พายหุ มุน (Cyclonic Storm) ภาพ : shutterstock.com พายุหมุน (Cyclonic Storm) เป็นพายุที่มีขนาดใหญ่ เริ่มก่อตัวและมีกาลังแรงขึ้นจาก บริเวณศูนย์กลางความกดอากาศต่า ลมพัดเวียนเข้าหาศูนย์กลางบริเวณซีกโลกเหนือ เป็นลมพัด เวียนเข้าหาศูนย์กลางในลักษณะทวนเข็มนาฬิกา ส่วนบริเวณซีกโลกใต้ เป็นลมพัดเวียนเข้าหา ศูนย์กลางในลักษณะตามเข็มนาฬิกา บริเวณใกล้ศูนย์กลางลมจะหมุนเกือบเป็นวงกลมและมี ความเร็วสูงสุดความกดอากาศของปรอทในบารอมิเตอร์ บริเวณกลางของพายุจะอยู่ราว 965 มิลลิบาร์ (28.5 น้ิว หรือ 72.4 เซนติเมตร) พายุโดยรอบจะหมุนด้วยความเร็วสูง มีความเร็วต้ังแต่ 75 - 125 ไมล์ (120 - 200 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง บริเวณศูนย์กลางพายุหมุนมีลักษณะคล้ายกับตา เป็นวงกลม เรียกว่า \"ตาพายุ\" (Central Eye) หรือในทางวิชาการ เรียกว่า Vortex โดยทั่วไปมี ศูนย์กลาง 15-60 กิโลเมตร เคร่ืองบินสามารถบินเข้าไปในตาพายุ เพ่ือทาการตรวจอากาศได้ แต่ จะต้องผจญภัยกับกระแสลมแรงมาก ฝนตกหนัก ในปัจจุบันการตรวจอากาศจะใช้ภาพถ่ายเมฆ จากดาวเทียมทมี่ ีประสทิ ธิภาพสามารถตรวจอากาศแทนเครื่องบินได้
การแบ่งประเภทของพายุหมุนตามลักษณะและแหลง่ กาเนดิ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ประเภท คือ 1. พายุหมนุ เขตรอ้ น (Tropical Cyclone) เป็นพายุทีม่ ีแหลง่ กาเนดิ บริเวณน่านนา้ ในเขตละตจิ ูดต่า 2. พายหุ มุนนอกเขตรอ้ น (Extratopical Cyclone) เป็นพายุที่มีแหลง่ กาเนดิ บรเิ วณละติจดู และละติจูดสงู 3. พายหุ มุนทอรน์ าโด (Tornado) เป็นพายุหมุนทมี่ ีขนาดเล็กทส่ี ดุ แตม่ ีความ รุนแรงมากทส่ี ุด ทาความเสยี หายในบริเวณแคบกว่า ทัง้ บริเวณพ้ืนดินและพืน้ นา้ พายุ ประเภทน้ีถ้าเกดิ บริเวณเหนอื พ้ืนนา้ เรียกวา่ นาคเลน่ น้า (Waterspout) เส้นทางการพัดผา่ นของพายุหมนุ เขตร้อนจะสมั พนั ธ์กับอุณหภมู เิ หนอื พน้ื ผวิ ทะเล ในฤดรู อ้ นทางของซีกโลกท้งั สอง ดังภาพ แหล่งกาเนิดของพายหุ มุนเขตร้อน บรเิ วณแหล่งกาเนดิ ของพายุหมนุ แบง่ ออกเป็น 6 บริเวณ 1. บริเวณหมู่เกาะอนิ ดิสตะวันตก อ่าวเม็กซโิ ก และแถบทะเลแคริบเบียน ของมหาสมุทร แอตแลนติกเหนือเรยี กวา่ เฮอริเคน (Hurricane) 2. บริเวณชายฝ่ังทะเลตะวันตกของมหาสมุทรแปซฟิ ิกเหนือ ไดแ้ ก่ แถวหม่เู กาะฟลิ ิปปินส์ ทะเลจีน และเกาะญี่ปนุ่ เรียกวา่ ไตฝ้ นุ่ (Typhoon) 3. บรเิ วณทะเลอาหรบั และอ่าวเบงกอล เรียกว่า ไซโคลน (Cyclone) 4. บรเิ วณชายฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิกฟกิ เหนือและชายฝง่ั ตะวนั ตกของเม็กซิโก 5. บรเิ วณตอนใต้ของมหาสมทุ รอนิ เดีย โดยเฉพาะตะวนั ออกของเกาะมาดากสั การ์ 6. บรเิ วณด้านตะวนั ตกของมหาสมทุ รแปซิฟกิ ใต้ ไดแ้ ก่ หม่เู กาะซามวั หมู่เกาะฟิจแิ ละ ชายฝงั่ ทะเลด้านตะวันออกของออสเตรเลีย เรียกว่า วลิ ล่ี วิลลี่ (Willy Willy) ประเภทของพายหุ มุนเขตร้อน ตามขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศได้แบ่งพายุหมนุ เขตร้อน บรเิ วณทะเลจีนใตแ้ ละบริเวณด้านตะวนั ตกของมหาสมุทรแปซฟิ ิกเหนือ โดยถือตามความรนุ แรง ของความเร็วลมใกล้ศูนยก์ ลาง ดังน้ีคือ
1. พายดุ ีเปรสชัน่ (Depression) คือพายุหมนุ ทม่ี ีความเร็วลมใกล้ศูนยก์ ลางบริเวณ พื้นผิวไม่เกิน 33 นอต (61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) พายุดีเปรสช่ันส่วนใหญ่จะไม่มีการต้ังช่ือ เฉพาะพายุแตล่ ะลกู 2. พายุโซนร้อน (Tropical Storm) คือ พายุหมุนที่มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง บริเวณพนื้ ผิวระหว่าง 34-64 นอต (63-118 กโิ ลเมตรต่อชั่วโมง) พายุโซนรอ้ นจะพฒั นาข้ึน เป็นพายไุ ต้ฝนุ่ หรอื เฮอริเคน 3. พายุไต้ฝุ่น (Typhoon) คือ พายุหมุนที่มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง บริเวณผิว พื้นตั้งแต่ 64 นอตขึ้นไป (118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และถ้ามีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง บริเวณพ้ืนผิวมากกว่า 130 นอต (241 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง) เรียกพายุหมุนน้ีว่า \"ซุปเปอร์ ไต้ฝุ่น\" (Supper Typhoon) พายุไต้ฝุ่นที่เกิดขึ้นแต่ละลูกจะมีการตั้งช่ือเฉพาะ เช่น พายุ ไตฝ้ ุ่นเกย์ พายุไต้ฝุ่นแองเจลา เป็นต้น พายุหมุนเขตร้อน ท้ัง 3 ประเภทมีการเปล่ียนแปลงได้ เช่น พายุดีเปรสชั่นเม่ือมี ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางเพม่ิ ขนึ้ จะกลายเปน็ พายุโซนรอ้ นหรือพายไุ ตฝ้ ุ่น ในขณะเดยี วกัน เมอื่ พายุไต้ฝุ่นลดความเร็วลมใกล้ศนู ย์กลางลงจะกลายเปน็ พายุโซนรอ้ นหรอื พายดุ ีเปรสช่ัน และเปน็ หย่อมความกดอากาศตา่ แลว้ จึงสลายตวั ไปในทส่ี ุด พายหุ มุนเขตร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นพายุหมุนเขตร้อน ท่ีเกิดจากมหาสมุทรแปซิฟิกหรือในทะเลจีน ใต้และการเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย นอกจากน้ันก่อตัวในเขตมหาสมุทรอินเดียเม่ือพิจารณา ประกอบกับสภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ในด้านทาเลที่ต้ังพบว่ามักไม่ค่อยได้รับอิทธิพล จากพายุไต้ฝุ่นมากนักเน่ืองจากทิศทางการเคล่ือนตัวจากทางด้านทะเลจีนใต้เคล่ือนเข้าสู่ประเทศ ไทยทางบริเวณตะวนั ออกเฉียงเหนอื หรือภาคเหนอื ในช่วงเดอื นกรกฎาคมถงึ เดือนกันยายน โดยมากมักอ่อนกาลังลงกลายเป็นพายุดีเปรสชันหรือสลายตัวกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่า เสียก่อน เน่ืองจากพายุเคล่ือนตัวเข้าสู่แผ่นดินจะอ่อนกาลังเม่ือปะทะกับลักษณะภูมิประเทศ เทือกเขาสูงแถบประเทศเวียดนามกัมพูชา และเทือกเขาชายแดนประเทศไทยเสียก่อน ระบบจะ หมุนเวียนของลมจึงถูกกีดขวางเป็นเหตุทาให้พายุอ่อนกาลังลงน่ันเองส่วนทางด้านภาคใต้ของ ประเทศไทยมีลักษณะเป็นภูมิประเทศท่ีคาบมหาสมุทรย่ืนยาวออกไปในทะเล ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ทางด้านทิศตะวันตกมีแนวเทือกเขาสูงชันทอดตัวยาวตลอดแนวจึงเป็นแนวก้ันพายุได้ดี ส่วน ทางด้านภาคใต้ฝ่ังทิศตะวันออกไม่มีแนวกาบังดังกล่าวทาให้เกิดความเสียหายจากพายุได้ง่ายกว่า โดยมากมักเกิดพายุเข้ามาในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมเป็นต้นตัวอย่างเช่นความเสียหาย
รา้ ยแรงจากพายไุ ตฝ้ ุ่น เกยท์ ่ีพัดเขา้ มาทางด้านภาคใต้ทางด้านฝ่งั ทะเลตะวนั ออกประเทศ เมอ่ื วันท่ี 4 พฤศจิกายน 2532 ทาให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากโดยทั่วไปประเทศมักจะได้รับอิทธิพล จากพายุดีเปรสชั่นมากที่สุดโดยเฉลี่ยปีละ 3-4 ลูก สาหรับการเกิดพายุหมุนเขตร้อนในประเทศ ไทยมกั เกิดขนึ้ ในฤดูฝนตั้งแต่เดอื นพฤษภาคมเปน็ ตน้ ไปจนถึงเดอื นตุลาคมจะเป็นพายุหมุนเขตร้อน ที่ก่อตัวข้ึนในบริเวณมหาสมทุ รอินเดยี บริเวณมหาสมุทรแปซฟิ กิ และทะเลจนี ใต้ ระยะเวลาท่เี กดิ ของพายุหมุนเขตร้อนในประเทศไทย พายุหมนุ เขตร้อนมักจะมเี วลาเกิดและบริเวณท่ีเกิดแน่นอน เช่น พายุหมนุ ที่เกิดบริเวณหมู่ เกาะอินดิสตะวนั ตก ส่วนมากจะเกิดอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงพฤศจิกายน ส่วนพายหุ มนุ เกิด บริเวณชายชัง่ ตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ แถบอ่าวเบงกอลและบรเิ วณทะเลอาหรับจะมี เกิดตลอดปี แต่ส่วนมากเกิดอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงพฤศจิกายน พายุหมุนบริเวณ มหาสมุทรแปซิฟิกใต้และมหาสมุทรอนิ เดียใต้ จะเกดิ อย่รู ะหว่างเดอื นตลุ าคมถึงเมษายน พายุหมุน สว่ นมากมกั จะเกดิ ในฤดูร้อนของแต่ละซกี โลก การปอ้ งกันภัยท่เี กิดจากพายุหมนุ 1.ตดิ ตามสภาพอากาศฟังคาเตือนจากกรมอตุ ุนิยมวิทยา 2.ฝกึ ซ้อมการปอ้ งกนั ภัยพบิ ตั เิ ตรียมความพรอ้ มรับมือ และวางแผนการอพยพหากจาเปน็ 3.เตรียมเครื่องอปุ โภคบริโภคไฟฉายแบตเตอร่ีวทิ ยกุ ระเปา๋ ห้ิวตดิ ตามขา่ วสาร 4.ซอ่ มแซมอาคารใหแ้ ขง็ แรงเตรียมป้องกันภัยให้สตั ว์เล้ยี งและพชื ผลทางการเกษตร 5.เตรียมพรอ้ มอพยพเม่ือได้รบั แจง้ ให้อพยพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: