พ้อย ละครตะวันตก1

การละครมมี าต้งั แต่สมัยดกึ ดาบรรพ์คู่กบั มนุษย์ชาติ ทุกชาติ ทุกภาษา จดั การแสดงขนึ้ เพื่อเป็ น การสรรเสริญพระพุทธเจ้า และยอพระเกยี รตพิ ระมหากษตั ริย์ ชาตทิ ม่ี อี ารยธรรม ทเี่ ก่าแก่จะมีตานาน แสดงถงึ กาเนิดแห่งการละครประจาชาติ ท้งั นีเ้ พ่ือให้เยาวชนได้ศึกษาค้นคว้าซ่ึงอาจจะเป็ นภาพเขียน ศิลา จารึก คมั ภรี ์ ตารา ตลอดจนเอกสารส่ิงพมิ พ์ หรือภาพถ่ายต่างๆ กลบั

กลบั

ยุคเริ่มแรกของละครตะวนั ตก ได้แก่ละครกรีและโรมนั เป็ นระยะเวลาเร่ิมต้นใน การวางรากฐานของละครตะวนั ตกประมาณ 500 ปี ก่อนคริสต์ศักราช กลบั

เป็ นต้นกาเนิดของละครตะวนั ตก มี 2 ประเภท เกิดข้ึนในพธิ ีบูชา เทพเจา้ ไดโอนีซุส มีลกั ษณะหยาบโลน สวมใส่ หนา้ กากเลียนแบบสตั ว์ ลอ้ เลียน มีชายคนหน่ึงส่วม หนา้ กากเป็นผู้ สงั คม ต่อมามีเน้ือหาเก่ียวกบั นานกั ร้องเรียกวา่ คอรัส สามญั ชน โดยเฉพาะเรื่องเงิน แก่นของเร่ืองตวั ละครเอกตอ้ งต่อสู้ และความรัก จบแบบ กบั ชะตากรรม ต้งั แต่ตน้ จนจบดว้ ย ความตาย หรือหายนะของตวั ละคร Happy Enging ต่อไป

โรงละครกรีก เป็ นโรงละครกลางแจ้ง รูปคร่ึงวงกลม ทวี่ ่างระหว่างผู้ชมกบั เวที เรียกว่า ออร์เคสตรา กลบั สไลด์ 4

รับอทิ ธิพลจากละครกรีก แต่ละครโรมันเน้นไปทค่ี วามยงิ่ ใหญ่ ฟ่ ูฟ่ าของโรง ละคร เป็ นพวกแรก ทใ่ี ช้ม่านด้านหลงั เวที Comedy Tragedy มกั จะอนาจาร มงุ่ เนน้ จะโหดรา้ ย ป่าเถ่ือน เร่อื งชาวบา้ น ตวั ละคร เป็นแบบตายตวั กลบั

ละครตะวนั ตกยคุ กลาง ประวัตลิ ะครตะวนั ตกสมัยกลาง 1. ละครศาสนา 2. ละครทีไ่ ม่เกย่ี วกบั ศาสนา กลบั

ประวตั ลิ ะครตะวนั ตกสมัยกลาง ละครตะวนั ตกสมยั กลางเกดิ ขนึ้ จากวดั และโบสถ์ พระจะสอนศาสนาด้วยการ แสดงละครประกอบทาให้ชาวบ้านเข้าใจและสนใจศาสนามากขึน้ และขยายเป็ นวงกว้าง ออกมาล่นนอกวดั โดยประชาชนเป็ นผ้จู ดั การแสดง และมสี มาคมอาชีพทเี่ รียกว่า “กลิ ต์” อุปการะการแสดงละคร และจะแสดงกนั บนเกวยี นทมี่ ลี ้อเลื่อนตกแต่งประดบั ประดาให้เป็ น ฉากละคร แสดงในทช่ี ุมชนบ้าง ลานวดั บ้าง กลบั

1. ละครศาสนา จะเริ่มแสดงในโบสถ์ก่อน ต่อมาจงึ นาออกมาแสดงภายนอก เนื้อเรื่องนามาจากพระคมั ภีร์ ไบเบิล ส่วนมากจะจูงใจคนดูด้วยมุกตลกต่างๆ ก่อนทีจ่ ะกล่าวถงึ ประวตั ขิ องพระเยซู กลบั

2. ละครทไี่ ม่เกยี่ วกบั ศาสนา 2.2 ละครตลกชวนหัว เป็ นละครท่ีมีความนิยมสูงสุดใน 2.1 ละครพืน้ บ้าน ยคุ กลาง เพราะเป็นการลอ้ เลียน เป็นละครท่ีกล่าวถึงวรี กรรมของวร เสียดสีสงั คม จึงเป็นลกั ษณะ บุรุษระดบั ทอ้ งถ่ิน การผจญภยั ของละครท่ีตรงขา้ มกบั ละคร บทบาทในการแสดงเป็นการตอ่ สู้ ศาสนา ดว้ ยการดวลดาบ การเตน้ รา เรื่องราวที่เป็นท่ีนิยมในสมยั น้ี กลบั ไดแ้ ก่ เร่ืองโรบินฮูด เป็นตน้

ละครยคุ ฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา 1. ละครอติ าลี 2. ละครองั กฤษ กลบั

1. ละครอติ าลี ละครสมยั น้ีจะแยกตวั ออกมาจากศาสนา เป็นละครที่ชาวบา้ นใหค้ วามนิยม เพราะมีลกั ษณะตลกชวนหวั เราะมีเน้ือเรื่อง ส้นั ๆ คลา้ ยจาอวดของไทย แยกออกเป็น Comedy Dell’arte อุปรากร (opera) (คอมเมอเดยี น เดลา เต้) อุปรากรเกิดข้ึนในอิตาลีช่วงปลาย เป็นละครตลกท่ีมีตวั ละครเป็นคน ศตวรรษท่ี 16 ณ สถาบนั ฟลอเรนไทน์ รับใช้ เป็นตวั ละครท่ีคนดูชอบมาก พฒั นามาจากละครโศกนาฏกรรม ลกั ษณะการแสดงคลา้ ยละครใบข้ อง ของกรีก โดยผสมผสานดนตรีและ กรีกและโรมนั ผแู้ สดงสวมหนา้ กาก ละครเขา้ ดว้ ยกนั กลบั

2. ละครองั กฤษ ละครขององั กฤษในยคุ ฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา ประชาชนในองั กฤษ ทุกชนช้ันวรรณะจะนิยมดูละครกนั มาก ลกั ษณะการแสดงเร่ิม เปลย่ี นรูปแบบโดยใช้นักแสดงหญงิ รับบทเป็ นนางเอก แทน เดก็ ผู้ชาย ซึ่งถือเป็ นแบบฐานของละครตะวนั ตกมาจนถงึ ปัจจุบนั ต่อไป

นักเขยี นบทละครทีม่ ีช่ือเสียงไปท่ัวโลกขององั กฤษ วมิ เลยี ม เชคสเปี ยร์ ยอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ กลบั

ละครตะวนั ตกในยุคปัจจุบนั ละครตะวนั ตกในยุตปัจจุบนั ต้องแข่งขันกบั อบิ เซ่น โทรทศั น์และภาพยนตร์ แต่ละครเวทีของ องั กฤษและอเมริกา ยงั เป็ นทน่ี ิยมของคนดูอยู่ นักประพนั ธ์ละครชาวนอร์เวย์ เป็ นผู้ปฏริ ูป เป็ นจานวนมาก เพราะละครเวทไี ด้เปรียบตรงท่ี การละครสมยั ใหม่เป็ นคนแรก จนได้รับ เป็ นการแสดงสด ทาให้มีสัมพนั ธภาพระหวาง นักแสดงกบั คนดู สมญานามว่าเป็ น “บดิ าแห่งการละครสมยั ใหม่” ต่อไป

ละครสมัยใหม่มี 2 แนว 1.ละครแนวซีเรียลสิ ม์ หรือสัจนิยม เป็ นละครทพ่ี ยายามมองชีวติ ด้วยสายตา ทเี่ ป็ นกลางแล้วสะท้อนออกมาในรูปของ ละครตามความเป็ นจริง โดยไม่เสริแต่ง หรือบดิ เบือน เนื้อเรื่องของละคร แนวเรียลสิ ม์ เน้นเร่ืองราวใน ชีวติ ประจาวนั ของผ้คู นในช่วงน้ันๆ โดน หลกี เลย่ี งเร่ืองราวเกยี่ วกบั ประวตั ศิ าสตร์ ต่อไป

1.2 ละครแนวเนเชอรัลลสิ ม์หรือ ธรรมชาตินิยม แสดงความเป็นจริงของชีวติ ดว้ ยเหตุผล ท่ีวา่ ชีวติ จริงจะพบไดจ้ ากประสาท สัมผสั ท้งั 5 ศิลปะตอ้ งสาเร็จดว้ ยวธิ ีการ ทางวทิ ยาศาสตร์ พฤติกรรมท้งั ปวงของ มนุษยม์ ีผลมาจากพนั ธุกรรมและ ส่ิงแวดลอ้ ม กลบั

ประเภทของละคร 1. ละครประเภทโศกนาฏกรรม 2. ละครประเภทสุขนาฏกรรม กลบั

1. ละครประเภทโศกนาฏกรรม เป็ นวรรณกรรมการละครทดี่ เี ด่นเหนือการละครประเภทอื่นๆ นับต้งั แต่สมยั ศตวรรณที่ 5 ก่อนคริสตกาลเป็ นต้นมา ลกั ษณะของละครโศกนาฏกรรม กลบั 1.เป็ นเรื่องทแ่ี สดงถงึ ความทุกข์ทรมานของมนุษย์ 2. ตวั เอกมคี วามยง่ิ ใหญ่เหนือคนทั่วไป 3. ให้ความรู้สึกอนั สูงส่ง ผ่องแผ่วในจิตใจ ชาระล้างจิตใจให้บริสุทธ์ิ 4. มีความเป็ นเลศิ ในเชิงศิลปะและวรรณคดี ด้านปรัชญา ด้านความคดิ

1. ละครประเภทสขุ นาฏกรรม ละครสุขนาฏกรรมนีม้ ที มี่ าเช่นเดยี วกบั ลกั ษณะของละครสุขนาฏกรรม ละครโศกนาฏกรรม เพราะถือกาเนิดมาจากพธิ ี 1. ละครแสดงลกั ษณะนิสัยของบุคคล เฉลมิ ฉลองเทพเจ้าไดโอนิซัส ของกรีกเช่นกนั โดน 2. ละครท่เี กดิ ความเข้าใจผดิ อย่างไขว้เขว พฒั นามาจากการขบั ร้องเกย่ี วกบั ศาสนา เป็ นละคร 3. ละครแสดงความรู้สึกในใจ ทที่ าให้ผู้ชมละครเกดิ ความสุข ตวั เอกสามารถฝ่ า 4. ละครแสดงความตลกขบขนั ฟันอปุ สรรคไปได้อย่างไม่ย่อท้อ สามารถปรับตวั 5. ละครที่เกดิ ความเป็ นจริง ให้เข้ากบั สภาพแวดล้อมได้เป็ นอย่างดี เรียนรู้ 6. ละครแสดงความสุข ความร่ืนรมย์ ข้อบกพร่องของตนเองและผู้อ่ืน กลบั