Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 20 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

20 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

Published by tub_pan, 2017-05-14 09:22:46

Description: 20 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

Search

Read the Text Version

จัดทำโดย 1. ด.ญ.ปวณี ำ นำพนิ ิจ เลขที่ 23 2. ด.ญ.ณฐั กลุ ทนนำน เลขที่ 19 3. ด.ญ.สุภำพร สิงห์ตูม เลขที่ 31 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 1/1 เสนอ อ.สงกรำนต์ ยืนยงั่โรงเรียนบ้ำนดงดำวแจ้งพฒั นศึกษำ

1 คำนำ รำยงำนเร่ืองสถำนท่ีท่องเที่ยวในประเทศไทยเล่มนี้ ผู้จัดทำได้ค้นคว้ำและเรียบเรียงขนึ้ จำกประสบกำรณ์ที่ได้พบมำท้งั ภำคทฤษฎีและปฏิบัติ เป็ นรำยงำนที่เหมำะสำหรับประกอบกำรเรียนเป็ นอย่ำงย่ิงซึ่งผู้จัดทำได้นำเนื้อหำท่ีมีสำระสำคญั รวบรวมและใส่ทุกรำยละเอยี ดอยู่ในรำยงำนเล่มนี้ โดยเนื้อหำประกอบไปด้วย รูปภำพสถำนท่ี และเป็ นกำรแนะนำท่ีท่องเทย่ี วต่ำง ๆ ในประเทศไทยท้งั นีเ้ พื่อให้ผู้ทศ่ี ึกษำสนใจค้นหำสถำนท่ีท่องเท่ียวสวยงำมโดยเฉพำะ ได้มีโอกำสศึกษำรำยละเอียดได้มำกที่สุดและสำมำรถเลือกสถำนทก่ี ่อนออกเดนิ ทำงได้ รำยงำนเล่มนี้ ผู้จัดทำได้พยำยำมเขียนและจัดทำให้ดีท่ีสุด หำกมีข้อบกพร่องประกำรใด หรือท่ำนผู้อ่ำนมีข้อคิดเห็นหรือแนะนำประกำรใดเกยี่ วกบั รำยงำนเล่มนี้ กรุณำแจ้งให้ผู้เขยี นทรำบเพื่อจะได้นำไปแก้ไขและปรับปรุงให้สมบูรณ์ในโอกำสต่อไป

2 สำรบัญหวั เรื่อง หน้ำป่ ำคำชะโนด 3ภูทบั เบิก 6พระมหำเจดยี ์ชัยมงคล 8ผำแต้ม 10นำ้ ตกถำ้ พระ 13เกำะมนั นอก 16ตลำดนำ้ กลำงดง 17ปรำสำทหินเขำพนมรุ้ง 18นำ้ พรุ ้อนแจ้ช้อน 20สะพำนเทพสุดำ 22วดั ภูสิงห์ 24ถำ้ มรกต 26เขื่อนป่ ำสักชลสิทธ์ิ 28สถำนีเกษตรหลวงดอยอ่ำงขำง 29งำนประเพณแี ห่ผตี ำโขน 31บึงพลำญชัย 33เขำมโนรมย์ 35ถำ้ เสรีไทย 37วดั พระธำตุพนมวรมหำวหิ ำร 38สะพำนแม่นำ้ แคว 40

3 1.ป่ ำคำชะโนดป่ ำคำชะโนด หรือ เมืองชะโนด หรือ วังนำคินทร์คำชะโนด ต้งั อยู่ในพ้ืนท่ี 3ตำบล คือ ตำบลวงั ทอง, ตำบลบำ้ นม่วง และตำบลบำ้ นจนั ทร์ ใน อำเภอบำ้ นดุง จงั หวดั อุดรธำนี เป็ นป่ ำท่ีมีลกั ษณะเหมือนเกำะข้ึนอยู่กลำงทุ่งนำ เต็มไปดว้ ยตน้ ชะโนด ซ่ึงเป็ นพืชจำพวกปำลม์ ควำมยำวประมำณ 200 เมตร[1] ป่ ำคำชะโนดเป็นสถำนท่ี ๆ ปรำกฏในตำนำนพ้นื บำ้ น เป็นสถำนที่ ๆ เช่ือวำ่ เป็นท่ีสิงสถิตของพญำนำคและสิ่งล้ีลบั ต่ำง ๆ บ่อยคร้ังที่ชำวบำ้ นในละแวกน้นั จะพบเห็นชำวเมืองชะโนดไปเที่ยวงำนบุญพระเวสสันดร รวมถึงหญิงสำวท่ีมำยืมเคร่ืองมือทอผำ้ อยู่เป็ นประจำ และเมื่อเกิดเหตุกำรณ์น้ำท่วมใหญ่ในท่ีรำบลุ่ม

4แม่น้ำโขง รวมถึงท่ีอำเภอบำ้ นดุง แต่น้ำกไ็ ม่ท่วมบริเวณคำชะโนด เม่ือระดบั น้ำลดลง คำชะโนดกย็ งั คงอยเู่ ช่นเดิมตำนำน ตำมตำนำนไดก้ ล่ำวไวว้ ำ่ มีพญำนำคอยสู่ องตนไดป้ กครองเมืองหนองกระแส โดยคร่ึงหน่ึงเป็นของ สุทโธนำค (พญำศรีสุทโธ) ส่วนอีกคร่ึงหน่ึงเป็นของ สุวรรณนำค ท้งั สองปกครองเมืองอยรู่ ่วมกนั อยำ่ งสงบสุข แต่มีขอ้ ตกลงกนั อยวู่ ำ่ ถำ้ เมื่อฝ่ ำยใดออกไปล่ำสตั วห์ ำอำหำร อีกฝ่ ำยหน่ึงจะตอ้ งไม่ไปเน่ืองจำกเกรงวำ่ จะเกิดกำรกระทบกระทง่ั กนั และเม่ือฝ่ ำยท่ีออกไปล่ำสตั วห์ ำอำหำรมำไดน้ ้นั ใหน้ ำมำแบ่งกนั อยำ่ งละคร่ึง เม่ือถึงสุทโธนำคไดอ้ อกไปล่ำสัตวห์ ำอำหำรไดเ้ น้ือชำ้ งมำ จึงนำเน้ือชำ้ งที่ไดแ้ บ่งใหส้ ุวรรณนำค พร้อมท้งั นำขนของชำ้ งไปยนื ยนั วำ่ เป็นเน้ือชำ้ งจริงอีกคร้ังที่สุวรรณนำคออกไปลำ่ สตั วห์ ำอำหำรอีก คร้ังน้ีไดเ้ ม่นมำเป็นอำหำร จึงไดน้ ำเน้ือเม่น และขนของเม่นไปมอบใหแ้ ก่สุทโธนำคเหมือนเช่นเคย แต่สุทโธนำคกลบั แสดงควำมไม่พอใจ เพรำะเม่ือดูจำกขนของเม่นท่ีมีขนำดใหญ่กวำ่ขนของชำ้ ง ปริมำณเน้ือที่ไดก้ ค็ วรมีมำกกวำ่ เน้ือของชำ้ ง แต่ปริมำณเน้ือน้นั

5กลบั มีนอ้ ยกวำ่ มำกนกั จึงคิดวำ่ สุวรรณนำคไม่มีควำมซ่ือสตั ย์ ฝ่ ำยสุวรรณนำคพยำยำมอธิบำยอยำ่ งไรกไ็ ม่เป็นผล จึงเกิดสงครำมระหวำ่ งสุทโธนำค และสุวรรณนำค พระอินทร์ไดท้ รำบเร่ือง จึงหำวิธีกำรท่ีจะทำใหพ้ ญำนำคท้งั สองน้นั หยดุทำสงครำมกนั โดยใหพ้ ญำนำคท้งั สองสร้ำงแม่น้ำข้ึนคนละสำย ถำ้ ใครสร้ำงไดถ้ ึงทะเลก่อนจะใหป้ ลำบึกข้ึนอยใู่ นแม่น้ำน้นั เมื่อไดย้ นิ เช่นน้นั สุทโธนำคก็ไดส้ ร้ำงแม่น้ำมุ่งไปทำงทิศตะวนั ออกของหนองกระแส และดว้ ยควำมที่สุทโธนำคมีนิสยั ใจร้อน เม่ือพบเจอภูเขำก้นั ทำงแม่น้ำกจ็ ะทำกำรหลบหลีก โคง้ ไปโคง้ มำ จึงเกิดเป็น แม่น้ำโขง (โคง้ ) ส่วนทำงฝ่ ำยสุวรรณนำคน้นั ไดท้ ำกำรสร้ำงแม่น้ำข้ึนทำงทิศใตข้ องหนองกระแส สุวรรณนำคมีควำมละเอียด และใจเยน็ แม่น้ำที่สร้ำงข้ึนจึงมีควำมตรงกวำ่ แม่น้ำทุกสำย ไดแ้ ก่ แม่น้ำน่ำนสุทโธนำคเป็นผทู้ ่ีสร้ำงแม่น้ำไดเ้ สร็จก่อน จึงมีปลำบึกข้ึนอยใู่ นแม่น้ำโขงเพียงแห่งเดียว และเม่ือเป็นเช่นน้นั สุทโธนำคกไ็ ดข้ อทำงข้ึน-ลง ระหวำ่ งเมืองบำดำล กบั เมืองมนุษยไ์ วอ้ ีก 3 แห่ง หน่ึงในน้นั กค็ ือ คำชะโนด ซ่ึงมีตน้ ชะโนดข้ึนเป็นสญั ลกั ษณ์ ใหส้ ุทโธนำค พร้อมบริวำรสำมำรถกลำยร่ำงเป็นมนุษย์(พญำศรีสุทโธ) และต้งั บำ้ นเมืองปกครองอยทู่ ี่คำชะโนดไดเ้ มื่อขำ้ งข้ึน 15 วนัอีก 15 วนั ขำ้ งแรม ใหก้ ลำยเป็นนำค อำศยั อยเู่ มืองบำดำล (พญำนำครำชศรีสุทโธ)

6 2.ภูทบั เบิก ภูทับเบิก เป็ นยอดเขำที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีควำมสูงจำกระดบั น้ำทะเลประมำณ 1,768 เมตร อยู่ตำบลวงั บำล ห่ำงจำกอำเภอหล่มสักและหล่มเก่ำประมำณ 40 กิโลเมตร มีอำกำศหนำวเยน็ ตลอดท้งั ปี เป็นที่ต้งั ของหมู่บำ้ นชำวไทยภูเขำเผ่ำมง้ ซ่ึงไดอ้ พยพมำอำศยั อยู่ที่บำ้ นทบั เบิก โดยอยู่ในควำมดูแลของศูนยพ์ ฒั นำสงเครำะห์ชำวเขำจงั หวดั เพชรบูรณ์ ประกอบดว้ ยอำชีพทำกำรเกษตรแบบข้นั บนั ไดตำมเชิงเขำ ในช่วงหนำ้ ฝนยงั มีไร่กะหล่ำปลีที่สวยงำม ส่วนหนำ้ หนำวมีดอกนำงพญำเสือโคร่งบำนเตม็ ภูทบั เบิก

7ทะเลหมอกทีภ่ ูทบั เบิก

8 3.พระมหำเจดีย์ชัยมงคล พระมหำเจดยี ์ชัยมงคล ต้งั อยบู่ ริเวณวดั ผำน้ำทิพยเ์ ทพประสิทธ์ิวรำรำม ตำบลผำน้ำยอ้ ย อำเภอหนองพอก จงั หวดั ร้อยเอด็ ระยะทำงจำกตวั เมืองร้อยเอด็ ประมำณ80 ก.ม มีลกั ษณะเป็นมหำเจดียข์ นำดใหญ่ที่วจิ ิตรพสิ ดำร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมยั ระหวำ่ งภำคกลำงและภำคอีสำนเป็นกำรผสมกนั ระหวำ่ งพระปฐมเจดียแ์ ละพระธำตุพนม ใชง้ บประมำณก่อสร้ำงถึงปัจจุบนั กวำ่ 3,000ลำ้ นบำท ดำเนินกำรสร้ำงโดย “พระอำจำรยศ์ รี มหำวโิ ร” ซ่ึงเป็นศิษยพ์ ระอำจำรยม์ นั่ ภูริทตั โต

9 พระมหำเจดียช์ ยั มงคลออกแบบโดยกรมศิลปำกร เป็นสีขำวตกแต่งลวดลำยตระกำรตำดว้ ยสีทองเหลืองอร่ำม รำยลอ้ มดว้ ยเจดียอ์ งคเ์ ลก็ ท้งั 8 ทิศสร้ำง ในเน้ือที่ 101 ไร่ กวำ้ ง 101 เมตร ยำว 101 เมตร ควำมสูง 101 เมตร รวมยอดทองคำเป็น 109เมตร ใชท้ อง คำหนกั 4,750 บำท หรือประมำณ 60กิโลกรัม ภำยในองคพ์ ระมหำเจดียเ์ หมือน อยบู่ นวิมำนแดนสวรรค์

10 4.ผำแต้ม อทุ ยำนแห่งชำตผิ ำแต้ม เป็นอุทยำนแห่งชำติท่ีต้งั อยทู ำงตะวนั ออกสุดของประเทศไทย สำมำรถรับชมพระอำทิตยข์ ้ึนไดเ้ ป็นจุดแรกของประเทศไทยปัจจุบนั อยใู่ นพ้นื ท่ีของจงั หวดั อุบลรำชธำนี จุดที่น่ำสนใจคือภำพเขียนสีก่อนประวตั ิศำสตร์ผำแตม้ ผำหมอน ผำลำย ประติมำกรรมธรรมชำติเสำเฉลียง และจุดชมพระอำทิตยแ์ สงแรกแห่งสยำม อทุ ยำนแห่งชำติผำแตม้ มีพ้นื ท่ีรำว 340ตำรำงกิโลเมตร (212,500 ไร่)

11เสำเฉลยี ง เสำเฉลียงเป็นประติมำกรรมหินทรำยชิ้นเอกจำกธรรมชำติ โดยประกอบจำกหินทรำยสองชุดคือหินทรำยยคุ ครีเตเชียส ช้นั บน (ซ่ึงแขง็ กวำ่ ) และหินทรำยยคุ จูแรสซิก ช้นั ลำ่ ง (ซ่ึงออ่ นกวำ่ ) ถูกกระทำโดยน้ำและลมเป็นเวลำยำวนำนกวำ่ ร้อยลำ้ นปี จนเกิด \"กระบวนกำรตำ้ นทำนทำงธรรมชำติ\" ซ่ึงเป็นแรงกดทบั และแรงธรรมชำติอ่ืน ๆ ทำใหเ้ มด็ ทรำยในเน้ือหินเชื่อมประสำนกนัแน่นข้ึน ส่งผลใหส้ ำมำรถรักษำรูปร่ำงไดถ้ ึงปัจจุบนั น้ี ส่วนชื่อ เสำเฉลียง แผลงมำจำกคำว่ำ \"สะเลียง\" ซ่ึงแปลวำ่ เสำหิน

12ผำชะนะได ผำชะนะได เป็นสถำนที่ท่ีอยทุ่ ำงทิศตะวนั ออกสุดของประเทศไทย ท่ีใช้เป็นจุดเริ่มตน้ คำนวณเวลำพระอำทิตยข์ ้ึน ต้งั อยใู่ นป่ ำดงนำทำม ตำบลนำโพธ์ิกลำง อำเภอโขงเจียม จงั หวดั อุบลรำชธำนี มีพิกดั ภูมิศำสตร์ที่ ละติจูด 15 องศำ37 ลิปดำ 3.5 พลิ ิปดำ เหนือ ลองจิจูด 105 องศำ 37 ลิปดำ 17 พิลิปดำตะวนั ออก

13 5.นำ้ ตกถำ้ พระ“นำ้ ตกภูถำ้ พระ” หรือ “นำ้ ตกถำ้ พระ” ต้งั อยทู่ ี่บำ้ นถ้ำพระ ต.โสกก่ำม อ.เซกำน้ำตกแห่งน้ีแมอ้ ยใู่ นเขตรักษำพนั ธุ์สตั วป์ ่ ำภูววั แต่ไดใ้ หท้ ำงองคก์ ำรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นดูแลและจดั กำรดำ้ นกำรท่องเที่ยว ตวั น้ำตกภูถ้ำพระต้งั อยทู่ ่ำมกลำงธรรมชำติของผืนป่ ำ กำรเขำ้ ถึงตวั น้ำตกตอ้ งนง่ั เรือเขำ้ ไปตำมลำคลองร่มรื่น(ค่ำเรือไป-กลบั 20 บำท) ประมำณ 10 นำทีจำกน้นั เดินเทำ้ อีกประมำณ 500 เมตร กจ็ ะถึงยงั ตวั น้ำตกภูถ้ำพระ ท่ีมีควำมสวยงำมยง่ิ ใหญ่อลงั กำรมำกน้ำตกภูถ้ำพระ แบ่งเป็น 3 ช่วงหลกั ๆ คือ น้ำตกช่วงแรกอยบู่ ริเวณดำ้ นล่ำง มีลกั ษณะเป็นธำรน้ำตกไหลลดหลน่ั ลงสู่แอ่งกน้ กระทะ มีน้ำลึก เหมำะสำหรับ

14คนวำ่ ยน้ำเป็น ซ่ึงกม็ ีนกั ท่องเที่ยวหลำยคน โดยเฉพำะวยั รุ่นนิยมไปกระโดดน้ำเลน่ น้ำตกช่วงกลำง(เดินจำกช่วงแรกข้ึนไปอีกหน่อย) มีลกั ษณะเป็นลำธำรหลำยสำย มีสำยน้ำไหลแรง แต่น้ำต้ืน เป็นบริเวณท่ีมีคนไปแช่น้ำเล่นน้ำกนัเป็นจำนวนมำก นกั ท่องเท่ียวจำนวนมำกท้งั เดก็ เลก็ เดก็ โต วยั รุ่น รวมถึงผใู้ หญ่บำงคนนิยมไปทำกิจกรรมสไลเดอร์ไปตำมร่องน้ำ กระแสน้ำ อยำ่ งสนุกสนำนพร้อมกบั เสียงว้ดี วำ้ ยอยำ่ งสนุกเฮฮำ ในบริเวณธำรน้ำตกช่วงกลำงจะมีดำ้ นหน่ึงเป็นเพิงผำ ริมเพิงผำประดิษฐำนพระพุทธรูป 2 องค์ สร้ำงดว้ ยศิลปะพ้ืนบำ้ น คนมำเท่ียวน้ำตกนิยมมำกรำบไหวข้ อพรกนั ไม่ขำดสำย

15 จำกน้นั เหนือฝำยข้ึนไปจะมีบนั ไดเดินข้ึนไปสู่น้ำตกถ้ำพระช้นั ไฮไลท์ ที่เป็นสำยน้ำตกกวำ้ งสีขำวฟฟู ่ องไหลลงมำสู่แอ่งน้ำต้ืนเบ้ืองลำ่ ง ท่ีมีคนข้ึนมำท้งันง่ั ชมน้ำตก ท้งั เล่นน้ำ กนั มำกมำย เพรำะมีพ้ืนท่ีแอ่งกวำ้ งขวำงและเป็นน้ำต้ืน นั่นจึงทำให้ในช่วงวนั หยดุ ในช่วงหน้ำฝนเช่นนีท้ ี่นำ้ ตกภูถำ้ พระจะคกึ คกัไปด้วยนักท่องเทยี่ วดูคล้ำยกบั สวนนำ้ ธรรมชำตบิ นลำนหินอนั กว้ำงใหญ่ทนี่ ่ำเพลดิ เพลนิ เป็ นอย่ำงยงิ่ โดยมนต์เสน่ห์ของนำ้ ตกภูถำ้ พระจะมสี ำยนำ้ อนัยงิ่ ใหญ่สวยงำมให้สัมผสั เฉพำะในหน้ำฝนช่วงเดือน ส.ค. - ต.ค. เท่ำน้ัน

16 6.เกำะมันนอก เกำะมนั นอก เป็นเกำะเลก็ ๆ กลำงทะเลอ่ำวไทย โดยเป็นเกำะท่ีอยหู่ ่ำงจำกเมืองแกลงมำกท่ีสุดในหมู่เกำะมนั อยหู่ ่ำงจำกเกำะเสมด็ ประมำณ 30กิโลเมตร บนเกำะมีเพยี งที่พกั แห่งเดียว ที่น่ีจึงมีบรรยำกำศท่ีเงียบสงบมำกไฮไลทข์ องเกำะมนั นอกกค็ ือ หำดทรำยที่ขำวสะอำดและน้ำทะเลสีฟ้ำใส มีแนวปะกำรังที่อดุ มสมบูรณ์รำยลอ้ มรอบเกำะ ซ่ึงสำมำรถลงไปดำน้ำเลน่ กนั ไดอ้ ยำ่ งง่ำยดำย

17 7. ตลำดนำ้ กลำงดง ตลำดนำ้ กลำงดง ตลำดน้ำศิลปะ อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำเป็นตลำดน้ำแนวคิดศิลปะ ขนำดยอ่ ม บนพ้ืนท่ี 8-10 ไร่ ในป่ ำเขำกลำงดง โดยกำรนำเอำศิลปะเขำ้ มำใช้ ท้งั กำรจดั ตบแต่ง สวน ร้ำนคำ้ ต่ำงๆ English Garden Style จึงทำใหศ้ ิลปะกลำยมำเป็นจุดเด่น ท่ีทำใหท้ ่ีน้ีมีเอกลษั ณ์ไม่เหมือนใคร กลำยเป็นแนวคิด Art Floating Market หรือตลำดน้ำศิลปะข้ึนมำ

18 8.ปรำสำทหินเขำพนมรุ้ง อุทยำนประวัตศิ ำสตร์พนมรุ้งต้งั อยู่บนยอดเขำพนมรุ้ง ซึ่งเป็ นภูเขำไฟเก่ำทห่ี มดพลงั แล้ว อยู่ในเขตตำบลตำเป๊ ก อำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวดับุรีรัมย์ ห่ำงจำกกรุงเทพมหำนครไปทำงทิศตะวันออกเฉียง-เหนือ ๓๗๒กโิ ลเมตร มีพืน้ ที่ ๔๕๑ ไร่ ๑๑ ตำรำงวำ

19 ปรำสำทหินเขำพนมรุ้งได้รับกำรออกแบบตำมคตคิ วำมเชื่อและควำมนิยมในศิลปะเขมร กล่ำวคือ เน้นควำมสำคญั ของส่วนประกอบเข้ำหำจุดศูนย์กลำง คือ ปรำงค์ประธำน โดยปรับลกั ษณะกำรก่อสร้ำงให้เข้ำกบั สภำพของภูมปิ ระเทศทเ่ี ป็ นแนวลำดชันของเขำพนมรุ้ง ภำยหลงั จำกสมเดจ็ พระเจ้ำบรมวงศ์เธอ กรมพระยำดำรงรำชำนุภำพ เสดจ็ ฯมำทอดพระเนตรปรำสำทหินเขำพนมรุ้ง เม่ือ พ.ศ. ๒๔๔๙ และ พ.ศ. ๒๔๗๒ กรมศิลปำกรได้ประกำศขนึ้ทะเบยี นโบรำณสถำนใน พ.ศ. ๒๔๗๘ ต่อมำได้มกี ำรบูรณะปรำสำทหินเขำพนมรุ้ง ด้วยวธิ ีอนัสตโิ ลซิส เร่ิมกำรบูรณะใน พ.ศ. ๒๕๑๔ และดำเนินกำรแล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๕๓๑ สมเดจ็ พระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกมุ ำรี เสดจ็พระรำชดำเนินทรงเป็ นองค์ประธำนในพธิ ีเปิ ด เม่ือวนั ท่ี ๒๑ พฤษภำคม พ.ศ.๒๕๓๑

20 9.นำ้ พรุ ้อนแจ้ช้อนน้ำพรุ ้อนแจซ้ อ้ น เป็นแหล่งน้ำพรุ ้อนที่มีสภำพกำรเกิดทำงธรณีวทิ ยำที่น่ำสนใจมีกล่ินกำมะถนั ค่อนขำ้ งอ่อน จำนวน 9 บ่อ ต้งั อยใู่ นบริเวณพ้ืนที่ประมำณ 3 ไร่ภำยในพ้นื ที่มีโขดหินนอ้ ยใหญ่กระจดั กระจำยอยทู่ วั่ ไป และมีไอน้ำลอยกรุ่นข้ึนจำกบ่อปกคลุมรอบบริเวณรำวกบั สำยหมอก น้ำพรุ ้อนมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของน้ำพรุ ้อนประมำณ 73 องศำเซลเซียส เป็นท่ีนิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทำมำแช่ สำหรับไข่ไก่แช่นำนประมำณ 17 นำที ไข่แดงจะแขง็ มีรสชำติมนั อร่อยส่วนไข่ขำวจะเหลวคลำ้ ยไข่เต่ำแอง่ น้ำอนุ่ ต้งั อยตู่ ิดกบั บ่อน้ำพรุ ้อน เป็นแอ่งน้ำที่เกิดจำกกำรไหลมำบรรจบกนัของน้ำพรุ ้อนและน้ำเยน็ ที่มำจำกน้ำตกแจซ้ อ้ น ทำใหเ้ กิดเป็นน้ำอ่นุ ที่มีอุณหภูมิเหมำะแก่กำรแช่อำบ หอ้ งอำบน้ำแร่ มีท้งั หอ้ งอำบแบบแช่ ซ่ึงมีอ่ำงสำหรับลง

21แช่อำบ จำนวน 11 หอ้ ง และหอ้ งอำบน้ำแบบตกั อำบ โดยแยกระหวำ่ งหอ้ งอำบชำยหญิง จำนวน 16 หอ้ ง อณุ หภูมิของน้ำแร่ประมำณ 39-42 องศำเซลเซียสเหมำะแก่กำรอำบเป็นอยำ่ งยง่ิ กำรอำบน้ำแร่เป็นกำรบำบดั ควำมเมื่อยลำ้ ของร่ำงกำย ทำใหร้ ู้สึกสดชื่นช่วยใหโ้ ลหิตไหลเวียนไดด้ ีข้ึน และยงั ช่วยรักษำโรคผวิ หนงั บำงชนิดได้ เช่น กลำก เกล้ือน ผื่นคนั เป็นตน้ โดยน้ำแร่ท่ีใชอ้ ำบต่อท่อโดยตรงมำจำกบ่อน้ำพรุ ้อน

22 10.สะพำนเทพสุดำ สะพำนเทพสุดำ สมเดจ็ พระเทพรัตนสุดำฯสยำมบรมรำชกมุ ำรี ทรงพระกรุณำโปรดเกลำ้ ฯ พระรำชทำนนำม เมื่อวนั ท่ี 22 เมษำยน 2553 สะพำนเทพสุดำ เป็นโครงข่ำยเช่ือมเส้นทำงคมนำคมขนส่งจำก จงั หวดั หนองคำย อุดรธำนีผำ่ นจงั หวดั กำฬสินธุ์ ไปยงั จงั หวดั มุกดำหำร ซ่ึงเป็นประตูสู่อินโดจีนหรืออีสต์เวสตอ์ ีโคโมมิก คอริเดอร์ จะช่วยร่นระยะทำงไดก้ วำ่ 100 กิโลเมตร รวมถึงกำรขนส่งสินคำ้ ทำงกำรเกษตร โดยเฉพำะจำกอำเภอหนองกงุ ศรี อำเภอท่ำคนั โทเขำ้ สู่ตวั จงั หวดั กำฬสินธุ์ จะร่นระยะทำงกวำ่ 80 กิโลเมตร

23

24 11.วดั ภูสิงห์ พทุ ธสถำนภูสิงห์ ต้งั อยบู่ นยอดเขำภสู ิงห์ อำเภอสหสั ขนั ธ์ ใกลต้ ลำดสหสั ขนั ธ์ ห่ำงจำกตวั จงั หวดั กำฬสินธุ์ 34 กม. เป็นท่ีประดิษฐำนพระพทุ ธรูปประทบั นง่ั ปำงมำรวิชยั ขนำดใหญ่นำมวำ่ พระพรหมภูมิปำโล อนั เป็นท่ีเคำรพสักกำระของชำวเมืองสหสั ขนั ธ์

25 พทุ ธสถำนภูสิงห์ ต้งั อยู่ ตำบลภูสิงห์ อำเภอสหสั ขนั ธ์ จงั หวดั กำฬสินธุ์ห่ำงจำกจงั หวดั กำฬสินธุ์ประมำณ 34 กิโลเมตร กำรเดินทำงข้ึนบนยอดเขำสำมำรถเดินทำงได้ 2 ทำง คือ บนั ไดเดินเทำ้ จำนวน 417 ข้นั และถนนลำดยำงระยะทำง 3 กิโลเมตร คดเค้ียวข้ึนตำมไหลเ่ ขำทำงทิศตะวนั ตก

26 12.ถำ้ มรกตสระมรกต กำเนิดมำจำกธำรน้ำอุ่น ในผนื ป่ ำที่รำบต่ำภำคใต้ เป็นน้ำพรุ ้อน มีอุณหภูมิประมำณ30-50 องศำเซลเซียส เป็นสระน้ำสวยใสกลำงใจป่ ำ ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้ำ เปลี่ยนสีไปไดต้ ำมวนั เวลำและสภำพแสง สระมรกตกำเนิดมำจำกธำรน้ำอุ่น ในผนื ป่ ำท่ีรำบต่ำภำคใต้ เป็นน้ำพรุ ้อนลกั ษณะเป็นสระน้ำร้อน 3สระ ไดแ้ ก่ สระแกว้ สระมรกต และ สระน้ำผดุ น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอณุ หภูมิประมำณ 30-50 องศำเซลเซียส รอบๆ บริเวณเป็นป่ ำร่มรื่นเขียวคร้ึมมีพรรณไมท้ ี่น่ำสนใจ

27จำกท่ีจอดรถเดินทำงเทำ้ เขำ้ มำประมำณ 800 เมตร จะถึงตวั สระมรกต หรือจะไปอีกทำงท่ีเป็นเสน้ ทำงศึกษำ ธรรมชำติท่ีมีระยะทำงประมำณ 2.7 กิโลเมตรแต่ไม่วำ่ จะเดินไปทำงไหนกจ็ ะมำบรรจบกนั ท่ีสระมรกตท่ีเดียวกนั แต่แนะนำวำ่ ตอนเดินเขำ้ ไปท่ีสระใหเ้ ดินในเส้นทำงปกติ ส่วนขำกลบั น้นั กก็ ลบั มำเส้นทำงศึกษำธรรมชำติ เดินใน ลกั ษณะเป็นวงรอบ เส้นทำงศึกษำธรรมชำติเป็นป่ ำเขียวคร้ึม ร่มรื่นดว้ ยพรรณไมท้ ่ีน่ำสนใจเป็นแหล่งชมนกหำยำก เช่น นกแตว้ แร้วทอ้ งดำ นกกระเตน็ สร้อยคำสีน้ำตำล นกเงือกดำ ฯลฯระหวำ่ งเดินกจ็ ะพบสำยน้ำไหล และสระใหญ่ สระเลก็ ไปตลอดทำง สวยงำมมำก

28 13.เข่ือนป่ ำสักชลสิทธ์ิ เขื่อนป่ ำสักชลสิทธ์ิ ต้งั อยู่ ณ บ้ำนหนองบวั อำเภอพฒั นำนิคม จังหวดัลพบุรี เป็ นเขื่อนดนิ ทย่ี ำวที่สุดในประเทศไทย ซ่ึงแม่นำ้ ป่ ำสักมีขนำดใหญ่เป็ นอนั ดบั ท่ี 13 ในจำนวน 25 ลุ่มนำ้ ของประเทศไทย เป็ นพืน้ ที่ลุ่มนำ้ ประมำณ14,520 ตำรำงกโิ ลเมตร... มี ลกั ษณะของลมุ่ น้ำแคบเรียวยำว แหล่งตน้ น้ำอยู่จงั หวดั เลย ลำน้ำมีควำมยำว 513 กิโลเมตร ไหลผำ่ นจงั หวดั เพชรบูรณ์ ลพบุรีสระบุรี และมำบรรจบกบั แม่น้ำเจำ้ พระยำที่จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยำ มีปริมำณน้ำท่ำเฉลี่ยประมำณ 2,400 ลำ้ นลูกบำศกเ์ มตรต่อปี

29 14.สถำนีเกษตรหลวงดอยอ่ำงขำง สถำนีเกษตรหลวงอ่ำงขำง เป็นโครงกำรอนั เน่ืองมำจำกพระรำชดำริ ในพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั เพ่ือส่งเสริมอำชีพเกษตรกรรม ทดแทนกำรปลูกฝ่ิ น สถำนีวิจยั แห่งแรกของโครงกำรหลวง อยู่บนเทือกเขำแดนลำว ตำบลแม่งอน อำเภอฝำง จงั หวดั เชียงใหม่ มีควำมสูงจำกระดบั น้ำทะเล 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร พ้ืนที่รับผิดชอบประมำณ 26.52 ตำรำงกิโลเมตรหรื อ 16,577 ไร่ จัดต้ังข้ึนเม่ือปี พ.ศ. 2512 ตำมแนวพระรำชดำริ ในพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั ท่ีว่ำ “ใหเ้ ขำช่วยตวั เอง” เปลี่ยนพ้นื ที่จำกไร่ฝิ่ นมำเป็นแปลงเกษตรเมืองหนำวที่สร้ำงรำยไดด้ ีกวำ่ เก่ำก่อน

30 พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว พร้ อมด้วยสมเด็จพระนำงเจ้ำพระบรมรำชินีนำถ ไดเ้ สดจ็ พระรำชดำเนินเยย่ี มรำษฎร ท่ีหมู่บำ้ นผกั ไผ่ อำเภอฝำง จงั หวดั เชียงใหม่ และไดเ้ สดจ็ ผ่ำนบริเวณดอยอ่ำงขำง ทอดพระเนตรเห็นว่ำชำวเขำเผ่ำมูเซอ ซ่ึงในสมยั น้ันยงั ไวแ้ กละถกั เปี ยยำว แต่งกำยสีดำ สะพำยดำบ ทำกำรปลูกฝ่ิ นแต่ยงั ยำกจน ท้งั ยงั ทำลำยทรัพยำกรป่ ำไม้ ตน้ น้ำลำธำรท่ีเป็ นแหล่ง สำคญั ต่อระบบนิเวศ ซ่ึงจะก่อให้เกิดควำมเสียหำยต่อส่วนอื่น ๆของประเทศได้

31 15.งำนประเพณีแห่ผตี ำโขน ผตี ำโขน เป็นเทศกำลที่จดั ข้ึนในอำเภอด่ำนซำ้ ย จงั หวดั เลย ซ่ึงต้งั อยทู่ ำงภำคอีสำน ของประเทศไทย เป็นเทศกำลที่เกิดข้ึนในเดือน 7 ซ่ึงมกั จดั มำกกวำ่สำมวนั ในบำงช่วงระหวำ่ งเดือนมีนำคม และกรกฎำคม โดยจดั ข้ึนในวนั ท่ีไดร้ ับเลือกใหจ้ ดั ข้ึนในแต่ละปี โดยคนทรงประจำเมือง ซ่ึงงำนบุญประเพณีพ้ืนบำ้ นน้ีมีชื่อเรียกวำ่ บญุ หลวง โดยแบ่งออกเป็นเทศกำล ผีตำโขน, ประเพณีบุญบ้งั ไฟ และงำนบุญหลวง (หรือ บุญผะเหวด) ซ่ึงวนั แรกจะเป็นเทศกำลผีตำโขน ซ่ึงเรียกวนั น้ีวำ่ วนั รวม (วนั โฮม) โดยจะมีพธิ ีเบิก พระอุปคุตต์ ในบริเวณระหวำ่ งลำน้ำหมนั กบั ลำน้ำศอก ส่วนวนั ท่ี

32สองของเทศกำลดงั กลำ่ วจะมีพิธีจุดบ้งั ไฟบูชำ พร้อมดว้ ยเครื่องแต่งกำยที่หลำกหลำย รวมถึงกำรแข่งขนั เตน้ รำตลอดจนขบวนพำเหรด ส่วนในวนั ที่สำมและวนั สุดทำ้ ยจะมีกำรใหช้ ำวบำ้ นฟังเทศน์[3] ท้งั น้ี ผตี ำโขนยงั ไดร้ ับกำรนำมำใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์ และฉำยำประจำทีม สโมสรฟุตบอลเลย ซิต้ี เช่นกนั [5] และประเพณียงั คงมีควำมเช่ือกนั วำ่ สำหรับคนท่ีเล่นหรือมีกำรแต่งตวัเป็นผีตำโขนใหญ่ ตอ้ งถอดเคร่ืองแต่งกำยผีตำโขนใหญ่ออกใหห้ มดและนำไปทิ้งในแม่น้ำหมนั หำ้ มนำเขำ้ บำ้ น เป็นกำรทิ้งควำมทุกขย์ ำกและสิ่งเลวร้ำยไปและรอจนถึงปี หนำ้ จึงค่อยทำเลน่ กนั ใหม่

33 16.บึงพลำญชัย บงึ พลำญชัย ต้งั อยบู่ ริเวณกลำงเมืองร้อยเอด็ ถือเป็นสัญลกั ษณ์ของจงั หวดั มีลกั ษณะเป็นเกำะอยกู่ ลำงบึงน้ำขนำดใหญ่ มีเน้ือท่ีประมำณ 2 แสนตำรำงเมตร เป็นสถำนที่พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ ตกแต่งเป็นสวนไมด้ อกขนำดใหญ่ มีพนั ธุ์ไมต้ ่ำงๆ ร่มร่ืน และในบึงน้ำมีปลำชนิดต่ำงๆ หลำยพนั ธุ์ มีเรือจกั รยำนน้ำและเรือพำยไวบ้ ริกำรประชำชนพำยเลน่ ในบึง นอกจำกน้นั ยงั ใชเ้ ป็นสถำนท่ีจดังำนเทศกำลของจงั หวดั รวมท้งั จดั มหรสพต่ำงๆ ภำยในบึงพลำญชยั ยงั มีสิ่งก่อสร้ำงท่ีน่ำสนใจคือ

34 ศำลเจำ้ พ่อหลกั เมือง เป็ นของคู่บำ้ นคู่เมืองท่ีชำวร้อยเอ็ดเคำรพนับถือและเช่ือว่ำเจ้ำพ่อจะช่วยดลบันดำลให้ชำวเมืองมีควำมสุข คิดสิ่งใดสมปรำรถนำ จึงเป็ นสถำนที่อีกแห่งหน่ึงท่ีชำวเมืองร้อยเอ็ดจะพำกนั มำกรำบนมสั กำรขอพรเป็นประจำ

35 17.เขำมโนรมย์ วดั ภูมโนรมย์ หรือ วดั รอยพระพทุ ธบำทภูมโนรมย์ อยหู่ ่ำงจำกตวั เมืองมุกดำหำรประมำณ 5 กม. มีเน้ือที่ประมำณ 100 ไร่ อยใู่ นเขตพ้นื ท่ีของอุทยำนแห่งชำติมุกดำหำร มีพชื พนั ธ์ไมห้ ำยำกหลำยชนิด เช่น ตน้ ชำ้ งนำ้ ว ผหั วำน ที่ในอดีต ชำวบำ้ นแถบน้นั จะข้ึนภูเกบ็ ผกั หวำนกนักำรก่อต้งั วดั วดั ภูมโนรมย์ จำกหลกั ฐำนกำรสร้ำงจำกแผน่ ศิลำ ไดก้ ล่ำววำ่ คนของ ท่ำนขนุ ศำลำและพระอำจำรยบ์ ุ นนั ทวโร เจำ้ อำวำสวดั มโนภิรมย์ บำ้ นชะโนด และผสู้ ร้ำงวดั ลฎั ฐิกวนั เป็นผสู้ ร้ำง และถือเป็นท่ีสำหรับกำรจำพรรษำและปฏิบตั ิธรรมกมั มฎั ฐำนของพระภิกษุ ไดส้ ร้ำงพระธำตุรูปทรงแปดเหล่ียมหน่ึงองค์ พร้อมสร้ำงร้อยพระพทุ ธบำทจำลอง และพระอำคำรเพญ็ ที่เป็นพระพทุ ธรูปขนำดเลก็ ไวอ้ งคห์ น่ึง และสร้ำงกฏุ ิสำหรับพระสงฆอ์ ีกหลงั หน่ึง

36โบรำณสถำนและโบรำณวตั ถใุ นวดั รอยพระพทุ ธบำทภูมโนรมยไ์ ดแ้ ก่– พระธำตุภูมโนรมย์ เป็นพระธำตุทรงแปดเหล่ียมมีเอวเป็นฐำนหกั เชิงเป็นรูปแปดเหล่ียมรัศมีประมำณ 2.5 เมตรเป็นรูปทรงปลีแบ่งเป็น 3 ท่อนคือเป็นลกั ษณะปริศนำธรรม ตำมควำมหมำยแรกเป็นนรกภูมิ ฐำนท่ีสองเป็นโลกภูมิซ่ึงมำก และสุดทำ้ ยเป็นสวรรคภ์ ูมิ ควำมสูง 4.5 เมตร

37 18.ถำ้ เสรีไทย ถ้ำเสรีไทยเป็นแหลง่ สะสมอำวธุ ยทุ ธภณั ฑไ์ ปต่อสู้กบั กองทพั ญี่ป่ ุนในสมยั สงครำมโลกคร้ังท่ี 2 ของขบวนกำรเสรีไทย ซ่ึงมีนำยเตียง ศิริขนั ธ์ เป็นหวั หนำ้ ขบวนกำรสำยสกลนคร มีเสน้ ทำงเดินเป็นวงรอบรวมระยะทำง 5กิโลเมตร ผำ่ นป่ ำเตง็ รัง ป่ ำเบญจพรรณ ถ้ำเสรีไทย แลว้ ยงั ต่อไปชมพระอำทิตย์ตกและจุดชมพระอำทิตยข์ ้ึน ทำงช่วงสุดทำ้ ยจะผำ่ นทุ่งกระเจียวที่จะออกดอกงำมในช่วงเดือนสิงหำคม อยหู่ ่ำงจำกท่ีทำกำรอุทยำนแห่งชำติไปทำงทิศเหนือ4.5 กิโลเมตร

38 19.วดั พระธำตุพนมวรมหำวหิ ำร วัดพระธำตุพนม วรมหำวิหำร เป็ นวดั พระอำรำมหลวง ช้ันเอก ชนิดวรมหำวิหำร ปัจจุบนั มี พระเทพวรมุนี เป็ นเจำ้ อำวำส ต้งั แต่ ปี พ.ศ. 2549-ปัจจุบนั ประดิษฐำน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยำงกูร บำ้ นธำตุพนม ตำบลธำตุพนม อำเภอธำตุพนม จงั หวดั นครพนม มีลกั ษณะเป็นเจดียร์ ูปส่ีเหลี่ยมจตุรัสก่อดว้ ยอิฐ กวำ้ งดำ้ นละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงลอ้ มองคพ์ ระธำตุ 4 ช้นัองคพ์ ระธำตุต้งั อยู่บนภูกำพร้ำ (เนินดินสูงจำกพ้ืนธรรมดำประมำณ 3 เมตร)ภำยในบริเวณมีบึงขนำดใหญ่เรียกว่ำบึงธำตุพนม ในวนั เพญ็ เดือน 3 ถึง แรม 1ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี จะมีงำนประจำปี เพ่อื เป็นกำรนมสั กำรพระธำตุพนม

39

40 20.สะพำนแม่นำ้ แคว สะพำนข้ำมแม่นำ้ แคว (องั กฤษ: The Bridge of the River Kwai) ต้งั อยทู่ ่ีตำบลท่ำมะขำม อำเภอเมืองกำญจนบุรี จงั หวดั กำญจนบุรี ห่ำงจำกตวั เมืองไปทำงทิศเหนือ ตำมทำงหลวงแผน่ ดินหมำยเลข 323 ประมำณ 4 กิโลเมตร แยกซำ้ ยประมำณ 400 เมตร มีป้ำยบอกทำงชดั เจน สะพำนขำ้ มแม่น้ำแควเป็นสถำนท่ีทำงประวตั ิศำสตร์ท่ีสำคญั ยงิ่ แห่งหน่ึง เป็นสะพำนท่ีสำคญั ที่สุดของเส้นทำงรถไฟสำยมรณะ สร้ำงข้ึนสมยั สงครำมโลกคร้ังที่ 2 โดยกองทพั ญี่ป่ ุนไดเ้ กณฑเ์ ชลยศึกฝ่ ำยสมั พนั ธมิตร ไดแ้ ก่ ทหำรองั กฤษ อเมริกนั ออสเตรเลีย ฮอลนั ดำ และนิวซีแลนดป์ ระมำณ 61,700 คนสมทบดว้ ยกรรมกรชำวจีน ญวน ชวำ มลำยู ไทย พม่ำ และอินเดีย อีกจำนวนมำก มำก่อสร้ำงทำงรถไฟสำยยทุ ธศำสตร์ เพ่อื เป็นเสน้ ทำงผำ่ นไปสู่ประเทศพม่ำ ซ่ึงเส้นทำงช่วงหน่ึงจะตอ้ งขำ้ มแม่น้ำแควใหญ่ จึงตอ้ งมีกำรสร้ำงสะพำน

41ข้ึน กำรสร้ำงสะพำนและทำงรถไฟสำยน้ี เตม็ ไปดว้ ยควำมยำกลำบำก ควำมทำรุณของสงครำมและโรคภยั ตลอดจนกำรขำดแคลนอำหำร ทำใหเ้ ชลยศึกหลำยหม่ืนคนตอ้ งเสียชีวิตลง สะพำนขำ้ มแม่น้ำแควใชเ้ วลำสร้ำงเพยี ง 1 เดือน โดยนำเหลก็ จำกมลำยมู ำประกอบเป็นชิ้น ๆ ตอนกลำงทำเป็นสะพำนเหลก็ 11 ช่วง หวั และโครงสะพำนเป็นไม้ มีพิธีเปิ ดอยำ่ งเป็นทำงกำรเมื่อวนั ท่ี 25 ธนั วำคม พ.ศ.2486 ต่อมำในเดือนพฤศจิกำยน พ.ศ. 2487 ไดถ้ ูกทิ้งระเบิดหลำยคร้ังจนสะพำนหกั ท่อนกลำง ภำยหลงั สงครำมสิ้นสุดลง รัฐบำลไทยไดซ้ ่อมแซมใหม่ดว้ ยเหลก็ รูปเหล่ียม เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสำมำรถใชง้ ำนได้ ปัจจุบนั มีกำรยกยอ่ งใหเ้ ป็น สัญลกั ษณ์แห่งสันตภิ ำพ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook