พระราชาไมไ ดมีแตในนิทานในเดตนิ รแียขดอมนงตพแัวรหเดะง รินกาทาชราาเงรไียปนรู สนุกรูสนุกคดิ HeartHead สนกุ ทำ Handเตรยี มตวั ไปเรยี นรู ใหเตม็ อ่มิเตรยี มใจไปสนกุ ใหเต็มท่ีเตรยี มถามไดทกุ คำถามที่สงสัยเตรียมบันทึกทุกความประทับใจไวกันลืม ณ แหลงเรยี นรู พิพิธภณั ฑท มี่ ีชวี ติจากโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ พระราชา รชั กาลที่ ๙
หนงั สือเดนิ ทางของฉันrt ชื่อจรงิ ช่อื เลน โรงเรยี น ชน้ั คตปิ ระจำใจ โทรศัพทเตรียมตัวออกเดินทางไปเรียนรูสมุดบนั ทกึ กลอ งถา ยรปู ดินสอ หมวก กระเปาเปยางลบ กระบอกนำ้ 1
คมู อื พอ แม (Parent’s Guide) การเดนิ ทาง ‘ตามรอยพระราชา’ ของเดก็ ๆ ครงั้ น้ี พอ แมครู หรือผู ใหญส ามารถมสี วนรวมในการเรียนรแู ละสนกุไปกบั เด็กๆ ดวยการ…• กระตนุ ใหเดก็ ๆ เกดิ การเรียนรูอยางสรางสรรคสบื เสาะ จินตนาการ และลงมอื ทํา• สงั เกต พฤตกิ รรมการเรียนรขู องเดก็ ๆ สง เสริมใหเ กดิการตอ ยอด และเช่ือมโยงกบั ประสบการณจ ริง• ประเมิน การเรียนรูและทักษะสําคัญท่ีเกิดจากการเรียนรูของเดก็ ๆ ๔ ทกั ษะ คอื แรงบันดาลใจ คิดสรา งสรรคเอาใจใส จดจอ อยากเรียนรู สาํ รวจ เสาะแสวงหาคําตอบ อยากทาํ ตอ สงั เกต อธบิ ายขอ มลู สรา งแนวคิดใหม เกดิ แรงบันดาลใจ เชื่อมโยง บูรณาการ คิดวิเคราะห ลงมอื ทาํ เขาใจปญ หา เปรียบเทียบมมุ มอง ปฏบิ ตั ิจริง กลา ลอง ตา งๆ ตรวจสอบความถูกตอ ง กลา เรียนรู ลองลงมอื ทํา วิเคราะหขอมลู แสดงเหตุผล๒
รวมเรยี นรไู ปกับเด็กๆ• กระตุนใหเ ด็กๆ สนใจ ชี้ชวนใหสงั เกตสง่ิ ตางๆ รอบตวั• ชวนเด็กๆ ตั้งคําถาม คิด และหาคาํ ตอบ• ลองใหเด็กๆ ไดเลน ลองทํา สัมผัส และเรียนรูสง่ิ ตางๆ• ชวนเดก็ ๆ ใหค ดิ เช่ือมโยงสง่ิ ตา งๆ กบั ตวั เอง ท่ีบา น ท่ีโรงเรียนและสังคมรอบตัว• ตัง้ คาํ ถามใหเ ดก็ ๆ ทําความเขา ใจเรื่องราว ปญ หา และสาเหตุของการเกดิ ปญ หาตางๆ• ต้งั ขอสงั เกตใหเ ดก็ ๆ คิดถึงขอ ดี-ขอเสยี ของสิ่งตางๆ ทไ่ี ดเ หน็• ตงั้ ขอสงสยั และคนควา ขอ มลู เพ่ิมเติมตอจากแหลงอ่ืนๆ• ทาทายเดก็ ๆ ใหค ิดหาแนวทางแกป ญหาตามวิธขี องตัวเอง ๓
❝ศาสตรของพระราชาไมมีวันลาสมัย วิชาท่ีพระองคทรงสอน ใชไ ดท ุกมมุ โลก เปน ศาสตรถ นอมโลก ถนอมมนษุ ย ตลอด 7๐ ปแ หง ศาสตรพ ระมหากษตั รยิ ในหลวงรชั กาลที่ ๙ ทานทรงสอนพวกเราไว ครบเครื่อง วันน้ีพระองคทานไมประทับอยูกับเราแลว แตมีแสงสวาง ที่สอ งทางเราตลอดเวลา ขอใหเดนิ ตาม หนงั สอื เดนิ ทางตามรอยพระราชา คอื โรดแมปใหไ ปศกึ ษาตาม เสนทางของศาสตรกษัตริย เปนเคร่ืองมือเหมือนมีไกดคอยอธิบาย พอแมลูกไดเ รยี นรูพรอมกัน เขาใจพรอมกัน ตรวจสอบ ลงมอื ปฏบิ ัติ บนฐานความสามคั คี๔
ขอใหเ ปน การเทย่ี วอยา งสรา งสรรค เทยี่ วไปสอู งคค วามรทู พี่ ระองคประสิทธิ์ประสาทให เที่ยวดูศาสตรกษัตริย ศาสตรพระราชาจะเที่ยวไดเปนรอยโครงการ เหนือสิ่งอ่ืนใด จะเกิดความภาคภูมิใจวาพอของเราเกงเหลือเกิน พอเราสอนเราทุกอยาง เราเสียอีกอาจไมคอยเปนลูกท่ดี ีนัก ไมคอยใสใจคาํ สอนของพอนกั แตไ มสาย เวลานห้ี นงั สือเดินทางจะนําทางพวกทานท้ังหลายไป จะเปนเครื่องชวยอยางดีรับรองวาจะบรรลุธรรม ธรรมชาติและธรรมดา และจบลงดวยคําวาประโยชนส ขุ ❞ ดร.สุเมธ ตนั ติเวชกุล เลขาธกิ ารมูลนิธชิ ยั พัฒนา และท่ปี รกึ ษาโครงการหนังสือเดนิ ทางตามรอยพระราชา ๕
โครงการพัฒนาพืน้ ท่ีเกษตรน้ำฝน ๔๑๐ อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ เขาวง ๔๒ จ.กาฬสินธุ โครงการศูนยพัฒนา๒๐ โครงการพัฒนาลุม นำ้ ตามพระราชดำ ลำพะยงั ตอนบน จ.เลย จ.กาฬสินธุ ๓๒ โครงการพฒั นาพ้ืนท่ี ศูนยศ กึ ษ แกม ลงิ หนองเลงิ เปอย อันเนื่องม อนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ จ จ.กาฬสินธุ ๒๖๖
๔๖ โครงการพัฒนาลมุ นำ้ กำ่ อันเน่อื งมาจากพระราชดำริ จ.นครพนม-จ.สกลนคร ๖๔าปศสุ ัตว ๕๐ โครงการพฒั นาและจดั หาน้ำำริ ในตำบลทุงโปง โครงการบรหิ าร จ.ขอนแกน จดั การนำ้ อยา งยั่งยืน อา งเกบ็ น้ำหว ยคลา ย ๕๔ จ.อุดรธานี เขื่อนอบุ ลรตั น จ.ลพบรุ ีษาการพัฒนาภูพาน 7มาจากพระราชดำริจ.สกลนคร
❝เรียนรเู กษตรครบวงจรพักฒารนจาัดชกุามรชนนาํ้ แเลกะษหลตักรกทารฤแษกมฎลีงิใ❞หม ภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบน ● อดุ รธานี ● หนองบัวลำภู ● หนองคาย ● เลย ● มุกดาหาร ● สกลนคร ● นครพนม ● กาฬสินธุ ● ขอนแกน ● มหาสารคาม ● รอยเอ็ด ● บึงกาฬ๘
๙
µÃÒ»ÃзѺ เรียนรแู ปลงสาธติ เกษตรทฤษฎี ใหม โครงการพัฒนาพ้ืนท่ีเกษตรนา้ํ ฝน อันเนอ่ื งมาจากพระราชดาํ ริ เขาวง จ.กาฬสินธุ เดมิ พน้ื ทน่ี ชี้ าวบา นทาํ นาแบบอาศยั นาํ้ ฝนเปน หลกั ไมม แี หลง กกั เกบ็ นา้ํ ดนิ มีความเปน กรดเลก็ นอ ย มีคุณภาพตา่ํ เมอ่ื ฝนทง้ิ ชวง ขา วท่ีปลกู จึงใหผลผลิต นอ ย เมล็ดลบี คุณภาพไมด ี ความเปนอยขู องชาวบานยากจน หมดฤดทู าํ นาก็ จากบานไปหางานทําในเมือง พระราชาเดินทางมายังพื้นท่ีแหงนี้พรอมแนวคิด เกษตรทฤษฎใี หมเ พอื่ ใหค วามรู ชว ยใหช าวบา นทาํ การเกษตรไดผ ล มนี า้ํ ใชเ พยี ง พอตลอดป มีความเปนอยดู ีขึน้ โดยการพึ่งพาตนเอง1๐
เกษตรทฤษฎี ใหม 11 คือเกษตรแบบไหนกันนะ ?
เลา เร่ืองของพระราชา เกษตรทฤษฎี ใหม คอื ศาสตรส าํ คญั จากพระราชา ท่ีนํามาพัฒนาพนื้ ที่ สมยั กอ นนั้นหนทางมายังพืน้ ทแ่ี หงน้ีขรขุ ระทุรกนั ดาร คา่ํ วนั หนึง่ พระราชาออก เดินทางบนเสนทางเกวียนพรอมถือแผนท่ีในมือ ลอดรั้วลวดหนามเขาไปพบ และ ถามไถป ญ หาของชาวบา นทีน่ ง่ั ผงิ ไฟอยกู ลางลานนวดขา ว ภายใตแ สงจากหลอดไฟ ที่สองสวางดวงนอยเพื่อคิดและลงมือแกไขปญหา ตามศาสตรการทํางานของพระ ราชาทวี่ า ดว ยการศึกษาขอมูลอยา งเปนระบบและการทําตามลําดับข้นั1๒
แผนผงั เกษตรทฤษฎี ใหม “ ท่อี ยอู าศยั ๓ ไร แกป ญหาดิน พน้ื ท่ีแบบนาดอน มภี เู ขาลอมรอบ มีความลาดเอียงเล็กนอย ปรับปรุงดินดวยปยุ อินทรียและวสั ดุอินทรีย 1๓
“เขาวง” ไมผ ล พืชไร พืชสวน ๖ ไรเลี้ยงสตั ว สระน้ำ แกป ญหานา้ํ ๓ ไร ปท ี่ฝนตกนอ ย นาํ้ ในสระ จะมีปริมาณนอย แกไขโดย ลดการใชน า้ํ ปลูกพืชคลมุ ดิน ใชเศษพืชเศษฟางเปนวัสดุ คลุมดิน เพ่ือรักษาความชุม ช้ืนของดิน ใชน้ําที่มีอยาง ประหยัดใหเกิดประโยชน สูงสุดแปลง๓นไารส าธติ เมื่อดนิ ดี น้ําดี ทาํ การเกษตรใดๆ ก็ไดผ ล 1๔
พระราชานกั คิดคํานวณ พระราชาบอกวา ๑ ครอบครัว ทาํ นา ๕ ไร จงึ จะมขี าวพอกนิ ไดทั้งป สูตรการจัดพนื้ ทีเ่ กษตรทฤษฎีใหม ๓๐-๓๐-๓๐-1๐ นั้น คดิ คํานวณจากพ้ืนท่ี 1๕ ไร สําหรบั ที่น่ีแบง พ้ืนที่ออกเปน นา ๕ ไร พืชสวนพชื ไร ๕ ไร สระน้าํ ๓ ไร ท่ีอยอู าศัย ๒ ไร ในการแบงสดั สวนพ้นื ทนี่ ั้น ไมมีกฎตายตวั ใหปรับตามความเหมาะสมกับปญหาของแตละพืน้ ที่ นาํ้ ในสระทข่ี ุด จะมกี ารระเหยวันละ ๑ เซนติเมตร ในวันท่ี ฝนไมต ก หากฝนแลง ๓๐๐ วัน เทา กบั นํ้าในสระจะลดลงไป ถึง ๓ เมตร ดงั นน้ั หากตอ งการใชน า้ํ มากก็จําเปน ตอง ขดุ สระใหล ึกยิ่งขึน้ เพ่อื เก็บกักน้ําไดม ากข้ึน และเพียงพอในการใชง าน1๕
เแกนษวตทราทงกฤาษรฎลีงใหมมือท ในําโ…ครงการพระราชาบอกวา เมอ่ื ลงมือทํา เดตต็กัววัๆผเเจูอดสงึ ็กงมกๆสสีินยั สีขลไานัหอวสงมปควทล ยิดําะงสไามิวมนากกวหา รตือัวไเกมฟ ียา เกษตรทฤษฎี ใหมแ ลว กีก่ โิ ลกรัม การทําบัญชีครัวเรือน จะชวยทําใหม องเหน็ ความเปล่ียนแปลง ปลดหนส้ี นิ ได มีรายได พออยูพอกิน มเี งนิ ออม ขนั้ ท่ี ๑ พัฒนาผลผลิตใหมีคุณภาพและมี ปริมาณเพียงพอสําหรับการกินในครัว เรือน ชวยลดคา ใชจ า ยข้นั ที่ ๒ มกี ารรวมกลุม และเครอื ขา ย เพอ่ืจัดการขายผลผลิตที่มีเหลือมากพอจากการกินในครัวเรือน หาตลาดรองรับผลผลิต เพิ่มรายได ข้ันที่ ๓ รว มมอื กบั แหลง เงนิ ทนุ เพอ่ื จดั ใหม กี ารศกึ ษา อบรมดา นสหกรณเ พอ่ื ใหช าวบา นมคี วามรู ความ เขาใจอยางเปนระบบในการพัฒนาคุณภาพชีวิต1๖ และอาชพี
บใรหิกค าวราเมกรษู ตฝรก กอรบตรลมอแดลทะใ้ังหป โรงสขี าวไวใ หบริการและชวยเหลอื เม่ือสีขา วเสรจ็ ชาวบาน บริการรับ-สงขา ว ราํ ขา วกเ็ อาไป จากชาวนาเพ่อื นาํ มาสีใหฟรี เลยี้ งนองหมู ดูสิ อดู อดู เด็กๆ คดิ วา สวนรํา แกลบ และปลายขา วหมกู ินอะไรเปน อาหารไดบา ง ที่นเ่ี ก็บเอาไว ใชเปนอาหารสตั ว ท้ังไก หมปู า และปลา ถอื เปน หมูหลุมเปนอยางไร ผลพลอยไดท ี่ชวยประหยัดคา ใชจาย รูไหมนะสวนขา วเปลอื กและแกลบ ขา วเหนยี วเขาวง ไกเ ขาจองแลว คอื ขาวเหนียวพันธุดขี ึ้นชอื่ เพราะพน้ื ที่มีอากาศเย็น และแหง นํ้านอย เหมาะกบั การปลกู ขาวเหนียว นอกจากนยี้ งั เล้ียงหา นเปดเทศ และไกงวงดว ยนะ ขา วเหนยี วเขาวงเมอ่ื หงุ สุกจะหอมและนุมมาก 17
เขดอ ็กดๆีขอนงเับกไษดตก ขี่รอทกฤนั ษนฎะี ใหมน ับไดมากมาย… “พระราชาบอกวา ถามงี านทําทั้งป ชาวบา นก็ไมตอ งละถิ่นฐานบานเกิดชวงหลัง ฤดทู ํานา ไปทํางานที่อื่น”การปลูกพชื หลังนา ชว ยฟนฟูดิน ผลผลติ กนิ ได หากมมี ากก็เอาไปขายเปนรายไดเสริม ที่น่ีเนนการ ทาํ ไมพชื ตระกูลถัว่ปลกู พืชไร อยา งขา วโพกฝก สด ถวั่ ลสิ ง จงึ ชวยบํารุงดนิ ไดล ะ นอกจากปลานลิ ขุดสระมีนาํ้ ไว ใชท ้ังปปลาย่สี ก ปลาอะไรกนิ พืช แถมยงั มปี ลามากมาย เปนอาหารอีกบาง เนนการเลี้ยงปลากินพืช เชน ปลาย่ีสก ปลานิล เพราะสามารถนาํ เศษพืชผักในครัวเรือนมาเปนอาหาร ปลาไดโดยไมต องซอื้ หาการปลูกพชื ผสมผสาน ทาํ ใหใ นครวั เรอื นมพี ชื ผกั ไวก นิ ตลอดทง้ั ป ทง้ัพืชไรและพืชผักสวนครัว กลวยน้ําวา แกวมังกรมะพราวน้ําหอม บวบ มะนาว มะเขอื พรกิ ขนุนมะลิ ดาวเรือง การปลูกดอกดาวเรืองตามแนวสวนนน้ั เพ่ือหลอกลอแมลงตางๆ ให มาสนใจดอกไม ลดการทําลายพชื ผักสวนครัวและพชื ไรท ี่ปลูกไว1๘
มทาลฤอษงฎอีอใหกมแขบอบงพตนื้ นทเ่ีอเกงษกตนั ร หัวใจสาํ คัญของการทํา เกษตรทฤษฎี ใหม มาลองออกแบบ พืน้ ท่ีเกษตรทฤษฎี ใหมของตนเองกัน คอื อะไร ใครตอบไดบา งการปลูกพชื แบบผสม อยาลืมขดุ สระน้ําดว ยนะ เพราะนํา้ผสานมขี อดีอยางไร มีความสําคญั มากในการทาํ การเกษตร โครงการพัฒนาพืน้ ทเี่ กษตรนา้ํ ฝน การเดินทาง อันเนอ่ื งมาจากพระราชดาํ ริ 1๙ ต.คุม เกา อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ https://projects.rdpb.go.th/ projects/5017422167801856/single
