กวีนพิ นธดลธรรรม ลาํ ดับที่ ๑ หม ฟา ดนิ หอม พมิ พค รงั้ ท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๔ ขอมลู ทางบรรณานกุ รมของสาํ นักหอสมดุ แหงชาติ ว.วชิรเมธี. หม ฟา ดินหอม.--พมิ พค ร้งั ท่ี ๑.--กรุงเทพฯ : ปราณ, ๒๕๕๔. ๒๕๖ หนา . ๑. พุทธศาสนา -- กวีนพิ นธ. ๒. ธรรมะกบั ชวี ติ ประจาํ วนั . I. ช่ือเรอ่ื ง 294.31881 ISBN 978-616-7539-06-5 จดั พิมพโดย สาํ นกั พิมพป ราณ ๙๕/๘ ซอยแกว อินทร ถนนกาญจนาภิเษก ตําบลเสาธงหนิ อําเภอบางใหญ จงั หวดั นนทบรุ ี ๑๑๑๔๐ โทรศัพท ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๑ โทรสาร ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๒ www.pranbooks.com เจาของ ผพู ิมพผโู ฆษณา บริษัท ปราณ พับลิชช่งิ จํากัด ประธานเจาหนาที่บริหาร ชินวัฒน ชนะหมอก กรรมการผูจัดการ สํานักพิมพ เริงฤทธิ์ ธิชาญ ท่ีปรึกษาดานกฎหมาย พันตํารวจตรี อภิเษก ปศโน บรรณาธิการบริหาร เทวัญกานต มงุ ปน กลาง บรรณาธิการฝายใน ฐติ ริ ตั น ศริ เิ มอื ง บรรณาธิการฝายนอก รฐั วรรณ พฒั นรชั ตอดลุ ฝายประสานงานสํานักพิมพ อาภรณ พัฒนรัชตอดุล เลขานุการกองบรรณาธิการ เยาวลักษณ ลูกอินทร พิสูจนอักษร รวีโรจน คําสุข, วัชริศ ศรีแสงแกว คอมพิวเตอร อโนชา พุธนอย ฝายศิลปกรรม แดนชัย วรรณศิริมงคล, รงุ นภา จิตจราด สํานักงาน บริษัท ปราณ พับลิชช่ิง จํากัด ๙๕/๘ ซอยแกวอินทร ถนนกาญจนาภิเษก ตําบลเสาธงหิน อําเภอบางใหญ จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๔๐ โทรศัพท ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๑ โทรสาร ๐-๒๑๙๕-๐๕๘๒ E-mail: [email protected] ราคา ๑๙๕ บาท
คารวะพระ ว.วชิรเมธี ทา น ว.วชริ เมธี หรอื ทา นพระมหาวฒุ ชิ ยั เปน พระหนมุ เทยี บระดบั ทางโลกกค็ อื “ขวญั ใจ” ของคนยคุ นไี้ ดเ ลย หาก ขวญั ใจในท่ีนีก้ ลับเปน ทางธรรม คือ ดี เดน ดัง ทางธรรม อันหาไดย ากจะมปี รากฏการณเชนนใี้ นสังคมไทย ตรงนี้นา คดิ และขอฝากใหคิด ประเดน็ ชวนคดิ คอื พระกบั สงั คมจะปรบั ตวั เขาหากนั ไดอ ยา งไรและเพยี งใดในยคุ “โลกในเรอื น-เพอื่ นในมอื ” อนั ไรพ รมแดนวันนี้ วชริ ะ น้ันนัยหน่ึง แปลวา สายฟา ซึ่งดูจะสมกบั ฉายา ของทานคือ “วชิรเมธี” แปลวา นักปราชญสายฟา คือ มีภูมิปราชญเปนอาวุธประดุจสายฟา หรือประดุจเพชร น่นั เลย ดวยวชริ ะ นอกจากแปลวา สายฟา แลว ยังแปลวา อาวุธและเพชรอกี ดว ย คอื ความแหลมคมฉบั ไวนน่ั เอง ฉายาวชิรเมธีจึงมีนัยเหมาะสมกับยุคไอทีดิจิตอล ไฮเทค เปน ทย่ี ิ่ง
ภูมิปราชญของทาน ว.วชิรเมธี ก็คือ ภูมิดานปริยัติ ธรรม ถงึ ขนั้ ป.ธ. ๙ คอื เปรียญเกาประโยค ภาษาชาววัด เรียก “เปรยี ญเอกอ”ุ ถอื เปน สงู สดุ ทางปริยตั ิธรรม กับได ปรญิ ญาพทุ ธศาสตรมหาบณั ฑติ เกยี รตนิ ยิ มอนั ดบั หนง่ึ และ ดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดจิ์ ากสถาบนั การศกึ ษาอกี ไมน อ ยกวา สามแหง นอกจากภูมิรูอันเปนภูมิปราชญดังกลาว ทานยัง ทรงภูมิดานวาทศิลปและวรรณศิลปเปนที่ประจักษดังเปน “ขวญั ใจ” ทางธรรมอยูน ้ี พระผเู ผยแผห ลกั พทุ ธธรรมทแ่ี ทท บ่ี รสิ ทุ ธนิ์ นั้ หาไดย าก นัก โดยเฉพาะพระดา นอรรถกถาจารย คอื ผถู า ยทอดธรรม ทเ่ี ปน “อรรถะ” คอื เนอื้ แทแหง ธรรมใหคนรับรูอยางไดผ ล ซ่ึงตองผา นการ “ถอดรหัสธรรม” นํามาอธบิ ายประยกุ ตใ ช ใหเหมาะสมกบั สถานการณไดจ รงิ หนึ่งในน้ปี จจบุ นั กค็ ือ ทาน ว.วชริ เมธี
ดว ยวยั ๓๘ ปข องทา น กบั ศกั ยภาพทที่ า นมใี นปจ จบุ นั นก้ี ค็ อื ความถงึ พรอ มดว ยคณุ วฒุ ิ และวยั วฒุ ิ อนั ยากจะหา ไดใ นวงการพระอรรถกถาจารยรนุ ๆ นี้ สังคมไรที่พึ่งทุกวันน้ี กอลักษณะสุดโตงหรือสุดขั้ว สองดา นคอื ดา นหนงึ่ แสวงหาความเช่ือ เพือ่ ยึดเปน ท่พี ง่ึ อกี ดา นคือ แสวงหาความไมเชื่อไมเ อากบั อะไรเลย สองขัว้ น้เี ปน ความขัดแยงระหวา ง ความเช่อื กับความ คิด ทา น ว.วชริ เมธี เคยใหนิยามพวกเอาแตจะเชื่อวา เปน พวก “รูแตทจี่ ะเชอื่ แตไมเช่ือท่จี ะร”ู สวนพวกเอาแตคิดนัน้ นาจะนิยามโดยนยั เดียวกันได กระมังคอื “รูแตทจี่ ะคิด แตไ มคิดท่จี ะร”ู แทจรงิ ความเชื่อ กบั ความคดิ ก็คอื ศรทั ธา กับ ปญญา ทานอาจารยพุทธทาสเปรียบวา เหมือนคูวัวเทียม เกวยี นตอ งเดนิ เสมอกัน ทานวา ศรทั ธาหนักกจ็ ะกลายเปน งมงาย ปญ ญาหนกั กจ็ ะกลายเปน บาไปได คือ ไมเ ชอ่ื ใน อะไรทง้ั สิน้
นาจะนิยามพวกเอาแตปญญาลูกเดียวนี้วาเปนพวก “อหังการคับฟา ” กบั พวก “อัตตาคับกรง” ไดกระมัง ภูมิปราชญของทาน ว.วชิรเมธี มีลักษณะ “ทาให คิด สะกิดใหเช่ือ” จึงเทากับ ผูพยายามดึงวัวสองตัวคูน้ี คอื ศรัทธากับปญ ญาใหมาเดินเทียมเกวยี นเสมอกนั ทาน จงึ เปน พระทพี่ ง่ึ ของสงั คมไรท พ่ี ง่ึ แมน อ ยนดิ แตท รงพลงั นกั หนังสอื “หมฟา ดนิ หอม” อันเปน “บนั ทึกการเดนิ ทาง ผานบทกวีและไปรษณียบัตร” เปนผลงานวรรณศิลปเลม หน่ึงที่ ว.วชริ เมธี ไดแ สดงใหเ หน็ ถึงกระแสนอยๆ กระแส หนงึ่ ในสายธารพลงั แหง ธรรมนี้ เปน บทกวแี ละขอ เขยี นอนั ออกมาจากความรสู กึ นกึ คดิ ท่สี ะทอ นใหเ ห็นถงึ ภูมปิ ราชญใ นเชิงกวอี ยูไมน อย ดังบทน้ี ท่ีทนี่ ํ้าเปนสนี าํ้ ย้ําชัดชัด ทท่ี ีฟ่ าสฟี า ตัดกับเมฆขาว ท่ที ่คี นั่ นาํ้ ฟาภผู าพราว มารอยเรยี งเปนเรอ่ื งราวรมณยี ฯ (จากบท “ซอเรนโต” อติ าล)ี
ชว ยกันนาํ คอรรัปชนั่ ไปบันทึก เตือนสํานกึ คนรุนหลงั สวา งไสว คอรรัปชนั่ ตอ งไมอยูคคู นไทย อยแู ตในพพิ ิธภัณฑเทา น้ันพอฯ (จากบท “คอรร ัปช่ัน”) เธอคอื สือ่ มวลชนแหงความหวงั คือพลังแหงขา วสารอันยิง่ ใหญ คอื ความกลา ทจ่ี ะกา วอยางยาวไกล คือหลักชยั ของปญ ญาประชาชนฯ (จากบท “ส่อื มวลชน”) บทบาลีวา “กวิคาถานมาสะโย” แปลวา “กวีเปนที่ อาศัยแหง คาถาทง้ั หลาย” บดั น้ี ทา น ว.วชริเมธี ไดถ อดรหสั ธรรมถา ยทอดเปน บทกวใี หเ ราไดร บั “ธรรมรส” จากสนุ ทรยี แ หง วรรณศลิ ป ซงึ่ เปน หนงึ่ ในวถิ แี หง อรรถกถาจารย ทสี่ าํ คญั แมจ ะเปน ดงั สงิ่ ละอนั พนั ละนอ ยเหมอื นดอกไมร ว งนาํ มารอ ยเปน มาลยั พวง นอ ยกน็ บั วาหอมนกั
บทกวแี ละขอ เขยี นทง้ั หมดในเลม คละเคลา ดว ยความ รูสกึ ซือ่ ๆ ตรงๆ จากสิง่ ท่ีพานพบในท่ตี า งๆ ทง้ั ตะวนั ตก ตะวนั ออก อนั รวมทง้ั ความนกึ คอื จนิ ตนาการและภมู ธิ รรม รวมถงึ ความคิดทเ่ี ปน ภมู ิปราชญของ ว.วชริ เมธี พระผูเปน ทพี่ ง่ึ ของสังคมไรท พ่ี ึง่ ขอคารวะทา นดว ยกลอนน้ี พระผูเปนทีพ่ ึง่ ของชาวพุทธ พระผูท รงปารสิ ทุ ธิส์ มมตุ สิ งฆ พระผทู รงแสดงธรรมความเที่ยงตรง พระผทู รงภูมธิ รรมความเปน พระ พระผูสรางกุศลธรรมนาํ คลั ลอง พระผูค รองสันโดษสมถะ พระถงึ พรอ มวิชชาจารณะ คารวะ พระ ว.วชิรเมธีฯ
คํานาํ สาํ นกั พิมพ การเดินทางไปสถานที่ตางๆ ท่ีเราไมเคยไป จะ ทําใหเรามีความรูสึกต่ืนตาต่ืนใจ ไดความคิด ไดไอเดีย ใหมๆ ไดเหน็ วา โลกใบน้ีมคี วามสวยงาม มคี วามแตกตาง หลากหลายอยมู ากมายเหลือเกิน เมื่อไดเดินทาง หลายคนก็จะใชวิธีบันทึกวา ได ไปที่ไหนมาบาง พบเจออะไรบาง เปนบันทึกประจําวัน เปนขอเขียน เปนเรื่องเลา หรือบางคนก็จดบันทึกราย ละเอียดอยางดี จนสามารถนํามาจัดทําเปนหนังสือ ทอ งเท่ยี วสรา งความภูมใิ จใหก ับตนเอง แตจะมีสักก่ีคนที่เขียนบันทึกการเดินทางไปท่ีตางๆ ดว ยบทกว!ี การเขียนบทกวขี ้นึ มาสักหน่งึ บทนั้น ไมใชส ิ่งที่ทําได งา ยๆ หากเราไมม คี ลงั คาํ ศพั ทใ นหวั เพยี งพอ ใชเ วลาทงั้ วนั กอ็ าจเขยี นไดไ มถ งึ บท และหากไมม คี วามอดทนพอ เมอ่ื คดิ ไมอ อก กจ็ ะพาลเลิกเขียนเอางายๆ
แตทาน ว.วชิรเมธี เลือกท่ีจะเขียนบันทึกการเดิน ทางของทานดวยบทกวี ดวยเหตุผลที่วา บทกวีสามารถ ถายทอดความรูสึกไดลึกซึ้งตรึงใจ จดจํางาย เพราะเปน จังหวะทํานอง และที่สําคัญคือ ทานลงมือเขียนบทกวีน้ัน ณ สถานที่แหงนั้น สดๆ รอนๆ จบทันที กอนที่จะเดิน ทางไปทอ่ี ่ืน ดว ยเหตุผลท่วี า ทา นตอ งการฝก สมองตนเอง ใหเ ปน คนคดิ เรว็ ทาํ เร็ว เม่ือคิดออกมาแลว กส็ ามารถนํา ออกมาใชงานไดทันที ประกอบกบั การท่ที านเปนผทู ี่รกั การอาน ส่งั สมความ รูและคลังคําศัพทมามากมาย ทานจึงตั้งใจที่จะทําเชนนี้ เพ่อื ทดสอบวา ตนเองสามารถเปน นายของภาษาไดห รือไม ดวยการแตงบทกวีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งกาพย กลอน โคลง ฉันท ซง่ึ ทานก็สามารถแตงไดด ที กุ รูปแบบ สง่ิ ทท่ี า นเขยี นนนั้ ไมไ ดเ ขยี นบรรยายภาพ แตเ ปน การ บอกเลา ถงึ ความรสู กึ ของตนเอง และชใ้ี หเ หน็ มมุ ของธรรมะ ที่ซอนอยใู นสิ่งทที่ านไดพ บเหน็
อา นแลวท่ึง แถมยงั ไดส ารธรรมใหฉุกคิดอีกดว ย “หมฟาดินหอม: บันทึกการเดินทางผานบทกวีและ ไปรษณยี บตั ร” ไดเ คยจดั พมิ พม าแลว ในรปู แบบของหนงั สอื ท่ีระลกึ เนื่องในวนั คลา ยวันเกิดของทา นเม่ือ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๔ ปรากฏวา ไดรับความนิยมมาก หนังสือไมพอ แจก จนถึงบดั นี้กย็ งั มีผูท่ีถามมาอยเู สมอวาหาซ้อื ไดทไ่ี หน บา ง สาํ นักพิมพเ หน็ วา ระหวางรอการปรบั ปรงุ เพอื่ ใหเปน หนังสือที่สมบูรณท่ีสุด นาจะไดจัดเปนหนังสือ e-book ขึน้ มากอน เพื่อผูทส่ี นใจจะไดด าวนโ หลดไปอานไดท ันที ชีวิตก็เปรียบเปนเชนการเดินทางสายหน่ึงเชนกัน สํานักพิมพหวังวา หนังสือเลมนี้จะชวยเปนแรงบันดาลใจ ใหเกดิ ความคดิ และมุมมองใหมๆ ชวยใหก ารเดินทางสาย น้ีเต็มไปดวยสารธรรมและประโยชนสุขท้ังตอตนเอง และ ผูคนรอบขา ง บรรณาธกิ ารบริหาร สาํ นักพมิ พปราณ
สารบญั (๔) (๑๐) คารวะพระ ว.วชริ เมธี คํานาํ สํานกั พิมพ ๑ ภาค ๑ สรางสรรควรรณศิลป ๒ ๔ ปณิธานกวี ๖ คําหอม ๗ ประดับไวใ นโลกา ๘ ย่งิ สูงยิง่ หนาว ๙ ตายเสยี ไดก ด็ ี ๑๐ อยอู ยา งต่ํา ทําอยา งสูง ๑๑ โลกไมชํ้าธรรมไมเสีย ๑๒ ต่ืนรูดูที่ใจ ๑๓ มกี ิ๊กมกี รรม ๑๔ คนลม อยาขาม ๑๕ อยากินสินบน ๑๖ เรยี นสูงใจตํ่า ๑๗ หนา เน้ือใจเสอื มกี อดมกี ดั
ทวาทศมาส ๑๘ ทะ ลมุ ปมุ ปู ๒๔ ทุ สุ มุ ดุ ๒๖ อุ สา นา รี ๒๘ โก วา ปา เปด ๓๐ จก จี้ รี้ ไร ๓๒ กวีวากยก ากกวี ๓๔ ภาค ๒ เยือนถน่ิ ยโุ รป ๓๗ เนวเิ กเตอร ๓๘ ยลยุโรป ๔๑ ปารีส ๔๓ ประตชู ยั ๔๕ ประตชู ยั ๒ ๔๗ สองเทา ๔๙ ไอเฟล ๕๑ ไอเฟล ๒ ๕๓ ปร ามิดแกว ๕๕ พิพิธภัณฑล ูฟวร ๕๗ ปากเปน เอก ๕๙
วิคเตอร ฮโู ก ๑ ๖๑ วคิ เตอร ฮูโก ๒ ๖๓ วคิ เตอร ฮโู ก ๓ ๖๕ Navigator ๖๗ สามัคคีทํา ๖๙ นกั เขียน ๗๑ มองใหเ ห็น ๗๓ นอกกรอบ ๗๕ หยกยโุ รป ๗๖ กงั หันลม ๗๙ เนเธอรแลนด ๘๑ ปอมเปอี ๘๕ ซอรเรนโต ๘๗ โคลอสเซียม ๘๙ หนากาก ๙๐ มหาวหิ ารเซนตป เ ตอร ๙๓ รหสั แหง กุญแจ ๙๕ คาํ พพิ ากษา ๙๗ Pieta` ๙๙ วทิ รูเวยี น ๑๐๑
เมืองในฝน ๑๐๓ ลอนดอน ๑๐๕ ภควนั ต ๑๐๗ พระกาล ๑๐๙ Isaac Newton ๑๑๐ พลังของภาษา ๑๑๓ ภาค ๓ เพียรพบพทุ ธภมู ิ ๑๑๕ แรงศรทั ธา ๑๑๗ ถําพุทธ ๑๑๘ พระเข้ียวแกว ๑๒๑ แพะรบั บาป ๑๒๒ พทุ ธภมู ิ ๑๒๕ สคุ ะโต ๑๒๗ ปางหามพระญาติ ๑๒๙ ปรนิ พิ พาน ๑๓๑ ซากศพอดตี ๑๓๔ ซากศพของวันวาน ๑๓๕ โลกีย-โลกตุ ร ๑๓๗ สิครี ิยา ๑๓๙
สงู ทว มฟา ๑๔๐ มณมี นุษย ๑๔๓ พลังศรัทธา ๑๔๕ พระธาตุอินทรแขวน ๑ ๑๔๗ พระธาตอุ ินทรแขวน ๒ ๑๔๘ พระเจดียมนหู า ๑๕๑ เยือนพุกาม ๑๕๓ มุเตาเขาเฝอ ก ๑๕๔ วงั หลวงบุเรงนอง ๑๕๗ ทะเลเจดยี ๑๕๙ ภาค ๔ หลากมุมญี่ปุน ๑๖๑ ปณธิ านกวี ๑๖๓ เกาะแกวยนุ ป ๑๖๔ นอกกะลา ๑๖๕ ยลญ่ปี ุนใหอุนใจ ๑๖๖ ฮิโรชมิ า ๑๖๙ ปนู ปา ชา ๑๗๐ ดาบน้นั ๑๗๒ ปศ าจ ๑๗๓
ซาดาโกะ ๑๗๕ โอมารดา ๑๗๗ ภาค ๕ กระตนุ ปญ ญา ๑๗๙ รูจักพอนอยไป ๑๘๐ คอรร ัปชน่ั ๑๘๒ ไมรกั การอา น ๑๘๓ จตุคาม ๑๘๔ ส่ือมวลชน ๑๘๕ สิทธ์ิของคณุ ๑๘๖ รกั ไทย ๑๘๗ มนษุ ย ๑๘๘ คุณของคาํ วิจารณ ๑๘๙ ชวี ิตตองสู ๑๙๐ เปน กลาง ๑๙๒ สามอัจฉริยภาพ ๑๙๓ มารดาของแผน ดนิ ๑๙๕ ใครลมื แมไ วใ กลทางเทา ๑๙๖
ภาค ๖ คารวะปูชนยี ชน ๑๙๙ พระบรมครู ๒๐๐ ลานหนิ โคง ๒๐๒ พนิ ัยกรรม ๒๐๔ ตะแกรงรอนทอง ๒๐๖ อนัตตา ๒๐๘ พระศรีพระศาสนา ๒๑๐ ๒๑๓ ภาค ๗ คดิ คนคาํ ดลใจ ๒๑๔ เชญิ ตะวัน ๒๑๗ ต่นื -แต-หลับ ๒๑๙ คมอดีต ๒๒๑ ไมจ นั ทน ๒๒๒ ผา นมา-ไมผานไป ๒๒๓ ดูใจ ๒๒๖ ประวัติ ว.วชิรเมธี
ภ า ค ห น่ึ ง ๑ สรา งสรรควรรณศลิ ป
ปณธิ านกวี อัญเชญิ อกั ขระแกว แกน สรวง รจเรขธรรมดวง เดนไว เปน ประทปี ทะลวง ใจโลกย กายจากฝากงานให หมฟาดินหอม ยอมเกบ็ ทลี ะบาทซอื้ หนังสือ “ลลิ ติ พระลอ” คือ แบบเบา “นริ าศนรินทร” ถอื เทียบบท “คําหยาด” หยาดทพิ ยเ รา เรง สรา งวรรณศลิ ป ถวิล “โคลงโลกนติ ”ิ นอ ม มโนถวาย ลิลติ ตะเลงหาย หกฟา สนุ ทรภูต งั วาย ตนแตง ตามพอ ครพู กั ลกั จาํ ขา ขุดคน องั คารขลัง หมฟา ดนิ หอม ๒
ประนังประณีตเนน มโนเขยี น ธรรมรสบทธรรมเพยี ร พากยพ ร้งิ สดุ จติ สุดใจเจียร จนจบ ประดษิ ฐป ระดับกลิ้ง กลอกแกว โกสินทร แกนสาร ว. วรรณศิลปะแกว จดไว วชริ ภกิ ษจุ าร บริสุทธ์ิ เมธี พทุ ธธรรมบาน หกฟา มาหอม. นิพนธ พจนารถให ๒๕ ตลุ าคม ๒๕๕๐ หนงั สือกวนี พิ นธ์ชั้นครู ท่เี ป็นต้นแบบในการฝึกเรยี นเขยี นกวีในยุคแรกเรมิ่ ๓ ว.วชริ เมธี
คําหอม วรรณศิลปแ วววาวราวทิพย รว งลอยพรอ ยพรบิ พราวพรา งแพรวพรรณพไิ ล หอมเอยหอมศัพทสมยั ทวนทศิ ฤทธไิ กร เกรกิ กองเกนิ กรอบเวลา มนุษยหนงึ่ เสพยสุนทรา เรงิ รักภาษา หมกมนุ ครุนคน คิดความ เกลากลอนกลกานทนยิ าม นยิ มคมคาม- รภิภาพผองพนพจนีย หม ฟาดินหอม ๔
แสวงสวรรคเสาะสิง่ สุนทรีย เรยี งรอยสืบศรี สบื สานวรรณกรรมสมยั สบื ศักดส์ิ ืบสรอ ยกวีไทย สืบเจตนานยั กวีแลงแหลงสยาม. ตน้ ฉบับรวมกวนี ิพนธ์เล่มแรกท่ี ว.วชริ เมธี จดั ทําด้วยตนเอง ๕ ว.วชริ เมธี
ประดบั ไวในโลกา ประดับ อตั ภาพให กรุน หอม ไว ฝากอนชุ นดอม กลิ่นได ใน ศลี สมาธจิ อม เจตสิก โลกา อีกโลกุตรไหว วา เนื้อมนุษยม ณี. ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๐ หมฟา ดินหอม ๖
ยิ่งสูงยงิ่ หนาว ย่งิ เปนใหญยิง่ ตอง ระวัง สูง กวาคนคนชัง ชอบนอย ย่งิ มชี อ่ื เสียงดัง สงู เดน หนาว สดุ หนาวหากคลอย คลาดหว งธรรมหอม. ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๐ ๗ ว.วชิรเมธี
ตายเสยี ไดก ด็ ี ตาย แตตอนชีพยงั้ ยืนชนม เสีย สละอัตตามน มืดบา ได ชิมนพิ พานผล พิสทุ ธ์ิ ก็ดี กวา ตายเกลศกลา กดั กลุมกะลาหวั . ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๐ หมฟาดนิ หอม ๘
อยูอยา งตํ่า ทําอยางสูง อยู อยา งอยากหยอ มยุง ยาหยี ตํ่า ติดดินเกดิ ศรี สวสั ด์ิแท ทํา อยางนกั ปราชญด ี สนั โดษ สูง คิดทาํ พูดแม มอดมว ยมนตข ลงั . ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๐ ๙ ว.วชิรเมธี
โลกไมช ้ําธรรมไมเ สีย โลก ธรรมแปดหากแจง แกใ จ ไมช้าํ ชอกหลอกไหล ลน่ื ลม ธรรม ขนั ธทุกถอยไว เศษสุด ไมเสยี ศูนยก ิเลสตม สตติ ้งั ตามทนั . ๒๓ ตลุ าคม ๒๕๕๐ หมฟาดินหอม ๑๐
ต่นื รูดใู จ ตืน่ ตวั สตติ ง้ั ตรวจตรา รู ชดั ทกุ อิริยา- บถเบอ้ื ง ดู กายจิตเวทนา ธรรมเกิด ดับพอ ใจ กระจา งสวางเรื้อง โรจนร งุ รงั สี. ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๐ ๑๑ ว.วชิรเมธี
มีกก๊ิ มกี รรม มี กามรสเสพซ้ึง แสนหวาน ก๊กิ สตรสี คราญ ควบซอน มี กฎแหง กรรมราน รุกตดิ กรรม เกดิ แตต นยอ น เหยยี บซาํ้ ตามเสวย. ๒๕ ตลุ าคม ๒๕๕๐ หม ฟาดนิ หอม ๑๒
คนลม อยา ขาม คน เฉกดาวเดน ฟา ดาลฝน ลม ลกุ คลกุ ฝนุ พลัน ผงาดได อยา ดูหมิ่นโจษจัน วาจบ ขาม ทกุ ขอาจสขุ ให หัดรูทันเสมอ. ๒๕ ตลุ าคม ๒๕๕๐ ๑๓ ว.วชิรเมธี
อยา กนิ สินบน อยา ตะกรามตะกละกลุม กลโกง กิน เหลก็ หนิ ดนิ โยง สเู หยา สิน ทรัพยแผน ดนิ โอง- การสะกด บน บรมสมภารเจา จกั ตองโตงหาย. ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๐ หมฟาดินหอม ๑๔
เรียนสูงใจตาํ่ เรยี น ศิลปศาสตรซึ้ง แกน สาร สงู เฉพาะวชิ าชาญ เช่ียวใช ใจ หากมืดมวั ปาน ปวงเปรต ตา่ํ ตดิ นรกใบ บอดบา บัดสี. ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๐ ๑๕ ว.วชิรเมธี
หนาเนื้อใจเสือ หนา นวลด่ังรูปแตม แตงเขียน เนื้อ ผองเพยี งลําเทียน ถองแท ใจ อาํ มหติ เวยี น วนบาป เสอื ใสสทู นนั่ แล โลกนีม้ หี ลาย. ๒๕ ตลุ าคม ๒๕๕๐ หมฟาดนิ หอม ๑๖
มีกอดมีกัด มี สุขมีทกุ ขต อย ตามกนั กอด ส่งิ ใดใดพลัน พลดั พน มี บุญอกี บาปสรร สาปสง กัด เกยี รติกนิ กามปลน ปลาตส้นิ สขุ เกษม. ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ๑๗ ว.วชริ เมธี
ทวาทศมาส* มกราคม อยา ปลอ ยกเิ ลสกลุม กนิ กบาล เปนทกุ ข เพอ่ื ประจาน จิตบา ให อยูอ ยา งเบิกบาน บัวริสทุ ธิ์ โง แบกตัวกกู ลา กอ เศรากาํ สรวล. กุมภาพันธ รกั เปน เปน สุขล้ํา เลอสรวง ก็ เมตตาประดับดวง จิตบาง เปน สุขเปน ทุกขปวง แปรเปลย่ี น สุข สุกทุกทุกขส รา ง สวัสดใิ์ หใจเกษม. *๑๒ เดอื น ๑๘ หมฟาดนิ หอม
มีนาคม อยา ยกอตั ภาพต้ัง อัตตา เห็น สรรพสงิ่ ชั่วกลั ปา ไปส ้ิน แก่ ตวั แกป รีชา- ญาณพอ ตวั ใชตวั กปู ลน้ิ ปลดท้งิ เถดิ สหาย. เมษายน รอ น ใดในโลกนี้ ผลผี ลาม ใดเลา เทา กิเลสลาม ลกุ ไหม เทา เขาพระสเุ มรุสาม โลกถลม ทับแม รอนใจ กใ็ จใช ชาํ ระสน้ิ เกลศสลาย. ๑๙ ว.วชิรเมธี
พฤษภาคม ของ ใดในโลกลวน อนจิ จงั มนั เปล่ียนแปรผุพัง พายพรอ ม แน นอนสัจธรรมสัง- ขารลขิ ติ อยูแลว มนสกิ ารนอ ม มนสั ใหเ หน็ สม. มิถุนายน ศานติ บเกิดดว ย ประชุม ใน โลกวนุ วายสมุ สวะไว เรอื น จติ หากธรรมกุม กําหนด ใจ เสพสันตใิ กล แกลเขา นฤพาน. หม ฟา ดนิ หอม ๒๐
กรกฎาคม ขึ้น เขาคอ ยไตเ ตา สติตรอง สูง กวา คนคนปอง ปอบปลน ลง จากอาํ นาจจอง- หองจัก เจ็บพอ ตา่ํ แตตัวใจพน ผลิตแกว กาํ่ แสง. สิงหาคม หา สดุ ไตรภพสน้ิ แรงหา ใด จะเหมอื นมารดา มิได มา เกิดอกี กคี่ รา คาํ รบ เทยี ม แมมิ่งแกวไซร หอ นไดเสมอเหมอื น. ๒๑ ว.วชริ เมธี
กันยายน เดด็ บุปผาพิสทุ ธแิ์ กว กรุน หอม ดอกไม จากดนิ ตรอม นรกไหม สะเทอื น เอกภพจอม ใจจักร- วาลแม ดวงดาว วปิ รติ ใกล แกลเ ขากลสี มยั . ตลุ าคม ใฝ่ ใจฝากฟา โพน นฤพาน สูง คดิ พูดทาํ ศาน- ตแิ ท ให เกิดแกเจ็บดาล ทกุ ขดบั เกินศักด์ิ ปุถุชนแก กเิ ลสสนิ้ กอ นสลาย. หม ฟาดินหอม ๒๒
พฤศจกิ ายน บัณฑิต พุทธชาติเช้อื ปรีชา ยอ ม ปราดเปรอื่ งปญ ญา หยงั่ รู ฝก กายจติ อาตมา เอกอตุ ม ตน ตาํ่ กลับสงู กู เกยี รตใิ หก รนุ หอม. ธันวาคม ปลอย อดตี แตเบื้อง ปางบรรพ เปน อยูอ ยา งรทู ัน ทุกขแ ผว กเ็ ยน็ จิตกายผัน ผลสิ ุข ใจ กระจางสวางแกว กง่ิ ฟา กํานัลสมัย. ๘ ธันวาคม ๒๕๕๑ ๒๓ ว.วชิรเมธี
ทะ ลมุ ปมุ ปู ทะ ลมุ ติ กิ วศิ เบ้ือง เบาราณ ทะ มะเชิงเชาวช าญ เชย่ี วใช ทะ ลวงกฎเกลากานท โคลงกาพย ทะ นุวรรณศลิ ปใ ห หมฟาดนิ หอม ลุม ลกึ หอนพน แรงเพียร ลุม กวา โตรกเหวเรยี น รอบรู ลุม ฟา มนุษยเ จียน เจนจบ ลุม แผนปฐพสี ู เสาะซึง้ แกนสาร หม ฟา ดนิ หอม ๒๔
ปุม ปรชั ญาซอ นโคง คัคนานต ปมุ พระโพธญิ าณ ยิง่ แพรว ปมุ ปถุ ชุ นพาล ผดิ บาป ปุม กีป่ มุ ปราชญแผว ผอ งพน ภิญโญ ปู ธรณเี พรศิ พรง้ิ พรรณราย ปู กาพยโคลงรรรบาย ทกุ เบื้อง ปู ผืนแผน ดินหมาย หมดโศก ปู ประดับโลกยเ ร้ือง รา่ํ นํ้าคํากวี. ๒๕ ว.วชริ เมธี
ทุ สุ มุ ดุ ทุ จริตคือโรครา ย รุมไทย ทุ รชนโชนไฟ ฟาดสน้ิ ทุ ศลี สะบัดใบ มดี บาด ทุ เรศพวกเลน ล้นิ หลอกปลน ปวงประชา สุ จริตคือเกราะแกว กลางสนาม สุ รชนชาวสยาม หยดุ ได สุ นัขปากมมู มาม มดั ใส กรงฮา สุ คติพวกมนั ให สถิตหองกรงหลวง หมฟาดินหอม ๒๖
มุ มานะอยา รู โรยรา มุ มงุ จรุงอา- รยะพรอย มุ มน่ั ปลกุ ปรชั ญา อยางเอก อนุ อ มุ เสกมุสรางสรอย สวัสด์ใิ หไ ทยเกษม ดุ เดก็ เพ่ือเด็กได เดน ดี ดุ กอนดุโปรดมี เมตตตัง้ ดุ เด็กปราบเดก็ ผี ผองเปรต ดุ ดุอยาหยุดยัง้ ยสุ รางศษิ ยส มยั . ๒๗ ว.วชิรเมธี
อุ สา นา รี อุ กาบาตหลน หวง โพยมหน อุ บัตเิ ปน เมฆฝน ฟอกฟา อุ บาทวห ากมมี นต มนส-ิ การนอ อุ กฤษฏเ กิดผูกลา กอบกูก รุงศรี สา มานยม นุษยส รา ง สงคราม สา รทศิ ไฟลาม ลบลา ง สา สมตะกรมุ กราม โกยกอบ สา หัสสากรรจมา ง มนษุ ยส นิ้ พงศา หม ฟาดินหอม ๒๘
นา ปาลมระเบดิ เปรยี้ ง เปอยปน ดินทราย นา เรศเรต นขาย ไตเ ตา นา ยกฯ หมกเม็ดผล ประโยชน นา ลมซมทรุดเศรา โศกซาํ้ กรรมสนอง รี เพลยโ ลกยกลบั ได กด็ ี รี รุกเปรตอัปรีย ปลาตแลว รี รกั พทุ ธธรรมวิถี สมถะ รี เรม่ิ ยคุ ใหมแผว ผา นพน พิกฤตสิ มยั . ๒๙ ว.วชริ เมธี
Search