Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Folktales POKNE MOKNE(Maseetoh,Husna)

Folktales POKNE MOKNE(Maseetoh,Husna)

Published by nisobriah, 2020-03-20 02:45:52

Description: Folktales POKNE MOKNE(Maseetoh,Husna)

Search

Read the Text Version

folktales POKNE & MOKNE Chapter: home party EN2204-152 THAI-ENGLISH TRANSLATION การแปลไทย-อังกฤษ DEPARTMMENT OF ENGLISH FACULTY OF LIBERAL ART AND SOCIAL SCIENCES FATONI UNIVERSITY

คํานํา ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ ผทู้ รงยงิ ใหญใ่ นความเมตตา ผทู้ รงยงิ ใหญใ่ นความกรุณา มวลการสรรเสริญเปนกรรมสิทธิ ของอัลลอฮฺและการสรรเสริญความสันติจงมแี ด่ท่านศาสนฑูต มฮู ัมมดั (ซ.ล.) และบรรดาวงศ์วานของท่าน สหายของท่าน และบรรดาผทู้ ีเจริญตามแนวทางของท่าน ขอชูโกร (ขอบคุณ) ต่อองค์พระผอู้ ภิบาลแห่งสากลโลกทีทรงบนั ดาลให้การวิเคราะห์กลวิธีการแปลมขุ ปาฐะเรือง \"เปาะเน เมาะเน\" ตอน กินเลียงทีบา้ น สําเร็จลุล่วงไปด้วยดี ผลงานเล่มนีเปนส่วนหนึงของรายวิชาการแปลไทย-อังกฤษ (EN2204-152) โดยมวี ัตถุประสงค์เพอื ศึกษาและ วิเคราะห์งานแปลทีอาจารยไ์ ด้มอบให้ รวมไปถึงปญหาต่างๆ ทีเกิดขนึ และเพอื ทีจะสามารถนํามาปรับใช้กับบทแปลของ กลุ่ม ซึงเนือหาในเล่มนีจะประกอบไปด้วย บทนํา ความหมายของการแปล ทีมาและความหมายของนิทานพนื บา้ นและ หนังตะลุง กลวิธีการแปลในงานวิจัย รวมถึงปญหาและวืธีการแก้ปญหา ทางผแู้ ปลหวังเปนอยา่ งยงิ ว่าผลงานเล่มนีจะเปนประโยชน์ต่อผอู้ ่านหรือผทู้ ีสนใจไมม่ ากก็น้อย หากมสี ิงใดทีต้อง ปรับปรุง ผแู้ ปลขอน้อมรับในขอ้ ชีแนะและจะนําไปแก้ไขหรือพฒั นาให้เกิดความถูกต้องสมบรู ณ์ต่อไป ทุกความดีงามทังหลายจากการแปลงานฉบบั นีล้วนมาจากการบนั ดาลของพระองค์อัลลอฮฺทังสิน และความผดิ พลาด ทุกประการทีพบในงานแปลฉบบั นีล้วนแต่เกิดจากความบกพร่องของทางผแู้ ปลเอง จัดทําโดย นางสาว มาซีเตาะ ลาเต๊ะ นางสาว ฮุซนา สามะ

TABLE OF CONTENTS 1 Definitions of translation 2 DEFINITIONS AND FEATURES OF CONTENT GENRE 3 TRANSLATION STRATEGIES 4 Translation strategies applied in your final draft 5 Problems and solutions in translating

TABLE OF CONTENTS 6 HOW TO MAKE A SHADOW PUPPET 7 TOOLS 8 PROJECT SCHEDULE PLANNING 9 BEHIND THE SCENE

บทนาํ นิทานพ้นื บา นเปาะเนกบั เมาะเน หรือสามารถเรยี กอกี ช่อื หนึ่งวา นิทานมุขตลก เร่อื งเปาะ เน เมาะเน เป็นนิทานของทางภาคใต ซึง่ เป็นนิทานตลกพ้นื บา นที่ผใู หญส มยั กอ นชอบเลาใหเดก็ ๆ ฟั ง เดก็ ๆ พากนั ชอบนิทานทํานองนี้มาก เร่อื งจะแบงเป็นตอนๆ โดยมีเปาะเนกบั เมาะเนเป็น ตวั เอกของเร่อื ง เปาะเนกับเมาะเนเป็นช่อื ของสามีภรรยาคูห นึ่ง คาํ วา เปาะ ในภาษามลายู แปล วา พอ เมาะ แปลวา แม สวน เน เป็นช่อื ของลูกชาย เปาะเน และเมาะเน จงึ หมายถงึ ผเู ป็นพอและ แมของเน เปาะเนผเู ป็นสามี เป็นคนทีค่ อ นขา งจะเซอซา ปัญญาทึบ ชอบทําอะไรเป่ินๆ อยูเ สมอ สว นเมาะเนผเู ป็นภรรยาคอนขางจะเฉลียวฉลาดกวา จงึ เป็นผูจดั การกจิ การตางๆ ภายในบา น และเพราะความโงท บึ ของเปาะเนนี้เองจึงกอใหเ กิดมุขตลก กลายมาเป็นนิทานเลา สูกันฟั งเป็น ตอนๆ ดังตวั อยา งตอนหนึ่งที่ผูแปลเลือกนํามาดัดแปลงดวยการทําเป็นหนังตะลงุ โดยเร่อื งมีอยู วา เมาะเนจะทํากินเลยี้ งท่ีบาน จึงใหเ ปาะเนไปเชญิ โตะลือแบ (โตะ อีหมา ม) โดยบอกวธิ ีสงั เกต งายๆ ใหดบู นหวั ถา มผี าขาวโพกหวั กแ็ สดงวาเป็นโตะลอื แบ หรือไมก ็ดูเครา ถา ไวเ คราก็ใชอกี เชน เดียวกัน เปาะเนก็ออกจากบา นไป ทางฝ ายเมาะเนกจ็ ดั แจงเขาครวั เตรยี มทาํ อาหารไว มากมาย เปาะเนเดนิ ทางไปหาโตะ ลอื แบ ก็ไมพ บผใู ดเลยสักคนเดียว จนกระทง่ั มาพบกบั แพะตวั หนึ่งซึง่ มเี คราใตคางยาวมาก จงึ เดนิ เขา ไปหาแลว เชญิ ไปกนิ ขาวทีบ่ าน แพะกร็ อ ง แบะ แบะ ออกเสียงคลาย ภาษามลายูวา ลอื แมะ ลอื แมะ (แปลวา แฉะ) เปาะเนก็ตอบวา ไมห รอก ขา วไม แฉะ รบั รองได แพะไดยนื อยูเฉย ๆ เปาะเนจึงเดนิ ผา นไป แลว ไปพบนกกระจบิ หัวขาว เปาะเนก็ ออกปากเชิญไปกินขาวทีบ่ า น จากนั้นนกกระจิบรอ ง จิบ๊ จบิ๊ แลว ก็บนิ ไป เปาะเนยืนหัวเสีย แลว บนวา \"มันหาวา ขา วนิดเดียวท่ีจริงขา วของเรามมี ากมาย\" เสียงนกรอ งวา จิบ๊ จิบ๊ ฟั งคลา ยเสียง มลายูวา ซิกิ ซิกิ (แปลวา นิดเดยี ว) เปาะเนจงึ กลับบานไปเลาเร่อื งราวทัง้ หมดใหภรรยาฟั ง เมาะ เนฟั งแลว ก็คดิ ในใจวา เหน็ ทีจะไมไดก ารแลว จงึ ตอ งออกไปเชิญโตะ ลือแบดว ยตวั เอง จึงฝากให เปาะเนอยูเฝาบานและดแู ลอาหารที่เตรียมไวใ หโ ตะลือแบ ซึง่ จดั ไวเ สร็จเรียบรอ ยแลว พอเมาะ เนออกจากบานไปแลว เปาะเนจงึ มานั่งคดิ วาอาหารนั้นกม็ อี ยูม ากมาย มนั นาเสียดายที่จะตอ ง เลยี้ งโตะลือแบทัง้ หมด เชนนั้นแลวเปาะเนคิดวากนิ เสยี เองจะดกี วา วา แลว จงึ จัดการกนิ อาหารที่ มีทกุ อยา ง กินเขา ไปเยอะ ๆ ทําใหท องเสียไปเขาหอ งนํ้าไมท ัน จนสดุ ทายกข็ แี้ ตกอยตู รงนั้นและ ขไี้ ดเ ลอะสํารบั อาหาร เม่อื เมาะเนกลับมาบานพรอมกับโตะ ลือแบ กไ็ มเ ห็นเปาะเน จึงเชญิ โตะ ลือแบเขาบา น เม่อื เขา มาในบา นโตะลอื แบไดกล่ินแปลกๆ และเห็นอะไรบางอยา งคลา ยขนม แจะแมะ จึงเอามอื แตะและดม จงึ ไดร ูวานั่นคอื อจุ จาระของเปาะเน โตะลอื แบอวกและรีบว่ิงออก ไป จึงกลายเป็นงานเลยี้ งกรอ ยในทส่ี ุด

THE DEFINITIONS OF TRANSLATION ภาษามคี วามสาํ คัญในการติดต่อสอื สารกันระหวา่ ง สาํ หรบั เจ. ซ.ี แคทฟอรด์ (อา้ งในสพุ รรณี มนษุ ย์ เนอื งจากมนษุ ยใ์ ชภ้ าษาเปนเครอื งมอื สอื สาร ปนมณ,ี 2555, หนา้ 6) การแปลอาจใหค้ ํา เพอื ถ่ายทอดความคิด ความต้องการ ความรสู้ กึ นกึ คิด นยิ ามวา่ เปนการแทนทเี นอื ความทเี ขยี นเปน ตลอดจนความต้องการของอีกฝายหนงึ ได้ ดงั นนั ลายลกั ษณอ์ กั ษรในภาษาหนงึ (ภาษาตน้ ฉบบั ) มนษุ ยใ์ ชภ้ าษาเปนเครอื งมอื ในการติดต่อสอื สาร ดว้ ยเนอื เรอื งทเี ขยี นเปนลายลกั ษณอ์ กั ษรทมี ี ฉันใด การแปลก็ทําหนา้ ทีเปนสอื กลางในการเชอื มโยง ความหมายเทยี บเทา่ กนั ในอกี ภาษาหนงึ (ภาษา ระหวา่ งกันฉันนนั ซงึ การแปลเปนเสมอื นสะพานทีชว่ ย แปล) วรรณา แสงอรา่ ม (อา้ งใน สพุ รรณี ปน ใหก้ ารสอื สารขา้ มวฒั นธรรมสามารถกระทําไดง้ ่ายขนึ มณ,ี 2555, หนา้ 5) สรปุ วา่ “การแปลเปนการ ชว่ ยใหข้ อ้ จาํ กัดในดา้ นต่างๆ ของมนษุ ยน์ นั แคบลงและ จดั เรยี บเรยี งตวั บทเสยี ใหมใ่ หส้ อดคลอ้ งกบั ทีสาํ คัญการแปลเปนสงิ ทีมบี ทบาทสาํ คัญในชวี ติ มนษุ ย์ สถานการณท์ กี ําหนดไว้ และจดั เปนสว่ นหนงึ เปนอยา่ งมาก ของวฒั นธรรมปลายทาง” นกั วชิ าการดา้ นการแปลหลายท่านไดน้ ยิ ามความหมาย ของการแปลไว้ ดงั นี จึงกล่าวโดยสรุปได้ว่า การแปล คือ การเปลียนรูปและการถ่ายทอดความ ยูจนี ไนดา (อ้างถึงใน วรนาถ วมิ ลเฉลา, 2543, หนา้ หมายโดยแท้จรงิ จากภาษาต้นฉบับ 3) ใหค้ ํานยิ ามวา่ “การแปลเปนถ่ายทอด ความหมาย (Source Language) มาเปนภาษา ของขา่ วสารอยา่ งใกล้เคียงและเปนธรรมชาติทีสดุ จาก แปลหรอื ภาษาปลายทาง (Receptor ภาษาต้นฉบบั เปนภาษาแปล โดยมุง่ ถ่ายทอดความ Language) หมายเปนลําดบั แรก และถ่ายทอดลีลาการเขยี นเปน ลําดบั ทีสอง\"

Definitions and features of content genre

FOLKTALES เ ป น เ ร ือ ง ร า ว ที เ ล่ า สื บ ต่ อ กั น ม า ซึ ง อ า จ ไ ม่ มี บันทึกเปนหลักฐาน เนืองจากสมัยโบราณ ไ ม่ มี ค ว า ม บั น เ ทิ ง ใ น รู ป แ บ บ อื น ใ น สั ง ค ม ห ล า ย วั ฒ น ธ ร ร ม ใ ช้ ก า ร เ ล่ า เ ร ือ ง สู่ กั น ฟ ง ซึ ง มั ก เ ป น เรืองราวจากจินตนาการแสดงความเชือของ ชาวบ้าน ประคอง  นิมมาเหมินทรแ์ ละคณะ ( 2545 : 16-17 ) กล่าวว่า  นิทานพืนบ้านในวิชาคติชนวิทยา  หมายถึง  เรอื งเล่าทีเล่าสือต่อๆ  กันมา  จากคนรุน่ หนึงสู่คนอีก รุน่ หนึง  โดยไม่ทราบว่าใครเปนผู้แต่ง features of folktales เรืองเล่าทีเล่าต่อกันมาช้านาน โดยใช้ถ้อยคําธรรมดาหรือภาษาชาว บ้าน และไม่ปรากฏว่าผู้เล่าดังเดิมเปนใคร  เปนเพียงการเล่าต่อ ๆ  กันมาเปนทอด ๆ  ผู้เล่าก็ไม่ถือว่าเรืองทีเล่านันเปนเรืองจริงแต่ อย่างไร

shadow play ห นั ง ต ะ ลุ ง เ ป น ม ห ร ส พ ที นิ ย ม อ ย่ า ง แ พ ร ่ห ล า ย อย่างยิงมาเปนเวลานาน โดยเฉพาะในยุค หนังตะลุง คือ ศิลปะการแสดง ส มั ย ก่ อ น ที จ ะ มี ไ ฟ ฟ า ใ ช้ กั น ทั ง ถึ ง ทุ ก ห มู่ บ้ า น ประจาํ ท้องถินอย่างหนึงของภาคใต้ เปนการเล่าเรืองราวและดาํ เนินเรือง อย่างในปจจุบัน หนังตะลุงแสดงได้ทังในงาน ทีมีบทขับร้องเปนสาํ เนียงท้องถิน จะใช้การแสดงเงาบนจอผ้าเปนสิง บุ ญ แ ล ะ ง า น ศ พ ดั ง นั น ง า น เ ฉ ลิ ม ฉ ล อ ง ที ดึงดูดสายตาของผู้ชม ซึงการว่าบท การสนทนา และการแสดงเงานี นาย สาํ คัญจึงมักมีหนังตะลุงมาแสดงให้ชมด้วย หนังตะลุงจะเปนคนแสดงเอง ทั ง ห ม ด เสมอ นอกจากนีหนังตะลุงยังสะท้อนให้เห็น ถึงขนบธรรมเนียมประเพณี ค่านิยม วิถีชีวิต ของคนประจาํ ท้องถินในภาคใต้ โดยเฉพาะ อ ย่ า ง ยิ ง ช า ว ช น บ ท ไ ด้ ห ล า ก ห ล า ย แ ง่ มุ ม อี ก ทั ง ยั ง เ ป น ก ร ะ จ ก ส่ อ ง ส ภ า พ สั ง ค ม ข อ ง ค น ประจาํ ท้องถินในภาคใต้ได้เปนอย่างดี

TRANSLATION STRATEGIES

กลวิธีการแปล การแปลโดยใช้คํายืม (Transference)  กลวิธีนีผู้แปลจะใช้คํายืมในวัฒนธรรมต้นทางมาใช้ในบท ก า ร แ ป ล ต ร ง ตั ว ต า ม ต้ น ฉ บั บ แปล โดยนําคําในภาษาต้นทางมาถ่ายเสียงโดยใช้ระบบอักษรของภาษาปลายทาง เช่น stamp ก ล วิ ธี นี ผู้ แ ป ล จ ะ แ ป ล โ ด ย ใ ช้ สาํ นวนในภาษาต้นทางและ แสตมป ice-cream ไอศกรีม เปนต้น วิธีนีจะทําให้ทราบถึงทีมาของคําแปลนัน และสามารถนํา ภ า ษ า ป ล า ย ท า ง ที มี ข้ อ ค ว า ม เ ห มื อ น กั น ม า ใ ช้ ใ น ก า ร แ ป ล ไ ป ค้ น ค ว้ า ห า ข้ อ มู ล เ พิ ม เ ติ ม ห ร ือ อ้ า ง ก ลั บ ไ ป ยั ง ต้ น ฉ บั บ ไ ด้ เช่น สาํ นวนภาษาอังกฤษ แ ล ะB u i l d c a s t l e i n t h e a i r สาํ นวนภาษาไทย สร้างวิมาน ในอากาศ ก า ร แ ป ล แ บ บ เ ที ย บ เ คี ย ง การใช้คําแปลทีได้รับการยอมรับ (Accepted standard translation) กลวิธีนีจะใช้ในการแปล กลวิธีนีผู้แปลจะนาํ สาํ นวนทีมีใน ชือเฉพาะ เช่น ชือองค์กร หรือสถาบันต่างๆ ทีมีบัญญัติหรือคําเทียบเคียงไว้แล้วในวัฒนธรรมปลาย ภาษาต้นทางไปหาสาํ นวน ใน ทาง เพราะฉะนันจึงไม่ควรใช้ กลวิธีแปลแบบตรงตัว แต่ควรเลือกใช้คําทีได้รับการยอมรับ เพือไม่ให้ผู้ ภ า ษ า ป ล า ย ท า ง ที มี ส า ม า ร ถ สื อ อ่านเกิดความสับสน หรือเข้าใจผิด ค ว า ม ห ม า ย ไ ด้ เ ห มื อ น กั น ม า ใ ช้ ในการแปล เช่น สาํ นวน แ ล ะG r e e n - e y e d m o n s t e r สาํ นวน อิจฉาตาร้อน ก า ร แ ป ล โ ด ย ก า ร ตี ค ว า ม การแปลโวหารภาพพจน์ (Figurative Language)ซึงกลวิธีนี จะไม่สามารถแปลตามตัวอักษรได้ แต่ กลวิธีนีผู้แปลจะนาํ สาํ นวนใน ภ า ษ า ต้ น ท า ง ม า ตี ค ว า ม เ พื อ ต้ อ ง ใ ช้ ค ว า ม รู ้แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ก า ร แ ป ล ผ่ า น ก า ร ตี ค ว า ม หาความหมายทีชัดเจน และ DETAIL > ถ่ า ย ท อ ด อ อ ก ม า โ ด ย ใ ช้ คํา ทั ว ๆ ไป หรือสามารถกล่าวอีก อุปมาอุปไมย (Simile) คอื การ อุ ปลักษณ์ (Metaphor) คือ บุ ค ล า ธิ ษ ฐ า น อย่างหนึงคือ การแปลแบนีจะ เปรียบเทยี บระหวางสองส่ิงที่ (Personification) คือ การ ไม่ได้ใช้สาํ นวน ในการแปล ไมใชประเภทเดียวกนั สวน การใช้คําหรือสาํ นวนในการ ทําให้สิงไม่มีชีวิต หรือสิงมีชีวิตที เหมือนดังเช่นต้นฉบับ เช่น มากจะมลี ักษณะเฉพาะท่ี ไม่ใช่คนสามารถแสดงอาการหรือ การแปลสาํ นวน สาวไส้ให้กา เหมอื นกนั หรอื คลา ยกนั เชน เปรียบเทียบ โดยนาํ ลักษณะ การกระทําให้เปนเหมือนสิงมีชีวิต กิ น ว่า e x p o s i n g m y o n e ’ s ใบยางสีเขยี วเปลี่ยนเป็นสี ส่ ว น ใ ห ญ่ จ ะ ใ ช้ เ พื อ สื อ ถึ ง อ า ร ม ณ์ เหลอื ง กอ นจะปิดขวั้ รวงเป็น ของสิงหนึงมาเปรียบ หรือ แ ล ะ แ ส ด ง ใ ห้ เ ห็ น ก า ร เ ค ลื อ น ไ ห ว secret for all to hear. สาย ดูเหมอื นฝนตกเป็นใบไม ต่างๆ เช่น กระทังวันทีธรรมชาติ The green leaves of the rubber พิพากษาความแตกแยก... Until อ า จ จ ะ มี ก า ร ตี ค ว า ม ป ร ะ ก อ บ trees turn yellow before they nature settled the dispute ร่วมด้วย เช่น ยิงมีข่าวร้ายๆ shrivel and fall row after row, การแปลโดยการขยายความ ออกมา ชาวบ้านยิงมองคน as if the sky is shedding กลวิธีนีผู้แปลจะแปลสาํ นวนนัน พวกนันเปนปศาจ The leaves. อย่างตรงตัวและอธิบาย เพิม more bad news came เติม เพือให้สาํ นวนดังกล่าวนัน out, the more the มีความหมายชัดเจน ทําให้ผู้ villagers viewed those อ่ า น เ ข้ า ใ จ ไ ด้ ม า ก ขึ น เช่น people as demons. สาํ นวน Live and learn แปลว่า ตราบใดทียังมีชีวิตอยู่ ก็ เ ร ีย น รู ้ต่ อ ไ ป

กลวธิ กี ารแปล การแปลโดยการละ (Deletion) กลวิธีนีผู้แปลจะละไม่แปลต้นฉบับ ซึงมักใช้ในกรณีทีคําใน ก ล วิ ธี ก า ร แ ป ล โ ด ย ก า ร ใ ช้ คํา ที มี ค ว า ม ต้นฉบับทีไม่ได้มีความสาํ คัญมาก หากผู้แปลเลือกละทีจะไม่แปล ผู้อ่านจะยังสามารถข้าใจทีผู้แปล หมายกว้างกว่าต้นฉบับ (classifier) ต้องการทีจะถ่ายทอดได้ เช่น ประโยค น้องฎา แหม... ดีใจทีได้เจอ แปลว่า Da! Great to see กลวิธีนีผู้แปลจะแปลโดยใช้คําจาํ แนก you การทีผู้แปล ไม่แปลคําว่าน้อง เนืองจากคําว่าน้องในวัฒนธรรมไทยและอังกฤษมีความแตก ประเภทอย่างกว้างๆ ของคําวัฒนธรรม ต่างกัน ในวัฒนธรรมไทย คําว่าน้อง หมายถึง บุคคลทีอายุน้อยกว่าผู้พู ด ไม่จาํ เปนต้องเกิดจาก นันๆ เช่น คําว่า กล้วยบวชชี ซึงเปนชือของ บิดามารดา คนเดียวกัน แต่ในวัฒนธรรมอังกฤษ คําว่า น้อง จะใช้กับผู้ทีเกิดจากบิดามารดา หวานของไทย ผู้แปลเลือกทีจะไม่แปลความ เดียวกันเท่านัน ฉะนัน การละไม่แปลก็สามารถทําให้ผู้อ่านเข้าใจถึงเนือหาของสารได้เช่นเดียวกับ หมายโดยตรงว่า banana in coconut ต้นฉบับ (พรชัย พรวิริยะกิจ, 2555) milk แต่ผู้แปลจึงเลือกใช้วิธีแปลอย่าง กว้างๆ ซึงจะแปลได้เปนคําว่า dessert การแปลโดยใช้คําทีมีความหมายเปนกลาง (Neutralization) กลวิธีการนีผู้แปลจะใช้คํา แทน ทีมีความหมายเปนกลาง ซึงจะให้ความหมายทางอารมณ์ อรรถรส และสีสันของคําน้อยกว่า ต้นฉบับ เช่น คําว่า กราบ ซึงการกราบสามารถแบ่งได้หลายแบบ เช่น กราบทีเท้า กราบทีอก หรือกราบทีตัก ในบริบทนีจะเปนการกราบเพือแสดงความกตัญ ู ซึงในวัฒนธรรมไทยเชือ ว่า การกราบทีเท้าจะเปนการแสดงความกตัญ ูมากทีสุด จึงแปลโดยใช้คําทีมีความหมาย เปนกลาง เพือให้ผู้อ่านทีอยู่ในวัฒนธรรมทีแตกต่างไปเข้าใจได้ง่ายขึน โดยการแปลว่า prostate myself at his feet ซึงจะชีให้เห็นถึงการกระทําทีนอบน้อมเปนอย่างมาก

Translation Strategies Applied in Our Final Draft

กลวธิ ที ีนาํ มาใชม้ ากทีสดุ ในดราฟสดุ ท้าย จ า ก ม ท แ ป ล ใ น ด ร า ฟ สุ ด ท้ า ย ข อ ง ก ลุ่ ม ผู้ แ ป ล ส า ม า ร ถ แ บ่ ง ก ล วิ ธี ที ใ ช้ ม า ก ที สุ ด ใ น บ ท แ ป ล ด ร า ฟ สุ ด ท้ า ย ไ ด้ ดั ง นี 1. กลวธิ กี ารแปลแบบตีความ 39 จุด 2. กลวธิ กี ารแปลแบบตรงตัว 29 จุด 3. กลวธิ กี ารแปลแบบการละ 5 จุด 1. ตัวอยา่ งทีใชก้ ารแปลแบบตีความ มี ตัวอยา่ งที 2 ดงั นี :- เมาะเน : ดาโตะตหุ มารปี าเดาะหเ์ ราะฆดี ซี ี นี ตัวอยา่ งที 1 เมาะเน : ผวั ขา้ ไดม้ าเชญิ ท่านหรอื เปล่า เมาะเน : มงึ กือนอวสี าแลเตะ นามอโดะฆปี า English : Have you received เดาะหร์ าไซงๆ ตหุ คือนออาดออัคลากเตะ เมาะเน : ต้องใหส้ ลามดว้ ยละ อยา่ ไปทําอะไร any invitations from my โง่ๆ ต่อหนา้ เขานะ ควรมมี ารยาทดว้ ย English : Don't forget to say husband ? Salam because the manners are important.

2. ตัวอย่างทีใช้การแปลแบบตรงตัว 3. ตัวอย่างทีใช้การแปลแบบการละ มีดังนี :- มี ดั ง นี : - ตัวอย่างที 1 ตัวอย่างที 1 เปาะเน : โต๊ะลือแบ โต๊ะลือแบ โดะมาน้อ เปาะเน : เนาะฆีเราะห์ เนาะฆีเราะห์ เปาะเน : โต๊ะอีหม่าม... เอ็งอยู่ไหนน้า เปาะเน : ไปแล้วจ้าเมียจ๋า English : Imam, where are English : I am going. you ? ตัวอย่างที 2 ตัวอย่างที 2 เปาะเน : อากูเนาะกือจะเล้านาสิมึง วา เมาะเน : กูกือจะเดาะห์ ซ อ แ ฆ น้ อ เมาะเน : กูชิมแล้ว เปาะเน : ข้าแค่จะลองชิม อยากรู้ฝมือ English : I already tasted it. อาหารแม่ยอดยาหยีของข้าว่าอร่อย เ ห มื อ น เ ดิ ม ไ ห ม English : I just taste your meal.

problems & solutions

DESIGN  ดั ง ที อั ล ล อ ฮฺ ไ ด้ ต ร ัส ว่ า ก า ร ชิ ร ิก ( ก า ร ตั ง ภ า คี ) ‫َوﻳَ ْﻌ ُﺒ ُﺪو َن ِﻣ ْﻦ ُدو ِن ﱠِﷲ َﻣﺎ َﻻ ﻳَ ُﻀﺮﱡ ُﻫ ْﻢ َو َﻻ‬ ‫ﻳَ ْﻨ َﻔ ُﻌ ُﻬ ْﻢ َوﻳَ ُﻘﻮﻟُﻮ َن َﻫ ُﺆ َﻻ ِء ُﺷ َﻔ َﻌﺎ ُؤﻧَﺎ ِﻋ ْﻨ َﺪ ﱠِﷲ ُﻗ ْﻞ‬ ‫أَﺗُ َﻨﺒﱢ ُﺌﻮ َن ﷲﱠَ ﺑِ َﻤﺎ َﻻ ﻳَ ْﻌﻠَ ُﻢ ِﻓﻲ اﻟ ﱠﺴ َﻤﺎ َوا ِت َو َﻻ ِﻓﻲ‬ ‫ا ْﻷَ ْر ِض ُﺳ ْﺒﺤَﺎﻧَ ُﻪ َوﺗَ َﻌﺎ َﱃ َﻋ ﱠﻤﺎ ﻳُ ْﺸﺮِ ُﻛﻮ َن‬ \"และพวกเขาจะบูชาสิงอืนนอกเหนือ จา กอัลลอฮฺ ทีมิได้ให้โทษกับพวกเขา และ มิได้ให้ประโยชน์กับพวกเขา และพวกเขา ก ล่ า ว อ้ า ง ว่ า สิ ง เ ห ล่ า นี คื อ ผู้ ช่ ว ย เ ห ลื อ เ ร า ณ อัลลอฮฺ จงกล่าวเถิด (มูฮํามัด) พวก ท่ า น จ ะ แ จ้ ง ข่ า ว กั บ อั ล ล อ ฮฺ ด้ ว ย สิ ง ที พ ร ะ อ ง ค์ ไ ม่ รู ้ใ น บ ร ร ด า ชั น ฟ า แ ล ะ แ ผ่ น ดิ น กระนันหรือ พระองค์ทรงมหาบริสุทธิ แ ล ะ ท ร ง สู ง ส่ ง เ ห นื อ สิ ง ที พ ว ก เ ข า ตั ง ภ า คี \" (ยู นุส :18) เนืองด้วยกลุ่มของข้าพเจ้าได้ทําเกียวกับหนังตะลุง พวกเราได้มีการ ชิริกฺ คือ การตังภาคีกับเอกภาพ เวิร์กช็อปหรือเข้าอบรม ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ปตตานี โดยการเข้าร่วมในครังนีจะใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ตลอดระยะเวลา จึงขัดแย้งกับหลักการทีสาํ คัญ นัน พวกเราได้เรียนรู้ในด้านทฤษฎีและการปฏิบัติทีเกียวข้องกับหนัง ทีสุดในอิสลาม คือหลักการแห่ง ตะลุงโดยเฉพาะ จากการเข้าร่วมในครังนี พวกเราได้พบว่า หนังตะลุง เ ต า ฮี ด ( ก า ร ยื น ยั น เ อ ก ภ า พ ข อ นัน มีความคลุมเครือด้านความเชือในศาสนาอิสลาม เพราะก่อนทีจะ งอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา) ทําการแสดงนันจะต้องทําพิธีต่าง ๆ ทีต้องมีการไหว้ครูและต้องเตรียม ชิ ร ิกฺ จึ ง ถื อ ว่ า เ ป น บ า ป ที ร ้า ย แ ร ง ของเซ่นไหว้ต่าง ๆ เช่น การใช้ใบพลู เทียน สายสิญจน์เปนต้น อีกทังยัง ทีสุดในอิสลาม ดังนัน มี ค ว า ม เ ชื อ ใ น ตั ว ล ะ ค ร ว่ า ตั ว ล ะ ค ร นั น ศั ก ดิ สิ ท ธิ แ ล ะ จ ะ ส า ม า ร ถ ช่ ว ย ใ ห้ ก า ร การทําความเข้าใจในเรืองของ แสดงเปนลืนไหล นอกจากนัน ยังมีการเกียวข้องกับการทําพิธีกรรมที ชิริกฺให้กระจ่างแจ้งและชาํ ระล้าง ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม เช่น มีการเล่นดนตรี ราํ ไหว้ และโรยข้าวสาร จิตใจให้สะอาดบริสุทธิ จึงเปน ซึ ง สิ ง เ ห ล่ า นี ที ก ลุ่ ม ข อ ง ข้ า พ เ จ้ า ไ ด้ พ บ เ จ อ เ ป น สิ ง ที ขั ด ต่ อ ศ า ส น า อิ ส ล า ม สาระสาํ คัญของคําสอนอิสลาม ดังนัน กลุ่มของข้าพเจ้าเลือกทีจะหลีกเลียงต่อการกระทําดังกล่าว และ นาํ มาปรับใช้ให้ถูกหลักศรัทธา เพราะในอิสลามได้มีการการกล่าวเกียว กั บ ก า ร ตั ง ภ า คี อ ย่ า ง ชั ด เ จ น

JUNE BIRTHDAYS! Aunt Susan | June 2 เรอื งเวลาและสถานที (ฉาก)Baby Dorothy | June 5 Grandma Eleanor | June 11 Cousin George | June 16 สาํ หรบั ปัญหาเร่อื งเวลา การเลน หนังUตnะclลe งุ Joตnอatงhใanช|รJะunยeะ2เ7วลาในการเตรี ยมตวั คอ นขา งเยอะ เพราะพวกเรา เป็นนักศึกษา และไมเคยมี ประสบการณในการเลนมากอน พวก เราจึงตองฝึ กซอมในหลายเร่อื ง โดย เฉพาะการใชภ าษา หรือคําพดู ให เหมาะสมกบั เร่อื งราว เน่ืองจากหนัง ตะลุงตองใชภ าษาโบราณเฉพาะถ่ิน ของแตละภมู ภิ าค ปญหาเรอื งสถานที เนอื งจากหนงั ตะลงุ ต้องใชเ้ งาในการแสดง ดังนนั สถานทีทีต้องใช้ ในการแสดงจงึ ต้องเปนสถานทีทีเงียบสงบ และมดื โดยใชแ้ สงสวา่ งจากหลอดไฟLED เพอื ให้ได้เงาทีชดั เจน ซงึ ชว่ งแรกของการเรมิ ถ่าย ทําหนงั ตะลงุ เราเลือกทําใต้โต๊ะ โดยเอาผา้ ขาว มาเปนฉากกัน และใชไ้ ฟฉายจากโทรศัพท์มอื ถือ เพอื ให้เกิดเงา แต่ผลลัพธท์ ีได้คือ ดาลัง (คนแสดง) รูส้ กึ อึดอัด เพราะโต๊ะเล็กและแคบ เกินไป ดังนนั เราจงึ ยา้ ยสถานทีไปถ่ายทีใต้ บนั ไดแทน ซงึ กวา้ งและสะดวกกวา่ แต่ก็ยงั มี อุปสรรคทีการกันฉากด้วยผา้ ขาว เพราะไมม่ ี ฐานมากันผา้ เราจงึ แก้ปญหาโดยการนาํ เทป กาวมาแปะผา้ ขาวให้ติดกับผนงั ไว้ นอกจากนี ไฟฉายทีเราใชจ้ ากมอื ถือให้แสงสวา่ งไมเ่ พยี ง พอ เราจงึ เปลียนมาใชห้ ลอดไฟLED แทน

ป ญ ห า ร ะ ดั บ คํา ตาแก่ = Geezer ครังแรกทีแปล ผู้แปลเลือกแปลคําว่า ตาแก่ ว่า Darling เพราะ เปนบริบททีเมาะเน (ผู้เปนภรรยา) ใช้เรียกเปาะเน (ผู้เปนสามี) เพราะคําว่า Darling เปนคําเรียก คนรัก ผู้แปลจึงใช้กลาวิธีการ แปลแบบตีความ โดยไม่ได้คํานึงถึงวัฒนธรรมของตัวละคร แต่ หลังจากทีผู้แปลได้ส่งบทแปลแรกให้อาจารย์ตรวจสอบ จึงพบว่า ผู้แปลใช้คําแปลผิด เนืองจากคําว่า Darling นิยมใช้กับคนวัยหนุ่ม สาวในสมัยนีมากกว่า แต่เรืองเปาะเน เมาะเนเปนนิทานพืนบ้าน ย้อนยุค จึงไม่สามารถแปลคําว่า ตาแก่ เปนคําว่า Darling ได้ จาก นัน ผู้แปลจึงได้ค้นหาคําศัพท์เพิมเติมทีใช้แปลคําว่า ตาแก่ เปน ภาษาพู ดในอินเทอร์เน็ตจากหลากหลายเว็บไซต์ และยังได้ สอบถามผู้รู้หลายท่านทีมีประสบการณ์ด้านการใช้ภาษาอังกฤษ จึง ได้เปนคําว่า Geezer ซึงเปนคําทีเจ้าของภาษานิยมใช้โดยทัวไป และเปนคําทีใช้เรียกคนทีสนิทเท่านัน นันคือสามีภรรยาทีใช้เรียก แทนกัน ดังนัน ผู้แปลจึงเลือกคําว่า Geezer มาแปลคําว่า ตาแก่ จากบริบทนี

HOW TO MAKE A SHADOW PUPPET

วิ ธี ก า ร ทํา ขันการเตรียมหนัง : หนังสัตว์ทีช่าง วิธีแกะ: ถ้าตอนใดเปนกนกหรือตัว วสั ดอุ ุปกรณ์ นิยมนาํ มาแกะรูปหนังมี 2 อย่างถือ ลายจะใช้มีดขุด การขุดจะใช้เขียง 1. หนงั ววั หนังวัว และหนังควาย ในการเตรียม ไม้เนืออ่อนรองหนัง แล้วกดปลาย หนงั ควาย หนงั แกะ หนงั แพะ หนังช่างจะนาํ หนังสดมาขึงกับกรอบไม้ มีดไปเปนจังหวัดตามลวดลาย 2.กรอบไมส้ เี หลียมสาํ หรบั ตาก สีเหลียม ตากให้แห้งสนิทแล้วนาํ หนังไป แต่ละตัว โดยไม่ต้องยกมีด ถ้าตอน หนงั ฟอก จากนันจะขูดหนังส่วนทีเปนพัง ใดต้องทําเปนดอกลายต่าง ๆ หรือ 3. แบบลายภาพ พืดออก เพือให้หนังมีความหนาบางเท่า เ ดิ น เ ส้ น ป ร ะ ก็ ใ ช้ มุ ก ต อ ก ต า ม 4.เครอื งมอื ตอกและสลักลาย กั น ลักษณะของปากมุกแต่ละแบบ การ ได้แก่ เขยี ง มดี ปลายแหลม ตอกมุกจะใช้ค้อนตอก โดยมีเขียง มดี ปลายมน ต๊ดุ ตู่ ค้อน ขันร่างภาพ: การร่างภาพเปนขันตอน ไม้เนือแข็งรองหนัง หลังจากแกะ เทียนไข ทีสาํ คัญทีสุดในการแกะรูปหนัง ช่างจะ ฉลุส่วนภายในของตัวรูปเสร็จ ก็ใช้ 5. หมกึ สจี ากสธี รรมชาติหรอื สี ต้องเข้าใจในภาพทีจะแกะออกมา เช่น มีดขุดแกะหนังตามเส้นรอบนอก ก็ วทิ ยาศาสตร ์                         ตัวละครในเรืองรามเกียรติ ช่างต้อง จ ะ ไ ด้ รู ป ห นั ง แ ย ก อ อ ก เ ป น ตั ว 6.นาํ ยางใสหรอื นาํ มนั เคลือบ รู้จักลักษณะตัวละครเปนอย่างดี ช่าง เงา   นิ ย ม ใ ช้ เ ห ล็ ก จ า ร ที ป ร า ก ฏ บ น แ ผ่ น ห นั ง ขันลงสี: การลงสีรูปหนัง ขึนอยู่กับ ส า ม า ร ถ ล บ ไ ด้ ง่ า ย ลั ก ษ ณ ะ รู ป แ ล ะ ป ร ะ โ ย ช น์ ก า ร ใ ช้ ส อ ย ขันแกะฉลุ: เมือร่างภาพเสร็จก็ถึงขัน รูปหนังสาํ หรับเชิดมีความมุ่งหมาย ฉลุ ขันนีต้องใช้ความชาํ นาญและ จะใช้แสดงนาฏการเล่นแสง สี และ ต้องพิถีพิถันมาก เครืองมือทีสาํ คัญ เงา ต้องการความเด่นสะดุดตา ได้แก่ เขียงไม้เนืออ่อนไม้เนือแข็ง ช่างจึงเลือกใช้สีฉูดฉาด เอาสีทีตัด อ ย่ า ง ล ะ อั น มีดสาํ หรับขุดปลาย กั น ม า ใ ช้ ร ่ว ม กั น และเปนสี แหลมปลายมน ตุ๊ดตู่หรือมุก 1 ชุด โปร่งแสง เช่น หมึกสี หรือทีช่าง ค้อนตอกมุก เทียนไขหรือสบู่สาํ หรับ แกะหนังเรียกว่า “สีซอง” หรือ “สี จิ ม ป ล า ย มุ ก ห ร ือ มี ด ขุ ด เยอรมัน”

TOOLS

SPPCLRHAOENJDNEUICLNTEG

NOVEMBER 2019 13 NOVEMBER 21 NOVEMBER -หา passion ของตัวเอง - คิ ด รู ป แ บ บ น วั ต ก ร ร ม เ พิ ม เ ติ ม 17 NOVEMBER 23 NOVEMBER - คิดหัวข้อ - ค้ น ห า ง า น วิ จั ย ที เ กี ย ว ข้ อ ง กั บ โ ป ร เ จ็ ค - รู ป แ บ บ -นวัตกรรม 28 NOVEMBER 18 NOVEMBER - เ ลื อ ก ต อ น ข อ ง นิ ท า น เ ป า ะ เ น เ ม า ะ เ น - แ บ่ ง วิ จั ย พ ร ้อ ม ส รุ ป - ร า ย ง า น + พ ร ีเ ซ น ต์ น วั ต ก ร ร ม

DECEMBER 2019 12 DECEMBER  21 DECEMBER 22 - Brain storm (วิจัย) - workshop โครงการวายังกูเละ ณ ม อ . ป ต ต า นี 13 DECEMBER 24 DECEMBER -ศึกษาดูงาน ณ หมู่บ้าน ท่าสาป - ส รุ ป เ นื อ ห า ที ไ ด้ จ า ก ก า ร เ ข้ า ร ่ว ม 17 DECEMBER workshop -เรียบเรียงบท 25 DECEMBER -   ศึ ก ษ า วิ ธี ก า ร ทํา ตั ว ห นั ง ต ะ ลุ ง 19 DECEMBER 26 DECEMBER -Brain storm (วิจัย) - เริมแปลนิทานเปาะเนเมาะเน 1st -เข้าพบอาจารย์ ซอลีฮะห์ (สอบถาม ต้ น ฉ บั บ เ ป า ะ เ น เ ม า ะ เ น ) draft 29 DECEMBER - นัดเจออาจารย์ - รายงานความคืบหน้า - ดูวิจัยของรุ่นก่อนๆ

JANUARY 2020 10 JANUARY 22 JANUARY - ทําอุ ปกรณ์หนังตะลุง - นัดเจอเพือสรุปกลวิธีจากงานวิจัย - จัดฉากในการถ่ายทํา - ทดลองถ่ายทํา 23 JANUARY 11 JANUARY - นัดเจอกันทุกวันพฤหัสเพือดูความ คื บ ห น้ า ข อ ง แ ต่ ล ะ ค น - ดําเนินบทแปล 16 JANUARY 24 JANUARY - เริมถ่ายวีดีโอ ครังที 1 - เริมถ่ายวีดีโอ ครังที 2 ( ส ถ า น ที ใ ต้ โ ต๊ ะ ) ( ส ถ า น ที ใ ต้ บั น ใ ด ) 20 JANUARY 25 JANUARY - รวบรวมกลวิธีการแปลจากงานวิจัย - ทํา power point เตรียมพรีเซนต์ กลวิธีการแปลจากงานวิจัย 27 JANUARY - present กลวิธีการแปลจากงาน วิจัย

FEBRUARY 2020 3 FEBRUARY 13 FEBRUARY - นัดเจออาจารย์หลังเลิกเรียน - แก้บทแปล 2nd draft - ปรึกษาปญหาเรืองทีขัดต่อหลักศาสนา - ดาํ เนินงานวิจัย 6 FEBRUARY 15 FEBRUARY - นัดเจอเพือดาํ เนินงานทีได้รับมอบ - นัดทําวิจัย (16:00-22:00) หมาย - ปรึกษาหารือเกียวกับการตัดต่อวีดีโอ 20 FEBRUARY 10 FEBRUARY แ ป ล- 3 r d d r a f t - นั ด เ จ อ อ า จ า ร ย์ ห ลั ง เ ร ีย น เ พ่ ื อ ใ ห้ - ทําวิจัยเพิมเติม (ปญหาและวิธีการแก้ปญหา) อาจารย์เช็คบท (ฉบับภาษาไทย) - ถ่ายวีดีโอ ครังที 3 11 FEBRUARY 21 FEBRUARY - ดู วิ จั ย ข อ ง รุ ่น พี ที โ ต๊ ะ อ า จ า ร ย์ เ พิ ม เ ติ ม - ถ่ายวีดีโอ (ต่อ)

MARCH 2020 4 MARCH 9 MARCH - แก้บทแปลเปน 3rd draft - ตัดต่อวีดีโอเพิมเติม - วีดีโอ ครังที 3 16 MARCH 5 MARCH - พบอาจารย์พร้อมตรวจดราฟ - ตัดต่อวีดีโอ พร้อมให้อาจารย์เช็ค สุ ด ท้ า ย - พบอาจารย์เพือตรวจงานแปล MARCH 8 MARCH - ดาํ เนินงานรีพอร์ท - ตัดต่อวีดีโอพร้อมใส่ซับ - ตรวจและแก้ไขดราฟครังสุดท้าย

Behind the scenes

REFERENCES บุษรา เผดิมโชคและคณะ. (2559). การปรับบทแปลและกลวิธีการแปลวรรณกรรมเยาวชนเรือง \"เด็กชายในชุด นอนลาย ทาง\". สืบค้นเมือ 30 พฤศจิกายน 2562, จาก file:///C:/Users/MASTER/Downloads มปป. หนังตะลุง. สืบค้นเมือ 19 มีนาคม 2563, จาก https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8% 87%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87 มปป. ทีมาและความหมายของนิทานพืนบ้าน. สืบค้นเมือ 19 มีนาคม 2563, จาก https://sites.google.com/site/nithanphunbanphakhhenux/thima-laea-khwam-hmay- khxng-nithan-phun-ban ราพัชร ชาลีกุล. (2560). กลวิธีการแปลคําทางวัฒนธรรมจากภาษาไทยเปนภาษาอังกฤษ กรณีศึกษา เรืองของจัน ดารา. สืบค้นเมือ 30 พฤศจิกายน 2562, จาก file:///C:/Users/MASTER/Downloads สารานุกรมไทยสาํ หรับเยาวชนฯ. นิทานพืนบ้าน. สืบค้นเมือ 19 มีนาคม 2563, จาก http://saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=26&chap=1&page=t26-1- infodetail10.html อธิศา งามศร. (2560). กลวิธีการแปลคําและวลีทางวัฒนธรรมทีพบในบทแปลจากภาษาไทยเปนภาษา อังกฤษ กรณีศึกษาหนังสือเรือง \"ครูบ้านนอก\" โดย คําหมาน คนไค. สืบค้นเมือ 28 พฤศจิกายน 2562, จาก file:///C:/Users/MASTER/Downloads อนัญญา จริยรังษีรัตนา. (2559). วิเคราะห์การแปลความขบขันในบทบรรยายใต้ภาพยนตร์เรือง \"กวน มึน โฮ\" และ \"พีมาก...พระโขนง\". สืบค้นเมือ 30 พฤศจิกายน 2562, จาก file:///C:/Users/MASTER/Downloads

SUBMITTED TO Aj. WILAIWAN KA-J CREATED BY MISS MASEETOH LATEH NO.592424049 MISS HUSNA SAMA NO.592424104 pink Lotus


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook