Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทำเนียบแหล่งเรียนรูั้้อำเภอเมือง2562

ทำเนียบแหล่งเรียนรูั้้อำเภอเมือง2562

Published by nongbualumphulibrary, 2020-01-05 20:49:24

Description: ทำเนียบแหล่งเรียนรูั้้อำเภอเมือง2562

Search

Read the Text Version

ทาเนยี บแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก คานา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และทีแก้ไขเพิมเติม (ฉบับที2) พ.ศ. 2545 มีสาระสาคัญทีสร้างเสริมความรู้การเรียนรู้ความใฝรู้การศึกษาค้นคว้า วิจัย อันนาไปสู่สังคมความรู้ (Knowledge Society) และสังคมการเรียนรู้ (Learning Society) ซงึ สะท้อนบทบาทของแหล่งการเรียนรู้ ในมาตรา ๒๕ รัฐต้องส่งเสริมการดาเนินงานและการจัดตังแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทุกรูปแบบ ได้แก่ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ หอศิลป สวนสัตว สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร อุทยานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ศูนยการศึกษา และนันทนาการ แหล่งข้อมูล และแหล่งการเรียนรู้อืนอย่างพอเพียง และมีประสิทธิภาพ การ จัดกระบวนการเรียนรู้ทีเน้นผู้เรียนเปนสาคัญ ผู้เรียนต้องเหนแบบอย่างทีดีได้ฝกการคิดได้เรียนรู้จาก ประสบการณตรงทีหลากหลาย ตรงตามความต้องการและมีความสุขในการเรียนรู้ ครู คณาจารย รู้จักผู้เรียน เปนรายบุคคล เตรียมการสอนและใช้สือทีผสมผสานความรู้สากลกับภูมิปญญาไทย จัดบรรยากาศให้เอือต่อ การเรียนรู้ จัดหาและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ทีหลากหลาย เพือพัฒนาความคิดของผู้เรียนอย่างเปนระบบและ สร้างสรรค เปาหมายการจัดการเรียนรู้ต้องมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองเปนสาคัญ เพือให้นักเรียน มีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งการเรียนรู้และสือต่างๆอย่างกว้างขวาง สามารถนาความรู้ไป ประยุกตใช้กับการเรียนรู้ในห้องเรียนและชีวิตประจาวันได้เปนอย่างดี เกิดคุณลักษณะใฝรู้ ใฝเรียน เรียนรู้ได้ ด้วยตนเอง เปนบุคคลแห่งการเรียนรู้และรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต การศึกษาค้นคว้าดังกล่าวสามารถศึกษาได้ จากแหล่งการเรียนรู้ทังในสถานศึกษาและท้องถิน ดังนันสถานศึกษาต้องจัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ทุกรูปแบบ และหลากหลาย พร้อมทังแนะนาผู้เรียนให้ใช้แหล่งการเรียนรู้ให้เกิดประโยชน ศูนยการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภูจึงได้จัดทาเอกสาร ฉบับนีขึนมาเพือใช้ในการศึกษาค้นคว้าเปนแหล่งทีรวมขององคความรู้อันหลากหลายพร้อมทีจะให้ผู้เรียนเข้า ไปศึกษาค้นคว้า ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ทีแตกต่างกันของแต่ละบุคคล และเปนการส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิตปลูกฝงให้ผู้เรียนได้รู้และรักในท้องถินของตน มองเหนคุณค่าและตระหนักถึงปญหาในชุมชนของตน พร้อมทีจะเปนสมาชิกทีดีของชุมชนทังในปจจุบันและอนาคต กลุ่มงานส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย กศน. อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ผู้จัดทา หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก สารบัญ ืืืืืืืืหื ืนืา ืเรื ือืง 1 3 แื ืหืลืงืเืรืยืนืรืปืรืะืเืภืทืสืถืาืนืทื 4 5 ศาลสมเดจพระนเรศวรมหาราช 6 ศาลสมเดจพระนเรศวรมหาราช แห่งที 2 9 ศาลหลักเมืองหนองบัวลาภู (ศาลพระวอ-พระตา) 9 วัดศรีคูณเมือง 10 วัดถากลองเพล 10 หอไตรวัดมหาชัย 11 พระบางวัดมหาชัย 11 วัดธาตุหาญเทาว 12 วัดปาสามัคคีสิริพัฒนาราม (กุดโพนทัน) 12 วัดโพธิศรี (วัดหายโศก) 13 พระพุทธรัตนเอกโกเมนทร ศูนยปฏิบัติธรรมหนองนาเพชรมงคล 13 สัพพสังวรเจดีย 15 ปโมทิตเจดีย อาคารพิพิธภัณฑหลวงปูหลอด 15 เจดียวัดสิริสาลวัน 16 ศาลเจ้าปูหลุบ 18 หอสองนาง 19 หมู่บ้านหัตถกรรมเครืองปนดินเผา บ้านโค้งสวรรค 21 ภูหินลาดช่อฟา 22 วนอุทยานบัวบาน 23 แหล่งท่องเทียวเชิงนิเวศพานน้อย 24 อุทยานนาตกเฒ่าโต้ 25 พิพิธภัณฑหอยหิน 150 ล้านป 26 หนองบัว 27 ตลาดประชารัฐลานค้าชุมชนบ้านห้วยเดือ 28 วัดศรีสระแก้วพระอารามหลวง แหล่งประวัติศาสตรสมัยทวารวดี 29 วัดสายทอง วัดอุดมพัฒนาราม 30 30 ืแืหืลืงืเืรืยืนืรืปืรืะืเืภืทือืาืชืพ ศูนยการเรียนรู้คนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ในพระราชดาริพระเจ้าหลานเธอ พระองคเจ้าพัชรกิติยาภา ณ เรือนจาชัวคราวบ้านห้วยเตย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางงอก ศูนยเรียนรู้เทวาผ้าไทย หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก สารบัญ (ต่อ) ืืืืืืืืหื ืนืา ืเรือื ืง 32 33 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกผักอินทรีย บ้านโพธิศรีสาราญ 34 ไร่แทนคุณ 35 ศูนยเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงนายเดโช ชาเทราช 36 ศูนยเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นายคาผาย ฤทธิเกตุ 37 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนยผลิตและจาหน่ายผลิตภัณฑพืนเมือง บ้านใหม่แหลมทอง 39 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านใหม่ศิลามงคล 40 ศูนยเรียนรู้การเพิมประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ตาบลหนองสวรรค 41 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มการทาไม้กวาดทางมะพร้าว บ้านลาดใต้ 42 ศูนยเศรษฐกิจพอเพียงบ้านพันดอน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทาไม้กวาด บ้านโนนอุดม 43 44 ืแืหืลืงืเืรืยืนืรืปืรืะืเืภืทืบืคืคืล 45 นางสมจิตร ตามูล 25 นางบู่ เทพบุรี 26 นายสมพร โภคานิตย แผนทีแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู แผนทีจังหวัดหนองบัวลาภู หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก แหลงเรยนรประเภท สถานท อาเภอเมืองหนองบัวลาภู เปนอาเภอทีจัดตังใหม่พร้อมการสถาปนา จังหวัดหนองบัวลาภู เมือวันที ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ ประกอบด้วย ๑๕ ตาบลคือ ตาบลลาภู ตาบลโพธิชัย ตาบลหนองบัว ตาบลหัวนา ตาบลนาคาไฮ ตาบลนามะเฟอง ตาบลกุดจิก ตาบลโนนขมิน ตาบลโนนทัน ตาบลบ้านขาม ตาบลบ้านพร้าว ตาบลปาไม้งาม ตาบลหนองภัยศูนย ตาบลหนองสวรรค และตาบลหนองหว้ามีแหล่งท่องเทียวมากมายหลาย แห่งทีน่าสนใจดังนี ืศืาืลืสืมืเืดืจืพืรืะืนืเืรืศืวืรืมืหืาืรืาืช ตังอยู่ที สนามนเรศวร หน้าทีว่าการอาเภอเมืองหนองบัวลาภู และอยู่ริมหนองนา “หนองบัว” ทีอยู่ใจ กลางเมือง ตามประวัติศาสตรกล่าวว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๑๑๒ ไทยเสียกรุงศรีอยุธยาครังที ๑ ให้แก่ พม่าตรงกับสมัยพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริยกรุงหงสาวดี ได้มีหมายเกณฑให้สมเดจพระมหาธรรมราชา ไปช่วยตี เมืองเวียงจันทน ในครังนีสมเดจพระนเรศวรได้ร่วมเสดจไปในกองทัพพระราชบิดาเปนครังแรกสมทบกับ กองทัพพม่าไปตีเมืองเวียงจันทน เนืองจากพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชยกทัพไปตีเมืองญวนแล้วหายสาบสูญ พระ เจ้าบุเรงนองเหนโอกาสจึงยกทัพตีโดยให้กองทัพกรุงศรีอยุธยามาสมทบ สมเดจพระมหาธรรมราชาและพระ นเรศวรได้ยกทัพไปถึงหนองบัวลาภู เมืองหน้าด่านทางใต้ของเวียงจันทน ขณะนันมีพระชนมายุได้ ๑๙ พรรษา ครองเมืองพิษณุโลกอยู่พระราชบิดานากองทัพพักแรมทีหนองบัวลาภู เนืองจากมีทัศนียภาพทีสวยงาม มีดอกบัวหลวงขึนเตมทีหนองนาสวยงามมาก และหนองนามีความอุดมสมบูรณเหมาะแก่การตั งพักแรมของ กองทัพทีมีจานวนมากโดยใช้นาเพือดืมเพือใช้ และดอกบัวหลวงกใช้เพือประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพือความเปนศิริมงคลแก่กองทัพเพือเพิมขวัญกาลังใจในการออกศึกครังนี พระนเรศวรทรงประชวรเปนไข้ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก ทรพิษระหว่างเดินทัพ พระเจ้าบุเรงนองเหนว่าสงครามจวนจะเสรจสินจึงอนุญาตให้กลับไปรักษาพระองคการ ทีสมเดจพระนเรศวรมหาราช ได้เคยเสดจมาประทับแรมทีเมืองหนองบัวลาภูเมือ พ.ศ.๒๑๑๗ นัน ทาให้ชือ เมืองหนองบัวลาภูได้จารึกไว้ในประวัติศาสตรไทย ดังนันเพือเปนการเทิดพระเกียรติ วีรกษัตริยไทย พระยาอุดรธานีศรีโขมสาครเขต (จิต จิตตยโสธร) อดีตเจ้าเมืองอุดรธานีได้ร่วมใจกับชาวหนองบัวลาภู สร้างศาลสมเดจพระนเรศวรมหาราชไว้ ณ ด้านตะวันออกริมฝงหนองบัวลาภู และสร้างรูปเหมือนสมเดจพระ นเรศวรมหาราช ประทับยืน พระหัตถซ้ายทรงพระแสงดาบทีออกแบบโดยช่างกรมศิลปากรพระบาทสมเดจ พระเจ้าอยู่หัว ได้เสดจพระราชดาเนินทรงเปดพระบรมราชานุสาวรียแห่งนี เมือวันที ๒๕ มกราคม ๒๕๑๑ หลังจากนัน ทุกๆ ป ชาวจังหวัดหนองบัวลาภูจะจัดงานพระราชพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเดจพระ นเรศวรมหาราช เพือน้อมราลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองคท่าน เรียกว่า “งานสักการะสมเดจพระ นเรศวรมหาราชกาชาดหนองบัวลาภู” หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก ศื ืาืลืสืมืเืดืจืพืรืะืนืเืรืศืวืรืมืหืาืรืาืชืืแืหืงืทื๒ ศาลสมเดจพระนเรศวร แห่งที ๒ นี ตังอยู่ในบริเวณพิพิธภัณฑหอยหิน ๑๕๐ ล้านป บ้านห้วยเดือ ตาบลโนนทัน อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู เปนสถานทีประดิษฐานพระบรมรูป สมเดจพระนเรศวรมหาราช องคแรกของจังหวัดหนองบัวลาภู ทาการปนโดยกรมศิลปากร เมือ ป พ.ศ.๒๕๑๑ จังหวัดหนองบัวลาภู ได้ทาการบูรณะ และได้อัญเชิญออกไปประดิษฐานเพือให้นักท่องเทียวและประชาชนได้ บูชาสักการะ เมือวันเสารที ๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ และได้ก่อสร้างศาลแห่งนีเมือเดือนกุมภาพันธ ๒๕๔๙ แล้วเสรจเมือเดือนมีนาคม ๒๕๔๙ และเมือวันที ๗ เมษายน ๒๕๔๙ เวลา ๐๖.๓๙ น. ได้ประกอบพิธี เคลือนย้ายพระรูปหล่อองคสมเดจพระนเรศวรมหาราช ขึนประทับบนศาลหลังใหม่โดยการนาของพลตารวจตรี พงศชัย สุขะหุต ผู้บังคับการตารวจภูธรจังหวัดหนองบัวลาภู ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก ศื ืาืลืหืลืกืเืมือืงืหืนือืงืบืวืลืาืภืื(ืศืาืลืพืรืะืวือ-พระตา) ตังอยู่ ณ บ้านกลาง ตาบลลาภู อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ศาลหลักเมืองเปนศาลพระวอและพระตา ผู้สร้างเมืองหนองบัวลาภู ตามประวัติศาสตรกล่าวว่า พระวอและพระตา เปนพีน้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน และพระตาได้ถูกกองทัพพม่าและกองทัพเวียงจันทน ฆ่าตายในสนามรบทีเมืองหนองบัว ลุ่มภูแห่งนี ศาลหลักเมืองได้ทาการก่อสร้างขึน เพือเปนอนุสรณและราลึกถึงคุณงามความดีของพระวอพระตา ผู้มาสร้าง บ้านแปงเมืองหนองบัวลุ่มภู มีลักษณะของศาลเปนศาลาจัตุรมุขทรงไทย มีขนาดและสัดส่วนสวยงามมาก รูปแบบการก่อสร้างเปนแบบภาคกลาง จึงมีความวิจิตรเปนพิเศษ ในบริเวณมีต้นมะขามขนาดใหญ่ตังอยู่นอก กาแพงเมืองทางด้านทิศตะวันตก หน้าศาลจะมีถนนตรงไปยังโฮง เจ้าเมืองหนองบัวลาภู (จวนเจ้าเมืองเดิม) ซงึ อยู่ห่างจากศาลหลักเมืองไปประมาณ ๕๐ เมตร จะมีเนินดินและต้นมะขามขนาดเดียวกันกับทีศาลหลักเมือง เปนทีสังเกต เนือทีประมาณ ๒ ไร่ ปจจุบันไม่มีสิงปลูกสร้างใดๆ ชาวเมืองเล่าว่า เจ้าทีแรงจึงไม่มีใครกล้าปลูก บ้านเรือนทีอยู่อาศัยในบริเวณนัน หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก ืวืดืศืรืคืณืเืมือืง วัดศรีคูณเมือง เดิมชือ วัดคนชุมนาออกบ่อ ปจจุบันตังอยู่ที บ้านเหนือ ถนนวรราชภักดี หมู่ที ๕ ตาบลลาภู อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู สังกัดคณะสงฆฝายมหานิกาย สร้างเมือป พ.ศ. ๒๓๑๐ เดิมเปนวัดโบราณทีสร้างในสมัยทีดินแดนแถบนี เปนทีอยู่ของชาติขอม ละว้า และลาว มีซากอุโบสถ เก่าแก่ มีใบเสมาหิน เปนหินภูเขา ปูชนียวัตถุมีพระพุทธรูปอยู่ในสถูปเรียกว่า “หลวงพ่อพระไชยเชษฐา” พื รืืะืไืชืยืเืชืษืฐืาืวืดืศืรืคืณืเืมือืง เปนพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง ประดิษฐานในพระธาตุทีมีศิลปะคล้ายกับพระธาตุศรีสองรัก จังหวัด เลย สันนิษฐานว่าพระไชยเชษฐาธิราชทรงสร้างไว้ในรุ่นเดียวกับ พระไชยเชษฐาวัดถาสุวรรณคูหา ปจจุบันวัด ศรีคูณเมือง ได้สร้างศาลาครอบพระธาตุไว้อีกชันหนึง สาหรับวัดศรีคูณเมืองนีมีซากเทวสถาน และเสมาหินของ ขอมหันหน้าไปทางประเทศกัมพูชา ซึงสันนิษฐานว่าเปนศูนยกลางของอาณาจักรในสมัยทีสร้างกรมศิลปากรได้ บูรณะขึนใหม่ในป ๒๕๕๑ ืบือืนืาวื ืดืศืรืคืณืเืมือืง เปนบ่อนาก่อด้วยอิฐขนาดเดียวกับกาแพงเมืองนครเขือนขันธกาบแก้วบัวบานขนาดเส้นผ่านศูนยกลาง ๒ เมตร ลึกประมาณ ๕๐ เมตร มีนาใสสะอาดตลอดป สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พ.ศ .๒๑๐๖ ถือว่าเปนบ่อนาคู่บ้านคู่เมืองเวลามีพระราชพิธีและพิธีสาคัญจะนานาจากบ่อแห่งนีไปใช้ อาทิ พระราชพิธีถือนาพระพิพัฒนสัตยา และพิธีเสกนาพระพุทธมนตศักดิสิทธิ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก วื ืดืถืาืกืลือืงืเืพืล เปนวัดปาทีมีชือเสียงของจังหวัด ในบริเวณวัดมีบรรยากาศทีร่มรืนและเงียบสงบ สันนิษฐานว่าเปนวัด เก่าแก่ แต่ไม่มีหลักฐานว่าสร้างมาตังแต่ พ.ศ.ใด ต่อมาเปนวัดร้าง จนกระเมือป พ.ศ.๒๕๐๑ หลวงปูขาว อนาลโย พระวิปสสนาสายพระอาจารยหลวงปูมัน ภูริทัตตะ เถระ ได้มาจาพรรษาอยู่ทีวัดถากลองเพล ได้อาศัยวัดแห่งนีเปนสถานทีวิปสสนากรรมฐาน โดยได้สร้างอุโบสถ ใช้พืนทีจากหมู่ก้อนหินขนาดใหญ่เปนห้อง โถงขนาดใหญ่ เพือใช้บาเพญสมณธรรม จนกระทังมรณภาพในป พ.ศ.๒๕๒๖ สิริรวมอายุได้ ๙๕ ป ๕ เดือน อยู่ในเพศบรรพชิตถึง ๕๗ พรรษา พิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปูขาวเมือวันที ๑๑ กุมภาพันธ ๒๕๒๗ โดย พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวและสมเดจพระบรมราชินีนาถเสดจพระราชดาเนินมาทรงประกอบพิธี วัดถากลองเพล ตังอยู่บ้านถากลองเพล อาเภอเมืองหนองบัวลาภู บนทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ เส้นทาง หนองบัวลาภู-อุดรธานี ออกจากตัวเมืองไปทางอุดรธานี ๑๓ กิโลเมตร เลียวขวาเข้าไปอีก ๒ กิโลเมตร สามารถ เดินทางโดยรถโดยสารประจาทางสายหนองบัวลาภู - อุดรธานี อาคารเสนาสนะและอนุสรณสถาน ตลอดจน สิงสาคัญทีสาคัญภายในวัดประกอบด้วย หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก ืพืพธื ภื ืณืฑือืฐืบืรืขืาืรืืหืลืวืงืปืขืาืวอนาลโย เปนพิพิธภัณฑสร้างขึนเพือเกบอัฐิและรวบรวมเครืองอัฐบริขารของ หลวงปู ขาว สร้างด้วยหินแกรนิตทีมีรูปทรงสถาปตยกรรมสมัยใหม่ทีสวยงาม โดยเฉพาะอาคารแห่งนี พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระราชทรัพยส่วนพระองคเปนเงิน ๑ ล้าน ๔ แสนบาท เปนปจจัยสมทบทุนก่อสร้างอาคารหลังนี จึงมีคุณค่าทางด้านสถาปตยกรรม และคุณค่าทางด้าน ประวัติศาสตรอีกด้วย เจดียหลวงปูขาว เปนเจดียทีสร้างขึนเมือใช้บรรจุอัฐิหลวงปูขาว สร้างอยู่บนลานหิน มีบันไดเปนทางเดินขึนไปสู่องคเจดีย มณฑปหลวงปูขาว ปนมณฑปจตุรมุขทีหลวงปูขาวสร้างไว้ครังยังมีชีวิตอยู่เพือใช้เปนทีประกอบพิธี สังฆกรรม รอบๆ บริเวณ เงียบสงบและร่มรืน เจดียหลวงปูขาวและมณฑปหลวงปูขาว ตังอยู่บนเส้นทาง เดียวกันกับเส้นทางทีไปวัดถากลองเพล แต่จะถึงก่อนวัดถากลองเพล โดยมีทางแยกทางซ้ายมือเข้าไปประมาณ 300 เมตร วัดถากลองเพลนี มีถาเรียกว่า “ถากลองเพล” ซึงเปนทีมาของชือวัดมีตานานเล่ากันว่า ในถานันมี กลองเพลใหญ่ประจาถาหนึงลูก มีขนาดใหญ่โตมาก ส่วนจะมีมาแต่สมัยใดนัน ไม่มีใครทราบคงจะมีมานานนับ ร้อยปขึนไป จนกลองเพลนันมีความคราคร่า ผุพังแตกกระจัดกระจายเปนชินใหญ่ ชินน้อย โดยไม่มีผู้ใดทาลาย พวกนายพรานเทียวล่าเนือ เวลามาพัก นอนในถายังได้อาศัยเศษไม้ทีแตกกระจัดกระจายจากกลองเพลมาหุง ต้มรับประทานกัน ชาวบ้านใกล้เคียงบริเวณนันจึงได้พากันให้ชือนามถานันว่า ถากลองเพล ครันต่อมามีพระ ธุดงคกรรมฐานไปเทียวบาเพญธรรมและพักในถานันบ่อย ๆ จนถานันกลายเปนวัดคือทีอยู่ของพระขึนมา จึงพากันให้นามว่า “วัดถากลองเพล” จวบจนทุกวันนี บริเวณถากลองเพลในปจจุบันนี ประกอบด้วยปาไม้ทียัง มีความอุดมสมบูรณ เพิงหิน เพิงผา ทีรูปร่างประหลาดและสวยงามมีอาณาเขตกว้างขวางนับร้อยไร่ตังอยู่บน เทือกเขาภูพาน จึงมีทัศนียภาพทีงดงามมาก “แผ่นดินธรรมหลวงปูขาว “หมายถึง แผ่นดินของจังหวัดหนองบัวลาภู เปนดินแดนแห่งธรรมะทีครัง หนึงพระเถระทีมีชือเสียง คือ “หลวงปูขาว อนาลโย” ได้มาเผยแพร่ธรรมะในแผ่นดินนี และได้จาพรรษาตลอด มาที “วัดถากลองเพล” จึงเปนทีรู้จักของพุทธศาสนิกชนโดยทัวไปอย่างกว้างขวาง ชาวหนองบัวลาภูจึง ภาคภูมิใจ ทีหลวงปูขาว ได้มาสร้างแผ่นดินแห่งธรรมะทีคนทัวไปเลือมใสศรัทธาอย่างแรงกล้า จากอดีตจนถึง ปจจุบัน ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก หลวงปูขาว ฉายาว่า อนาลโย ซึงมีความหมายว่า ขาวบริสุทธิ คือ กายกับใจของท่านบริสุทธิสมกับ นามเดิมของท่านชือ “ขาว” โคระถาเกิดเมือวันที 28 ธันวาคม พ.ศ. 2431 ณ บ้านบ่อชะแนง ตาบลหนองแก้ว อาเภออานาจเจริญ (ปจจุบันจังหวัดอานาจเจริญ) จังหวัดอุบลราชธานี มีพีน้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน 7 คน หลวงปูขาวเปนบุตรคนที 4 ของ นายพัว และ นางลอด โคระถา เ มืออายุ ประมาณ 20 ป ได้สมรสกับนางมี มีบุตรธิดา ด้วยกัน 7 คนภายหลังการครองเพศฆราวาสไม่ราบรืน เพราะภรรยาไม่ตังอยู่ในความสันโดษ ทาให้ครอบครัวมีปญหาจึงตัดสินใจออกบวช เมือเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2462 ทีวัดโพธิศรี บ้านบ่อชะแนง ตาบลหนองแก้ว อาเภออานาจเจริญ โดยมีพระครูพุฒิศักดิ เจ้าคณะ อาเภออานาจเจริญ เปนพระอุปชฌายอยู่จาพรรษา เมือศึกษาหลักพระธรรมวินัยทีวัดโพธิศรี ถึง 6 ป ด้วยความบริสุทธิใจดังทีตังไว้ จึงตัดสินใจกราบลาอุปชฌายจารยออกเทียวธุดงคกรรมฐาน ในป พ.ศ 2462 ได้ออกธุดงคไปทางภาคเหนือ ซึงในเวลานันท่านพระอาจารยมัน ภูริทัตะเถระได้มาจาพรรษาอยู่ทางภาคเหนือ เช่นกัน จึงได้รับการอบรมสังสอนจากพระอาจารยมันเสมอ บางครังได้จาพรรษาด้วย จึงทาให้บารมีเริมเกิด ขึนกับหลวงปูขาวตามลาดับ จิตสงบไม่คิดถึงกิเลสตัณหาในอดีตต่อไปจนถึง พ.ศ. 2488 ได้เดินทางกลับมา จาพรรษาทีวัดบ่อชะแนงบ้านเกิด ในระหว่าง พ.ศ. 2496 – 2500 ได้ธุดงคไปจาพรรษาทีวัดหม้อทอง จังหวัดสกลนคร สุดท้าย ก่อนทีจะเข้าจาพรรษาที วัดถากลองเพล อาเภอเมืองหนองบั วลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู (เดิมจังหวัดอุดรธานี) บาเพญภาวนาบารมีแก่กล้ายิง เปนทีเคารพเลือมใสศรัทธาของ พุทธศาสนิกชนทัวประเทศ จนทาให้วัดถากลองเพลเปนทีรู้จักของบุคคลทัวไปอย่างกว้างขวาง หลวงปูขาว มรณภาพด้วยโรคชรา เมือวันจันทรที 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2526 สิริอายุได้ครบ 95 ป 5 เดือน ถึงแม้ว่าจะมรณภาพไปนานปแล้วกตาม แต่ชือเสียงบารมีและคาสอนของหลวงปูขาว ยังเปน อมตะชัวนิรันดร “หลวงปูขาว” จึงเปนสัญลักษณแห่งดินแดนธรรมะทีชาวจังหวัดหนองบัวลาภูภาคภูมิใจ และร่วมใจกันผนึกกาลังให้ดินแดนแห่งนีเปน“แผ่นดินธรรมหลวงปูขาว”สืบทอดเปนมรดกแก่ลูกหลาน ชาวจังหวัดหนองบัวลาภู ตลอดไป ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก ืหือืไืตืรืวืดืมืหืาืชืย ตังอยู่ด้านทิศเหนือภายในวัดมหาชัย เปนสิงก่อสร้างสาหรับเกบรักษาพระไตรปฎกคัมภีรใบลาน หนังสือหรือเอกสารธรรมะต่างๆ สร้างประมาณป พ.ศ.๒๔๔๕ – ๒๔๕๐ ผู้สร้างคือ พระอาจารยแสง ธัมมธีโร เจ้าอาวาสถือว่าเปนห้องสมุดสาหรับพระภิกษุสามเณร ลักษณะรูปทรงเปนเรือนไม้ยกพืนสูง กันฝา มีระเบียง และลูกกรงกันรอบๆ เดิมหลังคาจะมุงด้วยแปนไม้ ก่อสร้างอยู่กลางสระนา เพือปองกันมอดปลวกหรือ แมลงต่างๆ ติดกับ ฝงโดยใช้สะพานชักเพือมิให้มีสิงเชือมต่อระหว่างฝง พื รืืะืบืาืงืวืดืมืหืาืชืย พระบางวัดมหาชัย เปนพระพุทธรูปปางห้ามญาติ จานวนหนึงคู่เปนโบราณวัตถุทีสาคัญของจังหวัด หล่อด้วยทองสีดอกบวบ มีอักษรจารึกอยู่ทีฐานเปนภาษาขอม บอกชือผู้สร้างและวันเดือนปทีสร้างอ่านได้ความ ว่า “สังกาดได้ร้อยแปดสิบห้าตัว ปกาเมด เดือนยี แรม ๑๕ คา วันหก แม่อวนพ่ออวนผัวเมียมีศรัทธาสร้างไว้ ในพระศาสนา” เมือคานวณดูตามปแล้วคงสร้าง เมือป พ.ศ.๒๓๖๖ พระพุทธรูปทังสององคนี ชาวหนองบัวลาภูเคารพนับถือมาก โดยเมือถึงเทศกาลสงกรานต จะมีพิธีแห่พระพุทธรูปทังสององครอบตัว เมืองหนองบัวลาภู เพือให้ประชาชนได้สรงนาและสักการะบูชา เกิดความศิริมงคลต่อชีวิต ปจจุบันพระบาง ประดิษฐาน ณ หอพระบาง วัดมหาชัย เปดให้ประชาชนได้สักการะทุกวัน ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก วื ืดืธืาืตืหืาืญืเืทืาืวื ตังอยู่ตาบลบ้านขาม อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สังกัดคณะสงฆมหานิกายเดิมเปนวัดฝายคณะธรรมยุติ สร้างเมือป พ.ศ. ๒๓๒๘ เคยเปนวัดร้าง ต่อมาพระมหาสุตัน สุตาโณ พร้อมด้วยชาวบ้านได้บูรณะองค พระธาตุขึนใหม่และได้เปลียนชือวัดใหม่เปนวัดพระธาตุหาญเทาวสังกัดคณะสงฆมหานิกายสาเหตุทีเปลียนชือ จากหันเทาวมาเปนหาญเทาวด้วยเหตุว่าองคพระธาตุได้ แสดงอิทธิฤทธิปาฏิหาริยปรากฏดวงแก้วไฟใสสว่างขึน ทุกแรม ๑๕ คา จึงได้เปลียนเปนหาญเทาว จนถึงทุกวันนี นอกจากนีภายในบริเวณพระธาตุด้านทิศเหนือ มีพระพุทธรูปปูนปนศิลปะล้านช้าง ซึงเปนทีเคารพบูชาของประชาชนทัวไปเช่นกัน ืวืดืปืาืสืาืมืคืคืสืรืพืฒืนืาืรืาืมืื(ืกืดืโืพืนืทืนื) ตังอยู่บ้านโนนบก ตาบลลาภู อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู เปนวัดเก่าแก่มาแต่ โบราณกาล มีซากอุโบสถ และโบราณวัตถุหลายชิน โดยอายุสันนิษฐานว่า คงจะสร้างสมัยเดียวกับเมืองนคร เขือนขันธกาบแก้วบัวบาน เพราะซากอิฐและโบราณวัตถุมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันปจจุบันมีเนือทีประมาณ ๒๐๐ ไร่ มีพืนทีปาสมบูรณ สงบร่มรืน เหมาะต่อการเปนสถานทีวิปสสนากรรมฐานอย่างยิง หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก ืวืดืโืพืธืศืรื(ืวืดืหืาืยืโืศืกื) เดิมชือ วัดพระราชศรีสุมังคหายโศก ซึงเปนชือมาจาก พระราชศรีสุมังคหายโศก ทีประดิษฐานที อุโบสถวัดโพธิศรี บ้านลาภู อาเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลาภู สันนิษฐานว่า เปนพระพุทธรูปทีสร้างรุ่นเดียวกัน กับ พระไชยเชษฐา วัดถาสุวรรณคูหา และวัดศรีคูณเมือง สร้างประมาณป พ.ศ. ๒๑๐๖ เปนพระพุทธรูป ศักดิสิทธิทีเจ้าเมืองและชาวเมืองเคารพนับถือมาก ใช้เปนพระประธานในพิธีถือนาพิพัฒนสัตยาและดืมนา สาบานในอดีต ืพรื ืะืพืทืธืรืตืนืเือืกืโืกืเืมืนืทืรืืศืนืยืปืฏืบืตืธืรืรืมืหืนือืงืนืาืเืพืชืรืมืงืคืล ตังอยู่ศูนยปฏิบัติธรรมหนองนาเพชรมงคล บ้านเพกเฟอย-ห้วยเตย ตาบลหนองหว้า อาเภอเมือง หนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู เปนพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๖ เมตร สูง ๘.๒๐ เมตร ซงึ พระเจ้าหลานเธอพระองคเจ้าพัชรกิติยาภา ทรงสร้างถวาย ทรงประทานนาม พร้อมประทานพระอนุญาตให้ ใช้พระนามย่อประดิษฐานณฐานพระพุทธรูปและประทานพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในพระเกศและทรง ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ในวันที ๒๐ กุมภาพันธ พ.ศ.๒๕๕๓ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก สื ืพืพืสืงืวืรืเืจืดืยื ตังอยู่บนทีพักสงฆภูหินกอง บ้านนาแค ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ซึงตังอยู่ ณ บริเวณ เชิงเขาภูพาน โดยพระครูปรีชาญาณคุณ สร้างขึนสาหรับเปนสถานทีปฏิบัติธรรมของพระสงฆ มีความสูง ๓๐ เมตร กว้าง ๑๖ เมตร เริมก่อสร้างเมือวันที ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ ซึงพระเจ้าหลานเธอพระองคเจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเปนองคประธานเปด และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วันที ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ืปโืืมืทืตืเืจืดืยืือืาืคืาืรืพืพืธืภืณืฑืหืลืวืงืปืหืลือืด ปโมทิตเจดีย เปนเจดีย ๓ ชัน มีขนาดกว้าง ๒๐ เมตร ความยาว ๔๒ เมตร ความสูง ๓๕ เมตร อยู่ทีวัดปาศรีสว่าง บ้านขาม ตาบลบ้านขาม อาเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลาภู ห่างจากตัวเมืองไปทางอาเภอ โนนสัง ประมาณ ๑๐ กิโลเมตรภายในเจดีย ประกอบด้วย ชันที ๑ เปนศาลาปฏิบัติธรรมและห้องประชุม ชันที ๒ เปนอาคารพิพิธภัณฑของ หื ืลืวืงืปืหืลือืดืืปืโืมืทืโืต ชันที ๓ เปนทีประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ มีพิธีเปด ใน ๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๖ โดยหลวงปูหลอดเปนประธานในพิธีอัญเชิญ พระบรมสาริกธาตุ บรรจุในปโมทิต เจดีย ทางวัดเปดให้ผู้สนใจเข้าชมและสักการะ ตังแต่ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. โดยหยุดทุกวันจันทรยกเว้น วันจันทรวันนักขัตฤกษ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก เืจื ืดืยืวืดืสืรืสืาืลืวืน เจดียวัดสิริสาลวัน ตังอยู่ภายในวัดสิริสาลวัน ตาบลโนนทัน อาเภอเมืองหนองบัวลาภู เปนเจดียทีสร้าง ขึนเพือบรรจุอัฐิธาตุ หลวงปูบุญมา ฐิตเปโต ซึงหลวงปูได้มรณภาพ เมือวันที ๒๗ เม.ย.๒๕๒๓ โดยพระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวทรงเสดจพระราชดาเนิน ทรงมาเปนองคประธานในการประกอบพิธี พระราชทานเพลิงศพ เมือวันที ๒๔ มีนาคม ๒๕๒๔ ืศืาืลืเืจืาืปืหืลืบ ตังอยู่บริเวณดอนหัน บ้านห้วยเชียง ริมถนนหนองบัวลาภู -อุดรธานี ทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ จากตัวเมืองหนองบัวลาภูไปทางจังหวัดอุดรธานี ประมาณ ๓ กิโลเมตร “ปูหลุบ” เปนทีเคารพและ ศรัทธาของประชาชนทัวไป เวลาขับรถยนตและรถจักยานยนตผ่านเส้นทางสายนี จะบีบแตรสามครัง เพือ ขอให้เดินทางด้วยความปลอดภัยและประสบโชคดี บางทีมีคนไปอธิษฐานบนบานศาลกล่าวเพือขอให้ปูหลุบได้ ช่วยเหลือ เมือประสบผลสาเรจแล้ว กจะนาเหล้าไหไก่โตหรือไม่กหัวหมูไปถวายเปนการแก้บน ปจจุบันนิยม นาหมอลาชิง หมอลาเพลินและภาพยนตรไปแก้บนในเวลากลางวัน หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก ปูหลุบเปนชือคนจริงในอดีตเมือประมาณ 200 ป ทีผ่านมา ปจจุบันเปนชือศาลอันเปนทีสถิตของ ดวงวิญญาณตามความเชือดังเดิมของคนในท้องถิน ศาลปูหลุบจะมีอยู่ 3 แห่ง ใหญ่ๆ คือ ลาปางแห่งหนึง ดงลานแห่งหนึง และอีกแห่งคือหนองบัวลาภู ประวัติความเปนมาของปูหลุบ เดิมนันท่านเปนคนหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ มีชีวิตอยู่ในช่วงป พ.ศ.2350-2390 เปนผู้มีรูปร่างใหญ่ แขงแรง กล้าหาญ และมีวิชา อาคมด้านอยู่ยงคงกระพัน ท่านจึงถูกเลือกเปนหัวหน้าหมู่บ้าน อยู่ต่อมาเกิดความขัดแย้งกันในหมู่บ้านและ หมู่บ้านใกล้เคียง ท่านจึงอพยพครอบครัวพร้อมญาติพีน้องทีใกล้ชิด รวมทังกลุ่มของเทพชมภูมาสร้างบ้าน แปลงเมืองใหม่ทีบ้านลาภู (เขตเทศบาลเมืองหนองบัวลาภู ) ต่อมาท่านเกิดขัดแย้งกับกลุ่มของเทพชมภู จึงอพยพครอบครัวไปอยู่บ้านโนนปาหว้าน (เขตอาเภอสุวรรณคูหา) วาระสุดท้ายของชีวิต ท่านได้ขอเปนใหญ่ ในโลกแห่งวิญญาณตังแต่เขตภูพานถึงเทือกเขาแดนลาว ความเชือของคนมีมากมายหลากหลายไม่จากัด เมือมีเหตุการณต่างๆ เกิดขึนในหมู่บ้านไม่ว่าไปทามาหากินตามวิถีทางแห่งการคงอยู่ เมือมีสิงไม่ดีไม่งามเกิดขึน ชาวบ้านกจะขอขมาลาโทษ อย่าให้มีเวรกรรมต่อกัน มีหลายสาเหตุเนืองมาจากความเชือและความกลัวผสมกัน เมือเกิดเหตุการณต่างๆขึนกว่าปูหลุบเข้าสิง โดยมีสือกลางระหว่างผีกับคนนันคือ \"นางเทียม เช่น ยายดาบ้าน วังหมืน เทียมว่าปูหลุบเข้าสิงเพือมาอยู่กับเจ้าพระวอ พระตา จึงรับปูหลุบไว้เพือรักษาเขตแดนซึงเหนได้ใน ปจจุบันตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 210 อุดรธานี-หนองบัวลาภู เมือรถทุกชนิดวิงผ่านจะบีบแตรเปน สัญญาณเพือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยสิน ชาวหนองบัวลาภูจัดงานบวงสรวงในวันพุธและวันพฤหัสบดี แรกของเดือน 6 (ประมาณเดือนพฤษภาคม) ของทุกปบริเวณศาลพระวอพระตา และศาลเจ้าพ่อปูหลุบ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก หอสองนาง \"สองนาง\" หรือหอสองนาง ตังอยู่ริมหนองบัวด้านทิศตะวันตกใกล้ตลาดแม่สาเนียงซึงถือว่าเปน สถานที อีกแห่งหนึงทีเกิดขึนมาพร้อมกับเมืองหนองบัวลาภู ตังแต่อดีตจนถึงปจจุบัน โดยทีไม่มีผู้ใดจะลบล้าง หรือทาอย่างหนึงอย่างใดได้ ชาวเมืองหนองบัวลาภู ถือว่าเปนส่วนหนึงคู่กับศาลพระวอพระตา โดยมีตานาน เล่าถึง “สองนาง” ทีเปนหลานพระวอพระตา ทีอยู่ริมหนองบัวได้มาเฝารักษาฆ้องเมือง \"มิงเมือง\" ของพระวอ พระตา ซึงเปนฆ้องขนาดใหญ่มากไม่สามารถจะเอาไปได้ เมือคราวพ่ายศึกทางเวียงจันทน ท่านจึงให้คนเอาไป ฝงไว้ในหนองบัว เพือทีจะไม่ให้ทางเวียงจันทนเอาคืนไป แล้วมอบให้หลานฝาแฝดหญิง ของท่านมารักษาฆ้อง ไว้ในโลกแห่งนามธรรม ซึงฝาแฝด ผู้พีชือ \"คาสี\" คนน้องชือ \"คาใส\" จึงเปนทีมาของ หอสองนาง ืหืมืบืาืนืหืตืถืกืรืรืมืเืคืรือืงืปืนืดืนืเืผืาืืบืาืนืโืคืงืสืวืรืรืคื บ้านโค้งสวรรคเปนหมู่บ้านขนาดเลก ตังอยู่ริมทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ อยู่ห่างจากตัวเมือง หนองบัวลาภู ๑๘ กิโลเมตร ขึนกับ ตาบลโนนทัน อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ชุมชนเกิดจากการย้ายถินฐานของ ชาวโคราช ซึงได้นาภูมิปญญาการปนหม้อมาเผยแพร่ เดิมทีเปนพืนทีปา ชาวบ้านเรียกว่า “มอมหาตัน” และได้ เข้ามาตังชุมชนครังแรกเมือ ป พ.ศ.๒๕๐๐ โดยนายพรมกับนางไหล จงชนะคดี สภาพทีอยู่อาศัยมีหนองนา สาธารณะทีมีดินเหนียวเหมาะแก่การปนหม้อ การปนหม้อของชาวบ้านจะเปนงานหัตถกรรมทีใช้มือและความ ชานาญในการทา กรรมวิธีการผลิตเปนศิลปหัตถกรรมแบบดังเดิม เปนเอกลักษณทีโดดเด่นเฉพาะในท้องที เครืองปนดินเผาทีสาคัญ คือ แจกัน แอ่งนา หม้อดิน หรือหม้อแกงอ่อม ฯลฯ ส่วนแจกันขนาดใหญ่ช่างปนจะ ทาส่งพ่อค้าบ้านเชียง อาเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก ภื ืหืนืลืาืดืชือืฟืา ภูหินลาดช่อฟา ตังอยู่ทีเทือกเขาภูพานคา บ้านภู พานคา ตาบลโนนทั น อาเภอเมื อง หนองบัวลาภู เปนอาณาบริเวณของปาดิบและลานหินกว้างใหญ่ ผืนปายังอุดมสมบูรณ มีความงดงามของ พันธุไม้ปาชนิดต่างๆ มีก้อนหินขนาดน้อย ใหญ่รูปร่างลักษณะแปลกตาเปนร่องคล้ายถูกนาเซาะกัดกร่อนมา เปนเวลานาน จนก่อให้เกิดโขดหินรูปร่างคล้ายช่อฟาและโพรงถา สามารถเดินชมดอกไม้ปาทีเกาะเกียวกับผนัง ของหิน และสามารถมองเหนทัศนียภาพของตัวจังหวัดหนองบัวลาภู และเขือนห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานีได้ อย่างชัดเจน และเคยเปนสถานทีพานักและศูนยบัญชาการของนิสิต นักศึกษา และผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ในการต่อสู้ทางการเมือง เมือป พ.ศ.๒๕๑๙ ในอดีตทีผ่านมา และมีประวัติเกียวกับสถานทีต่างๆ ในการต่อสู้ และดารงชีวิตของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ทีน่าสนใจและมีประวัติเกียวกับทับต่างๆ ประกอบด้วย ทับบันเทิง ทับสามสิบสองอ่าง ทับถาใหญ่ ทับกกบก ทับสูง ทับโรงแรม ทับวิวัฒน ทับพยาบาล ทับซาบก ฯลฯ และยังมี สถานทีน่าสนใจอีกหลายแห่ง คือ ลานตาหมากฮอต ซานกยูง ลานกลางภูหินลาดช่อฟา ถาเวที และถาวิทยุ เอกสาร จึงเปนสถานทีทางประวัติศาสตรทีน่าศึกษาและพัฒนาเปนแหล่งท่องเทียวของ จังหวัดอีกแห่งหนึง และมีืสืถืปืภืซืาืง (อนุสรณสถานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย) ทีบ้านห้วยเดือ ตาบลโนนทัน เปนสถานทีเกบอัฐิของ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ทีเสียชีวิตในการต่อสู้และจากการเจบปวย ประมาณสองร้ อยกว่าคน ในเขตเทือกเขา ภูพานคา ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก กาเนิดนักปฏิวัติแห่งภูช่อฟา แนวคิดของพรรคคอมมิวนิสตฯเริมแพร่ขยายไปตามหมู่บ้านชนบท รวดเรวราวไฟลามทุ่ง ตังแต่ปพ.ศ. 2501 ในยุคของจอมพลสฤษดิ ธนะรัชต ซึงทารัฐประหารยึดอานาจ ในวันที 20 ตุลาคม 2501 แล้วใช้มาตรการรุนแรงปราบปรามผู้ทีมีความคิดเหนทางการเมืองแตกต่าง สังประหารชีวิตและจับกุมบุคคลแบบเหวียงแห โดยใช้ข้อหามีการกระทาอันเปนคอมมิวนิสตพ.ศ.2504 รัฐบาลเริมใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับทีหนึง ซึงเน้นการสร้างถนนหนทางทัวประเทศ ด้วยหวังว่าหนทางทีสะดวกสบาย จะทาให้ทางการสามารถเข้าถึงประชาชนในท้องถินทุรกันดารได้มากขึน และถนนทีเปนตัวนาทางความเจรญิ ทางวตั ถุ จะทาใหค้ อมมิวนิสตหายไป แต่ความคาดหวังดังกล่าวกลับพลิก ผันโดยสินเชงิ การสรา้ ง ถนนหนทางกลบั ยงิ เหมือนปูทางสะดวก ให้กับการเผยแพร่แนวความคิดของพรรค คอมมวิ นสิ ต ช่วงทีสร้างถนนสายอุดรธานี – หนองบวั ลาภู ได้เปดรับคน ทอ้ งถนิ ซงึ ส่วนใหญเ่ ปนชาวนาเข้ามา เปนกรรมกรสรา้ งทางทาใหช้ าวนาทอี ยู่กนั อย่างกระจัดกระจายไดม้ ีโอกาสรวมกลมุ่ กันไดม้ ีโอกาส ใกล้ชิดผ้ปู ฎิบตั งิ านของพรรคคอมมิวนสิ ตซึงเปนนายช่างจึงได้เรียนรู้เรืองการเมืองได้มองเหนโครงสร้างสังคม ทงั ระบบเข้าใจแจง้ ว่าความทกุ ขยากของตัวเองเกียวกับการเมืองเช่นไรทาให้เกิดการตืนตัวทางการเมืองอย่าง กวา้ งขวางภูหินลาดชอ่ ฟา ณ.วันนีกลายเปนแหลง่ ท่องเทยี วทางธรรมชาติทมี ที วิ ทศั นสวยงาม หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก วื ืนือืทืยืาืนืบืวืบืาืน วื ืนือืทืยืาืนืบืวืบืาืน ตังอยู่บนเทือกเขาภูพาน ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองหนองบัวลาภูจังหวัด หนองบัวลาภู ทางเข้าบริเวณบ้านภูพานทอง เข้าไปประมาณ ๔ กิโลเมตร ห่างจากตัวเมือง ๗ กิโลเมตร เปนหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตวปา และพันธุพืช มีเนือทีประมาณ ๒,๐๐๐ ไร่ มีแหล่ง ท่องเทียวทีสวยงามหลายแห่ง เช่น ผาชมเมือง ลานหมาจอก ธารนาตก ถาพระ และโขดหินเมืองเก่าเปนต้น มีแนวเขตติดต่อกับแหล่งท่องเทียวเชิงนิเวศภูพานน้อย ลักษณะภูมิประเทศเปนภูเขา สามารถมองเหน ทัศนียภาพของจังหวัดหนองบัวลาภูทีสวยงามทังกลางวันและกลาง คืน ปจจุบันแหล่งท่องเทียวแห่งนีสามารถ พัฒนาด้านการท่องเทียวให้เปนแหล่ง เรียนรู้ทางธรรมชาติ เปนสถานทีดาเนินกิจกรรมต่างๆ จากทังหน่วยงาน ราชการและนักท่องเทียว เช่นการเข้าค่ายอบรมและพักแรมมีห้องประชุมบ้านพักไว้บริการสอบถามข้อมูล หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก ืแหื ืลืงืทือืงืเืทืยืวืเืชืงืนืเืวืศืภืพืาืนืนือืย แหล่งท่องเทียวเชิงนิเวศภูพานน้อย ตังอยู่ทีเทือกเขาภูพาน ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวัดหนองบัวลาภู ทอดตัวยาวจากทิศตะวันออกของอาเภอเมืองหนองบัวลาภูไปทางทิศใต้สู่เทือกเขาภูเก้า อาเภอโนนสัง มีพืนทีประมาณ 35,000 ไร่ จากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าอยู่นอกเขตพืนทีปาสงวนปา อนุรักษและเขตพืนทีธนารักษแต่ยังคงมีสภาพพืนทีภูเขาและปาไม้เบญจพรรณตาม พ.ร.บ.ปาไม้ พ.ศ.2484 ซึงเปนหน้าทีของผู้ว่าราชการทางเข้าบริเวณบ้านภูพานทอง เข้าไปประมาณ ๕ กิโลเมตร ห่างจากตัวเมือง ๘ กิโลเมตร เปนแหล่งท่องเทียวทางธรรมชาติทีสวยงาม มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีภูมิประเทศที สามารถมองเหนทิวทัศนจังหวัดหนองบัวลาภูได้ทังหมด มีจุดชมทิวทัศนทีสร้างด้วยไม้ในบริเวณหน้าผา และมี อีกหลายจุดทีสวยงามแตกต่างกันไป จุดเด่นภายในแหล่งท่องเทียวจะมีหอดูดาว ทีจังหวัดหนองบัวลาภูได้สร้าง ไว้รองรับนักท่องเทียวทีสนใจในการดูดาว และยังชมดาวบนดินยามคาคืน ทีเกิดจากแสงไฟฟาระยิบระยับของ ตัวเมือง มีลักษณะเหมือนมองดูดาวบนฟา สนใจสอบถามข้อมูลเพิมเติมได้ที อบจ.หนองบัวลาภู โทร. ๐-๔๒๓๑-๒๘๗๐-๑ ภูพานน้อยมีสภาพพืนทีเปนภูเขาและปาไม้เบญจพรรณ จุดเด่นของเทือกเขาภูพานน้อยคือ มีพืนที ส่วนหนึงอยู่ใกล้ตัวเมืองทาให้ดูมีเสน่หและท้าทายความนึกคิดทีอยากจะเหนภาพภูมิประเทศอันเปนทีมาของ คาว่า \"หนองบัวลาภู\" จึงได้ริเริมจัดทีมสารวจประกอบด้วยเจ้าหน้าทีปาไม้ หมอยาสมุนไพรพืนบ้านและพราน ท้องถิน พบว่ามีสภาพเปนปาเตงรัง 60 % ปาเบญจพรรณ 40 % คือ เปนปาผลัดใบมีพืชสมุนไพรมากมายมี ความหลากหลายทางชีวภาพเหมาะแก่การอนุรักษไว้เพือการศึกษาต่อมาจังหวัดหนองบัวลาภูเหนว่าพืนทีภู พานน้อยมีศักยภาพทีน่าจะพัฒนาเปนแหล่งท่องเทียวเชิงนิเวศได้จึงได้จัดทาโครงการพัฒนาขึนโดยใช้ งบประมาณจากโครงการพัฒนาตามยุทธศาสตรการพัฒนาจังหวัด( CEO)ทาการปรับปรุงถนนทางขึนและ พัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จัดบริเวณพืนทีบริการและนันทนาการ สร้างลานชมวิว ห้องสุขาและสิงอานวย ความสะดวกพืนฐานปจจุบันสามารถให้บริการนักเรียน ลูกเสือ เนตรนารี เข้าค่ายพักแรมและมีนักท่องเทียว สามารถมาเทียวชมได้ทังในเวลากลางวันและกลางคืน ภูพานน้อยเปนสินทรัพยทางธรรมชาติทีชาวจังหวัด หนองบัวลาภูดูแลรักษาเพือการดารงอยู่อย่างพอเพียงของทุกชีวิตโดยมีพันธกิจทีสาคัญ คือ 1. ดูแลรักษาและฟนฟูสภาพทรัพยากรปาไม้และระบบนิเวศให้มีความอุดมสมบูรณยิงขึนตามแนว พระราชดาริฯ อันเปนทีมาของ \"โครงการปารักษนา\" ด้วยการสร้างฝายต้นนาตามโครงการ 80 พรรษา 80 ต้นฝาย และโครงการหนึงคน หนึงต้น หนึงฝน ให้ปรากฏผลอย่างเปนรูปธรรม 2. เสริมสร้างและพัฒนาให้เปนแหล่งเรียนรู้ศึกษาหาความรู้ทางธรรมชาติและระบบนิเวศแก่เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทัวไป จัดให้มีเส้นทางศึกษาธรรมะ (ตามรอยธรรม) และเส้นทางศึกษา ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก ธรรมชาติจัดสร้างฐานกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี รวมทังสนับสนุนการนันทนาการ เช่น กิจกรรมรอบกองไฟ การฝกอบรมต่างๆ 3. พัฒนาเปนแหล่งท่องเทียวเชิงนิเวศ และการกีฬา ให้บริการพีน้องประชาชนชาวจังหวัด หนองบัวลาภู และนักท่องเทียว ได้ขึนมาพักผ่อนหย่อนใจในท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติทีบริสุทธิ และได้ชมทัศนียภาพความเปนหนองบัวลุ่มภูได้ในทุกฤดูกาล รวมทังการจัดกิจกรรม เดิน/วิงมาราธอน และการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา เปนต้น 4. พัฒนาให้เปนศูนยเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดาริฯ ด้วยการจัดนิทรรศการ/สาธิต การประกอบอาชีพ และการดารงชีวิตอย่างพอเพียง ปจจัยสาคัญแห่งความสาเรจตามพันธกิจทีกล่าวข้างต้น คือ ความร่วมมือร่วมใจและความมุ่งมันของพีน้องชาวจังหวัดหนองบัวลาภู ทีจะทาให้ \"ภูพานน้อย\" เปนศูนย เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เปนศูนยการท่องเทียวและกีฬาและเปนศูนยฝกอบรมและนันทนาการอันจะ เปนแหล่งทุนทางปญญา ทุนสังคม และทุนทางเศรษฐกิจ ทีเปนสินทรัพยทางธรรมชาติของชาวจังหวัด หนองบัวลาภูทุกคน หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก อื ทื ืยืานื ืนืาืตืกืเืฒืาืโืตื อื ืทืยืาืนืนืาืตืกืเืฒืาืโืตืตังอยู่ริมทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ (หนองบัวลาภู – อุดรธานี) จากตัวเมืองไป ทางจังหวัดอุดรธานี ประมาณ ๓ กิโลเมตร ทางลงไปนาตกอยู่ ใกล้เคียงกับศาลเจ้า “ปูหลุบ” นาตกเฒ่าโต้ เปนนาตกทีเหมาะในการพักผ่อนหย่อนใจ มีความร่มรืนเตมไปด้วยปาไม้นานาพรรณ และโขดหินรูปต่าง ๆ สวยงามตานานนาตกเฒ่าโต้ มีอยู่ว่า เนินนานกาลก่อน ย้อนรอยถอยหลัง ครังหนึงเฒ่าโต้ คนโตถินนี มีศักดิมี ศรี เปนทีรู้จัก สาวเคยคุ้น มีคุณธรรม จาใจเดินปา พรานไพรหนา หาเลียงชีวิตคิดอยากท่องเทียว เลียวและชม เขา พบสาวเลียงสัตวลัด และเลมหญ้า อยู่กลางไพรหนา ปนผาหาหน่อไม้ ได้เรียนล่อต่อรัก ฮักชวนสนุก ทุกคนเฮฮา ตามประสาชาวดง นวลอนงคเอ่ยเอือน กับเพือนสองคน ดลใจให้ท้าทาย หมายเปนคู่ครอง ถ้าเฒ่าโต้หมายปอง ให้กระโดดเหวลึก ถ้าแม้นปลอดภัย ได้เมียดังใจนึก ตาเฒ่าจึงตังท่า เลยผวากระโดด โลดแล่นตกผา เพราะ ด้ามพร้าสะพาย ดันกายกระทุ้งดิน กระแสสินพัดพา ตาเฒ่าตกอับ หว่างกลางไพรพฤกษ รอดตายมา รู้สึกว่า ตนปลอดภัย จึงได้ทวงสัญญา สองแม่กานดา จึงมอบกายา เปนเมียตาเฒ่า เฝาปรนนิบัติ ประวัติมีมาให้สมญานาตกเฒ่าโต้แห่งนีแห่งนีพึงฉงน\" หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก พื ืพธื ภื ืณืฑืหือืยืหืนื๑๕๐ืืลืานื ืปื ตังอยู่ทีบ้านห้วยเดือ ตาบลโนนทัน จัดแสดงเกียวกับวากฟอสซิลหอยอายุราว ๑๔๐ – ๑๕๐ ล้านป ซึงค้นพบจานวนมากทีบริเวณหน้าผาสูงชัน มีสภาพทีสมบูรณ และยังค้นพบซากกระดูกจระเข้โบราณ เศษหิน จาไมก้าและแร่ธาตุบางชนิดอีกด้วย ภายในบริเวณยังสามารถชมอาคารแสดงนิทรรศการกระดูกไดโนเสารทีขุด พบอยู่ใน ชันหินเหนือชันทีพบซากหอยหิน ๒ เมตร เปนกระดูกขาหน้าส่วนบนทังซ้ายและขวา ขาหลัง และอีก หลายชิน และภายในอาคารยังมีหุ่นยนตไดโนเสารเคลือนไหวได้ ๘ จุด ตัวแรกในประเทศไทย เปนไดโนเสาร ตระกูลทีเรกซ ขนาดเท่าตัวจริง ขนาดยาวกว่า ๗ เมตร สูง ๓ เมตร โดยเปดให้ชมทุกวัน นอกจากนีภายใน พืนทียังเปนทีตังของศาลสมเดจพระนเรศวรมหาราช แห่งที๒ไว้ให้ผู้มาเยือนได้สักการะบูชาอีกด้วย กื ืาืรืเดื ืนืทืาืง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ (หนองบัวลาภู – อุดรธานี ) กิโลเมตรที ๘๘ ห่างจากตัว เมืองหนองบัวลาภู ๑๐ กิโลเมตร ทางเข้าทางเดียวกันกับทีทาการขององคการบริหารส่วนตาบลโนนทัน เมือป พ.ศ. 2537 ชาวบ้านห้วยเดือได้เกบซากดึกดาบรรพหอยสองฝาไหล่เขาบริเวณเหมืองหินร้าง มาขายในราคา กิโลกรัมละ 2- 20 บาท ในระยะแรก ชาวบ้านสามารถขุดเกบซากหอยดังกล่าวได้โดยจาก บริเวณหินผุในสภาพเปนตัวๆ ฝงอยู่ในดินบางบริเวณทีมีนาไหลชะล้างดินออกไปจะเหนซากหอยโผล่กระจัด กระจายอยู่ทัวไป ซากหอยทีพบบางตัวมีความสมบูรณสวยงามราคาสูงถึงตัวละ 1,500 บาท กมีต่อมาเมือมี ผู้คนเข้าไปขุดหามากขึนซากหอยดึกดาบรรพกหมดไป เหลือแต่ทีฝงอยู่ในชันซากดึกดาบรรพ(ฟอสซิล) ซึงเปนหินแขงทียังไม่ผุสลายยากทีจะสกัดเอาซากหอยดึกดาบรรพออกมาได้ และสภาพซากหอยไม่สมบูรณ จึงมีราคาไม่สูง แต่เนืองจากยังมีผุ้ต้องการซือซากหอยดึกดาบรรพเหล่านีอยู่ จึงยังคงมีชาวบ้านเข้าไปขุดและ สกัดเอาซากหอยดึกดาบรรพออกมาขายกันอยู่เนืองๆประกอบกั บในช่ วงเวลาดั งกล่ าวมี หนั งสื อพิ มพหลายฉบั บ ได้เสนอข่าวเกียวกับการขุดหาซากหอยดึกดาบรรพทีบริเวณบ้านห้วยเดือ จึงเปนสาเหตุทีมีผู้สนใจเดินทางเข้า มาดูแหล่งหอยดึกดาบรรพมากยิงขึน ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก หื ืนือืงืบืว หนองบัว เปนหนองนาขนาดใหญ่ อยู่บริเวณหน้าทีว่าการอาเภอเมืองหนองบัวลาภู ติดสนามสมเดจ พระนเรศวรมหาราช มีนาขังตลอดป เปนสถานทีพักผ่อนหย่อนใจและออกกาลังกายของชาวหนองบัวลาภู มีเนือที ประมาณ ๑๓๕ ไร่ ภายในบริเวณ ด้านทิศตะวันออกของหนองบัวเปนทีตังของ “ศาลสมเดจพระ นเรศวรมหาราช” ด้านทิศตะวันตก จะเปนทีตัง “หอสองนาง” ภายในพืนทีจะเปนสถานทีจัดแสดงดอกบัวสาย พันธต่าง ๆ ไว้ให้ศึกษาและเทียวชมอย่างสวยงาม และในบริเวณรอบหนองบัวด้านสนามนเรศวรมหาราช เปนทีตังของร้านอาหารประเภทไก่ย่าง ส้มตา ปลาเผา ทีผู้คนนิยมไปนังรับประทาน หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก ตลาดืปรืืะืชืาืรืฐืลืาืนืคืาืชืมืชืนืบืาืนหื ืวืยืเืดือ ตลาดจาหน่ายสินค้าพืนบ้านตามฤดูกาล ทีชาวบ้านนามาวางขาย เช่น หน่อไม้ เหด ของปา ผลไม้ และสินค้าด้านการเกษตรของท้องถินตามฤดูกาล เปนทีสนใจและนิยมจากผู้คนทีผ่านไปมาเปนอย่างดี สร้างรายได้แก่ชุมชน ตังอยู่ริมถนนหนองบัวลาภู – อุดรธานี บ้านห้วยเดือ ตาบลโนนทัน ห่างจากตัวเมือง หนองบัวลาภู ๑๑ กิโลเมตร หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก ืวืดืศืรืสืรืะืแืกืวืพืรืะือืาืรืาืมืหืลืวืง 1.ื ทีตังืืวัดศรีสระแก้ว ตังอยู่เลขที 145 หมู่ 2 บ้านเหล่าโพธิชัย ตาบลนามะเฟอง อาเภอเมือง จงั หวดั หนองบวั ลาภู สงั กดั มหานกิ าย มีเนือที 10 ไร่ 2 งาน 70 ตารางวา ตามโฉนดทดี นิ เลขที 9131 2. ประวตั ิความเปนมา วัดศรีสระแก้วได้เริมสร้างมาตังแต่ป พ.ศ. 2472 โดยมีพระอธิการศรี โฆสโก เปนประธาน ฝายสงฆ นายอ่อนสา แก้วประสิทธิ นายแก้ว สารีพันธ ร่วมกันบริจาคทีดินและเปนประธานฝายฆราวาส ในการสร้างวัดด้วยเหตุนีจึงได้ใช้ชือของคนทังสองมารวมกัน เพือให้เปนเกียรติแก่คนทังสองในการตังชือวัด ว่า วัดศรีสาแก้ว ต่อมามีการกร่อนเสียงคา คือ สา (เปนภาษาถิน มีความหมายว่า สระ) เปนสระ + แก้ว เปน ศรีสระแก้ว ซึงมีความหมายว่า แก้วบริสุทธิ หรือแก้วแห่งความดี หรือสถานทีฟอกให้เกิดคุณงาม ความดีได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมือวันที 15 มกราคม 2513 ได้รับขอขึนทะเบียน จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธกิ าร ที ศธ.0303/5890 ลงวนั ที 22 พฤษภาคม 2544 ตามหนังสือ ของกรมการศาสนา 3. ความสาคัญ / เนือหาการเรยี นรู้ 1. ประวัตศิ าสตร 2. ศิลปะสถาปตยกรรม 3. ประเพณีวฒั นธรรม 4. ผู้รับผิดชอบืืชอื นายอาพร ศรีดาราช โทรศพั ท098-0615998 ทอี ยู่ บ้านเลขที 234หมู่ 9 ตาบลนามะเฟอง อาเภอเมอื ง จงั หวัดหนองบวั ลาภู 39000 5. ภาพแหลง่ เรยี นรู้ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก แื หื ืลืงืปืรืะืวืตืศืาืสืตืรืสืมืยืทืวืาืรืวืดื 1.ืืทตี ังืืบ้านเลขที - หมู่ที 9 ตาบลนามะเฟอง อาเภอเมอื ง จังหวัดหนองบวั ลาภู 2. ประวัติความเปนมา แหลง่ ประวัติศาสตรสมัยทวารวดีเป็นบานพกของนายอุดม บุญน้อม ผู้ขุดค้นพบวัตถุโบราณซึงเปน วัตถุโบราณประเภทภาชนะของใช้ โครงกระดูกมนุษย กาไล สร้อยลูกปด เขาสัตวเขียวหมูตัน เลบเสือโคร่ง เลบเม่น ปากนกแกง ถ้วยนาชา โซ่ตรวน ขีเหลกไหล เงินก้อน ลูกกระสุน กรอกยา เหลกแหลมคล้าย ส่วนปลายของอาวุธโบราณ พวกหอก ดาบ ขวาน และวัตถุโบราณอีกจานวนมาก ทังในสภาพทีแตกหักและ บางชนิ อยใู่ นสภาพสมบูรณดี 3. ความสาคญั / เนือหาการเรียนรู้ ประวัติศาสตรชมุ ชนโบราณ 4. ผรู้ ับผิดชอบืืชือ นายอดุ มบุญนอ้ ม โทรศัพท081-9750442 ทีอยู่ บ้านนามะเฟอง หมู่ที 9 ตาบลนามะเฟอง อาเภอเมอื ง จงั หวัดหนองบัวลาภู 39000 5. ภาพแหลง่ เรียนรู้ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก วื ืดืสืาืยืทือืง 1. ทีตงั บา้ นเลขที - หมู่ที 6 บ้านหนองผา ตาบลหนองหว้า อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบวั ลาภู 2. ประวตั คิ วามเปนมา บ้านหนองผา เริมมีการปลูกบ้านสร้างเรือนครังแรก โดยพ่อเตือย (ไม่ทราบนามสกุล) พ่อหนู ยะรี พ่อคาหมา สมสะอาด ได้มาหาคล้องช้างเหนว่าสถานทีนีเหมาะแก่การสร้างหมู่บ้านจึงได้ชักชวนเพือนบ้าน ย้ายมาจากอาเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ประมาณ 10 ครอบครัว เมือป พ.ศ ประมาณ 2470 เหตุทีชือบ้าน หนองผา เพราะมีหนองแห่งหนึงและในหนองนันมีไข่ผาเยอะให้ชาวบ้านได้กินตลอดทังปจึงได้ตังชือว่า บ้านหนองผาตังแต่นันมา เปนธรรมเนียมเมือมีการย้ายถินฐานใหม่ เนืองด้วยเปนชาวพุทธตังแต่กาเนิด จึงหาทีเพือสร้างวัดเพือเปนทียึดเหนียวทางด้านจิตใจ จึงได้รับบริจาคทีดินแปลงหนึงจากพ่อสายทอง เพือเปนสถานทีสร้างวัด จึงได้ให้เกียรติแก่เจ้าของทีจึงได้ตังชือวัดว่า วัดสายทอง ตังแต่นันมาจนถึงปจจุบัน 3. ความสาคัญ / เนือหาการเรียนรู้ โบราณสถาน แหล่งเรียนรใู้ นท้องถิน สิงแวดล้อมทางธรรมชาติ และแหล่งท่องเทียวทางวัฒนธรรม 4. ผู้รบั ผิดชอบ วัดสายทอง ทอี ยู่ บา้ นหนองผา หมทู่ ี 6 ตาบลหนองหว้าอาเภอเมอื ง จงั หวัดหนองบัวลาภู 39000 5. ภาพแหลง่ เรยี นรู้ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก วื ืดือืดืมืพืฒืนืาืรืาืม 1. ทตี งั หมูท่ ี 3 ตาบล หนองภัยศูนย อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู 2. ประวตั ิความเปนมา วัดอุดมพัฒนาราม เปนสานกั ปฏบิ ัตธิ รรมประจาจังหวดั หนองบัวลาภู แหง่ ที 2 เปนสถานทีปฏิบัติ ธรรมและใหบ้ รกิ ารสงั คมในดา้ นพระพทุ ธศาสนา 3. ความสาคญั / เนอื หาการเรียนรู้ ศาสนพธิ ี การปฏบิ ัตธิ รรม การรักษาศีล 4. ผูร้ ับผดิ ชอบ ชือ นางนพรัตน สกุล บวั ศรี โทรศัพท 085 - 4956150 ทอี ยู่ กศน. ตาบลหนองภยั ศนู ย ตาบลหนองภยั ศนู ย อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู 5. ภาพแหลง่ เรียนรู้ วื ืดือืดืมืพืฒืนืาืรืาืม 1. ทีตังหมูท่ ี 9 ตาบล หนองภยั ศูนย อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู 2. ประวัติความเปนมา วัดอรญั ญเขต ตังอยู่บ้านหนองภัยศูนย หมู่ 9 เปนวัดประจาหมู่บ้านทีชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ เมอื ถงึ วนั สาคัญตา่ งๆ ในพระพทุ ธศาสนาชาวบ้านจะมาประกอบพิธรี ว่ มกนั เปนศูนยจิตใจทีสาคัญของชาวบา้ น 3. ความสาคัญ / เนือหาการเรียนรู้ ศาสนพิธี การปฏบิ ตั ธิ รรม การรกั ษาศีล 4. ผู้รับผิดชอบ ชือ นางนพรัตน สกลุ บัวศรี โทรศพั ท 085 - 4956150 ทอี ยู่ กศน. ตาบลหนองภยั ศูนย ตาบลหนองภยั ศูนย อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู 5. ภาพแหล่งเรยี นรู้ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก แหลงเรยนรประเภท อาชพ ศื ืนืยืกืาืรืเืรืยืนืรืคืนืตืนืแืบืบืเืศืรืษืฐืกืจืพือืเืพืยืงืืใืนืพืรืะืรืาืชืดืาืรืพืรืะืเืจืาืหืลืาืนืเืธือืืพืรืะือืงืคืเืจืาืพืชืรืกืตืยืาืภืาื ณื ืืเรืือืนืจืาืชืวืคืรืาืวืบืาืนืหืวืยืเืตืยื 1. ทีตงั บ้านหว้ ยเตย หม่ทู ี 3 ตาบลหนองหวา้ อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู 2. ประวัตคิ วามเปนมา ศูนยการเรียนรู้คนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ในพระราชดาริพระเจ้าหลานเธอ พระองคเจ้าพัชร กิติยาภา ณ เรือนจาชัวคราวบ้านห้วยเตย กรมราชทัณฑ กระทรวงยุติธรรมืได้มีการก่อตังเรือนจาชัวคราว เมือป พ.ศ.2559 โดยเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลาภู จัดทาโครงการเรือนจาวิถีธรรม เปนทีฝกงาน ประกอบด้วยกิจกรรมการเกษตร ทานา ปลูกผักและพืชไร่ ประมง และปศุสัตว โดยกรมราชทัณฑ กระทรวง ยุติธรรม ประกาศให้วัดพัชรกิติยาภาราม เปนพืนทีจัดตังเรือนจาชัวคราว เพือพิจารณานักโทษชันดีทีใกล้พ้น โทษมาฝกอาชีพและศึกษาธรรมอย่างถ่องแท้ เมือพ้นโทษออกไปแล้วจะได้เปนคนดีของสังคมและ ประกอบอาชีพสุจริต 3. ความสาคญั / เนือหาการเรียนรู้ เปนแหล่งเรียนรู้คนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงในพระราชดาริ พระเจ้าหลานเธอ พระองคเจ้าพัชร กิติยาภา ณ เรือนจาชัวคราวบ้านห้วยเตย กรมราชทัณฑ กระทรวงยุติธรรม 4. ผู้รบั ผดิ ชอบ เรือนจาชัวคราวบ้านห้วยเตย กรมราชทัณฑ กระทรวงยุติธรรม ทีอยู่ บา้ นห้วยเตย หม่ทู ี 3ตาบลหนองหวา้ อาเภอเมือง จังหวดั หนองบวั ลาภู 39000 5. ภาพแหลง่ เรียนรู้ ืกืลืมืวืสืาืหืกืจืชืมืชืนืขืาืวืฮืาืงืงือืก ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก 1. ทตี ัง เลขที 213 หม่ทู ี 2 ตาบล นาคาไฮ อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จงั หวัดหนองบวั ลาภู 2. ความสาคัญ / เนอื หาการเรยี นรู้ เปนแหลง่ เรียนรู้ด้านการแปรรูปผลิตภัณฑข้าว 3. ผรู้ บั ผิดชอบ ชือ นางสุบรรณ ปตวงษ โทรศัพท 094-539-5369 ทีอยู่ 213 หมู่ 2 ตาบล นาคาไฮ อาเภอ เมือง จงั หวดั หนองบวั ลาภู 4. ภาพแหลง่ เรียนรู้ ศื ืนืยืเืรืยืนืรืเืทืวืาืผืาืไืทืย 1. ทตี งั เลขที 264 หมู่ที 2 ตาบล นาคาไฮ อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู 2. ประวัติความเปนมา กลุ่มทอผ้าเทวาผ้าไทย เปนกิจการผลติ และจาหนา่ ยผ้าไทยทอมือจากวัตถุดิบธรรมชาติ เริมก่อตังเมือ วันที 14 กุมภาพันธ 2557 โดยนายกิติตพันธุ สุทธิสาเปนประธานกลุ่มคนแรก จากการคิดต่อยอด เชงิ พาณิชยด้วยการนาผ้าทอขิดสลับกับหมีออกจาหน่าย ในป 2557 ได้จดทะเบียน OTOP และเข้าร่วมการ ขายสินค้าในทีต่างๆ จนมีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจมากขึนเรือย ๆ โดยลักษณะเด่นของผ้าทอมือ คือผา้ นิม มนี าหนัก กลินหอม สะอาด และไมม่ ีสารตกค้างซงึ เกดิ จากการนาผ้าทอมือไปหมักนาซาวข้าวผัวหลง มากกว่า 5 ชัวโมง ทังนีได้มีการคิดนวัตกรรมใหม่ในการทอผ้าคือ ทอผ้า 2 หน้า โดยหน้าหนึงคือขิดยกดอก ทังผนื และอีกหน้าหนึงเปนมัดหมี ทอในผืนเดียวกันเปนแห่งแรกทีมีการผลิตผ้าขิดสองหน้า ปจจุบันมีสมาชิก กลุ่ม 60 คน มรี ะดับการพฒั นาผลิตภัณฑของกรมการพัฒนาชุมชนระดับ A และมีผลิตภัณฑประเภทผ้าและ เครืองแต่งกายผ่านการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ OTOP ป 2559 ผลิตภัณฑ “ผ้าไหม มัดหมี” ได้ระดับ 5 ดาว โดยมีชอ่ งทางการกระจายสินคา้ ไปจาหน่วยยงั สถานทีตา่ งๆ รวมถึงประเทศเพอื นบ้าน 3. ความสาคัญ / เนอื หาการเรียนรู้ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก เปนแหลง่ เรยี นรู้ด้านหัตถกรรมการทอผ้าโดยเฉพาะผ้าทีทอด้วยเทคนิคพิเศษให้ด้านหนึงเปนยกดอก และอีกด้านเปนมัดหมี ซึงถือเปนลายสิขสิทธิจนได้รับรางวัลนวัตกรรมผ้าทอ 4. ผรู้ ับผิดชอบ ชือ กิตติพันธ สุทธสิ า โทรศพั ท 086-972-9784 เลขที 264 หมู่ที 2 ตาบล นาคาไฮ อาเภอ เมอื ง จงั หวัด หนองบัวลาภู 5. ภาพแหล่งเรียนรู้ กื ืลืมืวืสืาหื ืกืจืชืมืชืนืกืลืมืปืลืกืผืกือืนืทืรืยืืบืาืนืโืพืธืศืรืสืาืรืาืญ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก 1. ทีตัง บ้านเลขที 314 หมทู่ ี 13 ตาบลหัวนา อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู 2. ประวตั คิ วามเปนมา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโพธิศรีสาราญ ตาบลหวั นา อาเภอเมืองหนองบัวลาภู เกิดจากแนวคิดของการ นาหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใช้กับการผลิตผักอินทรีย โดยอาศัยการบริหารจัดการทรัพยากร ของเกษตรกรในรูปแบบการพึงพาตนเองให้มากทีสุด ซึงเปนการดาเนินการกิจกรรมทีเกิดจากความต้องการ ของประชาชนโดยแท้จริง ในป 2554 เกิดการรวมกลุ่มของสมาชิกในหมู่บ้านในการใช้พืนทีสาธารณะ กดุ ตาแมวซึงเปนการใช้พืนทบี รเิ วณรอบๆ ขอบสระในการปลกู ผกั อนิ ทรยี เพือเปนอาชพี เสริมให้กบั คนในชุมชน โดยจดั สรรพนื ทีปลูกผกั คนละ 5 เมตร สมาชิก 46 คน โดยเทศบาลตาบลหัวนาจัดทาท่อส่งนาและติดตังก๊อก สาหรับให้สมาชิก ผลผลิตใช้บริโภคในครัวเรือน ลดรายจ่าย และขายเปนรายได้เสริมทีตลาดเทศบาลชุมชน โพธศิ รีสาราญ โดยไดจ้ ดทะเบียนเปนกลมุ่ วิสาหกิจชุมชนผกั อินทรียโพธิศรสี าราญ เมอื ป 2558 3. ความสาคัญ / เนอื หาการเรียนรู้ แหลง่ ทอ่ งเทียวเชงิ เกษตรการปลกู ผกั อนิ ทรีย การทาปยุ๋ หมกั ชวี ภาพ 4. ผรู้ ับผิดชอบ ชอื นางประดบั สมณะ โทรศพั ท091-0568544 ทีอยู่ บ้านเลขที 314 หมทู่ ี 13 ตาบลหัวนาอาเภอเมือง จงั หวัดหนองบวั ลาภู 39000 5. ภาพแหลง่ เรยี นรู้ ืไืรืแืทืนืคืณ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก 1. ทตี ัง บ้านเลขที - หมทู่ ี 13 ตาบลหวั นา อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบวั ลาภู 2. ประวตั คิ วามเปนมา ไร่แทนคุณ เปนแปลงเกษตรผสมผสานของ นายประดิษฐ ประโคถานัง ข้าราชการบานาญ ซึงได้เกษียณอายุราชการแล้วลงมาบารุงรักษาอย่างจริงจัง เมือป พ.ศ. ๒๕๕๗ มีการปลูกไม้ยืนต้น หลายประเภทให้ผลผลิตหมุนในรอบป เช่น ฝรัง เสาวรส พุทราสามรส แก้วมังกร และผักสวนครัว 3. ความสาคัญ / เนอื หาการเรยี นรู้ แหล่งทอ่ งเทียวเชิงเกษตร และเปนแหล่งเรียนรู้เกียวกับ การปลูกผักอนิ ทรีย การทาปุ๋ยหมักชีวภาพ การขยายพนั ธพุ ชื การปลูกไมผ้ ล 4. ผู้รบั ผิดชอบ ชือ นายประดิษฐ ประโคถานงั โทรศัพท 089-8625128 ทีอยู่ บ้านโพธศิ รสี าราญ หมทู่ ี 13 ตาบลหัวนา อาเภอเมือง จังหวัดหนองบวั ลาภู 39000 5. ภาพแหล่งเรยี นรู้ ศื ืนืยืเืรืยืนืรืเืศืรืษืฐืกืจืพือืเืพืยืงืนืาืยืเืดืโืชืืืชืาืเืทืรืาืช ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก 1. ทีตัง บ้านเลขที 66 หมทู่ ี 1 ตาบลหวั นา อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู 2. ประวตั ิความเปนมา ศูนยเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเปนแปลงเกษตรผสมผสานของ นายเดโช ชาเทราช สมาชิกสภา เทศบาลตาบลหัวนา ซึงได้มีการปลูกไม้ยืนต้น และไม้ผลหลายประเภทให้ผลผลิตหมุนในรอบป เช่น กล้วย ผักหวาน เปนต้น 3. ความสาคญั / เนือหาการเรียนรู้ แหลง่ ทอ่ งเทยี วเชิงเกษตร และเปนแหล่งเรียนรู้เกียวกับ การทาปุย๋ หมักชีวภาพ การขยายพันธพุ ชื การเลียงมดแดง การปลูกผักหวาน เปนตน้ 4. ผู้รบั ผิดชอบ ชือ นายเดโช ชาเทราช โทรศพั ท 086-2317102 ทอี ยบู่ า้ นหวั นา หมู่ที 1 ตาบลหวั นา อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวัดหนองบวั ลาภู 39000 5.ืภาพแหลง่ เรยี นรู้ ศื ืนืยืเืรืยืนืรืเืศืรืษืฐืกืจืพือืเืพืยืงืนืายื ืคืาืผืาืยืืืฤืทืธืเืกืตื หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก 1. ทตี งั หมู่ที 2 ตาบลนามะเฟอง อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู 2. ประวตั คิ วามเปนมา ศูนยเรียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพียงเปนแปลงเกษตรผสมผสานของ นายคาผาย ฤทธิเกตุ บ้านเหล่าโพธิชัย ตาบลนามะเฟอง ซึงได้มีการปลูกหน่อไม้ฝรังและผักผลไม้หลายประเภทให้ผลผลิตหมุนในรอบป เช่น กล้วย ผักสวนครวั ตา่ งๆ เปนต้น 3. ความสาคัญ / เนอื หาการเรยี นรู้ แหลง่ ท่องเทยี วเชงิ เกษตร และเปนแหล่งเรยี นรู้ เกยี วกบั การทาป๋ยุ หมักชีวภาพ การขยายพันธพุ ชื การเลียงปลา การปลูกหนอไมฝ้ รงั เปนตน้ 4. ผ้รู ับผิดชอบ ชอื นายคาผาย ฤทธิเกตุ โทรศัพท 081-9750442 ทีอยบู่ ้านนามะเฟอง หมทู่ ี 1 ตาบลนามะเฟอง อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู 39000 5. ภาพแหล่งเรียนรู้ ืกืลืมืวืสืาหื ืกืจืชืมืชืนืศืนืยืผืลืตืแืลืะืจืาืหืนืาืยืผืลืตืภืณืฑืพืนืเืมือืงืบื ืานื ืใืหืมืแืหืลืมืทือืง หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก 1. ทีตัง ศูนยผลิตและจาหน่ายผลิตภัณฑพืนเมือง บ้านใหม่แหลมทอง อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู 2. ประวตั ิความเปนมา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านใหม่แหลมทอง ได้มีการรวมกลุ่มกันเมือป พ.ศ.2557 รวมกลุ่มผู้ทีสนใจ ทอผ้าพืนเมืองและผลิตภัณฑจากการจักสานและผลิตภัณฑอืนๆ ทาให้คนในชุมชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน สร้างอาชีพในชุมชนทาให้คนในชุมชนมีรายได้ไว้ใช้จ่ายในครอบครัว 3. ความสาคญั / เนือหาการเรียนรู้ แหลง่ เรียนรู้เชิงหัตถกรรม 4. ผู้รับผดิ ชอบ ชือ นางคาพอง ผางนาคา โทรศัพท 061-0723669 ทีอยู่ ศูนยผลิตและจาหน่ายผลิตภัณฑพืนเมือง บ้านใหม่แหลมทอง อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู 39000 5. ภาพแหลง่ เรยี นรู้ กื ืลืมืวืสืาืหืกืจืชืมืชืนืบืาืนืใืหืมืศืลืาืมืงืคืล 1. ทีตัง บา้ นเลขที 9 หมู่ที 10 ตาบลหนองสวรรค อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จงั หวัดหนองบัวลาภู หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก 2. ประวัติความเปนมา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านใหม่ศิลามงคล ได้มีการรวมกลุ่มกันเมือป พ.ศ.2549 เพือสืบสานภูมิปญญา ท้องถินในด้านการทอผ้า โดยมีผ้าฝายลายขิด ผ้าทอพืนเมือง ทีสืบทอดกันมายาวนานตังแต่สมัยบรรพบุรุษ จวบจนปจจุบัน สาหรับลายผ้าขิดทีสืบทอดกันมานันเปนผ้าขิดทีมีลวดลายงดงาม โดดเด่น เช่น การทอผ้า คลุมไหล่เชิงช้างจะมีลวดลาย จานวน 3 ลาย คือ ลายหนึงผ้าคลุมไหล่เชิงช้าง ลายสองผ้าพันคอลายขิด และลายสามลายขิดสลับหมี ซึงเปนลายทีนิยมมากทีสุดเพราะลวดลายจะมีขนาดเลกกว่าลายสองและลายสาม 3. ความสาคญั / เนอื หาการเรยี นรู้ กระแสผ้าไทย ผ้าพืนเมือง นับวันได้รับความนิยมกันเพิมมากขึนไปทุกหย่อมหญ้า ทาให้อาชีพทอผ้า กลับมาคึกคักกันอีกครัง โดยเฉพาะอย่างยิงคนทอผ้าได้มีแนวคิดใหม่ๆ จนสร้างงานทีเปนเอกลักษณ ดึงดูดใจ คนซือได้เปนอย่างดี ผ้าทีทอของกลุ่มมีเอกลักษณอย่างหนึงคือการย้อมสีจากธรรมชาติ อย่างเช่นการย้อม เปลือกประดู่ ทีได้รับความนิยมจากผู้สวมใส่ว่าเปนสีทีงดงาม ส่วนการดาเนินงานนันได้รวมกลุ่มชาวบ้าน มารวมตัวกัน โดยแต่ละคนกจะนาไปทอทีบ้านของใครของมัน แล้วนาผ้าทีทอเสรจมารวมกันเพือนาไปจัด จาหน่าย โดยมีกลุ่มร้านค้าใหญ่ในตัวเมืองหนองบัวลาภูมารับไปจาหน่าย และส่วนหนึงได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารเพือการเกษตรและสหกรณการเกษตร ให้นาผ้าทีทอได้ไปจาหน่ายในงานออกร้านต่างๆ งานโอท้อป ประจาปทาให้ลูกค้าเปนทีรู้จักมากขึน อีกทังยังได้เพิมลวดลายใหม่ๆลงไปเสริมกับลายขิดดังเดิม ทาให้เอกลักษณของผืนผ้ายังคงอยู่ และทาให้ผ้ามีความน่าสนใจ น่าสวมใส่มากขึน โดยมีแบบผ้าผืน ผ้าพันคอ และชุดสาเรจรูป นอกจากนียังได้ส่งเสริมให้เยาวชนในหมู่บ้านได้เข้ามาเปนส่วนหนึงของกลุ่มทอผ้า เพือสืบทอดอาชีพการทอผ้า ให้คงอยู่ จากรายได้ทีงดงามเฉลียเดือน 10,000 บาท เปนอย่างน้อย ทาให้หลายคนหันมาทอผ้ามากขึน จนกลายมาเปนงานประจาจากเดิมทีทานากให้ผู้ชายทีเปนสามีทานาไป เสร จสิ น จาก ทาน าก มาช่ ว ยปน ด้ ายสาหรั บใช้ ใน ก าร ทอเปนก ารใช้ ว่ าง ให้ เกิ ดประ โ ยชน อี ก ทางหนึงนามาซึงรายได้และความสุขทีไม่ต้องจากถินฐานไปไหน อาชีพทอผ้า นอกจากนียังเปนการสร้าง ความรัก สามัคคี และสร้างรายได้ให้กับชุมชนและครัวเรือน แก้ไขปญหาความยากจนแล้ว ยังช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน สะท้อนให้เหนถึงการเปนชุมชนทีเข้มแขงต่อไป 4. ผ้รู บั ผิดชอบ ชอื นางบุญเพง ชัยเอก โทรศพั ท 098-8132958 ทีอยู่ บ้านเลขที 9 หมู่ที 10 ตาบลหนองสวรรค อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู 39000 5. ภาพแหล่งเรยี นรู้ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ก ืศืนืยืเืรืยืนืรืกืาืรืเืพืมืปืรืะืสืทืธืภืาืพืกืาืรืผืลืตืสืนืคืาืเืกืษืตืรืืตืาืบืลืหืนือืงืสืวืรืรืคื 1. ทตี ัง บ้านเลขที 153 หมู่ที 7 บ้านศิลามงคล ตาบลหนองสวรรค อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จงั หวัดหนองบัวลาภู 2. ประวตั ิความเปนมา นายทรงเดช บุญอุ้ม ประธานศูนยเรียนรู้การเพิมประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อาศัยอยู่ บ้านเลขที ๑๕๓ หมู่ที ๗ บ้านหินลับ ตาบล หนองสวรรค อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู จบการศึกษาชนั ประถมปที ๔ สมรสแล้ว มบี ตุ ร ๔ คน ได้ทาการเกษตรแบบสวนผสมผสาน ความใฝรู้จึงได้ไป ศึกษาดูงานจากหลายแห่งในเรืองของการเกษตรทฤษฎีใหม่และได้นาแนวคิดทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเดจ พระเจ้าอยู่หวั มาเปนแนวทางในการดาเนนิ งาน ในป ๒๕๔๑ ไดร้ ับความช่วยเหลอื จากหน่วยงานเกษตรจังหวัด สนับสนุนสระเกบนาขนาด ๕ ไร่ ปจจบุ นั แปลงเกษตรของนายทรงเดช เปนแปลงสาธิตและเปนแหล่งเรียนรู้ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก เกษตรทฤษฎใี หม่ และเศรษฐกิจพอเพียงของจังหวัดนายทรงเดชมีพืนทีทังหมด ๑๐๐ ไร่ ได้แบ่งพืนทีปลูก ปา ๒๕ ไร่ นาขา้ ว ๒๐ ไร่ แหลง่ นา ๒๐ ไร่ แปลงนา ๕ ไร่ โดยส่วนทีเหลือเปนไมย้ นื ตน้ และทีอยู่อาศยั 3. ความสาคัญ / เนือหาการเรยี นรู้ 1. การทานาแบบหยอดและผลิตข้าวอินทรีย เพือลดต้นทุนในการผลิตการทานาหยอดช่วยลด ค่าใช้จ่ายในการตกกล้า การเตรียมแปลงปกดา การปกดา และช่วยประหยัดนา กาจัดวัชพืช พันธุปนได้ง่าย ต้นข้าวแขงแรง มีการให้นาแบบเปยกสลับแห้ง ใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะหดินมีการตัดพันธุปน ระยะแตกกอ ระยะตังท้องและระยะออกรวง 2. การเลียงปลากินพืช ช่วยลดต้นทุนการผลิตเรืองอาหารปลา โดยการทานาเขียวแพลงกตอน ใหป้ ลากนิ แทน 3. การปลูกผักปลอดสารพิษ 4. การปลูกผักไม้เศรษฐกิจ (ธนาคารต้นไม้) 4. ผรู้ บั ผิดชอบ ชือ นายทรงเดช บญุ อุม้ โทรศัพท 087-0616891 5. ภาพแหลง่ เรียนรู้ ืวืสืาหื ืกืจืชืมืชืนืกืลืมืกืาืรืทืาืไืมืกืวืาืดืทืาืงืมืะืพืรืาืวืืบืาืนืลืาืดืใืตื 1. ทตี งั หมทู่ ี 1 ตาบลปาไมง้ าม อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู 2. ประวัตคิ วามเปนมา กลุ่มการทาไม้กวาดทางมะพร้าวบ้านลาดใต้ จัดตังขึน เพือเปนการสืบทอดภูมิปญญาท้องถิน ลดรายจ่ายและเพิมรายได้ในชุมชนตลอดจนให้ความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาอาชีพให้กับประชาชน กลุ่มเปาหมายและผู้สนใจในตาบลให้สามารถนาไปประกอบเปนอาชีพ เพือก่อให้เกิดรายได้กับตนเองและ ครอบครัวเปนการสร้างอาชีพให้เกิดความมันคงต่อไป 3. ความสาคัญ / เนอื หาการเรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้เชงิ หัตถกรรม ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก 4. ผู้รบั ผิดชอบ ชอื นางบัวคา สีเทา ทีอยู่ บา้ นลาดใต้ หมู่ที 1 ตาบลปาไม้งาม อาเภอเมอื ง จงั หวดั หนองบวั ลาภู 5. ภาพแหลง่ เรยี นรู้ ืศืนืยืเืศืรืษืฐืกืจืพือืเืพืยืงืบืาืนืพืนืดือืน 1. ทตี งั หม่ทู ี 9 ตาบลบ้านพร้าว อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบวั ลาภู 2. ประวัติความเปนมา ศูนยเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เปนแปลงเกษตรผสมผสานของบ้านพันดอน หมู่ 9 ตาบลบ้านพร้าว เดมิ เปนโรงเรยี นบา้ นพนั ดอนทสี อนในระดบั ประถมศกึ ษา และโรงเรียนบ้านพนั ดอนแหง่ นีไดถ้ ูกยบุ ลงเนืองจาก เปนโรงเรียนขนาดเลก องคการบริหารส่วนตาบลบ้านพร้าวได้เลงเหนว่าสถานทีนีเหมาะสมในการทา แหลง่ เรียนรซู้ ึงไดม้ กี ารปลูกผัก ปลูกเหดฟาง ทาเปนโรงเรือนเหด และผักผลไม้หลายประเภทให้ผลผลิตหมุน ในรอบป เช่น กลว้ ย ผกั สวนครัวตา่ งๆ เปนต้น 3. ความสาคญั / เนอื หาการเรียนรู้ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก แ ห ล่ ง เ รี ย น รู้ แ ล ะ ท่ อ ง เ ที ย ว เ ชิ ง เ ก ษ ต ร แ ล ะ เ ป น แ ห ล่ ง เ รี ย น รู้ เ กี ย ว กั บ ก า ร ท า โ ร ง เ รื อ น เ ห ด การขยายพนั ธพุ ืช การปลกู ผกั สวนครัว เปนต้น 4. ผรู้ บั ผิดชอบ ชือ นายสมเดช ศิรวิ งศ ทีอยู่บ้านพนั ดอน หมูท่ ี 9 ตาบลบ้านพร้าว อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู 39000 5. ภาพแหล่งเรียนรู้ กื ืลืมืวืสืาืหืกืจืชืมืชืนืกืลืมืทืาืไืมืกืวืาืดืืบืาืนืโืนืนือืดืม 1. ทีตัง บ้านเลขที 85 หมูท่ ี 8 ตาบลกดุ จกิ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู 2. ประวัตคิ วามเปนมา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโนนอุดม ได้มีการรวมกลุ่มกันเมือป พ.ศ.2557 รวมกลุ่มผู้ทีสนใจในการ ทาไม้กวาด รณรงคให้ประชาชนในชุมชนลดรายจ่าย-เพิมรายได้ในครัวเรือนเพือเพิมคุณภาพชีวิตทีดีของคน ในชุมชนให้มีรายได้ 3. ความสาคัญ / เนอื หาการเรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้เชงิ หัตถกรรม 4. ผู้รับผิดชอบ ชือ นายดวง ชนะเทพ โทรศัพท 093-4645977 ทีอยู่ บ้านเลขที 85 หมทู่ ี 8 ตาบลกุดจกิ อาเภอเมือง จงั หวัดหนองบัวลาภู 39000 ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ก 5. ภาพแหลง่ เรียนรู้ แหลงเรยนรประเภท บคคล นื ืางืืสืมืจืตืรืืืตืาืมืล 1. ทตี งั บ้านเลขที 214 หมู่ที 9 ตาบล หนองภยั ศูนย อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จงั หวดั หนองบัวลาภู 2. ประวตั ิความเปนมา นางสมจิตร ตามูล เริมศึกษาการนวดแผนไทย หลักสูตรวัดโพธิ เมือป พ.ศ. 2536 และทางาน นวดครังแรกทีโรงแรมสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ เมืออายุได้ประมาณ 36 ป จากนันได้ไปเปนครูสอนนวด ทีจังหวัดลาปาง ก่อนทีจะกลับมาอยู่ทีบ้านหนองภัยศูนย หมู่ 9 เริมรับงานสอนนวด และนวดรักษาอาการ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก อัมพฤกษ อาการเส้นตึงอักเสบ แขน ขา อ่อนแรง จนมีชือเสียงเปนทีรู้จักในหมู่บ้าน และหมู่บ้านอืนๆ ทใี กลเ้ คียง 3. ความสาคัญ / เนอื หาการเรยี นรู้ การรกั ษาอาการเสน้ ยึดตงึ ชาตามปลายประสาท แขน ขา อาการอัมพฤกษ 4. ผรู้ บั ผิดชอบ ชือ นางนพรตั น สกุล บวั ศรี โทรศพั ท 085 - 4956150 ทอี ยู่ กศน. ตาบลหนองภัยศนู ย ตาบลหนองภยั ศูนย อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จงั หวัดหนองบัวลาภู 5. ภาพแหล่งเรยี นรู้ ืนืางืืบืืืเทื พื ืบืรื 1. ทตี งั หมูท่ ี 9 ตาบล หนองภยั ศูนย อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบวั ลาภู 2. ประวตั ิความเปนมา นางบู่ เทพบุรี เปนประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และกลุ่มพัฒนาบทบาทสตรีบ้านหนองภัยศูนย หมู่ 9 ได้รับการสนับสนุนจากทางหน่วยงานราชการต่างๆ ในเรืองการพัฒนาอาชีพเสริมจนมีสมาชิกในกลุ่ม สามารถทาการผลิตขนมเปนอาชพี เสริมสร้างรายไดใ้ หส้ มาชกิ อย่างตอ่ เนือง 3. ความสาคัญ / เนือหาการเรียนรู้ การทาขนมข้าวแตน นาแตงโม การทาขนมนางเลด การทาขนมกะหรบี ั๊ป ขนมครองแครงกรอบ 4. ผรู้ ับผดิ ชอบ ชือ นางนพรตั น สกุล บัวศรี โทรศพั ท 085 - 4956150 ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อาเภอเมืองหนองบัวลาภู

ทาเนียบแหลง่ เรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ก ทีอยู่ กศน. ตาบลหนองภยั ศนู ย ตาบลหนองภยั ศูนย อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวัดหนองบวั ลาภู 5. ภาพแหลง่ เรยี นรู้ ืนืายื ืไืพืศืาืลืืืหืนืนืตืะ 1. ทีตัง บา้ นโนนสงเปลอื ย หมทู่ ี 2 ตาบลโพธิชยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู 2. ประวตั คิ วามเปนมา เศรษฐกิจพอเพียงเปนปรัชญาทียึดหลักทางสายกลาง ทีชีแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติของ ประชาชนในทกุ ระดบั ในหม่บู า้ นให้ดาเนินไปในทางสายกลาง มคี วามพอเพียง และมีความพร้อมทีจะจัดการต่อ ผลกระทบจากการเปลียนแปลง ซึงจะต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง ในการวางแผน ครอบครัว มีการปลูกผักไว้กินในครัวเรือน การสร้างอาชีพต่างๆจากวัตถุดิบทีมีในชุมชน นามาแปรรูปสร้าง รายได้ ฯลฯ 3. ความสาคญั / เนอื หาการเรียนรู้ สวนเกษตรผสมผสาน การทาปุ๋ยหมักชวี ภาพ 4. ผรู้ บั ผดิ ชอบ ชอื นายไพศาล หนนั ตะ โทรศัพท 089 – 8820326 5. ภาพแหล่งเรยี นรู้ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ าร”ี อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู

ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก ืนืายื ืสืมืพืรืืืโืภืคืาืนืตืยื 1. ทีตัง บ้านเลขที 73 หมู่ 5 บ้านหนองกุงพัฒนา ตาบลโพธิชัย อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู 2. ประวัติความเปนมา เศรษฐกิจพอเพียงเปนปรัชญาทียึดหลักทางสายกลาง ทีชีแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติของ ประชาชนในทุกระดบั ในหมบู่ ้านให้ดาเนินไปในทางสายกลาง มคี วามพอเพยี ง และมีความพร้อมทีจะจัดการต่อ ผลกระทบจากการเปลียนแปลง ซึงจะต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระ มัดระวัง ในการวางแผน ครอบครัว มีการปลูกผักไว้กินในครัวเรือน การสร้างอาชีพต่างๆจากวัตถุดิบทีมีในชุมชน นามาแปรรูปสร้าง รายได้ ฯลฯ 3. ความสาคญั / เนือหาการเรียนรู้ สวนเกษตรผสมผสาน การเลยี งไกไ่ ข่ การทาปยุ๋ หมักชวี ภาพ 4. ผู้รับผดิ ชอบ ชือ นายสมพร โภคานิตย โทรศพั ท 089 – 9624531 5. ภาพแหลง่ เรียนรู้ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู

ทาเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ กศน.อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ก แผนทีแหล่งเรียนรู้ กศน.อาเภอเมืองหนองบัวลาภู หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook