โลกของแมลง แมลง จดั เปน็ สัตวไ์ มม่ ีกระดกู สันหลงั เป็นกล่มุ ของสัตวท์ ี่จดั ได้ว่ามีความหลากหลายมากทส่ี ดุ ในโลก และประสบความสาเรจ็ ในการดารงชวี ิตมากท่ีสุด เมอ่ เปรยี บเทียบกบั สตั วช์ นิดอ่นๆ นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าแมลงมีมากถึง 50.8 เปอร์เซน็ ต์ ของสง่ิ มีชวี ติ ทั้งหมดทอ่ี ยูใ่ นโลก หรอประมาณ 1.5-30 ล้านชนิด แตม่ แี มลง เพยี ง 10 เปอร์เซน็ ต์ เท่าน้ัน ทไี่ ดม้ กี ารวิเคราะหแ์ ละตัง้ ชอ่ ไว้ เนอ่ งจากแมลงมีการดดั แปลงโครงสร้างและอวยั วะต่างๆ เพ่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนวมทัง้ การ ปรบั ตวั ใหม้ ขี นาดเล็กเพ่อลดการแก่งแยง่ ดา้ นอาหารและท่อี ยู่อาศยั การพรางตัวเพอ่ หลีกเล่ียงศัตรู การเสาะหาแหล่งผสมพนั ธุ์ และการกินอาหารไดห้ ลากหลายชนิด แมลงทเี่ ราคนุ้ เคยในชีวติ ประจาวนั และพบเสมอๆ ไดแ้ ก่แมลงปกี แขง็ หรอด้วง เปน็ แมลงทม่ี ีอันดบั ความหลากหลายมากท่ีสดุ มจี านวนชนิด มากกว่า 300,000 ชนดิ รองลงมาเปน็ แมลงวนั มมี ากกวา่ 150,000 ชนิด ผีเส้อมีประมาณ 150,000 ชนิด และมวน มีประมาณ 35,000 ชนดิ ภมู อิ ากาศเป็นปจั จัยสาคัญในการกาหนดชนิดและความอยรู่ อดของสิ่งมชี วี ติ ในภมู ภิ าคต่างๆ ดงั จะเห็นไดว้ า่ ประเทศที่ต้งั อยใู่ นภูมิภาคเขตร้อนชน้ จะมีความ หลากหลายทางชีวภาพสูง ในประเทศไทยมีแมลงไมน่ ้อยกวา่ 105,000 ชนิด แตม่ กี ารจาแนกและต้ังช่อไว้แลว้ ประมาณ 10,000 ชนิด หรอประมาณ 10 เปอรเ์ ซน็ ต์ เทา่ นั้น จะเหน็ ไดว้ ่ายงั มีแมลงอีกมากท่ยี ังไมไ่ ด้มกี ารคน้ พบและจาแนกชนดิ พนั ธุไ์ ว้
สว่ นประกอบของแมลง แมลงเป็นสตั วไ์ ม่มกี ระดูกสนั หลัง ที่มีลาตัวและขาแบง่ เปน็ ปล้องเรียงต่อกนั ลาตวั ทั้งซีกซา้ ยและซกี ขวาจะมีลักษณะสมมาตร โดยทั่วไปมีลาตวั ยาวหรอ ค่อนข้างยาว และแบ่งไดเ้ ปน็ 3 สว่ น ส่วนหัว มอี วัยวะท่ีสาคัญคอ ปาก หนวด 1 คู่ ตารวม 1 คู่ และอาจมตี าเดยี่ ว 2-3 ตา ส่วนอก มจี านวน 3 ปล้อง แตล่ ะปล้องอกจะมีขา 1 คู่ และมีปีกบนอกปล้องที่ 2 และ 3 ปลอ้ งละ 1 คู่ ส่วนท้อง ส่วนใหญม่ ีจานวน 10-11 ปลอ้ ง แตบ่ างชนดิ อาจเห็นเพยี ง 3-4 ปล้อง ภายในมีอวัยวะที่สาคัญคอ ระบบสบพนั ธ์ุ ระบบขบั ถ่าย และช่อเปดิ สาหรับ หายใจ
แมลงท่เี รามกั พบในชวี ติ ประจาวัน ดว้ ง มีลกั ษณะเดน่ คอ ปกี คหู่ นา้ เป็นแผ่นแขง็ ทึบใช้ในการปกป้องรา่ งกาย ปีกคหู่ ลังเปน็ แผน่ บางใสพับเกบ็ อยใู่ ต้ปีกหนา้ ใชบ้ นิ ขณะบนิ จะยกปีกคู่หน้าขน้ึ และใช้ปกี คูห่ ลงั บนิ มอี กปลอ้ งแรกขนาดใหญ่ มจี านวนชนิดมากทส่ี ุด ประมาณ 370,000 ชนิด มวน ลักษณะเด่น คอ ปากเปน็ แทง่ ยาวแหลม ใชเ้ จาะและดดู กินของเหลวจากอาหารเม่อไม่ใช้จะพับเก็บไว้ด้านลา่ งของลาตัว ปีกคู่หนา้ ยาวแคบ ไม่มเี ส้นปีก มลี กั ษณะแขง็ บรเิ วณโคน และสว่ นปลายปกี เป็นแผน่ ใส บริเวณโคนปกี มีแผน่ สามเหล่ยี ม ทก่ี ั้นระหว่างปีกด้านซา้ ยและขวาขนาดใหญ่
ผึ้ง ต่อ แตน มด ลักษณะเดน่ คอ ปีกทงั้ สองคู่ มีลักษณะเปน็ แผน่ บางใสปีกคหู่ ลังเล็กกวา่ ปีกคู่หน้า บรเิ วณส่วนทอ้ งท่ีต่อกับสว่ นอกมีลักษณะคอดกวิ่ คล้ายเอว หลายชนดิ มี ววิ ฒั นาการสงู อวัยวะวางไข่จะพัฒนาไปเป็นเหลก็ ใน ใช้ป้องกนั ตวั จากศัตรูหรอลา่ เหย่อ จดั ว่าเปน็ แมลงมปี ระโยชน์ต่อมนษุ ยม์ ากท่ีสุดเพราะเป็นแมลงกลมุ่ หลักในการผสมเกสรดอกไม้ แมลงวันและยุง ลักษณะเดน่ คอ แมลงวันจะมปี กี ค่หู น้าลกั ษณะบางใสเพยี งคู่เดยี ว อกปล้องท่ี 3 ซง่ึ ปกติจะมปี ีกคู่หลงั และมอี วัยวะพิเศษเป็นป่มุ ยน่ ออกมา แทนปกี หลงั ช่วยรักษาความสมดุลขณะบิน แต่ยุงต่างจากแมลงวนั ตรงทีป่ กี มลี ักษณะเป็นเกร็ด ขาของยุงยาวกวา่ และยุงตวั เมียจะมีปากท่ียาวสาหรบั เจาะกดั ผิวหนงั ผเี สื้อ ลกั ษณะเด่น คอ มีเกล็ดเลก็ ๆ อย่ตู ามลาตวั มีปากแบบดดู กนิ มีลกั ษณะเปน็ งวงยาวสามารถมว้ นเกบ็ ได้ แบ่งออกเป็น 2 กลมุ่ ใหญ่ คอ ผีเสอ้ กลางวนั และผีเส้อกลางคน โดยท้ัง 2 กลุม่ มลี กั ษณะท่แี ตกต่างกันหลายจุด ผเี ส้อกลางวัน ส่วนใหญ่มีสีสนั สดใส ขณะเกาะพักมักไมก่ างปกี ออก มหี นวดแบบกระบอง ผีเสอ้
กลางคนมกั มีสสี นั ในโทนเทา น้าตาล หรอสขี าว มขี นปกคลมุ ลาตัวหนาแน่น มีหนวดหลายแบบ เชน่ แบบเส้นดา้ ย แบบฟนั หวี เป็นตน้ ท่ีมา https://sites.google.com/site/klumkhuytabaek16/bthkhwam
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: