ความนา กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาสงั่ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคาสั่งให้โรงเรียนดาเนินการใช้หลักสูตรในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดย ให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ , ๔ และ ม.๑ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของ ประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เพื่อให้สอดคล้องกับ นโยบายและเปา้ หมายของสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน โรงเรียนบ้านรามัน จึงได้ทาการปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนบ้านรามัน พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และได้จัดทาหลักสูตรท้องถิ่น เพื่อนาไปใช้ประโยชน์และเป็น กรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา คณุ ภาพ ผเู้ รยี น ใหม้ ีกระบวนการนาหลักสตู รไปสกู่ ารปฏบิ ัติ โดยมกี ารกาหนดวสิ ัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญ ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การ วัดประเมินผลให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนด ทิศทางในการ จัดทาหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางท่ี ชัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคม คุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จริง และ มีทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ หลักสูตรท้องถิ่นนี้จะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของ ผู้เรียนที่ชัดเจน ซึ่งจะสามารถช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตร ได้อย่างมั่นใจ ทาให้การจัดทาหลักสูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วย ให้เกิดความชัดเจนเรื่องการ วัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นในการพัฒนา หลักสูตรในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตาม มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชว้ี ัดทกี่ าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน รวมท้งั เป็นกรอบทิศทางใน การจดั การศกึ ษา ทกุ รปู แบบ และครอบคลมุ ผเู้ รียนทกุ กลมุ่ เป้าหมายในระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
การจัดหลักสตู รทอ้ งถิ่นจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวงั ได้ ทกุ ฝ่ายท่ีเกี่ยวขอ้ งทั้ง ระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่องในการวางแผน ดาเนินการส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาเยาวชนของชาติ ไปสู่คุณภาพตาม มาตรฐานการเรียนรทู้ ก่ี าหนดไว้ วสิ ัยทัศน์ โรงเรียนบ้านรามันเปน็ สถานศกึ ษาชนั้ นาของชมุ ชนทท่ี กุ ฝา่ ยรว่ มกนั จดั การศกึ ษาเพ่ือให้นักเรียนมีคุณภาพ ตามมาตรฐานการศกึ ษา บนพนื้ ฐานความเปน็ ไทย ภายใต้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง พนั ธกิจ ส่งเสริมและพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาโดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียโดยมุ่งจัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้น่าอยู่ ปลอดภัย และให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถและมี คุณลักษณะตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูและบุคลากรมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพ เปา้ หมาย 1. ปรับปรุงหลกั สตู รสถานศึกษาใหส้ อดคล้องกบั บริบทของชุมชนและความพงึ พอใจของครแู ละผู้ปกครอง 2. ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนในทุกกลุ่มสาระมคี ่าเฉล่ียรอ้ ยละของนกั เรยี นที่ได้รับระดบั ผลการเรยี น ๓-๔ ไม่ต่า กวา่ รอ้ ยละ ๗๐ ของทกุ ช้นั เรยี น 3. นกั เรยี นสามารถอา่ น เขยี น และคดิ วเิ คราะหไ์ ดร้ ะดบั ดี ไมต่ า่ กวา่ รอ้ ยละ ๖๐ 4. นกั เรยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและปฏบิ ตั ิตามหลกั ศาสนา 5. สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหบ้ ุคลากรได้รบั การพัฒนาและมขี วัญกาลังใจที่ดี 6. ครจู ัดกิจกรรมการเรยี นดารสอนทีห่ ลากหลายเพือ่ พฒั นาผู้เรยี น 7. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ การผลิตและใชส้ ื่อ เทคโนโลยีในการเรียนการสอน 8. สภาพแวดลอ้ มไดร้ บั การปรับปรุง ปลอดภัย สะอาด เรียบรอ้ ย สวยงามชมุ ชนสนบั สนนุ และร่วมจัด กิจกรรมสมา่ เสมอ เปา้ ประสงค์ 1. ผเู้ รียนทกุ คนมคี ณุ ภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นสูงขึน้ 2. ผู้เรียนทุกคนเปน็ บคุ คลทีม่ ีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม มีความรักในความเป็นชาตไิ ทย มคี วามเชอื่ มัน่ ในการ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์เป็นประมขุ มจี ิตสาธารณะและความรบั ผดิ ชอบต่อ สงั คม
3. ผู้เรียนทุกคนได้รับโอกาสในการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน รวมถงึ เดก็ ท่มี คี วามตอ้ งการเปน็ พิเศษ ต้งั แตช่ น้ั ปฐมวยั จนจบการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานอย่างมคี ุณภาพ 4. ครูและบุคลากรทุกคนได้รับการเสรมิ สร้างขวญั กาลงั ใจใหส้ ามารถปฏบิ ัติงานไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพเตม็ ตามศักยภาพ 5. บริหารจดั การมุ่งเนน้ ประสทิ ธภิ าพ มคี วามเขม้ แขง็ ตามหลกั ธรรมาภบิ าล ทุกฝา่ ยและผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี มี สว่ นรว่ มในการส่งเสรมิ สนับสนนุ การจดั การศกึ ษา 6. สถานศึกษาไดร้ ับการพฒั นาผู้เรียน พัฒนาหลกั สตู ร พฒั นาแหลง่ เรยี นรู้และสภาพแวดลอ้ มเอ้ือตอ่ การ เรียนรู้พร้อมนาสปู่ ระชาคมอาเซียน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน หลักสูตรโรงเรียนบ้านรามันมุง่ เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ สมรรถนะสาคญั คือ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรบั และสง่ สาร มีวฒั นธรรมในการใชภ้ าษาถ่ายทอด ความคดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรสู้ กึ และทศั นะของตนเองเพ่ือแลกเปลย่ี นขอ้ มูลขา่ วสารและประสบการณ์อัน จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมท้ังการเจรจาตอ่ รองเพ่ือขจัดและลดปญั หาความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ การเลอื กรับหรือไมร่ ับขอ้ มลู ข่าวสารด้วยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใชว้ ธิ ีการสอ่ื สาร ทม่ี ี ประสิทธภิ าพโดยค านึงถึงผลกระทบที่มตี อ่ ตนเองและสงั คม ๒. ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคดิ สังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การ คิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพอ่ื นาไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรู้หรือสารสนเทศเพอื่ การตัดสินใจ เกี่ยวกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา เป็นความสามารถในการแกป้ ญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชญิ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลกั เหตผุ ล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เขา้ ใจความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลงของ เหตุการณต์ ่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหา และมกี ารตดั สนิ ใจ ทีม่ ีประสิทธภิ าพโดยคานึงถงึ ผลกระทบที่เกดิ ขึน้ ต่อตนเอง สังคมและส่งิ แวดล้อม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ เปน็ ความสามารถในการน ากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรยี นรอู้ ย่างต่อเนอื่ ง การทางาน และการอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมด้วยการสรา้ ง เสริมความสัมพนั ธ์อนั ดรี ะหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขัดแย้งตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตวั ให้ทัน กบั การเปลยี่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จกั หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงคท์ ี่สง่ ผลกระทบ ต่อตนเองและผู้อ่นื
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยดี า้ นต่าง ๆ และมีทกั ษะ กระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่อื การพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรยี นรู้ การสอื่ สารการทางาน การ แก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ๓. มวี ินยั ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อยูอ่ ย่างพอเพียง ๖. มุง่ ม่ันในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มจี ติ สาธารณะ ทีต่ ั้งและสภาพชมุ ชนโรงเรยี นบา้ นรามนั โรงเรียนบ้านรามัน สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เป็น โรงเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบควบคุมดูแลในการบริหารงานของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 จังหวัดยะลา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ 2 งาน เป็นที่ดินของวัดสุนทรประชาราม ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 44 ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 1 ถนนเมืองรามัน ตาบลกายูบอเกาะ อาเภอรามัน จังหวัดยะลา ในเขตเทศบาลตาบลกายูบอ เกาะ จดั การศึกษาตง้ั แต่ ระดับอนุบาล – ประถมศึกษาปที ี่ 6 เริ่มตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2525 ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 75 ประกอบอาชีพธุรกิจการค้า ร้อย ละ 10 ประกอบอาชีพรับจ้าง ร้อยละ 9 ประกอบอาชีพรับราชการและอื่นๆ ร้อยละ 6 ประชากรมีรายได้ โดยเฉลี่ยต่อครอบครัว ต่อปี 30,000 บาท ซึ่งนักเรียนที่มาโรงเรียนนี้ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่อยู่ในชุมชน และ บริเวณใกล้เคียง ผู้ปกครองมีฐานะ ยากจน และส่วนใหญ่จะมีอาชีพเกษตรกรรม แต่ผู้ปกครองให้ความร่วมมือกับ ทางโรงเรยี นเป็นอย่างดี ปุ๋ยหมักเป็นปุ๋ยที่ได้จากการหมักสารอินทรีย์ให้สลายตัวผุพังตามธรรมชาติ สามารถพบเจอได้ในชุมชน โรงเรียนเหน็ คุณคา่ และความสาคัญของปยุ๋ หมัก จงึ ไดจ้ ัดทาหลกั สูตรท้องถนิ่ เร่ือง ปุ๋ยหมัก ขึ้นเพ่ือฝึกให้สอดคล้อง กบั แนวพระราชดาริ อีกทัง้ นกั เรียนได้ ปฏิบัตจิ ริงในเรือ่ งการท างาน การจัดการ เหน็ คุณคา่ และมเี จตคติท่ีดตี ่องาน ตลอดจนรู้จักการนาสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาเพิ่มคุณค่า เพิ่มรายได้ นักเรียนได้ออกแบบตามจินตนาการ ผู้เรียนรู้จัก พงึ่ ตนเอง ดารงชีวิตอย่ใู นสงั คมได้อย่างมคี วามสุขตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
คาอธบิ ายรายวิชา หลักสตู รทอ้ งถิ่น ปุย๋ หมัก ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๑๐ ช่วั โมง ศึกษาความรเู้ บื้องตน้ เก่ยี วกับลักษณะทั่วไปของปยุ๋ หมกั การนาซากพืช ซากสัตว์ทไี่ มม่ ีประโยชน์แล้วมา สรา้ งคณุ คา่ เป็นผลติ ภัณฑ์ ผเู้ รยี นสามารถเชอื่ มโยงเก่ยี วกบั อาชีพในคนในท้องถ่นิ การนาผลิตภณั ฑ์ออกสตู่ ลาดเพื่อ เพิ่มรายไดใ้ ห้กับผูเ้ รยี น การทาบญั ชรี ายรับ-รายจ่าย โดยใชก้ ระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ การทางานเป็นกล่มุ เห็นความสาคญั และประโยชนข์ องการ ทางานแลว้ นามาวิเคราะห์ วางแผน การลงพน้ื ที่สารวจในชุมชน ค้นควา้ รวบรวมข้อมูลเก่ยี วกับการแสวงหาความรู้ ดว้ ยวิธกี ารท่ีหลากหลาย เพื่อนกั เรยี นเกิดการเรยี นรู้ทใ่ี ชไ้ ดจ้ ริงในชมุ ชน มองเห็นความเป็นมาและความสาคัญของปุ๋ยหมกั เพอ่ื ให้ เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกดิ ทกั ษะการปฏบัติ มีความรับผดิ ชอบ มุ่งม่นั ในการทางาน พงึ่ พาตนเองโดยยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ ๑. ผู้เรยี นสมารถบอกถึงลักษณะทว่ั ไปของส่วนประกอบของปยุ๋ หมกั ได้ ๒. ผู้เรียนสามารถอธบิ ายประโยชนแ์ ละสรรพคุณของปุ๋ยหมักได้ ๓. ผเู้ รยี นเลอื กเครอ่ื งมือและวสั ดุอปุ กรณ์ในการทาปุ๋ยหมกั ได้ ๔. ผู้เรียนจาแนกซากพืช ซากสัตวได้ ๕. ผเู้ รียนสามารถทาบัญชรี ายรับ รายจา่ ยได้ รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรท้องถ่ิน ปยุ๋ หมัก โครงสร้างรายวชิ า เวลา ๑๐ ชว่ั โมง ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ หนว่ ยเรยี นร้ทู ี่ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา น้าหนักคะแนน สาระสาคญั (ชม.) ๑ ป๋ยุ หมักของฉนั -ปุ๋ยหมกั คือ ปุ๋ยทีไ่ ด้จากการหมกั ๒ ๒๐ สารอนิ ทรยี ์ใหส้ ลายตัวผุพังตาม ธรรมชาติ ๔ ๔๐ ๒ ประโยชน์ของปุย๋ หมกั -การใช้ปยุ๋ หมกั ในการเตรียมแปลง ๔ ๔๐ ในการปลูกผกั และพืชไร่และไม้ดอก ๑๐ ๑๐๐ -ใชเ้ ปน็ ปยุ๋ แต่งหน้า -การใช้ปยุ๋ หมกั กบั การปลกู พืชผกั และไมด้ อกไมป้ ระดับในภาชนะปลูก -การใชป้ ุ๋ยหมกั กบั ไม้ผล ๓ ผู้ประกอบการ จะช่วยให้ มปี ยุ๋ ทใี่ ช้สาหรับ การเกษตรตลอดทั้งปแี ละแกไ้ ข ปญั หาการขาดแคลนป๋ยุ ทั้งน้ียงั เปน็ การประหยัดและเพ่มิ รายไดใ้ หก้ บั ครอบครวั ได้เปน็ อยา่ งดี รวม
คาอธบิ ายรายวชิ า หลกั สตู รท้องถนิ่ ปยุ๋ หมัก ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา ๑๐ ชั่วโมง ศึกษาความรูเ้ บอ้ื งตน้ เกีย่ วกับลักษณะท่ัวไปของปยุ๋ หมัก การนาซากพืช ซากสัตวท์ ี่ไมม่ ีประโยชนแ์ ล้วมา สร้างคณุ ค่าเป็นผลิตภัณฑ์ ผู้เรียนสามารถเชือ่ มโยงเกีย่ วกบั อาชพี ในคนในทอ้ งถนิ่ การนาผลติ ภัณฑ์ออกสูต่ ลาดเพือ่ เพิ่มรายไดใ้ หก้ ับผ้เู รยี น การทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย โดยใช้กระบวนการทางานอยา่ งเป็นระบบ การทางานเป็นกลมุ่ เห็นความสาคญั และประโยชนข์ องการ ทางานแล้วนามาวเิ คราะห์ วางแผน การลงพนื้ ทีส่ ารวจในชมุ ชน คน้ คว้ารวบรวมข้อมูลเก่ยี วกบั การแสวงหาความรู้ ด้วยวธิ กี ารที่หลากหลาย เพ่อื นักเรียนเกิดการเรยี นรทู้ ี่ใชไ้ ด้จริงในชุมชน มองเห็นความเปน็ มาและความสาคัญของปุ๋ยหมกั เพือ่ ให้ เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดทกั ษะการปฏบตั ิ มีความรับผิดชอบ มงุ่ มั่นในการทางาน พึ่งพาตนเองโดยยดึ หลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ ๑. ผู้เรยี นสมารถบอกถงึ ลกั ษณะทว่ั ไปของสว่ นประกอบของปยุ๋ หมกั ได้ ๒. ผู้เรียนสามารถอธบิ ายปจั จยั ทจ่ี าเปน็ ตอ่ การทาป๋ยุ หมักได้ ๓. ผู้เรียนสามารถเลอื กเคร่อื งมอื และวสั ดุอุปกรณ์ในการทาปุ๋ยหมักได้ ๔. ผเู้ รยี นสามารถจาแนกซากพืช ซากสัตว์ได้ ๕. ผู้เรียนสามารถทาบญั ชีรายรบั รายจ่ายได้ รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รท้องถ่ิน ปยุ๋ หมัก โครงสร้างรายวชิ า เวลา ๑๐ ชวั่ โมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ หน่วยเรียนรูท้ ี่ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา น้าหนักคะแนน สาระสาคัญ (ชม.) ๑ ปยุ๋ หมักของฉัน ปยุ๋ หมัก คอื ปยุ๋ ทีไ่ ดจ้ ากการหมกั ๒ ๒๐ สารอินทรีย์ใหส้ ลายตัวผุพังตาม ธรรมชาติ ๔ ๔๐ ๒ ปจั จัยทจี่ าเป็นตอ่ การเลือกสถานท่ีทจ่ี ะใช้ในการทาป๋ยุ ๔ ๔๐ การทาปยุ๋ หมัก หมกั ๑๐ ๑๐๐ ๓ ผู้ประกอบการ จะชว่ ยให้ มปี ยุ๋ ท่ีใชส้ าหรับ การเกษตรตลอดทัง้ ปีและแกไ้ ข ปญั หาการขาดแคลนปยุ๋ ทัง้ นี้ยงั เป็น การประหยดั และเพิ่ม รายได้ให้กบั ครอบครวั ไดเ้ ปน็ อย่างดี รวม
คาอธบิ ายรายวชิ า หลักสตู รทอ้ งถิ่น ปุย๋ หมัก ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๑๐ ชัว่ โมง ศึกษาความรเู้ บื้องตน้ เก่ยี วกับลกั ษณะท่ัวไปของปุ๋ยหมัก การนาซากพชื ซากสัตว์ที่ไมม่ ปี ระโยชนแ์ ล้วมา สรา้ งคณุ คา่ เป็นผลติ ภัณฑ์ ผเู้ รยี นสามารถเช่ือมโยงเกี่ยวกับอาชพี ในคนในท้องถ่นิ การนาผลติ ภณั ฑอ์ อกส่ตู ลาดเพือ่ เพิ่มรายไดใ้ ห้กับผูเ้ รยี น การทาบญั ชรี ายรับ-รายจา่ ย โดยใชก้ ระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ การทางานเป็นกล่มุ เห็นความสาคญั และประโยชน์ของการ ทางานแลว้ นามาวิเคราะห์ วางแผน การลงพนื้ ทส่ี ารวจในชมุ ชน ค้นควา้ รวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั การแสวงหาความรู้ ดว้ ยวธิ กี ารท่ีหลากหลาย เพื่อนกั เรยี นเกิดการเรยี นร้ทู ใี่ ช้ได้จริงในชุมชน มองเหน็ ความเปน็ มาและความสาคัญของป๋ยุ หมกั เพ่ือให้ เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกดิ ทกั ษะการปฏบตั ิ มีความรบั ผิดชอบ มงุ่ มน่ั ในการทางาน พ่ึงพาตนเองโดยยดึ หลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ ๑. ผู้เรยี นสมารถบอกถึงลกั ษณะท่วั ไปของสว่ นประกอบของปยุ๋ หมกั ได้ ๒. ผู้เรียนสามารถอธบิ ายการเตรียมวัสดกุ ารทาปุ๋ยหมักได้ ๓. ผเู้ รยี นเลอื กเครอ่ื งมือและวัสดุอปุ กรณ์ในการทาปุ๋ยหมักได้ ๔. ผู้เรียนจาแนกซากพืช ซากสตั วได้ ๕. ผเู้ รียนสามารถทาบัญชรี ายรบั รายจ่ายได้ รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรทอ้ งถ่ิน ปยุ๋ หมัก โครงสร้างรายวิชา เวลา ๑๐ ชวั่ โมง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓ หน่วยเรยี นรูท้ ี่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ เวลา น้าหนักคะแนน สาระสาคญั (ชม.) ๑ ป๋ยุ หมักของฉัน ปุ๋ยหมัก คือ ปุ๋ยที่ได้จากการหมัก ๒ ๒๐ สารอินทรีย์ให้สลายตัวผุพังตาม ธรรมชาติ ๔ ๔๐ ๒ การเตรียมวสั ดุ -ซากพืช ๔ ๔๐ -ซากสัตว์ ๑๐ ๑๐๐ -ปยุ๋ เคมี -ปนู ขาว -อุปกรณ์ตา่ งๆทใ่ี ชใ้ นการผลติ ป๋ยุ ๓ ผู้ประกอบการ จะช่วยให้ มีปุ๋ยที่ใช้สาหรับการเกษตร ตลอดทั้งปีและแก้ไขปัญหาการขาด แคลนปุ๋ย ทั้งนี้ยังเป็นการประหยัด และเพิ่ม รายได้ให้กับครอบครัวได้ เปน็ อย่างดี รวม
คาอธบิ ายรายวชิ า หลักสูตรท้องถิน่ ป๋ยุ หมกั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑๐ ชั่วโมง ศึกษาความรูเ้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกับลกั ษณะทัว่ ไปของปยุ๋ หมัก การนาซากพืช ซากสตั ว์ทีไ่ มม่ ีประโยชน์แลว้ มา สร้างคณุ ค่าเปน็ ผลิตภัณฑ์ ผเู้ รยี นสามารถเชอ่ื มโยงเกี่ยวกับอาชพี ในคนในทอ้ งถ่นิ การนาผลติ ภณั ฑอ์ อกส่ตู ลาดเพือ่ เพมิ่ รายไดใ้ หก้ ับผเู้ รยี น การทาบัญชรี ายรบั -รายจ่าย โดยใชก้ ระบวนการทางานอย่างเปน็ ระบบ การทางานเป็นกลุ่ม เห็นความสาคญั และประโยชน์ของการ ทางานแล้วนามาวเิ คราะห์ วางแผน การลงพืน้ ทส่ี ารวจในชมุ ชน คน้ ควา้ รวบรวมข้อมลู เกีย่ วกับการแสวงหาความรู้ ด้วยวิธีการทห่ี ลากหลาย เพื่อนักเรยี นเกดิ การเรียนรู้ท่ใี ชไ้ ดจ้ รงิ ในชุมชน มองเหน็ ความเป็นมาและความสาคญั ของปุย๋ หมัก เพอื่ ให้ เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ เกิดทักษะการปฏบัติ มีความรับผิดชอบ มงุ่ มั่นในการทางาน พ่ึงพาตนเองโดยยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ ๑. ผูเ้ รยี นสมารถบอกถึงลกั ษณะทั่วไปของส่วนประกอบของป๋ยุ หมักได้ ๒. ผเู้ รยี นสามารถอธิบายข้ันตอนการกองปยุ๋ หมักได้ ๓. ผเู้ รยี นเลอื กเครื่องมือและวัสดอุ ปุ กรณใ์ นการทาปุย๋ หมักได้ ๔. ผู้เรียนจาแนกซากพืช ซากสตั ว์ได้ ๕. ผูเ้ รียนสามารถทาบัญชีรายรบั รายจา่ ยได้ รวม ๕ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรทอ้ งถนิ่ ปยุ๋ หมัก โครงสรา้ งรายวชิ า เวลา ๑๐ ชั่วโมง ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ หนว่ ยเรยี นรทู้ ี่ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา นา้ หนักคะแนน สาระสาคญั (ชม.) ๑ ปุย๋ หมกั ของฉัน -ปุ๋ยหมัก คือ ปุ๋ยที่ได้จากการหมัก ๒ ๒๐ สารอินทรีย์ให้สลายตัวผุพังตาม ธรรมชาติ ๔ ๔๐ ๒ ทาปุย๋ หมักอยา่ งไรดี ขั้นตอนการกองปุ๋ยหมัก ในการทา ๔ ๔๐ ปุ๋ยหมักมีการเรียงลาดับวิธีการ ข้นั ตอนต่าง ๆ ๑๐ ๑๐๐ ๓ ผปู้ ระกอบการ จะช่วยให้ มีปุ๋ยที่ใช้ส าหรับ การเกษตรตลอดทั้งปีและแก้ไข ปัญหาการขาดแคลนปุ๋ย ทั้งนี้ยัง เป็นการประหยัดและเพิ่ม รายได้ ใหก้ บั ครอบครวั ได้เป็นอย่างดี รวม
คาอธิบายรายวิชา หลักสูตรท้องถิน่ ป๋ยุ หมกั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๑๐ ช่วั โมง ศึกษาความรูเ้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกบั ลกั ษณะทว่ั ไปของปุย๋ หมกั การนาซากพืช ซากสตั วท์ ไ่ี มม่ ีประโยชน์แล้วมา สร้างคณุ ค่าเปน็ ผลิตภัณฑ์ ผเู้ รยี นสามารถเชือ่ มโยงเกี่ยวกับอาชพี ในคนในท้องถิ่น การนาผลติ ภณั ฑอ์ อกสูต่ ลาดเพ่อื เพมิ่ รายไดใ้ หก้ ับผเู้ รยี น การทาบัญชีรายรบั -รายจา่ ย โดยใชก้ ระบวนการทางานอยา่ งเป็นระบบ การทางานเป็นกลุ่ม เห็นความสาคญั และประโยชนข์ องการ ทางานแล้วนามาวเิ คราะห์ วางแผน การลงพื้นท่ีสารวจในชุมชน คน้ คว้ารวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั การแสวงหาความรู้ ด้วยวิธีการทห่ี ลากหลาย เพื่อนักเรยี นเกดิ การเรยี นรู้ท่ีใช้ไดจ้ ริงในชุมชน มองเห็นความเป็นมาและความสาคัญของปยุ๋ หมัก เพื่อให้ เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ เกิดทักษะการปฏบัติ มคี วามรบั ผิดชอบ มุ่งมนั่ ในการทางาน พึ่งพาตนเองโดยยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรยี นรู้ ๑. ผูเ้ รยี นสมารถบอกถึงลกั ษณะทวั่ ไปของส่วนประกอบของปุ๋ยหมักได้ ๒. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายการดแู ลรกั ษาปุย๋ หมักได้ ๓. ผเู้ รยี นเลอื กเคร่ืองมอื และวสั ดอุ ุปกรณ์ในการทาป๋ยุ หมกั ได้ ๔. ผู้เรียนจาแนกซากพชื ซากสตั ว์ได้ ๕. ผูเ้ รียนสามารถทาบัญชีรายรับ รายจ่ายได้ รวม ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรท้องถน่ิ ปุย๋ หมัก โครงสร้างรายวชิ า เวลา ๑๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ หนว่ ยเรียนรทู้ ่ี ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ เวลา น้าหนกั คะแนน สาระสาคญั (ชม.) ๑ ปุ๋ยหมักของฉนั ปุ๋ยหมัก คือ ปุ๋ยที่ได้จากการหมัก ๒ ๒๐ สารอินทรีย์ให้สลายตัวผุพังตาม ธรรมชาติ ๔ ๔๐ ๒ การเอาใจใส่ด้วย การดูแลรักษาปุ๋ยหมัก เพื่อให้ ๔ ๔๐ ความรัก ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพต่อการใช้ งาน ๑๐ ๑๐๐ ๓ ผู้ประกอบการ จะช่วยให้ มีปุ๋ยที่ใช้สาหรับการเกษตร ตลอดทั้งปีและแก้ไขปัญหาการขาด แคลนปุ๋ย ทั้งนี้ยังเป็นการประหยัด และเพิ่ม รายได้ให้กับครอบครัวได้ เป็นอย่างดี รวม
คาอธิบายรายวชิ า หลกั สตู รท้องถ่ิน ปุย๋ หมัก ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๑๐ ชว่ั โมง ศึกษาความรู้เบ้อื งต้นเก่ยี วกับลกั ษณะทั่วไปของป๋ยุ หมัก การนาซากพืช ซากสัตว์ที่ไมม่ ีประโยชนแ์ ล้วมา สร้างคณุ ค่าเปน็ ผลิตภณั ฑ์ ผ้เู รียนสามารถเชอ่ื มโยงเกี่ยวกบั อาชีพในคนในท้องถนิ่ การนาผลติ ภณั ฑ์ออกสู่ตลาดเพ่ือ เพ่มิ รายได้ให้กบั ผู้เรียน การทาบัญชีรายรับ-รายจา่ ย โดยใชก้ ระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ การทางานเป็นกลุ่ม เห็นความสาคญั และประโยชนข์ องการ ทางานแล้วนามาวิเคราะห์ วางแผน การลงพนื้ ทส่ี ารวจในชุมชน คน้ คว้ารวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกบั การแสวงหาความรู้ ด้วยวธิ ีการทีห่ ลากหลาย เพ่ือนักเรียนเกิดการเรยี นรู้ท่ใี ช้ไดจ้ ริงในชมุ ชน มองเหน็ ความเป็นมาและความสาคญั ของปยุ๋ หมัก เพอ่ื ให้ เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะการปฏบัติ มคี วามรับผิดชอบ มงุ่ มนั่ ในการทางาน พ่ึงพาตนเองโดยยึดหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรียนรู้ ๑. ผู้เรยี นสมารถบอกถงึ ลักษณะทัว่ ไปของส่วนประกอบของปยุ๋ หมกั ได้ ๒. ผูเ้ รยี นสามารถอธิบายลักษณะปยุ๋ หมกั ท่นี าไปใชไ้ ด้แลว้ ๓. ผเู้ รยี นเลอื กเครื่องมอื และวสั ดอุ ุปกรณใ์ นการทาปุ๋ยหมกั ได้ ๔. ผู้เรยี นสามารถทาบญั ชีรายรบั รายจา่ ยได้ รวม ๔ ผลการเรยี นรู้
โครงสร้างรายวิชา หลกั สตู รทอ้ งถ่นิ ปยุ๋ หมกั ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๑๐ ชว่ั โมง หนว่ ยเรยี นรู้ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั คะแนน (ชม.) ๑ ปยุ๋ หมกั ของฉนั ปุ๋ยหมัก คือ ปุ๋ยที่ได้จากการหมัก สารอินทรีย์ให้สลายตัวผุพังตาม ๒ ๒๐ ธรรมชาติ ๒ เด้กน้อยชา่ ง ลักษณะปุ๋ยหมักที่นาไปใช้ได้แล้ว ให้ดู สงั เกต ปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลให้มองเห็นว่าปุ๋ย ๔ ๔๐ ท่หี มักนน้ั สามารถนาไปใชไ้ ดแ้ ล้ว ๓ ผู้ประกอบการ จะช่วยให้ มีปุ๋ยที่ใช้สาหรับการเกษตร ตลอดทั้งปีและแก้ไขปัญหาการขาด แคลนปุ๋ย ทั้งนี้ยังเป็นการประหยัด ๔ ๔๐ และเพิ่ม รายได้ให้กับครอบครัวได้ เป็นอย่างดี รวม ๑๐ ๑๐๐
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: