แบบบันทึกขอ้ มูลบคุ คลผูเ้ ขา้ รบั การสรรหาปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขา ปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพยี ง ----------------------------- QR code แบบบนั ทึก ข้อมลู และ เอกสำรอน่ื ๆ ย่นื แบบบันทึกขอ้ มูลด้วยตนเอง ยนื่ แบบบนั ทึกข้อมูลโดยคณะทำงำน ยื่นแบบบันทกึ ข้อมูลโดยสว่ นรำชกำร รฐั วิสำหกิจ หน่วยงำนอนื่ ของรัฐ องคก์ รอิสระหรอื หนว่ ยงำนเอกชน อนื่ ๆ (ระบุ................................................................................................................) 1. ขอ้ มลู คุณลักษณะสว่ นบุคคล 1.1 ประวัติส่วนตวั ชื่อ-สกลุ (นำย/นำง/นำงสำว) นำยเลก็ ตอ้ นรบั เลขบัตรประจำตวั ประชำชน ๓ ๕ ๒ ๑300095857 อำยุ 54 ปี เกดิ วนั ท่ี 19 เดอื น พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕11 สญั ชำติ ไทย ศำสนำ พทุ ธ ระดบั กำรศกึ ษำ ประถมศึกษำ อำชีพ ทำกำรเกษตร สถำนภำพ โสด สมรส หย่ำ หมำ้ ย จำนวนบุตร–ธดิ ำ (รวม) ๒ คน ชำย ๑ คน หญงิ ๑ คน บำ้ นเลขท่ี ๑9 บำ้ น ขอเหนอื หม่ทู ่ี 1 ถนน - ตำบล/แขวง บ้ำนขอ อำเภอ/เขต เมอื งปำน จงั หวัด ลำปำง รหัสไปรษณีย์ ๕๒๒๔๐ โทรศัพท์ 0871764058 E-mail - 1.2 ขอ้ มูลเกย่ี วกับประเภททำงกำรเกษตรทดี่ ำเนนิ งำน 1.2.1) ประสบกำรณใ์ นกำรทำงำนภำคเกษตร 35 ปี 1.2.2) กิจกรรมกำรเกษตรที่ดำเนนิ งำน เร่มิ ทำกำรเกษตรตั้งแต่อำยุ 15 ปี ( ทำนำทำสวน เลย้ี งสตั ว์ กระบือ , ปลำ ) ปจั จุบนั ทำเกษตรผสมผสำนปศุสัตว์เลีย้ งผึ้ง และประมงเลีย้ งปลำกนิ พืช หอยขม ทำนำทำสวนปำ่ เปน็ เครอื ขำ่ ยของสำนกั งำนกำรสง่ เสริมกำรปลูกป่ำ ของกรมป่ำไมจ้ งั หวัดลำปำง มแี หลง่ เรยี นรู้พรอ้ มกับ ถ่ำยทอด องค์ควำมรใู้ หแ้ กเ่ กษตรกรกำรเลย้ี งผ้ึง และทำสวนไผ่ เปน็ จิตอำสำดำ้ นผู้นำคนพิกำร เปน็ ประธำนชมรมคนพิกำร ตำบลวเิ ชตนคร อำเภอแจห้ ม่ ท่ปี รกึ ษำชมรมคนพิกำรตำบลบ้ำนขอ เป็นท่ปี รกึ ษำศนู ย์คนพิกำรตำบลวิเชตนคร เป็น คณะกรรมกำรมลู นธิ พิ ิทักษ์ดวงตำลำปำง ( รร.คนตำบอด ) และเปน็ รองประธำนสมำพันธเ์ กษตรกรรมยั่งยืนลำปำง เป็นประธำนสมำพันธเ์ กษตรกรรมยั่งยนื อำเภอเมืองปำน เป็นที่ปรกึ ษำเกษตรกรรมย่ังยืนอำเภอแจ้ห่ม ปัจจุบนั สมรส กบั นำงธีรณำ ต้อนรับ มบี ุตร 2 คน หญงิ หนงึ่ คน ชำยหนง่ึ คน มธี ุรกจิ สว่ นตวั เปดิ ร้ำนคำรไ์ บด์ บริกำร เช่อื มเพชร เลื่อย , จำหน่ำยใบเลอ่ื ยชำ่ งไม้ จำหน่ำยใบมดี ตัดหญำ้ , ใบเลอื่ ยตดั ข้ำว ณ รำ้ นตอ้ นรบั คำร์ไบด์ บ้ำนสันมะเกลือ ต. วเิ ชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปำง
-2- 1.2.3) รำยละเอียดกจิ กรรมทด่ี ำเนนิ งำน ในปี 2555 เกดิ แนวควำมคิดในกำรปรับเปลย่ี นพน้ื ท่ีกำรปลูก ป่ำอยำ่ งเดียวมำทำกำรเกษตรแบบทำไร่นำสวนผสม เนื่องจำกปัญหำรำคำข้ำวตกต่ำ โดยเรม่ิ ตน้ จำกกำรบริหำร จัดกำรพื้นทขี่ องตนตำมหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ มีกำรเล้ียงปลำในสระ เล้ียงกบในกระชัง ทำนำ ทำสวนฯลฯ ซึง่ ได้ น้อมนำแนวทำงปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งมำเป็นหลกั ในกำรดำเนนิ ชวี ติ และกำรกจิ กรรมต่ำงๆ ในไร่นำสวนผสม ตำมหลกั กำรปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง หลกั 3 ห่วง 2เง่อื นไข (ควำมพอประมำณ ควำมมเี หตผุ ล มภี ูมิคุ้มกันที่ ด)ี ในกำรดำเนนิ ชวี ติ และกำรประกอบอำชีพ นำยเล็ก ต้อนรบั ประสบปญั หำในกำรดำเนินกิจกรรมในไร่นำสวนผสม เชน่ ผลผลติ ข้ำวต่อไร่ต่ำ กำร เล้ียงปลำและกบ มปี ัญหำโรค แต่ไมย่ อ่ ทอ้ ต่ออุปสรรค มีควำมตัง้ ใจประกอบอำชพี ดว้ ยควำมอุตสำหะ แก้ไขปัญหำ ตำ่ งๆ ทเ่ี กดิ ขึน้ โดยกำรนอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำ ซงึ่ เป็นแนวทำงกำรหลักกำรทรงงำนของพระบำทสมเด็จพระ ปรมนิ ทรมหำภูมิพลอดุลยเดช รชั กำลท่ี 9 ดว้ ยควำมขยันหมัน่ เพยี ร อดทน และมุ่งมนั่ มีกำรทำกำรเกษตรแบบ ผสมผสำนและมกี จิ กรรมทีเ่ ก้ือกลู ต่อกำรใช้ประโยชนร์ ่วมกัน ลดกำรพงึ่ พำอำศยั ปจั จัยจำกภำยนอก เน้นกำรใช้ แรงงำนในครวั เรือนเป็นหลกั และเปน็ แหลง่ เรยี นร้เู พื่อใชเ้ พือ่ นบำ้ นและผสู้ นใจไดม้ ำเรยี นรู้ นอกจำกนี้ นำยเล็ก ตอ้ นรับยงั เป็นบุคคลท่ีมแี นวควำมคิดและหมัน่ ศกึ ษำหำควำมรูเ้ พ่ือพัฒนำตนเองอยู่ ตลอดเวลำ ปจั จบุ ัน”ห้วยก่ำกำร์เดน้ วัน”สำมำรถดำเนนิ งำนจนกลำยเป็นแหลง่ เรยี นรใู้ หแ้ กผ่ ทู้ ี่สนใจมำศึกษำดูงำนได้ 1.2.4) จำนวนเน้ือทที่ ใี่ ช้ในกำรประกอบเกษตรกรรม เนอื้ ที่ 85 ไร่ - งำน 1.2.5) ใช้แรงงำนจำก สมำชกิ ในครอบครวั 1.3 ภำวะเศรษฐกิจภำยในครัวเรอื น 1.3.1) รำยได้ 394,881 บำท/ครัวเรือน/ปี 1.3.2) รำยจ่ำย 331,265 บำท/ครวั เรือน/ปี 1.3.3) ภำระหนสี้ ิน ✓ ไม่มี ❑ มี จำนวน บำท 1.4 เป็นผู้ดำเนินชีวิตตำมแนวเศรษฐกิจพอเพียงมำเป็นระยะเวลำ 35 ปี และสำมำรถเป็นแบบอย่ำงแก่ ผู้อืน่ ได…้ …5………ปี 1.4.1) ควำมพอประมำณ นำยเล็ก ต้อนรบั มีพืน้ ท่ีทำกำรเกษตร 20 ไร่ ในปี 2555 เกิดแนวควำมคิดในกำรปรับเปลย่ี น พ้ืนที่จำกสวนป่ำอย่ำงเดียวมำทำไร่นำสวนผสม และกำรปลูกไผ่ กำรเลี้ยงผ้ึงป่ำ โดยเริ่มต้นจำกกำรเลี้ยงปลำในสระ เล้ียงกบในกระชัง ฯลฯ ซ่ึงได้น้อมนำแนวทำงปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงมำเป็นหลักในกำรดำเนินกิจกรรมต่ำงๆ ใน ไร่นำสวนผสม และใช้หลักควำมพอประมำณทำกำรเกษตรเท่ำท่ีทำได้ตำมกำลังของตนเองและครอบครัว ลดกำร พ่ึงพำอำศัยปจั จัยจำกภำยนอก 1.4.2) ควำมมีเหตุผล นำยเล็ก ตอ้ นรับ ประกอบอำชีพกำรเกษตร กำรเล้ียงผึง้ ปำ่ และกำรดำเนนิ ชวี ติ อย่ำงมีเหตุผล กลำ่ วคอื เม่ือประสบปญั หำในกำรดำเนินกิจกรรมในไร่นำสวนผสม เช่น ผลผลติ ขำ้ วต่อไรต่ ำ่ กำรเลย้ี งปลำและกบ มี ปัญหำโรค แตไ่ มย่ ่อท้อต่ออุปสรรค คน้ หำสำเหตุของปัญหำทเ่ี กิดและแก้ไขปญั หำทีเ่ กดิ ขึ้นโดยมองปญั หำจำกจดุ เล็กๆไปหำจุดใหญแ่ ละคอ่ ยๆคิดแก้ปัญหำร่วมกบั สมำชิกในครอบครัวอย่ำงเป็นระบบไมย่ ่อท้อต่อควำมยำกลำบำก จนสำเร็จลลุ ว่ งเกิดเปน็ ประสบกำรณแ์ ละองคค์ วำมรู้ติดตัว นำยเล็ก ต้อนรับ ลดกำรพึ่งพำอำศยั ปัจจยั จำกภำยนอก
-3- 1.4.3) กำรมภี ูมคิ มุ้ กันที่ดี ในกำรทำกำรเกษตรแบบสวนป่ำแบบสวนผสมเป็นภูมิคุ้มกันท่ีดี ในกำรทำกำรเกษตรดังกล่ำว คือ กิจกรรมท่ีเกื้อกูลต่อกำรใช้ประโยชน์ร่วมกันเมื่อเกิดปัญหำผลผลิตข้ำวตกต่ำ เล้ียงกบและปลำมีปัญหำโรคระบำด นำยเล็ก ต้อนรับ มีกำรวำงแผนชีวิตในกำรประกอบอำชีพ จำกผลของกำรวำงแผนกำรทำเดินชีวิตท่ีดีส่งผลให้ ตนเองและครับครัวไม่เดอื ดร้อน มีอำหำรไว้เพือ่ บรโิ ภค อย่ำงเพียงพอ มรี ำยได้จำกกำรเพำะเห็ด จำกกำรปลูกพืชผัก อื่นๆ นอกจำกนี้นำยเล็ก ต้อนรับ มีกำรทำบัญชีครัวเรือน จดบันทึกรำยรับ –รำยจ่ำย อย่ำงต่อเน่ือง จัดทำบัญชี ต้นทุนกำรผลิต ซ่ึงกำรบันทึกข้อมูล (บัญชีครัวเรอื น,บัญชีต้นทุน,กำรทำกำรเกษตร) จะสำมำรถทำให้เรำได้นำข้อมูล นั้นกลับมำพิจำรณำวิเครำะห์ตัวเอง ทั้งในกำรประกอบอำชีพและกำรดำเนินชีวิต แล้วนำมำวำงแผนชีวิตจัดกำร ตนเองในอนำคตไดอ้ ยำ่ งเปน็ ระบบ ซึ่งเปน็ กำรสร้ำงภูมคิ ุ้มกันท่ดี ใี หต้ ัวเอง 1.4.4) ควำมรอบรู้ จำก ก ำรศึ ก ษ ำเรีย น รู้ด้ วย ต น เองจำก แ ห ล่ งข้อ มู ล ต่ ำงๆ ท่ี มี อ ยู่รอ บ ตั ว ร่ว ม กั บ ก ำรป ระยุ ก ต์ ใช้ เทคโนโลยีทำงกำรเกษตร และจำกกำรลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง จำกกำรศึกษำหำควำมรู้ที่หลำกหลำยทำให้ นำยเล็ก ตอ้ นรบั เป็นผู้มีควำมรอบรู้ในหลำกหลำยสำขำ เชน่ กำรเล้ียงผงึ้ ปำ่ กำรปลูกไผ่ กำรทำนำแบบนำโยน กำร ปรับปรุงดิน กำรบริหำรจัดกำรนำ้ กำรเพำะเห็ดโคน กำรเลี้ยงปลำ เล้ียงกบ เป็นต้น และยังเป็นบุคคลที่มีแนวควำมคิด เป็นเลิศและหมั่นศึกษำหำควำมรู้เพื่อพัฒนำตนเองอยู่ตลอดเวลำ ปัจจุบัน “สวนป่ำห้วยก่ำกำร์เด้นวัน” สำมำรถ ดำเนินงำนจนกลำยเป็นแหลง่ เรยี นรู้ให้แก่ผ้ทู ส่ี นใจมำศึกษำดงู ำนได้ 1.4.5) ควำมมีคุณธรรมตำมหลักศำสนำ นำยเล็ก ต้อนรับ มีควำมขยันหม่ันเพียรในอำชีพ มีควำมตั้งใจใฝ่ในกำรเรียนรู้ เพ่ือให้เกิดควำมรู้จริง และถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ให้กับผู้อื่นท่ีสนใจ จึงเป็นผู้ให้อย่ำงแท้จริง และยังเป็นบุคคลที่มีคุณธรรม ควำมซ่ือสัตย์ มีควำมเอื้อเฟ้ือเผยแพร่ต่อเพ่ือนบ้ำนและบุคคลอ่ืน ประกอบอำชีพกำรทำกำรเกษตร ไม่ใช้สำรเคมีในจนได้รับกำร รับรองมำตรฐำนกำรผลิตพชื ตำมระบบ GAP 1.4.6) ผลทไ่ี ดร้ ับจำกกำรดำเนนิ ชีวิตตำมหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง นำยเล็ก ต้อนรับ เดิมมีอำชีพรับจ้ำงทำงกำรเกษตรและรับจ้ำงท่ัวไป มีรำยได้เฉลี่ยวันละ 100- 200 บำท เฉล่ียเดือนละ 5,000-6,000 บำท เฉล่ียปีละ 60,000-70,000 บำท ปัจจุบันมีชีวิตควำมเป็นอยู่ ท่ีดีขน้ึ มีควำมสขุ ในกำรดำเนินชีวิต จำกรำยจ่ำยที่ลดลง มีรำยได้ที่เพิ่มข้ึนจำกกำรทำนำ กำรเล้ียงผ้ึงป่ำ กำรปลูกไผ่ กำรแปรรูปผลิตภัณฑ์จำกสวนป่ำ เลี้ยงปลำ ฯลฯ วันละ 500 บำท เดือนละ 15,000 บำท ปีละ 180,000 บำท และไม่มีหนีส้ ิน แนวคดิ ในกำรทำงำน “เรียนรู้ดว้ ยกำรฝกึ หัด ปฏิบัติเพ่ือหวงั กำรศึกษำ หำเลี้ยงชพี เพ่ือชีวติ พฒั นำ ใช้วิชำบริกำรงำนสงั คม” 1.5 เป็นผ้ปู ฏบิ ัติตำมหลักปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียง และเปน็ แบบอยำ่ งได้อยำ่ งไรบ้ำง จำกกำรปรับเปลยี่ นอำชีพจำกกำรทำเกษตรเชงิ เดี่ยว ทำนำปลูกข้ำวอย่ำงเดยี วเปล่ยี นมำเป็นกำร ทำกำรเกษตรแบบสวนปำ่ แบบสวนผสมตำมแนวทำงปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง ตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2527 จนถงึ ปจั จุบัน เรม่ิ พึ่งพำตนเองด้วยกำรขวนขวำยหำควำมรู้ เรม่ิ ทำกำรเกษตรตั้งแต่อำยุ 15 ปี ( ทำนำทำสวน เลีย้ งสตั ว์ กระบือ , ปลำ ) ปัจจุบนั ทำเกษตรผสมผสำนปศสุ ัตวเ์ ลยี้ งผึง้ และประมงเล้ยี งปลำกนิ พืช หอยขม ทำนำทำสวนป่ำ เป็นเครอื ข่ำยของสำนกั งำนกำรส่งเสรมิ กำรปลกู ปำ่ ของกรมป่ำไมจ้ งั หวัดลำปำง มีแหลง่ เรียนรู้พร้อมกบั ถำ่ ยทอด องค์ควำมรูใ้ ห้แก่เกษตรกรกำรเลี้ยงผ้งึ และทำสวนไผ่ เป็นจติ อำสำดำ้ นผ้นู ำคนพกิ ำร เป็นประธำนชมรมคนพิกำร ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจห้ ่ม ทป่ี รกึ ษำชมรมคนพกิ ำรตำบลบ้ำนขอ เปน็ ที่ปรกึ ษำศำศูนย์คนพิกำรตำบลวิเชตนคร เป็นคณะกรรมกำรมูลนธิ ิพิทกั ษ์ดวงตำลำปำง ( รร.คนตำบอด ) และเป็นรองประธำนสมำพันธ์เกษตรกรรมย่ังยนื ลำปำง เปน็ ประธำนสมำพนั ธ์เกษตรกรรมย่ังยืนอำเภอเมืองปำน เปน็ ที่ปรึกษำเกษตรกรรมย่งั ยนื อำเภอแจ้ห่ม จำก
-4- ควำมพอประมำณทม่ี ีพน้ื ท่นี ำ 20 ไร่ และใช้ควำมมีเหตุผลในกำรประกอบอำชีพจำกควำมรอบรู้และประสบกำรณ์ท่ี มีอยู่ ควำมขยนั หมั่นเพียร ควำมซื่อสัตย์และกำรเป็นผูใ้ ห้ ทำใหม้ คี วำมเปน็ อยทู่ ี่ดขี ึ้น และไดร้ ับกำรคดั เลือกให้เปน็ เครอื ข่ำย ศพก. สำขำไร่นำสวนผสม ของกรมสง่ เสรมิ กำรเกษตร เปน็ ศนู ยเ์ ครือข่ำยด้ำนประมงระดับจังหวัดและ ระดับเขต เปน็ ปรำชญช์ ำวบำ้ นถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ที่มีอยใู่ หก้ บั ผสู้ นใจ ได้ขยำยผลงำนภำยในหมูบ่ ำ้ น สรำ้ งเครือข่ำย ภำยในตำบล อำเภอ และประเทศ ได้รับเชญิ ให้เปน็ วิทยำกรถ่ำยทอดควำมรู้ในหลำยสถำนที่ทัง้ ในและนอกชุมชน 1.6 ท่ำนได้ประพฤตติ นเป็นแบบอยำ่ งท่ีดีอยำ่ งไรบ้ำง ** 1.6.1) ควำมขยนั หมั่นเพยี ร กำรใช้เวลำว่ำงใหเ้ กิดประโยชน์ นำยเลก็ ต้อนรบั ไมเ่ คยปลอ่ ยเวลำให้เปล่ำประโยชน์ จำกที่พืน้ ท่ีทำกำรเกษตร 85 ไร่ มีกำร วำงแผนและบรหิ ำรจัดกำรพื้นท่ีประกอบกจิ กรรมทำงกำรเกษตร กำรเลี้ยงผงึ้ ป่ำ กำรปลูกไผ่ ท้ังกำรปลูกพชื , เล้ยี ง สัตว์, ประมง, โดยแบง่ พนื้ ที่กำรเกษตร จำนวน 85 ไร่ ดงั น้ี 1. ปลูกขำ้ วพนั ธ์ุ กข แมโ่ จ้ 2 จำนวน 10 ไร่ 2. ปลูกพืชผกั จำนวน 6 ไร่ 3. ปลูกไม้สกั ทอง จำนวน 16 ไร่ ได้แก่ ไม้สัก, มะม่วง, กล้วย, มะนำว หม่อน, แค, มะขำมป้อม 4. กำรเลย้ี งผงึ้ ป่ำ จำนวน 4 ไร่ 5. ทำประมง จำนวนประมง 6 ไร่ 6. ปลกู ไผ่ จำนวน 40 ไร่ 5. ขุดสระน้ำเก็บกักนำ้ ไวใ้ ช้ จำนวน 9 สระ พื้นทขี่ นำด 6 ไร่ ทำเปน็ กำรประมง รอบคนั สระปลูกหญำ้ แฝก, มะละกอ, ตะไคร้, มะพร้ำว, พริกขี้หนู ผักกูด ผักเชงดำ ผักชะอม และพืชผักสวนครัวต่ำงๆ เลี้ยงปลำในสระ ประกอบด้วย ปลำกินพืช ได้แก่ ปลำนิล และปลำตะเพียน เลี้ยงปลำดุกในกระชัง เล้ียงปลำตะเพียนในนำข้ำว เล้ียง กบในกระชงั , ในบ่อดิน, เลย้ี งหอยขม จำนวน 1 บ่อ 6. เลีย้ งสัตว์ ประกอบด้วย กำรเลยี้ งผ้ึงปำ่ จำนวน 100 โพรง 1.6.2) กำรเป็นแบบอยำ่ งท่ดี ี กำรดำเนินกิจกรรมด้ำนกำรเกษตรตำมแนวทำงเศรษฐกิจพอเพียงของนำยเล็ก ต้อนรับ เป็นท่ี สนใจของเกษตรกรทั้งในพื้นท่ีชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดและต่ำงจังหวัด จนกลำยเป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษำของ สำนักงำนประมงจงั หวดั ลำปำง และสำนกั งำนเกษตรจงั หวดั ลำปำง เกษตรกรสำขำอำชพี ไรน่ ำสวนผสม 1.6.3) กำรมีระเบยี บวินยั เคำรพต่อกฎหมำย นำยเล็ก ต้อนรับ มีระเบียบวินัย ในกำรประกอบอำชีพด้วยกำรบริหำรจัดกำรพื้นที่ของตนเอง ให้เกิดใช้ประโยชน์สูงสุด มีกติกำในกำรดำเนินชีวิต จำกกำรบันทึกบัญชีครัวเรือน บัญชีต้นทุนกำรผลิต เคำรพต่อ กฎหมำยบ้ำนเมืองปฎิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ ทำอำชีพกำรเกษตรด้วยควำมซ่ือสัตย์ต่อตนเองและ ผู้บรโิ ภค ได้เอำที่ทำกนิ และทำสวนปำ่ ข้ึนทะเบียนกบั กรมป่ำไมเ้ ป็นท่เี รยี บร้อย 1.6.4) กำรปฏิบัตติ นตำมครรลองของระบอบประชำธปิ ไตย นำยเล็ก ต้อนรับ มีกำรปฏิบัติตนตำมครรลองของระบอบประชำธิปไตย โดยไปใช้สิทธ์ิเลือกต้ัง ทุกคร้ัง เคำรพกฎกติกำของหมู่บ้ำน ชุมชน เข้ำร่วมประชุมกับหมู่บ้ำน ชุมชน รวมทั้งให้สมำชิกในครอบครัวมีส่วน รว่ มในกำรแสดงควำมคดิ เหน็ ทุกครง้ั 1.6.5) กำรเปน็ ผูใ้ ฝ่ร้แู ละนำควำมรมู้ ำปฏิบตั ิงำนจนเกิดประโยชน์ นำยเลก็ ต้อนรบั เป็นผู้ใฝร่ ู้และนำควำมรู้ หมนั่ ค้นคว้ำหำควำมร้แู ละเทคโนโลยใี หม่ๆมำปฏบิ ัติงำน จนเกดิ ประโยชน์กบั ตนเอง ลดรำยจ่ำย เพมิ่ รำยได้ สำมำรถถ่ำยทอดควำมรูใ้ ห้กบั ผู้อ่นื ได้ดจี นเปน็ ที่รักของคนใน ครอบครวั และชุมชน
-5- 1.7 กำรมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และควำมเสียสละ** 1.7.1) กำรเอ้ือเฟ้ือ เผ่อื แผ่ ช่วยเหลือผู้อ่ืนโดยไม่หวงั ส่ิงตอบแทน นำยเล็ก ต้อนรับ มีกำรเอื้อเฟ้ือ เผ่ือแผ่ ช่วยเหลือผู้อ่ืนอย่ำงสม่ำเสมอโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มจี ติ อำสำให้ควำมชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื ทกุ คร้ังท่มี ีโอกำส 1.7. 2 กำรยึดถอื และปฏบิ ัติตำมหลักคุณธรรมทำงศำสนำ นำยเลก็ ตอ้ นรับ มกี ำรยดึ ถือและปฏบิ ตั ิตำมหลกั คณุ ธรรมทำงศำสนำทำบญุ เข้ำวดั อย่ำงสมำ่ เสมอ 1.7.3 กำรผลักดนั ให้เกดิ กำรขับเคล่ือนผลงำนเปน็ รปู ธรรม กำรขบั เคล่ือนงำนทเ่ี ป็นรูปธรรมของนำยเล็ก ตอ้ นรบั จนไดร้ ับกำรยกย่อง เชดิ ชู ไดแ้ ก่ 1. รำงวัลเกษตรดเี ดน่ ดำ้ นกำรปลูกสวนป่ำระดับจงั หวดั ลำปำง ปี 2563 2. เป็นประธำนชมรมคนพิกำรจังหวดั ลำปำง 3. ได้รับรำงวลั ยกย่องชเู กยี รตเิ ป็นเกษตรกรทปี่ ระสบควำมสำเรจ็ เขำ้ รว่ มโครงกำร “5 ประสำน สบื สำนเกษตร ทฤษฎีใหม่ ถวำยในหลวง” จงั หวัดลำปำง พ.ศ.2561 4. รว่ มเป็นคณะกรรมกำรกำรพัฒนำดำ้ นกำรเกษตรระดับอำเภอทม่ี ีบทบำทในกำรกำหนดนโยบำยและผลักดัน ขบั เคลือ่ นกำรพฒั นำภำคกำรเกษตร 2. ขอ้ มูลผลงานทีส่ รา้ งคณุ ประโยชน์ 2.1 ผลงำนที่เกิดจำกภูมิปัญญำ สร้ำงสรรค์และพัฒนำเป็นต้นแบบรูปธรรมกำรใช้เศรษฐกิจพอเพียง ภำคกำรเกษตร เปน็ ทีป่ ระจักษ์และได้รับกำรยอมรบั ไดแ้ ก่ 1) คิดค้นเคร่ืองมือในกำรทำธุรกิจส่วนตัวเปิดร้ำนคำร์ไบด์ บรกิ ำร เชื่อมเพชรเลื่อย , จำหน่ำยใบเลื่อย ช่ำงไม้ จำหน่ำยใบมีดตัดหญ้ำ , ใบเลื่อยตัดข้ำว ณ ร้ำนต้อนรับคำร์ไบด์เพำะเห็ดเพ่ืออำนวยควำมสะดวก, เพ่ิมกำลัง กำรผลติ และลดต้นทุนกำรผลิต 2) ได้รบั หนงั สือรบั รองแปลงเกษตรอนิ ทรยี แ์ บบมีสว่ นร่วม SDGs PGS จังหวดั ลำปำง 3) ร่วมเป็นคณะกรรมกำรกำรพัฒนำด้ำนกำรเกษตรระดับอำเภอท่ีมีบทบำทในกำรกำหนดนโยบำย และผลกั ดนั ขบั เคล่อื นกำรพฒั นำภำคกำรเกษตร 2.1.1) ผลงำนของทำ่ นเคยได้รับรำงวัลและประกำศเกียรติคุณหรือไม่ อยำ่ งไร ❑ ไมเ่ คย ❑ เคย ได้รับในระดับประเทศ ❑ เคย ได้รับในระดบั นำนำชำติ รางวัล หรอื ประกาศเกยี รติคณุ ท่ไี ด้รบั 1. รำงวลั เกษตรดีเดน่ ดำ้ นกำรปลูกสวนป่ำระดบั จงั หวดั ลำปำง ปี 2563 2. เป็นประธำนชมรมคนพิกำรจังหวัดลำปำง 3. ได้รบั รำงวัลยกย่องชูเกียรตเิ ป็นเกษตรกรทปี่ ระสบควำมสำเรจ็ เข้ำรว่ มโครงกำร “5 ประสำน สบื สำนเกษตร ทฤษฎีใหม่ ถวำยในหลวง” จังหวดั ลำปำง พ.ศ.2561 4. ร่วมเปน็ คณะกรรมกำรกำรพัฒนำด้ำนกำรเกษตรระดับอำเภอท่มี ีบทบำทในกำรกำหนดนโยบำยและผลักดนั ขบั เคล่ือนกำรพัฒนำภำคกำรเกษตร
-6- 2.1.2) ผลงำนของทำ่ นเคยได้รับกำรตีพมิ พ์และเผยแพร่ในสอื่ ต่ำง ๆ หรอื ไม่ ❑ ไมเ่ คย ❑ เคย ได้รับกำรตีพิมพ์และเผยแพร่ในระดับประเทศ ❑ เคย ไดร้ บั กำรตีพิมพแ์ ละเผยแพร่ในระดบั นำนำชำติ ผลงำนทีไ่ ด้รับกำรเผยแพร่ สื่อทเี่ ผยแพร่ (เลือกได้มำกกวำ่ 1 ขอ้ ) ❑ หนังสือพมิ พ์ ❑ บทควำม/วำรสำร ❑ โทรทัศน์/วีดีทศั น์ ❑ งำนวจิ ัย ❑ วทิ ยุ/หอกระจำยขำ่ ว ❑ นทิ รรศกำร ❑ อนื่ ๆ (โปรดระบุ) ผลงำนท่ีไดร้ บั กำรเผยแพร่ https://youtu.be/zRg7sIKdC4k 2.1.3) ท่ำนเคยไดร้ ับเชิญเป็นวทิ ยำกรเพื่อบรรยำยและนำเสนอผลงำนหรือไม่ ❑ ไม่เคย ❑ เคย ในระดับประเทศ ❑ เคย ในระดับนำนำชำติ 2.1.4) ทำ่ นไดร้ ่วมเป็นคณะกรรมกำร หรอื แกนนำองค์กรท่ีมบี ทบำทในกำรกำหนดนโยบำยและผลกั ดนั ขับเคลือ่ นกำรพัฒนำภำคกำรเกษตรหรือไม่ ❑ ไม่เคย ❑ เคย รายช่ือคณะกรรมการหรือแกนนาองค์กร - 2.2 ผลงำนของท่ำนไดส้ รำ้ งประโยชน์ท่เี กยี่ วขอ้ งกับเศรษฐกิจและสงั คมภำคเกษตรอย่ำงไรบ้ำง นำยเลก็ ตอ้ นรับ ไดร้ วมกล่มุ จดทะเบยี นกำรทำสวนปำ่ ของตำบลบ้ำนขอ และประธำนชมุ ชน โครงกำรเสรมิ สรำ้ งรำยได้ให้แกเ่ กษตรกรรำยย่อย ซง่ึ กำรเป็นผูน้ ำกลุ่ม เป็นแบบอย่ำงท่ีดีในกำรประกอบอำชีพ กำร ดำเนินชวี ติ ตำมแนวทำงเศรษฐกจิ พอเพียงมผี ลทำให้สมำชิกในกลุ่มมีควำมเปน็ อยู่ทีด่ ีขนึ้ จำกกำรลดรำยจ่ำย มรี ำยได้ เสริมเพมิ่ ข้นึ นอกจำกนี้เกษตรกรในชุมชนท้องถ่ินทงั้ ในจงั หวัดและต่ำงจังหวัดที่มำเรยี นรู้ในศนู ย์เรียนรู้ของนำงบปุ ผำ หมดดี หรอื จำกกำรทนี่ ำยเล็ก ต้อนรับ ไปบรรยำยถ่ำยทอดควำมรู้ และนำควำมรู้ไปใช้สำมำรถลดรำยจำ่ ย เพ่ิม รำยได้ อย่ำงกวำ้ งขวำง 2.2.1) ผลงำนของท่ำนทำใหเ้ กิดแนวคิดและหลกั กำรในกำรดำรงชีวติ ของครอบครัวและชุมชนโดยเนน้ ควำมสุขเปน็ เป้ำหมำยหลักได้อยำ่ งไรบ้ำง หลักในกำรดำรงชีวิต นำยเล็ก ต้อนรับ โดยเน้นควำมสุขเป็นเป้ำหมำยหลัก ได้แก่ กำรปลดหน้ีสิน ให้ตวั เองและอย่อู ย่ำงพอเพยี ง โดยใช้กำรบนั ทกึ บญั ชคี รัวเรอื น บัญชตี น้ ทุนอำชพี เปน็ เครอ่ื งมอื ในกำรดำเนนิ ชวี ิต 2.2.2) ผลงำนของท่ำนได้สร้ำงองค์ควำมรู้ในกำรประกอบอำชีพกำรเกษตรท่ีมุ่งเน้นกำรพ่ึงพำตนเองและ พ่งึ พำปัจจยั กำรผลติ ท่ีมีในชุมชนท้องถิน่ อย่ำงย่ังยนื ไดอ้ ย่ำงไรบ้ำง องค์ควำมรู้ท่ีได้รับจำกกำรทำกำรเกษตรแบบไร่นำสวนผสมในพ้ืนที่ 85 ไร่ ตำมแนวเศรษฐกิจ พอเพียงเป็นกำรพ่ึงพำตนเองเป็นลำดับแรก ทำให้เกิดรำยได้ในครอบครัวทุกวัน กำรใช้จ่ำยลดลง เนื่องจำก ของบริโภคไมต่ ้องซ้ือ ปลูกและเลย้ี งในแปลงฟำรม์ ของตนเอง เหลือแบ่งปันให้ชมุ ชนเกดิ กำรเกื้อกูลพง่ึ พำกนั ในชุมชน ทำใหช้ ีวติ มีควำมสุขอยำ่ งม่นั คงและยง่ั ยืน
-7- 2.2.3) ผลงำนของท่ำนส่งผลต่อกำรลดรำยจ่ำย ปลดหน้ีสิน สร้ำงอำหำรเพ่ือกำรบริโภค สร้ำงรำยได้และ ภมู ิคมุ้ กันทงั้ ในระดบั ครอบครวั ชมุ ชน ทอ้ งถิน่ และประเทศ ไดอ้ ยำ่ งไรบ้ำง กำรทำกำรเกษตรแบบไร่นำสวนผสม ตำมแนวทำงเศรษฐกิจพอเพียงมีรำยได้ทุกวัน ลดรำยจ่ำย ลดปลดหน้ีให้ตนเองและครอบครัว สร้ำงอำหำรในครอบครัวมีบริโภคทุกวัน เหลือแบ่งปันชุมชนสร้ำงและขยำย ผลงำนให้ชุมชนท้องถิ่น ประเทศเขม้ แข็งอย่ำงยง่ั ยืน 2.3) ผลงำนของท่ำนได้นำไปใชป้ ระโยชน์ในกำรแก้ไขปัญหำอย่ำงไรบำ้ ง ❑ แกไ้ ขปัญหำไดเ้ ฉพำะพืน้ ท่ี ❑ แกไ้ ขปญั หำไดใ้ นหลำกหลำยพ้นื ท่ี ❑ แกไ้ ขปญั หำได้อยำ่ งกว้ำงขวำงท้ังในระดบั ประเทศและสำกล ระบผุ ลงำนทไี่ ดน้ ำไปใช้ประโยชนใ์ นกำรแก้ไขปัญหำ 1) กำรทำกำรเกษตรแบบสวนป่ำแบบสวนผสม ตำมแนวทำงเศรษฐกิจพอเพียง ลดรำยจ่ำย เพิ่มรำยได้ สร้ำงควำมม่ันคงทำงอำหำรให้ครอบครวั ชุมชน ทอ้ งถิ่น และประเทศได้ 2) กำรทำกำรเกษตรแบบสวนปำ่ แบบสวนผสม ตำมแนวทำงเศรษฐกิจพอเพยี ง ทำให้กำรผลิตอำหำร ปลอดภัย ไรส้ ำรเคมตี กคำ้ ง ทั้งในผลผลติ /ผลิตภณั ฑ์ รวมตลอดถึงสภำพแวดล้อม ดิน นำ้ อำกำศ ของชมุ ชน ท้องถิ่น และทกุ ทท่ี ่ดี ำเนินกิจกรรมในลักษณะน้ี 2.4) สดั ส่วนในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำน ❑ เปน็ ผลงำนที่เกดิ จำกควำมคิดสร้ำงสรรค์ของตนเอง ❑ เปน็ ผลงำนทเี่ กดิ จำกควำมคดิ สร้ำงสรรค์ของกลุ่ม ❑ สัดสว่ นผลงำนในส่วนทเ่ี ป็นผู้ปฏิบัตินอ้ ยกวำ่ ร้อยละ 50 ❑ สดั สว่ นผลงำนในส่วนท่ีเป็นผ้ปู ฏิบตั ิไมน่ ้อยกว่ำร้อยละ 50 แตไ่ ม่เกินร้อยละ 70 ❑ สดั ส่วนผลงำนในสว่ นทีเ่ ป็นผ้ปู ฏบิ ัติไมน่ อ้ ยกว่ำร้อยละ 70 **เอกสำรประกอบหมำยเลข 2** 3. การขยายผลงาน 3.1 ทำ่ นมีควำมสำมำรถในกำรถำ่ ยทอดผลงำนหรือองค์ควำมรู้ อยำ่ งไรบ้ำง 1. เป็นวิทยำกรต้นแบบด้ำนไร่นำสวนผสม และศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 35 รำย เวลำ ๑ วนั ของ กศน.อำเภอเมอื งปำน จังหวัดลำปำง 2. เปน็ วทิ ยำกรงำนสง่ เสรมิ อำชพี กำรปลูกปำ่ ของอำเภอเมืองปำน 3. ได้รบั หนังสือรับรองแปลงเกษตรอนิ ทรยี แ์ บบมสี ว่ นร่วม SDGs PGS จังหวดั ลำปำง อำเภอเมืองปำน จังหวัดลำปำง 4. เป็นวทิ ยำกรเศรษฐกจิ พอเพยี ง จำนวน ๓๐ ครัวเรือน เวลำ ๓ วัน ของหน่วยงำนพฒั นำชุมชน เมืองปำน จังหวดั ลำปำง 5. เปน็ วทิ ยำกรด้ำนกำรพัฒนำที่ดิน 6. เป็นวทิ ยำกรจดั ทำบัญชคี รัวเรอื น 6. เป็นวิทยำกรในกำรถ่ำยทอดควำมรูแ้ ละปรำชญ์ชำวบ้ำน ของ กศน.อำเภอเมืองปำน 3.1.1) ผลงำนของท่ำนนำไปเปน็ ตัวอย่ำงควำมสำเร็จและแบบอย่ำงแก่เกษตรกรอย่ำงไรบ้ำง - เป็นแหล่งศึกษำดูงำนและเรียนรู้ด้ำนไร่นำสวนผสม เกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง ดำ้ นต่ำงๆ ของอำเภอ เช่น
-8- 1. เป็นแหล่งเรียนรู้ตำมแนวเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่เปิดโอกำสให้ผู้ท่ีสนใจเข้ำมำ เรียนรู้ศกึ ษำดงู ำนโดยกำรถ่ำยทอดควำมรแู้ ละประสบกำรณท์ ่ีมอี ยู่ 2. เป็นแหล่งเรียนรู้ด้ำนไรน่ ำสวนผสมของชุมชน 3. เปน็ ศนู ย์เรียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. เป็นศูนยเ์ รยี นรกู้ ำรเพิ่มประสทิ ธภิ ำพกำรผลติ สินคำ้ เกษตร (ศพก.) เครอื ข่ำย อำเภอเมืองปำน ด้ำนศูนยเ์ รียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียง มกี ำรเรยี นรู้ จำนวน 6 ฐำน ได้แก่ 1) ฐำนกำรเล้ียงผึ้งปำ่ 2) ฐำนประมง 3) ฐำนปศุสัตว์ 4) ฐำนกำรปรบั ปรุงบำรงุ ดนิ 5) ฐำนกำรเลี้ยงหอยขม 6) ฐำนกำรปลูกไผ่ กำรปลูกผกั กูด 3.1.2) มีกำรรวมกล่มุ เพื่อถ่ำยทอดผลงำน แลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ันอย่ำงแพร่หลำยอย่ำงไรบ้ำง รวมกล่มุ เปน็ วสิ ำหกิจชมุ ชนกำรเล้ียงผึ้ง กำรปลกู สวนปำ่ , ประธำนศนู ยส์ ำธติ กำรดำรงชวี ิตตำมวถิ ี เศรษฐกจิ พอเพยี งชมรมคนพิกำรอำเภอเมืองปำน และเปน็ ผนู้ ำกำรเปล่ียนแปลงสกู่ ำรพง่ึ พำตนเองตำมแนวเศรษฐกิจ พอเพียงของหน่วยงำนพฒั นำชมุ ชนของอำเภอเมืองปำน ถ่ำยทอดผลงำน แลกเปล่ียนเรียนรู้กนั ภำยในกลุ่มและ ระหวำ่ งกล่มุ ระหวำ่ งชุมชน 3.1.3) มีกำรถ่ำยทอดผลงำนผ่ำนส่ืออะไรบำ้ ง (เลอื กได้มำกกวำ่ 1 ขอ้ ) ❑ หนงั สือพมิ พ์ ❑ บทควำม/วำรสำร ❑ โทรทัศน์/วดี ีทศั น์ ❑ งำนวิจยั ❑ วทิ ย/ุ หอกระจำยขำ่ ว ❑ นิทรรศกำร ❑ อื่น ๆ (โปรดระบ)ุ 3.1.4) มกี ำรถ่ำยทอดผลงำนอยำ่ งต่อเน่ืองหรือไม่ อย่ำงไรบำ้ ง มีกำรถ่ำยทอดผลงำนอย่ำงต่อเน่ือง โดยกำรเป็นวิทยำกรในศูนย์เรียนรู้ตัวเองและนอกสถำนที่ จำกกำรเชิญของหน่วยงำนต่ำงๆ เช่น ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบฯ อำเภอเมืองปำน, สำนักงำนพัฒนำชุมชน, สำนกั งำนเกษตรจังหวัดลำปำง และสำนกั งำนเกษตรอำเภอเมืองปำน และมีกำรบนั ทึกเทป โทรทัศน์/วดี ที ศั น์ ดงั นี้ - เป็นปรำชญช์ ำวบ้ำนทงุ่ ส้ำน - เปน็ วิทยำกรงำนส่งเสรมิ อำชีพกำรเพำะเหด็ ตำมโครงกำรสมั มำอำชีพชุมชนของอำเภอเมืองปำ - เป็นวิทยำกรเศรษฐกิจพอเพียงของหน่วยงำนพฒั นำชมุ ชนอำเภอเมืองปำน - เปน็ วิทยำกรโครงกำรสง่ เสริมทกั ษะอำชพี ของตำบลบ้ำนขอ - เป็นบคุ คลต้นแบบขยำยผลกำรสรำ้ งสวนปำ่ ชุมชน - เปน็ วิทยำกรถำ่ ยทอดควำมรวู้ ิเครำะหจ์ ัดทำแผนรำยแปลงและจัดทำแผนธุรกจิ โครงกำรระบบ สง่ เสรมิ เกษตรแบบแปลงใหญ่ - เป็นวิทยำกรบรรยำย เรื่องกำรส่งเสริมอำชีพสตรีตำมแนวปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงของ อำเภอเมอื งปำน - เป็นวิทยำกรบรรยำย เรื่อง กำรบริหำรจดั กำรต้นทุนและทรัพยำกรเป็นโครงกำรพัฒนำเกษตรกร ปรำดเปรือ่ ง - เปน็ วิทยำกรของโครงกำรพัฒนำเพมิ่ ศักยภำพคนพิกำรของตำบลบ้ำนขอ - เปน็ วทิ ยำกรจดั ทำบญั ชีครัวเรอื นและฝึกปฏิบัติให้กบั กลมุ่ สตรี อำเภอเมืองปำน จงั หวัดลำปำง - เป็นคณะกรรมกำรศนู ยถ์ ำ่ ยทอดเทคโนโลยีของบ้ำนทงุ่ ส้ำน - เปน็ วิทยำกรด้ำนกำรพัฒนำท่ีดินของตำบลบ้ำนขอ - เป็นวิทยำกรสอนกำรเลย้ี งผึ้งป่ำให้กับ กศน.อำเภอเมืองปำน
-9- 3.2 ทำ่ นมเี ครอื ข่ำยในกำรขยำยผลงำนหรอื องค์ควำมรู้หรือไม่ อย่ำงไรบ้ำง ❑ มีทีมงำนเครือข่ำยพฒั นำชมุ ชนในระดบั ชุมชนและท้องถ่นิ ❑ มีกล่มุ เครือขำ่ ยกำรพฒั นำเชอ่ื มโยงระหวำ่ งชุมชน ท้องถิน่ และระหว่ำงภมู ิภำค ❑ มกี ลุ่มองคก์ ร และสำขำเครือข่ำยกำรพฒั นำกระจำยไปอยำ่ งกวำ้ งขวำงทัว่ ประเทศ วิธีกำรสร้ำงเครือข่ำยในกำรขยำยผลงำนหรือองค์ควำมรู้ โดยกำรลงมือปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรมเชิง ประจักษ์ บรรยำยถำ่ ยทอดองค์ควำมรูใ้ นลกั ษณะบอกเล่ำและบนั ทึกเปน็ เอกสำรหลักฐำนลำยลกั ษณ์อกั ษร 3.3 กำรยอมรบั ผลงำนในระดับประเทศ 3.3.1) ผลงำนของท่ำนไดร้ บั กำรยอมรับ และมผี นู้ ำไปปฏิบัติกนั อยำ่ งแพร่หลำยท่ัวท้ังประเทศอย่ำงไรบำ้ ง มีผู้มำศึกษำเรียนรู้ในศูนย์เรียนรู้อย่ำงแพร่หลำย ทั้งในชุมชนท้องถิ่น ท้ังในจังหวัดและต่ำงจังหวัดอย่ำง แพรห่ ลำย เช่น 3.3.2) ผลงำนของทำ่ นได้รับกำรผลักดนั เปน็ นโยบำยหรือแนวปฏบิ ตั ิในระดับประเทศอยำ่ งไรบ้ำง - ไม่มี - 3.3.3) ผลงำนของทำ่ นได้รับกำรเผยแพรจ่ นมกี ำรจำลองแบบไปใชใ้ นต่ำงประเทศ อย่ำงไรบำ้ ง - ไม่มี - ลงช่อื )............................................................ ผู้เข้ำรับกำรสรรหำ/ (นำงสำวปำนเดอื น สุยะเพี้ยง ) ประธำนคณะทำงำน/ ผู้อำนวยกำรศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบ หวั หน้ำหนว่ ยงำน/องค์กรตำ่ งๆ และกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอเมืองปำน โทร / โทรสำร. ๐ – ๕๔๒๗ – ๖๑๐๖ ในกรณีที่เสนอช่ือบุคคลเพื่อเข้ำรับกำรสรรหำเป็นปรำชญ์เกษตรของแผ่นดินโดยคณะทำงำนหรือ หนว่ ยงำนตำ่ ง ๆ ขอใหบ้ คุ คลท่ีได้รับเสนอชอื่ ได้ลงนำมไว้ด้วย ข้ำพเจ้ำ.......นำยเล็ก ต้อนรับ..... ได้รับทรำบกำรเสนอช่ือและผลงำนเพ่ือเข้ำรับกำรสรรหำเพื่อ แตง่ ตงั้ เชิดชูเกียรติเปน็ ปรำชญ์เกษตรของแผ่นดนิ แล้ว ลงช่อื )............................................. ผู้เขำ้ รบั กำรสรรหำ ( นำยเล็ก ตอ้ นรบั ) …………../…………../………… โทร / โทรสำร. ๐ – ๕๔๒๗ – ๖๑๐๖ หมายเหตุ ให้แนบสำเนำบัตรประจำตัวประชำชน หลักฐำนแสดงถึงเกียรติยศแห่งควำมดีท่ีได้รับ เช่น สำเนำ ประกำศนียบัตร แผนผังที่อยู่อำศัย แผนผังแปลงกิจกรรม ภำพถ่ำยกิจกรรม ประวัติของบุตร-ธิดำ โดยสังเขป และ เอกสำรหรือหลักฐำนอืน่ ๆ ท่จี ำเปน็ และเก่ียวข้อง เพือ่ ประกอบกำรพิจำรณำ
- 10 - แบบสารวจความคิดเห็นต่อบุคคลผูเ้ ข้ารับการสรรหาปราชญ์เกษตรของแผน่ ดนิ สาขา สาขา ปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ช่อื ผเู้ ขำ้ รับกำรสรรหำ นำยเล็ก ตอ้ นรบั ช่ือผู้ใหข้ อ้ มลู นำงนันทรตั น์ ก๋ำเครื่อง ทีอ่ ยู่ กศน.อำเภอเมืองปำน จังหวัดลำปำง ควำมสัมพนั ธ์กับบคุ คลผู้เข้ำรับสรรหำปรำชญ์เกษตรของแผ่นดนิ เป็นภำคีเครือขำ่ ยท่ีรว่ มทำงำน กับ กศน.ตำบล บ้ำนขอ โปรดตอบคาถามดงั ต่อไปนี้ 1. บคุ คลทเ่ี ข้ำรับสรรหำปรำชญ์เกษตรของแผ่นดินได้ประพฤติตนเปน็ แบบอยำ่ งทด่ี ีอย่ำงไรบ้ำง 1) ควำมขยนั หม่ันเพียร กำรใชเ้ วลำว่ำงใหเ้ กิดประโยชน์ นำยเล็ก ตอ้ นรับ เปน็ ผ้มู ีควำมขยันหมั่นเพียร มีกำรใชเ้ วลำว่ำงให้เกดิ ประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม เป็น ประธำนชมรม ผสู้ ูงอำยุอำเภอเมืองปำน 2) กำรเปน็ แบบอย่ำงที่ดี นำยเล็ก ตอ้ นรบั เป็นแบบอยำ่ งทด่ี ี ของครอบครวั และ ของชุมชน 3) กำรมรี ะเบียบวนิ ยั เคำรพต่อกฎหมำย นำยเลก็ ต้อนรบั เปน็ ผู้มีระเบียบวินัย และเคำรพต่อกฎหมำย 4) กำรปฏิบัติตนตำมครรลองของระบอบประชำธิปไตย นำยเลก็ ต้อนรบั ปฏบิ ตั ติ นตำมครรลองของระบอบประชำธปิ ไตย 5) กำรเป็นผู้ใฝร่ แู้ ละนำควำมรมู้ ำปฏิบตั งิ ำนจนเกดิ ประโยชน์ นำยเล็ก ตอ้ นรับ เปน็ ผใู้ ฝร่ ูแ้ ละนำควำมร้มู ำปฏบิ ตั งิ ำนจนเกดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองครอบครวั และ ของชมุ ชน 2. ทำ่ นเหน็ ว่ำบุคคลทีเ่ ข้ำรับสรรหำปรำชญ์เกษตรของแผน่ ดินมีคุณธรรม จรยิ ธรรม และควำมเสียสละ อยำ่ งไร บำ้ ง 1) กำรเอ้ือเฟ้ือ เผอ่ื แผ่ ช่วยเหลือผู้อ่นื โดยไม่หวังส่ิงตอบแทน 1.1 นำยเลก็ ตอ้ นรับ เปน็ ผู้มจี ิตสำธำรณะ ทำประโยชน์เพือ่ ส่วนรวม โดยกำรเป็นประธำนชมรมคนพิกำร ไดม้ ีกำรเสียสละเวลำและทรัพย์สว่ นตวั ช่วยเหลือทำงชมรมดว้ ยดี ใหค้ ำปรกึ ษำต่ำงๆตอ่ คนพิกำรในกลุ่มใหม้ ี ควำมเป็นอยู่ทีด่ ี 2) กำรยดึ ถือและปฏิบัติตำมหลักคุณธรรมทำงศำสนำ นำยเล็ก ตอ้ นรบั มกี ำรยึดถือและปฏบิ ตั ติ ำมหลักคณุ ธรรมทำงศำสนำ มีกำรเขำ้ ร่วมพัฒนำวัดและพธิ ีกรรม ทำงสำสนำตลอดทุกเทศกำล 3) กำรผลักดันใหเ้ กิดกำรขบั เคลือ่ นผลงำนเป็นรปู ธรรม นำยเล็ก ต้อนรับ มีกำรผลกั ดันใหเ้ กิดกำรขบั เคล่ือนผลงำนเป็นรปู ธรรม ในชมรมคนพิกำรอำเภอเมืองปำน อำทิ กำรระดมทนุ สรำ้ งหอ้ งน้ำให้คนพิกำรเป็นตน้ ลงชอื่ )............................................. ผูใ้ หข้ อ้ มลู (นำงนันทรตั น์ ก๋ำเครอ่ื ง) 15 / สงิ หำคม / 2565
- 11 - เอกสำรประกอบหมำยเลข 2 สัดสว่ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงานของบคุ คลผเู้ ข้ารับการสรรหาปราชญเ์ กษตรของแผ่นดิน กรณผี ลงานเกดิ จากความคิดสร้างสรรคข์ องกลุม่ สาขา สาขา ปราชญ์เกษตรเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ชื่อผเู้ ข้ารบั การสรรหา นายเลก็ ต้อนรับ 2. ชื่อผลงาน การเลีย้ งผง้ึ และ การปลกู สวนป่า 3. สดั ส่วนในการสร้างสรรค์ผลงาน ❑ สดั ส่วนผลงำนในสว่ นทีเ่ ปน็ ผูป้ ฏิบตั ินอ้ ยกว่ำร้อยละ 50 ❑ สัดสว่ นผลงำนในส่วนทเ่ี ป็นผู้ปฏิบตั ไิ ม่น้อยกวำ่ ร้อยละ 50 แต่ไม่เกินร้อยละ 70 ❑ สัดส่วนผลงำนในส่วนที่เป็นผปู้ ฏบิ ัตไิ ม่นอ้ ยกวำ่ ร้อยละ 70 4. ผู้ร่วมดาเนนิ การ จานวน 2 คน 5. ส่วนของงานทผ่ี เู้ ข้ารับการสรรหาเป็นผู้ปฏบิ ตั ิ (ระบุรายละเอียดของผลงาน) รวมกลมุ่ เปน็ วสิ ำหกิจชุมชนกำรเล้ียงผ้งึ กำรปลกู สวนป่ำ, ประธำนศนู ยส์ ำธติ กำรดำรงชีวติ ตำมวิถีเศรษฐกิจ พอเพยี งชมรมคนพิกำรอำเภอเมอื งปำน และเปน็ ผู้นำกำรเปลยี่ นแปลงสู่กำรพง่ึ พำตนเองตำมแนวเศรษฐกจิ พอเพียง ของหนว่ ยงำนพฒั นำชุมชนของอำเภอเมืองปำน ถ่ำยทอดผลงำน แลกเปลีย่ นเรียนรูก้ ันภำยในกลุ่มและระหวำ่ งกลุ่ม ระหวำ่ งชุมชน ขอรับรองวา่ สดั สว่ นในผลงานข้างต้นถูกตอ้ งตรงกับความเป็นจริงทุกประการ ลงชื่อ).............................................ผเู้ ขำ้ รับกำรสรรหำ ลงชื่อ)............................................ผรู้ ว่ มดำเนินงำน (นำยเล็ก ตอ้ นรับ) ( นำงธรี ณำ ตอ้ นรับ ) 15 / สิงหำคม / 2565 15 / สงิ หำคม / 2565 ลงชอ่ื ).............................................ผรู้ ว่ มดำเนนิ งำน ลงชอ่ื ).............................................ผู้รว่ มดำเนินงำน (.............................................) (.............................................) …………../…………../…………. …………../…………../…………. ** - รำยละเอียดข้อ 4 สำมำรถเพิม่ เตมิ ไดต้ ำมควำมเปน็ จรงิ - กำรรับรองผลงำนในกรณีมีผู้เข้ำร่วมดำเนินงำนมำกกว่ำ 5 คน ขอลงนำมรับรองอย่ำงน้อย 3 คน ในกรณีมีผู้ ร่วมดำเนินงำนน้อยกว่ำ 5 คนให้ลงนำมรับรองจำนวน 2 คน ทั้งนี้หำกผลงำนดังกล่ำวมีผู้ร่วมดำเนินงำนจำนวน 2 คน ขอให้ผรู้ ว่ มดำเนนิ งำนอกี 1 คน เซ็นรบั รอง
- 12 - หนังสอื ให้ความยินยอมการเกบ็ รวบรวม ใช้ เปิดเผยขอ้ มูลสว่ นบคุ คล (Consent Form) วนั ท.่ี .........15 สงิ หำคม 2565.................. ขำ้ พเจำ้ (นำย/นำง/นำงสำว/อ่ืน ๆ) ..........นำยเล็ก ตอ้ นรับ.......โดย (กรณเี ป็นนิติบคุ คล)............................ ซ่ึงต่อไปในหนังสือให้ควำมยินยอมฉบับนี้เรียกว่ำ “เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคล” ตกลงยินยอมให้สำนักงำนปลัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ เก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้ำพเจ้ำท่ีมีอยู่กับสำนักงำนปลัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ซ่ึงต่อไปน้ีในหนังสือให้ควำมยินยอมฉบับน้ีเรียกว่ำ “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” ภำยใต้เงื่อนไข ดังต่อไปน้ี 1. วัตถุประสงค์ของกำรเกบ็ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมลู ส่วนบุคคล เพ่ือประโยชน์ในกำรพิจำรณำและ ตรวจสอบในกำรยืนยันตัวบุคคล ซ่ึงทำให้สำมำรถระบุตัวบุคคลน้ันได้ไม่ว่ำทำงตรงหรือทำงอ้อม เช่น ข้อมูลประวัติรำษฎร จำกทะเบียนกลำงกระทรวงมหำดไทย ข้อมูลทำงทะเบียนของกระทรวงพำณิชย์ เป็นต้น หรือข้อมูลอื่ น ๆ ในกำรปฏิบัติตำมอำนำจหน้ำที่หรือตำมสัญญำตำมท่ีกฎหมำยกำหนด และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมำยของ สำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือของหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอ่ืน ที่ให้บริกำรข้อมูลข่ำวสำรหรือบริกำรอ่ืน ๆ แก่ผู้รับบริกำรตำมวัตถุประสงค์ท่ีร้องขอ และเพ่ือรักษำควำมปลอดภัย ปกป้องชีวิต สุขภำพ และทรัพย์สินของเจ้ำหน้ำท่ี ผู้มำติดต่อรำชกำร หรือบุคคลใด ๆ ในพื้นที่ของหน่วยงำน ในสังกัดสำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งทรัพย์สินของรำชกำร ตลอดจนสนับสนุนหน่วยงำนที่เก่ียวข้องใน กำรบังคบั ใช้กฎหมำยเพื่อกำรยับยัง้ ป้องกนั สบื คน้ และดำเนนิ คดที ำงกฎหมำย 2. ในกรณีท่ีผู้รับบรกิ ำรปฏเิ สธไม่ยินยอมให้ข้อมูลส่วนบคุ คลแกส่ ำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ อำจทำให้สำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่สำมำรถให้บริกำรผู้รับบริกำรได้อย่ำงมี ประสิทธภิ ำพตำมควำมคำดหวังของผู้รับบริกำร และผู้รับบริกำรอำจเสียสิทธิประโยชน์ต่ำง ๆ รวมถึงไม่สำมำรถเข้ำ ใชบ้ ริกำรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ของสำนกั งำนปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตำมช่องทำงที่เปดิ ให้บริกำรได้ 3. กำรเปดิ เผย...
- 13 - -2- 3. กำรเปิดเผยขอ้ มูลส่วนบุคคลจะกระทำเพือ่ วัตถปุ ระสงค์ตำมข้อ 1 หรือตำมหมำยเรยี กหรือคำสั่ง ข อ ง ศ ำ ล ห รื อ ค ำ ส่ั ง ข อ ง เจ้ ำ พ นั ก งำ น ท่ี มี อ ำ น ำ จ ต ำ ม ก ฎ ห ม ำ ย ห รื อ ต ำ ม ท่ี ก ฎ ห ม ำ ย ก ำ ห น ด ให้ ต้ อ ง เปิ ด เผ ย ขอ้ มลู ส่วนบคุ คล 4. เจ้ำของขอ้ มลู ส่วนบคุ คลมสี ิทธิ ดงั ตอ่ ไปน้ี 4.1 เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้ำถึงและขอรับสำเนำข้อมูลส่วนบุคคลท่ีเกี่ยวกับตน ซ่ึงอยู่ในควำมรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยถึงกำรได้มำซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่ำว ที่ตนไม่ได้ให้ควำมยินยอม ทั้งน้ี ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิปฏิเสธคำขอได้เฉพำะกรณีที่เป็นกำรปฏิเสธ ตำมกฎหมำยหรือคำส่ังศำล และกำรเข้ำถึงและขอรับสำเนำข้อมูลส่วนบุคคลน้ันจะส่งผลกระทบที่อำจก่อใหเ้ กดิ ควำม เสยี หำยต่อสทิ ธแิ ละเสรภี ำพของบุคคลอืน่ 4.2 เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจำกผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคลได้ หำกข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยใู่ นรูปแบบท่สี ำมำรถอำ่ นหรอื ใช้งำนโดยท่ัวไปได้ดว้ ยเคร่อื งมือหรืออุปกรณ์ ที่ทำงำนได้โดยอัตโนมัติและสำมำรถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีกำรอัตโนมัติ รวมท้ังมีสิทธิขอให้ผู้ ควบคุมข้อมูลสว่ นบุคคลสง่ หรือโอนข้อมูลสว่ นบุคคลในรูปแบบดังกลำ่ วไปยงั ผคู้ วบคุมข้อมลู ส่วนบุคคลอน่ื เมื่อสำมำรถ ทำได้ด้วยวิธีกำรอัตโนมัติ หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลส่งหรือโอนข้อมูล ส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่ำวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภำพทำงเทคนิคไม่สำมำรถทำได้ ท้ังนี้ กำรใช้สิทธิของเจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลจะใช้กับกำรส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นกำรปฏิบัติหน้ำท่ีเพ่ือประโยชน์สำธำรณะหรือเป็นกำรปฏิบัติหน้ำที่ตำมกฎหมำยไม่ได้ หรือกำรใช้สิทธินั้น ต้องไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภำพของบุคคลอนื่ 4.3 เจ้ำของข้อมูลมีสิทธิได้รับแจ้งรำยละเอียดในกำรเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และมีสิทธิ คัดค้ำนกำรเก็บรวบรวม ใช้ หรอื เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่ีเกี่ยวกับตนเม่ือใดก็ได้ ทั้งนี้ กำรคัดค้ำนต้องเป็นไปตำมท่ี กฎหมำยกำหนด 4.4 เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลมสี ิทธิขอใหผ้ ู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงบั กำรใชข้ ้อมูลสว่ นบคุ คลได้ ใน กรณีผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระหว่ำงกำรตรวจสอบตำมที่เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอให้ตรวจสอบข้อมูล ส่วนบุคคลของตน หรือเม่ือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลท่ีต้องลบหรือทำลำยเพรำะได้มำโดยไม่ชอบ ด้วยกฎหมำย แต่เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลขอให้ระงับกำรใช้แทน หรือเม่ือข้อมูลส่วนบุคคลหมดควำมจำเป็นในกำรเก็บรักษำไว้ ตำมวตั ถุประสงค์ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แตเ่ จ้ำของข้อมูลสว่ นบุคคลมีควำมจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษำไว้เพื่อ ใช้ในกำรก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตำมกฎหมำย กำรปฏิบัติตำมหรือกำรใช้สิทธิเรียกร้องตำมกฎหมำย หรือกำรยกขึ้น ต่อสู้สิทธิเรียกร้องตำมกฎหมำย หรือเมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระหว่ำงกำรพิสูจน์หรือตรวจสอบ เพ่ือปฏิเสธกำรคัดค้ำนของเจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลตำมกฎหมำย 4.5 เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินกำรให้ข้อมูลนั้น ถูกต้อง เป็นปจั จบุ นั สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกดิ ควำมเขำ้ ใจผดิ 4.6 เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ลบหรือทำลำยหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูล ที่ไมส่ ำมำรถระบุตวั บคุ คลท่ีเป็นเจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีข้อมูลส่วนบุคคลหมดควำมจำเป็นในกำรเก็บรักษำ ไว้ตำมวตั ถุประสงค์ในกำรเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือเม่ือถอนควำมยนิ ยอม หรือเม่ือคดั ค้ำน กำรเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล และผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่อำจปฏิเสธคำขอตำมกฎหมำย หรือเมื่อมี กำรเกบ็ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไมช่ อบด้วยกฎหมำย
- 14 - 4.7 เจำ้ ของ... -3- 4.7 เจำ้ ของขอ้ มูลสว่ นบคุ คลมีสทิ ธิถอนควำมยินยอมตำมหนังสือฉบับน้ี เวน้ แต่มขี ้อจำกัดสิทธิใน กำรถอนควำมยินยอมโดยกฎหมำยหรือสัญญำ ทั้งน้ี กำรถอนควำมยนิ ยอมย่อมไม่สง่ ผลกระทบตอ่ กำรเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปดิ เผยข้อมลู ส่วนบุคคลท่ีเจำ้ ของข้อมลู สว่ นบคุ คลได้ใหค้ วำมยนิ ยอมไปแลว้ 4.8 เจ้ำของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนในกรณีท่ีผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคค ลหรือ ผปู้ ระมวลผลขอ้ มูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้ำงหรอื ผูร้ ับจ้ำงของผู้ควบคุมข้อมลู ส่วนบคุ คลหรอื ผปู้ ระมวลผลข้อมูลส่วน บคุ คล ฝ่ำฝืนหรือไมป่ ฏบิ ตั ิตำมท่กี ฎหมำยกำหนด 5. ระยะเวลำในกำรเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะจัดเก็บไว้ตลอดระยะเวลำในกำรปฏิบัติตำม อำนำจหน้ำท่ีของสำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือตำมสัญญำตำมที่กฎหมำยกำหนด และประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมำยของสำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือของหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้อง หรือของบุคคลหรือ นิติบุคคลอื่นที่ให้บริกำรข้อมูลข่ำวสำรหรือบริกำรอื่น ๆ แก่ผู้รับบริกำรตำมวัตถุประสงค์ท่ีร้องขอ และเพื่อรักษำควำม ปลอดภัย ปกป้องชีวิต สุขภำพ และทรัพย์สินของเจ้ำหน้ำที่ ผู้มำติดต่อรำชกำร หรือบุคคลใด ๆ ในพ้ืนท่ีของ หน่วยงำนในสังกัดสำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งทรัพย์สินของรำชกำร ตลอดจนสนับสนุน หน่วยงำนทเี่ กีย่ วข้องในกำรบังคบั ใชก้ ฎหมำยเพ่อื กำรยบั ย้ัง ปอ้ งกนั สืบคน้ และดำเนินคดีทำงกฎหมำย 6. เจำ้ ของขอ้ มลู สว่ นบคุ คลสำมำรถตดิ ตอ่ ไดท้ ี่ 6.1 สำนัก/กอง/กลุ่ม.......................................................................................................... สำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 6.2 สำนักงำนเกษตรและสหกรณ์จังหวัด..................................................................... .......... ท้ังน้ี ก่อนกำรแสดงเจตนำ ข้ำพเจ้ำได้อ่ำนรำยละเอียดจำกเอกสำรชี้แจงข้อมูล หรือได้รับคำอธิบำยจำก สำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงวัตถุประสงค์ในกำรเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล และมี ควำมเขำ้ ใจดีแลว้ ข้ำพเจำ้ ใหค้ วำมยินยอมหรอื ปฏิเสธไม่ให้ควำมยินยอมในเอกสำรนี้ด้วยควำมสมัครใจ ปรำศจำกกำร บังคับหรือชักจูง และข้ำพเจ้ำทรำบว่ำข้ำพเจ้ำสำมำรถถอนควำมยินยอมนี้เสียเมื่อใดก็ได้เว้นแต่ในกรณี มีข้อจำกัดสิทธิตำมกฎหมำยหรือยังมีสัญญำระหว่ำงข้ำพเจ้ำกับสำนักงำนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทใ่ี ห้ประโยชน์แก่ข้ำพเจ้ำอยู่ “ให้” ควำมยินยอม “ไม่ให”้ ควำมยินยอม ลงช่อื ......................................................ผู้ให้ควำมยนิ ยอม ( นำยเล็ก ตอ้ นรบั )
- 15 - เอกสารประกอบ
- 16 - เอกสารประกอบ
- 17 - เอกสารประกอบ
- 18 - เอกสารประกอบ
- 19 - เอกสารประกอบ
- 20 - เอกสารประกอบ
- 21 - ประมวลภาพกิจกรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: