Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือเดินทาง ตามรอยพระราชา เส้นทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก "The King's Journey" Learning Passport

หนังสือเดินทาง ตามรอยพระราชา เส้นทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก "The King's Journey" Learning Passport

Published by nongbualumphulibrary, 2018-11-29 09:36:40

Description: หนังสือเดินทาง ตามรอยพระราชา เส้นทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก "The King's Journey" Learning Passport

Search

Read the Text Version

ชมรมอนรุ ักษป์ า† ชายเลนต�าบลหัวเขาจัดกิจกรรมท่องเท่ียวป†าชายเลนบา้ นหัวเขาเปดรับคณะศกึ ษาดงู าน เดนิ ศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน ชมปา่ ดสู ัตวล่องเรือไปปลูกปา่ ชายเลนรว่ มกบั ชาวบา้ นเวลาไปปลกู ป†าชายเลนเราปลูกตน้ อะไร บา้ งนะเมอ่ื ป†าชายเลน¿„œนคนื มา ความอุดมสมบูร³์ของทอ้ งทะเลกçกลับคืนมา ชาวประมงกกç ลบั มาท�าอาชีพได้เชน่ เดมิโครงการพัฒนาและฟ„œนฟปู า† ชายเลนบŒานหวั เขา ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา เปดทุกวนั เวลา ๐๗.3๐-๑๗.3๐ น. ๐8 ๗899 ๑๑๕3, ๐8 ๑๗38 9๔๑๗ ชมรมอนรุ กั ษปา่ ชายเลน ต หัวเขา อ สงิ หนคร จ สงขลา การเดนิ ทาง ๕๑

สนกุ เรียนรู้ แกป้ ญั หาน้�าท่วมâครงการปอ‡ งกันและบรรเทาอทุ กภัยเมืองชุมพรตามพระราชด�าริ จ.ชุมพร พระราชา¼แู้ ก้ความทุกขเ์ ร่ืองนา�้ ทว่ ม พระองคท รงทราบถึงความเดอื ดร้อนของชาวเมืองชุมพร ท่ปี ระสบปญ˜ หานา�้ ท่วมตวั เมอื งทกุ ปี สาเหตเุ พราะเมืองชมุ พรเปน็ ที่ราบลมุ่ สองฝ˜ง› คลองท่าตะเภา หนา้ ฝนน�า้ จะลน้ ตลงิ่ เขา้ ทว่ มพ้ืนที่บา้ นเรอื นในตวั เมืองชมุ พรเสยี หาย พระราชาจึงไดล้ งมือหาวิธชี ว่ ยแกป้ ˜ญหาน�้าทว่ มให้กับชาวเมอื งชมุ พร น้า� ท่วมใหญ่ ò คร้ัง เมอื งชุมพรเจอปญั หา นา้� ท่วมใหญอ่ กี ò ครั้ง จากพายุไตฝ้ †นุ เกย์ ป‚ òõóò๕๒ และจากพายุâ«นรอ้ น«ีตา้ ป‚ òõôð

๕3

พระราชาแกป้ ัญหาน้�าทว่ มชุมพรไดย้ ังไงนะ ขุดคลองระบายน้า� หัววัง-พนงั ตกั ชว่ ยผนั น้�าจากคลองท่าตะเภาออกสทู่ ะเลโดยตรง แกป้ ญ˜ หาน้�าจากคลองท่าตะเภาล้นตลิง่ ท่วมเมอื ง จัดระบบประตรู ะบายน้�า สร้างประตรู ะบายนา้� หลายแห่งเพ่อื ผนั นา้� จากคลองทา่ ตะเภาเขา้ สู่คลอง âครงการพั²นาพ้ืนที่หนองใหญ่ ตามพระราชดา� ริ ขดุ ลอกบรเิ วณหนองใหญ ่ เพอื่ ใชเ้ ปน็ แกม้ ลงิ เกบ็ นา้� ในยามนา�้ มาก และเปน็ แหลง่ เกบ็ นา้� ไวใ้ ชใ้ นหนา้ แล้งด้วย บรเิ วณหนองใหญแก้มลงิ คืออะไร เมอื งชมุ พร ใครรบู้ ้าง ทา� ไมต้องแกม้ ลิง พระราชาอธิบายว่า “ลงิ โดยทว่ั ไป ถŒาเราส‹งกลวŒ ยใหŒ ลงิ จะรบี ปอก เปลอื กเอาเขาŒ ปาก เคยี้ วแลวŒ นาํ ไปเกบ็ ไวทŒ แี่ กมŒ กอ‹ น ลงิ จะทาํ อยา‹ งนจ้ี น กลŒวยหมดหวี หรอื เตม็ กระพุŒงแกมŒ จากนั้นจะค‹อยๆ นําออกมาเคีย้ ว๕๔ และกลืนกนิ ภายหลงั ”

ท่องเที่ยวเชิงอนรุ ักษ์ท่ี…âครงการพั²นาพ้ืนที่หนองใหญ่ ตามพระราชดา� ริ เดçกæ รู้ม้ยั “หนอง” คืออะไรกนั นะ “หนองเปนš พ้ืนท่ีน�า้ เคมç หรือน�า้ จดื ”เกาะชมนกชมไม้ หนองใหญ่ เป็นหนองนา�้ ธรรมชาติขนาดใหญ่ ชมตน้ ไม้นานาชนิด มตี ้นไมร้ ม่ รืน่ เป็นทอี่ ยอู่ าศยั ของนกนานาชนิด ที่เปน็ อาหารนก เหมาะให้ทอ่ งเทีย่ วพักผอ่ นหย่อนใจ และเป็นแหล่งเรียนรูก้ ารอนุรกั ษ ฟน„œ ฟูทรัพยากรธรรมชาติ สะพานไมเ้ ค่ยี ม แก้มลงิ หนองใหญ่ทางเดินไมย้ าวขา้ มหนองน้า� ไปสเู่ กาะ ในชว่ งน�้ามาก หนองใหญเ่ ป็นพืน้ ที่รับนา�้ หรือ “แกม้ ลงิ ” กักน�้าไว้ชัว่ คราว เปน็ จุดชมทวิ ทศั นท่สี วยงาม ก่อนระบายน�า้ ออกไป เปรยี บได้กบั แก้มลงิสะพานท�าจากไมเ้ คีย่ ม ไมเ้ น้ือแขง็ทม่ี มี ากในภาคใต ้ เน้ือไม้แขง็ แกร่ง เก็บรองรบั นา�้ ฝนไว้กอ่ น ชว่ ยบรรเทาป˜ญหาน�า้ ท่วมได้ ทนได้ทั้งน้�าจดื น�้าเค็มโครงการปอ‡ งกันและบรรเทาอทุ กภัยเมอื งชุมพร ตามพระราชดาํ ริ ชมุ พรโครงการพฒั นาพ้นื ที่หนองใหญต‹ ามพระราชดาํ ริ ต.บางลึก อ.เมอื ง จ.ชมุ พร เปด ทกุ วัน เวลา ๐8.๐๐ -๑๗.๐๐ น. ๐ ๗๕๔๑ ๖๑๒๗ ๕๕ การเดินทาง

ไปรจู้ ักปญั หา ô น้า� ó รสâครงการพั²นาพนื้ ที่ลุ่มน�า้ ปากพนังอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดา� ริ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเกดิ ปญั หา ô น้า� ó รส ประชาชนเดอื ดร้อนท�าการเกษตรไม่ได้ พระราชาปราชญแ์ หง่ สายนา้� ให้แนวทางแกป้ ัญหา ดว้ ยการสร้างระบบจัดการน้�าท้ังล่มุ น้า� ในอดีต ลุ่มน้�าปากพนงั แหง่ นเี้ คอยเปน็ พน้ื ที่อุดมสมบรู ณ เป็นอู่ ข้าวอนู่ ้า� แห่งภาคใต ้ ชาวบ้านมีอาชีพทา� นาเปน็ หลัก วกิ ฤตนา้� เกดิ ขน้ึ เมอ่ื เขอ่ื นธรรมชาต ิ หรอื ปา่ ตน้ นา้� ล�าธารถกู ท�าลาย เกิดน�้าท่วมใหญ่เมื่อปี ๒๕3๑ หลังจากนั้นน้�าเค็มรุกเข้าไปในแม่น�้า ปากพนัง ท�าให้ขาดแคลนน�้าจืด มีการปรับเปล่ียนพื้นที่นาข้าวเป็น นากุ้ง เกิดป˜ญหาน้�าเสีย น้�าเปร้ียวออกจากพ้ืนที่พรุ และน้�าเสียจาก การเล้ียงกงุ้๕๖

๕๗

พื้นท่ีลุ่มนา�้ ปากพนัง พืน้ ท่ลี ุ่มนา้� ปากพนังครอบคลุมพื้นทปี่ ระมาณ ๒,๒๗๕,๕๐๐ ไร ่ มีพ้ืนท่ีปา่ ตน้ นา้� บนเทอื กเขา ทร่ี าบ แมน่ า้� ลา� คลอง และชายฝง›˜ ทะเล เกดิ เปน็ พนื้ ที่ระบบนิเวศ 3 น้�า คอื น�า้ จดื นา้� เค็ม และน้า� กร่อย ปญั หา ô น้า� ó รส คอื อะไร นา้� เคมç นา้� แล้งนา�้ ทะเลหนุนรกุ น�้าจืด ขาดแคลนนา้� ในยามหน้าแลง้ ô น้า� น�้าเปรี้ยว นา้� ท่วม หรือนา�้ เสีย น้�าระบายออกทะเลไดช้ า้เกิดขนึ้ ในพ้ืนทปี่ ่าพรตุ อนกลาง ท่มี สี ภาพดินเป็นกรด ó รส นา้� ท่วมขังนาน ทา� ใหน้ �้าเสียและเปรีย้ ว ● น้�าจดื ขาดแคลนน�า้ จืดในการท�าเกษตร ● นา�้ เคมç นา้� ทะเลหนนุ นา�้ เคม็ ทา� ใหผ้ ลผลติ การเกษตรเสยี หาย ● นา�้ เปร้ียว ท�าการเกษตรไม่ได้ ศาสตร์พระราชา “รู้ รัก สามัคค”ี ช่วยแกป้ ญั หาล่มุ นา�้ ร ู้ รู้ถึงสาเหตุ รู้ถึงปญ˜ หา และรถู้ งึ วิธกี ารแก้ปญ˜ หา รัก มีความรกั ในการเขา้ ไปลงมือแกไ้ ขป˜ญหา๕8 สามัคค ี เราท�างานคนเดียวไม่ได้ ตอ้ งท�างานร่วมมือ ร่วมใจกัน

แ¼นท่ีเรียนร้ภู ายในศนู ย์การเรียนรู้âครงการพั²นาพ แปลงทดสอบสาธิตตามแนวพระราชด�าริ แสดงถงึ พชื พนั ธกุ ารเกษตรทปี่ ลูกได้ในพน้ื ท่ลี ุ่มน�า้คลองบางปประตู เขา -ออก ในวอâารพคกราาะรสบพทาิพ่ีททธิ(สรรภงัชมั³กคเ±าดรลอçจเ์ ©ทงพรล่ีราùิมะชเพ)ยจรา้ค์ ะอรเยบกู่หยี õวัรตðิ ป‚ จัดแสดงความเปน็ มาของโครงการและความรู้ เกยี่ วกบั ลมุ่ น้�าปากพนงั พร ๕9

พน้ื ที่ลุ่มนา�้ ปากพนังÏแมน้ำปากพนัง ประตรู ะบายน้�าอทุ กวิภาชประสิทธิ จดุ เริม่ ตน้ ของโครงการและศูนยร วม ในการแก้ไขป˜ญหาลุ่มนา�้อนสุ ร³ส์ ¶านปล่องâรงสีไ¿ การเปด -ปด ประตรู ะบายน�า้แสดงถงึ ความเป็นอขู่ ้าวของพ้ืนที่ อทุ กวิภาชประสทิ ธิ ลมุ่ น�้าปากพนงั ในอดตี ต้องใชภ้ ูมปิ ญั ญาในการสงั เกต น้า� ทะเลขÖ้น-ลง สังเกตยังไงกนั นะ เดกç æ ¶ามพ่ีæ เจา้ หนา้ ท่ีดสู ิระตา� หนักปอรา� ะเภทอับปแารกมพเ©นลงั มิ พระเกียรติ เดçกæ ลองคดิ กันหน่อย ประชาชนร่วมแรงร่วมใจสร้างถวาย ¶า้ บ้านเราน�้าทว่ ม พระราชา รชั กาลท ่ี 9 สรา้ งแบบสถาปต˜ ยกรรม ภาคใต้ ภายในมีพิพิธภัณฑ เปดให้เข้าชม เราจะจัดการนา�้ ท่วมขงั ในบ้าน วันเสาร - อาทติ ย  ๐9.๐๐ - ๑๖. ๐๐ น. ยงั ไงกนั ดีนะ ๖๐

แนวทางพระราชา ● แก้ปัญหาน้�าเคçมและขาดแคลนน�้าจืด แก้ปัญหา ก่อสรา้ ง “ประตูระบายน้ําอทุ กวิภาชประสิทธิ” ประตูô น้า� ó รส ระบายน้�าปดกั้นแม่น้�าปากพนังป‡องกันไม่ให้น�้าทะเลไดอ้ ย่างไรนะ รสเค็มรุกล้�าพื้นที่การเกษตร และเก็บน้�าจืดไว้ใช้ใน ยามหน้าแล้งเทอื กเขา ประตรู ะบายนำ้นครศรีธรรมราช อุทกวภิ าชประสิทธิ อา งเกบ็ น้ำหวยน้ำใส แมน ำ้ ปากพนัง๖๑ คลองชะอวด-แพรกเมอื ง คันแบง เขต น้ำจืด-น้ำเค็ม ● แก้ปญั หาน�้าเสีย ป‡องกันนา้� เปรย้ี วออกจากพน้ื ท่ีพรุ ก�าหนดเขตเพาะเล้ยี งชายฝ›˜ง และบา� บดั นา�้ เสียชุมชนเฉพาะจดุ ● แก้ปัญหาน�า้ ท่วม ขุดคลองระบายนา้� ผนั น�า้ ออกสทู่ ะเลใหเ้ รว็ ขน้ึ

แปลงสาธติ ทดลอง...พิพธิ ภ³ั ± สาธิตการปลูกพืชและเ ปศุสัตว์ ในลุ่มน้า� ปากเชน่ เล้ยี งไก่พันธุศ์ รีวิชัยเปดš เทศพันธ์ุรอ่ นพบิ ูลย์ แพะ ปศุสตั ว ปาจาก แปลงสาธติ พืชไร่พชื สวน กลว ยน พชื ผสมผสาน ท่ีชาวบา้ นนยิ มปลกู ในลุ่มน�า้ ปากพนงั เชน่ มะนาว มะพร้าว เดçกæ ลองขีดâยง ภาพแ¼นท กลว้ ยน้�าวา้ ส้มâอทับทมิ สยาม๖๒

±์ธรรมชาตทิ ่ีมีชีวิต ประมง สาธติ การท�าประมง ท้ังน�า้ จดื และน�้าเคมçเลี้ยงสตั วท์ ่ีเด่น ประมงน�า้ จดื เช่น กุง้ กุลาดา� ปลานลิกพนัง ประมงน�า้ เคมç เชน่ ปลากะพงขาว แปลงสาธติ ดา นประมง มะละกอ พชื อนรุ ักษ์พืน้ ¶ิ่น มะนาแวกว มงั กร เชน่ ไรจ่ าก เสมçดขาว สม โอ ๖3 พันธทุ บั ทิมสยาม นำ้ วางภาพในวงกลมกับที่แปลงสาธติ

เท่ียวไปเรียนรไู้ ป ในชุมชนลมุ่ น�า้ ปากพนัง ตะลุยป†าจาก ศูนย์เรียนรูภ้ ูมิปญั ญาท้อง¶่ิน การทา� น้า� ตาลจาก ไร่จันทรังษี ต.ขนาบนาก อ.ปากพนงั เรียนรู้วิถีชวี ติ ชมุ ชนคนท�านา้� ตาล จากพืชนา�้ กร่อยทนี่ า� มาท�าน้า� ตาลได้ รูไ้ หมน�้าตาลจาก ที่นอี่ รอ่ ยและมีเพียงที่เดียว ในประเทศไทย ส่วนไหนของต้นจาก ท่ีเอามาท�าน�้าตาล ลองชิมด«ู ิ น้า� ตาลจาก รสชาติยังไงนะ เหมอื นน้า� ตาลทราย๖๔ ท่ีบา้ นเราไหม

ไปตามหาต้นก�าเนดิ ส้มâอทับทิมสยามชุมชนบา้ นแสงวิมาน ต.คลองนอ้ ย อ.ปากพนงั ชิมส้มโอเน้ือสีชมพู รสชาติหวานอร่อย ส้มโอพันธุดี ปรับปรุงพนั ธโุ ดยภูมิป˜ญญาของชาวบา้ นแสงวมิ าน สม้ âอที่ปลกู ท่ีน่ี ทา� ไม¶Öงมีรสชาติ ดจี ัง ทา� ไม¶งÖ ช่ือ สม้ âอทับทบิ สยาม นะโครงการพัฒนาพน้ื ทีล่ มุ‹ นา้ํ ปากพนงั อนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ ต.หลู อ่ ง อ.ปากพนัง จ.นครศรธี รรมราช ๐ ๗๕๔๑ ๖๑๒๗ เปด ทกุ วนั เวลา ๐8.3๐ -๑๖.3๐ น. วันเสาร- วันอาทติ ย หากตอ้ งการเข้าชมตอ้ งแจง้ ลว่ งหน้า ศนู ยอ�านวยการและประสานการพัฒนาพนื้ ทลี่ ุม่ น�า้ ปากพนัง การเดินทาง อนั เน่ืองมาจากพระราชด�าริ www.pncenter.com ๖๕

ท่อง¼ืนป†าแหง่ พระเมตตาâครงการบริหารจัดการปา† พรุâตะ แดง จ.นราธวิ าส พรุâตะ แดง ป†าพรุขนาดใหญ่ ทยี่ งั คงความอุดมสมบูรณที่สดุ ผนื สดุ ทา้ ยของเมอื งไทย พรุâตะ แดง ปา† พรุใตร้ ม่ พระบารมี พระราชาห่วงใยปา่ พรุโตะแดงทเ่ี สอ่ื มโทรมจากการถูกบกุ รกุ ท�าลาย จงึ มพี ระราชด�าริให้พลกิ ฟ„นœ ป่าพรุผืนน้ีให้อดุ มสมบูรณข นึ้ มาอกี ครงั้ ป†าพรุâตะ แดง เจ้าหญิงนกั พฒั นาสมเด็จพระเทพรัตนฯ เสด็จมาทีป่ ่าพรแุ ห่งนีห้ ลายคร้ัง เพื่อทรงศึกษาธรรมชาติ และเส้นทางตามรอยเสด็จนี้ถูกพัฒนาเป็นเส้นทาง ศึกษาธรรมชาตปิ ่าพรุโตะแดงทคี่ นนยิ มเย่ยี มชม๖๖

“พรุเราตอ้ งเก็บไว ้ เพราะมคี วามสา� คญั เก่ียวกบั สิง่ แวดลอ้ ม ต้องหา้ มไม่ใหบ้ กุ รกุ เขา้ ไป คราวนเ้ี ราทา� โครงการทโี่ คกใน เขาจะบกุ รกุ เขา้ ไปไมไ่ ดอ้ กี แลว้ เพราะจ�ากัดบริเวณเขา ในพรุเราก็ส่งเสริมเอาไม้พรุเพ่ิมประสิทธิภาพ อย่างตามขา้ งทางนสี้ วยมาก เหน็ ไมต้ า่ งๆ ไม้หลาวชะโอนก็มี” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว ทรงมพี ระราชด�าริ ไว้เมอื่ วันท่ี 9 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕3๕ ๖๗

ป†าพรุคอื ปา† ดงดบิ ท่ีมีน�า้ ท่วมขงั อยู่ตลอด ป†าพรุâตะแดง คา� วา่ “พรุ” เปน็ คา� สามญั ท่ชี าวบ้านทางภาคใต้ ใช้เรยี ก “บรเิ วณท่ีเปน็ ท่ลี ่มุ ชมุ่ ชน้ื มนี า้� แช่” ป่าพรุโตะแดงครอบคลมุ พื้นท ี่ 3 อ�าเภอคอื อ.ตากใบ อ.สไุ หงโกลก และ อ.สไุ หงปาด ี มพี น้ื ท่ี ประมาณ ๑๒๐,๐๐๐ ไร่ และมีล�าน้�าไหลผ่านคือ คลองสุไหงปาดี แมน่ า้� บางนรา และคลองโตะ แดง อนั เป็นทีม่ าของชือ่ ปา่ พรโุ ตะแดง ป†าพรุâตะแดงเปšนป†าพรุ¼ืนสุดท้ายของเมืองไทยท่ี ได้รับการประกาศให้เปšนพื้นที่ชุ่มน้�าล�าดับที่ ññðò ของประเทศไทยเม่ือป‚ òõôô ป†าพรุâตะแดงอุดมสมบูร³์ไปด้วยสัตว์ป†าและพรร³ไม้ “ปา† พรุ” เกิดจากพื้นที่ชุ่มน้า� ป่าพรุเกิดจากแอ่งน�้าจืดขังสะสมและมีการทับถมของซากพืช ซากต้นไม้ ใบไม้ เกิดชนั้ ดินกลายเป็นดนิ พีท (Peat) ทมี่ ีลักษณะหยุ่นยวบเหมือนฟองน�า้ อุ้มนา้� ได้มาก และด้วยเป็นดินท่ีอ่อนนุ่ม ไม้ยืนต้นในป่าพรุจึงมีระบบรากแขนงแข็งแรงแผ่ออกไป๖8 เกาะเกย่ี วกนั

ในป†าพรุ ป†าพรุส�าคญั อย่างไรมตี น้ ไม้ เดกç æ สงสยั ไหมวา่อะไรบ้าง ¶้าไมม่ ปี า† พรุ จะเกดิ อะไรขÖน้ ป†าพรุ คอื ชีวิต ป่าพรเุ ตม็ ไปดว้ ยความหลากหลาย ของส่ิงมีชีวิต เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณของบรรดาสัตวป่า หายากหลายชนิด อีกทั้งพันธุไม้ หายาก พืชสมนุ ไพร รวมถึงไม้ที่ใช้ ในการกอ่ สร้าง และท�าเคร่ืองเรอื น พันธ์ุไม้ท่ีพบในป†าพรุ มกี ว่า ôðð ชนดิ เช่น หมากแดง หมากงาช้าง เตา่ ร้าง กะพ้อ รศั มเี งนิ มะมดุ มะมว่ งปา่ เงาะปา่ และ มะเด่ือต่างๆ และมีพืชสมุนไพร เช่น จันทนา กาพุ่ม เทพี สักช ี อบเชย ขา่ ลิง หลาว จนั ทนแดง บอนจีน ฯลฯ ๖9

เดนิ ปา† ศกÖ ษาธรรมชาติ เส้นทางเดินชมป†าพรุ แบบใกล้ชดิ ธรรมชาติ ทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเร่ิมที่บึงน�้า ด้านหลังอาคารศูนยวิจัยและศึกษาธรรมชาติ ป่าพรุสิรินธร มีลักษณะเป็นสะพานไม้ลัดเลาะ เข้าไปในป่าพร ุ ระยะทาง ๑,๒๐๐ เมตร ตลอดทาง จะได้พบความเขียวชอุ่มของต้นไม้ อาจได้เห็น สัตวป่า สัตวน�้า นก หรือแมลงต่างๆ ออกมา อวดโฉมกนั เดินป†าพรุใหส้ นกุ ควรมีอุปกร³์ เช่น คู่มอื ดูนก สมุดบันทÖก ดินสอสี กลอ้ งส่องทางไกล กลอ้ ง¶่ายรปู แลว้ ไปเพลดิ เพลนิ บันทกÖ สิง่ ท่ีเหçนในปา† พรุกัน Äดูกาลทอ่ งเท่ียว ป่าพรุมฝี นตกชุกตลอดป ี แตช่ ่วงเวลาที่เหมาะสม ส�าหรับการทอ่ งเทยี่ วคือ เดือนกมุ ภาพันธ-เมษายน เพราะเป็นชว่ งทีฝ่ นตกนอ้ ยทส่ี ดุ ท�าใหเ้ ดินชมป่าพรไุ ด้๗๐ โดยไมต่ อ้ งตากฝนมากนัก

นกท่ีพบในปา† พรุในป่าพรมุ ีนกหลายชนดิ นกท่เี ด่นๆ ไดแ้ ก่ นกกางเขนดงหางแดง นกจับแมลงสฟี า‡ มาเลเซียในประเทศไทยพบที่ปา่ พรโุ ตะ แดงเพยี งแหง่ เดียว สตั วป์ ระจ�า¶ิ่นในป†าพรุ ในปา่ พรุมีสัตวป ่ากวา่ ๒๐๐ ชนดิ เปน็ แหล่งอาศยั ของสัตวป ่านานาชนิด เช่น ค‹าง ชะมด หมูปา† หมขี อ แมวปา† หวั แบน สตั วค ุ้มครองทหี่ ายากของไทย ปลาหลากหลายชนดิ ส่ิงท่ีต้องระวงัพันธปุ ลาทพ่ี บในป่าพรุ ได้แก ่ ในปา่ พรมุ ยี ุงด�าชุกชมุ มาก ปลาปากยน่ื ปลาดุกรําพัน เปน็ พาหะน�าโรคเท้าชา้ งปลากะแมะ ฯลฯ ยงุ ด�ามกั ออกหากนิ ในชว่ งพลบคา่� ปลาเหลา่ นี้อาศัยป่าพรุ ดงั นั้นควรระวังอย่าใหย้ ุงกัด เปน็ พืน้ ทห่ี ลบภัยและวางไข่ อย่าลืมเตรียมยากันยงุ เข้าไปดว้ ยศูนยว จิ ัยและศกึ ษาธรรมชาตปิ †าพรโุ ตะแดง นราธิวาส ๗๑การเดนิ ทาง ต.ปูโยะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธวิ าส เปดทกุ วนั เวลา ๐8.๐๐-๑๕.3๐ น. ๐9 8๐๑๐ ๕๗3๖



ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนลา‹ ง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบนสราŒ งสรรคโดย สนับสนนุ โดย สรŒางสรรคโดย สนบั สนนุ โดย สราŒ งสรรคโดย สนับสนนุ โดย มูลนิธชิ ยั พฒั นา มูลนิธิชยั พฒั นา มลู นธิ ิชยั พฒั นา ภาคตะวนั ตก ภาคกลาง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนลา‹ งสรŒางสรรคโดย สนบั สนุนโดย สราŒ งสรรคโดย สนับสนุนโดย สราŒ งสรรคโดย สนบั สนนุ โดย มูลนิธิชัยพฒั นา มลู นธิ ชิ ัยพฒั นา มลู นธิ ิชยั พฒั นา ท‹อง ๙ แหลง‹ เรียนรูŒ พิพิธภัณฑทม่ี ชี ีวติ เสนŒ ทางเรียนรŒู “ตามรอยพระราชา” ทอ‹ ง ๙ แหลง‹ เรียนรูŒ พิพิธภัณฑท่มี ีชีวิต เสŒนทางเรียนรูŒ “ตามรอยพระราชา” ภาคใตŒฝง˜› ตะวันตก ภาคใตฝŒ ˜›งตะวันออก ภาคตะวันออกสรา งสรรคโดย สนับสนนุ โดย สราŒ งสรรคโดย สนับสนนุ โดย สรŒางสรรคโดย สนับสนนุ โดย มูลนธิ ิชัยพฒั นา มลู นิธิชยั พัฒนา มลู นิธชิ ยั พัฒนา ท‹อง ๙ แหลง‹ เรียนรูŒ พพิ ิธภณั ฑท่ีมีชวี ิต เสนŒ ทางเรยี นรูŒ “ตามรอยพระราชา” ทอง ๙ แหลง เรียนรู พพิ ิธภณั ฑท ี่มชี ีวติ เสนทางเรยี นรู “ตามรอยพระราชา” ทอ‹ ง ๙ แหล‹งเรียนรูŒ พิพิธภณั ฑท ม่ี ีชวี ติ เสนŒ ทางเรียนรูŒ “ตามรอยพระราชา”

หนงั สือเดนิ ทางตามรอยพระราชา“The King’s Journey” Learning Passportสรา้ งสรรคโ ดย สาํ นกั งานส‹งเสริมสงั คมแห‹งการเรียนรŒูและพฒั นาคณุ ภาพเยาวชน (สสค.)388 อาคารเอส.พี. (อาคารเอ) ชนั้ ๑3 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐โทรศัพท ๐ ๒๖๑9 ๑8๑๑เวบ็ ไซต www.qlf.or.thวเิ คราะหเ นื้อหานายเฉลิมพร พงศธีระวรรณครรู างวัลสมเด็จเจา้ ฟา‡ มหาจักร ี ประจา� ปี ๒๕๕8ผศ.ดร.ธนั ยวิช วเิ ชยี รพนั ธหัวหน้าโครงการวจิ ยั พฒั นาเครือ่ งมอื สง่ เสริมและประเมินทกั ษะความคิดสรา้ งสรรคและการคดิ วิเคราะหผลติ งานโดยบริษัท รักลูกกรุป จาํ กัดกลมุ่ บรษิ ัท อารแอลจี (รกั ลูก เลิรนนิ่ง กรุป )พิมพครง้ั ที ่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๐จา� นวน พิมพ ๑๐,๐๐๐ เลม่



จดั พมิ พโดยสราŒ งสรรคโดย สนบั สนุนโดย มูลนธิ ชิ ัยพฒั นา