พระบรมราโชบายรัชกาลท่ี 10 เกยี่ วกับการศึกษา
การศกึ ษาตอ้ งมุง่ สร้างพ้นื ฐานใหแ้ กผ่ เู้ รยี น ๔ ด้าน ๑. มที ศั นคติทีถ่ ูกต้องต่อบา้ นเมือง ๒. มีพ้นื ฐานชีวิตทม่ี ั่นคง – มคี ุณธรรม ๓. มีงานทา-มีอาชพี ๔. เป็นพลเมอื งทีด่ ี
๑. มีทัศนคตทิ ่ถี กู ต้องตอ่ บา้ นเมือง - ความรคู้ วามเข้าใจต่อชาติบ้านเมือง - ยดึ ม่ันในศาสนา - ม่นั คงในสถาบนั กษตั ริย์ - มคี วามเออ้ื อาทรต่อครอบครัวและ ชุมชนของตน
๒. มีพืน้ ฐานชวี ติ ทีม่ นั่ คง - มี คุณธรรม - รูจ้ ักแยกแยะส่งิ ที่ ผดิ -ชอบ / ชว่ั -ดี - ปฏบิ ัตแิ ตส่ ง่ิ ทชี่ อบ ส่ิงท่ดี ีงาม - ปฏิเสธสิง่ ทีผ่ ดิ สงิ่ ท่ีชว่ั - ช่วยกนั สรา้ งคนดีให้แก่บา้ นเมือง
๓. มีงานทา - มอี าชพี - การเล้ียงดูลกู หลานในครอบครวั หรือการฝกึ ฝนอบรมในสถานศึกษาตอ้ งมุ่งใหเ้ ด็ก และเยาวชน รกั งาน สู้งานทาจนงานสาเร็จ - การฝึกฝนอมรมทง้ั ในหลกั สตู ร และนอกหลักสตู รตอ้ งมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรยี น ทางานเปน็ และมงี านทาในทส่ี ุด - ต้องสนับสนนุ ผู้ส าเรจ็ หลกั สูตร มอี าชีพ มีงานท า จนสามารถเลีย้ งตนเอง และครอบครัว
๔. เป็นพลเมอื งทดี่ ี - การเป็นพลเมอื งดี เป็นหนา้ ทข่ี องทุกคน - ครอบครัว – สถานศกึ ษาและสถาน ประกอบการตอ้ งส่งเสริมให้ทกุ คนมโี อกาสท าหนา้ ที่ เป็นพลเมอื งดี - การเป็นพลเมอื งดี คอื “เห็นอะไรทจ่ี ะ ทาเพือ่ บา้ นเมอื งได้กต็ อ้ งทา” เชน่ งาน อาสาสมคั ร งานบ าเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศลใหท้ าดว้ ย ความมีน้าใจ และความเอ้อื อาทร
จัดทาโดย นางสาว บุษยา ไชยยศ
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: