Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อประกอบการสอน_เรื่อง__องค์ประกอบของดนตรี_ในแต่ละวัฒนธรรมของไทย-06081344

สื่อประกอบการสอน_เรื่อง__องค์ประกอบของดนตรี_ในแต่ละวัฒนธรรมของไทย-06081344

Published by tharawoot232529, 2020-06-09 00:09:57

Description: สื่อประกอบการสอน_เรื่อง__องค์ประกอบของดนตรี_ในแต่ละวัฒนธรรมของไทย-06081344

Search

Read the Text Version

รายวชิ า ดนตรี เรอ่ื ง องค์ประกอบของดนตรี ในแต่ละวฒั นธรรมของไทย รหสั วชิ า ศ21103 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ผสู้ อน ครูนันทวัน ทองทพิ ย์

นาเขา้ สู่บทเรียน นกั เรยี นคดิ วา่ องคป์ ระกอบของดนตรี ในภาพน้คี ืออะไร แนวคาตอบ: เสียงทีเ่ กดิ จากการเปา่ ทรัมเปต็ ซ่ึงมีระดับความสงู –ตา่ ส้ัน–ยาว ดัง–เบา

องค์ประกอบของดนตรสี ากล รูปแบบของ เสียง จงั หวะ เพลงหรือ ดนตรี คตี ลกั ษณ์ ทานอง เพลง องค์ประกอบ สีสันของ ของดนตรี เสียง สากล พืน้ ผวิ ของ เสียง ดนตรี ประสาน

องคป์ ระกอบของดนตรีสากล เสียง (tone) การสัน่ สะเทือนของวตั ถผุ า่ นอากาศเป็นคล่นื เสียง ในอัตราทค่ี งที่เสมอ โดยมีแหล่งกาเนิดเสียง คอื เคร่อื งดนตรี มนุษย์ได้จดั ระบบเสียงตา่ ง ๆ เปน็ เสยี งดนตรี มีองค์ประกอบ4 ประการ คอื

ระดับเสยี ง (pitch) ระดบั เสียง (pitch) หมายถึง เสยี งดนตรสี งู –ต่า ซ่งึ ขน้ึ อยู่กบั ความถี่ของการสัน่ สะเทือนของ เครอื่ งดนตรี ท่ีเป็นแหลง่ กาเนดิ เสียง เราสามารถกาหนดชอ่ื โนต้ สากลแทนระดับเสียงตา่ ง ๆ เชน่ โด เร มี ฟา ซอล ลา เป็นตน้ เพอ่ื สามารถบรรเลงดนตรไี ด้ ความถี่ของเสียงมคี วามสัมพันธก์ ับระดบั เสยี งดว้ ย เชน่ ความถี่ ของเสยี งสูงขึน้ 1 เท่าตัว ระดบั เสียงจะสูงขน้ึ 1 ช่วงคแู่ ปด (octave)



ความสัน้ –ยาวของเสียง (duration) ความสัน้ –ยาวของเสียง (duration)หมายถงึ ความส้ัน–ยาวของเสยี งทบ่ี รรเลง จากเครอื่ งดนตรีหรอื ขับรอ้ งออกมาในระยะเวลาต่าง ๆ สามารถกาหนดไดด้ ว้ ย สัญลักษณ์ทางดนตรี เช่น โน้ตตวั ดา โน้ตตวั ขาว เปน็ ตน้ นอกจากนั้นยงั มตี วั หยดุ ซง่ึ แทนความเงยี บของเสียงเพื่อใหเ้ กิดจังหวะ และรปู แบบในการบรรเลงหลากหลาย

ความเขม้ ของเสียง (intensity) ความเข้มของเสยี ง (intensity) หมายถึง ระดับความดัง–เบาของเสียงนกั รอ้ ง และเสียงเครือ่ งดนตรี ซึง่ มกี ารกาหนดศัพทต์ า่ ง ๆ แสดงความดงั –เบา เชน่ p = piano หมายถึง เบา, f = forte หมายถึง ดัง เป็นตน้

คุณภาพของเสียง (tone quality) คณุ ภาพของเสียง (tone quality) หมายถึง ลกั ษณะของเสียงเคร่อื งดนตรี หรอื เสยี งรอ้ ง ที่บรรเลงออกมาวา่ มีความไพเราะของเสียงมากน้อยเพยี งใด การทีจ่ ะมีคณุ ภาพเสยี งทดี่ หี รอื ไมน่ ั้นข้นึ อยกู่ บั การฝกึ ซ้อมในการบรรเลง อย่างสม่าเสมอ

นกั เรยี นคดิ ว่าองคป์ ระกอบ ดา้ นเสยี งในภาพนเ้ี กดิ จากอะไร แนวคาตอบ: เกิดจากการเปา่ คลารเิ นต็ ใหม้ เี สยี งสงู –ตา่ สนั้ –ยาว ดัง–เบา ซง่ึ มีลกั ษณะ ที่เปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะตวั

จังหวะดนตรี (rhythm) การจดั เรียงของเสียงหรือความเงียบ ซึ่งไดม้ าจากความสน้ั –ยาวของเสียง (duration) ของโนต้ ดนตรแี บบต่าง ๆ และความเงยี บของเสียง (rest) ทแ่ี ตกตา่ ง กนั มาจดั เรียงกนั อย่างเปน็ ระบบ มอี งค์ประกอบดงั น้ี

จงั หวะเคาะ (beat) หมายถงึ จงั หวะพ้นื ฐานท่มี ีการเคาะสมา่ เสมอ เท่ากนั ตลอด จังหวะเน้นหรอื จังหวะหนัก (accented beat) จังหวะทางดนตรโี ดยปกติ จะประกอบไปดว้ ยจังหวะเน้นหรือจงั หวะหนกั ส่วนจังหวะทีไ่ ม่มีการเน้น กจ็ ะเรยี กว่าจังหวะเบา ซงึ่ เป็นการกาหนดวา่ เพลงนั้นมกี ารนบั จงั หวะแบบใด

จังหวะขัด (syncopation) จังหวะทม่ี ีการเนน้ จงั หวะเบาหรือใหค้ วามสาคญั กับจังหวะเบามากกว่าจังหวะหนัก เปน็ เทคนิคหนงึ่ ในการสรา้ งรสชาติให้กบั บทเพลง รูปแบบของจงั หวะ (rhythm pattern) หมายถงึ ลกั ษณะของกลุ่มจงั หวะ ทมี่ ลี ักษณะต่าง ๆ กนั ซึง่ อาจเปน็ ลกั ษณะทมี่ คี วามสมา่ เสมอหรอื ไม่สม่าเสมอ กไ็ ด้

จงั หวะของทานอง (rhythm of the melody) ทานองเพลงอาจ ประกอบขนึ้ ดว้ ยจังหวะท่มี ีความยาวเทา่ กัน สัน้ กว่า หรอื ยาวกวา่ จังหวะตบ จงั หวะของทานองอาจมรี ปู แบบของจงั หวะทส่ี มา่ เสมอหรอื ไม่สมา่ เสมอ กไ็ ด้ ท้งั นี้ข้ึนอย่กู บั ความตอ้ งการของผู้ประพนั ธ์เพลงเปน็ หลัก

นักเรียนคดิ วา่ องคป์ ระกอบดา้ นจังหวะ ในภาพน้ีเกิดจากอะไร แนวคาตอบ: เกิดจากการดดี กตี ารเ์ บสควบคุม จังหวะเพลงให้มีความสมา่ เสมอกนั

ทานองเพลง (melody) ท่วงทานองของการบรรเลงเคร่อื งดนตรี โนต้ ดนตรีตา่ ง ๆ ทเ่ี รยี งจดั ระบบความยาว–สัน้ โนต้ ตามจงั หวะดนตรี ท่วงทานองเพลงจะยาว–ส้ัน ขึ้นอยู่กับความ ต้องการของผ้ปู ระพันธ์

เสียงประสาน (harmony) ระดบั เสียงตั้งแต่ 2 เสยี งข้นึ ไปที่รอ้ งหรือบรรเลงไปพร้อม ๆ กนั โดยการจัดแนวการบรรเลง ให้แกร่ ะดบั เสียงตา่ ง ๆ พรอ้ มกบั แนวทานองหลัก เพอ่ื ช่วยปรงุ แตง่ ใหท้ านองเพลง มคี วามไพเราะนา่ ฟงั การประสานเสยี งแบง่ เปน็ 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ การใชข้ ้นั คูเ่ สียง (interval) และการใชก้ ลุม่ คอร์ด (chord) ลกั ษณะการประสานเสียงโดยการใช้ข้นั คู่เสียง ลกั ษณะการประสานเสียงโดยการใช้กลุ่มคอร์ด

นักเรียนคิดวา่ การประสานเสยี งไดแ้ กว่ ิธใี ดบ้าง แนวคาตอบ: การใชข้ ั้นคู่เสียง และการใช้กลุม่ คอร์ด

พืน้ ผวิ ของดนตรี (texture) ความสัมพนั ธ์ระหว่างเสียงประสานซึง่ เปน็ ความสมั พันธใ์ นแนวตง้ั และทานอง เป็นความสัมพันธใ์ นแนวนอน และเกดิ พื้นผิวทางดนตรขี ึ้น ดงั น้ี monophony ลกั ษณะของดนตรที ่มี ที านองเดียว ไมม่ เี สยี งประสาน polyphony ลกั ษณะของดนตรีท่มี ีทานองหลายแนวทานองเขา้ ด้วยกนั นามารอ้ งหรือบรรเลงพรอ้ มกัน เพื่อใหเ้ กดิ เสียงประสานของแนวทานองเพิม่ ความ ไพเราะให้กบั บทเพลงย่งิ ขนึ้

homophony ลกั ษณะของทานองเพลงท่ีมกี ารประสานเสยี งหรอื คลอทานองโดยการใช้คอร์ด heterophony ลกั ษณะของดนตรีทีม่ กี ารผสมผสานหลากหลาย แนวทานอง แตล่ ะเครอ่ื งดนตรสี ามารถแปรทานองได้อย่างอสิ ระ โดยยดึ ทานองหลักเข้าดว้ ยกัน

นกั เรยี นคิดวา่ องค์ประกอบดา้ นพนื้ ผวิ ของดนตรใี นภาพน้มี ลี ักษณะอยา่ งไร แนวคาตอบ: แบบ heterophony ซึ่งเปน็ ลกั ษณะของดนตรที ม่ี ีการผสมผสานหลากหลาย แนวทานอง แตล่ ะเครื่องดนตรีสามารถแปรทานองได้อย่างอสิ ระ โดยยดึ ทานองหลักเข้าด้วยกัน 64

สีสนั ของเสยี ง (tone color) คุณสมบัติของเสยี งทเ่ี กดิ จากเครื่องดนตรีหรือเสียงรอ้ งซง่ึ มคี วามแตกตา่ งกนั ออกไป เมื่อนามาร้องหรือบรรเลงรว่ มกนั จะทาให้สีสันของเสียงในภาพรวมมี ความแตกต่างกันออกไป ได้แก่ เสียงของมนษุ ย์ ไดแ้ ก่ เสยี งผู้หญงิ เสียงผู้ชาย และเสียงเด็ก เสียงของเคร่ืองดนตรี หมายถงึ เสยี งของเครอ่ื งดนตรีแต่ละชนดิ ซ่งึ จะมลกั ษณะ เฉพาะและตา่ งกันออกไป เสียงโดยรวมจากการผสมวง สามารถทาให้ดนตรีมสี ีสันมากขึน้ และเกิดความ ไพเราะที่หลากหลาย

ไวโอลนิ มีเสียงทสี่ ูงแหลม เสียงผ้ชู ายมเี สียงท่ีทุ้มตา่ ภาพ :นกั ร้องชาย โดย: watchaoarmschoo เวบ็ : http://watchaoarmschool.ac.th/workstudent-detail_3576

วงซมิ โฟนอี อร์เคสตรามกี ารผสมวงด้วยเครอื่ งดนตรที ี่หลากหลาย ทาใหเ้ กดิ สีสันของเสยี งท่มี ากข้ึน

บรู ณาการอาเซยี น “สงิ คโปรไ์ ชนสิ ออร์เคสตรา” วงออรเ์ คสตราแหง่ ประเทศสิงคโปร์ มีการผสมผสานการบรรเลงเพลงจากเครอ่ื งดนตรหี ลายประเภท ทาใหเ้ พลงท่ีถูกบรรเลงออกมานัน้ มีสสี ันของเสียงที่หลากหลาย อกี ทง้ั ยงั กอ่ ใหเ้ กิดเอกลกั ษณ์เฉพาะกับทางวงดนตรี จนทาให้เป็น ทรี่ ูจ้ ักไปท่วั โลก

นกั เรียนคดิ ว่าองคป์ ระกอบด้านสสี ันของเสยี ง ในภาพนเ้ี กิดจากอะไร แนวคาตอบ: เสียงโดยรวมจากการผสมวงของเคร่ืองดนตรี หลากหลายชนิด เม่อื นามาบรรเลงรวมกันจึงเกิดเป็นความไพเราะของ บทเพลง สามารถทาให้ดนตรีมสี ีสันมากขนึ้

รปู แบบของเพลงหรือคตี ลกั ษณ์ (musical form) ลักษณะการจดั โครงสรา้ งของดนตรหี รอื เพลงทมี่ กี ารแบ่งเปน็ กลุ่มเสยี ง วลี ประโยค และท่อนเพลง เชน่ • เพลง 2 ทอ่ น หมายความวา่ เพลงน้แี บ่งทานองเพลงออกเป็น 2 ทอ่ น แตล่ ะทอ่ นจะมีทานองที่แตกตา่ งกนั • เพลง 3 ทอ่ น หมายความว่า เพลงดังกลา่ วจะแบ่งออกเป็น 3 ท่อน ทอ่ นที่ 1 กบั ท่อนท่ี 2 จะมีทานองเหมอื นกันหรอื ทานองเดยี วกนั ส่วนทอ่ นท่ี 3 จะมีทานองเพลงที่แตกตา่ งกนั ออกไป เปน็ ตน้

รูปแบบของเพลงหรือคตี ลักษณม์ ีหลายรูปแบบ เชน่ ไบนารี (binary form) ลักษณะของการประพันธ์เพลงทมี่ ี 2 ทอ่ น รูปแบบเป็นการถามและตอบซา้ ไปมาหลายเทีย่ วก็ได้ เชน่ A:B, AABB, ABAB เทอรน์ ารี (ternary form) ลกั ษณะของการประพันธ์เพลง ทม่ี ี 3 ทอ่ น หรือทานองหลกั 3 ลักษณะ โดยมสี ่วนกลางท่ีแตกต่างไปจากส่วนต้นและสว่ นทา้ ย เช่น ABA, AABA 71

นกั เรยี นคดิ วา่ วงดนตรวี งน้ใี ช้องค์ประกอบดนตรีประเภทใดบา้ ง แนวคาตอบ: ใชท้ ้ังองคป์ ระกอบของดนตรีไทยและองค์ประกอบ ของดนตรีสากล เพราะมกี ารใชท้ ง้ั เครื่องดนตรไี ทยและสากลผสมผสานกัน

องค์ประกอบของดนตรีพนื้ บ้าน มรี ปู แบบของเพลงที่ไม่ซบั ซ้อน มักมีทานองหลกั อยู่ 2–3 ทานอง ซึ่งเกดิ ขน้ึ จากการเลยี นแบบชีวิตประจาวนั จดจา และถา่ ยทอดมาจาก ปากตอ่ ปาก และขยายความกนั ไปเรอ่ื ย ๆ จงึ ทาให้เกิดการแพร่กระจาย และเปลย่ี นแปลงไปจากของเดิมอยู่ตลอดเวลา

แสดงถึงความเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะทอ้ งถ่นิ โดยแต่ละท้องถน่ิ จะมีทว่ งทานอง ลีลาจังหวะ หรือเคร่ืองดนตรเี ปน็ แบบฉบับของท้องถ่นิ ตนเอง เมือ่ นาไปรอ้ งหรอื บรรเลงทใี่ ดกจ็ ะบง่ บอกถงึ ความเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะถิน่ นั้น ๆ ใหผ้ ฟู้ งั สามารถรับรู้ไดท้ นั ทวี ่าเป็นดนตรที ่ีมาจากท้องถิ่นใด

มที ่วงทานองส้นั ๆ จดจาง่าย บทเพลงหรือดนตรพี ้นื บ้านจะมที ่วงทานอง สนั้ ๆ จดจางา่ ย และไมย่ ากต่อการจะนาไปใช้รอ้ งหรอื บรรเลง ในการรอ้ งหรือบรรเลงแต่ละคร้งั อาจมีการเพ่ิมหรือลดทานองก็ได้ ซ่ึงทั้งนีข้ ึน้ อยู่ กบั ความสามารถและไหวพริบปฏภิ าณของผู้ร้องหรอื บรรเลงทอ่ี าจประดิษฐ์คดิ ค้นลลี า ทานองใหส้ อดคล้องกับความต้องการของทอ้ งถิน่ ของตนเอง

บูรณาการอาเซยี น ประเทศไทยรับวฒั นธรรมการเล่นกลองยาวมาจากประเทศสมาชกิ อาเซียนประเทศใด แนวคาตอบ: ประเทศเมยี นมา

ใหน้ ักเรียนดูภาพวงดนตรพี นื้ บา้ นภาคตา่ ง ๆ แล้วบอกชือ่ และภาคของวงดนตรพี ้นื บา้ นให้ถูกตอ้ ง ชอ่ื วง________ส_ะ_ล_อ้_ซ__อ_ซ_งึ _______ ชอื่ วง____โป__งล_า_ง_______________ เปน็ วงดนตรีในภาคใด____ภ_า_ค_เ_ห_นือ เป็นวงดนตรีในภาคใด_ภ_า_ค_อ_ีส_า_น__

78

บูรณาการตามหลักแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง นักเรยี นนาความรู้เกย่ี วกบั องค์ประกอบของดนตรไี ทยและดนตรี พ้นื บา้ นไปใหค้ วามรเู้ พื่อรณรงคใ์ ห้คนในท้องถิ่นเห็นถึง ภมู ิปญั ญา ด้านดนตรี ตามหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง

สรปุ องค์ประกอบ เสียง ของดนตรี แบ่งเป็น จงั หวะ เสียง (tone) ไทย ทานอง จงั หวะดนตรี (rhythm) เสียงประสาน องค์ประกอบ ทานองเพลง (melody) พืน้ ผวิ ของดนตรี เสียงประสาน (harmony) พืน้ ผวิ ของดนตรี (texture) สีสันของเสียง สีสันของเสียง (tone color) ของดนตรี ไดแ้ ก่ องค์ประกอบของ รูปแบบหรือคตี ลกั ษณ์ จากแหล่ง ดนตรีสากล วฒั นธรรม แบง่ เป็น ต่าง ๆ รูปแบบของเพลงหรือคตี ลกั ษณ์ (musical form) องค์ประกอบของ แบง่ เป็น มรี ูปแบบของเพลงทไ่ี ม่ซับซ้อน ดนตรีพืน้ บ้าน แสดงถงึ ความเป็ นเอกลกั ษณ์เฉพาะท้องถิ่น มที ่วงทานองส้ัน ๆ จดจาง่าย

การมอบหมายงาน ให้นกั เรียนศึกษาค้นควา้ เก่ียวกบั ปัจจัยในการสรา้ งสรรค์บทเพลง โดยบนั ทกึ ข้อมูลลงในแบบบนั ทึกขอ้ มูลการมอบหมายงาน แลว้ นามาอภิปรายให้เพอ่ื น ๆ ฟังในชนั้ เรยี น 81