µÃÒ»ÃзºÑ เดินเลทอี่ยดวออุโามงงเกค็บ ในตํ้าภ เู ขา โครงการพัฒนจา.กลาุม ฬนส้ําินลําธพุ ะยังตอนบน แตเดิมพื้นท่ีแหงน้ีเปนพื้นท่ีขาดแคลนนํ้า ดินแตกระแหง ยามฝน ทง้ิ ชว งชาวนาทาํ นาดว ยความลาํ บาก พระราชาอยากใหช าวบา นอยดู กี นิ ดี มีนํ้าใชเพียงพอ ไดหาแหลงนํ้าบนเสนทางทุรกันดารท่ีมองลงจาก เฮลิคอปเตอร เพ่ือสรางอางเก็บนํ้าและขยายระบบสงนํ้า สงเสริมการ ขุดสระนํ้าประจําไรนาตามเกษตรทฤษฎีใหม พรอมปลูกปาทดแทนพื้นท่ี ทีเ่ สียไป ไมใหร ะบบนเิ วศเสยี หาย๒๐
พระราชาบอกวา น้าํ คือชีวิตพระราชาเช่ียวชาญการบริหารจัดการน้าํ เพราะศกึ ษาอยา งละเอยี ด ๒1
อา งเกบ็ น้าํ ลาํ พะยังแหลง กกั เกบ็ นา้ํ แหลง ใหญข องชุมชน แตเ ดมิ พื้นที่อา งเกบ็ นํา้ ลําพะยงั มีช่ือวา หวยวังคาํ ปจ จุบันสามารถจุน้าํ ได ๔ ลา นลูกบาศกเ มตรนา้ํ ๔ ลา นลกู บาศกเ มตร ดว ยหลกั การจัดการนา้ํ เทา กบั น้าํ ก่ลี ติ ร บอกหนอย อางใหญเตมิ อางเล็ก อางเลก็ เตมิ สระนาํ้ ไรนา วิธนี แี้ มฝนจะตกนอ ย กย็ ังมีปริมาณนํ้ามากพอ สําหรับใชไดตลอดท้ังป๒๒
ความเปน อยขู องชาวบา นหลังจากมีอางเกบ็ นา้ํ ลําพะยังตอนบน “เปล่ียนพืน้ ท่ีแลงซา้ํ ซากใหอดุ มสมบรู ณ” ชาวบา นและเกษตรกร มนี ํา้ กินนา้ํ ใช ในการเกษตร เพียงพอตลอดปสามารถปลูกขา วนาป ไดผ ลผลติดีกวา เดิมเปน เทาตวั เมล็ดขาวไมล บี แบน มคี ุณภาพมากขนึ้ สามารถปรับจากการปลกู ขา วเพียง อยางเดียวมาเปนเกษตรผสมผสาน ตามหลกั เกษตรทฤษฎี ใหม นอกจากนี้ โครงการสง เสริมใหชาวนาปลกู ขา ว เหนยี วกอเดียวและขาวหอมมะลิชุมชน สง เสริมการผลิตปยุ อินทรีย การปลูก ผักอินทรีย สงเสริมการปลกู พืชในเขตชาวบานสามารถพ่งึ พาตนเอง ชลประทาน ไดอยา งย่ังยืนถนนดิสโก...ชื่อนม้ี ที ี่มา ๒๓ ตอนที่พระราชามาพ้ืนท่ีแหงน้ี มีชาวบานคอยบอกนําทางใหเลี้ยวซายทีขวาทีเสน ทางไมด ี รถยนตก แ็ กวง ไปมา พระราชาจึงเปรยี บถนนเสนน้วี าเปน “ถนนดิสโก”
อุโมงคผ นั น้าํ ในโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ วา ว ! อุโมงค ใตภูเขา เม่ือเดินจากปากทางลกึ เขาไป จะรสู ึกเหนื่อย เพราะเปน การเดนิ ขน้ึ เนนิ เขาไปเรอ่ื ยๆ แถมอากาศขางใน กจ็ ะเย็นขึ้นดวย พระราชาคดิ และใหสรางอุโมงคผนั น้าํ ขามจังหวดั จากอา งเก็บนา้ํ หว ยไผ จ.มกุ ดาหาร ซึ่งอยูคนละฟากภูเขา มาสพู ้นื ที่การเกษตรใน อ.เขาวง จ.กาฬสนิ ธุ โดยสรางทอ สง นาํ้๒๔ ความยาว ๗๑๐ เมตร ผา นใตเขาภูภักดี
ลําพะยงั ภูมพิ ัฒน คือ ชื่อที่พระราชาตง้ั อโุ มงคผ นั นํา้ แหงนี้ลําพะยัง คือ ลมุ น้าํ ลําพะยงั ทอ สง นํ้าทํามาจากวสั ดุใด ใครรบู าง ภมู ิ คือ แผน ดนิพัฒน คอื ความเจริญกา วหนา พัฒนา เมื่อรวมกันจงึ หมายถงึ อุโมงคผ นั นา้ํ น่ีนี่ เด็กๆ สามารถที่นาํ ความเจริญมาสูแผนดนิ ลุม นาํ้ ลําพะยัง เดินขามจังหวัด ผา นทางอุโมงคนี้ ไดดวยนะในการผนั น้าํ จะเนนการสง นํ้าในชวง หไโนปดมเทาทยพยที ฝองัจอ่ือั้งนสพะสปฝงผ้ืนงรงสนันนทับซว้าํ ไํา้าี่เรนสปกสยะหายษาดแยนยงัตับลใบซาหะครแออขญทวยลพวาี่ขไางมัปกา๔เดดนนรสันแวนูไสา้ํ รมกคนาสนถยอล้ําง างึนนนํ้าโครงการพัฒนาลมุ นํ้าลาํ พะยังตอนบน การเดินทางต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสนิ ธุ ๒๕ ฝายสงนํ้าและบํารุงรักษาท่ี ๔ โครงการชลประทานกาฬสินธุ
รจู ักแกมลิง โครงการพัฒนาพนื้ ท่ี แกมลงิ หนองเลิงเปอย อนั เน่ืองมาจากพระราชดาํ ริ จ.กาฬสนิ ธุ ‘เลงิ เปอย’ เปนหนองน้ําท่เี กิดข้นึ ตามธรรมชาติ รองรับนํา้ จากหวยและธารนํา้ ธรรมชาตทิ ่ไี หลมารวมกัน ๓ ทิศทางในฤดูฝน น้ําจะขงั เต็มหนองน้าํ ถา ระบายออกไมท นั นํ้ามักจะทวมพ้นื ท่รี อบๆสวนหนาแลง มนี ้าํ ไมเพียงพอใหช าวบา นใชแ ละทาํ การเกษตร เม่อื พระราชาทราบถึงความเดอื ดรอนของชาวบานจึงใหห นว ยงานราชการเขามาชวยเหลอื แกไ ขปญหา µÃÒ»ÃзѺ พระราชาสอนใหร จู ัก ‘แกม ลิง’ พน้ื ท่แี กม ลงิ คอื การสรางพ้นื ทีช่ ะลอนํ้าและ รอรับน้ําหลาก ชว ยผอ นความแรงของ กระแสน้าํ ไมใ หท าํ ลายพืชผล บานเรือน เม่ือนํ้าเต็มอาง จนลน ก็จะคอยๆ ไหลตอไป เมอ่ื ผานฤดนู า้ํ หลาก แกมลงิ กก็ ลายเปน ที่กักเก็บนา้ํ ไวใ ชป ระโยชน๒๖
‘แกมลิง’ ชว ยแกป ญ หา นาํ้ ทวมไดย งั ไงนะชว ยรับนํ้าหลากไวไ มใหทว มลนโดยเก็บกกั น้าํ ไวช ั่วคราวกอ น และคอ ยๆ ระบายออก ๒7
ศาสตรพระราชา “ระเบิดจากขา งใน” เปนจุดเร่ิมตนของการพัฒนาหนองเลงิ เปอ ย เม่ือทุกคนรวมมอืรวมใจตามแนวคดิ ของพระราชา “เขาใจ เขา ถึง พัฒนา” กส็ ามารถแกไ ขปญหา ไดอ ยางเห็นผลผนู ําชุมชน พระสงฆ ชาวบา น หนว ยงานราชการทอ งที่ ทอ งถิ่น ชว ยกนั ออกแบบ หนองเลิงเปอ ย กรมการ ชาวบาน สละแรงงาน ชว ยกนั ปกครอง สรา งทางระบายนา้ํ บริเวณ ปลายสว นทองถิ่น คลอง 13Rเขามาชวย ผนู าํ ชาวบานทอ งที่ ทอ งถ่ิน อ.รองคาํ อ.กมลาไสย สละแรงงาน รว มกันซอมแซมปรับปรุงขอบ๒๘ หนองเลงิ เปอ ย
หลงั จากนชี้ าวบา นรว มกนั ทาํ ประชาคม ถวายฎกี า ฎกี า หมายถึงอะไรตอ พระราชา เพอื่ ขอความชว ยเหลอื จากหนว ยงานราชการ ใครรูบ างเพอื่ ขดุ ลอกเลงิ เปอ ย ซงึ่ มพี นื้ ท่ีขนาดใหญก วา ๘๐๐ ไร พรอ มสรา งประตรู ะบายนา้ํ และระบบชลประทาน ดนิ ท่ี ไดจ ากการขดุ ลอกหนองเลงิ เปอ ยจะนาํ ไปถม ท่ีดินของชาวบานโดยรอบใหมรี ะดบั สงู ขน้ึ ปอ งกนั นา้ํ ทว ม แตในชว งแรกชาวบานตอ งเรียนรู การปรับปรุงดนิ ใหเหมาะในหนองเลงิ เปอย การปลกู พชื เสยี กอ น โดยมีคือ พ้นื ที่แกมลงิ เจาหนาที่ ใหคาํ แนะนาํแหง เดียวในภาคอสี าน กรมชลประทานซอ มแซมฝายท่ีชาํ รุด แผนท่ี คอื ตนเปอย หรือ ตน ตะแบกนา อาวุธสําคัญ ขนึ้ อยรู อบหนองเลิงเปอ ย ในการพัฒนา มีดอกเปนชอสีชมพอู อ น พน้ื ที่ และสมี ว งออน ๒๙
ปหนระอโงยเชลนิงจเปาอกยการพัฒนา ชาวบานเกิด คนหนมุ สาวมีงานทํา ความสามัคคี ไมตอ งทิ้งบา นไปหางาน ชวยเหลอื กันและกนั ในชุมชน ในเมืองในหนาแลง ผลผลิตการเกษตรดีข้นึ ชาวบานเจอ มกี ารรวมกลุม การผลติ ปญ หานํ้าทว มนอยลง แบบเปนรูปธรรม มีน้าํ สาํ หรับใช ใน ผลผลิตจากหนองเลงิ เปอย การเกษตรที่เพียงพอมากข้นึ นากนิ จังเลย ดสู ิ มแี หลง ประมงนํา้ จืดขนาดใหญ๓๐
นอกจากการพัฒนาแหลงน้ํา โครงการ มสกี วาทนราํแทนบ่ีอางยปพูอ ลนื้ากู ศทพยั ่ีเืชปแไรนลพสะปชืวสนศวตุสนัตา งวๆยังสง เสริมการทําอาชีพเล้ียงตนเองของชาวบาน ในดา นเกษตรกรรมตางๆ มีการเฟนหา “เกษตรกรหัวไว ใจสู” เพ่ือเปน ตนแบบในการทาํ เกษตรกรรมแบบทฤษฎีใหมแ ละปลูกพชื ผสมผสานท่ีไดผลดีกวาการปลกู พชื เชงิ เดี่ยวกแาลระปพลืชกู ผพลชื กผินสใมนผคสราัวนเรือชนว ยตใลหอมดผี ปัก เล้ยี ทงําวปวั ศเุสลัตีย้ งวห มู มมี ากพอก็นําไปขาย เล้ียงไก และเปด เทศ โรงเรือนท่ีดดั แปลงจากวัสดงุ า ยๆ ชว ยประหยดั เงินไดด วย สกัดสารไลแ มลง ทกาํ าแใรหมสผ ใรักนาไหงมโนรเสงาเฝียรหนือานยจากสมุนไพรในครัวเรือนศูนยประสานงานโครงการพฒั นาพืน้ ที่แกมลงิ หนองเลิงเปอย ต.สามัคคี อ.รอ งคํา จ.กาฬสินธุ ๐๘๐ 1๒๒ ๐๖๐๘, ๐๘7 ๕๔๓ ๕๒1๕ โครงการพัฒนาพ้ืนทแี่ กมลงิ หนองเลิงเปอ ย อันเนื่องมาจาก การเดนิ ทาง พระราชดําริ ศนู ยประสานงานโครงการพฒั นาพืน้ ทแ่ี กมลิงหนองเลงิ เปอ ย ๓1
µÃÒ»ÃзѺ สนกุ เรียนรพู พิ ิธภัณฑ ธรรมชาติที่มีชีวิต ศูนยศ ึกษาการพัฒนาภูพาน อันเน่ืองมาจากพระราชดาํ ริ จ.สกลนคร เดิมพื้นท่ีน้ีเปนปาโปรง ดินขาดความอุดมสมบูรณ ขาดแคลนน้ํา ปลูกพชื ไมไ ดผ ล ชาวบา นยากจน มีการบกุ รุก ทาํ ลายปา จนเกดิ ความแหง แลง พระราชาเลอื กพน้ื ทแี่ หง นเ้ี พอื่ จัดตั้งเปนสถานที่ศึกษา ทดลองและสาธิต การพัฒนาท่ีดิน แหลงนํ้า ฟนฟูปา วางแผนการปลูกพืชและเล้ียงสัตวให เกษตรกรและคนที่สนใจเขามาศึกษาคนควา นําไปพัฒนา อาชีพเลย้ี งตนเองและครอบครัวไดแบบยั่งยนื๓๒
‘ฝายพอ’ หรือฝายตน นาํ้ แหง น้ีพระราชาเคยเดนิ บนสนั เขื่อนแคบๆ กางแผนที่ เรามาเดินตามรอย พระราชาทีละกา วกนั ดกี วา 1…๒…๓ ๓๓
บเดนินเเสลน น ทสาดุ งสศนกึ กุษ…าธรรมชาติ บนเสนทางยาว ๓ กิโลเมตร ใชเ วลาเดิน ประมาณ ๑ ชัว่ โมงมอี ะไรใหสนกุ เรียนรูมากมายมีพันธุไม และเห็ดปา๓๔๕ ชนดิ ๑๘๕ ชนดิ สมนุ ไพรปา ๓๐๒ ชนดิ เด็กๆ รูไหม ? เนอื้ ทรายและกวางท่ีนย่ี ังเปน ท่ีดแู ลและเพาะพันธสุ ัตวปา ตา งกนั อยางไร เพ่ือการอนรุ ักษด ว ย กรงสัตวแ บบเปด บนสะพานทางเดินท่ีทอดยาว จะเจอหา น หมปู า และเน้อื ทราย รูไหม ? ๓๔ หมูปา ชอบกนิ เม็ด ยางพาราดว ยนะ
ศตนูะลยยุ ศ พกึ น้ืษทากี่ ารพัฒนาภูพาน ปราคไู เหปอื มอยะก?ไรนะจัดเหปาน นต้ํานฟแบนบฟขปู อางภพาัฒคอนีสาอานาชีพ การสรา งปา เปย ก เปน วิธที ี่ชว ยปอ งกนั ไฟปา ไดด ี ตามท่ีพระราชาบอก น่งั รถรางเท่ียวชมศนู ย ดานปาไม พรอมฟงบรรยายเจา หนาท่ี ปลกู ปา ๓ อยา ง ไดประโยชน ๔ อยา งมาดูการทาํ งานพัฒนาของศูนย ๙ ดานแหงนต้ี ามแนวคดิ • ไมเ ศรษฐกจิ หรือไมส รา งบาน • ไมใ ชส อยหรอื ไมโตเร็ว ของพระราชากนั เถอะ • ไมกินได พืชผลตา งๆ • ชว ยอนุรกั ษดนิ และนํ้าดา นแหลง นา้ํ สรา งฝายชะลอนาํ้ ใน นา้ํ ซา ง คืออะไรนะลํานํ้า ชวยสรางความชุมชื้นใหแกปา ใชเรียกบอขุดเพือ่ นําน้าํสรางอางเก็บนํ้า เชน อางเก็บนํ้าหวยตาดไฮใหญแ ละอา งอน่ื ๆ รวม 1๕ แหง มาใชในสมัยกอนเอาน้ํามาใชประโยชนในครัวเรือนและการเกษตร ตน ยางนา ราชาแหงปา เพราะเปน ไมท ่ีใหป ระโยชนมาก ท้งั ใหรม เงา๓๕ รักษาสิง่ แวดลอ ม มีราคาทางเศรษฐกิจ เตบิ โตไดดีในสภาพดินทุกชนิด
“ปลูกปา ในใจคน” หาอาสาสมคั รพิทกั ษป าอยาง “ราษฎรรักษาปา” เพอ่ื สรางภมู ิคุมกันไมบ กุ รกุ ทําลายปาและฟนฟปู า ใหกลบั มาสมบูรณ ๓ ดํามหัศจรรย หมดู าํ ภพู าน มขี นาดกะทดั รดั ของภูพาน ลูกดก มันนอยและเนื้อแดงมาก มอี ะไรบา งนะ นิยมนําไปทําหมหู ัน ไกด าํ ภพู าน หนา ตา คลา ยไกพ นื้ เมอื ง มขี นดาํ กระดกู ดาํดา นปศสุ ตั ว เนน การเลย้ี งสตั วท ม่ี ี โคเนอ้ื ภพู าน เปน โคสายพนั ธทุ ด่ี ที สี่ ดุ ในการสายพนั ธุเ หมาะสม เล้ยี งงาย ขายได ผลิตโคขุน เนอ้ื นมุ กวาโคสายพนั ธอุ น่ื เพราะมีราคา ทนทานตอโรค ไขมนั แทรก เหมาะนําไปทาํ สเตก็ ดา นการเกษตร ฝก อบรมเกษตรกรทาํ เกษตรผสมผสาน ประยุกตจากเกษตรทฤษฎีใหมของพระราชา ทั้งปลูกขาว พืชไร พืชสวน ยางพารา หมอ นไหม และเพาะเหด็๓๖
สง เสริมการเกษตร สนิ คา ศกึ ษาและพัฒนาสาธารณสขุแปรรปู ขน้ึ ชอ่ื ของทนี่ ่ี มที งั้ ใหบ รกิ ารนวดตวั นวดฝาเทา เพอื่วนุ เสน จากถวั่ เขยี วและถว่ั พมุ ดาํ สนิ คา จากออ ย สขุ ภาพ สอนทาํ ผลติ ภณั ฑจ ากสมนุ ไพรและธญั พชื มไี อศกรมี เชน ยาหมอ ง เทียนตะไครห อมขา วฮางดว ยนะ ลองใหอาหารไอศกรมี ขา วฮาง จากงานศึกษา ปลาคารฟ ดว ยขวดนมและพฒั นาดา นขา วศนู ยศึกษาการ ไดนะพัฒนาภพู านอันเนอื่ งมาจากพระราชดาํ ริศกึ ษา พัฒนา ปรับปรุงดนิ การใชป ยุ พืชสดและการใชหญาแฝก เพือ่ แกป ญ หาดินเค็ม ๓7
นอ งกบอยูในนี้ มี ใครใจกลา ลองจับนองกบ บา งนะดา นประมง เพาะพนั ธุสัตวนํา้ ดวยการใชน้ําอยางจํากัด เชน เลี้ยงปลาดุกในบอซเี มนต เลี้ยงกบในคอนโดท่ีทาํ จากยางรถยนตเลี้ยงสัตวผสมผสานในบอเดียวกัน การแปลงเพศปลานลิ สง เสริมและ พัฒนาอาชีพ อตุ สาหกรรม ในครัวเรือน การทําผายอมคราม คือ ของดีของที่น่ี ทําเปนสินคา ตางๆ ทั้ง เส้ือผา กระเปา ผา ขาวมา ผาหม ๓๘
กรงสัตวปด มไี กฟ าพญาลอ ไกป า ภเู ขา นกยงู ไกฟาหลงั ขาว ไกฟา สที อง ไกฟ าเลด้ี ไกฟ าหลงั เทาแขงแดง ฯลฯ สวยๆ ทั้งน้ันเลย เสยี งรองของนก ท่ี ใชส่อื สารกันมี ๒ แบบ • รอ งเพลง โดยตัวผจู ะรอ งในฤดผู สมพนั ธุ เปน เสียงสงู ๆ ตาํ่ ๆ เพ่ือดงึ ดดู ตวั เมยี • รอ งดงั ตดิ ตอกนั เปนการรองเตือนภยั หรือ เรียกเพอื่ นมาชว ยไลศตั รู ทาํ ไมหา น ชอบรอ ง สง เสยี งดงั นะ เด็กๆ สงสยั ไหมทําไมนกหรือไกฟา๓๙ ตัวผูจงึ มสี ีสันสวยงามกวาตวั เมยี
ในศนู ยฯ ภูพาน มสี ัตวม ากมายหลายชนดิ มาตามหาบรรดาสตั วก ันเถอะ เด็กๆ ชอบสตั วต วั ไหนบาง๔๐ เพราะอะไรนะ
เด็กๆ ไดเจอสัตวอ ะไรบา งนะศนู ยศกึ ษาการพฒั นาภูพานอันเนอื่ งมาจากพระราชดําริ การเดินทาง บา นนานกเคา ต.หว ยยาง อ.เมอื ง จ.สกลนคร เปดวันจนั ทร- ศกุ ร ๘.๓๐-1๖.๓๐ น. ๔1 (๐๔๒) 7๔7๔๕๘-๙ www.roral.rid.go.th/phuphan
µÃÒ»ÃзºÑ โครงการเกเศรษียูนตนรรยผูเลพส้ียมัฒงผสสตันาวนา ปศุสัตว ตามพระราชดําริ อ.ดา นซา ย จ.เลย จากพนื้ ทสี่ าธารณะในอาํ เภอดา นซา ย จงั หวดั เลย สงวนไวส าํ หรบั เลย้ี งสตั ว จํานวน 1,๒๐๐ ไร พระราชามองเห็นประโยชนข องที่ดนิ และการเลี้ยงสัตว จงึ ใหพ ัฒนาเปนศนู ยสาธิตดา นปศุสัตว เพอ่ื สง เสริมอาชพี การเล้ยี งสตั ว เปนการ เพม่ิ รายไดใ หแ กช าวบา น รวมถงึ สาธติ และอบรมการทาํ เกษตรผสมผสานควบคู ไปกบั การเล้ียงสตั ว ตอ มาเจา หญงิ นกั พฒั นาสานตอ ดวยแนวคิดใหเ ลีย้ งสัตวท ่ี จาํ เปน และเหมาะสมกบั สภาพพน้ื ท่ี รวมถงึ ขยายพนั ธเุ พอื่ สง ไปยงั โครงการอนื่ ๆ ของพระราชาทย่ี งั ขาดแคลน๔๒
ปศุ หมายถงึ สตั วท ่ีคนนาํมาเลีย้ งไว ใชง าน เชน ววั ควาย มา รวมถงึ สตั วท่ีเลย้ี งเอาไวก ิน เชน หมู ไก เปด ๔๓
พในรฟอ ามรสมาํ ขรอวงจพกรนั ะหรารชือายมังีอะไรบา งนะโรงเรือนพอ ไกแ มไก เลี้ยงไกไ ขเ ล็ก ฮอรนขาวหงอนจักร เพ่อื เอาไขไ ก พอ ไกพ นั ธุ แมไกพ ันธุไทย ลูกไกไข แปลงพืชอาหารสตั วโรดไอแลนดเ รด บารพลมี ัธรอ็ ค กรมปศสุ ตั ว ขอ ดขี อง ๒ พนั ธุน้คี ือ เลีย้ งงาย ตานทานโรคดี เหด็ เปน พชื ปลกู หญา กนิ นี หญา เนเปยร หญา รซู ี่ เศรษฐกิจ ถั่วลิสงเถา ถั่วฮามาตา ถว่ั ทา พระสไตโล ท่ีขายไดร าคาดี และขยายพันธุออ ยอาหารสตั วศโนูรงยเกราือรนเรเพียานะรเหูเรด็ ื่อแงเลหะ็ด คอกวัวและสัตวอ ่ืนๆ เชน แพะ หมูแจกจา ยเชอ้ื เหด็ ใหแ กท เี่ ขา รว มโครงการ ศนู ยเ รียนรู และเพาะเลยี้ งสตั วน าํ้ จดั ตง้ั กลมุ เกษตรกรเพาะเหด็ สง เสริมอาชพี ประมงเลย้ี งปลานลิ แปลงเพศ ผลติ เหด็ ทมี่ คี ณุ ภาพสง ตลาด ปลอ ยพันธุป ลาน้ําจืดในอางเกบ็ นํ้า เชน แปลงสาธิตการผลติ และ ปลาสรอยขาว ตะเพียนขาว กระแห การใชแปลงหญา ตะเพยี นทอง ปลาแกง นาํ มาเปนอาหารสตั วตา งๆ๔๔
สง เสริมการปลูกพืชตา งๆ ลกู หมอ นหรือมลั เบอรร ี่ อรอ ยและมปี ระโยชน ผลติ และขยายพนั ธพุ ืช แปลงไมผลเมอื งหนาวและไมผ ลอโวคาโด ผักชลี าว ผักหวานบา น พนื้ เมือง พลับ สาลมี่ อนไข มะปรางหวาน และสตารแอปเปล ผลติ และขยายพันธุไมผล อบปรมลหูกใลกนักาสแสภฟตู าพรพกันราธมรอุ ปเรงลาาูกบกิกาาแฟเศรษฐกจิ ไดแ ก แมคคาเดเมียนัท กระทอน พลบั ทอ และบว ยกิจกรรมนาสนกุ ท่ีเด็กๆ ลงมือทําไดดลู ูกเจ๊ยี บสิ แพะนารักจังเลย ชอบกินอะไรนะ ใครรูบาง ลองเลย้ี งนองแพะ มลู ของสัตวนํามา ทําปยุ ได ชว ยประหยัด เลย้ี งไกและเกบ็ ไกไข ไมต องซอ้ื ปุยสําเร็จ โครงการศูนยพัฒนาปศสุ ตั วต ามพระราชดําริ การเดินทาง อ.ดานซา ย จ.เลย ๔๕ ๐ ๔๒๘1 ๐๔๙7 ศนู ยพ ฒั นาปศสุ ตั วต ามพระราชดาํ ริ อ.ดา นซา ย จ.เลย
µÃÒ»ÃзѺ เรียนโครกู รางรแกกาป รญพหัฒาเรนื่อางนล้ํามุ จานกาํ้พกระา่ํ ราชา อนั เนือ่ งมาจากพระราชดําริ จ.นครพนม-จ.สกลนคร ในอดีต ประชาชนสองขางลํานํ้ากํ่าประสบปญหาน้ําทวมพ้ืนที่ การเกษตรในชวงหนาฝน และขาดแคลนนํ้าใชในชวงหนาแลง ซํ้าซาก แบบน้ีทุกป พระราชาทรงชวยชาวบานดวยการคิดพัฒนาลุมน้ําก่ําและ ระบบชลประทาน ทรงวาดโครงรา งโครงการพฒั นาลุมนํ้าก่าํ ขณะนั่งอยู บนเคร่ืองบินแลว มองลงมา ใหส รางประตรู ะบายนํ้าเลก็ ๆ โดยลดขนาด ความสงู ลงมา เจรจากบั ชาวบา นทพ่ี นื้ ทถี่ กู นาํ้ ทว มใหม กี ารเกบ็ กกั นาํ้ เอา ไวใ นรองนา้ํ แลว ใหประชาชนสบู เอาไปใชเ อง๔๖
ประตูระบายน้ํา ๔7 มปี ระโยชน อยา งไรนะ
พระราชาใชการคิดอยางมีระบบ ศึกษาเกี่ยวกับนา้ํอยางลึกซง้ึ สกู ารแกไขอยา งเปนขั้นตอน สรา งประตูระบายน้ำ แหง พัฒนาหนองบงึ ขนาดใหญ แหง แหง สรา งระบบสง นำ้ ชลประทาน ดวยสถานสี ูบนำ้ ไฟฟา สว นหัว คือ หนองหาน ตนกําเนดิ ลาํ นา้ํ กา่ํ สว นกระดกู สนั หลัง คอื ลํานํ้ากา่ํ ขอท่ีเปน ปลอง คือ อาคารบงั คับนา้ํขอบลาํ ตวั คอื คลองระบายนา้ํ ที่คขู นานไปกบั ลาํ นาํ้ กา่ํมกี ารบริหารจัดการนํา้ ท่ีดี ประตูระบายนํ้า บริหารจัดการน้ําในลมุ นาํ้ เพ่อื เกบ็ กักนาํ้ และ ใหม นี า้ํ กนิ นาํ้ ใชเ พยี งพอ นาํ ไปผลติ นาํ้ ประปาดบิ ใชใ นการเกษตร อตุ สาหกรรม และรกั ษาระบบนเิ วศ๔๘ บรรเทาภัยน้าํ ทว ม ระบบสง นํ้า เพ่อื สงนาํ้ สูพ้นื ท่ีทาํ เกษตร อนั แหง แลง บริหารจัดการนํา้ ในแตละสถานสี บู นํา้ เพือ่ ลดความขดั แยง แยงนํา้ จดั ต้งั คณะกรรมการ การใชนํา้ ทกุ คนจะไดใ ชน ํ้าอยา งทวั่ ถึง
Search