Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อาหารไทย 4 ภาค

อาหารไทย 4 ภาค

Published by pppotong, 2021-06-01 08:56:09

Description: อาหารไทย 4 ภาค

Search

Read the Text Version

อาหารไทย อาหารไทย เป็ นอาหารประจาของประเทศ ไทย ทม่ี กี ารส่ังสมและถ่ายทอดมาอย่างตอ่ เน่ือง ตัง้ แต่อดตี จนเป็ นเอกลักษณป์ ระจาชาติ ถอื ไดว้ า่ อาหารไทยเป็ นวฒั นธรรมประจาชาตทิ สี่ าคัญของ ไทย

แกงเขยี วหวาน แกงเขยี วหวาน เป็ นอาหารไทยประเภท แกง ประกอบด้วยเนือ้ ปลา ไก่ หรือหมู และผัก ปรุงรส ดว้ ยกะทิ มะเขอื นา้ ตาล นา้ ปลาใบมะกรูด และใบ โหระพา นิยมรับประทานกบั ข้าวสวยหรือขนมจนี นา้ พริกแกงมสี ีเขยี วเพราะใช้พริกขหี้ นูสดสเี ขยี ว บาง ทอ้ งทใ่ี ส่ใบพริกลงไปตาดว้ ย

ขนมจนี ขนมจนี เป็ นอาหารคาวชนิดหน่ึง ทาด้วยแป้ง เป็ นเส้นกลม ๆ คล้าย เส้นหมี่ รับประทานกับ นา้ ยา นา้ พริก เป็ นต้น อาหารชนิดนี้ ภาษาเหนือ เรียก \"ขนมเส้น\" และภาษาอสี านเรียก \"ข้าวป้นุ “ ขนมจนี ไม่ใช่อาหารจนี หากแต่เป็ นอาหาร มอญ คาว่า \"ขนมจนี \" มาจากภาษามอญว่า \"ขนฺ จนิ ฺ\" [คะ -นอม-จนี ] คาว่า \"คะนอม\" มีความหมายอยา่ ง หน่ึงว่าเส้นขนมจนี คาว่า \"จนี \" มคี วามหมายว่า \"สุก\"

สม้ ตา ส้มตา เป็นอาหารคาวท่ีมีช่ือเสียงและเป็นท่ีรูจ้ กั มากท่ีสดุ ของวฒั นธรรมชนชาตลิ าว ภายหลงั การยดึ ดนิ แดนฝ่ังขวาแมน่ า้ โขงแลว้ ตอ่ มาสม้ ตาไดก้ ลายเป็น อาหารไทยอยา่ งหนง่ึ ดว้ ย และเป็นท่ีนิยมแพรห่ ลายไป ท่วั ทกุ ภมู ิภาค ตลอดจนกลายเป็นอาหารท่ีมีช่ือเสยี ง ของไทยควบคกู่ บั ผดั ไทยและตม้ ยากงุ้ สม้ ตามี ประวตั ิศาสตรต์ น้ กาเนิดไมแ่ น่ชดั แตส่ นั นิษฐานวา่ เป็น อาหารท่ีมาจากภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของไทยและ ประเทศลาว ซง่ึ ในอดตี ถือเป็นแผ่นดินเดยี วกนั

ผดั ไทย ผัดไทย เป็นอาหารท่ีไดร้ บั อิทธิพลจากอาหาร จีน เดิมเรยี กอาหารชนิดนีว้ า่ \"ก๋วยเต๋ยี วผดั \" และไดร้ บั การเปล่ยี นแปลงดา้ นรสชาตใิ หมต่ ามอยา่ งอาหารไทย มากขนึ้ ในเวลาตอ่ มา ผดั ไทยไดก้ ลายเป็นท่ีรูจ้ กั ของคนตา่ งชาติใน สมยั จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม นายกรฐั มนตรใี น ขณะนนั้ ซง่ึ เป็นชว่ งเดียวกบั สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ท่าน ไดร้ ณรงคใ์ หป้ ระชาชนหนั มานิยมรบั ประทาน ก๋วยเต๋ยี ว เพ่ือลดการบรโิ ภคขา้ ว ภายในประเทศ เน่ืองจากในช่วงนนั้ สภาวะเศรษฐกิจ ของประเทศตกต่า ขา้ วแพง

