บทท่ี 11: การนาหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ไปใช้ ในการปฏิบตั กิ ารพยาบาล (Evidence - Based Practice: EBP) กุลธดิ า พานิชกลุ RN, Ph.D.ท่ีมา: เรียบเรียงจากเอกสารประกอบการบรรยายของ สมคดิ สหี สิทธิ์, 2557
ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีสงั เกตได้ หรอื พสิ ูจน์หรือยนื ยนั ได้ ความรทู้ ี่ผา่ นการทดลองใช้ หรือพิสจู น์ในทางปฏบิ ัติ แล้ว สมมติฐานทางทฤษฎีทไ่ี ด้รบั การพิสูจน์ยืนยันวา่ เป็น ความจรงิ โดยมีข้อมูลหรือหลกั ฐานประกอบการ ยืนยัน
➢ การปฏบิ ตั ิโดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ (Evidence based practice: EBP) เป็ นกระบวนการสืบคน้ หาหลกั ฐานความรูจ้ ากงานวจิ ยั หรือจาก Best practiceนามาประกอบการพจิ ารณา ตดั สินใจ และกาหนดเป็ นแนวปฏิบตั ิ หรือจดั ทาเป็ นมาตรฐานที่นาไปสกู่ ารปฏิบตั ิ (Sackett et al,1996)➢ การปฏิบตั ิตามหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ หมายถงึ การตดั สินใจทางคลีนิคเกี่ยวกับการ ใช้หัตถการ/ การรักษาท่ีจะใหก้ ับผปู้ ว่ ย/ ผรู้ บั บริการ บนหลักฐานท่ดี ีทส่ี ดุ ในขณะนน้ั ร่วมกับประสบการณ์ ความเชยี่ วชาญทางคลีนคิ และความพอใจของผู้รบั บริการ ใน รปู ของแนวปฏบิ ัตทิ างการพยาบาล (CPG) คู่มอื การพยาบาล (Protocol) (อุบล จ๋วงพานิช, 2554)
1. งานวิจัย ท้ังท่เี ปน็ งานวิจยั เด่ียว (primary research)งานวิจยั ทไี่ ด้จากการสงั เคราะหอ์ ย่างเปน็ ระบบ (systematicreview) แนวปฏบิ ัติทางการพยาบาล (CPG) และ คูม่ อื การพยาบาล (Protocol)2. ไมใ่ ชง่ านวิจัย ได้แก่ ความคดิ เห็นจาก expert ทีม่ ปี ระสบการณท์ างคลินิก ความรู้จากผปู้ ว่ ย ผรู้ บั บรกิ าร ผดู้ แู ลท่มี ีประสบการณโ์ ดยตรง หรอื ความร้ทู ไ่ี ด้จากบรบิ ทในท้องถิ่น
ทาไมต้องใช้หลกั ฐานเชิงประจักษใ์ นการทางาน
1. หลกั ฐานความรู้ท่ีมี ไดม้ าจากผลการศกึ ษาวิจัยอย่าง เปน็ ระบบ มีความนา่ เช่อื ถือ 2. ผปู้ ฏิบตั ิมที กั ษะและความชานาญทางคลีนิก 3. เปน็ ความต้องการของผูใ้ ชบ้ ริการและครอบครวั (Sackett et al, 1996)
ทบทวนสถานการณ์การปฏบิ ตั ิการพยาบาลท่ที าอยใู่ นปัจจุบนั ว่ามีประสทิ ธภิ าพและเป็นผลดีตอ่ ผปู้ ว่ ยจริงหรอื ไม่ ซง่ึ พยาบาล อาจไม่แนใ่ จในสง่ิ ทปี่ ฏบิ ตั ิ เช่น การพลกิ ตวั ทุก 2 ช.ม. จะชว่ ย ปอ้ งกันการเกิดแผลกดทับจรงิ หรือไม่ หรอื มีวธิ ีการใดจะชว่ ย ปอ้ งกันการเกิดแผลกดทับนอกเหนือจากวิธีที่ปฏบิ ตั อิ ยู่ ปญั หาในการทางานที่ยังไม่แนใ่ จว่าควรปฏิบตั ิการพยาบาล อย่างไร จะนาไปสู่การตัง้ คาถามทนี่ าไปสกู่ ารสบื ค้น EBP ต่อไป
1. กำหนดปัญหำทำงคลีนิก ดงั นี้
2. สืบค้นหลักฐำนเชิงประจักษ์จำกงำนวจิ ยั โดยใช้คำถำมท่ีครอบคลุม องค์ประกอบ 4 ประกำร
3. วเิ ครำะห์และสังเครำะห์หลักฐำนท่สี ืบค้นดด้
อ่ำนงำนวจิ ัย วิเครำะห์ สังเครำะห์ ประเมนิ คณุ ภำพกำรวเิ ครำะห์วจิ ำรณ์และประเมนิ ผลงำนวจิ ัยก่อนนำดปใช้ จะกล่ำวรำยละเอียดในลำดบั ต่อดป
4. กำรตัดสนิ ใจนำดปทดลองใช้
5. กำรประเมนิ ผล
• เมอ่ื ได้งานวจิ ัยท่มี คี ณุ ภาพนา่ เชือ่ ถือยนื ยันว่า การป้องกันการเกิดแผลกดทับ ควรทา อยา่ งไร พยาบาลตอ้ งมกี ารประชมุ และตดั สินใจ
ข้อสังเกตในผู้ป่ วยบำงรำย กำรใช้ EBP อำจดม่ใช่ทำงเลือกท่ี ต้องกำร
รำยละเอียดขัน้ ตอนกำรเลือกงำนวจิ ัยท่ีจะพจิ ำรณำนำมำใช้ในกำรปฏิบัตกิ ำรพยำบำลหรือดม่ จะดด้กล่ำวต่อดป
Guideline สาหรบั การวเิ คราะห์งานวจิ ยั
ชื่อผ้วู ิจยั /ปีทตี่ พี ิมพ์ รายละเอยี ดช่อื เรอ่ื ง/ แหลง่ ผลของโปรแกรมอดบหุ รใ่ี นผ้ปู ่วยทม่ี ารบั บริการคลนิ กิ ทันตกรรมโรงพยาบาลทต่ี พี มิ พ์ ทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น (จิดาภา อุดมเมฆ และคณะ, 2012)วัตถปุ ระสงค์ เพ่อื ศกึ ษาผลของโปรแกรมอดบุหรี่ในผปู้ ว่ ยที่มารบั บริการคลนิ กิ ทันตกรรมการวจิ ัย โดยการประยกุ ต์ใช้ทฤษฎกี ารกากับตนเองร่วมกับแรงสนบั สนุนทางสังคมใน การปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมการอดบุหรี่กลมุ่ ตัวอยา่ งท่ี กลุ่มตัวอยา่ งเปน็ ผปู้ ว่ ยสูบบหุ รี่ แบ่งเป็น กลมุ่ ทดลอง คอื โรงพยาบาลทันตกใชใ้ นการวจิ ัย รรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ 36 ราย และกลุ่ม เปรียบเทยี บ คอื โรงพยาบาลขอนแก่น 36 รายSetting ของ คลีนคิ ทนั ตกรรม 2 แหง่ ไดแ้ ก่ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตงานวจิ ยั แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ และโรงพยาบาลขอนแก่น
ช่ือผู้วจิ ัย/ปที ่ีตีพมิ พ์ รายละเอยี ดระเบยี บวิธีวิจัย เปน็ การศึกษาแบบกง่ึ ทดลอง กล่มุ ตวั อย่างแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คอื กลมุ่ ทดลองไดร้ บั โปรแกรมที่ผวู้ ิจัยจัดขึน้ และกลุ่มเปรียบเทยี บไมไ่ ดร้ บั โปรแกรมจากผวู้ จิ ยั เกบ็ ขอ้ มูล 2 ครัง้ กอ่ นและหลัง ใช้ระยะเวลาในการศกึ ษา 10 สปั ดาห์/ งานวิจยั ระดับ Bเครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ น เคร่ืองมอื มี 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1) เคร่ืองมือในการดาเนนิ กจิ กรรม และ 2) เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้การวิจัย เก็บรวบรวมขอ้ มลู ดังนี้ 1. เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการจัดกิจกรรม ได้แก่ a) แผน่ พบั วดี ีทศั น์ เก่ียวกับบุหร่ี ประกอบดว้ ยความรูแ้ ละความเขา้ ใจเกย่ี วกับสาร ประกอบในบุหรี่ ปจั จยั เสยี่ ง ตอ่ การสบู บหุ รี่ อนั ตรายและโรคทเี่ กดิ จากการสบู บุหร่ี ผลเสยี ตอ่ บุคคลรอบข้างและแนวทาง ในการปฏิบัติตัวในการเลกิ สบู บหุ ร่ี b) สไลด์เรอื่ งสถานการณ์ ความรนุ แรงและผลกระทบ จากการสบู บหุ ร่ี c) สือ่ เอกสาร ไดแ้ ก่ ค่มู อื การปฏบิ ัติตวั การเลกิ สูบบหุ ร่ี บทความเก่ยี วกับ บุหร่ี d) วธิ กี าร ไดแ้ ก่ การนาเสนอตัวแบบ การอภิปรายกลมุ่ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ ให้ คาปรึกษารายกลุ่มและรายบุคคล 2. เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมลู เป็นแบบสอบถาม ไดแ้ ก่ a) ความรเู้ กี่ยวกับบหุ รี่ b) การรบั รู้ในความสามารถตนเองในการอดบหุ ร่แี ละ c) การปฏบิ ัตติ วั ในการอดบหุ ร่ี
ช่อื ผ้วู จิ ยั /ปที ต่ี ีพิมพ์ รายละเอยี ด ผลการวจิ ัย ภายหลังการทดลอง กลุม่ ทดลองมคี า่ เฉล่ียคะแนนความรู้เกยี่ วกบั บหุ ร่ี การรับรู้ ในความสามารถตนเองในการอดบุหรแี่ ละการปฏบิ ตั ิตัวในการอดบุหร่ี มากกว่า ก่อนการทดลองและมากกวา่ กลมุ่ เปรยี บเทยี บอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถิติ (p<0.001) ส่วนด้านความคาดหวงั ต่อผลลัพธใ์ นการอดบุหรี่มีคา่ เฉล่ียคะแนน มากกวา่ ก่อนการทดลองอยา่ งไมม่ ีนัยสาคญั ทางสถิติ (p>0.05) แตม่ คี า่ เฉลย่ี ของคะแนนความคาดหวังตอ่ ผลลัพธใ์ นการอดบหุ รี่มากกว่ากลมุ่ เปรียบเทยี บการประเมนิ ความเปน็ ไปได้ สามารถนาแบบอย่างของโปรแกรมนไ้ี ปปรับใชใ้ นการจดั กิจกรรมส่งเสริมการในการนาไปใช้ เลิกสูบบหุ รข่ี องผู้รบั บริการโดยการประยกุ ตใ์ ช้ทฤษฎกี ารกากบั ตนเองรว่ มกบั แรงสนับสนุนทางสังคม ซึง่ คนในชุมชนมผี ้สู ูบบุหรีแ่ ละอาจเคยพยายามเลกิ สบู บุหรี่มาแลว้ แตย่ ังเลกิ ไม่สาเรจ็ โปรแกรมนี้ชว่ ยจดั กจิ กรรมให้ผู้รบั บริการเลกิ สบู บหุ รี่ตามขัน้ ความพรอ้ มในการเลกิ บุหร่ี และลักษณะครอบครวั ในชมุ ชนเป็น ครอบครวั ขยาย บุคคลในครอบครัวสามารถชว่ ยเป็นแรงสนับสนนุ ทางบวกที่ สง่ ผลใหผ้ ูร้ บั บรกิ ารเลิกสูบบุหร่ไี ด้
ทาไมต้องใชห้ ลักฐานเชิงประจักษใ์ นการปฏิบตั ิการพยาบาล 1) ช่วยในการ ตดั สนิ ใจหาวิธีแก้ปัญหาหรอื พฒั นาผลลัพธก์ ารพยาบาล 2) คน้ หาวธิ ีท่ดี ีทส่ี ดุ สาหรับผป ๓) ลดตน้ ทุนในการดแู ล 3 องค์ประกอบหลักในการนาหลักฐานเชงิ ประจักษ์ไปใช้ 1) มีหลกั ฐานความรู้ท่ี มีความน่าเช่อื ถือ 2) ผู้ปฏิบตั ิมที ักษะและความชานาญทางคลีนกิ 3) ผใู้ ชบ้ รกิ าร และครอบครัวมคี วามต้องการ 5 ข้นั ตอนหลกั ในการนาหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ไปใช้
แบ่งกลุ่มยอ่ ยทากิจกรรมตามใบงานบทท่ี 11 : การนาผลงานวจิ ัยไปใชป้ ระโยชน์ ทางการพยาบาล
ฝา่ ยการพยาบาลของโรงพยาบาลแหง่ หนง่ึ ตอ้ งการสง่ เสรมิ ใหพ้ ยาบาลวชิ าชพี ในหอผปู้ ่วยอายุรกรรมนาผลงานวจิ ยั มาใช้ในการปฏิบัตกิ ารพยาบาล เพ่อื ชว่ ย เพิ่มคณุ ภาพการดแู ลผู้ป่วยโรคเบาหวานใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ทปี่ ระชุมมี มตใิ หท้ ่านเป็นหวั หน้าทีมในการดาเนินงาน เม่อื ทา่ นไดท้ บทวนวรรณกรรมและ อ่านรายงานวิจัย ตอ่ ไปน้ี ผลของโปรแกรมพัฒนาความสามารถในการดูแลตนเองต่อพฤติกรรมการดแู ลตนเอง..... โรงพยาบาลลานสกา ผลของโปรแกรมการดแู ลเทา้ แบบบูรณาการต่อพฤติกรรมดูแลเทา้ สภาวะเทา้ และระดบั HbA1c ของผูป้ ่วยเบาหวานความเส่ียงสูงต่อการเกดิ แผลท่เี ท้า ผลของการให้คาปรกึ ษาแบบเสริมสรา้ งแรงจงู ใจต่อพฤติกรรมบริโภค.....โรงพยาบาลบาง กระทมุ่ จงั หวดั พษิ ณุโลก ท่านจะมีขน้ั ตอน และวิธกี ารนาผลงานวิจัยดังกลา่ ว มาใชใ้ นการดูแล ผูป้ ่วยโรคเบาหวานทห่ี อผู้ป่วยอายรุ กรรม ทท่ี ่านปฏบิ ตั งิ านอยอู่ ย่างไร
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: