Bannasan School โครงสรำ้ งหลักสตู รโรงเรยี นบำ้ นนำสำร ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 6/3 (ห้องเรยี นวิทยำศำสตร์-คณิตศำสตร)์ ชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 6 ปกี ำรศกึ ษำ 2565 ภาคเรยี นที่ 1 ช.ม./นก. ภาคเรียนที่ 2 ช.ม./นก. รำยวิชำพื้นฐำน ๑๓/6.5 รำยวชิ ำพืน้ ฐำน ๑๓/6.5 ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๒/1.0 ท๓๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๒/1.0 ค๓๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ๒/1.0 ค๓๓๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๖ ๒/1.0 ว๓๐๑๖๑ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ๑ ๒/1.0 ว๓๐๑๖๒ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๒ ๒/1.0 ง๓๐๑๐๒ การงานอาชพี ๒ ๑/0.5 ง๓๐๑๐๓ การงานอาชีพ ๓ ๑/0.5 ส๓๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๕ ๒/1.0 ส๓๓๑๐๒ สังคมศึกษา ๖ ๒/1.0 พ๓๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๕ ๑/0.5 พ๓๓๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๖ ๑/0.5 ศ๓๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ๑/0.5 ศ๓๓๑๐๒ ศลิ ปะ ๖ ๑/0.5 อ๓๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ ๒/1.0 อ๓๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๖ ๒/1.0 รำยวิชำเพิ่มเติม ๒๐/10 รำยวิชำเพิ่มเติม ๑๖/8.0 ค๓๐๒๐๕ คณิตศาสตร์ ๕ ๓/1.5 ค๓๐๒๐๖ คณติ ศาสตร์ ๖ ๓/1.5 ว๓๐๒๐๕ ฟิสิกส์ ๕ ๓/1.5 ว๓๐๒๐๖ ฟสิ ิกส์ ๖ ๒/1.0 ว๓๐๒๒๕ เคมี ๕ ๓/1.5 ว๓๐๒๒๖ เคมี ๖ ๒/1.0 ว๓๐๒๔๕ ชีววทิ ยา ๕ ๓/1.5 ว๓๐๒๔๖ ชวี วิทยา ๖ ๒/1.0 ว๓๐๒๖๕ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ๕ ๒/1.0 ว๓๐๒๖๖ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ๖ ๒/1.0 ว๓๓๒๘๓ การผลิตสือ่ มัลติมีเดีย ๒/1.0 ว๓๓๒๘๒ เสรมิ ทักษะวิทยาการคานวณ ๓ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๕ ภาษาอังกฤษรอบรู้ ๑ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๖ ภาษาอังกฤษรอบรู้ ๒ ๒/1.0 จ๓๐๒๐๕ ภาษาจนี ๕ ๑/0.5 จ๓๐๒๐๖ ภาษาจนี ๖ ๑/0.5 ส๓๐๒๔๖ หนา้ ที่พลเมือง ๔ ๑/0.5 กจิ กรรมพัฒนำผเู้ รยี น/กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตร 4/- กจิ กรรมพัฒนำผ้เู รยี น/กจิ กรรมเสรมิ หลักสูตร 5/- IS๓ การจดั กจิ กรรมการนาองคค์ วามรู้ ๑/- กจิ กรรมแนะแนว ๑/- ไปใชบ้ รกิ ารสังคม (กจิ กรรมแนะแนว) กจิ กรรมชมุ นมุ ๑/- กจิ กรรมชมุ นมุ ๑/- กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์(อาสาพฒั นา) ๑/- กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน(์ อาสาพฒั นา) ๑/- พัฒนาผลสัมฤทธ์ิ 1/- พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิ 1/- โฮมรูม/ประชุมระดับ ม.๖ 1/- รวมเวลำเรยี นท้งั หมด 38/17.0 รวมเวลำเรยี นท้งั หมด 34/14.5 รวมเวลาเรยี นท้ังหมด 72 /31.5 ชว่ั โมง/หน่วยกิต/ปี กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ใชเ้ วลานอก 10 ชั่วโมง กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ใชเ้ วลานอก 10 ช่วั โมง คู่มอื นกั เรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๕๐
Bannasan School โครงสรำ้ งหลักสตู รโรงเรยี นบ้ำนนำสำร ชั้นมธั ยมศึกษำปีที่ ๔/๔-๔/๕ (ห้องเรยี นภำษำ-สังคมศกึ ษำ) ช้นั มัธยมศึกษำปีที่ 4 ปกี ำรศกึ ษำ 2563 ภาคเรียนที่ 1 ช.ม./นก. ภาคเรยี นท่ี 2 ช.ม./นก. รำยวิชำพนื้ ฐำน 14/7.0 รำยวชิ ำพน้ื ฐำน 14/7.0 ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒/1.0 ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๒/1.0 ค๓๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๒/1.0 ค๓๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๒ ๒/1.0 ว๓๐๑๔๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ๑ ๒/1.0 ว๓๐๑๔๒ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ ๒ ๒/1.0 ว๓๑๑๘๑ การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ ๑/0.5 ว๓๑๑๘๒ วทิ ยาการคานวณ ๑ ๑/0.5 ส๓๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๑ ๒/0.5 ส๓๑๑๐๒ สงั คมศึกษา ๒ ๒/0.5 ส๓๑๑๖๑ ประวัติศาสตร์ ๑ ๑/0.5 ส๓๑๑๖๒ ประวัตศิ าสตร์ ๒ ๑/0.5 พ๓๑๑๐๑ สขุ ศึกษา-พลศกึ ษา ๑ ๑/0.5 พ๓๑๑๐๒ สุขศกึ ษา-พลศึกษา ๒ ๑/0.5 ศ๓๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑ ๑/0.5 ศ๓๑๑๐๒ ศลิ ปะ ๒ ๑/0.5 อ๓๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๒/1.0 อ๓๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ ๒/1.0 รำยวชิ ำเพม่ิ เติม ๑๖/8.0 รำยวิชำเพิ่มเติม ๑7/8.5 พ๓๐๒๐๘ ฟตุ ซอล ๑ ๑/0.5 พ๓๐๒๐๙ ฟุตซอล ๒ ๑/0.5 ว๓๑๒๘๑ เสรมิ ทกั ษะการออกแบบและเทคโนโลยี ๑ ๒/1.0 ว๓๑๒๘๒ เสริมทักษะวทิ ยาการคานวณ ๑ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๑ ภาษาองั กฤษทักษะฟงั -พดู ๑ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๒ ภาษาองั กฤษทักษะฟัง-พดู ๒ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๗ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร ๑ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๘ ภาษาองั กฤษเพือ่ การสือ่ สาร ๒ ๒/1.0 ท๓๐๒๐๑ ประวตั วิ รรณคดี ๒/1.0 ท๓๐๒๐๓ การเขียน ๒/1.0 ท๓0211 วรรณกรรมท้องถิ่น ๒/1.0 ท๓๐๒๑๐ ภาษาเพอื่ กจิ กรรมการแสดง ๒/1.0 ส๓๐๒๒๖ อาเซยี นศกึ ษา ๒/1.0 ส๓๐๒๒๑ พัฒนาการเมืองการปกครองของไทย ๒/1.0 จ๓๐๒๐๑ ภาษาจนี ๑ ๑/0.5 จ๓๐๒๐๒ ภาษาจนี ๒ ๑/0.5 ศ๓๐๒๐๑ นาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมือง ๒/1.0 ศ๓๐๒๐๕ ศิลปะพ้ืนบา้ น ๒/1.0 ส๓๐๒๔๓ หนา้ ท่ีพลเมือง ๑ 1/0.5 กิจกรรมพฒั นำผ้เู รียน/กิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร 4/- กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน/กิจกรรมเสริมหลกั สตู ร 3/- กจิ กรรมแนะแนว ๑/- กิจกรรมแนะแนว ๑/- กจิ กรรมชุมนุม ๑/- กจิ กรรมชมุ นุม ๑/- กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน(์ อาสาพฒั นา) ๑/- กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์(อาสาพัฒนา) ๑/- โฮมรูม-ประชมุ ระดับ 1/- รวมเวลำเรยี นทัง้ หมด 34/15.0 รวมเวลำเรียนทัง้ หมด 34/15.5 รวมเวลาเรียนท้งั หมด 68 /30.5 ชว่ั โมง/หนว่ ยกติ /ปี กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ใชเ้ วลานอก 10 ชวั่ โมง กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ใช้เวลานอก 10 ชัว่ โมง ค่มู ือนักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๕๑
Bannasan School โครงสรำ้ งหลักสูตรโรงเรียนบ้ำนนำสำร ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 5/๔ - 5/๕ (หอ้ งเรียนภำษำ-สงั คมศึกษำ) ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 5 ปกี ำรศึกษำ 2564 ภาคเรียนที่ 1 ช.ม./นก. ภาคเรยี นที่ 2 ช.ม./นก. รำยวชิ ำพ้ืนฐำน 14/7.0 รำยวชิ ำพ้ืนฐำน 14/7.0 ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๒/1.0 ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ ๒/1.0 ค๓๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๒/1.0 ค๓๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ ๒/1.0 ว๓๐๑๒๑ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ(เคม)ี ๒/1.0 ว๓๐๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ(ฟสิ ิกส์) ๒/1.0 ง๓๐๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ ๑/0.5 ว๓๒๑๘๒ วทิ ยาการคานวณ ๒ ๑/0.5 ส๓๒๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๓ ๒/0.5 ส๓๒๑๐๒ สังคมศึกษา ๔ ๒/0.5 ส๓๒๑๖๓ ประวตั ิศาสตร์ ๓ ๑/0.5 ส๓๒๑๖๔ ประวัติศาสตร์ ๔ ๑/0.5 พ๓๒๑๐๑ สุขศึกษา-พลศึกษา ๓ ๑/0.5 พ๓๒๑๐๒ สุขศกึ ษา-พลศกึ ษา ๔ ๑/0.5 ศ๓๒๑๐๑ ศิลปะ ๓ ๑/0.5 ศ๓๒๑๐๒ ศลิ ปะ ๔ ๑/0.5 อ๓๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ ๒/1.0 อ๓๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๔ ๒/1.0 รำยวชิ ำเพิ่มเติม ๑๙/9.5 รำยวชิ ำเพิม่ เติม ๑๙/9.5 ท๓๐๒๐๕ การพูด ๒/1.0 ท ๓๐๒๐๗ การอ่านและพิจารณาวรรณกรรม ๒/1.0 ท๓๐๒๐๖ วรรณคดีมรดก ๒/1.0 ท๓๐๒๐๘ การแต่งคาประพันธ์ ๒/1.0 ส๓๐๒๒๒ การปกครองทอ้ งถิ่นของไทย ๒/1.0 ส๓๐๒๒๓ กฎหมายทีป่ ระชาชนควรรู้ ๒/1.0 ส๓๐๒๔๔ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๒ ๑/0.5 ส๓๐๒๔๕ หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๓ ๑/0.5 พ๓๐๒๐๕ แบดมนิ ตัน ๑ ๑/0.5 พ๓๐๒๑๐ เปตอง ๑/0.5 ศ๓๐๒๑๓ การเขยี นลวดลายบนผลิตภณั ฑ์ ๒/1.0 ศ๓๐๒๐๖ พื้นฐานดนตรีไทย ๒/1.0 ว๓๒๒๘๑ เสริมทกั ษะการออกแบบและเทคโนโลยี ๒ ๒/1.0 ว๓๒๒๘๒ เสริมทักษะวทิ ยาการคานวณ ๒ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๓ ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน ๑ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๔ ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน ๒ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๙ ภาษาอังกฤษเพือ่ การสื่อสาร ๓ ๒/1.0 อ๓๐๒๑๐ ภาษาอังกฤษเพอื่ การสื่อสาร ๔ ๒/1.0 จ๓๐๒๐๓ ภาษาจนี ๓ ๑/1.0 จ๓๐๒๐๔ ภาษาจนี ๔ ๑/1.0 I๓๐๒๐๑ การศกึ ษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ ๒/1.0 I๓๐๒๐๒ การสือ่ สารและการนาเสนอ ๒/1.0 กจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น/กิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร 3/- กิจกรรมพฒั นำผเู้ รยี น/กจิ กรรมเสริมหลักสูตร 3/- กิจกรรมแนะแนว ๑/- กจิ กรรมแนะแนว ๑/- กจิ กรรมชมุ นุม ๑/- กจิ กรรมชุมนุม ๑/- กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์(อาสาพฒั นา) ๑/- กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน(์ อาสาพฒั นา) ๑/- รวมเวลำเรียนท้ังหมด 36/16.5 รวมเวลำเรียนทัง้ หมด 36/16.5 รวมเวลาเรยี นทั้งหมด 72 /33 ช่วั โมง/หนว่ ยกติ /ปี กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ใช้เวลานอก 10 ชว่ั โมง กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ใชเ้ วลานอก 10 ชวั่ โมง คมู่ ือนกั เรยี นและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๕๒
Bannasan School โครงสรำ้ งหลักสูตรโรงเรียนบำ้ นนำสำร ชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 6/๔ - 6/๕ (ห้องเรียนภำษำ-สังคมศึกษำ) ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 6 ปกี ำรศกึ ษำ 2565 ภาคเรียนที่ 1 ช.ม./นก. ภาคเรียนท่ี 2 ช.ม./นก. รำยวชิ ำพน้ื ฐำน ๑๓/6.5 รำยวชิ ำพ้นื ฐำน ๑๓/6.5 ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๒/1.0 ท๓๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๒/1.0 ค๓๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๒/1.0 ค๓๓๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๖ ๒/1.0 ว๓๐๑๖๑ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๑ ๒/1.0 ว๓๐๑๖๒ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๒ ๒/1.0 ง๓๐๑๐๒ การงานอาชพี ๒ ๑/0.5 ง๓๐๑๐๓ การงานอาชพี ๓ ๑/0.5 ส๓๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๕ ๒/1.0 ส๓๓๑๐๒ สังคมศึกษา ๖ ๒/1.0 พ๓๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๕ ๑/0.5 พ๓๓๑๐๒ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๖ ๑/0.5 ศ๓๓๑๐๑ ศิลปะ ๕ ๑/0.5 ศ๓๓๑๐๒ ศิลปะ ๖ ๑/0.5 อ๓๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ ๒/1.0 อ๓๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๖ ๒/1.0 รำยวชิ ำเพ่มิ เติม ๑๗/8.5 รำยวชิ ำเพิ่มเติม ๑6/8..0 ท๓0209 วรรณกรรมปัจจุบนั ๒/1.0 ท๓๐๒๑๒ หลักภาษาไทย ๒/1.0 พ๓๐๒๐๑ ลีลาศ ๑ ๑/0.5 พ๓๐๒๐๒ ลีลาศ ๒ ๑/0.5 ศ๓๐๒๐๘ องค์ประกอบศิลป์ ๒/1.0 ศ๓๐๒๔๕ ดนตรีสากลปฏบิ ตั ติ ามความถนัด ๒/1.0 ว๓๓๒๘๓ การผลิตสอ่ื มัลตมิ ีเดีย ๒/1.0 ว๓๓๒๘๒ เสรมิ ทกั ษะวทิ ยาการคานวณ ๓ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๕ ภาษาอังกฤษรอบรู้ ๑ ๒/1.0 อ๓๐๒๐๖ ภาษาอังกฤษรอบรู้ ๒ ๒/1.0 อ๓๐๒๑๑ ภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร ๕ ๒/1.0 อ๓๐๒๑๒ ภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร ๖ ๒/1.0 จ๓๐๒๐๕ ภาษาจนี ๕ ๑/0.5 จ๓๐๒๐๖ ภาษาจนี ๖ ๑/0.5 ส๓๐๒๘๓ ประชากรกับสง่ิ แวดลอ้ ม ๒/1.0 ส๓๐๒๒๕ เหตุการณ์ปัจจบุ ันของโลก ๒/1.0 ส๓๐๒๐๑ ศาสนาสากล ๒/1.0 ส๓๐๒๖๒ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒/1.0 ส๓๐๒๔๖ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๔ ๑/0.5 กจิ กรรมพฒั นำผู้เรยี น/กจิ กรรมเสริมหลักสูตร 4/- กจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น/กิจกรรมเสริมหลกั สูตร 5/- IS๓ การจดั กิจกรรมการนาองคค์ วามรู้ ๑/- กิจกรรมแนะแนว ๑/- ไปใช้บริการสงั คม (กิจกรรมแนะแนว) กิจกรรมชุมนุม ๑/- กิจกรรมชมุ นุม ๑/- กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์(อาสาพัฒนา) ๑/- กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน(์ อาสาพฒั นา) ๑/- พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิ 1/- พฒั นาผลสัมฤทธ์ิ 1/- โฮมรูม/ประชุมระดับ ม.๖ 1/- รวมเวลำเรยี นทงั้ หมด 35/15.0 รวมเวลำเรยี นท้ังหมด 34/14.5 รวมเวลาเรียนท้ังหมด 69 /29.5 ชวั่ โมง/หน่วยกติ /ปี กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ใช้เวลานอก 10 ช่ัวโมง กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ใช้เวลานอก 10 ชว่ั โมง คมู่ อื นกั เรยี นและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๕๓
Bannasan School โครงสรำ้ งหลกั สูตรโรงเรยี นบำ้ นนำสำร ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ ๔/๖ (ห้องเรียนท่ัวไป กำรศกึ ษำเพ่ือกำรมีงำนทำ) ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 4 ปกี ำรศึกษำ 2563 ภาคเรียนท่ี 1 ช.ม./นก. ภาคเรยี นท่ี 2 ช.ม./นก. รำยวิชำพน้ื ฐำน 14/7.0 รำยวชิ ำพน้ื ฐำน 14/7.0 ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒/1.0 ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๒/1.0 ค๓๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ ๒/1.0 ค๓๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ ๒/1.0 ว๓๐๑๔๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ ๑ ๒/1.0 ว๓๐๑๔๒ วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ๒ ๒/1.0 ว๓๑๑๘๑ การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ ๑/0.5 ว๓๑๑๘๒ วทิ ยาการคานวณ ๑ ๑/0.5 ส๓๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๑ ๒/0.5 ส๓๑๑๐๒ สงั คมศกึ ษา ๒ ๒/0.5 ส๓๑๑๖๑ ประวัติศาสตร์ ๑ ๑/0.5 ส๓๑๑๖๒ ประวัติศาสตร์ ๒ ๑/0.5 พ๓๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษา-พลศกึ ษา ๑ ๑/0.5 พ๓๑๑๐๒ สขุ ศกึ ษา-พลศกึ ษา ๒ ๑/0.5 ศ๓๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ ๑/0.5 ศ๓๑๑๐๒ ศิลปะ ๒ ๑/0.5 อ๓๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๒/1.0 อ๓๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ๒/1.0 รำยวิชำเพม่ิ เติม ๑๖/8.0 รำยวิชำเพ่มิ เติม ๑๗/8.5 พ๓๐๒๐๘ ฟุตซอล ๑ ๑/0.5 พ๓๐๒๐๙ ฟุตซอล ๒ ๑/0.5 ว๓๑๒๘๑ เสริมทกั ษะการออกแบบและเทคโนโลยี ๑ ๒/1.0 ว๓๑๒๘๒ เสริมทักษะวทิ ยาการคานวณ ๑ ๒/1.0 จ๓๐๒๐๑ ภาษาจีน ๑ ๑/0.5 จ๓๐๒๐๒ ภาษาจีน ๒ ๑/0.5 ง๓๐๒๐๙ งานเขยี นแบบ ๒/1.0 ง๓๐๒๐๑ หลกั พืชกรรม ๒/1.0 ง๓๐๒๒๑ อาหารวา่ ง ๒/1.0 ง๓๐๒๑๔ การตดั เยบ็ หมอนองิ ๒/1.0 ง๓๐๒๒๒ ปุ๋ยอนิ ทรยี ์ ๒/1.0 ง๓๐๒๒๓ เพมิ่ เตมิ กำรงำน ๒/1.0 ศ๓๐๒๐๑ นาฏศลิ ปพ์ นื้ เมือง ๒/1.0 ศ๓๐๒๐๕ ศลิ ปะพื้นบา้ น ๒/1.0 ศ๓๐๒๑๔ ภาพพิมพ์ ๒/1.0 ศ๓๐๒๑๑ การออกแบบ ๒/1.0 พ๓๐๒๑๒ กรีฑา ๑ ๒/1.0 พ๓๐๒๑๓ กรฑี า ๒ ๒/1.0 ส๓๐๒๔๓ หนา้ ทพี่ ลเมอื ง ๑ ๑/0.5 กจิ กรรมพัฒนำผ้เู รียน/กิจกรรมเสริมหลกั สตู ร 4/- กจิ กรรมพฒั นำผู้เรยี น/กจิ กรรมเสริมหลักสตู ร 3/- กจิ กรรมแนะแนว ๑/- กิจกรรมแนะแนว ๑/- กิจกรรมชุมนมุ ๑/- กจิ กรรมชมุ นมุ ๑/- กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์(อาสาพฒั นา) ๑/- กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์(อาสาพฒั นา) ๑/- โฮมรูม-ประชุมระดบั 1/- รวมเวลำเรยี นทงั้ หมด 34/15.0 รวมเวลำเรยี นท้ังหมด 34/15.5 รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด 68 /30.5 ชว่ั โมง/หน่วยกติ /ปี กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ใช้เวลานอก 10 ชว่ั โมง กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ใชเ้ วลานอก 10 ชว่ั โมง คู่มือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๕๔
Bannasan School โครงสรำ้ งหลักสูตรโรงเรียนบำ้ นนำสำร ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี 5/๖ (ห้องเรียนท่ัวไป กำรศึกษำเพอ่ื กำรมีงำนทำ) ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 5 ปีกำรศึกษำ 2564 ภาคเรียนที่ 1 ช.ม./นก. ภาคเรยี นท่ี 2 ช.ม./นก. รำยวิชำพื้นฐำน 14/7.0 รำยวชิ ำพื้นฐำน 14/7.0 ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๒/1.0 ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ ๒/1.0 ค๓๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ ๒/1.0 ค๓๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ ๒/1.0 ว๓๐๑๒๑ วิทยาศาสตร์กายภาพ(เคมี) ๒/1.0 ว๓๐๑๐๑ วิทยาศาสตร์กายภาพ(ฟิสิกส)์ ๒/1.0 ง๓๐๑๐๑ การงานอาชพี ๑ ๑/0.5 ว๓๒๑๘๒ วิทยาการคานวณ ๒ ๑/0.5 ส๓๒๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๓ ๒/0.5 ส๓๒๑๐๒ สงั คมศึกษา ๔ ๒/0.5 ส๓๒๑๖๓ ประวตั ศิ าสตร์ ๓ ๑/0.5 ส๓๒๑๖๔ ประวตั ศิ าสตร์ ๔ ๑/0.5 พ๓๒๑๐๑ สุขศกึ ษา-พลศกึ ษา ๓ ๑/0.5 พ๓๒๑๐๒ สขุ ศกึ ษา-พลศึกษา ๔ ๑/0.5 ศ๓๒๑๐๑ ศิลปะ ๓ ๑/0.5 ศ๓๒๑๐๒ ศิลปะ ๔ ๑/0.5 อ๓๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ ๒/1.0 อ๓๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๔ ๒/1.0 รำยวชิ ำเพิ่มเติม ๑๗/8.5 รำยวชิ ำเพม่ิ เติม ๑๗/8.5 ส๓๐๒๔๔ หน้าท่พี ลเมอื ง ๒ ๑/0.5 ส๓๐๒๔๕ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๓ ๑/0.5 พ๓๐๒๐๕ แบดมนิ ตัน ๑ ๑/0.5 พ๓๐๒๑๐ เปตอง ๑/0.5 ศ๓๐๒๑๓ การเขียนลวดลายบนผลติ ภณั ฑ์ ๒/1.0 ศ๓๐๒๐๖ พ้นื ฐานดนตรไี ทย ๒/1.0 ง๓๐๒๐๒ หลกั การเลย้ี งสัตวท์ ว่ั ไป ๒/1.0 ง๓๐๒๐๓ บรกิ ารงานเกษตร ๒/1.0 ง๓๐๒๑๕ งานดอกไม้ประดิษฐ์ ๒/1.0 ง๓๐๒๐๔ การดแู ลรักษาสวนหย่อม ๒/1.0 ง๓๐๒๑๖ งานตกแตง่ ดว้ ยผ้า ๒/1.0 ง๓๐๒๑๑ งานประดษิ ฐ์จากวัสดเุ หลือใช้ ๒/1.0 ง๓๐๒๑๐ งานประดิษฐจ์ ากวัสดธุ รรมชาติ ๒/1.0 ง๓๐๒๑๘ ขนมไทย ๒/1.0 ว๓๒๒๘๑ เสรมิ ทักษะการออกแบบและเทคโนโลยี ๒ ๒/1.0 ว๓๒๒๘๒ เสริมทักษะวิทยาการคานวณ ๒ ๒/1.0 จ๓๐๒๐๓ ภาษาจีน ๓ ๑/1.0 จ๓๐๒๐๔ ภาษาจนี ๔ ๑/1.0 I๓๐๒๐๑ การศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ ๒/1.0 I๓๐๒๐๒ การสอ่ื สารและการนาเสนอ ๒/1.0 กิจกรรมพฒั นำผูเ้ รียน/กจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร 3/- กจิ กรรมพฒั นำผู้เรยี น/กจิ กรรมเสริมหลักสตู ร 3/- กิจกรรมแนะแนว ๑/- กจิ กรรมแนะแนว ๑/- กจิ กรรมชมุ นุม ๑/- กจิ กรรมชุมนุม ๑/- กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์(อาสาพัฒนา) ๑/- กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์(อาสาพฒั นา) ๑/- รวมเวลำเรียนท้ังหมด 34/15.5 รวมเวลำเรียนท้งั หมด 34/15.5 รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด 68 /31.0 ชว่ั โมง/หน่วยกิต/ปี กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ใช้เวลานอก 10 ชวั่ โมง กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ใชเ้ วลานอก 10 ช่วั โมง คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๕๕
Bannasan School โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรยี นบ้ำนนำสำร ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6/๖ (ห้องเรยี นท่ัวไป กำรศกึ ษำเพือ่ กำรมงี ำนทำ) ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 6 ปกี ำรศกึ ษำ 2565 ภาคเรียนท่ี 1 ช.ม./นก. ภาคเรียนท่ี 2 ช.ม./นก. รำยวชิ ำพื้นฐำน ๑๓/6.5 รำยวิชำพน้ื ฐำน ๑๓/6.5 ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๒/1.0 ท๓๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๒/1.0 ค๓๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ๒/1.0 ค๓๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ ๒/1.0 ว๓๐๑๖๑ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๑ ๒/1.0 ว๓๐๑๖๒ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๒ ๒/1.0 ง๓๐๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ ๑/0.5 ง๓๐๑๐๓ การงานอาชพี ๓ ๑/0.5 ส๓๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ๕ ๒/1.0 ส๓๓๑๐๒ สังคมศกึ ษา ๖ ๒/1.0 พ๓๓๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๕ ๑/0.5 พ๓๓๑๐๒ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๖ ๑/0.5 ศ๓๓๑๐๑ ศิลปะ ๕ ๑/0.5 ศ๓๓๑๐๒ ศิลปะ ๖ ๑/0.5 อ๓๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ ๒/1.0 อ๓๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๖ ๒/1.0 รำยวิชำเพ่มิ เติม ๑๗/8.5 รำยวิชำเพิม่ เติม ๑๖/8.0 พ๓๐๒๐๑ ลลี าศ ๑ ๑/0.5 พ๓๐๒๐๒ ลลี าศ ๒ ๑/0.5 ศ๓๐๒๐๘ องคป์ ระกอบศิลป์ ๒/1.0 ศ๓๐๒๑๒ ดนตรีสากลปฏบิ ัติตามความถนดั ๒/1.0 จ๓๐๒๐๕ ภาษาจีน ๕ ๑/0.5 จ๓๐๒๐๖ ภาษาจีน ๖ ๑/0.5 ว๓๓๒๘๓ การผลติ สอ่ื มัลตมิ ีเดยี ๒/1.0 ว๓๓๒๘๒ เสริมทักษะวิทยาการคานวณ๓ ๒/1.0 ง๓๐๒๐๕ การปลกู ยางพารา ๒/1.0 ง๓๐๒๑๙ เคร่ืองแขวนไทย ๒/1.0 ง๓๐๒๐๖ การปลูกไม้ผล ๒/1.0 ง๓๐๒๐๗ การเพาะกล้าพนั ธไุ์ ม้ ๒/1.0 ง๓๐๒๑๒ ชา่ งเฟอรน์ เิ จอร์ ๔/2.0 ง๓๐๒๐๘ การปลกู ไม้ดอกประดบั ๒/1.0 ง๓๐๒๑๗ การผกู ผา้ ในอาคาร ๒/1.0 ง๓๐๒๑๓ ผลติ ภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิน่ ๒/1.0 ส๓๐๒๔๖ หนา้ ที่พลเมือง ๔ ๑/0.5 ง๓๐๒๒๐ การเยบ็ กระเป๋าผา้ ๒/1.0 กจิ กรรมพัฒนำผเู้ รียน/กิจกรรมเสริมหลกั สตู ร 4/- กจิ กรรมพัฒนำผูเ้ รยี น/กิจกรรมเสริมหลักสตู ร 5/- IS๓ การจัดกจิ กรรมการนาองค์ความรู้ ๑/- กจิ กรรมแนะแนว ๑/- ไปใชบ้ ริการสงั คม (กิจกรรมแนะแนว) กจิ กรรมชุมนมุ ๑/- กจิ กรรมชุมนมุ ๑/- กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์(อาสาพฒั นา) ๑/- กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน(์อาสาพฒั นา) ๑/- พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิ 1/- พัฒนาผลสมั ฤทธิ์ 1/- โฮมรมู /ประชมุ ระดับ ม.๖ 1/- รวมเวลำเรียนทัง้ หมด 34/15.0 รวมเวลำเรยี นทงั้ หมด 34/14.5 รวมเวลาเรยี นทั้งหมด 68 /29.5 ชว่ั โมง/หน่วยกิต/ปี กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ใชเ้ วลานอก 10 ชวั่ โมง กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ใชเ้ วลานอก 10 ชัว่ โมง ค่มู ือนกั เรียนและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๕๖
Bannasan School การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านนาสารต้ังอยู่บนหลักการพ้ืนฐานสองประการ คือ การประเมินเพ่ือพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสนิ ผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผเู้ รียน นั้นผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัด เพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้สะท้อน สมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซ่ึงเป็นเป้าหมายหลกั ในการวดั และประเมินผล การเรยี นรู้ทส่ี อดคล้องกับทุกระดับไม่วา่ จะเป็นระดับช้นั เรียน ระดบั สถานศึกษา ระดับเขตพน้ื ท่ีการศึกษา และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการ ประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศท่ีแสดงพัฒนาการความก้าวหน้า และความสาเร็จทางการเรียนของ ผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มตาม ศักยภาพ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ทีโ่ รงเรยี นดาเนินการ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ดังน้ี ๑. กำรประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ที่ครูผู้สอน ดาเนนิ การเปน็ ปกตแิ ละสม่าเสมอในการจัดการเรียนการสอนใช้เทคนิคการประเมนิ อย่างหลากหลาย เชน่ การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แฟ้ม สะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพ่ือนประเมินเพ่ือน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณีท่ีไม่ผ่านตัวชี้วัดให้มีการสอนซ่อมเสริม การประเมิน ระดับช้ันเรียนน้ีเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อันเป็นผลมาจาก การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรอื ไม่และมากนอ้ ยเพียงใด มีสิ่งท่ีจะต้องได้รับการพัฒนาปรับปรุงและ สง่ เสริมในด้านใดเพอื่ ให้สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ช้วี ัด ๒. กำรประเมินระดับสถำนศึกษำ เป็นการประเมินที่โรงเรียนดาเนินการเพื่อตัดสินผลการเรียนของ ผู้เรียนเป็นรายภาค รวมทั้งการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้ได้ข้อมูลเก่ียวกับการจัดการศึกษาของโรงเรียนว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ของ ผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนาผลการเรียนของผู้เรียนไป เปรียบเทยี บกบั เกณฑร์ ะดับชาตแิ ละระดับเขตพืน้ ท่ีการศึกษา ๓. กำรประเมินระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา และการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมินระดบั สถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผลสัมฤทธ์ิของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานท่ี จัดทาและดาเนินการโดยเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา โดยความรว่ มมอื ของโรงเรียนในการดาเนินการจดั สอบ ๔. กำรประเมินระดับชำติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีโรงเรียนจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียนในระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพ การศึกษาในระดับต่างๆ ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ จะเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนในการตรวจสอบ ทบทวน พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของโรงเรียนที่จะต้องจัดระบบดูแล ช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุน เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความ คมู่ อื นกั เรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๕๗
Bannasan School แตกต่างระหว่างบคุ คลทจี่ าแนกตามสภาพปัญหาและความตอ้ งการ เป็นการเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนได้รับการ พัฒนาและประสบความสาเร็จในการเรยี น เกณฑ์กำรวดั และประเมินผลกำรเรียน ๑. กำรตดั สินและกำรให้ระดับผลกำรเรียน ๑.๑ กำรตัดสินผลกำรเรยี น ในการตัดสนิ ผลการเรียนของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนน้นั จะคานึงถึงการพฒั นาผู้เรียนแต่ละคนเปน็ หลกั และเก็บข้อมูลของผเู้ รียนทกุ ด้านอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ืองในแต่ละภาคเรยี น รวมทัง้ สอนซ่อมเสรมิ ผเู้ รยี นใหพ้ ัฒนาเตม็ ตามศักยภาพ ดงั นี้ (๑) ตดั สินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรยี นต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้งั หมดในรายวิชาน้นั ๆ (๒) ผ้เู รียนต้องไดร้ ับการประเมนิ ทุกตัวชีว้ ดั และผา่ นตามเกณฑท์ ่โี รงเรียนกาหนด (๓) ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรยี นทุกรายวิชา (๔) ผู้เรยี นตอ้ งได้รับการประเมิน และมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑท์ ีโ่ รงเรียนกาหนด ในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๑.๒ กำรใหร้ ะดบั ผลกำรเรียนรำยวิชำ โรงเรียนบ้านนาสารไดก้ าหนดใหผ้ เู้ รียนได้รับการตัดสนิ ผลการประเมนิ จากครผู ้สู อนเปน็ ๘ ระดับ จากผล การเรยี นรายภาคของผ้เู รียน ดงั น้ี ระดับผลกำรเรยี น ควำมหมำย ช่วงคะแนน ๔ ดเี ย่ียม ๘๐-๑๐๐ ๓.๕ ดีมาก ๗๕-๗๙ ๓ ดี ๗๐-๗๔ ๒.๕ ค่อนข้างดี ๖๕-๖๙ ๒ ปานกลาง ๖๐-๖๔ ๑.๕ พอใช้ ๕๕-๕๙ ๑ ผ่านเกณฑ์ขนั้ ต่า ๕๐-๕๔ ๐ ตา่ กว่าเกณฑ์ ๐-๔๙ ในกรณีที่ไม่สามารถใหร้ ะดับผลการเรยี นเปน็ ๘ ระดบั ไดใ้ ช้ตัวอกั ษรระบุเงื่อนไขของผลการ เรยี น ดงั น้ี “มส” หมายถึง ผเู้ รียนไม่มีสิทธเิ ข้ารบั การวัดผลปลายภาคเรยี น เนื่องจากผู้เรยี นมเี วลาเรยี นไมถ่ ึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นในแตล่ ะรายวชิ า และไมไ่ ด้รับการผ่อนผันให้เขา้ รับการวดั ผลปลายภาคเรยี น คูม่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๕๘
Bannasan School “ร” หมายถงึ รอการตัดสินและยงั ตดั สินผลการเรียนไมไ่ ด้ เนือ่ งจากผเู้ รยี นไมม่ ีข้อมูลผลการเรียนรายวชิ า นั้นครบถ้วน ไดแ้ ก่ ไม่ไดว้ ดั ผลระหว่างภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ไดส้ ง่ งานท่ีมอบหมายใหท้ า ซึง่ งาน น้นั เปน็ ส่วนหนง่ึ ของการตัดสินผลการเรียน หรอื มเี หตสุ ดุ วิสัยที่ทาใหป้ ระเมินผลการเรียนไมไ่ ด้ ๑.๓ กำรประเมนิ ดำ้ นกำรอำ่ น คิดวเิ ครำะห์ และเขียนสื่อควำม โรงเรียนบ้านนาสารไดก้ าหนดใหม้ กี ารประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในทุกรายวิชา โดยใชเ้ กณฑ์การประเมินของแต่ละกลุ่มสาระการเรยี นรู้ทไ่ี ดก้ าหนดขน้ึ การตัดสินผลการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียนส่ือความ ของผู้เรยี น จะเป็น ๔ ระดับ ดงั น้ี ระดบั ควำมหมำย เกณฑ์กำรพจิ ำรณำ ๓ ดเี ย่ยี ม มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี นที่มี คุณภาพดีเลิศอยู่เสมอ ๒ ดี มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี นท่ีมี คุณภาพเป็นท่ยี อมรบั ๑ ผา่ น มีผลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี นท่ีมี คุณภาพเป็นท่ยี อมรับ แตย่ ังมีขอ้ บกพร่องบางประการ ๐ ไม่ผา่ น ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน หรือ ถ้ามผี ลงาน ผลงานนัน้ ยังมีขอ้ บกพร่องทีต่ ้องได้รบั การปรับปรุงแก้ไขหลาย ประการ ๑.๔ กำรประเมินดำ้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โรงเรียนบ้านนาสารได้กาหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และใช้เป็นรายการสาหรบั การประเมินของครูผสู้ อนในแต่ละรายวิชา โดยใช้ เกณฑ์การประเมินของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ได้กาหนดขึ้นการตัดสินผลการพัฒนาคุณลักษณะอัน พึงประสงคข์ องผู้เรียนประกอบดว้ ย ๘ ด้าน ดังนี้ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. ซอื่ สัตยส์ ุจริต ๓. มีวนิ ยั ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง ๖. ม่งุ มัน่ ในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจติ สาธารณะ คู่มอื นักเรยี นและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๕๙
Bannasan School โรงเรยี นบา้ นนาสารกาหนดเกณฑ์การตัดสินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์เป็น ๔ ระดับ ดังน้ี ระดับ ควำมหมำย เกณฑก์ ำรพิจำรณำ ๓ ดีเยยี่ ม ผูเ้ รยี นปฏบิ ัตติ นตามคุณลักษณะจนเป็นนสิ ัยและนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน เพอื่ ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ดเี ยยี่ ม จานวน ๕-๘ คณุ ลกั ษณะและไม่มีคุณลักษณะใดไดผ้ ลการ ประเมินตา่ กวา่ ระดบั ดี ๒ ดี ผเู้ รียนมีคุณลักษณะในการปฏบิ ัติตามเกณฑ์ เพ่ือใหเ้ ปน็ การยอมรับ ของสงั คม โดยพจิ ารณาจาก ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดเี ยีย่ ม จานวน ๑-๔ คณุ ลักษณะและไมม่ ี คณุ ลักษณะใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่าระดับดี หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีทัง้ ๘ คณุ ลักษณะ หรือ ๓. ไดผ้ ลการประเมนิ ตง้ั แต่ระดบั ดขี นึ้ ไป จานวน ๕-๗ คณุ ลักษณะและมบี าง คุณลักษณะไดผ้ ลการประเมินระดบั ผ่าน ๑ ผ่าน ผเู้ รยี นรับรู้และปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขทโี่ รงเรียนกาหนดโดย พิจารณาจาก ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ผ่านทงั้ ๘ คุณลักษณะ หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ตัง้ แตร่ ะดบั ดขี น้ึ ไป จานวน ๑-๔ คณุ ลักษณะ และคณุ ลักษณะทเี่ หลอื ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผ่าน ๐ ไมผ่ ่าน ผูเ้ รียนรบั รแู้ ละปฏิบัตไิ ด้ไมค่ รบตามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขท่ี ๐ ไมผ่ า่ น โรงเรียนกาหนด โดยพจิ ารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ไมผ่ า่ น ต้ังแต่ ๑ คุณลักษณะ ๑.๕ กำรประเมนิ กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รียน กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น มี ๓ ลักษณะ คือ ๑) กจิ กรรมแนะแนว ๒) กิจกรรมนักเรียน ซงึ่ ประกอบดว้ ย 2.1 กิจกรรมลกู เสอื เนตรนารี ผู้บาเพ็ญประโยชน์ นักศึกษาวิชาทหาร อาสาพัฒนา โดยผู้เรยี นเลือกอยา่ งใดอย่างหน่งึ 2.2 กจิ กรรมชมุ นมุ ทั้งน้ีกิจกรรมนักเรียนข้อ 2.1 ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพศชายทุกคนต้องเลือกเข้าร่วม กิจกรรมลูกเสือ ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพศหญิงต้องเลือกเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ(เนตรนารี) หรือผู้บาเพ็ญประโยชน์ ส่วนผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทุกคนต้องเลือกเข้าร่วมกิจกรรม นักศกึ ษาวชิ าทหาร หรอื อาสาพัฒนา ๓) กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ คมู่ อื นักเรยี นและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๖๐
Bannasan School การประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน พจิ ารณาท้ังเวลาการเขา้ รว่ มกิจกรรม การปฏิบตั ิกิจกรรมและ ผลงานของผเู้ รยี นตามเกณฑ์ทโ่ี รงเรียนกาหนด และให้ผลการประเมิน ดังน้ี ผลกำรประเมนิ ควำมหมำย ผ ผูเ้ รียนมีเวลาเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ปฏิบตั ิกจิ กรรมและมีผลงานตามเกณฑ์ มผ ที่โรงเรียนกาหนด ผเู้ รยี นมเี วลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมและมผี ลงานไม่เป็นไป ตามเกณฑ์ที่โรงเรยี นกาหนด ๒. กำรเปล่ยี นผลกำรเรียน ๒.๑ กำรเปลี่ยนระดับผลกำรเรยี น “๐” เน่อื งจากการวัดผลให้น้าหนักของคะแนนการวดั ผลระหว่างเรียนมากกว่าคะแนนการวดั ผลปลาย ภาค และผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ จะได้รับการพัฒนาการเรียนรู้และวัดซ้าจาก ครูผู้สอนก่อนการตัดสินผลการเรียน เม่ือมีการตัดสินผลการเรียนผู้เรียนได้ระดับผลการเรียน “๐” โรงเรียนต้องจัดสอนซ่อมเสริมตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ ท่ีผู้เรียนไม่ผ่านเกณฑ์ก่อนแล้วจึงสอบแก้ตัวหรือให้ ปฏิบัติงานหรือกิจกรรม โดยโรงเรียนให้โอกาสผู้เรียนแก้ตัวได้ไม่เกิน ๒ คร้ังทั้งน้ีผู้เรียนต้องดาเนินการ แก้ไขให้เสร็จสิ้นตามปฏทิ ินงานวดั ผลท่ีกาหนด ถ้าผู้เรียนไม่มาดาเนินการตามระยะเวลาที่กาหนดไวน้ ้ี ให้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรียนที่จะพิจารณาขยายเวลาแก้“๐” ออกไปได้อีก การเปลี่ยนระดับ ผลการเรียนจาก “๐” ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “๑” กรณีท่ีผู้เรียนได้สอบแก้ตัวตามปฏิทินที่กลุ่ม บริหารวิชาการกาหนดไว้ ๒ ครั้งแล้ว และยังได้ระดับผลการเรียน “๐” ให้เรียนซ้ารายวิชานั้น ในภาค ฤดูร้อนหรอื ตามเวลาทโ่ี รงเรยี นกาหนด ๒.๒ กำรเปลีย่ นผลกำรเรยี น “ร” แยกเปน็ ๒ กรณี ดังนี้ ๒.๒.๑ ในกรณที ผ่ี ู้เรยี นไดผ้ ลการเรยี น “ร” เพราะไมเ่ ข้าสอบกลางภาค/ปลายภาค หรอื ไมส่ ง่ งาน ด้วย เหตุสุดวิสัย เม่ือผู้เรียนได้เข้าสอบหรือส่งงานท่ีติดค้างอยู่เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ได้ระดับผลการเรียน ตามปกติ (ต้ังแต่ ๐-๔) ๒.๒.๒ ในกรณที ่ีผู้เรียนได้ระดับผลการเรียน “ร” แลว้ ไมด่ าเนนิ การแก้ไข “ร” ให้ผสู้ อนนาข้อมูล ที่มีอยู่ตัดสินผลการเรียน ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรียนท่ีจะขยายเวลา การแก้ “ร” ออกไปอีกไมเ่ กิน ๑ ภาคเรยี น ทงั้ น้ีตอ้ งดาเนนิ การให้เสรจ็ สนิ้ ภายในปีการศกึ ษานั้น ๒.๓ กำรเปล่ยี นผลกำรเรียน “มส” มี ๒ กรณี ดังนี้ ๒.๓.๑ กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐แต่มีเวลำเรียนไม่ น้อยกว่ำร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียนในรายวิชานั้น โรงเรียนต้องจัดให้เรียนเพิ่มเติมโดยใช้คาบซ่อมเสริม หรอื เวลาวา่ ง หรือใชว้ นั หยุด หรือมอบหมายงานให้ทา จนมเี วลาเรยี นครบตามทีก่ าหนดไวส้ าหรับรายวิชา นั้น แล้วจงึ ให้สอบปลายภาค ผลการแก้ “มส” ให้ไดร้ ะดับผลการเรียนไม่เกิน “๑” การแก้ “มส” กรณีน้ี คู่มือนักเรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๖๑
Bannasan School ให้กระทาให้เสร็จส้ินภายในปีการศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่มาดาเนินการแก้ “มส” ตามระยะเวลาท่ีกาหนด ไว้น้ีให้เรียนซ้า ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรียนที่จะขยายเวลาการแก้ “มส” ออกไปอีก แต่เมื่อพ้นกาหนดนี้แลว้ ให้เรียนซ้ารายวชิ านัน้ ๒.๓.๒ กรณีผู้เรยี นไดผ้ ลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนนอ้ ยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรยี น ท้งั หมด ให้เรียนซา้ รายวิชาน้ัน ๒.๔ กำรเปลยี่ นผลกำรเรียน “มผ” กรณีทผี่ ูเ้ รียนได้ผล “มผ” โรงเรยี นตอ้ งจัดซ่อมเสริมให้ผูเ้ รียนทากจิ กรรมในส่วนทีผ่ เู้ รียนไม่ได้เข้า ร่วมหรอื ไม่ไดท้ าจนครบถว้ น แล้วจงึ เปล่ียนผลจาก “มผ” เปน็ “ผ” ได้ ทง้ั น้ีดาเนนิ การใหเ้ สรจ็ สิ้นภายใน ภาคเรียนน้ันๆ ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรียนท่ีจะพิจารณาขยายเวลา ออกไปอกี กำรเลอ่ื นช้ัน เมื่อสนิ้ ปีการศึกษา ผูเ้ รียนจะไดร้ บั การเล่ือนชน้ั เม่ือมคี ุณสมบตั ิตามเกณฑ์ ดงั นี้ ๑. รายวิชาพน้ื ฐานและรายวชิ าเพิม่ เติม ไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรียนผา่ นตามเกณฑท์ โี่ รงเรียน กาหนด ๒. ผเู้ รียนต้องไดร้ ับการประเมนิ และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑท์ ่ีโรงเรยี นกาหนด ในการ อ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนส่ือความ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๓. ระดบั ผลการเรียนเฉล่ยี ในปกี ารศกึ ษาน้นั ควรไดไ้ มต่ ่ากว่า ๑.๐๐ ทั้งนี้ รายวชิ าใดท่ีไม่ผ่าน เกณฑ์การประเมนิ โรงเรยี นสามารถซ่อมเสรมิ ผูเ้ รยี นให้ได้รับการแก้ไขให้เสร็จสิน้ ภายในปกี ารศกึ ษานน้ั กำรสอนซ่อมเสรมิ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กาหนดให้โรงเรยี นจัดสอนซอ่ ม เสรมิ เพื่อพฒั นาการเรียนรู้ของผูเ้ รยี นเต็มตามศกั ยภาพ การสอนซอ่ มเสริม เปน็ การสอนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง กรณีท่ผี ูเ้ รยี นมีความรู้ ทกั ษะกระบวนการ หรือเจตคติ/คุณลักษณะ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีโรงเรียนกาหนด โรงเรียนต้องจัดสอนซ่อมเสริมเป็นกรณี พิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามปกติ เพ่ือพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัดท่ีกาหนดไว้ เป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนา โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี หลากหลายและตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล การสอนซ่อมเสริมสามารถดาเนินการได้ในกรณี ดังนี้ ๑. ผเู้ รียนมีความรู้/ทกั ษะพน้ื ฐานไมเ่ พียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานัน้ ควรจดั สอนซ่อม เสรมิ ปรับความรู้/ทกั ษะพ้ืนฐาน ๒. ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะ กระบวนการ หรือเจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะที่กาหนดไว้ ตาม มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดในการประเมินผลระหว่างเรยี น ๓. ผเู้ รียนที่ไดร้ ะดับผลการเรียน “๐” ให้จัดสอนซ่อมเสริมกอ่ นสอบแก้ตวั ๔. กรณผี เู้ รยี นมีผลการเรยี นไมผ่ ่าน สามารถจดั สอนซอ่ มเสริมในภาคฤดูร้อน เพื่อแกไ้ ขผลการ เรยี น ทัง้ น้ใี หอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของผู้อานวยการโรงเรยี น คูม่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๖๒
Bannasan School กำรเรยี นซ้ำชั้น ผู้เรียนท่ีไม่ผ่านรายวิชาจานวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับช้ันท่ี สูงข้ึน โรงเรียนต้ังคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้าชั้นได้ ทั้งนี้ ให้คานึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ ความสามารถของผู้เรยี นเปน็ สาคญั การเรยี นซา้ ช้นั มี ๒ ลักษณะ ดงั น้ี ๑. ผู้เรยี นมีระดบั ผลกำรเรยี นเฉลยี่ ในปีกำรศึกษำนั้นตำ่ กว่ำ ๑.๐๐ และมีแนวโนม้ ว่าจะเปน็ ปญั หาต่อการเรยี นในระดับชน้ั ทีส่ ูงขนึ้ ๒. ผ้เู รยี นมผี ลกำรเรียน ๐, ร, มส เกินคร่งึ หน่ึงของรายวชิ าที่ลงทะเบยี นเรียนในปีการศึกษานน้ั ท้ังนี้ หากเกิดลักษณะใดลักษณะหน่ึง หรือท้ัง ๒ ลักษณะ โรงเรียนแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณา หาก เห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ให้ซ้าช้ัน โดยยกเลิกผลการเรียนเดิมและให้ใช้ผลการเรียนใหม่แทน หาก พจิ ารณาแล้วไม่ตอ้ งเรียนซ้าช้นั ใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของผ้อู านวยการโรงเรียนในการแก้ไขผลการเรียน เกณฑ์การจบการศึกษา สถานศึกษาได้กาหนดเกณฑ์ ดงั นี้ 1. เกณฑ์กำรจบระดบั มัธยมศึกษำตอนตน้ 1.1 ผู้เรียนต้องได้รายวิชาพ้ืนฐานและเพ่ิมเติมไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพนื้ ฐาน 66 หน่วยกติ และรายวิชาเพ่มิ เตมิ ตามทีส่ ถานศกึ ษากาหนด 1.2 ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับ 1 (ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน) ขนึ้ ไป การประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน กาหนดผลการประเมินเป็น 4 ระดบั ระดับ 3 (ดีเย่ียม) หมายถึง มีผลงานแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนทมี่ คี ุณภาพดเี ลศิ อย่เู สมอ ระดับ 2 (ดี) หมายถึง มีผลงานแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนทีม่ ี คณุ ภาพเปน็ ท่ียอมรับ ระดับ 1(ผ่านเกณฑ์การประเมิน) หมายถึง มีผลงานแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะหแ์ ละเขียนทีม่ คี ณุ ภาพเปน็ ท่ยี อมรบั แต่ยงั มขี อ้ บกพรอ่ งบางประการ ระดับ 0(ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน) หมายถึง ไม่มีผลงานแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนหรือถ้ามีผลงาน ผลงานน้ันยังมีข้อบกพร่องที่ต้องไดร้ ับการ ปรับปรงุ แก้ไขหลายประการ 1.3 ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับ 1 “ผ่านเกณฑ์การประเมิน” ขน้ึ ไป คูม่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๖๓
Bannasan School การประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์กาหนดผลการประเมนิ เปน็ 4 ระดับ คอื ระดบั 3 (ดเี ยี่ยม) หมายถงึ ผู้เรียนปฏบิ ตั ติ ามคุณลกั ษณะ โดยพจิ ารณาจากผลการ ประเมินระดับดีเย่ียมจานวน 5-8 คุณลักษณะและไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ ปฏบิ ัติต่ากว่าระดับดี ระดบั 2 (ดี) หมายถงึ ผ้เู รยี นปฏิบัติตามคณุ ลกั ษณะ โดยพิจารณาจาก 1. ผลการประเมนิ ระดับดีเย่ยี มจานวน 1-4 คณุ ลักษณะและไมม่ คี ุณลักษณะ ใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่า ระดับดี 2. ผลการประเมินระดับดเี ยี่ยมจานวน 4 คุณลักษณะและไม่มีคุณลักษณะใด ไดผ้ ลการประเมินต่ากวา่ ระดับผา่ น 3. ผลการประเมินระดับดี จานวน 5-8 คุณลักษณะและไม่มีคุณลักษณะใด ได้ผลการประเมนิ ตา่ กว่า ระดบั ผา่ น ระดับ 1 (ผา่ นเกณฑ์การประเมิน) หมายถึง ผู้เรยี นปฏิบัติตามคณุ ลักษณะ โดยพิจารณาจาก 1. ผลการประเมินระดับผา่ น จานวน 5-8 คณุ ลกั ษณะและไมม่ ีคุณลกั ษณะใดได้ผล 2. การประเมนิ ต่ากว่า ระดับผา่ น 3. ผลการประเมนิ ระดับดี จานวน 4 คณุ ลกั ษณะและไมม่ ีคุณลักษณะใดได้ผลการ 4. ประเมินตา่ กวา่ ระดบั ผ่าน ระดับ 0(ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน) หมายถึง ผู้เรียนไม่ปฏิบัติตามคุณลักษณะหรือได้ผลการ ประเมินในระดับผ่านไม่เกิน 4 คณุ ลกั ษณะ 1.4 ผ้เู รยี นเข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและมผี ลการประเมนิ “ผา่ น” ทกุ กิจกรรมการประเมินการ เข้ารว่ มกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น กาหนดผลการประเมินเปน็ 2 คอื ผ หมายถงึ ผู้เรยี นมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ปฏิบัตกิ ิจกรรมและมีผลงานตาม เกณฑท์ ี่กาหนด มผ หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปฏิบัติกิจกรรมและมีผลงานไม่ เปน็ ไปตามเกณฑ์ทก่ี าหนด 2. เกณฑก์ ำรจบระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย 2.1 ผู้เรียนต้องได้รายวิชาพ้ืนฐานและเพ่ิมเติมไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา พ้นื ฐาน 41 หน่วยกติ และรายวิชาเพมิ่ เติมตามที่สถานศึกษากาหนด 2.2 ผเู้ รียนต้องมผี ลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี น ในระดบั 1 (ผา่ นเกณฑก์ าร ประเมนิ ) ขึน้ ไป การประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขยี น กาหนดผลการประเมนิ เปน็ 4 ระดบั ระดับ 3 (ดีเยย่ี ม) หมายถงึ มีผลงานแสดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียนท่ี มี คณุ ภาพดี เลิศอยูเ่ สมอ ระดับ 2 (ดี) หมายถึง มผี ลงานแสดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียนที่มี คุณภาพเปน็ ท่ียอมรับ คมู่ อื นักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๖๔
Bannasan School ระดับ 1 (ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ) หมายถึง มีผลงานแสดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี นทีม่ คี ุณภาพเปน็ ท่ียอมรับ แต่ยงั มีขอ้ บกพรอ่ งบางประการ ระดบั 0 (ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ) หมายถงึ ไมม่ ผี ลงานแสดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขียนหรือถ้ามีผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพร่องท่ีต้องได้รับการ ปรบั ปรุงแกไ้ ขหลายประการ 2.3 ผเู้ รียนต้องมผี ลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคใ์ นระดับ 1 “ผ่านเกณฑก์ าร ประเมิน” ข้ึนไป การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์กาหนดผลการประเมนิ เป็น 4 ระดับ คอื ระดับ 3 (ดีเยยี่ ม) หมายถงึ ผู้เรียนปฏบิ ัติตามคณุ ลักษณะ โดยพิจารณาจากผลการประเมิน ระดับดเี ยี่ยมจานวน 5-8 คณุ ลักษณะและไมม่ คี ุณลกั ษณะใดไดผ้ ลการปฏบิ ตั ิตา่ กวา่ ระดับดี ระดับ 2 (ด)ี หมายถงึ ผเู้ รยี นปฏบิ ัตติ ามคณุ ลักษณะ โดยพิจารณาจาก - ผลการประเมนิ ระดับดเี ย่ียมจานวน 1-4 คุณลักษณะและไม่มีคุณลักษณะ ใดไดผ้ ลการประเมินตา่ กวา่ ระดับดี - ผลการประเมินระดับดีเยี่ยมจานวน 4 คุณลักษณะและไม่มีคุณลักษณะใด ไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่า ระดบั ผา่ น - ผลการประเมินระดับดี จานวน 5-8 คุณลักษณะและไม่มีคุณลักษณะใด ได้ผลการประเมนิ ต่ากวา่ ระดบั ผ่าน ระดับ 1 (ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ) หมายถึง ผู้เรียนปฏบิ ตั ติ ามคณุ ลักษณะ โดยพิจารณาจาก - ผลการประเมนิ ระดับผา่ น จานวน 5-8 คณุ ลกั ษณะและไมม่ ีคุณลักษณะใด ได้ผลการประเมินต่ากวา่ ระดบั ผ่าน - ผลการประเมินระดับดี จานวน 4 คุณลักษณะและไม่มีคุณลักษณะใดได้ผล การประเมนิ ตา่ กว่า ระดับผา่ น ระดับ 0 (ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน) หมายถึง ผู้เรียนไม่ปฏิบัติตามคุณลักษณะหรือได้ผล การประเมินในระดบั ผา่ นไมเ่ กิน 4 คุณลักษณะ 2.4 ผู้เรยี นเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมผี ลการประเมนิ “ผ่ำน” ทุกกิจกรรมการประเมิน การเขา้ รว่ มกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน กาหนดผลการประเมินเปน็ 2 คือ ผ หมายถงึ ผูเ้ รยี นมเี วลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและมีผลงาน ตามเกณฑ์ท่ีกาหนด มผ หมายถึง ผู้เรยี นมเี วลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและมีผลงาน ไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑ์ทกี่ าหนด คูม่ อื นักเรยี นและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๖๕
Bannasan School สำหรับหอ้ งเรียนพิเศษมีเกณฑก์ ำรจบหลกั สตู ร เพมิ่ เติม ดงั น้ี ห้องเรยี นพิเศษภำษำอังกฤษ : Intensive English Program : IEP ผเู้ รียนเรยี นรายวชิ า/กิจกรรม เพมิ่ เตมิ ตามหลกั สตู รห้องเรยี นพิเศษภาษาอังกฤษ : Intensive English Program : IEP นอกเวลาเรียนปกติ (โปรแกรมเสรมิ ) และมีผลการเรยี น ดงั น้ี (๑) ผู้เรยี นเขา้ ร่วมกจิ กรรมปฐมนเิ ทศห้องเรยี นพิเศษตามทส่ี ถานศึกษากาหนด (๒) ผเู้ รยี นและผูป้ กครองเขา้ ร่วมกจิ กรรมทักษะวิชาการ IEP Show ตามท่ีสถานศึกษากาหนด (๓) ผู้เรียนเขา้ รว่ มการสอบวดั มาตรฐานความรู้ด้านภาษาองั กฤษโดยหนว่ ยงานภายนอก ตามท่ี สถานศึกษากาหนด (๔) ผู้เรียนเขา้ รว่ มกิจกรรมศึกษาแหลง่ เรยี นรู้ค่ายภาษาองั กฤษ ตามทส่ี ถานศึกษากาหนด อยา่ ง นอ้ ยปลี ะ ๑ ครั้ง (ม.๑ ในจังหวัด ม.๒ ตา่ งจังหวดั ม.๓ ต่างประเทศ) (๕) ผู้เรยี นเข้ารว่ มกิจกรรมสอนเสริมเพ่อื ส่งเสริมความเปน็ เลิศทางวชิ าการ ในวันเสาร์หรอื วัน อาทิตย์ ตามทส่ี ถานศกึ ษากาหนด (๖) ผูเ้ รียนเรียนเสรมิ ภาษาองั กฤษช่วงก่อนปิดภาคเรียน ตามที่สถานศึกษากาหนด อย่างนอ้ ยภาค เรยี นละ ๑๐ วนั ห้องเรยี นพิเศษวิทยำศำสตร์-คณิตศำสตร์ : Science and Mathematics Program : SMP ผู้เรียนเรียนรายวิชา/กิจกรรม เพิ่มเติมตามหลักสูตรห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ : Science and Mathematics Program : SMP นอกเวลาเรียนปกติ (โปรแกรมเสรมิ ) และมผี ลการเรียน ดงั นี้ (๑) ผเู้ รียนเขา้ ร่วมกจิ กรรมปฐมนเิ ทศห้องเรียนพิเศษตามทส่ี ถานศกึ ษากาหนด (๒) ผูเ้ รียนและผปู้ กครองเขา้ ร่วมกิจกรรมทักษะวิชาการ Science-Math Show ตามทีส่ ถานศึกษา กาหนด (๓) ผู้เรียนเขา้ รว่ มการสอบวัดมาตรฐานความรดู้ ้านวทิ ยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ โดยหน่วยงาน ภายนอก ตามท่สี ถานศึกษากาหนด (๔) ผู้เรยี นเขา้ ร่วมกจิ กรรมศึกษาแหลง่ เรียนรู้คา่ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ ตามท่สี ถานศึกษา กาหนด อยา่ งน้อยปลี ะ ๑ ครงั้ (ม.๑ ในจังหวัด ม.๒ ต่างจังหวัด ม.๓ ตา่ งประเทศ) (๕) ผเู้ รียนเข้าร่วมกิจกรรมสอนเสรมิ เพอ่ื สง่ เสริมความเป็นเลิศทางวชิ าการ ในวนั เสารห์ รอื วนั อาทิตย์ ตามทสี่ ถานศกึ ษากาหนด ห้องเรียนพเิ ศษภำษำอังกฤษ-ภำษำจนี : English and Chinese Program : ECP ผู้เรียนเรียนรายวิชา/กิจกรรม เพ่ิมเติมตามห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ-ภาษาจีน : English and Chinese Program : ECP นอกเวลาเรียนปกติ (โปรแกรมเสรมิ ) และมีผลการเรียน ดงั นี้ (๑) ผูเ้ รียนเข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศห้องเรียนพเิ ศษตามที่สถานศึกษากาหนด (๒) ผู้เรยี นและผ้ปู กครองเขา้ ร่วมกจิ กรรมทักษะวชิ าการ ECP Show ตามทส่ี ถานศึกษากาหนด (๓) ผเู้ รยี นเขา้ รว่ มการสอบวัดมาตรฐานความรู้ด้านภาษาจนี และภาษาองั กฤษ โดยหน่วยงาน ภายนอก ตามทสี่ ถานศึกษากาหนด คู่มือนกั เรียนและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๖๖
Bannasan School (๔) ผู้เรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมศึกษาแหลง่ เรยี นรู้คา่ ยภาษาอังกฤษและภาษาจีน ตามท่สี ถานศกึ ษา กาหนด อย่างน้อยปลี ะ ๑ ครัง้ (ม.๔ ในจังหวัด ม.๕ ตา่ งจงั หวดั ม.๖ ต่างประเทศ) (๕) ผูเ้ รียนเข้าร่วมกิจกรรมสอนเสริมเพ่ือสง่ เสริมความเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ ในวนั เสาร์หรอื วันอาทติ ย์ ตามท่สี ถานศึกษากาหนด (๖) ผู้เรยี นเรียนเสริมภาษาอังกฤษ/ภาษาจนี ช่วงก่อนปิดภาคเรยี น ตามทส่ี ถานศึกษากาหนด อยา่ ง น้อยภาคเรียนละ ๑๐ วัน ห้องเรยี นพิเศษวทิ ยำศำสตร์ คณติ ศำสตร์ และเทคโนโลยี : Science Mathematic and Technology : SMT ผู้เรียนเรียนรายวิชา/กิจกรรม เพ่ิมเติมตามห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี : Science Mathematic and Technology : SMT นอกเวลาเรียนปกติ (โปรแกรมเสริม) และมีผลการเรียน ดงั นี้ (๑) ผเู้ รียนเขา้ รว่ มกิจกรรมปฐมนิเทศห้องเรียนพิเศษตามท่ีสถานศึกษากาหนด (๒) ผู้เรยี นและผ้ปู กครองเขา้ ร่วมกิจกรรมทักษะวิชาการ Science-Math Show ตามท่ีสถานศึกษา กาหนด (๓) ผเู้ รียนเขา้ ร่วมการสอบวดั มาตรฐานความรู้ดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ โดยหนว่ ยงาน ภายนอก ตามทส่ี ถานศึกษากาหนด (๔) ผเู้ รียนเข้าร่วมกจิ กรรมศึกษาแหลง่ เรยี นรคู้ า่ ยวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ตามท่ี สถานศกึ ษากาหนด อยา่ งน้อยปลี ะ ๑ คร้งั (ม.๔ ในจังหวดั ม.๕ ต่างจงั หวดั ม.๖ ต่างประเทศ) (๕) ผเู้ รยี นเข้าร่วมกิจกรรมสอนเสริมเพอื่ สง่ เสริมความเป็นเลิศทางวชิ าการ ในวันเสาร์หรอื วันอาทิตย์ ตามท่สี ถานศกึ ษากาหนด คูม่ อื นักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๖๗
Bannasan School งำนห้องสมดุ ระเบยี บกำรใช้หอ้ งสมดุ กำญจนำภเิ ษก โรงเรยี นบำ้ นนำสำร เวลาทาการ วันจนั ทร์ – วนั ศกุ ร์ เวลา 07.00 น.- 16.30 น. สำหรับนักเรยี น 1. ไม่นากระเปา๋ หนังสือ หรอื เอกสารใด ๆเข้าห้องสมุด 2. ผ้ใู ช้ห้องสมดุ ควรแตง่ กายสภุ าพเรียบรอ้ ย 3. ไม่นาอาหารและเคร่ืองดื่ม หรือของขบเคย้ี วเขา้ ไปรบั ประทานในห้องสมดุ 4. ไม่สง่ เสยี งดังรบกวนผอู้ น่ื 5. ห้ามนง่ั ระหว่างชั้นหนังสือ ซึ่งจะทาให้ผู้อ่นื ไมไ่ ดร้ บั ความสะดวกในการค้นหาหนงั สือ 6. ชว่ ยกันรักษาหนงั สอื และวัสดุต่าง ๆ หา้ มขดี เขียน ทาลายตัดฉกี ทรัพยากรของห้องสมุด ทกุ ชนิด 7. เมอื่ อ่านหนงั สือเสร็จแล้ว ใหเ้ ก็บเข้าท่ีให้เรียบรอ้ ย 8. เมอ่ื ลุกจากที่นั่งอา่ นหนงั สือ ให้เกบ็ เกา้ อี้ใหเ้ รยี บรอ้ ยทุกคร้ัง ข้อปฏิบัตใิ นกำรยืม –คืนหนังสือ สำหรับนกั เรียน 1. ใช้บริการยมื – คนื หนังสือในเวลาพักกลางวัน เวลา 11.00 น. – 13.00น. 2. ผ้ทู ่ีจะยืมหนังสอื จะต้องแสดงบัตรประจาตวั นกั เรียนของตนเองทุกครั้งในการยืมและคืนหนงั สอื 3. ยมื หนังสือได้ครั้งละไม่เกิน 4 เลม่ ในเวลา 7 วนั แต่ละเลม่ จะต้องไม่ซ้ากนั 4. เมอื่ นักเรยี นไม่คนื หนังสือตามกาหนดใหเ้ สยี ค่าปรบั วนั ละ 1 บาทตอ่ 1 เลม่ นบั รวมวันหยุด 5. กรณหี นงั สอื หายหรอื ชารุดให้จัดหาหนงั สือเล่มนั้นมาแทน ในกรณที ่ีไม่สามารถซื้อได้ ต้องชาระเงนิ ค่า หนังสือเทา่ กบั ราคาหนังสือในปจั จุบัน 6. สิ่งพิมพ์ท่ไี ม่อนุญาตให้ยมื ออกนอกห้องสมุด ได้แกห่ นงั สอื อ้างอิง จลุ สาร กฤตภาค วารสาร หนงั สือพมิ พ์วารสารเย็บเล่ม วารสารใหม่ ขอ้ ปฏบิ ตั ิกำรใช้คอมพิวเตอร์ในหอ้ งสมุด 1. กอ่ นเขา้ ใช้งานเคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ุกครง้ั ต้องลงบันทกึ การเข้าใช้ทส่ี มดุ บันทึกการเข้าใช้ 2. หา้ มเปดิ รูปภาพหรอื Website ท่ไี มเ่ หมาะสม 3. ห้ามนาอุปกรณ์ใด ๆ ของคอมพิวเตอร์ออกนอกห้องสมุดโดยเด็ดขาด 4. ไมอ่ นญุ าตใหน้ าเกมและโปรแกรมอ่ืนมาใช้โดยไม่ไดร้ ับอนญุ าตจากอาจารย์หรือเจ้าหนา้ ท่ี 5. ใชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ดว้ ยความระมัดระวงั และหา้ มขีดเขียนขอ้ ความใด ๆ ทัง้ สิน้ ลงในอปุ กรณ์ทกุ ชน้ิ 6. หา้ มนากระเป๋าหรือสิ่งของมาวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ให้วางท่ีช้ันวางของหน้าหอ้ งสมดุ 7. หากพบวา่ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรเ์ ครื่องใดมปี ญั หา กรุณาแจ้งบรรณารกั ษ์หรือเจ้าหน้าที่ห้องสมุดด้วย 8. หากผใู้ ดทาผิดกฎระเบยี บการใชค้ อมพวิ เตอร์ เจ้าหน้าที่จะงดให้ผู้นั้นใช้คอมพิวเตอร์ช่วั คราว คมู่ อื นกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๖๘
Bannasan School งำนแนะแนว บรกิ ำรแนะแนว เป็นบรกิ ารทจี่ ัดใหก้ บั นักเรียนทุกคนในโรงเรียน ดังนี้ 1. บริการให้คาปรึกษา นักเรียนที่มีปัญหา หรือต้องการหาข้อมูลด้านการเรียน ด้านการศึกษาต่อ ด้านการเลือกอาชีพ ด้านส่วนตัว สามารถมาขอคาปรึกษาได้ที่ห้องแนะแนว หากไม่พบครูแนะ แนวนักเรยี นสามารถเขยี นโน้ตไว้บนโต๊ะครแู นะแนวและนดั เวลาขอพบได้ 2. บริการส่งต่อนักเรียน สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 และช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี6 ที่ประสงค์ จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาต่างๆ ในกรณีพิเศษ (โควตา) งานแนะแนวจะประสานกับ สถาบันการศึกษา และจัดส่งนักเรียนท่ีมีคุณสมบัติตามท่ีสถาบันกาหนดไปยังสถาบันการศึกษา น้นั ๆ 3. บรกิ ารทนุ การศึกษา นกั เรียนทมี่ ีปัญหาทางเศรษฐกิจ สามารถมาขอทุนการศึกษาได้ ซ่งึ ทนุ การศึกษามหี ลายประเภท ดังน้ี 3.1 ทนุ การศึกษาทัว่ ไป เปน็ ทุนท่ีทางโรงเรียนจัดหาและมอบใหแ้ ก่นกั เรยี นตาม คุณสมบัติของผ้รู บั ทุน ได้แก่ ทนุ เรียนดี ทุนกิจกรรมดี มจี ิตอาสา ทุนกีฬาเด่น ทุน ประพฤตดิ แี ละขาดแคลน ทุนความสามารถพเิ ศษ 3.2 ทนุ อุดหนุนปัจจยั พ้นื ฐานสาหรบั นกั เรยี นยากจน 3.3 ทนุ ยากจนพิเศษ แบบมีเง่ือนไข (นักเรยี นทนุ เสมอภาค) 3.4 ทุนพระราชทาน 3.5 กองทุนใหก้ ยู้ ืมเพื่อการศกึ ษา 4. บริการจัดโครงการเพื่อเสริมสรา้ งประสบการณ์อาชีพ ส่งนกั เรยี นไปฝกึ ประสบการณด์ ้านอาชีพ ในสถานประกอบการในช่วงปิดภาคเรยี น 5. บริการตดิ ตามผล งานแนะแนวจะติดตามผลนกั เรยี นทงั้ ท่ียงั ศึกษาในโรงเรยี นและสาเร็จ การศึกษาไปแลว้ เพอ่ื นาข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุง พฒั นาและวางแผนการบรหิ ารงานโรงเรียน ในดา้ นตา่ งๆ ค่มู ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๖๙
Bannasan School ทุนกำรศกึ ษำ โรงเรียนบ้ำนนำสำร มีการจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนหลายประเภท เพ่ือเป็นค่าเล่า เรียน ค่าใช้จ่ายท่ีเกี่ยวเน่ืองกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายท่ีจาเป็นในการครองชีพ ให้นักเรียนได้รับโอกาส ทางการศึกษา อย่างทั่วถึง โดยมีครูที่ปรึกษาและผู้ปกครองคอยให้การสนับสนุน ส่งเสริม และร่วมมือกัน เพ่ือให้เด็กเป็นคนดี มีความรู้ และเป็นท่ีพึ่งของครอบครัวในอนาคตข้างหน้า โรงเรียนได้แต่งต้ัง คณะกรรมการข้ึนเพ่ือพิจารณานักเรียนท่ีมคี ุณสมบตั ิทเ่ี หมาะสมกับทนุ การศกึ ษาแตล่ ะประเภท ทนุ อุดหนุนปัจจยั พ้นื ฐำนสำหรบั นักเรยี นมัธยมศกึ ษำตอนตน้ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท 1. เงินอดุ หนุนปัจจัยพน้ื ฐำนนกั เรียนยำกจน โดย สพฐ. จะจัดสรรให้ 30% ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษา ตอนตน้ ชองโรงเรียน ซง่ึ มแี นวทางในการดาเนนิ งานทนุ อดุ หนุนปัจจัยพืน้ ฐานของสถานศึกษาดงั น้ี 1.1 สารวจขอ้ มลู นกั เรยี นยากจน และรายงานขอ้ มลู ในระบบจดั เก็บข้อมูลนกั เรยี นรายบุคคล โดยใหร้ ะบุประเภทความด้อยโอกาสของนกั เรยี นเปน็ “ยากจน” 1.2 ครูลงพนื้ ทเ่ี ยี่ยมบา้ นนักเรยี น เพ่อื จดั เก็บข้อมลู สถานะเศรษฐกิจครวั เรือนของนกั เรยี น 1.3 รายงานข้อมลู ตามแบบขอรับทุนการศึกษานกั เรียนยากจน (แบบ นร.01และ นร.02) ผา่ น ระบบสารสนเทศปัจจัยพน้ื ฐานนกั เรียนยากจน (Conditional Cash Transfer: CCT) ตามระยะเวลาท่ี กาหนดในปฏทิ ินการดาเนินงาน เพ่อื เสนอขอรบั การสนับสนนุ งบประมาณ 1.4 จดั สรรงบประมาณให้นกั เรียนตามรายช่อื ที่ไดร้ บั จัดสรรและตดิ ตาม ควบคุม กากบั ให้ นกั เรียนใชจ้ ่ายงบประมาณใหเ้ ปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์ 1.5 รายงานผลการดาเนินงาน เกณฑ์กำรพจิ ำรณำคัดกรองนักเรยี นยำกจน 1. นักเรยี นท่ีพจิ ารณาจากเกณฑ์การคดั กรองนักเรยี นยากจนมีรายไดเ้ ฉลี่ยต่อครัวเรือนไม่เกนิ 3,000 บาท/เดอื น 2. เกณฑ์สถานะครัวเรือน ประกอบด้วย ครอบครัวมีภาระพ่ึงพิง สภาพท่ีอยู่อาศัยสภาพบ้าน ชารุดทรุดโทรม หรืออยู่บ้านเช่า ไม่มีรถยนต์ส่วนบุคคล เป็นเกษตรกรไม่มีที่ดินทากิน หรือมีที่ดิน (รวมเชา่ ) ไม่เกนิ 1 ไร่ กำรจำ่ ยเงินอุดหนนุ ปจั จัยพ้ืนฐำนสำหรบั นกั เรียนยำกจน โดยสถานศึกษาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการอย่างนอ้ ย 3 คนร่วมกนั จา่ ยเงนิ เป็นค่าอาหารกลางวันและ คา่ พาหนะในการเดนิ ทางมาโรงเรียน โดยใชใ้ บสาคัญรบั เงินเป็นหลักฐานในการจา่ ย ซ่งึ ใชล้ ักษณะแบบถวั จ่ายรายเดือนๆละ 375 บาท เปน็ เงนิ 1,500 บาท/คน/ภาคเรียน / 3,000 บาท/คน/ปี 2. เงนิ อุดหนนุ นกั เรียนยำกจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข (นกั เรยี นทนุ เสมอภำค) หลกั เกณฑ์กำรคดั กรองนกั เรยี นทุนเสมอภำค 1. การคดั กรองนักเรยี นทุนเสมอภาค กสศ.ใช้การประเมินจากข้อมลู ดงั ต่อไปนี้ 1.1 ขอ้ มูลรายได้เฉลย่ี ของสมาชกิ ครวั เรือนต่อคนต่อเดือน ไมเ่ กนิ 3,000 บาทต่อเดือน คู่มอื นักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๗๐
Bannasan School 1.2 ข้อมูลสถานะครวั เรือน ไดแ้ ก่ สมาชกิ ครวั เรอื นที่มภี าระพ่งึ พิง การอยู่อาศัย สภาพท่ีอยู่ อาศยั ที่ดนิ ทาการเกษตร(รวมเชา่ ) ยานพาหนะในครวั เรอื น ของใช้ในครวั เรือน(ท่ีใช้งานได้) 1.3 ให้มีการรับรองความถูกต้อง ของข้อมูลโดย 3 ฝ่ายดังต่อไปน้ี 1) ผู้ปกครองของ นกั เรยี น 2) ผู้อานวยการสถานศึกษา 3) เจ้าหน้าทข่ี องรฐั ให้เปน็ ไปตามประกาศสานักงานกองทุน เพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษาเรื่องหลักเกณฑ์การจัดให้มีการรับรองข้อมูลการขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือดอ้ ยโอกาสโดยเจา้ หน้าทข่ี องรฐั วิธกี ำรใชจ้ ำ่ ย เงินอุดหนนุ นักเรียนยำกจนพเิ ศษแบบมเี ง่ือนไข (นกั เรียนทนุ เสมอภำค) แบง่ กำรจดั สรรเงนิ ออกเป็น 2 ส่วน เทำ่ ๆกัน คือ สว่ นท่ี 1 สถานศึกษาจา่ ยเป็นเงินสดให้แกน่ ักเรียน/ผู้ปกครอง โดยสร้างความเข้าใจวัตถุประสงค์ ในการใชจ้ า่ ยเงินอุดหนุนให้นักเรียนและผูป้ กครอง ใช้จา่ ยเงิน ดังน้ี 1.ค่าหนงั สือเรยี นและอุปกรณ์การ เรยี น 2. คา่ เสอื้ ผา้ และวสั ดุเคร่อื งแต่งกายนักเรยี น 3. คา่ อาหารหรือคูปองคา่ อาหาร 4. คา่ พาหนะใน การเดินทาง หรือจ้างเหมารถรบั -ส่งนกั เรียน พรอ้ มถา่ ยภาพและลงลายมือช่ือไวเ้ ป็นหลักฐาน ซึง่ โรงเรียน จะให้ลงนามในเอกสารตามแบบฟอร์มใบสาคัญรบั เงิน (นร.06/กสศ.06) พร้อมแนบสาเนาบัตร ประชาชน หรอื จะลงลายมือชือ่ แบบอิเลก็ ทรอนิกสแ์ ละแนบภาพถา่ ยหนา้ บัตรประชาชนผา่ นระบบแอป พลิเคชนั ก็ได้ ทง้ั น้ภี าพถ่ายจะต้องประกอบด้วย 1) ผู้ปกครองเปน็ ผูร้ ับเงิน 2) ครปู ระจาชัน้ /ผู้แทนครู เปน็ ผ้บู นั ทึกข้อมลู 3) นักเรียนทุนเสมอภาค เปน็ พยาน 4) ผู้อานวยการโรงเรยี น หรือ เป็นพยาน สว่ นที่ 2 สถานศึกษาจา่ ยเป็นเงนิ สดให้นักเรยี นทนุ ยากจนพิเศษแบบมีเง่ือนไข(นกั เรียนทนุ เสมอ ภาค)เป็นค่าอาหารเช้าโดยแบ่งจา่ ยเป็นรายสัปดาห์จนครบ ตามที่ กสศ. จดั สรรงบประมาณให้มา กองทนุ ให้กยู้ มื เพอื่ การศึกษา (กยศ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา มุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาโดยสนับสนุนค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายท่ีเก่ียว เน่ืองกับการศึกษา และ ค่าครองชีพ แก่นักเรียน นักศึกษาท่ีมีความจาเป็นต้ังแต่ระดับ มัธยมปลายสายสามัญและสายอาชีพ อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยไม่คิดดอกเบี้ยระหว่างศึกษาอยู่ และจะต้องชาระเงินคนื หลังจากจบการศึกษาแล้ว 2 ปี โดยกองทนุ ฯ จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ตอ่ ปี ระยะเวลาผ่อนชาระคืนทั้งส้นิ ไม่เกนิ 15 ปี คณุ สมบตั ผิ ู้กยู้ ืม 1. เป็นผมู้ ีสัญชาตไิ ทย 2. เป็นผู้ท่มี ีรายได้ตอ่ ครอบครวั ไมเ่ กิน 200,000 บาทต่อปี รายไดต้ อ่ ครอบครวั 3. ต้องมอี ายุในขณะท่ีขอกู้ โดยเมื่อนับรวมกบั ระยะเวลาปลอดหน้ี 2 ปี และระยะเวลาผอ่ น ชาระอีก 15 ปี รวมกันแลว้ ต้องไมเ่ กนิ 60 ปี 4. เปน็ ผทู้ ีเ่ ขา้ ศึกษาในระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (สายสามญั -สายอาชีพ) ระดับอาชีวศึกษา หรืออุดมศกึ ษา ค่มู ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๗๑
Bannasan School 5. เปน็ ผู้ท่ีทาประโยชน์ตอ่ สงั คมหรอื สาธารณะในระหว่างปีการศึกษาก่อนหนา้ ปีการศึกษาที่จะ ขอกู้ยืมเงนิ โดยมหี ลกั ฐานการเขา้ รว่ มโครงการ/กจิ กรรมที่มปี ระโยชน์ต่อสังคมหรอื สาธารณะไมน่ อ้ ยกว่า 36ชั่วโมง ข้ันตอนกำรใหก้ ู้ยืมเงิน กยศ. 1. ผู้กูร้ ายใหมล่ งทะเบยี น Pre-Register ในระบบe-Studentloan เพอื่ รบั รหสั ผา่ นโดยไมร่ ะบุ สถานศึกษา 2. ผู้กรู้ ายเก่าและรายใหม่ย่ืนแบบคาขอก/ู้ แบบคายนื ยนั ขอกยู้ มื เงนิ ในระบบe-Studentloan ภายในระยะ เวลาที่กองทุนกาหนด สาหรบั ภาคเรียนที่ 1 ให้ดาวนโ์ หลดแบบคาขอกยู้ ืมเงิน (กยศ.101) และแนบเอกสารที่เก่ยี ว ขอ้ งสง่ ให้สถานศึกษาพิจารณาคุณสมบตั ิ 3. คณะกรรมการสถานศึกษาดาเนนิ การตรวจสอบคุณสมบัตสิ มั ภาษณ์นักเรยี นผู้มีสิทธิกู้ยมื 4. สถานศึกษาบนั ทึกกรอบวงเงนิ กยู้ ืมเงินทง้ั ปใี นระบบ e-Studentloan 5. สถานศกึ ษาประกาศรายชอื่ ผู้ไดร้ ับสทิ ธกิ ยู้ ืมในระบบ e-Studentloan 6. ผกู้ ยู้ มื ท้งั รายใหม่หรือรายเก่าท่ีเปลยี่ นระดับ/เปล่ยี นสถานศกึ ษา บนั ทกึ และพิมพ์สญั ญากยู้ มื เงินในระบบ e-Studentloan และนาส่งสญั ญาพร้อมเอกสารประกอบสญั ญาที่ได้ลงนามแลว้ ให้ สถานศกึ ษาตรวจสอบความถูกตอ้ ง 7. สถานศึกษายืนยันความถูกต้องของสญั ญาและสง่ ขอ้ มูลในระบบในระบบ e-Studentloan พรอ้ มลงนามในสัญญา 8. ผูก้ ูย้ ืมบนั ทึกจานวนเงินค่าเล่าเรยี นและ/หรือคา่ ใชจ้ ่ายที่เกย่ี วเนอ่ื งกับการศึกษาตามท่ี ประสงคก์ ูย้ ืมแต่ไม่เกินจานวนท่สี ถานศึกษาเรยี กเก็บจรงิ ในระบบ e-Studentloan 9. สถานศกึ ษาลงทะเบียนในระบบ e-Studentloan พร้อมกับพิมพ์แบบลงทะเบียน/แบบยนื ยนั จานวนเงนิ คา่ เลา่ เรียน ค่าใชจ้ ่ายที่เกีย่ วเนอ่ื งกบั การศึกษา และค่าครองชีพ ใหผ้ ูเ้ กยี่ วข้องลงนาม 10. สถานศกึ ษาตรวจสอบและยืนยันข้อมูลแบบลงทะเบยี น แบบยนื ยนั จานวนเงนิ ค่าเลา่ เรยี น ค่าใชจ้ า่ ยที่เกี่ยวเน่ืองกับการศึกษา และค่าครองชพี ในระบบ e-Studentloan 11. สถานศึกษารวบรวมสญั ญาและเอกสารประกอบสญั ญากยู้ มื และแบบลงทะเบยี นฯ จัดสง่ ให้ ผู้บรหิ ารและจดั การเงินใหก้ ยู้ ืม (บมจ.ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทย) คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๗๒
Bannasan School ขอบเขตจานวนเงินให้ก้ยู ืม ค่าเล่าเรียน/ค่าใช้จา่ ย คา่ ครองชีพ ทเ่ี กยี่ วเนื่อง (บาท/ราย/ป)ี ระดับการศกึ ษา/สาขาวชิ า (บาท/ราย/ป)ี 14,000 21,600 1.มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 21,000 2. ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) 3. ปวท./ปวส. หรอื เทยี บเทา่ 25,000 3.1 ประเภทวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ ศิลปกรรม คหกรรม 60,000 อตุ สาหกรรมการท่องเท่ียว 30,000 3.2 ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม เกษตรกรรม ประมง 36,000 อุตสาหกรรมสง่ิ ทอ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร และวิทยาศาสตร์สขุ ภาพ 60,000 3.2.1 สาขาวิชาช่างอากาศยาน ช่างเทคนคิ 50,000 ระบบขนสง่ ทางราง การตรวจสอบโดยไม่ทาลาย 70,000 การเดนิ เรอื 70,000 3.2.2 สาขาอืน่ ๆ นอกจาก 3.2.1 70,000 90,000 4. อนปุ รญิ ญา / ปริญญาตรี 200,000 4.1 สงั คมศาสตร์ ศลิ ปะศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ 4.1.1 สาขาที่ขาดแคลน/หรอื เป็นความต้องการของ ตลาดแรงงาน ได้แก่ บัญชี เศรษฐศาสตร์ สารสนเทศ นติ ศิ าสตร์ ภาษาตา่ งประเทศ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ครุศาสตร์อุตสาหกรรม โลจิสตกิ ส์ อุสาหกรรมบรกิ าร ธรุ กิจอตุ สาหกรรม และธรุ กจิ การบนิ 4.1.2 สาขาอ่ืนๆ นอกเหนือจาก 4.1.1 4.2 ศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ 4.3 วศิ วกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 4.4 เกษตรศาสตร์ 4.5 สาธารณสขุ ศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสชั ศาสตร์ 4.6 แพทยศาสตร์ สตั วศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ คู่มอื นักเรียนและผูป้ กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๗๓
Bannasan School กลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ คณะกรรมการบริหารงบประมาณ 1. งานบรหิ ารงานงบประมาณ นายพงษ์ศักด์ิ นาครพฒั น์ 2. คณะกรรมการบรหิ ารงานกลุม่ นางสาวจารุณี บัวแย้ม 3. งานแผนงานและโครงการ นางสาวจารณุ ี บัวแย้ม 4. งานการเงิน นางจิระภา สุขไกว 5. งานบญั ชี นางสุกัญญา คงแกว้ 6. งานตรวจสอบภายใน นางนตุ รยิ า เครือหงส์ 7. งานระดมทรัพยากรเพือ่ การศกึ ษา นางสาวจารุณี บวั แยม้ 8. งานบรหิ ารพัสดุและสินทรพั ย์ นางจริ าวรรณ นาคพิน คู่มือนกั เรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๗๔
Bannasan School กลุ่มบริหารงบประมาณ ตั้งอยู่ชน้ั 2 อาคารสัตตบรรณ กลมุ่ บรหิ ารงบประมาณของโรงเรียน มหี นา้ ที่สนบั สนุนการเรียน การสอนให้สัมฤทธ์ิผลตามความมุ่งหมายของหลักสูตรการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน หน้าท่ีท่ีฝ่ายบริหาร งบประมาณเกี่ยวข้องกับผ้ปู กครองและนกั เรยี น คือการอานวยความสะดวกในเร่ืองต่อไปนี้ กำรติดต่อกับฝ่ำยบริหำรงบประมำณ นักเรียนและผู้ปกครองสามารถติดต่อทางโทรศัพท์ โทรสาร ดงั ต่อไปนี้ หมายเลขโทรศพั ท์ 077-341044 หมายเลขโทรสาร 077-341935 งานที่อยู่ในความดูแลของฝ่ายงบประมาณประกอบด้วย งานบริหารงบประมาณ งานการเงิน งานพัสดแุ ละสนิ ทรพั ย์ ซึง่ แตล่ ะงานมีหน้าทร่ี ับผดิ ชอบดังน้ี 1. งานบริหารงบประมาณ รับผิดชอบเกี่ยวกับการโอนขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจาปีการเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณ การขอกันเงิน การเบิกจ่าย งบประมาณแทนกันและ ควบคุมการจ่ายงบประมาณประจาปี รวมทั้งการขอยืมเงินราชการ การควบคุม กากับ ดูแล การใช้ จา่ ยเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ 2. งานพัสดุและสินทรัพย์ รับผิดชอบในการดาเนินงานให้มีการใช้สินทรัพย์อย่างคุ้มค่ารวมท้ัง งานท่เี ก่ียวกบั ราชพัสดุ การบริหารทรัพย์สิน และการจดั หาพสั ดุ ควบคุม จาหนา่ ยและให้ คาปรึกษาและแกป้ ญั หาการพัสดุใหก้ บั ผทู้ เี่ ก่ียวขอ้ ง 3. งานการเงนิ และบัญชี ศกึ ษาวเิ คราะห์ จดั ทาบัญชี และรายงานการเงินของส่วนราชการ รวบรวมรายงานการเงนิ ของโรงเรยี นตามระบบบญั ชเี กณฑ์คงคา้ ง และการดาเนินงานการเบกิ -จา่ ย ในระบบ GFMIS 4. งานการบริหารเงินตามโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานอย่างเสมอ ภาคและเป็นธรรม เบิกจ่ายเงินนโยบายตามโครงการสนับสนนุ ค่าใชจ้ ่ายในการจัดการศึกษา ตามท่ีได้รับ จัดสรร จ่ายเงินสด ค่าเครื่องแบบนักเรียน และค่าอุปกรณ์การเรียนให้แก่นักเรียน ประสานงานกับ ผเู้ ก่ียวขอ้ ง เรื่องการจดั ซือ้ หนงั สือเรยี น และการจัดสรรเงินกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ตามที่ได้รับจดั สรร 5. การรบั บรจิ าคและระดมทรัพยากร เพื่อใหส้ ถานศึกษาใช้จ่ายในการจัดการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน ตามระเบียบของสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร คมู่ อื นกั เรียนและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๗๕
Bannasan School แนวทำงกำรดำเนินงำนตำมโครงกำรสนบั สนนุ ค่ำใช้จำ่ ยในกำรจดั กำรศกึ ษำ ต้ังแตร่ ะดับอนุบำลจนจบกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ปีงบประมำณ 2563 เกณฑก์ ำรจดั สรรงบประมำณและแนวทำงกำรดำเนินงำน 1. คำ่ จัดกำรเรียนกำรสอน (เงินอดุ หนุนรายหัว/ปจั จัยพนื้ ฐานสาหรับนักเรียนยากจน) สาหรับนักเรียนโรงเรียนปกติ มเี กณฑ์การจัดสรร ดงั นี้ 1.1 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ - เงนิ อุดหนนุ รายหัวโรงเรียนปกติ 1,750 บาท/คน/ภาคเรียน (3,500 บาท/คน/ป)ี - ค่าปัจจยั พืน้ ฐานสาหรบั นักเรียนยากจน (ร้อยละ 30) ของจานวนนกั เรยี น ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้นท้ังหมด 1,500 บาท/คน/ภาคเรียน (3,000 บาท/คน/ป)ี 1.2 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย - เงนิ อุดหนนุ รายหวั โรงเรยี นปกติ 1,900 บาท/คน/ภาคเรียน (3,800 บาท/คน/ปี) 2. คำ่ หนังสอื เรยี น 2.1 ลักษณะของหนงั สือทใี่ ช้ หนังสอื ท่ีกระทรวงศกึ ษาธิการสนบั สนุนงบประมาณใหส้ ถานศึกษาจัดซื้อตามนโยบาย การสนับสนุนค่าใชจ้ า่ ยในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนบุ าลจนจบการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ได้แก่ 2.1.1 ระดบั มัธยมศึกษา (ม.1-ม.6) เป็นหนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พน้ื ฐานรายวิชา พน้ื ฐาน 8 กล่มุ สาระการเรียนรู้ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 2.1.2 งบประมาณค่าหนงั สือทีไ่ ดร้ บั ปี 2563 มลู ค่ำหนงั สือต่อชดุ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 764 บาท/คน/ปี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 877 บาท/คน/ปี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 949 บาท/คน/ปี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 1,318 บาท/คน/ปี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 1,263 บาท/คน/ปี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 1,109 บาท/คน/ปี 3. ค่ำอปุ กรณ์กำรเรียน มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 210 บาท/ภาคเรียน (420 บาท/ป)ี มธั ยมศึกษาตอนปลาย 230 บาท/ภาคเรียน (460 บาท/ป)ี 4. ค่ำเครอ่ื งแบบนักเรยี น เคร่อื งแบบนกั เรยี น ประกอบดว้ ย เส้ือ/กางเกง/กระโปรง คนละ 2 ชุด/ปี ในอัตรา ดังนี้ มัธยมศึกษาตอนตน้ 450 บาท/คน/ปี มธั ยมศึกษาตอนปลาย 500 บาท/คน/ปี คู่มอื นกั เรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๗๖
Bannasan School กรณีนกั เรยี นมชี ดุ นกั เรียนเพียงพอแล้ว สามารถซ้อื เขม็ ขดั รองเท้า ถุงเท้า ชดุ ลกู เสือ/เนตร นาร/ี ผู้บาเพญ็ ประโยชน/์ ชดุ กฬี าได้ กรณกี ารจดั ซือ้ ชดุ นกั เรยี นที่แตกตา่ งไปจากชดุ นกั เรียนปกติและ ราคาสงู กวา่ ท่ีกาหนดวงเงิน ดังกล่าว อาจซื้อได้เพียง 1 ชุด ทัง้ น้ี ผปู้ กครอง/นักเรียน สามารถถวั จา่ ยระหวา่ งเครอื่ งแบบนักเรียน และอปุ กรณ์การเรียนได้ 5. กำรบรกิ ำรเทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรส่อื สำร (ICT) ทั้งน้ีในการงานแผนกาหนดกิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี นตอ้ งให้ภาคี 4 ฝา่ ย (ผู้แทนครู ผแู้ ทน ผู้ปกครอง ผู้แทนชุมชน และผแู้ ทนคณะกรรมการนักเรยี น) และคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานมี ส่วนร่วมและพิจารณา โดยท่ีผลการพจิ ารณาต้องไมเ่ ปน็ การรอนสทิ ธ์ิของเด็กยากจน เด็กที่มีความ ตอ้ งการพิเศษ และเด็กด้อยโอกาสท่ีพงึ ไดร้ ับ คู่มือนักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๗๗
Bannasan School คู่มอื นักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๗๘
Bannasan School กล่มุ บริหารทั่วไป คณะกรรมการกล่มุ บริหารท่ัวไป 1. งานสานักงานกลมุ่ นางสาวรตั นา ธนเกียรติวงษ์ 2. งานอาคารสถานทีล่ ะสิง่ แวดลอ้ ม นายสรุ ศักด์ิ ปราสาทิกะพนั ธ์ 3. งานควบคมุ ภายใน นางปยิ ะมาศ ปราสาทกิ ะพนั ธ์ 4. งานโรงเรยี นกับชมุ ชน นางสาวรตั นา ธนเกียรติวงษ์ 5. งานกิจกรรมเสริมหลักสตู ร นางสาวรตั นา ธนเกยี รติวงษ์ 6. งานอนามยั โรงเรยี น นางพรรณวดี ทววี ิทย์ชาครยิ ะ 7. งานยานพาหนะ นางสาวอารยี ์ ยหี มาด 8. งานโภชนาการและคุ้มครองผบู้ รโิ ภค นางศริ ิรชั โสมล 9. งานสือ่ สารและประชาสัมพันธ์ นางสาวสชุ าดา เสวกสตู ร 10. งานธนาคารโรงเรยี น นางสาวพิชญา พรหมปองสุข 11. งานบรหิ ารสาธารณะ นายสมเกียรติ จาปีพนั ธ์ 12. งานเวรยาม นายวันชยั ชว่ ยไทย คูม่ อื นักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๗๙
Bannasan School ห้องพยำบำล ขอ้ ปฏิบตั กิ ำรให้บริกำรหอ้ งพยำบำลโรงเรยี นบำ้ นนำสำร 1. ห้องพยาบาล เปิดใหบ้ ริการ เวลา 07.30 - 16.30 น. 2. ครู นักเรียนและเจา้ หน้าท่ีของโรงเรียนที่ปว่ ย มารับบริการ กรณุ าลงชอ่ื ในสมดุ บันทึกสถิตกิ ารใช้ บรกิ ารทุกคร้ัง 3. ผูร้ บั บริการให้แจง้ อาการแพย้ า และช่อื ยาทแี่ พ้ดว้ ยทกุ ครั้ง 4. หากผ้ปู ว่ ย มีโรคประจาตัว ต้องแจง้ ให้ครหู อ้ งพยาบาล ทราบทุกคร้ัง 5. ห้ามหยิบยารบั ประทานเอง 6. นักเรียนทป่ี ว่ ย หากต้องการนอนพัก ให้ติดต่อขออนุญาตจากครทู ่ปี รึกษา หรือครูผู้สอน กอ่ นลงมาพัก และมีใบอนุญาตใหม้ านอนพักทีห่ ้องพยาบาลทุกครัง้ 7. ห้ามเขา้ เย่ยี มนักเรียนทน่ี อนพักห้องพยาบาล 8. หา้ มสง่ เสยี งดังรบกวน ครูและนกั เรยี นท่ีป่วย 9. นกั เรยี นท่ปี ่วยมาก หรือไดร้ ับอุบตั ิเหตทุ ร่ี ุนแรง จะนาส่งโรงพยาบาลบา้ นนาสารหรอื สานักงาน สาธารณสขุ เทศบาลเมืองนาสาร และอยใู่ นขอ้ ตกลงของงานประกนั อุบตั ิเหตุ ระเบียบกำรใชโ้ รงอำหำร 1. โรงอาหารเปดิ บริการ ดงั น้ี ๘๐ เชา้ 06.30 – 07.30 น. ทุกระดับช้ัน กลางวัน 11.00 – 12.00 น. ม. 1 ม. 2 ม. 3 12.00 – 13.00 น. ม. 4 ม. 5 ม. 6 2. เขา้ แถวซอื้ อาหาร 3. ห้ามนาอาหารและเครอื่ งด่ืมทกุ ชนิดออกนอกโรงอาหาร 4. ห้ามนาภาชนะทกุ ชนดิ ออกนอกโรงอาหาร 5. ห้ามตดิ ป้ายทุกชนิดในบรเิ วณโรงอาหารก่อนได้รับอนญุ าต 6. ห้ามใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ทุกชนิดในโรงอาหารก่อนไดร้ บั อนุญาต 7. เกบ็ ภาชนะหลังรบั ประทานอาหารอิ่มแลว้ ทกุ คร้ัง 8. ขออนญุ าตทกุ ครั้งก่อนใชโ้ รงอาหารรวมท้ังการขอรบั ประทานอาหารก่อนเวลา 9. ไม่เลน่ และสง่ เสียงดังบริเวณโรงอาหาร 10. ชว่ ยกันรกั ษาความสะอาดในโรงอาหาร 11. ไม่ทาใหภ้ าชนะ อุปกรณ์ และส่ิงต่าง ๆ บรเิ วณโรงอาหารเสยี หาย 12. หา้ มเคลือ่ นย้ายโต๊ะ เก้าอี้ ในโรงอาหาร คู่มือนักเรยี นและผ้ปู กครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563
Bannasan School อำคำรสถำนที่ ระเบียบกำรใช้อำคำรสถำนท่ีท่ีนกั เรียนต้องปฏิบัติ มีดังนี้ 1. ไม่เล่นบนอาคารเรยี น 2. ไม่เลน่ สวติ ซ์ไฟฟ้าในห้องเรียน และแผงสวิตซค์ วบคมุ ไฟฟ้าประจาอาคาร 3. ไม่เลน่ ฟตุ บอลในอาคารเรียนและบริเวณใกลเ้ คียง 4. หา้ มเล่นถังนา้ ยาดับเพลิง 5. ห้ามนัง่ ยืน บนโต๊ะทกุ ชนิด 6. นกั เรียนต้องช่วยรักษาความสะอาด และทาความสะอาดในเขตพนื้ ทคี่ วามรบั ผิดชอบของ ตนเอง 7. ต้องขออนุญาตก่อนทาการเคลอ่ื นยา้ ยอุปกรณป์ ระจาอาคารทกุ คร้ัง และต้องเคลือ่ นย้ายดว้ ย ความระมัดระวัง 8. ห้ามปนี หน้าต่างเล่น และหา้ มลงไปที่กันสาด 9. ห้ามปดิ ประกาศตามฝาผนังอาคารดว้ ยวสั ดุชนิดทีท่ าให้สผี นังลอก (ให้ตดิ เฉพาะท่กี าหนดไว้ เท่านน้ั ) 10. หา้ มเขียน ขดู ขีด หรือพ่นสี ทาให้อาคาร สถานท่หี รือโต๊ะ เก้าอ้ี สกปรก 11. หา้ มนานา้ ยาลบคาผดิ (ลิควิดเปเปอร)์ มาใช้ในสถานศึกษา 12. ห้ามนาอาหารและเครือ่ งดมื่ ข้นึ บนอาคารเรยี น 13. ห้ามข้ึนบนอาคารเรียนก่อนเวลา 07.00 น. ชว่ งพกั กลางวันและหลังชวั่ โมงเรียนสุดทา้ ย นอกจากไดร้ ับอนญุ าตเปน็ รายบคุ คล 14. หา้ มนักเรยี นสวมรองเทา้ ข้ึนบนอาคารเรยี น 15. ห้ามทาลายสมบตั ิของโรงเรยี น กรณที ีน่ ักเรียนทาความเสยี หายเกีย่ วกบั วสั ดุ อุปกรณ์ในด้าน อาคาร สถานที่ จะต้องชดใช้ตามราคาสิ่งของที่เปน็ จรงิ 16. นักเรยี นมหี น้าท่ีศึกษาและปฏิบตั ติ ามระเบียบการใชห้ อ้ งพเิ ศษตา่ ง ๆ รำ้ นค้ำสวสั ดิกำรโรงเรยี น ระเบยี บกำรใชร้ ้ำนคำ้ สวัสดิกำรโรงเรยี น 1. รา้ นค้าสวสั ดิการโรงเรยี น เปดิ บริการ ดงั นี้ ชว่ งเช้ากอ่ นเขา้ เรียน เวลา 06.30 – 08.20 น. ชว่ งเวลาเรียน เวลา 09.30 – 16.00 น. 2. หา้ มขโมยสินคา้ ทกุ ชนดิ 3. ไมเ่ ล่นและสง่ เสยี งดงั บริเวณรา้ นคา้ สวสั ดกิ ารโรงเรียน 4. ช่วยกันรกั ษาความสะอาดบริเวณรา้ นค้าสวสั ดกิ ารโรงเรียน ค่มู ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๘๑
Bannasan School ระเบยี บโรงเรยี นบ้ำนนำสำร ว่ำด้วย กำรใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพวิ เตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณส์ อื่ สำรในโรงเรยี น พ.ศ. 2561 ........................................................... สภาพปัจจุบันตามนโยบายรัฐบาย ไทยแลนด์ 4.0 การใช้เทคโนโลยีมีความจาเป็นต่อการ เรียนการสอน และการติดตอ่ สื่อสานงานระหว่างครูกับนักเรยี น หรือผูป้ กครองกับนกั เรยี น โทรศัพท์มอื ถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์ส่ือสาร จึงมีความจาเป็นสาหรับนักเรียน ในขณะเดียวกัน ถ้านักเรียนนาโทรศัพท์มาใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมไม่เกิดผลดีกับนักเรียน จะส่งผลกระทบต่อนักเรียน พฤติกรรมความปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ยส์ ิ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการจัดการเรียนการสอนของนักเรียน คุณครู ผู้ปกครองร่วมป้องกัน ปัญหาต่าง ๆ ท่ีอาจจะเกิดข้ึนกับนักเรียน โรงเรียนบ้านนาสาร จึงอนุญาตให้นักเรียนนาโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์สื่อสาร มาโรงเรียนได้ แต่นักเรียนจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ ของโรงเรียนบ้านนาสาร ว่าด้วย การใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์ส่ือสาร ในโรงเรียน พ.ศ. 2561 อยา่ งเครง่ ครดั ดังน้ี ข้อ 1. ระเบียบน้ีเรียก “ระเบียบโรงเรียนบ้านนาสาร ว่าด้วย การใช้โทรโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณส์ ือ่ สารในโรงเรยี น พ.ศ.2561” ข้อ 2. ใหใ้ ช้ระเบยี บนี้ ตง้ั แตว่ ันท่ี 1 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป ข้อ 3. ระเบียบใด ๆ ที่สอดคล้อง “ระเบียบโรงเรียนบ้านนาสาร ว่าด้วย การใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์สื่อสารในโรงเรียน พ.ศ. 2561 ” นี้ ให้ใช้ระเบียบโรงเรียน บ้านนาสาร ว่าด้วย การใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์ส่ือสารในโรงเรียน พ.ศ. 2561 นแ้ี ทน ข้อ 4. ในระเบียบโรงเรียนบา้ นนาสาร ว่าดว้ ย การใชโ้ ทรศพั ท์มอื ถือ คอมพวิ เตอร์ (NOTE BOOK) และอปุ กรณส์ ่อื สารในโรงเรยี น พ.ศ. 2561 นี้ 4.1 โรงเรยี น หมายถึง โรงเรยี นบ้านนาสาร 4.2 ครูและบุคลากร หมายถึง ครูและบุคลากรท่ีทาหน้าท่ีให้ความรู้ อบรมสั่งสอนนักเรียน ในโรงเรยี นบา้ นนาสาร 4.3 นกั เรียน หมายถึง นักเรียนทุกคนที่กาลังศกึ ษาอยู่ ณ โรงเรยี นบา้ นนาสาร 4.4 ผู้ปกครอง หมายถงึ บิดา มารดา หรอื บุคคลท่ลี งชอ่ื มอบตวั นักเรยี นไว้กับโรงเรยี นบ้าน นาสารในวัยทมี่ อบตวั นกั เรยี น คู่มือนักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๘๒
Bannasan School 4.5 อุปกรณ์ส่ือสาร หมายถึง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์ สื่อสาร หรอื อปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนิคส์อืน่ ๆ ท่ีมลี ักษณะการใชง้ านในลกั ษณะเดียวกัน ข้อ 5. นักเรียนที่นาโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์ส่ือสาร มาโรงเรยี น จะต้องปฏบิ ัตดิ งั นี้ 5.1 การนาโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์สื่อสาร มาโรงเรียน เพ่ือใช้ประกอบการเรียนการสอนเท่านั้น ไม่ใช้เพื่อการติดต่อสื่อสาร ฟังเพลง ดูสื่อ หรือเล่นเกมใด ๆ ในขณะที่มีการเรยี นการสอน 5.2 ถ้ามีความจาเป็นจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์ สื่อสารในการค้นคว้าหาข้อมูลประกอบการเรียนในขณะที่อยู่ในห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ หรือห้องสอบ จะต้องไดร้ บั อนญุ าตจากครูผสู้ อนในคาบเรยี นน้ัน ๆ และถา้ อย่ใู นชว่ งการเรยี นการสอนให้นาไปเกบ็ ไว้ในที่ ท่โี รงเรยี นจัดไวเ้ ท่านั้น 5.3 หากมคี วามจาเป็นจะต้องใช้โทรศัพทม์ ือถือติดตอ่ สื่อสารกับผ้ปู กครองหรือบุคคลอน่ื ใน บริเวณโรงเรียนใหใ้ ช้เวลาว่างจากการเรียนโดยพูดในบริเวณทเี่ ปดิ เผยนั่งพดู ประจาทที่ เ่ี หมาะสมไมเ่ ดินพูด 5.4 หา้ มใช้โทรศพั ทม์ ือถอื คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์ส่อื สาร ในการถ่ายรปู คลปิ ต่าง ๆ ท่ีไมเ่ หมาะสม และนาไปเผยแพร่อันจะนามาซึ่งความเสียหายหรือทาลายช่อื เสียงของโรงเรียน และบคุ คลอื่น 5.5 ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์สื่อสาร เผยแพร่ ข้อความเพื่อก่อเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทหรือยุยงให้เกิดการตากความสามัคคี ท้ังภายในและภายนอก โรงเรยี น 5.6 ห้ามชาร์จโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์สื่อสาร กับปลั๊ก ไฟฟา้ ของโรงเรยี น 5.7 ให้นกั เรยี นเก็บรักษาโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณส์ ื่อสาร ให้ปลอดภัย หากเกิดการสูญหายหรือเสียหายและหาผู้รบั ผดิ ชอบไม่ได้ ทางโรงเรียนจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทัง้ สนิ้ 5.8 หากนักเรียนกระทาผิด ตามข้อ 5.1 – 5.7 ข้อหนึ่งข้อใด คุณครูจะว่ากล่าวตักเตอื น หรือยึดโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ (NOTE BOOK) และอุปกรณ์ส่ือสารทันที แล้วนามาเก็บไว้ที่กลุ่ม บริหารกิจการนักเรียน โดยเชิญผู้ปกครองมาติดต่อขอรับคืนต่อไปอยู่ในดุลยพินิจของคณะ กรรมการบริหารกิจการนักเรยี น คูม่ อื นักเรยี นและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๘๓
Bannasan School ข้อ 6 ใหร้ องผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารกจิ การนกั เรยี น รักษาการให้เปน็ ไปตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันท่ี 1 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 (นายสมชาย กิจคาม) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบา้ นนาสาร คมู่ อื นักเรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๘๔
Bannasan School กลุ่มบรหิ ารกิจการนักเรยี น คณะกรรมการกลุ่มบริหารกจิ การนักเรียน 1. งานบรหิ ารกจิ การนักเรยี น นายพงษ์ศักด์ิ นาครพฒั น์ 2. งานระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน 3. งานส่งเสริมระเบียบวินัยและความประพฤตินกั เรยี น นายพงษ์ศักด์ิ นาครพฒั น์ 4. งานสารวัตรนกั เรยี น 5. งานส่งเสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม นายพงษ์ศกั ด์ิ นาครพฒั น์ 6. งานสภานกั เรียนและส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในโรงเรียน 7. งานประกนั อบุ ตั ิเหตุ นายสายันต์ ศรีพงษพ์ ันธ์กุ ุล 8. งานสานักงานกลุ่ม นายศิริศกั ดิ์ ทองเหมือน นางสาวกมลลักษณ์ สิริภทั รธนากลู นางสาววาสนา ชัยพรหม นางนิทยา บุญฤทธิ์ คูม่ ือนกั เรียนและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๘๕
Bannasan School ระเบียบและแนวปฏบิ ัติของนักเรยี นโรงเรยี นบำ้ นนำสำร เพ่ือให้การปฏิบัติตนของนักเรียนในด้านต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความเข้าใจที่ตรงกัน ท้ังครู บุคลากร และนักเรียน เป็นผลดีต่อการบริหารและการปกครองรวมท้ังการรักษาชื่อเสียงของ โรงเรียน และส่วนรวม นักเรียนเป็นที่รักของครูบุคลากรทางการศึกษา และผู้ปกครอง ตลอดถึงเป็น แบบอย่างทดี่ แี กบ่ ุคลอ่นื จงึ กาหนดใหม้ ีแนวปฏบิ ัติของนักเรียนในเรอื่ งต่าง ๆ ไวด้ ังนี้ อาสาสมัครสารวัตรนักเรียนโรงเรียนบ้านนาสาร อาสาสมัครสารวัตรนักเรียน คือ นักเรียนใน โรงเรยี นบ้านนาสารท่อี าสาสมัครเปน็ สารวตั รนกั เรียน ของโรงเรียนบ้านนาสาร ซึง่ ต้องรักษาระเบยี บ วนิ ยั และจรรยาบรรณดงั น้ี 1. อาสาสมัครสารวัตรนักเรียนโรงเรียนบ้านนาสารต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เรียน ของโรงเรียนบา้ นนาสารและผคู้ นท่ีพบเหน็ 2. อาสาสมัครสารวัตรนักเรียนโรงเรียนบ้านนาสาร ต้องเอาใจใส่ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความเต็มใจ และบรสิ ทุ ธใิ์ จ มคี วามซอื่ สัตย์และซอื่ ตรง 3. อาสาสมัครสารวัตรนักเรียนโรงเรียนบ้านนาสารต้องมีความอดทน อดกลั้น ปฏิบัติหน้าที่ดว้ ย ความเมตตาธรรม และเสยี สละ อาสาสมัครสารวัตรนักเรียนโรงเรียนบ้านนาสารมีหน้าท่ี และบทบาทในการพัฒนาความ ประพฤตแิ ละพฤติกรรมของนักเรยี นโรงเรยี นบ้านนาสารดงั ต่อไปนี้ 1. ร่วมกบั ครู บคุ ลากรในการแกป้ ญั หาความประพฤติและคุณธรรมจรยิ ธรรมของนกั เรียน 2. ร่วมกับครู บคุ ลากรสอดสอ่ งดูแลความประพฤติของนักเรยี น 3. ให้ถือเป็นหน้าที่ท่ีต้องให้คาแนะนา กระตุ้นเตือนแก่นักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับ สภาพเป็นนักเรยี น 4. ปฏบิ ตั ิงานอ่นื ตามท่ีนกั เรียนหรือ ครู บุคลากรทีเ่ กีย่ วข้องมอบหมาย กำรเข้ำแถว 1. เม่ือได้ยินสัญญาณครั้งที่ 1 ให้นักเรียนหยุดการเล่นหรือกิจกรรมอ่ืนใด เพ่ือเตรียมตัวเข้าแถว ให้นักเรยี นทากิจกรรมส่วนตวั ใหเ้ รยี บร้อย และไปรอเข้าแถว 2. เม่ือได้ยินสัญญาณคร้ังท่ี 2 ให้นกั เรยี นเข้าแถวตามช้ันที่กาหนดไว้ รีบจดั แถวให้เรียบร้อยและ อยใู่ นความสงบ 3. ทาพิธีเชิญธงชาติข้ึนสู่ยอดเสา สวดมนต์ไหว้พระ ร้องเพลงโรงเรียน กล่าวคาปฏิญาณตนด้วย ความพรอ้ มเพรยี ง 4. ต้ังใจรับฟังประกาศจากครูเวรประจาวัน หรือตัวแทนนักเรยี น การอบรมจากครูเวรประจาวนั หรือผูบ้ รหิ าร หรือกิจกรรมอน่ื ๆ ของโรงเรยี น 5. เม่ือมีคาสั่งให้แยกย้ายเข้าห้องเรียน นักเรียนต้องเดินเป็นแถวเรียง 1 ด้วยความเป็นระเบียบ เรยี บรอ้ ย ไปยังอาคารเรยี นทุกคน หา้ มแยกแถวตัดแถว ก่อนถึงอาคารเรยี น คู่มอื นักเรียนและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๘๖
Bannasan School 6. ต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นอาคารเรยี นทุกครัง้ และต้องสวมรองเท้าให้เรียบร้อยเมื่อลงหรือออก จากบริเวณอาคาร กำรใช้และกำรปฏบิ ตั ิตนในหอ้ งเรียน 1. เวลาเข้าห้องเรยี น ใหน้ ารองเทา้ ไปวางหลังห้องให้เรียบร้อย 2. ขณะที่กาลังเรียน การลุกอกจากท่ีน่ัง หรือออกนอกห้อง หรือการทากิจกรรมอ่ืนๆ ต้องขอ อนุญาตจากครูผูส้ อนกอ่ นทกุ ครง้ั 3. ขณะท่ีอยู่ในห้องเรียน ห้ามนักเรียนรับประทานอาหาร ห้ามวิ่งเล่น ห้ามร้องเพลง เคาะโต๊ะ หยอกลอ้ ซึ่งกนั และกัน ห้ามสง่ เสียงเอ็ดอึง หรอื กระทาการอ่นื ใดทีไ่ มเ่ ป็นผลดตี ่อการเรยี น 4. หา้ มนักเรียนนาโต๊ะเก้าอ้ี โตะ๊ หรืออปุ กรณ์อื่นๆ มาใช้เป็นท่นี อนในห้องเรียน ท้งั ในเวลาเรียน และเวลาพกั 5. นกั เรียนต้องชว่ ยกนั รกั ษาทรัพย์สนิ ในห้องเรยี น 6. หา้ มท้ิงขยะลงบนกนั สาดห้องเรียน 7. ต้องชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาดภายในห้องเรยี น 8. ในกรณีท่ีครูไม่อยู่ในห้องเรยี น ให้ทุกคนอยู่ในห้องเรยี นด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ส่ง เสยี งดงั หรือทาการใดๆ อันเป็นเหตุรบกวนผอู้ ่นื 9. ถ้ามีความจาเป็นตอ้ งออกนอกหอ้ งเรียนขณะท่คี รูไม่อยู่ ให้แจ้งหวั หน้าหอ้ งทราบ 10. ถ้าครูประจาวิชายังไม่เข้าห้องเกิน 5 นาทีไปแล้ว ให้หัวหน้าชั้นรีบแจ้งหัวหน้าหมวดวิชา นน้ั ๆ หรอื หวั หนา้ ฝ่ายวิชาการทราบทันที 11. ถ้ามีความจาเป็นต้องพบเพื่อนนักเรียนที่เรียนอยู่ในห้องอ่ืนๆ ขณะท่ีครูกาลังสอนให้ขอ อนญุ าตครทู สี่ อนกอ่ น 12. ในกรณีท่ีนักเรียนต้องไปเรียนที่ห้องปฏิบัติการเฉพาะวิชา หรือห้องอื่นๆ ให้เดินเป็นแถวไป กลบั ด้วย ความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย 13. ต้งั ใจเรียน ไมท่ างานหรอื นาวชิ าอน่ื ขน้ึ มาทาโดยท่คี รูผู้สอนไม่อนญุ าต 14. ไมน่ าของมีคา่ อาวุธ หรือส่ิงอืน่ ท่ีไม่เกี่ยวขอ้ งกบั การเรยี นการสอนเขา้ มาในห้องเรียน 15. หา้ มนักเรยี นซ้ืออาหาร หรอื เครือ่ งดื่มมารับประทานในห้องเรียน กำรลำโรงเรียน 1. เม่ือนักเรียนไม่สามารถมาโรงเรียนได้ ต้องส่งใบลาท่ีมีลายเซ็นผู้ปกครอง (ครูที่ปรึกษาต้อง บนั ทกึ ในสมุดการสอนของห้องให้ครปู ระจาวิชาทราบ ส่วนใบลาครูทปี่ รึกษาเกบ็ ใบลาไวเ้ ปน็ หลักฐาน) 2. ถ้านักเรียนลาโรงเรียนเกิน 7 วัน ต้องมีใบรับรองแพทย์มายืนยัน ในกรณีที่ลาป่วย ถ้าลากิจ ตอ้ งนาผู้ปกครองมาพบอาจารยท์ ี่ปรึกษา คูม่ อื นักเรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศึกษำ 2563 ๘๗
Bannasan School กำรมำโรงเรยี น 1. นักเรยี นทุกคนตอ้ งมาโรงเรยี น กอ่ นเวลา 07.35 น. 2. นักเรียนที่มาโรงเรียนหลังเวลา 07.35 น.(สัญญาณที่ 2) ขึ้นไปถือว่ามาสายจะต้องปฏิบัติ ดังน้ี 2.1 นกั เรยี นคนใดมาถงึ โรงเรียนระหวา่ งเวลา 07.35 – 07.40 น. ตอ้ งทากิจกรรมดงั น้ี 1. ลงชื่อบันทึกการมาสายในสมุดประจาตัวนักเรียน และแบบบันทึกการมาสาย ประจาวันของโรงเรียน 2. ทากิจกรรมร้องเพลงชาติ สวดมนต์ รอ้ งเพลงโรงเรยี น และกล่าวคาปฏิญาณ 3. ทากจิ กรรมอนื่ ตามท่คี รเู วรเห็นสมควร 2.2 ในกรณีทีม่ าสายหลังเวลา 08.10 น. ใหด้ าเนินการดงั น้ี 1. ลงชือ่ มาสายในแบบบนั ทกึ การมาสายของโรงเรยี นที่ปอ้ มยาม 2. ให้นักเรียนท่ีมาสายติดต่อขอรับบัตรเข้าช้ันเรียนท่ีฝ่ายกิจการนักเรียน (หากไม่ ตดิ ต่อรบั บัตรเข้าชั้นเรียน จะถือวา่ ขาดเรียนในวนั น้นั ) 3. บันทกึ การมาสาย ในสมุดประจาตัวนักเรยี น 4. ทากิจกรรมทดแทน หรือตดั คะแนนความประพฤติ กรณีมีเหตุไม่สมควร 3. นักเรยี นท่ีมเี หตผุ ลหรอื ความจาเป็นในเร่อื งมาสาย ให้ผูป้ กครองมาตดิ ต่อกบั ฝ่ายปกครอง การออกนอกบริเวณโรงเรียน 1. ในวันเวลาเปิดเรียน ตั้งแต่เวลาโรงเรียนเข้าจนถึงเวลาโรงเรียนเลิกเรียน ห้ามนักเรียนออก นอกบริเวณโรงเรยี นโดยไม่ไดอ้ นญุ าต 2. ถ้านักเรียนมีกิจธุระจาเป็นต้องออกนอกบริเวณโรงเรียน ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขอ อนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรยี น คือ ต้องขออนุญาตครูประจาวิชาในคาบเรียนท่ีนักเรียนจะออกไป หรือ ในคาบที่นักเรียนอาจมาไม่ทันเข้าแถวตามแบบฟอร์มที่โรงเรียนกาหนด แล้วจึงไปขออนุญาตกับครู สารวตั รนกั เรียน หรือครูอ่ืนใดทีโ่ รงเรยี นมอบหมายเฉพาะกรณี และลงชื่อในสมุดการขออนุญาตออกนอก บรเิ วณโรงเรยี นทีป่ อ้ มยาม ต่อหน้ายามเป็นลาดับสุดทา้ ย จึงจะออกนอกบรเิ วณโรงเรียนได้ โรงเรยี นจะอนุญาตใหน้ ักเรยี นออกนอกบริเวณโรงเรยี นได้ 3 กรณีดงั นี้ 2.1 กรณีปกติ หมายถึง นักเรียนทราบล่วงหน้าก่อนมาโรงเรียน ถึงกิจธุระจาเป็นที่ต้อง ทานอกบริเวณโรงเรียน ต้องให้ผู้ปกครองเขียนระบุลงในสมุดประจาตัวนักเรียนในตารางหน้ากำรออก นอกบริเวณโรงเรียน ให้ครบทุกช่องพร้อมลงลายมือชื่อกากับในช่อง ลงช่ือครู ผู้ปกครอง และให้ครู สารวัตรนักเรียนพิจารณาอนุญาต 2.2 กรณีเร่งด่วน หมายถึง ขณะท่ีนักเรียนเกิดเหตุการณ์เร่งด่วนท่ีจะต้องออกนอก บรเิ วณโรงเรยี น ให้อยู่ในดุลยพนิ ิจครูทพี่ จิ ารณาอนุญาต 2.3 กรณีพิเศษ หมายถึง ขณะที่นักเรียนอยู่ในโรงเรียนมีเหตุจาเป็นบางประการ ซึ่งไม่ เข้ากรณีเร่งด่วน เช่น กรณีมีการจัดกิจกรรมพิเศษในโรงเรียน นักเรียนต้องขออนุญาตครูสารวตั รนักเรียน หรือครทู มี่ อบหมายเฉพาะกรณี คู่มอื นักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๘๘
