Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore plaboo

plaboo

Published by นุสราสินี ณ พัทลุง, 2019-10-18 03:41:35

Description: plaboo

Search

Read the Text Version

การเพาะเล้ียงปลาบู คํานํา ปลาบู หรือบทู ราย บูจาก บูทอง บเู ออ้ื ย บสู งิ โต มชี อ่ื สามญั วา Sand Goby, Marbled Sleepy Goby และชือ่ วิทยาศาสตร Oxyleotris mamorata Bleeker ปลาบูเปน ปลาทีม่ ีความสําคัญทางเศรษฐกิจชนดิ หนงึ่ ซงึ่ ผลผลติ สวนใหญถูกสงออกไปจาํ หนายตางประเทศสามารถ ทํารายไดเ ขาประเทศแตล ะปมมี ลู คา หลายสบิ ลานบาท ไดแก ฮอ งกง สิงคโปร มาเลเซีย ฯลฯ เนื่องจากความตอ งการปลาบทู รายจากตา งประเทศมีเพิ่มข้นึ ทกุ ป เปนผลใหปลาบทู รายมีราคาแพงขน้ึ ในอดตี การเลีย้ งปลาบูทรายนยิ มเล้ยี งกันมากในกระชงั แถบลุม นํ้า และลํานํา้ สาขาบรเิ วณภาคกลาง ตั้งแตจ งั หวดั นคร สวรรค อทุ ยั ธานี เร่ือยมาจนถึงจงั หวดั ปทมุ ธานี โดยมี จังหวดั นครสวรรค เปน แหลง เลยี้ งสง ออกท่ใี หญที่สุด สาํ หรบั ปญ หาการเล้ยี งปลาบูทรายขณะนม้ี ี 3 ประการ คือ 1. พนั ธปุ ลาท่นี ับวันจะหายาก ไมเ พียงพอตอ ความตอ งการ 2. ผเู ลย้ี งยงั ขาดความรแู ละเทคโนโลยีใหม ๆ ในการเพาะเลยี้ ง 3. สภาพส่งิ แวดลอ มเปลี่ยนแปลง ไมเ อ้อื อํานวยตอ การเพาะเลย้ี งปลา รูปรางลกั ษณะ ปลาบูทรายมลี กั ษณะลําตวั กลมยาว ความลึกลําตวั ประมาณ 1 ใน 3.5 ของความยาวมาตรฐานของ ลาํ ตัว สวนหวั ยาวเปน 1 ใน 2.8 ของความ ยาวมาตรฐานของลาํ ตวั หวั คอ นขางโตและดานบนของหวั แบน ราบหัวมีจดุ สดี าํ ประปรายปากกวางใหญเ ปด ทางดานบนตอนมมุ ปากเฉียงลงและยาวถงึ ระดบั กง่ึ กลางตา ขากรรไกรลางย่นื ยาวกวาขากรรไกรบน ทั้งขากรรไกรบนและลา งมฟี น แหลมซเ่ี ล็ก ๆ ลักษณะฟน เปน แบบ ฟน แถวเดียว ลกู ตาลกั ษณะโปนกลมอยู บนหวั ถดั จากรมิ ฝป ากบนครบี หูและครีบหาง มลี กั ษณะกลมมนใหญ มีลวดลายดาํ สลบั ขาว มีกา นครีบออ นอยู 15 - 16 กา น ครบี หลัง 2 ครบี ครีบอันหนาสน้ั เปน หนาม 6 กาน เปน กานครบี สัน้ และเปน หนาม ครบี อนั หลังเปน กานครบี ออ น 11 กา น ครบี ทอ งหรือครีบอกอยูแนวเดยี วกบั ครบี หูและมีกา นครีบออน 5 กาน ครีบอกของปลาบู ใน Subfamily Eleotrinae แยกจากกันอยางสมบรู ณ ซ่ึง แตกตา งจากปลาบชู นิดอืน่ ในครอบครวั Gobiidaeซง่ึ มคี รบี ทองตดิ กนั เปน รปู จาน ครีบกน อยใู นแนว เดยี วกบั ครีบหลงั อนั ที่สอง มีกา นครบี ออน 7 กาน และมคี วามยาวครีบเทากบั ครบี หลังอันท่ีสอง สวนของ ครีบมลี ายสนี า้ํ ตาลดาํ แดง สลับขาวเปนแถบ ๆ และมจี ดุ สีดาํ กระจายอยูท่ัวไป ลาํ ตวั มเี กลด็ แบบหนามคลา ยซี่

หวแี ละมแี ถบสดี ําขวางลําตวั 4 แถบ ดานทอ งมสี ีออน สตี ัวของปลาบทู ราย แตกตา งกนั ไปตามถน่ิ ท่อี ยูอาศยั ปลาบทู รายจดั เปน ปลาขนาดกลางและเปน ปลาชนิดเดยี วในครอบครวั น้ีทีม่ ขี นาดใหญที่สดุ ปกตมิ ี ขนาดประมาณ 30 เซนตเิ มตร เคยพบยาว ถงึ 60 เซนตเิ มตร การแพรก ระจาย ปลาบูท ราย เปนปลาท่ีเราสามารถพบไดทัว่ ไปในนาํ้ จดื และนํา้ กรอยเล็กนอ ยในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใตแ ละหมู เกาะมลายู ไดแก บอรเ นียว เกาะสุมาตรา อนิ โดนีเซีย มาเลเซีย จีน ไทย สําหรบั ในประเทศไทย พบปลาบูข ยายพันธทุ วั่ ไปตามแมนํา้ ลําคลอง และสาขาทั่วทกุ ภาค ตามหนองบงึ และ อางเกบ็ นาํ้ ตาง ๆ เชน แมน าํ้ เจา พระยา ปากนา้ํ โพ บึงบอระเพ็ด แมน า้ํ ลพบุรี แมนาํ้ ทา จีน อางเก็บน้ําเขอ่ื นอุบลรตั น จงั หวัดขอนแกน อา งเกบ็ นํา้ ลําตะคอง จงั หวดั นครราชสีมา อางเก็บนํ้าสิรกิ ติ ิ์ จงั หวดั อุตรดติ ถ อา งเก็บน้าํ บางพระ จงั หวัดชลบรุ ี อา งเก็บนาํ้ เขื่อนบางลาง จังหวดั ยะลา จังหวดั สโุ ขทยั จงั หวดั พจิ ติ ร จังหวดั พิษณโุ ลก และทะเลนอ ย จังหวดั สงขลา แหลงที่อยอู าศยั ปลาบูท รายเปน ปลากินเนือ้ ทชี่ อบอยนู ง่ิ ๆ ตามดินออ น พน้ื ทรายและ หลบซอ นตามกอนหิน ตอไม เสาไม รากหญา หนา ๆ เพอื่ รอใหเ หยอ่ื ผาน มาแลว เขาโจมตที นั ทดี วยความรวดเรว็ ปลาบูท รายพบทั้งในนาํ้ จืดและนํา้ กรอ ยเลก็ นอยลกู ปลาบทู รายชอบซอ นตวั บรเิ วณรากพืชพนั ธไุ มน ํ้า พวกรากจอก ราก ผกั การสบื พนั ธุ 1.ความแตกตา งลกั ษณะเพศ การสงั เกตลักษณะความระหวา งปลาบเู พศผูก บั เพศเมยี ดไู ดจ าก อวัยวะเพศทอ่ี ใู กลรูทวารปลาเพศผมู ีอวัยวะ เพศเปนแผน เนือ้ ขนาดเล็กสามเหลยี่ มปลายแหลม สว นตวั เมยี มี อวยั วะเพศเปน แผน เนือ้ ขนาดใหญแ ละปา นตอนปลายไมแหลมแตเปน รูขนาดใหญ ลกั ษณะคลาย ถวยนํ้าชา ขนาดเล็ก เมอื่ พรอมผสมพันธุ ปลายอวัยวะเพศท้งั ตผู ูและเมยี มสี แี ดง บางคร้งั เหน็ เสน เลอื ดฝอยสแี ดงท่มี า เลี้ยงอวยั วะเพศไดชดั เจน 2. การเจรญิ พันธุและฤดูกาลวางไขป ลาบโู ตเต็มวัยเม่ือมคี วามยาวประมาณ 30 เซนตเิ มตรขึ้นไป ปลาบูท ี่สามารถขยายพนั ธไุ ดม ขี นาด ต้งั แต 8 เซนตเิ มตรข้นึ ไปสาํ หรับปลาเพศเมยี ท่ีมรี ังไขแก เตม็ ทมี่ ขี นาด ความยาวสุดปลายหาง 12.5 เซนตเิ มตร น้าํ หนกั 34 กรมั และเพศผมู ีถงุ นํา้ เชอ้ื แกเ ตม็ ทมี่ คี วามยาว 14.5 เซนตเิ มตร น้ําหนกั 44 กรัมปลาบจู ะเริม่ สรา งอวัยวะเพศภายในตั้งแตเ ดือนมกราคมซง่ึ ในระยะแรกยงั ไม สามารถแยกออกไดว าเปนรงั ไข หรอื ถงุ นํา้ เชอ้ื เม่อื ถึงเดอื นมีนาคมจงึ จะแยกออกไดโ ดยรงั ไขจะมจี ดุ สีขาว เล็ก ๆ แลว เจรญิ เปนเม็ดไขต อ ไป แตถาเปน ถุงนาํ้ เชือ้ ก็จะเปน สขี าวทบึ ข้ึนจากเดิม รังไขท ่แี กจดั มสี เี หลืองเขม มีเม็ดไขอยเู ตม็ และมีเสน เลอื ดมาหลอเลย้ี ง สว นถงุ นํา้ เชอ้ื ทีแ่ กจ ัดจะมลี กั ษณะเปน ลายมีรอยหยกั เลก็ นอย และมีสีขาวทบึ ปลาบู สามารถวางไขไดเ กอื บตลอดทัง้ ปยกเวนในชวงฤดหู นาว ตลอดฤดกู าลวางไขปลาบู

สามารถวางไขไ ดป ระมาณ 3 คร้งั ตอ ป 3. พฤตกิ รรมการผสมพนั ธแุ ละวางไข การผสมพันธปุ ลาบใู นธรรมชาตพิ บวาปลาบตู วั ผจู ะหา สถานทใ่ี นการวางไข ไดแ ก ตอไม เสาไม ทางมะพราว ฯลฯ แลวทําความสะอาดวัสดดุ ังกลา ว หลงั จากนั้นตวั ผจู ะเขา เกยี้ วพาราสพี รอ มไลตอ นตวั เมยี ใหไ ปทร่ี งั ท่เี ตรียมไวเพื่อการวางไขการผสมพนั ธุ ปลาบูเ ริ่มต้ังแต ตอนหวั ค่ําจนถึงตอนเชามดื โดยผสมพนั ธุแ บบภายนอกตวั ปลา คือตัวเมียปลอ ยไขอ อกมาติดกบั วสั ดแุ ลว ตวั ผปู ลอยนํา้ เช้อื ออกมาผสมโดยที่ไข ปลาบจู ะติดกับตอไม เสาไมหรือวสั ดอุ ืน่ ๆ ทป่ี ลาบูสามารถวางไขติด และตวั ผจู ะเฝาดแู ลไข โดยใชครบี หหู รอื ครีบหางพัดโบก ไปมา ไขที่ไดรับการผสมจะ ฟก เปน ตวั ภายในเวลา 28 ชัว่ โมง ทอ่ี ณุ หภูมิ 25 - 27 องศาเซลเซียส 4. ความดกของไข ปลาบูเปน ปลาทมี่ ีรงั ไขแบบ 2 พู ปลาบูท ่ีมีขนาด ความยาว 15.2 เซนตเิ มตร มี น้ําหนกั รังไข 1.6 กรมั และมจี าํ นวนไข ประมาณ 6,800 ฟอง และปลาที่มคี วามยาว 21.5 เซนติเมตร มี นาํ้ หนกั รงั ไข 4.7 กรัม คิดเปน ไขป ระมาณ 36,200 ฟอง ววิ ฒั นาการของไขป ลาบูไขท่ียัง ไมไดร ับการผสมมี เสนผา ศูนยก ลางประมาณ 0.83 มลิ ลเิ มตร ความยาวของไขประมาณ 1.67 มลิ ลเิ มตรเมอื่ ยึดติดกบั วสั ดุลูกปลา บูใ ชเ วลาฟก ออกเปนตวั หลุดออกจากเปลอื กไขจ มลงสูพ้ืนประมาณ 32 ชว่ั โมง ถึง 5 วัน แลว ลอยไปตาม กระแสนา้ํ ลูกปลาอายุ 2 วันหลงั ฟก ลกู ปลา เรม่ิ กินอาหาร เนือ่ งจากถุงไขแ ดง ยบุ หมดและเห็นปากชดั เจนมี การวายนาํ้ ใน ลักษณะแนวดง่ิ คือพุง ขน้ึ และจมลง มคี วามยาวเฉลย่ี 4 มิลลิเมตร อายุประมาณ 7 วัน ลูกปลามี ความยาวประมาณ 4.6 มิลลเิ มตร มลี ายสี ดาํ เขม ที่บรเิ วณสว นทอ งดา นลางไปจนถงึ โคนครีบหางตอนลาง อายุประมาณ 15 วนั ลกู ปลามคี วามยาวเพมิ่ ข้นึ เปน 5.05 มลิ ลิเมตร อายุประมาณ 20 วัน ลูกปลามีความยาว เพม่ิ ขนึ้ เปน 7.6 มิลลเิ มตร อายุประมาณ 30 วนั ลูกปลามีความยาวประมาณ 8 - 10 มิลลเิ มตร เกิดลายพาด ขวางลํา ตัวคลา ยพอแม สว นเนอื้ ใสไมม ลี ายและสามารถมองเห็นอวัยวะภายใน อายุประมาณ 37 - 45 วัน ลกู ปลามลี ักษณะคลายพอ แมเ พยี งแตม ีขนาดเล็ก สวนท่เี ปน เนอ้ื ใสเปลยี่ นเปน ขนุ สีนาํ้ ตาลเหลอื ง การเพาะเลยี้ งปลาบู เดิมการเลยี้ งปลาบูใ ชวิธชี อ นลกู ปลาตามรากหญา รากพันธไุ มนา้ํ ในลาํ คลองหนองบงึ ในปจ จุบนั เนื่องจากสภาพแวดลอ มเสื่อมโทรม การใช เครื่องมอื จับปลาผดิ ประเภทและการทําการประมงเกนิ ศักยภาพ ทําใหล ูกปลาในธรรมชาติมีปริมาณลดลง แตเ นอ่ื งจากความตองการปลาบูเพ่ือการบรโิ ภค และการสงออกมี จาํ นวนสูงยิ่ง ๆ ขนึ้ จงึ ทําใหม กี ารขยายตวั ดา นการเลยี้ งปลาบู ซ่ึงกรมประมงไดป ระสบความสาํ เรจ็ ในการ เพาะพนั ธุป ลาบู แตก ย็ งั ไมเพยี ง พอตอ ความตอ งการ การเพาะพันธุปลาบู มี 2 วิธี คอื 1. วธิ ีการฉดี ฮอรโ มน 2. วธิ ีการเลียนแบบธรรมชาติ สถานปี ระมงนํา้ จืดจังหวัดปทมุ ธานี ไดพฒั นาการเพาะพนั ธุป ลาบเู ปน เชิงพาณชิ ยไ ดส ําเร็จ โดย

เนนการเพาะพนั ธวุ ิธเี ลยี นแบบธรรม ชาตซิ ึ่งใหจํานวนรงั ไขไ ดมากกวา วธิ ีฉดี ฮอรโมนผสมเทยี ม และ สามารถอนบุ าลลกู ปลาบูโ ดยการใชอ าหารธรรมชาติมีชีวิตไดอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพซึง่ มวี ิธี ดาํ เนนิ การ ดังน้ี การคัดเลือกพอ แมพ นั ธุท่ดี มี ีผลทําใหอัตราการฟก และอัตรารอดตายสงู และไดล ูกปลาที่ แข็งแรง พอแมพ ันธุปลาบูทด่ี ี ควรมลี กั ษณะ 1.1 ควรเปนปลาวยั เจริญพันธุ เพราะไขทไี่ ดม อี ัตราฟก และอตั รารอดตายสูง 1.2 พอ แมพันธคุ วรมนี าํ้ หนกั อยูในชว ง 300 - 500 กรมั แตไ มควรเกนิ 1 กโิ ลกรมั และไมค วร เปน ปลาท่อี ว นหรือผอมเกนิ ไป 1.3 เมื่อจบั พอ แมพ นั ธุขึ้นมาจากท่ีกักขังใหม ๆ ควรรบี คดั ปลาที่มสี นี วลดปู ราดเปรยี ว และควร เปน ปลาท่ปี รบั สสี สู ภาพเดมิ ไดเร็วเมอ่ื หาย ตกใจ ไมควรคัดพอ แมพันธทุ ีม่ ีสีเหลอื งซดี ผิดปกติ 1.4 เม่ือลบู ตามตัวปลาจากหวั ไปหางแลวรูสึกตัวปลาลนื่ แสดงวาเปน ปลาทม่ี สี ขุ ภาพดี 1.5 บริเวณนัยตต าไมข าวขนุ 1.6 ไมใชป ลาทีจ่ ับได โดยการใชไฟฟา ช็อตเพราะเมือ่ เล้ยี งไปสักระยะหน่งึ แลว ปลาจะตายมาก หรือตายหมดทง้ั กระชัง 1.7 ไมม ีพยาธภิ ายนอกหรือเชอื้ ราเกาะตามลาํ ตัว ถามปี รมิ าณไมมากควรกําจัด รักษา และ ปองกันกอ นนาํ ไปทาํ เปนพอ แมพันธุ 1.8 บรเิ วณครบี อก ครบี หู ครีบหาง และครบี ทองไมควรมบี าดแผลฉกี ลึกถงึ โคนครีบ 1.9 ตามลาํ ตวั ไมค วรมีบาดแผลถึงแมจะเปน บาดแผลเล็ก ๆ ก็ตามเพราะทาํ ใหตดิ เชือ้ โรคและ ลกุ ลามถึงตายในทีส่ ุด ถา จําเปนควรรกั ษาให หายกอ นนาํ ไปเปนพอแมพ ันธุ การเตรียมบอ พอแมพ นั ธุ การเตรยี มบอพอ แมพ นั ธโุ ดยวธิ เี ลียนแบบธรรมชาติ ขนาดบอ เพาะพนั ธไุ มค วรใหญห รือเลก็ จนเกนิ ไปเพอื่ สะดวกตอ การดแู ล และจดั การกับพอแมพันธุ สาํ หรับบอ ขนาด 800 ตารางเมตร ปลอยพอแมพ ันธุ 150 คู ใหผ ลผลิตดีทส่ี ุด การเตรยี มบอ ควรวิดบอ ใหแหง พรอ มกาํ จดั ศตรูป ลาออกใหห มด และท่สี าํ คัญควรเกบ็ วสั ดุทปี่ ลาสามารถใชเปน ทว่ี างไขไ ดอ อกใหหมด เชน พวกรากไม ตอ ไม หนิ พืชนํ้า ทางมะพราว หรือ วัสดุอืน่ เนอ่ื งจากปลาจะวางไขท วี่ สั ดทุ ่ีไมไดจ ดั เตรยี มไวซ ง่ึ ยงุ ยากตอการ รวบรวมรังไขป ลาบูและการฟกไขอ กี ดว ย ควรตากบอท้งิ ไว 2-3 วนั แลวใสปูนขาว ในอตั รา 50-100 กโิ ลกรัม/ไร ใสปุยคอกในอตั รา 100-150 กโิ ลกรมั ตอ ไร จากนัน้ เปดนา้ํ เขา บอ และควรกรองน้าํ ดว ยตะแกรง ตาถ่ี เพอ่ื ปองกนั ไขป ลาและลูก ปลาชนิดอนื่ ซง่ึ ถอื วาเปนศัตรูโดยตรง ตอไขปลาบู เน่ืองจากลูกปลาเหลาน้ี เขามากินไขป ลาบไู ดถึงแมวา พอ แมพนั ธปุ ลาบูคอยเฝารังไขอ ยกู ต็ าม อีกทัง้ ยังเปน ศตั รูทางออม คือ ไปแยง อาหารปลาบอู กี ดว ย สําหรับระดับนํา้ ในบอ ควรใหอยชู วง 1.00 - 1.10 เมตร แลวทิ้งไว 2 - 3 วนั เพ่ือใหเ กดิ อาหารธรรมชาติข้นึ ในบอ และควรทาํ การวเิ คราะหค ณุ สมบตั ิ ของนา้ํ กอ นปลอ ยปลาเพอื่ ใหแ นใ จวานาํ้ น้ันมี ความเหมาะสมแลวจึงปลอ ยพอแมพ ันธุ

การเลี้ยงและดูแลพอ แมพนั ธุ การเลีย้ งพอ แมพันธุป ลาบูค วรใหอ าหารผสมซง่ึ มีสตู รอาหาร ดังนี้ ปลาเปด 94 เปอรเซ็นต ราํ ละเอยี ด 5 เปอรเซ็นต วติ ามินเกลือแร 1 เปอรเซน็ ต อาหารผสมดังกลาวใหใ นอตั รา 5 เปอรเ ซน็ ต ของนาํ้ หนกั ปลาทกุ วนั หรือ 10 เปอรเซน็ ตของ นํา้ หนกั ปลาทกุ 2 วัน เม่อื ปลามคี วามคุนเคยกับ สตู รอาหารดงั กลา วแลว ถาหากผูเลย้ี งตอ งการเปลยี่ นสตู ร อาหารควรเปล่ยี นทีละนอยโดยเพม่ิ อาหารสตู รใหมในอาหารสูตรเดิมสําหรับมอ้ื แรกท่จี ะเปลย่ี น อาหาร ควร มอี ตั ราสวนอาหารเดมิ ตอ อาหารใหมไ มเ กนิ 1:1 โดยน้าํ หนกั เนื่องจากปลาบจู ะไมยอมรบั อาหารท่เี ปลย่ี นให ใหมท ันที นิสยั ปลาบูชอบออกหากนิ ตอนเย็นและในเวลากลางคนื ควรใหอ าหารปลาบตู อนเย็น สวนการ จดั การนา้ํ ในบอ ควรเปล่ยี นถา ยนา้ํ เดือนละประมาณหน่งึ ในส่ขี องปรมิ าตรนํา้ ในบอ ซึง่ น้าํ ท่เี ขา บอ ควรมกี าร กรองหลายช้ันเพ่อื ปอ งกันศัตรปู ลาทัง้ ทางตรงและทางออ มเขา มากบั น้ํา พรอ มท้งั ลอมรั้วรอบ ๆ บอ พอ แม พนั ธุเ พอ่ื ปอ งกันศตั รปู ลาเขาบอ เชน ปลาชอน ปลาหมอ งูกินปลา ตะกวด ฯลฯ ไมใหเ ขามาทํารา ยพอ แม พันธทุ เ่ี ลีย้ งไว การเพาะพนั ธปุ ลาบู การเพาะพนั ธปุ ลาบมู ี 2 วธิ ี คอื การฉดี ฮอรโมนและการเลยี นแบบ ธรรมชาติ สําหรบั วิธหี ลงั สามารถผลิตพนั ธุปลา บูไดจํานวน มากและไดอ ัตราการรอดตายสงู 4.1 วิธกี ารฉีดฮอรโมน การเพาะพันธปุ ลาบเู รมิ่ คร้ังแรกในป พ.ศ. 2515 โดยนาํ ปลาบเู พศผูท ่ีมี นํ้าหนกั 168 และ 170 กรมั เพศเมีย 196 กรัม และ202 กรมั มาทาํ การฉดี ฮอรโมนเพียงครั้งเดยี วดวยตอ มใต สมองของปลาในขนาด 1,500 กรมั รวมกับคลอลโิ อนิค โกนาโดโทรปน (Chorionic Gonadotropin, C.G.0) จาํ นวน 250 หนว ยมาตรฐาน (International Unit, I.U.)ฉีดเขาตวั ปลาโดยเฉลยี่ ตัวละ 62.5 หนวยมาตรฐาน หลงั จากฉดี ฮอรโมนแลว นาํ พอแมพ นั ธุไปปลอ ยลงในบอ ซเี มนตขนาด 2 x 3 ตารางเมตร นา้ํ ลึก 75 เซนตเิ มตรและใชทางมะพรา วเปน วัสดใุ หแ มป ลาบูว างไข ปรากฏวา แมปลาท่มี ีน้ําหนัก 202 กรมั วางไข ประมาณ10,000 ฟอง มอี ตั ราการฟก 90 เปอรเ ซ็นต 4.2 วิธีการเลยี นแบบธรรมชาติ หลงั จากปลอยพอแมพันธุปลาบไู ด 3 วนั แลว ปก กระเบื้องแผน เรียบขนาด 40 x 60 เซนตเิ มตรหรอื วสั ดอุ น่ื ท่ีงา ยตอการโยกยา ยลาํ เลียง เชน หลักไม ตอไม ฯลฯ เพอ่ื ใหป ลา บมู าวางไข นําแผนกระเบอื้ งเหลานไี้ ปปกไวเปน จดุ ๆ รอบบอแตล ะจดุ ปก เปนกระโจม สามเหลยี่ มและหนั ดา นท่ีขรขุ ระไวขา งใน โดยปก ดานกวา งในดนิ กนบอ พรอ มท้งั ทําเครอ่ื งหมายปก หลกั ไมไ วแ สดงบริเวณท่ี ปกกระเบ้อื งเพือ่ สะดวกในการ ตรวจสอบและเก็บรงั ไข เม่ือปลาบมู คี วามคนเคยกบั กระเบอื้ งแผน เรียบแลว ในตอนเย็นจนถึงตอนเชามืดปลาบูสว นใหญเ ร่มิ ทําการวางไขผสมพันธุทีก่ ระเบือ้ ง แผนเรียบสวนใหญป ลาบู วางไขตดิ ดานในของกระโจมกระเบื้อง รงั ไขปลาบูสวนใหญเ ปนรปู วงรี แตจ ะมีบางครั้งเปน รปู วงกลม ลกั ษณะไขปลาบเู ปนรูปหยด นํา้ สีใส ดานแหลมของไขม ีกาวธรรมชาติติดอยไู วใชใ นการยึดไขใ หตดิ กับวัสดุ

ชว งเชาหรือเยน็ ของทุกวนั ใหทําการตรวจสอบแผน กระเบ้ืองและนํากระเบ้อื ง ทม่ี ีรงั ไขป ลาบตู ิดไปฟก การ ลําเลียงรงั ไขปลาบูควรใหแผน กระเบ้ืองทีม่ ไี ขปลาแชน ้ําอยตู ลอดเวลา ขอควรระวังในการเกบ็ รังไขขน้ึ มาฟก คือเม่อื พบกระเบือ้ ง ทีม่ รี ังไขต ิดอยูแ ลว ตองนาํ ข้ึนไปฟก ทันที เพระถา นํากลับลงไปปก ไวท เี่ ดิมพอ แมป ลาบู ท่เี ฝาอยใู กล ๆ จะมากนิ ไขหมด ในกรณกี ระเบ้ืองแผนเรยี บที่ผา นการ ใชงานมานานควรทําความสะอาดโดย แชแผนกระเบอื้ งในสารเคมกี าํ จดั เช้อื รา ไดแก มาลาไคทก รนี ชนิดปราศจากธาตุสงั กะสี ความเขม ขน 2.4 พี พีเอม็ ตลอดคนื กอ นนําไปปกเปนกระโจมในบอดนิ . การฟกไข การฟกไขป ลาบูท าํ ในตกู ระจกขนาดกวาง 47 เซนตเิ มตร ยาว 77 เซนตเิ มตร ลึก 60 เซนติเมตร โดยใสน ํ้าลึก 47 - 50 เซนตเิ มตร กอนนาํ รงั ไขม าฟกตองฆา เชือ้ ดว ย มาลาไคท กรนี ชนดิ ปราศจากสงั กะสี ความเขม ขน 1 พพี เี อม็ โดยวิธีจมุ การฟกไขต องใหอ ากาศตลอดเวลา ตู กระจกขนาด ดังกลา ว 1 ตูใชฟก รังไขปลาบู 4 รงั เมอ่ื ไขฟ กเปนตวั จนหนาแนน ตูกระจกแลวก็รวบรวมลกู ปลาไปอนุบาล ในบอ ซีเมนตข นาด 6 ตางรางเมตร เนื่องจากไขป ลาฟกเปน ตวั ไมพ รอมกนั จึงจาํ เปนตอ งคอยยา ยรงั ไข ออกไปฟก ในตูกระจกอันเนอ่ื งมาจากของเสียทีไ่ ขปลาและลูกปลาขับถา ยออกมาและการ สลายตวั ของไขเสยี โดยปกติไขป ลาจะใชเวลาฟก ออกมาเปน ตวั หมดทงั้ รงั ประมาณ 3 - 5 วนั การอนุบาล การอนบุ าลลูกปลาบแู บง ตามอายุของลกู ปลาเปน 3 ระยะคอื 1. การอนุบาลในบอ ซีเมนตข นาดเลก็ 2. การอนบุ าลในบอ ซเี มนตข นาดใหญ 3. การอนบุ าลในบอ ขนาดใหญหรอื ในบอ ดนิ การอนุบาลในบอ ซเี มนตขนาดเล็ก การอนุบาลชวงน้เี ปนชว งท่สี ําคัญในการเพาะขยายพนั ธุ ปลาบู การอนุบาลลกู ปลาใหไดอตั ราการ รอดตายตาํ่ หรอื สูงขน้ึ อยกู บั ปจ จัยสาํ คญั 4 ประการ คือ อัตราการ ปลอ ย การจดั การนํา้ ในการอนบุ าล การใหอ ากาศ ชนดิ อาหารและการใหอาหาร 1.1 อตั ราการปลอยลูกปลาบูวยั ออน ควรปลอ ยอตั รา 20,000 ตัว ตอ 6 ตารางเมตร หรือ ปรมิ าณ 3,300 ตวั /ตารางเมตร 1.2 การจัดการน้ําในการอนบุ าล เนอ่ื งจากลกู ปลาบวู ยั ออ นมีขนาดเลก็ มากและบอบช้ํางาย ดังนนั้ การจดั การระบบน้ําตอ งทาํ อยางนมุ นวลเพื่อไมใ หล กู ปลาบอบช้ํา ในการอนบุ าลวันแรกควรเติมนา้ํ ตองทาํ อยา งนมุ นวลเพอื่ ไมใ หลกู ปลาบอบชาํ้ ในการอนบุ าลวันแรกควรเติมน้ําโดยกรองผานผา โอลอนแกว ใหไ ดร ะดบั น้ําเฉลี่ย 20 - 25 เซนติเมตร จนไดระดับนํา้ เฉลยี่ 40 - 45 เซนตเิ มตรจงึ เร่ิมถา ยนํ้า 50 เปอรเซน็ ต ของปรมิ าณนาํ้ ทั้งหมดทุกวนั จน ลูกปลาอายไุ ด 1 เดอื น การเพิ่มระดับน้าํ ในระยะแรกควรเปด นา้ํ เขา ชา ๆอยา เปด นํา้ รนุ แรงเพราะลูกปลาในชว งระยะนบ้ี อบบางมากและเพ่ือไมใ หของเสยี ทีอ่ ยู กน บอฟงุ กระจายขน้ึ เปน อันตรายตอลกู ปลาวัยออน สว นการถายเทน้าํ ในบอ ควรถายนาํ้ ออกโดยใชว ิธกี าลักนาํ้ ผา นกลองกรองน้าํ การ สรางกลองกรองน้ํานคี้ วร ใหมีขนาดพอเหมาะกบั บอ อนบุ าลเพ่ือสะดวกในการทํางานและขนยา ย กลอ ง

กรองนา้ํ ทาํ ดว ยโครงไมหรอื ทอพวี ีซีบุดวยผา โอลอนแกว การถายนํา้ ออกควรทาํ อยา งชาๆ เพราะลูกปลาบวู ัย ออ นสแู รงนํา้ ที่ดูดออกทิง้ ไมไ ด ลูกปลาจะไปติดตามแผงผากรองตายได ในชว งทายของการอนบุ าลประมาณ 1 - 2 อาทติ ย สามารถ เปล่ยี นผา กรองใหม ขี นาดตาใหญขน้ึ อกี เลก็ นอยจากเดมิ โดยใหม ีความสัมพนั ธกบั ขนาดลูกปลาบู 1.3 การใหอ ากาศ การใหอ ากาศในบอ อนบุ าลสําหรบั ลกู ปลาวยั ออ นในชว งคร่ึงเดอื นแรก จาํ เปน ตอ งปลอ ยใหอ ากาศผานหวั ทรายอยา ง ชา ๆ และคอ ย ๆ เพราะลกู ปลาระยะนี้ยงั ไมสามารถวา ยทวน กระแสนา้ํ ที่เคล่ือนตามแรงดนั อากาศมาก ๆ ได 1.4 ชนิดอาหารและการใหอาหาร อาหารทใี่ ชในการอนบุ าลลกู ปลาบสู ว นใหญเ ปน อาหาร ธรรมชาตมิ ีชวี ติ ยกเวนระยะแรกทลี่ ูกปลา เพ่ิงฟก จะใหอ าหารไขระยะตอ มาใหโ รตเิ ฟอรและไรแดง วธิ กี ารเตรยี มอาหารและการใหอาหารมชี ีวติ 1.4.1 อาหารไข ตีไขแ ดงและไขขาวใหเปนเน้อื เดยี วกนั และใชน ้ํารอ นเติมลงไปขณะท่ีตไี ข ในอตั ราสว นนํา้ รอ น 150 ซีซีตอ ไข 1 ฟอง นําอาหารไขไ ปกรองดวยผา โอลอนแกว แลว กรองดวยผา กรอง แพลงกตอนขนาดตา 59 ไมครอน อีกครง้ั หนึง่ นาํ ไปอนบุ าลลูกปลาชวง 3 วันแรกของการ อนบุ าลในชว งเชา กลางวันและเยน็ ปรมิ าณทใ่ี หโดยเฉลี่ย 40 ซ.ี ซี. ตอบอตอครั้ง 1.4.2 โรตเิ ฟอรนาํ้ จดื โรติเฟอรเปนแพลงกตอนสตั วขนาดเล็กมีหลายชนิดท้งั ท่อี าศยั อยูในนาํ้ กรอ ยและนา้ํ จดื สว นโรติเฟอรน า้ํ จดื ท่ีนํามาใชอนบุ าลลกู ปลาบวู ัยออนคือ Brachinonus calyciflorus ในการ เพาะโรตเิ ฟอรน ัน้ ตองเพาะสาหรายเซลลเดยี วทเี่ รยี กวา คลอเรลลาหรอื ทีเ่ รียก กันทั่วไปวาน้ําเขยี ว เพอื่ ใหเ ปน อาหารของโรตเิ ฟอร วิธกี ารเพาะนา้ํ เขยี วคลอเรลลา มขี ัน้ ตอนดงั นี้ 1. เติมน้าํ ลงในบอใหมรี ะดบั นาํ้ ประมาณ 20 เซนติเมตร 2. ละลายปุยตามสูตรใดสตู รหนึ่ง สตู รท่ี 1 : ปยุ N-P-K สตู ร 16 - 20 - 0 จาํ นวน 3 ก.ก. รําละเอียด จํานวน 3 ก.ก. ปนู ขาว จาํ นวน 3 ก.ก. สูตรท่ี 2 : อามิ - อามิ หรอื กากผงชูรส จาํ นวน 20 ลิตร ยเู รยี จํานวน 1.5 ก.ก. ปยุ N-P-K สตู ร 16 - 20 - 0 จํานวน 1.5 ก.ก. ปุย ซปุ เปอรฟ อสเฟต จาํ นวน 260 กรมั ปูนขาว จาํ นวน 3 ก.ก. 3. ใสน้ําเขียวคลอเรลลา ที่มีความหนาแนนประมาณ 5 x 10 เซลล/ 1 ซ.ี ซี.ประมาณ 2 ตนั ท้ิง ไว 2 - 3 วันระหวา งนน้ั ตอ งคนบอ ยๆ เพอ่ื ปองกนั การตกตะกอนของนา้ํ เขยี ว เม่อื สีนาํ้ เขมขน้ึ ใหเ พม่ิ ระดบั นาํ้ เปน 40 เซนตเิ มตร และใสปยุ ในปรมิ าณครง่ึ หนึง่ ของปุยท่ีใชในขอ 2

4. ท้งิ ไว 2 - 3 วนั นา้ํ จะมสี เี ขียวเขมใหน ําโรติเฟอรท ีก่ รองจนเขม ขน ประมาณ 20 ลิตร (ความหนาแนน 3,621 ตวั ตอซี.ซ.ี ) มาใส ในบอ เพาะน้ําเขียวถาเปน ไปไดควรมกี ารเพม่ิ อากาศลงในบอเพาะ 5. เม่ือโรติเฟอรข ยายตวั เตม็ ที่ น้ําจะเปน สีชาและมฟี องอากาศลอยตามผวิ นา้ํ มาก ก็ใหก าร กรองโรตเิ ฟอรไปใชประโยชนใ นการเลย้ี ง ลกู ปลาบูวยั ออนดว ยผา แพลงกตอน 59 ไมครอน หลงั จากโรติ เฟอรเ หลอื จํานวนนอ ยในบอ ใหลางบอและดําเนนิ การเพาะโรตเิ ฟอรขึน้ ใหมทงั้ นีค้ วรให โรติ เฟอร นํ้าจืด อนบุ าลลูกปลาบูในตอนเชา กลางวนั และเยน็ มอ้ื ละ 4 - 6 ลติ ร/บอ/ครงั้ สาํ หรับลูกปลาอายุ 2 - 12 วนั หลงั จากนน้ั คอยๆ ลดปริมาณใหโ รตเิ ฟอร จนลูกปลาอายุได 30 - 37 วนั 1.4.3 ไรแดง ไรแดงเปนแพลงกต อนสตั วอ กี ชนดิ หน่งึ มีขนาดเลก็ แตขนาดใหญก วา โรติเฟอร อยางเหน็ ไดชดั ชอบอยูรวมกลมุ มสี ีแดง สาํ หรบั วธิ ีเพาะไรแดง มขี ้นั ตอน คือ 1. ทําความสะอาดบอซีเมนตแ ละตากท้ิงไว 1 วนั 2. กรองน้ําดว ยถงุ กรองผา โอลอนแกว ใหไ ดระดบั น้าํ 20 เซนตเิ มตรและละลายปยุ ตามสตู ร ใดสตู รหนงึ่ ดงั นี้ สตู รท่ี 1 : อามิ - อามิ หรือกากผงชรู ส จํานวน 5 ลิตร ปยุ N-P-K สูตร 16 - 20 - 0 จาํ นวน 2 ก.ก. รําละเอยี ด จํานวน 5 ก.ก. ปนู ขาว จํานวน 3 ก.ก. สตู รท่ี 2 : อามิ - อามิ จาํ นวน 20 ลติ ร ปุย N-P-K สตู ร 16 - 20 - 0 จํานวน 1.5 ก.ก. ยูเรยี จํานวน 1.5 ก.ก. ปยุ ซปุ เปอรฟ อสเฟส จาํ นวน 260 กรัม ปนู ขาว จาํ นวน 3 ก.ก. 3. เติมนํา้ เขยี วลงบอประมาณ 1 - 2 ตัน คนบอย ๆ ประมาณ 3 วนั คลอเรลลา ขยายตวั เตม็ ทซ่ี ึ่งสี นํา้ จะมสี เี ขยี วเขม 4. ใสไ รแดงประมาณ 1.5 - 2.0 กโิ ลกรัม 5. ประมาณ 2 - 3 วัน ตอมา ไรแดงจะยายตวั เต็มทีแ่ ลว ดาํ เนินการรวบรวมไรแดงจนหมดบอ หลังจากนนั้ เรมิ่ ตนเพาะไรแดงใหมต อ ไป การใหไ รแดงควรใหเ มือ่ ลูกปลามีอายุ 12 วันข้ึนไป และควรใหไรแดงในปรมิ าณ 200 กรมั /6 ตารางเมตร/ครัง้ ในตอนเชา กลางวัน และ เยน็ จนลกู ปลามี อายุประมาณ 25 วนั จึงลดปรมิ าณลงตามความ เหมาะสม ลกู ปลาบูอายุ 30 - 37 วัน มีความยาวประมาณ 8 - 10 มิลลเิ มตรจึงยายลกู ปลาบู ไป อนบุ าลในบอ ขนาดใหญ การอนุบาลในบอ ซเี มนตข นาดใหญ เมอื่ ลูกปลาอายุไดป ระมาณ 1 เดือนก็ทาํ การยา ยไป อนุบาลตอ ในบอซเี มนตขนาด 50 ตารางเมตร ทมี่ รี ะดับนํ้าประมาณ 40 - 50 เซนตเิ มตรโดยคดั ลกู ปลาใหม ี

ขนาดใกลเ คยี งกนั แลว ปลอ ยลูกปลาในอตั ราตารางเมตรละ 100 - 160 ตวั ในชว งสัปดาหแ รก ใหอ าหาร ธรรมชาตมิ ชี ีวิต ไดแ ก ไรแดง หนอนแดง ฯลฯ ประมาณ 10 เปอรเซน็ ตข องน้าํ หนักตวั ปลาชว งสปั ดาหท ่สี อง เร่มิ ฝก ใหก นิ อาหารสมทบท่ีมสี ตู ร อาหารประกอบดว ยปลาเปด 94 เปอรเซ็นต รําละเอียด 5 เปอรเ ซ็นต วิตามินเกลือแร 1 เปอรเ ซน็ ต การฝก ใหล กู ปลาบูกินอาหารสมทบ ควรคอ ย ๆ ลดปริมาณ ไรแดง และเพ่มิ อาหารสมทบสาํ หรับอาหารสมทบนัน้ ปนเปนกอ นเล็ก ๆ โยนใหลูกปลาบรู อบบอ และควรเปล่ยี นถายน้ําทกุ วัน ๆ ละ 5 - 10 เซนตเิ มตรการ เล้ียงปลาบูใน บอกลางแจงอาจประสบปญ หาสาหรา ยชนิดทไ่ี มตองการ โดยเฉพาะพวกทีเ่ ปน เสน ใยขึน้ ท่ัวบอระหวางอนุบาลลูกปลาซงึ่ ยากลําบากตอการดูแล ควรใชนํ้าเขยี ว เติม เปนระยะ ๆ ตามความเหมาะสมของคุณภาพนาํ้ ความขนุ และสีน้ํา อีกทั้งชวยขยายอาหารธรรมชาติในบอ ไดแก ไรแดง อกี ดว ย การอนบุ าลในบอขนาดใหญ หรอื ในบอดนิ การอนุบาลลกู ปลาบขู นาด 2.5 เซนตเิ มตรขน้ึ ไป สวนใหญเ ลีย้ งในบอ ซีเมนตแ ละบอดินสว น การเลี้ยงในกระชงั นัน้ ปรากฏวาไมค อยประสบผลสําเรจ็ มอี ตั รา รอดและอัตราการเจริญเติบโตตาํ่ ไมเหมาะสมทจี่ ะใชอนบุ าลลูกปลาขนาดดงั กลาว สาํ หรับการ อนบุ าลลกู ปลาขนาดดังกลาวในบอซีเมนตลกู ปลาจะมี อตั รารอดสูงกวาบอ ดินและ รวบรวมปลาบไู ดส ะดวก แตอัตราการเจริญ เตบิ โตชาโดยปลอยลกู ปลาขนาด 5 เซนตเิ มตร จํานวน 3,000 ตัว หรอื ตารางเมตรละ60 ตวั ใหอ าหารปลาประกอบดว ย ปลาเปด 94 เปอรเซน็ ต ราํ ละเอยี ด 5 เปอรเ ซ็นต วิตามนิ เกลอื แร 1 เปอรเ ซน็ ต ระยะเวลาเลยี้ ง 90 วัน อตั รารอด ประมาณ 85 เปอรเซน็ ต ลกู ปลาที่มนี ้าํ หนัก เฉลยี่ 1.46 กรมั เพ่ิมขึ้นเปน 4.97 กรมั ความยาวเฉลย่ี 5 เซนติเมตรเพิ่มเปน 7.55 เซนตเิ มตร นอกจากน้ีการ ติดต้ังระบบนา้ํ หมนุ เวยี นโดยดึงนํ้าจากบอ พกั มาเล้ียงลูกปลาบแู ลวปลอ ยกลบั สูบ อ ดนิ หมุน เวียนตลอดเวลาก็ สามารถทําได สวนการอนุบาลลูกปลาบใู นบอ ดินไดอ ตั รารอดไมส ูงนักและรวบรวมลูกปลา ไดล ําบากแตม ี การเจรญิ เตบิ โตเรว็ จากการทดลองเลีย้ งปลาบใู นบอ ดนิ ของสถานีเพาะเลย้ี งปลาจงั หวดั ปทุมธานี ใชเวลาเล้ียง 2 เดือน โดยใสป ุยมลู ไกแ หง เพ่ือใหเกิดอาหาร ธรรมชาติ และใหอาหารสมทบ(ปลาเปด 94 เปอรเ ซ็นต ราํ ละเอยี ด 5 เปอรเซน็ ต วติ ามนิ เกลือแร 1 เปอรเ ซ็นต) ในอตั รา 10 เปอรเ ซน็ ตของน้ําหนกั ปลา พบ วา ไดอตั รา รอดเฉล่ยี 44 เปอรเ ซน็ ตน้ําหนกั ลกู ปลาเรมิ่ ปลอย 0.04 - 0.39 กรมั ไดน า้ํ หนกั เฉลย่ี 2.4 กรัม จากการศึกษาอตั ราปลอยลกู ปลาบูขนาด 1.5 - 3.0 เซนตเิ มตรในบอ ดินพบวา อตั ราปลอ ย 10,000 ตัวตอบอ ดิน ครึง่ ไรห รอื ตารางเมตรละ 12.5 ตัวใน เวลา 1 เดอื น ไดอัตรารอดมากทีส่ ุด คอื 61.06เปอรเ ซ็นต การเล้ยี งปลาบู ปลาบูมรี าคาแพงจงึ เปน ทีต่ อ งการของตลาดในประเทศและตางประเทศเปน จํานวนมาก ทําใหม ี ผูสนใจเลยี้ งปลาบอู ยางกวา งขวาง การเลี้ยง ปลาบมู ีเลยี้ งกนั ในบอซีเมนต บอดนิ และกระชงั แตท่ีนยิ มเลย้ี ง กันมากเปน การเลีย้ งในกระชงั สวนบอ ดินกม็ ีผูเลีย้ งกนั อยบู า งท้งั ในรูปการเลยี้ งแบบเดย่ี ว แบบ รวม และแบบ ผสมผสานสําหรับการเล้ียงในบอซเี มนตม กี ารเล้ยี งอยูนอ ยมากเพราะลงทนุ สูง และตอ งการนาํ้ สะอาดในการ เลยี้ ง

รปู แบบการเลี้ยงปลาบู 1. การเลีย้ งปลาในบอดินสว นใหญจ ะเลยี้ งรวมกบั ปลาชนิดอ่ืน เชน เลยี้ งรว มกบั ปลานิลเพอ่ื ไวคมุ จํานวนประชากรของลูกปลานิลไมให แนน บอ เชนเดยี วกับปลาชอน นอกจากนี้ยงั มกี ารเลี้ยงรว มกบั ปลาชนดิ อ่นื ใตเ ลา ไก หรือเลาหมโู ดยปลอ ยอตั ราสวนปลาบูต่ําซึง่ ข้ึนอยกู ับผเู ลยี้ งจะหาซอื้ พนั ธไุ ด จํานวนมากนอ ย เทา ใดเมอ่ื เลย้ี งปลามนี ้ําหนัก 400 - 500 กรัมข้นึ ไปจงึ จบั จาํ หนายแลว หาพันธปุ ลามาปลอยชดเชย อาหารท่ีให เปนพวกปลาเปด บดปน เปน กอนๆ ใสลงในเรือแจวใหอ าหารเปนจดุ ๆ รอบบอ จดุ ที่ใหอ าหารมีกระบะไมป ก อยเู หนอื กนบอ เล็กนอ ย ในชว งตอนเย็นปรมิ าณอาหารทใ่ี หป ระมาณ 5 เปอรเ ซน็ ต ของนาํ้ หนกั ปลาใชเ วลา เล้ยี ง 8 - 12 เดือนจบั จาํ หนา ยน้ําหนกั ปลาท่นี ิยมรบั ซ้อื ตัง้ แต 400 - 800 กรมั ไมเ กนิ 1 กโิ ลกรมั 2. การเลยี้ งปลาบใู นกระชัง ปลาบูเปนปลาอกี ชนดิ หนง่ึ ทน่ี ิยมเล้ียงในกระชังเนื่องจากสามารถ เลย้ี งไดห นาแนน ในทแ่ี คบไดแ ละเปน ปลากิน เน้ือ จึงไมจ ําเปนตองพึ่งอาหารธรรมชาติมาก นกั ถงึ แมว า ปลา บมู นี สิ ยั ชอบอยนู ง่ิ เปน สว นใหญ แตช อบทที่ ีม่ นี ํา้ ไหลผานโดยเฉพาะนาํ้ ทมี่ ีค่ วามขุนยงิ่ ดีเพราะ ปลาบตู ก ใจ งา ยเม่ือเลีย้ งในนํา้ ใสปลาบูเปนปลา ที่มรี าคาแพง ท่ีปากกระชังราคากโิ ลกรัมละ 320 บาท (ราคาป 2541) การเลี้ยงปลาบใู นกระชงั มวี ธิ กี ารดังนี้ การเลือกสถานท่ี การเลอื กสถานท่ีทเี่ หมาะสมในการวางกระชงั ปลาบูนบั เปน จุดเร่มิ ตน การ เล้ยี งทีส่ าํ คญั ที่สุด ถา เลอื กสถานทเ่ี ล้ยี งไดด ี ทาํ ให ปลาบเู จริญเติบโตเร็ว อตั รารอดสูง ทนุ คา ใชจายในการ จัดการ สถานท่ีทเ่ี หมาะสมสาํ หรับการเลี้ยงปลาบูในกระชงั คือ 1. คณุ สมบตั ขิ องนาํ้ ดแี ละมปี รมิ าณเพยี งพอตลอดป 2. ใกลแหลงหาพนั ธุปลาและอาหารปลาไดง าย ราคาถูก 3. การคมนาคมสะดวกตอ การลําเลียงพนั ธุปลาและอาหารปลา 4. ไมอ ยูใกลแหลง โรงงานอตุ สาหกรรมและพืน้ ทท่ี ่มี กี ารใชส ารเคมีสําหรบั การเกษตรมากเพื่อ หลกี เลย่ี งสารพิษท่ีปนเปอนมากับนํา้ 5. นาํ้ มีความขนุ พอสมควรเพราะปลาบชู อบทมี่ ดื ชว ยใหป ลากนิ อาหารไดดแี ละไมต กใจงา ย 6. ความลกึ ของนาํ้ ไมค วรตํ่ากวา 2 เมตร 7. มกี ระแสนาํ้ ทไ่ี หลแรงพอสมควร 8. ปลอดภัยจากการถูกลักขโมย 9. ปราศจากศัตรแู ละภยั ธรรมชาติ 10. ไมกีดขวางการสัญจรทางนาํ้ และไมผ ิดกฎหมายบานเมือง ประเภทของกระชงั กระชงั สว นใหญเปน กระชังไมไ ผห รอื ไมจรงิ สวนกระชังตาขา ยไนลอน หรอื ใยสังเคราะหห รอื ตาขา ยเหล็กทีใ่ ช เล้ยี งปลานํ้ากรอยยงั ไมเปนทนี่ ยิ มของเกษตรกรผูเลยี้ งปลาน้ําจืด กระชังแบง เปน ประเภท ๆ ดงั นี้ 2.1 กระชงั ไมไผล ว น ๆ เหมาะสาํ หรับผเู ลีย้ งปลาทม่ี ีทุนนอ ย อายกุ ารใชง านประมาณ 1 - 1.5 ป กระชงั ทใี่ ชก ันท่วั ไปมขี นาดกวา ง 2 เมตร ยาว 5เมตร ลึก 1.5 เมตร ราคากระชังละประมาณ 1,600 - 2,000

บาท ไมไ ผท่ใี ชจะเหลาใหเรยี บขนาดกวา ง 2.5 เซนติเมตร หนา 0.5 เซนตเิ มตร สาน เปน รปู สี่ เหลีย่ มผืนผามี เฝอ กไมไผปด ดานบน ใชลกู บวบไมไ ผป ระมาณ 50 ลํา ขอเสยี ของกระชังแบบนี้ คอื กระแสน้าํ ไหลถา ยเทไม สะดวกมีเศษอาหารเหลือ ตกคางในกระชังและทําความสะอาดกระชังยาก 2.2 กระชังทาํ ดว ยไมไผแตโครงกระชงั เปนไมจริง นําไมไ ผมาผาเปน ซีกๆละประมาณ 3 น้ิว ตัด เปนทอ นตามความกวา งและความยาวของ ขนาดกระชงั ทจี่ ะสรา งและตีไมไ ผร อบทกุ ดานของโครงกระชงั ไม จรงิ ใหม ชี ว งหา งประมาณ 1/2เซนตเิ มตร เพือ่ ใหนํ้าไหลผานและใชไ มไ ผข นาดเดยี วกัน ทาํ ฝาปด กระชังใช ลกู บวบประมาณ 25 ลํา อายุการใชงานประมาณ 2 ป คา สรา งกระชงั ประมาณ 2,800 - 3,200 บาท 2.3 กระชังไมจ รงิ เหมาะสําหรบั ผูทมี่ ที นุ มาก กระชงั ชนดิ นม้ี คี วามทนทานอายกุ ารใชง าน 5 - 7 ป กระชงั สรางดว ยไมข นาดหนา 4 นิ้ว ใชไม ขนาดหนา 4 น้วิ หนา 1 หนา ไสกบใหเ รยี บปด พื้นและดา นขาง 4 ดา น โดยใหมรี ะยะหาง 1.5 - 2 เซนติเมตร ดา นบนตไี มป ด เชนเดยี วกับดา นขา งและ มชี อ งปด- เปด สาํ หรับให อาหารขนาดกวาง 40 เซนตเิ มตร ยาว 50 เซนติเมตร ทนุ ลอยใชล กู บวบประมาณ 100 ลํา กระชงั ไมจ รงิ ขนาด 13 ตารางเมตร ลกึ 1.5 เซนติเมตร ราคา 25,000 บาท เมือ่ ยา งเขา ปที่ 3 ตองทําการซอ มแซมและซอมแซมใหม ทกุ ๆ2 ป กระชงั ไมจ รงิ ทน่ี ิยมใชมี 3 ขนาด คอื ขนาดท่ี 1 กวา ง 2.5 เมตร ยาว 8 เมตร ลกึ 1.5 เมตร ขนาดที่ 2 กวา ง 2.5 เมตร ยาว 5 เมตร ลึก 1.5 เมตร ขนาดที่ 3 กวา ง 2.5 เมตร ยาว 3 เมตร ลกึ 1.5 เมตร ขนาดกระชัง ขนาดกระชงั ทใ่ี ชเ ลย้ี งปลาบขู น้ึ อยูกับความตอ งการของผูเลยี้ งซงึ่ ตองพจิ ารณา รว มกบั ขนาดของแหลง นํา้ และเงินทุนโดย ทั่วไปกระชังมขี นาดตง้ั แต 2 x 3 เมตร 2 x 5 เมตร 2.5 x 3 เมตร 2.5 x 8 เมตร กระชังดา นบนมฝี าปด เปดและติดกญุ แจปอ งกนั การลักขโมย อตั ราการปลอย พันธุปลาบูทน่ี ิยมนาํ มาเล้ียงสวนใหญม ีขนาด 100 - 300 กรัม ซ่ึงไดจ ากการ รวบรวมจากธรรมชาตหิ รือซ้ือจากพอ คา คนกลางท่ีดาํ เนนิ การทั้ง ขายพนั ธุและรับซ้ือปลาบขู นาดตลาดสง เขา กรงุ เทพฯ ปลาบูม ีนสิ ยั ชอบนอนนิ่งอยบู ริเวณกนกระชงั ทําใหส ามารถปลอยปลาบูไดห นา แนน ประมาณ 70 - 100 ตัวตอ ตารางเมตร หรอื 10 - 30 กโิ ลกรมั ตอลูกบาศกเมตร ในแหลงนํา้ ที่มีการไหลถายเทของน้าํ ดี มากผานในกระชงั ถา แหลง นาํ้ ใด มีคุณสมบตั ินา้ํ ไมดแี ละไหลถายเทชา ควรปลอยตารางเมตรละ 40 - 50 ตัว กอ นปลอยพนั ธุป ลาลงในกระชังควรทําใหป ลามีความคนุ เคยกบั นํ้าท่ีจะเล้ยี งโดย เอานา้ํ ใน กระชังปนลงไป ในภาชนะดวยและควรฆาเชอื้ ปอ งกนั โรคเสียกอ น สําหรับการปอ งกันโรคกอ นปลอ ยพันธปุ ลาบลู งเลย้ี ง ควรแชปลาในนา้ํ เกลือที่มคี วามเขม ขน 10 เปอรเ ซ็นตแลว นาํ มาแชใ นดา งทบั ทิมซึ่งมี ความ เขม ขน 5 - 10 พพี ีเอม็ นาน 20 นาที อกี ครงั้ หนงึ่ เพอ่ื กาํ จัด หนอนสมอ แลว นําไปแชใ นนํ้ายาเมทธิลีนบลูเขมขน 2 - 3 พีพีเอ็ม หลังจากน้นั นําไปปลอย ลงเลย้ี งในกระชงั เครือ่ งมือท่ีใชรวบรวมพันธปุ ลาจากแหลงนาํ้ ธรรมชาตินยิ มใชลอบ ขา ย สวิง ยกยอ ฯลฯ แลวนําปลาไปพกั รวมกันในกระชงั จนไดปริมาณ มากพอจงึ คอยลําเลียงพนั ธุปลาไปยังผเู ลี้ยง ทง้ั น้คี วรปองกันพนั ธปุ ลาไมให

เกดิ ความบอบชาํ้ หรือมีบาดแผลและเกดิ ความเครียด โดยกอนพกั ปลาลงในกระชงั ควรทาํ การ ฆาเชื้อโรคท่ี ติดมากับตวั ปลาโดยแชปลาในนา้ํ ท่ผี สมเฟอราเนซความเขมขน 1 - 2 กรมั ตอ น้าํ 100 ลติ รแชไว 5 - 15 นาที หรือแชในสารละลาย ดา งทบั ทมิ ท่ีมี ความเขมขน 10 พีพเี อม็ นาน 10 นาที ในระหวางพกั ปลาควรดแู ลเอาใจ ใส และใหอ าหารเพียงพอเพือ่ ใหป ลาแขง็ แรงขึน้ กอ นลาํ เลียงไปเลย้ี ง ในกระชังตอ ไป อาหารและการใหอาหาร ปลาบูจดั เปนปลากนิ เนื้ออาหารทด่ี ีควรมีโปรตนี 38 - 40 เปอรเ ซน็ ต ไขมนั 5 - 8 เปอรเ ซ็นต คารโบไฮเดรต 9 - 12 เปอรเ ซ็นต วติ ามนิ และแรธ าตุ 0.5 - 1 เปอรเ ซน็ ต อาหารใช เล้ยี งปลาบแู บง เปน 2 ชนิด 5.1 อาหารแบบพืน้ บาน เปน อาหารสดไดจ ากการนาํ ปลาเปด จากทะเลหรือปลาน้าํ จืดมาสบั ให ปลากนิ หรอื ใชเครอ่ื งบดอาหารซึ่งมผี ลดที าํ ใหก ระดูกปลาเปด ปนยอ ยละเอยี ดไมเ ปน อันตรายตอ สําไสป ลา บู ประหยดั เวลาและแรงงาน สตู รอาหารปลา คือ ปลาเปดสดบดละเอียด 94 เปอรเซ็นต ราํ ละเอยี ด 5 เปอรเซน็ ต วติ ามนิ และเกลือแร 1 เปอรเซน็ ต (เกษตรกรบางรายผสมหัวอาหารหมหู รอื ไกล งไปดว ย) และควรใสเ กลอื ปน ในอตั รา100 กรัม ตออาหาร 3 กโิ ลกรมั เพอ่ื ทําใหอ าหารจบั ตัวเหนยี วขน้ึ ปอ งกนั การละลายหรือลอยตัวของอาหาร 5.2 อาหารผสมสูตรสําเรจ็ แบบเปย ก อาหารชนิดนยี้ ังไมเปน ทีแ่ พรหลายเตรยี มจากวัสดุ อาหารแหงและเปยก สะดวกในการจดั เกบ็ ไดน าน ในตูเยน็ เตรียมงาย และถูกสขุ ลกั ษณะทงั้ ยังสามารถเติมยา ปฏิชวี นะและฮอรโมนเรงการเจริญเตบิ โต ปลาบูก ินอาหารเช่ืองชา กวา ปลาชนิดอน่ื จงึ ควรปน เปน กอ นใส ถาดแขวนไวใ นกระชังใหต ่ํากวาระดับผิวนา้ํ ประมาณ 50 เซนติเมตร การใหอาหารจะใหอ าหารทกุ ๆ วนั ละ 3 - 5 เปอรเซน็ ตของนํ้าหนักปลาในกระ ชงั ให 2 วันคร้งั ๆ ละ 8 - 10 เปอรเซน็ ตของนาํ้ หนกั ปลา การให อาหารควรสังเกตวา ปลากนิ อาหารหมดหรอื ไมและคอยปรับเพ่มิ หรอื ลดอาหาร อัตราการเปลีย่ นอาหารเปนเนอ้ื อตั ราการแลกอาหารเปน เนอ้ื ปลาบทู เ่ี ลย้ี งดว ยปลาเปด อยู ระหวาง 7.3 - 12.2 : 1 การจัดการ การเล้ยี งปลาบใู นกระชงั ควรมกี ารจัดการดา นการทาํ ความสะอาด การดแู ลรกั ษา และการ คัดขนาด 7.1 การทําความสะอาด ควรใชแ ปรงขัดภายในกระชงั ใหต ะไครนํา้ ตะกอนทตี่ ดิ ตามตะไครนาํ้ และตวั กระชังออกรวมทง้ั เศษอาหารเพราะ เปน แหลงหมกั หมมและกอใหเ กดิ เชื้อโรค หลังจากปลาบูเ อา ดา นขา งตวั ไปถกู ับดา นขา งกระชงั หรือพืน้ กระชงั อาจทาํ ใหต วั เปน แผลและเชอ้ื โรคตามตะกอน หรอื ตะไคร นา้ํ เขาตวั ปลาทางแผลได กรณที ่ีมีตะกอนดินทับถมในกระชังมาก ควรใชพ ลว่ั แซะตะกอนออกหรอื ใชเ ครือ่ ง สูบน้าํ ดวยไฟฟาแบบจุมฉีดไลตะกอน เกษตรกรบางรายนิยมใชด า งทบั ทิมหอดวยผา ถตู ามภายในกระชังเพื่อ ฆาเชอ้ื 7.2 การคัดขนาด การเลยี้ งปลาบตู องทําการคดั ขนาดปลาบอ ยๆ ครั้งปกตเิ ดอื นละคร้ังหรืออยาง

นอ ย 2 เดือนคร้งั เน่ืองจากปลาบูเปนปลา กนิ เนอื้ และมนี ิสยั กาวราว ปลาตัวใหญจ ะคอยไลไมใ หป ลาตวั เล็ก ไดม โี อกาสเขา มากินอาหาร ทาํ ใหป ลาตัวเล็กผอมลงพฤตกิ รรมกาวราวนเ้ี กิดข้นึ ในลกู ปลาบู ตวั เลก็ เหมือนกนั คือถามีลูกปลามีขนาดตางกันมากกจ็ ะกินกนั เองแตในปลาบขู นาดใหญจ ะมพี ฤตกิ รรมกัดกันเอง และไลก ันไปมา การคดั ขนาดปลาบทู ําใหป ลา มีขนาดโตเทากนั สมาํ่ เสมอ เติบโตเร็วและเพมิ่ ผลผลิตอีกดว ย 7.3 การปองกันโรค ผูเล้ยี งควรหม่ันดแู ลสุขภาพของปลาบูอยูเ สมอ ตรวจดกู ระชังภายในให อยใู นสภาพดแี ละควรถือหลกั ปอ งปอ งกนั ไม ใหเ กิดโรคมากกวาทป่ี ลอ ยใหป ลาเปน แลวทําการรักษาทีหลงั อตั รารอด อตั รารอดตายในการเลย้ี งปลาบขู ้นึ อยูกบั ปจ จัยความแข็งแรงของพันธุปลา คุณภาพนาํ้ ในแหลงน้ํา ความสามารถ ความ ชาํ นาญ ในการเลีย้ งและสภาพสงิ่ แวดลอ ม อัตราการเจรญิ เติบโต ของปลาบขู น้ึ อยกู บั ปจ จยั หลายประการ อาทิ อัตราปลอ ยคุณภาพและ ปริมาณอาหาร คุณสมบัตนิ ้าํ ฯลฯ จากการ เล้ยี งปลาบูทีแ่ มน ้าํ นาน จ.นครสวรรค พบวาอตั ราปลอยตาราง เมตรละ 32 ตัว ใชเวลาเลย้ี ง 7 เดือน จะใหผลผลิตสูง ผลผลติ ผลผลิตการเล้ยี งปลาบูในกระชงั ไมไผขนาด 10 ลูกบาศกเมตร อตั ราการปลอยปลา 915 ตัว นํา้ หนกั เฉลี่ย 224 กรัม ใชเ วลา เล้ียง 5.3 เดอื นไดน ํ้าหนกั เฉลี่ย 435 กรัม สว นกระชงั ไมจ ริงขนาด 15 ลูกบาศกเมตร อัตราการปลอ ยอาหาร 1,500 ตัว น้ําหนกั เฉลย่ี 184 กรัม ใชเ วลาเล้ียง 8.5 เดือน ไดน ้ําหนกั เฉลี่ย 422 กรัม การเลยี้ งปลาบูถ า มีการเอาใจใสก ารเลีย้ งปลา มีประสบการณค วามชํานาญและสภาพแวดลอม ดปี ลาไมเ ปนโรคกจ็ ะ ใหผลผลิตตอหนวยพื้นทีส่ งู ขายไดราคาแพง และมกี าํ ไรสูง โรคพยาธิและการปองกนั เกษตรกรผเู ลยี้ งปลาบูส วนใหญม คี วามวติ กเรื่องโรคทีจ่ ะเกิดขน้ึ ดงั น้นั การปอ งกนั โรคไวก อ น จงึ เปนทางเดยี วท่ีจะไมทําใหป ลาบูเปนโรค ซ่ึงผเู ล้ยี งตอ งคอยเอาใจใสด แู ลสุขภาพของปลาบูการจัดการท่ีดี ทาํ ใหปลามีสุขภาพสมบูรณแ ขง็ แรงอกี ทัง้ ตอ งหม่ันสังเกตสภาพแวดลอ มโดยรอบของกระชงั เชน คณุ ภาพ นํ้าทางตน นา้ํ อาการเปนโรคของปลาในธรรมชาติ สําหรับโรคพยาธทิ ่พี บในปลาบู แบง เปน 6 ประเภท คือ 1. พยาธิภายนอก 1.1 พยาธิภายนอกท่ีมองเหน็ ดว ยตาเปลา ไดแก - หนอนสมอ พบมากตามซอกเกลด็ ครบี และในชองปาก พยาธิพวกน้จี ะดูดเลอื ดปลาทาํ ให ปลาออ นแอ - เออกาซลิ ัส ดดู เลอื ดตามเหงอื กปลา ถา เกาะนาน ๆ ทําให เหงอื กกรอ น กอ ใหเ กิดปญหากบั ระบบหายใจ - โกลซเิ ดยี เปนตัวออ นของหอย 2 ฝา เกาะตามซีเ่ หงอื ก ทําใหล ดพน้ื ท่ีในการแลกเปลยี่ น ออกซเิ จน 1.2 พยาธภิ ายนอกท่ไี มสามารถมองเหน็ ไดด วยตาเปลา ไดแ ก ทรกิ โคไดนา ฮีนกี ูยา อีพัสไทลสิ ชโิ ลโดเนลลา แดคไทโรจัยลสั อาการปลาบู ทม่ี ี พยาธิเหลา นคี้ อื ลอยหัว เกล็ดหลดุ เหงอื กซดี บางครง้ั พบจดุ

ขาว ๆ ประปรายท่วั ไป 2. พยาธภิ ายใน ไดแ ก พยาธติ วั กลม พยาธิหวั หนาม ทาํ ใหป ลาผอม ไมกินอาหาร 3. เช้อื รา ไดแ ก แซปโปรเลกเนีย ขน้ึ เปน กระจกุ มแี ขนงมากมายบริเวณ ผวิ หนงั ของลาํ ตวั เชือ้ นี้ จะฝงลกึ เขาไปในเน้อื เยอ่ื ทาํ ใหเกลด็ หลุด เกดิ บาดแผลปลาออ นแอ 4. เชอ้ื บคั เตรี ไดแ ก แอโรโมแนสไฮโดรฟลา คอรีนีแบคทเี รียม สเตรปโต- คอคคสั อาการท่ีพบ คือ ทองบวม ตาโปน แผลตามลําตัว เกดิ นา้ํ เหลืองในชอ งทอง ไตบวม เปน ตน สาํ หรับเช้ือแอโรโมแนส ไฮโดรฟล า เปนตัวท่กี อ ใหเ กดิ โรคใน ปลาบูมากกวา ชนดิ อน่ื ๆ 5. มะเร็งตอมนํา้ เหลือง ปลาท่ีปวยเปน โรคนหี้ าก สงั เกตจะพบวาบรเิ วณแผน ปด เหงือกเรม่ิ กาง ออกเน่อื งจากโคนครบี หูบวมพองข้ึนมา คลายกบั กอ นเนอื้ พองออกโดยเฉพาะดา นหนา โคนครบี กอนมะเรง็ ดงั กลา วจะเตบิ โตมีขนาดใหญท าํ ใหแ ผน ปด เหงอื ก กระดูกเหงือกบนครบี หูและบริเวณสวน หวั โรคน้ยี งั ไมมี วธิ กี ารรักษา 6.โรคตับโตปลาที่เปน โรคนีไ้ มม ีความผดิ ปกติตามลกั ษณะภายนอก พบวา เหงอื กซีดกวา ปกติ เนอ่ื งจากเลอื ดจาง ตับโตมีสเี หลืองออ น มาม มีขนาดใหญแ ละเลอื ดออก สาเหตขุ องโรคมาจากการไดรับ อาหารไมถกู สวน การปองกนั รกั ษา การปองกนั ไมใหปลาเปน โรคเปนวธิ ที ด่ี ีท่ีสดุ ซึ่งขน้ึ กับสภาพแวดลอ ม และ ความเอาใจใสข องเกษตรกรผูเลี้ยงปลา การรกั ษาโรคปลา 1. การกําจดั พยาธิภายนอกสามารถกําจัดดว ยสารเคมี ใชฟอรมาลนิ 25 - 50 พพี ีเอ็ม แชว นั ละ 2 ครงั้ ติดตอ กัน 2 - 3 วัน หรือนําปลา ไปแช ฟอรม าลนิ 250 พีพีเอม็ นาน 1 ชวั่ โมง หรอื ใชก รดเกลเซยี ลอะซิ ตคิ 1 ตอ 2,000 แช 30 นาที หรือใชด างทับทิม 3 - 5 พพี เี อ็มแชตลอดไป แตถ า ใช ความเขมขน 10 พพี ีเอม็ แช 30 นาที สว นเมทธลี นี บลู ใชฆ า โปรโตซวั ไดด โี ดยเฉพาะโรคอก๊ิ โดยเตรียมสารละลายทเ่ี ตรยี มไว 1 ซี.ซี. ตอ น้ํา 5 ลติ ร แชนาน 1 วัน ทาํ ซา้ํ ทกุ ๆ 2 วนั จนหาย สวนโปรโตซัวชนดิ อื่น ๆ ใช 3 ซี.ซ.ี ตอนา้ํ 10 ลิตร แช ตลอด 2. กาํ จดั พยาธภิ ายใน ควรใชยาถายพยาธิ เชน ดเี วอรมนิ ผสมในอาหาร0.1 - 0.2 เปอรเซน็ ตของ นาํ้ หนกั อาหาร 3 วันติดตอ กนั 3. การกําจัดเชือ้ ราใชม าลาไคทก รีน 1 - 5 สว นตอ น้ําลานสว นแช 1 ชั่วโมง 3 คร้งั ตดิ ตอกนั 4.การกาํ จัดเชือ้ บคั เตรี การรักษากระทําไดผ ลตอ เม่อื ปลาบตู ดิ เช้อื ระยะเรมิ่ แรกแตถ าปลอ ยไว นานการรกั ษาจะไมคอยไดผล สาํ หรับบคั เตรี สว นใหญใ ชย าปฏิชวี นะ เชน ซลั ฟาเมอราซิน 200 มลิ ลิกรัมตอ น้ําหนกั ปลา 1 กิโลกรมั ผสมอาหารใหก นิ ตดิ ตอกัน 14 วนั อิริโทรมยั ซิน 10 กิโลกรัม ตอ น้าํ หนกั ปลา 100 กิโลกรัม ผสมอาหารใหก นิ ตดิ ตอ กนั 14 วนั คลอแรมฟน ิคอล 5 - 10 กโิ ลกรมั ผสมอาหารใหก นิ ตดิ ตอ กัน 14

วัน คลอแรมฟน ิคอล 5 - 10 กโิ ลกรมั ตออาหารปลา 10 กโิ ลกรัม ตดิ ตอกัน5 - 10 วนั สําหรับคลอแรมฟนคิ อล ถาใชฉ ดี ควรใช 10 - 30 มิลลกิ รมั ตอนํา้ หนกั ปลา 1 กโิ ลกรมั วันละ 1 ครงั้ 3 วัน การรวบรวมลูกปลา เครื่องมือที่ใชใ นการจบั หรอื รวบรวมปลาบใู นธรรมชาติมอี ยหู ลายชนิดดงั น้ี 1.ขาย เปน เครือ่ งมอื ทาํ การประมงที่นิยมใชก ันมากทสี่ ดุ ขนาดของขา ยทน่ี ิยมใชม คี วามยาว 50 - 180 เมตร ลกึ 1.5 เมตร ชอ งตา 2 -14 เซนตเิ มตร ใชขา ยประมาณ 4 ผนื ตอ ชาวประมงหนงึ่ ราย 2.เบด็ ราว เปน เคร่ืองมือทาํ การประมงท่ีพบกนั ทว่ั ไปขนาดตวั เบด็ ตัง้ แตเ บอร 01 - 05 เบอร 8 และเบอร 20 - 24 เบ็ดราว 1 เสน มีตวั เบ็ด 20 - 50 ตวั ชาวประมงบางรายใชเบด็ ประเภทไมม ีเงีย่ ง ทําใหป ลาบู ทจี่ ับไดบ าดเจบ็ นอยมาก 3. สวิง เปนเคร่อื งมอื ขนาดเล็กใชช อ นสตั วนาํ้ ขนาดเลก็ ซ่งึ จะไดป รมิ าณนอยในการทาํ การ ประมงแตล ะครงั้ 4. ลอบ เปน เครือ่ งมอื ทีใ่ ชประกอบเคร่อื งกัน้ เชน เฝอ กก้นั แลวใชล อบวางดัก วิธีน้ปี ลาบูจ ะบอบ ช้าํ หรอื บาดเจบ็ นอยที่สดุ 5. กร่ํา เปน การนําก่งิ ไมแ หงมาสุมกันเปนกองขนาดใหญต ามแหลงน้าํ ปลอยทิง้ ไวใ หป ลาเขามา อาศัยอยู หลังจากน้ันใชอวนลอมแลวเอาก่งิ ไมแหง ออกเพ่ือจับปลา 6. แห เปน เครือ่ งมือจบั สัตวน าํ้ พื้นบา น ขนาดแหทนี่ ิยมใชค วามยาว 5 - 9 ศอก (2.5 - 4.5 เมตร) ขนาดชอ งตา 1.5 - 6.0 เซนตเิ มตร ซง่ึ นิยมใชทําการประมงในชว งฤดนู ้ําลดบรเิ วณแหลงน้ําท่ีนํ้าแหง 7. ยอยก เปนเครอ่ื งมือจบั ปลาทีน่ ิยมใชใ นจังหวดั อุบลราชธานเี ปน ยอขนาดใหญต ิดอยกู บั แพ ลอยตามกระแสน้ํา ใชว างจมลงในแหลง น้าํ เปนเวลานาน ๆ หรอื ใชแสงไฟลอ ปลาในเวลากลางคืนแลว ยกยอ ขนึ้ เพอื่ จับปลา วธิ ีนี้ปลาปลาบูจ ะบอบชาํ้ นอ ย การตลาด ปจจุบนั ปลาบนู บั วันมีราคาแพงข้ึน เนอ่ื งจากพนั ธุปลาท่ีนําไปเล้ียงหายากและสภาพแวดลอ ม เปล่ียนไปแตค วามนิยมบรโิ ภคปลาบมู ปี ริมาณสูง ข้ึน โดยสงเปน สินคาออกไปยังประเทศฮองกง สงิ คโปร และมาเลเซีย ซ่งึ ผูบริโภคเชื่อวา มีคุณคา ทางอาหารสงู ทําใหร างกายแขง็ แรงและเพมิ่ พลงั ในสมยั กอน นนั้ มี การเลย้ี งปลาบูใ นกระชงั กันมากเชน จังหวดั นครสวรรค อทุ ยั ธานี ชัยนาท สงิ หบรุ ี อางทอง พระนครศร-ี อยธุ ยา และปทมุ ธานี ตอ มาการเลีย้ งปลาบูประ สบปญหาปลาเปน โรค และตายมากจาํ นวนผูเล้ยี งและผลผลิต ลดลง ราคาปลาจงึ สงู ข้นึ ตามกลไกตลาด ราคาและผลตอบแทน ราคาพนั ธุป ลาบูทเี่ กษตรกรซ้ือมาเลีย้ งในกระชังตงั้ แตป  2525 - 2537 ราคากิโลกรมั ละ 30 - 160 บาท สว นราคาปลาบูเพอื่ บรโิ ภคมีราคา ตัง้ แต 200 - 350 บาทตอกโิ ลกรัม

การขนสง ลาํ เลยี ง การขนสง ลําเลยี งเรมิ่ ตง้ั แตการขนสง ลูกพันธุปลาบขู นาดเลก็ 1 - 2 นิว้ ไปยังผูเลยี้ ง และการ ลาํ เลียงปลาบขู นาดตลาดไปยังกลุมผูบรโิ ภค วธิ ี การลาํ เลียงมี 2 วธิ ี 1. การลําเลียงโดยใชถ ุงพลาสตกิ อดั ออกซิเจน เหมาะสาํ หรบั ใชล ําเลียงลกู ปลาบขู นาดเล็ก 1 - 2 นิ้ว และปลาบูขนาด 50 - 250 กรมั วิธีน้เี ปน การลําเลียงทเี่ หมาะสมท่ีสดุ ไมทําปลาบอบชา้ํ ปกติใช ถุงพลาสตกิ ขนาด 20 x 30 เซนตเิ มตร ใสน้าํ สูงประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร ถงุ ปลาแตละถงุ สามารถบรรจุ ลูกปลาขนาด 1 - 2 นวิ้ จาํ นวน 500 - 700 ตัว เมือ่ ใสพ ันธปุ ลาแลวอัดดว ยออกซเิ จนบรสิ ทุ ธ์ริ ัดปากถุง สําหรับ พันธุป ลาท่ีจับไดจ ากธรรมชาติ ควรบรรจุถุงละ5 - 20 ตัว แลวแตขนาดพนั ธุปลา ปรมิ าณน้ําในถงุ พลาสติก ลาํ เลียงไมควรใสมากนักทาํ ใหมวลนา้ํ ในถงุ มกี ารโยนตวั ไปมามากทําใหปลาถกู กระแทกไปมาบอบชา้ํ มาก ข้นึ สําหรบั การลําเลียงพันธุปลาจากธรรมชาตไิ ปเลย้ี งในกระชงั ควรบรรจุถงุ พลาสติกอัดออกซเิ จนดีกวา ลําเลยี งดว ยถาดสงั กะสี 2. การลาํ เลียงโดยใชถาดสงั กะสี เหมาะสําหรบั ใชลําเลียงปลาบขู นาดตลาดไปขายพอ คา คนกลาง หรือภัตตาคาร ขนาดถาดลําเลยี งมี ความกวาง 45 เซนตเิ มตรยาว 70 เซนตเิ มตร สูง 9 เซนติเมตร ดา นขางตาม ความยาวของถาดมรี ูกลมขนาด 1.5 - 2.0 เซนติเมตร เรียงเปนแถวเดย่ี ว สวน ดา นกวา งมหี หู ว้ิ ทั้ง 2 ขา งถาดทํา ดว ยสงั กะสีและมีฝาครอบถาด ภายในมแี ผนสงั กะสีกน้ั กลาง แบงออกเปน 2 ชอง วิธีการลาํ เลยี ง นําปลาบมู าวางเรียงกันเปน แถวเพยี งชั้นเดียวจนเตม็ ถาดแลว เอานํา้ พรมใหท ว่ั และ ใสน ํา้ พอทวมทอ งปลาเลก็ นอ ยจากนัน้ ปด ฝาถา ปลามจี าํ นวนมากกล็ ําเลยี งถาดข้ึนรถซอนเปนชนั้ ๆ วธิ ีนี้ เหมาะสําหรับขนปลาบขู นาดตลาดไปขายเพราะขนไดค ร้ังละจํานวนมาก ประกอบกบั ปลาบูเปน ปลาที่ อดทนมากพอสมควรเมื่อลําเลียงไปถึงปลายทางแลวถูกนาํ ไปพกั ในบอปูนแสดงไวใ หผูบรโิ ภคไดเลือกซอ้ื หรือใสภาชนะอ่ืน ปลาบกู ็ยงั สามารถมีชวี ติ ได นานพอสมควร การใชป ระโยชน ปลาบสู ามารถเลยี้ งรวมกบั ปลาอื่น เพ่อื เปน ตวั ควบคมุ ประชากรปลาเชน การปลอยปลาในบอปลา นลิ เพอื่ ควบคมุ ประชากรปลานิลไมใ หม มี าก เกนิ ไปมฉิ ะนนั้ ปลานิลจะเติบโตชา และไมไดขนาดตามท่ี ตองการ ทัง้ ยังไดผลผลติ ปลาบูเปน รายไดเสริมอีกทางหนึ่ง ปลาบยู งั สามารถเลีย้ งเปน ปลาสวยงาม ไดเ ชน ปลาบทู อง แตสวนใหญป ลาบูทรายนยิ มเลยี้ งเพ่ือการบรโิ ภคเพราะมีเนอ้ื ขาวสะอาดนมุ อรอย รสชาตดิ ี สามารถนําไปแปรรปู เปนอาหารไดห ลายชนดิ ซึ่งชาวจนี นิยมบริโภคโดยมีความเชือ่ วา กินแลวชว ยบาํ รงุ กาํ ลงั รา งกายใหแ ข็งแรงและตองบรโิ ภคปลาบูเปน ๆ สด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook