50 ปี กรมส่งเสรมิ การเกษตร (พ.ศ. 2510 - 2560) ความหมายของตราสัญลกั ษณ์ l ตัวเลข 50 พร้อมข้อความ “50 ปี กรมสง่ เสรมิ การเกษตร” และ ตราสัญลกั ษณก์ รมส่งเสรมิ การเกษตร แทนวาระครบรอบ 50 ปี สถาปนากรมสง่ เสรมิ การเกษตร ออกแบบให้ตวั เลข 50 เก่ยี วพันกนั เหมอื นสญั ลักษณ์ infinity ซึ่งหมายถงึ ความไมม่ ที ส่ี ิน้ สดุ l ใบไม้ แสดงถึงสญั ลักษณ์ทางการเกษตร มาจากตราสญั ลักษณป์ ระยกุ ต์ ของกรมสง่ เสริมการเกษตร ความหมายเป็น 50 ปีท่ีมุ่งม่ันปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง ดว้ ยความสามคั คีและเป็นน�้ำหนง่ึ ใจเดยี วกนั เปน็ ผสู้ ง่ เสริมนำ� ความสำ� เร็จ ความกา้ วหนา้ มาสู่กิจการเกษตรกรรมด้านต่างๆ และมีการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรเพ่ือประโยชน์ แก่เกษตรกรตลอดไป
เอกสารคำ� แนะน�ำที่ 5/2561เศรษฐกิจพอเพียงกบั ภาคการเกษตรพิมพค์ รงั้ ที่ 1 : จำ� นวน 5,000 เล่ม เมษายน พ.ศ. 2561จัดพิมพ์ : กรมส่งเสรมิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิมพท์ ่ี : บรษิ ัท นิวธรรมดาการพมิ พ์ (ประเทศไทย) จำ� กดั
คำ�นำ� เอกสารค�ำแนะนำ� เรือ่ ง “เศรษฐกิจพอเพยี งกับภาคการเกษตร” เป็นเอกสารเผยแพร่ท่ีกรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดท�ำขึ้นเพื่อ น้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มหติ ลาธเิ บศรรามาธิบดี จกั รนี ฤบดินทร สยามมนิ ทราธริ าช บรมนาถบพิตร ท่ีมีต่อปวงชนชาวไทย ท่ีทรงพระราชทานแนวทางหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไวต้ ัง้ แต่ พ.ศ. 2517 เพือ่ ใช้เปน็ แนวทางในการดำ� รงชวี ติ และ การประกอบอาชีพ โดยใช้หลักความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกันที่ดี โดยมีเงื่อนไข องค์ความรู้ควบคู่กับคุณธรรม ในการน้อมน�ำกระแสพระราชด�ำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจ�ำวันของเกษตรกรได้ตามความเหมาะสมเพ่ือสร้างพ้ืนฐาน ความพอมี พอกิน พอใช้ ในเบ้ืองต้นอันเป็นพ้ืนฐานในการด�ำรงชีวิตทีส่ �ำคญั จะตอ้ งมี “สติปญั ญาและความเพยี ร” ซึ่งจะน�ำไปสู่ “ความสุข” ในการด�ำเนินชวี ิตอย่างแท้จรงิ กรมส่งเสริมการเกษตร หวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารค�ำแนะน�ำเล่มน้ี จะมีประโยชน์และเป็นส่วนหนึ่งในการน้อมน�ำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในภาคการเกษตรเพื่อเป็นเคร่ืองยึดเหน่ียวในการประกอบอาชีพ ให้กับพี่น้องเกษตรกร ประชาชนทั่วไปในการสรา้ งความรัก ความสามคั คี ความเขา้ ใจ ความมนั่ คง ตัง้ แต่ครอบครวั ชุมชน สังคมและประเทศชาติต่อไป คณะผู้เรียบเรียงขอขอบคุณและน้อมรับค�ำติชม เพ่ือปรับปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป กรมส่งเสริมการเกษตร 2561
สารบญั5 1013 16พระราชดำ� รสั 1 ประโยชน์ของทฤษฎใี หม ่ 12ว่าด้วยเศรษฐกจิ พอเพียง แนวคิดของปรัชญา 13 เศรษฐกิจพอเพียงกับการแกไ้ ขบทบาทและความสำ� คัญ 4 วิกฤตทิ างเศรษฐกิจและปญั หาของเศรษฐกิจแบบพอเพยี ง ทางสงั คมของไทยปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5 ตัวอยา่ งความสำ� เร็จของเกษตรกร 17 ท่ีทำ� การเกษตรตามแนวใช้ชวี ติ อยา่ ง “เพยี งพอ” 8 เศรษฐกจิ พอเพียงเพือ่ ความสขุ ที่ “พอเพยี ง”เศรษฐกจิ พอเพยี งสำ� หรบั เกษตรกร 10 บรรณานุกรม 28
พระราชด�ำรสั วา่ ดว้ ยเศรษฐกิจพอเพยี ง “การพฒั นาประเทศจำ� เปน็ ตอ้ งทำ� ตามลำ� ดบั ขน้ั ตอ้ งสรา้ งพน้ื ฐานคอื ความพอมี พอกนิ พอใช้ ของประชาชนส่วนใหญเ่ บื้องตน้ กอ่ น โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เม่ือได้พ้ืนฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจรญิ และฐานะทางเศรษฐกจิ ขนั้ สูงข้ึนโดยล�ำดับตอ่ ไป” พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่บณั ฑติ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ เม่ือวนั ที่ 4 ธนั วาคม 2517 R “คำ� วา่ พอ ก็พอเพียง คนเราถ้าพอในความตอ้ งการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภนอ้ ย กเ็ บยี ดเบียนคนอ่ืนนอ้ ย ถ้าทกุ ประเทศมีความคิด ท�ำอะไรต้องพอเพียง พอประมาณไมส่ ดุ โตง่ ไม่โลภอยา่ งมาก คนเรากอ็ ยู่เป็นสุข...” พระราชดำ� รสั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร เนื่องในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2541 R “...เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเสมือนรากฐานของชีวิตรากฐานความมนั่ คงของแผน่ ดนิ เปรยี บเสมอื นเสาเขม็ ทถ่ี กู ตอกรองรบั บา้ นเรอื นตวั อาคารไว้นั่นเอง ส่ิงก่อสร้างจะม่ันคงได้ก็อยู่ที่เสาเข็มแต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเขม็ และลืมเสาเขม็ เลยดว้ ยซ�้ำไป...” พระราชด�ำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากวารสารชัยพัฒนา 1เศรษฐกจิ พอเพียงกบั ภาคการเกษตร
เศรษฐกจิ พอเพียง “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” เป็นปรัชญาทีพ่ ระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมี พระราชด�ำรัสช้ีแนะแนวทางการด�ำเนินชีวิตแก่พสกนิกร ชาวไทยมาตลอด โดยเริ่มตั้งแต่ในงานพิธีพระราชทาน ปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2517 เป็นต้นมา ในแนวทางของการพัฒนา บนหลักแนวคิดพ่ึงตนเอง และเม่ือเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ ในปี 2540 ได้ทรงเน้นย้�ำแนวทางการแก้ไข เพ่ือให้รอดพ้น และสามารถด�ำรงอยู่ได้อย่างม่ันคงและยั่งยืนภายใต้กระแส โลกาภิวฒั นแ์ ละความเปลย่ี นแปลงต่างๆ2 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
สรปุ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง·Ò§ÊÒ¡ÅÒ§ ¾Í»ÃÐÁÒ³ÁàÕ Ëµ¼Ø Å ÁÕÀÁÙ ¤Ô ØÁ ¡¹Ñà§Íè× ¹ä¢¤ÇÒÁÃÙ à§×Íè ¹ä¢¤³Ø ¸ÃÃÁ(รอบรู รอบคอบ ระมดั ระวงั ) (ซอื่ สตั ยส จุ ริต ขยนั อดทน สตปิ ญ ญา แบง ปน) ¹ÓÊÙªÕÇÔµ/àÈÃɰ¡Ô¨/Êѧ¤Á/ÊÔ§è áÇ´ÅÍÁ ÊÁ´ÅØ /Áèѹ¤§/Âè§Ñ ¹×ท่มี า : ส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ 2549 3 “เศรษฐกจิ พอเพียงคืออะไร” (พิมพค์ ร้งั ที่ 3) เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั ภาคการเกษตร
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้แนวทางการด�ำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ด�ำเนินไปในทางสายกลางโดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวหนา้ ทนั ตอ่ โลกยุคโลกาภวิ ัฒน์ ความพอเพยี ง หมายถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล รวมถึงความจำ� เป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวังอย่างย่ิงในการน�ำวชิ าการตา่ งๆ มาใช้ในการวางแผน และการดำ� เนนิ การทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ีของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มีส�ำนึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสมเพื่อให้ด�ำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียรมีสติปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ และกว้างขวางทง้ั ด้านวตั ถุ สงั คม สิ่งแวดล้อม และวฒั นธรรมจากโลกภายนอกได้เปน็ อยา่ งดี ประมวลและกลั่นกรองจากพระราชด�ำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระราชทานในโอกาสต่างๆ รวมทั้งพระราชด�ำรัสอื่นๆ ที่เก่ียวข้องตลอดจนประชาชนโดยท่ัวไปได้น�ำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงพระกรุณาปรับปรุงแก้ไขพระราชทานและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ตามท่ีขอพระมหากรุณาตามหนังสือที่ รล. 003/18888 ลงวันท่ี29 พฤศจกิ ายน 2542 สำ� นักราชเลขาธกิ ารพระบรมมหาราชวัง กทม. 5เศรษฐกจิ พอเพียงกับภาคการเกษตร
เศรษฐกิจพอเพียงเป็นการดำ�เนินชวี ิตทางสายกลาง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล มภี ูมิคมุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี และใชค้ วามรคู้ วบคูค่ ณุ ธรรม ควรยดึ หลักการปฏบิ ตั ติ น ดังนี้ 1. ด้านจติ ใจ l มีจติ ใจทเี่ ขม้ แข็ง พึง่ ตนเองและสามารถฝึกฝนตนเองได้ l มจี ิตใจส�ำนกึ ที่ดี l สร้างสรรค์ให้ตนเองและชาติโดยรวม l มจี ิตใจเอ้อื อาทร ประนีประนอม l ค�ำนงึ ประโยชน์สว่ นรวมเปน็ ทต่ี ั้ง 2. ดา้ นสังคมและชมุ ชน l ชว่ ยเหลือเก้ือกลู ซง่ึ กนั และกนั l สร้างเครือขา่ ยชุมชนทีเ่ ขม้ แข็ง l มีกระบวนการเรียนรูท้ เี่ กิดจากรากฐานทมี่ ัน่ คง และเขม้ แขง็ 3. ดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม l การจัดการอยา่ งชาญฉลาด เพือ่ ให้เกดิ ความยงั่ ยนื สูงสดุ l รู้คุณคา่ ของทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม l ตัง้ อยู่บนพน้ื ฐานการอนุรกั ษ์และใช้ประโยชน์อยา่ งยงั่ ยนื6 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
4. ดา้ นเทคโนโลยี l ใช้เทคโนโลยีพื้นบ้านและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เหมาะสมสอดคล้อง กบั ความตอ้ งการและสภาพแวดล้อม l ใชภ้ มู ิปัญญาทอ้ งถิน่ l พฒั นาเทคโนโลยจี ากภมู ปิ ัญญาของเราเอง5. ดา้ นเศรษฐกิจ l ม่งุ ลดรายจา่ ย l การออม : สะสมเงินเปน็ ทุน เปน็ ภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงแนวทาง การปฏิบัตติ นตามเศรษฐกจิ พอเพียง l ยึดหลกั 3 พอ คอื พออยู่ พอกนิ พอใช้ l ประหยัด โดยตัดทอนรายจ่าย จากความฟุ่มเฟือยในการด�ำรงชีพ “ความเป็นอย่ไู ม่ฟ้งุ เฟ้อ ตอ้ งประหยัดไปในทางที่ถกู ตอ้ ง” l หารายไดเ้ พม่ิ อยา่ งค่อยเป็นคอ่ ยไป l ประกอบอาชพี ดว้ ยความถกู ต้องและสุจริต มคี ุณธรรม l ภมู ปิ ญั ญาพ้นื บ้านและทดี่ ินทำ� กินคือทนุ ทางสงั คม l ต้ังสติที่มั่นคง ร่างกายที่แข็งแรง ปัญญาที่เฉียบแหลม น�ำความรู้ ความเข้าใจอยา่ งลึกซ้งึ มาปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจ�ำวัน 7เศรษฐกจิ พอเพยี งกับภาคการเกษตร
ใช้ชวี ติ อยา่ ง ”เพียงพอ” เพื่อความสขุ ที่ “พอเพียง” “พอใจ” แลว้ ใจจะพอเพียง คนไทยมีอะไรหลายอย่างท่ีต่างชาติไม่มี แม้ในทางกลับกัน เราก็อาจจะไม่มี ในสิ่งท่ีเขาครบครัน ความไม่มีไม่ได้หมายความว่าขาด บางคราก็อาจจะไม่เหมาะกับ วิถขี องเรา ระเบิดจากภายใน มองเรือ่ งเล็กๆ ใกล้ตวั แล้วขยายวงสู่เรอ่ื งใหญๆ่ ระดับชาติ ชีวิตก็ด�ำรงอยู่ได้อย่างที่ควรจะเป็น ไม่แก่งแย่ง ไม่แข่งขัน เพียงช่วยเหลือเก้ือกูลกัน บ้านเราท�ำน�้ำพริกอร่อยก็แบ่งปันให้ข้างบ้าน ขณะที่ป้าข้างบ้านแกงรสชาติดีก็แบ่งให้ บา้ นเราช่วยชมิ บ้าง หรือบางทีทไี่ ม่มีรถยนตข์ ับ อาจเปน็ เพราะคณุ ไม่เหมาะกับการขบั รถ ด้วยตัวเอง สินค้าแบรนด์เนมก็อาจไม่เหมาะกับบุคลิกของคุณก็เป็นได้ แก่นแท้ของ ความสุขไม่มีขายท่ีห้างสรรพสินค้า สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตก็ไม่ขาย หัวใจที่เหนื่อยล้า เพราะมัวแต่ว่ิงตามหาวตั ถุกไ็ ม่มีบรกิ ารสปาไว้บำ� บดั หากแต่ตอ้ งปลกู รดน้�ำ พรวนดิน ใส่ปยุ๋ แล้วความสุขทีแ่ ท้และย่งั ยืนจะงอกงามตามวิถีธรรมชาติในหัวใจของคณุ เอง การดำ�เนนิ ชีวติ ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งภาคการเกษตร วิถีชีวิตของเกษตรกรไทยในปัจจุบัน ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ท�ำให้มีต้นทุนการผลิตสูง มีรายได้ไม่เพียงพอและเป็นหน้ีสิน จึงจ�ำเป็นต้องปรับระบบการเกษตรของครัวเรือน ให้สอดคล้องกับสภาวะการผลิต และการตลาดในปัจจุบันตามความเหมาะสมของ ระบบนิเวศเกษตร โดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะท�ำให้ครัวเรือนเกษตรกร มคี วามม่ันคงในอาชีพ และมีคุณภาพชวี ติ ที่ดีอย่างยัง่ ยนื ตอ่ ไป8 กรมส่งเสริมการเกษตร
ลดรายจา่ ย เพื่อเปน็ การประหยัด ลดรายจ่ายในครอบครัวและเป็นผลดีต่อสขุ ภาพ การทำ� พชื ผกั สวนครวั รว้ั กนิ ได้เป็นอาหารส�ำหรับการบริโภคในครัวเรือน นับเป็นงานอดิเรกที่สร้างความสัมพันธ์ท่ีดีในครอบครัวพอ่ แม่ ลกู มเี วลาพูดคยุ กนั และชว่ ยกนั ทำ� งาน แมไ้ ม่มพี นื้ ที่ก็สามารถท�ำสวนครวัในบ้านได้ เช่น การปลูกพริกในกระถาง หรือปลูกในภาชนะแขวน ฯลฯพืชท่ีปลูกก็เป็นพืชท่ีใช้เป็นประจ�ำในครัว เช่น พริก มะเขือ กะเพรา ชะพลูหอม ผกั ชี ชะอม ตำ� ลงึ ผกั หวาน เป็นตน้ เพมิ่ รายได้ การเพิ่มรายได้โดยทรัพยากรท่ีมีอยู่ในครัวเรือนและเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการสรา้ งรายได้ เชน่ การถนอมอาหาร การแปรรูปอาหารและแปรรูปงานฝีมือหัตถกรรมสิ่งประดิษฐ์ การผลิตกล้าไม้ดอก-ไม้ประดับ เล้ียงสัตว์-ประมง เพาะถ่ัวงอก เพาะเห็ด เป็นต้นท�ำใหม้ ีรายได้เพิม่ ข้ึนจากการทำ� กิจกรรมการเกษตร ขยายโอกาส เกดิ จากการพฒั นาศกั ยภาพตนเอง ครอบครวัชุมชน โดยการร่วมมือการสร้างอาชีพได้เหมาะสมกับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า บุตร-หลานได้รับการศึกษาสูงขึ้น ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถรวมกันจัดหาตลาด แหล่งเงินทุน และเครือข่ายมาใช้ในการประกอบอาชีพอย่างย่ังยืนท�ำให้ครอบครัวมคี วามมั่นคงและอบอุน่ ต่อไป 9เศรษฐกิจพอเพียงกบั ภาคการเกษตร
เศรษฐกิจพอเพียงสำ�หรบั เกษตรกร ทางออกของการแกป้ ญั หาวกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ และสงั คม คอื จะตอ้ งชว่ ยใหป้ ระชาชน ที่อย่ใู นภาคเกษตรและท่ีกลบั คืนส่ภู าคเกษตรมีงานทำ� มรี ายได้ ในขณะเดยี วกนั กจ็ ะตอ้ ง สร้างรากฐานของชนบทใหแ้ ข็งแรงเพียงพอทจ่ี ะสามารถพง่ึ ตนเองได้ในระยะยาว แนวคิดระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงส�ำหรับเกษตรกรตามแนวพระราชด�ำริ ตั้งอยูบ่ นพน้ื ฐานของหลักการ “ทฤษฎใี หม”่ 3 ขัน้ คอื ขน้ั ท่ีหนง่ึ มคี วามพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้บนพน้ื ฐานของความประหยดั ขจดั การใช้จา่ ย ขน้ั ท่สี อง รวมพลังในรปู กลมุ่ เพ่ือท�ำการผลติ การตลาด การจัดการ รวมทั้งด้านสวสั ดกิ าร การศึกษา การพัฒนาสังคม ขั้นท่ีสาม สร้างเครือข่ายกลุ่มอาชีพและขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้หลากหลาย โดยประสานความร่วมมือกับภาคธุรกิจ ภาคองค์กรพัฒนาเอกชน และภาคราชการ ในด้านเงินทนุ การตลาด การผลิต การจดั การ และขา่ วสารขอ้ มูล10 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
ดังนั้น การท�ำการเกษตรทฤษฎีใหม่ จึงมีความส�ำคัญและมีบทบาทต่อภาคการเกษตร ซึ่งจะส่งผลกระทบไปสู่การเจรญิ เตบิ โตของประเทศอยา่ งยง่ั ยนื อยา่ งไรกต็ ามต้องมีองค์ประกอบหลายประการ ที่จะท�ำให้การท�ำเกษตรวิธีนี้ประสบผลส�ำเร็จ และก้าวไปอย่างม่ันคงไม่ล้มเลิกกลางครัน มีการขยายผลท่ีเหมาะสมในทุกด้าน ไม่ขยายผลรวดเร็วเกนิ ไป ในขณะทีผ่ ้มู สี ว่ นรว่ มยังคงขาดความเข้าใจเก่ยี วกบั ทฤษฎีใหมท่ แี่ ท้จริง ทฤษฎีใหม่ ท�ำให้เกษตรกรได้รับการตอบสนองทั้งด้านส่วนตัวและสังคมได้ในระดับสงู ได้ผลผลิตทางการเกษตรเพ่ิมมากขนึ้ เนือ่ งจากมนี �ำ้ เพยี งพอ มีรายไดเ้ พ่ิมขน้ึครอบครัวอบอุ่น มีความสามัคคีในระดับชุมชนและในระดับสถาบัน เป็นการส่งผลเกื้อกูลซึ่งกันและกัน สภาพพ้ืนดินที่เคยแห้งแล้งขาดแคลนน้�ำกลับกลายเป็นแผ่นดินทอี่ ุดมสมบรู ณม์ ากขึน้ เป็นการรกั ษาสมดลุ ใหก้ ับดินและธรรมชาติ สิ่งท่ีพึงระวัง คือ การน�ำชื่อทฤษฎีใหม่ไปใช้ควรเน้นให้ชัดเจนว่า ในโครงการนั้นๆ มีการพัฒนาการเกษตรในลักษณะแนวพระราชด�ำริทฤษฎีใหม่ อยา่ งแท้จริง เพอ่ื มิให้เกิดความสับสนในสาระแท้จริงของทฤษฎใี หม่ 11เศรษฐกจิ พอเพียงกบั ภาคการเกษตร
ประโยชน์ของทฤษฎีใหม่ จากพระราชด�ำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ท่ีได้พระราชทานในโอกาสต่างๆ นั้น พอจะสรุปถึงประโยชน์ของ ทฤษฎีใหม่ได้ ดังนี้ 1. ให้ประชาชนพออย่พู อกนิ สมควรแกอ่ ัตภาพในระดบั ท่ปี ระหยัด ไม่อดอยาก และเลี้ยงตนเองได้ตามหลกั ปรชั ญาของ “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” 2. ในหน้าแล้งมีน้�ำน้อย ก็สามารถเอาน้�ำท่ีเก็บไว้ในสระมาปลูกผักต่างๆ ทใี่ ช้น�้ำนอ้ ยได้ โดยไม่ตอ้ งเบียดเบยี นชลประทาน 3. ในปีท่ีฝนตกตามฤดูกาลโดยมีน�้ำดีตลอดปีทฤษฎีใหม่น้ีก็สามารถสร้าง รายไดใ้ หร้ ำ่� รวยขนึ้ ได้ 4. ในกรณีที่เกิดอุทกภัยก็สามารถที่จะฟื้นตัวและช่วยตนเองได้ในระดับหนึ่ง โดยทางราชการไมต่ อ้ งช่วยเหลือมากเกินไป อันเป็นการประหยดั งบประมาณดว้ ย12 กรมสง่ เสริมการเกษตร
แนวคดิ ของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง กบั การแก้ไขวิกฤตทิ างเศรษฐกจิ และปัญหาทางสังคมของไทยประการแรก เป็นระบบเศรษฐกิจที่ยึดถือหลักการท่ีว่า “ตนเป็นท่ีพึ่งแห่งตน” โดยมุ่งเน้นการผลิตพืชผลให้เพียงพอกับความต้องการบริโภคในครัวเรือนเป็นอันดับแรกเมื่อเหลือพอจากการบริโภคแล้วจึงค�ำนึงถึงการผลิตเพ่ือการค้า ผลผลิตส่วนเกินท่ีออกสู่ตลาดก็จะเป็นก�ำไรของเกษตรกร ลักษณะเช่นนี้เกษตรกรจะมีหลายสถานะโดยจะเป็นผู้ก�ำหนดหรือเป็นผู้กระท�ำต่อตลาด แทนที่ว่าตลาดจะเป็นตัวกระท�ำหรือเป็นตัวก�ำหนดเกษตรกร ดังเช่นที่เป็นอยู่และหลักใหญ่ส�ำคัญย่ิง คือ การลดค่าใช้จ่ายในการสร้างสิ่งอุปโภคบริโภคในท่ีดินของตนเอง เช่น ข้าว น้�ำปลา ไก่ ไข่ ไม้ผลพืชผัก ฯลฯ 13เศรษฐกิจพอเพียงกบั ภาคการเกษตร
ประการที่สอง เศรษฐกิจพอเพียงให้ความส�ำคัญกับการรวมกลุ่มของชาวบ้าน ท้ังนี้ กลุ่มชาวบ้านหรือองค์กรชาวบ้านจะท�ำหน้าท่ีเป็นผู้ด�ำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ให้หลากหลายครอบคลุมทั้งการเกษตรแบบผสมผสาน หัตถกรรม การแปรรูปอาหาร การท�ำธุรกิจค้าขาย และการท่องเที่ยวระดับชุมชน ฯลฯ เมื่อองค์กรชาวบ้านเหล่านี้ ได้รับการพัฒนาให้เข้มแข็ง และมีเครือข่ายท่ีกว้างขวางมากข้ึนแล้ว เกษตรกรทั้งหมด ในชุมชนก็จะได้รับการดูแลให้มีรายได้เพ่ิมขึ้น รวมท้ังได้รับการแก้ไขปัญหาในทุกๆ ด้าน ซึ่งจะท�ำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งหมายความว่า เศรษฐกิจสามารถขยายตัวตอ่ สภาวการณด์ ้านการกระจายรายได้ทดี่ ีขึน้ ประการทีส่ าม เศรษฐกิจพอเพียงตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเมตตา ความเอ้ืออาทร และ ความสามัคคีของสมาชิกในชุมชน ในการร่วมแรงร่วมใจเพื่อประกอบอาชีพต่างๆ ให้ บรรลุผลส�ำเร็จ ประโยชน์ที่เกิดข้ึนจึงไม่ได้หมายถึงรายได้แต่เพียงมิติเดียว หากแต่ ยงั รวมถึงประโยชนใ์ นด้านอื่นๆ ดว้ ย ได้แก่ การสรา้ งความมัน่ คงให้กบั สถาบนั ครอบครวั สถาบันชุมชน ความสามารถในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของชุมชนบนพ้ืนฐานของภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งการ รกั ษาไว้ซ่ึงขนบธรรมเนยี มประเพณีทีด่ ีงามของไทยใหค้ งอยูต่ ลอดไป14 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
กลา่ วโดยสรุปคือ แนวคิดของระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงท่ีมีสาระส�ำคัญดังกล่าวข้างต้น น่าจะน�ำมาใช้เป็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศไทยในระยะต่อไปแม้ว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดข้ึนในขณะนี้อาจจะเป็นส่ิงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แต่ผลกระทบต่างๆ จะไม่รุนแรงมากนัก ถ้าหากทุกภาคทุกส่วนของสังคมมีการด�ำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยยึดหลักความพอดีกับศักยภาพของตนเอง บนพ้ืนฐานของการพึ่งพาตนเอง รวมทั้งมีความเอ้ืออาทรต่อคนอื่นๆในสังคมเป็นประการส�ำคัญ ถึงแม้ว่าข้อคิดทั้งหมดจะมุ่งหน้าไปสู่กลุ่มเกษตรกรหรือผู้มีที่ดินท้ังหลาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องกลับไปสู่ภาคเกษตรกรรมหมด ซงึ่ เป็นไปไมไ่ ดใ้ นสภาพความเปน็ จรงิ 15เศรษฐกิจพอเพียงกับภาคการเกษตร
16 กรมสง่ เสริมการเกษตร
ตวั อย่างความสำ�เรจ็ ของเกษตรกร ท่ที ำ�การเกษตร ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง 17เศรษฐกิจพอเพียงกบั ภาคการเกษตร
“ส่งิ ทีท่ ำ�น้ันจับตอ้ งได้ ใคร ๆ กท็ ำ�ได้ และจะเป็นตน้ แบบใหก้ ับเกษตรกรรนุ่ ใหมเ่ ดนิ ตามรอยเท้าพอ่ หลวงใหไ้ ด้” นายสทุ ิน ทองเอ็ม เกษตรกรดเี ด่นแหง่ ชาติ สาขาไรน่ าสวนผสม อำ� เภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทยั ประจำ� ปี 2560 อายุ : 39 ปี การศกึ ษา : ปรญิ ญาโท รฐั ประศาสนศาสตร์ สถานภาพ : สมรส มบี ตุ ร 2 คน ทอี่ ย ู่ : บา้ นเลขท่ี 65 หมู่ 3 ต�ำบลป่าแฝก อำ� เภอกงไกรลาศ จังหวดั สุโขทยั โทรศพั ท์ : 08 6917 7052 ความคิดรเิ รมิ่ และความพยายาม อาชีพเกษตรกรรม เป็นอาชีพของบรรพบุรุษ เนื่องจากพ่อ แม่และญาติพ่ีน้อง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตร ประกอบกับมีใจรักในการเกษตร อยากปลูก ผักปลอดสารพิษไว้บริโภคเอง เหลือจากแบ่งปันให้เพ่ือนบ้านก็แบ่งจ�ำหน่าย นายสุทิน ทองเอ็ม จงึ ไดเ้ ร่ิมทำ� อาชีพเกษตรกรรมมาโดยตลอด ตง้ั แต่ยงั ศกึ ษาอยู่ก็ไดช้ ่วยครอบครวั ด�ำเนนิ กิจกรรมไร่นาสวนผสมมาอย่างตอ่ เนอ่ื ง18 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
ภายหลังจากเรียนจบได้ศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ศึกษาจากแปลงท่ีประสบผลส�ำเร็จ แล้วได้ด�ำเนินกิจกรรมไร่นาสวนผสมด้วยตนเอง โดยในระยะแรก ท�ำในพ้ืนท่ีของครอบครัวเป็นหลัก หลังจากได้สมรส ก็ได้ลงมือท�ำในกิจกรรมของตนเองอย่างเต็มที่ ได้น�ำความรู้จากการศึกษาด้วยตนเองและดูแบบอย่างที่ประสบผลส�ำเร็จมาปรับใช้ในแปลงของตนเอง มีการเพิ่มเติมกิจกรรมเรื่อยมา เน้นการใช้พื้นที่ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด กิจกรรมมีการเกือ้ กูลซง่ึ กนั และกนั ลดตน้ ทนุ การผลติ ลดความเส่ยี งจากการปลกู พืชเชงิ เดยี่ ว มีรายไดต้ ่อเน่ืองและย่ังยืน เน้นการท�ำการเกษตรปลอดสารพษิมีการใช้น้�ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดจากกลุ่ม ท�ำให้ปลอดภัยท้ังผู้ผลิตและผู้บริโภค ท่ีส�ำคัญมีบ่อเก็บกักน�้ำไว้ใช้อุปโภคและเพ่ือการเกษตรได้ตลอดปีปจั จุบันเปน็ แหล่งเรยี นรูแ้ ปลงไรน่ าสวนผสมตวั อย่างของเกษตรกรในชมุ ชนและข้างเคยี งการน้อมนำ�หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรบั ใช้ จากการเดินทางไปเย่ียมชมและไปศึกษาดูงานต้นแบบการปฏิบัติตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จากพื้นท่ีที่ท�ำนาเพียงอย่างเดียว เริ่มขุดบ่อเลี้ยงปลาจ�ำนวน 1 บ่อ ดินท่ีขุดน�ำมาถมเพ่ือปรับเป็นท่ีพักอาศัย เริ่มปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผลและไม้ใช้สอย ต่อมาขุดบ่อเพ่ิมเพ่ือเก็บกักน้�ำใช้ในการเกษตรตลอดท้ังพ้ืนที่ ปัจจุบันพฒั นาพน้ื ท่เี ป็นสวนผสมนา ยึดหลักในความพออยู่พอกินพอใช้ ประหยดั ในการดำ� รงชพีปลูกพืชเศรษฐกิจ เล้ียงเป็ด เล้ียงไก่ เลี้ยงปลา ไว้บริโภค ลดรายจ่าย เหลือกินเหลือใช้แบง่ ค้าแบง่ ขายเพิ่มรายได้ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและอนามัย โดยเน้นหลกั l ลดรายจา่ ย เพ่ิมรายได้ l ขยายโอกาส l จัดระบบการปลกู พืชและเลีย้ งสตั ว์ใหเ้ หมาะสมกับพนื้ ท่ี l เพือ่ ลดความเสี่ยงในการประกอบอาชพี 19เศรษฐกิจพอเพยี งกับภาคการเกษตร
แนวคิดทตี่ ัดสนิ ใจเดินตามรอยเทา้ พ่อหลวง พ้ืนฐานหรือรากฐานเป็นเกษตรกร พ่อชาวนา แม่ชาวนา เติบโตมาบนวิถีของเกษตรกร มองว่าถ้าเกษตรไทยรู้จักปรับเปลี่ยนวิธีคิด พฤติกรรมท่ีท�ำซ�้ำๆ ซากๆและหันมาท�ำในส่ิงที่ไม่เคยท�ำ กล้าท่ีจะเปลี่ยนแปลง มาท�ำหลายๆ อย่างเพื่อลดความเสี่ยงในการด�ำเนินชีวิต ความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรไทยจะต้องม่ันคง และมีความเปน็ อยู่ทด่ี ไี มน่ ้อยหนา้ กว่าอาชีพอื่นๆ แน่นอน เพราะ l ได้อยกู่ บั ครอบครัวไมต่ ้องจากถิ่นฐานไปท�ำงานที่อนื่ l ได้ดูแลคนท่ีเรารักและคนทีร่ ักเรา l ไดก้ นิ ไดใ้ ชข้ องดมี ีคุณภาพ l ได้ออกก�ำลังกายสมำ�่ เสมอ l ได้อยู่กับธรรมชาติและบรรยากาศท่ดี ี l ได้พกั ผอ่ นตามทเ่ี ราต้องการ l ไดม้ ิตรภาพทแี่ ทจ้ รงิ l ไมต่ ้องเป็นลกู นอ้ งใคร จึงมีแนวคิดว่าจะต้องท�ำให้เกษตรกรคนอ่ืนๆ เห็นว่าส่ิงที่ท�ำน้ันจับต้องได้ใครๆก็ท�ำได้และจะเป็นต้นแบบให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่เดินตามรอยเท้าพ่อหลวงให้ได้ ด้วยวิธีการลงมือท�ำทันที โดยไม่ต้องรอใคร ไม่รองบประมาณ ไม่กังกลว่าสินค้าจะล้นตลาดไม่คิดร่�ำรวยจากการท�ำการเกษตรผสมผสาน (เพราะการตั้งเป้าหมายของความร�่ำรวยจะทำ� ให้เราไมค่ ิดท�ำอยา่ งอนื่ ประกอบความเสยี่ งจะสงู ) โดยใชห้ ลัก 3 ต.ด�ำเนินการ ดงั นี้ 1. ต้นทนุ มีน้อยทำ� น้อยไม่ตอ้ งรอใครสนบั สนุน 2. ตลาด สินค้าทีเ่ ราท�ำ ศกึ ษาแนวทางความนา่ จะเป็นของตลาด 3. แตกตา่ ง ของท่ีเราผลติ ออกมาจะต้องสร้างความแตกต่าง จากทอ้ งตลาดทีม่ อี ยู่20 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
แนวคดิ ในการทำ�งาน ความพอเพียงดา้ นเศรษฐกจิ l ลดรายจ่าย สร้างรายได้ใชช้ ีวติ อยา่ งพอควร l พง่ึ พาตนเองได้ l จดั ท�ำบญั ชีครวั เรือน l ไม่เส่ยี งเกนิ ไป มีทางเลอื กรองรับ l คิดและวางแผนอยา่ งรอบคอบ ความพอเพียงด้านสังคม l ชว่ ยเหลอื เกื้อกลู กัน l รูร้ กั สามัคคี l สร้างความเข้มแขง็ ใหค้ รอบครัวและชุมชน ความพอเพยี งดา้ นจติ ใจ l มีจิตสามคั คี l เอ้ืออาทร ประนปี ระนอม l นึกถงึ ส่วนรวมเปน็ หลกั l ซ่อื สัตย์ สจุ รติ อดทน พอเพียง 21เศรษฐกจิ พอเพียงกบั ภาคการเกษตร
การวางแผนการผลิต พ้นื ท่ที ำ�การเกษตร จ�ำนวน 34 ไร่ 2 งาน l ท่ีอยูอ่ าศยั 1 ไร่ l ปลกู ข้าว 23 ไร่ l ปลกู พืชหมุนเวยี น 2 ไร่ 1 งาน l ปลูกไม้ผลและไมย้ ืนต้น 1 ไร่ 3 งาน (ไผ่ 1 ไร/่ มะมว่ ง มะปราง มะพรา้ ว ขนนุ 3 งาน) l เลย้ี งปลา 3 ไร่ (ปลาดกุ ปลาสวาย ปลาบกึ ปลาหมอ ปลาช่อน ปลานลิ ปลาทบั ทิม และหอยขม) l บ่อกบ l ไกไ่ ข่ และนกกระทา (ไก่พนั ธุไ์ ข่ ไก่สวยงาม ไก่พ้ืนเมอื ง และไสเ้ ดือนไวผ้ ลติ ปุ๋ย) l สระบวั ผักบงุ้ 1 ไร่ 2 งาน l สระน�้ำ 2 ไร่22 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
ัผงพื้น ่ทีทำ�เกษตรผสมผสาน 23เศรษฐกิจพอเพยี งกบั ภาคการเกษตร
ผลงานและความสำ�เร็จของผลงานทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาท่ปี ฏบิ ัติงานและความยง่ั ยนื ในอาชีพ 1. มกี ิจกรรมการผลติ อาหาร l มบี ่อเลย้ี งปลา ไดแ้ ก่ ปลาทับทมิ ปลานลิ ปลาดุกและบ่อปลาช่อน l แปลงพชื ผกั ปลูกพชื ผกั หมุนเวียนในแตล่ ะรอบ เชน่ แตงกวา คะน้า บวบ ฟกั ทอง l ไมผ้ ล เช่น มะม่วง ฝรงั่ นอ้ ยหนา่ แกว้ มังกร l ปลูกไผ่ เพ่ือจำ� หนา่ ย หน่อไม้ และจ�ำหน่ายกงิ่ พันธ์ุ l นาขา้ ว ทำ� นาข้าวอนิ ทรยี เ์ พ่ือไวบ้ ริโภคในครัวเรอื น เหลือบรโิ ภคกจ็ �ำหนา่ ยเปน็ ข้าวอินทรยี ์ 2. ความสมบูรณข์ องแปลงพืช สัตว์ ประมง ด�ำเนินการตัง้ แตป่ ี พ.ศ. 2550 เร่ิมจากการเลีย้ งเปด็ เนอื้ จำ� นวน 100 ตวั เพ่อื จ�ำหนา่ ย ทตี่ ลาดสุโขทยั พอมรี ายได้เริ่มขยับเป็นการเล้ยี งสัตว์สวยงาม เชน่ กระตา่ ย ไก่สวยงาม จำ� หน่ายใหก้ ับลูกค้าภายในจงั หวดั สุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียง24 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
รายละเอียดกิจกรรมในไรน่ าสวนผสม กิจกรรมสร้างรายได้ 1. ทำ�นา 23 ไร่ ผลผลิตประมาณ 800 กิโลกรัมต่อไร่ ผลิตเพื่อการบริโภคเหลือจึงจ�ำหน่าย พื้นท่ีปลูกข้าว จ�ำนวน 23 ไร่ ลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี โดยการใช้สารชวี ภณั ฑ์ รายได้จากการท�ำนาประมาณปลี ะ 150,000-200,000 บาท 2. ปลูกพืชหมุนเวียน 2 ไร่ 1 งาน ได้แก่ พืชไร่ กล้วยน้�ำว้า กล้วยไข่กล้วยหอม มะละกอ พืชผักสวนครัว เพ่อื บริโภคในครัวเรอื น และจำ� หน่ายเป็นรายได้ 3. ปลูกไผ่ 1 ไร่ ไผ่ เป็นพืชที่ต้นทุนการดูแลต่�ำ แต่ให้ผลตอบแทนสูง สามารถใช้ประโยชน์ได้ทง้ั ล�ำ ไดแ้ ก่ ก่ิงแขนง ยอด ล�ำไผ่ ปลูกไผพ่ ันธ์ตุ งลืมแล้ง จ�ำหน่ายกิง่ พนั ธ์ุ โดยใช้วธิ ีการตัดก่ิงแขนงมาเพาะช�ำ โดยใน 1 หน่อ สามารถตัดกิ่งแขนงมาช�ำ ได้ประมาณ 5-6 ก่ิงราคากิ่งละ 50 บาท หน่อไผ่จะไว้เพื่อให้ไผ่แตกยอดแล้วใช้ประโยชน์จากยอด โดยการน�ำมาแปรรูปเป็นหน่อไม้ดอง ขายได้กิโลกรัมละ 40 บาท ส่วนล�ำท่ีไม่ใช้แล้วน�ำไปเผาแบบภูมิปัญญาชาวบ้านโดยการใช้ดินกลบ ได้เป็นถ่านน�ำไปใช้ประโยชน์ต่อไป การบ�ำรุงรักษา ใช้ประโยชน์จากกระบวนการก�ำจัดของเสียท่ีได้จากน�้ำบ่อกบ บ่อปลา ปล่อยลงแปลงปลูกไผ่ แล้วใส่มูลไก่ มูลนกกระทา น�ำฟางจากนาข้าวไปปิดทับเพ่ือเป็นปุ๋ยหมักใหก้ ับแปลงปลกู ไผ่ รายได้จากการขายกงิ่ ไผ่ หนอ่ ไผ่ 60,000–70,000 บาทตอ่ ปี 25เศรษฐกจิ พอเพยี งกับภาคการเกษตร
4. ขดุ บอ่ เลีย้ งปลา 8 บ่อ (บนเน้อื ท่ี 2 ไร่) และบอ่ น้�ำลึก (1 ไร่) เล้ียงปลาดุก ปลานิล ปลาสลิด ปลาทับทิม ปลาหมอ ปลาช่อน หอยขม ปลาบกึ ปลาสวาย ปลาแรด เพื่อบริโภค และจำ� หนา่ ยเป็นรายไดข้ องครัวเรือน 5. เล้ียงกบ 1 บ่อ เลี้ยงในบ่อดิน แบบกึ่งธรรมชาติ กบท่ีเล้ียงแบบนี้จะ แข็งแรงกว่าเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ รายได้จากเล้ียงกบและปลา ประมาณ 6,000 บาท นอกจากน้ี ไร่นาสวนผสมของนายสุทิน ทองเอ็ม แห่งน้ี ยังเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ การฝึกอาชีพเสริมให้กับผู้สูงอายุที่อยู่ในการดูแลขององค์การบริหารส่วนต�ำบลป่าแฝก อำ� เภอกงไกรลาศ โดยนายสุทนิ ทองเอ็ม ได้ใหบ้ ริการสถานที่ และเป็นวิทยากรบรรยาย ให้ความรู้เรื่องการเล้ียงกบในบ่อแก่ผู้สูงอายุท่ีได้มาศึกษา และฝึกการเล้ียงกบ รายได้ ท่เี กิดจากการเล้ยี งกบ กจ็ ะเป็นเงนิ กองกลางของกลมุ่ ผสู้ งู อายุ 6. เลยี้ งไก่ไข่ 20 ตัว 7. นกกระทา 100 ตัว สรา้ งรายได้ประมาณ 30,000 บาทต่อปี 8. เลยี้ งไก่สวยงาม 20 คู่ เพาะเล้ียงไก่สวยงามทุกชนิดท่ีตลาดต้องการ โดยนายสุทิน ทองเอ็ม มีความคิดว่า การเล้ียงไก่ไม่ควรจะเลี้ยงเพียงชนิดเดียว เช่น ไก่พ้ืนเมือง หรือไก่ไข่ เพียงอย่างเดียว ควรเล้ียงไก่หลายชนิดเพ่ือจะได้มีรายได้หลายทาง ในการเล้ียง ไก่สวยงามได้พยายามศึกษาความต้องการของตลาด สอบถามผู้รู้ หาเครือข่าย ผู้เลี้ยงไก่สวยงาม และศึกษาข้อมูลจากแหล่งสืบค้นออนไลน์ ท�ำให้ปัจจุบันประสบ26 กรมส่งเสรมิ การเกษตร
ความส�ำเร็จในการเลี้ยงไก่สวยงาม มีเครือข่ายต่างจังหวัด ซ้ือขายผ่านระบบออนไลน์สรา้ งรายได้เป็นจำ� นวนมาก 9. ไก่พนื้ เมืองเปน็ แม่พันธ์ุ 5 ตัว 10. ปลูกบัวสาย และบัวดอก รายได้จากการจ�ำหน่ายดอกบัว และสายบัวตอ่ ปีประมาณ 10,000 บาท 27เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั ภาคการเกษตร
บรรณานุกรม ประเสริฐวัฒน์ กองกันภัย และคณะ. เศรษฐกิจพอเพียงการเกษตรท่ีย่ังยืน. กรมส่งเสริม การเกษตร. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย จำ� กัด. พระราชดำ� รสั พระราชทานแกค่ ณะบคุ คลตา่ งๆ ท่ีเขา้ เฝ้าฯ ถวายชัยมงคล เนอื่ งในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิตาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต วันพุธท่ี 4 ธันวาคม 2517. กรุงเทพมหานคร : บริษัท อมรินทร์พร้ินต้ิงแอนด์ พับลชิ ชงิ่ จ�ำกัด (มหาชน). ตลุ าคม 2541. พระราชดำ� รัส พระราชทานแกค่ ณะบุคคลตา่ งๆ ทีเ่ ข้าเฝา้ ฯ ถวายชัยมงคล เน่อื งในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิตาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีท่ี 4 ธันวาคม 2540. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท อมรนิ ทร์พร้ินติ้งแอนด์ พบั ลชิ ช่ิง จำ� กดั (มหาชน). เมษายน 2541. พระราชด�ำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร. วารสาร มลู นิธิชยั พัฒนา. ประจำ� เดือนสงิ หาคม 2542. ส�ำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ. เศรษฐกจิ พอเพียง. มถิ นุ ายน 2547. กรุงเทพมหานคร : ม.ป.ท. ส�ำนักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ. 2549. เศรษฐกจิ พอเพียง คืออะไร. พิมพค์ ร้งั ที่ 3 : กรุงเทพมหานคร ส�ำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ. เศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาช้ีถึงแนวทางการด�ำรงชีวิต, กันยายน 2557. พมิ พ์คร้ังที่ 7 : กรุงเทพมหานคร. เออื้ เชงิ สะอาด และคณะ. 2550. เศรษฐกจิ พอเพยี งภาคการเกษตร. กรมสง่ เสรมิ การเกษตร. พมิ พค์ รง้ั ที่ 2 (แก้ไขเพ่มิ เตมิ ) : กรุงเทพมหานคร28 กรมส่งเสริมการเกษตร
เอกสารคำ�แนะนำ�ท่ี 5/2561เศรษฐกจิ พอเพียงกบั ภาคการเกษตรท่ีปรกึ ษา อธบิ ดีกรมสง่ เสรมิ การเกษตรนายสมชาย ชาญณรงค์กุล นายประสงค์ ประไพตระกลู รองอธบิ ดกี รมส่งเสรมิ การเกษตรนายส�ำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสรมิ การเกษตรว่าที่ร้อยตรี ดร.สมสวย ปญั ญาสิทธ์ ิ รองอธิบดกี รมสง่ เสรมิ การเกษตรนางดาเรศร์ กติ ติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรนางอญั ชลี สวุ จิตตานนท์ ผูอ้ ำ� นวยการสำ� นกั พฒั นาการถา่ ยทอดเทคโนโลยีนายวุฒนิ ยั ยุวนานนท์ ผอู้ ำ� นวยการกองวิจยั และพฒั นางานสง่ เสริมการเกษตรเรยี บเรยี ง ผู้อำ� นวยการกลมุ่ จดั การฟารม์ และเกษตรกรรมยัง่ ยนืนางสมคิด นุม่ ปราณ ีนางเนตรนริศ ผดงุ ศิลป์ นกั วิชาการส่งเสริมการเกษตรชำ� นาญการพิเศษนางสาวเสาวณติ เทพมงคล นกั วชิ าการสง่ เสริมการเกษตรชำ� นาญการนางสาวพิมประภา สนิ ค้�ำคณู นกั วิชาการส่งเสรมิ การเกษตรช�ำนาญการนางสาวพรี ชา มณีชาต ิ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏบิ ัตกิ ารนางสาวรัตนาภรณ์ นพพนู นกั วิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏบิ ัติการนางสาวอารยี ว์ รรณ เหลืองทอง นักวิชาการสง่ เสริมการเกษตรกลุม่ จัดการฟารม์ และเกษตรกรรมย่งั ยืนกองวจิ ยั และพัฒนางานส่งเสรมิ การเกษตรกรมสง่ เสริมการเกษตรจดั ทำ� ผอู้ ำ� นวยการกลุ่มพฒั นาสือ่ ส่งเสรมิ การเกษตรนางรุจพิ ร จารพุ งศ์ นางสาวอำ� ไพพงษ์ เกาะเทียน นกั วิชาการเผยแพรช่ �ำนาญการกล่มุ พัฒนาส่ือสง่ เสริมการเกษตรส�ำนักพัฒนาการถา่ ยทอดเทคโนโลยีกรมสง่ เสรมิ การเกษตรwww.doae.go.th
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: