแนนระดบั คุณภาพ 2 ข้ึนไป จดุ ประสงการเรียนรู้ -ตรวจผลงานนักเรยี น -แบบประเมินผลงาน -ได้คะแนนระดับ 1. อธิบายการสร้าง คณุ ภาพ 2 ข้ึนไป ฟงั กช์ นั แบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. สามารถสรา้ งฟังกช์ นั แบบตา่ ง ๆ ได้ (P) 3. นักเรียนมี -ประเมินคุณลกั ษณะ -แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั -ไดค้ ะแนนระดับ กระตือรอื ร้นและเอาใจ อนั พึงประสงค์ ใส่ในการทางาน (A) พงึ ประสงค์ คณุ ภาพ 2 ขนึ้ ไป 7.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รูบริกส)์ ประเด็นการประเมิน ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ต้องปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้(2) 1. อธบิ ายการสร้าง อธิบายการสรา้ ง อธิบายการสรา้ ง อธบิ ายการสรา้ ง ไมส่ ามารถอธบิ าย ฟังก์ชนั แบบต่างๆได้ ฟังก์ชนั แบบต่างๆ ฟงั กช์ ันแบบต่างๆ ฟงั ก์ชันแบบต่างๆ การสร้างฟงั กช์ ัน (K) ได้ ถูกต้องสมบรู ณ์ ได้เกือบทุกประเด็น ไดบ้ างประเดน็ แบบต่างๆได้ 2. สามารถสรา้ ง สามารถสรา้ ง สามารถสรา้ ง สามารถสร้าง ไมส่ ามารถสรา้ ง ฟังกช์ ันแบบต่างๆได้ ฟังก์ชันแบบต่างๆ ฟังกช์ ันแบบต่างๆ ฟงั กช์ ันแบบต่างๆ ฟงั ก์ชนั แบบต่างๆ (P) ได้ อยา่ งถกู ต้อง ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ไดบ้ างสว่ น ได้ สมบูรณ์ 3. นกั เรยี นมี นักเรียนมี นกั เรยี นมี นกั เรยี นมี นกั เรยี นไม่มี กระตือรอื รน้ และเอาใจ กระตือรือรน้ และ กระตือรอื ร้นและ กระตือรอื รน้ และ กระตือรอื รน้ และ ใส่ในการทางาน (A) เอาใจใส่ในการ เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใส่ในการ เอาใจใส่ในการ ทางาน ทกุ คร้งั ทางาน เป็นส่วน ทางาน เปน็ ทางาน ใหญ่ บางครงั้ 7.3 เกณฑก์ ารตัดสิน รายบุคคล : นักเรยี นมผี ลการเรยี นรู้ไมต่ า่ กวา่ ระดับ 2 จึงถือว่าผ่าน รายกลุ่ม : รอ้ ยละ 60 ของจานวนนักเรียนทงั้ หมดมผี ลการเรยี นรู้ไมต่ า่ กวา่ ระดบั 2

8. ข้อเสนอแนะ [ ] ใชส้ อนได้ [ ] ควรปรบั ปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝา่ ยวชิ าการ ............/.................................../............ ลงชอ่ื ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผ้อู านวยการสถานศึกษา ............/.................................../............

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6 รายวิชาเพม่ิ เติม ห่นุ ยนต์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ศึกษาบอรด์ IPST เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง โครงสร้างการเขียนโค้ด บอร์ด IPST while(1) ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2565 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ผสู้ อน นายวุฒพิ งษ์ ศรีเมือง วนั ทีส่ อน......................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2 ม.3/3 ประเมินความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมลู วเิ คราะหส์ ่ือ และผลกระทบจากการให้ ข่าวสารทผ่ี ิด เพือ่ การใชง้ านอยา่ งรู้เท่าทัน 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ a. อธบิ ายโครงสร้างการเขียนโค้ด บอรด์ IPST (K) b. สามารถเขยี นโครงสร้างการเขียนโคด้ บอร์ด IPST (P) c. นักเรยี นมกี ระตือรอื รน้ และเอาใจใสใ่ นการทางาน (A) 3. สาระสาคัญ ตัวแปร เป็นสิง่ สาคญั ในการเขียนโปรแกรมทกุ ภาษา มนั ใชใ้ นการเกบ็ ข้อมลู ไว้ใน หน่วยความจา เพือ่ ท่จี ะนามาใช้ไดใ้ นภายหลงั ในโปรแกรม นอกจากนเ้ี รายังใช้ตวั แปรในการจัดการกับ ข้อมูลประเภทตา่ ง ๆ 4. สาระการเรียนรู้ - โครงสรา้ งการเขยี นโคด้ บอร์ด IPST - โครงสร้างลูปไวล์ while(1) -เขยี นแผนท่ี เขียนแผนเปน็ ภาษาไทย

5. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนา 1. ครูสร้างบรรยากาศในห้องเรียน โดยกลา่ วคาทกั ทาย ซักถามนักเรียนเกย่ี วกับความร้เู ดิมจากช่วั โมง ท่ีแล้วเพอ่ื ทบทวนความร้เู ดิมของนักเรยี น 2.ครนู ากจิ กรรมจิตปญั ญามาใช้ในการเรียนการสอนซึง่ เปน็ กิจกรรมที่เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญในการทา กจิ กรรม เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเกิดความสนใจและสมาธิ พรอ้ มที่จะเรียน ซง่ึ เป็นกิจกรรม เกมทายใจ 3. หลังจากทากจิ กรรมเสร็จแล้ว ครแู จ้งจดุ ประสงค์และนาเสนอหัวขอ้ ท่ีจะสอนในวันน้ี ขนั้ สอน 1. ครอู ธบิ ายเก่ยี วกบั ขอบเขตของเน้ือหาของบทเรียนใหน้ กั เรยี นทราบ 2. ครไู ด้เพ่ิมความเข้าใจของนักเรียนโดยครูครไู ดอ้ ธิบายเร่ือง โครงสร้างการเขยี นโค้ด บอรด์ IPST ผ่านสือ่ Power Point บนโปรเจคเตอร์โดยจะมเี นอื้ ดงั นี้ -โครงสรา้ งการเขยี นโค้ด บอร์ด IPST เพือ่ ท่จี ะให้นกั เรียนเรียกใชง้ านบอร์ด IPST เบื้องต้น ได้อย่างถูกต้อง โดยครจู ะมภี าพตวั อย่างเพ่ือใหน้ กั เรยี นเกดิ ความเขา้ ใจมากย่ิงขน้ึ 3. ครูให้นักเรียนสร้างโครงสร้างการเขียนโคด้ บอร์ด IPST เพื่อฝึกฝนให้นกั เรยี นโครงสรา้ งการเขียน โคด้ บอร์ด IPST ได้อย่างถกู ต้อง และลงมอื ปฏิบตั ิ 4. เมอ่ื นกั เรยี นทดลองการสร้างฟังกช์ ันแบบต่าง ๆ เสรจ็ ให้นักเรยี นหาความรูเ้ พ่มิ เติม และตอบ คาถามทา้ ยช่ัวโมง เมื่อนักเรียนตอบจะไดค้ ะแนน เพือ่ เปน็ การเสริมแรงให้กับนักเรยี น ขน้ั สรปุ 1. ครูสังเกตพฤติกรรมการทากจิ กรรมของนักเรยี นและจากการตอบคาถาม 6. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 21. ส่ือในระบบอินทราเน็ตโรงเรียน 22. เว็บไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 23. กจิ กรรมจติ ปัญญา 24. แบบทดสอบในระบบอินทราเนต็

7. การวัดและประเมินผล 7.1 การวดั ผล จดุ ประสงการเรียนรู้ วิธกี ารวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. อธิบายโครงสรา้ งการ - การตอบคาถาม - การตอบคาถาม - ได้คะแนนระดบั เขียนโคด้ บอรด์ IPST คณุ ภาพ 2 ขนึ้ ไป ได้ (K) 2. สามารถเขียน -ตรวจผลงานนักเรยี น -แบบประเมินผลงาน -ไดค้ ะแนนระดับ โครงสร้างการเขยี นโคด้ คุณภาพ 2 ขึ้นไป บอรด์ IPST ได้ (P) 3. นกั เรยี นมี -ประเมนิ คุณลักษณะ -แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั -ได้คะแนนระดับ กระตือรอื รน้ และเอาใจ อันพงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป ใส่ในการทางาน (A) 7.2 เกณฑก์ ารประเมินผล (รูบรกิ ส์) ประเดน็ การประเมิน ดมี าก (4) ระดับคณุ ภาพ ต้องปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้(2) 1. อธิบายโครงสร้าง อธบิ ายโครงสร้าง อธิบายโครงสรา้ ง อธิบายโครงสร้าง ไมส่ ามารถอธิบาย การเขียนโค้ด บอรด์ การเขยี นโค้ด การเขยี นโค้ด การเขยี นโคด้ โครงสร้างการ IPST ได้ (K) บอร์ด IPST ได้ บอรด์ IPST ได้ บอร์ด IPST ได้ เขียนโคด้ บอรด์ ถกู ต้องสมบูรณ์ เกือบทุกประเดน็ บางประเด็น IPST ได้ 2. สามารถเขียน สามารถเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขียน ไม่สามารถเขียน โครงสรา้ งการเขยี น โครงสร้างการเขียน โครงสร้างการเขียน โครงสร้างการเขียน โครงสร้างการ โค้ด บอรด์ IPST ได้ โคด้ บอร์ด IPST โคด้ บอร์ด IPST โค้ด บอร์ด IPST เขยี นโคด้ บอรด์ (P) ได้ อย่างถกู ต้อง ได้ อยา่ งถกู ต้อง ได้ บางส่วน IPST ได้ สมบูรณ์ 3. นักเรียนมี นกั เรียนมี นกั เรยี นมี นกั เรยี นมี นกั เรยี นไม่มี กระตือรอื ร้นและเอาใจ กระตือรือร้นและ กระตือรอื ร้นและ กระตือรือรน้ และ กระตือรอื รน้ และ ใส่ในการทางาน (A) เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใส่ในการ เอาใจใสใ่ นการ ทางาน ทุกคร้งั ทางาน เป็นส่วน ทางาน เปน็ ทางาน ใหญ่ บางครั้ง 7.3 เกณฑก์ ารตัดสนิ

รายบุคคล : นกั เรียนมีผลการเรียนรู้ไมต่ ่ากวา่ ระดบั 2 จงึ ถือวา่ ผ่าน รายกลุม่ : ร้อยละ 60 ของจานวนนักเรียนท้งั หมดมีผลการเรียนรู้ไมต่ ่ากว่าระดับ 2 8. ข้อเสนอแนะ [ ] ใช้สอนได้ [ ] ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝ่ายวชิ าการ ............/.................................../............ ลงชอื่ ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผู้อานวยการสถานศึกษา ............/.................................../............

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 รายวชิ าเพิม่ เติม ห่นุ ยนต์ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เวลา 6 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 โครงสรา้ งการเขียนโค้ด เวลา 1 ช่วั โมง เรอื่ ง การประกาศตวั แปร ใหส้ มั พนั ธ์กบั พอรต์ อะนาลอ็ ก ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ผูส้ อน นายวุฒิพงษ์ ศรีเมือง วนั ที่สอน…………………………………….. 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ จริงอย่างเป็นขน้ั ตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทัน และมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวดั ว 4.2 ม.3/3 ประเมินความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู วเิ คราะหส์ ่ือ และผลกระทบจากการให้ ข่าวสารทีผ่ ดิ เพ่ือการ ใชง้ านอย่างรูเ้ ท่าทัน 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ a. อธบิ ายการประกาศตวั แปร ใหส้ มั พนั ธก์ บั พอรต์ อะนาล็อก ได้ (K) b. สามารถเขียนการประกาศตวั แปร ใหส้ มั พันธก์ ับพอร์ตอะนาล็อก ได้(P) c. นกั เรยี นมกี ระตือรอื ร้นและเอาใจใสใ่ นการทางาน (A) 3. สาระสาคญั ตัวแปร เปน็ ส่ิงสาคญั ในการเขียนโปรแกรมทกุ ภาษา มันใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มูลไวใ้ น หน่วยความจา เพ่ือทีจ่ ะนามาใชไ้ ด้ในภายหลังในโปรแกรม นอกจากนเ้ี รายงั ใชต้ ัวแปรในการจดั การกบั ขอ้ มูลประเภทต่าง ๆ 4. สาระการเรียนรู้ - การประกาศตวั แปร ใหส้ มั พันธก์ ับพอร์ตอะนาล็อก -แปลงภาษาไทยเปน็ ภาษาหุน่ ยนต์ -เขยี นโปรแกรมลงโปรแกรมอารด์ ูโน่ -ภารกจิ ที่ 1 จบั ฉลาก -ภารกจิ ท่ี 2 - 5 จบั ฉลาก

5. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา 1. ครูสร้างบรรยากาศในห้องเรียน โดยกล่าวคาทักทาย ซักถามนกั เรยี นเกย่ี วกบั ความร้เู ดมิ จากช่ัวโมง ที่แล้วเพอ่ื ทบทวนความรู้เดิมของนักเรยี น 2.ครูนากิจกรรมจิตปญั ญามาใชใ้ นการเรียนการสอนซึ่งเปน็ กิจกรรมท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญในการทา กจิ กรรม เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนเกิดความสนใจและสมาธิ พรอ้ มทจี่ ะเรยี น ซ่ึงเป็นกิจกรรม เกมทายใจ 3. หลงั จากทากิจกรรมเสร็จแลว้ ครแู จง้ จดุ ประสงค์และนาเสนอหวั ขอ้ ทจ่ี ะสอนในวนั นี้ ขน้ั สอน 1. ครูอธิบายเก่ยี วกับขอบเขตของเน้ือหาของบทเรียนให้นกั เรียนทราบ 2. ครไู ด้เพิ่มความเขา้ ใจของนักเรียนโดยครูครูไดอ้ ธบิ ายเร่ือง การประกาศตวั แปร ให้สัมพนั ธก์ ับ พอรต์ อะนาลอ็ ก ผา่ นสอ่ื Power Point บนโปรเจคเตอรโ์ ดยจะมเี นื้อดังนี้ -การประกาศตวั แปร ให้สมั พันธก์ บั พอร์ตอะนาล็อก เพื่อท่ีจะใหน้ กั เรยี นเรยี กใชง้ านบอร์ด IPST เบ้ืองต้น ได้อย่างถูกต้อง โดยครจู ะมภี าพตัวอย่างเพ่ือใหน้ กั เรยี นเกิดความเข้าใจมากย่ิงข้นึ 3. ครูใหน้ กั เรยี นประกาศตวั แปร ใหส้ ัมพนั ธก์ บั พอร์ตอะนาล็อก เพื่อฝึกฝนให้นักเรียน ได้อยา่ งถูกต้อง และลงมือปฏิบัติ 4. เม่ือนกั เรียนทดลองการสร้างฟังก์ชันแบบต่าง ๆ เสรจ็ ใหน้ กั เรียนหาความรเู้ พม่ิ เติม และตอบ คาถามทา้ ยชั่วโมง เมื่อนักเรียนตอบจะไดค้ ะแนน เพ่อื เปน็ การเสริมแรงใหก้ ับนักเรยี น ข้นั สรปุ 1. ครูสงั เกตพฤติกรรมการทากจิ กรรมของนักเรยี นและจากการตอบคาถาม 6. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 25. สอ่ื ในระบบอินทราเน็ตโรงเรียน 26. เว็บไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 27. กจิ กรรมจิตปญั ญา 28. แบบทดสอบในระบบอนิ ทราเน็ต 7.การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวัด เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน 7.1 การวัดผล จุดประสงการเรียนรู้

1. อธิบายการประกาศ - การตอบคาถาม - การตอบคาถาม - ได้คะแนนระดับ ตวั แปร ใหส้ ัมพันธ์กับ -ตรวจผลงานนักเรยี น -แบบประเมินผลงาน คณุ ภาพ 2 ขึ้นไป พอร์ตอะนาล็อกได้ (K) 2. สามารถเขียนการ -ประเมินคุณลกั ษณะ -แบบประเมินคุณลักษณะอนั -ไดค้ ะแนนระดับ ประกาศตัวแปร ให้ อันพึงประสงค์ พงึ ประสงค์ คุณภาพ 2 ขึ้นไป สมั พนั ธก์ ับพอรต์ อะนา ล็อกได้ (P) -ได้คะแนนระดับ 3. นกั เรยี นมีความ คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป กระตือรือรน้ และเอาใจ ใสใ่ นการทางาน (A) 7.2 เกณฑ์การประเมินผล (รูบริกส)์ ประเดน็ การประเมิน ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ต้องปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้(2) 1. อธบิ ายการประกาศ อธิบายการประกาศ อธบิ ายการประกาศ อธบิ ายการประกาศ ไมส่ ามารถอธบิ าย ตัวแปร ให้สมั พันธ์กบั ตัวแปร ใหส้ ัมพนั ธ์ ตัวแปร ให้สัมพนั ธ์ ตวั แปร ใหส้ มั พนั ธ์ การประกาศตัวแปร พอร์ตอะนาล็อกได้ (K) กบั พอรต์ อะนาล็อก กบั พอรต์ อะนาล็อก กบั พอรต์ อะนาล็อก ให้สัมพนั ธก์ บั ได้ ถกู ต้องสมบรู ณ์ ไดเ้ กือบทุกประเด็น ได้ บางประเด็น พอรต์ อะนาลอ็ กได้ 2. สามารถเขยี นการ สามารถเขยี นการ สามารถเขียนการ สามารถเขียนการ ไม่สามารถเขียน ประกาศตวั แปร ให้ ประกาศตวั แปร ให้ ประกาศตวั แปร ให้ ประกาศตัวแปร ให้ การประกาศตัวแปร สมั พนั ธ์กบั พอรต์ อะ สัมพันธ์กบั สัมพนั ธ์กบั สัมพันธก์ ับ ให้สัมพนั ธก์ ับ นาลอ็ กได้ (P) พอร์ตอะนาลอ็ กได้ พอรต์ อะนาล็อกได้ พอร์ตอะนาล็อกได้ พอร์ตอะนาล็อกได้ อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง บางสว่ น สมบรู ณ์ 3. นักเรยี นมี นักเรยี นมี นักเรยี นมี นกั เรียนมี นกั เรียนไม่มี กระตือรือร้นและเอาใจ กระตือรือรน้ และ กระตือรือรน้ และ กระตือรือร้นและ กระตือรอื รน้ และ ใสใ่ นการทางาน (A) เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใส่ในการ เอาใจใสใ่ นการ ทางาน ทกุ คร้งั ทางาน เปน็ ส่วน ทางาน เป็น ทางาน ใหญ่ บางครัง้ 7.3 เกณฑ์การตดั สิน รายบคุ คล : นกั เรยี นมผี ลการเรยี นร้ไู มต่ ่ากว่าระดบั 2 จึงถือว่าผ่าน รายกลมุ่ : รอ้ ยละ 60 ของจานวนนักเรียนทั้งหมดมีผลการเรียนร้ไู มต่ า่ กวา่ ระดับ 2

8. ข้อเสนอแนะ [ ] ใชส้ อนได้ [ ] ควรปรบั ปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝา่ ยวชิ าการ ............/.................................../............ ลงชอ่ื ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผ้อู านวยการสถานศึกษา ............/.................................../............

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 8 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ รายวิชาเพิ่มเตมิ หนุ่ ยนต์ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 โครงสร้างการเขียนโคด้ เวลา 6 ชว่ั โมง เรื่อง การประกาศตัวแปรค่า reff เวลา 1 ช่วั โมง ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผสู้ อน นายวฒุ พิ งษ์ ศรีเมอื ง วันท่สี อน................................................. 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเปน็ ข้ันตอนและ เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน และมีจริยธรรม ตัวชีว้ ัด ว 4.2 ม.3/3 ประเมินความน่าเช่อื ถอื ของข้อมลู วิเคราะหส์ ่ือ และผลกระทบจากการให้ ขา่ วสารทผ่ี ิด เพอื่ การใช้งานอยา่ งรู้เท่าทนั 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ a. อธิบายการประกาศตวั แปรคา่ reff ได้(K) b. สามารถประกาศตวั แปรคา่ reff ได(้ P) c. นกั เรยี นมีกระตือรือร้นและเอาใจใสใ่ นการทางาน (A) 3. สาระสาคัญ ตวั แปร เป็นสง่ิ สาคัญในการเขียนโปรแกรมทกุ ภาษา มนั ใช้ในการเก็บขอ้ มลู ไวใ้ น หนว่ ยความจา เพ่ือทีจ่ ะนามาใชไ้ ด้ในภายหลงั ในโปรแกรม นอกจากนเี้ รายงั ใช้ตวั แปรในการจัดการกับ ขอ้ มูลประเภทต่าง ๆ 4. สาระการเรียนรู้ - การการประกาศตวั แปรคา่ แสงคงที่ 700 -โคด้ ฝ่าด่านภารกิจ กดี ขวาง -ห่นุ ยนต์จับยกของ

5. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา 1. ครูสรา้ งบรรยากาศในห้องเรียน โดยกล่าวคาทกั ทาย ซักถามนักเรียนเกยี่ วกบั ความรู้เดิมจากชวั่ โมง ที่แล้วเพ่ือทบทวนความรู้เดิมของนักเรยี น 2.ครูนากิจกรรมจิตปัญญามาใช้ในการเรียนการสอนซงึ่ เปน็ กิจกรรมท่ีเน้นผูเ้ รียนเปน็ สาคัญในการทา กจิ กรรม เพอื่ ให้ผู้เรยี นเกิดความสนใจและสมาธิ พรอ้ มทีจ่ ะเรียน ซ่งึ เป็นกจิ กรรม เกมทายใจ 3. หลังจากทากิจกรรมเสร็จแล้ว ครูแจ้งจุดประสงค์และนาเสนอหวั ข้อที่จะสอนในวนั นี ข้ันสอน 1. ครอู ธบิ ายเกีย่ วกับขอบเขตของเน้ือหาของบทเรยี นใหน้ กั เรยี นทราบ 2. ครไู ด้เพิ่มความเขา้ ใจของนักเรียนโดยครคู รไู ด้อธบิ ายเรื่อง การประกาศตัวแปรคา่ reff ผ่านสอ่ื Power Point บนโปรเจคเตอรโ์ ดยจะมีเนอื้ ดังนี้ -การประกาศตวั แปรค่า reff เพ่ือท่ีจะใหน้ ักเรียนเรียกใช้งานบอร์ด IPST เบอ้ื งต้น ได้อยา่ ง ถกู ต้อง โดยครจู ะมีภาพตัวอย่างเพื่อใหน้ ักเรยี นเกดิ ความเข้าใจมากยิ่งข้ึน 3. ครใู หน้ ักเรยี นการประกาศตัวแปรค่า reff เพ่อื ฝึกฝนให้นกั เรยี น ได้อย่างถูกต้อง และลงมอื ปฏิบัติ 4. เมือ่ นกั เรยี นทดลองการสร้างฟงั ก์ชนั แบบตา่ ง ๆ เสรจ็ ใหน้ กั เรยี นหาความรู้เพม่ิ เติม และตอบ คาถามทา้ ยช่วั โมง เม่ือนักเรียนตอบจะได้คะแนน เพอ่ื เปน็ การเสริมแรงใหก้ บั นักเรียน ขัน้ สรปุ 1. ครสู งั เกตพฤติกรรมการทากิจกรรมของนักเรียนและจากการตอบคาถาม 6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 29. ส่ือในระบบอนิ ทราเน็ตโรงเรียน 30. เว็บไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 31. กิจกรรมจติ ปัญญา 32. แบบทดสอบในระบบอินทราเน็ต

7.การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน 7.1 การวดั ผล - การตอบคาถาม - การตอบคาถาม - ได้คะแนนระดบั จุดประสงการเรยี นรู้ คุณภาพ 2 ขนึ้ ไป 1. อธบิ ายการประกาศ ตัวแปรคา่ reff ได้ (K) 2. สามารถประกาศตวั -ตรวจผลงานนักเรียน -แบบประเมนิ ผลงาน -ไดค้ ะแนนระดับ แปรคา่ reff ได้ (P) คณุ ภาพ 2 ขนึ้ ไป 3. นักเรียนมี -ประเมนิ คุณลกั ษณะ -แบบประเมินคุณลักษณะอนั -ได้คะแนนระดับ กระตือรอื ร้นและเอาใจ อันพงึ ประสงค์ พึงประสงค์ คณุ ภาพ 2 ข้ึนไป ใส่ในการทางาน (A) 7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล (รูบริกส์) ประเด็นการประเมิน ดมี าก (4) ระดับคณุ ภาพ ต้องปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้(2) 1. อธบิ ายการประกาศ อธบิ ายการประกาศ อธิบายการประกาศ อธิบายการประกาศ ไมส่ ามารถอธิบาย ตวั แปรค่า reff ได้ (K) ตวั แปรคา่ reff ได้ ตวั แปรคา่ reff ได้ ตัวแปรค่า reff ได้ การประกาศตวั แปร ถกู ต้องสมบรู ณ์ เกือบทุกประเดน็ บางประเด็น ค่า reff ได้ 2. สามารถประกาศตัว สามารถประกาศตวั สามารถประกาศตัว สามารถประกาศตัว ไม่สามารถประกาศ แปรค่า reff ได้ (P) แปรค่า reff ได้ แปรคา่ reff ได้ แปรค่า reff ได้ ตวั แปรคา่ reff ได้ อยา่ งถูกต้อง อย่างถูกต้อง บางส่วน สมบรู ณ์ 3. นักเรยี นมี นกั เรียนมี นกั เรียนมี นกั เรียนมี นักเรียนไม่มี กระตือรอื รน้ และเอาใจ กระตือรอื ร้นและ กระตือรือร้นและ กระตือรอื รน้ และ กระตือรือร้นและ ใส่ในการทางาน (A) เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใส่ในการ เอาใจใสใ่ นการ ทางาน ทกุ ครัง้ ทางาน เปน็ ส่วน ทางาน เป็น ทางาน ใหญ่ บางครั้ง 7.3 เกณฑก์ ารตดั สนิ รายบุคคล : นกั เรยี นมีผลการเรียนรู้ไมต่ ่ากว่าระดับ 2 จงึ ถือวา่ ผ่าน รายกลุม่ : รอ้ ยละ 60 ของจานวนนักเรียนท้ังหมดมผี ลการเรียนรู้ไมต่ ่ากว่าระดบั 2 8. ขอ้ เสนอแนะ

[ ] ใช้สอนได้ [ ] ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝ่ายวชิ าการ ............/.................................../............ ลงชอื่ ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผู้อานวยการสถานศกึ ษา ............/.................................../............

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวิชาเพ่ิมเตมิ หุน่ ยนต์ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 โครงสรา้ งการเขยี นโค้ด เวลา 6 ชั่วโมง เรอ่ื ง การ Fix คา่ reff เวลา 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ผู้สอน นายวฒุ ิพงษ์ ศรีเมือง วนั ท่ีสอน……………………………………………. 6. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ข้ันตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตวั ช้วี ดั ว 4.2 ม.3/3 ประเมินความน่าเช่อื ถือของข้อมลู วิเคราะหส์ ่ือ และผลกระทบจากการให้ ข่าวสารทผี่ ิด เพอื่ การใช้งานอย่างรู้เทา่ ทัน 7. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายการ Fix ค่า reff ได(้ K) 2. สามารถ Fix คา่ reff ได้(P) 3. นักเรียนมกี ระตือรอื รน้ และเอาใจใส่ในการทางาน (A) 8. สาระสาคญั ตวั แปร เป็นส่งิ สาคญั ในการเขียนโปรแกรมทกุ ภาษา มันใชใ้ นการเก็บข้อมูลไวใ้ น หน่วยความจา เพื่อทีจ่ ะนามาใช้ไดใ้ นภายหลงั ในโปรแกรม นอกจากนีเ้ รายงั ใช้ตัวแปรในการจัดการกบั ขอ้ มลู ประเภทต่างๆ 4. สาระการเรยี นรู้ -การ Fix ค่า reff -การเขยี นโปรแกรมควบคมุ เซอรโ์ ว -การเขยี นโปรแกรมแบบไม่ประกาศตัวแปร -ภารกิจ จับ ยก วาง ผา่ นส่งิ กดี ขวาง

5. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครสู รา้ งบรรยากาศในห้องเรยี น โดยกล่าวคาทกั ทาย ซักถามนักเรยี นเกยี่ วกบั ความรูเ้ ดิมจากช่ัวโมง ทีแ่ ลว้ เพอ่ื ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน 2.ครนู ากจิ กรรมจิตปัญญามาใช้ในการเรียนการสอนซึ่งเป็นกิจกรรมทเี่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคัญในการทา กิจกรรม เพื่อให้ผเู้ รยี นเกดิ ความสนใจและสมาธิ พรอ้ มทจ่ี ะเรยี น ซ่งึ เปน็ กิจกรรม เกมทายใจ 3. หลังจากทากจิ กรรมเสร็จแลว้ ครูแจ้งจดุ ประสงค์และนาเสนอหัวข้อทจ่ี ะสอนในวนั น้ี ขน้ั สอน 1. ครอู ธิบายเกีย่ วกบั ขอบเขตของเนื้อหาของบทเรยี นใหน้ กั เรยี นทราบ 2. ครไู ด้เพ่ิมความเข้าใจของนักเรยี นโดยครคู รูได้อธบิ ายเร่ือง การ Fix ค่า reff ผา่ นสือ่ Power Point บนโปรเจคเตอร์โดยจะมีเนอ้ื ดังนี้ -การ Fix คา่ reff เพ่อื ทจ่ี ะใหน้ ักเรยี นเรยี กใชง้ านบอรด์ IPST เบ้อื งต้น ได้อย่างถกู ต้อง โดย ครูจะมีภาพตวั อย่างเพื่อใหน้ กั เรยี นเกดิ ความเข้าใจมากยิ่งข้ึน 3. ครูใหน้ ักเรียน Fix ค่า reff เพ่ือฝึกฝนให้นกั เรยี น ไดอ้ ย่างถกู ต้อง และลงมือปฏบิ ัติ 4. เม่ือนกั เรียนทดลองการสร้างฟงั กช์ ัน่ แบบต่างๆเสรจ็ ให้นักเรียนหาความรู้เพิ่มเติม และตอบคาถาม ท้ายชว่ั โมง เมอ่ื นักเรยี นตอบจะได้คะแนน เพื่อเปน็ การเสริมแรงให้กับนักเรยี น ขนั้ สรุป 1. ครูสงั เกตพฤติกรรมการทากิจกรรมของนักเรยี นและจากการตอบคาถาม 6. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 33. สื่อในระบบอนิ ทราเน็ตโรงเรยี น 34. เวบ็ ไซต์ https://site.google.com/view/kruwutl-robot 35. กิจกรรมจิตปัญญา 36. แบบทดสอบในระบบอนิ ทราเน็ต

7. การวดั และประเมินผล 7.1 การวัดผล จุดประสงการเรียนรู้ วธิ ีการวดั เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน - การตอบคาถาม 1. อธิบายการ Fix คา่ - การตอบคาถาม - ได้คะแนนระดับ reff (K) คณุ ภาพ 2 ขน้ึ ไป 2. สามารถ Fix คา่ reff -ตรวจผลงานนกั เรยี น -แบบประเมนิ ผลงาน -ได้คะแนนระดับ (P) คณุ ภาพ 2 ขนึ้ ไป 3. นักเรยี นมี -ประเมนิ คุณลักษณะ -แบบประเมินคุณลักษณะอนั -ไดค้ ะแนนระดับ กระตือรือรน้ และเอาใจ อันพงึ ประสงค์ ใสใ่ นการทางาน (A) พงึ ประสงค์ คุณภาพ 2 ขนึ้ ไป 7.2 เกณฑ์การประเมินผล (รูบรกิ ส)์ ประเด็นการประเมนิ ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ต้องปรับปรงุ (1) ดี (3) พอใช้(2) 1. อธบิ ายการ Fix คา่ อธบิ ายการ Fix คา่ อธิบายการ Fix คา่ อธิบายการ Fix คา่ ไมส่ ามารถอธิบาย reff ได้ (K) reff ได้ ถูกต้อง reff ได้ เกือบทกุ reff ได้ บาง การ Fix คา่ reff ได้ สมบรู ณ์ ประเด็น ประเด็น 2. สามารถ Fix ค่า สามารถ Fix ค่า สามารถ Fix คา่ สามารถ Fix ค่า ไม่สามารถ Fix ค่า reff ได้ (P) reff ได้ อย่าง reff ได้ อยา่ ง reff ได้ บางส่วน reff ได้ ถูกต้องสมบูรณ์ ถกู ต้อง 3. นักเรียนมี นกั เรียนมี นกั เรียนมี นักเรียนมี นักเรยี นไม่มี กระตือรอื รน้ และเอาใจ กระตือรอื ร้นและ กระตือรอื ร้นและ กระตือรอื รน้ และ กระตือรอื รน้ และ ใสใ่ นการทางาน (A) เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใสใ่ นการ เอาใจใส่ในการ เอาใจใสใ่ นการ ทางาน ทุกคร้ัง ทางาน เปน็ ส่วน ทางาน เป็น ทางาน ใหญ่ บางคร้งั 7.3 เกณฑ์การตดั สนิ รายบุคคล : นกั เรียนมีผลการเรยี นรูไ้ มต่ า่ กวา่ ระดบั 2 จงึ ถือว่าผ่าน รายกลุ่ม : ร้อยละ 60 ของจานวนนกั เรยี นท้งั หมดมีผลการเรยี นรู้ไมต่ า่ กวา่ ระดบั 2

8. ข้อเสนอแนะ [ ] ใชส้ อนได้ [ ] ควรปรบั ปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ฝา่ ยวชิ าการ ............/.................................../............ ลงชอ่ื ............................................................. (นายเสกสรรค์ สนผา) ผอู้ านวยการสถานศึกษา ............/.................................../............