การวางแผนการเงินของนายชูเกียรติ ดำรงค์

การเงินส่วนบุคคล 900011 Search การวางแผนการเงินของ นายชูเกียรติ ดำรงค์

ข้อมูลพื้นฐานปัจจุบัน ชูเกียรติ ดำรงค์ ( ปั้ น ) อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา: จ.กรุงเทพมหานคร สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวชีวการแพทย์ หลักสูตรวิศวกร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

การกำหนดเป้าหมายในชีวิต วัยเรียน 1. ทำงานพาร์ทไทม์ ได้ปีละ 25,000 บาท 2. ได้รับจากครอบครัว ปีละ 85,000 บาท 3. ค่าอาหาร ปีละ 30,000 บาท 4. ค่าเดินทาง ปีละ 8,000 บาท 5.สำเร็จการศึกษาในสาขาวิศวชีวการแพทย์ หลักสูตรวิศวกร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายในเวลา 4 ปี อายุ 22 ปี

วัยทำงาน 1.เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้ทำงานในบริษัทผลิตเครื่องมือแพทย์ 2.ทำงานครบ 2 ปี อายุ 24 ปี เป็นผู้ประกอบการจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ 3.ทำงานครบ 4 ปี อายุ 26 ปี มีเงินซื้อรถยนต์ ในราคา 600,000 บาท 4.ทำงานครบ 7 ปี อายุ 29 ปี แต่งงาน ใช้เงินในราคา 500,000 บาท และได้ทำประกัน เริ่มต้น จ่ายประกันปีละ10,000บาท 5.ทำงานครบ 10 ปี อายุ 32 ปี ซื้อบ้าน ย่านสาทร เนื้อที่ 100 ตารางวา ในราคา 1,500,000 บาท 6.แต่งงานได้ 4 ปี มีบุตร 2 คน ตอนอายุ 33 ปี ใช้เงินปีละ 300,000 บาท 7.ลงทุนทำเกษตร ทำงานครบ 15 ปี อายุ 37 ปี

วัยเกษียณ 1.มีรายได้จากร้านขายเครื่องมือการแพทย์ ปีละ 445,000 บาท 2.ไปเที่ยวทั้งครอบครัวที่ประเทศเกาหลี ใช้เงิน 150,000 บาท 3.เที่ยวในประเทศ ใช้เงิน 50,000 บาท 4.รายได้จากการทำเกษตร ปีละ 1,200,000 บาท 5.บริจาคเงินให้บ้านเด็กกำพร้า ปีละ 50,000 บาท

การวางแผนการเงินเพื่อบรรลุเป้าหมาย วัยเรียน ปีที่ 1 ปีที่ 2 ปีที่ 3 ปีที่ 4 กระแสเงินสดรับ 8,500 8,500 8,500 8,500 รับเงินจากครอบครัว 25,000 25,000 25,000 25,000 งานพาร์มไทม์ 110,000 รวมกระแสเงินสดรับ 110,000 110,000 110,000 กระแสเงินสดจ่าย - - - - ค่าเดินทาง 8,000 8,000 8,000 8,000 ค่าอาหาร 30,000 30,000 30,000 30,000 ค่าแต่งกาย 15,000 15,000 15,000 15,000 รวมกระแสเงินสดจ่าย 53,000 53,000 53,000 53,000 กระแสเงินสดสุทธิ = เงินออม/ลงทุน 57,000 57,000 57,000 57,000

วัยทำงาน ปีที่ 1 ปีที่ 3 ปีที่ 5 ปีที่ 7 ปีที่ 9 ปีที่ 11 ปีที่ 13 ปีที่ 15 กระแสเงินสดรับ 30,000 40,000 55,000 58,000 62,000 65,000 67,000 70,000 เงินเดือน 380,000 410,000 500,000 1,200,000 1,200,000 1,200,000 1,200,000 1,200,000 ร้านจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ 410,000 450,000 555,000 658,000 762,000 965,000 1,267,000 1,270,000 รวมกระแสเงินสดรับ 54,545 54,545 54,545 54,545 54,545 54,545 - - กระแสเงินสดจ่าย 100,000 100,000 100,000 100,000 100,000 100,000 100,000 100,000 ค่าซื้อรถ ค่าซื้อบ้าน 2,000 2,000 2,000 2,000 2,000 2,000 2,000 2,000 ค่าเทอมลูก 80,000 80,000 80,000 80,000 80,000 80,000 80,000 80,000 ค่าอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ 10,000 10,000 10,000 10,000 10,000 10,000 ค่าประกัน - - รวมกระแสเงินสดจ่าย 236,545 236,545 236,545 236,545 236,545 236,545 182,000 182,000 กระแสเงินสดสุทธิ = เงินออม/ลงทุน 183,455 223,455 328,455 431,455 535,455 728,455 1,030,000 1,040,000

คำนวณการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นายชูเกียรติ ดำรงค์ เรียนจบ ตอนอายุ 22 ปี มีรายได้จากเงินเดือน เดือนละประมาณ 30,000 บาท จากการทำเกษตรต่อเดือนละ100,000 บาท ขายเครื่องมือทางการแพทย์ เดือนละ ประมาณ 105,833 บาท มีการบริจาคเงินให้การกุศลปีละ 50,000 บาท เงินได้พึงประเมินทุกประเภทรวมกันตลอดปีภาษี การคำนวณภาษี 130,000x12 1,560,000 100,000 60,000 หักค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนด (ร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 100,000) 25,000 1,460,000 เหลือเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย 10,000 หักค่าลดหย่อนต่าง(ไม่รวมค่าลดหย่อนเงินบริจาค ตามที่กฎหมายกำหนด) ผู้มีเงินได้ บุตร เบี้ยประกันชีวิต เลี้ยงดูบิดา 0.00 ทุนประกันสังคม 0.00 รวมค่าลดหย่อน 95,000 เหลือเงินได้หลังหักค่าลดหย่อนต่างๆ 1,365,000 หักค่าลดหย่อนเงินบริจาคไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด 10,000 เหลือเงินได้บริสุทธิ์ที่นำไปคำนวณภาษี 1,355,000 จำนวนภาษีตามการคำนวนภาษี 0.00 ช่วงเงินได้ % ภาษีที่เสีย 1-105,833 0.00 ยกเว้น 74,000 ยกเว้น 0.00 รวมเงินได้สุทธิของนายชูเกียรติ ดำรงค์ ที่นำมาคำนวณภาษี 1,355,000 บาท

คำนวณเงินที่ต้องการมีไว้ใช้ตอนเกษียณ ประมาณรายได้ปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุ (FV) รายได้ในปัจจุบัน (PV) = 30,000 บาท จำนวนปีก่อนเกษียณอายุ = 60 - 37 ปี = 23 ปี อัตราการเพิ่ มของรายได้ต่อปี =5% จากสูตร FV = PV (FVIF i,n) (30,000) (FVIF 5%/20) 30,000 x 2.6533 = 79,599 บาท รายได้ปีสุดท้ายก่อนการเกษียณอายุ = 79,599 บาท ประมาณจำนวนเงินที่ต้องการมีไว้ใช้จ่ายในช่วงเกษียณอายุต่อปี รายได้ก่อนปีสุดท้าย x สัดส่วนของรายได้ที่ต้องการเมื่อเกษียณอายุ รายได้ก่อนปีสุดท้าย = 79,599 บาท สัดส่วนของรายได้ที่ต้องการ = 50 % รายได้ปสุดท้ายก่อนการเกษียณอายุ = 79,599 x 50% = 3,979,950 บาท ดังนั้น จำนวนเงินที่ต้องการมีไว้ใช้จ่ายในช่วงวัยเกษียณอายุ ปีละ = 3,979,95 + 445,000 + 1,200,000 บาท หรือ เดือนละ = 170,249.58 บาท ดังนั้น จำนวนเงินหลังจากเกษียณอายุจนถึงอายุ 85 ปี = 2,042,995 x 25 = 51,074,875 บาท

วัยเกษียณ วัยเกษียณ ปี1 ปี2 ปี3 อายุ อายุ61 อายุ65 อายุ85 กระแสเงินสดรับ 1,200,000 1,200,000 1,200,000 ขายเครื่องมือทางการแพทย์ 80,000 80,000 80,000 ทำการเกษตร 7,200 7,200 7,200 เบี้ยเลี้ยงคนชรา 1,287,200 1,287,200 1,287,200 รวมกระแสเงินสดรับ 150,000 150,000 150,000 กระแสเงินสดจ่าย 50,000 50,000 50,000 ท่องเที่ยวต่างประเทศ 70,000 70,000 70,000 เที่ยวในประเทศ รายจ่ายทั่วไป 270,000 270,000 270,000 รวมกระแสเงินสดจ่าย กระแสเงินสดสุทธิ = เงินออม / ลงทุน 1,017,200 1,017,200 1,017,200 การลงทุน นำเงินออมจำนวน 200,000 บาทไปลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ขายเครื่องมือการแพทย์ ลงทุนในหลักทรัพย์ 70 % ผลตอบแทน1,200,000 ระยะเวลา 36 ปี 2.ทำเกษตร ลงทุนในหลักทรัพย์ 30 % ผลตอบแทน 80,000 ระยะเวลา5 ปี

สมาชิกในกลุ่ม 1.พาฝัน กันธวงค์ 210501023 2.พัชราภรณ์ ใจซื่อ 210501024 3.พรธิดา ปานพายัพ 210501028

Thank you for listening