Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore planile

planile

Published by นุสราสินี ณ พัทลุง, 2019-10-18 04:40:08

Description: planile

Search

Read the Text Version

การเลี้ยงปลานลิ คํานํา ปลานิล (Tilapia nilotica ) เปนปลานาํ้ จดื ชนดิ หน่งึ ซ่ึงมคี ณุ คาทางเศรษฐกิจนับตงั้ แตป 2508 เปน ตน มา สามารถเลี้ยงไดในทกุ สภาพ การเพาะเลย้ี งระยะเวลา 1ป มีอตั ราการเตบิ โต ถงึ ขนาด 500 กรัม รสชาติ ดมี ีผูน ยิ มบริโภคกันอยางกวา งขวาง สว นขนาดปลานิลทต่ี ลาดตองการจะมีน้าํ หนัก ตวั ละ 200-300 กรมั จาก คุณสมบตั ิของปลานลิ ซ่ึงเลีย้ งงาย เจริญเตบิ โตเรว็ แตปจ จบุ ัน ปลานิลพันธุแ ทค อ นขางจะหายาก กรมประมง จึงได ดําเนนิ การปรบั ปรุงพนั ธุปลา ใหไดป ลานิลท่มี ลี ักษณะสายพนั ธดุ ี อาทิ การเจรญิ เติบโต ปริมาณความ ดกของไข ผลผลิตและ ความตานทานโรค เปนตน ดงั นั้น ผูเลีย้ งปลานลิ จะไดม คี วามมัน่ ใจในการเล้ียงปลา นลิ เพอื่ เพิม่ ผลผลติ สตั วนา้ํ ใหเพยี งพอตอการบริโภคตอไป ความเปนมา ตามทีพ่ ระจกั รพรรดิอากฮิ โิ ต เม่อื ครงั้ ดํารงพระอิสรยิ ยศมกุฎราชกุมาร แหงประเทศญปี่ นุ ทรง จัดสง ปลานลิ จํานวน 50 ตวั ความยาว เฉลยี่ ตวั ละประมาณ 9 เซนตเิ มตร นาํ้ หนกั ประมาณ14 กรมั มา ทลู เกลา ฯ ถวายแดพ ระบาทสมเด็จพระเจาอยหู วั เม่อื วนั ที่ 25 มีนาคม2508 น้ัน ในระยะแรก ไดท รงพระ กรุณาโปรดเกลาฯ ใหปลอยลงเล้ียงในบอ ดนิ เนอื้ ทีป่ ระมาณ 10 ตารางเมตร ในบริเวณสวนจิตรลดา พระราชวงั ดุสติ เมื่อเลี้ยงมาได 5 เดอื นเศษ ปรากฏวา มีลกู ปลาเกิดข้นึ เปน จาํ นวนมาก จึงไดท รงพระกรุณา โปรดเกลาฯ ใหเจาหนา ท่ีสวนหลวงขุดบอข้นึ ใหมอีก6 บอ มเี นื้อท่ีเฉลี่ยบอ ละประมาณ 70 ตารางเมตร ซึ่ง ในโอกาสน้ีพระบาทสมเดจ็ พระเจาอยูหวั ไดทรงยายพนั ธุปลาดว ยพระองคเอง จากบอ เดิมไปปลอ ยในบอ ใหมทง้ั 6 บอ เมอื่ วนั ที่ 1 กนั ยายน 2508 ตอจากน้นั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลาฯ ใหกรมประมง จัดสง เจาหนาทว่ี ิชาการมาตรวจสอบการเจรญิ เตบิ โตเปนประจาํ ทกุ เดอื น โดยทปี่ ลาชนดิ น้ีเปน ปลาจําพวกกินพืช เลีย้ งงา ย มีรสดี ออกลูกดก เจริญเติบโตไดรวดเรว็ ใน เวลา 1ป จะมนี า้ํ หนกั ประมาณครง่ึ กิโลกรมั และมีความยาวประมาณ1 ฟตุ จึงไดมพี ระราชประสงคท ่ีจะให ปลานี้แพรขยายพนั ธุ อันจะเปน ประโยชนแ กพ สกนิกรของพระองคต อ ไป ดงั น้นั เมื่อวนั ที่ 17 มีนาคม 2509 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ พระราชทานชอื่ ปลาชนดิ นี้วา “ปลานลิ ” และไดพ ระราชทาน ปลานิลขนาดยาว 3-5 เซนติเมตร จํานวน 10,000 ตวั ใหแ กกรมประมงนําไปเพาะเล้ียงขยายพนั ธุ ที่แผนก

ทดลองแลเพาะเลย้ี ง ในบรเิ วณเกษตรกลาง บางเขน และทส่ี ถานปี ระมงตางๆ ทว่ั พระราช อาณาจักรอีกรวม 15 แหง เพ่ือดาํ เนนิ การเพาะเลย้ี งขยายพนั ธพุ รอ มกัน ซ่งึ เมือ่ ปลานิลแพรขยายพนั ธุอ อกไปไดมากเพยี งพอ แลว จงึ ไดแ จกจา ยใหแกราษฎร นาํ ไปเพาะเลี้ยงตามความตอ งการตอไป รูปรางลักษณะ ปลานลิ เปนปลานํ้าจดื ชนดิ หน่งึ อยูในตระกลู ชคิ ลดิ ี (Cichlidae) มีถ่ินกาํ เนดิ เดมิ อยใู นทวีป แอฟริกา พบทว่ั ไปตามหนอง บงึ และทะเล สาบ ในประเทศซดู าน ยูกนั ดา แทนแกนยกี า โดยทีป่ ลาชนิดนี้ เจริญเติบโตเร็วและเลย้ี งงา ย เหมาะสมทจ่ี ะนํามาเพาะเลย้ี งในบอไดเ ปน อยางดจี งึ ไดรบั ความ นยิ มและเลี้ยง กันอยา งแพรห ลายในภาคพนื้ เอเซีย แมแตใ นสหรฐั อเมรกิ ากน็ ยิ มเลี้ยงปลาชนดิ น้ี รูปรางลกั ษณะของปลานลิ คลายกบั ปลาหมอเทศ แตลกั ษณะ พเิ ศษของปลานลิ มดี งั นค้ี ือ ริมฝปากบนและลางเสมอกัน ทบี่ ริเวณแกม มี เกลด็ 4 แถว ตามลาํ ตวั มีลายพาดขวางจํานวน9-10 แถบ นอกจากนีล้ กั ษณะทว่ั ไปมี ดังนี้ ครบี หลงั มเี พียง 1 ครีบ ประกอบดวยกานครีบแข็งและกา นครบี ออนเปน จํานวนมาก ครบี กน ประกอบดว ยกา นครีบแขง็ และ ออน เชน กนั มเี กลด็ ตามแนว เสนขา งตัว 33 เกล็ด ลาํ ตัวมสี เี ขยี วปนนา้ํ ตาล ตรงกลางเกลด็ มีสีเขม ทีก่ ระดกู แกม มีมจี ดุ สีเขมอยจู ดุ หนึ่ง บรเิ วณสว นออนของครีบหลงั ครบี กน และครบี หาง นัน้ จะมจี ุดสขี าวและสีดํา ตัดขวางแลดูคลา ยลายขา วตอกอยูโดยท่ัวไป ในประเทศไทยพบปลานิลสเี หลอื งขาว-สมซ่ึงเปน การกลายพันธุจ ากปลานลิ สปี กติหรือเปนการ ผสมขา มพนั ธุระหวางปลานลิ กบั ปลาหมอเทศ ซึง่ นอกจากสภี ายนอกทแ่ี ตกตางจากปลานลิ ธรรมดาแลว ภายในตวั ปลาท่ผี นังชอ งทองยงั เปน สีขาวเงนิ คลายผนังชอ งทองของปลากนิ เน้ือ และสขี องเน้ือปลา เปน สี ขาวชมพูคลา ยปลากะพงแดงซง่ึ เปนทน่ี ยิ มรบั ประทานในตา งประเทศ มีช่ือเรียกเปนทรี่ ูจกั กันวา “ปลานิล แดง” คณุ สมบัตแิ ละนสิ ยั ปลานิล มนี ิสยั ชอบอยูรวมกนั เปน ฝงู (ยกเวน เวลาสบื พันธ)ุ มคี วามอดทนและปรบั ตวั เขา กบั สภาพแวดลอ มไดด ี จากการศกึ ษาพบวาปลานลิ ทนตอ ความเค็มไดถ ึง 20 สว นในพัน ทนตอคาความเปน กรด-ดา ง (pH) ไดดใี นชวง 6.5-8.3 และสามารถทนตอ อณุ หภูมิไดถึง 40 องศาเซลเซยี ส แตใ นอณุ หภมู ทิ ี่ ตํา่ กวา 10 องศาเซลเซียส พบวาปลานิลปรับตัวและเจริญเติบโตไดไ มด นี ัก ทัง้ นี้เปน เพราะถน่ิ กาํ เนดิ เดิม ของปลาชนิดน้ี อยใู นเขตรอ น การสืบพนั ธุ ลักษณะ ตามปกติแลว รปู รา งภายนอกของปลานิล ตัวผแู ละตวั เมีย จะมีลกั ษณะคลา ยคลึงกัน มาก แตจะสังเกตลกั ษณะเพศไดก ็โดยการดู อวัยวะเพศที่บริเวณใกลก บั ชองทวาร โดยตวั ผูจ ะมอี วยั วะเพศใน ลักษณะเรยี วราวยืน่ ออกมา แตสาํ หรับตวั เมยี มีลักษณะเปนรคู อ นขางใหญและกลมขนาดปลา ทจี่ ะดูเพศได

ชดั เจนนั้นตองเปน ปลาทม่ี ีขนาดยาวตง้ั แต 10 เซนติเมตรขน้ึ ไป สําหรบั ปลาทมี่ ขี นาดโตเต็มท่ีนน้ั เราจะ สงั เกตเพศไดอ กี วธิ หี นงึ่ ดวย การดูสที ี่ ลําตัว ซึ่งปลาตัวผูท ใี่ ตคางและลาํ ตวั จะมสี ีเขม ตางกับตวั เมยี ย่ิงเมื่อถงึ ฤดูผสมพันธุสีจะยิ่งเขมข้นึ การผสมพนั ธุและวางไข ปลานลิ สามารถผสมพนั ธุไดตลอดป โดยใชเ วลา 2-3 เดอื น/คร้งั แตถ า อาหารเพยี งพอและเหมาะสมใน ระยะเวลา 1 ป จะผสมพันธไุ ด 5-6 ครั้ง ขนาดอายุและชว งการสืบพันธุ ของปลาแตละตัวจะแตกตา งกันไปตามสภาพแวดลอ ม และสภาพทางสรีรวิทยาของ ปลาเอง การววิ ฒั นาการ ของรงั ไขและถงุ นํ้าเช้ือของปลานลิ พบวาปลานลิ จะมีไขแ ละนํ้าเช้อื เมอื่ มีความยาว6.5 ซม. โดยปกติปลานลิ ท่ยี งั โตไมไ ดข นาดผสมพันธุ หุ รอื สภาพแวดลอ มไมเหมาะสม เพอ่ื การวางไข ปลาจะรวมกนั อยูเปน ฝูง แตภ ายหลงั ท่ีปลามี ขนาดทจี่ ะสบื พันธไุ ด ปลาตวั ผจู ะแยกออกจากฝูงแลว เรม่ิ สรา ง รงั โดยเลอื กเอาบรเิ วณเชงิ ลาดหรอื กนบอ ทมี่ รี ะดบั นํ้าลึกระหวา ง 0.5-1 เมตร วธิ กี ารสรางรัง นนั้ ปลาจะปกหัว ลงโดยที่ตัวของมันอยใู นระดบั ตงั้ ฉากกับพน้ื ดินแลว ใชปากพรอมกับการเคลื่อนไหวของลาํ ตัวทเ่ี ขีย่ ดิน ตะกอนออก จากน้นั จะอมดนิ ตะกอน งบั เศษส่งิ ของตา ง ๆ ออกไปท้งิ นอกรงั ทําเชน น้ีจนกวาจะไดร งั ท่ีมี ลักษณะคอ นขา งกลม เสน ผาศูนยกลางประมาณ 20-35ซม. ลกึ ประมาณ 3-6 ซม. ความ กวา งและลึกของรังไข ขึน้ อยกู ับขนาดของพอปลา หลงั จากสราง รงั เสร็จเรยี บรอยแลว มนั พยายามจะไลปลาตัวอนื่ ๆ ใหอ อกไป นอกรศั มีของรังไขป ระมาณ 2-3 เมตร ขณะเดยี วกนั พอ ปลาทส่ี รางรงั จะแผค รีบหลงั และอา ปากกวาง ในขณะทมี่ ปี ลาตวั เมยี วา ยนา้ํ เขา มาใกล ๆ รัง และเม่อื เลอื กตวั เมยี ไดถกู ใจแลวกจ็ ะ แสดงอาการจับคโู ดยวา ย นํ้าเคลา คกู นั ไป โดยใชห างดดี และกัดกัน เบา ๆ การเคลา เคลียดงั กลา วใชเวลาไมน านนัก ปลาตัวผกู ็จะใช บรเิ วณหนา ผากดุน ท่ใี ต ทองของตัวเมียเพอื่ เปนการกระตนุ เรงเราใหต วั เมียวางไข ซง่ึ ตัวเมยี จะวางไขค ร้งั ละ 10-15 ฟอง ปริมาณไขท่วี างรวมกันแตล ะครัง้ มปี ระมาณ 50-600 ฟอง ท้งั น้ขี ้นึ อยูกบั ขนาดของแมปลาเมือ่ ปลาวางไขแตล ะครง้ั ปลาตัวผูจะวายนํา้ ไปเหนอื ไขพ รอมกบั ปลอ ยน้ําเชอื้ ลงไป ทาํ เชน นี้จนกวา การผสมพันธุ แลวเสร็จ โดยใชเ วลา 1-2ช่วั โมง ปลาตัวเมียเกบ็ ไขทไี่ ดรบั การผสมแลว อมไวใ นปากและวายออกจากรงั สว นปลาตัวผกู ็จะคอยหาโอกาส เคลาเคลียกบั ปลาตัวเมยี อนื่ ตอ ไป การฟกไข ไขป ลาทีอ่ มไวด วยปลาตัวเมียจะวิวฒั นาการขน้ึ ตามลาํ ดับโดยแมปลาจะขยบั ปาก ใหนา้ํ ไหลเขาออกในชองปากอยเู สมอ เพ่ือ ชวยใหไ ขที่อมไวไดร บั น้ําทีส่ ะอาด ทง้ั ยงั เปน การปอ งกนั ศัตรทู ่ี จะมากนิ ไข ระยะเวลาท่ปี ลาตวั เมยี ใชฟ ก ไขแตกตา งกันตามอณุ หภมู ขิ องน้าํ โดยในน้าํ ท่ีมี อุณหภมู ิ 27 องศา เซลเซียส ไขจ ะววิ ฒั นาการเปน ลูกปลาวยั ออ นภายใน 8 วนั ซ่งึ ในระยะเวลาดงั กลาวน้ีถุงอาหารยังไมยุบ และ จะยบุ เม่ือลกู ปลามีอายุครบ 13-14 วัน นบั จากวันทแ่ี มปลาวางไข ในชวงระยะเวลาท่ลี กู ปลาฟกออกเปนตวั ใหม ๆ ลกู ปลานิลวัยออ นจะเกาะรวมตัวกนั เปน กลุม โดยวายวนเวยี นอยบู ริเวณ หวั ของแมป ลา และเขาไป หลบซอนอยูในชองปากเมอื่ มีภัยหรอื ถูกรบกวนโดยปลานิลดว ยกันเอง เมือ่ ถงุ อาหารยบุ ลง ลูกปลานลิ จะเริ่ม กนิ อาหารจําพวกพชื และ ไรนาํ้ ขนาดเลก็ ได และหลงั จาก 3 สปั ดาหไปแลว ลูกปลากจ็ ะกระจายแตกฝงู ไปหา กนิ เล้ียงตวั เองไดโดยลําพงั

การเพาะพันธุปลานลิ การเพาะพันธุป ลานิลใหไดผ ลดีและมีประสทิ ธิภาพ ตอ งไดร ับการเอาใจใสและมีการปฏบิ ัตใิ น ดานตา งๆ เชน การเตรียมบอการเลย้ี งพอ แมพ ันธุ การตรวจสอบลูกปลา และการอนบุ าลลูกปลา สําหรบั การ เพาะปลานลิ อาจทําไดทงั้ ในบอ ดนิ และบอปูนซเี มนต และ กระชังไนลอ นตาถี่ ดังวธิ กี ารตอ ไปน้ี การเตรียมบอเพาะพันธุ บอ ดิน บอเพาะปลานลิ ควรเปน บอ รูปส่เี หล่ยี มผืนผา มีเนือ้ ท่ีตั้งแต 50-1600ตารางเมตร สามารถ เก็บกักนํา้ ไดระดบั สงู 1 เมตร บอควรมี เชงิ ลาดตามความเหมาะสม เพอ่ื ปองกนั ดนิ พงั ทลาย และมชี านบอ กวา ง 1-2 เมตร ถา เปนบอ เกา กค็ วรวดิ นํา้ และสาดเลนขึน้ ตกแตงภายในบอใหดนิ แนน ใส โลต นิ๊ กาํ จัดศตั รู ของปลาอัตราสว นใชโ ลต นิ๊ แหง 1 กก./ปรมิ าตรของนา้ํ 100 ลูกบาศกเ มตร โรยปนู ขาวใหทว่ั บอ 1 กก./พื้นที่ บอ 10 ตรม. ใสปยุ คอกแหง 300 กก./ไร ตากบอ ทง้ิ ไวป ระมาณ 2-3 วนั จงึ เปด หรือสบู นาํ้ เขาบอผา นผากรอง หรอื ตะแกรงตาถ่ใี หม รี ะดับสงู ประมาณ 1 เมตร การใชบ อ ดินเพาะปลานลิ จะมปี ระสทิ ธภิ าพดกี วา วธิ ีอน่ื เพราะเปนบอทม่ี ีลักษณะคลา ยคลงึ ตามธรรมชาติ และการผลิตลกู ปลานิลจากบอ ดนิ จะไดผ ลผลิตสูง ตนทนุ ตา่ํ กวา วธิ ีอืน่ บอปนู ซีเมนต กส็ ามารถใชผลิตลูกปลานลิ ได รูปรางของบอจะเปน สีเ่ หลีย่ มผนื ผา หรือรปู กลมก็ ได มคี วามลกึ ประมาณ 1 เมตรพนื้ ท่ผี วิ นาํ้ ตงั้ แต 10 ตารางเมตร ขึ้นทําความสะอาดบอและเตมิ นํ้าทกี่ รองดวย ผา ไนลอนหรอื มุงลวดตาถี่ ใหมีระดับนํ้าสูงประมาณ 80 ซม. ถา ใชเครื่องเปาลมชว ยเพิ่ม ออกซิเจนในนํ้า จะ ทําใหการเพาะปลานลิ ดวยวธิ ีนีไ้ ดผ ลมากขน้ึ อนง่ึ การเพาะปลานิลดวยบอ ซเี มนต ถาจะใหไ ดล กู ปลามากก็ ตอ งใชบอขนาดใหญ ซง่ึ ตอ งเสีย คาใชจ ายในการลงทนุ สูง กระชงั ไนลอนตาถี่ ขนาดของกระชงั ทใ่ี ชป ระมาณ ๕ x ๘ x ๒ เมตร วางกระชงั ในบอดนิ หรอื ใน หนองบงึ อา งเกบ็ นํ้า ใหพ ้นื กระชังอยู ตา่ํ กวา ระดบั นาํ้ ประมาณ 1 เมตร ใชหลกั ไม 4 หลัก ผูกตรงมุม4 มมุ ยึดปากและพน้ื กระชงั ใหแนน เพ่อื ใหกระชงั ขึงตงึ การเพาะปลานลิ ดว ยวิธนี ้ีมีความ เหมาะสมทจี่ ะใชผ ลิตลกู ปลาในกรณซี ง่ึ เกษตรกรไมม พี ้นื ที่ดนิ ก็สามารถจะเล้ียงปลาได เชน เลยี้ งในอา งเกบ็ น้าํ หนองบึงและลาํ นํา้ ตาง ๆ เปนตน การคดั เลือกพอ แมพนั ธุ การคดั เลือกพอ แมปลานิล จากการสังเกตจากลักษณะภายนอกของปลาทสี่ มบูรณปราศจากเชอ้ื โรคและบาดแผล สําหรับพอ แมปลาทีพ่ รอม จะวางไขน นั้ สังเกตไดจ ากอวัยวะเพศถา เปน ปลาตัวเมยี และมสี ี ชมพแู ดงเรอ่ื สว นปลาตวั ผกู ็สงั เกตไดจ ากสขี องตัวปลาทเี่ ขม สดโดยเปรียบเทยี บกบั ปลานลิ ตวั ผอู ืน่ ๆ ทจ่ี บั ขึ้นมา ขนาดของปลาตัวผูและตวั เมยี ควรมขี นาดไลเ ลี่ยกนั คอื มีความยาวตั้งแต 15-25 เซนติเมตร นาํ้ หนัก ต้ังแต 150-200 กรัม อัตราสว นทปี่ ลอยพอแมป ลาลงเพาะ ปรมิ าณพอแมปลาท่ีจะนําไปปลอ ยในบอเพาะ 1 ตัว/4 ตารางเมตร หรือไรล ะจาํ นวน 400 ตัว ควร ปลอยในอัตราสวนพอปลา2 ตวั /แมปลา 3 ตัว เนอื่ งจากไดสังเกตจากพฤตกิ รรมในการผสมพันธุของปลา

ชนิดนี้ ปลาตวั ผมู ีสมรรถภาพทจี่ ะผสมพันธกุ บั ปลาตวั เมยี อ่ืน ๆ ไดอ กี ดังนนั้ การเพ่มิ อตั รา สวนของปลาตวั เมียใหมากขึ้นคาดวา จะไดลกู ปลานิลเพมิ่ ข้นึ สวนการเพาะปลานลิ ในกระชงั ใชอ ตั ราสวนของปลา 6 ตัว/ ตารางเมตรโดยใชต วั ผู 1ตวั /ตัวเมยี 3-5 ตวั การเพาะปลานิลแตละรุนจะใชเวลาประมาณ 2 เดอื น จงึ เปลยี่ น พอ แมป ลารุน ใหมต อ ไป การใหอาหารและปุยในบอเพาะพนั ธุ การเลยี้ งปลานิลมีความจําเปน ที่จะตอ งใหอาหารสมทบ หรอื อาหารผสม ไดแ ก ปลายขาว สาหราย ราํ ละเอยี ด ในอัตราสวน1:2:3 โดยให อาหารดงั กลาวแกพ อแมป ลานิลประมาณ ๒% ของนา้ํ หนกั ตวั ทงั้ นีเ้ พือ่ ใหป ลานลิ ใชเ ปน พลงั งาน ซ่ึงตองใชมากกวา ในชว งการผสมพนั ธุสว นปุยคอกแหง ก็ ตองใสใ น อัตราสวนประมาณ 100-200 กก./ไร/ เดือน ทัง้ น้ีเพอ่ื เพิ่มพนู อาหารธรรมชาตใิ นบอไดแ ก พชื นาํ้ ขนาดเลก็ ๆ ไรน ้ําและตวั ออ น อนั จะเปน ประโยชน ตอ ลกู ปลานิลวัยออนทห่ี ลังจากถงุ อาหารยบุ ตวั ลง และจะตอ ง ดํารงชีวติ อยใู นบอเพาะดงั กลาวประมาณ 1สปั ดาห กอนท่ีจะยายไปเลยี้ งในบออนบุ าล ถาในบอ ขาดอาหาร ธรรมชาตดิ งั กลาวผลผลติ ลูกปลานิลจะไดน อย เพราะขาดอาหารท่จี ําเปน เบ้ืองตน หลงั จากถุงอาหารไดยุบตวั ลงใหม ๆ กอ นทีล่ กู ปลานิลจะสามารถ กินอาหารสมทบอ่ืน ๆ ได อาหารสมทบทห่ี าไดงา ยคอื ราํ ขาว ซ่ึงควร ปรับปรงุ คุณภาพใหด ยี ิ่งขึ้นโดยใชป ลาปน กากถว่ั และวติ ามนิ เปนสวนผสม นอกจากน้ี แหนเปด และ สาหรา ยหลายชนดิ ก็สามารถจะใชเปน อาหารเสรมิ แกพ อแมปลานิลไดเปนอยางดี ในกรณีทใ่ี ชก ระชงั ไนลอ น ตาถเ่ี พาะพนั ธปุ ลานิลก็ควรให อาหาร สมทบแกพ อแมป ลาอยา งเดียว การอนบุ าลลกู ปลานลิ บอ ดนิ บอ ดนิ ควรมีขนาดประมาณ 200 ตรม. ถาเปนบอรูปสี่เหล่ียมผืนผาจะสะดวกในการจบั ยายลกู ปลา นา้ํ ในบอ ควรมรี ะดบั ความลกึ ประมาณ 1 เมตร บออนบุ าลปลานลิ ควรเตรยี มไวใ หม จี ํานวนมาก พอ เพอ่ื ใหเ ลยี้ งลูกปลาขนาดเดียวกนั ทย่ี ายมาจากบอเพาะ การเตรียมบอ อนุบาลควรจดั การ ลว งหนา ประมาณ 1 สัปดาห กอ นทนี่ ําลกู ปลกู มาเล้ยี ง การเตรยี มบอ อนบุ าลนัน้ ปฏิบัตวิ ิธีเดยี วกนั กบั การเตรยี มบอท่ใี ชเ พาะปลา นลิ บอขนาดดงั กลา วนี้จะใช อนบุ าลลกู ปลานิลขนาด 1-2 ซม. ไดครั้งละประมาณ 50,000 ตวั การอนบุ าลลกู ปลานิล นอกจากใชปยุ เพาะอาหารธรรมชาตแิ ลว จาํ เปน ตอ งใชอาหารสมทบ เชน รําละเอยี ด กากถวั่ อกี วัน ละ 2 ครัง้ พรอมทงั้ สังเกตความอุดมสมบรู ณของอาหารธรรมชาติ จากสีของนํ้าซง่ึ มสี ีออน หรอื จะใชถ งุ ลาก แพลงกต อนตรวจ ดูปรมิ าณของไรนาํ้ กไ็ ด ถามีปรมิ าณนอยก็ควรเตมิ ปยุ คอกลงเสรมิ ในชว ง ระยะเวลา 5-6 สปั ดาห ลกู ปลาจะโตมีขนาด 3-5 ซม. ซึ่งเปน ขนาดทีเ่ หมาะสมจะ นาํ ไปเลี้ยงเปน ปลาขนาดใหญน าขา วใช เปน บอ อนุบาล นาขา วทใ่ี ชเปนบออนบุ าล นาขา วที่ไดเสริมคนั ดนิ ใหแ นน เพ่ือเก็บกกั น้าํ ใหม ีระดบั สงู ประมาณ 50 ซม.โดยใชด ินทขี่ ุดขึน้ โดยรอบคนั นา ไปเสรมิ ซึ่งจะมคี ูขนาดเลก็ โดยรอบพรอ มมีบอ ขนาดเล็กประมาณ 2x5 เมตร ลึก 1 เมตร ในดา นคันนาทลี่ าดเอยี งตาํ่ สดุ เปน ทรี่ วบรวมลูกปลาขณะจับ พืน้ ทน่ี า ดังกลา วก็ สามารถจะเปน นาอนุบาลลกู ปลานิลไดห ลงั จากปกดาํ ขา ว 10 วัน หรือภายหลงั ที่เกบ็ เกย่ี วขา วแลว สว นการ

ใหอาหาร และปุยก็ปฏิบตั ิเชนเดียว กบั บอ อนุบาล การปองกันศตั รูของปลานิลในนาขา วควรใชอ วนไนลอ น ตาถส่ี ูงประมาณ ๑ เมตร ทาํ เปนรวั้ ลอมรอบเพอ่ื ปอ งกันศัตรูของปลาจําพวก กบ งู เปน ตน บอ ซีเมนต บออนบุ าลลูกปลานลิ และบอเพาะปลานิลจะใชข นาด เดียวกันก็ได ซ่งึ จะสามารถ ใชบ ออนุบาลลกู ปลาวัยออ นไดตารางเมตรละ ประมาณ 300 ตวั ในเวลา 4-6 สปั ดาห โดยใชเ ครือ่ งเปาลมชว ย และเปลย่ี นถา ยนา้ํ ประมาณ ครึง่ บอ สปั ดาหละครง้ั ใหอาหารสมทบวนั ละ 3 เวลา เม่ือลกู ปลาท่เี ลี้ยงโตขึน้ มี ขนาด ๓-๕ ซม. กระชังไนลอนตาถี่ ขนาด3x3x2 เมตร ซึ่งสามารถจะใชอนบุ าลลกู ปลาวัยออนไดจาํ นวนคร้งั ละ 3,000-5000 ตัว โดยใหไขแ ดงตม บด ใหล ะเอยี ด วันละ 3-4 คร้ัง หลงั จากถุงอาหารของลกู ปลายุบตวั ลง ใหม ๆ เปนเวลาประมาณ 1 สัปดาห หลังจากน้ันจึงใหรําละเอียด 3 สว น ผสมกบั ปลา ปน บดใหละเอียดอตั รา 1 สว น ติดตอ กันเปนระยะเวลาประมาณ 4-5 สปั ดาห ลกู ปลาจะโตขน้ึ มีขนาด 3-5 ซม. ซ่ึงสามารถนําไปเล้ยี ง ใหเ ปน ปลาขนาดใหญ หรอื จําหนา ย การอนุบาลลกู ปลานิลอาจจะใชบ อ เพาะพนั ธุอนบุ าลเลยก็ได เพอื่ เปน การประหยัด โดยซอนเอาพอ แมพ ันธุอ อกไปเลย้ี งไวต างหาก การเลย้ี ง ปลานลิ เปน ปลาทีป่ ระชาชนนิยมเล้ยี งกันมากชนดิ หนงึ่ ทงั้ ในรปู แบบการคา และเล้ยี งไวบริโภค ในครัวเรอื น ท้งั นเี้ นือ่ งจากปลานลิ เปนปลา ท่ีเล้ียงงาย กนิ อาหารไดแทบทกุ ชนดิ เนอื้ มีรสชาตดิ ีตลาดมคี วาม ตอ งการสูง สวนในเร่อื งราคาทจ่ี าํ หนา ยนน้ั คอ นขางตาํ่ เมื่อเปรยี บเทียบกับปลาชนิดอืน่ ๆ เชน ปลาตะเพยี น ขาว ปลาสวาย ฯลฯ ดงั นน้ั การเล้ียงปลาชนิดน้เี พ่อื ผลิตจาํ หนา ย จงึ มีความจําเปนที่ จะตอ งพจิ ารณาในดา น อาหารปลาท่จี ะนํามาใชเ ลย้ี งเปน หลกั กลา วคอื ตองเปนอาหารทีห่ าไดง า ย ราคาต่ําเพอ่ื ลดตน ทุนการผลติ ให มากทส่ี ดุ นอกจากน้นั การเลยี้ งปลาชนดิ นี้ มคี วามจําเปน ในดานการจัดการฟารม ที่ เหมาะสมเพราะปลานิล เปนปลาที่ออกลูกดกถา ปลาในบอมีความหนาแนน มากก็จะไมเจริญเตบิ โต ดงั นนั้ การเลี้ยงท่ีจะใหไ ดผลดีเปน ทพ่ี อใจกจ็ ําเปน ตองปฏิบตั ิ ใหถ กู ตองตามหลกั วชิ าการ ตามประเภทของการเลี้ยงและขน้ั ตอนตอไปน้ี บอดิน บอ ที่เลี้ยงปลานิลควรเปนรปู สเ่ี หลยี่ มผนื ผา เพ่อื สะดวกในการจับเน้อื ท่ตี ัง้ แต 200 ตารางเมตรขึ้นไป ใชเ ศษอาหารเล้ียงจาก โรง ครวั ปุยคอก อาหารสมทบอ่ืน ๆ ทีห่ าไดง า ย เชน แทนเปด สาหรา ย เศษพชื ผักตาง ๆ ปริมาณปลาทผี่ ลิตไดกเ็ พยี งพอสาํ หรบั บริโภคในครอบครัว สวน การ เลย้ี งปลานิล เพือ่ การคาควรใชบอขนาดใหญต ง้ั แต 0.5-3.0ไร ควรจะมีหลายบอเพ่ือทยอยจบั ปลาเปนรายวนั รายสปั ดาห และรายเดือนเพ่อื ใหไ ดเ งนิ สด มาใชจา ยเปน เงินทุนหมุนเวยี นสําหรบั คาอาหารปลา เงนิ เดือนคนงาน คาใชจายอื่น ๆ ปจ จบุ นั การเลยี้ งปลานลิ ในบอดินแบง ได4 ประเภท ตามลกั ษณะของ การเล้ยี ง ดงั นี้ การเลยี้ งปลานิลแบบเดยี่ ว โดยปลอ ยลกู ปลาขนาดเทา กนั ลงเลี้ยงพรอมกนั ใชเวลาเลี้ยง 6-12 เดอื น แลววดิ จบั หมดทง้ั บอ การเลย้ี งปลานลิ หลายรุน ในบอเดยี วกนั โดยใชอ วนจบั ปลาขนาดใหญคดั เฉพาะขนาดปลาท่ี ตลาดตองการจําหนายปลอ ย ใหปลา ขนาดเล็กเจรญิ เติบโต

การเลีย้ งปลานลิ รวมกบั ปลาชนิดอ่ืน เชน ปลาสวาย ปลาตะเพยี น ปลาจนี ฯลฯ เพอ่ื ใชป ระโยชน จากอาหาร หรอื เลยี้ งรวมกับปลากิน เน้อื เพอ่ื กาํ จดั ลูกปลาที่ไมต องการ ขณะเดยี วกนั จะไดป ลากนิ เนอื้ เปน ผล พลอยได เชน การเลี้ยงปลานลิ รว มกบั ปลากราย และการเลยี้ งปลานลิ รวมกบั ปลาชอน การเล้ียงปลานิลแบบแยกเพศโดยวธิ ีแยกเพศปลา หรอื เปล่ยี นเพศ ปลาเปน เพศเดยี วกัน เพอื่ ปองกนั การแพรพ นั ธุในบอ สวนมากนยิ ม เลย้ี งเฉพาะปลาเพศผู ซึ่งมกี ารเจรญิ เติบโตเรว็ กวา เพศเมยี การขดุ บอเลี้ยงปลาในปจจุบันนยิ มใชเครือ่ งจักรกล เชน รถแทรกเตอร รถตกั ขุดดนิ เพราะเสยี คา ใชจายตํา่ กวา ใช แรงจากคนขุดเปนอัน มาก นอกจากนย้ี งั ปฏบิ ัติงานไดร วดเร็วตลอดจนการสรางคนั ดินกส็ ามารถอัดใหแ นน ปองกนั การรั่วซมึ ของนา้ํ ไดเปน อยางดี ความลกึ ของบอประมาณ 1เมตร มีเชงิ ลาดประมาณ 45 องศา เพือ่ ปอ งกันการพงั ทลายของดนิ และมีชายบอ กวางประมาณ 1-2 เมตร ตามขนาด ความกวา งยาว ของบอที่ เหมาะสม ถา บอ อยูใ กลแ หลง น้ํา เชน คู คลอง แมนาํ้ หรอื ในเขตชลประทาน ควรสรา งทอระบายนาํ้ ท้ิงทพี่ นื้ บออกี ดา นหนง่ึ โดยจัด ระบบนํ้าเขา ออกคนละทาง เปนการลดคาใชจ า ยในการสูบนา้ํ แตถา บอน้ันไม สามารถจะทาํ ทอชกั นํา้ และระบายนํา้ ได จ ําเปน ตอ งใชเ ครื่องสูบนา้ํ ขนั้ ตอนการเล้ยี งปลาในบอดนิ 1. กาํ จัดวชั พชื และพันธุไมน ํ้าตาง ๆ เชน กก หญา ผกั ตบชวาใหห มด โดยนํามากองสุมไวแ หง แลว นํามาใชเ ปนปุยหมกั ในขณะที่ปลอ ย ปลาลงเลย้ี ง ถาในบอเกา มเี ลนมากจําเปน ตอ งสาดเลนข้นึ โดยนาํ ไป เสรมิ คนั ดินทชี่ าํ รุด หรอื ใชเ ปนปุย แกพ ืช ผกั ผลไม บริเวณใกลเ คียงพรอ มทั้งตกแตง เชิง ลาดและคนั ดินให แนน ดว ย 2. กาํ จดั ศตั รู ศัตรูของปลานลิ ไดแ ก ปลาจําพวกกนิ เนอ้ื เชน ปลาชอน ปลาชะโด ปลาหมอ ปลา ดกุ นอกจากนก้ี ม็ สี ัตวจ ําพวก กบ เขียด งู เปน ตน ดังนน้ั กอนท่ีจะปลอ ยปลานิลลงเล้ียงจึงจําเปน ตอ ง กาํ จัด ศตั รูดังกลา วเสยี กอ นโดยวธิ รี ะบายนา้ํ ออกใหเ หลือนอ ยท่ีสดุ การกําจดั ศัตรูของปลาอาจใช โลต๊นิ สดหรอื แหง ประมาณ 1 กโิ ลกรัม ปรมิ าณของน้าํ ในบอ 100 ลูกบาศกเมตร คอื ทุบหรือบดโลตน๊ิ ใหล ะเอยี ด นาํ ลงแช นํ้าประมาณ 1-2 ปบ ขยาํ โลติน๊ เพอื่ ใหนา้ํ สีขาวออกมาหลาย ๆ ครัง้ จนหมดนาํ ไปสาดใหทว่ั บอ ศัตรูพวกปลา จะลอยหัวขึน้ มาภายหลังโลติ๊น ประมาณ 30 นาที ใชสวงิ จับขึ้นมาใชบ ริโภคไดท ี่ เหลอื ตายพ้นื บอ จะลอยใน วันรุง ขนึ้ สวนศัตรูจําพวกกบเขียดงู จะหนีออกจากบอ ไป และกอนปลอ ยปลาลงเลี้ยงควรจะทิ้งระยะไว ประมาณ 7 วนั เพอื่ ใหฤ ทธ์ิ ของโลติน๊ สลายตัวไปหมดเสียกอน 3. การใสปยุ โดยปกตแิ ลว อุปนิสัยในการกนิ อาหารของปลานิลจะกินอาหารจาํ พวกแพลงกต อน พืชและสตั ว เศษวสั ดเุ นาเปอ ยตามพ้นื บอ แหน สาหราย ฯลฯ ดังนนั้ ในบอเล้ียงปลาควรใหอ าหารธรรมชาติ ดงั กลา วเกิดขนึ้ อยูเสมอ จงึ จาํ เปน ตอ งใสป ยุ ลงไปเพ่อื ละลายเปน ธาตุอาหาร ซึ่งพืชนาํ้ ขนาด เลก็ จําเปนใชใ น การปรงุ อาหารและเจรญิ เตบิ โตโดยกระบวนการสังเคราะหแ สง ซง่ึ เปนโซอ าหาร อันดับตอไป คอื แพลงก ตอนสตั ว ไดแ ก ไรนา้ํ และตวั ออ น ของแมลง ปุยทใ่ี ชไดแ กมลู ววั ควาย หมู เปด ไก นอกจากปยุ ทไี่ ดจากมูล สตั วแลวกอ็ าจใชปุยหมกั จาํ พวกหญาและฟางขาวปุย พืชสดตาง ๆ ไดเ ชน เดียวกนั อตั ราสวนการใสป ุยคอกในระยะแรก ควรใสประมาณ 250-300 กก./ไร/ เดือน สว นในระยะหลงั

ควรลดลงเพียงคร่ึงหน่งึ หรอื สังเกตจาก สีของนํา้ ในบอ ถา ยงั มสี ีเขยี วออ นแสดงวามอี าหาร ธรรมชาตเิ พยี งพอ ถานาํ้ ใสปราศจากอาหาร ธรรมชาตกิ ็เพ่ิมอตั ราสวนใหม ากข้นึ และในกรณีท่ีหาปุยคอก ไมไ ดก อ็ าจใชปุย วทิ ยาศาสตร สตู ร 15:15:15 ใสประมาณ 5 กก./ไร/เดือน ก็ได วธิ ีใสป ยุ ถา เปนปยุ คอกควรตากบอ ใหแหง เสยี กอน เพราะปยุ สดจะทําใหนํา้ มีแกสจําพวกแอมโมเนยี ละลายอยใู นนา้ํ มาก เปน อนั ตรายตอปลา การใส ปุยคอกใชว ิธหี วานลงไปในบอใหละลายนาํ้ ทัว่ ๆ บอ สวนปุยหมกั หรอื ปยุ สดน้นั ควร กองสมุ ไวต ามมุมบอ 2-3 แหง โดยมไี มป ก ลอมเปนคอกรอบกองปยุ เพ่อื ปองกนั มใิ หส ว นทยี่ งั ไมสลายตวั กระจัดกระจาย 4. อัตราปลอยปลาเลี้ยง ในบอ ดนิ ขนึ้ อยกู ับคณุ ภาพน้ํา อาหาร และการจัดการเปน สําคัญ โดยทั่วไปจะปลอยลกู ปลาขนาด 3-5 ซม. ลงเล้ียง ในอัตรา 1-3 ตวั /ตารางเมตร หรือ 2,000-5000 ตวั /ไร 5. การใหอ าหาร การใสป ุยเปน การใหอ าหารแกป ลานลิ ที่สําคญั มากวิธหี น่ึงเพราะจะไดอ าหาร ธรรมชาติทม่ี ีโปรตีนสงู และราคาถูกแตเ พอื่ เปน การเรง ใหป ลาท่ีเลี้ยงเจริญเติบโตเร็วขน้ึ หรือถกู ตอ งตามหลัก วิชาการ จึงควรใหอาหารจาํ พวกคารโ บไฮเดรทเปน อาหารสมบทดวย เชน ราํ ปลายขาว กากมะพราว มนั สําปะหลงั ห่นั ตมใหสกุ และเศษเหลอื ของอาหารทมี่ ีโปรตีนสูง เชน กากถ่ัวเหลืองจากโรงทาํ เตาหูกากถ่วั ลสิ ง อาหารผสมซง่ึ มปี ลาปน ราํ ขา ว ปลายขา วมจี ํานวนโปรตนี ประมาณ20% เศษอาหารทเี่ หลือจากโรงครวั หรือ ภตั ตาคาร อาหารประเภทพืชผักเชน แหนเปด สาหรา ย ผกั ตบชวาสบั ใหล ะเอียด เปน ตน อาหารสมทบเหลาน้ี ควรเลอื กชนิดท่ีมีราคาถูกและหาไดส ะดวก สวนปริมาณทใี่ หก ไ็ มค วรเกิน 4% ของนํา้ หนกั ปลาที่เลยี้ ง หรือ จะใชว ธิ ีสังเกตจาก ปลาท่ีข้ึนมากนิ อาหารจากจุดทใ่ี หเ ปน ประจาํ คือ ถายังมปี ลานิลออกนั อยูม ากเพอื่ รอกนิ อาหารกเ็ พ่ิมจาํ นวนอาหารมากขน้ึ ตามลําดบั ทกุ 1-2 สัปดาห ในการให อาหารสมทบมีขอพึงควรระวัง คือ ถา ปลากินไมห มด อาหารจมพนื้ บอ หรอื ละลายนํา้ มากกจ็ ะทําใหเกดิ ความเสยี หายขนึ้ หลายประการ เชน เสีย คา ใชจายไป โดยเปลา ประโยชน ทําใหนํ้าเนา เสยี เปนอนั ตรายตอปลาท่ีเล้ียง และหรือตอ งเพิม่ คา ใชจ า ยใน การสูบถาย เปล่ียนนา้ํ บอ ย ๆ เปนตน การเลีย้ งปลารว มกบั สตั วบ กอื่นๆ วตั ถปุ ระสงคเ พื่อใชมลู สตั วเปน อาหารและปยุ ในบอ เปน การใชป ระโยชนแ บบผสมผสาน ระหวางการเลยี้ งปลากบั การเล้ียงสัตวอ่นื ๆ โดยเศษ อาหารทเ่ี หลือจากการยอ ยหรือตกหลน จากที่ใหอาหาร จะ เปน อาหารของปลาโดยตรงในขณะท่มี ลู ของสัตวจ ะเปน ปยุ และ ใหแรธ าตุสารอาหารแกพ ืชนํ้าซึ่ง เปน อาหารของปลา เปน การลดตน ทนุ คา ใชจ ายและแกปญหามลภาวะไดว ิธกี ารเลีย้ งสัตวรว มกับปลาอาจใชว ิธี สรา งคอกสัตวบนบอปลาเพอื่ ใหม ูลไหลลงบอ ปลาโดยตรง หรือสรา งคอกสตั วไ วบ นคันบอ แลว นํามลู สัตว มาใสลงบอ ในอัตราทเี่ หมาะสม ในประเทศไทยนยิ มเล้ยี งสุกร จํานวน 10 ตัว หรือเปด ไกไ ข จาํ นวน 200 ตวั ตอ บอ ปลาพนื้ ท่นี ้าํ 1 ไร กระชงั หรอื คอก การเลี้ยงปลานลิ โดยใชแ หลงนาํ้ ธรรมชาตทิ งั้ บริเวณนํา้ กรอ ยและน้ําจดื ทีม่ คี ณุ ภาพนํา้ ดพี อ กระชงั สว นใหญท ใี่ ชก ัน โดยทว่ั ไป จะมขี นาด กวาง 20 เมตร ยาว 25 เมตร ลกึ 5 เมตร สามารถจะนาํ มาใช ตดิ ตัง้ 2 รูปแบบคอื

2.1 กระชังหรอื คอกแบบผูกตดิ กับท่ี สรา งโดยใชไ มไ ผทั้งลําปกลงในแหลง นาํ้ ควรมไี มไผผูก เปนแนวนอนหรอื เสมอผิว นา้ํ ทรี่ ะดับ ประมาณ 1-2 เมตร เพ่ือยึดลาํ ไผท ่ีปกลงในดนิ ใหแนน กระชงั ตอนบน และลางควรรอยเชือกครา วเพอ่ื ใชยึดตวั กระชังใหขึงตึง โดยเฉพาะตรงมุม 4 มมุ ของ กระชังทัง้ ดา นลางและ ดานบน การวางกระชังก็ควรวางใหเ ปนกลุม โดยเวน ระยะหา งกัน ใหน ้ําไหลผานไดส ะดวก อวนท่ีใชท าํ กระชังเปนอวนไนลอ นชอ งตา แตกตา งกนั ตามขนาดของปลานลิ ทจี่ ะเลีย้ ง คอื ขนาดชองตา 1/4 นวิ้ 8/8 นิ้ว ขนาด 1/2 นว้ิ และอวนตาถี่สําหรบั เพาะและเลยี้ งลูกปลาวัยออน 2.2 กระชังแบบลอย ลักษณะของกระชังกเ็ หมือนกับกระชงั โดยทว่ั ไป แตไ มใชเ สาปกยึดตดิ อยู กบั ท่ี สว นบนของกระชังผูกตดิ ทุน ลอย ซึง่ ใชไ มไ ผห รือแทง โฟม มมุ ทงั้ 4 ดา นลา งใชแ ทง ปูนซีเมนตห รอื กอนหนิ ผกู กบั เชือกครา วถว งใหก ระชงั จม ถาเลย้ี งปลาหลายกระชงั กใ็ ชเชือกผูกโยงตดิ กนั ไวเ ปน กลุม อตั ราสว นของปลาทเ่ี ลีย้ งในกระชงั ปลานลิ ทเ่ี ลย้ี งในกระชงั ในแหลงน้ําทมี่ ีคณุ ภาพนาํ้ ดสี ามารถ ปลอ ยปลาไดห นาแนน คอื 40-100 ตวั / ตรม. โดยใหอาหารสมทบที่เหมาะสม เชน ปลายขา วหรอื มนั สําปะหลัง รําขา ว ปลาปน และพืชผักตางๆ โดยมอี ตั ราสว นของโปรตนี ประมาณ 20% สาํ หรบั วธิ ที ําอาหาร ผสมดังกลา ว คือ ตม เฉพาะปลายขาว หรอื มันสาํ ปะหลงั ใหส ุกแลว นาํ มาคลกุ เคลากบั รํา ปลาปน และพชื ผกั ตางๆ แลวปนเปนกอน เพ่อื มิใหละลาย นาํ้ ไดง ายกอนทปี่ ลาจะกนิ การเจรญิ เตบิ โตและผลผลติ ปลานิล เปนปลาทมี่ กี ารเจริญเตบิ โตเร็ว เมอื่ ไดรบั การเลย้ี งดูอยา งถกู ตองจะมขี นาดเฉลี่ย 500 กรมั ในเวลา 1 ป ผลผลติ ไมนอ ยหวา 500 กก./ไร/ป ในกรณีทีเ่ ล้ียงในกระชงั ท่คี ุณภาพนํา้ ดีมีอาหารสมทบ อยางสมบรู ณ สามารถใหผ ลผลิตไมนอยกวา 5 กโิ ลกรัม/ลกู บาศกเมตร อายุปลา (เดอื น) การเจรญิ เติบโตของปลานิล หนกั (กรมั ) 3 6 ความยาว(ซม.) 9 10 30 12 20 200 25 350 30 500 การจับจาํ หนา ยและการตลาด ระยะเวลาการจบั จาํ หนา ย ไมแนนอนขนึ้ อยกู ับขนาดของปลานลิ และความตองการของตลาด โดยทัว่ ไปเปนปลานลิ ท่ปี ลอ ยลงเลยี้ งในบอ รนุ เดียวกนั กจ็ ะใชเ วลา 1 ป จึงจะจับจําหนายเพราะปลานิลทไ่ี ด มีนํ้าหนกั ประมาณ 2-3 ตัวตอ กโิ ลกรัม ซึ่งเปนปลาทต่ี ลาดตองการสว นปลานิลทป่ี ลอยลงเลยี้ ง หลายรนุ ใน บอเดยี วกัน ระยะเวลาการจับจาํ หนายก็ข้นึ อยกู บั ราคาปลาและความตอ งการของผซู ้อื การจบั ปลานิลทําได 2 วธิ ี ดงั นี้

1.จบั ปลาแบบไมว ดิ บอ แหง จะใชอวนตาหา งจบั ปลา เพราะจะไดป ลาท่มี ขี นาดใหญต ามท่ี ตองการ การตอี วนจับปลากระทาํ โดยผูจ บั จาํ หนา ยและยนื เรยี งแถวหนา กระดานโดยมรี ะยะหา งกนั ประมาณ 4.5 เมตร โดยอยทู างดา นหนึ่งของบอ แลวแลว ลากอวนไปยังอกี ดานหนึ่งของบอ ตาม ความยาวแลวยกอวน ขน หลงั จากนนั้ กน็ ําสวงิ ตกั ปลาใสเขง เพือ่ ชั่งขาย ทําเชนนเี้ ร่อื ยไปจนไดปริมาณตามทีต่ องการ สวนปลาเลก็ ก็ คงปลอ ยเลย้ี งในบอ ตอไป การลากอวนแตล ะครัง้ จะมีปลาเบญจพรรณเปน ผลพลอยไดเสมอ เชน ปลาดุก ปลาหลด ปลาตะเพยี น ปลาชอน เปนตน การคัดขนาดของปลากระทาํ ได 2 วิธี ถานาํ ปลาไปจําหนา ยที่ องคการสะพานปลา องคการสะพานปลาก็จะจดั การคัดขนาดให แตถา เกษตรกรผเู ลย้ี งปลาจําหนา ยปลาท่ี ปากบอ กจ็ ําเปน ตอ งทาํ การ คัดขนาดปลากนั เอง 2.จับปลาแบบวดิ บอ แหง กอนทําการจบั ปลาจะตอ งสบู นา้ํ ออกจากบอ ใหเ หลือนอ ยแลวจึงตอี วน จบั ปลา เชนเดยี วกับวิธแี รก จนกระทง่ั ปลาเหลือจํานวนนอ ยจงึ สบู นํา้ ออกจากบออกี ครง้ั หนึง่ และ ขณะเดยี วกันกต็ ีนํา้ ไลป ลาใหไ ปรวมกนั อยใู นรอ งบอรองบอนจ้ี ะเปน สว นท่ลี ึกอยูด านหนง่ึ ของบอ เมื่อ น้ําใน บอแหง ปลากจ็ ะมารวมกนั อยูทรี่ องบอ และเกษตรกรผเู ล้ยี งปลากจ็ บั ปลาขึ้นจําหนายตอ ไป การจับปลา ลักษณะน้สี วนใหญจ ะทําทกุ ปในฤดแู ลงเพอื่ ตาก บอใหแ หง และเริ่มตน เลี้ยงปลาในฤดกู ารผลิตตอไป ตลาดของปลานลิ สว นใหญย งั ใชบ ริโภคภายในประเทศ อยา งไรก็ตามมีโรงงานหองเยน็ เร่มิ รบั ซ้ือปลานลิ ปลานิลแดง เพอื่ แปรรปู สงออก จาํ หนายตา งประเทศเชน ประเทศสหรฐั อเมรกิ า อติ าลี ฝรั่งเศส ออสเตรเลยี เปน ตน โดยตรงงานจะรับซ้อื ปลาขนาด 400 กรมั ขึน้ ไป เพื่อแชแขง็ สง ออกท้งั ตวั และรับซือ้ ปลาขนาด 100-400 กรัม เพอ่ื แลเฉพาะเน้อื แชแขง็ หรือนาํ ไปแปรรปู เพ่ือสง ออกตอไป ตนทุนและผลตอบแทน ตนทุนการผลติ ปลานลิ 1กโิ ลกรมั ในฟารมเลยี้ งขนาด 1-3 ไร ประกอบดว ยตน ทุนคงทไี่ ดแ ก ที่ดิน คา ขดุ บอ เครอ่ื งสูบน้าํ ฯลฯ มลู คา 10-12 บาท และตน ทุนผนั แปร ไดแ ก พนั ธปุ ลา คาอาหาร นา้ํ มนั เชือ้ เพลงิ ฯลฯ มูลคา 4-6 บาท รวมเปน ตนทุนทัง้ สิ้น 14-18 บาท ตอผลผลิตปลานลิ 1 กโิ ลกรัม จากขอมูล พบวา ถา เลีย้ งปลานิลดวยอาหารสมทบเพยี งอยา งเดยี ว จะทาํ ใหต น ทนุ การผลติ สงู กวาราคาตลาด ดงั น้ัน เกษตรกรควรเลี้ยงปลานิลรวมกบั ปลาชนดิ อืน่ ๆ โดยเฉพาะการเล้ียงรว มกับสัตวบ กหรอื ใชน ํ้าจากบอ ปลา กินเน้ือ เชน ปลาดุก ปลาชอ น ซง่ึ มเี ศษอาหารและปยุ สาํ หรับพชื นํา้ ซ่ึงเปนอาหารของปลานิล นอกจากน้ีการ ใชแรงงานในครอบครวั จะเปน แนวทางลดตนทนุ การผลติ ไดอ กี ทางหนึ่ง ปญหาและอุปสรรค ปญ หาและอปุ สรรคในการเลยี้ งปลานิล คอื ปญ หาปลาสูญหาย ปญ หาพนั ธปุ ลานลิ ลูกผสม ปญหาปลานิลราคาตํา่ ปญ หาน้าํ ทว ม ปญ หาน้ํา เสีย ปญหาปลาไมโต ปญหาการขาดแคลนเงนิ ทุน ปญหาการ ใชพน้ื ทจี่ ํานวนมากเลีย้ งปลานลิ ปญ หาภาษที ีด่ นิ มอี ัตราสูง ปญ หาดินเปรีย้ ว ปญ หาราคาอาหาร ปลานิลแพง

ปญหาถกู เวนคนื ท่ดี นิ ปญหาคลองระบายนํา้ ตื้นเขนิ และปญ หาเกษตรกรขาดความรเู ก่ียวกับการเลยี้ งปลานลิ นอกจากนป้ี ญหากลิ่นเหมน็ โคลน ในเน้อื ปลานิลยังเปนอุปสรรคของการสง ออก ซ่ึงแกไ ขไดโ ดยการเปลย่ี น น้าํ พรอ มทงั้ ควบคุมคุณภาพนาํ้ และอาหารทเ่ี ลย้ี งปลาในชวงกอ นจับ ประมาณ 3วนั แนวโนม การเลี้ยงปลานิลในอนาคต ปลานลิ เปนปลาทีต่ ลาดผบู ริโภคยงั มคี วามตอ งการสงู ขนึ้ เร่ือยๆ เนอ่ื งจากจํานวนประชากรมี อตั ราการเจรญิ เติบโตสูง จึงสงผลตอ แนวโนม การเลี้ยงปลาชนิดนใี้ หมลี ูทางแจมใสตอ ไป โดยไมตอ งกังวล ปญหาดา นการตลาดเนือ่ งจากเปน ปลาท่มี ีราคาดไี มมอี ปุ สรรคเรื่องโรคระบาด เปนทนี่ ยิ มบริโภค และเล้ียง กันอยางแพรห ลายในทว่ั ทกุ ภูมภิ าค เพราะสามารถนํามาประกอบอาหารไดปลายรูปแบบ โดยเฉพาะอยา งยิ่ง ในปจ จุบนั ปลานิลสามารถสงเปน สินคา ออกไปสตู างประเทศในลกั ษณะของปลาแลเนื้อตลาดทส่ี าํ คญั ๆ อาทิ ประเทศญ่ปี ุน สหรัฐอเมริกา อติ าลี เปนตน ดงั นนั้ การเลี้ยงปลานลิ ใหม ีคุณภาพปราศจาก โคลน ยอ มจะ สงผลดีตอการบรโิ ภค การจาํ หนา ยและการใหผ ลตอบแทนทคี่ มุ คาในทสี่ ดุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook