รส วรรณคดี ไทย
เสาวรจนี นารียป์ ราโมทย์ ชมความงาม บทเก้ียวพาราสี บทท่ีแสดง ความรักใคร่ เหลือบเห็นกวางขาดาขลบั งามสรรสะพรั่งดงั เลขา งามเขาเป็นก่ิงกาญจนา งามนิลรัตนร์ ูจี นอ้ งเอยนอ้ งรัก นวลละลองผอ่ งพกั ตร์เพยี งแขไข งามองคท์ รงลกั ษณ์วไิ ล พิศไหนสารพนั เป็นขวญั ตา คอก่งเป็นวงราววาด รูปสะอาดคราวนางสาอางศรี เหลียวหนา้ มาดูภูมี งามดงั นารีชาเลืองอาย พี่หวงั จากไมตรีจิต รักร่วมสนิทเสน่หา ยามวงิ่ ลิ่วล้าดงั ลมส่ง ตดั ตรงทุ่มพลนั ผนั ผาย ควรฤๅดวงใจไม่เมตตา แต่จะตอบวาจากไ็ มม่ ี ช่างผนิ ผนั หนั หลงั ไม่แลดู โฉมตรูขดั ใจส่ิงไรพ่ี เชิญชะมา้ ยชายตามาทางน้ี จะสะบดั เบือนหนีพ่ียาไย
พโิ รธวาทงั สลั ปังคพไิ สย ความโกธร/ความข่นุ เคือง ความเศร้าโศกา เมื่อรักกนั ไม่ไดก้ ไ็ มร่ ัก ไมเ่ ห็นจกั เกรงการสถานไหน ลาดวนเอยจะด่วนไปก่อนแลว้ ท้งั เกดแกว้ พกิ ลุ ยสี่ ุ่นสี จะ ไมร่ ักเราเราจกั ไมร่ ักใคร เอะ๊ น้าตาเราไหลทาไมฤา โรยร้างห่างกลิ่นมาลี จาปี เอ๋ยก่ีปี จะมาพพ จะเจบ็ จาไปถึงปรโลก ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย เคยหมอบใกลไ้ ดก้ ล่ินสุคนธ์ต ละอองอบรสร่ืนช่ืนนาสา จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย อยา่ หมายวา่ จะใหห้ วั ใจหวั ใจ สิ้นแผน่ ดินสิ้นรสสุค วาสนาเรากส็ ิ้นเหมือนกล่ินสุคนธ์
วรรณคดีสนั สกฤต ศฤงคารรส ศฤงคารรส (รสแห่งความรัก) เป็นการพรรณวามรัก ระหวา่ งหนุ่มสาวระหวา่ งสามี ภรรยา ระหวา่ งผใู้ หญ่ กบั ผนู้ อ้ ย บิดามารดากบั บุตร ญาติกบั ญาติ ฯลฯ สามารถทาใหผ้ อู้ ่าน พอใจรัก เห็นคุณค่าของความ รักนึกอยากรักกบั เขาบา้ ง ..ถึงไปกไ็ ม่อยนู่ าน เยาวม์ าลยอ์ ยา่ โศกเศร้าหมอง พระจุมพติ ชิดเชยปรางทอง กรประคองนฤมลข้ึนบน เพลาฯ ในบทน้ี เน้ือความจะคลา้ ยกบั ตวั อยา่ งที่ยกไวใ้ นรสนารี ปราโมทย์ คือตนกย็ งั รักจินตะหราอยู่ ไม่ไดห้ นีหน่ายไปไหน ขอจินตะหราอยา่ โศกเศร้าเสียใจไปเลย
หาสยรส กรุณารส หาสยรส (รสแห่งความขบขนั )เป็นการพรรณนาท่ีทา กรุณารส (รสแห่งความเมตตากรุณาที่เกิดภายหลงั ใหเ้ กิดความร่าเริง สดช่ืน เสนาะ ขบขนั อาจทาให้ ความเศร้าโศก) เป็นบทพรรณนาท่ีทาใหผ้ อู้ า่ นหดหู่ ผอู้ า่ น ผดู้ ูยมิ้ กบั หนงั สือ ยมิ้ กบั ภาพท่ีเห็น ถึงกบั ลืม เหี่ยวแหง้ เกิดความเห็นใจถึงกบั น้าตาไหล พลอย ทุกขด์ บั กลมุ้ ไปชว่ั ขณะ เป็นทุกข์ เอาใจช่วยตวั ละคร เช่น เห็นใจนางสีดา เห็น บา้ งบ่าวเขา้ คนละบ่าพานายวงิ่ ประเจียดเคร่ือง ใจจรกา และเห็นใจนางวนั ทอง เปล้ืองทิ้งไวเ้ กล่ือนกล่น ซุกซนดน้ ไปแต่ บา้ งหนามเกี่ยวหวั หูไมร่ ู้ตน ร้ือตื่นเสียงเพ่อื นกนั แต่การศึกคร้ังน้ีไมค่ วรเป็น เกิดเขญ็ เพราะลกู ลาพงั อตุ ส่าห์คลานเซซงั อปั ลกั ษณ์ จึงหกั ใหส้ าสมใจ บา้ งเททิ้งไถข้ า้ วเขนงปื น จะมีคู่ผชู้ ายกไ็ ม่รัก ขา้ ง หลงั ท่ีถูกปื นป่ วยขาละลา้ ละลงั ซุกไปฯ
รุทรรส วรี รส รุทรรส (รสแห่งความโกรธเคือง) บทบรรยายหรือ วรี รส (รสแห่งความกลา้ หาญ) บทบรรยายหรือ พรรณนาที่ทาใหผ้ ดู้ ูผอู้ ่านขดั ใจฉุนเฉียว ขดั เคือง พรรณาท่ีทาใหผ้ อู้ า่ น ผดู้ ู ผฟู้ ังพอใจผลงานและ บุคคลบางคนในเร่ือง บางทีถึงกบั ขวา้ งหนงั สือทิ้ง หนา้ ท่ี ไมด่ ูหม่ินงาน อยากเป็นใหญ่ อยากร่ารวย หรือฉีกตอนน้นั กม็ ี เช่น โกรธขนุ ชา้ ง โกรธชูชก(บาลี อยากมีช่ือเสียง เลียนแบบสมเดจ็ พระนเรศวร ชอบ เรียกรสน้ีวา่ โกธะ) ความมีขตั ติมานะของพระมหาอปุ ราชา จากเร่ือง เมื่อน้นั ทา้ วกะหมงั กหุ นิงนเรนทร์สูร ลิลิตตะเลงพา่ ย ไดฟ้ ังท้งั สองทูตทูล ใหอ้ าดูรเดือดใจดงั่ ไฟฟ้า จึงบญั ชาตรัสดว้ ยขดั เคือง ดูดู๋เจา้ เมืองดาหา ...จะต้งั หนา้ อาสาชิงชยั มิไดย้ อ่ ทอ้ ถอยหลงั เราอ่อนงอ้ ขอไปในสารา แต่จะวา่ รับไวก้ ไ็ มม่ ี สูต้ ายไม่เสียดายชีวงั กวา่ จะสิ้นชีวงั ของขา้ น้ีฯ
ภยานกรส พีภตั สรส ภยานกรส (รสแห่งความกลวั ต่ืนเตน้ ตกใจ) บทบรรยาย พีภตั สรส (รสแห่งความชงั ความรังเกียจ) บท หรือพรรณาท่ีทาใหผ้ อู้ า่ นผฟู้ ัง ผดู้ ู มองเห็นทุกข์ เห็นโทษ บรรยายหรือพรรณนาท่ีทาใหผ้ อู้ า่ นผดู้ ู ผฟู้ ังชงั น้าหนา้ เห็นภยั ในบาปกรรมทุจริต เกิดความสะดุง้ กลวั โรคภยั ตวั ละครบา้ งตวั เพราะจิต(ของตวั ละคร) บา้ ง เพราะ สัตวร์ ้าย ภตู ผปี ี ศาจ บางคร้ังตอ้ งหยดุ อา่ น รูส้ ึกขนลุกซู่ ความโหดร้ายของตวั ละครบา้ งเช่น เกลียดนางผเี ส้ือ สมทุ ร ในเรื่องพระอภยั มณีที่ฆ่าพอ่ เงือก เป็นตน้ (บาลี อา่ นเร่ือง ผตี า่ งๆ เรียกรสน้ีวา่ ชิคุจฉะรส) เห็นระตูถอยเทา้ กา้ วผดิ พระกรายกริชแทงอกตลอดหลงั ลม้ ลงด่าวดิ้นสิ้นกาลงั มอดมว้ ยชีวงั ปลดปลงฯ
อพั ภูตรส ศานติรส อพั ภูตรส (รสแห่งความพศิ วงประหลาดใจ) บท ศานติรส (รสแห่งความสงบ) อนั เป็นอุดมคติของ บรรยายหรือพรรณนาท่ีทาใหน้ ึกแปลกใจ เอะใจ เร่ือง เช่น ความสงบสุขในแดนสุขาวดี ในเร่ือง วา อยา่ งหนกั ต่ืนเตน้ นึกไม่ถึงวา่ เป็นไปได้ เช่นน้นั สิฏฐี อนั เป็นผลมงุ่ หมายทางโลก และทางธรรม เป็น หรือ อศั จรรยค์ าดไมถ่ ึงในความสามารถ ในความคม ผลใหผ้ อู้ ่าน ผดู้ ู ผฟู้ ัง เกิดความสุขสงบ ในขณะได้ คายของคารม ในอุบายหรือในศิลปวทิ ยาคุณแปลกใจ เห็นไดฟ้ ัง ตอนน้นั ดว้ ย (บาลีเรียกรสน้ีวา่ สมะรส) ในสุปฎิบตั ิ (ความประพฤติท่ีดีงาม) แห่งขนั ติ เมตตา กตญั ญู อนั ยากยงิ่ ท่ีคนธรรมดาจะทาได้ (รสน้ีบาลี เรียก วมิ หะยะรส)
สมาชิก 1.นาย ธราเทพ ประทีปทอง ม.6/9 เลขที่6 ขอบคณุ คะ่ 2.นาย ธิติพล ฉตั รนภารัตน์ ม.6/9 เลขท่ี14 3.นางสาว วาทินี พลูสมบตั ิ ม.6/9 เลขท่ี28 4.นางสาว ฐิมณฑา โพธสาขา ม.6/9 เลขท่ี29 5.นางสาว พชั ร์สุรีย์ บุญศรีสุวรรณ ม.6/9 เลขที่31 6.นางสาว สิริยากร อยโู่ พธ์ิ ม.6/9 เลขที่37
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: