การเพาะเล้ยี งปลาหมอไทย คํานํา ปลาหมอไทย (Climbing perch) มีชอื่ วทิ ยาศาสตรวา Anabas testudineus (Bloch) เปนปลาท่รี ูจกั และนยิ มบรโิ ภคกันอยา งแพร หลายทั่วทกุ ภาคของประเทศไทย เน่ืองจากเปน ปลาทม่ี รี สชาติดีเปน ทตี่ อ งการ ของตลาดทงั้ ภายในและตางประเทศ ในขณะทผ่ี ลผลติ ของปลาหมอไทยสวน ใหญไ ดมาจากการทาํ ประมง จากแหลงนา้ํ ธรรมชาติและผลพลอยไดจากการวิดบอจับปลาสลดิ หรอื ปลาชนิดอ่นื ๆ อยางไรกต็ าม ใน ปจ จบุ ันมีเกษตรกรเลยี้ งปลา หมอไทยเปน อาชีพกันมากข้นึ โดยเฉพาะในพ้ืนทีล่ ุมน้ําปากพนัง จงั หวดั นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะคลองกระบอื อาํ เภอปากพนงั ในชวงทกี่ งุ กุลาดาํ ประสบ กับปญหาโรคระบาด เกษตรกรบางสวนหันมาเล้ียงปลาหมอไทยและประสบความสําเรจ็ จนกระทัง่ เกษตรกรขยายพนื้ ทกี่ ารเลยี้ ง ปลาหมอไทยท้ังในสภาพบอ ปกติและบอ นากงุ กลุ าดํากนั อยา งมากมาย แหลงทีอ่ ยูอาศัย ปลาหมอไทย อาศยั อยูในแหลง นํา้ จืดทว่ั ๆไป ในพ้นื ทล่ี ุมน้ําปากพนงั ปลาหมอไทย สามารถ ปรบั ตัวเจรญิ เติบโตเขา กับสภาพแวดลอมที่เปน นํา้ กรอ ย ที่มีความเค็มไมเกนิ 7 สวนในพันได เปน ปลาท่มี ี ความทนทานตอ สภาพแวดลอ ม เน่ืองจากมอี วยั วะพเิ ศษชว ยในการหายใจ ปลาหมอไทยมชี ือ่ เรยี กแตก ตางกนั ไปในแตล ะทอ งถิ่นเชน ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือเรยี กวา ปลาสะเดด็ ภาคเหนือ เรยี กวา ปลาแข็ง และ ภาคใต เรยี กชอื่ เปนภาษายาวีวา อแี กปยู ู ชาวบาน ทั่วไปเรยี กวา ปลาหมอ รูปรา งลักษณะภายนอก ปลาหมอไทยมลี าํ ตัวคอ นขา งแบนลําตัวมสี นี า้ํ ตาลดํา หรอื คลํ้า สว นทองมสี ีขาวหรือเหลอื ง ออ นสว นลําตวั มีเกล็ดแข็ง กระพุง แกม มลี ักษณะ เปน หนามหยกั แหลมคม ใชใ นการปน ปา ย บริเวณโคนหาง มีจดุ กลมสีดาํ ลักษณะแตกตา งระหวางเพศ ปลาหมอไทยเพศเมยี จะมีขนาดใหญแ ละน้ําหนกั มากกวา เพศผู เพศผมู ีลกั ษณะลาํ ตวั เรียวยาว
ในระยะฤดวู างไขสว นทอ งของปลาเพศเมีย จะอมู เปง การเลอื กสถานท่ี การเลือกสถานทีเ่ ลยี้ ง เปน ปจ จยั หนึ่งท่ีสงผลใหการเลยี้ งปลาหมอไทยประสบความสาํ เรจ็ หรือไม ดังนน้ั การเลือกสถานทีเ่ ลยี้ งและการออก แบบบอ เล้ียงปลา ควรทําดวยความรอบคอบโดยคาํ นงึ ถึง ปจจัยตา งๆ ดงั นี้ 1. ลกั ษณะดิน ควรเปนดนิ เหนยี ว หรือดินเหนยี วปนทราย นา้ํ ไมร ่ัวซมึ สามารถเกบ็ กักนา้ํ ได 4-6 เดอื น ไมค วรเลอื กพนื้ ท่ีทีเ่ ปน ดินทราย หรอื ดนิ ปนกรวด 2. ลักษณะนา้ํ พน้ื ทเี่ ลยี้ งควรอยูใ กลแ หลง นาํ้ ธรรมชาติ เชน แมน ํา้ ลําคลอง ทม่ี นี ํา้ ตลอดป หรือ อยูในเขตชลประทาน หากเปน พ้นื ทท่ี ่ีอาศัย น้ําฝนเพยี งอยา งเดยี ว ควรพจิ ารณาปรมิ าณนา้ํ ฝนที่ตกในรอบป ดว ย 3. แหลงพันธุป ลา เพื่อความสะดวกในการลําเลียงปลามาเลยี้ ง พนื้ ทีเ่ ล้ียงไมควรอยหู างไกลจาก แหลงพันธปุ ลา 4. ตลาด แมวาหลังจากจับปลาขายจะมพี อ คามารับซอื้ ถึงปากบอ แตหากพนื้ ที่เล้ียงอยใู กลต ลาด จะทาํ ใหไ ดเ ปรียบในการขนสงผลผลิต เพื่อการจําหนา ย อยางไรก็ตาม บอเลี้ยงกุง กุลาดาํ ที่อยูในเขตพื้นท่นี ํ้า จดื สามารถนํามาใชเปนบอ เลย้ี งปลาหมอไทยได การเตรียมบอ เล้ียง การเตรียมบอ เลย้ี งเปนข้ันตอนท่ีสําคญั ซึ่งจะสงผลตอ ผลิตทจี่ ะไดรับ ขนั้ ตอนการเตรยี มบอ กอน ปลอ ยปลาลงเล้ยี งสามารถทําได ดังนี้ สูบนาํ้ ออกจากบอใหแ หง การสูบนาํ้ จากบอ ใหแ หง จะชว ยกาํ จัดศตั รปู ลาท่มี อี ยใู นบอหลังจาก การสบู บอ แหง แลว หวา นปนู ขาวในขณะ ท่ีดินยงั เปย ก ในอตั รา 60-100 กิโลกรัมตอ ไรเ พอื่ ปรบั สภาพความ เปน กรด-ดา งของดิน กาํ จัดวชั พชื และพนั ธุไมน าํ้ วัชพชื และพนั ธไุ มน ํ้าท่ีมอี ยูใ นบอ จะเปนแหลง หลบซอ นตัวของ ศัตรปู ลาหมอไทยเชน ปลาชอ น กบ และงู เปนตน และทําใหปรมิ าณออกซเิ จนทล่ี ะลายน้ําลดลง เนอ่ื งจาก วัชพืชนาํ้ ใชออกซิเจนในการหายใจเชนเดยี วกบั ปลา นอกจากนี้ การทมี่ พี ชื อยูใ นบอมาก จะเปน อปุ สรรคตอ การใหอาหาร และการวิดจบั ปลา การตากบอ การตากบอจะทาํ ใหแ กส พษิ ในดนิ บางชนดิ สลายตัวไป เมอ่ื ถกู ความรอ นและ แสงแดด ท้งั ยงั เปน การฆาเชอ้ื โรค และศตั รู ปลาทฝี่ ง ตวั อยใู นดิน ใชเ วลาในการตากบอ 2-3 สปั ดาห สูบนํ้าเขา บอ สบู นํ้าใสบอ ใหไ ดร ะดบั 60-100 เซนตเิ มตร ทงิ้ ไว 2-3 วนั กอ นปลอ ยปลาลงเล้ียง แตกอนทีเ่ ราจะปลอ ยปลาลงเล้ยี ง ตอง ใชอวนไนลอ นสีฟา ก้นั รอบบอใหส งู จากพนื้ ประมาณ 90 เซนตเิ มตร
เพ่ือปองกนั ปลาหลบหนีออกจากบอ เน่อื งจากปลาหมอไทยมีนิสยั ชอบปนปาย โดยเฉพาะ ในชว งทฝี่ นตก การปลอ ยปลาลงเลีย้ ง การปลอยปลาปลาหมอไทยลงเลีย้ งทําได 2 วธิ ี คอื - การปลอยปลานิว้ ปลอ ยปลาขนาด 2-3 เซนตเิ มตร ในอตั ราความหนาแนน 50 ตัวตอ ตาราง เมตร ควรปลอยลูกปลาลงบอ ในชวงเชา หรอื เยน็ ระดับนํ้าในบอไมค วรตาํ่ กวา 60 เซนติเมตร โดยกอ นปลอ ย ลกู ปลาออกจากถุงทีบ่ รรจุ ควรปรบั อุณหภมู ิของนํา้ ในถุงใหใกลเ คยี งกบั นา้ํ ในบอ เพอ่ื ปอ งกนั ปลาตาย เน่ืองจากการเปลยี่ นแปลงอณุ หภูมกิ ะทันหนั ทาํ ไดโดยการแชถ งุ ปลาไวใ นบอประมาณ 20 นาที แลวเปดปาก ถงุ วกั น้าํ ในบอเลย้ี งผสมกบั นาํ้ ในถุง แลว คอ ยๆ เทลกู ปลาออกจากถุงหลงั จากปลอยลูกปลาลงเลีย้ งประมาณ 1 เดือน จงึ เพ่มิ นํา้ ในบอใหไดระดบั 1-1.50 เมตร - การปลอ ยพอ แมพันธุใหว างไขใ นบอ วิธีนี้จะชว ยลดปญ หาเรือ่ งลูกปลาตายในระหวา งการ ลําเลยี งไดทาํ โดย การคัดเลอื กพอ แม พันธทุ ี่มไี ขและนํา้ เชือ้ สมบรู ณ พรอ มที่จะผสมพนั ธุวางไข คอื ตวั เมียจะ มีสว นทองทีอ่ มู เมื่อใชม ือบีบเบาๆ จะมีไขสเี หลืองออกมา สว นตวั ผเู ม่อื ใชมือบบี ท่ีทอ ง จะมนี ํา้ เช้ือสขี าว คลา ยน้ํานมออกมา เม่ือคดั พอ แมพ นั ธุปลาไดแ ลว จะฉีดฮอรโ มนเรง การวางไขใ หก ับตวั เมยี ในอัตราความ เขม ขน ฮอรโมนสงั เคราะห 10 ไมโครกรมั และยาเสริมฤทธิ์ 5 มิลลิกรัม ตอ ปลา 1 กิโลกรัม จาํ นวน 1ครั้ง แลว จึงปลอยใหผ สมพันธวุ างไขใ นกระชงั ตาหา งซึ่งแขวนอยใู นบอ ทร่ี ะดบั นา้ํ ไม นอ ยกวา 50 เซนตเิ มตร ใน อัตราปลาเพศเมียตอปลาเพศผเุ ทากับ 1:1 ปริมาณนา้ํ หนกั พอ แมป ลา 8-10 กิโลกรัม/ไร หรอื ประมาณ 40-75 คู/ไรว นั รงุ ขน้ึ เม่อื ปลาวางไขห มดแลว จงึ นํากระชังพอแมพ นั ธุข ้ึนปลอ ยใหไขฟ ก เปน ตวั หลงั จากลกู ปลาฟก ออกเปน ตวั ประมาณ 4 วนั จงึ เริม่ ใหอ าหารสาํ เร็จรูปชนิดผงหรอื อาหารพวกรําละเอยี ดผสมปลาปน อตั รา1:1 เปน ระยะเวลา 3-4 สัปดาหหลงั จากนน้ั จงึ ใหอ าหารเม็ดปลาดุกใหญเ ม่ือปลามีขนาดใหญจ นไดข นาดตลาด อยา งไรก็ตาม สามารถปลอ ยพอแมพันธปุ ลาทมี่ นี า้ํ เชื้อและไขส มบรู ณล งในบอท่ีเตรียมไวแลว ไดเชน กัน โดยใหม ีระดับนํา้ ในบอ 30-50 เซนติเมตร พรอมท้ังใชท างมะพราวปก คลุมทาํ เปนท่หี ลบซอ นและ อนบุ าลลกู ปลาวัยออย อาหารและการใหอาหาร ปลาหมอไทยเปน ปลาท่ีกนิ อาหารจําพวกเนือ้ สตั ว ในการเลี้ยงจงึ ใหอ าหารเมด็ ปลาดุก ในอัตรา 3- 5 % ของนํา้ หนกั ตัว วนั ละ 2 คร้งั เชา-เย็น โดยในชว งแรกของการเล้ียงจะใชอาหารเมด็ ปลาดกุ ขนาดเลก็ หรอื ปาสดสบั ละเอยี ด เปนเวลา 2 เดอื น และถดั มาเปลี่ยนเปนอาหารเม็ดปลาดกุ ขนาดใหญ เม่อื ปลามขี นาดใหญ ขนึ้ การใหอ าหารตองหวา นใหท่วั บอ และตอ งสงั เกตการกนิ อาหารของปลาดว ย ถา มอี าหารเหลอื มากเกินไป ควรลดอาหารในม้ือถดั ไปให นอ ยลง เพราะอาจทําใหนา้ํ ในบอเนาเสยี อีกดวย การเปลย่ี นถายน้ํา ถึงแมวา ปลาหมอเปนปลาทมี่ คี วามอดทนทนทาน และสามารถอาศยั อยูไ ดในนา้ํ ที่มคี ณุ ภาพตํ่า
กวาปกติก็ตาม แตก ็จาํ เปน ตอ งมกี ารเปลยี่ นถายน้าํ เพราะการเปล่ียนถา ยนํ้าใหมจ ะทาํ ใหปลามกี ารกนิ อาหาร ดขี ้ึนสง ผลใหป ลาเจริญเติบโตดี ทัง้ น้ีกอนเปลีย่ นถา ยน้าํ ทุกครัง้ ตองแนใ จวา คุณภาพนํา้ ทีส่ ูบเขามาใหม ไม แตกตา งจากคณุ ภาพนาํ้ ในบอ มากนัก และสะอาดเพยี งพอท่ีจะไมทําใหป ลาในบอเปน โรคได ในชว งเดือน แรกไมจ าํ เปนตอ งมีการเปล่ยี นถา ยนํ้า แตจ ะใชว ิธเี พมิ่ ระดบั น้าํ ทกุ สปั ดาห หลงั จากเดอื นแรกแลว จึงเปล่ียน ถายนา้ํ เดอื นละ 2-3 ครงั้ โดยเปลยี่ นถา ยนํา้ ครง้ั ละ 1ใน3 ของนา้ํ ในบอหรือข้ึนอยูก บั สภาพคุณภาพนา้ํ ในบอ ดวย ระยะเวลาการเลย้ี งและการจับ ระยะเวลาการเล้ยี งขึน้ อยูกับขนาดปลาของปลาทีต่ ลาดตอ งการ แตโ ดยทวั่ ไป จะใชเ วลาเลย้ี ง ประมาณ 4-5 เดือน การจบั ปลาหมอไทย โดย ท่วั ไปจะใชว ิธีการจบั แบบวดิ บอแหง โดยกอ นจับปลาจะตอ ง สูบนา้ํ ออกจากบอ ใหเ หลอื นอ ยแลว จงึ ตีอวนจับปลา โดยลากอวนจากขอบบอดา นหนึ่งไปยงั อกี ดา น หนง่ึ แลวจงึ ยกอวนขน้ึ ใชส วิงจบั ใสตะกรา เพ่ือคดั ขนาด จนกระท่ังเหลือปลาจํานวนนอยจึงสูบนา้ํ ออกจากบอให หมด หลงั จากนน้ั จึงตากบอใหแ หง เพ่อื เตรยี ม บอ ใชเ ล้ยี งปลาในรุนตอไป ท้ังนี้ การเลีย้ งปลาหมอไทยใน พน้ื ทลี่ มุ นาํ้ ปากพนัง มีการเจรญิ เติบโตและผลผลิต ดงั นี้ ตารางที่ 1 การเจริญเตบิ โตและผลผลิตการเล้ยี งปลาหมอไทยในบอดินของเกษตรกร อาํ เภอปากพนัง และอําเภอเชยี รใหญ จังหวัดนครศรีธรรมราช - จาํ นวนพอแมพ นั ธุที่ปลอ ย (คู/ไร) 40 - ปรมิ าณลกู ปลาขนาด 1 นิ้ว(ตัว/ไร) 40,000 - ระยะเวลาเล้ยี ง (วัน) 130 - อตั ราการเจรญิ เติบโตจําเพาะ(%กรัม/วนั ) 3.95 - ผลผลติ (กโิ ลกรัม/ไร) 1,200 - อัตรารอดรอดตาย(%) 40 - ขนาดปลาทจี่ บั ได( ตวั /กิโลกรัม) 8-14 - อตั ราการแลกเน้อื (FCR) 1.5 ตารางท่ี 2 ตนทุน รายได และผลตอบแทนการเล้ยี งปลาหมอไทยในบอ ดินขนาด 1 ไร - คา พอแมพนั ธปุ ลา (บาท) 1,000 - คา อาหารปลา(บาท) 36,000 - คาปนู ขาวและยารักษาโรค (บาท) 3,500 - คาแรงงานและอนื่ ๆ(บาท) 3,000 - ราคาขายปลา(บาท/กก.) 50 - รายไดท ั้งหมด (บาท/ไร) 60,000
- กาํ ไรเบ้อื งตน (บาท) 16,,500 ในการจําหนายปลาหมอไทยจะมีการคัดขนาดปลาหมอไทย ซึ่งแบงออกเปน 3 ขนาด มรี าคา แตกตางกนั ดังน้ี 1. ปลาขนาดใหญ ขนาด 6-10 ตวั /กก. ราคากโิ ลกรมั ละ 55-60 บาท 2. ปลาขนาดกลาง ขนาด 7-20 ตวั /กก. ราคากโิ ลกรัมละ 25-30 บาท 3. ปลาขนาดเลก็ ขนาดมากกวา 20 ตวั /กก. ราคากิโลกรัมละ 15-20 บาท การปองกันและกําจัดโรค ในการเล้ยี งสตั วน้ําไมว าจะเปนสัตวน้ําจดื หรอื สัตวน้าํ กรอ ย ปญหาที่ผูเ ลี้ยงประสบอยเู สมอ คือ ปญหาการเกดิ โรค ดังนน้ั การจัดการบอ ท่ถี กู ตองเปน วิธีท่ีดีทีส่ ุดในการปอ งกันมใิ หเ กดิ โรคกบั สัตวน า้ํ ที่ เลยี้ ง เพราะการปลอ ยสตั วนาํ้ เกดิ โรคจะเปน การเพ่ิมตนทุนการผลติ แตการตายของปลาท่ีเล้ยี งไมจํา เปน เสมอไปวา จะเกิดจากการเปน โรค เพราะบางครัง้ อาจเกดิ จากสภาพตางๆ ในบอเลี้ยงไมเหมาะสม เชน คณุ สมบตั ขิ องน้าํ ความหนาแนนของปลาที่เลีย้ ง ชนดิ และคุณภาพของอาหารทใี่ ชเลย้ี ง ฯลฯ ดงั นั้นเกษตรกร เปนผทู ีม่ ีประสบการณจ ะสามารถแยกไดว า สาเหตกุ ารตายของปลาเกดิ จากสาเหตใุ ด โดยทว่ั ไปโรคปลา หมอไทยมกั แพรร ะบาดในฤดูฝน ในทางปฏิบัติ เกษตรกรควรใชเ กลือเมด็ หวา นลงในบออตั รา 80 กิโลกรมั ตอไร รวมกับการใชปูนขาว อัตรา 20 กโิ ลกรัมตอ ไร ละลายน้ําในภาชนะแลว สาดใหท่วั บอ อยา งไรกต็ าม โรคท่ีเกิดขน้ึ ในบอเลี้ยงปลาหมอไทยมกั เกดิ จากปรสิตภายนอก เช้ือรา และแบคทเี รยี ตอ ไปน้ี โรคจุดขาว อาการ ปลาจะมีจดุ สีขาวขนุ ขนาดเทา หวั เขม็ หมดุ กระจายอยูตามลาํ ตวั และครีบ สาเหตุ เกดิ จากเชอ้ื โปรโตซัว ทีก่ นิ เซลลผ วิ หนงั เปน อาหาร การปอ งกนั และรกั ษา เนอ่ื งจากปรสติ ชนดิ นจ้ี ะฝงตัวอยใู ตผวิ หนัง การกาํ จดั ไดผ ลไมเตม็ ที่ วิธที ีด่ ี ที่สดุ คอื การทําลายตวั ออ นในนาํ้ หรอื ทําลายตัวแกขณะวา ยน้ําอิสระ โดยการใชฟ อรม าลิน 150-200 ซซี ีตอ นา้ํ 1000 ลติ ร แชไว 1 ช่วั โมง สาํ หรบั ปลาขนาดใหญ หรอื 25-50 ซีซี ตอ นา้ํ 1,000 ลติ ร แช 24 ชั่วโมงและ แยกปลาที่เปน โรคออกจากบอ โรคจากเห็บระฆงั อาการ ปลาจะเปน แผลตามผิวหนงั และเหงือก สาเหตุ เกดิ จากเหบ็ ระฆังเขา ไปเกาะตามลาํ ตัวและเหงือก การปอ งกันและรกั ษา ปรสติ ชนิดนี้จะแพรไดร วดเร็ว และทาํ ใหป ลาตายไดใ นระยะเวลาอันสนั้ และมกี ารตดิ ตอ ระหวา งบอทใ่ี ชอุปกรณ รว มกัน การกาํ จดั ทําไดโ ดยใชฟ อรมาลนิ 150-200 ซซี ี ตอนํ้า 1000 ลติ ร แชไว 1 ชั่วโมง
โรคตกเลอื ดตามซอกเกลด็ อาการ ปลาจะมีแผลสีแดงเปนจา้ํ ๆ ตามลาํ ตวั โดยเฉพาะทคี่ รบี และซอกเกลด็ ถา เปน แผลเร้ือรงั อาจมอี าการเกลด็ หลดุ บริเวณรอบๆ และดา น บนของแผลจะมสี ว นคลา ยสาํ ลสี นี ้ําตาลปนเหลืองตดิ อยู สาเหตุ เกดิ จากปรสติ เซลลเดยี วทอ่ี ยรู ว มกนั เปนกลุม หรอื กระจุก การปอ งกนั และรกั ษา 1. ใชเกลอื เม็ด 5-10 กิโลกรมั ตอ น้ํา 1000 ลิตร แชไว 48 ชั่วโมง 2. ใชฟอรมาลิน 25-40 ซีซี ตอ นํ้า 1000 ลิตร หลงั จากแชย าแลว ถาปลามีอาการไมด ีขนึ้ ควร เปลี่ยนนํ้าแลวพักไว 1 วนั จากน้นั จงึ ใสย าซา้ํ อีก 1-2 คร้ัง โรคจากเชือ้ รา อาการ ปลาจะมแี ผลเปน ปุยขาวๆ ปนเทา คลายสําลีปกคลมุ อยู สาเหตุ เกดิ จากเชอ้ื รา การปองกนั และรกั ษา 1. ใชมาลาไคทก รนี 0.1-0.15 กรัม ตอ นา้ํ 1000 ลิตร แช 24 ช่วั โมง 2. ใชป ูนขาว 20 กโิ ลกรมั ตอ ไร เพ่ือปรับคุณภาพของนาํ้ ในบอเล้ยี ง โรคแผลตามลาํ ตัว อาการ ในระยะเร่ิมแรกจะทาํ ใหเ กลด็ ปลาหลดุ และผิวหนงั เริ่มเปอยลกึ ลงไปจนถึงชนั้ กลามเนื้อ โดยแผลทีเ่ กดิ จะกระจายทั่วตัวเปน สาเหตใุ ห ปลาเกดิ โรคทีเ่ กิดจากเชือ้ ราตอ ไป สาเหตุ เกดิ จากเชอ้ื แบคทีเรยี การปองกนั และการรกั ษา 1.ใชยาปฏชิ วี นะจาํ พวก ไนโตรฟูราซาน ในอตั ราสวน 1-2 มิลลกิ รัม ตอ นา้ํ 1 ลิตร แชประมาณ 2-3 วัน 2. แชปลาเปนโรคในสารละลายออกซิเตตรา ซัยคลินในอตั ราสว น 10-20 มลิ ลิกรัม ตอนํ้า 1 ลิตร 1-2 วัน ตดิ ตอกัน 3-4 ครัง้ 3. ถา ปลาเร่ิมมีอาการของโรค อาจผสมยาปฏิชีวนะจําพวกออกซิเตตรา ซยั คลิน ในอตั ราสวน 60-70 มลิ ลกิ รมั ตอ นาํ้ หนกั ปลา 1 กโิ ลกรมั หรือ ใชยาปริมาณ 2-3 กรัม ตออาหาร 1 กิโลกรัม ใหป ลากิน ตดิ ตอ กัน 5-7 วัน วิธปี ฏิบัตแิ ละขอ ควรระวังในการใชยาและสารเคมี การใชยาและสารเคมที กุ ชนิดควรใชดว ยความระมัดระวงั และมีสิง่ ควรปฏบิ ัติ ดงั น้ี 1. กอนใชย าและสารเคมที กุ ชนิด ควรอา นวธิ ใี ชใหละเอยี ด เพ่อื ปอ งกันความผดิ พลาดทีอ่ าจ
เกดิ ข้นึ 2. เปด ภาชนะทบ่ี รรจุยาดวยความระมัดระวงั 3 . ควรสวมถุงมอื และใสห นา กากกนั ฝุน ขณะใชย า 4. เมอ่ื ใชยาและสารเคมีแลว ควรชําระรางกายใหสะอาดดว ยสบูและลางภาชนะที่ใชใ หส ะอาด 5. กรณที ีใ่ ชย าผดิ ขนากกับสัตวน้าํ โดยใชว ธิ แี ช ควรถา ยน้ําทนั ที สวนวธิ ีผสมอาหารควร ตรวจสอบใหร อบคอบกอ นใช ขอควรระวงั ในการใชย า ฟอรมาลนิ ควรใชใ นบอ นาํ้ ทไี่ มเขียวจดั และควรใสใ นตอนเชา แตถาจําเปนตอ งใชฟ อรม าลีนใน บอ นา้ํ ทมี่ ีสเี ขยี วจดั ควรถายนาํ้ ออกจากบอ ประมาณหนงึ่ ในสาม แลว เตมิ น้าํ ใหมก อ นใสยาเนื่องจาก ฟอรม าลินจะทําใหพ ืชน้ําสเี ขียวขนาดเล็กตาย และอาจทาํ ใหเกดิ ภาวะขาดออกซิเจน ทําใหปลาตาย ได เกลือ การใชเกลอื จะตอ งระวงั เก่ยี วกับความเค็มที่เพิ่มข้นึ อยา งทนั ที ปลาอาจปรับตวั ไมท ันโดย ใหแ บง เกลอื ทค่ี ํานวณไดแ ลวออกเปน 3 สวน และใสสวนแรกลงไป เพื่อรอดูอาการปลาประมาณ 1 ช่ัวโมง จึงใสส วนที่ 2 และ 3 ตอ ไป การคํานวณยาเพ่ือใสใ นบอ ปลา วัดขนาดความกวา ง ความยาวของบอ และระดบั ความลึกของนํ้าในบอ (หนว ยเปน เมตร) แลว คาํ นวณปริมาณยาทจ่ี ะใช เชน บอ มคี วามกวา ง 40 เมตร ยาว 40 เมตร ระดับนํา้ ลกึ 1.50 เมตร ปริมาตรนา้ํ = กวา ง x ยาว x ความลกึ ของนาํ้ = 40 x 40 x 1.50 เมตร = 2400 ลกู บาศกเ มตร ดงั นน้ั ถา ตอ งการใชฟ อรม าลนิ ความเขม ขน 25 พีพเี อม็ ในการรกั ษาโรคจะตองใช 25 x 2400 = 60000 ซซี ี หรือประมาณ 60 ลิตร แนวโนม การเล้ียงปลาหมอไทยในอนาคต ปลาหมอไทยในปจ จบุ นั กาํ ลังเปนท่ีนยิ มของผูบริโภคในประเทศ และสามารถสง ออกไปยงั ประเทศมาเลเซียไดอ ีกดว ย ทาํ ใหแ นวโนม ของ การ เลี้ยงปลาชนดิ น้ีในอนาคตมีลทู างแจมใส นอกจากนเี้ ปน ปลาทอ่ี ดทนสามารถเล้ียงแบบหนาแนน ทงั้ ในบอทัว่ ไปหรอื นากงุ ในพื้นทนี่ ํา้ จดื และหากมกี าร จดั การบอ ท่ี เหมาะสมถูกตอ งแลว จะมปี ญ หาเรอื่ งโรคระบาดนอ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: