คู่มือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม 108 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรยี นรขู้ องนักเรยี นทาได้ ดังน้ี 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในช้ันเรียน 2. ประเมนิ การเรยี นรูจ้ ากคาตอบของนกั เรียนระหว่างการจดั การเรียนรแู้ ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนักเรยี น การประเมนิ จากการทากจิ กรรมท่ี 1.1 แยกของแขง็ ในสารเนื้อผสม ออกจากกันได้อย่างไร รหัส สิ่งทป่ี ระเมนิ คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู S13 การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 C2 การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ C4 การสอ่ื สาร C5 ความร่วมมือ รวมคะแนน สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
109 ค่มู ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเนือ้ ผสม ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทกั ษะ เกณฑก์ ารประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต การสงั เกตลักษณะของ สามารถบอกสารในสาร สามารถบอกสารใน สามารถบอกสารใน สารเนอื้ ผสม เนือ้ ผสมท่ีได้จากการตา สารเนื้อผสมท่ไี ด้จาก สารเนอื้ ผสมที่ได้จาก ข้าวเปลอื กไดค้ รบ 3 การตาข้าวเปลือกได้ การตาขา้ วเปลือกได้ อยา่ ง คือ เมล็ดข้าวสาร ครบ 3 อยา่ ง คือ เมลด็ ไมค่ รบ 3 อยา่ งแมจ้ ะ เปลือกข้าวหรือแกลบ ข้าวสาร เปลอื กข้าว ไดร้ บั การชีแ้ นะจากครู และเมลด็ ข้าวเปลอื กได้ หรอื แกลบ และเมลด็ หรอื ผู้อืน่ ถูกต้องด้วยตนเอง ขา้ วเปลือกได้ถูกต้อง จากการชแ้ี นะของครู หรอื ผ้อู ่นื S8 การลง การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเหน็ ความเห็นจาก ข้อมลู เก่ียวกับลกั ษณะ ขอ้ มูล และสมบัตขิ องสารใน ขอ้ มลู ที่ได้จากการสงั เกต จากข้อมลู ที่ได้จากการ จากขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากการ สารเนือ้ ผสม วา่ เมลด็ ข้าวสาร สังเกตว่าเมล็ดข้าวสาร สงั เกตแตไ่ มค่ รบถ้วน เปลือกข้าวหรอื แกลบ เปลอื กข้าวหรือแกลบ วา่ เมล็ดขา้ วสาร และเมล็ดข้าวเปลือกมี และเมลด็ ข้าวเปลือกมี เปลอื กข้าวหรือแกลบ สถานะเป็นของแขง็ ท่ีมสี ี สถานะเปน็ ของแขง็ ท่มี ี และเมล็ดขา้ วเปลือกมี และขนาดแตกต่างกันได้ สีและขนาดแตกตา่ งกัน สถานะเป็นของแข็งท่ี ถูกต้องดว้ ยตนเอง ได้ถูกต้องจาก มีสแี ละขนาดแตกต่าง การชีแ้ นะของครหู รอื กนั แม้จะไดร้ ับการ ผู้อืน่ ชแ้ี นะจากครหู รอื ผ้อู น่ื S13 การ การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย ตีความหมาย ขอ้ มูลจากการ ขอ้ มูลและลง ขอ้ มูลจากการ ขอ้ มูลจากการอภปิ ราย ข้อมูลจากการ อภิปรายเกีย่ วกบั ขอ้ สรุป วธิ ีการแยกสาร และ อภปิ ราย และลง เกี่ยวกับวิธีการแยกสาร อภิปรายเก่ียวกับ ลงขอ้ สรุปได้ถูกตอ้ ง เป็นบางส่วนวา่ สาร ข้อสรปุ เกี่ยวกับ และลงข้อสรปุ ได้ถกู ต้อง วธิ ีการแยกสาร และ เนอื้ ผสมทเี่ ป็นของแขง็ วธิ ีการแยกสารโดย ว่าสารเน้ือผสมที่เปน็ ลงข้อสรุปได้ถูกตอ้ ง การหยบิ ออก การร่อน ของแข็งท่ีมสี หี รือมีขนาด วา่ สารเนือ้ ผสมท่ีเปน็ หรอื การฝดั แตกตา่ งกันอยา่ งชดั เจน ของแข็งที่มสี ีหรือมี สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเน้อื ผสม 110 ทักษะ เกณฑก์ ารประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ สามารถใช้วิธีการหยบิ ขนาดแตกต่างกัน ทม่ี สี ีหรอื มขี นาด ออก การร่อนสามารถใช้ อย่างชดั เจนสามารถ แตกตา่ งกันอย่าง ตะแกรงแยกสารที่เป็น ใช้วิธกี ารหยบิ ออก ชดั เจนสามารถใช้ ของแข็งท่ีมขี นาด การรอ่ นสามารถใช้ วธิ ีการหยบิ ออก แตกตา่ งกนั และการฝัด ตะแกรงแยกสารท่ีเป็น การรอ่ นสามารถใช้ ใช้แยกของแขง็ ท่ีมี ของแข็งท่ีมขี นาด ตะแกรงแยกสารทเี่ ป็น นา้ หนกั แตกต่างกันและ แตกตา่ งกนั และ ของแข็งที่มีขนาด สามารถระบวุ ิธกี ารแยก การฝัดใชแ้ ยก แตกต่างกนั และการ สารท่ใี ชต้ ามลาดับได้ ของแข็งที่มนี ้าหนกั ฝัดใช้แยกของแขง็ ทม่ี ี ถกู ตอ้ งด้วยตนเอง แตกตา่ งกันและ นา้ หนักแตกตา่ งกัน สามารถระบุวธิ ีการ และสามารถระบุ แยกสารท่ใี ช้ วิธีการแยกสารท่ีใช้ ตามลาดับไดถ้ กู ต้อง ตามลาดบั จากการชแ้ี นะของครู หรอื ผู้อืน่ ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ทักษะแห่ง รายการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) C2 การคิดอยา่ งมี การบอกเหตุผลและ สามารถเลือกวิธกี าร สามารถเลือกวธิ กี ารแยก สามารถเลอื กวิธีการ วิจารณญาณ ตดั สนิ ใจเลือกวิธกี าร แยกเมลด็ ข้าวสารออก เมลด็ ขา้ วสารออกจาก แยกเมลด็ ขา้ วสารออก แยกสารและ จากเมลด็ ขา้ วเปลือก เมลด็ ขา้ วเปลือก แกลบ จากเมลด็ ข้าวเปลือก วิเคราะห์ข้อดีและ แกลบและรา และบอก และรา และบอกเหตผุ ลที่ แกลบและรา และบอก ข้อจากดั ของวธิ กี าร เหตผุ ลท่เี ลือกวธิ ี เลอื กวธิ ีดังกล่าวได้ เหตุผลทเี่ ลือกวิธี แยกสารแตล่ ะวธิ ี ดังกล่าวไดส้ มเหตสุ มผล สมเหตสุ มผลและ ดังกล่าวได้ และวิเคราะห์ขอ้ ดีและ วิเคราะหข์ ้อดีและ สมเหตุสมผลแต่ ขอ้ จากดั ของวธิ กี ารที่ ขอ้ จากดั ของวิธกี ารทใี่ ช้ได้ วิเคราะหข์ อ้ ดแี ละ ใชไ้ ดถ้ ูกตอ้ งดว้ ยตนเอง ถกู ต้องโดยตอ้ งอาศัยการ ข้อจากดั ของวธิ ีการที่ ชี้แนะจากครูหรือผอู้ ่นื ใชไ้ ด้ไมช่ ดั เจนแม้ว่าจะ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
111 คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเนือ้ ผสม ทักษะแห่ง รายการประเมิน ดี (3) เกณฑ์การประเมนิ ควรปรบั ปรงุ (1) ศตวรรษที่ 21 พอใช้ (2) C4 การสอื่ สาร การนาเสนอเหตุผล สามารถพูดหรือเขยี น ได้รับการชแ้ี นะจากครู ในการเลือกวิธีการ แสดงเหตุผลในการ สามารถพดู หรือเขยี น หรือผู้อืน่ C5 ความร่วมมือ แยกสารและบอก เลือกวิธีการแยกสาร แสดงเหตุผลในการเลอื ก ข้อดีและข้อเสียของ และบอกข้อดแี ละ วธิ กี ารแยกสารและบอก สามารถพูดหรือเขียน วิธีการแยกสารที่ใช้ ขอ้ เสยี ของวธิ ีการแยก ขอ้ ดีและข้อเสียของ แ ส ด ง เ ห ตุ ผ ล ใ น ก า ร ให้ผ้อู น่ื เขา้ ใจ สารทใ่ี ชใ้ หผ้ ู้อน่ื เขา้ ใจได้ วิธีการแยกสารทีใ่ ช้ให้ เลือกวิธีการแยกสารได้ ถกู ต้องดว้ ยตนเอง ผู้อื่นเข้าใจไดถ้ ูกต้องจาก ถูกตอ้ งแต่บอกข้อดีและ การทางานรว่ มกบั การช้แี นะของครหู รอื ผู้อื่น ข้อเสียของวิธีการแยก ผู้อน่ื ในการทา สามารถทางานรว่ มกับ สารที่ใช้ได้ไม่ครบถ้วน กิจกรรม รวมทั้ง ผู้อน่ื ในการทากิจกรรม สามารถทางานรว่ มกบั ชัดเจนแม้วา่ จะได้รับคา ยอมรบั ความคิดเห็น รวมทั้งยอมรับความ ผอู้ ่นื ในการทากิจกรรม ชแ้ี นะจากครูหรอื ผู้อ่ืน ของผู้อ่นื คดิ เหน็ ของผู้อื่นตั้งแต่ รวมท้ังยอมรับความ เรมิ่ ต้นจนสาเรจ็ คิดเห็นของผู้อนื่ ในบาง สามารถทางานร่วมกบั ชว่ งเวลาที่ทากจิ กรรม ผู้อ่นื ในการทากิจกรรม รวมท้ังยอมรับความ คิดเห็นของผู้อน่ื บาง ชว่ งเวลาทที่ ากจิ กรรม ท้ังน้ีต้องอาศัยการ กระตุ้นจากครหู รือผอู้ น่ื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเน้อื ผสม 112 กิจกรรมท่ี 1.2 แยกของแขง็ กับของเหลวในสารเนื้อผสมออกจากกันได้อย่างไร กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้อธิบายและเปรียบเทียบ วิธีการแยกของแข็งออกจากของเหลวในสารเนื้อผสมและ ยกตัวอย่างวิธีการแยกของแข็งออกจากของเหลวในสาร เนื้อผสมในชวี ิตประจาวัน เวลา 2 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกต อธิบาย และเปรยี บเทียบวธิ กี ารแยกของแขง็ กบั ของเหลวในสารเนื้อผสมออกจากกนั 2. อภิปรายและยกตวั อย่างวธิ ีการแยกของแข็งออกจาก ของเหลวในสารเนื้อผสมทน่ี าไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ติ ประจาวนั วสั ดุ อุปกรณ์สาหรบั ทากจิ กรรม สง่ิ ท่ีครูต้องเตรยี ม/กลุ่ม 1. น้าปูน 300 cm3 2. ผา้ ขาวบาง 1 ผนื ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 3. กระดาษกรอง 1 แผ่น C2 การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ C4 การสื่อสาร 4. แท่งแก้วคน 1 อัน C5 ความรว่ มมือ 5. กรวยกรอง 1 อัน สอ่ื การเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้ 6. แกว้ พลาสติกใส 6 ใบ 1. หนังสอื เรยี น ป.6 เล่ม 1 หน้า 45-48 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.6 เลม่ 1 หนา้ 44-49 7. ช้อนพลาสติก 1 คนั 3. วีดิทศั นต์ วั อย่างปฏิบตั ิการสาหรับครู เร่ือง แยกของแข็ง 8. ชดุ ขาตั้ง 1 ชดุ ออกจากของเหลวในสารเนื้อผสมไดอ้ ย่างไร 9. ไมห้ นบี 1 อัน ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S5 การหาความสมั พันธ์ระหว่างสเปซกบั เวลา S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู S13 การตีความหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
113 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นรสู้ ่งิ ต่าง ๆ รอบตัว http://ipst.me/9895 ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน แนวการจดั การเรยี นรู้ และยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ ชกั ชวนให้นกั เรียนไปหาคาตอบด้วย 1. ครูทบทวนความรู้พน้ื ฐานเก่ียวกบั วิธีการแยกสารเนื้อผสมทีเ่ ป็นของแข็ง ตนเองจากการทากจิ กรรม กับของแข็งออกจากกันและตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับวิธีการแยก สารเน้ือผสมท่ีเป็นของแข็งกับของเหลวออกจากกันโดยใช้คาถาม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดังตอ่ ไปน้ี และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ท่ี 1.1 สารเน้ือผสมท่ีเป็นของแข็งกับของเหลวมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง นักเรยี นจะได้ฝกึ จากการทากจิ กรรม (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น นา้ ผสมแป้ง นา้ โคลน) S1 สงั เกตลกั ษณะของสารเน้ือผสม 1.2 นักเรียนคิดว่าเราสามารถแยกของแข็งออกจากของเหลวในสาร S5 ความสัมพันธ์ระหว่างตาแหน่ง เน้ือผสมได้โดยวิธีการใดบ้าง แต่ละวิธีใช้อุปกรณ์อะไร (นักเรียน ตอบตามความเข้าใจ เช่น การกรอง) ของของแข็งเมื่อตั้งให้ตกตะกอน กบั เวลา 2. ครูเช่ือมโยงความรู้เดิมของนักเรียนเข้ากิจกรรมท่ี 1.2 ซ่ึงจะได้เรียนรู้ S8 ลงความเห็นเกี่ยวกับลักษณะ เกี่ยวกับวิธกี ารแยกของแขง็ ออกจากของเหลวในสารเนอ้ื ผสม ของสาร C2 วิเคราะห์ข้อดี ข้อจากัดของ 3. นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรม และทาเป็นคิดเป็น จากน้ันร่วมกันอภิปราย วิธกี ารแยกสารวธิ ตี า่ ง ๆ เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทากิจกรรม โดยใช้ C4 อภิปรายผลการแยกสาร คาถาม ดงั นี้ C5 ร่วมมือกนั ทากจิ กรรม 3.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเร่ืองอะไร (วิธีการแยกของแข็งออก จากของเหลวในสารเน้ือผสมและการนาวิธีแยกของแข็งออกจาก ของเหลวในสารเนือ้ ผสมไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน) 3.2 นักเรยี นจะได้เรียนรูเ้ รอื่ งน้ีดว้ ยวธิ ีใด (การสงั เกตและการอภปิ ราย) 3.3 เมอื่ เรยี นแล้วนกั เรยี นจะทาอะไรได้ (อธิบายและเปรียบเทยี บวิธีการ แยกของแข็งออกจากของเหลวในสารเนื้อผสมและยกตัวอย่าง วิธีการแยกของแข็งออกจากของเหลวในสารเนื้อผสมท่ีสามารถ นาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั ) 4. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 44 และอ่าน สง่ิ ทีต่ ้องใช้ในการทากิจกรรมจากนนั้ นาอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในกจิ กรรมมาแสดง ใหน้ กั เรียนดู สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเน้อื ผสม 114 5. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะการอ่านท่ีเหมาะสมกับ ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม ความสามารถของนักเรียน จากน้ันครูตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับ วิธีการทากิจกรรม จนนักเรียนเข้าใจลาดบั การทากิจกรรม โดยใช้คาถาม นา้ ปนู ทเ่ี ตรยี มไวก้ อ่ นการทากิจกรรม ดังนี้ ตอ้ งยังไม่ตกตะกอน ถ้าตกตะกอนแลว้ 5.1 นักเรียนต้องใช้แก้วพลาสติกก่ีใบและใช้ทาอะไร (ใช้แก้วพลาสติก ให้คนก่อนนามาทากจิ กรรม จานวน 3 ใบเพอื่ ใช้บรรจุน้าปนู ) 5.2 ข้ันตอนตอ่ ไป นักเรียนตอ้ งสังเกตอะไร (ลักษณะของนา้ ปนู ) ถ้านักเรียนไม่สามารถตอบ 5.3 เมื่อสังเกตน้าปูน นักเรียนต้องลงความเห็นเก่ียวกับสมบัติอะไรของ คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว น้าปนู (สถานะของน้าปนู ) คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน 5.4 ข้อที่ 2 ของทาอย่างไรให้นักเรียนทาอะไรบ้าง (วางแก้วท่ีบรรจุ คิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง น้าปูนใบท่ี 1 ไว้น่ิง ๆ สังเกตทกุ ๆ 5 นาที จนครบ 15 นาที จากน้ัน อดทน และรับฟังแนวความคิด ระดมความคิดว่าจะแยกน้าปูนอย่างไรแล้วแยกนา้ ปนู ตามวิธีท่ีระดม ของนักเรยี น ความคิดไว้) 5.5 นักเรียนต้องทาอย่างไรต่อ (แยกสารในน้าปูนออกจากกันโดยใช้ ผา้ ขาวบาง และกรวยกรอง) 5.6 การรินน้าปูนลงบนผ้าขาวบางทาอย่างไร (รินน้าปูนช้า ๆ ผ่าน แท่งแกว้ ลงสู่ผ้าขาวบางจนหมด) 5.7 นักเรียนต้องทาอะไรกับน้าปูนในแก้วใบที่ 3 (แยกสารในน้าปูนออก จากกันโดยใชก้ ระดาษกรองและกรวยกรอง) 5.8 การรินน้าปูนลงบนกระดาษกรองทาได้อย่างไร (พับกระดาษกรอง ให้แนบกับกรวยกรอง รินนา้ ปนู ช้า ๆ ไปตามแทง่ แก้วคนชา้ ๆ ลงใน กระดาษกรองจนหมด) ครูสาธิตวิธีจัดอุปกรณ์โดยนาผ้าขาวบางรองบนกรวยกรองและพับ กระดาษกรองใส่ให้แนบในกรวยกรอง รวมถึงวิธีการเทสารจาก ภาชนะผา่ นแท่งแก้วลงสู่ผ้าขาวบางหรือกระดาษกรอง 6. ครูอาจเขียนสรุปวิธีการทากิจกรรมเป็นแผนภาพ เม่ือนักเรียนเข้าใจ วิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไร แล้ว ให้นักเรียนรับอุปกรณ์และเริ่ม ปฏิบัติตามข้ันตอนการทากิจกรรมโดยให้เริ่มสังเกตแก้วใบท่ี 1 ก่อนและ ติดตามเปน็ ระยะ ระหวา่ งนน้ั ใหท้ ากจิ กรรมแยกสารในแกว้ ใบท่ี 2 และ 3 แล้วจึงแยกจากแกว้ ใบที่ 1 ในตอนสุดทา้ ย สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
115 คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม 7. หลังจากทากิจกรรมแล้ว นักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรม ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม ตามแนวคาถามดังนี้ 7.1 น้าปูนเป็นสารเนื้อเดียวหรือสารเนื้อผสม เพราะเหตุใด (เป็นสาร ครศู กึ ษาเพิ่มเตมิ เกีย่ วกบั เทคนคิ การ เนื้อผสมเพราะมองเห็นของแข็งสีขาวบางส่วนแยกตัวและบางส่วน กรองเก่ยี วกบั เรื่องต่อไปนี้ ลอยอยู่ในของเหลว) 7.2 เกิดอะไรข้ึนเมื่อตั้งน้าปูนไว้นาน 15 นาที (น้าปูนในช่วงเร่ิมต้นเป็น 1. วิธีพับกระดาษกรองวาง ของเหลวสีขาวขุ่นคล้ายน้านม เมื่อเวลาผ่านไป ของเหลวส่วนบน ซ้อนลงในกรวยกรอง ค่อย ๆ ใสขึน้ ของแข็งบางส่วนค่อย ๆ ตกตะกอนหรือค่อย ๆ จมลง สกู่ น้ แก้ว) 2. วธิ ีการวางปลายกรวยกรอง 7.3 สารท่ีอยู่ทก่ี น้ แกว้ มลี ักษณะอย่างไร และเกิดข้ึนไดอ้ ย่างไร (สารทอ่ี ยู่ ในบีกเกอร์โดยให้ปลาย ท่ีก้นแก้วมีลักษณะเป็นของแข็งสีขาว ของแข็งเหล่านี้มาจาก กรวยกรองแนบกบั ขอบ ของแข็งส่วนท่ีไม่ละลายในของเหลวซึ่งแขวนลอยอยู่ในของเหลว บกี เกอร์ แล้วค่อย ๆ รวมตัวกัน ตกตะกอนลงสู่ก้นแก้วโดยอาศัยแรงโน้มถ่วง ของโลก) 3. วธิ ีการรนิ ของเหลวผา่ นแทง่ 7.4 วิธีการแยกสารวธิ ีนเี้ รยี กว่าอะไร (การตกตะกอนหรือตอบตามความ แก้วคน เข้าใจของนักเรียน) ถ้านักเรียนตอบคาถามไมไ่ ด้ ครใู หค้ วามรูเ้ พิ่มเติมวา่ วธิ ีการท่ใี ชแ้ ยก จากวดี ทิ ศั น์ตวั อยา่ งปฏิบตั กิ าร วทิ ยาศาสตร์สาหรับครู เรอื่ ง ของแข็งกับของเหลวในสารเน้ือผสมโดยปล่อยให้ของแข็งตกตะกอน แยกของแขง็ ที่ไมล่ ะลายในของเหลว ไดอ้ ย่างไร รวมกันท่ีก้นภาชนะ เรียกว่า การตกตะกอน 7.5 วิธีการแยกสารเนื้อผสมโดยการตกตะกอนเหมาะสมสาหรับใช้แยก สารท่ีมีลักษณะอย่างไร (การตกตะกอนเป็นวิธีการท่ีใช้สาหรับแยก สารเนือ้ ผสมทป่ี ระกอบด้วยของแข็งทแ่ี ขวนลอยอยู่ในของเหลว) 7.6 นักเรียนสามารถแยกของเหลวออกจากของแข็งท่ีอยู่ก้นแก้วได้ อย่างไร (ค่อย ๆ รินของเหลวส่วนบนที่ใสออกจากแก้วให้ได้มาก ทส่ี ดุ ) 7.7 วิธีการแยกสารในข้อ 7.6 เรียกว่าอะไร (การรินออกหรือตอบตาม ความเขา้ ใจของนักเรยี น) ถ้านักเรียนตอบคาถามไม่ได้ ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่า วิธีการแยก ของเหลวออกจากของแข็งในสารเนื้อผสมโดยการรินของเหลวออกจาก ภาชนะ เรียกว่า การรินออก สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม 116 7.8 เมื่อรินน้าปูนจากแก้วใบที่ 2 ลงสู่ผา้ ขาวบาง สารทคี่ ้างอยู่บนผ้าขาว ความรู้เพิม่ เติมสาหรบั ครู บางและผ่านผ้าขาวบางมีลักษณะอย่างไร (สารที่ค้างอยู่บนผ้าขาว บางเปน็ ของแข็งสีขาว สว่ นสารทผี่ า่ นผ้าขาวบางเป็นของเหลวสีขาว 1. การกรองไมส่ ามารถใช้แยกของแข็ง ข่นุ ) ออกจากของเหลวในสารผสมบางชนดิ 7.9 สารที่ผ่านผ้าขาวบางได้ มีขนาดใหญ่หรือเล็กกว่ารูของผ้าขาวบาง 2. การกรองนอกจากใช้แยกของแขง็ ออก (สารท่ผี ่านผา้ ขาวบางมขี นาดเล็กกวา่ รขู องผ้าขาวบาง) จากของเหลว ยังใชแ้ ยกของแข็งออก จากแกส๊ ได้ เชน่ กรองฝุ่นซึ่งเป็น 7.10เม่ือรินน้าปูนจากแก้วใบท่ี 3 ลงสู่กระดาษกรอง สารท่ีค้างอยู่บน ของแข็งท่ปี ะปนอยใู่ นอากาศ ออก กระดาษกรองและผ่านกระดาษกรองมีลักษณะอย่างไร (สารที่ค้าง จากอากาศโดยใช้เครื่องกรองอากาศ อยู่บนกระดาษกรองเป็นของแข็งสีขาว ส่วนสารท่ีผ่านกระดาษ ในเครื่องกรองอากาศจะมีวสั ดุกรองท่ี กรองเปน็ ของเหลวใส) มรี ูขนาดเลก็ มาก เมื่ออากาศทม่ี ีฝ่นุ ปะปนอยผู่ า่ นวสั ดกุ รองน้ี ฝนุ่ จะค้าง 7.11 สารที่ผ่านกระดาษกรอง มีขนาดเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับ รู ของ อย่ทู ว่ี ัสดุกรอง สว่ นอากาศซงึ่ เปน็ แก๊ส กระดาษกรอง (มีขนาดเลก็ กวา่ รูของกระดาษกรอง) จะผ่านวสั ดกุ รองได้ ดังนนั้ อากาศท่ี ผ่านการกรองด้วยเคร่ืองกรองอากาศ 7.12 การแยกของเหลวออกจากของแข็งในแก้วใบท่ี 2 และแก้วใบท่ี 3 จะไม่มฝี ุน่ ปะปนอยูห่ รอื มใี นปริมาณ เรียกวิธีการนี้ว่าอะไร (การกรองหรือตอบตามความเข้าใจของ นอ้ ยมาก นกั เรยี น) ถ้านักเรียนตอบคาถามไม่ได้ ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่า วิธีการแยก ของเหลวออกจากของแข็งในสารเนื้อผสมโดยปล่อยให้สารผสมไหลลงสู่ วัสดุกรองที่มีรู ของเหลวจะไหลผ่านรูของวัสดุกรอง ส่วนของแข็งท่ีมี ขนาดใหญ่กว่ารูจะค้างอยู่บนวสั ดุกรอง เรยี กวา่ การกรอง 7.13 เมอ่ื เปรยี บเทยี บลกั ษณะของเหลวที่ไดจ้ ากการกรองผา่ น ผ้า ขาวบางและกระดาษกรอง การกรองผา่ นวัสดแุ บบใดมีข้อดีมากกว่า เพราะเหตุใด (การกรองผ่านกระดาษกรองดีกว่า เพราะของเหลวที่ ไดใ้ สมากกว่า) 7.14 วิธีแยกสารเน้ือผสมโดยการตกตะกอน การรินออก และการกรอง ใช้แยกสารเน้ือผสมที่มีสมบัติอย่างไร (ใช้แยกของแข็งออกจาก ของเหลวในสารเน้ือผสม) 7.15 ลกั ษณะของเหลวท่ีได้เม่ือแยกด้วยวธิ กี ารตกตะกอน การกรองด้วย ผ้าขาวบางและการกรองด้วยกระดาษกรองเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร (แตกต่างกัน ลักษณะของเหลวท่ีได้จากการกรองด้วย สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
117 คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนื้อผสม กระดาษกรองจะใสท่ีสุด การตกตะกอนจะใสเป็นลาดับท่ี 2 ส่วน ถ้าครูพบว่านกั เรียนยังมแี นวคิด การกรองดว้ ยผ้าขาวบางของเหลวท่ีไดจ้ ะขุน่ ) ค ล า ด เ ค ล่ื อ น เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร แ ย ก 7.16 การแยกสารด้วยวิธีใดมีความสะดวกมากกว่า เพราะเหตุใด (การ ของแข็งออกจากของเหลวในสาร แยกสารด้วยวิธีการตกตะกอนและการรินออกมีความสะดวก เนื้อผสม ให้ครูดาเนินการโดยให้ มากกวา่ การกรองเพราะใชอ้ ปุ กรณ์นอ้ ยกวา่ ) นักเรียนร่วมกันอภิปรายจนกระท่ัง 7.17การแยกสารด้วยวิธีใดใช้เวลาน้อยกว่า (การแยกสารด้วยการกรอง นกั เรยี นมีแนวคดิ ทีถ่ ูกต้อง ใชเ้ วลานอ้ ยกวา่ การตกตะกอน) 7.18การแยกสารแตล่ ะวิธีมีขอ้ ดี ขอ้ จากัดอยา่ งไร (-การรินออกมีขอ้ ดี คอื ใช้อุปกรณน์ ้อย ขอ้ จากดั คือ อาจมขี องแข็ง ปนมากับของเหลวขณะรนิ ของเหลวออกจากภาชนะ) -การตกตะกอนมีข้อดี คือ ได้ของเหลวใส ใช้อุปกรณ์น้อยช้ิน ข้อจากัด คอื ใช้เวลานาน -การกรองด้วยผ้าขาวบาง มีข้อดี คือ ใช้เวลาน้อย ข้อจากัด คือ ใช้ อปุ กรณ์ในการแยกสารหลายช้ิน และได้ของเหลวท่ขี ุ่น -การกรองด้วยกระดาษกรอง มีข้อดี คือ ใช้เวลาน้อย ได้ของเหลวท่ี ใส ขอ้ จากัด คือ ใชอ้ ุปกรณใ์ นการแยกสารหลายช้นิ ) 7.19 การตกตะกอน การรินออก และการกรองนาไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจาวันในเรื่องอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามข้อมูลท่ีได้จาก การอภิปรายในกลุ่มหรือจากประสบการณ์ของตนเอง เช่น การ ตกตะกอนของอนุภาคท่ีแขวนลอยในน้า ในกระบวนการผลิต น้าประปา การรินออกใช้ในกระบวนการล้างข้าวสารก่อนนาไปหุง การกรองใช้ในกระบวนการกรองน้าสาหรับด่ืมโดยให้น้าผ่านวัสดุ กรอง) 8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตอบหรือซักถามในสิ่งที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การแยกของแข็งออกจากของเหลวในสารเน้ือผสม จากนั้นร่วมกัน อภิปรายและลงข้อสรุปว่าการแยกของแข็งกับของเหลวในสารเน้ือผสม ออกจากกันทาได้หลายวิธี ได้แก่ การตกตะกอน การรินออก และ การกรอง การตกตะกอนเป็นวิธีที่ทาให้ของแข็งค่อย ๆ แยกตัวและ ตกตะกอนลงท่ีก้นภาชนะ การรินออกทาได้โดยค่อย ๆ รินของเหลวออก จากของแข็ง การกรองเป็นวิธีที่ทาให้ของเหลวไหลผ่านวัสดุกรองท่ีมีรู ขนาดเล็กซ่ึงของแข็งผ่านไม่ไดจ้ ึงค้างอย่บู นวัสดกุ รอง การตกตะกอน การ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม 118 รินออกและการกรองนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันได้ต่าง ๆ กัน การเตรยี มตัวล่วงหน้าสาหรบั ครู (S13) เพ่อื จัดการเรียนรใู้ นครงั้ ถัดไป 9. นักเรียนร่วมกันอภิปรายและตอบคาถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้ คาถามเพิ่มเติมในการอภปิ รายเพือ่ ใหไ้ ด้แนวคาตอบท่ถี ูกต้อง ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะได้ 10.นกั เรยี นอา่ น ส่ิงทไี่ ด้เรียนรู้ และเปรยี บเทยี บกบั ขอ้ สรุปของตนเอง เรียนกิจกรรมที่ 1.3 แยกสาร 11. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรืออยากรู้ แม่เหล็กออกจากสารเน้ือผสมได้ เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า จากน้ันครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นาเสนอ อย่างไร ครูควรเตรียมแท่งแม่เหล็ก คาถามของตนเองหน้าช้ันเรียน จากน้ันนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกบั และตรวจสอบว่าแม่เหล็กสามารถ คาถามที่นาเสนอ ดึงดดู ผงเหลก็ ได้หรอื ไม่ 12. ครูนาอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในขนั้ ตอนใด สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
119 คู่มือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเน้อื ผสม แนวคาตอบในแบบบนั ทึกกจิ กรรม สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม 120 1. สังเกต อธบิ าย และเปรียบเทียบวธิ ีการแยกของแข็งออกจากของเหลวในสารเน้อื ผสม 2. อภปิ รายและยกตวั อย่างวิธีการแยกของแขง็ ออกจากของเหลวในสารเน้ือผสมเพ่ือ นาไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั ที่นา�ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจา�วนั นา้ ปนู มีลักษณะเป็นของเหลวสขี าวขนุ่ สารท่เี ป็นสว่ นประกอบของน้าปนู มี สถานะของแข็งแขวนลอยในสารทมี่ ีสถานะของเหลว ของเหลวสีขาวข่นุ ของเหลวส่วนบนเริม่ ใส ส่วนล่างลงมายังขนุ่ อยู่ ของแข็งสขี าวทแ่ี ขวนลอยอยูใ่ นของเหลวค่อย ๆ จมลง สขูก่ อน้ งภเหาลชวนสะ่วนบนใสมากข้นึ สว่ นล่างขุน่ มากข้นึ ของแขง็ สีขาว ท่ีแขวนลอยอยู่ จมลงสู่ก้นภาชนะมากข้นึ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
121 คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนื้อผสม ของเหลวด้านบนใสมากขึ้น ของแข็งสีขาวจมทีก่ น้ ภาชนะ มากข้ึน รนิ ของเหลวท่ีอยูส่ ่วนบน ลงในภาชนะอีกใบหน่ึงอย่างช้า ๆ สารท่รี นิ ออกมาจากภาชนะเปน็ ของเหลว ใส สารท่เี หลืออยูท่ กี่ น้ ภาชนะเป็น ของแข็งสีขาวผสมอยกู่ ับของเหลว สารท่ีคา้ งบนผา้ ขาวบางเป็นของแข็งสขี าว ส่วนสารที่ ผ่านรูของผา้ ขาวบางลงสภู่ าชนะทีร่ องรบั เปน็ ของเหลว สีขาวขุ่นและมตี ะกอนสีขาวทกี่ น้ ภาชนะ สารทค่ี ้างบนกระดาษกรองเปน็ ของแข็งสขี าว ส่วนสาร ทผ่ี า่ นรขู องกระดาษกรองลงสู่ภาชนะที่รองรับเปน็ ของเหลวใส สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม 122 -การตกตะกอน การกรองด้วย การกรองด้วย -การรินออก ผา้ ขาวบาง กระดาษกรอง -การตกตะกอน จะมตี ะกอน สขี าวขนุ่ ใส ไม่มสี ี อยู่ทก่ี ้นภาชนะ ของเหลวใส อยู่ส่วนบนของภาชนะ ใชอ้ ปุ กรณ์หลาย ใชอ้ ุปกรณห์ ลาย -การรินออก ของเหลวใส ชิ้น ชนิ้ ไม่มีสี การตกตะกอนและ การรินออกไมต่ อ้ งใช้ อุปกรณ์หลายช้ิน -การตกตะกอนใช้ ใชเ้ วลานอ้ ย ใชเ้ วลานอ้ ย เวลานาน -การรนิ ออกใช้เวลาน้อย -การทาใหอ้ นภุ าคท่ีแขวนลอยในนา้ ตกตะกอนในกระบวนการผลิตนา้ ประปา -การทาความสะอาดเมลด็ ข้าวกอ่ นนาไปหงุ โดยการรนิ เอานา้ ซาวขา้ วออกจากเมล็ดข้าว -การกรองนา้ เพอื่ นามาดื่ม สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
123 คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม เปน็ สารเนือ้ ผสมเพราะยังคงมองเห็นของแขง็ สขี าวแยกตัวและแขวนลอย อยใู่ นของเหลว นา้ ปูนมลี ักษณะเปน็ ของเหลวสขี าวขนุ่ คลา้ ยนา้ นม เมือ่ เวลาผา่ นไปของเหลวส่วนบน ค่อย ๆ ใสขนึ้ ของแขง็ บางส่วนคอ่ ย ๆ จมลงและรวมตวั เปน็ ชั้นแยกจากของเหลว ช้นั บนอยู่ที่ก้นภาชนะ วิธีการตกตะกอน ใช้แยกสารเน้ือผสมท่ีเปน็ ของแขง็ กับของเหลว การกรองใช้แยกสารโดยอาศยั วัสดกุ รองทีม่ รี ซู ึ่งจะแยกสารเนือ้ ผสมทเี่ ปน็ ของแขง็ ออกจากของเหลว โดย ของแขง็ ท่มี ีขนาดใหญก่ วา่ รขู องวัสดุกรองค้างอยู่บนวัสดกุ รอง ส่วนของเหลวทมี่ ขี นาดเล็กกวา่ รขู องวสั ดุ กรองจะไหลผา่ นรลู งสูภ่ าชนะรองรบั แตกตา่ งกัน เพราะของเหลวทีผ่ า่ นผ้าขาวบางมีสขี าวขนุ่ และพบตะกอนสีขาวทีก่ น้ ภาชนะ สว่ นของเหลวท่ีผ่านกระดาษกรองใสไม่มีสี ไม่พบตะกอนทีก่ น้ ภาชนะ เน่ืองจากขนาดรูของ ผ้าขาวบางใหญก่ ว่าขนาดรูของกระดาษกรอง ของแขง็ ทมี่ ีขนาดเล็กกวา่ รขู องผา้ ขาวบาง สามารถผา่ นรผู า้ ขาวบางไดจ้ ึงพบตะกอนสขี าวทก่ี น้ ภาชนะ แต่ของแขง็ ทีม่ ีขนาดเล็กไม่ สามารถผ่านรขู องกระดาษกรองไดจ้ งึ ไมพ่ บตะกอนและได้ของเหลวใส ไม่มีสี สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม 124 การตกตะกอนมขี ้อดี คอื ใชอ้ ุปกรณ์นอ้ ยชิ้น ข้อจากัด คือ ใชเ้ วลานาน การรนิ ออก ขอ้ ดี คอื ใชอ้ ปุ กรณน์ อ้ ยชน้ิ ขอ้ จากัด คอื ขณะรินอาจมีของแขง็ ท่ตี กตะกอนไหลมากบั ของเหลวด้วย การกรองขอ้ ดี คือ ใชเ้ วลาน้อย ข้อจากัด คือ ใชอ้ ปุ กรณห์ ลายช้นิ การทาใหอ้ นภุ าคท่แี ขวนลอยในน้าตกตะกอน ในกระบวนการผลติ น้าประปา การทา ความสะอาดเมลด็ ข้าวกอ่ นนาไปหุงโดยการรินเอาน้าซาวข้าวออกจากเมล็ดข้าว การ กรองน้าเพื่อนามาด่มื เมอื่ ต้ังน้าปูนไว้ เมือ่ เวลาผ่านไป ของแขง็ จะแยกตัวออกจากของเหลวโดยจะค่อย ๆ จมลงส่กู น้ ภาชนะ ทาให้ของเหลว ส่วนบนคอ่ ย ๆ ใสขน้ึ การแยกสารทเ่ี ปน็ ของแขง็ โดยปลอ่ ยใหข้ องแข็งตกตะกอนแยกตวั ออกจากของเหลวและจมสกู่ น้ ภาชนะเรยี กวธิ กี ารนี้วา่ การตกตะกอน จากน้ันแยกของเหลวส่วนบนออกโดยใชว้ ิธกี ารรินออก เมอื่ รนิ น้าปนู ลงบน ผ้าขาวบางและกระดาษกรองทาให้ของแขง็ ซึ่งมขี นาดใหญ่กว่ารขู องผ้าขาวบางและกระดาษกรองค้างอยูบ่ นผา้ ขาวบาง และกระดาษกรอง ส่วนของเหลวจะผ่านผา้ ขาวบางและกระดาษกรอง เรยี กวิธกี ารนวี้ า่ การกรอง ของแข็งกับของเหลวในสารเน้ือผสมแยกออกจากกนั ได้โดยการตกตะกอน การรินออก และ การกรอง ซ่งึ สามารถนาวธิ กี ารแยกสารเหล่านี้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวันได้ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
125 คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม คาถามของนกั เรยี นท่ีตั้งตามความอยากรู้ของตนเอง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเน้อื ผสม 126 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรขู้ องนักเรยี นทาได้ ดังนี้ 1. ประเมนิ ความรเู้ ดิมจากการอภปิ รายในช้นั เรยี น 2. ประเมินการเรยี นรจู้ ากคาตอบของนักเรียนระหว่างการจดั การเรยี นรูแ้ ละจากแบบบนั ทึกกิจกรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนักเรยี น การประเมินจากการทากิจกรรมที่ 1.2 แยกของแขง็ ออกจากของเหลว ในสารเนอื้ ผสมไดอ้ ยา่ งไร รหัส สิ่งที่ประเมนิ ระดบั คะแนน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S5 การหาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสเปซกบั เวลา S8 การลงความเห็นจากขอ้ มูล S13 การตีความหมายขอ้ มลู และการลงข้อสรุป ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C2 การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ C4 การสื่อสาร C5 ความรว่ มมอื รวมคะแนน สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
127 ค่มู ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนือ้ ผสม ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะ เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต การสงั เกตลักษณะและ สามารถบอกลกั ษณะ สามารถบอกลักษณะ สามารถบอกลกั ษณะ สมบตั ขิ องน้าปนู และ และสมบตั ขิ องนา้ ปนู ได้ และสมบตั ิของน้าปนู และสมบตั ิของนา้ ปูน ไดว้ ่าเปน็ ของเหลวท่มี ี และสารที่แยกได้แต่ไม่ ลกั ษณะและสมบตั ิของ ว่าเปน็ ของเหลวที่มี ของแขง็ สขี าว ครบถ้วนว่าเปน็ ของแข็งสขี าวแขวนลอย แขวนลอยอยู่และสาร ของเหลวท่มี ขี องแข็งสี สารทแี่ ยกได้จากน้าปนู อยู่และสารที่แยกไดจ้ าก น้าปนู คือของแข็งสขี าว ทแี่ ยกได้จากน้าปนู คอื ขาวแขวนลอยอยู่และ ไดถ้ ูกต้องด้วยตนเอง ของแข็งสขี าวได้ สารท่แี ยกไดจ้ ากนา้ ถูกต้องจากการช้แี นะ ปนู คือของแขง็ สีขาว ของครูหรือผู้อน่ื แม้วา่ จะไดร้ ับการ ชีแ้ นะจากครหู รอื ผู้อื่น S5 การหา การบอกความสัมพนั ธ์ สามารถบอก สามารถบอก สามารถบอก ความสัมพันธ์ ระหวา่ งสเปซกับเวลา ความสมั พันธ์ระหวา่ ง ความสัมพนั ธ์ระหว่าง ความสมั พันธ์ระหว่าง ระหวา่ งสเปซกับ เม่ือวางนา้ ปูนไว้ให้ สเปซกบั เวลาเมื่อวางน้า สเปซกับเวลาเมือ่ วาง สเปซกับเวลาเม่อื วาง เวลา ตกตะกอนในช่วงเวลา ปูนไว้ให้ตกตะกอนใน นา้ ปนู ไวใ้ หต้ กตะกอน นา้ ปูนไวใ้ ห้ตกตะกอน ชว่ งเวลาตา่ ง ๆ ได้ ในช่วงเวลาตา่ ง ๆ ได้ ในชว่ งเวลาตา่ ง ๆ ได้ ตา่ ง ๆ ถูกต้องดว้ ยตนเอง ถูกต้องจากการช้แี นะ ถกู ตอ้ งเพียงบางสว่ น ของครูหรือผูอ้ น่ื แม้วา่ จะได้รับคาช้แี นะ จากครูหรอื ผ้อู น่ื S8 การลง การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็น สามารถลงความเหน็ ความเหน็ จาก ขอ้ มูลเกีย่ วกับขนาด ข้อมูลเก่ยี วกบั ขนาดของ จากข้อมลู เกย่ี วกับ จากขอ้ มูลเกีย่ วกบั ขอ้ มูล ของของแขง็ กบั ขนาดรู ของแขง็ กบั ขนาดรูของ ขนาดของของแขง็ กับ ขนาดของของแข็งกับ ของวสั ดุกรองในวิธีการ วสั ดุกรองในวิธีการกรอง ขนาดรูของวัสดุกรอง ขนาดรูของวสั ดุกรอง กรอง ไดถ้ ูกตอ้ งด้วยตนเอง ในวธิ ีการกรองได้ ในวธิ กี ารกรองได้แต่ ไม่ชัดเจน แม้วา่ จะได้ ถูกต้องจากการชแี้ นะ รบั คาช้แี นะจากครู ของครูหรอื ผูอ้ นื่ หรือผู้อน่ื สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนอื้ ผสม 128 ทักษะ เกณฑ์การประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) วิทยาศาสตร์ S13 การ การตคี วามหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย ตีความหมาย ขอ้ มูลจากการสงั เกต ข้อมูลจากการสังเกต ขอ้ มูลจากการสังเกต ขอ้ มูลจากการสังเกต ข้อมูลและลง และการอภปิ ราย และการอภิปราย และการอภปิ ราย และการอภปิ ราย ข้อสรุป เกยี่ วกับวธิ ีการ เกีย่ วกบั วิธีการ เกย่ี วกับวธิ กี าร เก่ยี วกบั วิธีการ ตกตะกอน การรนิ ตกตะกอน การรินออก ตกตะกอน การริน ตกตะกอน การรินออก ออก และการกรอง และการกรอง และลง ออก และการกรอง และการกรองและ และลงข้อสรปุ ข้อสรุปได้ถูกต้องด้วย และ ลงข้อสรุปได้ ลงข้อสรปุ ไดแ้ ตไ่ ม่ เกีย่ วกบั วิธกี ารนนั้ ๆ ตนเองวา่ การแยก ถกู ต้องโดยอาศัยการ ครบถว้ นสมบูรณ์ ของแข็งกับของเหลวใน ชแ้ี นะจากครหู รอื ผ้อู ่ืน แมว้ า่ จะไดร้ ับการ สารเนื้อผสมออกจาก ว่าว่าการแยกของแขง็ ชีแ้ นะจากครูหรอื ผู้อ่นื กันทาได้หลายวธิ ี ได้แก่ กบั ของเหลวในสาร วา่ การแยกของแข็งกับ การตกตะกอน การรนิ เนื้อผสมออกจากกัน ของเหลวในสารเนื้อ ออก และการกรอง การ ทาได้หลายวธิ ี ไดแ้ ก่ ผสมออกจากกนั ทาได้ ตกตะกอนเปน็ วิธีที่ทา การตกตะกอน การริน หลายวิธี ไดแ้ ก่ การ ใหข้ องแข็งค่อย ๆ ออก และการกรอง ตกตะกอน การรินออก แยกตัวและจมลงท่ีก้น การตกตะกอนเป็นวธิ ี และการกรอง การ ภาชนะ การรินออกทา ท่ีทาให้ของแข็งค่อย ตกตะกอนเปน็ วธิ ที ี่ทา ไดโ้ ดยการคอ่ ย ๆ รนิ ๆ แยกตวั และจมลงท่ี ให้ของแขง็ คอ่ ย ๆ ของเหลวออกจาก ก้นภาชนะ การริน แยกตัวและจมลงท่กี ้น ของแข็ง การกรองทา ออกทาไดโ้ ดยการค่อย ภาชนะ การรนิ ออกทา โดยรินของเหลวใหไ้ หล ๆ รนิ ของเหลวออก ได้โดยการค่อย ๆ รนิ ผา่ นวสั ดุกรองทีม่ ีรู จากของแข็ง การ ของเหลวออกจาก ขนาดเล็กซึ่งของแข็ง กรองทาโดยรนิ ของแข็ง การกรองทา ผ่านไมไ่ ด้จึงค้างอยูบ่ น ของเหลวให้ไหลผ่าน โดยรนิ ของเหลวให้ วัสดุกรอง การ วสั ดุกรองท่ีมีรูขนาด ไหลผา่ นวสั ดุกรองท่ีมี ตกตะกอน การรินออก เล็กซง่ึ ของแข็งผ่าน รขู นาดเล็กซึง่ ของแข็ง และการกรองนาไปใช้ ไมไ่ ด้จึงค้างอยู่วสั ดุ ผ่านไมไ่ ดจ้ ึงค้างอยบู่ น ประโยชน์ใน กรอง การตกตะกอน ตัวกรอง การ ชวี ติ ประจาวนั ได้ การรนิ ออกและการ ตกตะกอน การรินออก กรองนาไปใช้ และการกรองนาไปใช้ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
129 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเน้อื ผสม ทกั ษะ เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) วิทยาศาสตร์ ประโยชนใ์ น ประโยชน์ใน ชวี ิตประจาวันได้ ชีวิตประจาวันได้ ตาราง รายการประเมินและเกณฑ์การประเมินทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ ศตวรรษที่ 21 C2 การคิดอยา่ งมี การวิเคราะห์ขอ้ ดี ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) วจิ ารณญาณ ข้อจากัดและ สามารถบอกข้อดี ขอ้ จากัดและลักษณะ สามารถบอกข้อดี สามารถบอกขอ้ ดี ลกั ษณะของสารที่ ของสารที่แยกไดแ้ ตล่ ะ แยกได้แต่ละวธิ ี วธิ ีไดถ้ ูกต้องครบถว้ น ขอ้ จากดั และลักษณะของ ข้อจากดั และลกั ษณะ ด้วยตนเอง C4 การส่ือสาร การนาเสนอผลการ สารท่แี ยกได้แตล่ ะวธิ ีได้ ของสารทแ่ี ยกได้แตล่ ะ แยกสาร สามารถบรรยายเพอ่ื นาเสนอเกี่ยวกับผลการ ถูกต้องครบถ้วนโดยอาศยั วิธไี ด้ถูกต้องแต่ไม่ C5 ความร่วมมือ การทางานร่วมกับ แยกสารได้ถูกต้อง ด้วย ผู้อืน่ ในการทา ตนเอง การชแี้ นะจากครหู รือ ครบถ้วนแม้ว่าจะได้ กจิ กรรม ผู้อื่น รับคาชีแ้ นะจากครูหรอื สามารถทางานรว่ มกบั ผ้อู นื่ ในการทากิจกรรม ผู้อื่น รวมทั้งยอมรับความ คดิ เห็นของผู้อน่ื ตง้ั แต่ สามารถบรรยายเพอื่ สามารถบรรยายเพ่ือ เรม่ิ ต้นจนสาเรจ็ นาเสนอเกยี่ วกับผลการ นาเสนอเกี่ยวกบั ผลการ แยกสารได้ถกู ต้องจาก แยกสารได้ถกู ตอ้ งแตไ่ ม่ การชีแ้ นะของครหู รอื ผู้อืน่ ครบถว้ นสมบรู ณ์แม้ว่า จะได้รับการชีแ้ นะจาก ครหู รือผู้อน่ื สามารถทางานรว่ มกบั สามารถทางานรว่ มกบั ผ้อู ื่นในการทากจิ กรรม ผู้อื่นในการทากจิ กรรม รวมท้ังยอมรับความ รวมทั้งยอมรับความ คดิ เหน็ ของผู้อนื่ ในบาง คดิ เหน็ ของผู้อ่นื บาง ชว่ งเวลาทท่ี ากจิ กรรม ชว่ งเวลาที่ทากิจกรรม ทง้ั นต้ี อ้ งอาศยั การ กระตุ้นจากครหู รอื ผู้อื่น สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนื้อผสม กจิ กรรมที่ 1.3 แยกสารแมเ่ หลก็ ออกจากสารเน้ือผสมได้อย่างไร กิ จ ก ร ร ม น้ี นั ก เ รี ย น จ ะ ไ ด้ อ ธิ บ า ย วิ ธี ก า ร แ ย ก ส า ร แม่เหล็กออกจากสารเน้ือผสมและยกตัวอย่างการนาวิธีการ แยกสารแม่เหล็กออกจากสารอ่ืนในสารเนื้อผสมไปใช้ ประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั เวลา 2 ชัว่ โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกตและอธิบายวธิ ีการแยกสารแมเ่ หล็กออก จากสารอ่นื ในสารเน้ือผสม 2. อภปิ รายและยกตัวอยา่ งวธิ กี ารแยกสาร แม่เหล็กออกจากสารอน่ื ในสารเนอื้ ผสมไปใช้ ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน วสั ดุ อปุ กรณ์สาหรบั ทากจิ กรรม สง่ิ ท่ีครตู อ้ งเตรยี ม/กลุ่ม 1. เมล็ดข้าวเปลอื กทมี่ ผี งเหล็กปน 10 กรมั 2. จานหรือแกว้ กระดาษหรือแก้วพลาสติก 1 ใบ 3. ผา้ ขาวบาง 1 ผนื 4. แทง่ แมเ่ หล็ก 1 แท่ง สอ่ื การเรยี นรู้และแหลง่ เรียนรู้ 5. ไมจ้ ้มิ ฟัน 1 อนั 1. หนงั สอื เรยี น ป.6 เลม่ 1 หนา้ 49-52 2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.6 เล่ม 1 หน้า 50-53 6. ตะแกรงร่อน 1 อนั 3. วดี ทิ ัศน์ตัวอย่างปฏิบตั ิการวทิ ยาศาสตร์สาหรบั ครู เร่อื ง ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ แยกสารผสมท่ีเปน็ ของแขง็ ได้อย่างไร http://ipst.me/9896 S1 การสังเกต S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรปุ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 C2 การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ C4 การส่อื สาร C5 ความร่วมมือ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
131 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม แนวการจัดการเรยี นรู้ ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน 1. ครูทบทวนความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับแม่เหล็กและตรวจสอบความรู้เดิม และยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ เกี่ยว กับการแยกสารแม่เหล็กออกจากสารอ่ืนในสารเนื้อผสมโดย ใช้ ชกั ชวนให้นกั เรียนไปหาคาตอบด้วย คาถามดงั น้ี ตนเองจากการทากิจกรรม 1.1 แม่เหล็กดึงดูดอะไรได้บ้าง (แม่เหล็กดึงดูดเหล็ก แม่เหล็ก และสาร แมเ่ หล็กอืน่ ๆ ) 1.2 ถ้าจะนาแม่เหล็กมาใช้แยกสารเน้ือผสม สารเนื้อผสมน้ันควรมี ลักษณะอย่างไร (นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจของตนเอง เช่น สารเน้ือผสมน้ันควรมีสารแมเ่ หล็กหรอื เหลก็ เปน็ สว่ นประกอบ) 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนเข้าสู่กิจกรรมท่ี 1.3 โดยใช้คาถาม ดังนี้ เราจะใช้วิธีการแยกสารวิธีใดบ้างเพ่ือแยกสารแม่เหล็กออกจากสาร อน่ื ในสารเนือ้ ผสมและทาไดอ้ ยา่ งไร 3. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม ทาเป็นคิดเป็น และ ส่ิงท่ีต้องใช้ จากนั้น ร่วมกันอภิปรายเพื่อตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทา กิจกรรม โดยใช้คาถาม ดงั นี้ 3.1 นักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับเรอ่ื งอะไร (วิธีการแยกสารแม่เหล็กออก จากสารอ่ืนในสารเนื้อผสมและการนาวิธีการแยกสารแม่เหล็กใปใช้ ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวัน) 3.2 นกั เรยี นจะได้เรียนร้ดู ว้ ยวิธีใด (การสังเกตและการอภปิ ราย) 3.3 เม่อื เรยี นแลว้ นักเรยี นจะทาอะไรได้ (อธิบายวธิ ีการแยกสารแม่เหล็ก ออกจากสารอื่นในสารเน้ือผสมและยกตัวอย่างการนาวิธีการแยก สารแม่เหลก็ ใปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาวัน) 4. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 50 และอ่าน ส่งิ ทต่ี อ้ งใช้ในการทากจิ กรรม 5. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะการอ่านที่เหมาะสมกับ ความสามารถของนักเรียน จากน้ันครูตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับ วิธีการทากิจกรรม จนนักเรียนเข้าใจลาดบั การทากิจกรรม โดยใช้คาถาม ดังน้ี 5.1 ในทาอย่างไรข้อที่ 1 นักเรียนต้องสังเกตอะไร (สังเกตลักษณะของ สารเนอื้ ผสม) สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเน้ือผสม 132 5.2 ในทาอย่างไรข้อท่ี 2 นกั เรยี นตอ้ งอภปิ รายเกี่ยวกับอะไร (หาวิธแี ยก ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ ผงเหล็กออกจากเมลด็ ขา้ วเปลือกโดยใช้อุปกรณท์ ี่กาหนดให้) ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ครูแนะนาอุปกรณ์ท่ีกาหนดให้ในข้อท่ี 2 ได้แก่ แท่งแม่เหล็ก ทน่ี ักเรียนจะได้ฝกึ จากการทากจิ กรรม ผ้าขาวบาง ไม้จ้ิมฟัน ตะแกรง จานสาหรับใส่สาร ครูเสนอแนะว่า ท้ังช้ัน S1 สงั เกตลักษณะและสมบัตขิ องสาร ควรเลือกวิธีการแยกสารท่ีแตกต่างกันเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบผลการ S8 ลงความเหน็ เกย่ี วกับการแยกสาร ทากจิ กรรม C4 บอกลักษณะของสารท่ีแยกได้โดย 5.3 ในทาอย่างไรข้อที่ 3 และ 4 นักเรียนต้องทาอย่างไร (เลือกวิธีการ การบรรยาย แยกสารมา 1 วธิ พี ร้อมบอกเหตผุ ลและแยกสารตามวธิ ีท่ีเลือก) C5 รว่ มมือกนั ทากิจกรรม 5.4 ในทาอย่างไรข้อท่ี 5 นักเรียนต้องวิเคราะห์ข้อดีและข้อจากัดของ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ แต่ละวิธี คิดว่าจะวิเคราะห์ในประเด็นใดบ้าง (นักเรียนตอบตาม คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว ความเข้าใจซึ่งควรจะตอบในประเด็นเกย่ี วกับลักษณะของสารท่ีแยก คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน ได้ ความสะดวกในการแยกสาร หรืออื่น ๆ เช่น เวลาที่ใช้ ปริมาณ คิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง สารทแ่ี ยกได้) อดทน และรับฟังแนวความคิด 5.5 ในทาอย่างไรข้อที่ 6 นักเรียนต้องทาอย่างไร (ร่วมกันอภิปรายและ ของนกั เรียน ย ก ตั ว อ ย่ า ง วิ ธี ก า ร แ ย ก ส า ร จ า ก กิ จ ก ร ร ม นี้ ไ ป ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ใ น ชวี ติ ประจาวัน) 6. เมื่อนักเรียนเข้าใจวธิ ีการทากิจกรรมในทาอย่างไร แล้ว อภิปรายร่วมกบั นักเรียนว่าจะบันทึกผลในแบบบันทึกกิจกรรมอย่างไรบ้าง จากน้ันให้ นกั เรยี นรับอปุ กรณแ์ ละเรม่ิ ปฏิบัตติ ามขั้นตอนการทากิจกรรม 7. หลังจากทากิจกรรมแล้ว นักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรม ตามแนวคาถามดังน้ี 7.1 การใช้แท่งแม่เหล็กแยกผงเหล็กออกจากเมล็ดข้าวเปลือกทาได้ หรือไม่ อย่างไร (สามารถแยกผงเหล็กออกจากเมล็ดข้าวเปลือกได้ โดยนาแทง่ แมเ่ หลก็ มาคนในสารเนือ้ ผสม แมเ่ หลก็ จะดงึ ดดู ผงเหล็ก ขึ้นมา ส่วนเมล็ดข้าวเปลอื กจะไม่ดึงดูดกับแม่เหล็ก จึงสามารถแยก ผงเหลก็ ออกจากเมล็ดขา้ วเปลือกได้) ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมว่า การใช้แม่เหล็กแยกสารแม่เหลก็ ท่ีปะปนอยู่ กับสารอ่ืน ๆ ในสารเน้ือผสม เรียกวิธีการแยกสารนี้ว่า การใช้แม่เหล็ก ดงึ ดดู 7.2 การใช้ผา้ ขาวบางแยกผงเหล็กออกจากเมลด็ ขา้ วเปลอื กทาได้หรือไม่ อย่างไร (สามารถใช้ผ้าขาวบางร่อนแยกผงเหล็กบางส่วนออกจาก สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
133 คู่มือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเน้อื ผสม เมล็ดข้าวเปลือกได้ แต่จะมีผงเหล็กบางส่วนท่ีมีขนาดใหญ่ซึ่งไม่ ถ้ า ค รู พ บ ว่ า นั ก เ รี ย น ยั ง มี สามารถลอดผ่านรูของผ้าขาวบางไปได้และจะติดอยู่ท่ีผ้าขาวบาง แนวคิดคลาดเคล่ือนเกี่ยวกับการ ปะปนอยูก่ ับข้าวเปลือก) แยกสารแม่เหล็กออกจากสารเนื้อ 7.3 การใช้ตะแกรงแยกผงเหล็กออกจากเมล็ดข้าวเปลือกทาได้หรือไม่ ผสม ให้ครูดาเนินการโดยให้ อย่างไร (สามารถใช้ตะแกรงแยกผงเหล็กออกจากเมล็ดข้าวเปลือก นั ก เ รี ย น ร่ ว ม กั น อ ภิ ป ร า ย ได้ แต่จะมีผงขนาดเล็กของสารอืน่ ทไี่ ม่ใช่ผงเหล็กปนมาด้วย) จ น ก ร ะ ทั่ ง นั ก เ รี ย น มี แ น ว คิ ด ที่ 7.4 ถ้าต้องการแยกผงเหล็กให้ได้ปริมาณมากในเวลารวดเร็วควรแยก ถกู ตอ้ ง โดยวธิ ีการใด (ควรแยกโดยการร่อนดว้ ยตะแกรง) 7.5 ถ้าต้องการแยกผงเหล็กโดยให้มีสารอื่นปนมากับผงเหล็กน้อยท่ีสุด ควรใช้วธิ ีการใด (การใชแ้ ม่เหล็กดงึ ดดู ) 7.6 ประโยชน์จากการแยกสารเนื้อผสมโดยการใช้แม่เหล็กดึงดูด สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างไร (นักเรียนตอบตาม ข้อมูลท่ีได้จากการอภิปรายร่วมกันในกลุ่ม หรือจากประสบการณ์ ของตนเอง เชน่ -ซีเรียลมีผงเหลก็ ปนอยู่หรือไม่ สามารถใชแ้ ม่เหลก็ ทดสอบได้โดยถ้า มผี งเหล็กปนอยู่ แมเ่ หลก็ จะดงึ ดดู ผงเหล็กแยกออกมา -การแยกเศษเหล็กออกจากเศษขยะประเภทอ่ืน ๆ สามารถใช้ แมเ่ หล็กแยกได)้ ครูชักชวนดูรูปในหนังสือเรียนหน้า 51 ประกอบการอภิปราย เกี่ยวกบั การแยกเศษเหล็กออกจากเศษขยะประเภทอ่ืน ๆ 8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตอบหรือซักถามในสิ่งท่ีอยากรู้เพ่ิมเติมเก่ียวกับ การแยกสารแม่เหล็กออกจากสารอื่นในสารเนื้อผสม จากน้ันร่วมกัน อภิปรายและลงข้อสรุปว่า เราสามารถใช้แม่เหล็กดึงดูดของแข็งที่เป็น สารแม่เหล็กออกจากสารอ่ืน ๆ ในสารเนื้อผสม เรียกวิธีการน้ีว่า การใช้ แม่เหลก็ ดึงดดู ซ่ึงสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวันได้ (S13) 9. นักเรียนร่วมกันอภิปรายและตอบคาถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้ คาถามเพิ่มเตมิ ในการอภิปรายเพอ่ื ใหไ้ ด้แนวคาตอบทถี่ ูกตอ้ ง 10.นักเรยี นอ่าน สง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ และเปรยี บเทียบกับขอ้ สรุปของตนเอง 11. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกต้ังคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรืออยากรู้ เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า จากน้ันครูอาจสุ่มนักเรียน 2 -3 คน นาเสนอ คาถามของตนเองหน้าช้ันเรียน จากนั้นนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ คาถามทีน่ าเสนอ 12. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขน้ั ตอนใด สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเน้อื ผสม 134 แนวคาตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม 1. สงั เกตและอธิบายวธิ กี ารแยกสารแม่เหล็กออกจากสารอืน่ ในสารเนอ้ื ผสม 2. อภปิ รายและยกตัวอย่างวิธีการแยกสารแม่หลก็ ออกจากสารอนื่ ในสารเนอื้ ผสม ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั เมล็ดขา้ วเปลือกมลี กั ษณะเป็นของแข็งสเี หลือง รปู รา่ งเรียวยาว ผงเหล็กมลี กั ษณะ เปน็ ผงสีเทาดา ขึ้นอย่กู ับการเลือก เหตุผลและผลการแยกสารของนกั เรียน เช่น การใชแ้ ม่เหลก็ ดึงดูด นา่ จะแยกผงเหล็กออก ผงเหลก็ และเมล็ด จากเมล็ดข้าวเปลือกได้ ข้าวเปลอื กแยกออกจาก เนือ่ งจากสารเนอ้ื ผสมมี กนั ผงเหล็กปะปนอยซู่ ึ่ง แม่เหล็กสามารถดงึ ดูดได้ ส่วนเมลด็ ขา้ วเปลือก แมเ่ หล็กไมส่ ามารถ ดงึ ดูด สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
135 คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเน้ือผสม การใช้แม่เหลก็ ดึงดดู - ผงเหลก็ ทีแ่ ยกไดไ้ ม่มี - ใชเ้ วลานาน ของแข็งชนิดอน่ื ปน การรอ่ นโดยใช้ - ใชเ้ วลานอ้ ย - มีของแข็งอ่ืน ๆ ปนมา ตะแกรง กับผงเหล็ก การร่อนโดยใช้ผา้ - ใชเ้ วลานอ้ ย - มีของแข็งอ่นื ๆ ปนมา ขาวบาง กบั ผงเหล็กและผงเหล็ก บางสว่ นติดอยบู่ น ผ้าขาวบาง การแยกเศษเหล็กออกจากเศษขยะอน่ื ๆ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม 136 เมลด็ ข้าวเปลือกเป็นของแข็งสีเหลอื ง รูปรา่ งเรียวยาว มีสมบตั ไิ ม่ดึงดูดกบั แมเ่ หลก็ ผงเหลก็ เป็นผงสเี ทาดา มีสมบตั ิดึงดูดกบั แม่เหล็ก ทาไดโ้ ดยใชแ้ ม่เหลก็ ดึงดดู ผงเหล็กออกจากเมลด็ ข้าวเปลอื ก เรยี กวิธีการนี้ว่า การใช้แมเ่ หลก็ ดงึ ดดู หรือใชต้ ะแกรงหรอื ผ้าขาวบางรอ่ นผงเหลก็ ออกจากเมล็ดข้าวเปลือกเรียกวิธีการนวี้ ่า การรอ่ น แต่จะมสี ารอ่ืนปนมากับผงเหล็ก ควรใช้วิธีการใชแ้ มเ่ หล็กดึงดูด เพราะวธิ กี ารน้สี ามารถแยกได้เฉพาะสารแมเ่ หลก็ โดยไมม่ สี ารอนื่ ปะปน แตถ่ า้ ใชก้ ารรอ่ นจะมีของแข็งขนาดใกล้เคียงกบั ผงเหล็กปน มาด้วย นามาใช้แยกเศษเหลก็ ออกจากเศษขยะชนิดอ่ืน ๆ เมือ่ นาแมเ่ หล็กมาเข้าใกล้ผงเหลก็ ท่ีผสมกบั เมลด็ ขา้ วเปลอื ก แม่เหลก็ จะดงึ ดดู ผงเหลก็ ตดิ ที่แท่งแมเ่ หล็ก แตไ่ มด่ ึงดดู เมลด็ ขา้ วเปลอื ก จึงแยกเอาผงเหล็กออกจากเมล็ดข้าวเปลอื กได้ เรียกวิธกี ารแยกสารน้ีวา่ การใช้ แม่เหลก็ ดงึ ดดู เราสามารถใชแ้ มเ่ หลก็ ดึงดดู ของแข็งที่เปน็ สารแม่เหล็กออกจากสารอื่น ๆ ในสาร เนอื้ ผสมได้ เรยี กวิธกี ารนี้วา่ การใชแ้ ม่เหล็กดึงดูดซง่ึ นาไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจาวันได้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
137 คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเน้อื ผสม คาถามของนกั เรียนที่ต้ังตามความอยากรขู้ องตนเอง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนอื้ ผสม 138 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ของนักเรยี นทาได้ ดังนี้ 1. ประเมินความร้เู ดิมจากการอภิปรายในชั้นเรยี น 2. ประเมินการเรยี นรจู้ ากคาตอบของนกั เรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบนั ทึกกิจกรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรมของนกั เรียน การประเมนิ จากการทากจิ กรรมท่ี 1.3 แยกสารแมเ่ หลก็ ออกจาก สารเน้ือผสมไดอ้ ยา่ งไร รหสั สง่ิ ทป่ี ระเมิน ระดับ คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู S13 การตคี วามหมายขอ้ มลู และการลงขอ้ สรปุ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C2 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ C4 การส่อื สาร C5 ความร่วมมอื รวมคะแนน สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
139 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเน้อื ผสม ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะ เกณฑก์ ารประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) วทิ ยาศาสตร์ S1 การสงั เกต การสังเกตสารท่ีแยกได้ สามารถบอกลักษณะ สามารถบอกลกั ษณะ สามารถบอกลกั ษณะ ในแตล่ ะวธิ ี ของสารท่ีแยกได้ใน ของสารท่ีแยกได้ใน ของสารท่ีแยกได้ใน แตล่ ะวิธีได้ถูกต้อง แตล่ ะวธิ ีได้ถูกตอ้ ง แตล่ ะวิธีได้ถูกตอ้ ง ครบถว้ นดว้ ยตนเอง ครบถ้วนจากการชแ้ี นะ เพียงบางสว่ นแม้จะ ของครูหรอื ผู้อืน่ ได้รับการช้ีแนะจากครู หรือผู้อืน่ S8 การลง การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเห็น ความเหน็ จาก ข้อมูลเกย่ี วกบั สาร ข้อมลู ได้ถูกต้องด้วย จากข้อมูลได้ถกู ต้อง จากขอ้ มูลไดถ้ ูกต้อง ขอ้ มูล เนอ้ื ผสมที่เปน็ ของแข็ง ตนเองว่าสารเนอื้ ผสมท่ี จากการชแ้ี นะของครู เพยี งบางส่วน แม้ว่า ซึ่งมีสารแม่เหล็กปนอยู่ เปน็ ของแข็งซ่ึงมี หรือผูอ้ น่ื วา่ สารเนือ้ จะไดร้ ับการชแ้ี นะจาก สามารถแยกไดห้ ลาย สารแมเ่ หล็กปนอยู่ ผสมทีเ่ ปน็ ของแข็งซ่งึ มี ครหู รือผอู้ ่นื วา่ สารเน้อื วิธี สามารถแยกได้หลายวิธี สารแม่เหลก็ ปนอยู่ ผสมท่เี ปน็ ของแข็งซึ่ง สามารถแยกไดห้ ลาย มสี ารแมเ่ หลก็ ปนอยู่ วธิ ี สามารถแยกไดห้ ลาย วธิ ี S13 การ การตคี วามหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตีความหมาย ตคี วามหมาย ขอ้ มูลจากการแยก ขอ้ มูลจากการแยกสาร ขอ้ มูลจากการแยก ขอ้ มูลจากการแยกสาร ขอ้ มูลและลง สาร และลงข้อสรปุ และลงข้อสรปุ ได้ถูกต้อง สาร และลงข้อสรุปได้ และลงข้อสรุปได้ไม่ ขอ้ สรุป วิธีการแยกสาร ด้วยตนเองว่าการใช้ ถกู ต้องโดยอาศัย ครบถว้ นสมบรู ณ์ แมเ่ หล็กออกจากสาร แม่เหลก็ ดงึ ดดู สามารถ การชี้แนะจากครหู รอื แมว้ ่าจะได้รบั การ เน้ือผสม ใช้แยกของแขง็ ท่ีเปน็ ผู้อนื่ วา่ การใชแ้ มเ่ หล็ก ชแี้ นะจากครหู รือผอู้ นื่ สารแม่เหลก็ ออกจาก ดงึ ดูดสามารถใชแ้ ยก ว่าการใชแ้ ม่เหลก็ สารอนื่ ๆ ในสารเนื้อ ของแข็งทเ่ี ปน็ ดงึ ดูดใชแ้ ยกของแข็ง ผสม สารแมเ่ หล็กออกจาก ทเี่ ปน็ สาร สารอน่ื ๆ ในสาร แม่เหล็กออกจากสาร เนอ้ื ผสม อ่ืน ๆ ในสาร เน้ือ ผสม สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คูม่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนื้อผสม 140 ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ทักษะแห่ง รายการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) C2 การคิดอย่างมี การวเิ คราะห์ข้อดี สามารถบอกข้อดีและ สามารถบอกข้อดแี ละ สามารถบอกข้อดีและ วจิ ารณญาณ และข้อจากัดของ ข้อจากัดของวิธกี าร ต่าง ข้อจากัดของวธิ กี ารต่าง ๆ ข้อจากัดของวธิ ีการตา่ ง วธิ กี ารต่าง ๆ ที่ใช้ ๆ ที่ใช้แยกสารเน้ือผสม ทีใ่ ช้แยกสารเน้ือผสมท่มี ี ๆ ทใ่ี ชแ้ ยกสารเนือ้ ผสม แยกสารเนื้อผสมท่ีมี ทมี่ สี ารแม่เหล็กปนอยู่ สารแมเ่ หลก็ ปนอยู่ใน ที่มีสารแม่เหล็กปนอยู่ สารแมเ่ หลก็ ปนอยู่ ในประเด็นเก่ียวกับ ประเดน็ เก่ยี วกับลักษณะ ในประเด็นเกี่ยวกับ แตล่ ะวธิ ีเกย่ี วกบั ลกั ษณะของสารท่ีแยกได้ ของสารท่ีแยกได้ ลกั ษณะของสารท่แี ยก ลกั ษณะของสารที่ ความสะดวกและอ่ืน ๆ ความสะดวกและอ่นื ๆ ได้ ความสะดวกและอนื่ แยกได้ ความสะดวก ไดถ้ ูกต้องครบถว้ นดว้ ย ไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นโดย ๆ ไดถ้ ูกต้องแตไ่ ม่ และอ่ืน ๆ ตนเอง ตอ้ งอาศยั การชแ้ี นะจาก ครบถ้วนแม้ว่าจะได้ ครูหรือผ้อู ่ืน รบั คาชี้แนะจากครหู รือ ผู้อื่น C4 การสอื่ สาร การนาเสนอผลการ สามารถเขยี นบรรยาย สามารถเขียนบรรยายผล สามารถเขียนบรรยาย แยกสารโดย ผลการแยกสารได้ การแยกสารได้ถูกตอ้ ง ผลการแยกสารได้ การบรรยาย ถูกต้องดว้ ยตนเอง จากการชีแ้ นะของครหู รือ ถกู ตอ้ งเพียงบางสว่ น ผู้อน่ื แม้วา่ จะไดร้ ับการ ช้แี นะจากครหู รอื ผู้อ่นื C5 ความร่วมมือ ทางานร่วมกับผูอ้ ื่น สามารถทางานร่วมกบั สามารถทางานรว่ มกับ สามารถทางานรว่ มกับ ในการทากิจกรรม ผู้อ่ืนในการทากิจกรรม ผ้อู นื่ ในการทากจิ กรรม ผูอ้ นื่ ในทากจิ กรรม รวมท้ังยอมรับ รวมท้ังยอมรับ รวมท้ังยอมรับ รวมทั้งยอมรับ ความคดิ เหน็ ของ ความคิดเห็นของผูอ้ ืน่ ความคดิ เห็นของผู้อื่นใน ความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื ผู้อ่ืน ต้งั แต่เรมิ่ ต้นจนสาเรจ็ บางชว่ งเวลาท่ีทา บางช่วงเวลาที่ทา กจิ กรรม กิจกรรม ทั้งนต้ี อ้ งอาศยั การกระตุ้นจากครูหรอื ผ้อู ืน่ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
141 ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเน้อื ผสม ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ดี (3) เกณฑก์ ารประเมิน ควรปรับปรุง (1) ศตวรรษที่ 21 พอใช้ (2) กิจกรรมที่ 1.4 ใช้ประโยชน์จากการแยกสาร เนื้อผสมอยา่ งงา่ ยไดอ้ ยา่ งไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้วิเคราะห์วิธีการแยกสารเนื้อผสมที่ นาไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน เวลา 1 ชวั่ โมง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิเคราะหแ์ ละระบวุ ธิ กี ารแยกสารเนอ้ื ผสมท่ีนาไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจาวนั ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ส่ือการเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้ S8 การลงความเห็นจากข้อมลู 1.หนงั สือเรียน ป.6 เล่ม 1 หนา้ 53-56 S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป 2.แบบบันทกึ กจิ กรรม ป.6 เล่ม 1 หนา้ 54-57 3. วดี ทิ ศั น์เรื่องการทานา้ ตาลปกึ ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 C2 การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ C4 การสื่อสาร C5 ความรว่ มมือ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเน้อื ผสม 142 แนวการจดั การเรียนรู้ 1. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานเก่ียวกับวิธีการแยกสารเนอ้ื ผสมและตรวจสอบ ความรู้เดิมเกี่ยวกับการนาวิธีการต่าง ๆ ท่ีใช้แยกสารเนื้อผสมไปใช้ ในการตรวจสอบความรู้เดิม ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวันโดยใชค้ าถามดังตอ่ ไปน้ี ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน 1.1 วิธีการแยกสารเนื้อผสมมีอะไรบ้าง (การหยิบออก การร่อน และยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ ชักชวนให้นกั เรียนไปหาคาตอบด้วย การตกตะกอน การรินออก การกรอง การใชแ้ มเ่ หลก็ ดงึ ดดู ) ตนเองจากการทากิจกรรม 1.2 ในชีวิตประจาวัน เราใช้วิธีการแยกสารเน้ือผสมวิธีใดบ้าง ยกตวั อยา่ ง (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจ) 2. ครูเช่ือมโยงความรู้เดิมของนักเรียนสู่กิจกรรมท่ี 1.4 โดยใช้คาถามว่าเรา ใชป้ ระโยชน์จากการแยกสารเนอ้ื ผสมอย่างง่ายไดอ้ ย่างไร 3. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม และทาเป็นคิดเป็น จากนั้นร่วมกันอภิปราย เพื่อตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทากิจกรรม โดยใช้ คาถาม ดังน้ี 3.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (วิธีการแยกสารท่ีนาไปใช้ ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน) 3.2 นกั เรยี นจะได้เรยี นรเู้ รือ่ งน้ีดว้ ยวิธีใด (การวเิ คราะห์) 3.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (ระบุวิธีการแยกสารที่นาไปใช้ ประโยชน์ในชีวติ ประจาวัน) 4. นกั เรยี นบันทึกจดุ ประสงคล์ งในแบบบันทึกกจิ กรรม หน้า 54 5. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะการอ่านท่ีเหมาะสมกับ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ความสามารถของนักเรียน จากน้ันครูตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับ แ ละทักษะแ ห่งศ ตวรรษ ท่ี 21 ที่ วิธีการทากิจกรรม จนนักเรียนเข้าใจลาดับการทากิจกรรม โดยใช้คาถาม นักเรยี นจะได้ฝกึ จากการทากิจกรรม ว่านักเรียนต้องทาอะไรบ้าง (อ่านบทความ เรื่อง การทาน้าตาลปึกและ S8 ลงความเห็นเกี่ยวกับวิธีการแยก สารเน้อื ผสมจากใบความรู้ สถาบนั สง่ เสรมิ การสCอ2นววเิ ทิคยราาะศหาสว์ ธิตกีราแ์ รลแะยเทกคสาโนรโลยี C4 แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ เกยี่ วกบั
143 คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเนือ้ ผสม ร่วมกันอภิปรายว่ามีการแยกสารในขั้นตอนใดบ้าง มีวิธีการแยกสาร ถ้านักเรียนไม่สามารถตอบ อย่างไรพร้อมท้ังบอกสารที่แยกออกจากกันเป็นสารอะไรและมีลักษณะ คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว อย่างไร) คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด 6. เมื่อนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไร แล้ว ให้นักเรียนเริ่ม อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน ปฏิบัติตามขน้ั ตอนการทากิจกรรม และรับฟังแนวความคิดของนักเรียน 7. หลังจากทากิจกรรมแล้ว นักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรม ตามแนวคาถามดังนี้ ถ้าครูพบว่านักเรียนยังมีแนวคิด 7.1 จากบทความ น้าตาลมะพร้าวที่รวบรวมจากกระบอกน้าตาลเป็น ค ล า ด เ ค ลื่ อ น เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ใ ช้ ประโยชน์จากการแยกสารเนื้อผสม สารเน้ือเดียวหรือสารเน้ือผสม เพราะเหตุใด (สารเนื้อผสมเพราะมี ให้ครูดาเนินการโดยให้นักเรียน เศษฝุ่นหรือแมลงปนอยใู่ นนา้ ตาลมะพรา้ ว) ร่วมกันอภิปรายจนกระท่ังนักเรียน 7.2 การทาน้าตาลปึกมีข้ันตอนใดบ้างที่ต้องใช้วิธีการแยกสารและเรียก มีแนวคดิ ท่ถี กู ตอ้ ง วิธีน้ันว่าอะไร (1.เก็บมดและแมลงออกจากจ่ันมะพร้าวเป็นวิธีการ หยิบออก 2.ใช้ผ้าขาวบางกรองเศษฝุ่นและแมลงออกจากน้าตาล มะพร้าว เป็นวิธีการกรอง 3. ตักเอาฟองออกจากน้าตาลมะพร้าว เปน็ วิธกี ารตกั ออก) 7.3 ถ้าไมม่ ีการแยกเอาเศษฝ่นุ หรือแมลงออก นกั เรยี นคดิ ว่านา้ ตาลปึกที่ ได้จะมีลักษณะอย่างไร (น้าตาลปึกจะไม่สะอาดมีเศษฝุ่นและแมลง ปนอยใู่ นนา้ ตาลปึกทาให้ไมน่ า่ รบั ประทาน) 7.4 ในการทาน้าตาลปึก การแยกสารมีประโยชน์อย่างไร (ช่วยแยกสาร ที่ไม่ต้องการออกจากน้าตาลมะพร้าว ทาให้ได้น้าตาลปึกท่ีน่า รบั ประทานและปลอดภัยตอ่ การบรโิ ภค) 8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตอบหรือซักถามในสิ่งท่ีอยากรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับ การใช้ประโยชน์จากการแยกสาร จากน้ันร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรปุ ว่าวิธีการแยกสารเน้ือผสมมปี ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั (S13) 9. นักเรียนตอบคาถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คาถามเพ่ิมเติมในการ อภปิ รายเพ่ือใหไ้ ดแ้ นวคาตอบทีถ่ กู ต้อง 10. นกั เรยี นอ่าน สง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ และเปรียบเทยี บกบั ขอ้ สรุปของตนเอง 11. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกต้ังคาถามเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้ เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า จากน้ันครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นาเสนอ คาถามของตนเองหน้าชั้นเรียน จากน้ันนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับ คาถามทีน่ าเสนอ 12.ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบา้ งและในขน้ั ตอนใด สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม 144 13.นักเรียนร่วมกันอ่าน เกร็ดน่ารู้ และ รู้อะไรในเร่ืองนี้ ในหนังสือเรียน หน้า 57-59 ครูนาอภิปรายเพ่ือนาไปสู่ข้อสรุปเก่ียวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ใน เร่ืองน้ี จากน้ันครูกระตุ้นให้นักเรียนตอบคาถามในช่วงท้ายของเนื้อเรื่อง ว่า หินประเภทใดมีกระบวนการเกิดเช่นเดียวกับการแยกสารเนื้อผสม โดยใหน้ ักเรียนร่วมกันอภิปรายแนวทางการตอบคาถาม ซึ่งครคู วรเน้นให้ นกั เรียนตอบคาถามพร้อมอธิบายเหตุผลประกอบและชักชวนให้นักเรียน ไปหาคาตอบร่วมกันจากการเรียนเรื่องตอ่ ไป แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กิจกรรม สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
145 คูม่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเน้ือผสม วเิ คราะห์และระบุวธิ กี ารแยกสารเน้ือผสมทนี่ าไปใชป้ ระโยชน์ใน ชวี ิตประจาวัน เก็บมดและแมลงออก การหยิบออก มดและแมลง กบั จ่ัน จากจ่นั มะพรา้ ว มะพรา้ ว สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนื้อผสม 146 ใชผ้ า้ ขาวบางกรองเศษฝุ่น การกรอง เศษฝนุ่ และแมลงกบั และแมลงออกจากนา้ ตาล น้าตาลมะพรา้ ว มะพรา้ ว ขณะเคยี่ วน้าตาลจะเกิด การตักออก ฟองกบั นา้ ตาล ฟองทผ่ี ิวหน้าของนา้ ตาล (การหยิบออก) มะพรา้ ว ใหต้ ักฟองออก สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
147 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเนอื้ ผสม การหยิบออก เพราะต้องการแยกแมลงตา่ ง ๆ ออกจากจั่นมะพร้าว การกรอง เพราะตอ้ งการแยกเอานา้ ตาลมะพร้าวซง่ึ เปน็ ของเหลวออกจาก เศษฝนุ่ และแมลงซึ่งเปน็ ของแขง็ การตกั ออก เพราะต้องการแยกเอาฟองซึ่งมีคราบสกปรกของนา้ ตาลซ่ึงเปน็ ของแข็งติดมากับฟองออกจากนา้ ตาลมะพร้าวซึ่งเป็นของเหลว นา้ ตาลปึกจะมเี ศษฝนุ่ และแมลงตา่ ง ๆ ปนอยู่ในกอ้ นน้าตาลด้วย การทาน้าตาลปึก ต้องใช้วธิ ีการแยกสารหลายวิธเี พื่อให้ผลิตภัณฑท์ ไี่ ดม้ ี คณุ ภาพ ไดแ้ ก่ การหยิบออกเปน็ การแยกแมลงออกจากจ่ันทาให้ไมม่ แี มลง ตกลงไปในกระบอกตาล การกรองเปน็ การแยกเศษฝ่นุ และแมลงออกจาก น้าตาล การตักออกเปน็ การแยกเอาคราบสกปรกท่ีปะปนอยใู่ นนา้ ตาล ออกไป ข้ันตอนวธิ กี ารตา่ ง ๆ นี้ช่วยทาใหน้ ้าตาลปกึ ทไ่ี ด้สะอาดและมี คณุ ภาพดี วธิ ีการแยกสารเนื้อผสมสามารถนาไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั ได้ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนือ้ ผสม 148 คาถามของนกั เรยี นทต่ี ้ังตามความอยากรขู้ องตนเอง สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
149 คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 การแยกสารเน้อื ผสม แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรขู้ องนกั เรียนทาได้ ดงั น้ี 1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชั้นเรยี น 2. ประเมนิ การเรียนรู้จากคาตอบของนักเรียนระหว่างการจดั การเรยี นรูแ้ ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรียน การประเมินจากการทากิจกรรมที่ 1.4 ใชป้ ระโยชน์จากการแยกสารเน้อื ผสม อย่างง่ายได้อยา่ งไร รหัส ส่งิ ทป่ี ระเมิน ระดบั คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C2 การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ C4 การส่ือสาร C5 คควา่าไมฟรฟ่วมา้ มือ รวมคะแนน สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเน้ือผสม 150 ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะ เกณฑก์ ารประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) วิทยาศาสตร์ S8 การลง การลงความเหน็ จาก สามารถนาข้อมลู ท่ี สามารถนาข้อมูลที่ สามารถนาข้อมูลที่ ความเห็นจาก ขอ้ มลู วธิ ีการแยกสาร วิเคราะห์ได้มาลง วเิ คราะห์ได้มาลง วเิ คราะหไ์ ด้มาลง ข้อมูล ในบทความ ความเหน็ เก่ียวกบั วธิ ีการ ความเห็นเกีย่ วกับ ความเหน็ เกยี่ วกบั แยกสารได้ถกู ต้องดว้ ย วิธีการแยกสารได้ วธิ ีการแยกสารได้ ตนเอง ถูกต้องจากการชแ้ี นะ ถกู ตอ้ งบางส่วนโดยได้ ของครหู รอื ผอู้ ื่น รบั คาชแี้ นะจากครู หรอื ผู้อืน่ S13 การ การตคี วามหมายข้อมูล สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย ตคี วามหมาย ข้อมูลจากการอา่ น ขอ้ มูลจากการอ่าน ข้อมูลและลง จากการอ่านบทความ ข้อมูลจากการอา่ น บทความและลง บทความและลง ข้อสรุป ขอ้ สรปุ ได้ถกู ต้องจาก ข้อสรุปได้ถกู ต้องแต่ไม่ และลงข้อสรปุ ไดว้ า่ บทความและลงขอ้ สรุป การช้ีแนะของครแู ละ ครบถว้ นแม้ว่าจะ ผอู้ ่นื วา่ วธิ ีการแยก ไดร้ บั การชแี้ นะจากครู วธิ กี ารแยกสารเนือ้ ผสม ได้ถกู ต้องดว้ ยตนเองว่า สารเน้ือผสมสามารถ หรือผู้อืน่ วา่ วิธีการ นาไปใช้ประโยชน์ใน แยกสารเน้อื ผสม สามารถนาไปใช้ วิธกี ารแยกสารเนอ้ื ผสม ชวี ิตประจาวันได้ สามารถนาไปใช้ ประโยชน์ใน ประโยชน์ สามารถนาไปใช้ ชีวติ ประจาวันได้ ในชวี ติ ประจาวันได้ ประโยชนใ์ น ชวี ติ ประจาวนั ได้ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
151 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนอื้ ผสม ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมินทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ทักษะแห่ง รายการประเมิน เกณฑ์การประเมิน ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) C2 การคิดอยา่ งมี การวิเคราะห์ข้อมลู สามารถวเิ คราะห์ข้อมลู สามารถวเิ คราะห์ข้อมลู สามารถวเิ คราะห์ข้อมูล วจิ ารณญาณ จากบทความและ จากบทความและบอก จากบทความและบอก จากบทความและบอก บอกประโยชนข์ อง ประโยชนข์ องวธิ กี าร ประโยชน์ของวธิ กี ารแยก ประโยชนข์ องวิธีการ วธิ ีการแยกสารเพ่ือ แยกสารเพ่ือนาไปใช้ใน สารเพอ่ื นาไปใช้ใน แยกสารเพื่อนาไปใช้ใน นาไปใช้ใน ชวี ิตประจาวันไดด้ ว้ ย ชวี ิตประจาวนั ได้ถกู ตอ้ ง ชีวติ ประจาวันได้บา้ ง ชีวิตประจาวัน ตนเอง โดยต้องอาศัยการช้ีแนะ แม้ว่าจะไดร้ ับการ จากครหู รือผู้อน่ื ชี้แนะจากครหู รอื ผูอ้ น่ื C4 การส่ือสาร การนาเสนอผลการ สามารถนาเสนอผลการ สามารถนาเสนอผลการ สามารถนาเสนอผลการ วิเคราะห์โดยการ วิเคราะห์วิธกี ารแยกสาร วิเคราะหว์ ิธีการแยกสาร วิเคราะห์วิธีการแยก บรรยาย โดยการบรรยายได้ โดยการบรรยายไดถ้ ูกต้อง สารโดยการบรรยายได้ ถกู ต้องดว้ ยตนเอง จากการชแ้ี นะของครูหรือ เพยี งบางส่วน แม้วา่ จะ ผู้อน่ื ไดร้ ับการชแี้ นะจากครู หรอื ผู้อ่ืน C5 ความร่วมมือ ทางานร่วมกับผูอ้ นื่ สามารถทางานรว่ มกบั สามารถทางานร่วมกบั สามารถทางานร่วมกับ ในการอภิปราย ผู้อน่ื ในการอภปิ ราย ผ้อู ื่นในการอภิปราย ผอู้ ื่นในการอภปิ ราย รวมทั้งยอมรับความ รวมทั้งยอมรับความ รวมท้ังยอมรับความ รวมทั้งยอมรับความ คิดเหน็ ของผู้อื่น คดิ เหน็ ของผู้อืน่ ต้ังแต่ คิดเหน็ ของผู้อ่ืนในบาง คิดเหน็ ของผู้อน่ื บาง เร่มิ ต้นจนสาเรจ็ ช่วงเวลาท่ีทากจิ กรรม ช่วงเวลาทีท่ ากิจกรรม ท้งั นีต้ อ้ งอาศัยการ กระตนุ้ จากครูหรือผ้อู น่ื สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนือ้ ผสม 152 กจิ กรรมท้ายบทที่ 1 การแยกสารเนือ้ ผสมอยา่ งง่าย (2 ชวั่ โมง) 1. ครูให้นักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้จากบทน้ี ในแบบบันทึก กจิ กรรมหนา้ 58 2. นักเรียนตรวจสอบการสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ ผงั มโนทัศน์ในหวั ขอ้ รู้อะไรในบทนี้ ในหนังสือเรียนหน้า 58 3. ครูให้นักเรียนดูภาพเสมือนจริงสามมิติ (AR) เกี่ยวกับการร่อนและการกรอง โดยใช้แอปพลิเคชันสาหรับการสังเกตภาพเสมือนจริงสามมิติ (AR) เร่ือง การรอ่ น หนา้ 58 และการกรอง หน้า 59 เปน็ สอ่ื ประกอบเพมิ่ เติม 4. นักเรียนกลับไปตรวจสอบคาตอบของตนเองในสารวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 36-37 อีกคร้ัง ถ้าคาตอบของนักเรียน ไม่ถกู ต้องให้ขีดเส้นทับข้อความเหลา่ น้นั แล้วแกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง หรืออาจแก้ไข คาตอบดว้ ยปากกาท่ีมสี ีตา่ งจากเดิม นอกจากน้ีครอู าจนาคาถามในรูปนาบท ในหนงั สอื เรียนหน้า 2 มารว่ มกันอภปิ รายคาตอบอกี ครง้ั ดังน้ี 4.1 การแยกสารเน้ือผสมอย่างง่ายมีวิธีใดบ้าง (การหยิบออก การร่อน การกรอง การตกตะกอน การใช้แม่เหลก็ ดึงดดู ) 4.2 การแยกสารเนื้อผสมอย่างง่ายมีประโยชน์ต่อชีวิตประจาวันอย่างไร (สามารถแยกเอาสารท่ีตอ้ งการนามาใชป้ ระโยชนอ์ อกจากสารอน่ื ๆ ทไี่ ม่ ต้องการได้ เช่น การกรองกะทิออกจากกากมะพร้าว การฝัดเปลือกข้าว ออกจากเมล็ดขา้ วสาร) 5. นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบทท่ี 1 การแยกสารเน้ือผสมอย่างง่าย ใน แบบบันทึกกิจกรรมหน้า 59-61 จากนั้นนาเสนอคาตอบหน้าชั้นเรียน ถ้าคาตอบยังไม่ถูกต้อง ครูควรนาอภิปรายหรือให้สถานการณ์เพิ่มเติมเพ่ือ แกไ้ ขแนวคดิ คลาดเคล่อื นให้ถูกตอ้ ง 6. นักเรียนร่วมกันทากิจกรรมร่วมคิด ร่วมทา โดยให้สารวจว่าในชุมชนมี กิจกรรมใดบ้างท่ีตอ้ งใช้การแยกสาร จากน้ันนาเสนอรายการกิจกรรมท่ีต้อง ใช้การแยกสารเป็นโปสเตอร์ 7. นักเรียนอ่านและอภิปรายเนื้อเรื่องในหัวข้อวิทย์ใกล้ตัว ในหนังสือเรียน หน้า 63 โดยครูกระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสาคัญของความรู้จากส่ิงที่ได้ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
153 คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเน้ือผม เรียนรู้ในหน่วยนี้ ว่าสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันได้อย่างไร บ้าง เช่น การกรองน้าที่ไม่สะอาดโดยใช้ขวดกรองน้าและหลอดกรองโดย กรองสง่ิ เจือปนออกจากน้าทาให้นา้ สะอาดนามาด่ืมได้ 8. นักเรียนร่วมกันตอบคาถามสาคัญประจาหน่วยอีกคร้ัง ดังน้ี การแยกสาร เน้อื ผสมมวี ธิ ีการและประโยชน์อยา่ งไร (การแยกสารเนื้อผสมสามารถทาได้ โดยวิธีการหยิบออก การร่อน การฝัด การกรอง การตกตะกอน การใช้ แม่เหล็กดึงดูด ซ่ึงวิธีการเหล่าน้ีนามาใช้ประโยชน์ในการแยกสารท่ีปะปน กนั ออกจากกันเพ่ือนาสารทีต่ อ้ งการไปใชป้ ระโยชน)์ ถ้าคาตอบยังไม่ถูกต้อง ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือให้ได้คาตอบท่ี ถกู ต้อง สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม 154 สรปุ ผลการเรียนรู้ของตนเอง รปู หรอื ข้อความสรปุ สิ่งท่ไี ด้เรียนรจู้ ากบทนต้ี ามความเข้าใจของนักเรยี น สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
155 คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเนอ้ื ผม แนวคาตอบในแบบฝึกหดั ทา้ ยบท ดนิ สอพองกบั นา้ การกรอง เศษเหล็กกับขยะ การใชแ้ ม่เหล็กดงึ ดดู ตะปูเหล็กกับ การใช้แมเ่ หลก็ ดึงดดู กรวด หรอื การหยบิ ออก เปลอื กถ่ัวลสิ งกบั การหยบิ ออก เมล็ดถ่ัวลิสง หรือการฝดั กากถัว่ เหลืองกับ การกรอง น้านมถว่ั เหลอื ง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 การแยกสารเน้ือผสม 156 พิจารณาจากลกั ษณะ สมบตั ิของสารท่ผี สมกันอยู่ นอกจากนย้ี ัง อาจพจิ ารณาจากความสะดวก ปริมาณสารท่ตี อ้ งการ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
157 คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม การกรองในข้นั ตอนการใชต้ ะแกรงคัด ของแข็งกบั ของเหลว การตกตะกอนในขัน้ ตอนการ ของแข็งกับของเหลว ตกตะกอนในถงั ตกตะกอน ของแข็งกับของเหลว การกรองตะกอนในบ่อกรอง สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346