ขา้ วมนั ไก่ ข้าวมนั ไก่ (ขา้ วไก่ไหหลา หรอื ขา้ วไก่ไหห่ นาน) เป็นอาหารคาวของไทยและจีน คาดวา่ อาหารชนิดนี้ ไดร้ บั การเผยแพรม่ าจากชาวจีน หรอื ไหหลาหรอื ไห่ หนาน มีใหร้ บั ประทานกนั ท่วั ทกุ ภาคในประเทศไทย และนิยมกนั มากในหมชู่ าวไทยเชือ้ สายจีน นอกจากนีย้ งั นิยมรบั ประทานกนั มากในมาเลเซียและสิงคโปรอ์ ีกดว้ ย รา้ นขา้ วมนั ไก่พบไดท้ ่วั ไปตามแหลง่ ชมุ ชน โดย มกั จะมีตใู้ สแขวนไก่ตม้ ทงั้ ตวั อยหู่ นา้ รา้ นเป็นจดุ สงั เกต บางรา้ นนาขา้ วมนั ไก่มาประยกุ ตโ์ ดยใชไ้ ก่ยา่ งหรอื ไก่ ทอดเพ่ือเพ่ิมความหลากหลาย

ขา้ วยา ข้าวยา หรอื ข้าวยาบดู ู เป็นอาหารไทยภาคใต้ โดยถือกนั วา่ เป็นอาหารท่ีครบโภชนาการมากท่ีสดุ และมีคณุ ลกั ษณะพิเศษ แตกตา่ งโดยเป็นอาหารจานเดียวท่ีมีนา้ ปรุงราด ขา้ วยาทาจากขา้ วท่ีเรารบั ประทานกนั ประจาวนั นีเ้ อง แตเ่ พ่ิม การปรุงแตง่ บา้ งเลก็ นอ้ ย เพ่ือใหข้ า้ วเหลา่ นนั้ มีสีสนั และรสชาตทิ ่ีนา่ รบั ประทานมากขนึ้ ในขา้ วยาจะมผี กั รบั ประทานกบั ขา้ วยาเรยี กผกั หมวด ผกั ท่ีนิยมนามาทาเป็นผกั หมวด ไดแ้ ก่ ถ่วั ฝักยาว ถ่วั งอก ตะไครก้ ระถิน ยอดมะมว่ งหิม พานต์ ผกั บงุ้ ใบยอ ถ่วั พู และพาโหม ราดดว้ ยนา้ บดู ู ชาวไทยมสุ ลิม นิยมนาสีจากพืชมาหงุ กบั ขา้ วใหไ้ ดข้ า้ วสตี า่ งๆ เรยี กว่าขา้ วยาหา้ สี สว่ นขา้ วยาทางจงั หวดั สตลู จะมีเอกลกั ษณเ์ ฉพาะคอื ไม่ใส่นา้ บดู ู แต่ จะนาขา้ วมาคลกุ กบั เครอ่ื งแกงและผกั โดยเครอ่ื งปรุงหลกั คือ ขา่ เรยี กว่าขา้ วยาหวั ข่า

ไขเ่ จยี ว ไข่เจยี ว เป็นอาหารทอดจากไขท่ ่ีทาไดง้ ่าย นิยมใชไ้ ข่ไก่ หรอื ไขเ่ ป็ด นาไข่มากะเทาะเปลอื ก ตีไข่ขาวและไขแ่ ดงใหเ้ ขา้ เป็นเนือ้ เดยี วกนั แลว้ เตมิ เครอ่ื งปรุงรสคือ นา้ ปลา ซอสหอย นางรม นม หรอื นา้ มะนาว ดว้ ย จากนนั้ ตงั้ กระทะบนเตา และ ใสน่ า้ มนั หมหู รอื นา้ มนั พชื พอรอ้ น ก็นาลงทอด จนสกุ จะไดแ้ ผน่ ไขส่ เี หลอื งรบั ประทานได้ ถา้ นา้ มนั มากจนไขท่ ่ีเจียวฟู เรยี กว่า ไข่ฟู ไข่เจียวหน่งึ ฟองใหพ้ ลงั งานประมาณ 90 แคลอรี

ไขต่ ้ม ไข่ต้ม เป็นอาหารจากไข่ของสตั วป์ ีกหรอื สตั ว์ ชนิดอ่ืนๆ ท่ีนยิ มรบั ประทานคือ ไขไ่ ก่ ไข่เป็ด ไขน่ ก กระทา ทาโดยแชไ่ ขใ่ นภาชนะท่ีมีนา้ ใหค้ วามรอ้ นจนเดือด เนือ้ ไข่ท่ีเหลวจะแปรสภาพเป็นของแขง็ ถา้ ตม้ ไม่สกุ เรยี กวา่ ไข่ลวก ซง่ึ นิยมรบั ประทานเป็นอาหารเชา้ ถา้ ไข่ ขาวสกุ แตไ่ ข่แดงไมส่ กุ (ตม้ 7-8 นาที) เรยี กวา่ ไข่ต้มยาง มะตมู ไขต่ ม้ นาไปทาอาหารตอ่ ยอด เชน่ ไข่ลกู เขย ไข่พะโล้ หรอื นามาทายาไข่ตม้ ไข่ปิ้ง บางท่ี ก็ใชไ้ ข่ตม้ มาเสยี บไมป้ ิ้ง บา้ ง ก็นาไปรบั ประทานกบั สลดั ผกั โดยนิยมห่นั เป็นแวน่ ๆ

ขา้ วแช่ ข้าวแช่ เป็นช่ืออาหารชนิดหน่งึ มีขา้ วสกุ ขดั แช่นา้ เย็น ซง่ึ มกั เป็นนา้ ดอกไม้ แลว้ กินกบั เครอ่ื ง กบั ขา้ วต่าง ๆ เชน่ ลกู กะปิ พรกิ หยวกสอดไส้ เนือ้ เคม็ ฝอยผดั หวาน หวั หอมสอดไส้ ผกั กาดเคม็ ผดั หวาน ปลาแหง้ และเครอ่ื งผดั หวานตา่ ง ๆ นิยมรบั ประทาน ในหนา้ รอ้ น ปัจจบุ นั อาจใสน่ า้ แขง็ ในขา้ วแชด่ ว้ ย เช่ือกนั วา่ ขา้ วแช่เดมิ เป็นอาหารพืน้ บา้ นมอญ นิยมทา สงั เวยเทวดาในตรุษสงกรานต์ ตอ่ มา ชาววงั รบั ไป ปรบั ปรุงเรยี กว่า \"ขา้ วแชเ่ สวย\" หรอื \"ขา้ วแช่ชาววงั \" เม่ือสิน้ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั ในปี 2453 แลว้ ขา้ วแช่ไดร้ บั การเผยแพรไ่ ป นอกวงั และเป็นท่ีนิยมอยา่ งย่ิง

ต้มยา ตม้ ยา เป็นซปุ ไทยท่ีมีรสเปรยี้ วเผ็ด ตม้ ยาเป็นอาหารท่ีรูจ้ กั ใน กลมุ่ ประเทศเพ่ือนบา้ นของประเทศไทย เช่น ลาว กมั พชู า มาเลเซยี และสงิ คโปร์ รวมถงึ มีช่ือเสยี งไปท่วั โลก คาวา่ “ตม้ ยา” มาจากคาภาษาไทย 2 คา คอื “ตม้ ” และ “ยา” คาวา่ “ตม้ ” หมายถึง กิรยิ าเอาของเหลวใสภ่ าชนะแลว้ ทาใหร้ อ้ นใหเ้ ดอื ด หรอื สกุ ขณะท่ี “ยา” หมายถึงอาหารลาวและไทยประเภทท่ีมีรส เปรยี้ วเผด็ ดงั นนั้ “ตม้ ยา” คอื ซปุ ลาวและไทยท่ีมีความเผ็ดรอ้ น และเปรยี้ ว อนั ท่ีจรงิ คณุ ลกั ษณะของตม้ ยามาจากความ แตกตา่ งระหวา่ งความเผด็ รอ้ นและความเปรยี้ วและกล่นิ หอม ของสมนุ ไพรในนา้ แกง ท่ีสาคญั นา้ แกงนนั้ ประกอบดว้ ย นา้ ตม้ กระดกู และเครอ่ื งปรุงสว่ นผสมสดไดแ้ ก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า นา้ มะนาว นา้ ปลาและพรกิ

ผดั ขเ้ีมา ผัดขีเ้ มา เป็นอาหารท่ีไดร้ บั ความนิยมมาก ในประเทศไทย และ ลาว โดยอาหารชนิดนีเ้ กิดขนึ้ จาก การผสมผสานอาหารแบบไทยเขา้ กบั อาหารของชาว จีนท่ียา้ ยถ่ินฐานเขา้ มาอยใู่ นประเทศไทยและลาว (หรอื ชาวไทยเชือ้ สายจีน) คาวา่ ขีเ้ มา สนั นิษฐานวา่ เกิดจากผทู้ ่ีชอบด่มื สรุ ามกั จะหากบั แกลม้ จากของ เหลือท่ีมีในตเู้ ย็น พบผกั อะไรก็เตมิ ลงไปได้ ไมใ่ ครจ่ ะมี สตู รแน่นอนตายตวั แต่ทาออกมาแลว้ อรอ่ ย จึงเป็นท่ี นิยมตอ่ ๆ กนั มา

ผดั ซอี ว๊ิ ผัดซอี ๊วิ เป็นอาหารยอดนิยมท่ีมีขายท่วั ไปใน ประเทศไทย เป็นอาหารท่ีมกั จะเป็นเมนขู องทกุ รา้ นอาหาร ตามส่งั โดยสว่ นใหญ่แลว้ รา้ นใดท่ีขายราดหนา้ จะมขี ายผดั ซอี ิว๊ ควบคกู่ นั ไปดว้ ย ลกั ษณะการปรุงคลา้ ย ก๋วยเต๋ยี ว ค่วั แตจ่ ะใสซ่ ีอิว๊ ดาหวาน และใชผ้ กั คะนา้ เป็นวตั ถดุ บิ ในการ ปรุง เสน้ ก๋วยเต๋ยี วท่ีใชเ้ ป็นสว่ นใหญ่คอื เสน้ ใหญ่ และ เสน้ หม่ี ขาว ไมน่ ิยมใชเ้ สน้ เลก็ และบะหม่ี ผกั ท่ีนิยมใสจ่ ะมีแต่คะนา้ เพียงอย่างเดยี ว เนือ้ สตั วท์ ่ีนิยมคอื ไก่ และ หมู ไมน่ ิยมใส่ ปลาหมกึ โดยท่วั ไปมกั ใสไ่ ข่ดว้ ย ปรุงรสดว้ ยซีอิว๊ ดา นา้ ตาล นา้ ปลา นาไปผดั ในกระทะไฟแรง รสชาติโดยท่วั ไปของผดั ซีอิว๊ จะออกหวานนา

ลาบ ลาบ เป็นอาหารทอ้ งถ่ินทางภาคอีสานและ ภาคเหนือ(รวมถงึ ประเทศลาวและสิบสองปันนา) โดย นาเนือ้ มาสบั ใหล้ ะเอียดแลว้ คลกุ กบั เครอ่ื งปรุง ซง่ึ เนือ้ ท่ีมาทาลาบเป็นเนือ้ หลายชนิด เช่น เนือ้ ไก่ เนือ้ เป็ด เนือ้ ววั เนือ้ ควาย เนือ้ ปลา เนือ้ หมู และเนือ้ นก นอกจากนีย้ งั สามารถลาบสตั ว์ จาพวก กวาง เชน่ ละม่งั กระจง เกง้ หรอื แมแ้ ตบ่ งึ้ [1]ก็ นามาลาบไดเ้ ช่นกนั ลาบนิยมกินคกู่ บั ขา้ วเหนียว

ราดหนา้ ราดหน้า เป็นก๋วยเต๋ยี วชนิดหน่งึ ท่ีทาโดยการ ใชเ้ สน้ ลงไปผดั กบั นา้ มนั อ่อน ๆ ก่อน แลว้ พกั ไว้ นา้ ท่ี ใชร้ าด เป็นนา้ ตม้ กระดกู ผสมกบั แปง้ มนั มีความขน้ เหนียว เนือ้ สตั วน์ ิยมใช้ เนือ้ หมู และ กงุ้ หรอื เนือ้ สตั ว์ อ่ืน ๆ ซง่ึ ถา้ เป็นเนือ้ หมจู ะนิยมหมกั กบั กระเทียมก่อน เพ่ือใหเ้ หนียวน่มุ ผกั นิยมใช้ ผกั คะนา้ หรอื จะใชผ้ กั อย่างอ่ืน เชน่ ผกั กวางตงุ้ หรอื ผกั กาดขาว ก็ได้

พะแนง พะแนง เป็นอาหารไทยประเภทแกง โดยมี สว่ นผสมหลกั ของเครอ่ื งแกง คอื พรกิ ข่า ตะไคร้ ราก ผกั ชี เมด็ ผกั ชี เมด็ ย่ีหรา่ กะเทียม และเกลือ พะแนงเป็นอาหารท่ีไดร้ บั อิทธิพลจากอินเดีย และอาจ มีวฒั นธรรมการกินแบบเขมรผสมดว้ ยหรอื ไม่ ไมอ่ าจ ยืนยนั ไดแ้ ต่มีการใชภ้ าษาเขมร ท่ีเดมิ ใชส้ าหรบั การ อธิบายท่าเอาขาไขว้ หรอื ขดั กนั ท่ีเรยี กวา่ น่งั ขดั สมาธิ หรอื ขดั ตะหมาด ท่ีคนไทยใชใ้ นภาษาพดู จรงิ ๆ แลว้ พะแนง แปลวา่ ทา่ น่งั แบบขดั สมาธิ ใชอ้ ธิบายคาใน ภาษาไทยตงั้ แตต่ น้ หรอื ก่อนอยธุ ยา

แกงไตปลา แกงไตปลา หรอื แกงพงุ ปลาเป็นแกงท่ีมีไตปลาเป็น สว่ นประกอบท่ีสาคญั มีทงั้ แบบท่ีใสและไมใ่ สก่ ะทิ แบบใสก่ ะทิเป็น ท่ีนิยมในบางทอ้ งท่ี เช่นท่ีจงั หวดั ยะลา การแกงจะตม้ กะทแิ คพ่ อสกุ ไม่แตกมนั นา้ พรกิ แกงประกอบดว้ ย พรกิ ขีห้ นแู หง้ เกลือ พรกิ ไทย เมด็ ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระเทียม ขมิน้ หอม กะปิ[3] แกงไตปลาแบบชมุ พรจะไม่ใสข่ ่า กระชาย หอม กระเทียมในนา้ พรกิ แกง แตจ่ ะซอยละเอียดใสล่ งในแกง เรยี กแกงแบบนีว้ ่าแกงไตปลา เครอ่ื งซอย

แกงสม้ แกงส้ม เป็นอาหารไทย ประเภทแกงท่ีมีรสเปรยี้ ว โดยเป็นแกงท่ีใสเ่ นือ้ สตั ว์ สว่ นใหญ่เป็นปลาหรอื กงุ้ ผกั ท่ี ใชอ้ าจเป็นผกั บงุ้ มะละกอ หวั ไชเทา้ กะหล่าดอก ดอก แค หรอื ไข่เจียวชะอม ใชน้ า้ พรกิ แกงสม้ ละลายนา้ ตม้ ให้ เดือด ใสผ่ กั และเนือ้ สตั ว์ ปรุงรสดว้ ยนา้ สม้ มะขาม นา้ ตาลปี๊บ เกลอื มีรสชาติเผด็ หวาน เคม็ เปรยี้ ว

แกงมสั มน่ั แกงมสั ม่นั เป็นอาหารประเภทแกงท่ีไดร้ บั อิทธิพลมา จากอาหารมลายู ชาวไทยมสุ ลิมเรยี กแกงชนิดนีว้ า่ ซาละ หม่นั แกงมสั ม่นั แบบมสุ ลิมไทยออกรสหวานในขณะท่ีตารบั ดงั้ เดิมของชาวมสุ ลมิ ออกรสเคม็ มนั ในไทยมีวิธีการทาสอง แบบคือ แบบไทย นา้ พรกิ แกงมี พรกิ แหง้ ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ลกู ผกั ชี ย่ีหรา่ ดอกจนั ทน์ กานพลู ปรุงรสใหห้ วาน นา เคม็ และอมเปรยี้ ว เป็นแกงมีนา้ มากเพ่ือรบั ประทาน กบั ขา้ ว อีกแบบเป็นแบบมสุ ลมิ นา้ ขลกุ ขลิก ใชจ้ ิม้ ขนมปัง หรอื โรตี ในนา้ พรกิ แกงไมใ่ สข่ ่า ตะไคร้ สว่ นผสมท่ีเป็นพรกิ แหง้ หอม กระเทียม ถ่วั ลสิ งจะทอดก่อน ใสผ่ งลกู ผกั ชี ย่ีหรา่ ใสม่ นั ฝร่งั บางสตู รใสม่ ะเขือยาว ก่อนจะมีมนั ฝร่งั มาปลกู แพรห่ ลายในไทย จะนยิ มใสม่ นั เทศ

แกงเหลอื ง แกงเหลือง เป็นอาหารชนิดหน่งึ ในภาคใตข้ อง ประเทศไทย ในทอ้ งถ่ินเรยี กวา่ แกงส้ม ซง่ึ มีความ แตกตา่ งจากแกงสม้ ของไทย ทงั้ ในดา้ นรสชาติ เครอ่ื งปรุง วิธีการปรุง กลนิ่ และสสี นั ของนา้ แกงท่ีปรุง เสรจ็ แลว้ สว่ นวตั ถดุ บิ ท่ีนิยมนามาทาเป็นแกงเหลืองนนั้ คลา้ ย กบั แกงสม้ ของไทย เช่น ปลา กงุ้ หรอื หมสู ามชนั้ และ ใชผ้ กั ตา่ งๆ เพ่ือเพ่ิมปรมิ าณและรสชาติ หรอื บางครงั้ ใชห้ น่อไมด้ อง

แกงบวน แกงบวน เป็นแกงพืน้ บา้ นภาคกลางของไทย ใส่ นา้ คนั้ จากใบผกั เช่น ตะไคร้ ขนึ้ ฉ่าย ใบมะตมู ผกั ชี ใบ ข่า ใบมะขวิด เพ่ือกลบกล่นิ คาวของเครอ่ื งใน ตารบั ดงั้ เดิมเป็นของชาวเขมรท่ีนิยมทาแกงชนิดนีใ้ นงาน แตง่ งาน คาวา่ บวนเป็นภาษาเขมรแปลวา่ ส่ี ซง่ึ ใน ตารบั แกงบวนของเขมรจะใชเ้ ครอ่ื งในส่ีอยา่ งคอื หวั หมู กระเพาะหมู ตบั หมู และหวั ใจหมู นา้ พรกิ แกง ประกอบดว้ ย พรกิ ไทย ปลาแหง้ ขา่ แก่ ตะไคร้ กระเทียม หอม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook