Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานหน่วยที่ 4 ชั้นป.5 ปี 2562

การออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานหน่วยที่ 4 ชั้นป.5 ปี 2562

Published by leky20, 2019-09-02 23:51:19

Description: การออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานหน่วยที่ 4 ชั้นป.5 ปี 2562

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง การทดลองการเสียงเกดิ ขน้ึ ได้อยา่ งไร หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง พลงั งานเสียง (สะเตม็ ศกึ ษา) กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ รหัส ว 15101 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 จานวน 2 ชั่วโมง โรงเรียนวดั วงั น้าเขยี ว วนั ที่สอน …………………….……………….………. ..................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ ระหวา่ งสสาร และพลงั งาน พลังงานในชวี ติ ประจาวนั ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณ์ท่ีเกย่ี วข้องกับ เสียง แสงและคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ รวมท้ังนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ตวั ชีว้ ดั ว 2.3 ป.5/1 อธบิ ายการไดย้ ินเสยี งผ่านตัวกลางจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ 2. สาระสาคัญ เสียงเกดิ ขึน เม่ือวัตถหุ รือแหล่งกาเนดิ เสยี ง มีการสั่นสะเทือน สง่ ผลตอ่ การเคลื่อนท่ขี องโมเลกุลของ อากาศท่ีอยู่โดยรอบกลา่ วคือโมเลกุลของอากาศเหล่านนั จะเคลอ่ื นทจี่ ากตาแหนง่ แหลง่ กาเนดิ เสยี งไปชนกับ โมเลกลุ ของอากาศท่ีอยถู่ ัดออกไป จะเกิดการถ่ายโอนโมเมนตัมจากโมเลกลุ ท่ีมกี ารเคล่อื นที่ไปให้กับโมเลกลุ ของอากาศ ที่อยใู่ นสภาวะปกติ จากนันโมเลกลุ ทีช่ นกนั จะแยกออกจากกันโดยโมเลกุลของอากาศทเ่ี คลอ่ื นท่มี า ชนจะถกู ดึงกลบั ไปยังตาแหน่งเดมิ ด้วยแรงปฏกิ ิรยิ า และโมเลกุลทีไ่ ด้รับการถ่ายโอนพลงั งาน กจ็ ะเคล่ือนท่ี ต่อไปและไปชนกบั โมเลกุลของอากาศท่ีอยู่ถัดไป เปน็ ดงั นีไปเร่ือยๆ จนเคลือ่ นท่ไี ปถงึ หู เกิดการได้ยินขนึ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ 1. อธิบายการเกิดเสยี ง ทักษะ/กระบวนการ 1. ระบตุ ัวแปร สมมติฐาน และ ทดลองการเกิดเสียง คุณลักษณะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21/สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 1. มีทักษะการคดิ วิเคราะห์ 2. มคี วามรว่ มมอื การทางานเป็นทีม และภาวะความเปน็ ผู้นา 3. มีทกั ษะอาชีพและการเรยี นรู้

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ในการรว่ มกิจกรรม 3. มคี วามซ่ือสตั ย์สุจรติ 4. มีความมุง่ ม่นั ในการทางาน 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบกจิ กรรมที่ 1 เรื่อง ทดลองเสยี งเกดิ ขนึ อย่างไร 5. ใชก้ ารจดั การเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 E (Inquiry Cycles) 1. ครูนาเข้าสบู่ ทเรียนเกี่ยวกับเสยี งและการไดย้ ิน โดยครูให้นกั เรยี นฟังเสียงจากวดี ทิ ัศน์หรอื วทิ ยุดังนี เสยี งนาตก เสยี งลมพัด เสยี งฝนตก เสยี งปรบมือ เสียงนกร้อง เสียงเดก็ ร้องไห้ จากนันครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั จาแนกวา่ เสียงใดเปน็ เสยี งทเี่ กดิ ขึนเองตามธรรมชาติ (เสยี งนา้ ตก เสยี งลมพัด เสียงฝนตก)และเสยี งใดเป็น เสยี งที่เกิดจากการกระทาของมนษุ ย์และสัตว์ (เสียงปรบมือ เสยี งนกรอ้ ง เสียงเดก็ รอ้ งไห้) 2. ครนู าการอภปิ รายโดยถามคาถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรยี นเพ่ือนาเข้าสู่กิจกรรม ที่ เร่ือง เสียง เกิดขึนอย่างไร 2.1 เสยี งคอื อะไร แนวการตอบ เสยี ง เปน็ พลังงานรูปหนึ่ง 2.2 เสยี งเกดิ ขึนไดอ้ ย่างไร แนวการตอบ เสยี งเกิดจากการสนั่ สะเทอื นของวัตถแุ หล่งกาเนดิ เสยี ง 5.2 ข้ันสารวจและคน้ หา 3. ครแู บ่งนักเรียนออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ทาการทดลองเรอ่ื ง เสียงเกดิ ขึนอยา่ งไร แลว้ บนั ทกึ ลงในใบกจิ กรรมท่ี 1 เร่ือง เสียงเกดิ ขึนอยา่ งไร 4. ครใู หน้ กั เรียนแสดงความคิดเหน็ กอ่ นทากิจกรรมโดยครถู ามคาถามก่อนทากิจกรรมดังนี 4.1 ถ้านักเรียนออกแรงดดี ยางรัดทีป่ ลายขา้ งหนึง่ ผูกติดกับขาโต๊ะ จะมสี ิ่งใดเกิดขึน แนวการตอบ ยางรดั เกิดการสนั่ 4.2 ถา้ นกั เรยี นออกแรงเคาะลูกโปง่ บนปากแก้ว จะมีส่ิงใดเกดิ ขนึ แนวการตอบ ลกู โปง่ เกิดการสั่น จากนันให้ครูให้นักเรยี นทากิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง ทดลองเสียง เกดิ ขึนอย่างไร 5.3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรุป 5. ครใู หผ้ แู้ ทนนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการทากิจกรรมหน้าชันเรยี น เพื่อเปรยี บเทียบและ ตรวจสอบความถูกต้อง 6. ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภิปรายและแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั ผลการทากจิ กรรม โดยครูถามคาถาม หลังทากิจกรรม ดังนี

6.1 ในแต่ละการทดลองมีเสียงเกดิ ขึนหรือไม่ แนวการตอบ มเี สยี งเกิดขึน 6.2 ขณะทดลองแหล่งกาเนิดเสยี งมีการเปลย่ี นแปลงหรือไม่ อย่างไร แนวการตอบ มีการเปลีย่ นแปลง โดยแหลง่ กาเนดิ เสยี งจะส่นั และมเี สียงเกิดขนึ 6.3 นักเรียนสรปุ ผลการทากิจกรรมได้อยา่ งไร แนวการตอบ เม่ือแหลง่ กาเนิดเสยี งเกดิ การสั่น จะมีเสยี งเกิดขึน 7. ครใู ห้นกั เรยี นร่วมกันสรุปความรูเ้ ก่ียวกับการเกิดเสยี ง ใหต้ รงกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และใหไ้ ด้ ประเดน็ ดงั นี เสียงเกิดจากการสน่ั สะเทือนของวตั ถุ วตั ถุที่เกดิ การสน่ั แล้วทาให้เกดิ เสียง เราเรียกว่า แหลง่ กาเนิดเสียง 5.4 ขั้นขยายความรู้ 8. นักเรียนดูวดี ทิ ัศน์ เร่ือง การเกดิ เสยี ง link https://www.youtube.com/watch?v=efWvluiHB9U แลว้ อภปิ รายเกี่ยวกบั ข้อคาถามหลงั การทดลอง 5.5 ขั้นประเมิน 9. ครูประเมนิ ผลนกั เรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรม คุณลักษณะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21/ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 10. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมต่างๆ 6. สื่อการเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 วีดทิ ัศน์ เรื่อง การเกดิ เสียง https://www.youtube.com/watch?v=efWvluiHB9U 6.2 ใบกิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง ทดลองเสียงเกดิ ขึนอย่างไร 6.3 คอมพวิ เตอร์ เครื่องฉายภาพดจิ ติ อล (Projector) 6.4 หนังสอื แบบเรยี นวทิ ยาศาสตร์ป.6 สสวท.และอจท.

7. การวัดและประเมนิ ผล เป้าหมาย หลักฐาน วธิ ีวดั เคร่อื งมือวดั 1. ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ ชนิ งาน/ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ใบกิจกรรม ภาระงาน ความรู้ 1. อธิบายการเกิดเสียง ทกั ษะ/กระบวนการ ใบกิจกรรม 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินชินงาน/ ภาระงาน 1. ระบตุ วั แปร สมมตฐิ าน และ ทดลองการเกิด เสียง คณุ ลักษณะของผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21/ ใบกจิ กรรม 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมิน สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 2. สงั เกตการทา คณุ ลกั ษณะของ 1. มีทักษะการคิดวิเคราะห์ กจิ กรรมของ ผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 2. มีความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะ นกั เรยี น 21/สมรรถนะสาคัญ ความเป็นผู้นา ของผู้เรยี น 3. มที ักษะอาชีพและการเรยี นรู้ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. สังเกตการทา แบบประเมิน กิจกรรมของ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ 1. มีวนิ ัย นักเรยี น ประสงค์ 2. ใฝเ่ รยี นรใู้ นการรว่ มกิจกรรม 3. มีความซ่ือสัตย์สุจริต 4. มีความม่งุ มนั่ ในการทางาน

(ลงชอ่ื )............................................... ผู้สอน ( นายสวุ จิ ักขณ์ อธิคมกลุ ชยั ) ตาแหนง่ ครู 8. ขอ้ เสนอแนะ/ความคดิ เห็นของผ้บู ริหาร ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ......................................... (ลงชือ่ ).................................................................. (นายพยงค์ แกน่ สาราญ) ผ้อู านวยการโรงเรยี นวดั วังนาเขยี ว

9. บนั ทึกผลหลังการสอน/ข้อคน้ พบ/แนวทางแก้ไข/สรปุ ผล 1. ครสู ามารถดาเนนิ การสอนไดต้ ามแผนที่วางไวห้ รือไม่ เพราะเหตุใด 1. การจัดการเรียนการสอนเป็นไปตามแผนทีก่ าหนดไว้ เนือ่ งจากครผู ู้สอนได้เตรียมอปุ กรณ์ สาหรับการทดลองก่อนการจัดการเรียนการสอน 2. ชัน ป.5/1 มีนักเรียนทากิจกรรมเสร็จจานวน 21 คน ที่เหลืออีก 5 คน ทากิจกรรมไม่เสร็จ ตามเวลาที่กาหนด ส่วนชัน ป.5/2 มนี กั เรยี นทากิจกรรมเสรจ็ จานวน 20 คน ที่เหลืออีก 5 คน ทากิจกรรมไม่ เสร็จตามเวลาท่ีกาหนด อาจเป็นเพราะว่า นักเรียนกลุ่มนีเรียนรู้ช้า ท่ีเหลืออีก 10 คน ให้กลับไปทาเป็น การบา้ น 3. เมื่อนักเรียนสง่ ครบทกุ คนแล้วมีผลการประเมนิ ดังนี ชัน มฐ./ตัวชีวัด ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะของผเู้ รียนในศตวรรษ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (จานวน คน) ท่ี 21/สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ดีมาก ดี พอใช้ ดีเยี่ยม ดี พอใช้ ดเี ยี่ยม ดี พอใช้ ป.5/1 ว 2.3 ป.5/1 21 5 11 4 11 18 8 ป.5/2 ว 2.3 ป.5/1 20 5 13 5 7 20 5 2. ครูพบปัญหาใดบา้ งในการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจดั การเรียนรนู้ ี กอ่ นการทดลองครใู หต้ อบคาถามก่อนการทดลอง นกั เรยี นบางกลุ่มแอบทาการทดลองก่อน เน่อื งจากกลวั ว่าจะตอบคาถามกอ่ นการทดลองผดิ ครจู งึ ชแี จงว่าคาถามก่อนการทดลองเขียนตามความเข้าใจ ของนักเรยี นผิดหรือถกู ไมเ่ ป็นไร 3. ครูคิดว่าจะปรับปรงุ ตามแผนการจดั การเรยี นรู้นีอยา่ งไรเพื่อให้กระบวนการจัดการเรียนรู้มี ประสทิ ธิภาพมากขึน กาชับนกั เรยี นให้ทากจิ กรรมในใบกิจกรรมตา่ งๆ ให้อยูเ่ วลาท่ีกาหนด เพ่ือท้ายชั่วโมงครูจะได้มี การสรุปเรือ่ งที่เรยี นอีกครงั (ลงช่อื ) .................................................ผ้สู อน (นายสวุ จิ กั ขณ์ อธคิ มกลุ ชัย) ตาแหน่ง ครูโรงเรยี นวดั วังนาเขยี ว

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง ทดลองเสียงเคล่ือนทอ่ี ยา่ งไร หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง พลังงานเสียง (สะเต็มศึกษา) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รหัส ว 15101 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 จานวน 4 ชั่วโมง โรงเรยี นวดั วงั นา้ เขยี ว วนั ที่สอน …………………….……………….………. ..................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน ปฏิสัมพนั ธ์ ระหว่างสสาร และพลงั งาน พลังงานในชีวติ ประจาวันธรรมชาตขิ องคลืน่ ปรากฏการณ์ท่เี กีย่ วข้องกับ เสยี ง แสงและคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทัง้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 2.3 ป.5/1 อธิบายการได้ยนิ เสยี งผา่ นตัวกลางจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ 2. สาระสาคญั การเดินทางของเสียง ต้องอาศัยตัวกลางในการเคลื่อนท่ี เสียงมาถึงหูของเราโดยมีอากาศเป็น ตัวกลาง แหลง่ กาเนิดเสียงจะทาใหอ้ ากาศรอบๆส่ันสะเทอื น การสัน่ สะเทอื นจะกระจายออกไปรอบทุกทิศทาง เมอื่ คลื่นเดนิ ทางมาถงึ หขู องเรา เราจะรบั รู้เสยี งตา่ งๆ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ 1. อธบิ ายการเคลื่อนทข่ี องเสียง 2. อธบิ ายการเคล่ือนทข่ี องเสียงผ่านตวั กลาง ทกั ษะ/กระบวนการ 1. ระบตุ ัวแปร สมมติฐาน และ ทดลองการเคลื่อนทข่ี องเสียง 2. ระบตุ วั แปร สมมตฐิ าน และ ทดลองการเคล่ือนทีข่ องเสยี งผ่านตวั กลาง คณุ ลกั ษณะของผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21/สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. มที ักษะการคดิ วเิ คราะห์ 2. มีความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะความเป็นผู้นา 3. มีทกั ษะอาชีพและการเรียนรู้

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ในการรว่ มกจิ กรรม 3. มีความซ่ือสตั ยส์ ุจรติ 4. มคี วามมุ่งมน่ั ในการทางาน 4. ช้ินงาน/ภาระงาน 1. ใบกจิ กรรมที่ 2 เร่ือง ทดลองเสียงเคลื่อนที่อย่างไร 2. ใบกจิ กรรมที่ 3 เรื่อง ทดลองการเคล่ือนที่ของเสียงผ่านตวั กลาง 5. ใชก้ ารจดั การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 E (Inquiry Cycles) 5.1 ขัน้ สรา้ งความสนใจ 1. ครนู าเขา้ สู่บทเรียนเกยี่ วกับการเคลอ่ื นที่ของเสียง โดยครสู าธิตให้นกั เรียนสังเกตการเคล่ือนที่ของ เสียงดังนี ให้ครทู ดลองเคาะส้อมเสยี งแลว้ นาไปแตะท่ผี วิ นาทันที จะเห็นวา่ สอ้ มเสยี งสง่ พลงั งานจากการส่นั ผา่ นนาในรูปของคลื่นกระจายออกไปเปน็ วงโดยรอบ ซึ่งเป็นลกั ษณะการเคล่อื นท่ีของเสียงนั่นเอง 2. ครนู าการอภิปรายโดยถามคาถามกระต้นุ ความคิดของนักเรยี นเพื่อนาเข้าสู่กิจกรรมที่ 2 เรอื่ ง ทดลองเสยี งเคล่อื นที่อย่างไร ดงั นี 2.1 เสยี งเดินทางมายงั หูของเราได้อย่างไร แนวการตอบ เสยี งเคล่ือนที่จากแหลง่ กาเนิดเสยี งในลักษณะของคลื่นกระจายออกรอบทิศทาง โดยผ่านตวั กลางจนถึงอวยั วะรับเสียง คือ หู ทาใหเ้ ราสามารถได้ยนิ เสยี งทเ่ี กิดขึนได้ 2.2 เสยี งเคลื่อนท่ผี ่านตวั กลางชนดิ ใดไดด้ ีกวา่ กนั แนวการตอบ เสียงเคลื่อนท่ีผา่ นตวั กลางท่เี ป็นของแขง็ ได้ดีที่สดุ รองลงมากค็ ือ ของเหลว และ แกส๊ 5.2 ขั้นสารวจและคน้ หา 3. ครแู บ่งนักเรียนออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ทากิจกรรมที่ 2 เรอื่ ง ทดลองเสียงเคล่ือนที่อยา่ งไร 4. นักเรยี นและครูอภปิ รายรว่ มกนั เก่ยี วกับการเคลอ่ื นท่ีของเสียง 5. ครูใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมท่ี 3 เรอื่ ง ทดลองการเคลอื่ นที่ของเสยี งผ่านตวั กลาง เพื่อบ่งชีตวั กลางใน การเดินทางของเสียง 5.3 ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป 6. ครูใหผ้ ู้แทนนักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลการทากิจกรรมหนา้ ชันเรยี น เพือ่ เปรยี บเทียบและ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 7. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายผลการทากจิ กรรม โดยครูถามคาถามหลังทากจิ กรรมนักเรยี นดังนี 7.1 เสียงเคลือ่ นท่ผี า่ นตวั กลางชนดิ ใดไดด้ ีกวา่ กัน

แนวการตอบ เสยี งเคลอื่ นท่ีผ่านตวั กลางที่เปน็ ของแข็งได้ดที ส่ี ดุ รองลงมาก็คือ ของเหลว และ แก๊ส 7.2 นักเรียนสรุปผลการทดลองไดว้ ่าอย่างไร แนวการตอบ เสียงเคล่ือนท่ีไดด้ ที ี่สดุ ในตวั กลางทเ่ี ป็น ของแขง็ รองลงมาคือ ของเหลว และ แกส๊ ตามลาดับ 8. ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกนั สรุปความรู้เกย่ี วกับการเคลอื่ นทีข่ องเสียงผ่านตัวกลาง ใหต้ รงกับจุดประสงค์ การเรยี นรู้ 5.4 ขนั้ ขยายความรู้ 9. นักเรยี นดูวีดิทศั น์ เรือ่ ง การเคลอื่ นที่ของเสยี ง link https://www.youtube.com/watch?v=9SH33W0QZu0 แล้วอภิปรายเกี่ยวกับขอ้ คาถามหลงั การทดลอง 10. ครูใหน้ กั เรียนประดษิ ฐ์ของเลน่ โทรศัพทจ์ ากถ้วยพลาสติกโดยมขี นั ตอนดังนี 1. นาถ้วยพลาสติกมา 2 ใบ แต่ละใบเจาะก้นถ้วยให้เป็นรูตรงกลาง 1 รูดว้ ยปลายแหลมของ ดินสอ 2. ใชป้ ลายด้านข้างหน่ึงรอ้ ยเข้าไปในรูกน้ ถ้วยจากดา้ นนอกไปผกู กับไมจ้ ิมฟันเพือ่ ยึดเชอื กไว้ 3. ใช้ปลายด้ายอกี ข้างหน่งึ ทาเช่นเดียวกันกบั ถ้วยอีกใบหนงึ่ 4. ทดลองพูดผา่ นถว้ ยข้างหนึ่งและให้เพอ่ื นจับถ้วยอีกขา้ งหนึง่ แนบหเู พ่ือฟัง 5. ลองดงึ ด้ายให้ตึงและหย่อน สังเกตการไดย้ นิ เสียง 5.5 ขัน้ ประเมนิ 11. ครูประเมนิ ผลนกั เรยี น โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม คุณลักษณะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21/ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 12. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมตา่ งๆ 6. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 วดี ิทศั น์ เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทีข่ องเสียง https://www.youtube.com/watch?v=9SH33W0QZu0 6.2 ใบกจิ กรรมท่ี 2 เรือ่ ง ทดลองเสียงเคลื่อนท่ีอย่างไร 6.3 ใบกจิ กรรมท่ี 3 เรอ่ื ง ทดลองการเคลอ่ื นที่ของเสียงผา่ นตวั กลาง 6.4 คอมพิวเตอร์ เคร่ืองฉายภาพดจิ ติ อล (Projector) 6.5 หนังสอื แบบเรยี นวทิ ยาศาสตรป์ .6 สสวท.และอจท.

7. การวัดและประเมนิ ผล หลกั ฐาน วิธีวดั เคร่ืองมือวดั เปา้ หมาย ใบกิจกรรม 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินชินงาน/ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ใบกิจกรรม ภาระงาน ความรู้ 1. อธบิ ายการเคล่อื นท่ขี องเสยี ง ใบกิจกรรม 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมนิ ชนิ งาน/ 2. อธบิ ายการเคลื่อนทข่ี องเสยี งผ่านตวั กลาง ภาระงาน ทกั ษะ/กระบวนการ 1. ระบตุ วั แปร สมมตฐิ าน และ ทดลองการ 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมนิ เคลอ่ื นท่ีของเสยี ง 2. ระบตุ ัวแปร สมมตฐิ าน และ ทดลองการ 2. สังเกตการทา คุณลักษณะของ เคลือ่ นท่ีของเสียงผ่านตวั กลาง คณุ ลักษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21/ กิจกรรมของ ผู้เรยี นในศตวรรษท่ี สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. มที ักษะการคิดวเิ คราะห์ นักเรยี น 21/สมรรถนะสาคญั 2. มีความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะ ความเป็นผนู้ า ของผู้เรียน 3. มที กั ษะอาชีพและการเรียนรู้ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. สังเกตการทา แบบประเมนิ 1. มวี นิ ยั กจิ กรรมของ คุณลกั ษณะอนั พงึ 2. ใฝ่เรียนรู้ในการรว่ มกิจกรรม นกั เรยี น ประสงค์ 3. มีความซื่อสตั ยส์ จุ รติ 4. มีความมุ่งม่นั ในการทางาน

(ลงชื่อ)............................................... ผสู้ อน ( นายสวุ จิ กั ขณ์ อธิคมกลุ ชยั ) ตาแหน่ง ครู 8. ขอ้ เสนอแนะ/ความคดิ เห็นของผบู้ รหิ าร ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ......................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ......................................... (ลงชอ่ื ).................................................................. (นายพยงค์ แก่นสาราญ) ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั วังนาเขียว

9. บันทกึ ผลหลังการสอน/ข้อคน้ พบ/แนวทางแก้ไข/สรปุ ผล 1. ครสู ามารถดาเนนิ การสอนไดต้ ามแผนท่วี างไว้หรือไม่ เพราะเหตุใด 1. จัดการเรียนการสอนไม่เป็นไปตามแผนท่กี าหนดไว้ เน่อื งจาก นักเรียนใช้เวลาในการประดิษฐ์ โทรศพั ทจ์ ากถว้ ยพลาสติก เกนิ จนเกนิ เวลาท่ีกาหนดไว้ 2. ชัน ป.5/1 มีนักเรียนทากิจกรรมเสร็จจานวน 15 คน ท่ีเหลืออีก 11 คน ทากิจกรรมไม่เสร็จ ตามเวลาท่ีกาหนด สว่ นชัน ป.5/2 มีนักเรยี นทากิจกรรมเสรจ็ จานวน 16 คน ท่ีเหลืออีก 9 คน ทากิจกรรมไม่ เสร็จตามเวลาท่ีกาหนด อาจเป็นเพราะว่า นักเรียนกลุ่มนีเรียนรู้ช้า ที่เหลืออีก 20 คน ให้กลับไปทาเป็น การบ้าน 3. เม่อื นักเรียนสง่ ครบทุกคนแลว้ มีผลการประเมินดังนี ชัน มฐ./ตัวชีวัด ผลการประเมิน คณุ ลกั ษณะของผเู้ รียนในศตวรรษ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (จานวน คน) ที่ 21/สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ดีมาก ดี พอใช้ ดเี ย่ยี ม ดี พอใช้ ดีเย่ยี ม ดี พอใช้ ป.5/1 ว 2.3 ป.5/1 15 11 9 6 11 20 6 ป.5/2 ว 2.3 ป.5/1 16 9 8 10 7 21 4 2. ครูพบปัญหาใดบ้างในการจดั การเรียนการสอนตามแผนการจดั การเรียนร้นู ี นักเรยี นบางกลุ่มไม่ได้นาวัสดุทใี่ ชใ้ นการประดิษฐ์ โทรศัพท์จากถ้วยพลาสติก จึงต้องเสยี เวลาใน การไปหาถ้วยขา้ งนอก 3. ครคู ดิ วา่ จะปรบั ปรุงตามแผนการจัดการเรยี นรนู้ ีอยา่ งไรเพือ่ ให้กระบวนการจัดการเรียนรมู้ ี ประสิทธิภาพมากขึน กาชบั กจิ กรรมการทดลองให้เร็วขึนและเผอ่ื เวลาการประดิษฐใ์ ห้มากกว่าเดิม (ลงช่ือ) .................................................ผู้สอน (นายสวุ ิจกั ขณ์ อธคิ มกุลชยั ) ตาแหน่ง ครูโรงเรียนวดั วังนาเขยี ว

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 เรือ่ ง การได้ยนิ และอวยั วะรับเสยี ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง พลงั งานเสยี ง (สะเต็มศกึ ษา) กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ รหสั ว 15101 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวน 3 ช่ัวโมง โรงเรยี นวดั วังน้าเขียว วนั ท่ีสอน …………………….……………….………. ..................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏิสัมพันธ์ ระหวา่ งสสาร และพลังงาน พลงั งานในชวี ิตประจาวันธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณ์ท่เี กย่ี วข้องกับ เสยี ง แสงและคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทงั้ นาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ตวั ช้วี ดั ว 2.3 ป.5/1 อธบิ ายการไดย้ นิ เสียงผา่ นตัวกลางจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ 2. สาระสาคัญ การได้ยินเสยี ง ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ แหล่งกาเนดิ เสียง ตวั กลางท่เี สยี งเคลื่อนที่ผา่ น และอวยั วะรบั เสยี ง ส่วนประกอบของหูที่เกย่ี วข้องกบั การไดย้ ิน หขู องคนเราแต่ละขา้ งแบ่งออกเป็น 3 ชันคือ หชู ันนอก หูชนั กลาง และหชู ันใน เสยี งทีเ่ กดิ ขึนทกุ ชนิดมีลักษณะเป็นคลน่ื เสยี ง ใบหรู บั คลื่นเสียงเข้าสู่รูหูไปกระทบเยื่อแก้วหู เยื่อแก้วหู ถ่ายทอดความสั่นสะเทอื นของคลน่ื เสียงไปยงั กระดกู ค้อน กระดูกทั่ง และกระดูกโกลน ซ่ึงอยู่ในหูชันกลางและ เลย ไปยังท่อรูปครึ่งวงกลม แล้วต่อไปยังของเหลวในท่อรูปหอยโข่ง และประสาทรับเสียงในหูชันในตามลาดับ ประสาทรับเสียงถูกกระตนุ้ แลว้ สง่ ความรูส้ ึกไปสสู่ มองเพอ่ื แปลความหมายของเสยี งทไี่ ดย้ นิ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ 1. อธบิ ายองค์ประกอบและหนา้ ที่ของอวัยวะรับเสียง 2. อธบิ ายองคป์ ระกอบของการไดย้ นิ เสยี ง คุณลักษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21/สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. มีทักษะการคดิ วิเคราะห์ 2. มีความร่วมมอื การทางานเป็นทีม และภาวะความเป็นผู้นา

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ในการร่วมกิจกรรม 3. มีความซอ่ื สตั ย์สุจริต 4. มีความมุ่งมนั่ ในการทางาน 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบกจิ กรรมท่ี 4 เร่ือง อวัยวะรบั เสียง 2. ใบกจิ กรรมท่ี 5 เรื่อง การไดย้ ินของมนุษย์ 3. ใบกจิ กรรมท่ี 6 เรื่อง การเคลอ่ื นที่ของเสยี งและการได้ยิน 5. ใชก้ ารจดั การเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 E (Inquiry Cycles) 5.1 ขัน้ สรา้ งความสนใจ 1. ครนู าการอภิปราย โดยใช้ประเดน็ ในการอภปิ รายดังนี เราได้ยนิ เสียงได้อย่างไร แนวการตอบ การไดย้ นิ เสยี ง ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ แหลง่ กาเนิดเสยี ง ตวั กลางทีเ่ สยี ง เคลอ่ื นท่ีผ่าน และอวัยวะรบั เสียง 2. ครูแจง้ ชอ่ื เรื่องที่จะเรยี นรู้และจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ 5.2 ข้ันสารวจและคน้ หา 3. ครูอธบิ ายรายละเอยี ดของการทากจิ กรรมในวันนี 4. ครูตรวจสอบประสบการณเ์ ดิมของนักเรยี น โดยใหน้ กั เรียนตอบคาถามลงในกระดาษทค่ี รกู าหนด ดังนี องค์ประกอบของการได้ยนิ มอี ะไรบา้ ง 5. ครูแบง่ นักเรียนออกเป็น 7 กลุ่ม โดยแตล่ ะกลมุ่ ไดร้ ับมอบหมายใหส้ บื คน้ เกีย่ วกบั องค์ประกอบ ของการไดย้ นิ และการได้ยินจากแหลง่ เรียนรูท้ ่ีครกู าหนด ลงในใบกจิ กรรมที่ 4 เร่ือง อวัยวะรบั เสียง พรอ้ ม ทังออกแบบการนาเสนอผลการสืบคน้ 5.3 ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป 6. สมาชิกแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั อภิปรายและสรุปผลจากการทากจิ กรรมภายในกลมุ่ 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานของกลุ่มหน้าชันเรียน โดยครูสุ่มจับสลาก เลือกตวั แทนนักเรยี นทีละกล่มุ 8. ตวั แทนนกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั เรยี น จากนนั ร่วมกันอภิปรายและ สรปุ ผลเก่ยี วกบั อวยั วะรบั เสยี ง 5.4 ขัน้ ขยายความรู้ 9. ครใู ห้นกั เรียนดู วีดิทศั น์ เรอ่ื ง อวัยวะรบั เสียง จาก link https://www.youtube.com/watch?v=E7iHprrwkq8&t=39sA

10. นักเรยี นทากจิ กรรมท่ี 5 เร่อื ง การได้ยินของมนุษย์ และกจิ กรรมที่ 6 เร่ือง การเคลื่อนที่ของเสียง และการได้ยนิ แลว้ อภปิ รายรว่ มกนั 5.5 ข้นั ประเมนิ 11. ครปู ระเมินผลนกั เรียน โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม คุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21/ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 12. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมตา่ งๆ 6. ส่อื การเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 วดี ิทัศน์ เร่อื ง อวยั วะรบั เสียงและการไดย้ นิ เสียง https://www.youtube.com/watch?v=E7iHprrwkq8&t=39s 6.2 ใบกิจกรรมท่ี 4 เร่อื ง อวยั วะรับเสยี ง 6.3 ใบกิจกรรมท่ี 5 เรอื่ ง การไดย้ ินของมนุษย์ 6.4 ใบกิจกรรมท่ี 6 เรอ่ื ง การเคลอื่ นที่ของเสยี งและการได้ยิน 6.5 คอมพิวเตอร์ เคร่ืองฉายภาพดจิ ติ อล (Projector) 6.6 หนังสือแบบเรียนวิทยาศาสตรป์ .6 สสวท.และอจท. 7. การวัดและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลักฐาน วิธวี ดั เคร่อื งมือวดั จุดประสงค์การเรียนรู้ ใบกิจกรรม 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินชินงาน/ ความรู้ ภาระงาน 1. อธบิ ายองคป์ ระกอบและหนา้ ที่ของอวยั วะรบั เสียง 2. อธิบายองค์ประกอบของการไดย้ นิ เสียง คณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21/ ใบกจิ กรรม 1. ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมิน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 2. สงั เกตการทา คณุ ลกั ษณะของ 1. มีทักษะการคดิ วเิ คราะห์ กิจกรรมของ ผ้เู รยี นในศตวรรษที่ 2. มคี วามรว่ มมือ การทางานเป็นทีม และภาวะ นักเรียน 21/สมรรถนะสาคญั ความเป็นผูน้ า ของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. สังเกตการทา แบบประเมนิ 1. มีวนิ ยั กิจกรรมของ คุณลักษณะอนั พงึ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ในการร่วมกจิ กรรม นักเรียน ประสงค์ 3. มีความซือ่ สตั ย์สุจรติ 4. มีความมุ่งมัน่ ในการทางาน

(ลงช่ือ)............................................... ผู้สอน ( นายสวุ ิจักขณ์ อธิคมกุลชยั ) ตาแหนง่ ครู 8. ข้อเสนอแนะ/ความคดิ เห็นของผบู้ ริหาร .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... (ลงชอื่ ).................................................................. (นายพยงค์ แกน่ สาราญ) ผ้อู านวยการโรงเรยี นวัดวงั นาเขียว

9. บันทกึ ผลหลังการสอน/ข้อค้นพบ/แนวทางแก้ไข/สรปุ ผล 1. ครูสามารถดาเนนิ การสอนไดต้ ามแผนทวี่ างไวห้ รอื ไม่ เพราะเหตุใด 1. การจัดการเรียนร้เู ป็นไปตามแผนท่ีกาหนดไว้ ทัง 2 ห้อง 2. ชัน ป.5/1 มีนักเรียนทากิจกรรมเสร็จจานวน 20 คน ที่เหลืออีก 6 คน ทากิจกรรมไม่เสร็จ ตามเวลาที่กาหนด ส่วนชนั ป.5/2 มีนักเรียนทากิจกรรมเสร็จจานวน 21 คน ที่เหลืออีก 4 คนทากิจกรรมไม่ เสร็จตามกาหนด อาจเป็นเพราะวา่ นักเรียนกลมุ่ นเี รียนรู้ช้า จงึ ใหก้ ลบั ไปทาเป็นการบ้าน 3. เมื่อนักเรยี นสง่ ครบทุกคนแล้วมีผลการประเมินดังนี ชนั มฐ./ตัวชวี ดั ผลการประเมิน คุณลกั ษณะของผเู้ รียนในศตวรรษ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (จานวน คน) ท่ี 21/สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ดีมาก ดี พอใช้ ดีเยี่ยม ดี พอใช้ ดเี ยี่ยม ดี พอใช้ ป.5/1 ว 2.3 ป.5/1 20 4 2 10 5 11 20 6 ป.5/2 ว 2.3 ป.5/1 21 3 1 8 10 7 21 4 2. ครูพบปญั หาใดบ้างในการจดั การเรียนการสอนตามแผนการจดั การเรยี นรนู้ ี 1. กจิ กรรมที่ 6 ข้อ 1 นกั เรยี นบางสว่ นไม่สามารถเรียบเรยี งข้อความในการเขยี นได้ บางคน มองภาพแล้วไม่รูจ้ ะเรม่ิ เขยี นตรงสว่ นไหนก่อน 3. ครคู ดิ วา่ จะปรบั ปรงุ ตามแผนการจดั การเรยี นรู้นีอย่างไรเพื่อให้กระบวนการจดั การเรียนรู้มี ประสิทธิภาพมากขนึ 1. ครคู วรอธิบายเน้นยาข้อคาถาม สาหรับนักเรยี นที่มกี รเรยี นร้ชู ้าครูอาจจะเริ่มตน้ ประโยคให้ นกั เรียนแล้วค่อยให้นักเรียนเขยี นเองจนจบ (ลงช่อื ) .................................................ผู้สอน (นายสุวจิ ักขณ์ อธคิ มกุลชยั ) ตาแหน่ง ครโู รงเรยี นวดั วงั นาเขยี ว

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง ทดลองเสียงสูงเสียงต่า หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่ือง พลงั งานเสยี ง (สะเตม็ ศึกษา) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รหัส ว 15101 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 จานวน 3 ชั่วโมง โรงเรยี นวัดวงั น้าเขยี ว วันที่สอน …………………….……………….………. ....................................................................................................... .............. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลีย่ นแปลงและการถา่ ยโอนพลงั งาน ปฏิสัมพนั ธ์ ระหวา่ งสสาร และพลงั งาน พลงั งานในชวี ิตประจาวนั ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกยี่ วข้องกับ เสียง แสงและคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมท้ังนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ตัวช้วี ดั ว 2.3 ป.5/2 ระบุตัวแปรทดลองและอธิบายลกั ษณะและการเกดิ เสยี งสูง เสยี งต่า 2. สาระสาคญั เสียงสูงเสียงต่า เรียกว่า ระดับเสียง ถ้าแหล่งกาเนิดเสียงมีความเร็วในการสั่นสะเทือน (มีความถี่สูง) จะทาใหเ้ กดิ เสยี งสูง และถ้า แหลง่ กาเนิดเสยี งมคี วามเร็วในการส่ันสะเทือนน้อย หรือเบา (มีความถี่ต่า) จะทา ใหเ้ กิดเสยี งต่า หรือเสียงทมุ้ ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดเสียงสูงต่า เสียงสูงต่าขึนอยู่กับความถี่ในการสั่นสะเทือนของวัตถุที่เป็น แหลง่ กาเนิดเสยี ง แหลง่ กาเนิดเสยี งสน่ั สะเทอื นด้วยความถี่ตา่ จะเกิดเสยี งต่า แต่ถ้าสั่นสะเทือนด้วยความถ่ีสูง เสยี งกจ็ ะสงู โดยระดับเสยี งสามารถเปลยี่ นแปลงไดด้ ้วย 1. ขนาดของวตั ถุกาเนดิ เสียง 2. ความยาวของวตั ถุกาเนิดเสียง 3. ความตึงของวัตถกุ าเนิดเสียง 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ 1. อธิบายการเกดิ และลักษณะของเสยี งสูง เสียงตา่ ทกั ษะ/กระบวนการ 1. ระบุตวั แปร สมมติฐาน และ ทดลองการเกิดเสียงสงู เสียงต่า คณุ ลักษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21/สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. มีทักษะการคดิ วเิ คราะห์

2. มคี วามรว่ มมอื การทางานเป็นทีม และภาวะความเป็นผู้นา 3. มีทักษะอาชีพและการเรยี นรู้ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรใู้ นการรว่ มกิจกรรม 3. มีความซ่ือสตั ย์สุจริต 4. มีความมุ่งมัน่ ในการทางาน 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ใบกิจกรรมท่ี 7 เรื่อง ทดลองเสียงสูงเสียงตา่ 2. ใบกิจกรรมที่ 8 เรอ่ื ง เสียงสงู เสียงตา่ 5. ใชก้ ารจัดการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 E (Inquiry Cycles) 5.1 ขน้ั สรา้ งความสนใจ 1. ครนู าการอภิปรายโดยถามคาถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรียนเพื่อนาเข้าสูก่ จิ กรรมท่ี 5 เสียงสูง เสียงตา่ ดงั นี 1.1 เสียงที่เราได้ยนิ มีลักษณะอยา่ งไร แนวการตอบ ตวั อย่างคาตอบ เสียงดัง เสียงคอ่ ย เสียงสูง เสยี งตา่ 1.2 เสยี งสงู เสยี งตา่ เกดิ ขึนไดอ้ ย่างไร แนวการตอบ เสียงสูง เสียงต่า เกิดจากความถ่ีของเสียงท่ีแตกตา่ งกัน 2. ครแู จง้ ช่ือเรอ่ื งท่ีจะเรียนรแู้ ละจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูใ้ ห้นกั เรียนทราบ 5.2 ขน้ั สารวจและค้นหา 3. ครอู ธบิ ายรายละเอียดของการทากจิ กรรมในวันนี 4. ครแู บง่ นกั เรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ทากิจกรรมที่ 7 เร่อื ง ทดลองเสียงสงู เสียงตา่ 5. ครูให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นก่อนทากจิ กรรม โดยครถู ามคาถามกอ่ นทากิจกรรม ดังนี 3.1 กิจกรรมนีมีจุดประสงค์อยา่ งไร แนวการตอบ เปรียบเทยี บขนาดของเสน้ ลวดมผี ลต่อการเกดิ เสียงสงู เสียงต่า 3.2 นกั เรยี นคดิ ว่า ถ้าดีดเส้นลวดขนาดเลก็ และใหญ่ดว้ ยแรงทเี่ ท่ากันผลจะเป็นอย่างไร แนวการตอบ ลวดทมี่ ีขนาดเล็กจะเกิดเสียงสูง ลวดท่มี ีขนาดใหญ่จะเกดิ เสยี งตา่ 5.3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรุป 6. ครูให้ผ้แู ทนนกั เรยี นแต่ละกลุ่ม นาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าชันเรยี น เพื่อเปรียบเทยี บและ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 7. ครใู ห้นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายผลการทากิจกรรม โดยครูถามคาถามหลังทากิจกรรมดังนี 7.1 ผลการทดลองเปน็ ไปตามทีค่ าดคะเนไว้หรือไม่ อย่างไร

แนวการตอบ เปน็ ไปตามท่ีคาดคะเนไว้ โดยลวดขนาดเล็ก จะสัน่ สะเทือนเรว็ ทาใหเ้ กิดเสียงสูง ลวดขนาดใหญ่ จะสั่นสะเทือนชา้ ทาใหเ้ กิดเสยี งตา่ 7.2 นักเรยี นสรปุ ผลการทากิจกรรมได้วา่ อย่างไร แนวการตอบ วตั ถตุ น้ กาเนิดเสียงทมี่ สี ายทีม่ ีขนาดเลก็ จะส่นั สะเทือนเร็ว ทาใหเ้ กดิ เสียงสงู สว่ น วตั ถตุ ้นกาเนิดเสียงที่มีสายที่มีขนาดใหญ่ จะสน่ั สะเทือนชา้ ทาใหเ้ กดิ เสยี งตา่ 7.3 ให้นกั เรยี นลองคาดคะเน ถ้านาเส้นลวดขนาดเลก็ ยาวเท่ากนั 2 เสน้ มาขึงระหวา่ งตะปู กข และตะปู กค โดยให้เสน้ หน่ึงขึงหยอ่ น อกี เส้นหน่งึ ขึงตึง แลว้ ดดี เส้นลวดทัง 2 ดว้ ยแรงเทา่ กัน ระดับเสียง จะแตกตา่ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร แนวการตอบ แตกต่างกนั โดยลวดเสน้ ทข่ี ึงหย่อนจะสัน่ สะเทอื นชา้ ทาให้เกดิ เสยี งต่า สว่ นลวด เสน้ ที่ขงึ ตึง จะส่นั สะเทือนเรว็ ทาใหเ้ กิดเสียงสูง 8. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกันสรุปความร้เู กย่ี วกับการเกดิ เสียงสงู เสียงตา่ ใหต้ รงกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 5.4 ขั้นขยายความรู้ 9. นักเรยี นดูวีดิทัศน์ เรื่อง เสยี งสงู เสยี งต่า จาก link https://www.youtube.com/watch?v=ye4vERnTuM0 10. นักเรียนทากจิ กรรมที่ 8 เรือ่ ง เสียงสูงเสียงตา่ พร้อมรว่ มกับเฉลยคาตอบที่ไดจ้ ากการทา กจิ กรรม 11. นักเรยี นดูวดี ทิ ัศน์ เกย่ี วกบั ความถี่เสียง จาก link https://www.youtube.com/watch?v=Oz-YpreaeO4 5.5 ขน้ั ประเมนิ 11. ครปู ระเมนิ ผลนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม คุณลักษณะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21/ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 12. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมต่างๆ 6. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 วดี ืทศั น์ เรือ่ ง เสยี งสงู เสยี งต่า https://www.youtube.com/watch?v=ye4vERnTuM0 6.2 วดี ทิ ัศน์ เกี่ยวกับความถี่เสยี ง จาก link https://www.youtube.com/watch?v=Oz-YpreaeO4 6.3 ใบกจิ กรรมที่ 7 เรื่อง ทดลองเสยี งสูงเสียงตา่ 6.4 ใบกจิ กรรมที่ 8 เรื่อง เสียงสูงเสียงต่า 6.5 คอมพิวเตอร์ เครื่องฉายภาพดิจิตอล (Projector) 6.6 หนงั สอื แบบเรยี นวทิ ยาศาสตรป์ .6 สสวท.และอจท.

7. การวดั และประเมินผล เป้าหมาย หลักฐาน วิธีวดั เครอ่ื งมือวดั 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินชนิ งาน/ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ใบกจิ กรรม ภาระงาน ความรู้ 1. อธบิ ายการเกิดและลักษณะของเสียงสูง เสยี งต่า ทกั ษะ/กระบวนการ ใบกิจกรรม 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมนิ ชินงาน/ ภาระงาน 1. ระบุตวั แปร สมมตฐิ าน และ ทดลองการ เกดิ เสียงสูง เสียงต่า คณุ ลักษณะของผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21/ ใบกิจกรรม 1. ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมิน สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 2. สังเกตการทา คุณลกั ษณะของ 1. มที ักษะการคดิ วิเคราะห์ กจิ กรรมของ ผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 2. มีความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะ นกั เรยี น 21/สมรรถนะสาคญั ความเป็นผู้นา ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. สังเกตการทา แบบประเมิน 1. มวี นิ ยั กิจกรรมของ คุณลักษณะอนั พึง 2. ใฝเ่ รียนรูใ้ นการร่วมกจิ กรรม นักเรยี น ประสงค์ 3. มีความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต 4. มคี วามมุง่ ม่นั ในการทางาน

(ลงช่อื )............................................... ผู้สอน ( นายสวุ ิจักขณ์ อธิคมกลุ ชัย ) ตาแหนง่ ครู 8. ข้อเสนอแนะ/ความคดิ เห็นของผูบ้ ริหาร ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ......................................... (ลงช่อื ).................................................................. (นายพยงค์ แก่นสาราญ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นวัดวงั นาเขียว

9. บนั ทึกผลหลังการสอน/ข้อค้นพบ/แนวทางแกไ้ ข/สรุปผล 1. ครูสามารถดาเนนิ การสอนได้ตามแผนท่ีวางไวห้ รอื ไม่ เพราะเหตุใด 1. การจัดการเรยี นรเู้ ปน็ ไปตามแผนท่กี าหนดไว้ ทงั 2 ห้อง 2. ชัน ป.5/1 มีนักเรียนทากิจกรรมเสร็จจานวน 20 คน ที่เหลืออีก 6 คน ทากิจกรรมไม่เสร็จ ตามเวลาท่กี าหนด ส่วนชนั ป.5/2 มีนักเรยี นทากิจกรรมเสร็จจานวน 25 คน อาจเป็นเพราะว่า นักเรียนกลุ่ม นีเรยี นรชู้ ้า ทีเ่ หลอื อกี 6 คน ใหก้ ลับไปทาเปน็ การบ้าน 3. เมื่อนกั เรยี นสง่ ครบทุกคนแล้วมผี ลการประเมนิ ดังนี ชัน มฐ./ตัวชวี ดั ผลการประเมนิ คุณลักษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (จานวน คน) ที่ 21/สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ดีมาก ดี พอใช้ ดเี ยย่ี ม ดี พอใช้ ดีเย่ยี ม ดี พอใช้ ป.5/1 ว 2.3 ป.5/2 20 6 10 5 11 20 6 ป.5/2 ว 2.3 ป.5/2 18 7 11 4 10 20 5 2. ครูพบปัญหาใดบา้ งในการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจดั การเรียนรนู้ ี 1. การตอบคาถามกอ่ นการทดลองนกั เรียนบางคนใช้เวลาในการตอบมากกวา่ เพ่ือนๆ จึงทาให้ เร่ิมการทดลองช้า 3. ครูคิดวา่ จะปรับปรุงตามแผนการจัดการเรยี นร้นู ีอยา่ งไรเพอ่ื ให้กระบวนการจดั การเรียนรู้มี ประสิทธภิ าพมากขึน 1. ครูควรให้ความใกลช้ ิดกับนกั เรียนกล่มุ ที่มีการเรียนรู้ชา้ ให้มากขนึ (ลงชอ่ื ) .................................................ผ้สู อน (นายสุวิจกั ขณ์ อธคิ มกุลชยั ) ตาแหน่ง ครูโรงเรียนวดั วังนาเขียว

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 6 เรอื่ ง ทดลองเสยี งดัง เสยี งค่อย หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรอ่ื ง พลังงานเสยี ง (สะเตม็ ศกึ ษา) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รหัส ว 15101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 จานวน 4 ช่ัวโมง โรงเรียนวดั วังนา้ เขยี ว วนั ท่ีสอน …………………….……………….………. ..................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏสิ ัมพนั ธ์ ระหวา่ งสสาร และพลงั งาน พลังงานในชีวิตประจาวนั ธรรมชาติของคลน่ื ปรากฏการณ์ที่เกย่ี วข้องกับ เสยี ง แสงและคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมท้ังนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วดั ว 2.3 ป.5/3 ออกแบบการทดลองและอธบิ ายลักษณะและการเกิดเสียงดงั เสยี งคอ่ ย ว 2.3 ป.5/4 วดั ระดับเสยี งโดยใชเ้ ครือ่ งมือวัดระดับเสียง 2. สาระสาคญั เสียงดงั เสียงคอ่ ย คือ สมบตั ขิ องเสยี งทีเ่ รียกวา่ ความดงั ของเสียง ความดังของเสียงคือ ปรมิ าตรของพลังงานเสียงท่ีมาถงึ หขู องเรา ปัจจัยท่ีมผี ลทาให้วตั ถุเกดิ เสยี งดงั หรอื เสียงค่อย ไดแ้ ก่ ระยะทางจากแหล่งกาเนิดเสียง ถึง หูผู้ฟัง ถ้าระยะทางใกล้ๆ จะได้ยินเสียงดังมากและจะได้ยินเสียง ค่อยๆ ลงไปเม่ือระยะห่างออกไปเร่ือยๆตามลาดับความแรงในการส่ันสะเทือนของวัตถุแหล่งกาเนิดเสี ยง ถ้า แหลง่ กาเนดิ เสยี งสน่ั ดว้ ยความรุนแรง จะทาใหเ้ กิดเสยี งดัง แตถ่ ้าแหล่งกาเนิดเสียงสั่นเบาๆ ก็จะทาให้เกิดเสียง สนั่ คอ่ ยลง ตามลาดับชนดิ ของตัวกลาง ความดังของเสยี งขนึ อยูก่ บั ชนิดของตัวกลางที่คล่ืนเสียงเคล่ือนท่ีผ่านไป ถ้าคลื่นเสียงเคล่ือนท่ีไปในนาจะมีความดังของเสียงมากกว่าคล่ืนเสียงที่เคลื่อนที่ไปในอากาศขนาดและรูปร่าง ของวัตถทุ เ่ี ป็นแหล่งกาเนิดเสียงส่ันสะเทอื น เชน่ กระดงิ่ จกั รยาน ทาให้เกิดเสยี งดังและได้ยินในระยะทางหลาย ร้อยฟุต แต่ระฆังก็มเี สยี งดงั ไดไ้ กลไปหลายๆกโิ ลเมตร เปน็ ต้น 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ 1. อธบิ ายการเกดิ และลักษณะของเสยี งดัง เสยี งค่อย

ทกั ษะ/กระบวนการ 1. ระบุตัวแปร สมมตฐิ าน และ การเกิดเสียงดงั เสยี งค่อย 2. ออกแบบการทดลองการเกิดเสยี งดงั เสียงค่อย 3. วดั ระดับเสียงโดยใช้เคร่ืองมอื วัดระดับเสยี ง คุณลกั ษณะของผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21/สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. มีทักษะการคิดวิเคราะห์ 2. มีความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะความเปน็ ผู้นา 3. มที ักษะการใช้เทคโนโลยี 4. มที ักษะอาชีพและการเรียนรู้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนร้ใู นการรว่ มกจิ กรรม 3. มคี วามซื่อสัตยส์ จุ รติ 4. มีความมุง่ มั่นในการทางาน 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ใบกจิ กรรมที่ 9 เรื่อง ทดลองเสียงดัง เสียงค่อย 2. ใบกจิ กรรมที่ 10 เร่อื ง เสียงดงั เสยี งคอ่ ย 3. ใบกจิ กรรมที่ 11 เร่ือง ลกั ษณะเสยี งดงั เสยี งค่อย 5. ใช้การจัดการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 E (Inquiry Cycles) 5.1 ข้นั สรา้ งความสนใจ 1. ครนู าเข้าส่บู ทเรยี นเกยี่ วกับเสียงดัง เสียงค่อย โดยครูนานกั เรยี นอภิปรายโดยถามคาถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรียนเพ่ือนาเข้าสู่กิจกรรมท่ี 9 เรอื่ ง ทดลองเสียงดัง เสียงคอ่ ย ดงั นี เสยี งดงั เสยี งคอ่ ย เกิดขนึ ไดอ้ ย่างไร แนวการตอบ เสียงดงั เสียงค่อย เกิดจากปรมิ าณของเสยี งท่ีออกจากแหลง่ กาเนิดเสียง ถา้ ปรมิ าณ มากจะเกดิ เสยี งดัง ถ้าปรมิ าณนอ้ ยเกดิ เสียงค่อย 2. ครูแจ้งช่ือเร่ืองที่จะเรียนรู้และจุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นักเรยี นทราบ 5.2 ข้นั สารวจและค้นหา 3. ครูอธบิ ายรายละเอยี ดของการทากิจกรรมในวันนี 4. ครูแบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน ทากจิ กรรมที่ 9 เรือ่ ง ทดลองเสียงดัง เสียงคอ่ ย โดยใชโ้ ทรศพั ท์มือถือวัดความดังเสยี ง โดยแอปพลเิ คช่ันวดั ระดบั เสียง (Best Sound Meter)

5.3 ข้ันอธบิ ายและลงข้อสรุป 5. ครูใหผ้ ู้แทนนักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลการทากิจกรรมหน้าชนั เรยี น เพ่ือเปรยี บเทยี บและ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 6. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภปิ รายผลการทากิจกรรม โดยครูถามคาถามหลงั ทากจิ กรรมดังนี 6.1 การเคาะก้นกระป๋องแบบใดใหเ้ สยี งดงั มากกวา่ กนั แนวการตอบ การเคาะก้นกระปอ๋ งแรงๆ 6.2 การเคาะก้นกระป๋องแบบใดให้พลังงานมากกวา่ กัน แนวการตอบ การเคาะกน้ กระปอ๋ งแรงๆ 6.3 การทดลองนสี รปุ ผลไดว้ ่าอยา่ งไร แนวการตอบ ถา้ วตั ถสุ ่นั ทค่ี วามถี่หน่งึ ๆ ดว้ ยพลังงานท่ีมากกว่า จะทาให้เกดิ เสียงดงั 7. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันสรุปความรูเ้ กี่ยวกับการเกดิ เสยี งดัง เสยี งคอ่ ยใหต้ รงกบั จดุ ประสงคก์ าร เรียนรู้ 5.4 ขน้ั ขยายความรู้ 8. ครูให้นักเรยี นดู วดี ิทศั น์ เร่อื ง เสียงดัง เสียงค่อย จาก link https://www.youtube.com/watch?v=0veLdjBLPsU 9. นักเรียนทากิจกรรมกจิ กรรมท่ี 10 เรื่อง เสียงดัง เสียงค่อย และกิจกรรมท่ี 11 เร่ือง ลักษณะเสยี งดงั เสยี งคอ่ ย พร้อมร่วมกบั เฉลยคาตอบทไ่ี ดจ้ ากการทากิจกรรม 5.5 ขั้นประเมิน 10. ครูประเมนิ ผลนักเรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรม คุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21/ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 11. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมตา่ งๆ 6. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 วีดทิ ัศน์ เรื่อง เสียงดัง เสียงค่อย https://www.youtube.com/watch?v=0veLdjBLPsU

6.2 ใบกจิ กรรมที่ 9 เรอื่ ง ทดลองเสียงดัง เสียงค่อย 6.3 ใบกจิ กรรมท่ี 10 เรอื่ ง เสยี งดงั เสียงค่อย 6.4 ใบกิจกรรมท่ี 11 เรื่อง ลักษณะเสียงดัง เสยี งคอ่ ย 6.5 คอมพิวเตอร์ เครื่องฉายภาพดิจิตอล (Projector) 6.6 หนงั สือแบบเรียนวทิ ยาศาสตรป์ .6 สสวท.และอจท. 6.7 แอปพลเิ คชนั่ วดั ระดบั เสียง (Best Sound Meter) 7. การวดั และประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐาน วธิ ีวัด เครอ่ื งมือวดั 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมนิ ชินงาน/ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ใบกิจกรรม ภาระงาน ความรู้ 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินชนิ งาน/ 1. อธิบายการเกดิ และลักษณะของเสยี งดัง ภาระงาน เสยี งคอ่ ย ทักษะ/กระบวนการ ใบกิจกรรม 1. ระบตุ วั แปร สมมติฐาน และ การเกิดเสยี งดงั เสียงคอ่ ย 2. ออกแบบการทดลองการเกิดเสยี งดัง เสียง คอ่ ย 3. วดั ระดบั เสียงโดยใช้เครื่องมือวัดระดับเสียง คณุ ลักษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21/ ใบกจิ กรรม 1. ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 2. สังเกตการทา คุณลักษณะของ 1. มที ักษะการคิดวเิ คราะห์ กจิ กรรมของ ผู้เรียนในศตวรรษท่ี 2. มคี วามร่วมมือ การทางานเปน็ ทีม และภาวะ นกั เรยี น 21/สมรรถนะสาคัญ ความเป็นผูน้ า ของผ้เู รยี น 3. มีทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี 4. มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. สงั เกตการทา แบบประเมนิ กจิ กรรมของ คุณลักษณะอนั พงึ 1. มวี ินัย นักเรียน ประสงค์ 2. ใฝ่เรียนรูใ้ นการร่วมกิจกรรม 3. มีความซ่อื สตั ย์สุจรติ 4. มคี วามมุ่งมั่นในการทางาน

(ลงช่ือ)............................................... ผู้สอน ( นายสวุ ิจักขณ์ อธิคมกุลชยั ) ตาแหนง่ ครู 8. ข้อเสนอแนะ/ความคดิ เห็นของผบู้ ริหาร .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... (ลงชอื่ ).................................................................. (นายพยงค์ แกน่ สาราญ) ผ้อู านวยการโรงเรียนวัดวงั นาเขียว

9. บันทึกผลหลังการสอน/ข้อค้นพบ/แนวทางแก้ไข/สรปุ ผล 1. ครสู ามารถดาเนนิ การสอนไดต้ ามแผนท่วี างไวห้ รือไม่ เพราะเหตุใด 1. การจัดการเรียนรู้เปน็ ไปตามแผนท่ีกาหนดไว้ ทัง 2 ห้อง 2. ชัน ป.5/1 มีนักเรียนทากิจกรรมเสร็จจานวน 16 คน ที่เหลืออีก 10 คน ทากิจกรรมไม่เสร็จ ตามเวลาที่กาหนด สว่ นชนั ป.5/2 มนี ักเรียนทากจิ กรรมเสรจ็ จานวน 20 คน ท่ีเหลืออีก 5 คน ทากิจกรรมไม่ เสรจ็ ตามเวลาท่ีกาหนดอาจเป็นเพราะวา่ นกั เรยี นกลมุ่ นเี รยี นร้ชู า้ หรือ ไม่ตังใจทากิจกรรม บางส่วนคุยกัน ข้อ คาถามอาจจะยากสาหรบั นักเรยี นบางกลุ่ม ซึ่งต้องใช้เวลาในการทากจิ กรรมที่มากกว่าเพอื่ นคนอ่นื 3. เมือ่ นักเรยี นส่งครบทกุ คนแล้วมีผลการประเมินดังนี ชัน มฐ./ตัวชีวดั ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (จานวน คน) ที่ 21/สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ดมี าก ดี พอใช้ ดเี ยี่ยม ดี พอใช้ ดีเยี่ยม ดี พอใช้ ป.5/1 ว 2.3 ป.5/3 16 10 10 6 10 20 6 ป.5/2 ว 2.3 ป.5/3 21 4 11 10 4 20 5 2. ครูพบปัญหาใดบา้ งในการจดั การเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้นี 1. กิจกรรมที่ 10 นักเรยี นบางสว่ นยงั สับสนวา่ ขอ้ คาถามให้ทาอะไร จึงทาให้งานเสรจ็ ไม่ตาม กาหนด 3. ครคู ิดว่าจะปรบั ปรงุ ตามแผนการจดั การเรียนร้นู ีอยา่ งไรเพ่ือให้กระบวนการจัดการเรียนรู้มี ประสิทธิภาพมากขึน 1. ปรบั กิจกรรมโดยมีการกาหนดคาแลว้ ให้นกั เรียนเลือกคาที่กาหนดใส่ลงในชอ่ งว่าง (ลงชือ่ ) .................................................ผ้สู อน (นายสวุ จิ กั ขณ์ อธิคมกุลชัย) ตาแหนง่ ครูโรงเรยี นวดั วงั นาเขยี ว

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง นักคดิ เครอื่ งดนตรี หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เรื่อง พลงั งานเสียง (สะเต็มศกึ ษา) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ รหัส ว 15101 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 จานวน 5 ชั่วโมง โรงเรียนวัดวังนา้ เขยี ว วันท่ีสอน …………………….……………….………. .............................................................................................................. ....... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ ระหวา่ งสสาร และพลังงาน พลงั งานในชีวิตประจาวนั ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณท์ ี่เกีย่ วข้องกับ เสยี ง แสงและคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทัง้ นาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ตัวชวี้ ัด ว 2.3 ป.5/2 ระบตุ ัวแปรทดลองและอธบิ ายลักษณะและการเกิดเสยี งสงู เสยี งต่า ว 2.3 ป.5/3 ออกแบบการทดลองและอธบิ ายลักษณะและการเกิดเสียงดัง เสยี งค่อย ว 2.3 ป.5/4 วัดระดบั เสยี งโดยใช้เครื่องมอื วัดระดบั เสียง 2. สาระสาคัญ เสียงสูงเสียงต่า เรียกว่า ระดับเสียง ถ้าแหล่งกาเนิดเสียงมีความเร็วในการสั่นสะเทือน (มีความถี่สูง) จะทาให้เกิดเสยี งสูง และถ้า แหลง่ กาเนดิ เสียงมคี วามเรว็ ในการส่ันสะเทือนน้อย หรือเบา (มีความถี่ต่า) จะทา ให้เกดิ เสยี งตา่ หรือเสียงทมุ้ ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเกิดเสียงสูงต่า เสียงสูงต่าขึนอยู่กับความถี่ในการส่ันสะเทือนของวัตถุที่เป็น แหล่งกาเนดิ เสยี ง แหลง่ กาเนดิ เสียงสัน่ สะเทอื นด้วยความถ่ีตา่ จะเกิดเสียงต่า แต่ถ้าสั่นสะเทือนด้วยความถ่ีสูง เสียงกจ็ ะสงู โดยระดบั เสยี งสามารถเปลี่ยนแปลงไดด้ ้วย 1. ขนาดของวตั ถกุ าเนดิ เสียง 2. ความยาวของวตั ถุกาเนดิ เสยี ง 3. ความตงึ ของวัตถุกาเนิดเสียง เสยี งดังเสยี งคอ่ ย คอื สมบัติของเสยี งท่เี รยี กวา่ ความดังของเสียง ความดงั ของเสียงคือ ปรมิ าตรของพลังงานเสียงทมี่ าถงึ หขู องเรา 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ 1. อธบิ ายการเกดิ และลกั ษณะของเสยี งสงู เสียงตา่

2. อธิบายการเกดิ และลกั ษณะของเสยี งดัง เสียงค่อย ทักษะ/กระบวนการ 1. ระบตุ วั แปร สมมตฐิ าน และ ทดลองการเกิดเสียงสงู เสียงต่า 2. ระบุตัวแปร สมมตฐิ าน และ การเกดิ เสยี งดงั เสยี งค่อย 3. ออกแบบการทดลองการเกิดเสียงดัง เสยี งค่อย 4. วดั ระดบั เสียงโดยใช้เคร่ืองมือวัดระดบั เสียง คุณลกั ษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21/สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. มที ักษะการคิดวเิ คราะห์ 2. มคี วามร่วมมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะความเปน็ ผู้นา 3. มีทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 4. มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรูใ้ นการร่วมกจิ กรรม 3. มคี วามซ่ือสตั ยส์ จุ ริต 4. มคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน 4. ช้ินงาน/ภาระงาน 1. ใบกิจกรรมที่ 12 เรื่อง นักคดิ เครื่องดนตรี 5. ใชก้ ารจัดการเรียนแบบวิธกี ารสอนแบบสะเตม็ ศกึ ษาและการออกแบบเชิงวิศวกรรม 5.1 ข้ันที่ 1 ระบปุ ญั หา (Problem Identification) 1. ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยการอภปิ รายร่วมกับนักเรียนในหัวขอ้ ปัญหาและอปุ สรรคจากสถานการณ์ ทค่ี รูกาหนดให้แล้วบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 12 เร่อื ง นักคิดเครื่องดนตรี 5.2 ขนั้ ท่ี 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั ปัญหา (Related Information Search) 2. นกั เรียนรวบรวมข้อมูลที่เกีย่ วขอ้ งกับสง่ิ ประดิษฐข์ องกลมุ่ ตัวเองแล้วบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 12 เรอื่ ง นกั คิดเครอื่ งดนตรี 5.3 ข้นั ที่ 3 ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา (Solution Design) 3. นกั เรยี นดูวีดทิ ัศน์ เรื่อง ตัวอย่างการสร้างเครอ่ื งดนตรี จาก link https://www.youtube.com/watch?v=u4Ad6TAvO54 4. นักเรยี นร่วมกันออกแบบชินงานโดยการวาดร่างลงในใบกจิ กรรมท่ี 12 เร่อื ง นกั คดิ เคร่อื งดนตรี 5.4 ขั้นท่ี 4 วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ัญหา (Planning and Development) 5. นกั เรยี นรว่ มกันวางแผนแบ่งงานกนั แลว้ บันทึกลงในใบกิจกรรมท่ี 12 เร่อื ง นักคดิ เครื่องดนตรี 6. นักเรียนเรมิ่ ประดษิ ฐ์ชินงาน

5.5 ข้ันที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวธิ กี ารแก้ปัญหาหรือช้นิ งาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) 7. นักเรยี นทดสอบสิง่ ประดิษฐ์ เมอื่ พบข้อผดิ พลาดใหแ้ ก้ไข แล้วบนั ทกึ ลงในใบกิจกรรมที่ 12 เรือ่ ง นกั คดิ เคร่ืองดนตรี โดยใช้แอปพลิเคช่ันในโทรศัพทม์ ือถือในการวดั ตัวโนต๊ ของเสียง (nTunE) และ แอปพลเิ คชัน่ วดั ระดับเสยี ง (Best Sound Meter) 5.6 ข้นั ที่ 6 นาเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหา ผลการแกป้ ัญหาหรือช้นิ งาน (Presentation) 8. นักเรยี นนาเสนอรูปแบบ ทฤษฎีท่ีใช้ วสั ดุอุปกรณ์ และประโยชน์ของสิ่งประดิษฐ์ 9. นกั เรียนประเมนิ ชนิ งานของกลุ่มตวั เองและกลมุ่ ของเพ่ือน 6. ส่ือการเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 วดี ิทัศน์ เรื่อง ตวั อยา่ งการสร้างเคร่ืองดนตรี https://www.youtube.com/watch?v=u4Ad6TAvO54 6.2 ใบกจิ กรรมที่ 12 เร่อื ง นักคิดเคร่ืองดนตรี 6.3 คอมพิวเตอร์ เคร่ืองฉายภาพดจิ ิตอล (Projector) 6.4 หนังสือแบบเรียนวิทยาศาสตรป์ .6 สสวท.และอจท. 6.5 โทรศัพท์มือถือที่มีแอปพลเิ คชั่น nTune และแอปพลิเคช่นั Best Sound Meter

7. การวัดและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลักฐาน วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วัด 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินชนิ งาน/ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ใบกจิ กรรม ภาระงาน ความรู้ 1. ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ ชนิ งาน/ 1. อธิบายการเกิดและลักษณะของเสยี งสงู ภาระงาน เสียงต่า 2. อธบิ ายการเกดิ และลกั ษณะของเสยี งดัง เสียงค่อย ทักษะ/กระบวนการ ใบกิจกรรม 1. ระบุตัวแปร สมมติฐาน และ ทดลองการ เกิดเสยี งสงู เสยี งต่า 2. ระบตุ วั แปร สมมติฐาน และ การเกิดเสียงดัง เสียงคอ่ ย 3. ออกแบบการทดลองการเกดิ เสียงดงั เสียง ค่อย 4. วดั ระดบั เสยี งโดยใชเ้ ครื่องมอื วัดระดบั เสียง คณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21/ ใบกิจกรรม 1. ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมิน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 2. สังเกตการทา คุณลกั ษณะของ 1. มีทักษะการคดิ วิเคราะห์ กิจกรรมของ ผูเ้ รียนในศตวรรษที่ 2. มคี วามร่วมมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะ นกั เรียน 21/สมรรถนะสาคัญ ความเปน็ ผูน้ า ของผเู้ รียน 3. มที ักษะการใชเ้ ทคโนโลยี 4. มที ักษะอาชีพและการเรียนรู้ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. สังเกตการทา แบบประเมนิ กิจกรรมของ คุณลักษณะอันพงึ 1. มีวนิ ัย นักเรียน ประสงค์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ในการรว่ มกจิ กรรม 3. มีความซือ่ สัตย์สจุ รติ 4. มีความมงุ่ ม่ันในการทางาน

(ลงช่อื )............................................... ผู้สอน ( นายสวุ จิ ักขณ์ อธิคมกลุ ชัย ) ตาแหน่ง ครู 8. ข้อเสนอแนะ/ความคดิ เห็นของผบู้ ริหาร .............................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................... ........................................ ........................................................................................... ........................................................................... (ลงชือ่ ).................................................................. (นายพยงค์ แกน่ สาราญ) ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดวงั นาเขียว

9. บันทึกผลหลังการสอน/ข้อคน้ พบ/แนวทางแกไ้ ข/สรุปผล 1. ครูสามารถดาเนินการสอนไดต้ ามแผนท่ีวางไว้หรอื ไม่ เพราะเหตุใด 1. การจดั การเรียนรเู้ ปน็ ไปตามแผนท่ีกาหนดไว้ ทัง 2 ห้อง 2. ชนั ป.5/1 มนี กั เรยี นทากจิ กรรมเสร็จจานวน 26 คน ส่วนชัน ป.5/2 มีนักเรียนทากิจกรรม เสรจ็ จานวน 25 คน 3. เม่อื นักเรยี นส่งครบทกุ คนแลว้ มีผลการประเมินดังนี ชนั มฐ./ตวั ชวี ดั ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (จานวน คน) ท่ี 21/สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ดมี าก ดี พอใช้ ดีเย่ียม ดี พอใช้ ดีเยยี่ ม ดี พอใช้ ป.5/1 ว 2.3 ป.5/2 22 3 11 10 5 25 ว 2.3 ป.5/3 22 3 11 10 5 25 ป.5/2 ว 2.3 ป.5/2 21 4 10 6 10 26 ว 2.3 ป.5/3 21 4 10 6 10 26 2. ครพู บปัญหาใดบา้ งในการจดั การเรยี นการสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้นี 1. นกั เรียนนาอุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการประดิษฐเ์ ครือ่ งดนตรมี าไม่ครบ จงึ ตอ้ งหาอปุ กรณ์เทา่ ทมี่ ใี น โรงเรยี น 3. ครูคดิ ว่าจะปรบั ปรุงตามแผนการจัดการเรียนรนู้ ีอย่างไรเพ่อื ให้กระบวนการจัดการเรียนรูม้ ี ประสทิ ธิภาพมากขึน 1. ใหน้ ักเรยี นทยอยเอาอุปกรณ์มาเร่ือยๆ (ลงชอื่ ) .................................................ผู้สอน (นายสุวิจักขณ์ อธคิ มกลุ ชัย) ตาแหน่ง ครูโรงเรียนวดั วงั นาเขยี ว

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 8 เรอ่ื ง การหลีกเล่ียงและลดมลพิษทางเสียง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง พลังงานเสยี ง (สะเตม็ ศกึ ษา) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ รหัส ว 15101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวน 3 ชั่วโมง โรงเรียนวัดวังนา้ เขียว วันท่ีสอน …………………….……………….………. ................................................................................................................... .. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลีย่ นแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน ปฏสิ ัมพนั ธ์ ระหวา่ งสสาร และพลังงาน พลงั งานในชีวิตประจาวนั ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณท์ เี่ กยี่ วข้องกับ เสยี ง แสงและคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ รวมทัง้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ตัวช้ีวัด ว 2.3 ป.5/5 ตระหนักในคุณค่าของความร้เู ร่อื งระดับเสียงโดยเสนอแนะแนวทางในการ 2. สาระสาคญั การรับฟังเสียงท่ีดังมาก ๆ เป็นเวลานาน ๆ ทาให้เกิดอันตรายต่อเย่ือแก้วหูได้ เสียงบางเสียงแม้ว่าจะ ดังไม่มากจนมีอันตรายต่อเยื่อแก้วหู แต่ก่อให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิดและราคาญ โดยเสียงท่ีมีลักษณะเช่นนี เรียกว่า มลพิษทางเสยี ง ซึง่ การปอ้ งกนั และหลีกเลย่ี งมลพิษทางเสียงสามารถทาไดห้ ลากหลายวิธี 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ 1. อธบิ ายแนวทางในการหลีกเล่ียงและลดมลพิษทางเสียง ทักษะ/กระบวนการ 1. เสนอแนะแนวทางในการหลีกเลย่ี งและลด มลพิษทางเสยี ง 2. แสดงพฤติกรรมถึงความตระหนักในคณุ คา่ ของความรเู้ รื่องระดบั เสยี ง คณุ ลกั ษณะของผ้เู รยี นในศตวรรษที่ 21/สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1. มคี วามรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะความเปน็ ผู้นา คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นร้ใู นการร่วมกจิ กรรม 3. มคี วามซื่อสัตยส์ ุจริต 4. มคี วามมุ่งมนั่ ในการทางาน

4. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบกจิ กรรมที่ 13 เรือ่ ง อันตรายจากเสียง 2. ใบกจิ กรรมที่ 14 เรื่อง การหลีกเลี่ยงและลดมลพษิ ทางเสยี ง 3. ใบแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง พลังงานเสียง 5. ใช้การจัดการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 E (Inquiry Cycles) 5.1 ขั้นสรา้ งความสนใจ 1. ครเู ปิดวีดิทัศน์ เกย่ี วกับมลพษิ ทางเสยี ง ใหน้ ักเรียนดู จาก link https://www.youtube.com/watch?v=lWIoXJIvmFs 2. ครถู ามคาถามเพือ่ กระตุ้นความคดิ ของนกั เรียน ดงั นี 2.1 ถ้านักเรยี นจะเลอื กทอ่ี ย่อู าศยั นักเรยี นจะเลือกทอี่ ยใู่ กลส้ นามบนิ หรือไม่ เพราะเหตใุ ด แนวการตอบ เลือกที่ใกลส้ นามบนิ เพราะสะดวกต่อการเดินทางไปตา่ งประเทศ หรือเลือกห่างจาก สนามบิน เพราะไมไ่ ด้รับมลพษิ ทางเสียง 2.2 มลพษิ ทางเสียงเปน็ ปัญหาตอ่ สขุ ภาพของเราหรอื ไม่ อย่างไร แนวการตอบ เป็นปัญหา เช่น รบกวนการพักผ่อนทาให้พักผ่อนไม่เพียงพอ รบกวนสมาธิการ ทางานทาให้ประสทิ ธภิ าพในการทางานลดลง 3. นกั เรยี นร่วมกันตอบคาถามอยา่ งอิสระ จากนนั ครูให้คาชมเชยหรอื มอบรางวัลใหก้ ับนักเรียนที่ตอบ คาถามไดถ้ ูกตอ้ ง เพอ่ื เป็นการเสริมแรง 4. ครูแจ้งช่ือเรือ่ งท่ีจะเรียนรู้และจุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ หน้ กั เรียนทราบ 5.2 ขั้นสารวจและค้นหา 5. ครอู ธบิ ายรายละเอียดของการทากิจกรรมในวนั นี 6. นักเรยี นทากิจกรรมท่ี 13 เรื่อง อันตรายจากเสยี งและกิจกรรมที่ 14 เร่ือง การหลกี เลยี่ งและลด มลพิษทางเสยี ง 5.3 ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรุป 7. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภิปรายและสรุปผลจากการทากิจกรรมภายในกลมุ่ 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานของกลุ่มหน้าชันเรียน โดยครูสุ่มจับสลาก เลือกตัวแทนนกั เรยี นทีละกลมุ่ 9. ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชันเรียน จากนันรว่ มกนั อภปิ รายและ สรปุ ผลเกี่ยวกับคาตอบในกิจกรรมที่ 13 เร่ือง อนั ตรายจากเสยี งและกจิ กรรมท่ี 14 เร่ือง การหลกี เล่ยี งและลด มลพิษทางเสยี ง 5.4 ขั้นขยายความรู้ 10. ครทู บทวนเกย่ี วกบั เรื่องพลังงานเสียงให้กบั นกั เรยี นก่อนสอบ

5.5 ขนั้ ประเมนิ 11. นักเรยี นทาแบบทดสอบวดั ผลการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรื่อง พลังงานเสยี ง 12. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรม คุณลักษณะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21/ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 13. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมตา่ งๆ 6. สอื่ การเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 วีดิทัศน์ เรื่อง มลพิษทางเสยี งhttps://www.youtube.com/watch?v=lWIoXJIvmFs 6.2 ใบกิจกรรมที่ 13 เรือ่ ง อันตรายจากเสียง 6.3 ใบกิจกรรมท่ี 14 เรื่อง การหลกี เลย่ี งและลดมลพษิ ทางเสียง 6.4 ใบแบบทดสอบวดั ผลการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง พลังงานเสียง 6.5 คอมพิวเตอร์ เครื่องฉายภาพดจิ ิตอล (Projector) 6.6 หนงั สือแบบเรยี นวทิ ยาศาสตร์ป.6 สสวท.และอจท. 7. การวดั และประเมินผล เป้าหมาย หลกั ฐาน วิธวี ดั เคร่ืองมือวัด จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ใบกจิ กรรม 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินชนิ งาน/ภาระ ความรู้ งาน 1. อธบิ ายแนวทางในการหลีกเลยี่ งและลด มลพษิ ทางเสียง ทกั ษะ/กระบวนการ ใบกจิ กรรม 1. ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมนิ ชินงาน/ภาระ 1. เสนอแนะแนวทางในการหลีกเลี่ยงและลด งาน มลพษิ ทางเสยี ง 2. แสดงพฤติกรรมถึงความตระหนักในคุณคา่ ของความรเู้ รอ่ื งระดับเสยี ง คณุ ลกั ษณะของผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21/ ใบกจิ กรรม 1. ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 2. สงั เกตการทา ของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 1. มคี วามรว่ มมือ การทางานเป็นทีม และภาวะ กจิ กรรมของ 21/สมรรถนะสาคญั ของ ความเป็นผูน้ า นกั เรยี น ผู้เรียน

(ลงช่อื )............................................... ผู้สอน (นายสวุ จิ กั ขณ์ อธคิ มกุลชยั ) ตาแหน่ง ครู 8. ขอ้ เสนอแนะ/ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ าร ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................ ...................... ............................................................................................................. ................................................................. (ลงชื่อ).................................................................. (นายพยงค์ แกน่ สาราญ) ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั วงั นาเขียว

9. บนั ทกึ ผลหลังการสอน/ข้อคน้ พบ/แนวทางแกไ้ ข/สรปุ ผล 1. ครูสามารถดาเนินการสอนได้ตามแผนทว่ี างไวห้ รือไม่ เพราะเหตุใด 1. การจดั การเรยี นรู้เปน็ ไปตามแผนท่กี าหนดไว้ ทงั 2 ห้อง 2. ชัน ป.5/1 มีนักเรยี นทากจิ กรรมเสร็จจานวน 26 คน ส่วนชัน ป.5/2 มีนักเรียนทากิจกรรม เสรจ็ จานวน 25 คน 3. เม่ือนกั เรยี นส่งครบทุกคนแลว้ มีผลการประเมนิ ดังนี ชัน มฐ./ตวั ชีวัด ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะของผเู้ รียนในศตวรรษ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (จานวน คน) ท่ี 21/สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ดีมาก ดี พอใช้ ดเี ยยี่ ม ดี พอใช้ ดีเยีย่ ม ดี พอใช้ ป.5/1 ว 2.3 ป.5/5 26 11 15 25 ป.5/2 ว 2.3 ป.5/5 25 10 16 26 2. ครพู บปัญหาใดบา้ งในการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจดั การเรยี นรนู้ ี ไม่พบปัญหา 3. ครคู ดิ ว่าจะปรับปรงุ ตามแผนการจดั การเรยี นรนู้ ีอยา่ งไรเพอ่ื ให้กระบวนการจัดการเรียนรมู้ ี ประสิทธภิ าพมากขนึ ไมพ่ บปญั หา (ลงช่ือ) .................................................ผูส้ อน (นายสวุ ิจักขณ์ อธิคมกลุ ชัย) ตาแหนง่ ครูโรงเรยี นวดั วงั นาเขียว