Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมกฎหมาย อนุบัญญัติ

รวมกฎหมาย อนุบัญญัติ

Published by Guset User, 2022-06-30 07:23:52

Description: รวมกฎหมาย อนุบัญญัติ

Search

Read the Text Version

รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ติ ามพระราชบญั ญตั สิ ขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และทีแ่ กไ้ ขเพมิ่ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ISBN : 978-974-296-957-8 พิมพ์คร้ังที่ ๑ : มถิ นุ ายน ๒๕๖๕ จ�ำนวนพมิ พ์ : ๑,๐๐๐ เล่ม ทีป่ รึกษา : นพ.มล.สมชาย จกั รพนั ธ ์ุ ประธานทปี่ รกึ ษารฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงสาธารณสขุ นพ.ยงยทุ ธ วงศ์ภริ มย์ศานต ิ์ ท่ปี รกึ ษากรมสขุ ภาพจติ นพ.บญุ ชยั นวมงคลวัฒนา ท่ีปรกึ ษากรมสขุ ภาพจิต พญ.อมั พร เบญจพลพทิ กั ษ ์ อธบิ ดกี รมสุขภาพจิต นายดนัย สวุ รรณา นติ ิกร เช่ียวชาญเฉพาะ บรรณาธกิ าร : ดร.พญ.เบ็ญจมาส พฤกษ์กานนท์ ผู้อ�ำนวยการสำ� นกั งานเลขานุการคณะกรรมการสุขภาพจติ แหง่ ชาติ รองบรรณาธกิ าร : นางชนันรตั น ์ นวพลพฒั น์ รองผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานเลขานกุ ารคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แหง่ ชาติ ผู้ชว่ ยบรรณาธิการ : นายธนากร เทาศริ ิ นกั วชิ าการสาธารณสขุ ปฏบิ ตั กิ าร นางสาวสมหญงิ เหงา้ มูล นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผน นางขนษิ ฐา คลา้ ยมาก นักจัดการงานทวั่ ไป นางสาวมณีรัตน ์ เช้ือเพชร นกั จดั การงานทัว่ ไป จัดท�ำโดย : สำ� นักงานเลขานุการคณะกรรมการสุขภาพจติ แหง่ ชาติ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข โทร. ๐ ๒๕๙๐ ๘๑๓๐ พิมพท์ ี่ : บรษิ ัท บยี อนด์ พับลิสชิ่ง จำ� กัด โทร. ๐ ๒๖๗๒ ๒๕๓๔-๕ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบญั ญัติ หา้ มลอกเลยี นแบบสว่ นหน่ึงสว่ นใดของหนงั สอื เล่มน้ี โดยไม่ได้รบั อนญุ าตจากเจา้ ของลขิ สิทธ์ิ

ค�ำนำ� พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ประกาศในราชกิจจา นุเบกษา เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๓๖ ก ลงวนั ท่ี ๒๐ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ มผี ลบงั คับใช้ เม่อื ๒๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๑ หลงั จากนัน้ ๖ ปี จึงไดเ้ ร่มิ ดำ� เนินการแก้ไขเพิม่ เติม กฎหมาย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ มีผลบงั คบั ใชว้ ันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ซงึ่ พระราชบญั ญตั สิ ขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ มีสาระสำ� คญั ๖ หมวด คือ คณะกรรมการ สทิ ธิผปู้ ว่ ย การบำ� บดั รกั ษาทางสขุ ภาพจติ การอทุ ธรณ์ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี และบทกำ� หนดโทษ บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้มุ่งหมายในการสร้างเสริม ป้องกัน และการควบคุมปัจจัยท่ีคุกคามสุขภาพจิต การคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่มี ความผดิ ปกติ การเขา้ ถงึ บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพจติ และการอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คอยา่ งปกตสิ ขุ โดยค�ำนึงถึงหลักการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชน ในทุกภาคสว่ นตลอดจนกำ� หนดห้ามสอ่ื ทกุ ประเภทเผยแพรข่ อ้ มลู ใด ๆ ที่ท�ำให้ เกิดความรังเกียจเดียดฉันท์ หรือความเสียหายแก่จิตใจ ช่ือเสียง เกียรติคุณ ของผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งก�ำหนดให้สถานบ�ำบัดรักษาแต่ละแห่งให้สามารถ มคี ณะกรรมการสถานบำ� บดั รกั ษาไดม้ ากกวา่ หนงึ่ คณะเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรวดเรว็ ในการปฏิบัติงาน อันเป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพการบ�ำบัดรักษาและการฟื้นฟู สมรรถภาพของผปู้ ว่ ย และแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ บทกำ� หนดโทษ และบทบญั ญตั เิ กยี่ วกบั การเปรยี บเทยี บให้เหมาะสม กรมสุขภาพจิต โดยส�ำนักงานเลขานุการคณะกรรมการสุขภาพจิต แหง่ ชาติ ขอขอบคณุ คณะอนกุ รรมการปรบั ปรงุ แกไ้ ขกฎหมายวา่ ดว้ ยสขุ ภาพจติ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องส�ำหรับเวลากว่า ๒ ปีในการจัดท�ำอนุบัญญัติตาม พระราชบัญญัติฉบับนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ิตามพระราชบญั ญตั ิสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ ก และทแ่ี กไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

กับคณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษา พนักงานเจ้าหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติ สขุ ภาพจติ เจา้ หนา้ ทผ่ี ปู้ ฏบิ ตั งิ านดา้ นสขุ ภาพจติ ผทู้ ม่ี สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งทกุ ภาคสว่ น ตลอดจนผู้ท่ีสนใจทั่วไปในการเสริมสร้างความรู้ และความเข้าใจเก่ียวกับ กฎหมายวา่ ดว้ ยสขุ ภาพจติ และสามารถนำ� ไปใชเ้ ปน็ แนวทางในการดำ� เนนิ งาน อย่างเป็นรูปธรรมตลอดจนสามารถขับเคลื่อนการบงั คับใชพ้ ระราชบัญญตั ฯิ นี้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของพระราช บญั ญัตสิ ขุ ภาพจิตตอ่ ไป ดร.พญ.เบ็ญจมาส พฤกษ์กานนท์ บรรณาธิการ ๑ มิถนุ ายน ๒๕๖๕ ข รวมกฎหมายอนบุ ัญญัตติ ามพระราชบญั ญตั ิสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทีแ่ ก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

สารบัญ หน้า  ค�ำน�ำ ก  พระราชบญั ญตั สิ ุขภาพจิต พ.ศ.๒๕๕๑ และท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๒ ๑  Mental Health Act, B.E. ๒๕๕๑ (๒๐๐๘) Unofficial translation ๓๓ หมวดที่ ๑ คณะกรรมการ  ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรอ่ื ง การเลอื กและการแต่งต้งั ๗๒ ผู้แทนองค์กรภาคเอกชนและผ้ทู รงคุณวุฒิเพอ่ื เปน็ กรรมการ สุขภาพจติ แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒  ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง รายชือ่ สถานบำ� บดั รักษา ๘๒ ทางสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๖๓  ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอื่ ง รายชือ่ สถานบ�ำบัดรกั ษา ๘๘ ทางสขุ ภาพจติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔  ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรื่อง รายชอ่ื สถานบ�ำบัดรกั ษา ๘๙ ทางสุขภาพจิต (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ หมวดท่ี ๒ สทิ ธิผปู้ ่วย  ประกาศคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แหง่ ชาติ ๙๔ เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลใด ๆ ทางส่อื สงิ่ พิมพส์ ่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ หรือสื่ออนื่ ใด พ.ศ. ๒๕๖๕  ประกาศคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แหง่ ชาติ เร่อื ง การออกค�ำสัง่ ๙๖ ของอธบิ ดีกรมสุขภาพจิตใหผ้ เู้ ผยแพรด่ �ำเนินการ พ.ศ. ๒๕๖๕ รวมกฎหมายอนุบญั ญตั ิตามพระราชบัญญตั ิสขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ ค และที่แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

สารบัญ หนา้  ระเบยี บคณะกรรมการสขุ ภาพจิตแห่งชาติ ว่าด้วย หลกั เกณฑ ์ ๑๐๐ และวธิ กี าร ให้หนว่ ยงานของรัฐและเอกชนด�ำเนินการเก่ียวกับ การคุม้ ครองสทิ ธิ ของบคุ คลท่ีมคี วามผิดปกตทิ างจิต การให้บริการ ด้านสุขภาพจติ และการอยรู่ ว่ มกันในสงั คม พ.ศ. ๒๕๖๕ หมวดท่ี ๓ การบำ� บดั รักษาทางจิตเวช  ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรือ่ ง แบบหนังสือใหค้ วามยินยอม ๑๐๘ การบำ� บดั รกั ษา พ.ศ. ๒๕๖๔  ระเบียบคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แห่งชาติ ว่าด้วยการสง่ ตัวบุคคล ๑๑๓ เพื่อรับการตรวจวินจิ ฉัยและประเมินอาการเบอ้ื งตน้ พ.ศ. ๒๕๖๔  ระเบยี บคณะกรรมการสขุ ภาพจิตแห่งชาติ ว่าดว้ ยการสง่ ตวั บุคคล ๑๑๕ เพือ่ รบั การตรวจวนิ จิ ฉยั และประเมินอาการเบ้อื งตน้ ในกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๔  ระเบยี บคณะกรรมการสุขภาพจิตแหง ชาติ วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ ์ ๑๑๗ และวธิ กี ารในการรายงานผลการตรวจวนิ ิจฉัยและประเมินอาการ เบือ้ งต้น พ.ศ. ๒๕๖๔  ระเบยี บคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แหง ชาติ วา่ ดว้ ยหลักเกณฑ ๑๒๒ และวิธกี ารในการพิจารณาเพ่ือมีค�ำสั่งให้บุคคลตอ้ งเขา้ รบั การบ�ำบัดรกั ษา พ.ศ. ๒๕๖๔  ระเบยี บคณะกรรมการสุขภาพจติ แหง่ ชาติ วา่ ด้วยหลักเกณฑ ์ ๑๒๗ และวิธีการในการรายงานผลการบำ� บดั รักษา การจ�ำหน่ายผ้ปู ว่ ย และการตดิ ตามผลการบำ� บดั รกั ษา พ.ศ. ๒๕๖๕ ง รวมกฎหมายอนบุ ัญญตั ิตามพระราชบัญญัติสุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

สารบญั หนา้  ระเบียบคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แห่งชาติ วา่ ด้วยการส่งั ย้ายผปู้ ว่ ย ๑๓๓ ไปรับการบำ� บัดรักษาในสถานบำ� บดั รกั ษาอน่ื พ.ศ. ๒๕๖๔  ระเบยี บคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แหง ชาติ ว่าดว้ ยหลกั เกณฑ ๑๓๔ และวธิ ีการในการรายงานผลการตรวจวนิ จิ ฉยั การประเมนิ ความสามารถในการตอ่ ส้คู ดี และผลการบ�ำบดั รกั ษาของผู้ป่วยคดี การรายงานผลการบ�ำบัดรกั ษาและการท�ำความเห็น พ.ศ. ๒๕๖๔  ประกาศคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ เรอ่ื ง กำ� หนดหน่วยงาน ๑๔๐ ด้านสงเคราะห์และสวสั ดกิ าร พ.ศ. ๒๕๖๔  ประกาศคณะกรรมการสุขภาพจติ แห่งชาติ เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ ๑๔๒ และวิธีการให้ผรู้ บั ดูแลผูป้ ว่ ยมีสทิ ธไิ ดร้ บั บริการให้ค�ำปรึกษา แนะน�ำ ฝกึ อบรมทักษะ การจดั การศกึ ษา และการส่งเสรมิ อาชีพ ตลอดจนความชว่ ยเหลอื อน่ื ใด เพอ่ื ใหด้ แู ลผปู้ ว่ ยตอ่ ไปได้ พ.ศ. ๒๕๖๕  ประกาศคณะกรรมการสขุ ภาพจิตแห่งชาติ เรือ่ ง หลักเกณฑแ์ ละ ๑๔๖ วธิ ีการดำ� เนนิ การฟน้ื ฟสู มรรถภาพของผ้ปู ว่ ย พ.ศ. ๒๕๖๕ หมวดที่ ๔ การอทุ ธรณ์  ระเบียบคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ วา่ ดว้ ยหลักเกณฑ ์ ๑๕๒ และวธิ กี ารในการยน่ื อทุ ธรณ์ และวิธีพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๕๖๔  ระเบยี บกระทรวงสาธารณสขุ วา่ ด้วยการเลอื กและการแตง่ ต้งั ๑๕๕ ผูแ้ ทนองค์กรภาคเอกชนและผูท้ รงคุณวุฒเิ ป็นกรรมการอทุ ธรณ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมกฎหมายอนบุ ัญญตั ิตามพระราชบญั ญตั ิสขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ จ และท่ีแก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

สารบญั หนา้ หมวดที่ ๕ พนกั งานเจา้ หนา้ ที่  ระเบยี บคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ ว่าด้วยคุณสมบตั ิ ๑๖๘ ของพนักงานเจา้ หนา้ ท่ี พ.ศ. ๒๕๖๔  ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรอ่ื ง แต่งตัง้ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ๑๖๙ พ.ศ. ๒๕๖๔  ระเบียบคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ ว่าดว้ ยการปฏบิ ัตหิ น้าท ี่ ๑๗๕ ของพนักงานเจ้าหนา้ ท่ี พ.ศ. ๒๕๖๔  ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง แบบบัตรประจำ� ตวั ๑๗๗ พนักงานเจา้ หน้าท่ี พ.ศ. ๒๕๖๓ หมวดที่ ๖ บทก�ำหนดโทษ  ระเบยี บคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แห่งชาติ ว่าดว้ ยหลักเกณฑ์ ๑๘๒ และวิธีการในการเปรยี บเทียบ พ.ศ. ๒๕๖๕ ภาคผนวก  ประกาศราชกิจจานุเบกษา กรมสขุ ภาพจิตขอแก้ไขขอ้ ความ ๑๙๘ คลาดเคลื่อน  คำ� สั่งคณะกรรมการสขุ ภาพจติ แหง่ ชาติ ที่ ๓/๒๕๖๕ ๑๙๙ เร่ือง แตง่ ต้งั คณะอนุกรรมการปรบั ปรุงแกไ้ ขกฎหมายว่าดว้ ย สุขภาพจิต ลงวนั ท่ี ๒๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕ ฉ รวมกฎหมายอนบุ ัญญัตติ ามพระราชบัญญตั ิสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่ีแก้ไขเพิม่ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

รวมกฎหมายอนบุ ัญญัตติ ามพระราชบญั ญัติสุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ 1 และทแี่ กไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

2 รวมกฎหมายอนุบัญญัตติ ามพระราชบญั ญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่ีแก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญตั ิ สุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๑๓ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เปน็ ปที ี่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการ โปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยทีเ่ ปน็ การสมควรมกี ฎหมายวา่ ดว้ ยสขุ ภาพจติ พระราชบญั ญตั นิ ม้ี บี ทบญั ญตั บิ างประการเกย่ี วกบั การจำ� กดั สทิ ธแิ ละ เสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ และมาตรา ๓๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระท�ำได้โดยอาศัยอ�ำนาจ ตามบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำ� แนะนำ� และยนิ ยอมของสภานติ ิบัญญัตแิ ห่งชาติ ดังต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒๑ พระราชบัญญัตนิ ี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วนั ถดั จากวนั ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญัติน้ี ๑ ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๑๒๕/ตอนท่ี ๓๖ ก/หน้า ๓๗/๒๐ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๑ 3 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญัติตามพระราชบญั ญตั สิ ขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

“สุขภาพ”๒ หมายความว่า สุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยสุขภาพ แหง่ ชาติ “สุขภาพจิต”๓ หมายความว่า สุขภาวะทางจิตใจ ซึ่งเช่ือมโยงกัน เป็นองค์รวมอย่างสมดุลกบั สุขภาวะทางกาย ทางปัญญา และทางสงั คม “ความผิดปกติทางจิต” หมายความว่า อาการผิดปกติของจิตใจ ทแี่ สดงออกมาทางพฤตกิ รรม อารมณ์ ความคิด ความจ�ำ สตปิ ัญญา ประสาท การรับรู้ หรือการรู้เวลา สถานที่หรือบุคคล รวมท้ังอาการผิดปกติของจิตใจ ทีเ่ กิดจากสรุ าหรอื สารอนื่ ท่อี อกฤทธ์ิตอ่ จติ และประสาท “แพทย”์ หมายความวา่ ผปู้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวชิ าชพี เวชกรรม “จติ แพทย”์ หมายความวา่ แพทยซ์ ง่ึ ไดร้ บั วฒุ บิ ตั รหรอื หนงั สอื อนมุ ตั ิ เปน็ ผมู้ คี วามรคู้ วามชำ� นาญในการประกอบวชิ าชพี เวชกรรม สาขาจติ เวชศาสตร์ หรอื สาขาจติ เวชศาสตรเ์ ด็กและวยั ร่นุ “พยาบาล” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลตาม กฎหมายวา่ ด้วยวิชาชพี การพยาบาลและการผดุงครรภ์ “ผ้ปู ่วย” หมายความวา่ บุคคลท่มี คี วามผิดปกติทางจติ ซึง่ ควรได้รบั การบำ� บดั รกั ษา “ผ้ปู ่วยคด”ี หมายความวา่ ผปู้ ่วยที่อยูร่ ะหว่างการสอบสวน ไต่สวน มูลฟ้องหรือพิจารณาในคดีอาญา ซ่ึงพนักงานสอบสวนหรือศาลส่ังให้ได้รับ การตรวจหรือบ�ำบัดรักษารวมทั้งผู้ป่วยที่ศาลมีค�ำสั่งให้ได้รับการบ�ำบัดรักษา ภายหลังมีคำ� พิพากษาในคดีอาญาดว้ ย “ผรู้ บั ดแู ลผปู้ ว่ ย”๔ หมายความวา่ บดิ า มารดา บตุ ร สามี ภรยิ า ญาติ พี่น้อง หรือบุคคลอื่นใดที่รับดูแลหรอื อุปการะผูป้ ว่ ย ๒ มาตรา ๓ นยิ ามค�ำวา่ “สุขภาพ” เพม่ิ โดยพระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓ มาตรา ๓ นิยามคำ� ว่า “สขุ ภาพจิต” เพิม่ โดยพระราชบญั ญัติสขุ ภาพจติ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔ มาตรา ๓ นยิ ามคำ� วา่ “ผรู้ ับดแู ลผู้ป่วย” เพม่ิ โดยพระราชบญั ญัติสุขภาพจติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 4 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ิตามพระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่แี ก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

“ภาวะอนั ตราย” หมายความวา่ พฤตกิ รรมทบี่ คุ คลทม่ี คี วามผดิ ปกติ ทางจติ แสดงออกโดยประการทนี่ า่ จะกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายรา้ ยแรงตอ่ ชวี ติ รา่ งกาย หรอื ทรัพย์สนิ ของตนเองหรอื ผ้อู นื่ “ความจำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั การบำ� บดั รกั ษา” หมายความวา่ สภาวะของผปู้ ว่ ย ซ่ึงขาดความสามารถในการตัดสินใจให้ความยินยอมรับการบ�ำบัดรักษาและ ต้องได้รับการบ�ำบัดรักษาโดยเร็วเพื่อป้องกันหรือบรรเทามิให้ความผิดปกติ ทางจติ ทวคี วามรนุ แรงหรอื เพอ่ื ปอ้ งกนั อนั ตรายทจี่ ะเกดิ ขน้ึ กบั ผปู้ ว่ ยหรอื บคุ คลอน่ื “การบ�ำบัดรักษา” หมายความรวมถึง การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วย ทางการแพทยแ์ ละทางสังคม “สถานบำ� บดั รกั ษา” หมายความวา่ สถานบำ� บดั รกั ษาทางสขุ ภาพจติ ทร่ี ฐั มนตรีประกาศกำ� หนดตามพระราชบญั ญัติน้ี “คมุ ขงั ” หมายความวา่ การจำ� กดั สทิ ธเิ สรภี าพของบคุ คลดว้ ยอำ� นาจ ของกฎหมายโดยการคุมตวั ควบคมุ กกั กักกนั ขัง กักขัง จ�ำขงั และจำ� คกุ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ “คณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษา” หมายความว่า คณะกรรมการ สุขภาพจิตระดับสถานบ�ำบดั รักษา “หน่วยงานของรัฐ”๕ หมายความวา่ ราชการส่วนกลาง ราชการสว่ น ภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ิน รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรวิชาชีพ ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข หน่วยงานอื่นของรัฐ และให้หมายความ รวมถึงสภากาชาดไทย “พนักงานเจ้าหน้าท่ี” หมายความว่า ผู้ซ่ึงมีคุณสมบัติตามระเบียบ ทค่ี ณะกรรมการกำ� หนดและรฐั มนตรแี ตง่ ตงั้ ใหป้ ฏบิ ตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ “อธบิ ดี” หมายความวา่ อธิบดกี รมสุขภาพจติ ๕ มาตรา ๓ นยิ ามค�ำวา่ “หนว่ ยงานของรฐั ” เพมิ่ โดยพระราชบัญญตั สิ ขุ ภาพจติ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ิตามพระราชบญั ญตั ิสขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 5 และที่แกไ้ ขเพิม่ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

“รฐั มนตร”ี หมายความวา่ รฐั มนตรผี รู้ กั ษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการ ตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี และใหม้ อี ำ� นาจแตง่ ตง้ั พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ กบั ออกระเบยี บและ ประกาศเพ่อื ปฏบิ ตั ิการตามพระราชบัญญตั ิน้ี ระเบียบและประกาศน้ัน เม่ือได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใชบ้ ังคบั ได้ หมวด ๑ คณะกรรมการ ส่วนที่ ๑ คณะกรรมการสขุ ภาพจติ แห่งชาติ มาตรา ๕๖ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการ สุขภาพจติ แห่งชาติ” ประกอบดว้ ย (๑) นายกรฐั มนตรหี รอื รองนายกรฐั มนตรซี งึ่ นายกรฐั มนตรมี อบหมาย เปน็ ประธานกรรมการ (๒) รฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ เป็นรองประธานกรรมการ (๓) กรรมการโดยต�ำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนษุ ย์ ปลดั กระทรวงดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม ปลดั กระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการส�ำนักงาน ๖ มาตรา ๕ แกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญตั ิสขุ ภาพจิต (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 6 รวมกฎหมายอนบุ ัญญัตติ ามพระราชบัญญตั สิ ุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่แี กไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ศาลยตุ ธิ รรม อยั การสงู สดุ ผบู้ ญั ชาการตำ� รวจแหง่ ชาติ เลขาธกิ ารคณะกรรมการ สขุ ภาพแห่งชาติ และเลขาธกิ ารคณะกรรมการสิทธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ (๔) ผแู้ ทนองคก์ รภาคเอกชนทเี่ ปน็ นติ บิ คุ คลและมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ กยี่ วกบั การคุ้มครองดูแลบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิต ซึ่งเลือกกันเองจ�ำนวนหกคน เป็นกรรมการ (๕) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จ�ำนวนหกคน ซ่ึงรัฐมนตรีแต่งตั้งจาก ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในสาขาการแพทย์ จติ เวช จติ วทิ ยาคลนิ กิ สงั คมสงเคราะหท์ างการแพทย์ การพยาบาลจติ เวชและ สุขภาพจิต กจิ กรรมบำ� บดั และกฎหมาย สาขาละหน่งึ คน ใหอ้ ธบิ ดเี ปน็ กรรมการและเลขานกุ าร และขา้ ราชการของกรมสขุ ภาพจติ ซึง่ อธบิ ดแี ตง่ ตงั้ จ�ำนวนไม่เกนิ สองคน เป็นผชู้ ่วยเลขานุการ การได้มาซงึ่ กรรมการตามวรรคหนง่ึ (๔) และ (๕) ใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่รี ฐั มนตรปี ระกาศกำ� หนด มาตรา ๖ กรรมการตามมาตรา ๕ (๔) และ (๕) ตอ้ งมคี ุณสมบัตแิ ละ ไมม่ ลี กั ษณะตอ้ งหา้ ม ดังตอ่ ไปนี้ (๑) มสี ญั ชาตไิ ทย (๒) มอี ายไุ มต่ ำ�่ กวา่ ยสี่ บิ ปบี ริบูรณ์ (๓) ไม่เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรอื คนเสมอื นไร้ความสามารถ (๔) ไม่เคยได้รับโทษจ�ำคุกโดยค�ำพิพากษาถึงที่สุดให้จ�ำคุก เว้นแต่ เป็นโทษสำ� หรับความผดิ ท่ไี ดก้ ระท�ำโดยประมาทหรอื ความผิดลหโุ ทษ (๕) ไม่เป็นผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถ่ินหรือ ผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ด�ำรงต�ำแหน่งซึ่งรับผิดชอบในการบริหาร พรรคการเมือง ทปี่ รกึ ษาพรรคการเมอื ง หรอื เจา้ หน้าทพี่ รรคการเมอื ง มาตรา ๗ กรรมการตามมาตรา ๕ (๔) และ (๕) มวี าระการดำ� รงตำ� แหนง่ คราวละสามปีและจะด�ำรงต�ำแหนง่ เกนิ สองวาระตดิ ต่อกันไม่ได้ รวมกฎหมายอนุบญั ญัติตามพระราชบัญญตั ิสขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 7 และทแี่ กไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ในกรณที ก่ี รรมการตามวรรคหนง่ึ พน้ จากตำ� แหนง่ ตามวาระ ใหด้ ำ� เนนิ การ แต่งต้ังกรรมการขึ้นใหม่ภายใน เก้าสิบวัน ในระหว่างท่ียังมิได้มีการแต่งต้ัง กรรมการขึ้นใหม่ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระน้ันอยู่ในต�ำแหน่ง เพอ่ื ด�ำเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการซงึ่ ไดร้ ับแต่งต้ังใหม่เข้ารบั หนา้ ที่ ในกรณีที่กรรมการตามวรรคหนึ่งพ้นจากต�ำแหน่งก่อนครบวาระ ให้มีการแต่งต้ังกรรมการแทนภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ต�ำแหน่งนั้นว่างลง และให้ผู้ท่ีได้รับการแต่งตั้งอยู่ในต�ำแหน่งเท่ากับวาระท่ีเหลืออยู่ของกรรมการ ซึ่งตนแทน ในกรณีท่ีวาระของกรรมการตามวรรคหนึ่งท่ีพ้นจากต�ำแหน่ง กอ่ นครบวาระเหลอื อยไู่ มถ่ งึ เกา้ สบิ วนั จะไมแ่ ตง่ ตง้ั กรรมการแทนตำ� แหนง่ ทวี่ า่ งนนั้ กไ็ ด้ และในกรณนี ีใ้ ห้คณะกรรมการประกอบดว้ ยกรรมการทีเ่ หลืออยู่ มาตรา ๘ นอกจากการพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระ กรรมการ ตามมาตรา ๕ (๔) และ (๕) พ้นจากตำ� แหน่ง เมือ่ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะกรรมการมีมติไม่น้อยกว่าสองในสามของจ�ำนวนกรรมการ ทง้ั หมดเทา่ ทม่ี อี ยใู่ หอ้ อก เนอื่ งจากบกพรอ่ งตอ่ หนา้ ที่ มคี วามประพฤตเิ สอื่ มเสยี หรอื หย่อนความสามารถ (๔) ขาดคุณสมบัตหิ รอื มลี กั ษณะต้องห้ามตามมาตรา ๖ มาตรา๙การประชมุ คณะกรรมการตอ้ งมกี รรมการมาประชมุ ไมน่ อ้ ยกวา่ กงึ่ หนง่ึ ของจ�ำนวนกรรมการทงั้ หมดจงึ เปน็ องค์ประชุม ใหป้ ระธานกรรมการเปน็ ประธานในทปี่ ระชมุ ในกรณที ปี่ ระธานกรรมการ ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ีได้ให้รองประธานกรรมการเป็นประธาน ในทป่ี ระชมุ หากรองประธานไมม่ าประชมุ หรอื ไมอ่ าจปฏบิ ตั หิ นา้ ทไี่ ดใ้ หก้ รรมการ ซงึ่ มาประชุมเลือกกรรมการคนหนง่ึ เป็นประธานในทป่ี ระชมุ 8 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ติ ามพระราชบญั ญตั ิสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

การวินิจฉัยช้ีขาดของท่ีประชุมให้ถือเสียงข้างมากของกรรมการ ทมี่ าประชมุ กรรมการคนหนง่ึ ใหม้ เี สยี งหนง่ึ ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเทา่ กนั ใหป้ ระธานในท่ีประชุมออกเสยี งเพิ่มขนึ้ อกี เสียงหน่งึ เปน็ เสยี งชข้ี าด มาตรา ๑๐๗ คณะกรรมการมอี �ำนาจหนา้ ท่ี ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) เสนอนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และแผนสขุ ภาพจติ ระดบั ชาติ เกย่ี วกบั การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพจติ การปอ้ งกนั และการควบคมุ ปจั จยั ทคี่ กุ คามสขุ ภาพจติ การคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คลทม่ี คี วามผดิ ปกตทิ างจติ การเขา้ ถงึ บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพจติ และการอยู่ร่วมกันในสังคม ต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือพิจารณาให้ความเห็นชอบ และมอบหมายหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ งด�ำเนินการตามอำ� นาจหน้าที่ (๒) ส่งเสริมและสนบั สนนุ ใหห้ นว่ ยงานของรฐั และเอกชนดำ� เนินการ สร้างเสริมสุขภาพจิต การปอ้ งกนั และการควบคุมปจั จยั ที่คกุ คามสขุ ภาพจิต (๓) ก�ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้หน่วยงานของรัฐและเอกชน ดำ� เนนิ การเกยี่ วกบั การคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คลทม่ี คี วามผดิ ปกตทิ างจติ การใหบ้ รกิ าร ดา้ นสขุ ภาพจติ และการอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมโดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา (๔) ตรวจสอบและติดตามการด�ำเนินงานของคณะกรรมการ สถานบำ� บดั รักษา (๕) ก�ำหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางสื่อ สิ่งพิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ หรือส่ืออื่นใด เพ่ือไม่ให้มีการละเมิดสิทธิตาม มาตรา ๑๖/๑ (๖) กำ� หนดหนว่ ยงานดา้ นสงเคราะหแ์ ละสวสั ดกิ ารตามมาตรา ๔๐ (๒) (๗) ออกระเบียบหรือประกาศเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามพระราช บญั ญตั ินี้ (๘) รายงานการตดิ ตามการปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยงานของรฐั และเอกชน ตามพระราชบัญญตั นิ ีต้ ่อคณะรัฐมนตรี ๗ มาตรา ๑๐ แกไ้ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิสุขภาพจิต (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 9 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ิตามพระราชบญั ญตั ิสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทแ่ี ก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

(๙) ปฏิบัติการอ่ืนตามที่พระราชบัญญัติน้ีหรือกฎหมายอ่ืนบัญญัติ ใหเ้ ป็นอ�ำนาจหนา้ ท่ีของคณะกรรมการ หรือตามทค่ี ณะรัฐมนตรมี อบหมาย การจดั ทำ� นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และแผนสขุ ภาพจติ ระดบั ชาตติ าม (๑) ใหค้ ำ� นงึ ถงึ หลกั การมสี ว่ นรว่ มของหนว่ ยงานของรฐั และประชาชนในทกุ ภาคสว่ นดว้ ย มาตรา๑๑คณะกรรมการมอี ำ� นาจแตง่ ตง้ั ทป่ี รกึ ษาหรอื คณะอนกุ รรมการ เพ่ือปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการมอบหมายให้น�ำความในมาตรา ๖ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ มาใชบ้ งั คบั กบั ทป่ี รกึ ษาและคณะอนกุ รรมการโดยอนโุ ลม มาตรา ๑๑/๑๘ ให้กรมสุขภาพจิตรับผิดชอบงานธุรการของ คณะกรรมการ คณะกรรมการอทุ ธรณ์ และคณะอนกุ รรมการ และใหม้ อี ำ� นาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (๑) จัดท�ำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนสุขภาพจิตระดับชาติ ตามมาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง (๑) เสนอตอ่ คณะกรรมการ (๒) ประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและเอกชน ทเี่ กย่ี วขอ้ งในการดำ� เนนิ งานดา้ นสขุ ภาพจติ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และแผนสขุ ภาพจิตระดับชาติ (๓) ตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏิบตั ติ ามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และ แผนงาน รวมทั้งมาตรการต่าง ๆ ในด้านสขุ ภาพจติ เพื่อใหเ้ ป็นไปตามนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และแผนสขุ ภาพจติ ระดับชาตติ ามมาตรา ๑๐ วรรคหนง่ึ (๑) แล้ว รายงานตอ่ คณะกรรมการ (๔) ปฏบิ ตั กิ ารอน่ื ใดตามทคี่ ณะรฐั มนตรี คณะกรรมการ คณะกรรมการ อุทธรณ์ หรือคณะอนุกรรมการมอบหมาย หรือตามท่ีกฎหมายก�ำหนดให้เป็น อ�ำนาจหนา้ ที่ของกรมสขุ ภาพจติ ๘ มาตรา ๑๑/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญตั สิ ุขภาพจิต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 10 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ิตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

การจัดท�ำแผนสุขภาพจิตระดับชาติ ให้ค�ำนึงถึงการด�ำเนินการ แบบมสี ่วนร่วมจากหนว่ ยงานของรัฐและภาคเอกชน องคก์ รทางวชิ าการ และ ภาคประชาสังคมในสดั ส่วนทเ่ี หมาะสม ท้งั ในระดบั ทอ้ งถน่ิ ระดบั ภูมิภาค และ ระดบั ชาติ ส่วนที่ ๒ คณะกรรมการสถานบำ� บัดรกั ษา มาตรา ๑๒๙ ให้สถานบ�ำบัดรักษาแต่ละแห่งมีคณะกรรมการ สถานบ�ำบัดรักษาซ่ึงหัวหน้าสถานบ�ำบัดรักษาแต่งต้ังอย่างน้อยหน่ึงคณะ ประกอบดว้ ย จติ แพทยเ์ ปน็ ประธานกรรมการ แพทยจ์ ำ� นวนหนงึ่ คน พยาบาลจติ เวช จ�ำนวนหนึ่งคน นักกฎหมายจ�ำนวนหนึ่งคน และนักจิตวิทยาคลินิก หรือ นักสังคมสงเคราะห์ซ่ึงประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลหรือผ่านการอบรม ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านจิตเวชหรือนักกิจกรรมบ�ำบัด จ�ำนวนหน่ึงคน เป็นกรรมการ เมอื่ หวั หนา้ สถานบำ� บดั รกั ษาแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสถานบำ� บดั รกั ษาแลว้ ใหร้ ายงานให้อธบิ ดีทราบ มาตรา ๑๓ คณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษามีอ�ำนาจหน้าท่ี ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ตรวจวนิ ิจฉยั ประเมนิ อาการและมีคำ� ส่ังตามมาตรา ๒๙ (๒) พจิ ารณาทำ� ความเหน็ เกย่ี วกบั การบำ� บดั รกั ษาและผลการบำ� บดั รกั ษา ตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี มาตรา ๑๔๑๐ กรรมการสถานบำ� บดั รักษามวี าระการดำ� รงตำ� แหน่ง คราวละสามปีและอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ ท้ังน้ี ให้น�ำความในมาตรา ๖ ๙ มาตรา ๑๒ แกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญตั ิสขุ ภาพจิต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๐ มาตรา ๑๔ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญัติสขุ ภาพจติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมกฎหมายอนุบัญญตั ติ ามพระราชบัญญัติสขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ 11 และที่แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๗ วรรคสองและวรรคสาม มาตรา ๘ มาตรา ๙ และมาตรา ๑๑ มาใช้ บังคับกับคณะกรรมการสถานบำ� บัดรักษาโดยอนุโลม ในกรณีที่กรรมการตามวรรคหนึ่งพ้นจากต�ำแหน่งก่อนวาระและ ยงั ไมม่ กี ารแตง่ ตง้ั กรรมการแทนตำ� แหนง่ ทว่ี า่ ง หากยงั มปี ระธานกรรมการและ กรรมการเหลอื อยรู่ วมกนั ไมน่ อ้ ยกวา่ สามคน ใหค้ ณะกรรมการสถานบำ� บดั รกั ษา ทเี่ หลอื อยูป่ ฏบิ ตั ิหน้าทต่ี ่อไปได้ ในกรณที วี่ าระของกรรมการทพ่ี น้ จากตำ� แหนง่ กอ่ นครบวาระเหลอื อยู่ ไมถ่ ึงเกา้ สิบวนั จะไม่แต่งต้ังกรรมการแทนตำ� แหนง่ ทีว่ า่ งน้ันกไ็ ด้ หมวด ๒ สิทธผิ ูป้ ว่ ย มาตรา ๑๕ ผู้ปว่ ยยอ่ มมสี ทิ ธิ ดังตอ่ ไปนี้ (๑)๑๑ ได้รับการบ�ำบัดรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์และฟื้นฟู สมรรถภาพ โดยคำ� นึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (๒) ได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและการบ�ำบัดรักษา ไวเ้ ปน็ ความลบั เว้นแต่มีกฎหมายบัญญตั ไิ ว้ให้เปดิ เผยได้ (๓) ไดร้ ับการคุ้มครองจากการวจิ ยั ตามมาตรา ๒๐ (๔) ไดร้ บั การคมุ้ ครองในระบบประกนั สขุ ภาพและประกนั สงั คม และ ระบบอ่ืน ๆ ของรัฐอยา่ งเสมอภาคและเทา่ เทียมกัน มาตรา ๑๖ ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วย ในประการทีน่ า่ จะท�ำใหเ้ กดิ ความเสียหายแกผ่ ู้ปว่ ย เวน้ แต่ (๑) ในกรณที อ่ี าจเกิดอนั ตรายต่อผู้ปว่ ยหรอื ผอู้ นื่ (๒) เพือ่ ความปลอดภยั ของสาธารณชน (๓) มกี ฎหมายเฉพาะบัญญตั ใิ หต้ ้องเปดิ เผย ๑๑ มาตรา ๑๕ (๑) แก้ไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญัติสขุ ภาพจติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 12 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญัติตามพระราชบัญญัตสิ ุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทแ่ี ก้ไขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๑๖/๑๑๒ การเผยแพรข่ อ้ มลู ใด ๆ ทางสอื่ สง่ิ พมิ พ์ สอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หรือสื่ออ่ืนใดต้องไม่ท�ำให้เกิดความรังเกียจเดียดฉันท์ หรือความเสียหาย แกจ่ ิตใจ ชอ่ื เสยี ง เกียรตคิ ุณ หรือสทิ ธิประโยชน์อน่ื ใดของผปู้ ว่ ยและครอบครัว การเผยแพร่ข้อมูลตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงอ่ื นไขที่คณะกรรมการประกาศก�ำหนด มาตรา ๑๖/๒๑๓ ในกรณที อี่ ธบิ ดเี หน็ วา่ การเผยแพรข่ อ้ มลู ใด ๆ ฝา่ ฝนื หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๖/๑ ให้อธิบดีมีอ�ำนาจออกค�ำส่ังให้ผู้เผยแพร่ ด�ำเนนิ การ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ใหแ้ กไ้ ขขอ้ ความหรือวธิ ีการในการเผยแพร่ขอ้ มลู (๒) ห้ามการใช้ขอ้ ความบางอยา่ งทป่ี รากฏในการเผยแพร่ข้อมลู (๓) ระงับการเผยแพร่ข้อมูลหรือห้ามใช้วิธีการน้ันในการเผยแพร่ ข้อมลู (๔) ให้เผยแพรข่ อ้ มลู เพอ่ื แกไ้ ขความเข้าใจผิดของผอู้ ่นื ที่อาจเกิดขนึ้ การออกคำ� สงั่ ตามวรรคหนงึ่ ใหอ้ ธบิ ดปี ฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไข ท่ีคณะกรรมการประกาศกำ� หนด มาตรา ๑๗ การบำ� บดั รกั ษาโดยการผกู มดั รา่ งกาย การกกั บรเิ วณ หรอื แยกผู้ปว่ ยจะกระทำ� ไมไ่ ด้ เวน้ แตเ่ ป็นความจ�ำเปน็ เพื่อปอ้ งกนั การเกดิ อันตราย ต่อผู้ป่วยเอง บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อ่ืนโดยต้องอยู่ภายใต้การดูแล อย่างใกล้ชิดของผูบ้ �ำบดั รกั ษาตามมาตรฐานวชิ าชพี มาตรา ๑๘ การรกั ษาทางจติ เวชดว้ ยไฟฟ้า การกระทำ� ต่อสมองหรือ ระบบประสาทหรือการบ�ำบัดรักษาด้วยวิธีอื่นใด ท่ีอาจเป็นผลท�ำให้ร่างกาย ไม่อาจกลบั คนื สสู่ ภาพเดมิ อยา่ งถาวร ใหก้ ระท�ำได้ในกรณี ดังตอ่ ไปน้ี ๑๒ มาตรา ๑๖/๑ เพม่ิ โดยพระราชบัญญตั ิสุขภาพจิต (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๓ มาตรา ๑๖/๒ เพ่มิ โดยพระราชบัญญตั ิสุขภาพจติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมกฎหมายอนบุ ัญญตั ิตามพระราชบัญญัตสิ ุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 13 และทแี่ กไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

(๑) กรณีผู้ป่วยให้ความยินยอมเป็นหนังสือเพ่ือการบ�ำบัดรักษาน้ัน โดยผูป้ ่วยไดร้ ับทราบเหตผุ ลความจำ� เปน็ ความเส่ยี งทอ่ี าจเกดิ ภาวะแทรกซอ้ น ทเ่ี ปน็ อนั ตรายรา้ ยแรง หรอื อาจเปน็ ผลทำ� ใหไ้ มส่ ามารถแกไ้ ขใหร้ า่ งกายกลบั คนื สสู่ ภาพเดิม และประโยชนข์ องการบำ� บัดรกั ษา (๒) กรณมี เี หตฉุ กุ เฉนิ หรอื มคี วามความจำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ เพอื่ ประโยชน์ ของผู้ป่วยหากมิได้บ�ำบัดรักษาจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของผู้ป่วย ท้ังน้ี โดยความเหน็ ชอบเป็นเอกฉันท์ของคณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษา ใหน้ ำ� ความในมาตรา ๒๑ วรรคสาม มาใชบ้ งั คบั กบั การใหค้ วามยนิ ยอม ตาม (๑) โดยอนุโลม มาตรา ๑๙ การทำ� หมันผ้ปู ่วยจะกระทำ� ไม่ได้ เว้นแต่ได้ปฏบิ ตั ติ าม มาตรา ๑๘ (๑) มาตรา ๒๐ การวิจัยใด ๆ ที่กระท�ำต่อผู้ป่วยจะกระท�ำได้ต่อเม่ือ ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ป่วย และต้องผ่านความเห็นชอบของ คณะกรรมการทด่ี ำ� เนนิ การเกยี่ วกบั จรยิ ธรรมการวจิ ยั ในคนของหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง และให้น�ำความในมาตรา ๒๑ วรรคสาม มาใช้บังคับกับการให้ความยินยอม โดยอนโุ ลม ความยนิ ยอมตามวรรคหนึง่ ผูป้ ่วยจะเพกิ ถอนเสียเม่อื ใดกไ็ ด้ มาตรา ๒๐/๑๑๔ ในกรณีที่คณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษาเห็นว่า ผู้ป่วยตามมาตรา ๒๙ มีความจ�ำเป็นต้องได้รับการบ�ำบัดรักษาทางกายด้วย แตข่ าดความสามารถในการตดั สนิ ใจใหค้ วามยนิ ยอมรบั การบำ� บดั รกั ษาทางกาย และไม่มีผู้ให้ความยินยอมตามท่ีก�ำหนดไว้ในมาตรา ๒๑ วรรคสาม ใหค้ ณะกรรมการสถานบำ� บดั รกั ษามอี ำ� นาจใหค้ วามยนิ ยอมในการบำ� บดั รกั ษา ทางกายแทน ๑๔ มาตรา ๒๐/๑ เพม่ิ โดยพระราชบญั ญตั สิ ุขภาพจติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 14 รวมกฎหมายอนบุ ัญญตั ติ ามพระราชบัญญัติสขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทแ่ี ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

หมวด ๓ การบ�ำบดั รกั ษาทางสขุ ภาพจิต สว่ นท่ี ๑ ผปู้ ว่ ย มาตรา ๒๑ การบำ� บดั รกั ษาจะกระทำ� ไดต้ อ่ เมอ่ื ผปู้ ว่ ยไดร้ บั การอธบิ าย เหตผุ ลความจำ� เปน็ ในการบำ� บดั รกั ษา รายละเอยี ดและประโยชนข์ องการบำ� บดั รกั ษา และไดร้ บั ความยินยอมจากผปู้ ว่ ย เวน้ แต่เปน็ ผู้ปว่ ยตามมาตรา ๒๒ ถ้าต้องรับผู้ป่วยไว้ในสถานพยาบาลของรัฐหรือสถานบ�ำบัดรักษา ความยินยอมตามวรรคหนึ่งต้องท�ำเป็นหนังสือ และลงลายมือชื่อผู้ป่วย เปน็ ส�ำคัญ ในกรณีทีผ่ ู้ปว่ ยมีอายุไม่ถงึ สิบแปดปีบริบรู ณ์ หรอื ขาดความสามารถ ในการตัดสินใจให้ความยินยอมรับการบ�ำบัดรักษา ให้คู่สมรส ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาล หรือผู้ซ่ึงปกครองดูแลบุคคลนั้น แลว้ แตก่ รณี เป็นผูใ้ หค้ วามยนิ ยอมตามวรรคสองแทน หนงั สอื ใหค้ วามยนิ ยอมตามวรรคสองและวรรคสาม ใหเ้ ปน็ ไปตามแบบ ที่รัฐมนตรกี ำ� หนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา๑๕ มาตรา ๒๒ บุคคลท่ีมีความผิดปกติทางจิตในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดงั ต่อไปนเ้ี ปน็ บุคคลทต่ี อ้ งไดร้ ับการบำ� บัดรกั ษา (๑) มภี าวะอนั ตราย (๒) มคี วามจ�ำเป็นตอ้ งไดร้ ับการบ�ำบัดรักษา ๑๕ มาตรา ๒๑ วรรคสี่ แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญตั ิสุขภาพจติ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมกฎหมายอนุบัญญตั ติ ามพระราชบญั ญัติสขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 15 และทแ่ี ก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๒๓ ผู้ใดพบบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์อันน่าเช่ือว่าบุคคลนั้น มีลกั ษณะตามมาตรา ๒๒ ให้แจ้งตอ่ พนักงานเจ้าหน้าท่ี พนักงานฝ่ายปกครอง หรือต�ำรวจโดยไม่ชักชา้ มาตรา ๒๔ เมอ่ื พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี พนกั งานฝา่ ยปกครองหรอื ตำ� รวจ ได้รบั แจง้ ตามมาตรา ๒๓ หรือพบบคุ คลซง่ึ มีพฤตกิ ารณอ์ นั นา่ เช่ือวา่ บคุ คลนัน้ มีลักษณะตามมาตรา ๒๒ ให้ด�ำเนินการน�ำตัวบุคคลนั้นไปยังสถานพยาบาล ของรัฐหรือสถานบ�ำบัดรักษาซึ่งอยู่ใกล้โดยไม่ชักช้า เพ่ือรับการตรวจวินิจฉัย และประเมนิ อาการเบอื้ งตน้ ตามมาตรา ๒๗ ทง้ั น้ี โดยจะมผี รู้ บั ดแู ลบคุ คลดงั กลา่ ว ไปด้วยหรือไม่ก็ได้ การน�ำตัวบุคคลตามวรรคหนึ่งไปยังสถานพยาบาลของรัฐหรือ สถานบ�ำบัดรักษาโดยการผูกมัดร่างกายบุคคลดังกล่าวจะกระท�ำไม่ได้ เว้นแต่ เป็นความจ�ำเป็นเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อบุคคลน้ันเอง บุคคลอ่ืน หรอื ทรัพยส์ ินของผอู้ ืน่ มาตรา ๒๕ เมือ่ ผ้รู ับผิดชอบดูแลสถานทคี่ มุ ขังหรือสถานสงเคราะห์ หรือพนักงานคุมประพฤติ พบบุคคลที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบตามอ�ำนาจ หนา้ ที่ มพี ฤตกิ ารณอ์ นั นา่ เชอ่ื วา่ บคุ คลนน้ั มลี กั ษณะตามมาตรา ๒๒ ใหด้ ำ� เนนิ การ ส่งตัวบุคคลนั้นไปยังสถานพยาบาลของรัฐหรือสถานบ�ำบัดรักษาซึ่งอยู่ใกล้ โดยไมช่ กั ชา้ เพอื่ รบั การตรวจวนิ จิ ฉยั และประเมนิ อาการเบอื้ งตน้ ตามมาตรา ๒๗ การสง่ ตวั บคุ คลตามวรรคหนง่ึ ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บทค่ี ณะกรรมการ ก�ำหนด มาตรา๒๖ในกรณฉี กุ เฉนิ เมอ่ื พนกั งานเจา้ หนา้ ที่พนกั งานฝา่ ยปกครอง หรอื ตำ� รวจไดร้ บั แจง้ ตามมาตรา ๒๓ หรอื พบบคุ คลซงึ่ มพี ฤตกิ ารณอ์ นั นา่ เชอ่ื วา่ บคุ คลนน้ั เปน็ บคุ คลทมี่ คี วามผดิ ปกตทิ างจติ ซง่ึ มภี าวะอนั ตรายและเปน็ อนั ตราย ทใ่ี กลจ้ ะถงึ ใหม้ อี ำ� นาจนำ� ตวั บคุ คลนน้ั หรอื เขา้ ไปในสถานทใ่ี ด ๆ เพอ่ื นำ� ตวั บคุ คลนน้ั ส่งสถานพยาบาลของรัฐหรือสถานบ�ำบัดรักษาซึ่งอยู่ใกล้โดยไม่ชักช้า เพ่ือรบั การตรวจวินจิ ฉยั และประเมินอาการเบอื้ งตน้ ตามมาตรา ๒๗ 16 รวมกฎหมายอนุบัญญัติตามพระราชบญั ญตั ิสขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ถ้าบุคคลน้ันขัดขวางหรือหลบหนีหรือพยายามจะหลบหนี ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือต�ำรวจมีอ�ำนาจใช้วิธีการเท่าที่เหมาะสมและ จำ� เปน็ แกพ่ ฤตกิ ารณใ์ นการนำ� ตวั บคุ คลนน้ั สง่ สถานพยาบาลของรฐั หรอื สถานบำ� บดั รกั ษาตามวรรคหนง่ึ การสง่ ตวั บคุ คลตามวรรคหนง่ึ ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บทค่ี ณะกรรมการ ก�ำหนด มาตรา ๒๗ ใหแ้ พทยอ์ ยา่ งนอ้ ยหนงึ่ คนและพยาบาลอยา่ งนอ้ ยหนงึ่ คน ทป่ี ระจำ� สถานพยาบาลของรฐั หรอื สถานบำ� บดั รกั ษา ตรวจวนิ จิ ฉยั และประเมนิ อาการเบื้องตน้ บุคคลทีม่ ีการน�ำส่งตามมาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ หรือมาตรา ๒๖ ใหแ้ ลว้ เสรจ็ โดยไมช่ กั ชา้ ทง้ั นี้ ตอ้ งไมเ่ กนิ สส่ี บิ แปดชว่ั โมงนบั แตเ่ วลาทบ่ี คุ คลนนั้ มาถงึ สถานพยาบาลของรฐั หรอื สถานบำ� บดั รักษา การตรวจวนิ จิ ฉยั และประเมนิ อาการเบอ้ื งตน้ ตามวรรคหนงึ่ ใหแ้ พทย์ มีอ�ำนาจตรวจวินิจฉัยและบ�ำบัดรักษาเพียงเท่าที่จ�ำเป็นตามความรุนแรง ของอาการเพอื่ ประโยชนแ์ กส่ ขุ ภาพของบคุ คลน้ัน ในกรณที ่ีผลการตรวจตามวรรคหนง่ึ ปรากฏว่า บุคคลน้นั จำ� เป็นตอ้ ง ได้รับการตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการโดยละเอียดจากคณะกรรมการ สถานบ�ำบัดรักษาให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีส่งตัวบุคคลนั้นพร้อมกับรายงานผล การตรวจวนิ จิ ฉยั และประเมนิ อาการเบื้องตน้ เพื่อเข้ารบั การตรวจวนิ ิจฉัยและ ประเมินอาการโดยละเอียดตามมาตรา ๒๙ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการรายงานผลการตรวจวนิ จิ ฉยั และประเมนิ อาการเบอ้ื งตน้ ตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามระเบยี บที่คณะกรรมการก�ำหนด มาตรา ๒๘ กรณที แี่ พทยต์ รวจพบวา่ บคุ คลใดมลี กั ษณะตามมาตรา ๒๒ ให้ส่งตัวบุคคลน้ันพร้อมกับรายงานผลการตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการ เบอ้ื งตน้ เพอื่ เขา้ รบั การตรวจวนิ จิ ฉยั และประเมนิ อาการโดยละเอยี ดตามมาตรา ๒๙ และใหน้ �ำความในมาตรา ๒๗ วรรคสองและวรรคสีม่ าใช้บังคับโดยอนโุ ลม รวมกฎหมายอนุบัญญตั ิตามพระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ 17 และที่แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๒๙ เมื่อสถานบ�ำบัดรักษารับบุคคลท่ีพนักงานเจ้าหน้าท่ี นำ� สง่ ตามมาตรา ๒๗ วรรคสาม หรอื แพทย์น�ำส่งตามมาตรา ๒๘ แลว้ แต่กรณี ให้คณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษาตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการบุคคลน้ัน โดยละเอยี ดภายในสามสบิ วนั นบั แตว่ นั ทร่ี บั ตวั บคุ คลนน้ั ไวใ้ นกรณที คี่ ณะกรรมการ สถานบำ� บัดรักษาเหน็ ว่าบุคคลน้ันมีลักษณะตามมาตรา ๒๒ ให้มีค�ำสงั่ อย่างใด อยา่ งหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี (๑) ใหบ้ คุ คลนน้ั ต้องเข้ารบั การบ�ำบดั รักษาในสถานบำ� บดั รกั ษา (๒) ใหบ้ คุ คลนนั้ ตอ้ งรบั การบำ� บดั รกั ษา ณ สถานทอี่ น่ื นอกจากสถาน บ�ำบัดรักษาเมื่อบุคคลนั้นไม่มีภาวะอันตราย ท้ังน้ี จะก�ำหนดเงื่อนไขใด ๆ ทจี่ ำ� เปน็ เกยี่ วกบั การบำ� บดั รกั ษาใหบ้ คุ คลนน้ั หรอื ผรู้ บั ดแู ลบคุ คลนน้ั ตอ้ งปฏบิ ตั ิ ด้วยก็ได้ ให้น�ำความในมาตรา ๒๗ วรรคสอง มาใชบ้ งั คับกบั การตรวจวนิ ิจฉยั และประเมินอาการตามวรรคหนง่ึ โดยอนโุ ลม หลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาและมีค�ำส่ังตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการกำ� หนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๓๐ ค�ำส่ังรับผู้ป่วยไว้บ�ำบัดรักษาตามมาตรา ๒๙ (๑) ใหค้ ณะกรรมการสถานบำ� บดั รกั ษากำ� หนดวธิ กี ารและระยะเวลาการบำ� บดั รกั ษา ตามความรุนแรงของความผิดปกติทางจติ แตท่ ง้ั น้ี ตอ้ งไม่เกนิ เกา้ สิบวันนับแต่ วนั ทม่ี คี ำ� สง่ั และอาจขยายระยะเวลาไดอ้ กี ครงั้ ละไมเ่ กนิ เกา้ สบิ วนั นบั แตว่ นั ทมี่ ี ค�ำส่งั ครัง้ แรกหรอื ครงั้ ถดั ไป ให้คณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษาพิจารณาผลการบ�ำบัดรักษา เพอื่ มคี ำ� สง่ั ตามมาตรา ๒๙ (๑) หรอื (๒) แลว้ แตก่ รณี กอ่ นสน้ิ กำ� หนดระยะเวลา บำ� บัดรักษาในแต่ละคร้งั ตามวรรคหน่ึงไม่นอ้ ยกวา่ สบิ ห้าวนั มาตรา ๓๑ ในระหว่างการบ�ำบัดรักษาตามมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง เมอ่ื แพทยผ์ บู้ ำ� บดั รกั ษาเหน็ วา่ ผปู้ ว่ ยไดร้ บั การบำ� บดั รกั ษาจนความผดิ ปกตทิ างจติ หายหรอื ทเุ ลาและผปู้ ว่ ยไมม่ ภี าวะอนั ตรายแลว้ ใหแ้ พทยจ์ ำ� หนา่ ยผปู้ ว่ ยดงั กลา่ ว 18 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ติ ามพระราชบัญญัตสิ ุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และทแ่ี ก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ออกจากสถานพยาบาลและรายงานผลการบ�ำบัดรักษาและการจำ� หนา่ ยผู้ปว่ ย ให้คณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษาทราบโดยไม่ชักช้า ท้ังน้ี ให้แพทย์ติดตาม ผลการบำ� บดั รักษาเป็นระยะ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการรายงานผลการบำ� บดั รกั ษา การจำ� หนา่ ย ผูป้ ว่ ยและการติดตามผลการบ�ำบดั รกั ษาตามวรรคหน่งึ ให้เป็นไปตามระเบียบ ท่ีคณะกรรมการก�ำหนด มาตรา ๓๒ ในกรณีท่ีผู้ป่วยหรือผู้รับดูแลผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตาม มาตรา ๒๙ (๒) หรอื การบำ� บดั รกั ษาไมเ่ ปน็ ผล หรอื พฤตกิ ารณท์ เ่ี ปน็ เหตใุ หม้ กี าร ออกคำ� สง่ั ตามมาตรา ๒๙ (๒) เปลยี่ นแปลงไป คณะกรรมการสถานบำ� บดั รกั ษา อาจแก้ไขเพ่ิมเติมหรือเพิกถอนค�ำสั่งหรือมีค�ำสั่งให้รับผู้ป่วยไว้บ�ำบัดรักษา ตามมาตรา ๒๙ (๑) กไ็ ด้ ในกรณีผ้ปู ว่ ยตามมาตรา ๒๙ (๒) ดแู ลตนเองไม่ไดแ้ ละไมม่ ีผรู้ ับดแู ล ให้น�ำความในมาตรา ๔๐ (๒) มาใช้บังคับ มาตรา ๓๓ ในกรณีท่ีผู้ป่วยหลบหนีออกนอกเขตสถานพยาบาล ของรัฐหรือสถานบ�ำบัดรักษา ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีประสานงานกับพนักงาน ฝา่ ยปกครองหรอื ตำ� รวจและญาตเิ พอ่ื ตดิ ตามบคุ คลนน้ั กลบั มาทสี่ ถานพยาบาล ของรัฐหรือสถานบ�ำบัดรักษา ท้ังน้ี มิให้นับระยะเวลาที่บุคคลน้ันหลบหนี เขา้ ในกำ� หนดระยะเวลาตามมาตรา ๒๗ มาตรา ๒๙ หรอื มาตรา ๓๐ แลว้ แตก่ รณี ใหน้ ำ� ความในมาตรา ๔๖ มาใชบ้ ังคับกบั การตดิ ตามผ้ปู ่วยทห่ี ลบหนี ตามวรรคหนงึ่ โดยอนโุ ลม มาตรา ๓๔ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการบำ� บดั รกั ษาผปู้ ว่ ย ใหค้ ณะกรรมการ สถานบำ� บดั รกั ษามอี ำ� นาจสง่ั ยา้ ยผปู้ ว่ ยไปรบั การบำ� บดั รกั ษาในสถานบำ� บดั รกั ษา อ่นื ได้ ตามระเบยี บทคี่ ณะกรรมการก�ำหนด รวมกฎหมายอนุบญั ญตั ิตามพระราชบัญญัตสิ ขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 19 และที่แก้ไขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ส่วนที่ ๒ ผปู้ ่วยคดี มาตรา ๓๕ ภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๑๔ วรรคหนงึ่ แหง่ ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานสอบสวนหรือศาลส่งผู้ต้องหาหรือจ�ำเลย ไปรบั การตรวจทสี่ ถานบำ� บัดรกั ษาพร้อมทัง้ รายละเอยี ดพฤติการณ์แห่งคดี เม่ือสถานบ�ำบัดรักษารับผู้ต้องหาหรือจ�ำเลยไว้แล้ว ให้จิตแพทย์ ตรวจวินิจฉัยความผิดปกติทางจิตและท�ำความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา ของพนกั งานสอบสวนหรอื ศาลวา่ ผตู้ อ้ งหาหรอื จำ� เลยสามารถตอ่ สคู้ ดไี ดห้ รอื ไม่ แล้วรายงานผลการตรวจวินิจฉัยและประเมินความสามารถในการต่อสู้คดี ให้พนักงานสอบสวนหรอื ศาลทราบภายในสสี่ บิ ห้าวันนบั แตว่ นั ทไี่ ด้รบั ผู้ตอ้ งหา หรอื จำ� เลยไว้ และอาจขยายระยะเวลาไดอ้ ีกไมเ่ กินส่ีสบิ หา้ วัน เพื่อประโยชน์ในการประเมินความสามารถในการต่อสู้คดี ให้ สถานบ�ำบัดรักษามีอ�ำนาจเรียกเอกสารที่เก่ียวข้องกับผู้ต้องหาหรือจ�ำเลยจาก สถานพยาบาลอ่ืนได้ ให้น�ำความในมาตรา ๒๗ วรรคสอง มาใช้บังคบั กบั การตรวจวินจิ ฉัย ความผิดปกติทางจิตตามวรรคสองโดยอนุโลม ในกรณีท่ีผู้ต้องหาหรือจ�ำเลยถูกคุมขัง และมีความจ�ำเป็นต้องรับ ผู้ต้องหาหรือจ�ำเลยไว้ในสถานบ�ำบัดรักษาเพ่ือการสังเกตอาการ ตรวจวินิจฉัย บ�ำบัดรักษาและประเมินความสามารถในการต่อสู้คดี สถานบ�ำบัดรักษา อาจขอให้พนักงานสอบสวนหรือศาลก�ำหนดวิธีการ เพื่อป้องกันการหลบหนี หรือเพ่อื ป้องกันอันตรายกไ็ ด้ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการรายงานผลการตรวจวนิ จิ ฉยั และประเมนิ ความสามารถในการตอ่ สคู้ ดตี ามวรรคสอง ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บทค่ี ณะกรรมการ ก�ำหนด 20 รวมกฎหมายอนบุ ัญญตั ติ ามพระราชบัญญัตสิ ุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทีแ่ กไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๓๖ ภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๑๔ วรรคสอง แหง่ ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาให้สถานบ�ำบัดรักษารับผู้ต้องหาหรือจ�ำเลยไว้ควบคุม และบ�ำบดั รกั ษาโดยไม่ต้องไดร้ บั ความยนิ ยอมจากผตู้ อ้ งหาหรือจ�ำเลย จนกวา่ ผู้ต้องหาหรือจ�ำเลยจะหายหรือทุเลาและสามารถต่อสู้คดีได้ เว้นแต่พนักงาน สอบสวนหรือศาลจะมคี ำ� ส่ังหรอื มีกฎหมายบญั ญัตไิ ว้เป็นอย่างอ่นื ใหจ้ ติ แพทยผ์ บู้ ำ� บดั รกั ษาทำ� รายงานผลการบำ� บดั รกั ษาสง่ ใหพ้ นกั งาน สอบสวนหรือศาลภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับผู้ต้องหาหรือ จ�ำเลยไว้ ในกรณที ่จี ิตแพทย์เหน็ ว่าผูต้ อ้ งหาหรอื จำ� เลยยังไม่สามารถต่อสคู้ ดไี ด้ ใหร้ ายงานผลการบ�ำบดั รักษาทกุ หน่งึ รอ้ ยแปดสิบวนั เวน้ แตพ่ นักงานสอบสวน หรือศาลจะมีค�ำส่ังเป็นอย่างอื่น ในระหวา่ งการบำ� บดั รกั ษา เมอ่ื จติ แพทยผ์ บู้ ำ� บดั รกั ษาเหน็ วา่ ผตู้ อ้ งหา หรือจ�ำเลยได้รับการบ�ำบัดรักษาจนความผิดปกติทางจิตหายหรือทุเลา และ สามารถต่อสู้คดีได้แล้วให้รายงานผลการบ�ำบัดรักษาต่อพนักงานสอบสวน หรอื ศาลทราบโดยไมช่ กั ช้า หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการรายงานผลการบำ� บดั รกั ษาตามวรรคสอง และวรรคสามให้เป็นไปตามระเบียบทีค่ ณะกรรมการกำ� หนด มาตรา ๓๗ ในกรณีที่ศาลมีค�ำสั่งให้ส่งผู้ป่วยคดีไปคุมตัวหรือรักษา ไวใ้ นสถานพยาบาลตามมาตรา๔๘และมาตรา๔๙วรรคสองแหง่ ประมวลกฎหมาย อาญา หรอื ตามมาตรา ๒๔๖ (๑) แหง่ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา ให้ศาลส่งส�ำเนาค�ำสั่งไปพร้อมกับผู้ป่วยคดี และให้สถานบ�ำบัดรักษา รับผู้ป่วยคดีไว้ควบคุมและบ�ำบัดรักษาโดยไม่ต้องได้รับความยินยอม จากผปู้ ่วยคดี ให้จิตแพทย์ผู้บ�ำบัดรักษารายงานผลการบ�ำบัดรักษาและความเห็น ตอ่ ศาลภายในหนงึ่ รอ้ ยแปดสบิ วนั นบั แตว่ นั ทไี่ ดร้ บั ผปู้ ว่ ยคดไี ว้ ในกรณที จ่ี ติ แพทย์ รวมกฎหมายอนุบญั ญตั ิตามพระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 21 และท่ีแกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

เหน็ วา่ มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งบำ� บดั รกั ษาผปู้ ว่ ยคดตี อ่ ไปใหร้ ายงานผลการบำ� บดั รกั ษา และความเหน็ ตอ่ ศาลทกุ หนง่ึ รอ้ ยแปดสบิ วนั เวน้ แตศ่ าลจะมคี ำ� สงั่ เปน็ อยา่ งอน่ื ในการควบคุมและบ�ำบัดรักษา สถานบ�ำบัดรักษาอาจขอให้ศาล ก�ำหนดวิธกี ารเพ่ือปอ้ งกันการหลบหนีหรือเพื่อปอ้ งกันอนั ตรายกไ็ ด้ หลักเกณฑ์และวิธีการในการรายงานผลการบ�ำบัดรักษาและ การทำ� ความเหน็ ตามวรรคสองใหเ้ ป็นไปตามระเบียบทีค่ ณะกรรมการก�ำหนด มาตรา ๓๘ ในระหวา่ งการบำ� บดั รกั ษาตามมาตรา ๓๗ เมอื่ จติ แพทย์ ผู้บ�ำบัดรักษาเห็นว่าผู้ป่วยคดีได้รับการบ�ำบัดรักษาจนความผิดปกติทางจิต หายหรอื ทเุ ลาและไมม่ ภี าวะอนั ตรายแลว้ ใหจ้ ติ แพทยร์ ายงานผลการบำ� บดั รกั ษา และความเห็นเพ่ือจ�ำหน่ายผู้ป่วยคดีดังกล่าวออกจากสถานพยาบาลต่อศาล โดยไมช่ กั ชา้ และรายงานผลการบำ� บดั รกั ษาและความเหน็ ดงั กลา่ วใหค้ ณะกรรมการ สถานบำ� บดั รักษาทราบ หลักเกณฑ์และวิธีการในการรายงานผลการบ�ำบัดรักษาและ การท�ำความเห็นตามวรรคหนึง่ ให้เปน็ ไปตามระเบยี บที่คณะกรรมการกำ� หนด มาตรา ๓๙ ในกรณที ศ่ี าลกำ� หนดเงอ่ื นไขตามมาตรา ๕๖ วรรคสอง (๔) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้ศาลส่งผู้ป่วยคดีพร้อมท้ังส�ำเนาค�ำพิพากษา ไปยงั สถานบ�ำบัดรักษา ให้จิตแพทย์ผู้บ�ำบัดรักษารายงานผลการบ�ำบัดรักษาและความเห็น ตอ่ ศาลภายในเกา้ สิบวันนบั แต่วนั ท่ีได้รับผู้ปว่ ยคดีไว้ ในกรณที จ่ี ิตแพทยเ์ หน็ ว่า มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งบำ� บดั รกั ษาผปู้ ว่ ยคดตี อ่ ไปใหร้ ายงานผลการบำ� บดั รกั ษาและ ความเหน็ ต่อศาลทุกเก้าสบิ วนั เวน้ แต่ศาลจะมีค�ำสัง่ เป็นอยา่ งอืน่ ให้น�ำความในมาตรา ๓๗ วรรคสามและวรรคสี่ และมาตรา ๓๘ มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม 22 รวมกฎหมายอนุบัญญตั ิตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

สว่ นที่ ๓ การฟืน้ ฟสู มรรถภาพ มาตรา ๔๐ ในกรณีท่ีคณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษามีค�ำสั่ง ตามมาตรา ๒๙ (๒) ใหห้ วั หนา้ สถานบ�ำบดั รกั ษามหี น้าที่ ดงั นี้ (๑) แจ้งใหผ้ ู้รบั ดแู ลผ้ปู ่วยรบั ตัวผปู้ ว่ ยไปดแู ล (๒) ในกรณีที่ไม่มีผู้รับดูแลให้แจ้งหน่วยงานด้านสงเคราะห์และ สวสั ดิการทง้ั ภาครัฐและเอกชนตามที่คณะกรรมการประกาศก�ำหนด (๓) แจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทตี่ ดิ ตามดแู ล ประสานงานและชว่ ยเหลอื ในการด�ำเนินการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยตาม (๑) และหน่วยงานตาม (๒) แลว้ รายงานให้คณะกรรมการสถานบำ� บัดรักษาทราบ ใหผ้ รู้ บั ดแู ลผปู้ ว่ ยมสี ทิ ธไิ ดร้ บั บรกิ ารใหค้ ำ� ปรกึ ษา แนะนำ� ฝกึ อบรมทกั ษะ การจัดการศึกษา และการส่งเสริมอาชีพ ตลอดจนความช่วยเหลืออื่นใด เพือ่ ให้ดแู ลผู้ป่วยต่อไปได้ ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ีคณะกรรมการประกาศ กำ� หนด๑๖ มาตรา ๔๑ เมอ่ื ผถู้ กู คมุ ขงั ซงึ่ ไดร้ บั การบำ� บดั รกั ษาในระหวา่ งถกู คมุ ขงั ถงึ กำ� หนดปลอ่ ยตัวให้หวั หน้าสถานที่คมุ ขงั มีหน้าทด่ี �ำเนินการตามมาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑/๑๑๗ ให้หน่วยงานของรัฐท่ีเก่ียวข้องด�ำเนินการฟื้นฟู สมรรถภาพของผู้ป่วยท่ีผ่านการบ�ำบัดรักษาให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ไดอ้ ยา่ งปกตสิ ขุ รวมทง้ั สนบั สนนุ ใหผ้ ปู้ ว่ ย ญาตขิ องผปู้ ว่ ย ชมุ ชน และภาคเอกชน มสี ่วนรว่ มในการด�ำเนินการดังกล่าวดว้ ย การดำ� เนินการฟื้นฟสู มรรถภาพของผู้ป่วย ให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารทคี่ ณะกรรมการประกาศก�ำหนด ๑๖ มาตรา ๔๐ วรรคสอง เพ่ิมโดยพระราชบญั ญัติสุขภาพจติ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 23 ๑๗ มาตรา ๔๑/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญตั สิ ุขภาพจิต (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมกฎหมายอนบุ ญั ญัตติ ามพระราชบัญญัตสิ ุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่ีแกไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

หมวด ๔ การอทุ ธรณ์ มาตรา ๔๒ ในกรณที ีค่ ณะกรรมการสถานบ�ำบดั รกั ษา มีค�ำส่ังตาม มาตรา ๒๙ (๑) หรอื (๒) หรอื มีค�ำสงั่ ใหข้ ยายระยะเวลาการบ�ำบดั รกั ษาตาม มาตรา ๓๐ ใหผ้ ูป้ ว่ ยหรือคสู่ มรส ผ้บู ุพการี ผสู้ บื สนั ดาน ผูป้ กครอง ผพู้ ิทักษ์ ผ้อู นบุ าล หรือผ้ซู ึ่งปกครองดแู ลผู้ป่วย แลว้ แต่กรณี มีสทิ ธอิ ุทธรณ์เปน็ หนงั สือ ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งค�ำส่ัง ดังกล่าว การอทุ ธรณต์ ามวรรคหนงึ่ ไมเ่ ปน็ เหตทุ เุ ลาการบงั คบั ตามคำ� สง่ั เวน้ แต่ คณะกรรมการอุทธรณ์จะเห็นสมควรให้มีการทุเลาการบังคับตามค�ำสั่งน้ัน ไวช้ ว่ั คราว ใหค้ ณะกรรมการอทุ ธรณพ์ จิ ารณาอทุ ธรณใ์ หแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในสามสบิ วนั นบั แต่วันท่ีไดร้ ับอุทธรณ์ ค�ำวินิจฉยั ของคณะกรรมการอุทธรณใ์ ห้เป็นท่ีสดุ หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นอุทธรณ์ และวิธีพิจารณาอุทธรณ์ ให้เปน็ ไปตามระเบยี บท่คี ณะกรรมการกำ� หนด มาตรา ๔๓ ให้มีคณะกรรมการอุทธรณ์ ประกอบดว้ ย (๑) อธิบดี เป็นประธานกรรมการ (๒) ผแู้ ทนองคก์ รภาคเอกชนทเ่ี ปน็ นติ บิ คุ คลและมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ กยี่ วกบั การคุ้มครองดแู ลบคุ คลทมี่ คี วามผดิ ปกติทางจติ ซ่งึ เลือกกันเองจ�ำนวนสามคน เป็นกรรมการ (๓) ผู้ทรงคุณวุฒิจ�ำนวนห้าคน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ที่มีความรู้ และประสบการณ์ในสาขาการแพทย์จิตเวช จิตวิทยาคลินิก สังคมสงเคราะห์ ทางการแพทย์ การพยาบาล สขุ ภาพจติ และจติ เวช และกฎหมาย สาขาละหนงึ่ คน เป็นกรรมการ 24 รวมกฎหมายอนบุ ัญญัติตามพระราชบัญญัตสิ ุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ให้รองอธิบดีหรือหัวหน้าสถานบ�ำบัดรักษา ซ่ึงอธิบดีแต่งตั้ง เป็นกรรมการและเลขานุการ การเลอื กและการแตง่ ตั้งกรรมการตาม (๒) และ (๓) ให้เปน็ ไปตาม ระเบยี บทร่ี ัฐมนตรีประกาศก�ำหนด มาตรา ๔๔ คณะกรรมการอุทธรณ์มอี ำ� นาจหน้าที่ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) พจิ ารณาอทุ ธรณ์ตามมาตรา ๔๒ (๒) รายงานผลการด�ำเนินการให้คณะกรรมการทราบอย่างน้อย ปลี ะคร้งั มาตรา ๔๕ ให้น�ำความในมาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ และมาตรา ๑๑ มาใช้บงั คบั กับคณะกรรมการอุทธรณโ์ ดยอนุโลม หมวด ๕ พนกั งานเจ้าหนา้ ที่ มาตรา ๔๖ ในการปฏบิ ตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ที่ มอี �ำนาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑)๑๘ เขา้ ไปในเคหสถาน สถานที่ หรอื ยานพาหนะใด ๆ เพอ่ื นำ� บคุ คล ซ่ึงมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่ามีลักษณะตามมาตรา ๒๒ ไปรับการบ�ำบัดรักษา ในสถานพยาบาลของรฐั หรอื สถานบำ� บดั รกั ษา เมอ่ื มเี หตอุ นั ควรสงสยั ตามสมควร วา่ บคุ คลดงั กล่าวอยใู่ นเคหสถาน สถานท่ี หรอื ยานพาหนะใด ๆ ประกอบกบั มีเหตุอันควรเช่ือว่าเน่ืองจากการเน่ินช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ บุคคลนั้น จะหลบหนีไปหรือกรณีมีเหตุฉุกเฉินเน่ืองจากบุคคลน้ันมีภาวะอันตรายและ เปน็ อนั ตรายท่ใี กลจ้ ะถึง ๑๘ มาตรา ๔๖ (๑) แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญัตสิ ขุ ภาพจติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมกฎหมายอนบุ ญั ญตั ติ ามพระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 25 และท่แี กไ้ ขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

(๒) ซกั ถามบคุ คลใด ๆ เพอ่ื ทราบขอ้ มลู เกย่ี วกบั สขุ ภาพ ความเจบ็ ปว่ ย พฤติกรรมและความสมั พนั ธใ์ นครอบครัวและชุมชนของบุคคลตาม (๑) (๓) มหี นงั สอื สอบถามหรอื เรยี กบคุ คลใด ๆ มาเพอ่ื ใหถ้ อ้ ยคำ� สง่ คำ� ชแ้ี จง เป็นหนังสือหรือส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เก่ียวข้องมาเพื่อตรวจสอบหรือ เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณา การด�ำเนินการตาม (๑) พนักงานเจ้าหน้าที่อาจร้องขอให้พนักงาน ฝา่ ยปกครองหรอื ตำ� รวจหรอื ผปู้ ฏบิ ตั กิ ารตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการแพทยฉ์ กุ เฉนิ ให้ความช่วยเหลือก็ได้ ท้ังน้ี ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีปฏิบัติตามระเบียบ ที่คณะกรรมการกำ� หนด๑๙ มาตรา ๔๗ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี ามพระราชบญั ญตั นิ พ้ี นกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ตอ้ งแสดงบัตรประจ�ำตัวต่อบคุ คลที่เกย่ี วข้อง บัตรประจ�ำตัวพนักงานเจ้าหน้าท่ีให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรี ประกาศก�ำหนด มาตรา ๔๘ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องพนกั งานเจา้ หนา้ ทตี่ ามมาตรา ๔๖ ให้บุคคลท่เี กย่ี วข้องอ�ำนวยความสะดวกตามสมควร มาตรา๔๙ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี ามพระราชบญั ญตั นิ ้ีใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ี เปน็ เจ้าพนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด ๖ บทก�ำหนดโทษ มาตรา ๕๐ ผใู้ ดฝ่าฝืนมาตรา ๑๖ ตอ้ งระวางโทษจำ� คกุ ไม่เกินหนึง่ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินสองหมน่ื บาท หรือทง้ั จำ� ทั้งปรับ ๑๙ มาตรา ๔๖ วรรคสอง แกไ้ ขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั สิ ุขภาพจิต (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 26 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญัตติ ามพระราชบญั ญัติสุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่ีแก้ไขเพิม่ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ถ้าการกระท�ำความผดิ ตามวรรคหน่งึ ไดก้ ระทำ� โดยการโฆษณาหรอื เผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศใด ๆ ผู้กระท�ำต้องระวางโทษจ�ำคุก ไมเ่ กินสองปี หรือปรบั ไมเ่ กนิ สหี่ มืน่ บาท หรอื ท้ังจ�ำทง้ั ปรบั มาตรา ๕๐/๑๒๐ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามค�ำสั่งที่ออกตามมาตรา ๑๖/๒ ตอ้ งระวางโทษจำ� คกุ ไมเ่ กนิ หนงึ่ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนงึ่ แสนบาท หรอื ทง้ั จำ� ทง้ั ปรบั มาตรา ๕๑ ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือต�ำรวจตามมาตรา ๒๓ โดยมีเจตนากลั่นแกล้ง ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจ�ำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมืน่ บาท หรอื ทงั้ จำ� ทงั้ ปรับ มาตรา ๕๒ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหนังสือของพนักงานเจ้าหน้าท่ี ตามมาตรา ๔๖ (๓) โดยไมม่ เี หตอุ นั สมควร ตอ้ งระวางโทษจำ� คกุ ไมเ่ กนิ หกเดอื น หรือปรบั ไม่เกนิ หนงึ่ หม่ืนบาท หรอื ทงั้ จ�ำท้ังปรบั มาตรา ๕๓ ผใู้ ดไมอ่ ำ� นวยความสะดวกตามสมควรแกพ่ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๔๘ ต้องระวางโทษจ�ำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไมเ่ กินหนงึ่ หมน่ื บาท หรือทั้งจ�ำทัง้ ปรบั มาตรา ๕๓/๑๒๑ ในกรณที ผ่ี กู้ ระทำ� ความผดิ เปน็ นติ บิ คุ คลถา้ การกระทำ� ความผิดของนิติบุคคลน้ันเกิดจากการส่ังการหรือการกระท�ำการของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบการด�ำเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระท�ำการและละเว้น ไมส่ ง่ั การหรอื ไมก่ ระทำ� การจนเปน็ เหตใุ หน้ ติ บิ คุ คลนน้ั กระทำ� ความผดิ ผนู้ น้ั ตอ้ ง รบั โทษตามท่ีบัญญตั ิไว้ส�ำหรับความผดิ น้นั ๆ ด้วย มาตรา ๕๓/๒๒๒ ให้มคี ณะกรรมการเปรียบเทยี บ ๒๐ มาตรา ๕๐/๑ เพิ่มโดยพระราชบญั ญตั ิสขุ ภาพจติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒๑ มาตรา ๕๓/๑ เพม่ิ โดยพระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒๒ มาตรา ๕๓/๒ เพม่ิ โดยพระราชบญั ญัติสุขภาพจิต (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมกฎหมายอนบุ ัญญตั ิตามพระราชบัญญัติสุขภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ 27 และท่ีแก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

(๑) ในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ และผู้แทนส�ำนักงาน อยั การสูงสดุ เปน็ กรรมการ และให้อธบิ ดีกรมสุขภาพจิตแต่งต้งั ขา้ ราชการของ กรมสขุ ภาพจติ คนหนงึ่ เปน็ เลขานกุ าร และอกี ไมเ่ กนิ สองคน เปน็ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร (๒) ในเขตจงั หวดั อนื่ ประกอบดว้ ย ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เปน็ ประธาน กรรมการ อยั การจงั หวดั และผบู้ งั คบั การตำ� รวจภธู รจงั หวดั เปน็ กรรมการ และ ใหน้ ายแพทย์สาธารณสุขจังหวดั เปน็ เลขานุการ โดยใหน้ ายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดแต่งต้ังข้าราชการในสังกัดส�ำนักงานสาธารณสุขจังหวัดไม่เกินสองคน เปน็ ผู้ช่วยเลขานุการ บรรดาความผดิ ตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ใหค้ ณะกรรมการเปรยี บเทยี บ มีอ�ำนาจเปรยี บเทยี บไดต้ ามระเบยี บท่ีคณะกรรมการกำ� หนด เมื่อผู้ต้องหาได้ช�ำระเงินค่าปรับตามจ�ำนวนที่เปรียบเทียบภายใน สามสบิ วนั นบั แตว่ นั ทมี่ กี ารเปรยี บเทยี บแลว้ ใหถ้ อื วา่ คดเี ลกิ กนั ตามประมวลกฎหมาย วธิ พี ิจารณาความอาญา บทเฉพาะกาล มาตรา ๕๔ ในวาระเรม่ิ แรก ใหค้ ณะกรรมการประกอบดว้ ยกรรมการ ตามมาตรา ๕ (๑) (๒) (๓) และอธิบดี และให้ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการ ตามพระราชบญั ญตั นิ ไี้ ปพลางกอ่ นจนกวา่ จะมกี รรมการตามมาตรา ๕ (๔) และ (๕) ซึง่ ตอ้ งไม่เกินหนึ่งร้อยยส่ี ิบวนั นับแตว่ นั ทพี่ ระราชบญั ญัตนิ ใ้ี ช้บงั คบั ผูร้ ับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สรุ ยทุ ธ์ จลุ านนท์ นายกรฐั มนตรี 28 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญัตติ ามพระราชบัญญัตสิ ขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทแี่ ก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ี คอื โดยทปี่ ระชาชน สว่ นใหญย่ งั ขาดความรคู้ วามเขา้ ใจและมที ศั นคตดิ า้ นลบตอ่ บคุ คลทมี่ คี วามผดิ ปกติ ทางจติ ทำ� ใหบ้ คุ คลดงั กลา่ วไมไ่ ดร้ บั การบำ� บดั รกั ษาอยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม เปน็ เหตใุ หค้ วามผดิ ปกตทิ างจติ ทวคี วามรนุ แรงขนึ้ จนกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายรา้ ยแรง ต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อ่ืน สมควรมีกฎหมายว่าด้วย สขุ ภาพจิต เพอื่ กำ� หนดกระบวนการในการบำ� บัดรักษาบคุ คลทม่ี ีความผิดปกติ ทางจิต อันเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของบุคคลนั้นและสังคม รวมทั้ง ก�ำหนดกระบวนการในการบ�ำบัดรักษาบุคคลท่ีมีความผิดปกติทางจิต ซงึ่ อยรู่ ะหวา่ งการสอบสวนการไตส่ วนมลู ฟอ้ งหรอื การพจิ ารณา หรอื ภายหลงั ศาล มคี �ำพพิ ากษาในคดอี าญา จงึ จำ� เป็นต้องตราพระราชบัญญตั นิ ้ี พระราชบญั ญตั ิสุขภาพจติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒๒๓ มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก�ำหนดเก้าสิบวัน นบั แตว่ นั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป มาตรา ๒๑ ใหก้ รรมการตามมาตรา ๕ (๔) และ (๕) แหง่ พระราชบญั ญตั ิ สขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ ซ่ึงด�ำรงตำ� แหน่งอยู่ในวนั กอ่ นวันทีพ่ ระราชบัญญัตนิ ี้ ใชบ้ งั คบั ปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ อ่ ไปจนกวา่ จะไดม้ กี ารแตง่ ตงั้ กรรมการตามมาตรา ๕ (๔) และ (๕) แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติน้ี ทั้งนี้ จะต้องด�ำเนินการแต่งตั้งกรรมการดังกล่าว ให้แล้วเสรจ็ ภายในหน่ึงรอ้ ยยี่สบิ วันนับแต่วนั ทพี่ ระราชบญั ญัตนิ ใี้ ช้บังคับ มาตรา ๒๒ ให้คณะกรรมการสถานบ�ำบัดรักษาซ่ึงด�ำรงต�ำแหน่ง อยใู่ นวนั กอ่ นวนั ทพ่ี ระราชบญั ญตั นิ ใ้ี ชบ้ งั คบั ปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี อ่ ไปจนกวา่ จะมกี ารแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสถานบำ� บดั รกั ษาตามมาตรา ๑๒ แหง่ พระราชบญั ญตั สิ ขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติน้ี ทั้งนี้ จะต้องด�ำเนินการ ๒๓ ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๕๐ ก/หนา้ ๒๑๐/๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ รวมกฎหมายอนบุ ัญญตั ติ ามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 29 และทีแ่ กไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

แต่งตั้งกรรมการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ พระราชบัญญัตนิ ้ใี ชบ้ งั คับ มาตรา ๒๓ บรรดาระเบยี บหรอื ประกาศทอ่ี อกตามพระราชบญั ญัติ สขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ ทใ่ี ชบ้ งั คบั อยใู่ นวนั กอ่ นวนั ทพี่ ระราชบญั ญตั นิ ใ้ี ชบ้ งั คบั ใหย้ งั คงใชบ้ งั คบั ไดต้ อ่ ไปเทา่ ทไ่ี มข่ ดั หรอื แยง้ กบั บทบญั ญตั แิ หง่ พระราชบญั ญตั ิ สุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติน้ีจนกว่า จะมีระเบียบหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ ซง่ึ แกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญตั นิ ใี้ ช้บงั คบั การดำ� เนนิ การออกระเบยี บหรอื ประกาศตามวรรคหนง่ึ ใหด้ ำ� เนนิ การ ใหแ้ ลว้ เสร็จภายในหนึ่งปีนบั แต่วนั ทพี่ ระราชบญั ญตั นิ ใ้ี ชบ้ ังคบั หากไมส่ ามารถ ด�ำเนินการได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรายงานเหตุผลท่ีไม่อาจ ด�ำเนินการไดต้ อ่ คณะรัฐมนตรเี พ่อื ทราบ มาตรา ๒๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการ ตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ หมายเหตุ:-เหตผุ ลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ีคอื โดยทพ่ี ระราชบญั ญตั ิ สุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ท�ำให้บทบัญญัติ บางประการไมส่ อดคลอ้ งกบั สถานการณป์ จั จบุ นั บคุ คลทม่ี คี วามผดิ ปกตทิ างจติ ยังไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างถูกต้องและเพียงพอ มีการเผยแพร่ข้อมูล ส่ือส่ิงพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือส่ืออ่ืนใด ในทางท่ีก่อให้เกิดทัศนคติไม่ดี ตอ่ บคุ คลทมี่ คี วามผดิ ปกตทิ างจติ รวมทงั้ ขาดกลไกการฟน้ื ฟสู มรรถภาพใหผ้ ปู้ ว่ ย ท่ีมีอาการทุเลาสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข สมควรก�ำหนด บทบัญญัติเก่ียวกับการสร้างเสริม การป้องกันและการควบคุมปัจจัยที่คุกคาม สขุ ภาพจติ เพม่ิ เตมิ อำ� นาจหนา้ ทคี่ ณะกรรมการสขุ ภาพจติ แหง่ ชาตใิ หค้ รอบคลมุ ด้านการสร้างเสริม การป้องกัน และการควบคุมปัจจัยท่ีคุกคามสุขภาพจิต 30 รวมกฎหมายอนุบัญญตั ิตามพระราชบัญญัตสิ ขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

การคุ้มครองสิทธิของบุคคลท่ีมีความผิดปกติทางจิต การเข้าถึงบริการ ด้านสุขภาพจิตและการอยู่ร่วมกันในสังคมของบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิต โดยคำ� นงึ ถงึ หลกั การมสี ว่ นรว่ มของหนว่ ยงานของรฐั และประชาชนในทกุ ภาคสว่ น ตลอดจนก�ำหนดห้ามส่ือทุกประเภทเผยแพร่ข้อมูลใด ๆ ที่ท�ำให้เกิด ความรังเกียจเดียดฉันท์ หรือความเสียหายแก่จิตใจ ช่ือเสียง เกียรติคุณ รวมท้ังก�ำหนดให้สถานบ�ำบัดรักษาแต่ละแห่งสามารถมีคณะกรรมการ สถานบำ� บดั รกั ษาไดม้ ากกวา่ หนง่ึ คณะเพอื่ ใหเ้ กดิ ความรวดเรว็ ในการปฏบิ ตั งิ าน อันเป็นการส่งเสริมการบ�ำบัดรักษาและการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย และแก้ไขเพ่ิมเติมบทก�ำหนดโทษและบทบัญญัติเก่ียวกับการเปรียบเทียบ ให้เหมาะสม จึงจำ� เปน็ ตอ้ งตราพระราชบัญญัตินี้ รวมกฎหมายอนุบัญญตั ิตามพระราชบญั ญัติสขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 31 และทแ่ี ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

32 รวมกฎหมายอนุบัญญัตติ ามพระราชบญั ญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่ีแก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

รวมกฎหมายอนุบัญญัตติ ามพระราชบัญญตั ิสขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ 33 และทีแ่ กไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

34 รวมกฎหมายอนุบัญญัตติ ามพระราชบญั ญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่ีแก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

MENTAL HEALTH ACT, B.E. 2551 (2008) BHUMIBOL ADULYADEJ, REX. Given on the 13th Day of February B.E. 2551(2008); Being the 63rd Year of the Present Reign. His Majesty King Bhumibol Adulyadej is graciously pleased to proclaim that: Whereas it is expedient to have a law on mental health; This Act contains certain provisions in relation to the restriction of right and liberty of person, in respect of which section 29 in conjunction with section 32 and section 33 of the Constitution of the Kingdom of Thailand so permit by virtue of law; Be it, therefore, enacted by the King, by and with the advice and consent of the National Legislative Assembly, as follows: Section 1. This Act is called the “Mental Health Act, B.E. 2551(2008)”. Section 2.24 This Act shall come into force as from the day following the date of its publication in the Government Gazette. 24 Published in the Government Gazette, Vol. 125, Part 36 Kor, p.37, dated 20th February B.E. 2551 (2008). รวมกฎหมายอนบุ ญั ญัติตามพระราชบญั ญตั สิ ขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 35 และทีแ่ ก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

Section 3. In this Act, “Health”25 means health under the law on national health; “Mental health”26 Means mental well-being which is linked to a holistic balance with physical, intellectual and social well-being; “Mental disorder” means any symptom of mental disorder exposed through behavior, mood, thought, memory, intelligence, neuro-perception or perception of time, place or person, including any symptom of mental disorder resulting from alcoholic drinks or other psychotropic substances; “Physician” means a medical practitioner under the law on medical profession; “Psychiatrist” means a physician having certificate or written approval as a skillful medical practitioner in psychiatry or child and adolescent psychiatry; “Nurse” means a person practicing in nursing under the law on nursing and midwifery profession; “Patient” means a person with mental disorder who should have treatment; “Patient in criminal case” means a patient under inquiry or initial examination or on trial in criminal case who has to receive diagnosis or treatment by the order of the inquiry official or the Court as well as a patient who has to receive treatment by the order of the Court after rendering judgment in a criminal case; 25 Section 3 Definition of “Health”, added by the Mental Health Act (No. 2) B.E. 2562 (2019) 26 Section 3 Definition of “ Mental health “, added by the Mental Health Act (No. 2) B.E. 2562 (2019) 36 รวมกฎหมายอนุบัญญตั ติ ามพระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทีแ่ กไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

“Patient caregiver”27 means father, mother, child, husband, wife, relatives or any other person who takes care or support the patient; “Threatening condition” means any exposed behavior of a person with mental disorder which may cause serious harm to live, body or property of his own or that of the other; “Requirement for treatment” means a condition that a patient is incapable to give consent to his/her treatment while he/she has to receive treatment without delay so as to protect or alleviate his/her mental disorder or to prevent harm which may be happened to the patient or the other; “Treatment” includes medical treatment and social care for a patient; “Infirmary” means a mental health infirmary as notified by the Minister under this Act; “Detention” means restriction of right and liberty of person by virtue of law through keeping in custody, detention, hold, restraint, lockup, confinement, incarceration and imprisonment; “Board” means the National Mental Health Board; “Infirmary Committee” means a mental health committee of an infirmary; “State agency”28 means central government, provincial administration, local government, state enterprise, government organization, medical and public health professional organization, other government agencies, and includes the Thai Red Cross; 27 Section 3 Definition of “Patient Caregiver”, added by the Mental Health Act (No. 2) B.E. 2562(2019) 28 Section 3 Definition of “ State agency “, added by the Mental Health Act (No. 2) B.E. 2562(2019) รวมกฎหมายอนุบัญญัตติ ามพระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ 37 และทีแ่ ก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

“Competent official” means a person having qualifications required by the regulation as prescribed by the Board who is appointed by the Minister for the execution of this Act; “Director-General” means the Director-General of the Department of Mental Health; “Minister” means the Minister having charge and control of the execution of this Act. Section 4. The Minister of Public Health shall have charge and control of the execution of this Act and shall have the power to appoint the competent officials and to issue the regulations and notifications for the execution of this Act. Such regulations and notifications shall come into force upon their publication in the Government Gazette. CHAPTER I The Board Part 1 The National Mental Health Board Section 5.29 There shall be a National Mental Health Board consisting of: (1) the Prime Minister or the Deputy Prime Minister entrusted by the Prime Minister, as Chairperson; 29 Section 5, amended by the Mental Health Act (No. 2) B.E. 2562(2019) 38 รวมกฎหมายอนบุ ญั ญัตติ ามพระราชบญั ญตั สิ ขุ ภาพจติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และท่ีแกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

(2) the Minister of Public Health, as Vice Chairperson; (3) Ex officio members are: the Permanent Secretary of the Ministry of Defense, Permanent Secretary of the Ministry of Finance, Permanent Secretary of the Ministry of Social Development and Human Security, the Permanent Secretary of the Ministry of Interior, the Permanent Secretary of the Ministry of Justice, the Permanent Secretary of the Ministry of Labor, the Permanent Secretary of the Ministry of Education, the Permanent Secretary of the Ministry of Public Health, the Secretary-General of the Court of Justice, the Attorney-General, the Commissioner-General of the Royal Thai Police, the Secretary-General of the National Health Commission, and the Secretary-General of the National Human Rights Commission; (4) representatives of the non-governmental organizations which are juristic persons having objectives in providing protection and care for person with mental disorder as elected among themselves to be six in number, as members; (5) six qualified persons appointed by the Minister from experts having apparent experience and works in psychiatry, clinical psychology, medical social work, psychiatric mental health nursing, occupational therapy, and law; one from each field, as members. The Director-General shall be member and secretary and not more than two civil services of the Department of Mental Health appointed by the Director General shall be assistant secretaries. The selection and appointment of the members under (4) and (5) shall be in accordance with the regulations as notified by the Minister. รวมกฎหมายอนุบัญญตั ิตามพระราชบัญญัติสขุ ภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ 39 และท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

Section 6. A member under section 5 (4) and (5) shall have qualifications and not be under the following prohibitions: (1) being of Thai nationality; (2) not being under twenty years of age; (3) not being an incompetent or quasi-incompetent; (4) not having been sentenced by a final judgement to imprisonment, except for an offence committed through negligence or a petty offence; (5) not being a person holding political position, a member of local assembly or local administrator, a director of or a person holding any position responsible for the administration of a political party or an advisor or official of a political party. Section 7. A member under section 5 (4) and (5) holds office for a term of three years, but not more than two consecutive terms. In the case where the member under paragraph one vacates office upon the expiration of the term, the appointment of the new member shall be made within ninety days. While the new member has not been appointed, the member who vacates office shall remain in office to continue his/her duties until the newly member has been appointed. In the case where the member under paragraph one vacates office before the expiration of the term, the new member shall be appointed to replace him/her within ninety days as from the date the office becomes vacant and such person shall remain in office for the unexpired term of office of the member, he/she replaces. 40 รวมกฎหมายอนุบญั ญัตติ ามพระราชบญั ญตั สิ ุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook