ใบความรู้ เรอื่ ง การหายใจของเรา ระบบหายใจและอวยั วะของระบบหายใจ ท่มี าภาพ : http://taem.weebly.com ระบบหายใจ ประกอบด้วย อวัยวะเกี่ยวข้องกับการหายใจ เป็นการนาอากาศเข้าและออกจาก ร่างกายส่งผลให้แก๊สออกซิเจนทาปฏิกิริยากับสารอาหารได้พลังงาน น้าและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ กระบวนการหายใจเกิดขึ้นกับทุกเซลล์ตลอดเวลา การหายใจจาเป็นต้องอาศัยโครงสร้าง 2 ชนิด คือ กลา้ มเน้ือกะบงั ลมและกระดูกซ่ีโครง อวยั วะเก่ียวกบั การหายใจ ระบบหายใจของมนุษย์มคี วามเกย่ี วข้องกับอวัยวะตา่ งๆมากมาย ได้แก่ 1. รจู มกู (Nostrill) เปน็ ทางผา่ นของอากาศ ทหี่ ายใจเขา้ ไปยงั ชอ่ งจมกู และกรองฝุน่ ละอองดว้ ย 2. โพรงจมูก (Nasal cavities) อยถู่ ดั จากรูจมูกเข้าไปข้างใน ชึ่งเปน็ ที่พกั ของอากาศก่อนจะถูกสูดเข้า ปอด ทาหน้าที่ ควบคุมอุณหภูมิและความช้ืนของอากาศ โดยมีเย่ือบุผิวท่ีมีซิเลียและเมือกสาหรับดักจับสิ่ง แปลกปลอมไว้ไมใ่ ห้ผ่านลงสปู่ อดและขบั ทง้ิ ออกมาเปน็ น้ามกู นัน่ เอง 3. คอหอย (Pharynx) เม่อื อากาศผ่านรจู มูกแล้วก็ผ่านเข้าสู่คอหอย ซ่ึงเป็นหลอดต้ังตรงยาวประมาณ 5 น้ิว คอหอยติดต่อทั้งช่องปากและช่องจมูก โครงของคอหอยประกอบด้วยกระดูกอ่อน 9 ช้ิน ช้ินท่ีใหญ่ท่ีสุด คือกระดกู ธยั รอยด์ ทเี่ ราเรียกว่า \"ลูกกระเดือก\" ในผู้ชายเหน็ ไดช้ ดั กว่าผหู้ ญิง 4. กล่องเสียง (Larynx) เปน็ หลอดยาวประมาณ 4.5 ซม. ในผู้ชาย และ 3.5 ซม. ในผู้หญิงหลอดเสียง เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามอายุ ในวัยเร่ิมเป็นหนุ่มสาว โดยเฉพาะในผู้ชาย เน่ืองจากสายเสียง (Vocal cord) ซ่ึงอยู่ภายในหลอดเสียงน้ียาว และหนาขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป จึงทาให้เสียงแตกพร่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกิด จากฮอร์โมนของเพศชาย
5. หลอดลม (Trachea) เปน็ สว่ นที่ตอ่ ออกมาจากหลอดเสียง ยาวลงไปในทรวงอก ลักษณะเป็นหลอด กลมๆ ประกอบด้วย กระดูกอ่อนรูปวงแหวน หรือรูปตัว U ซึ่งมีอยู่ 20 ช้ิน เรียงกันเป็นรูปเกือกม้าติดอยู่เพ่ือ ปอ้ งกนั การยบุ ตัวของหลอดลม 6. ขั้วปอด (Bronchus) เป็นสว่ นของหลอดลมที่แยกออกเปน็ กงิ่ ซา้ ยและขวาเข้าส่ปู อด 7. แขนงขวั้ ปอด (Bronchiole) เป็นแขนงท่อลมที่แยกออกไปมากมายและแทรกอยู่ทว่ั ไปในเนื้อปอด และจะไปสน้ิ สุดทีถ่ ุงลม 8. ปอด (Lung) ปอดเปน็ อวัยวะภายในทรวงอกที่มีขนาดใหญ่ มสี องขา้ ง โดยปอดข้างขวาจะโตกว่า