Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตารางวิเคราะห์ความยากง่าย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ม.ปลาย

ตารางวิเคราะห์ความยากง่าย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ม.ปลาย

Published by somporn.4p, 2020-09-12 02:14:27

Description: ตารางวิเคราะห์ความยากง่าย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ม.ปลาย

Search

Read the Text Version

ตารางวเิ คราะห์ความยากง่าย ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรียนที ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 จัดทาโดย นายสมพร จิตรีเหิม ครู กศน.ตาบลราชคราม ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางไทร สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา

ตารางวเิ คราะหเ์ น้อื หาสาระรายวชิ า หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 25๖๓ สาระ....ทักษะการเรยี นร้.ู ... รายวชิ า....ทักษะการเรยี นรู.้ ..... รหัส....ทร 31001..... จานวน...200.....ชว่ั โมง .....5...... หนว่ ยกิต วเิ คราะหเ์ นื้อหา วธิ ีการจัดการเรยี น เน้อื หา งา่ ย ยาก เนือ้ หา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซึง้ กรต. สอนเสริม ชวั่ โมง 1. การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง √ √ 1. ความหมาย ความสาคญั ของการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 3 2. การกาหนดเปา้ หมายและวางแผนการเรียนร้ดู ้วย √ 6 ตนเอง √ 25 3. ทกั ษะพ้นื ฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการ 6 แก้ปัญหา และเทคนิคในการเรยี นรู้ด้วยตนเอง (การอ่าน การฟัง การสงั เกต การจา และการจดบนั ทึก) √ 4. เจตคต/ิ ปัจจัย ท่ีทาใหก้ ารเรยี นรดู้ ้วยตนเองประสบ ความสาเร็จ (การเปิดรบั โอกาสการเรียนรู้ การคิดริเรม่ิ √ และเรยี นร้ดู ้วยตนเอง การสร้างแรงจงู ใจ การสร้างวนิ ยั ใน ตนเอง การคิดเชิงบวก ความคดิ สร้างสรรค์ ความรักใน การเรยี น การใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี น และความรับผดิ ชอบ)

เนื้อหา วเิ คราะห์เน้ือหา วิธกี ารจัดการเรยี นรู้ ง่าย ยาก ยากมาก เนอื้ หา กรต. ครูสอน สอนเสรมิ โครงงาน จานวน ลกึ ซง้ึ ช่ัวโมง 2. การใช้แหล่งเรียนรู้ √ √√ 3 1. ความหมาย ความสาคัญของแหล่งเรียนรู้โดยทวั่ ไป √√ (กลมุ่ บริการข้อมลู กล่มุ ศลิ ปวัฒนธรรม ประวัตศิ าสตร์ กลุ่ม 12 ข้อมูลท้องถ่ิน กล่มุ ส่อื กลุ่มสันทนาการ) √ 6 2. การเขา้ ถึงและเลอื กใช้แหล่งเรยี นรู้ (หอ้ งสมุดประชาชน 3 อาเภอของสถานศึกษา และ ศรช.) √√ 3.บทบาทหนา้ ท่ีและการบริการของแหลง่ เรยี นร้ดู ้านตา่ ง ๆ √√ 16 4. กฎ กติกา เงื่อนไขตา่ ง ๆ ในการไปขอใชบ้ ริการแหลง่ เรยี นรู้ √√ 5. ทกั ษะการใช้ข้อมูลสารสนเทศจากห้องสมุดประชาชนท่ี สอดคล้องกบั ความตอ้ งการ ความจาเปน็ เพ่ือนาไปใชใ้ นการ เรียนรู้ของตนเอง

เน้อื หา วเิ คราะห์เนอ้ื หา วธิ กี ารจัดการเรยี นรู้ ง่าย ยาก เนื้อหา กรต. ครสู อน สอนเสริม โครงงาน จานวน √ ยากมาก ลกึ ซงึ้ ชว่ั โมง 3. การจัดการความรู้ √ √ 5 1. ความหมาย ความสาคญั หลกั การของการจดั การ √ √ 5 ความรู้ √ √ 2. กระบวนการจดั การความรู้ (กาหนดเป้าหมายการ √ √ เรียนรู้/ระบุความร/ู้ กาหนดความรู้ท่ีตอ้ งการใช้/การ √ √ แสวงหาความร/ู้ สรุปองค์ความรู้ ปรับปรงุ ดัดแปลงให้ √ √ เหมาะสมต่อการใช้งาน/ ประยกุ ต์ใชค้ วามรูใ้ นกจิ การ √ งานของตน/แลกเปล่ยี นความรู/้ รวมกลุ่มปฏิบัตกิ ารต่อ ยอดความรู้ พัฒนาขอบข่ายความรขู้ องกลมุ่ / สรุปองค์ 10 ความรขู้ องกลุ่ม/จัดทาสารสนเทศ เผยแพร่ความร้)ู 3. กระบวนการจดั การความรู้ด้วยตนเอง (ระดับ ปจั เจก) 3.1 กาหนดความรู้หลักทีจ่ าเป็นหรอื สาคัญต่องาน หรอื กจิ กรรม 3.2 เสาะแสวงหาความรู้ 3.3 ประยกุ ต์ใช้ความรู้ 3.4 แลกเปลย่ี นความรู้ 3.5 พฒั นาความร/ู้ ยกระดบั ความรู้/ตอ่ ยอดความรู้ 3.6 สรุปองค์ความรู้ 3.7 จัดทาสารสนเทศองค์ความรู้ในการพฒั นา ตนเอง

เนอื้ หา วเิ คราะห์เนอื้ หา วิธีการจดั การเรียนรู้ งา่ ย ยาก เนื้อหา กรต. ครูสอน สอนเสรมิ โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซ้ึง ชวั่ โมง กระบวนการจดั การความรู้ด้วยการปฏิบัติการกลุ่ม (ชุมชนนกั ปฏบิ ัตหิ รือชุมชนแห่งการเรียนรู้ :COPS) √√ 1. รปู แบบของ COPS ท่ีใช้ในการจดั การความรู้ 2. การทา COPS เพอื่ จัดการความรู้ √ √ 10 2.1 บนั ทกึ การเล่าเร่ือง √√ 2.2 บันทกึ ขุมความรู้ 2.3 บันทึกแก่นความรู้ √√ 3. บันทกึ จดั เก็บ เปน็ องคค์ วามร้ขู องกลมุ่ เพอื่ ใช้ประโยชน์ ๕ ให้ผู้อ่ืนได้เรยี นรู้ต่อไป การสร้างองค์ความรู้ พัฒนา ตอ่ ยอด ยกระดบั ความรู้ √ √๕ 1. การใชค้ วามรูแ้ ละประสบการณใ์ นตวั บคุ คลให้เกดิ ประโยชน์ต่อกล่มุ /หนว่ ยงาน/ชุมชน 2. การทางานแบบต่อยอดความรู้ 3. วธิ ปี ฏบิ ัตทิ เ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) การจัดทาสารสนเทศเผยแพร่องคค์ วามรู้ 1. การถ่ายทอดความรู้ รปู แบบ วิธีการ 2. การประสานความรู้ 3. การถอดองค์ความรู้ 4. การแลกเปล่ยี นเรียนรู้ 5. การจัดเก็บความรขู้ องกลุ่ม/องค์กร การประยุกตใ์ ช้ ICT

เนื้อหา วิเคราะห์เน้ือหา วิธกี ารจดั การเรียนรู้ 4. การคิดเปน็ งา่ ย ยาก เนอ้ื หา กรต. จานวน 1. ปรัชญาคดิ เปน็ ยากมาก ลึกซึ้ง ครสู อน สอนเสรมิ โครงงาน ช่วั โมง 1.1 ความหมายของการคิดเป็น √ √5 1.2 ความสาคญั ของการคิดเปน็ 1.3 หลักการของการคิดเป็น √ √5 2. กระบวนการของการคดิ เป็น 2.1 ความหมาย 10 2.2 ขนั้ ตอนกระบวนการคดิ เป็น √√ 2.3 การประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน 3. การจัดทาและนาเสนอผงั ความคดิ 3.1 การเก็บรวบรวมสภาพปัญหา 3.2 การวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของแผนผังการคิด 3.3 วิธีการนาเสนอแผนผังความคดิ

วเิ คราะห์เน้อื หา วธิ กี ารจัดการเรียนรู้ เนื้อหา ง่าย ยาก เนื้อหา กรต. ครูสอน สอนเสรมิ โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซง้ึ ชั่วโมง 4. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4.1 กลยุทธใ์ นการคดิ (ทฤษฎหี มวก 6 ใบ) √√ 10 4.2 การคดิ เชิงบวก 4.3 การฝึกทกั ษะการคิดวิเคราะห์ √ √ 10 5. การกาหนดแนวทางในการแก้ปญั หา 5.1 การรวบรวมสภาพปัญหา 5.2 การวเิ คราะหส์ าเหตุของปญั หา 5.3 การวิเคราะหท์ างเลือกในการแก้ปัญหา 5.4 ตดั สนิ ใจเลือกแนวทางทีเ่ หมาะสมท่ีสดุ

วเิ คราะห์เนอื้ หา วธิ กี ารจดั การเรียนรู้ เน้อื หา ยาก เน้ือหา กรต. ครูสอน สอนเสรมิ โครงงาน จานวน งา่ ย ยากมาก ลึกซึ้ง ชว่ั โมง 5. การวจิ ัยอย่างง่าย √ √2 1. วจิ ัยคอื อะไร ทาไมตอ้ งรเู้ รื่องการวิจัย (ความหมายและ √ ความสาคญั ของการวจิ ยั ) √ 30 √√ 1.1 ความหมายของการวิจัย 1.2 ความสาคญั และประโยชน์ของการวิจัย 2. ทาวจิ ัยอย่างไร (กระบวนการและขน้ั ตอนการวจิ ัย) 2.1 คาถามที่ต้องการคาตอบคืออะไร ปัญหาท่ีตอ้ งการทราบจากการวจิ ัยคืออะไร (การ ระบุปัญหาการวจิ ยั ) 2.2 คาดเดาคาตอบว่าอย่างไร กาหนดแนวคาตอบ เบ้อื งต้น (สมมตฐิ าน) 2.3 วธิ ีการหาคาตอบที่ต้องการร/ู้ แหลง่ คาตอบ/การ รวบรวมคาตอบ (การเก็บรวบรวมข้อมลู /เครอ่ื งมอื การวิจยั ) 2.4 ตอบคาถามท่สี งสยั ว่าอยา่ งไร (การวิเคราะห์ ขอ้ มูล/สรปุ ผลการวิจยั )

วเิ คราะหเ์ น้อื หา วิธีการจัดการเรียนรู้ เนื้อหา งา่ ย ยาก เนอ้ื หา กรต. ครสู อน สอนเสรมิ โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซงึ้ ชั่วโมง 3. เขียนอย่างไร ใหค้ นอา่ นเข้าใจ (การเขียนรายงานการ √ ๘ วิจยั อยา่ งง่าย) √ 3.1 ความเป็นมา/ความสาคญั ของเรื่องทท่ี าวจิ ยั 3.2 วัตถปุ ระสงค์การวจิ ยั 3.3 ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับจากการวจิ ัย 3.4 เอกสารท่ีเก่ียวข้อง 3.5 วธิ ีดาเนินการวิจัย 3.6 การวิเคราะหข์ ้อมูล 3.7 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ 3.8 เอกสารอ้างอิง

สาระ....ความรพู้ ืน้ ฐาน.... รายวิชา....ภาษาไทย...... รหัส....พท 31001..... จานวน...200.....ชัว่ โมง .....5...... หน่วยกติ วเิ คราะห์เน้ือหา วิธกี ารจดั การเรยี น เนือ้ หา ง่าย ยาก เนื้อหา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซง้ึ กรต. สอนเสรมิ ชั่วโมง การฟงั การดู √ √ ๒ ๑.สรุปความ จับประเด็นสาคัญของเร่ืองที่ฟังและ ดู ๒ ๒. หลกั การจบั ใจความสาคัญของเรื่องที่ฟงั และดู √ √ ๔ ๓. การวิเคราะห์ วิจารณ์ √ √ ๒ ขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ คดิ เหน็ และสรุปความ √ √ ๔. การมีมารยาทในการฟังและดู ๒ √ √ ๔ การพดู ๑. สรปุ ความ จบั ประเด็นสาคัญของเรื่องที่พูดได้ ๒ ๒. การพูดนาเสนอความรู้ ความคิดเห็น และการพูด ในโอกาสต่างๆ เชน่ ๒.๑ พดู แนะนาตนเอง ๒.๒พดู กล่าวตอ้ นรับ ๒.๓พดู กล่าวขอบคุณ ๒.๔พูดโน้มนา้ วใจ ๒.๕พูดปฏิเสธ ๒๖พดู เจรจาตอ่ รอง ๒.๗พดู แสดงความคดิ เหน็ ๓. การมมี ารยาทในการพูด

วเิ คราะห์เนือ้ หา วิธกี ารจดั การเรยี น เนอ้ื หา งา่ ย ยาก เน้อื หา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซ้งึ การอ่าน กรต. สอนเสรมิ ช่วั โมง ๑. หลักการอา่ นในใจจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ ๒. หลักการอา่ นออกเสยี ง √ √๕ ทเ่ี ปน็ ท้ังร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง √ √๕ ๓. หลกั การเลอื กอา่ นหนงั สอื และส่อื สารสนเทศ √ √๓ ๔. หลักการอา่ นจับใจความสาคญั √ √ ๑๐ ๕. หลักการวเิ คราะห์ วิจารณ์ √ √ ๑๕ ๖. มารยาทในการอ่านและนิสัยรักการอ่าน √ √๒

วเิ คราะห์เนอ้ื หา วธิ ีการจดั การเรยี น เนอ้ื หา ง่าย ยาก เนื้อหา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซ้ึง การเขยี น กรต. สอนเสริม ช่วั โมง ๑. หลักการเขียน การใชภ้ าษาในการเขียน ๒. หลักการเขยี นแผนภาพความคดิ √ √๔ ๓. หลกั การเขียนเพื่อการส่ือสารประเภทต่างๆ √ √ ๑๔ เชน่ การเขียนเรียงความย่อความ เขยี นชแ้ี จง √ √ ๑๘ เขยี นแสดงความคดิ เห็นคาขวัญ คาคม คาโฆษณา เขียนรายงานการคน้ คว้าการกรอกแบบพิมพ์และ ใบสมคั รงาน

วิเคราะห์เน้ือหา วิธกี ารจดั การเรยี น เน้ือหา ง่าย ยาก เนอื้ หา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซ้ึง กรต. สอนเสริม ชัว่ โมง หลักการใช้ภาษา √ √ √ ๓ ๑. ความหมายของคา พยางค์ วลี ประโยค และการสะกด ๓ คา √ √ ๔ ๒. หลักในการสะกดคา √ √ ๙ ๓. การใช้เครอื่ งหมายวรรคตอน อกั ษรยอ่ คาราชาศัพท์ √ √ และการใช้เลขไทย √ √ ๘ ๔. การใช้คาและการสรา้ งคาในภาษาไทย √ √ ๔ √ √ ๕ ๔.๑การสรา้ งคาไทย √ ๔.๒คาประสม ๔.๓คาซอ้ น ๔.๔คาซ้า ๔.๕คาสมาส คาสนธิ ๔.๖หลกั การสงั เกตคาภาษาอื่นๆ ท่ีใช้ในภาษาไทย ๕. ชนิดของประโยค ๖. การใชร้ ะดบั ภาษาที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ๗. การใชส้ านวน สภุ าษติ คาพงั เพย

วิเคราะหเ์ น้ือหา วิธีการจดั การเรียน เน้อื หา ง่าย ยาก เน้อื หา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซึ้ง กรต. สอนเสรมิ ช่วั โมง วรรณคดี วรรณกรรม √ √ ๕ ๑. หลักการพิจารณาวรรณคดี √ ๕ ๒. หลกั การพนิ ิจวรรณกรรม √ ๕ ๓. ประวัติความเปน็ มาลักษณะและคณุ ค่าของเพลง พน้ื บ้านเพลงกล่อมเดก็ ๕ ๔. หลักการพนิ จิ วรรณคดดี า้ นวรรณศลิ ป์ และด้านสังคม ๔.๑สามกก๊ ๔.๒ราชาธริ าช ๔.๓กลอนเสภาขนุ ช้างขนุ แผน ๔.๔กลอนบทละครเรื่องรามเกยี รติ์

สาระ....การดาเนินชวี ิต.... รายวชิ า....เศรษฐกิจพอเพียง...... รหสั ....ทช 31001..... จานวน...๔๐.....ช่วั โมง .....๑...... หน่วยกิต วเิ คราะห์เน้ือหา วธิ ีการจดั การเรียน เน้ือหา งา่ ย ยาก เนื้อหา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซ้ึง กรต. สอนเสริม ชัว่ โมง ความพอเพียง √ √ 10 1. ความเป็นมาความหมาย หลักการแนวคิดของปรชั ญา √ √ ของเศรษฐกจิ พอเพียง √ √ √ 2. การแสวงหาความรู้ √ 10 ๓. หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งกบั การจดั การทรัพยากร √ ท่ีมอี ยู่ของตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน √ √ ๔. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการประกอบ √ อาชีพ √ √ ครอบครวั พอเพียง 1. การประยกุ ต์หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งท่ใี ชใ้ น การประกอบอาชีพ 2. ความหมาย ความสาคัญ ประเภทกระบวนการวางแผน 3. การวางแผนการเรียนรู้ /การประกอบอาชพี โดยใช้ กระบวนการ 3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข

สาระ....การดาเนนิ ชีวติ .... รายวชิ า....การใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจาวัน3...... รหสั ....พว22032..... จานวน...120.....ชัว่ โมง .....23..... หน่วยกิต วิเคราะหเ์ นอื้ หา วธิ ีการจัดการเรยี น เนื้อหา งา่ ย ยาก เนื้อหา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซึ้ง กรต. สอนเสรมิ ช่วั โมง 1.1 ไฟฟ้าคืออะไร √ √4 1.1.1 ความหมายของไฟฟา้ 1.1.2 ประเภทของไฟฟ้า √√ - ไฟฟ้าสถิต √√ - ไฟฟ้ากระแส 1.1.3 แหล่งกาเนิดไฟฟ้า √ √ 1.2 ประวัตคิ วามเป็นมาของไฟฟา้ 4 1.2.1 ประวตั ไิ ฟฟ้าโลก 1.2.2 ประวัติไฟฟา้ ประเทศไทย √√

วเิ คราะห์เน้ือหา วิธีการจัดการเรยี น เน้ือหา งา่ ย ยาก เนอ้ื หา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซึ้ง กรต. สอนเสริม ชัว่ โมง 1.3 พลังงานทีใ่ ช้ผลิตกระแสไฟฟ้า 1.3.1 พลงั งานจากฟอสซิล √ √4 - ถา่ นหิน(ผลติ ,ผลกระทบ,การจดั การ) - ก๊าซธรรมชาติ(ผลติ ผลกระทบ การจดั การ) √ √ - นา้ มัน(ผลิต ผลกระทบ การจดั การ) √ √ 1.3.2 พลงั งานจากพลงั งานทดแทน √ 3 - ลม √ - น้า - แสงอาทิตย์ - ชีวมวล - ความร้อนใต้พภิ พ - นวิ เคลียร์ 1.4 สถานการณ์พลงั งานไฟฟ้าในปจั จบุ ัน 4 1.4.1 สถานการณ์พลงั งานไฟฟ้าโลกปจั จบุ ัน 1.4.2 สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าประเทศไทยปัจจุบัน √ √ 1.4.3 สถานการณ์พลงั งานไฟฟา้ อาเซยี นปัจจบุ ัน

วิเคราะห์เนอ้ื หา วธิ ีการจัดการเรียน เน้ือหา งา่ ย ยาก เนื้อหา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซึง้ กรต. สอนเสรมิ ชวั่ โมง 1.5 โรงไฟฟา้ กบั สิง่ แวดลอ้ ม √ √4 1.5.1 ข้อกาหนดและกฎหมาย √√ √ √ 1.5.2 การจัดการและแนวทางการป้องกนั 2.1 ด้านการคมนาคม √ √3 2.1.1 ประโยชนจ์ ากพลงั งานไฟฟา้ ด้านคมนาคม √ √ 1) รถไฟความเรว็ สงู √ √4 2) รถขับเคลอ่ื นโดยใช้ระบบไฟฟ้า เช่น รถยนตไ์ ฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า จักรยานยนต์ไฟฟ้า 3) กระเชา้ ไฟฟา้ 4) การจดั การจราจร 2.1.2 ผลกระทบจากพลังงานไฟฟา้ ด้านคมนาคม 2.2 ด้านเศรษฐกิจ 2.2.1 ประโยชน์จากพลังงานไฟฟา้ ด้านเศรษฐกิจ 1) ตน้ ทุน 2) รายได้ 3) ผลผลติ

วเิ คราะหเ์ นื้อหา วิธีการจัดการเรียน เน้อื หา งา่ ย ยาก เนือ้ หา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซง้ึ กรต. สอนเสรมิ ช่ัวโมง 4) การเพมิ่ มูลคา่ ใหท้ รพั ยากรในท้องถิ่น 2.2.2 ผลกระทบจากพลงั งานไฟฟ้า ดา้ นเศรษฐกจิ √ √3 2.3 ด้านอตุ สาหกรรม √√ √ √ 2.3.1 ประโยชนจ์ ากพลงั งานไฟฟ้า ดา้ น อุตสาหกรรม 1) สถานประกอบการ/โรงงาน 2) ผลกระทบจากพลังงานไฟฟา้ ดา้ น อุตสาหกรรม 2.4 ด้านคณุ ภาพชวี ติ 2.4.1 ประโยชนจ์ ากพลังงานไฟฟ้าด้านคุณภาพชีวิต √ √4 1) เครื่องอานวยความสะดวกในชีวติ ประจาวนั เช่น เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ระบบส่อื สาร การแพทย์ การบันเทิง √ √ การศกึ ษา 2.4.2 ผลกระทบจากพลังงานไฟฟ้าด้านคุณภาพชีวติ 2.5 ด้านการเกษตรกรรม 3 2.5.1 ประโยชน์จากพลงั งานไฟฟา้ ดา้ นการ √ √ เกษตรกรรม

วิเคราะหเ์ นอื้ หา วธิ ีการจดั การเรียน เนื้อหา งา่ ย ยาก เน้อื หา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซึง้ กรต. สอนเสริม ชั่วโมง 1) โรงสี / การแปรรูปการเกษตร 2) การเพาะปลูก √ √ 3) การประมง √√ √ √ 4) การปศสุ ัตว์ 2.5.2 ผลกระทบจากพลังงานไฟฟา้ ดา้ น การเกษตร 4 2.6 ด้านบริการ 2.6.1 ประโยชน์จากพลังงานไฟฟ้าด้านการบริการ 1) ภาคธนาคาร / สถาบันการเงนิ 2) การท่องเที่ยว และการโรงแรม 3.1 ความหมายและความสาคญั ของพลังงานทดแทน 3.2 ประเภทและหลักการของพลังงานทดแทน √ √3 3.2.1 พลงั งานลม 3.2..2 พลงั งานนา้ √

วเิ คราะห์เนอ้ื หา วิธกี ารจดั การเรียน เนอื้ หา งา่ ย ยาก เนอ้ื หา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซง้ึ กรต. สอนเสริม ชั่วโมง 3.2.3 พลงั งานแสงอาทิตย์ 1) รูปแบบพลงั งานแสงอาทิตย์ √ √4 2) การใช้ประโยชนพ์ ลงั งานแสงอาทติ ย์ √ √ 4) ขอ้ จากดั ของพลังงานแสงอาทิตย์ 2 3.2.4 พลังงานชวี มวล √ √ 1) การใช้พลังงานชีวมวล 2) การนาพลังงานชีวมวลมาใช้ประโยชน์ 3.2.5 พลังงานใตพ้ ิภพ 1) รปู แบบและความหมายของพลงั งานใต้พภิ พ √ √3 2) ประโยชนข์ องพลังงานใตพ้ ภิ พ 3) ข้อจากดั ของพลังงานใต้พภิ พ 3.2.6 พลงั งานนวิ เคลียร์ √ √ 3 1) รปู แบบพลงั งานนิวเคลยี ร์ 2) ประโยชน์ของพลังงานนวิ เคลยี ร์ 3)การปฏบิ ัตติ นให้ถกู ตอ้ งในการใชพ้ ลงั งาน นวิ เคลยี ร์

วเิ คราะหเ์ นอื้ หา วธิ กี ารจดั การเรียน เน้ือหา งา่ ย ยาก เนื้อหา ครสู อน โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซ้ึง 4.1 วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่ายในครวั เรอื น กรต. สอนเสรมิ ชวั่ โมง 4.2 อปุ กรณไ์ ฟฟา้ และเคร่อื งใช้ไฟฟ้า √ √4 4.2.1 อุปกรณ์ไฟฟา้ ทีส่ าคญั √ √2 4.2.2 การเลือกชนดิ และขนาดของสายไฟ 4.2.3 เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ √√ 4.3 การต่อสายดิน 2 4.4 กลยุทธ์การประหยัดพลังงาน 3อ. 4.4.1 อปุ นสิ ยั การประหยดั พลังงาน √ √3 4.4.2 อาคารประหยัดพลงั งาน 4.4.3 อปุ กรณป์ ระหยัดพลงั งาน √√ 4.5 .องคป์ ระกอบของค่าไฟฟา้ 2 4.5.1 ค่าไฟฟ้าฐาน 4.5.2 คา่ ไฟฟา้ ผนั แปร √ √2 4.5.3 คา่ ภาษีมลู คา่ เพม่ิ √ √2 4.6 การคานวณคา่ ไฟฟ้าท่ีใชใ้ นครวั เรอื น 4.7 การคานวณค่าไฟฟ้าจากเครอ่ื งใช้ไฟฟา้

สาระ....การดาเนินชวี ติ .... รายวชิ า....เศรษฐศาสตรช์ ุมชน...... รหัส....ทช03053..... จานวน...8๐.....ชัว่ โมง .....2...... หนว่ ยกติ วิเคราะห์เนอ้ื หา วธิ กี ารจัดการเรยี น เนอื้ หา งา่ ย ยาก เน้อื หา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซง้ึ กรต. สอนเสรมิ ช่วั โมง หลักการของวิชาวสิ าหกิจชุมชน 1. ความเป็นมา ความหมาย ความสาคัญ แนวคิดหลักการ √ √ 10 2. ลักษณะ องค์ประกอบของวสิ าหกิจชมุ ชน 3. ประเภทของวชิ าวิสาหกิจชุมชน √ √ 4. กระบวนการวสิ าหกิจ ชุมชน √ √ 5. ลักษณะของธรุ กิจ √ 6. การประกอบธุรกจิ √ การเปรยี บเทียบความเหมือน และความแตกตา่ งของ √ 10 √ วิสาหกิจชุมชนกับธุรกิจ - ความเหมือนและความแตกตา่ งของวิสาหกจิ ชมุ ชนกับ ธุรกจิ

วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา วิธกี ารจดั การเรียน เนอื้ หา ง่าย ยาก เนอ้ื หา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซงึ้ กรต. สอนเสริม ช่วั โมง การกา้ วสู่วิสาหกิจชุมชน องค์ความรู้การดาเนินงานวิสาหกิจของชุมชนกบั ของ √ √ 10 ตนเอง - การศกึ ษากระบวนการวิสาหกจิ ของชมุ ชน √ √ - การวิเคราะหอ์ งค์ความรู้ √ √ - แนวทางการประยุกตใ์ ชก้ ระบวนการวสิ าหกจิ ชุมชน √ ใหเ้ กิดประโยชนก์ ับตนเองตามปรัชญาของเศรษฐกิจ √ พอเพยี ง การพฒั นาวิสาหกิจชมุ ชน 10 1. การสรา้ ง การรกั ษาและการขยายเครอื ขา่ ย - เครือข่ายกับวสิ าหกิจชมุ ชน √ √ - การสรา้ งเครือข่าย - การรักษาและการขยายเครือขา่ ย 2. สถานการณด์ า้ นการตลาด 3. เทคโนโลยเี กย่ี วขอ้ งกับวสิ าหกจิ ชมุ ชน 4. ผลงานวิจยั องค์ความร้ทู ่ีเกี่ยวขอ้ งในการทาวิสาหกิจ ชุมชน

วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา วธิ ีการจัดการเรยี น เนอื้ หา งา่ ย ยาก เนอ้ื หา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลกึ ซงึ้ กรต. สอนเสรมิ ชั่วโมง บญั ชีชาวบา้ นงา่ ยนิดเดียว 1. ความหมาย ประโยชนข์ องการทาบัญชีชาวบา้ น √ √ 10 2. หลกั การ แนวคิด การทาบัญชชี าวบ้าน √ √ 3. รูปแบบและวธิ กี ารทาบญั ชชี าวบา้ น (บญั ชีในครวั เรอื น √ √ √ √ กับการประกบอาชีพ) บัญชีชาวบา้ นกับปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง √ 10 1. แนวคดิ หลักการของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง √ √ √ 2. บัญชชี าวบา้ นตามหลักของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

วเิ คราะหเ์ น้อื หา วิธีการจดั การเรียน เนอื้ หา งา่ ย ยาก เนือ้ หา ครูสอน โครงงาน จานวน ยากมาก ลึกซึง้ กรต. สอนเสรมิ ชว่ั โมง บญั ชีชาวบา้ นในครวั เรอื น 1. วธิ กี ารวิเคราะหร์ ายรบั -รายจ่าย √ √ 10 2. วธิ ีการทาบัญชรี ับ-จ่ายของตนเองและครอบครัว √ √ 3. แนวทางการทาบัญชคี รัวเรือนและการประกอบอาชีพ √ √ √ √ อยา่ งง่าย 4. การวางแผนการจดั ทาบัญชีรายรับ-รายจา่ ย เพ่ือการ √ √ ประยกุ ตใ์ ช้ในครัวเรือนทางการประกอบอาชีพ การลดรายจ่ายเพ่มิ รายได้ √ 10 1. แนวคิดการกาหนดมาตรการควบคุมคา่ ใชจ้ า่ ย √ √ 2. การลดรายจา่ ย √ - การวเิ คราะห์ รายรับ รายจ่าย - แนวทางการลดรายจา่ ย 3. การเพมิ่ รายไดแ้ ละแนวทางการเพิ่มรายได้ 4. การวางแผนการลดรายจ่ายและเพ่ิมรายได้ของตนเอง และครอบครัว