Bannasan School 3. นักเรียนที่ออกนอกบริเวณโรงเรียนจะต้องมีลายมือชื่อของครูผู้อนุญาตในสมุดประจาตัว นักเรียน (หากเข้ากรณีข้อที่ 2.1 ต้องมีลายมือช่ือของผู้ปกครองประกอบด้วย) และต้องกลับเข้าโรงเรียน ให้ทันตามวัน เวลา ท่กี าหนดถ้าไมเ่ ขา้ หรือมาไมท่ ันโรงเรยี นถือว่าหนเี รียน กำรใชร้ ถใช้ถนน 1. ในวันเวลาที่โรงเรียนเปิดเรียนหรือมีกิจกิจกรรมในโรงเรียนห้ามนักเรียนขับข่ีรถยนต์มา โรงเรยี น 2. นักเรียนท่ีขับขี่รถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์มาโรงเรียน ต้องระมัดระวังไม่ประมาท และ ต้องปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายจราจรโดยเคร่งครัด 3. การขับขี่รถภายในบริเวณโรงเรียน ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้ถนน ในชอ่ งทางทก่ี าหนดเท่าน้ัน 4. จานวนคนในการขบั ขี่ และน่ังซอ้ นทา้ ยรถจกั รยานยนตต์ อ้ งปฏิบัติดังนี้ 4.1 หลังโรงเรยี นเลิกผู้ขบั ข่ีรวมทั้งผ้นู ง่ั ซ้อนท้ายไม่เกนิ 2 คน 4.2 กอ่ นเขา้ โรงเรยี นตอนเช้า หมายถึง การท่ีนักเรยี นขับข่ีรถจักรยานยนต์ เข้าโรงเรยี น ห้ามมผี ซู้ อ้ นทา้ ย 5. นักเรียนท่ีขับข่ีรถมาโรงเรียนต้องนารถเข้ามาจอดในบริเวณที่โรงเรียน กาหนดไว้เท่านั้นและ หา้ มนาไปจอดไวน้ อกบรเิ วณโรงเรยี น 6. หากยังไม่ถึงเวลาโรงเรียนเลิกหรืออนุญาตให้กลับบ้านห้ามนักเรียนเข้าไปในบริเวณที่จอดรถ เว้นแต่จะไดร้ ับอนญุ าตจากครทู ่ีได้รบั มอบหมาย 7. หากผู้ปกครองหรือญาติของนักเรียนต้องการใช้รถทน่ี ักเรียนนามาโรงเรียนนักเรียนต้องแจ้งให้ ยามโรงเรียน หรือครู บุคลากรทราบเสียก่อน และต้องนารถออกจากที่จอดรถด้วยตนเองให้ยามบันทึก ทะเบยี นรถ และชื่อผ้มู ารับรถ 8. นักเรียนที่นั่งรถโดยสารมา หรือกลับจากโรงเรียนให้ใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับความ ปลอดภัยให้มากท่ีสุด และต้องไม่แสดงกิริยาใดๆ อันเป็นเหตุให้เสื่อมเสียของโรงเรียน เป็นอันขาด เช่น แต่งกายไม่สุภาพเรียบร้อยตามกฎของโรงเรียน พูดคุยเสียงดัง พูดคาหยาบทิ้งสิ่งของออกจากตัวรถห้อย โหน หรือน่งั บนหลังคารถ เป็นต้น 9. นักเรียนท่ีต้องการรอรถโดยสารกลับบ้านเป็นเที่ยวที่สองหลังโรงเรียนเลิกให้นักเรียนกลับเขา้ ไปรอรถในบริเวณโรงเรียนด้านประตูทศิ ตะวนั ตก 10. การเดนิ เท้ามา – กลับจากโรงเรียน ใหเ้ ดนิ บนทางเท้าเทา่ นน้ั ห้ามเดินบนถนน 11. การเดินเท้าเข้า – ออกจากโรงเรียนให้เดินเป็นแถวเรียง 2 เข้า – ออกทางประตูด้านทิศ ตะวนั ตกอย่างเปน็ ระเบียบ 12. หา้ มนักเรียนเดนิ เท้าเข้า – ออกทางประตูดา้ นทิศตะวนั ออก 13. หา้ มนักเรียนทีข่ ับขี่รถจกั รยาน รถจักรยานยนต์เข้า – ออกทางประตดู ้านทศิ ตะวนั ออก 14. การใช้ถนนกรณีเดินถนนเข้า – ออกโรงเรียนให้เดินเป็นแถวเรียง 2 ชิดขอบถนนตามที่ กาหนด คมู่ อื นักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563 ๘๙
Bannasan School กำรรับประทำนอำหำร 1. หา้ มซื้ออาหารหรือรับประทานอาหารนอกเวลาทโี่ รงเรียนกาหนด (อนุญาตต้งั แต่ 10.000 – 13.00 น.) และตอนเช้าก่อนสัญญาณท่ี 1 2. นกั เรียนตอ้ งเขา้ แถวซอ้ื อาหารให้เป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย 3. เมอ่ื ซอื้ อาหารไดแ้ ล้วตอ้ งไปน่ังรบั ประทานใหเ้ รียบร้อยในที่ที่โรงเรยี นจัดไว้ให้ 4. นกั เรยี นต้องปฏิบตั ิตามขอ้ ปฏบิ ัติ และมารยาทในการรับประทานอาหารโดยเครง่ ครดั 5. เม่ือรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ต้องนาภาชนะใส่อาหารไปวางไว้ในถังเก็บของแม่ค้า แต่ละ เจ้าให้ตรงกบั ถงั ของแต่ละรา้ น กำรทำควำมเคำรพ 1. เมื่อนักเรียนเดินเข้าโรงเรียน นักเรียนต้องวางสัมภาระ ยืนตรง ยกมือไหว้ครูเวรท่ียืนประจา หน้าประตกู อ่ น แล้วจงึ เดินแถวใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย ไม่เกนิ 2 แถว ตามแนวถนนที่โรงเรียนกาหนด 2. การเดินถนนไปสู่อาคารเรียน (ตอนเช้า) ให้เดินชิดซ้ายของถนน การเดินถนนเม่ือกลับบ้าน (ตอนเลิกเรียน) ใหเ้ ดนิ ชิดขวาของถนน และเดินเปน็ แถวไมเ่ กิน 2 แถว 3. ถา้ นักเรียนเดินผ่านครู บคุ ลากร ตอ้ งทาความเคารพโดยการยกมือไหว้ หรอื ยืนตรงในกรณีที่มี สมั ภาระในมือ 4. ในกรณีที่นักเรียนใช้รถจักรยาน หรือรถจักรยานยนต์ เข้าทางประตูทิศตะวันตก ให้นักเรียน หยุดทาความเคารพครูเวรประจาวนั โดยการไหว้ 5. เมื่อนักเรียนพบครูภายนอกโรงเรียนให้แสดงความเคารพโดยการไหว้ หากกาลังขับขี่ให้ชะลอ ความเรว็ แล้วแสดงความเคารพครดู ว้ ยการกม้ ศรี ษะเลก็ น้อย 6. เม่ือครูเข้าห้องเรียนให้หัวหน้าบอกทาความเคารพ โดยใช้คาว่า นักเรียนเคำรพ ให้นักเรียน หยุดทางานทันที แล้วยืนตรงยกมือไหว้กล่าวคาว่า สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ และเมื่อครูจะออกจากห้องเรียน ให้หัวหน้าบอกนักเรียนทาความเคารพ โดยใช้คาว่า นักเรียนเคำรพ นักเรียนยืนตรง ยกมือไหว้ กล่าวคา ว่า ขอบคุณครบั ขอบคุณคะ่ 7. เมื่อนักเรียนเข้าพบครทู โี่ ตะ๊ ทางาน ขณะทีค่ รนู งั่ ให้นกั เรียนคุกเข่าไม่ยืนรุมลอ้ มครู 8. นักเรียนแตง่ เครอื่ งแบบลกู เสอื – เนตรนารี ใหท้ าความเคารพแบบลกู เสือ เนตรนารี 9. เม่ือมีผู้ใหญ่ทางราชการ หรือครู อาจารย์ จากโรงเรียนอื่นเข้ามาในโรงเรียนให้นักเรียน แสดง ความเคารพแบบเดียวกับที่แสดงความเคารพครู บุคลากรในโรงเรียน ถ้าผู้ใหญ่ทางราชการเข้ามาเย่ียมใน ห้องเรยี น ให้นกั เรียนฟังคาสั่งจากครูทีส่ อนในขณะน้ัน คู่มือนกั เรียนและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๙๐
Bannasan School ระเบยี บโรงเรียนบ้ำนนำสำร วำ่ ดว้ ยกำรควบคมุ ควำมประพฤติของนกั เรียน พ.ศ. 2563 ………………………………………………….. เพื่อให้นักเรียนของโรงเรียนมีความประพฤติเรียบร้อย ปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม รู้จักยับย้ัง ช่ังใจ ไม่ประพฤติผิดระเบียบ รู้จักรับผิดชอบตนเอง สามารถเล่าเรียนได้อย่างมีความสุข และประสบ ความสาเร็จในชีวิต รู้จักแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองอยู่เสมอ จึงอาศัยอานาจแห่งระเบียบกระทรวง ศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน นักศึกษา พ.ศ. 2556 ออกระเบียบโรงเรียนบ้านนาสาร ว่าด้วย การควบคมุ ความประพฤตนิ ักเรียน พ.ศ. 2562 ไว้ดังน้ี หมวดที่ 1 บทท่วั ไป 1. ระเบียบน้ีให้ช่ือว่า ระเบียบการควบคุมความประพฤตินักเรียนโรงเรียนบ้านนาสาร พ.ศ. 2563 2. ใหใ้ ชร้ ะเบียบน้ตี ัง้ แต่วนั ประกาศใชเ้ ปน็ ตน้ ไป 3. ระเบียบอ่ืนใด ท่ขี ัดต่อระเบียบนใี้ หย้ กเลกิ 4. ในระเบยี บน้ี 4.1 นักเรยี น หมายถึง นกั เรียนโรงเรยี นบ้านนาสาร 4.2 ครู หมายถงึ ครโู รงเรียนบา้ นนาสาร 4.3คณะกรรมการฝ่ายกิจการนักเรียน หมายถึง คณะครูท่ีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ ฝ่ายกิจการนักเรยี น โรงเรยี นบา้ นนาสาร 4.4 หัวหนา้ ฝา่ ยกจิ การนกั เรยี น หมายถึง รองผู้อานวยการฝายกจิ การนักเรยี น 4.5 หัวหนา้ สถานศึกษา หมายถงึ ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นนาสาร 4.6การปกครอง หมายถึง การควบคุมดูแลป้องกัน แก้ไข และส่งเสริมความประพฤติดี ประพฤตชิ อบ 4.7การลงโทษ หมายถึง การลงโทษนักเรียนที่ประพฤติผิระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน หรือของกระทรวงศึกษาธิการ ออกตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 132 โดยมุ่งหวังที่จะว่ากล่าว ตักเตอื น อบรม สง่ั สอน โดยมีเจตนาจะแกน้ สิ ัย และความประพฤตทิ ่ไี ม่เหมาะสมของนักเรียน ใหส้ านกึ ใน ความผิด ละเวน้ ประพฤติชัว่ และกลบั ประพฤตติ นในทางทีด่ ตี ่อไป 4.8 คะแนนความประพฤติ หมายถึง คะแนนความประพฤติของนักเรียนขณะท่ีศึกษาอยู่ใน โรงเรียนบ้านนาสาร แบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ คะแนนความประพฤติดี เร่ิมต้นที่ 0 เม่ือกระทาดีจะได้ คะแนนเพม่ิ ขึ้น และคะแนนความประพฤติไม่ดเี ร่มิ ต้นที่คนละ 100 เม่ือประพฤติไมด่ จี ะถูกตดั คะแนนลง 4.9 กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ หมายถึง กิจกรรมใดๆ ที่มอบหมายให้นักเรียนปฏิบัติ ทดแทนกรณที ี่นกั เรียนกระทาผิด 4.10 คะแนนความดี หมายถงึ คะแนนทีใ่ ห้นักเรยี นที่ประพฤติดี หรอื กระทาดี ตามทีก่ าหนด ไว้ในระเบียบน้ี คู่มือนกั เรยี นและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๙๑
Bannasan School 4.11 ตัดคะแนนความประพฤติ หมายถึง การตัดคะแนนในกรณีที่นักเรียน ประพฤติผิด ระเบียบตามที่กาหนดไวใ้ นระเบียบนี้ 5. ครูมีสิทธ์ให้คะแนนความดี หรือลงโทษนักเรียนสาหรับนักเรียนท่ีกระทาผิด ตามอานาจใน ระเบียบนี้ 6. ให้ครูเสนอการให้คะแนนความดี หรือลงโทษนักเรียนท่ีเกินอานาจตน ต่อผู้มีอานาจตามท่ี กาหนดในระเบยี บน้ี 7. ให้ครูบันทึกผลการให้คะแนนความดี หรือลงโทษนักเรียนตามความในข้อ 5 หรือ 6 ลงใน สมุดประจาตวั นกั เรียน ในทะเบยี นประวตั ิ และแบบบนั ทกึ การแกไ้ ข และพัฒนาพฤตกิ รรมนักเรยี น 8. ให้ครูแบบบันทึกการให้คะแนนความดี หรือลงโทษนกั เรยี นต่อหัวหน้าระดับชั้น สัปดาห์ละ 1 ครง้ั 9. ให้หัวหน้าระดับช้ันรวบรวมสรุปผลการให้คะแนนความดี หรือการลงโทษนักเรียนตามความ ในขอ้ 8 แจ้งใหค้ รทู ีป่ รกึ ษาทราบ และรายงานรองผ้อู านวยการฝา่ ยกิจการนกั เรียนตามลาดบั 10.ให้ครูที่ปรึกษาบนั ทึกพฤตกิ รรมนักเรียนไวเ้ ปน็ หลกั ฐานเพ่ือตดิ ตามแก้ไขตามควรแก่กรณี 11. ในกรณีท่ีผู้มีอานาจในการให้คะแนนความดี หรือลงโทษในระดับที่เหนือขึ้นไป เม่ือได้รับ รายงานจากครใู ห้รบี สอบสวนพจิ ารณาโทษให้คะแนนความดีตามท่ีกาหนด ในระเบียบน้แี ล้วใหด้ าเนินการ ตามขอ้ 7 และ 8 โดยอนโุ ลม 12. นักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนความประพฤติถึง 30 และ 40 คะแนนให้ครูท่ีปรึกษาแจ้งให้ ผ้ปู กครองทราบเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร (รวม 2) 13. นักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนความประพฤติถึง 50 คะแนน ให้ครูท่ีปรึกษาประสานงานกับ หัวหน้าระดับช้ันเชิญผู้ปกครอง พบรองผู้อานวยการฝ่ายกิจการนักเรียนเพ่ือทาสัญญารับรองความ ประพฤติ 14. เม่ือนักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนความประพฤติ 70 และ 80 คะแนน ขึ้นไปให้นาเข้าทา ทณั ฑบ์ น ในท่ีประชุมระดบั ชน้ั และเชิญผ้ปู กครองมาทาทณั ฑ์บนกบั ฝ่ายกิจการนักเรียนตามลาดับ 15. เมื่อนักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนความประพฤติ 80 คะแนนขึ้นไป ให้คณะกรรมการฝ่าย กิจการนักเรียนประชุมพิจารณาเสนอผู้อานวยการโรงเรียน เพื่อส่ังดาเนินการอ่ืนใด ตามความเหมาะสม ของแต่ละระดับชน้ั และเชญิ ผ้ปู กครองมารบั ทราบ 16. นักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนความประพฤติถึง 100 คะแนน ให้คณะกรรมการฝ่ายกิจการ นกั เรยี นประชมุ พิจารณาร่วมกับผูป้ กครองนักเรยี น (อาจใหน้ กั เรยี น และตวั แทนนกั เรียนเข้าร่วมดว้ ยก็ได้) เพ่อื ดาเนนิ การตามความเหมาะสม 17. นักเรียนท่ีคะแนนความดีสะสมตั้งแต่ 100 คะแนนข้ึนไป และไม่มีโทษตั้งแต่ตัดคะแนน ความประพฤติขึ้นไปในทะเบียนประวตั ิ จะไดร้ ับเกียรติบัตรประพฤติดี และช่วยเหลือกิจกรรมดีเดน่ 18.นักเรยี นที่ไมเ่ คยรบั โทษความผิดใดๆ ในขณะที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนบ้านนาสารระดับชั้น มธั ยมศึกษาตอนต้น หรอื มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (3 ปีติดตอ่ กัน) จะได้รับเกียรติบัตรประพฤติดี หมวดท่ี 2 ระดบั ควำมผิด โทษ สำหรับนกั เรียนท่ีกระทำควำมผิด 1. โทษสาหรับนักเรยี นที่กระทาความผดิ มี 4 สถาน ดงั น้ี คู่มือนกั เรียนและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๙๒
Bannasan School 1.1 วา่ กล่าวตักเตือน 1.2 ทาทณั ฑบ์ น 1.3 ตัดคะแนนความประพฤติ 1.4 ทากิจกรรมเพ่ือใหป้ รับเปล่ยี นพฤติกรรม 2. ระดบั ความผิด และลงโทษ 2.1 วา่ กล่าวตักเตือน ใหใ้ ช้กรณนี ักเรยี นกระทาความผิดไมร่ า้ ยแรง 2.2การทาทัณฑ์บน ใช้กรณีนักเรียนประพฤติตนไม่เหมาะสม กับสภาพนักเรียนตาม กฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤตินักเรียน และนักศึกษา หรือกรณีทาให้เสื่อมเสียช่ือเสียง และเกียรติ ศักดิ์ของสถานศึกษาหรือฝ่าฝืนระเบียบของสถานศึกษา หรือได้รับโทษว่ากล่าวตักเตือนแล้วแต่ยังไม่เข็ด หลาบ หรอื ถกู ตดั คะแนนความประพฤติ 50 คะแนนขน้ึ ไป การทาทัณฑ์บนให้เป็นหนังสือ และเชิญ บิดา มารดา หรือผู้ปกครองมาบันทึกความผิด และ รบั รองการทาทณั ฑบ์ นไวด้ ้วย 2.3การตัดคะแนนความประพฤติ ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วยคะแนนตัดความ ประพฤตนิ ักเรยี นตามทโี่ รงเรียนกาหนดไวเ้ ป็นหลกั ฐาน คอื ควำมผดิ ระดบั 1 ลงโทษตดั คะแนนครง้ั ละไม่เกนิ 10 คะแนน 2.3.1 ควำมผดิ ระดบั โทษ ตดั คะแนนคร้ังละไม่เกิน 5 คะแนน 1. แตง่ กายไม่ถกู ตอ้ งตามระเบยี บของโรงเรียน 2. มาโรงเรยี นสายโดยเหตุผลไมส่ มควร 3. ส่งเสียงรบกวนเพือ่ นในห้องเรียน ห้องข้างเคียงในเวลาเรยี น 4. ไม่เข้า – ออก โรงเรียนทางประตทู ่ีโรงเรยี นกาหนด 5. ไมม่ หี รือไม่พกสมดุ ประจาตัวนกั เรียน 6. สมดุ ประจาตัวนกั เรยี นไมเ่ ป็นปจั จบุ นั 7. รับประทานอาหารก่อน หรอื หลงั เวลาเรียนที่โรงเรียนกาหนด 8. ไมร่ กั ษาความสะอาดห้องเรยี น บริเวณโรงเรียน หรือสถานทีอ่ น่ื ใดที่ใชร่ ่วมกัน 9. ไมเ่ คารพครู บคุ ลากรของโรงเรียน 10. เล่นในสถานทโี่ รงเรียนห้าม 11. สวมรองเทา้ เขา้ ไปในสถานท่ีทไี่ ม่เหมาะสม 12. ใชก้ ระเปา๋ หรือเปท้ ีโ่ รงเรยี นไม่อนุญาต 13. ใชเ้ คร่ืองประดบั ใดๆ ที่โรงเรียนไม่อนุญาต 14. ใช้เครอ่ื งสาอาง หรอื สง่ิ แปลกปลอมเพอ่ื การเสริมสวย เชน่ หวีสบั น้ามันใส่ผม หรือเยล ฯลฯ 15. พดู จาหยาบโลน ใชว้ าจาไม่สภุ าพ 16. แตง่ เคร่ืองแบบนกั เรียนทีไ่ มเ่ ปน็ ไปตามระเบยี บทโ่ี รงเรียนกาหนด ทั้งในและนอกโรงเรียน 2.3.2 ควำมผดิ ระดับโทษตดั คะแนนครง้ั ละไม่เกนิ 10 คะแนน 1. ไม่ใหค้ วามร่วมมือตอ่ สว่ นรวม 2. เท่ยี วเตร่กลางคนื เป็นนิจ คูม่ ือนักเรียนและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๙๓
Bannasan School 3. ไม่เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน พิธีหน้าเสาธง อบรมระดับ หนีเวรหรือไม่พบครูตามท่ี นดั หมาย 4. กลา่ วเท็จต่อครู บุคลากร 5. จงใจตดั ผมผดิ ระเบยี บ 6. ซอ้ื ของนอกบรเิ วณโรงเรียน 7. ไม่นาเครอ่ื งเรียน หนังสือกลบั บ้าน 8. เสพสารเสพตดิ หรอื มีไว้ในครอบครอง สาหรับสารเสพติดประเภทไมร่ ้ายแรง 9. ขดั คาส่งั ครูท่ชี อบดว้ ยระเบียบ 10. ไม่นาสมดุ รายงานผลการเรียนใหผ้ ้ปู กครองเซ็นทราบ และส่งกลับมายังครทู ีป่ รกึ ษา 11. หนีเรยี น 12. ปลอมลายเซน็ ผปู้ กครอง 13. ออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นโดยไมไ่ ด้รบั อนุญาต 14. พดู จาโกหกเพอื่ ปกปิดความผดิ ของตน หรือผอู้ ื่น 15. ทะเลาะวิวาท โดยไมใ่ ช้กาลัง ควำมผดิ ระดบั 2 โทษตดั คะแนนควำมประพฤตริ ะหวำ่ ง 11 – 30 คะแนน 2.3.3ควำมผดิ ระดบั โทษตดั คะแนนคร้ังละ 11 – 20 คะแนน 1. พูดจาท้าทาย และแสดงกริ ยิ าไม่สมควรต่อครู บุคลากร หรือบคุ คลอ่ืน 2. เขียนหรอื วาดภาพลามก อนาจาร ไวใ้ นท่ีสาธารณะหรอื โรงเรียน 3. ทาลายเอกสารหรอื ทรพั ย์สินของผ้อู ื่น (ตอ้ งชดใช้คา่ เสียหายดว้ ย) 4. ไม่จอดรถจกั รยาน หรอื จกั รยานยนต์ในพ้ืนท่ีทโ่ี รงเรยี นกาหนด 5. ปีนรั้วเข้า หรือออกบรเิ วณโรงเรียน 6. ก่อการทะเลาะวิวาทโดยใชก้ าลัง 7. ใช้กิจกรรมของโรงเรียนแอบอ้างกับผู้ปกครองเพ่ือออกจากบ้านไปทากิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่ กิจกรรมของโรงเรียน 8. แสดงกริ ยิ าอนาจารในที่สาธารณะ 2.3.4 ควำมผิดระดบั โทษตดั คะแนนคร้ังละ 21 – 30 คะแนน 1. ลกั ขโมย 2. เล่นการพนัน 3. ด่มื สรุ า หรอื ของมนึ เมา 4. ทาลายทรพั ย์สนิ ของโรงเรยี น (ต้องชดใช้ค่าเสียหายดว้ ย) 5. ประพฤตติ นพาลเกเร ข่มขู่ รังแกผู้อืน่ ให้ไดร้ บั ความเดือดรอ้ น 6. สมาคมกบั คนช่วั เทยี่ วตามบาร์ สานกั โสเภณี อาบอบนวด หรือสถานเริงรมยต์ า่ งๆ 7. มีสารเสพติดประเภทไมร่ ้ายแรงไว้ในครอบครอง เพอื่ จาหน่ายจา่ ยแจก 8. กระทาการอนาจารกับบุคคลอ่ืน คูม่ ือนักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๙๔
Bannasan School ควำมผดิ ระดับ 3 โทษตดั คะแนนควำมประพฤตริ ะหว่ำง 31 – 50 คะแนน 1. เขา้ ร่วมหรอื เปน็ ตัวการในการชมุ นุมประทว้ งทีน่ ามาซึง่ ความเส่ือมเสยี ช่อื เสียงของ โรงเรยี นและส่วนรวม 2. พกพาอาวุธ หรือส่งิ เสมอื นอาวธุ เข้ามาในโรงเรยี น (อยใู่ นดลุ พินิจของกรรมการฝ่ายกิจการ) 3. ยุยงสง่ เสรมิ ใหแ้ ตกสามัคคใี นหม่คู ณะ หรือก่อให้เกิดความวุน่ วาย สรา้ งสถานการณ์ทีเ่ ป็น ปฏิปกั ษ์ ตอ่ อานาจบริหารของโรงเรียน 4. ก่อการทะเลาะวิวาทระหวา่ งโรงเรียน 5. นาบคุ คลภายนอกมาก่อการทะเลาะววิ าทกบั นักเรียนในโรงเรียน ควำมผิดระดับ 4 โทษตดั คะแนนควำมประพฤตติ ง้ั แต่ 50 คะแนนขนึ้ ไป 1. ทารา้ ยร่างกายนักเรียน ครู บคุ ลากร หรอื เจา้ หน้าท่ีของโรงเรียน 2. มีสารเสพติดร้ายแรงในครอบครอง เพ่ือจาหน่ายจา่ ยแจกในโรงเรยี น 3. ประพฤตติ นฉนั ท์ชสู้ าวทาใหเ้ สอ่ื มเสียชอ่ื เสยี งของโรงเรยี น 4. ได้รบั โทษอาญาทางกฎหมายบ้านเมอื ง 5. ดหู มิ่น ข่มขู่ และสบประมาทครู บคุ ลากร หรือบดิ า มารดาอยา่ งรา้ ยแรง 6. ประพฤตติ นเป็นที่เส่อื มเสียของโรงเรียนอยา่ งร้ายแรง 7. กระทาการอนั เปน็ ปฏิปักษต์ อ่ อานาจบรหิ ารของโรงเรียน หรือบงั คบั ขเู่ ขญ็ ยุยง ส่งเสรมิ ผู้อนื่ ให้กระทาการดงั กล่าว 8. เผยแพรล่ ทั ธิที่ขัดต่อกฎหมายบา้ นเมือง 9. ลักขโมย หรือเจตนาทาลายทรัพย์สนิ ของผอู้ ืน่ อนั ทาให้เสอื่ มเสยี ชื่อเสยี งของโรงเรยี น 10. กอ่ การทะเลาะวิวาท และมกี ารใชอ้ าวุธ 2.4ทากจิ กรรมเพือ่ ใหป้ รับเปล่ียนพฤติกรรม คณะกรรมการฝา่ ยกจิ การนักเรียน ตอ้ งประชุม พิจารณาเพื่อกาหนดผู้รับผิดชอบ ระยะเวลา และลักษณะการทากิจกรรม ท้ังน้ีเพ่ือแก้นิสัย และความ ประพฤติที่ไม่เหมาะสมของนักเรียน ให้สานึกในความผิด ละเว้นความช่ัว และกลับพฤติกรรมตนไป ในทางท่ดี ี การทากจิ กรรมเพือ่ ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมของนักเรียนใหใ้ ช้ในกรณตี ่อไปนี้ 1. นกั เรียนถูกตัดคะแนนความประพฤติยังไม่ถงึ เกณฑท์ ี่ต้องทาทัณฑบ์ น 2. เป็นไปด้วยความสมคั รใจของนักเรยี น 3. ผ้บู รหิ ารส่งั การหรือคณะกรรมการฝา่ ยกิจการนักเรียนนาเสนอในท่ีประชมุ เพ่ือพิจารณา เป็นรายๆ หมวดท่ี 3 อำนำจในกำรลงโทษนักเรยี น 1. ครู – ครูทป่ี รึกษาตักเตอื น และตัดคะแนนความประพฤติคร้งั ละไม่เกนิ 10 คะแนน 2. หวั หนา้ เวร หวั หน้าระดับตักเตอื น และตัดคะแนนความประพฤติ ครงั้ ละไมเ่ กิน 30 คะแนน 3. รองผอู้ านวยการตักเตอื น และตดั คะแนนความประพฤตคิ รั้งละไมเ่ กนิ 50 คะแนน 4. คณะกรรมการฝ่ายกิจการนกั เรยี น พิจารณาโทษทากิจกรรมเพื่อปรับเปล่ียนพฤติกรรม และ ตัดคะแนนความประพฤติไม่เกนิ 80 คะแนน หรอื ตามความเหมาะสม ค่มู ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ๙๕
Bannasan School หมวดที่ 4 กำรปรับลดคะแนนควำมผดิ เน่อื งจากนักเรียนยงั เป็นผู้เยาว์ การกระทาใดๆ ในบางครง้ั อาจจะขาดความย้งั คิด หรือรู้เท่าไม่ถึง การณ์หรือโดยเกิดจากบันดาลโทสะ จึงก่อให้เกิดความผิดข้ึน และถูกตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งนักเรียน บางส่วนอาจรสู้ านึกในความผิดของตน จึงใหม้ กี ารปรบั ลดคะแนนความผดิ ได้ดงั น้ี 1. สทิ ธิทน่ี กั เรยี นจะได้รบั การปรบั ลดคะแนนความผดิ 1.1 ในภาคเรียนใดที่นักเรยี นไมมีประวตั วิ ่ากระทาความผิด และไดร้ ับโทษตัง้ แตต่ ดั คะแนนความประพฤตขิ ึ้นไป ให้ปรบั ลดคะแนนความผดิ สะสมท่มี อี ยูเ่ ดมิ ลง 20 คะแนน 1.2 สามารถนาเอาคะแนนความดีสะสมจานวนไม่กนิ 10% มาปรบั ลดคะแนนความผดิ สะสมได้ในกรณีทีจ่ าเป็น แตท่ ัง้ น้ีหา้ มนาคะแนนความดีสะสมมาปรับลดให้นักเรยี นที่เคยทาความผิด และ ได้รบั โทษตดั คะแนนตัง้ แตร่ ะดบั 3 ขึ้นไป 2. วธิ ีปฏบิ ตั ิในการปรับลดคะแนนความผดิ 2.1 การปรับลดคะแนนความผิดตาม 1.1 เมอ่ื สิน้ ภาคเรยี นหนึ่งๆ ให้ครทู ่ีปรกึ ษาสารวจ และบันทึกปรับลดคะแนนความผิดให้กับนักเรียนท่ีมีคุณสมบัติถูกต้อง ในสมุดประจาตัวนักเรียน และ แฟ้มประวัติ พร้อมรายงานใหฝ้ ่ายกจิ การนักเรยี น 2.2 การปรับลดคะแนนความผิดตาม 1.2 เป็นอานาจหน้าท่ีของคณะกรรมการฝ่าย กิจการนักเรียนที่จะพิจารณาเม่ือมีกรณีจาเป็นต้องใช้ เช่น กรณีท่ีต้องพักการเรียน หรือการมอบเกียรติ บัตรนกั เรียนประพฤติดี และชว่ ยเหลอื กิจกรรมดเี ดน่ เปน็ ตน้ หมวดที่ 5 กำรใหค้ ะแนนควำมดีสะสม นักเรียนที่ทาความดีและสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน จะได้รับคะแนนความดีเมื่อสิ้นปีการศึกษา หนง่ึ ๆ ใหป้ ระกาศผล และมอบเกยี รติบตั รนกั เรียนประพฤติดี และชว่ ยเหลอื กจิ กรรมดเี ดน่ ใหก้ ับนกั เรียน ทมี่ ีคะแนนสะสม 100 คะแนนข้นึ ไป และไมม่ ีโทษต้งั แต่คะแนนความประพฤตใิ นแฟ้มประวัติ 1. หลกั เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนควำมดสี ะสม 1.1 ครงั้ ละ 5 คะแนน 1. เกบ็ ของตกมลู ค่าไมเ่ กิน 50 บาท ได้ และนาไปมอบให้ฝา่ ยกจิ การนกั เรยี นเพือ่ ประกาศ หาเจา้ ของ 2. ชว่ ยเหลือกจิ กรรมโรงเรียน มผี ลงานปรากฏเป็นท่ียอมรับ 3. แจง้ ขอ้ มูลนักเรียนท่ีประพฤตผิ ิดระเบียบของโรงเรยี น ในระดับความผิด ระดับ 1 ให้ครูทราบ 4. เป็นตัวแทนของโรงเรยี นเขา้ ร่วมกจิ กรรม หรอื แข่งขันในระดบั ต่างๆ 5. เป็นคณะกรรมการห้องเรียน และมผี ลงานปรากฏเปน็ ท่ียอมรับ 6. การกระทาความดีอื่นใด ทเ่ี ทียบได้กบั การกระทาความดีในขอ้ 1.1 (1) – (5) 1.2 ครัง้ ละ 10 คะแนน 1. เกบ็ ของตกมูลค่ามากกว่า 50 บาท ได้ และนาไปมอบใหฝ้ า่ ยกิจกานกั เรียน ประกาศหาเจา้ ของ 2. แจ้งข้อมลู นักเรียนทป่ี ระพฤตผิ ิดระเบยี บของโรงเรียน ในระดบั ความผดิ คู่มอื นกั เรียนและผู้ปกครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๙๖
Bannasan School ระดบั 2 ขึ้นไป ให้ครูทราบ 3. ช่วยผปู้ ระสบภัยต่างๆ 4. เป็นตวั แทนของโรงเรียน เข้าร่วมกิจกรรมหรอื แขง่ ขันในระดับจงั หวดั 5. เปน็ นักดรุ ิยางคข์ องโรงเรียน 6. เปน็ นักดนตรขี องโรงเรยี น 7. เปน็ อาสาสมคั รสารวตั รนักเรียน หรอื คณะกรรมการนักเรยี น และมีผลงาน ปรากฏเป็นทย่ี อมรับ 8. การกระทาความดอี ่ืนใดทเ่ี ปรียบไดก้ บั การกระทาความดใี น ขอ้ 1.2 (1) – (7) 1.3 ครง้ั ละ 20 คะแนน 1. นาช่ือเสยี งมาสโู่ รงเรยี นให้บุคคลภายนอกร้จู กั โรงเรยี นมากขน้ึ 2. เปน็ ตัวแทนเขา้ ร่วมกจิ กรรมหรือแขง่ ขนั ในระดบั เขตหรือระดับภาคข้นึ ไป 3. การกระทาความดีอ่นื ใดท่เี ปรยี บได้กับการกระทาความดี ใน ขอ้ 1.3 (1) – (2) 2. อำนำจและระยะเวลำในกำรใหค้ ะแนนควำมดี 2.1 ครู และครูทป่ี รกึ ษาให้คะแนนความดตี ามหมวดท่ี 5 ดังนี้ 1. ข้อ 1.1 (1) – (4) ครง้ั ละ 5 คะแนน 2. ข้อ 1.1 (5) คร้ังละ 5 คะแนน 2.2 หวั หนา้ ระดับ หัวหน้าเวรให้คะแนน หมวดท่ี 5 ดังนี้ 1. ขอ้ 1.2 (1) – (4) คร้งั ละ 10 คะแนน 2. ขอ้ 1.2 (5) ครั้งละ 10 คะแนน 2.3 รองผูอ้ านวยการ ผู้อานวยการโรงเรียน หรือคณะกรรมการฝ่ายกจิ การนกั เรียน ให้ คะแนนตามหมวดท่ี 5 ขอ้ 1.3 (1) – (3) ครั้งละ 20 คะแนน 3. ขัน้ ตอนในกำรให้คะแนนควำมดี 3.1 นกั เรยี นท่ีกระทาความดี และประสงค์จะบนั ทกึ คะแนนความดีสะสม ให้นาสม ประจาตัว (พร้อมหลักฐาน ถ้ามี) มอบให้ครูท่ีมีอานาจให้คะแนนบันทึกให้คะแนน ตามระยะเวลา และ สิทธทิ คี่ วรไดร้ บั 3.2 เม่ือผมู้ ีอานาจใหค้ ะแนนความดีกบั นกั เรียนคนใดแล้ว จะตอ้ งบนั ทกึ การใหค้ ะแนนไว้ ในแฟ้มประวัติในแบบบันทึกข้อมูล การแก้ไข และพัฒนาพฤติกรรมนักเรียน และส่งต่อหัวหน้าระดับเพ่ือ รายงานโรงเรียนทราบ สัปดาหล์ ะ 1 ครัง้ (บททวั่ ไปข้อ 7 – 9 และ 11) ใหร้ องผอู้ านวยการฝา่ ยกจิ การนักเรียนรักษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบน้ี ท้งั นีต้ ั้งแต่วันท่ี เป็นต้นไป (นายสมชาย กิจคาม) ๙๗ ผูอ้ านวยการโรงเรียนบ้านนาสาร คู่มอื นักเรยี นและผ้ปู กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563
Bannasan School ระเบียบโรงเรียนบำ้ นนำสำร วำ่ ดว้ ยเครอ่ื งแบบ กำรแตง่ กำย และทรงผมนักเรียน พ.ศ.2563 ………………………………………………….. เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเคร่ืองแบบและทรงผมนักเรียนและเพ่ือ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการแต่งกายของนักเรียน จึงออกระเบียบว่าด้วยเคร่ืองแบบการแต่งกาย และทรงผม ดังต่อไปน้ี ข้อ 1 ระเบียบน้ีเรียกว่า ระเบียบโรงเรยี นบา้ นนาสารว่าด้วยเครอื่ งแบบ การแต่งกาย และทรงผม นักเรียน พ.ศ.2562 ข้อ 2 ระเบยี บน้ีมผี ลบังคบั นักเรยี นโรงเรียนบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎรธ์ านี ข้อ 3 เคร่อื งแบบทก่ี าหนดไวป้ ระกอบดว้ ย 3.1 เครอ่ื งแบบนกั เรยี นชำยชัน้ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น 3.1.1 เส้ือ แบบเช้ิตคอต้ัง ผ้าขาวเกลี้ยงไม่บางเกินควร ผ่าอกตลอด สาบท่ีคอกว้าง 3 เซนติเมตรใช้กระดุมขาวกลมแบน เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร จานวน 5 เม็ดแขนส้ัน เพียง ข้อศอกมีกระเป๋าไม่มีฝาปิดติดแนวราวนมเบื้องซ้าย 1 กระเป๋า ขนาดกว้าง 8 – 12 เซนติเมตร และลึก 10 – 15 เซนติเมตร พอเหมาะกบั ขนาดเสอื้ ด้านหลังเสือ้ ไม่มจี ีบ เวลาสวมให้สอดชายเสอ้ื ไว้ในกางเกง 3.1.2 กำงกง ใช้สีกากีแบบทรงไทยไทย เน้ือผ้าเกลี้ยง มีจีบ ขาสั้นเหนือเข่าพ้นกลาง ลูกสะบ้าประมาณ 5 เชนติเมตร ส่วนกว้างของกางเกง เมื่อยืนตรงวัดห่างจากขา 8-12 เขนติเมตร ตาม ขนาดขาปลายขาพับข้าข้างในกว้าง 5 เซนติเมตร ผ่าตรงส่วนหน้า มีกระเป้าตามแนวตะเข็บข้างละ 1 กระเป๋า เวลาส้อมให้สวมทับชายเส้ือให้เรียบร้อย มีหูกางเกงไว้สาหรบสอดเข็มขัด 7 หู ไม่มีกระเป๋าหน้า หรอื กระเป๋าหลัง 3.1.3 เข็มขัด ใช้เข็มขัดสีน้าตาล กว้าง 3-4 เซนติเมตร หัวเข็มขัดเป็นโลหะสีทองรูปสี เหล่ียมผนื ผา้ มี ปลอก 1 ปลอก ขนาดกวา้ ง 1.5 เซนติเมตร สาหรับสอดปลายเขม็ ขัด ปลายเข็มขดั ยาวไม่ น้อยกว่า 15 เซนติเมตรเข็มขัดนี้ใช้สอดหูกางเกง คาดทับกางเกงและเม่ือคาดเข็มขัดแล้วต้องให้มองเห็น เขม็ ขัดโดยรอบ 3.1.4 รองเท้ำ เป็นรองเทา้ ผา้ ใบ หรือหนงั สนี ้าตาล ชนิดหุ้มสนั มเี ชือกผูกสเี ดยี วกับรอง ท้าและผกู สายให้เรียบร้อย รองเทา้ จะตอ้ งไมม่ ลี วดลายใดๆ ท้งั สิ้น 3.1.5 ถุงเท้ำ ใช้ถุงเท้าสั้นสีนา้ ตาลธรรมดา เป็นเส้นด้าย ไม่มีลวดลาย ไม่ใช้ถุงไนล่อน บางไม่ขลิบหรือปักหรือตกแต่ง ไม่พับปลาย ความยาวของถุงเท้าเมื่อสวมแล้วยาวประมาณครึ่งน่อง ไม่ ม้วนถงุ เท้า(หา้ มใช้ถงุ เท้าลกู เสือ)9* 3.2 เครือ่ งแบบนักเรียนหญิงชนั้ มัธยมศึกษำตอนตน้ 3.2.1 เส้ือ ใช้เส้ือแบคอพับในตัว มีปกด้านหลังแบกทหารเรือ วัดจากต้นคอลงไปไม่ เกิน 12 เซนติเมตร แขนยาวเหนือศอก 1-2 น้ิว ปลายแขนจีบเล็กน้อย ประกอบด้วยผ้า 2 ช้ันกว้าง 3 คมู่ อื นกั เรยี นและผ้ปู กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๙๘
Bannasan School เซนติเมตร ความยาวของตัวเส้ือเม่ือยืนตรงวัดจากข้อมือถึงชายเสื้อไม่เกิน 8 – 12 เซนติเมตร ชายขอบ เสื้อด้านล่างมีรอยพับกว้างไม่เกิน 3 เซนติเมตร เสื้อต้องไม่หลวมหรือคับจนเกินไป ให้พอเหมาะกับลาตัว รมิ ขอบลา่ งด้านหนา้ ติดกระเปา๋ ปากกระเป๋าพับริมประมาณ 1 เซนตเิ มตร 3.2.2 กระโปรง ใช้แบบทรงนักเรียน ผ้ากรมท่า เน้ือผ้าเกลี้ยง มีมีลวดลาย ด้านหน้า และด้านหลังพับเป็นกลีบด้านละ 6 กลีบ โดยหันกลับออกด้านนอกด้านละ 3 กลีบ เย็บทับกลีบจาก สะเอวลงมา 6 – 12 เซนติเมตร ความลึกของแต่ละกลีบประมาณ 3-4 เซนติเมตร ความยาวของ กระโปรงเมื่อยนื ตรงต้องยาวคลุมเข้าไมเ่ กิน 10 เซนตเิ มตร (ตัวกระโปรงห้ามเป็นทรงสะเอวตา่ หรือสะเอว สงู ) 3.2.3 หูกระต่ำย (คอซอง) ใช้ผ้าสีกรมท่า ชายเป็นสามเหล่ียม กว้าง 8-10 เซนติเมตร (เมอ่ื ผกู แล้วต้องอยูใ่ นแนวกระดมุ อกเสอื้ ของนักเรียน) 3.2.4 รองเท้ำ เป็นรองเท้าหนังสีดาแบบหุ้มสันและหุ้มปลายท้า หัวมน มีสายรัดบน หลังเท้า สนั สูงไมเ่ กิน3 เซนติเมตร 3.2.5 ถุงเท้ำ เป็นถุงเท้าสั้นสีขาวแบบธรรมดา มีเส้นด้าย ไม่มีลวดลาย ไม่ใช้ถุงเท้าไน ล่อนบาง ไม่ขลิบริม หรือปัก หรือตกแต่งเวลาสวมให้พับปลายกว้างประมาณ 2 นิ้ว ลงมาอยู่เหนือข้อเทา้ ประมาณ 2 นว้ิ (ห้ามมว้ นถุงเทา้ ) 3.3 เครือ่ งแบบนักเรยี นชำยชัน้ มัธยมศกึ ษำตอนปลำย 3.3.1 เส้ือ แบบเชิ้ตคอต้ัง ผ้าขาวเกล้ียง ไม่บางเกินควร ผ่าอกตลอดสาบ ท่ีคอกว้าง 3 เซนติเมตรใช้กระดุมขาวกลมแบน เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร จานวน 5 เม็ด แขนส้ันเพียง ข้อศอก มีกระเป้า ไม่มีฝาปิดติดแนวราวนมเยื้องซ้าย 1 กระเป้า ขนาดกว้าง 8-12 เซนติเมตร และลึก 10-15 เซนติเมตร พอเหมาะกับขนาดของเสื้อค้นหลงั เสื้อไม่มีจบี เวลาสวมใหส้ อดชายเส้อื ไวใ้ นกางเกง 3.3.2 กำงเกง ใช้สีดา แบบทรงไทย เน้ือผ้าเกล้ียง มีจีบ ขาสั้นเหนือเข่าพันกลาง ลกู สะบา้ ประมาณ 5 เซนติเมตร สว่ นกวา้ งของขากางเกงเม่ือยืนตรงวดั หา่ งจากขา 8-12 เซนติเมตร ตาม ขนาดของขา ปลายขาพับเข้าข้างใน 5 เซนติเมตร ผ่าตรงส่วนหน้า มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บข้างละ 1 กระเป๋า เวลาสวมให้สวมทับชายเส้ือให้เรียบร้อย มีหูกางเกงไว้สาหรับสอดเข็มขัด7 หู ไม่มีกระเป๋าหน้า หรอื กระเป๋าหลัง 3.3.3. เข็มขดั ใช้เขม็ ขดั สีดา ขนาดกวา้ ง 3-4 เซนตเิ มตร หวั เข็มขัดเป็นโลหะสีเงนิ รปู ส่ีเหลี่ยมผืนผ้าปลอกหนังสีดาขนาดกว้าง 1.5 เซนติเมตร ปลายเข็มขัดยาวไม่น้อยกว่า 15 เซนติเมตร เมอื่ คาดเขม็ ขดั แล้วตอ้ งให้มอบเหน็ เข็มขัดโดยรอบ (ห้ามใชเ้ ขม็ ขดั นักศกึ ษาวชิ าทหาร) 3.3.4 รองเท้ำ เป็นรองเท้าผ้าใบ หรือหนังสีดาชนิดหุ้มส้นมีเชือกผูกสีเดียวกับรองเทา้ ผูกสายรองเทา้ ให้เรยี บรอ้ ย และรองเท้าตอ้ งไมม่ ีลวดลายใด ๆ ทั้งสิ้น 3.3.5 ถุงเท้ำ ใช้ถุงเท้าส้ันสีขาวธรรมดา เป็นเส้นด้าย ไม่มีลวดลาย ไม่ใช้ถุงเท้าไรล่อน บาง ไมข่ ลบิ รมิ ไมป่ ักหรอื ตกแตง่ ความยาวถงุ เท้า เมื่อสวมแลว้ ยาวครงึ่ น่อง ไมม่ ว้ นหรือพบั ปลาย 3.4 เครื่องแบบนกั เรยี นหญิงช้ันมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย 3.4.1 เสื้อ แบบคอเสื้อเช้ิต ผ่าอดตลอด ผ้าขาวเกล้ียง ไม่บางเกินควร ที่หน้าอกเส้ือทา เป็นสาบตลบเข้าในกว้าง 3 เซนติเมตร มีกระดุมกลมแบน ขนาดเส้นผ้าศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร คู่มอื นักเรยี นและผปู้ กครอง ประจำปกี ำรศึกษำ 2563 ๙๙
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118