ปอดข้างซา้ ยเล็กน้อย ฐานของปอดแต่ละข้างจะใหญแ่ ละวางแนบสนิทกบั กระบังลม ระหวา่ งปอด 2 ข้าง จะ พบว่า มหี วั ใจอยู่ หน้าท่ีของปอดคือ นาแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ออกจากเลือด และนาแก๊สออกซเิ จนเขา้ สู่ เลอื ด 9. ถุงลมในปอด (Alveoil) ทผ่ี นงั ของถุงลมจะมเี สน้ เลือดฝอยล้อมรอบอย่จู านวนมาก เป็นแหลง่ ใน การแลกเปลี่ยนแกส๊ โดยภายในปอดของคนจะมีอลั วโิ อลสั (ถงุ ลมเลก็ ๆ) อยูป่ ระมาณ 300 ล้านถุง กลไกการหายใจเขา้ และออก เกิดจากการทางานร่วมกันของกะบังลมและกล้ามเน้ือยึดกระดูกซี่โครง การหายใจเข้า กระดูกซี่โครง เล่ือนสูงขน้ึ กะบังลมเล่ือนต่าลง ทาให้ปริมาตรของช่องอกมีมากข้ึน ความดันอากาศลดลง อากาศภายนอกจึง ผ่านเข้าสู่ปอด และการหายใจออกกระดูกซี่โครงเล่ือนต่าลง กะบังลมเลื่อนสูงข้ึน ทาให้ปริมาตรของช่องอก น้อยลง ความดันอากาศภายในช่องอกสงู ขนึ้ อากาศภายในจึงออกจากปอดสู่บรรยากาศภายนอกรา่ งกาย ทมี่ าภาพ หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์
โรคท่เี ก่ียวขอ้ งกับระบบหายใจ 1. โรคถุงลมโป่งพอง ส่วนใหญ่เกิดจากการสูบบุหรี่ เร่ิมด้วย อาการเนื้อเย่ือในปอดถูกทาลายทาให้ การแลกเปลี่ยนแก๊สออกซเิ จนลดลง เป็นผลทาใหต้ ้องหายใจเร็วข้นึ จึงเกิดอาการเหนอื่ ยหอบ 2. โรคมะเร็งปอด เกิดจากสารเคมีปนเป้ือนจากการสูบบุหร่ี อาการเบ้ืองต้น คือ หายใจฝืด ไอเรื้อรัง มีเสมหะและเลือดออก อ่อนเพลีย หายใจเหนื่อย เบ่ืออาหาร น้าหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เจ็บหน้าอกปอด อกั เสบและเสยี ชีวติ ในทีส่ ุด 3. โรคภูมิแพ้ เกิดจากการหายใจนาฝุ่นละออง ควันพิษ เข้าสู่ปอดติดต่อกันเป็นเวลานานทาให้เกิด อาการ จาม ไอ เจบ็ คอ คันจมูก คดั จมกู นา้ มูกไหล ปวดหู หอู อ้ื 4. โรคปอดบวม เปน็ ภาวะที่ปอดเกิดการอักเสบ อาจเกิดจากเช้ือแบคทเี รีย เชอื้ ไวรัสหรอื ในสภาะท่ี ผิดปกตอิ าจเกดิ จากเชอื้ ราและพยาธิ เมื่อเปน็ ปอดบวมจะมีหนองและสารนา้ อย่างในถุงลม ทาให้ร่างกายไม่ สามารถรับแกส๊ ออกซิเจนไดแ้ ละอาจถึงแก่ชวี ิต แนวทางในการป้องกันโรคในระบบหายใจ เช่น ออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ หลีกเล่ียงการอยู่ในสถานที่ แออดั หรอื มีมลพิษทางอากาศ งดสบู บุหรห่ี รอื หลีกเลีย่ งการอยู่ใกล้ผู้สูบบุหรี่ หลีกเล่ียงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย โรคระบบทางเดนิ หายใจ
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: