Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การปลูกถั่วเหลืองในฤดูแล้ง

การปลูกถั่วเหลืองในฤดูแล้ง

Published by nongbualumphulibrary, 2018-12-09 13:01:13

Description: การปลูกถั่วเหลืองในฤดูแล้ง

Search

Read the Text Version

เอกสารค�ำแนะนำ� ที่ 7/2560การปลูกถ่ัวเหลอื งในฤดแู ล้งพิมพค์ รง้ั ที่ 1 : จำ� นวน 10,000 เล่ม กันยายน พ.ศ. 2560จัดพิมพ์ : กรมส่งเสรมิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิมพ์ที่ : บรษิ ัท นวิ ธรรมดาการพิมพ์ (ประเทศไทย) จำ� กัด





คำ� นำ� เอกสารคำ� แนะนำ� เรอ่ื ง “การปลกู ถวั่ เหลอื งในฤดแู ลง้ ”เลม่ น้ี จดั ทำ� ขน้ึ เพอื่ เจา้ หนา้ ทกี่ รมสง่ เสรมิ การเกษตร เกษตรกร และบุคคลทั่วไปท่ีมีความสนใจและต้องการศึกษาการปลูกถ่ัวเหลืองในฤดูแล้งอย่างถูกต้องและเหมาะสม เน่ืองจากวิกฤติภัยแล้งในปจั จุบนั สง่ ผลกระทบต่อการปลูกพชื ของเกษตรกร ถั่วเหลือง เป็นพืชท่ีมีความต้องการใช้น้�ำน้อยกว่าการท�ำนาปรัง ถ่ัวเหลืองจึงเหมาะเป็นพืชทางเลือกชนิดหนึ่งให้แก่เกษตรกรปลูก ดังน้ัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าท่ีกรมส่งเสริมการเกษตร เกษตรกร และบุคคลท่ัวไป จะได้ศึกษาและท�ำความเข้าใจในเน้ือหาของเอกสารค�ำแนะน�ำเล่มน้ี และใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป สุดท้ายนี้ขอขอบคุณกรมวิชาการเกษตรท่ีเอื้อเฝื้อภาพถ่ายในการจัดท�ำเอกสารคำ� แนะนำ� เล่มนี้ กรมสง่ เสริมการเกษตร 2560

สารบญั หนา้พนั ธุถ์ ั่วเหลอื ง 2ปจั จยั ทีม่ ผี ลต่อการปลูกถว่ั เหลืองในฤดแู ลง้ 6 • สภาพภมู อิ ากาศ 6 • สภาพพนื้ ทปี่ ลกู 7การปลูกและการดแู ลรกั ษาถัว่ เหลือง 7 • การเตรยี มดิน 7 • การเตรียมเมลด็ พันธ ์ุ 8 • วิธีการปลกู 9 • การใส่ป๋ยุ 10 ตารางที่ 1 แสดงการใชป้ ยุ๋ เคมี (NPK) สำ� หรบั ถวั่ เหลอื ง 11 • ตามลักษณะดนิ 1/ การให้น�ำ้ ถัว่ เหลือง 12 • วชั พืชและการป้องกนั ก�ำจดั 13 ตารางท่ี 2 การใชส้ ารเคมกี �ำจดั วัชพืชในแปลงถ่ัวเหลอื ง 16 • โรคและการปอ้ งกนั กำ� จัด 18 ตารางท่ี 3 การใช้สารป้องกันก�ำจัดโรคพืช 25 • แมลงศัตรพู ืชและการปอ้ งกันก�ำจัด 26 ตารางที่ 4 การใชส้ ารป้องกนั กำ� จัดแมลงศตั รพู ชื 33 • การปฏิบัติกอ่ นและหลังการเก็บเก่ียว 34เอกสารอ้างองิ 36

การปลูกถวั่ เหลอื งในฤดแู ลง้ ถว่ั เหลอื ง เปน็ พชื ทม่ี คี วามสำ� คญั ทางดา้ นเศรษฐกจิ เพราะมคี วามตอ้ งการใช้ในประเทศสูง น�ำมาใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางท้ังการบริโภค และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายรูปแบบ เช่น น�้ำนมถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าเจ้ียว เป็นต้นแต่ปัจจุบันถ่ัวเหลืองกลับมีพื้นท่ีปลูกลดลง เนื่องจากเกษตรกรนิยมปลูกพืชแข่งขันตัวอ่ืนท่ีดูแลรักษาง่ายและได้ก�ำไรสูงกว่า และจากวิกฤตการณ์ภัยแล้งท่ีเกิดขึ้นถั่วเหลืองเป็นพืชอายุส้ัน ปัจจุบันจึงเป็นพืชท่ีนิยมน�ำมาปลูกหลังนา หรือปลูกทดแทนนาปรงั เนอ่ื งจากเปน็ พชื ทใี่ ชน้ ำ�้ นอ้ ย และยงั สามารถชว่ ยตดั วงจรการระบาดของแมลงศัตรูในระบบการปลูกข้าว และช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน เกิดความสมดุลของธาตุอาหาร ทำ� ใหด้ นิ มคี วามอดุ มสมบูรณ์มากข้ึน การปลกู ถ่วั เหลืองในฤดูแลง้ 1

พนั ธถ์ุ ว่ั เหลอื ง สามารถแบ่งตามอายุเก็บเก่ียวได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มพันธุ์อายุส้ันและกลุ่มพันธุ์อายุปานกลาง ท้ังน้ีขอแนะน�ำพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรยังมีการผลิตในปจั จุบัน ดงั น้ี1. กลุม่ ถวั่ เหลอื งพันธ์อุ ายุสั้น อายเุ กบ็ เก่ียวประมาณ 75 – 85 วัน ลำ� ต้นไม่ทอดยอด ความสูงประมาณ30 – 50 เซนตเิ มตร มจี �ำนวน 3 พันธุ์ ดงั นี้ 1.1 พันธุ์นครสวรรค์ 1 ดอกสมี ่วง ฝกั แห้งเม่ือแกจัดมีสีเหลืองทอง อายุเก็บเกี่ยวประมาณ73 – 76 วัน ผลผลิตเฉล่ีย 220 กิโลกรัมต่อไร่ ถ้าปลูกต้นฤดูฝนหรือกลางฤดูฝนจะให้ผลผลิตสูงต้านทานปานกลางต่อโรคใบจุดนูน อ่อนแอต่อโรคราน�้ำค้าง เหมาะส�ำหรับปลูกในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน2 กรมสง่ เสริมการเกษตร

1.2 พันธ์เุ ชยี งใหม่ 2 ดอกสีม่วงออ่ น ฝักแก่สนี �้ำตาลอ่อน อายเุ ก็บเกีย่ วประมาณ 77 วัน ผลผลิตเฉล่ีย 235 กิโลกรัมต่อไร่ ต้านทานต่อโรคราน�้ำค้างปรบั ตวั ตอ่ สภาพแวดลอ้ มไดก้ ว้างปลกู ได้ในทุกท้องถ่ิน 1.3 พนั ธศ์ุ รีส�ำโรง 1 ดอกสมี ว่ ง ฝักแก่สนี �้ำตาล อายเุ กบ็ เกี่ยวประมาณ76 – 78 วนั ผลผลติ เฉลย่ี 291 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ ออ่ นแอตอ่ โรครานำ้� คา้ ง เหมาะสำ� หรบัปลูกในภาคเหนอื ตอนล่างและภาคกลางตอนบน การปลกู ถั่วเหลอื งในฤดูแล้ง 3

2. กลุ่มถ่ัวเหลอื งพันธ์อุ ายปุ านกลาง อายเุ กบ็ เกย่ี วประมาณ 86 – 112 วนั ลำ� ตน้ ไมท่ อดยอด ความสงู ประมาณ60 – 80 เซนติเมตร มีจำ� นวน 3 พนั ธ์ุ ดงั นี้ 2.1 พันธุ์ สจ.5 ดอกสีม่วง ฝักแก่สีน้�ำตาลเข้ม อายุเก็บเกี่ยวประมาณ90 – 96 วนั ผลผลิตเฉลี่ย 286 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ ทนทานตอ่ โรคใบดา่ ง โรคราสนิมและโรคแอนแทรคโนส เป็นพันธุ์ทใี่ ชแ้ นะน�ำปลกู ได้ทั่วไป4 กรมส่งเสริมการเกษตร

2.2 พันธุ์เชียงใหม่ 60 ดอกสีขาว ฝักแก่ สีน�้ำตาลเข้ม อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 88 – 95 วัน ผลผลิตเฉลี่ย 284 กิโลกรัมต่อไร่ ทนทานต่อโรค ราสนมิ และตา้ นทานตอ่ โรครานำ้� คา้ งปานกลาง ปรบั ตวั ตอ่ สภาพแวดลอ้ มไดก้ ว้างปลูกได้ในทกุ ทอ้ งถิ่น 2.3 พันธุ์เชียงใหม่ 6 ดอกสีม่วง ฝักแก่สีน้�ำตาลเข้มอายุเก็บเก่ียวประมาณ 90 – 99 วัน ผลผลิตเฉลี่ย 322 กิโลกรัมต่อไร่ ทนทานต่อโรคราสนิม และต้านทานต่อโรคราน�้ำค้างสูงกว่าพันธุ์ สจ.5 และพันธเุ์ ชียงใหม่ 60 ปรับตวั ตอ่ สภาพแวดลอ้ มได้กวา้ งปลกู ได้ในทกุ ท้องถนิ่ การปลกู ถ่ัวเหลอื งในฤดแู ล้ง 5

ปจั จัยทม่ี ีผลต่อการปลูกถ่วั เหลอื งในฤดแู ล้ง เม่ือเลือกพันธุ์ถ่ัวเหลืองที่เหมาะสมกับพื้นท่ีท่ีจะปลูกแล้ว แนวทางปฏิบัติการปลูกและการดูแลรักษาถ่ัวเหลืองในฤดูแล้งเพื่อให้ได้ผลผลิตท่ีมีคุณภาพควรตอ้ งคำ� นงึ ถึงปัจจัยต่างๆ ดงั น้ี สภาพภมู ิอากาศ อุณหภูมิท่ีเหมาะสมในการปลูกถ่ัวเหลืองอยู่ระหว่าง 25 – 30 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมิสูงหรือต่�ำกว่าอุณหภูมิที่เหมาะสมจะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของถั่วเหลือง โดยหลังจากที่มีการเก็บเก่ียวข้าวแล้วการปลูกถั่วเหลืองในฤดูแล้งจะเร่ิมปลูกตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงส้ินเดือนธันวาคม ถ้าสามารถปลูกเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคมจะได้ผลดีมาก แต่ถ้าปลูก ไมท่ นั กไ็ มค่ วรเกนิ กลางเดอื นมกราคม เนอ่ื งจากตอ้ งหลกี เลย่ี งชว่ ง อากาศหนาวเยน็ ขณะถั่วเหลืองเร่ิมงอก และ จะเก็บเกีย่ วไดก้ ่อนช่วงฝนตก เพราะ ถ้าถั่วเหลืองถูกฝนในช่วงเก็บ เกี่ยวจะทำ� ให้ผลผลติ เสยี หาย6 กรมส่งเสริมการเกษตร

สภาพพ้นื ท่ีปลกู สภาพดินท่ีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของถ่ัวเหลืองควรเป็นดินร่วนดินร่วนเหนียว ดินเหนียว หรือดินร่วนเหนียวปนทราย ดินมีค่าความเป็นกรดด่างระหว่าง 5.5 – 6.5 โดยถั่วเหลืองไม่ชอบดินเป็นกรดจัด ซ่ึงส่งผลท�ำให้การตรึงไนโตรเจนของเชอ้ื ไรโซเบียมมีประสิทธิภาพลดลง การปลูกและการดูแลรกั ษาถั่วเหลอื ง 1. การเตรยี มดนิ ควรมีการเก็บตัวอย่างดิน เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหารในดินถ้าดนิ มคี า่ ความเป็นกรดด่างตำ่� กว่า 5.5 ให้หว่านปูนขาวอตั รา 100 – 200 กโิ ลกรมัต่อไร่ แลว้ พรวนกลบ การปลูกถั่วเหลืองในสภาพนาหลังเก็บเกี่ยวข้าว มีการเตรียมดิน2 แบบ คือ 1.1 การเตรยี มดินแบบไถพรวน หลังเก็บเกยี่ วข้าว ให้ไถดินลึกประมาณ15 – 20 เซนติเมตร พร้อมขดุ รอ่ งน้ำ� ชิดคันนาทกุ ดา้ นและผ่านแปลงนา รอ่ งกวา้ ง30 เซนติเมตร ระยะระหวา่ งรอ่ งนำ�้ ประมาณ 3 – 5 เมตร เพ่อื สะดวกต่อการให้น้�ำและระบายนำ้� ออก ตากดนิ ทิง้ ไว้ 1 – 2 สัปดาห์ ปลอ่ ยน�้ำให้ทว่ มแปลงครึง่ วันแล้วระบายน้ำ� ออก ตากดิน 1 – 2 วัน ให้ดินหมาด แลว้ จงึ ไถพรวนกอ่ นปลูกการเตรียมดนิ แบบไถพรวน การขุดรอ่ งน้�ำ การปลูกถว่ั เหลอื งในฤดแู ล้ง 7

1.2 การเตรยี มดนิ แบบไมไ่ ถพรวน หลงั เกบ็ เกย่ี วขา้ ว ตดั ตอซงั ทงิ้ เศษฟางไวใ้ นแปลงนา ขุดรอ่ งน้�ำชิดคนั นาทกุ ดา้ นและผา่ นแปลงนา ร่องกวา้ ง 30 เซนตเิ มตรระยะระหว่างรอ่ งนำ้� ประมาณ 3 – 5 เมตร ปล่อยน้ำ� ใหท้ ว่ มแปลงครึง่ วนั แลว้ ระบายน้�ำออก ตากดนิ 1 – 2 วนั ใหด้ ินหมาด แล้วจงึ ปลกู 2. การเตรียมเมลด็ พันธ์ุ เมล็ดพันธุ์ท่ีใช้ควรมีคุณภาพดี ความงอกไม่ต�่ำกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ใช้เมล็ดพันธุ์อัตรา 15 กิโลกรัมต่อไร่ คลุกด้วยเชื้อไรโซเบียม 1 ถุง (200 กรัม)โดยเคลือบเมล็ดด้วยน�้ำเช่ือม (น�้ำตาลทราย 3 – 5 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้�ำ 1 แก้ว)คลกุ เคลา้ ดว้ ยเชอื้ ไรโซเบยี มเบาๆ ใหท้ วั่ หลงั จากนน้ั ผงึ่ ในทร่ี ม่ ประมาณ 20 – 30 นาทีจนเมล็ดถ่ัวเหลืองแหง้ กอ่ นน�ำไปปลูก สำ� หรบั การคลกุ เคลา้ เมลด็ ถว่ั เหลอื งอยา่ คลกุ เคลา้ แรง ควรคลกุ ในกระสอบบรรจุเมล็ดพันธุ์โดยกลับไปมาให้ทัว่ การคลกุ เช้อื ไรโซเบยี มด้วยวธิ ีน้ี จะชว่ ยให้เช้ือไรโซเบยี มเกาะติดเมลด็ ดี สามรถใชก้ บั เครอื่ งหยอดได้โดยไมต่ ิดเคร่ืองหยอด เชอื้ ไรโซเบยี ม เปน็ แบคทเี รยี ทเ่ี มอ่ื เขา้ ไปอาศยั อยใู่ นรากของพชื ตระกลู ถวั่จะสรา้ งปม และสามารถตรงึ กา๊ ซไนโตรเจนจากอากาศมาเปน็ สารประกอบไนโตรเจนทพ่ี ืชสามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ได้8 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

ถวั่ เหลอื งตอ้ งใชเ้ ชอื้ ไรโซเบยี มถวั่ เหลอื งเทา่ นน้ั ไมส่ ามารถนำ� เชอ้ื ไรโซเบยี มจากถ่ัวชนิดอ่นื ๆ มาท�ำให้เกดิ ปมท่รี ากของถว่ั เหลอื งได้ไรโซเบยี มถว่ั เหลอื ง ปมของรากถ่วั เหลอื ง 3. วธิ ีการปลกู การปลูกถ่ัวเหลืองในสภาพนามีวธิ กี ารปลกู ดงั น้ี 3.1 การปลูกโดยเตรียมดินแบบไถพรวน มีวิธีการปลูก 2 แบบ คือแบบหว่าน หรือ แบบโรยเป็นแถว ระยะระหว่างแถว 50 เซนติเมตร จ�ำนวน20 – 25 ต้นตอ่ แถวยาว 1 เมตร (64,000 – 80,000 ต้นตอ่ ไร)่ 3.2 การปลูกโดยเตรียมดินแบบไม่ไถพรวน ปลูกโดยใช้ไม้แหลม หรือเคร่อื งปลกู ท�ำหลมุ กวา้ ง 2 – 3 เซนตเิ มตร ลึก 3 – 4 เซนตเิ มตร หยอดเมล็ดพันธ์ุ4 – 5 เมลด็ ตอ่ หลุมหยอดเป็นแถว หว่านท่ัวแปลง การปลูกถ่วั เหลืองในฤดูแลง้ 9

KPN ระยะปลูกทีเ่ หมาะสมส�ำหรบั ถ่วั เหลือง มดี งั นี้ 1) ถ่ัวเหลืองพันธุ์อายุสั้น ใช้ระยะระหว่างแถว 25 เซนติเมตร ระยะ ระหว่างหลมุ 25 เซนติเมตร จะได้ต้นถ่วั เหลอื ง จ�ำนวน 100,000 ต้นต่อไร่ 2) ถั่วเหลืองพันธุ์อายุปานกลาง ใช้ระยะระหว่างแถว 40 เซนติเมตร ระยะระหว่างหลมุ 20 เซนติเมตร จะได้ต้นถั่วเหลอื ง จ�ำนวน 80,000 ต้นต่อไร่ 4. การใสป่ ยุ๋ 4.1 การใส่ปุ๋ยเคมีกับถ่ัวเหลืองหลังปลูกข้าวในเขตชลประทาน ดินท่ี ใช้ปลูกข้าวนาปรังมักจะเป็นดินเหนียว หรือร่วนเหนียว ร่วนเหนียวปนทราย ซึ่งมี ความอุดมสมบูรณ์มากกว่าดินดอนหรือดินไร่ เกษตรกรที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่จะใส่ ปยุ๋ เคมที กุ ครง้ั ทำ� ใหม้ ปี ยุ๋ เคมตี กคา้ งทมี่ ปี ระโยชนก์ บั ถว่ั เหลอื งทปี่ ลกู หลงั นา แตจ่ ะมี ธาตอุ าหารฟอสฟอรสั ตำ�่ ใหใ้ สป่ ยุ๋ ทรปิ เปล้ิ ฟอสเฟต สตู ร 0-46-0 อตั รา 20 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ กเ็ พยี งพอกบั การปลกู ถวั่ เหลอื งหลงั นา และอาจสลบั ดว้ ยปยุ๋ เคมี สตู ร 16-16-8 หรอื สตู ร 16-20-0 ในบางปี อตั รา 30 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามเพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลตอบแทน การใส่ปยุ๋ ในแปลงถ่ัวเหลอื ง10 กรมสง่ เสริมการเกษตร

สูงสุดจากการใช้ปุ๋ยเคมีควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมด้วยเสมอ และควรมีการวิเคราะห์ดินเป็นระยะ (3 – 5 ปตี ่อครัง้ ) จะไดม้ ีแนวทางการพจิ ารณาใส่ปยุ๋ ทเ่ี หมาะสม 4.2 การใส่ปุ๋ยเคมีตามชนิดดินและการวิเคราะห์ดิน การใช้ค่าวิเคราะห์ดินประกอบการพิจารณาการใส่ปุ๋ยเคมี เป็นแนวทางการใช้ปุ๋ยท่ีถูกต้องมีประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดเงิน โดยการใช้แม่ปุ๋ยที่มีขายน�ำมาผสมปุ๋ยใช้เองตามสัดส่วนของธาตอุ าหารทต่ี ้องการตารางที่ 1 แสดงการใช้ปยุ๋ เคมี (NPK) ส�ำหรบั ถัว่ เหลือง ตามลักษณะดิน1/ เนอ้ื ดิน ปริมาณธาตอุ าหาร สตู รปุย๋ ทคี่ วรใช้ อตั ราการใช้ แKน2Oะนกำ� โิ ล(Nกร-Pัม2/Oไร5่)- (N-P2O5-K2O) (กิโลกรัม/ไร่)ดนิ เหนยี วสีแดง 3,6,3 12-24-12 20 – 30ดนิ เหนียวสดี ำ� 16-16-8 30 – 40ดนิ ร่วนเหนยี ว 0,6,0 8-24-24 25 – 35 0,6,0 0-3-0 (หนิ ฟอสเฟส) 50 - 200 สีน้�ำตาล 3,9,6 0-46-0 15 – 20 ดินร่วนทราย 0-40-0 15 – 20 0-46-0 15 – 20 0-40-0 15 – 20 12-24-12 30 – 40 16-16-8 40 - 501/ - การปลกู ถว่ั เหลอื งในดนิ ทกุ ชนดิ ควรคลกุ เมลด็ พนั ธด์ุ ว้ ยเชอ้ื ไรโซเบยี ม เพอ่ื ทดแทน การใชป้ ๋ยุ N - ดินที่เป็นกรดจัด (pH ต�่ำกว่า 5.5) ควรลดความเป็นกรดของดินด้วยการ ใส่ปูนอัตรา 100 – 200 กิโลกรัม/ไร่ ส�ำหรับดินท่ีค่อนข้างเป็นทราย หรืออัตรา 200 – 400 กโิ ลกรมั /ไร่ ส�ำหรับดนิ เหนียว การปลูกถ่ัวเหลอื งในฤดูแล้ง 11

ข้อค�ำนงึ ในการใชป้ ยุ๋ เคมี 1) ปลกู เปน็ แถว ใส่ป๋ยุ เคมรี องพ้ืนพร้อมปลูก 2) ปลกู แบบหวา่ น ใสป่ ยุ๋ เคมกี อ่ นถว่ั เหลอื งออกดอก ไมค่ วรเกนิ 15 – 20 วนั หลังปลูก 3) หากต้องการใส่ปุ๋ยหลังปลูก มักกระท�ำหลังจากก�ำจัดวัชพืชครั้งแรก (ภายใน 2 สัปดาหห์ ลงั ปลูก) เมือ่ ใส่ปุย๋ แล้วควรกลบดนิ หรอื พูนโคนต้น 4) หากดินเป็นกรดจัด ให้หว่านปูนก่อนพรวนดินเพื่อลดความเป็นกรด ของดนิ ปลอ่ ยแปลงไวไ้ มน่ อ้ ยกวา่ 1 สปั ดาห์ หรอื หลงั จากฝนตกหรอื ใหน้ ำ�้ ชลประทาน อย่างนอ้ ย 1 ครง้ั จึงท�ำการปลูกถ่ัวเหลอื ง 5. การให้นำ้� ถ่ัวเหลอื ง การปลูกถั่วเหลืองในพ้ืนที่นา ควรให้น้�ำแบบท่วมแปลงแล้วปล่อยให้ ซึมลงช้ันดินให้หมดภายในคร่ึงวัน หรือระบายน้�ำส่วนเกินออกอย่าให้ท่วมข้ามวัน การให้น�้ำแต่ละคร้ังควรเว้นระยะเวลาห่างกัน 10 – 15 วันต่อคร้ัง แต่ถ้าปลูก ถ่ัวเหลืองแล้วคลุมด้วยฟาง อาจให้น�้ำระยะเวลาห่างกัน 15 – 20 วันต่อคร้ัง ขอ้ ควรระวงั ในชว่ งการเจรญิ เตบิ โตของฝกั และเมลด็ (ประมาณ 60 วนั หลงั ปลกู ) จะต้องไมใ่ หถ้ ว่ั เหลอื งขาดน้ำ� การใหน้ �้ำแบบท่วมแปลงแล้วปลอ่ ยออก12 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

6. วชั พืชและการปอ้ งกันกำ� จดั วัชพืชที่พบและเป็นปัญหาในแปลงถั่วเหลือง คือ วัชพืชฤดูเดียว และวัชพืชข้ามปี พบทั้งวัชพืชใบแคบ ใบกว้าง และกก วัชพืชจะมีปริมาณมากหรือน้อยข้ึนอยู่กับสภาพพื้นที่ ภูมิอากาศ และการเขตกรรมของเกษตรกร วัชพืชทพี่ บโดยทว่ั ไป มดี ังนี้ 6.1 วัชพืชฤดูเดียว เป็นวัชพืชท่ีครบวงจรชีวิตภายในฤดูเดียว ส่วนมากขยายพันธุ์ด้วยเมลด็ แบ่งเปน็ 1) ประเภทใบแคบ เช่น หญ้านกสีชมพู หญ้าตีนนก หญ้าตีนกา และหญา้ ดอกขาว เป็นต้นหญ้านกสชี มพู หญา้ ตนี นก หญา้ ตนี กา การปลกู ถ่ัวเหลืองในฤดูแลง้ 13

2) ประเภทใบกว้าง เช่น ผักยาง เทียนนา ผักโขม ผักเบ้ียหินผกั ไผน่ �้ำ ผกั ตนี ตกุ๊ แก ผกั คราดหัวแหวน และสาบแร้งสาบกา เป็นตน้ผกั โขม ผกั ยาง ผกั เบ้ยี หนิ 3) ประเภทกก เชน่ กกทราย เปน็ ตน้ กกทราย14 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

6.2 วชั พืชข้ามปี เปน็ วชั พืชทข่ี ยายพนั ธุ์ด้วยตน้ ราก เหง้า หัว และไหลได้ดกี ว่าการขยายพันธ์ุด้วยเมลด็ แบง่ เปน็ 1) ประเภทใบแคบ เชน่ หญ้าแพรก และหญ้าชันกาด เปน็ ตน้ หญา้ แพรก 2) ประเภทใบกว้าง เชน่ สาบเสือ ไมยราบเครอื และเถาตอเชอื กเป็นต้น สาบเสอื 3) ประเภทกก เช่น แหว้ หมู และกกดอกตุ้ม เป็นตน้ แหว้ หมู การปลูกถวั่ เหลืองในฤดูแล้ง 15

การป้องกันกำ� จัดวัชพชื 1) ไถดิน 1 คร้ัง แล้วตากดินไว้ประมาณ 7 – 10 วัน พรวน 1 ครั้งแลว้ จึงคราดเกบ็ เศษซาก ราก เหง้า หัว และไหลของวัชพืชขา้ มปีออกจากแปลง 2) ก�ำจัดวัชพืชโดยใช้แรงงานคนหรือเครื่องจักร เมื่อถั่วเหลืองมีอายุ15 – 20 วัน หรอื กอ่ นถว่ั เหลอื งออกดอก 3) คลุมดินดว้ ยเศษซากวชั พชื หรือฟางข้าวทันทหี ลังปลูก 4) ถา้ กำ� จดั วัชพืชไมไ่ ด้ผล ควรพ่นด้วยสารก�ำจัดวัชพชื ตามค�ำแนะนำ�ตารางที่ 2 การใช้สารเคมกี ำ� จัดวัชพชื ในแปลงถ่ัวเหลือง วชั พืช สารกำ� จัดวชั พชื 1/ อตั ราการใช้/ วธิ กี ารใช/้วชั พชื เมโทลาคลอร์ (40% EC) น�ำ้ 20 ลิตร2/ ขอ้ ควรระวังฤดเู ดียว อะลาคลอร์ (48% EC) 180 – 200 มิลลลิ ติ ร พ่นหลังปลูกก่อนถั่ว ออกซาไดอะซอน (25% EC) 150 – 160 มิลลิลิตร เหลอื งและวชั พชื งอกวัชพืช โคลมาโซน (48% EC) 80 – 150 มิลลิลิตรฤดูเดียว เมทริบซู ิน (70% WP) 50 – 70 มลิ ลลิ ติ รใบแคบ ฟลูมิออกซาซนิ (50% WP) 25 – 35 มิลลิลติ รวัชพืช เพนดเิ มทาลนิ (33% EC) 10 มิลลิลิตรฤดูเดยี ว ฟลอู ะซฟิ อป-พ-ี บิวทลิ (15% EC) 200 – 300 มิลลิลิตรใบกว้าง ควิซาโลฟอป-อาร์-เมทิล (4% EC) 40 มิลลิลิตร พน่ หลงั ปลกู ก่อนถ่วั ฮาโลซิฟอป-อาร-์ เมทลิ (10.8% EC) 90 มิลลลิ ิตร เหลอื งและวชั พชื งอก โพรพาควซิ าฟอป (10% EC) 50 มลิ ลิลติ ร โคลดนิ าฟอป-โพรพากิล (15% EC) 30 มลิ ลิลติ ร ฟิโนซาปรอป-พี-เอทลิ (6.9% EC) 20 มิลลิลิตร โฟเมซาเฟน (25% L) 50 มิลลิลิตร 40 มิลลิลิตร พ่นหลังปลูกเม่ือวัชพืช มใี บ 2 – 4 ใบ หา้ มใช้ เกินอัตราท่ีก�ำหนด เพราะจะเกิดอันตราย ตอ่ ถว่ั เหลอื ง16 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

ตารางท่ี 2 การใชส้ ารเคมกี �ำจดั วชั พืชในแปลงถ่ัวเหลือง (ต่อ) วชั พชื สารก�ำจดั วัชพืช1/ อัตราการใช/้ วธิ กี ารใช/้วชั พชื ฟลอู ะซิฟอป-พ-ี บิวทลิ (15% EC) น�้ำ 20 ลติ ร2/ ขอ้ ควรระวงัฤดเู ดียว + โฟเมซาเฟน (25% SL) 40 + 40 มิลลิลิตร พน่ หลงั ปลกู เมอ่ื วชั พชืทง้ั ใบแคบ ควซิ าโลฟอป-อาร์-เมทลิ (4% EC) 90 + 40 มิลลิลติ ร มใี บ 3 – 5 ใบ หา้ มใช้และใบกว้าง + โฟเมซาเฟน (25% SL) 50 + 40 มลิ ลิลติ ร เกินอัตราที่ก�ำหนด 50 + 40 มลิ ลลิ ิตร เพราะจะเกดิ อนั ตราย ฮาโลซิฟอป-อาร์-เมทิล (10.8% 125+75 มิลลลิ ิตร ต่อถัว่ เหลอื ง EC) + โฟเมซาเฟน (25% SL) พ ่ น ทั น ที ห ลั ง ป ลู ก ฟโิ นซาปรอป-พ-ี เอทลิ (6.9% EC) ก ่ อ น ถ่ั ว เ ขี ย ว แ ล ะ + โฟเมซาเฟน (25% SL) วัชพืชงอกขณะพ่นวชั พชื ขา้ มปี อะลาคลอร์ (48% EC) + ดิ น ค ว ร มี ค ว า ม ชื้ นแ ล ะ ต ้ น พาราควอท (27.6% SL) และมีวัชพืชงอกข้ึนวั ช พื ช ท่ี มาก่อนปลกู ถัว่ เขียวงอกขนึ้ มาก่อนปลูกถั่วเหลืองท้ังวัชพืชใบแคบและใบกว้าง1/ คือ เปอรเ์ ซน็ ต์สารออกฤทธิแ์ ละสตู รของสารกำ� จดั วชั พืช2/ คือ ใชพ้ ่นในพืน้ ท่ี 1 งาน การปลูกถ่วั เหลืองในฤดแู ล้ง 17

7. โรคและการปอ้ งกันกำ� จัด โรคถั่วเหลืองแยกได้เปน็ 2 กล่มุ คอื โรคทตี่ ดิ ไปกับเมล็ดพนั ธ์ุ และโรค ทไี่ มต่ ิดไปกบั เมลด็ พันธุ์ ดงั น้ี 7.1 โรคท่ีติดไปกับเมล็ดพันธุ์ 1) โรคราน้ำ� คา้ ง เกิดจากเชื้อรา Peronospora manshurica ลักษณะอาการ เชื้อราจะสร้างเส้นใยสีขาวปนเทาฟูอยู่บนรอยแผล ด้านใต้ใบ รอยแผลอายุมากจะมีสีน้�ำตาล แห้งกรอบ เมล็ดท่ีมีเชื้อราเข้าไปอาศัย จะมีสีขุ่น ผิวเมล็ดด้านไม่เป็นมันเหมือนเมล็ดปกติ เช้ือราน�้ำค้างชอบอากาศ ค่อนข้างเยน็ และมนี �ำ้ ค้างจัดในช่วงเวลาเชา้ อยา่ งน้อย 3 – 4 ชัว่ โมง ลกั ษณะอาการโรคราน�้ำคา้ ง18 กรมสง่ เสริมการเกษตร

2) โรคใบจุดนูน เกิดจากเช้ือ ลักษณะอาการโรคใบจดุ นนูแบคทเี รยี Xanthomonas axonopodis pv .glycines ลักษณะอาการ พบจุดแผลเล็กบนใบคล้ายแผลราสนิม พบบนใบอ่อนในระยะถั่วเหลืองเริ่มออกดอก เร่ิมแรกจุดแผลจะเป็นตุ่มใสสีเขียวอ่อนนูนขึ้นมาบนผิวใบแล้วยุบตัวแห้งลงเป็นจุดสีน้�ำตาล แตกต่างกับจุดแผลราสนมิ ทภี่ ายในไมม่ สี ปอรส์ นี ำ�้ ตาล แผลทเี่ กดิ ขน้ึติดต่อกันจะท�ำให้ผิวใบขาดเป็นรู เป็นช่องทางใหเ้ ชอื้ ราแอนแทรคโนสเขา้ ทำ� ลายซำ้� โรคระบาดในสภาพฝนตกชุก อากาศร้อนอบอ้าว และลมพดั แรง 3) โรคแอนแทรคโนสเกิดจากเชื้อรา Colletotrichumtruncatum ลักษณะอาการ เข้าท�ำลายต้ังแต่ระยะกล้า เชื้อโรคเข้าไปแอบแฝงอยู่ในต้นและเจริญเข้าไปในดอกแลว้ ไปอยใู่ นฝกั ออ่ น ทำ� ใหฝ้ กั และเมล็ดลบีลกั ษณะอาการโรคแอนแทรคโนส การปลูกถัว่ เหลืองในฤดูแลง้ 19

4) โรคเมลด็ สมี ่วง เกดิ จากเช้อื รา Cercospora kikuchii ลกั ษณะอาการ พบเมลด็ มสี ชี มพู หรอื สมี ว่ งออ่ นถงึ มว่ งเขม้ เนอ่ื งจาก เชื้อสาเหตุพักตัวอยู่ระหว่างช้ันของเปลือกหุ้มเมล็ดและปล่อยสารที่มีสีชมพูถึงม่วง ถ้าเมล็ดมีสีม่วงมากว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ความงอกเมล็ดจะลดลง โรคนี้มักเกิดใน สภาพอากาศอบอุ่นและมคี วามชืน้ สูง ลกั ษณะอาการโรคเมล็ดสมี ่วง20 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

5) โรคไวรสั ใบดา่ ง เกดิ จากเชอื้ รา Soybean Mosaic Virus (SMV) ลักษณะอาการ อาการใบยอดด่างสีเขียวอ่อนสลับสีเขียวเข้มใบเลก็ ลง ผวิ ใบยน่ เปน็ คลนื่ ยอดบดิ เบยี้ ว ตน้ ไมเ่ ตบิ โต ออกดอกนอ้ ยหรอื ไมต่ ดิ เมลด็ต้นถ่ัวเหลืองที่แสดงอาการเมื่อต้นโตจะสร้างเมล็ดได้ แต่เมล็ดลีบเล็ก เมล็ดด่างเช้ือไวรสั ตดิ ไปกับเมล็ดและการสัมผัส แมลงพาหะ ไดแ้ ก่ เพลย้ี อ่อน ลักษณะอาการโรคไวรัสใบดา่ ง การปลูกถ่ัวเหลืองในฤดแู ลง้ 21

7.2 โรคท่ีไม่ติดไปกบั เมลด็ พนั ธุ์ 1) โรคราสนิม เกดิ จากเช้ือรา Phakopsora pachyrhizi ลักษณะอาการ พบแผลจุดสีน้�ำตาลขนาดเล็กด้านใต้ใบบนใบจริง คแู่ รก เมอื่ ถว่ั เหลอื งเรม่ิ ตดิ ฝกั ออ่ นจะลกุ ลามจากใบลา่ งขนึ้ ไปยงั ใบบนและพบสปอร์ สนี ำ้� ตาลในรอยแผล สปอรจ์ ะปลวิ ฟงุ้ ไปในอากาศเมอ่ื มลี มพดั แรง หากมอี าการรนุ แรง ใบจะแหง้ กรอบ ใบรว่ งกอ่ นกำ� หนด โรคนมี้ กั ชอบอากาศคอ่ นขา้ งเยน็ และมฝี นตกพรำ� ตดิ ต่อกันประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ลักษณะอาการโรคราสนิม22 กรมส่งเสริมการเกษตร

2) โรคลำ� ตน้ เนา่ ดำ� เกดิ จากเชอ้ื รา Macrophomina phaseolina ลกั ษณะอาการ อาการเห่ยี ว ใบเหลอื ง กา้ นใบลลู่ ง ปลายรากมสี ดี �ำขาดปลาย พบเมด็ สีดำ� เล็กคลา้ ยผงถ่านฝงั ในเนอื้ ไม้บนโคนลำ� ต้นติดดิน เชอ้ื สาเหตุอาศัยอยใู่ นดิน ลักษณะอาการโรคล�ำต้นเน่าด�ำ การปลกู ถั่วเหลอื งในฤดแู ล้ง 23

3) โรคใบยอดย่น เกดิ จากเชอ้ื รา Soybean Crinkle Leaf Virus ลกั ษณะอาการพบหลงั จากถวั่ เหลอื งงอก3–4สปั ดาห์ตน้ จะเตยี้ แคระ ใบมีขนาดเล็กลงแต่เนื้อใบจะหนาขึ้น เส้นใบด้านบนช้�ำ ใบบุ๋มลึกเป็นรูปถ้วย ใบบนบิดเบ้ียวหรืององุ้ม ต้นถั่วเหลืองแตกแขนงมากกว่าปกติ บางคร้ังออกดอก มากกวา่ ปกตแิ ตด่ อกรว่ งไมต่ ดิ เมลด็ หรอื ตดิ ฝกั นอ้ ย ฝกั หดสน้ั ลบี ปา้ น แบน หรอื บดิ เบี้ยว ผวิ ฝักย่น ตน้ ทแ่ี สดงอาการรนุ แรงจะแก่ชา้ ไปประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ ลักษณะอาการโรคใบยอดยน่24 กรมสง่ เสริมการเกษตร

ตารางท่ี 3 การใช้สารป้องกนั กำ� จดั โรคพชืโรคพชื สารปอ้ งกนั กำ� จัด อัตราการใช้ วธิ กี ารใช/้ ตอ่ น�้ำ 20 ลติ ร ข้อควรระวังโรคทีต่ ิดไปกบั เมลด็ พันธ์ุ คลุกเมล็ดก่อนปลกู 7 กรมั /เมล็ด พน่ หา่ งกัน 7 วันโรคราน�้ำค้าง เมตาแลกซลิ 1 กโิ ลกรัม 2 - 3 ครง้ั ในระยะที่ (25% WP) 30 – 60 กรัม พบโรครุนแรง 20 มิลลิลิตร พน่ ห่างกนั 7 วนั แมนโคเซป (80% WP) 2 - 3 คร้ัง 30 – 60 กรัม อีทาบอกแซม 40 กรมั พน่ 2 – 3 ครง้ั ปอ้ งกนั (10.40% W/V SC) แมลงปากดูดพาหะ 30 - 40 กรัม นำ� โรคหา่ งกนั 7 -10วนัโรคใบจดุ นูน โปรปเิ นบ (70% WP) และไม่ควรพ่นสารโรคแอนแทรคโนส 20 – 40 มิลลิกรมั ป้องกันก�ำจัดแมลงโรคเมล็ดสมี ่วง แมนโคเซป (80% WP) 50 มิลลลิ ิตร ช นิ ด ใ ด ช นิ ด ห น่ึ ง คารเ์ บนดาซิม ติดต่อกันหลายครัง้ (50% WP) พ่นทกุ 7 วัน เมือ่ พบ อาการของโรคและ สารกลุม่ ไตรอะโซล หยุดพ่นเม่ือถ่ัวเหลือง อายุ 70 วนัโรคไวรัสใบดา่ ง ไตรอะโซฟอส (40% EC)โรคทีไ่ ม่ตดิ ไปกบั เมลด็ พนั ธ์ุโรคราสนิม แมนโคเซป 30 – 60 กรมั (80% WP) 10 – 20 มลิ ลลิ ิตร โพรปิโคนาโซล 10 กรมั (25% EC) 10 กรัม เตตระโคนาโซล (40% EW) ไตรอะดมิ ฟี อน (25% WP) การปลกู ถัว่ เหลืองในฤดูแลง้ 25

ตารางที่ 3 การใช้สารป้องกนั กำ� จดั โรคพืช (ตอ่ )โรคพืช สารปอ้ งกันกำ� จดั อตั ราการใช้ วธิ กี ารใช/้ ตอ่ น�ำ้ 20 ลิตร ข้อควรระวังโรคลำ� ต้นเน่าดำ� คาบอกซิน (75% WP) 7 กรัม/เมลด็ คลกุ เมลด็ ก่อนปลูก พ่น 3 ครั้ง เม่ือมีใบ โพลเพต (50% WP) 1 กิโลกรัม ประกอบชดุ ที่ 2 ชดุ ที่ 10 มลิ ลลิ ิตร 3 และระยะหลังออกโรค อมิ ดิ าโคลพรดิ ดอกถึงติดฝักใบยอดยน่ (10% SL) 40 มิลลิลติ ร ไตรอะโซฟอส 40 มิลลิลติ ร (40% EC) คารโ์ บซัลแฟน (20% EC) 8. แมลงศัตรพู ชื และการป้องกันก�ำจัด แมลงศัตรพู ชื ทท่ี ำ� ความเสยี หายใหก้ บั ผูป้ ลูกถ่ัวเหลอื ง ดังนี้ 8.1 หนอนแมลงวันเจาะลำ� ต้นถ่วั (Melanagromyza sojaeZehntner, Ophiomyia phaseoliTryon) ลักษณะและการท�ำลาย ตัว หนอนแมลงวนั เจาะลำ� ต้นถ่วัเต็มวัยเป็นแมลงวันขนาดเล็กสีเทาด�ำขนาดประมาณ 2 มิลลิเมตร ปีกใสวางไข่เป็นฟองเด่ียวในเนื้อเยื่อใต้ใบหนอนเจาะเข้าไปกัดกินที่ไส้กลางของล�ำต้น และใต้ผิวเปลือกบริเวณโคนต้นแล้วเข้าดักแด้ ท�ำให้ต้นถ่ัวเหลืองแคระแกร็น ถ้าระบาดมากท�ำให้ต้นถว่ั เหลอื งตาย ระบาดรนุ แรงในระยะกลา้26 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

8.2 หนอนเจาะฝักถัว่ (Etiella zinckenella Treitschke) ลักษณะและการท�ำลาย ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืนขนาดเล็ก ปีกสีน้�ำตาล วางไข่เป็นฟองเด่ียวท่ีกลีบดอก บนฝักอ่อนบริเวณฐานฝักหรือล�ำต้นใกล้ฝัก เม่ือฟักออกจากไข่หนอนจะเจาะเข้ากัดกินภายในฝัก หนอนมีล�ำตัวสีเขียวสีเขียวเข้มหรือแดงม่วงตามระยะการเจริญเติบโต จะเจาะฝักออกมาเมื่อเข้าดักแด้จะระบาดรนุ แรงในระยะตดิ ฝกั ชว่ งระบาดตง้ั แตป่ ลายเดอื นธนั วาคม และเมอื่ อากาศแหง้ แล้งและอณุ หภูมิสงู หนอนเจาะฝกั ถวั่ การปลูกถว่ั เหลอื งในฤดูแล้ง 27

8.3 แมลงหวขี่ าวยาสบู (Bemisia tabaci Gennadius) ลักษณะและการท�ำลาย ตัวเต็มวัยมีปีก 1 คู่ ปกคลุมด้วยผงสีขาว ขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร วางไข่เป็นฟองเด่ียวสีเหลืองอ่อน ลักษณะเรียวยาว ตัวอ่อนมีลักษณะคล้ายรูปไข่สีเหลืองปนเขียว ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้�ำเลี้ยง จากใบ เปน็ พาหะน�ำโรคใบยอดย่น การระบาดสามารถระบาดไดต้ ลอดฤดูปลกู แมลงหวีข่ าวยาสบู28 กรมสง่ เสริมการเกษตร

8.4 มวนเขยี วข้าว (Nezara viridula Linnaeus) ลักษณะและการท�ำลาย ตัวมีรูปร่างคล้ายโล่ สีเขียว วางไข่เป็นกลุ่มหลายแถวเรียงกันเป็นระเบียบ ไข่มีสีขาวครีม ใกล้ฟักจะมีสีชมพู ตัวอ่อนวัยแรกจะรวมกันเป็นกลุ่ม ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้�ำเล้ียงจากใบและฝักอ่อนระบาดรุนแรงในระยะออกดอกถึงเกบ็ เกี่ยว เม่อื สภาพอากาศมคี วามช้นื สูง มวนเขียวข้าว การปลูกถว่ั เหลอื งในฤดแู ลง้ 29

8.5 มวนเขียวถ่วั (Piezodorus hybneri Gmelin) ลกั ษณะและการทำ� ลาย ตวั มรี ปู รา่ งคลา้ ยมวนเขยี วขา้ ว แตม่ ขี นาดเลก็ กวา่ ตัวเตม็ วัยมสี ีอ่อนหรือเขียวอมเหลือง ส่วนทา้ ยของสนั หลงั ปล้องแรกมขี อบด้านข้าง สนี ำ้� ตาลออ่ น หรอื สนี ำ�้ ตาลแดง มแี ถบสขี าวนวลหรอื สชี มพพู าดขวางดา้ นบน วางไข่ เรยี งกนั 2 แถว ตวั ออ่ นและตวั เตม็ วยั ดดู กนิ นำ�้ เลยี้ งจากใบและฝกั ออ่ น ระบาดรนุ แรง ในระยะออกดอกถงึ เกบ็ เกี่ยว เม่อื สภาพอากาศมคี วามช้นื สงู มวนเขียวถัว่30 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

8.6 มวนถั่วเหลือง (Riptortus linearis Fabricius) ลักษณะและการท�ำลาย ตัวเต็มวัยมีสีน้�ำตาลแดง ต่อมาเปล่ียนเป็นสีน้�ำตาลเข้ม ล�ำตัวเรียงยาว มีแถบสีเหลืองนวลพาดตามความยาวของล�ำตัวขา้ งละแถบ ขายาว ปลอ้ งแรกของขาคู่หลังขยายใหญก่ ว่าขาคู่หนา้ ตวั ออ่ นลักษณะคล้ายมด ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้�ำเลี้ยงจากใบและฝักอ่อน ระบาดรุนแรงในระยะออกดอกถงึ เก็บเกี่ยว เมือ่ สภาพอากาศมีความชื้นสูง มวนถ่ัวเหลอื ง การปลกู ถั่วเหลอื งในฤดแู ลง้ 31

8.7 หนอนกระทู้ผัก (Spodoptera litura Fabricius) ลักษณะและการท�ำลาย ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืนขนาดกลาง ล�ำตัวสีน�้ำตาลปกคลุมท้ังตัว หนอนที่ฟักออกจากไข่ใหม่ๆ มีขนาดเล็กสีเขียวอ่อน หัวด�ำตัวใสอยู่รวมกัน เมื่อโตมีสีเขียวและน้�ำตาลอ่อนมีลายสีด�ำหรือน้�ำตาลไหม้คาดตามขวางบนสนั หลังและบนส่วนปล้องท่ี 7 – 8 จะหากินเวลากลางคืน และซอ่ นตวัตามซอกใบหรอื ใตด้ นิ ในเวลากลางวนั พบระบาดทว่ั ไปในแปลงถวั่ เหลอื ง โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ถวั่ เหลืองทปี่ ลูกหลังนา หนอนทีฟ่ ักออกจากไข่ใหมๆ่ หนอนกระทผู้ ัก32 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

ตารางที่ 4 การใชส้ ารป้องกนั ก�ำจัดแมลงศตั รูพืชแมลงศตั รพู ชื สารปอ้ งกนั ก�ำจดั อัตราการใช้ วิธกี ารใช้/ ตอ่ น้ำ� 20 ลติ ร ข้อควรระวังหนอนแมลงวัน อิมดิ าโคลพริด (70% WS) 2 กรมั /เมลด็ คลกุ เมลด็ ก่อนปลกูเจาะลำ� ตน้ 1 กิโลกรมั ไตรอะโซฟอส (40% EC) 50 มลิ ลิลิตร พน่ ครง้ั แรกเมอ่ื ใบจรงิ คู่แรกกางเต็มที่ หรือ อายุ7–10วนั หลงั งอก และพ่นซ�้ำ 1 – 2 ครง้ั หา่ งกัน 7 วันหนอนเจาะฝกั ถว่ั ไตรอะโซฟอส (40% EC) 50 มิลลลิ ติ ร พน่ 1 – 2 ครงั้ หา่ งกนั แลมบด์ าไซฮาโลทรนิ (2.5% EC) 50 มิลลิลิตร 7 - 10 วัน ในระยะ ถว่ั ตดิ ฝกั ออ่ นแมลงหวข่ี าวยาสบู อิมดิ าโคลพรดิ (70% SL) 10 มลิ ลลิ ติ ร พน่ 3ครง้ั เมอื่ มใี บประกอบ ไตรอะโซฟอส (40% EC) 40 มลิ ลิลติ ร ชดุ ท่ี2ชดุ ท่ี3และระยะ คาร์โบซลั แฟน (20% EC) 40 มลิ ลิลิตร หลงั ออกดอกถงึ ตดิ ฝกัมวนเขยี วข้าว บโู พรเฟซีน (25% WP) 30 กรมั พ่นเม่ือพบตัวเต็มวัยมวนเขยี วถว่ั ฟิโปรนลิ (5% SC) 20 มลิ ลลิ ิตร 2 – 3 ตวั ตอ่ แถวยาวมวนถั่วเหลือง อิมดิ าโคลพริด (10% SL) 10 มิลลลิ ิตร 1 เมตร ในระยะถ่ัว อมิ ดิ าโคลพรดิ (70% WS) 2 กรัม เหลอื งติดฝักออ่ น โดโนทฟี แรน (10% WP) 10 กรัม ไทอะมีโทแซม (25% WG) 2 กรมั อะเซททามพิ รดิ (20% SP) 10 กรมั แลมบด์ าไซฮาโลทรนิ (2.5% CS) 20 มิลลลิ ิตร แกมมาไซฮาโลทรนิ (1.5% CS) 20 มิลลิลติ ร โปรฟโี นฟอส (50% EC) 40 มลิ ลลิ ิตร ไตรอะโซฟอส (40% EC) 50 มิลลิลิตรหนอนกระทู้ผกั ไตรอะโซฟอส (40% EC) 50 มลิ ลิลติ ร พ่น 1 – 2 ครง้ั คาร์โบซลั แฟน (20% EC) 40 มิลลลิ ติ ร ห่างกนั 7 - 10 วัน การปลูกถัว่ เหลอื งในฤดแู ล้ง 33

9. การปฏิบัตกิ อ่ นและหลงั การเกบ็ เก่ยี ว 9.1 ระยะเก็บเกย่ี วท่ีเหมาะสม v เก็บเกี่ยวตามอายุของพันธุ์ที่ปลูก หรือ 95เปอรเ์ ซน็ ต์ ของฝกั ถวั่ เหลอื งเปลย่ี นเปน็ สนี ำ�้ ตาล v เมอื่ เมลด็ ถว่ั เหลอื งมีความชนื้ 15 – 17 เปอรเ์ ซน็ ต์ 9.2 วธิ กี ารเกบ็ เก่ียว ลกั ษณะของถ่วั เหลืองพนั ธ์เุ ชียงใหม่ 60 v ใช้เคียวเกี่ยว ระยะฝกั เปลีย่ นเป็นสนี �้ำตาล 95%โคนต้น หรือใช้เคร่ืองเก่ียวแบบวางราย v ใ ช ้ เ ชื อ ก มั ดเป็นฟ่อน น�ำไปกองบนแคร่ไม้ทสี่ ะอาดยกพ้ืนสงู 50 เซนตเิ มตร การเกบ็ เกยี่ วถ่ัวเหลอื ง ถวั่ เหลอื งท่เี กบ็ เกย่ี วแลว้ วางบนแคร่ไม้ โดยใช้แรงงานคน และคลมุ ด้วยวสั ดกุ นั ฝน3 4 กรมสง่ เสริมการเกษตร

9.3 การปฏบิ ตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว v นวดด้วยเครื่องท่ีพัฒนามาจากเคร่ืองนวดข้าว ท่ีมีความเร็วรอบ350 – 500 รอบต่อนาที ขณะทเ่ี มล็ดถว่ั เหลืองมีความช้นื 15 – 17 เปอรเ์ ซน็ ต์ v น�ำเมล็ดที่นวดแล้วไปตากแดด 1 – 3 แดด เพ่ือลดความชื้นในเมล็ดใหเ้ หลือประมาณ 12 เปอรเ์ ซ็นต์ v บรรจุเมล็ดถ่ัวเหลืองในกระสอบป่านท่ีไม่ช�ำรุด สะอาด และเยบ็ ปิดปากกระสอบให้เรียบรอ้ ย v วางกระสอบท่บี รรจุเมล็ดถว่ั เหลอื งในทร่ี ่ม บนพนื้ ทมี่ ไี ม้รองการนวดถ่วั เหลืองด้วยเครอ่ื ง ตากเมล็ดถ่วั เหลอื งทพี่ ัฒนามาจากเครือ่ งนวดขา้ ว เพอื่ ลดความชนื้ บนถาดตากการร่อนแยกสงิ่ เจือปน การบรรจเุ มลด็ ถว่ั เหลอื งในกระสอบ การปลูกถ่ัวเหลืองในฤดูแลง้ 35

เอกสารอ้างอิง กรมวิชาการเกษตร. 2545. เกษตรดีที่เหมาะสมส�ำหรับถั่วเหลือง. โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำกัด กรมวชิ าการเกษตร. 2547. เอกสารวิชาการ ถ่วั เหลือง. หา้ งห้นุ ส่วนจำ� กดั ไอเดีย สแควร์ กรมส่งเสริมการเกษตร. 2557. การจัดทำ� ศนู ย์เมลด็ พนั ธพุ์ ชื ชุมชน (ถ่วั เหลือง ถั่วเขียว ถว่ั ลิสง). โรงพมิ พช์ ุมชนสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จ�ำกดั กรมส่งเสริมการเกษตร. 2555. การปลูกถั่วเหลือง. ฝ่ายโรงพิมพ์ ส�ำนักพัฒนาการถ่ายทอด เทคโนโลยี กรมสง่ เสริมการเกษตร กัณทิมา ทองศรี. 2560. เทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ถ่ัวเหลือง. เอกสารประกอบการ บรรยายในการฝึกอบรมหลักสูตร เทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถ่ัว วันที่ 14 - 17 กมุ ภาพนั ธ์ 2560 ณ ศูนยว์ จิ ยั และพัฒนาเมล็ดพนั ธุ์พืช จังหวดั พษิ ณุโลก กลุ่มส่งเสริมการผลิตพืชน้�ำมันและพืชตระกูลถั่วและกลุ่มสื่อส่งเสริมการเกษตร. 2555. การผลิตเมล็ดพันธุ์ถ่ัวเหลือง โครงการเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตถั่วเหลืองภายใต้ ความรว่ มมอื ระหว่างกรมสง่ เสรมิ การเกษตร กบั กรมวชิ าการเกษตร. ฝา่ ยโรงพมิ พ์ สำ� นักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมสง่ เสรมิ การเกษตร รัตนา เศวตาสัย. 2540. การปลูกถั่วเหลืองในฤดูแล้งหลังการท�ำนา. กองส่งเสริมพืชไร่นา กล่มุ พืชนำ้� มัน กรมส่งเสรมิ การเกษตร ไทยเกษตรศาสตร์. 2556. หญ้ากกทราย. แหล่งที่มา : http://www.thaikasetsart.com/ หญา้ กกทราย. 11 กรกฎาคม 2560 วิกิพีเดีย. 2560. หญ้าแพรก. แหล่งท่ีมา : https://th.wikipedia.org/wiki/หญ้าแพรก. 11 กรกฎาคม 2560 สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน. ไม่ปรากฏปีท่ีพิมพ์. ถั่วเหลือง. แหล่งที่มา : http://www.doa.go.th/fcri/index.php?option=com_content&view=articl e&id=9&Itemid=26. 14 มิถนุ ายน 2560 วิกิพีเดีย. 2559. สาบเสือ. แหล่งท่ีมา : https://th.wikipedia.org/wiki/ สาบเสือ. 11 กรกฎาคม 256036 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

เอกสารคำ� แนะน�ำท่ี 7/2560การปลูกถ่วั เหลืองในฤดูแล้งท่ปี รกึ ษา อธบิ ดกี รมสง่ เสริมการเกษตร www.doae.go.th รองอธิบดีกรมสง่ เสรมิ การเกษตรนายสมชาย ชาญณรงค์กลุ รองอธบิ ดีกรมส่งเสรมิ การเกษตรนายส�ำราญ สาราบรรณ ์ ผู้อำ� นวยการส�ำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตรนายรตั นะ สวามีชัย ผ้อู �ำนวยการสำ� นักพฒั นาการถ่ายทอดเทคโนโลยีนางวิลาวลั ย์ วงษ์เกษม ผ้อู ำ� นวยการกลุ่มส่งเสริมพชื น้ำ� มนั และพชื ตระกูลถ่ัวนางอญั ชลี สุวจิตตานนท์ นางศรีสดุ า เตชะสาน เรียบเรียงนางสาวยวุ รี บานเย็น นักวชิ าการเกษตรปฏบิ ัตกิ ารกลุ่มส่งเสรมิ พชื นำ้� มนั และพชื ตระกูลถ่ัวส�ำนักส่งเสรมิ และจดั การสินค้าเกษตรกรมสง่ เสรมิ การเกษตรจัดทำ�นางอมรทพิ ย์ ภริ มยบ์ ูรณ์ ผอู้ ำ� นวยการกลมุ่ พฒั นาสือ่ ส่งเสริมการเกษตรนางสาวอ�ำไพพงษ์ เกาะเทียน นกั วชิ าการเผยแพรช่ ำ� นาญการกลมุ่ พฒั นาสื่อส่งเสรมิ การเกษตรสำ� นักพฒั นาการถา่ ยทอดเทคโนโลยีกรมส่งเสริมการเกษตร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook