แผนการจดั การเรยี นรทู้ ม่ี ุ่งเน้นสมรรถนะอาชพี และบรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง วิชาธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ รหัสวิชา 20001-1003 หลกั สตู รประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 จดั ทาโดย นายณัฐวฒุ ิ ผุยพรม แผนกวิชาการตลาด วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาฉะเชิงเทรา สถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคกลาง 3 สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
คานา แผนการจัดการเรียนรู้/แผนการสอนฉบับน้ี จัดทาขึ้นสาหรับวิชาธุรกิจและการเป็น ผู้ประกอบการ รหัสวิชา 20001-1003 2 หนว่ ยกิต 3 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ทุกประเภทวิชา จัด อยู่ในหมวดวิชาชีพ วิชาชีพพ้ืนฐาน สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นแผนการสอนเพื่อ เป็นแนวทางให้ผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นฐานสมรรถนะ (Competency Based) และการบูรณาการ (Integrated) ตรงตามจุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา คาอธิบายรายวิชา เร่งพัฒนาบทบาทของผู้เรียนเป็นผู้จัดการ แสวงหาความรู้ (Explorer) เป็นผู้สอนตนเองได้ สร้างองค์ความรู้ใหม่ และบทบาทของผู้สอนเปล่ียนจากผู้ให้ความรู้มาเป็น ผู้จดั การชแี้ นะ (Teacher Roles) จัดส่งิ แวดล้อมเอื้ออานวยต่อความสนใจเรียนรู้ และเป็นผูร้ ่วมเรียนรู้ (Co-investigator) จัด หอ้ งเรียนเป็นสถานที่ทางานรว่ มกัน (Learning Context) จัดกลุ่มเรียนรู้ให้รู้จักทางานร่วมกัน ฝึกความใจกว้าง (Grouping) มงุ่ สร้างสรรค์ คนรุ่นใหม่ สอนความสามารถที่นาไปทางานได้ (Competency) สอนความรกั ความเมตตา (Compassion) ความเชอื่ ม่นั ความซอ่ื สัตย์ (Trust) เป้าหมายอาชีพอันยังประโยชน์ (Productive Career) และชีวติ ท่ีมศี ักด์ศิ รี (Noble Life) เหนือ สิ่งอนื่ ใด เปน็ คนดที งั้ กาย วาจา ใจ มีคุณธรรม จรรยาบรรณและวิชาชพี นายณัฐวุฒิ ผยุ พรม
สารบญั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1 คาอธิบายวชิ า 1 หนว่ ยการเรยี นร/ู้ สมรรถนะรายวิชา 1 มาตรฐานสมรรถนะและตัวบง่ ชี้ 1 ลักษณะรายวชิ า 2 ตารางวิเคราะห์หลักสูตร 3 กาหนดการสอนทบ่ี ูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 4 การวัดผลและประเมินผล 8 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 12 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 16 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 20 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 24 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 29 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 33 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 39 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8 43
ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตร วชิ า ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ รหัสวิชา 20001-1003 หลักสตู รประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) ทกุ ประเภทวชิ า กระทรวงศกึ ษาธกิ าร พฤติกรรม ความรู้-ความจา ความเ ้ขาใจ เน้ อื หา การนาไปใช้ การ ิวเคราะห์ บทที่ 1 แนวคดิ ในการเป็นผ้ปู ระกอบการ รวม (คะแนน) บทท่ี 2 ประเภทและความสาคญั ของการประกอบการ ัอน ัดบความสา ัคญ บทที่ 3 การประกอบธุรกจิ ขนาดย่อม บทท่ี 4 การประกอบธรุ กจิ ค้าปลกี และค้าสง่ 12 3 2 8 2 บทท่ี 5 การประกอบธุรกจิ แฟรนไชส์ 12 2 1 6 3 บทที่ 6 การจัดทาแผนธุรกจิ ทมี่ ีประสิทธภาพ 13 2 2 8 2 บทที่ 7 ความรู้เก่ียวกบั ภาษีอากรสาหรับผปู้ ระกอบการ 12 3 2 8 2 บทท่ี 8 จรรยาบรรณในการเปน็ ผปู้ ระกอบการ 22 2 2 8 2 2 2 4 4 12 1 รวม 12 2 3 8 2 12 2 1 6 3 อันดบั ความสาคญั 10 17 20 17 3 2 1 2 64
1. รหสั และชอ่ื วชิ า 20001 - 1003 ธรุ กิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ 2. สภาพรายวิชา หมวดวิชาชีพ วิชาชีพพื้นฐาน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 3. ระดบั รายวิชา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธกิ าร 4. พนื้ ฐาน ภาคเรยี นที่ 1 หรอื 2 5. เวลาศกึ ษา** - 6. หน่วยกิต เรียนทฤษฎีและปฏิบัติ 3 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ ระยะเวลา 18 สัปดาห์ รวมท้ังส้ิน 54 ชั่วโมง 7. จุดประสงค์รายวิชา ตลอดภาคเรยี น และควรมเี วลาศึกษานอกเวลาเรยี นอกี 1 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์ 2 (3) 2 หน่วยกติ 3 ชัว่ โมงตอ่ สัปดาห์ 8. มาตรฐานรายวิชา เพ่ือให้ 1. ปลูกฝงั แนวคิดการเปน็ ผปู้ ระกอบการท่ีดี 9. คาอธิบายรายวิชา 2. สามารถกาหนดเป้าหมายและรหู้ ลกั การจัดทาแผนธุรกิจ 3. มเี จตคติทด่ี ตี ่อธรุ กจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 1. เขา้ ใจหลกั การของการเป็นผู้ประกอบการที่ดี 2. เขา้ ใจหลักการจัดทาแผนธุรกิจ 3. ประเมินผลความเหมาะสมของแผนธรุ กิจ 4. เข้าใจหลักการของระบบเศรษฐกิจตลาด 5. เข้าใจบทบาทหนา้ ที่ขององคก์ รธุรกิจและกฎหมายที่เกยี่ วข้อง ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการท่ีดี จัดทาแผนธุรกิจที่มีประสิทธิภาพและนา ปรัชญาการดาเนินธุรกจิ ทเ่ี หมาะสมไปประยุกต์ใช้กบั สงั คมและชมุ ชนได้ ตลอดจนบทบาท หน้าทีข่ อง องคก์ รธุรกจิ ภาษีธุรกจิ และกฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ้ ง
การแบง่ หน่วยการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ จานวนชั่วโมง 1 ความรู้เบื้องตน้ เก่ยี วกับธุรกิจ 6 2 ประเภทและลักษณะของการประกอบการธรุ กจิ 6 3 คุณลักษณะของผ้ปู ระกอบการทีด่ ี 6 4 บทบาทหน้าท่ขี ององค์กรธรุ กจิ 6 5 การจัดการธุรกิจ 6 6 การดาเนนิ ธุรกิจให้เหมาะสมกบั ชมุ ชน 6 7 แผนธุรกิจ 9 8 ภาษีธุรกจิ 6 9 กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั การดาเนินธรุ กิจ 3 54 รวม
ชื่อเรอ่ื ง ความรเู้ บ้ืองต้นเกี่ยวกับธรุ กจิ แผนการสอน ช่อื วิชา ธรุ กิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ ช่ือหน่วย ความรเู้ บื้องตน้ เกยี่ วกบั ธุรกจิ จานวนชัว่ โมง 6 1. หวั ข้อเรื่องและงาน ความรู้เบอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั ธรุ กจิ 2. สาระสาคัญ เรอ่ื ง ความร้เู บือ้ งตน้ เกี่ยวกบั ธรุ กิจ เปน็ การสรา้ งพน้ื ฐานความรูเ้ กี่ยวกบั การตลาดในดา้ นตา่ ง ๆ คอื - ความหมายของธรุ กิจ หมายถึง กิจกรรมทด่ี าเนนิ การโดยบคุ คลหรือกลุม่ บุคคล เพื่อให้เกดิ รายได้ โดยมุ่งหวงั กาไรเป็นการตอบแทน ธรุ กิจอาจจะเปน็ การผลิตสินคา้ เพอ่ื จาหนา่ ย หรือการ ใหบ้ ริการหรอื การซื้อมาขายต่อก็ได้ - ความสาคัญของธรุ กิจ ทงั้ ต่อผู้ประกอบการธรุ กจิ ในการทาใหธ้ รุ กจิ มีรายได้ มี กาไร ต่อผบู้ รโิ ภคในสังคมในการตอบสนองความตอ้ งการด้วยการสรรหาสนิ ค้าและบรกิ ารทีเ่ ป็นทต่ี ้องการ หรือเปน็ ประโยชนต์ อ่ ประชากรในสงั คม ในการสรา้ งงาน สร้างรายได้ และ ความสาคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศในการสรา้ งรายได้ เปน็ ที่มาของรายได้ของรฐั บาลท่ีจะ นามาใชใ้ นการพัฒนาประเทศในด้านตา่ ง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง ทาใหเ้ ศรษฐกจิ ของประเทศมีการ เจรญิ ก้าวหน้ามากขึ้น - วัตถปุ ระสงคใ์ นการประกอบการธุรกิจ เพอ่ื ใหเ้ กิดรายได้ เกิดกาไรทที่ าใหก้ จิ การ สามารถดาเนินการได้อย่างมั่นคง หรอื ตามเป้าหมายทกี่ าหนด เพือ่ ตอบสนองความต้องการของคนใน สังคมและเป็นทีย่ อมรับของสังคม
3. จดุ ประสงค์ 3.1. จุดประสงคป์ ลายทาง เพ่ือให้ 1. รู้ความหมายของธรุ กจิ 2. มีความเขา้ ใจถึงความสาคัญของธรุ กิจ 3. เขา้ ใจวตั ถปุ ระสงค์ของการประกอบการธุรกิจ 3.2. จดุ ประสงค์นาทาง 1. สามารถบอกความหมายของธุรกจิ ได้ 2. สามารถอธบิ ายถึงความสาคัญของธุรกิจทมี่ ตี ่อด้านต่าง ๆ ได้ 3. สามารถอธบิ ายถงึ วตั ถปุ ระสงค์ของการประกอบการธุรกจิ ได้ 4. สามารถอธิบายถงึ ลักษณะการประกอบการธุรกจิ ได้ 4. เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของธรุ กิจ ( Business ) 2. ความสาคญั ของธรุ กิจ 2.1. ความสาคัญของธรุ กิจตอ่ ผูป้ ระกอบการ 2.1.1 ทาให้ผปู้ ระกอบการธุรกจิ มรี ายได้ มกี าไร 2.1.2 ทาให้ผ้ปู ระกอบการธรุ กิจมีการพฒั นาผลิตภัณฑ์ 2.1.3 ทาใหผ้ ลติ ภณั ฑข์ องผ้ปู ระกอบการธรุ กจิ มีมลู คา่ เพ่ิม 2.1.4 ทาใหธ้ ุรกิจมขี อ้ มลู ข่าวสารทีจ่ ะนามาใชป้ ระกอบในการตดั สนิ ใจดาเนนิ กจิ การ 2.1.5 ทาให้ผู้ประกอบการธรุ กิจสามารถลดต้นทนุ เฉล่ียตอ่ หน่วยในการผลติ หรือการ ดาเนินงาน 2.2. ความสาคญั ของธุรกิจต่อสังคม 2.2.1 จดั หาสนิ คา้ และบรกิ ารท่ีหลากหลายเพ่ือตอบสนองความต้องการของสงั คม 2.2.2 ทาใหผ้ บู้ รโิ ภคมกี ารเปลย่ี นแปลงพฤติกรรมในการซื้อและการใช้ผลิตภณั ฑ์ 2.2.3 สร้างงาน สรา้ งอาชีพให้แกป่ ระชากรในสังคม 2.2.4 ทาให้มาตรฐานการครองชีพของประชากรดขี ึน้ 2.2.5 ทาใหผ้ บู้ รโิ ภคไดร้ บั ข้อมูลขา่ วสารตา่ ง ๆ เพื่อนามาใชป้ ระกอบการตดั สินใจ 2.2.6 ชว่ ยลดปญั หาอาชญากรรมและปัญหาในสงั คม
2.3. ความสาคญั ของธุรกิจตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศ 2.3.1 มบี ทบาทต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกจิ 2.3.2 เป็นแหลง่ ที่มาของรายได้ของรัฐบาล 2.3.3 เปน็ ท่ีมาของเงินตราต่างประเทศ 3. วัตถปุ ระสงคข์ องการประกอบการธุรกิจ 3.1. เพอ่ื ผลกาไรจากการดาเนินกิจการ 3.2. เพื่อตอบสนองความต้องการของสงั คม 3.3. เพอื่ ความอยรู่ อดอยา่ งมน่ั คง 3.4. เพ่ือการยอมรบั จากสงั คม
กจิ กรรมการเรยี นการสอน กจิ กรรมครู กิจกรรมผเู้ รียน การชีแ้ จงกอ่ นเรยี น 1. กอ่ นเรยี น - แจกโครงการสอนเพื่อเปน็ แนวทางการเรียนรู้ ผูเ้ รียนร่วมแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาว่า แกผ่ ูเ้ รยี น \"ธรุ กิจ\" ตามความคิด หรือความเข้าใจของ - อธบิ ายขอบข่ายการเรียนรู้รายวิชาธรุ กิจและ ผูเ้ รยี น หรอื ที่ผ้เู รียนพบเห็นในชวี ิตประจาวัน การเปน็ ผูป้ ระกอบการ 2. ระหวา่ งเรียน - ข้อปฏิบตั ติ นในระหว่างเรียนและการปฏิบตั ิงาน ผเู้ รยี นฟงั อยา่ งตง้ั ใจ จดบันทกึ ข้อมูลต่าง ๆ - อธิบายวิธีการวัดและประเมินผลการเรยี น เกยี่ วกับธรุ กจิ ตามท่ีผสู้ อนอธิบาย เมื่อไม่เข้าใจจะ 1. นาเข้าสู่บทเรยี น สอบถามใหอ้ ธิบายใหม่ มีสว่ นร่วมในการแสดงความ สอบถามผู้เรียนว่าเคยได้ยินคาว่า ธุรกิจ คิดเหน็ และตอบคาถามตา่ ง ๆ หรอื ไม่ เข้าใจวา่ อย่างไร นาคาตอบที่ได้รับมาสรุป 3. หลังเรียน ความหมายการตลาดท่ถี กู ต้อง สามารถนาความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ 2. การสอน ธุรกิจในดา้ นต่าง ๆ ไปใชป้ ระกอบในการปฏบิ ัติงานที่ อธิบายใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความรคู้ วามเข้าใจ มอบหมาย และแบบประเมนิ ผล เกีย่ วกับลกั ษณะท่วั ๆ ของธุรกจิ ตามรายละเอียดท่ี การเรยี นเร่ือง ความรเู้ บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั ธุรกิจได้ถกู ต้อง ปรากฏในส่วนของเนื้อหาสาระ อย่างน้อย ร้อยละ 50 ขณะสอนพยายามเปิดโอกาสให้ผเู้ รียนได้มี สว่ นร่วมในการตอบคาถามหรือซกั ถามเปน็ ระยะ ๆ 3. การสรปุ สรปุ เน้ือหาทสี่ อนมาอกี คร้ังและเปิดโอกาส ให้ซักถามเพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจโดยรวมที่ถูกต้อง และเพิ่มเติมในด้านการตรงต่อเวลา ความ กระตือรอื รน้ ในการเรยี นให้สอดคล้องกบั การเปน็ นัก ธุรกจิ ทต่ี ้องตอบสนองความต้องการของลูกคา้ ให้ ทนั เวลา
6. งานทม่ี อบหมายหรือกจิ กรรม 1. ใหน้ ักเรียนค้นหาความหมายของคาท่ีแสดงถึงความสมั พันธใ์ นการดาเนนิ ธรุ กิจโดยอาศยั เทคโนโลยใี นรูปแบบต่าง ๆ เชน่ E- Business พร้อมทัง้ อธิบายความหมายของคานน้ั ๆ ให้เข้าใจ 2. ให้นักเรียนบอกถึงความสาคญั ของธุรกิจต่าง ๆ ท่ีมีความสาคัญกับตวั เอง 7. สื่อการเรียนการสอน 1. หนงั สอื วิชา ธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ เรียบเรียงโดย สคุ นธจรนิ ทร์ ไกรศรวชั ร และคณะ 2. จากสภาพการดาเนินธรุ กิจในปจั จุบัน 3. จากสภาพการดารงชวี ิตประจาวันของผู้เรียน 8. การวัดผลและการประเมนิ ผล 8.1. วธิ ีวัด 1. การตรวจงานทีม่ อบหมาย งานช้ินที่ 1 พจิ ารณาจากการอธบิ ายถึงความสมั พนั ธ์เก่ียวกับการดาเนินธรุ กิจกบั การใช้เทคโนโลยีในรปู แบบต่าง ๆ ได้ถูกต้อง ( 10 คะแนน ) งานช้นิ ที่ 2 พิจารณาจากความถูกตอ้ งตามแนวทางของธุรกจิ ทมี่ ีตอ่ สงั คม (5คะแนน ) 2. การตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี น โดยกาหนดเกณฑด์ ังน้ี คะแนน 9-10 อย่ใู นระดับ ดีมาก คะแนน 7-8 อยู่ในระดับ ดี คะแนน 5-6 อย่ใู นระดับ พอใช้ คะแนนตา่ กว่า 5 ควรปรบั ปรงุ และประเมินใหม่ เคร่อื งมือวดั 1. งานทีม่ อบหมาย 2. แบบประเมินผลการเรยี น เรอ่ื ง ความรู้เบ้ืองตน้ เกีย่ วกบั ธรุ กจิ
แผนการสอน หนว่ ยที่ 2 วิชา ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ ช่อื หนว่ ย ประเภทการประกอบการธรุ กจิ ช่อื เร่ือง ประเภทการประกอบการธุรกจิ จานวนชว่ั โมง 6 1. หัวข้อเรือ่ ง ประเภทการประกอบการธรุ กจิ ( Types of Business Enterprise ) 2. สาระสาคญั การประกอบธุรกิจในปัจจุบันสามารถดาเนินการได้หลายประเภท หลายลักษณะ ได้แก่ ลักษณะในการดาเนินธุรกิจ สามารถจาแนกเป็นธุรกิจการผลิต การจัดจาหน่าย และการ ให้บริการ หรือการจาแนกตามลักษณะความเป็นเจ้าของ สามารถจาแนกเป็น ธุรกิจท่ีเป็นการ ประกอบการโดยคนคนเดียว การประกอบการในลักษณะห้างหุ้นส่วน บริษัท สหกรณ์ รัฐวิสาหกิจและการประกอบการธุรกิจในลักษณะแฟรนไชส์ หรือการจาแนกตามขนาด สามารถ จาแนกเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งการประกอบการธุรกิจแต่ละประเภทมี ลักษณะในการดาเนินการในการจัดตั้งแตกต่างกัน และกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องไม่เท่ากัน เช่น การประกอบการธุรกิจแบบเจ้าของคนเดียว การจดั ตง้ั สามารถทาไดง้ ่าย มีกฎหมายเขา้ มาเก่ียวขอ้ ง นอ้ ยมาก หรอื การประการด้านการผลิตกบั การจัดจาหน่ายกฎหมายท่ีเข้ามาเกย่ี วข้องก็แตกต่างกัน เปน็ ต้น การท่ีผู้ประกอบการจะเลือกดาเนนิ ธรุ กจิ ประเภทใด แบบใดน้นั จะตอ้ งพจิ ารณาถงึ ความรู้ ความสามารถและความพร้อมของผู้ประกอบการแต่ละราย แต่ที่สาคัญต้องสอดคล้องหรือสามารถ ตอบสนองความต้องการของตลาดได้
3. จดุ ประสงค์ 3.1. จดุ ประสงคป์ ลายทาง เพื่อให้ 1. เกิดความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกับประเภทของการประกอบการธรุ กจิ 2. เขา้ ใจลกั ษณะของการประกอบการธุรกจิ แต่ละประเภท 3. เข้าใจความแตกตา่ งระหว่างการประกอบการธรุ กิจแต่ละประเภท 3.2. จุดประสงค์นาทาง 1. สามารถอธิบายลักษณะของการประกอบการธุรกิจแต่ละประเภทได้ 2. สามารถจาแนกประเภทการประกอบการธุรกจิ แต่ละประเภทได้ 3. สามารถอธิบายความแตกตา่ งระหวา่ งการประกอบการธุรกิจแตล่ ะประเภทได้ 4. สามารถอธบิ ายขนั้ ตอนในการจดั ต้งั ลักษณะการประกอบการธุรกิจแต่ละประเภทได้ 5. สามารถนาความรู้เกยี่ วกบั ประเภทการประกอบการธุรกิจไปใช้ในการตัดสนิ ใจเลอื ก การประกอบการธุรกจิ ท่ีเหมาะสมได้ 4. เนอ้ื หาสาระ 1. ประเภทของการประกอบการธรุ กิจ 1.1. การจาแนกประเภทการประกอบการธุรกิจตามลักษณะการดาเนินธรุ กิจ 1.1.1 การประการธุรกิจในลักษณะการผลติ ( Production Business ) 1.1.2 การประการธรุ กจิ ในลักษณะการจัดจาหนา่ ย ( Distribution Business ) 1.1.3 การประกอบการธุรกิจการบริการ ( Service Business ) 1.2. การจาแนกประเภทการประกอบการธุรกิจตามลกั ษณะความเป็นเจ้าของ 1.2.1. การประกอบการโดยเจา้ ของคนเดียว ( Sole Proprietorship) 1.2.2. การประกอบการในลักษณะห้างหนุ้ ส่วน (Partnership ) 1.2.3. การประกอบการในลักษณะบริษัท จากดั ( Corporation ) 1.2.4. การประกอบการในลักษณะสหกรณ์ ( CO - Operative ) 1.2.5. การประกอบการในลักษณะรฐั วิสาหกจิ ( State Enterprise ) 1.2.6. การประกอบการธรุ กิจในลกั ษณะแฟรนไชส์ ( Franchise 1.3. การจาแนกประเภทการประกอบการธรุ กจิ ตามขนาด 1.3.1. การประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก ( Small Enterprise ) 1.3.2. การประกอบการธุรกจิ ขนาดขนาดย่อม และขนาดกลาง ( Small and Medium Enterprise ) 1.3.3. การประกอบการธรุ กจิ ขนาดใหญ่ ( Large Enterprise )
5. กิจกรรมการเรยี นการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียน 1. นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. กอ่ นเรียน ทบทวนบทเรียนเก่าเพื่อนาเข้าสบู่ ทเรยี นใหม่ ผเู้ รยี นช่วยกันสรุปถงึ เนือ้ หาเร่อื งความรู้ โดยให้ผู้เรียนช่วยกันเสนอธุรกิจท่ีรู้จักคนละ 1 แห่งแล้ว เบ้ืองต้นเกยี่ วกับการประกอบธุรกจิ และมีสว่ นรว่ ม ร่วมพิจารณาว่าธุรกิจใดมีลักษณะเหมือนกันหรือธุรกิจมี ในการเสนอธรุ กจิ ท่ผี ู้เรยี นรู้จกั คนละ 1 แห่ง เพ่ือ ลักษณะแตกต่างกันในลักษณะใดบ้าง เพ่ือนาเข้าสู่ เปรยี บเทยี บความเหมือนและความต่างของธุรกจิ ท่ี บทเรียนว่าธุรกิจสามารถดาเนินการได้หลายประเภท ร่วมกันเสนอมา หลายลกั ษณะ 2. ระหว่างเรียน 2. การสอน ผูเ้ รียนฟงั อย่างตง้ั ใจ จดบนั ทึก ร่วมแสดง อธิบายให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ ความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ประเภท และลักษณะการ การประกอบการธรุ กิจแตล่ ะประเภท แตล่ ะลักษณะ ดาเนนิ ธรุ กจิ ต่าง ๆ และสอบถามเม่ือไมเ่ ขา้ ใจ ตามรายละเอยี ดทีป่ รากฏในส่วนของเนื้อหาสาระ 3. หลงั เรียน ของแผนการสอน สามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจที่ไดร้ บั ไปใช้ใน ขณะสอนพยายามจัดการสอนที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม การปฏบิ ตั ิงานท่ีมอบหมาย และแบบประเมินผล ในการแสดงความคิดเห็น โดยการถาม ยกตัวอย่าง การเรียน เรือ่ งประเภทการประกอบการธุรกิจได้ ประกอบการอธบิ ายประเภทธุรกิจและลักษณะการดาเนิน อย่างน้อยรอ้ ยละ 50 ธรุ กจิ นน้ั ๆ 3. การสรุป สรปุ การเชือ่ มโยงระหวา่ งหวั ขอ้ ตา่ ง ๆทที่ าการ สอนไปแล้วใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความเข้าใจและมีความคิด รวบยอดท่ถี ูกตอ้ ง
6. งานที่มอบหมายหรือกจิ กรรม 1. ให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 5 คน ไปศึกษาธรุ กิจทีด่ าเนินการอยู่ในทอ้ งถนิ่ อย่างน้อย 10 แหง่ ว่ามีการประกอบการธรุ กจิ ประเภทใดบ้าง ช่ือและที่อยู่ของธรุ กจิ นั้น สนิ คา้ หรือบริการของธรุ กจิ คืออะไร นามาเสนอแลกเปลี่ยนกันหน้าช้ันเรยี น 7. สอ่ื การเรยี นการสอน 1. หนงั สือวชิ า ธุรกจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ เรียบเรียงโดย สคุ นธจรนิ ทร์ ไกรศรวัชร และคณะ 2. จากสภาพการดาเนนิ ธุรกจิ ในปัจจุบัน 8. การวดั ผลและการประเมนิ ผล 8.1. วธิ ีวดั 8.1.1. การตรวจงานที่มอบหมาย พจิ ารณาจาก - การมสี าระสาคัญครบถ้วน ( 3 คะแนน ) - ความถูกต้องของเนื้อหา ( 5 คะแนน ) - วิธกี ารนาเสนอ ( 2 คะแนน ) 8.1.2. การตรวจแบบประเมินผลการเรียน โดยกาหนดเกณฑ์ดงั นี้ คะแนน 9 - 10 อยู่ในระดับ ดีมาก คะแนน 7 – 8 อยูใ่ นระดับ ดี คะแนน 5 – 6 อยใู่ นระดับ พอใช้ คะแนนต่ากวา่ 5 ควรปรบั ปรุงและประเมนิ ใหม่ 8.2. เครื่องมอื วดั 8.2.1. งานท่มี อบหมาย 8.2.2. แบบประเมนิ ผลการเรียน เร่ือง ประเภทการประกอบการธุรกิจ
แผนการสอน หนว่ ยท่ี 3 วชิ า ธุรกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ ชอ่ื หน่วย ลักษณะของผูป้ ระกอบการธรุ กจิ ช่ือเรือ่ ง ลักษณะของผปู้ ระกอบการธุรกจิ จานวนชั่วโมง 6 1. หัวข้อเรอ่ื ง ลักษณะของผู้ประกอบการธุรกิจ ( Characteristic of Enterpriser ) 2. สาระสาคญั การประกอบการธุรกิจไมส่ ามารถเกดิ ขึ้นได้หากไม่มีผู้ประกอบการ การประกอบการ ธุรกิจในระยะแรกเปน็ เพยี งการแลกเปล่ียน เพือ่ ชดเชยความขาดของแตล่ ะบุคคล ประกอบกับความแตกต่าง ในความรู้ ความสามารถของแต่ละคน ทาให้การประกอบอาชพี แตกต่างกนั ออกไป ผู้ประกอบการทางธุรกจิ เปน็ อีกอาชพี หนงึ่ ในสงั คม ท่ีทาหนา้ ที่หลักในการตอบสนองความต้องการของคนในสงั คมใหม้ สี ินค้าหรือบรกิ าร ใชใ้ นการดารงชีวติ ทัง้ ในลกั ษณะการผลิต การจัดจาหนา่ ยหรอื การให้บริการต่าง ๆ ผูป้ ระกอบการธุรกิจทีด่ ีควรมีคุณสมบัติท่ีมคี วามรับผิดชอบต่อการดาเนินงานทต่ี อบสนอง ความตอ้ งการของผู้บริโภคด้วยความยุติธรรม ต้องมีจริยธรรมและจรรยาบรรณในการประกอบธรุ กิจจึงจะทาให้ เป็นทีย่ อมรับของสังคมและสามารถดาเนินกิจการไปไดอ้ ยา่ งมน่ั คง 3. จุดประสงค์ 3.1. จุดประสงค์ปลายทาง เพื่อให้ 1. รคู้ วามหมายของผู้ประกอบการธุรกิจ 2. เขา้ ใจถึงลักษณะของผปู้ ระกอบการท่ีดี 3. รแู้ ละเข้าใจเก่ยี วกับจริยธรรมทางธรุ กิจและจรรยาบรรณท่ผี ้ปู ระกอบการธรุ กจิ ควรนามา ปฏิบตั ใิ นการดาเนนิ ธุรกจิ 4. มีลกั ษณะนสิ ัยท่ีรับผิดชอบต่อหนา้ ที่ของตนเอง ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ ท่ีสง่ ผล ในการเปน็ นักธรุ กิจท่ีดีในอนาคต 3.2. จดุ ประสงคน์ าทาง 1. สามารถบอกความหมายของผู้ประกอบการธุรกจิ ได้ 2. สามารถอธบิ ายถงึ คุณสมบตั ิของการเปน็ ผู้ประกอบการทดี่ ีได้
3. สามารถบอกและอธิบายเก่ียวกับจรยิ ธรรมทางธุรกจิ และจรรยาบรรณท่ี ผ้ปู ระกอบการ ธุรกจิ ควรนามาใชเ้ ปน็ พน้ื ฐานในการดาเนินธุรกจิ 4. มลี กั ษณะนิสัยท่ีรบั ผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ อย่างมี จรยิ ธรรมทส่ี ่งผลใหเ้ ป็นผมู้ จี รยิ ธรรมและคุณธรรมตลอดทั้งมีจรรยาบรรณในการเป็น ผ้ปู ระกอบการทีด่ ีในอนาคต 4. เนอื้ หาสาระ 1. ความหมายของผปู้ ระกอบการธรุ กจิ 2. คณุ สมบตั ขิ องผปู้ ระกอบการธรุ กิจทดี่ ี 2.1. มีความรบั ผิดชอบตอ่ การดาเนนิ งานของกจิ การ 2.2. ต้องมคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ 2.3. มคี วามคดิ สร้างสรรคแ์ ละมองกาลไกล 2.4. มคี วามกระตือรอื ร้นในการทางาน 2.5. มีมนษุ ยสัมพันธแ์ ละบุคลกิ ภาพที่ดี 2.6. มีจริยธรรมและจรรยาบรรณต่อวชิ าชีพ 3. จรยิ ธรรมทางธุรกจิ 3.1. ความหมายของจรยิ ธรรมและจรยิ ธรรมทางธรุ กิจ 3.2. จรยิ ธรรมท่มี ีต่อผู้บริโภคหรอื ตลาดเปา้ หมาย 3.2.1. ต้องจดั หาสินค้าที่มีประโยชน์และมคี ณุ ภาพสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ของผู้บริโภค 3.2.2. ต้องจดั จาหนา่ ยสินคา้ ในราคายุตธิ รรม 3.2.3. ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ่อผูบ้ รโิ ภคเสมอภาคกัน 3.2.4. ต้องไม่กระทาการใด ๆ ทจ่ี ะทาใหร้ าคาสินคา้ สงู ข้ึนอย่างไม่ควรจะเป็น เช่น การกักตุนสินคา้ การกาหนดราคาไมเ่ หมาะสมกบั คุณภาพ 3.3. จรยิ ธรรมทีม่ ีต่อค่แู ขง่ ขนั หรือผูป้ ระกอบการอน่ื 3.3.1. ไม่ปฏบิ ตั กิ ารใด ๆ ทเี่ ป็นการกลั่นแกล้งคู่แข่งขัน 3.3.2. ไม่ทาลายคู่แขง่ ขันในลกั ษณะตา่ ง ๆ เช่น การกล่าวเทจ็ เก่ียวกับสนิ คา้ หรือ บรกิ ารของคู่แขง่ ขันในทางทที่ าใหค้ ู่แข่งขนั เสียภาพพจน์ 3.3.3. ควรให้ความรว่ มมือในการปฏิบัตกิ ิจกรรมทางสงั คมต่าง ๆ ทีค่ แู่ ขง่ ขัน ขอความรว่ มมือมา
3.4. จริยธรรมตอ่ สงั คม 3.4.1. ไมป่ ระกอบธรุ กจิ ทที่ าลายสิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตขิ องสังคม 3.4.2. ไม่ดาเนินธุรกจิ ทีเ่ ปน็ การสร้างความเสอื่ มลงแก่สังคมท้ังในด้านความประพฤติ จติ ใจ และวัฒนธรรม ศีลธรรมท่ีดงี าม 3.4.3. ไม่ใหก้ ารดาเนินงานของธรุ กิจส่งผลกระทบตอ่ สภาพความเป็นอยขู่ องคน ในสงั คม 3.4.4. ให้ความรว่ มมือกับสังคมในกิจกรรมต่าง ๆ ทสี่ งั คมจัดใหม้ ีข้นึ ตามศักยภาพ ของธรุ กิจทสี่ ามารถทาได้ 3.4.5. ควรสร้างงานใหเ้ กิดข้ึนในสังคม โดยการจา้ งงานจากคนในท้องถ่นิ หรอื ในประเทศกอ่ น 4. อุปสรรคท่ีมตี อ่ จริยธรรมของผูป้ ระกอบการธุรกจิ 4.1. คา่ นิยมและทศั นคติของผ้บู รหิ าร ที่มีความเหน็ ว่าจรยิ ธรรม คือ เรื่องสว่ นตัว ไมเ่ ก่ยี วข้องกบั การดาเนินธรุ กจิ 4.2. ธุรกิจและจรยิ ธรรมมักไมไ่ ปด้วยกัน 4.3. จริยธรรมขน้ึ อยกู่ บั กรณี 4.4. ธรุ กจิ ทด่ี ี หมายถึง จริยธรรมท่ดี ดี ว้ ย 4.5. คานึงถึงผลประโยชน์สว่ นตวั มากกว่าส่วนรวมและคา่ นยิ มส่วนตวั ท่ขี ัดแย้ง กับเปา้ หมายขององค์กรธุรกจิ 4.6. ความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรม 4.7. ความกดดนั ด้านการแขง่ ขัน
5. ประโยชนข์ องจรยิ ธรรมตอ่ ธรุ กิจ 5.1. จรยิ ธรรมกอ่ ใหเ้ กดิ ความทมุ่ เท (Devotion) 5.2. จรยิ ธรรมกอ่ ใหเ้ กิดการภาพลกั ษณท์ ี่ดี (Good image) 5.3. จริยธรรมก่อให้เกิดการหลดหยอ่ นทางกฎหมาย 5.4. จริยธรรมก่อใหเ้ กิดการทางานอย่างมคี วามสขุ 5.5. จริยธรรมเปน็ ความคาดหวงั ของสงั คมว่าธรุ กิจจะต้องมีจรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบ ตอ่ สงั คมในระดับสูง 5.6. จริยธรรมเป็นการปอ้ งกนั อันตรายที่อาจเกิดข้ึนกบั สังคม 5.7. จรยิ ธรรมเปน็ การปกปอ้ งองค์กรธรุ กจิ จากบคุ คลและคู่แข่งขันทไ่ี ร้จรยิ ธรรมเพราะ การมีจริยธรรมทาให้การแขง่ ขนั อยูภ่ ายในขอบเขต 6. องค์ประกอบของจริยธรรมต่อธุรกจิ 6.1. ความซือ่ สัตย์ (Honesty) 6.2. ความยุตธิ รรม (Justice) 6.3. ความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) 6.4. ความเชื่อถือ (Trust) 6.5. เคารพในสทิ ธิของบคุ คล (Respect the Right 6.6. การบารุงรักษาสง่ิ แวดล้อม (Environment) 7. จรรยาบรรณ
5. กิจกรรมการเรยี นการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมครู กจิ กรรมนกั เรยี น 1. การนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. กอ่ นเรยี น ทบทวนบทเรยี นหนว่ ยที่ 2 ซึง่ ไดเ้ รยี นรู้เกย่ี วกับ ผู้เรียนร่วมกนั สรุปเพ่อื ทบทวนว่าการประกอบ ประเภทและลักษณะของการประกอบการธุรกิจแล้วใน การธุรกิจมีก่ีประเภท กี่ลักษณะและผู้ประกอบการ หน่วยนีจ้ ะศกึ ษาเก่ียวกับผูป้ ระกอบการธรุ กจิ วา่ ควรมี ธุรกิจแต่ละประเภทแต่ละลักษณะเรียกว่าอะไรเพ่ือ ลกั ษณะอย่างไรจงึ จะนาพาธุรกจิ ไปส่คู วามสาเรจ็ และ ศึกษาบทบาทหน้าที่ของผู้ประกอบการธุรกิจแต่ละ เป็นท่ียอมรับของสงั คมตลอดไป ผูป้ ระกอบการธรุ กิจทุก ประเภท ประเภท ทุกลักษณะควรมีคุณสมบัตแิ ละแนวทางในการ 2. ระหว่างเรียน ปฏิบตั ิหลาย ผู้เรียน ฟัง-ถาม-ตอบ และแสดงความคิดเห็น 2. การสอน เกี่ยวกับลักษณะและแนวทางในการดาเนินกิจการ อธิบายให้ผเู้ รียนมีความรูค้ วามเข้าใจและมเี จคติ ธรุ กิจตามลกั ษณะของผ้ปู ระกอบการท่ดี ี ในการเป็นผู้ประกอบการที่ดี ว่าควรมีคุณสมบัติและ 3. หลงั เรียน แนวทางปฏิบัติอย่างไรบ้าง ตามรายละเอียดท่ีปรากฏอยู่ ผเู้ รยี นสามารถนาความรู้ ความเข้าใจเรื่องการ ในส่วนของเนื้อหาสาระของแผนการสอน เป็นผู้ประกอบการที่ได้ศึกษาไปใช้เป็นแนวทางใน ขณะสอนพยายามอธิบายพร้อมทั้งยกตัวอย่าง การดาเนินชีวิตประจาวัน ปฏิบัติงานที่มอบหมาย ลักษณะของผู้ประกอบการท่ีดีที่สามารถพบเห็นในธุรกิจ และทาแบบประเมินผลการเรียน เรื่องการเป็น ประกอบ ผู้ประกอบการได้ 3. การสรปุ สรุปเน้ือหาท่ีสอน เพื่อให้เกดิ ความคดิ รวบยอดที่ ถูกต้องเป็นแนวทางเดียวกัน สามารถนาไปใช้ประกอบ ในการเปน็ ผปู้ ระกอบการทด่ี ใี นอนาคตไดต้ ่อไป
6. งานท่มี อบหมายหรือกจิ กรรม ให้นักเรียนบอกถึงกิจกรรมของธุรกิจต่าง ๆ ในท้องถ่ินท่ีดาเนินการแสดงถึงความมี จริยธรรมทางธุรกิจมาคนละ 5 กิจกรรม โดยระบุชื่อธุรกิจท่ีดาเนินกิจกรรมนั้น ลักษณะของกิจกรรม และเปน็ จรยิ ธรรมท่มี ีต่อกลุ่มใด 7. สอ่ื การเรยี นการสอน 1. หนงั สือวชิ า ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ เรียบเรยี งโดย สุคนธจรนิ ทร์ ไกรศรวัชร และคณะ 2. จากสภาพการดาเนนิ ธรุ กิจในปจั จุบนั 3. จากสภาพการดารงชีวิตประจาวนั ของผู้เรยี น 8. การวัดผลและการประเมินผล 8.1. วิธีวดั 8.1.1. การตรวจงานทม่ี อบหมาย พจิ ารณาจากความถกู ตอ้ งของการกาหนดกจิ กรรมท่ีสมั พันธ์กบั จริยธรรมและ จรรยาบรรณ ( 10 คะแนน ) 8.1.2. การตรวจแบบประเมินผลการเรยี น โดยกาหนดเกณฑ์ดังน้ี คะแนน 35-40 อยู่ในระดบั ดมี าก คะแนน 26-34 อยใู่ นระดบั ดี คะแนน 20-25 อยู่ในระดบั พอใช้ คะแนนตา่ กวา่ 20 ควรปรบั ปรงุ และประเมินใหม่ 8.2. เครือ่ งมือวดั 8.2.1. งานท่มี อบหมาย 8.2.2. แบบประเมนิ ผลการเรยี น เรื่อง ลกั ษณะของผูป้ ระกอบการธุรกจิ
แผนการสอน หน่วยท่ี 4 ช่อื เร่อื ง บทบาทหน้าที่ขององคก์ รธรุ กจิ วิชา ธุรกจิ และการเป็นผูป้ ระกอบการ ชอื่ หนว่ ย บทบาทหน้าทขี่ ององค์กรธุรกจิ จานวนชัว่ โมง 6 1. หวั ข้อเร่อื ง บทบาทหนา้ ทขี่ ององค์กรธรุ กิจ ( Role of Business Organization ) 2. สาระสาคญั การดาเนินธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจทางด้านการเกษตร ธุรกิจการ จัดจาหน่าย และธุรกิจเกี่ยวกับการบริการ ต่างมีบทบาทหน้าท่ีแตกต่างกันไป ข้ึนอยู่กับผู้ประกอบการจะ วางนโยบายการบริหารงานในทิศทางใด ธุรกิจย่อมเกี่ยวข้องกับสังคม ผู้บริโภค ชุมชน และการพัฒนา ประเทศ ฉะน้ันการประกอบธุรกิจผู้ประกอบการจะมุ่งหวังเพียงเพื่อให้องค์กรมีกาไรเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ใช่แนวคิดที่ถูกต้องนัก เพราะการทาธุรกิจโดยมุ่งหวังกาไรอย่างเดียว โดยไม่ตระหนักถึงผลท่ีสังคมจะ ได้รับ จะทาให้ธุรกิจน้ันไม่สามารถดาเนินการอยู่ในระบบได้อย่างยั่งยืน การจะประกอบธุรกิจให้ประสบ ความสาเรจ็ ไดอ้ ย่างยัง่ ยืนนนั้ ผ้ปู ระกอบการควรคานึงถึงผลท่เี กิดแก่สงั คมโดยรวมด้วย 3. จุดประสงค์ 3.1. จุดประสงคป์ ลายทาง เพื่อให้ 1. รู้ความหมายขององค์กร 2. เข้าใจลกั ษณะขององค์กรธรุ กิจ 3. เข้าใจบทบาทหน้าท่ีขององค์กรธุรกจิ 4. เข้าใจหลักการดาเนนิ ธรุ กิจให้ประสบความสาเร็จ 3.2. จุดประสงคน์ าทาง 1. สามารถบอกความหมายขององคก์ รได้ 2. สามารถอธิบายลกั ษณะขององค์กรได้ 3. สามารถอธบิ ายบทบาทหน้าท่ขี ององค์กรธรุ กจิ ทีม่ ีต่อด้านตา่ ง ๆ ได้ 4. สามารถอธบิ ายถงึ หลกั ในการดาเนินธุรกิจให้ประสบความสาเร็จได้
4. เน้ือหาสาระ 1. ความหมายขององค์กร 2. ลกั ษณะขององค์กรธุรกจิ 2.1. ต้องมกี ารกาหนดเป้าหมายหรือวัตถปุ ระสงค์ 2.2. ตอ้ งมีการทากิจกรรมร่วมกันอยา่ งน้อย 2 คนขึ้นไป 2.3. ต้องมวี ิธใี นการดาเนนิ งาน 2.4. ต้องมีการจัดโครงสร้างขององคก์ ร 3. บทบาทหน้าที่ขององค์กรธรุ กิจ 3.1. บทบาทหน้าทีข่ ององค์กรธุรกิจต่อการสร้างผลิตภัณฑ์ 3.2. บทบาทหน้าที่ขององค์กรธุรกจิ ต่อการสร้างงาน 3.3. บทบาทหนา้ ท่ขี ององคก์ รธรุ กจิ ต่อมาตรฐานการครองชพี ที่ดขี ้ึน 3.4. บทบาทหน้าทขี่ ององค์กรธุรกจิ ต่อการกระจายรายได้ 3.5. บทบาทหนา้ ทข่ี ององค์กรธุรกจิ ต่อการเพิ่มรายไดใ้ ห้แก่รฐั บาล 3.6. บทบาทหน้าทข่ี ององคก์ รธุรกจิ ต่อการพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศ 3.7. บทบาทหนา้ ทข่ี ององคก์ รธุรกิจต่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยี 3.8. บทบาทหน้าทข่ี ององค์กรธรุ กิจต่อสงั คมและสิง่ แวดลอ้ ม 3.9. บทบาทหนา้ ท่ขี ององคก์ รธุรกิจต่อผู้ลงทุน 3.10.บทบาทหน้าท่ีขององคก์ รธรุ กจิ ต่อบุคลากรในองค์กร 4. ความสาเร็จในการประกอบธรุ กิจ 4.1. ต้องมภี าวะความเป็นผู้นา 4.2. ต้องมลี ักษณะเป็นนักบรหิ ารจดั การทดี่ ี 4.3. ต้องเปน็ ผู้มมี นษุ ยสมั พันธ์ทีด่ ี 4.4. ต้องมีความสามารถในการตดิ ต่อส่ือสาร 4.5. ต้องมีความรดู้ า้ นการตลาดและการขาย 4.6. ตอ้ งมคี วามขยันและหมั่นศึกษาความรู้ 4.7. ตอ้ งเปน็ ผมู้ คี วามยดื หย่นุ 4.8. ตอ้ งเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมและมีความซื่อสัตย์ 4.9. ต้องเปน็ ผูม้ คี วามคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ 4.10. ต้องเป็นผมู้ ีความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง 4.11. ต้องมีความละเอยี ดรอบครอบ 4.12. ต้องเป็นนักแก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ ในระบบบริหาร 4.13. มีความกระตอื รือรน้ อดทน อดกลัน้
5. กจิ กรรมการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรยี น 1. การนาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ก่อนเรียน คนทุกคนตอ้ งมีบทบาทหนา้ ที่ ตามที่ผเู้ รยี นได้ ให้ผู้เรียนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงบทบาท ร่วมกันเสนอ และต้องแสดงความรับผิดชอบต่อ หน้าที่ของแต่ละคนว่าในแต่ละวันเข้ามีบทบาทหน้าที่ ภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างไรบ้าง ธุรกิจต่าง ๆ ก็ อะไรบ้างและเขาได้รับผิดชอบต่อการทาหน้าที่ เช่นเดียวกัน ธุรกิจท่ีดีต้องมีบทบาทหน้าท่ีและความ เหล่านั้นอย่างไร แล้วนามาสรุปเพื่อนาเข้าสู่บทเรียน รับผดิ ชอบหลายอย่างตอ่ หลาย ๆ ดา้ น ตอ่ ไป 2. การสอน 2. ระหวา่ งเรยี น อธิบายใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดความรู้ ความเข้าใจ ผเู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น เก่ยี วกับบทบาทหนา้ ทข่ี ององค์กรธุรกิจที่มีตอ่ ดา้ นต่าง ร่วมยกตัวอย่างถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของธุรกิจว่าเป็น ๆ ตามรายละเอียดท่ีปรากฏอยู่ในส่วนของเนื้อหา บทบาทหน้าท่ีในดา้ นใด เพ่ือให้เกิดความเข้าใจทีด่ ีข้ึน สาระของแผนการสอน สามารถพิจารณาและระบุได้ว่าเป็นบทบาทหน้าท่ีที่ ขณะสอนจะยกตัวอย่างประกอบบทบาทหน้าท่ี ธรุ กจิ มตี ่อดา้ นใดต่าง ๆ ของธุรกจิ ทดี่ าเนนิ การอยจู่ รงิ ในปจั จุบัน 3. หลงั เรียน การสรุป ผู้เรียนสามารถ นาความรู้ ความเข้าใจท่ีได้จาก สรปุ ความสมั พันธ์ระหว่างบทบาทหน้าทแี่ ละ การศึกษาเรื่องบทบาทหน้าท่ีขององค์กรธุรกจิ ไปใช้ใน ความรับผิดชอบของธุรกิจที่มีต่อด้านต่าง ๆ เพ่ือให้ การปฏิบัติงานท่ีมอบหมายและแบบประเมินผลการ ผู้เรียนเข้าใจและเกิดความคิดรวบยอดที่ถูกต้อง เรียนเรอ่ื ง บทบาทหนา้ ท่ีขององค์กรธุรกจิ ได้ สามารถนาไปใช้ในการพิจารณาถึงบทบาทหน้าท่ีของ องค์กรธรุ กจิ ได้
6. งานทีม่ อบหมายหรือกจิ กรรม ใหน้ ักเรียนแบง่ ออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4 คน ให้เลอื กธุรกิจท่ีดาเนนิ การอยูใ่ นระบบเศรษฐกิจมากลุ่ม ละ 1 ธุรกิจ โดยระบุชื่อธุรกิจ บทบาทหน้าที่ท่ีธุรกิจมีในด้านต่าง ๆ เป็นข้อ ๆ อธิบายว่าเป็นการแสดง บทบาทหนา้ ทใ่ี นเรอ่ื งใดบ้างพรอ้ มท้ังยกตัวอยา่ งประกอบ 7. ส่ือการเรียนการสอน 1. หนังสือวิชา ธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ เรยี บเรียงโดย สคุ นธจรนิ ทร์ ไกรศรวชั ร และคณะ 2. จากสภาพการดาเนินธรุ กจิ ในปจั จบุ ัน 3. จากสภาพการดารงชวี ิตประจาวันของผูเ้ รยี น 8. การวดั ผลและการประเมนิ ผล 8.1. วธิ ีวัด 8.1.1. การตรวจงานทม่ี อบหมาย พิจารณาจากความถูกตอ้ งของงานทีม่ อบหมาย ( 10 คะแนน ) 8.1.2. การตรวจแบบประเมินผลการเรยี น โดยกาหนดเกณฑ์ดงั น้ี คะแนน 35-40 อยู่ในระดบั ดีมาก คะแนน 26-34 อย่ใู นระดบั ดี คะแนน 20-25 อยใู่ นระดบั พอใช้ คะแนนต่ากวา่ 20 ควรปรับปรุงและประเมินใหม่ 8.2. เคร่ืองมอื วดั 8.2.1. งานท่มี อบหมาย 8.2.2. แบบประเมนิ ผลการเรียน เรื่อง บทบาทหน้าที่ขององคก์ รธุรกิจ
แผนการสอน หนว่ ยที่ 5 วชิ า ธรุ กจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ ช่ือหน่วย การจดั การธรุ กิจ ( Business Management ) ชื่อเร่อื ง การจัดการธรุ กิจ จานวนช่วั โมง 9 1. หัวข้อเรื่อง การจัดการธรุ กจิ ( Business Management ) 2. สาระสาคัญ การดาเนินธรุ กิจใหป้ ระสบความสาเรจ็ อยา่ งต่อเนือ่ งและม่นั คง ผปู้ ระกอบการธรุ กจิ ตอ้ ง ดาเนนิ การอย่างเป็นระบบ โดยตงั้ อยู่บนพ้ืนฐานของปจั จัยแวดลอ้ มทางธรุ กจิ ที่เปน็ อยใู่ นขณะน้ัน แล้วนาขอ้ มลู เหล่านัน้ มาใช้ในการดาเนนิ ธรุ กิจ ตงั้ แต่การวางแผนในการปฏบิ ัตงิ านให้สามารถบรรลวุ ัตถุประสงคห์ รือ เปา้ หมายทกี่ จิ การกาหนดไว้ จากนนั้ จงึ จดั องคก์ ารเพื่อแบ่งงานต่าง ๆ ท่ีต้องดาเนินการใหค้ รอบคลมุ ลักษณะ งานต่าง ๆ ทก่ี าหนดไว้ในแผนพร้อมทงั้ กาหนดบทบาทหนา้ ทข่ี องงานแต่ละงานให้ชัดเจน จากน้ันจะ ดาเนนิ การในการจดั หาบคุ ลากรใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะงานต่าง ๆ อยา่ งเพยี งพอ มอบหมายงานให้แก่ ผทู้ เี่ หมาะสม ส่ังการใหม้ กี ารปฏิบตั ิงานตามที่ได้รบั มอบหมาย และตอ้ งมีการตดิ ตามการปฏิบตั งิ านเปน็ ระยะ เพือ่ ติดตามความกา้ วหนา้ ของงานใหเ้ ป็นไปตามแผนงานทีก่ าหนด ตลอดทัง้ ปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกดิ ขน้ึ ในการปฏบิ ตั ิงานและต้องไดร้ ับการปรบั ปรงุ แก้ไขต่อไป เพื่อให้การปฏิบตั งิ านครัง้ ต่อไปมีประสทิ ธภิ าพมากขนึ้ 3. จดุ ประสงค์ 3.1. จดุ ประสงค์ปลายทาง เพื่อให้ 1. รู้ความหมายของการจัดการธรุ กจิ 2. ร้แู ละเขา้ ใจถึงทรัพยากรทางการจัดการ 3. รู้และเข้าใจถึงปัจจยั แวดลอ้ มในการประกอบธรุ กจิ 4. เขา้ ใจกระบวนการจัดการธุรกิจ
3.2. จดุ ประสงคน์ าทาง 1. สามารถบอกความหมายของการจัดการธุรกจิ ได้ 2. สามารถบอกองคป์ ระกอบของทรัพยากรในการจัดการธรุ กจิ ได้ 3. สามารถอธบิ ายถงึ ลักษณะของทรพั ยากรในการจดั การธรุ กจิ ได้ 4. สามารถบอกและจาแนกปัจจยั แวดล้อมในการประกอบธรุ กิจได้ 5. สามารถบอกขนั้ ตอนในการจัดการธุรกจิ ได้ 6. สามารถอธิบายขนั้ ตอนของการจดั การธรุ กิจแต่ละขนั้ ตอนได้ 7. สามารถนาหลักการจดั การธรุ กจิ ไปประยกุ ตใ์ ช้ในการทาโครงการและประกอบอาชพี ในอนาคตได้ 4. เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของการจัดการธรุ กจิ 2. ทรพั ยากรการจัดการธรุ กิจ 2.1. คน 2.2. เงิน 2.3. วสั ดอุ ุปกรณ์ 2.4. เครอื่ งจักร 2.5. การจัดการ 3. ปจั จยั แวดล้อมในการประกอบธรุ กจิ 3.1. ความหมายของปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ 3.2. องค์ประกอบของปจั จยั แวดล้อมทางธรุ กิจ 3.2.1. ปจั จัยภายนอกหรอื ปจั จัยท่ีควบคุมไม่ได้ 3.2.1.1 วัฒนธรรมและสังคม 3.2.1.2 การเมอื งและกฎหมาย 3.2.1.3 เศรษฐกิจ 2.1.4 การแขง่ ขัน 3.2.1.5 ความกา้ วหน้าด้านเทคโนโลยี 3.2.1.6 ตลาดหรือผูบ้ ริโภค 3.2.2. ปัจจยั ภายในหรือปจั จัยทส่ี ามารถควบคมุ ได้ 3.2.2.1 ผลิตภณั ฑ์ 3.2.2.2 การกาหนดราคา 3.2.2.3 การจัดจาหนา่ ย 3.2.2.4 การสง่ เสรมิ การตลาด
4. กระบวนการจัดการธุรกิจ 4.1. ความหมายของกระบวนการจัดการธุรกิจ 4.2. องค์ประกอบของกระบวนการจดั การธุรกิจ 4.2.1. การวางแผน 4.2.2. การจัดองคก์ าร 4.2.3. การจดั คนเขา้ ทางาน 4.2.4. การสัง่ การหรือการอานวยการ 4.2.5. การควบคุม
5. กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมการเรยี นการสอน กจิ กรรมครู กิจกรรมนักเรียน 1. การนาเข้าสู่บทเรียน 1. ก่อนเรยี น สรุปบทเรียนท่ีผ่านมาให้เกิดการเรยี นรู้อย่างต่อ ผู้เรียนร่วมแสดงความเห็นเก่ียวกับคาว่า การ เน่ืองและเห็นถึงความสอดคล้องกันของบทบาทหน้าที่ จดั การตามความเข้าใจของแตล่ ะคน ของธุรกิจท่ีมีต่อดา้ นต่าง ๆ และกจิ กรรมในการบริหาร 2. ระหวา่ งเรียน จัดการเพ่ือให้ธุรกิจประสบความสาเร็จ ให้ผู้เรียนร่วม ผเู้ รียนฟงั อย่างตง้ั ใจ ซักถามเม่อื ไม่เขา้ ใจและ แสดงความเห็นเก่ียวกบั คาว่า“การจัดการ” ตามความ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและตอบข้อ เข้าใจของผู้เรียนนาคาตอบมาสรุปถึงความหมายของ ซักถามของผู้สอนในเรื่องต่าง ๆ เก่ียวกับการการ การจัดการและการจดั การธุรกิจ จดั การธุรกจิ จดบนั ทกึ เพอ่ื ใชท้ บทวนความรู้ 2. การสอน 3. หลังเรยี น อธบิ ายให้ผู้เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่อง ผู้เรียนสามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ การจัดการและการจัดการธุรกิจ ตามรายละเอียดที่ การจดั การธุรกิจไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิตการ ปรากฏในสว่ นเน้ือหาสาระของแผนการสอน เรียน และการปฏิบัติงานตามโครงการและโครงงาน ขณะสอนพยายามกระตุ้นให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วม ตา่ ง ๆ ได้ นาไปใชท้ าแบบประเมินผลการเรียนได้ ในการแสดงความเห็นเก่ียวกับการจัดการในแต่ละ ข้ันตอน ยกตัวอย่างลักษณะการจัดการแต่ละข้ันตอน เพ่ือความเข้าใจที่ง่ายข้ึน และนาไปใช้ในการดาเนิน ชีวิตหรอื การเรยี นต่อไป 3. การสรปุ สรุปเนื้อหาเพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องการจัดการธุรกิจให้ประสบความสาเร็จอย่างมี คณุ ธรรม จริยธรรมตามหลักจรรยาบรรณนกั ธรุ กจิ ควร มดี งั ได้กล่าวมาแลว้
6. งานที่มอบหมายหรือกิจกรรม 1. แบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4 คน แล้วนาเรอื่ งราวจากสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นจริง ในสังคม และเก่ียวข้องหรือส่งผลกระทบต่อการดาเนินธุรกิจ โดยให้แต่ละกลุ่มพิจารณาจาแนกเร่ืองราว ต่าง ๆ ว่าเปน็ ปจั จัยภายนอกหรอื ปจั จัยภายใน 2. แบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4 คน ให้ไปศึกษาโครงสรา้ งขององค์กรต่าง ๆ มา กลุ่มละ 1 องคก์ ร แลว้ เขียนเป็นแผนผงั แสดงถงึ โครงสร้างขององค์กรน้ัน ๆ 7. สือ่ การเรยี นการสอน 1. หนังสือวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ เรียบเรียงโดย สุคนธจรนิ ทร์ ไกรศรวชั ร และคณะ 2. หนังสือพมิ พ์ วารสาร หรือจากการคน้ คว้าทางอนิ เทอรเ์ น๊ต 3. จากธุรกจิ ในระบบเศรษฐกจิ 8. การวัดผลและการประเมนิ ผล 8.1. วิธีวัด 8.1.1. การตรวจงานทมี่ อบหมาย พจิ ารณาจากความถกู ต้องของงานที่มอบหมาย งานชนิ้ ที่ 1 ( 10 คะแนน ) งานช้นิ ที่ 2 ( 10 คะแนน ) 8.1.2. การตรวจแบบประเมินผลการเรียน โดยกาหนดเกณฑ์ดังนี้ คะแนน 18-20 อยใู่ นระดบั ดมี าก คะแนน 13-17 อยู่ในระดบั ดี คะแนน 10-12 อยใู่ นระดบั พอใช้ คะแนนตา่ กวา่ 10 ควรปรบั ปรุงและประเมนิ ใหม่ 8.2. เครือ่ งมอื วัด 8.2.1. งานที่มอบหมาย 8.2.2. แบบประเมินผลการเรยี น เร่ือง การจดั การธุรกิจ
แผนการสอน หนว่ ยที่ 6 วชิ า ธรุ กิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ ชื่อหน่วย การดาเนินธุรกจิ ให้เหมาะสมกับชุมชน ช่ือเรอื่ ง การดาเนนิ ธุรกิจให้เหมาะสมกบั ชุมชน จานวนคาบ 9 1. หัวข้อเร่อื ง การดาเนินธรุ กิจใหเ้ หมาะสมกบั ชุมชน 2. สาระสาคัญ จากปรากฏการณ์ความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี พ.ศ. 2540 ทเ่ี รียกวา่ ยุคฟองสบู่แตก เปน็ ต้นมา พบวา่ ธุรกิจขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างมากเพราะเกย่ี วกับการก้ยู ืมเงินจากตา่ งประเทศมาใช้ ในการดาเนินธรุ กจิ ทาใหภ้ าระดอกเบย้ี สูงมาก แต่ธุรกจิ ที่สามารถดาเนินอยูไ่ ด้กลบั เปน็ วสิ าหกจิ ขนาดย่อม หรือธุรกิจในชมุ ชน รฐั บาลจึงไดใ้ ห้การสง่ เสริมและใหค้ วามสาคญั กบั การจัดต้งั ธุรกิจชมุ ชนมากขน้ึ ซ่ึงเป็น ลกั ษณะการดาเนินธรุ กิจท่มี ีความเหมาะสมกับยุคเศรษฐกิจพอเพียง เพราะเปน็ การสร้างความเข็มแข็งให้แก่ ชุมชนตัง้ แต่รากหญา้ ของระบบเศรษฐกจิ เพื่อให้คนในสงั คมไดม้ ีการชว่ ยเหลือตนเองและสงั คมสว่ นรวม การ เลือกดาเนินธรุ กจิ ใหไ้ ด้ผล และประสบความสาเรจ็ ควรทผ่ี ูป้ ระกอบการต้องทราบถึงจดุ ม่งุ หมายและวิธที จ่ี ะ ไปถึงจดุ หมายในการดาเนนิ การ ท้งั น้ีตง้ั อยบู่ นพืน้ ฐานของการใชท้ รัพยากรในทอ้ งถิน่ เป็นสาคัญ 3. จุดประสงค์ 3.1. จุดประสงคป์ ลายทาง เพื่อให้ 1. เขา้ ใจแนวคดิ และปรชั ญาของการดาเนินเนินธรุ กจิ ชมุ ชน 2. รหู้ ลกั การเลือกลกั ษณะการดาเนนิ ธรุ กจิ ชมุ ชน 3. เข้าใจหลกั การการกาหนดตลาดเป้าหมาย 4. รู้และเข้าใจรูปแบบของการดาเนินธรุ กิจท่เี หมาะสมกบั ชุมชน 5. เขา้ ใจหลักการจัดตั้งธุรกิจชุมชน 6. รูแ้ ละเข้าใจเกี่ยวกับการดาเนนิ ธรุ กิจแบบหนงึ่ ตาบลหนง่ึ ผลิตภณั ฑ์
3.2. จุดประสงค์นาทาง 1. สามารถอธบิ ายถงึ แนวคิดและปรชั ญาของการดาเนนิ เนินธุรกิจชมุ ชนได้ 2. สามารถบอกหลกั การในการเลือกการดาเนนิ ธรุ กจิ ในลักษณะทเี่ หมาะสมกบั ชุมชน 3. สามารถอธิบายถงึ วิธีการในการกาหนดตลาดเปา้ หมายได้ 4. สามารถจาแนกรูปแบบของการดาเนินธุรกจิ ที่เหมาะสมกบั ชมุ ชนได้ 5. สามารถอธิบายถึงหลักการจดั ต้ังธรุ กจิ ชมุ ชนได้ 6. สามารถอธิบายถงึ ลักษณะการดาเนินธุรกิจแบบหน่ึงตาบลหนง่ึ ผลิตภัณฑไ์ ด้ 7. สามารถนาความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั การดาเนินธรุ กจิ ชุมชนในลกั ษณะต่าง ๆ ไปใช้ ในชุมชนได้ 4. เน้ือหาสาระ 1. แนวคิดและปรัชญาของการดาเนนิ เนนิ ธรุ กิจชมุ ชน 2. การเลือกลกั ษณะการดาเนินธรุ กจิ ชุมชน 3. การกาหนดตลาดเปา้ หมาย 3.1. ผ้บู ริโภคคนสดุ ท้าย ( Ultimate Consumer ) 3.2. ผู้ใช้ทางธรุ กิจ (Business Users ) 4. รูปแบบธรุ กิจทเ่ี หมาะสมกับชมุ ชน 4.1. กล่มุ ทีเ่ ปน็ ทางการ 4.1.1 สหกรณ์ 4.1.2 บริษัท 5. การจัดต้งั ธุรกจิ ชุมชน 5.1. ความเข้าใจเก่ียวกับกลมุ่ 5.2. ความต้องการและเปา้ หมายของสมาชกิ ชุมชน 5.3. ความตอ้ งการดา้ นเงินทุน 5.4. ความตอ้ งการทรัพยากรบคุ คล
6. การดาเนนิ ธรุ กจิ “หนึง่ ตาบล หนึ่งผลติ ภณั ฑ์” 6.1. ความหมายของหนงึ่ ตาบล หน่งึ ผลติ ภณั ฑ์ 6.2. ความเปน็ มาของการดาเนินธุรกิจหนึง่ ตาบล หนึ่งผลติ ภณั ฑ์ 6.3. ปัจจัยท่ีสาคัญในการดาเนนิ ธุรกจิ หนึง่ ตาบล 6.3.1. ปจั จัยภายใน 6.3.2. ปจั จัยภายนอก 6.4. ปรัชญาของ หนึ่งตาบล หนง่ึ ผลติ ภัณฑ์ 6.4.1. ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ สู่สากล 6.4.2. พึ่งตนเองและคิดอย่างสร้างสรรค์ 6.4.3. การสร้างทรัพยากรมนุษย์ 6.5. กิจกรรมหลกั 6.5.1. ขายสินคา้ ท้องถน่ิ ไปยังตลาด 6.5.2. ผลติ และคดิ ค้นข้นึ เองในท้องถิน่ 6.5.3. สร้างบคุ ลากรท่ีมีคุณภาพของท้องถ่นิ
5. กิจกรรมการเรยี นการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น 1. การนาเขา้ สู่บทเรียน 1. ก่อนเรยี น ทบทวนความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการจัดการ ให้ผู้เรียนช่วยกันสรุปเก่ียวกับการจัดการธุรกิจ ธุรกิจ การนาหลักการจัดการธุรกิจมาใช้ในการดาเนิน ท่ีได้ศึกษามาว่ามีหลักการอย่างไรบ้าง การดาเนิน ธุรกิจชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละ ธุรกจิ ชมุ ชนทผ่ี เู้ รียนรู้จกั มอี ะไรบา้ ง ยกตัวอยา่ ง ท้องถ่ิน ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน และเหมาะสม และแสดงความคิดเห็นว่าจัดเป็นการประกอบธุรกิจ กับสภาพสังคมของไทย ในรปู แบบใด 2. การสอน 2. ระหวา่ งเรยี น อธิบายให้ผูเ้ รียนได้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ผู้เรยี นฟัง ซกั ถาม ตอบคาถาม ยกตวั อยา่ ง ในการดาเนินธุรกิจชุมชน โดยยึดหลักเศรษฐกิจ และร่วมแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการดาเนินธุรกิจ พอเพียง ใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ชุมชนในท้องถิ่นของตนเอง ตลอดทั้งปัญหาและ สูงสุด ตามรายละเอียดท่ีปรากฏในส่วนเนื้อหาสาระ อุปสรรคที่เกิดขึ้นกับธุรกิจชุมชนของตนเองและหา ของแผนการสอน แนวทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การดาเนินธุรกิจ ขณะทาการสอนพยายามยกตัวอย่างธุรกิจท่ี ชุมชนได้รับการพัฒนามากข้ึนสามารถแข่งขันใน ตั้งอยู่ในชุมชนของผู้เรียน โดยเฉพาะการดาเนินธุรกิจ ตลาดได้ เกี่ยวกับ OTOP เพื่อนาหลักการจัดการธุรกิจไป 3. หลังเรียน ประยุกต์ใช้ให้สินค้าชมุ ชนประสบความสาเรจ็ สามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั 3. การสรปุ เรื่อง การดาเนินธุรกิจให้เหมาะสมกับชุมชน ไป สรุปบทเรียนเพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงความสาคัญ ประยุกต์ใช้กับชุมชนของตนเองให้เหมาะสม ตาม และหลักการในการเลือกดาเนินการธุรกิจชุมชนใน โอกาสที่อานวย และใช้ทาแบบประเมินผลการเรียน รปู แบบท่เี หมาะสมกับแตล่ ะชุมชน เรื่องการดาเนนิ ธรุ กจิ ให้เหมาะสมกับชุมชน
6. งานที่มอบหมายหรือกจิ กรรม 1. ใหน้ กั เรียนไปศึกษาธรุ กิจในชมุ ชนของนกั เรียนวา่ มกี ารดาเนนิ การธุรกจิ ในลักษณะใดบา้ ง แลว้ นามาแลกเปลย่ี นเรียนรู้กับเพ่ือนนักเรียนในห้องเรยี น 2. ให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3 คน ไปสบื ค้นหาข้อมลู เก่ียวกบั สนิ ค้า OTOP ของประเทศไทย จากอินเทอร์เน๊ต มากล่มุ ละ 10 ชนดิ และในจังหวัดของนกั เรยี นอีก 5 ชนิด โดยการนาตวั อยา่ ง รูปภาพของสนิ คา้ แต่ละชนดิ มานาเสนอดว้ ย 7. ส่อื การเรยี นการสอน 1. หนังสอื วิชา ธรุ กจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ เรียบเรยี งโดย สุคนธจรนิ ทร์ ไกรศรวชั ร และคณะ 2. จากสภาพการดาเนินธุรกิจในปัจจุบัน 3. จากสภาพการดารงชวี ิตประจาวันของผเู้ รยี น 8. การวัดผลและการประเมินผล 8.1. วธิ ีวดั 8.1.1. การตรวจงานที่มอบหมาย งานช้นิ ที่ 1 พจิ ารณาความถูกต้องและความตรงต่อเวลาของการส่งงาน ( 5 คะแนน ) วธิ กี ารในการนาเสนอ (5 คะแนน ) งานช้ินท่ี 2 พิจารณาจากความถกู ต้องครบถว้ นของงานท่มี อบหมาย (10 คะแนน ) 8.1.2. การตรวจแบบประเมินผลการเรียน โดยกาหนดเกณฑ์ดงั นี้ คะแนน 35-40 อย่ใู นระดบั ดมี าก คะแนน 26-34 อยใู่ นระดบั ดี คะแนน 20-25 อย่ใู นระดบั พอใช้ คะแนนตา่ กวา่ 20 ควรปรับปรงุ และประเมินใหม่
แผนการสอน หนว่ ยที่ 7 ชอื่ เรอื่ ง แผนธุรกจิ วชิ า ธรุ กิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ ชอ่ื หน่วย แผนธรุ กจิ ( Business Plan ) จานวนชั่วโมง 6 1. หวั ข้อเร่ือง แผนธุรกิจ ( Business Plan ) 2. สาระสาคัญ การประกอบการธุรกิจในปัจจุบันมีหลายลักษณะ หลายรูปแบบ แต่ไม่ว่าจะเป็นการ ประกอบการธุรกิจลักษณะใดหรือแบบใดให้ประสบความสาเร็จน้ัน ไม่สามารถอาศัยเพียงเงินกับ ประสบการณ์หรือลางสังหรณ์อย่างในอดีตได้อีกต่อไป เพราะสภาพแวดล้อมทางการตลาดได้มีการ เปลี่ยนแปลงไป บางปัจจัยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก บางปัจจัยได้มีการเปล่ียนแปลงไปโดยส้ินเชิง ฉะนั้น การจะเริ่มต้นในการประกอบการธุรกิจใดก็ตาม ผู้ประกอบการจะต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ต้องมีกระบวนการคิด พิจารณาและการตัดสินใจท่ีถูกต้อง เพ่ือวิเคราะห์หาโอกาสทางธุรกิจ ก่อนคิด ดาเนนิ กิจการ แล้วกาหนดขึน้ มาเป็นแผนงาน ทเี่ ป็นท่รี ้จู กั กันดใี นปัจจบุ ันคอื แผนธรุ กจิ นัน่ เอง 3. จดุ ประสงค์ 3.1. จุดประสงคป์ ลายทาง เพื่อให้ 1. รู้ความหมายของคาวา่ “แผน” “การวางแผน” 2. เข้าใจความสาคญั ของการวางแผน 3. เขา้ ใจลักษณะของแผนทีม่ ีประสิทธิภาพ 4. รู้ความหมายของแผนธุรกจิ 5. เขา้ ใจความสาคัญของแผนธุรกิจ 6. รู้องคป์ ระกอบของแผนธุรกจิ 7. รู้หลกั การในการเขียนแผนธรุ กจิ 8. ร้คู ณุ ลักษณะของแผนธุรกจิ ที่ดี
3.2. จดุ ปรสงค์นาทาง 1. สามารถบอกความหมายของคาวา่ “แผน” “การวางแผน” ได้ 2. สามารถอธบิ ายถึงความสาคัญของแผนและการวางแผนได้ 3. สามารถอธบิ ายถึงลกั ษณะของแผนที่มปี ระสิทธิภาพได้ 4. สามารถบอกความหมายของแผนธุรกิจได้ 5. สามารถอธบิ ายถึงความสาคัญของแผนธุรกิจได้ 6. สามารถบอกองคป์ ระกอบของแผนธุรกิจได้ 7. สามารถบอกหลกั การในการเขยี นแผนธรุ กจิ ได้ 8. สามารถบอกคุณลกั ษณะของแผนธรุ กิจทด่ี ีได้ 9. สามารถนาเทคโนโลยีมาใชใ้ นการคน้ ควา้ หาข้อมูลเกยี่ วกบั แผนธรุ กิจของธุรกิจต่าง ๆ จากระบบอินเทอร์เนต๊ ได้ 4. เน้ือหาสาระ 1. ความหมายของแผนธุรกจิ 1.1. ความหมายของคาว่า “แผน” “การวางแผน” 1.2. ความสาคัญของแผนและการวางแผน 1.3. ลักษณะของแผนทีม่ ปี ระสิทธิภาพ 1.4. ความหมายของแผนธรุ กิจ 2. ความสาคัญของแผนธุรกจิ 3. องคป์ ระกอบของแผนธุรกจิ 3.1. บทสรุปสาหรบั ผบู้ ริหาร ( Executive Summary ) 3.2. ประวตั โิ ดยยอ่ ของกิจการ 3.3. การวิเคราะห์สถานการณ์ ( SWOT Analysis ) 3.4. วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายทางธรุ กจิ ( Objective and Target of Business ) 3.5. แผนการตลาด ( Marketing Plan ) 3.6. แผนการจัดการและแผนคน ( Management and Personal Plan ) 3.7. แผนการผลิต ( Production Plan ) 3.8. แผนเงนิ ( Finance Plan ) 3.9. แผนการดาเนนิ งาน ( Implementation Plan ) 3.10. แผนฉกุ เฉนิ ( Emergency Plan )
4. หลักการเขยี นแผนธรุ กจิ 4.1. ต้องเขยี นแบบมอื อาชีพ 4.2. คาดคะเนบนหลกั ฐานทางสถิตเิ ทา่ นัน้ 4.3. เน้นจุดท่ีสาคัญเปน็ พิเศษ 4.4. ใชเ้ ทคโนโลยีในการจดั ทา 4.5. ศึกษาตัวอย่างแผนธรุ กิจอืน่ ๆ 4.6. ปรมิ าณข้อมลู ทีป่ รากฎในแผนไม่มากหรอื ไม่น้อยจนเกินไป 4.7. ทบทวนการเขียนก่อนนาเสนอแผน 4.8. จัดทาแผนให้ดูดีนา่ ประทบั ใจ 5. ลกั ษณะของแผนธรุ กิจที่ดี 5.1. ชีใ้ หเ้ หน็ ถงึ ความเปน็ ไปได้ของแผน 5.2. มีสว่ นประกอบครบถว้ นตามองค์ประกอบของแผนธรุ กจิ 5.3. แสดงใหเ้ ห็นวิสยั ทศั นข์ องผ้ปู ระกอบการ 5.4. สามารถตอบคาถามต่าง ๆ ได้
5. กิจกรรมการเรยี นการสอน กจิ กรรมการเรยี นการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรยี น 1. การนาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. กอ่ นเรียน การดาเนินธรุ กิจทุกชนิดทุกประเภทควรมกี าร ใหผ้ ูเ้ รยี นยกตวั อยา่ งการดาเนนิ ชิวติ ประจาวนั ที่ กาหนดแนวทางในการดาเนนิ ธุรกิจ โดยเฉพาะกิจการท่ี มีการวางแผนในเรื่องใดบ้าง เพอื่ ให้เขา้ ใจวา่ ในการ ตอ้ งการเงนิ ลงทนุ จากสถาบนั การเงนิ จาเป็นต้องมีการ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมใด ๆ ก็ตามต้องมกี ารกาหนด จัดทาแนวทางในการปฏบิ ัติงานทีเ่ ดน่ ชัด เพ่ือสรา้ ง แนวทางเปน็ การลว่ งหน้า ความเช่ือมนั่ แกเ่ จ้าของทุนและแหลง่ เงนิ ทุน เรยี กวา่ 2. ระหวา่ งเรียน แผนธุรกิจ ผูเ้ รยี นศกึ ษาฟงั อยา่ งตั้งใจ มสี ่วนร่วมในการ 2. การสอน ตอบคาถาม และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั แผน อธบิ ายให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจและเห็น ธุรกิจในหวั ข้อต่าง ๆ ทีผ่ ู้สอนได้อธิบายไป ถึงความสาคัญเกี่ยวกับแผน การวางแผน และแผน ตามลาดับ ทง้ั นีโ้ ดยการใชต้ ัวอย่างของแผนธุรกิจ ธรุ กจิ ตามรายละเอยี ดทีป่ รากฏในสว่ นเน้ือหาสาระของ มาเป็นแนวทางในการเรียนรู้และสรา้ งความเข้าใจ แผนการสอน 3. หลังเรียน ขณะสอนพยายามนาเรือ่ งราวของธุรกจิ ท่ีดาเนนิ ผ้เู รยี นสามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจทาแบบ อยมู่ าเปน็ ตัวอย่างประกอบการสอน ตงั้ แต่แผนการสอน ประเมนิ ผลการเรียนเร่ืองแผนธรุ กิจได้ และ ตารางสอน ตารางเรยี น การเขยี นโครงการและแผน สามารถปฏบิ ตั ิงานท่ีมอบหมายไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ธุรกจิ ตามลาดับ 3. การสรปุ สรุปสาระสาคญั ที่ได้อธบิ ายทั้งหมดอีกครงั้ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความคดิ รวบยอดเกีย่ วกับแผนธุรกจิ อย่างถูกต้อง สามารถนาไปใช้ประโยชนใ์ นการเลอื กใน การเขียนแผนอย่างง่ายในการทาโครงการหรือโครงงาน ได้
6. งานที่มอบหมายหรือกิจกรรม 1. ให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 5 คน ไปคน้ หาตวั อย่างแผนธุรกิจทนี่ ่าสนใจจากระบบอินเทอร์เน๊ต แล้วนามาเสนอแลกเปลีย่ นกันในช้ันเรียน 2. ใหน้ ักเรียนกลุ่มเดิมเขียนแผนธรุ กิจอย่างง่ายท่นี ักเรียนสามารถทาธรุ กิจนัน้ ได้ โดยใช้แผนธุรกิจที่ ไปคน้ หาเปน็ แบบอย่าง 7. สอื่ การเรยี นการสอน 1. หนงั สอื วิชา ธรุ กิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ เรียบเรียงโดย สคุ นธจรนิ ทร์ ไกรศรวชั ร และคณะ 2. จากสภาพการดาเนินธุรกิจในปจั จบุ นั 3. ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ (Internet ) 8. การวัดผลและการประเมนิ ผล 8.1. วิธีวัด 8.1.1. การตรวจงานทีม่ อบหมาย งานช้นิ ที่ 1 พจิ ารณาความถูกต้องครบถว้ นและความตรงต่อเวลาของการสง่ งาน ( 10 คะแนน ) งานชิน้ ที่ 2 พจิ ารณาจากความถกู ต้องครบถ้วนของงานที่มอบหมาย (10 คะแนน ) 8.1.2. การตรวจแบบประเมินผลการเรยี น โดยกาหนดเกณฑด์ ังน้ี คะแนน 9 -10 อยใู่ นระดบั ดีมาก คะแนน 7 - 8 อยู่ในระดับ ดี คะแนน 5 - 6 อยู่ในระดบั พอใช้ คะแนนต่ากวา่ 5 ควรปรับปรงุ และประเมนิ ใหม่ เครอ่ื งมอื วดั 1. งานทมี่ อบหมาย 2. แบบประเมินผลการเรยี น เรอื่ ง แผนธุรกจิ
แผนการสอน หน่วยท่ี 8 ช่ือเร่ือง ภาษธี ุรกิจ ( Business Tax ) วิชา ธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ ช่ือหนว่ ย ภาษธี ุรกจิ ( Business Tax ) จานวนชว่ั โมง 3 1. หวั ข้อเร่ือง ภาษีธรุ กิจ ( Business Tax ) 2. สาระสาคัญ การประกอบธรุ กิจทกุ ประเภท ทุกลักษณะ ทุกขนาด กฎหมายกาหนดให้มีหน้าที่ทจี่ ะต้อง ชาระภาษีอากรท่ีเกย่ี วขอ้ งใหแ้ กร่ ัฐบาล เพอื่ ท่ีจะนาไปใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารประเทศในดา้ นต่าง ๆ และเพอ่ื วัตถุประสงคอ์ ่นื ๆ อันจะนาไปสูก่ ารพัฒนาประเทศโดยรวม ภาษีทีเ่ กีย่ วกับการประกอบธุรกิจสามารถเรียกเกบ็ ได้หลายลักษณะ ขึ้นอยู่กับลักษณะการ ดาเนินกิจการธรุ กิจแตล่ ะชนิด แต่ละประเภทและแตล่ ะลักษณะ ได้แก่ ภาษีอากร ภาษีเงนิ ได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงนิ ได้นติ บิ ุคคล ภาษีมูลค่าเพ่ิม ภาษสี รรพสามิต เป็นตน้ 3. จดุ ประสงค์ 3.1. จุดประสงค์ปลายทาง เพ่ือให้ 1. ร้คู วามหมายของภาษี 2. รู้และเข้าใจภาษลี กั ษณะต่าง ๆ 3. เขา้ ใจวัตถปุ ระสงคใ์ นการจดั เก็บภาษีและภาษธี รุ กิจ 4. รู้ลักษณะภาษอี ากรทดี่ ี 5. รปู้ ระเภทภาษีอากร 6. รหู้ น่วยงานทีม่ หี นา้ ท่ีจดั เกบ็ ภาษีอากร 7. รู้ประเภทภาษีธรุ กิจ 8. เข้าใจหลกั การในการคานวณภาษีแต่ละประเภท
3.2. จดุ ประสงค์นาทาง 1. สามารถบอกความหมายของภาษี 2. สามารถบอกและอธิบายเก่ยี วกับภาษแี ตล่ ะประเภทได้ 3. สามารถอธิบายวตั ถุประสงค์ของการจดั เกบ็ ภาษีและภาษธี รุ กิจได้ 4. สามารถอธบิ ายลกั ษณะภาษอี ากรทด่ี ีได้ 5. สามารถอธบิ ายภาษีอากรประเภทต่าง ๆ ได้ 6. สามารถบอกหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษีอากรได้ 7. สามารถบอกประเภทภาษีธุรกจิ ได้ 8. สามารถคานวณภาษีธรุ กิจประเภทตา่ ง ๆ ได้ 4. เน้อื หาสาระ 1. ความหมายของภาษแี ละภาษีอากร 2. วัตถปุ ระสงคใ์ นการจดั เก็บภาษีและภาษีธุรกจิ 2.1. เป็นรายได้ของรฐั 2.2. เพอ่ื เป็นการควบคมุ เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ 2.3. เพ่ือเป็นการจัดสรรและการกระจายรายได้ให้เป็นธรรม 2.4. เพือ่ เป็นเครือ่ งมือในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ 3. ลักษณะของภาษีอากรทีด่ ี 3.1. หลกั ความเป็นธรรม 3.2. หลกั ความแนน่ อนและชดั เจน 3.3. หลักความสะดวก 3.4. หลักความประหยัดและมปี ระสิทธภิ าพ 3.5. หลกั การทารายได้ 3.6. หลกั ความยดื หยุ่น 3.7. หลกั ความเปน็ กลางทางเศรษฐกิจ
- 4. ประเภทภาษีอากร 4.1. การจาแนกประเภทภาษีอากรตามฐานภาษี 4.1.1. ภาษีอากรจากฐานเงินได้ 4.1.2. ภาษีอากรจากฐานความมั่งค่ังหรือฐานจากทรัพย์สนิ 4.1.3. ภาษอี ากรจากฐานรายจา่ ยหรือฐานการบรโิ ภค 4.2. การจาแนกประเภทภาษีอากรตามลกั ษณะการรับภาระภาษีอากร 4.2.1. ภาษีทางตรง 4.2.2. ภาษีทางอ้อม 5. หนว่ ยงานท่มี หี นา้ ทใี่ นการจดั เก็บภาษีอากร 5.1. กรมศุลกากร 5.2. กรมสรรพสามิต 5.3. กรมสรรพากร 5.4. องค์การบรหิ ารส่วนท้องถ่ิน 6. ประเภทของภาษธี ุรกิจ 6.1. ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา 6.2. ภาษีเงนิ ได้นติ บิ คุ คล 6.3. ภาษีมลู คา่ เพมิ่ 6.4. ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ 6.5. อากรแสตมป์ 6.6. ภาษศี ุลกากร 6.7. ภาษสี รรพสามิต 6.8. ภาษีปา้ ย 6.9. ภาษีบารงุ ท้องท่ี
5. กิจกรรมการเรยี นการสอน กจิ กรรมการเรยี นการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน 1. การนาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. กอ่ นเรียน เมอื่ ธุรกิจดาเนนิ การไปได้ระยะเวลาหนงึ่ ตามที่ ผ้เู รียนช่วยกนั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั กาหนดคือ 1 ปี เรยี กว่าปภี าษี ธุรกิจมีหน้าท่ีที่ ภาษที ผี่ ้เู รยี นรจู้ กั ว่ามีภาษอี ะไรบ้าง จัดเป็นภาษที ี่ จะตอ้ งย่ืนแบบแสดงการเสียภาษใี ห้แกร่ ฐั บาลใน เกดิ จากการดาเนินธุรกิจลกั ษณะใด ลักษณะต่าง ๆ ท่ีการดาเนนิ ธุรกิจแต่ละลักษณะ 2. ระหวา่ งเรียน เกยี่ วข้อง เพอื่ รฐั บาลสามารถนารายไดจ้ ากการ ผเู้ รยี นฟงั ผูอ้ ย่างตัง้ ใจเพ่อื ติดตามและทา จัดเก็บภาษไี ปใช้ในการบรหิ ารประเทศในดา้ น ความเขา้ ใจในบทเรียน ร่วมตอบคาถามและแสดง สาธารณูปโภคต่าง ๆ และในการพฒั นาสังคม เชน่ ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องภาษีตามความรู้ ความ การใหก้ ยู้ ืมเพ่ือการศกึ ษา การตดั ถนนต่าง ๆ การ เข้าใจของแตล่ ะคน เพื่อนาไปสร้างความรู้ ความ สรา้ งสถานขี นส่งตา่ ง ๆ เปน็ ต้น เข้าใจท่ีถูกต้องในแนวทางเดียวกนั ใหผ้ ูเ้ รียนไป 2. การสอน ศกึ ษาภาษปี ระเภทต่าง ๆ เพ่ือเปรยี บเทียบและ อธิบายใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ความรู้ความเข้าใจเรอ่ื ง ศึกษาถงึ ความแตกตา่ งของภาษแี ต่ละประเภท ภาษีและความรับผิดชอบในการเสียภาษีให้แก่ 3.หลงั เรยี น ประเทศชาติในฐานะเป็นผู้มีรายได้ไม่ว่าจะจากเงินได้ สามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับเรื่องภาษี ธรรมดาหรือจากการดาเนินธุรกิจในลักษณะใด ๆ ธุรกจิ ไปใชใ้ นการทางานที่มอบหมายได้และสามารถ ตามรายละเอียดท่ีปรากฏในส่วนเนื้อหาสาระของ นาไปใช้ในการตอบแบบประเมินผลการเรียนเรอื่ ง แผนการสอน ภาษธี ุรกิจได้ ขณะสอนพยายามนาความคิดไปยังเหตกุ ารณ์ ตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดขน้ึ จรงิ ในชวี ิตประจาวนั มาเปน็ ตวั อย่าง ประกอบการอธิบายเพ่ือใหผ้ ู้เรยี นไดม้ ีส่วนรว่ มในการ แสดงความเห็นและเกดิ ความรู้ ความเข้าใจงา่ ยขึ้น 3. การสรปุ สรปุ เนอ้ื หาเรอื่ งภาษีธรุ กิจเพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นไดท้ บทวน จดบันทกึ เรื่องราคาที่ได้ศึกษาไปเพ่ือให้เกิดความ เขา้ ใจที่สอดคล้องกนั ในหวั ข้อเร่ืองตา่ ง ๆ อย่าง ถูกต้องชัดเจนย่งิ ขึ้น
6. งานท่ีมอบหมายหรือกจิ กรรม แบ่งผเู้ รียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3 คน เพื่อไปสอบถามสถานประกอบการทเี่ ป็นเจ้าของคนเดียว หา้ งหุ้นสว่ น บรษิ ทั จากดั แฟรนไชส์ ว่าธรุ กจิ แต่ละประเภทเสยี ภาษธี ุรกิจประเภทใดบ้าง แล้วนามา แลกเปลีย่ นกันในชั้นเรยี น 7. สอ่ื การเรยี นการสอน 1. หนังสอื วิชา ธรุ กจิ และการเปน็ ผูป้ ระกอบการ เรยี บเรยี งโดย สุคนธจรนิ ทร์ ไกรศรวัชร และคณะ 2. จากสภาพการดาเนินธรุ กิจในปจั จุบัน 3. ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ (Internet ) 8. การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ ีวัด 1. จากการตรวจงานทีม่ อบหมาย งานช้นิ ท่ี 1 พิจารณาจากความสัมพนั ธ์ของหลักการและเหตุผลทส่ี อดคลอ้ งกับ ผลิตภัณฑ์และกลุ่มเป้าหมาย งานชน้ิ ที่ 2 - พิจารณาจากความรบั ผิดชอบในงานที่มอบหมายและการตรงเวลา ( 5 คะแนน ) - ความครบถ้วนของข้อมูล (5 คะแนน) 2. การตรวจแบบประเมินผลการเรียน โดยกาหนดเกณฑด์ ังน้ี คะแนน 24 - 30 อยใู่ นระดบั ดีมาก คะแนน 18 - 23 อย่ใู นระดบั ดี คะแนน 15 – 17 อย่ใู นระดบั พอใช้ คะแนนตา่ กวา่ 15 ควรปรับปรงุ และประเมินใหม่ เครอื่ งมอื วัด 1. งานทีม่ อบหมาย 2. แบบประเมนิ ผลการเรียน เรือ่ ง การกาหนดราคา
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: