Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1 เครื่องเลื่อยกลและงานเลื่อยกล

หน่วยที่ 1 เครื่องเลื่อยกลและงานเลื่อยกล

Published by supachai_sealee, 2018-05-13 00:48:03

Description: หน่วยที่ 1 เครื่องเลื่อยกลและงานเลื่อยกล

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 1เคร่อื งเล่อื ยกลและงานเลือ่ ยกล สุภชยั แซล่ ี วทิ ยาลัยเทคนิคนครนายก

หน่วยท่ี 1 เครื่องเลื่อยกลจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกชนดิ ของเครื่องเลื่อยกลได้ 2. บอกส่วนประกอบที่สำคัญของเครอื่ งเล่อื ยกลได้ 3. บอกเครอ่ื งมอื อุปกรณท์ ีใ่ ช้กบั เคร่อื งเลอ่ื ยกลได้ 4. อธบิ ำยขั้นตอนกำรใชเ้ ครอ่ื งเล่ือยกลได้ 5. บอกวธิ ีกำรบำรงุ รกั ษำเครื่องเล่อื ยกลได้ 6. อธิบำยควำมปลอดภัยในกำรใช้เครื่องเลือ่ ยกลได้หวั ขอ้ เนอ้ื หา 1. ชนดิ ของเคร่ืองเลื่อยกล 2. ส่วนประกอบทีส่ ำคญั ของเครอ่ื งเลอ่ื ยกล 3. เคร่ืองมืออปุ กรณท์ ใี่ ช้กับเครือ่ งเลือ่ ยกล 4. ขั้นตอนกำรใช้เครอ่ื งเลื่อยกล 5. วิธีกำรบำรุงรักษำเครือ่ งเล่อื ยกล 6. ควำมปลอดภัยในกำรใช้เครื่องเลือ่ ยกลบทนา เอกสำรประกอบกำรสอนหน่วยที่ 1 จะมีเน้ือหำ ชนิดของเคร่ืองเล่ือยกล ส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องเล่ือยกล เคร่ืองมืออุปกรณ์ท่ีใช้กับเคร่ืองเล่ือยกล ข้ันตอนกำรใช้เคร่ืองเล่ือยกลวิธีกำรบำรุงรักษำเคร่ืองเลื่อยกล ควำมปลอดภัยในกำรใช้เคร่ืองเลื่อยกล โดยในส่วนของเน้ือหำจะมีแบบฝกึ หัด เฉลย สือ่ กำรสอนดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Power Point) ซ่งึ จะชว่ ยใหผ้ ้เู รยี นไดเ้ รียนรู้และเขำ้ ใจส่งิ ทผ่ี สู้ อนได้ถ่ำยทอดให้และผู้สอนจะได้รับควำมสะดวกในกำรดำเนินกำรสอน

หนว่ ยท่ี 1 เครอ่ื งเล่อื ยกล เครื่องเลื่อยกลเป็นเครื่องจักรกลพ้ืนฐำนอีกชนิดหน่ึงท่ีมีประโยชน์มำก มีใช้กันอย่ำงแพร่หลำยในโรงงำนอุตสำหกรรมทั่วๆไป กำรจะนำวัสดุต่ำงๆ มำทำกำรข้ึนรูปจะต้องนำมำตัดให้ได้ขนำดก่อนในกรณีงำนมีขนำดใหญ่ จะต้องตัดด้วยเครื่องเล่ือยกล เพ่ือเป็นกำรประหยัดเวลำและประหยัดวัสดุกำรตดั ด้วยเคร่ืองเลื่อยกลจะไดข้ นำดที่ตรงกว่ำกำตัดด้วยเล่ือยมือ เพรำะกำรตัดด้วยเลอื่ ยมอื ทำให้เสียวัสดุมำกกว่ำและเสียเวลำในกำรข้ึนรปู มำกข้นึ 1.1 ชนดิ ของเครื่องเล่ือยกล 1.1.1 เครื่องเลื่อยกลแบบชัก (Power Hack Saw) เป็นเคร่ืองเลื่อยท่ีนิยมใช้กันมำกในโรงงำน เพรำะว่ำใช้ง่ำย สะดวก และรำคำไม่แพง ลักษณะกำรทำงำนจะทำงำนแบบชักเดินหน้ำและถอยกลบั ลักษณะงำนไดง้ ำนจังหวะเดียว อำจจะเป็นจงั หวะเดนิ หนำ้ หรือถอยหลังกลับขน้ึ อย่กู ับกำรออกแบบของเครื่องเลื่อยนั้นๆ จะสังเกตได้จำกกกำรชักของเครื่องเลื่อย ถ้ำจังหวะใดเป็นจังหวะยกแสดงว่ำไม่ใช่จงั หวะงำนเพรำะใบเล่อื ยไม่ได้ตัดงำน จังหวะงำนจะเป็นจังหวะท่ีไม่ไดย้ ก ในกำรใส่ใบเลื่อยจะต้องใส่ฟันใบเลื่อยเฉไปตำมจังหวะ เช่น เคร่ืองเล่ือยมีจังหวะงำนในจังหวะเดินหน้ำก็ใส่ใบเลอ่ื ยเฉไปขำ้ งหน้ำ รปู ที่ 1.1 เครอื่ งเล่ือยกลแบบชัก (ชะลอ 2548: 2) 1.1.2 เคร่ืองเล่ือยสำยพำน จะมีกำรทำงำนท่ีแตกต่ำงจำกเครื่องเล่ือยกลแบบชัก โดยมีกำรเล่อื ยงำนท่ีตอ่ เน่อื งเพรำะใบเล่ือยจะหมนุ วนตัดงำนเหมือนลักษณะกำรหมุนของสำยพำน

หนว่ ยท่ี 1 เคร่ืองเลือ่ ยกล ดังน้ันใบเล่ือยจึงหมุนตัดงำนเหมือนลักษณะกำรหมุนของสำยพำน ดังนั้นใบเล่ือยจึงหมุนตัดงำนทุกฟนั เคร่ืองเลอื่ ยสำยพำนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื 1) เคร่ืองเล่ือยสำยพำนแนวนอน เคร่ืองจะมีลักษณะกำรทำงำนในแนวนอน ใบเล่ือยจะหมนุ วนตัดช้ินงำนทุกฟนั สำมำรถปรบั ควำมเรว็ ของสำยพำนได้เพื่อให้เหมำะสมกับช้ินงำนกำรปอ้ นตัดชิ้นงำนสำมำรถป้อนตัดด้วยระบบไฮดรอลิก ก่อนนำใบเล่ือยมำใช้จะต้องนำมำตัดให้ได้ควำมยำวที่พอดกี บั เครอื่ งเล่อื ยนัน้ ๆ แล้วทำกำรเช่อื มตอ่ ให้เปน็ วง รูปท่ี 1.2 เครือ่ งเล่ือยสำยพำนแนวนอน (ชะลอ 2548: 3) 2) เคร่ืองเลื่อยสำยพำนแนวตั้ง ชนิดน้ีจะมตี ัวเคร่ืองเปน็ แนวต้งั สำมำรถตง้ั ควำมเร็วของใบเลื่อยได้เช่นกัน กำรป้อนตัดจะป้อนตัดด้วยมือโดยกำรป้อนช้ินเข้ำหำใบเล่ือย ใบเล่ือยจะมีขนำดให้เลอื กใช้หลำยขนำดขน้ึ อยกู่ ับลกั ษณะงำน เช่น งำนต้องกำรเล่ือยเปน็ แนวโคง้ ก็ตอ้ งใช้ใบเลื่อยทม่ี ีขนำดเล็ก กำรเลือกใช้ขนำดใบเล่ือยข้ึนอยู่กับรัศมีงำนท่ีจะเลื่อยว่ำมีรัศมีควำมโค้งมำกน้อยเพียงใดก่อนนำใบเลื่อยมำใช้ จะต้องนำใบเลื่อยมำตัดให้พอดีกับเคร่ือง แล้วทำกำรเช่ือมใบเล่ือยด้วยชุดเช่ือมที่ติดมำกับเครอ่ื งเชน่ เดียวกัน เพ่ือเป็นกำรคลำยควำมเครียดแนวเช่ือมไม่ให้ใบเลื่อยแตกหักขณะที่ใบเลื่อยตัดโคง้ งออยบู่ นลอ้ สง่ กำลัง

หน่วยที่ 1 เครอ่ื งเลอ่ื ยกล รปู ที่ 1.3 เครอื่ งเล่ือยสำยพำนแนวตัง้ (ชะลอ 2548: 3)1.2 ส่วนประกอบที่สาคญั ของเครอ่ื งเลื่อยกล 1.2.1 ส่วนประกอบท่สี ำคัญของเครอ่ื งเล่ือยกลแบบชกั มีดงั นค้ี อื รปู ที่ 1.4 สว่ นประกอบทส่ี ำคัญของเครือ่ งเลือ่ ยกลแบบชัก (ชะลอ 2548: 4)

หนว่ ยที่ 1 เครอื่ งเลื่อยกล 1) ฐำนเคร่ืองกลแบบชัก (Base) เป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักของเคร่ืองส่วนใหญ่ทำด้วยเหลก็ หล่อ มคี วำมแข็งแรง รูปท่ี 1.5 ฐำนเครอื่ งเลื่อยกลแบบชัก (ชะลอ 2548: 4) 2) โครงเล่ือย (Flame) ส่วนใหญ่ทำด้วยเหล็กหล่อ เป็นที่สำหรับจับยึดใบเลื่อยทำงำนโดยกำรชักเดินหน้ำและถอยหลังเพื่อนำใบเลื่อยเล่ือยตัดชิ้นงำน จังหวะงำนจะมีจังหวะเดียวในจังหวะยกจะไมใ่ ชจ้ ังหวะงำน ในกำรเดนิ หนำ้ และถอยกลับหนึง่ ครั้งเรำเรยี กวำ่ “คจู่ งั หวะชัก” 3) ปำกกำจับงำน (Vise) ส่วนใหญ่ทำด้วยเหล็กหล่อ ใช้สำหรับจับชิ้นงำนที่จะนำมำเล่ือยโดยทัว่ ๆไปจะสำมำรถเอยี งเป็นมมุ ได้ประมำณ 45 องศำ ใชเ้ อยี งชิน้ งำนเพื่อตดั งำนเป็นมุมตำ่ งๆ รปู ท่ี 1.6 ปำกกำจับงำนเคร่ืองเล่ือยกลแบบชัก (ชะลอ 2548: 5)

หน่วยที่ 1 เครื่องเลอื่ ยกล 4) มอเตอร์ (Motor) เป็นระบบส่งกำลังเพ่อื ให้โครงเลอ่ื ยเคลื่อนท่ชี ักเลอื่ ยชนิ้ งำน 5) แขนต้ังระยะงำน (Cut off Gage) ทำหน้ำที่เป็นตัวต้ังตำแหน่งควำมยำวงำนเพื่อใช้ตั้งระยะควำมยำวตัดชิ้นงำน ไม่ต้องเสียเวลำมำวัดช้ินงำนทุกชิ้นกรณีต้องกำรตัดงำนท่ีมีควำมยำวขนำดเดียวกัน รปู ท่ี 1.7 กำรใชบ้ รรทัดเหลก็ วัดควำมยำวงำนทีต่ ดั (ชะลอ 2548: 5) รูปท่ี 1.8 กำรใช้แขนตั้งระยะงำนตงั้ ควำมยำวงำน (ชะลอ 2548: 5)

หน่วยท่ี 1 เครอื่ งเลอ่ื ยกล 6) ระบบป้อนตัด มีแบบใช้ระบบไฮดรอลิก และแบบใช้น้ำหนักถ่วง ท้ังสองแบบเป็นกำรเลอื่ ยตดั ชนิ้ งำน 7) สวิตช์เปิดปิด เครื่องเลื่อยนิยมใช้สวิตช์ท่ีมีสวิตช์เปิดด้วยมือ แต่สำมำรถปิดได้เองเมื่อช้ินงำนถกู ตัดขำด 1.2.2 ส่วนประกอบทสี่ ำคัญของเครอื่ งเลื่อยสำยพำนแนวนอน รปู ท่ี 1.9 เครื่องเลื่อยสำยพำนแนวนอน (ชะลอ 2548: 7)

หน่วยที่ 1 เคร่ืองเลื่อยกล2.1 Base 2.8 Area Light2.2 Hydraulic Tank 2.9 Manual Work stop2.3 Catch Pan 2.10 Discharge Table2.4 Bank Tensioning 2.11 Coolant Reservoirs2.5 Idler Wheel Guard 2.12 Hydraulic Filter2.6 Drive – Wheel Guard 2.13 Saw – Guide Arms2.7 Control Console 2.1 ฐำนเครื่อง เป็นส่วนรองรับน้ำหนักของเครื่อง จะมีฐำนรองเครื่องรองรับอีกท่ีหน่ึงเพื่อควำมสะดวกในกำรปรับระดบั 2.2 ถังน้ำมันไฮดรอลิก เปน็ ที่บรรจุน้ำมันไฮดรอลิก 2.3 ถำดรองเศษโลหะ ใช้เป็นชิ้นส่วนรองรับเศษโลหะและช้นิ งำน 2.4 อุปกรณป์ รบั ควำมตึงใบเลือ่ ย 2.5 ฝำครอบล้อตำม 2.6 ฝำครอบลอ้ ขับ 2.7 แผงหน้ำปัดควบคุม จะประกอบด้วย เกจอัตรำป้อนเล่ือยช้ินงำนหน้ำปัดบอกควำมเร็วใบเลอ่ื ย ตัวปรบั ควำมสงู ช้ินงำน และป่มุ เปิดเครอ่ื ง 2.8 โคมไฟฟ้ำแสงสว่ำง 2.9 แขนต้ังระยะงำน 2.10 โต๊ะงำน 2.11 ถังน้ำมนั หล่อเยน็ 2.12 อปุ กรณ์กรองนำ้ มันไฮดรอลิก 2.13 แขนประคองใบเล่ือย

หนว่ ยที่ 1 เคร่ืองเลอ่ื ยกล 1.2.3 สว่ นประกอบทสี่ ำคญั ของเคร่อื งเลื่อยสำยพำนแนวตั้ง เครื่องเลื่อยสำยพำนแนวต้ังสำมำรถใช้งำนได้หลำกหลำยกว่ำเครื่องเลื่อยสำยพำนแนวนอนสว่ นประกอบทส่ี ำคญั ของเครือ่ งเลื่อยสำยพำนตั้งมีดังนี้ รูปท่ี 1.10 สว่ นประกอบต่ำงๆ ของเครือ่ งเลื่อยสำยพำนต้ัง(ชะลอ 2548: 8)

หนว่ ยท่ี 1 เครื่องเล่อื ยกล 1) ฐำนเคร่ือง เป็นส่วนที่ติดอยู่กับพ้ืนโรงงำน รองรับน้ำหนักทั้งหมดของตัวเคร่ือง ภำยในประกอบด้วยชุดส่งกำลังขับเคล่ือนใบเล่ือย ป๊ัมลมทำหน้ำท่ีจ่ำยลมระบำยควำมร้อนให้ชิ้นงำนและใบเลอื่ ย และยงั เป็นตัวเปำ่ ใหเ้ ศษโลหะออกจำกแนวเล่อื ยทำใหเ้ ห็นเสน้ ท่ีรำ่ งแบบมำทำใหเ้ ลื่อยได้สะดวกขึน้ 2) มอเตอร์ เป็นตัวต้นกำลังส่งกำลังไปยังล้อส่งกำลังไปยังล้อส่งกำลังเพ่ือใช้ขับใบเลื่อยให้เคล่ือนทต่ี ัดชิ้นงำน 3) เสำเครื่อง เป็นส่วนท่ีต่อจำกฐำนเครื่องเป็นแนวตั้ง เป็นส่วนท่ีรองรับชุดหัวเคร่ือง ล้อตำมของเคลื่อน บนด้ำนหน้ำของเสำเคร่ืองเลื่อยสำยพำน จะมีชุดตัดใบเล่ือย ชุดเช่ือมใบเล่ือย และชุดอบออ่ นใบเลื่อย ติดอยู่เพื่อใช้ในกำรตัดต่อใบเล่ือย กรณีใบเลื่อยไม่คมจะต้องเปลี่ยนใบเลื่อยไม่คมจะต้องเปล่ียนใบเลื่อยใหม่ เพรำะใบเล่ือยท่ีซื้อมำจะเป็นกล่องซึ่งมีควำมยำวมำก จะต้องตัดใบเลื่อยให้ได้กับระยะควำมยำวทีต่ ้องกำรใชง้ ำน 4) หัวเครอื่ ง เป็นทยี่ ึดของล้อตำมและตวั ประคองใบเลอ่ื ยและโคมไฟแสงสว่ำง 5) โต๊ะงำน เปน็ สว่ นท่ีรองรับชิ้นงำนท่ีนำมำเล่อื ย โดยท่วั ไปสำมำรถเอียงเป็นมุมได้ 6) ชุดประคองใบเล่ือย ใช้สำหรบั ตอ่ ใบเลอ่ื ย เพื่อบงั คับใบเลือ่ ยใหว้ ่งิ เป็นแนวตรง 7) ชุดต่อใบเลื่อย ใช้สำหรบั ต่อใบเลื่อยในกรณนี ำใบเลอ่ื ยมำใช้ใหม่หรือกรณีเล่ือยชิ้นงำนทเ่ี ป็นรใู น จะตอ้ งเจำะชน้ิ งำนแลว้ นำใบเล่อื ยร้อยใสแ่ ลว้ นำใบเลอื่ ยมำเช่อื มต่อ 8) ลอ้ หินเจียระไน ใช้สำหรับเจยี ระไนตกแตง่ แนวเชอื่ ม กำรเชอื่ มใบเลอื่ ยเครอ่ื งเล่อื ยสำยพำนแนวตง้ั 1. นำใบเล่ือยไปวัดรอบผ่ำนล้อขับและผ่ำนล้อล้อตำมจนครบรอบ เหมือนลกั ษณะกำรส่งกำลังด้วยสำยพำนแบน 2. ตดั ใบเลื่อยทวี่ ัดควำมยำวจำก ข้อ 1. ดว้ ยชุดตัดใบเล่อื ยท่ีตดิ อย่กู บั เคร่ืองเลือ่ ย 3. ทำกำรจับยึดบนชดุ เชอ่ื มท่ตี ดิ อยู่กบั เครื่องเลอ่ื ย โดยตัง้ ใบเลอื่ ยใหไ้ ดแ้ นวเป็นเส้นตรง 4. ตั้งกระแสไฟฟำ้ ท่จี ะเชอ่ื มตำมตำรำงทีต่ ิดมำกับเครื่องเล่อื ย 5. ทำกำรเปิดสวติ ชเ์ ชื่อม 6. ทำกำรอบออ่ น 7. เจียระไนแนวเชื่อมให้บำงเท่ำควำมหนำใบเลอ่ื ยแลว้ นำใบเล่ือยไปใชง้ ำน

หน่วยท่ี 1 เครอื่ งเล่ือยกล หมำยเหตุ ใบเลื่อยที่นำมำเชื่อมน้ีสำมำรถทดสอบก่อนนำไปใช้งำนจริงได้ โดยกำรตัดใบเล่ือยไปมำถำ้ ใบเล่อื ยไม่หักก็ถือว่ำใช้ได้ 1.3 เครื่องมอื และอุปกรณ์ทีใ่ ช้กบั เคร่อื งเล่ือยกล 1.3.1 ฐำนรองรับช้ินงำน เปน็ อุปกรณท์ ่ีใช้สำหรับรองรบั ชนิ้ งำนท่ียำวๆ เพื่อปอ้ งกันช้ินงำนงดั ใบเลื่อยอำจจะเปน็ สำเหตทุ ำใหใ้ บเลือ่ ยหัก รูปที่ 1.11 ฐำนรองรบั ชนิ้ งำน (ชะลอ 2548: 12) 1.3.2 ใบเลื่อยเครื่องเลื่อยกลแบบชัก ใบเลื่อยเครื่องเล่ือยแบบน้ี จะทำด้วยเหล็กรอบสูง(Hight Speed Steel) ควำมยำวของใบเลื่อยจะวัดจำกระยะห่ำงระหว่ำงจุดศูนย์กลำงของรูใบเลื่อยจะมีขนำด 350 มม. รูปที่ 1.12 กำรบอกควำมยำวของใบเลื่อย (ชะลอ 2548: 13)

หนว่ ยท่ี 1 เครอื่ งเลอื่ ยกล การบอกระยะห่างของฟนั เลอื่ ย จะมกี ารบอกลักษณะเดียวกันกับเกลยี วดังนี้ 1. ใบเลื่อยที่บอกเป็นระยะพิตช์ คือ กำรบอกระยะห่ำงระหว่ำงฟัน ถ้ำมีระยะพิตช์ห่ำงมำกคือใบเลอ่ื ยชนดิ หยำบ ถ้ำมีระยะพิตชห์ ่ำงนอ้ ย คอื ใบเล่ือยชนิดละเอยี ด รปู ท่ี 1.13 ใบเล่ือยที่บอกเป็นระยะพิตช์ (ชะลอ 2548: 13) 2. กำรบอกเป็นจำนวนฟันต่อนิ้ว คือ กำรบอกจำนวนฟันต่อควำมยำว 1 น้ิว ถ้ำใน 1 นิ้ว มีจำนวนฟนั มำกจะเป็นชนิดละเอียด ถ้ำมีจำนวนฟันนอ้ ยจะเป็นชนิดหยำบ ส่วนใหญ่จะใช้ 10 ฟัน/น้วิ รปู ท่ี 1.14 ใบเล่ือยทีบ่ อกเป็นจำนวนฟนั ต่อนิ้ว (ชะลอ 2548: 13) 1.4 ขน้ั ตอนการใชเ้ ครื่องเล่ือยกล 1.4.1 ตรวจสอบควำมพร้อมของเครื่องเลื่อยกลแบบชักก่อนใช้งำน เช่น ตรวจสอบระบบไฟฟำ้ ตรวจสอบควำมตงึ ของใบเล่อื ย 1.4.2 ยกโครงเลื่อยขึน้ เพอ่ื นำช้ินงำนขน้ึ มำตัด

หน่วยท่ี 1 เคร่ืองเลอ่ื ยกล 1.4.3 นำช้ินงำนท่ีจะตัดขึ้นบนเครื่องเล่ือย ปรับระยะควำมยำวของช้ินงำนที่จะตัดให้ได้ควำมยำวท่ีถูกต้องด้วยกำรใช้เคร่ืองมือวัดต่ำงๆ เช่น บรรทัดเหล็ก ตลับเมตร ฯลฯ เมื่อได้ควำมยำวตำมที่ต้องกำรแลว้ ทำกำรจบั ยึดช้นิ งำนใหแ้ นน่ 1.4.4 ถ้ำต้องกำรตัดชิ้นงำนท่ีมีควำมยำวเท่ำๆกันจำนวนหลำยชิ้น ควรใช้แขนต้ังระยะให้เทำ่ กับควำมยำวของชิ้นงำน เมื่อตัดชิ้นงำนช้ินแรกเสร็จ เมื่อต้องกำรตัดงำนชน้ิ ต่อไปก็เลอ่ื นช้ินงำนมำชนตำแหน่งแขนต้งั ระยะกจ็ ะไดค้ วำมยำวของงำนทเี่ ทำ่ ๆกัน 1.4.5 เปิดสวิตช์ให้เคร่ืองเล่ือยทำงำน นำโครงเลื่อยลงตัดชิ้นงำนโดยค่อยๆ ลงอย่ำงช้ำๆเพอ่ื ป้องกันใบเลือ่ ยกระแทกชนิ้ งำนอำจจะทำให้ใบเล่อื ยหกั ได้ 1.4.6 เม่อื ชิ้นงำนถูกเล่อื ยจนขำด ยกโครงเลื่อยขน้ึ เพอ่ื ทำกำรตดั ช้นิ งำนช้นิ ตอ่ ไป รปู ท่ี 1.15 แสดงกำรจบั ยึดช้ินงำนเพื่อเล่ือยด้วยเครื่องเลื่อยกลแบบชัก (ชะลอ 2548: 14)

หนว่ ยที่ 1 เครือ่ งเลอ่ื ยกล () () รูปท่ี 1.16 กำรจบั ยดึ ช้นิ งำนสั้นทีผ่ ิดวิธแี ละถูกวิธี (ชะลอ 2548: 14) 1.5 ข้นั ตอนการใชเ้ คร่อื งเลื่อยกล 1.5.1 ตรวจสอบสภำพควำมพร้อมของเครอื่ งเลือ่ ยท้ังก่อนใช้และหลังใช้ทกุ ครั้ง ถ้ำอปุ กรณ์ตำ่ งๆ เกิดกำรชำรุดเสียหำยจะต้องทำกำรซอ่ มแซมทนั ทีเพ่ือให้พรอ้ มที่จะใชง้ ำนได้ตลอดเวลำ 1.5.2 หยอดน้ำมันหล่อล่ืนในส่วนท่ีเคล่ือนที่ทุกคร้ังก่อนใช้งำน เพื่อช่วยลดกำรเสียดสีทำให้ส่วนดงั กล่ำวสึกหรอช้ำลง 1.5.3 หลงั จำกเลิกใช้งำนแลว้ ทำให้ทำควำมสะอำดทุกคร้ังแล้วทำกำรหยอดน้ำมนั 1.6 ความปลอดภยั ในการใชเ้ คร่อื งเลือ่ ยกล 1.6.1 ก่อนใช้เครื่องทุกครั้งจะต้องตรวจสอบควำมพร้อมของเครื่องก่อนทุกครั้ง เช่นตรวจสอบปล๊ักไฟ สำยไฟว่ำชำรุดหรือไม่ เพรำะถ้ำหำกสำยไฟชำรุดขณะใช้งำนไฟฟ้ำอำจจะดูดผู้ปฏิบัตงิ ำนได้ 1.6.2 จบั ช้ินงำนใหแ้ น่นก่อนทำกำรกำรเล่ือยงำนเพรำะอำจจะหลุดกระเดน็ ได้ 1.6.3 จะต้องตรวจสอบควำมตึงของใบเล่ือยให้มีควำมตึงที่เหมำะสม ถ้ำใบเล่ือยตึงหรือหยอ่ นเกนิ ไป ใบเลอ่ื ยอำจหักกระเดน็ ได้ 1.6.4 กำรเลื่อยชิ้นงำนที่ยำวๆ จะต้องมีแท่นรองรับช้ินงำนท่ีแข็งแรง ขณะที่งำนขำดถ้ำใช้มือรองรบั อำจไดร้ บั อุบัตเิ หตไุ ด้ 1.6.5 ในกำรจับชิ้นงำนที่ได้จำกกำรเล่ือยจะมีรอยเยินคม ควรสวมถุงมือและระมัดระวังในขณะหยบิ ชิน้ งำน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook