Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อาณาจักรโพรทิสตา

อาณาจักรโพรทิสตา

Published by BIOLOGY M.4, 2020-06-21 02:18:23

Description: อาณาจักรโพรทิสตา

Search

Read the Text Version

ชดุ การสอนเรอ่ื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 1 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ รายวิชาชีววิทยาเพ่ิมเติม รหสั วิชา ว 33242 ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 โดย นางสาววาสนา ดวงใจ,นางสาวเกษณี พนั ธจ์ นั ทร์ โรงเรยี นศีขรภมู ิพิสยั สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 33

ชุดการสอนเรอ่ื ง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) มาตรฐานการเรียนรู้ Page | 2 มาตรฐาน ว1.2 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ววิ ัฒนาการของส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชวี ภาพทมี่ ี ผลกระทบต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ ส่ือสาร สิ่งท่ีเรียนรู้ และนา ความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปญั หารูว้ ่าปรากฏการณท์ างธรรมชาติท่เี กิดขึ้นส่วนใหญ่มรี ปู แบบทแี่ น่นอนสามารถ อธิบายและตรวจสอบได้ภายใตข้ อ้ มูลและเครือ่ งมอื ทม่ี อี ยูใ่ นช่วงเวลาน้นั ๆเข้าใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสง่ิ แวดล้อมมคี วามเก่ยี วข้องสัมพนั ธ์กัน ผลการเรยี นรู้ 1. สืบค้นข้อมูล ทดลอง อภิปราย อธิบายและสรุปเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดจาแนกสิ่งมีชีวิต ออกเป็นโดเมนและอาณาจักร ลักษณะที่เหมือนและแตกต่างกันของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอรา อาณาจกั รโพรทิสตา อาณาจักรพืช อาณาจกั รฟังไจ และอาณาจักรสตั ว์ 2. สืบค้นข้อมูล อภิปราย อธิบาย และนาเสนอคุณค่าของความหลากหลายทางชีวภาพกับ การใชป้ ระโยชน์ของมนุษยท์ ่มี ผี ลต่อสงั คมและส่ิงแวดลอ้ มในชุมชนท้องถ่ิน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นักเรียนอภิปรายลกั ษณะทีเ่ หมอื นกันและแตกต่างกันของสิ่งมชี ีวติ ในอาณาจักรโพรทิสตา 2. นกั เรยี นสารวจตรวจสอบ และสังเกตลักษณะท่สี าคญั ของส่ิงมชี ีวิตต่างๆในท้องถ่นิ 3. นักเรียนสืบค้นข้อมูล และนาเสนอคุณค่าของความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักร ตา่ งๆกับการใชป้ ระโยชนข์ องมนุษย์ที่มตี ่อสังคมและส่งิ แวดลอ้ ม

ชดุ การสอนเร่ือง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) สาระสาคญั Page | 3 อาณาจักรโพรทิสตา เป็นส่ิงมีชีวิตแบบยูคาริโอติกเซลล์ มีเย่ือหุ้มนิวเคลียส มีออร์กาเนลที่มี เย่ือหุ้ม มีเซลล์เดียวหรือหลายเซลล์รวมกันเป็นเน้ือเย่ือ ไม่มีระยะตัวอ่อน มีทั้งประโยชน์และโทษ ต่อคน สัตว์ พชื สาระการเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 อาณาจกั รโพรทสิ ตา 2. ดา้ นกระบวนการ 2.1 อภิปราย อธิบาย และสรุปลักษณะของส่ิงมีชีวิตในอาณาจักมอเนอรา อาณาจกั รโพรทิสตา อาณาจักรพืช อาณาจกั รฟงั ไจ และอาณาจกั รสตั ว์ 3. คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ 3.1 มวี นิ ยั 3.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 3.3 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 3.4 มจี ติ สาธารณะ 4. สมรรถนะที่สาคญั ของผูเ้ รียน 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

ชดุ การสอนเรอื่ ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) แบบทดสอบก่อนเรยี น Page | 4 คาช้ีแจง 1. แบบทดสอบแบบปรนัย 4 ตวั เลือก มีจานวนทง้ั หมด 5 ขอ้ คะแนนเต็ม 5 คะแนน 2. ให้นกั เรียนทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงในช่องตวั เลอื กที่ถูกต้องทส่ี ุด 1. ขอ้ ใดกล่าวถึงสิ่งมชี วี ิตในอาณาจกั รโพรทิสตาถูกต้อง 1. เป็นยคู าริโอตกล่มุ แรก อยู่ในโดเมนอาร์เคีย 2. มกี ารดารงชีวิตทง้ั แบบอิสระ แบบปรสิต และแบบพึง่ พา 3. มีความหลากหลายทั้งชนิดและขนาด มตี ั้งแต่ เซลลเ์ ดียวไปจนถึงหลายเซลล์ แต่ยังไม พฒั นา เป็นเนือ้ เยื่อ ก.ขอ้ 1. ข.ขอ้ 2. ค.ข้อ 3. ง.ข้อ 2. และ 3. ถูก 2.ส่งิ มชี ีวติ กลุ่มไหนจัดอยูใ่ นอาณาจกั รโพรทิสตา ก. ลิเวอร์เวิร์ต – สาหร่ายสีเขยี ว – อะมบี า ข.สาหรา่ ยสีนา้ ตาลแกมเหลอื ง – วอลวอกซ์ – แอนบีนา ค.ไลโคโปดียม – สาหร่ายสีน้าตาล – แอนาบีนา ง.พลาสโมเดยี ม – สาหร่ายสีแดง – ยูกลีนา – เหด็ โคน 3.กล่มุ ของสาหรา่ ยข้อใดมบี ทบาทมากทสี่ ดุ ในการเปน็ ผผู้ ลติ รายใหญ่ของอาณาจกั รส่งิ มชี ีวิตในนา้ ก.สาหรา่ ยสีน้าตาล ข.สาหรา่ ยสีเขียว ค.สาหร่ายสนี า้ ตาลแกมเหลือง ง.สาหรา่ ยสีเขียวแกมนา้ เงิน 4. ปรากฏการณ์ข้ีปลาวาฬ (red tide) เกิดจากโพรทิสตช์ นิดใด ก.พลาสโมเดยี ม ข.ไดโนแฟลเจลเลต ค.พารามีเซียม ง.ยูกลีนา 5.สาหรา่ ยที่นาเอามาสกัดว้นุ ใชท้ าอาหารของมนุษย์และใชเ้ ป็นอาหารเลยี้ งจลุ ินทรยี ์คอื ข้อใด ก.กลาซลิ าเรีย (Gracilaria) ข.ลามินาเรีย(Laminaria) ค.พาไดนา(Padina) ง.สไปโรไจรา(Spirogyra) กระดาษคาตอบ ข้อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 คะแนนทีไ่ ด้ ลงชื่อผู้ตรวจ

ชุดการสอนเร่อื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) บัตรเนอ้ื หา Page | 5 อาณาจักรโปรตสิ ตา (kingdom Protista) แม้ว่าการแบ่งสิ่งมีชีวิตเป็น 5 อาณาจักรตามหลักของ Whittaker จะได้รับการยอบรับอย่าง กว้างขวาง แต่กระน้ันการแบ่งกลุ่มของสิ่งมีชีวิตก็ไม่เคยหยดุ นิ่ง มักจะมีประเด็นใหม่ ๆ มาให้พิจารณา และเปลี่ยนแปลงการจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิอยู่เสมอ อาจกล่าวได้ว่าย่ิงมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับส่ิงมีชีวิตมาก เท่าไหร่ ก็ยิง่ มีรูปแบบการจัดกลมุ่ ท่เี พิม่ ขึน้ มามากเท่าน้ัน คาถามชวนคดิ : นักเรียนคิดว่าการจัดกลุ่มโดยพิจารณาจากรูปร่างลักษณะของส่ิงมีชีวิตเช่น ข้อมูลทางกาย วิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา กับการพิจารณาจากสารชีวเคมีเช่น เอนไซม์ หรือสารพันธุกรรมของ สง่ิ มชี ีวติ รูปแบบใดที่น่าจะเหมาะสมต่อการใชใ้ นการจดั กลมุ่ สง่ิ มีชวี ิตในอาณาจกั รโปรติสตา มนุษย์เรารู้จักส่ิงมีชีวิตเล็ก ๆ ท่ีเป็นสมาชิกของอาณาจักรโปรติสตาและส่ิงมีชีวิตที่มีลักษณะ ใกล้เคียงกับโปรติสต์มาช้านาน และน้ามาใช้ประโยชน์หลาย ๆ อย่างเช่น ใช้เป็นจุดสังเกตความอุดม สมบูรณ์ของแหล่งน้า ใช้เป็นอาหาร และบางชนเผ่าใช้เป็นยารักษาโรคด้วย มีบันทึกเก่าแก่ของนัก สารวจชาวสเปนที่เข้าปกครองเม็กซิโกตั้งแต่ยุค ศตวรรษท่ี 16 ได้กล่าวถึงชนเผ่าพื้นเมืองของเม็กซิโก พวกแอซเท็ค (Aztec) ได้เก็บเกี่ยว สไปรูลิน่า (Spirulina : Cyanobacteria) หรือสาหร่ายเกลียว ทอง ซ่ึงเป็นไซยาโนแบคทีเรียจากทะเลสาบ Texcoco โดยใช้ ตะแกรงไม้ร่อนจากน้า แล้วน้ามาตาก แห้งเป็นแผ่นใช้เป็นอาหาร และชนเผ่ามายัน (Mayan) ของกัวเตมาลาใช้สไปรูลิน่าเป็นอาหารมาเป็น เวลามากกว่า 1,000 ปี ต่อมาในปัจจุบันมีการน้าสาหร่ายท่ีอยู่ในกลุ่มโปรติสต์เช่น จีฉ่าย ซากัสซ่ัม ฯลฯ มาใชเ้ พอื่ การบริโภคอย่างกวา้ งขวาง ภาพท่ี 1 การเกบ็ สาหรา่ ยของชนเผ่าโบราณ (ขอ้ มูลบางส่วนและภาพจาก http://www.biotec.or.th/biotechnology-th/newsdetail.asp?id=2132) ข้อมูลเสริม : นอกจากนี้ยังพบว่าคนเผ่า Kenembu ซ่ึงเป็นชนเผ่าที่มีร่างกายสูงใหญ่มีถ่ินท่ีอยู่ อาศัยรอบ ๆ ทะเลสาบ Chad ซ่ึงเป็นหน่ึงในพื้นที่แห้งแล้งท่ีสุดในทางตอนเหนือของแอฟริกาก็ บริโภคสไปรูลิน่าด้วยเช่นกัน การท่ีพบสไปรูลิน่าในทะเลสาบท้ังสองแห่ง เนื่องจากน้าใน ทะเลสาบดังกล่าวมีความเป็นด่างสูง ท้าให้สไปรูลิน่าสามารถเจริญได้ดี และกลายเป็นชนิดเด่น ตามธรรมชาติ ในแหลง่ น้าดงั กลา่ ว (ข้อมลู จาก : สาหรา่ ย ของสรวศิ เผา่ ทองศขุ )

ชุดการสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) ชีวิต โปรติสต์ (Protist) ทนี่ม่ันีลคักือษกณาระเมปีก็นิจเซกลรรลม์เดพียื้นวฐาจนะใเปน็นกเาซรลดลา์เรดง่ียชวีวทิต่ีมีค(วBาaมsสicมบfuูรnณct์พioรn้อ)มทอี่จย่าะPมงaี ge | 6 (Complete organism) ครบถ้วน โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโปรติสตาแล้วจะหมายความถึง ส่ิงมีชีวิตท่ีมีเซลล์ แบบยูคารโิ อติกเปน็ องค์ประกอบ อาจเป็นส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียวหรือหลายเซลล์ท่ีเซลล์ต่าง ๆ น้ันไม่ประกอบกันเป็นเนื้อเย่ือ ส่งิ มีชีวติ ในอาณาจักรนอี้ าจมีการสบื พนั ธแ์ุ บบอาศัยเพศ หรือไม่อาศัยเพศก็ได้ อย่างไรก็ตามการพฒั นา ท่ีเกิดข้ึนในล้าดับถัดมานั้นจะไม่ถือว่าเป็นตัวอ่อน (Embryo) นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มจะจัดสิ่งมีชีวิต กล่มุ นี้ออกเปน็ 4 กลมุ่ ย่อยตามรูปแบบชีวิต (Lifestyle) คอื - โปรติสต์ทีม่ ลี กั ษณะคล้ายสตั ว์ (Zoo like protist) หรือ โปรโตซัว (Protozoan) - โปรติสต์ท่ีมีลักษณะคล้ายพืช (Plant like protist) หรือ สาหร่าย (Algae) ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อยคือ สาหร่ายเซลล์เดียว (Unicellular algae) และสาหร่ายหลายเซลล์ (Multicellular algae) - โปรตสิ ตท์ มี่ ีลักษณะคล้ายรา (Fungi like protist) หรือ ราเมอื ก (Slime mold) หากแบคทีเรียคือ สิ่งมีชีวิตท่ีเป็นเซลล์แบบโปรคาริโอติกที่เก่าแก่ท่ีสุดในโลก สาหร่ายก็เป็น ตวั แทนของสงิ่ มีชีวิตท่ีมีเซลล์แบบยูคาริโอติกท่ีเกา่ แก่ท่ีสุดในโลกเชน่ กัน (คาดว่าน่าจะพบไดต้ ง้ั แตย่ ุคพรี แคมเบรียน ประมาณ 1.7 ล้านปีก่อน หรือประมาณ 2.3 ล้านปีหลังจากเร่ิมมีสิ่งมีชีวิตชนิดแรก) โปรติสต์ในยุคแรก ๆ อาจเกิดข้ึนตามทฤษฎี Endosymbiosis โปรติสต์บางตัวอาจมีการ “ร่วมอาศัย” จากโปรคาริโอติกเซลล์มากกว่า 1 อย่าง เมื่อผ่านวิวัฒนาการอันยาวนาน โปรติสต์จึงกลายเป็น สิ่งมชี วี ิตอกี กล่มุ หนึง่ ท่ีมีความหลากหลายสูงและจดั กลุม่ ได้ค่อนข้างยาก ภาพท่ี 2 a. การเกิด endosymbiosis ท้าให้เซลลม์ ีไมโทคอนเดรยี และคลอโรพลาสต์ b. Giardia lamblia โปรติสตท์ มี่ ี 2 นิวเคลียส แต่ไม่มีไมโทคอนเดรีย ซง่ึ เปน็ ปรสติ ในทางเดิน อาหารมนุษย์ (ที่มาภาพ : Biology, Sylvia Mader, 2007 http://www.emc.maricopa.edu/faculty/farabee/BIOBK/BioBookDiversity_3.html)

ชดุ การสอนเร่ือง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 7 ภาพท่ี 3 ความหลากหลายของสิ่งมชี วี ิตในอาณาจักรโปรติสตา (ที่มาภาพ : Biology, Sylvia Mader, 2007) ดังที่กล่าวมาแล้วในเบ้ืองต้นว่าอาณาจักรโปรติสตาเป็นอาณาจักรที่มีการแบ่งกลุ่มย่อยได้อย่าง หลากหลาย ในบทท่ี 19 นี้จึงไม่ทาการแบ่งกลุ่มของส่ิงมีชีวิต แต่เพ่ือให้ได้เห็นภาพโดยรวมของ สิ่งมีชีวติ ในอาณาจักรน้ีจึงจะนาเสนอข้อมูลของส่ิงมีชีวิตในดวิ ิช่ันต่าง ๆ ท่ีพบเห็นกันบ่อย ๆ โดยแยก 2 division สาคัญคือ ยูไมโคไฟตา (Eumycophyta) มิกโซไมโคไฟตา (Myxomycophyta) ออกไปไว้ ในอาณาจักรเหด็ รา ลกั ษณะสาคญั ของสงิ่ มีชีวติ ในอาณาจกั รโปรติสตา 1. ร่างกายประกอบด้วยโครงสร้างง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ส่วนมากประกอบด้วยเซลล์เดียว (Unicellular) บางชนิดมีหลายเซลล์รวมกันเป็นกลุ่ม เรียกว่า โคโลนี (Colony) หรือเป็นสายยาว (Filament) แตย่ ังไม่ท้าหนา้ ท่รี ว่ มกันเปน็ เน้อื เยือ่ (Tissue) หรืออวัยวะ (Organ)

ชุดการสอนเรอื่ ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 8 ภาพท่ี 4 โปรติสตเ์ ซลล์เดยี วบางชนิด (ท่ีมาภาพ : http://www.tulane.edu/~wiser/protozoology/notes/morph.html) Volvox Pyrobotrys squarrosa ภาพท่ี 5 โปรติสตท์ ี่อยู่เป็นโคโลนีบางชนิด (ที่มาภาพ : http://www.microscopy-uk.org.uk/micropolitan/fresh/algae/volvox450.jpg http://protist.i.hosei.ac.jp/PDB/Images/Chlorophyta/Pyrobotrys/sp_04.jpg) 2. ไม่มีระยะตัวอ่อน (Embryo) ซ่ึงต่างจากพืชและสัตว์ที่มีระยะตัวอ่อนก่อนที่จะเจริญเติบโต เปน็ ตวั เต็มวยั 3. การดารงชีพ มีทั้งชนิดท่ีเป็นผู้ผลิต (Autotroph) เพราะมีคลอโรฟิลล์ เป็นผู้บริโภค (Consumer) และเปน็ ผู้ย่อยสลายอินทรยี สาร (Decomposer) 4. โครงสร้างของเซลล์เป็นแบบยูคาริโอติก (Simplest of Eukaryotic cell) ซึ่งมีเย่ือหุ้ม นิวเคลยี ส ไดแ้ ก่ โพรโทซัว เหด็ รา ยีสต์ ราเมือก สาหรา่ ยต่าง ๆ 5. การเคล่ือนท่ี บางชนิดเคล่ือนท่ีได้โดยใช้ ซีเลีย (Cilia) แฟลกเจลลัม (Flagellum) หรอื ซโู ดโปเดียม (Pseudopodium) บางชนดิ เคล่อื นท่ีไมไ่ ด้

ชดุ การสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) Page | 9 ภาพที่ 6 โครงสร้างในการเคลือ่ นทขี่ องโปรตสิ ต์ (ทม่ี าภาพ : (บนซา้ ย) http://www.biology.iupui.edu/biocourses/n100/images/3amoeba.gif (บนขวา) http://www.fortunecity.com/emachines/e11/86/graphics/penrose/SHADOW1.gif (ลา่ ง) http://www2.mcdaniel.edu/Biology/botsyl01/microalg/euglenaf/Euglenaem.jpg) 6. การสืบพันธุ์มีทั้งแบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) และแบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction) แบบอาศัยเพศมีท้ังชนิดคอนจูเกชัน (Conjugation) เช่นท่ีพบในพารามีเซียม ราดา และชนิดที่ปฏิสนธิ (Fertilization) ซึ่งเกิดจากเซลล์สืบพันธุ์ ท่ีมีรูปร่างและขนาดต่างกันมารวมกัน ดังเช่นทีพ่ บในสาหร่ายเป็นสว่ นใหญ่ เป็นต้น ภาพท่ี 7 การสบื พันธ์แุ บบ conjugation ของพารามีเซียม (ทมี่ าภาพ : http://users.rcn.com/jkimball.ma.ultranet/BiologyPages/P/Paramecium.gif)

ชดุ การสอนเรอื่ ง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) โปรโตซวั (Protozoa) Proto ท่ีแปลว่าแรกเริ่ม กับคาว่า Zoon ท่ีแปลว่าสัตPวa์ ge | 10 Protozoa มีรากศัพท์มาจากคาว่า โดยความหมายแล้ว โปรโตซวั จึงหมายถึงสง่ิ มชี ีวิตทม่ี ลี ักษณะเหมือนสัตว์ในเบ้อื งต้น คาถามชวนคิด : สตั วม์ ลี กั ษณะพน้ื ฐานอยา่ งไรบา้ ง โปรโตซัวเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาจดารงชีวิตเป็นเซลล์เด่ียว หรืออาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (Colony) เซลลอ์ าจมีขนาดเล็กทมี่ ีความยาวประมาณ 3-30 ไมโครเมตร ไปจนเป็นพวกทใ่ี หญ่ท่สี ดุ คือ ฟอแรมมินิ เฟอแรน (Foraminiferans) ซึ่งเป็นโปรโตซัวท่ีมีเปลือก มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 0.2-50 มิลลิเมตร ในอดีตอาจพบบางชนดิ ท่มี ีเสน้ ผ่าศูนย์กลาง 100-125 มลิ ลิเมตร ภาพที่ 8 ฟอแรมินเิ ฟอแรนส์ (ท่ีมาภาพ : http://www.emc.maricopa.edu/faculty/farabee/BIOBK/BioBookDiversity_3.html) เรอ่ื งนา่ รู้ : นักวิทยาศาสตร์สามารถทานายอุณหภูมิโลก และระบุปริมาณของแก๊สบางชนิดในอากาศยุค ดึกดาบรรพ์ได้จากการวเิ คราะห์ไอโซโทปของออกซเิ จนในเปลอื กของฟอแรมินเิ ฟอแรนส์ ในปจั จบุ ันมีการตั้งชือ่ โปรโตซัวแล้วราว 50,000 ชนิด แต่ราว 30,000 ชนิดเป็นการตง้ั ช่ือ ให้ซากดึกดาบรรพ์ ส่วนชนิดท่ีเหลืออยู่ในปัจจุบันจะเป็นปรสิต (Parasite) ไปราว 1 ใน 3 ส่วน ท่ีเหลือมีท้ังที่ดารงชีวิตแบบอิสระ (Free living) แบบพ่ึงพาอาศัย (Mutualism) และ Symbiosis แบบอ่ืน ๆ โปรโตซัวบางตัวมีโครงสร้างเฉพาะท่ีใช้ในการเคล่ือนที่เช่น ซิเลียแฟลกเจลลา หรือซูโด โพเดียม แต่บางชนิดเช่น พลาสโมเดียม นั้นไม่มีโครงร่างช่วยในการเคลื่อนท่ี โครงร่างของโปรโต ซัวมีหลายแบบ ร่างกายมีสมมาตร (Symmetry) ได้หลายแบบทั้ง สมมาตรคร่ึงซีก (Bilateral symmetry) สมมาตรทรงกลม (Spherical symmetry) และไม่มีสมมาตร (Asymmetry) รา่ งกายยัง ไม่มีเน้ือเยื่อ ไม่มอี วัยวะ แต่ละเซลล์อาจมีนวิ เคลียสหน่ึงหรือหลายนิวเคลียส พวกท่มี ีหลายนิวเคลียส เช่น พารามีเซียม ซ่ึงมีนิวเคลียสขนาดเล็กซึ่งควบคุมเกี่ยวกับการสืบพันธ์ุ (Micronucleus) และ นิวเคลียสขนาดใหญ่ท่ีควบคุมเก่ียวกับเมตาบอลิซึม (Macronucleus) ไซโตพลาซึมแบ่งเป็น 2 บริเวณคือ บริเวณท่ีมีคอลลอยด์ กับส่วนที่มีแกรนูล นอกจากนั้นยังพบออร์แกเนลต่าง ๆ เช่นเดียวกับท่ีพบในยูคาริโอตอื่น ๆ การสืบพันธ์ุ (Reproduction) ของโปรโตซัวบางชนิดเป็นแบบ ไม่อาศัยเพศ เช่น Binary fission หรือ Budding แต่บางชนิดเป็นแบบอาศัยเพศ ได้แก่ Conjugation หรือ Syngamy เปน็ การรวมตัวกันเป็นไซโกต

ชุดการสอนเร่อื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) ใบบัว โปรโตซัวท่ีเป็นท่ีรู้จักมากได้แก่ โปรโตซัวในกลุ่ม Sarcodina เช่น (PAsmeuodeobpaodซiu่ึงmอา)ศัยซอ่ึงยเกู่ใิตดPa้ ge | 11 และพืชน้าอ่ืน ๆ ลักษณะสาคัญของอะมีบาคือ การสร้างเท้าเทียม จากการไหลของไซโตพลาซึม ภายใต้การท้างานของ Cytoskeleton พวก Actin ทาใหเ้ กิดรปู แบบการ เคล่ือนที่อย่างจ้าเพาะ เรียกว่า Amoeboid movement อะมีบาบางชนิดเช่น Arcella เป็นอะมีบาที่มี เปลอื กห้มุ นอกจากนนั้ ฟอแรมินเิ ฟอแรนส์กอ็ ย่ใู นกลมุ่ Sarcodina ด้วยเชน่ กัน ภาพท่ี 9 การเกิดเท้าเทียมในอะมีบา (ท่มี าภาพ : http://csm.jmu.edu/biology/dendinger/biology/biofac/dendinger/amoeba.jpg http://www.emc.maricopa.edu/faculty/farabee/BIOBK/BioBookDiversity_3.html) ภาพท่ี 10 Arcella (ทีม่ าภาพ : http://www.microscopy-uk.org.uk/mag/imagsmall/arcella2.jpg http://www.microscope-microscope.org/applications/pond-critters/protozoans/sarcodina/ arcella2.jpg) โปรติสต์อีกกลุ่มที่รู้จักกันมากคือพวก Mastigophorea ซ่ึงเป็นโปรโตซัวท่ีประกอบด้วยแฟลก เจลลัม 1-4 เส้น (บางคร้ังจึงเรียกว่าพวก Flagellate) พวกท่ีอยู่ในน้าจืดมักพบ contractile vacuole ซึ่งช่วยขับ น้ าอ อก ท างผิวเซ ล ล์ ห รื อ Cytopharynx (ห าก มี Reservoir) ห าก มี Chromatophore มักมีจุดตา (Eye spot) ท่ีใกล้ฐานของแฟลกเจลลัม Mastigophora ถูกแบ่ง ออกเป็น 2 class คือ Zoomastigophorea ซึ่งเป็น โปร ติสต์ท่ีไม่มีคลอโรพลาสต์ เช่น Codonocladium และ Monosiga และ Phytomastigophorea ซ่ึงเป็นโปร ติสต์ท่ีสามารถสังเคราะห์ อาหารด้วยแสงได้เช่น Gymnodiniidae Ceratium Glenodinium Peridinium Euglena Phacus

ชุดการสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) (สาหรับนักพฤกษศาสตร์โปรติสต์ส่วนใหญ่ในกลุ่มน้ีเช่น Euglena Phacus จะถูกจัดไว้ในดิวิช่ันยูกลPaี ge | 12 โนไฟตา และบางสว่ นอยู่ในดวิ ชิ ัน่ คลอโรไฟตาเช่น Chlamydomonas Volvox) ภาพท่ี 11 Codonocladium (ท่ีมาภาพ : http://protist.i.hosei.ac.jp/PDB/PCD2190/htmls/88.html http://protist.i.hosei.ac.jp/PDB/PCD2190/htmls/85.html) ภาพท่ี 12 Ceratium (ที่มาภาพ : http://www.bio.mtu.edu/the_wall/phycodisc/DINOPHYTA/gfx/CERATIUM.jpg http://www.biol.tsukuba.ac.jp/~inouye/ino/d/Ceratium.GIF) ภาพท่ี 13 Glenodinium (ทมี่ าภาพ : http://www.glerl.noaa.gov/seagrant/GLWL/Algae/Pyrrophyta/Images/ Glenodiniumpulvisculus.jpg)

ชุดการสอนเร่ือง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) Page | 13 ภาพท่ี 14 Peridinium (ทีม่ าภาพ : http://www.botany.hawaii.edu/BOT201/Algae/Bot%20201%20Peridinium.jpg http://protist.i.hosei.ac.jp/taxonomy/Phytomastigophora/Genus/Peridinium/Peridinium.jpg http://www.biol.tsukuba.ac.jp/~inouye/ino/d/Peridinium2.jpg) ภาพที่ 15 (ซ้าย) Euglena (ขวา) Phacus (ท่ีมาภาพ : http://www.ac-rennes.fr/pedagogie/svt/photo/microalg/euglena.jpg http://www.microscope-microscope.org/gallery/Mark-Simmons/images/the_fish.jpg) โปรติสต์อีกกลุ่มท่ีมีการเคลื่อนที่แตกต่างออกไปจากพวก Sarcodina และ Mastigophorea คือพวก Ciliophora หรือ Ciliate พวกนี้เป็นโปรติสตท์ ่ีมีซิเลียช่วยในการเคลื่อนท่ี โดยอาจมีเพียงแค่ ชว่ งใดชว่ งหนึง่ ของชีวติ ก็ได้ นอกจากการมีซิเลียแล้วพวกซิลิเอตจะมีลักษณะทว่ั ไปอกี 3 ประการคอื มี cortex มีนวิ เคลียส 2 ลักษณะ (nuclear dualism) และมี conjugation คาถามชวนคดิ : ซเิ ลีย และแฟลกเจลลามีความเหมอื น และความแตกตา่ งกนั อย่างไร

ชุดการสอนเรือ่ ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 14 ภาพที่ 16 ภาพตดั ขวางของแฟลกเจลลาและซิเลีย (ทม่ี าภาพ : http://fig.cox.miami.edu/~cmallery/150/cells/c7.6.24.Flagellum.jpg http://cellbio.utmb.edu/microanatomy/epithelia/cilia1.jpg) โปรตสิ ต์บางชนิดอาจมซี เิ ลยี ไม่กี่เสน้ แตบ่ างชนิดอาจมถี ึง 12,000 เส้น บางชนดิ ซเิ ลียหลาย เส้นรวมกันเป็นเส้นใหญ่แข็งเรียกว่า Cirri บางชนิดมีการจัดเรียงเป็นแผงสั้นขนานกันหลายแผง เรียกวา่ Membranellae หรืออาจเรียงเป็นแผงยาวแผงเดียวเรยี กว่า Undulating membrane ภาพที่ 17 ซิเลียของพารามเี ซียม (ทีม่ าภาพ : http://www.coleharbourhigh.ednet.ns.ca/library/images/bio11m22.jpg) ภาพที่ 18 Cirri (ทมี่ าภาพ : http://www.nies.go.jp/chiiki1/protoz/picture/id-cirri.gif http://www.nies.go.jp/chiiki1/protoz/picture/m-oxytri.gif)

ชุดการสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) Page | 15 ภาพท่ี 19 Membranellae (ที่มาภาพ : http://www.nies.go.jp/chiiki1/protoz/picture/inaki/euplo-68.gif และ euplo-74.gif http://protist.i.hosei.ac.jp/PDB/Images/ciliophora/strombidium/Strombidium.jpg) ช้ัน Cortex ของซิลิเอตเป็นช้ันที่ทาให้เซลล์คงรูป ประกอบด้วย เพลลิเคิล (Pellicle) และ สว่ นฐานของซเิ ลียแตล่ ะเสน้ การมีนิวเคลียสสองลักษณะคือ มีนิวเคลียสร่างกาย (Somatic nucleus) เป็นแหล่ง สังเคราะห์ RNA ท้าหน้าที่เกี่ยวกับเมตาบอลิซึมต่าง ๆ เป็นนิวเคลียสท่ีมีขนาดใหญ่ (Macronucleus) ส่วนนิวเคลียสที่มีขนาดเล็กกว่าเรียกว่า Micronucleus เป็นนิวเคลียสที่ทาหน้าที่ในการสืบพันธุ์ (Generative nucleus) เป็นแหล่งรวมของยีน และมีโครโมโซมเป็น Diploid การ conjugation เป็น การสบื พันธุ์แบบอาศยั เพศ ภาพที่ 20 โครงสรา้ งท่ัวไปของซิลิเอต (ที่มาภาพ : http://peersites.com:8088/branden/attach?page=CellPortfolio%2FParamecium.jpg) ภาพท่ี 21 Conjugation ของ Ciliate (ทม่ี าภาพ : http://scienceblogs.com/clock/2006/07/friday_weird_sex_blogging_deep.php)

ชุดการสอนเร่ือง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) ความหลากหลายของโปรทิสต์ และมีการจัดกลุ่มหลายแบบ นอกจากแบง่ เปน็ Page | 16 โปรทสิ ตเ์ ปน็ ส่ิงมชี ีวิตท่ีมคี วามหลากหลายสงู โปรโตซัว สาหร่าย และ ราเมอื ก แลว้ ก็มีการแบง่ เป็นดิวิชนั่ ตา่ ง ๆ ดว้ ย ตัวอยา่ งของส่ิงมชี ีวติ ใน อาณาจักรน้ที ี่น่าสนใจไดแ้ ก่ 1. ดิโพลโมนาดดิ า (Diplomonadida) และพาราบาซาลา (Parabasala) เป็นกลุ่มของโพรทิสต์ท่ีเป็นเซลล์ยูคาริโอตที่ยังไม่มีออร์แกเนลล์ คือ ไม่มีไมโทคอนเดรีย รา่ งแหเอนโดพลาสมิกเรติคลู ัม กอลจิคอมเพล็กซ์และเซนติโอล ซงึ่ อาจเป็นไปได้ว่าโพรทิสตก์ ลุ่มนี้ได้มี วิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษของยูคาริโอต ซ่งึ ภายในเซลลย์ ังไม่มีออร์แกเนลล์ใด ๆ โดยดิโพลโมแนด (diplomonads) มีแฟลเจลลาหลายเส้น มีนิวเคลียส 2 อัน ตัวอย่างเช่น Giardia lamblia เป็น ปรสิตในลาไส้ของคนและพาราบาซาลิต (parabasalide) มีแฟลเจลลาเป็นคู่และผิวเย่ือหุ้มเซลล์มี ลักษณะเป็นรอยหยักคล้ายคล่ืน ตัวอย่างเช่น ไตรโคนิมฟา (triconympha) ท่ีอาศัยอยู่ในลาไส้ปลวก จะดารงชีวิตแบบภาวะพึ่งพากัน โดยสร้างเอนไซม์ย่อยเซลลูโลสในไม้ให้กับปลวก และไตรโคโมแนส (trichomonas) เป็นโพรทสิ ตท์ ท่ี าให้เกิดอาการติดเชือ้ ในชอ่ งคลอด ภาพท่ี 22 ไตรโคโมแนสในช่องคลอด ข. ดิโพลโมแนด (Giardia sp.) (ทมี่ า : สสวท., 2548. หน้า182) 2. ยกู ลโี นซัว (Euglenozoa) สิ่งมีชีวิตในดิวิชันนี้เรียกว่า ยูกลีนอยด์ (Euglenoid) อาจถูกจัดให้เป็นโปรโตซัวในคลาส แฟลกเจลลาตา หรือ คลาสไฟโทแมสตโิ กฟอเรยี หรอื อาจถูกจัดไวใ้ นกลุ่มของสาหร่ายก็ได้ เนื่องจาก สามารถสังเคราะห์อาหารด้วยแสงได้เหมือนพืช คลอโรพลาสต์มีหลายรูปแบบท้ังแบบแฉก มี คลอโรฟิลล์เป็นชนิด เอ และ บี คาโรทีน แซนโทฟิลล์ สะสมอาหารเป็นแป้ง เรียกว่า พาราไมลัม (Paramylum) แต่ไม่มีผนังเซลล์ (มีเยอ่ื หุ้มเซลล์อยู่นอกสุด ถัดเข้าไปเป็น Pellicle) และมีโครงสรา้ งท่ี ใช้ในการเคล่ือนท่ีเป็น Flagellum 1-3 เส้น (หรือมากกว่า) ทางด้านหน้า ทางด้านหน้ามีช่องเปิดต่อ เข้าไปในเซลล์ มีส่วนของ Reservoir ซ่ึงใกล้ ๆ น้ีจะมี Contractile vacuole มีออร์แกเนลแบบยูคา ริโอตท่ัวไป อาจพบ Granule ท่ีมสี ีแดง นิวเคลียสมีขนาดใหญ่และค่อนมาทางด้านท้าย มี Eye spot หรือ Stigma เป็นอวัยวะรับแสงติดกับ Reservoir ภายในมีสีแดงส้มของ Astraxanthin และ Echinemone รวมกับแคโรทีนอยดอ์ น่ื ๆ ในไซโทพลาซึม (จึงทา้ หน้าทีท่ ั้งชว่ ยรบั แสง และควบคุมการ

ชดุ การสอนเร่ือง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) เคลื่อนที่) สามารถพบได้ท้ังในน้าจืด น้ากร่อย น้าเค็ม ในดินช้ืนแฉะ ตัวอย่างของสาหร่ายดิวิชันนPa้ี ge | 17 ไดแ้ ก่ ยกู ลีนา (Euglena) และฟาคัส (Phacus) ภาพที่ 23 โครงสรา้ งของ Euglenoid (ทีม่ าภาพ : http://peersites.com:8088/branden/attach?page=CellPortfolio%2FEuglena.jpg) ภาพที่ 24 Euglenoid (ที่มาภาพ : http://protist.i.hosei.ac.jp/pdb/Images/Mastigophora/Euglena/genus2L.jpg) 3. แอลวีโอลาตา (Alveolata) เป็นโพรทิสต์เซลล์เดียวท่ีมลี ักษณะรว่ มกันคอื มีช่องวา่ งเล็กๆใต้เย่อื หมุ้ เซลล์ที่เรียกว่า แอลวี โอไล (alveoli) ซ่งึ ยงั ไมท่ ราบหนา้ ท่ีชัดเจนโพรทสิ ต์ในกลุ่มน้ไี ด้แก่ 3.1 ไดโนแพลเจลเลต (Dinoflagellates) นิยมเรียกว่า ไดโนแพลเจลเลต (Dinoflagellates) เพราะมีแฟลกเจลลา 2 เส้น ยาวไม่ เท่ากันเส้นหน่ึงอยู่ในร่องตามขวางของเซลล์ อีกเส้นหน่ึงอยู่ในร่องตามยาวของเซลล์ บางชนิด แฟลก เจลลัมอยู่ด้านหน้าท้ัง 2 เส้น แต่อย่างไรก็ตามสมาชิกที่มีหลายเซลล์อยู่เป็นกลุ่มและเป็นสายไม่ เคลื่อนที่ก็มีเหมือนกัน และมีมากกว่า 1,000 ชนิด ที่สีปรากฏค่อนไปทางสีแดงเปลวไฟ ดังนั้นบาง

ชุดการสอนเร่อื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) ท่านจึงเรียกว่า สาหร่ายสีเปลวไฟ (Fire aเlชg่นae)Noพcบtiไluดc้ตaามบใานงทชนะเิดลพบบใานงนพ้าวจกืดเรแือลงะแนส้างกไรด่อ้ใยนทบ่ีมาืดPงage | 18 (Bioluminescence) ท่ีเราเรียกว่า พรายน้า ชนิดมีแผ่นเซลลูโลสหลาย ๆ แผ่นประกอบกันคล้ายเกราะ มีลวดลายสวยงาม บางชนิดมีการสะสม สารพิษในตัว ไดโนแฟลกเจลเลตบางตัวไม่มีผนังเซลล์เช่น ยิมโนดิเนียม (Gymnodinium) หากในน้า ทะเลมีสารอินทรีย์มากข้ึนจากมลภาวะต่าง ๆ จะท้าให้ไดโนแฟลเจลเลตเพิ่มจ้านวนมากอย่างรวดเร็ว จนเกิดปรากฏการณท์ ี่เรยี กว่า น้าพิษสแี ดง หรือ กระแสน้าแดง หรอื ขป้ี ลาวาฬ (Red tide) ซ่ึงเป็น อันตรายกับส่ิงมีชีวิต ไดโนแฟลเจลเลตน้ีมีสารสีแคโรทีน และคลอโรฟิลล์ในพลาสติกมีบทบาทเป็นูผู ผลิตท่ีสาคัญในระบบนิเวศ รงควัตถุภายในเซลล์มีคลอโรฟิลล์ เอ และคลอโรฟิลล์ ซี แคโรทีน แซนโธฟิลล์ หลายชนิด ท่ีสาคัญคือ เพอริดินัม (Peridinum) และไดโนแซนธิน (Dinoxanthin) อาหารสะสม คอื แป้ง (Starch) ซึ่งสะสมไวใ้ นหรอื นอกคลอโรพลาสต์ นอกจากนน้ั อาจมหี ยดนา้ มนั ภาพที่ 25 Dinoflagellate (ทม่ี าภาพ : http://www.pkc.ac.th/science/content/protista.html) ภาพที่ 26 Noctiluca (ทีม่ าภาพ : http://ux.brookdalecc.edu/staff/sandyhook/plankton/vonk.jpg) 3.2 เอพิคอมเพลซา (Apicomplexa) เป็นโพรทิสต์ที่มีขนาดเล็กส่วนใหญ่ดารงชีวิตเป็นปรสิต มี โครงสร้างสาหรับแทงผ่านเซลล์โฮสต์ไม่มีโครงสร้างในการเคลื่อนท่ี ยกเว้นในเซลล์สืบพันธ์ุเพศผู้ ตัวอย่างของโพรทิสต์กลุ่มนี้ได้แก่ พลาสโมเดียม (Plasmodium) ทาให้เกิดโรคมาลาเรียในคนและสัตว์ อื่น ๆ โดยมียุงก้นปล่องเป็นพาหะในอดีตมีการใช้สารเคมีกาจัดยุง รวมทั้งยาที่ใช้ในการรักษาโรค

ชดุ การสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) มาลาเรียทาให้ท้ังยุงและพลาสโมเดียมมีการด้ือยาและสารเคมี ปัจ2จุบลา้ันนจคึงนพบว่ามีการระบาดของโนคPage | 19 มาลาเรียเกดิ ขึ้นอีก โดยมคี นเปน็ โรคมาลาเรยี ถึงถงึ ปีละประมาณ 3.3 ซิลิเอต (ciliates) เป็นโพรทิสต์ท่ีใช้ซิเลียในการเคลื่อนท่ีอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมท่ีมีน้า หรือมีความชื้นสูง เพรทิสต์กลุ่มน้ีมีความหลากหลายสปีชีส์มากท่ีสุด ตัวอย่างเช่น พารามีเซียม (Paramecium) วอร์ตเิ ซลลา (Vorticella) เป็นต้น 4. สตรามีโนไพลส์ (Stramenopiles) เป็นโพรทิสต์ที่ส่วนใหญ่มีกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงจึงเรียกโพรทิสต์กลุ่มน้ีว่า แอลจี หรือ สาหร่าย (Algae) เป็นยูคาริโอตท่ีพบได้ตั้งแต่ยุคพรีแคมเบรียน ปัจจุบันพบ algae มากกว่า 25,000 ชนิด (รวมฟอสซิล) เป็นส่ิงมีชีวิตท่ีมีพลาสติดพวก คลอโรพลาสต์ มีรงควัตถุช่วยในการ สังเคราะห์แสงหลายแบบเช่น Chloroplast Xanthophyll Phycocyanin Phycoerythrin Carotenoid มีลักษณะออร์แกเนลภายในเซลล์คล้ายกับพืชชั้นสูง ดารงชีวิตแบบ Autotroph ร่างกายอาจประกอบ ข้ึนจากเซลล์เพียงเซลล์เดียว (Unicellular) หรืออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (Colony) หรือเป็นเส้นใย (Filament) แต่ยังไม่มีการรวมเป็นเนื้อเยื่อ จึงไม่มีอวัยวะที่แท้จริงพวก ราก ล้าต้น ใบ ส่วนที่ใช้ สืบพันธุ์อาจเป็นเพียงเซลล์เดียวหรือรวมกันเป็นกลุ่ม แต่เม่ือพัฒนาเป็นตัวใหม่จะไม่มีระยะเอมบริโอ (มี Zygote แต่ไม่มี Embryo) การสืบพันธ์ุมที ้ังแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ การสืบพนั ธ์ุแบบอาศัยเพศ ต้องอาศัยเซลล์สืบพันธุ์ซ่ึงอาจเป็นแบบ Isogamete และ Heterogamete การรวมตัวของแกมีตท่ีเกิด จากเซลล์เดียวกันเรียก Homothallic conjugation แต่ถ้าผสมต่างสายกันเรียกว่า Heterothallic conjugation ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะได้ Zygote การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศเช่น การขาดท่อน (Fragmentation) การสร้าง Akinete การสร้าง Spore เช่น Aplanospore (สปอร์ท่ีไม่มีหนวด) และ Zoospore (สปอรม์ หี นวด) ภาพท่ี 27 วงชวี ติ ของสาหร่าย (ที่มาภาพ : http://kentsimmons.uwinnipeg.ca/2152/chlamydomonas_life_cycle.gif)

ชดุ การสอนเรือ่ ง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) Page | 20 ภาพท่ี 28 การสืบพันธ์แุ บบอาศยั เพศ (ท่ีมาภาพ : http://academic.kellogg.cc.mi.us/herbrandsonc/bio111/algae.htm) 4.1 สาหรา่ ยสนี ้าตาล (Brown algae) สาหร่ายสีน้าตาล (Brown algae) มีรงควัตถุที่ทาให้เกิดสีน้าตาล คือ ฟิวโคแซนทีน (Fucoxanthin) อยู่มากกว่าคลอโรฟิลล์ เอ และคลอโรฟิลล์ ซี สาหร่ายสีน้าตาลมีมากในทะเลตาม แถบชายฝ่ังที่มีอากาศเย็น มีเพียง 35 จีนัสที่พบในน้าจืด สาหร่ายสีน้าตาลมักเรียกช่ือท่ัวไปว่า Sea weed เพราะเป็นวัชพืชทะเล รูปร่างและขนาดแตกต่างกันไป มีต้ังแต่ขนาดเล็กต้องดูด้วยกล้อง จุลทรรศน์ จนถึงขนาดใหญ่มองเห็นด้วยตาเปล่า บางชนิดมีรูปร่างเป็นสายยาวแตกก่ิงก้าน เช่น Ectocarpus บางชนิดมีรูปร่างเป็นแผ่นแผ่แบนหรือคล้ายใบไม้โบกไหวอยู่ในน้า เช่น Laminaria บาง ชนิดคล้ายต้นปาล์มขนาดเล็กเรียกว่า Sea palm บางชนิดคล้ายต้นไม้เล็ก ๆ เช่น Sargassum หรือ สาหร่ายนุ่น หรอื รูปรา่ งคล้ายพัด เช่น Padina สาหร่ายสนี ้าตาลมีหลายเซลล์ พวกท่ีมีขนาดใหญ่มาก เรียกว่า เคลป์ (Kelp) ซึ่งอาจมีความยาว 60-70 เมตร เช่น Macrocystis, Nereocystis พวกที่มี ขนาดใหญ่มักมีลกั ษณะเหมือนพืชชน้ั สูงประกอบดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1. โฮลด์ฟาสต์ (Haldfast) คือส่วนที่ท้าหน้าท่ีเป็นราก สาหรับยึดเกาะแต่ไม่ได้ดูดแร่ธาตุ เหมอื นพืชชน้ั สงู โฮลด์ฟาสตข์ องพวกนีส้ ามารถแตกแขนงไดม้ าก และยึดเกาะไดแ้ ข็งแรง 2. สไตป์ (Stipe) หรือคอลลอยด์ (Colloid) คือส่วนท่ีอยู่ถดั จากรากขึ้นมาท้าหน้าทค่ี ล้ายลา ตน้ 3. เบลด (Blade) หรือลามินา (Lamina) หรอื ฟิลลอยด์ (Phylloid) คือสว่ นทีท่ ้าหนา้ ท่เี ป็น ใบ บางชนิดมีถุงลม (air bladder หรือ Pneumatocyst) อยู่ที่โคนใบเพื่อชว่ ยพยุงให้ลอยตัวอยู่ได้ใน น้า จากลักษณะดังกล่าวจึงถือกันว่าสาหร่ายสีน้าตาลมีวิวัฒนาการสูงสุดในบรรดาสาหร่ายด้วยกัน (ยกเว้นสาหรา่ ยไฟ) เซลล์ของสาหร่ายสีน้าตาลประกอบด้วย ในแต่ละเซลล์มีนิวเคลียสเพียง 1 อัน ผนังเซลล์ มี 2 ช้ัน ช้ันในเป็นพวกเซลลูโลส ชั้นนอกเป็นสารเมือก กรดอัลจินิกซึ่งจะอยู่ท่ีผนังเซลล์และช่องว่าง ระหว่างเซลล์ โดยมีประมาณถึง 24% ของน้าหนักแห้ง กรดอัลจินิกนี้เม่ือสกัดออกมาจะอยู่ในรูปของ เกลืออลั จเิ นต ส้าหรับใชใ้ นอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยมีคณุ สมบตั เิ ป็นตวั ท้าให้เกดิ อิมลั ชัน

ชดุ การสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) ( Emulsifying agent) aแcลidะ)เป็นซึ่งตสัวาคมงารรูปถส(กSัดtaสbาiรllzอiลัngจินag(eAnltg)in)(ผมนาังใเชซ้ปลรละ์เโปย็นชนส์ไาดร้)พวกเซลลูโลสแลPะage | 21 กรดอลั จนิ ิก (Alginic คลอโรพลาสต์ มีเพียง 1 อัน หรือมีจ้านวนมากในแต่ละเซลล์ข้ึนอยู่กับชนิด คลอโรพลาสต์ จะมี ลกั ษณะกลมแบน (Platelike) หรือเป็นแฉกรูปดาว ไพรีนอยด์เกิดเดี่ยว ๆ เป็นแบบมีก้านติดอยู่ข้างๆ คลอโรพลาสต์ โดยมีผนังคลอโรพลาสต์หุ้มรวมไว้ อาหารสะสมมี 3 ชนิด ไดแ้ ก่ 1. โพลีแซกคาไรด์ที่ละลายน้า ได้แก่ ลามินาริน (Laminarin) หรือลามินาแรน (Laminaran) มปี รมิ าณตงั้ แต่ 2-34 % ของนู้าหนกั แห้ง 2. แมนนิทอล (Mannitol) พบเฉพาะในสาหร่ายสนี า้ ตาลเทา่ นั้น 3. น้าตาลจ้าพวกซูโครส (Sucrose) และกลเี ซอรอล (Glycerol) การสืบพันธุ์ สาหร่ายสีน้าตาลมีการสืบพันธ์ุท้ังแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ โดยมีวงชีวิตแบบสลับ (Alternation of generation) คลา้ ยกบั พชื ภาพที่ 29 Kelp (ที่มาภาพ : http://www.pkc.ac.th/science/content/protista.html) ภาพที่ 30 Laminaria (ทมี่ าภาพ : http://www.pkc.ac.th/science/content/protista.html)

ชุดการสอนเรอื่ ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 22 ภาพท่ี 31 สาหรา่ ยทุ่น Sargassum (ท่ีมาภาพ : http://biology.unm.edu/ccouncil/Biology_203/Images/Protists/sargassum.jpg 4.2 ไดอะตอม (Diatom) ผนังเซลล์มีสารพวกเพคทิน และซิลิกา (Sillica) สะสมอยู่ประมาณ 95% ทาให้มีลวดลาย สวยงามมาก ผนังเซลล์ที่มีซิลิกาเรียก ฟรุสตุล (Frustule) ฟรุสตุลประกอบด้วย ฝา 2 ฝา ครอบ กันอยู่สนิทแน่น แต่ละฝาเรียกทีกา (Theca) ฝาบนเรียก อีพิทีกา (Epitheca) มีขนาดใหญ่กว่า ครอบอยู่บนฝาล่างซ่ึงมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย เรียก โฮโปทีกา (Hypotheca) บนผิวของเปลือกจะมี ลวดลายต่าง ๆ กัน รงควตั ถทุ ่ีพบมีท้ังคลอโรฟิลล์เอ ซี แซนโธฟิลล์ ฟิวโคแซนทิน และเบตาแคโร ทีน ซากไดอะตอมที่ตายแล้วเรียกว่า Ditomaceous earth หรือ Diatomite นามาใช้ประโยชน์ได้ หลายอย่างเชน่ การทาไสก้ รองและยาขัดต่าง ๆ เนอ่ื งจากมีแรธ่ าตแุ ละนา้ มันมาก ภาพท่ี 32 Diatoms (ทมี่ าภาพ : http://www.micrographia.com/specbiol/alg/diato/diat0200/diatom05.jpg) ภาพที่ 33 Diatoms (ท่ีมาภาพ : http://www.botany.hawaii.edu/BOT201/Algae/Bot%20201%20Diatom%20page.gif)

ชดุ การสอนเรอ่ื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) 5. สาหรา่ ยสีแดง (Red algae) รงควัตPถaุ ge | 23 ส่วนใหญ่อยู่ในทะเลมีบางชนิดเท่าน้ันที่อยู่ในน้าจืด มีอยู่ประมาณ 3,900 สปีซีส์ ภายในพลาสติดท่ีมีปริมาณมากนั้นมีสีแดง คือ คลอโรฟิลล์ ดี และไฟโคอิริทริท (Phycoerythrin) บางคร้ังสาหร่ายสีแดงอาจปรากฏเป็นสีน้าเงินเพราะมีรงควัตถุพวกไฟโคไซยานิน (Phycocyanin) รวมอยู่ในพลาสติดด้วย อย่างไรก็ตามสาหร่ายสีแดงก็มี คลอโรฟิลด์ เอ ซ่ึงเป็นรงควัตถุหลักในการ สังเคราะห์แสง และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือสาหร่ายแดงมีรงควัตถุแบคทิริโอคลอโรฟิลล์ เอ เหมือน ดงั ท่ีพบในแบคทีเรียท่ีสังเคราะห์แสงด้วย คลอโรพลาสต์มี 2 แบบ คอื บางพวกมีลักษณะเป็นแฉกรูป ดาว และมีไพรนี อยด์ตรงกลาง บางพวกมลี ักษณะกลมแบน อาหารสะสมเป็นแปง้ มีช่อื เฉพาะว่า ฟลอริ เดียนสตาซ (Floridean starch) อยู่ในไซโทพลาสซึม นอกจากแป้งแล้วยังสะสมไว้ในรูปของน้าตาล ฟลอริโดไซด์ (Floridoside) ซ่ึงท้าหน้าที่เหมือนน้าตาลซูโครสในสาหร่ายสีเขียวและพืชชั้นสูง และ สามารถผลติ เกลอื แคลเซยี มได้จา้ นวนมาก ผนังเซลล์ ประกอบด้วยผนังเซลล์ชั้นใน เป็นพวกสารเซลลูโลส และผนังเซลล์ชั้นนอกเป็น สารเมือกพวกซัลเฟตเตต แกแลกแตน (Sulfated galactan) ได้แก่ วุ้น (Agar) พอร์ไฟแรน (Porphyran) เฟอรเ์ ซลเลอแรน (Furcelleran) และคารร์ าจแี นน (Carrageenan) ภายในเซลล์มีทั้งชนิดที่มีนิวเคลียสเดียว และหลายนิวเคลียส สาหร่ายสีแดงเป็นสาหร่ายพวก เดยี วทที่ ุกระยะไม่มีแฟลกเจลลมั ในการเคลื่อนที่ ตวั อย่างของสาหร่ายในดิวชิ ั่นนี้ ไดแ้ ก่ - พอรไ์ ฟรา (Porphyra) เมื่อตากแหง้ แล้วใช้ใส่แกงจืดท่ีเรียกกนั ว่า จีฉา่ ย หรอื สายใบ - กราซลิ าเรีย (Gracilaria) หรือสาหร่ายผมนาง นา้ มาสกัดสารคารแ์ รกจิแนน (Carrageenan) ใช้ในการท้าวุ้น (Agar)ซ่งึ มคี วามสาคญั ในการท้าอาหารเลี้ยงจลุ นิ ทรีย์ทาเคร่อื งสาอาง ท้ายาขดั รองเท้า ครีมโกนหนวด เคลือบเสน้ ใย ใช้ทา้ แคปซูลยา ท้ายา และใชเ้ พาะเล้ยี งเน้อื เยือ่ - คอนดรัส (Chondrus หรือ Irish moss) ใชท้ ้าขนมหวาน รกั ษาโรคท้องรว่ ง ภาพที่ 34 Porphyra หรอื จีฉ่าย (ที่มาภาพ : http://www.surialink.com/HANDBOOK/Genera/image_reds/Porphyra_pics/ porphyra_300.jpg)

ชุดการสอนเรอื่ ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 24 ภาพท่ี 35 Gracilaria (ที่มาภาพ : http://comenius.susqu.edu/bi/202/RHODOPHYTAE/gracilaria-hawaii.jpg) 6. สาหรา่ ยสีเขียว (Green algae) สาหร่ายสีเขียว (Green algae) เป็นดิวิชั่นที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสาหร่ายด้วยกัน มีท้ังหมด ประมาณ 17,500 สปีชีส์ พบอยู่ในน้าจืดมากกว่าในน้าเค็ม พบในดินที่เปียกช้ืน แม่น้าลาคลอง ทะเลสาบ และในทะเล เช่น อะเซตาบูลาเรีย ซึ่งหากมีมากเกิดปรากฎการณ์ เรียกว่า วอเตอร์บลูม (Water bloom) สาหร่ายสีเขียวบางชนิดเป็นพวกเซลล์เดี่ยว บางชนิดเป็นหลายเซลล์ต่อกันเป็นสาย ยาว หรือรวมกนั เป็นกลุ่ม มที ้ังเคลอ่ื นท่ีได้ และเคลอ่ื นท่ีไม่ได้ พวกเซลล์เดียวท่ีเคลื่อนที่ได้ โดยมีแฟลกเจลลัมใช้โบกพัด จ้านวน 2-4 เส้น เช่น คลา มโิ ดโมแนส (Chlamydomonas ) พวกเซลล์เดียวที่เคล่ือน ท่ีไม่ได้เช่น คลอเรลลา (Chlorella) คลอโรคอคคัม (Chlorococcum) พวกหลายเซลล์ต่อกันเป็นสายยาว เช่น ยูโลทริกซ์ (Ulothrix) อีโดโกเนียม (Oedogonium) สไปโรไจรา (Spirogyra) หรอื เทานา้ พวกหลายเซลล์เป็นกลุ่ม (Colonial forms) เช่น วอลวอกซ์ (Volvox) เพดิแอสทรัม (Pediastrum) ซีนเี ดสมนั (Scenedesmus) บางชนิดอยู่รวมกันและมีรูปร่างคล้ายพืชช้ันสูงเช่น สาหร่ายไฟ (Stone wort หรือ Chara) สาหรา่ ยสเี ขียวเป็นสิ่งมชี ีวติ ท่ีสามารถสงั เคราะห์อาหารด้วยแสงได้ มรี งควัตถแุ บบเดียวกับท่ีพบ ในพืชช้ันสูงคือ มีคลอโรฟิลล์เอ คลอโรฟิลล์บี แคโรทีน และแซนโทฟิลล์ รงควัตถุทั้งหมดนี้จะ ประกอบกันด้วยอัตราส่วนที่เหมือนกบั พวกพชื ชั้นสูงจึงท้าให้มสี ีเขียวสด รงควัตถุท้ังหมดนี้จะรวมกนั อยู่ ในเม็ดสี หรือพลาสติด (Plastid) ท่ีเรียกว่า คลอโรพลาสต์ โดยอาจจะมี 1 อัน หรือมากกว่า 1 อนั คลอโรพลาสต์ของสาหรา่ ยสีเขยี วมีรปู ร่างหลายแบบ เชน่ -รูปรา่ งเป็นเมด็ ๆ พบใน ไบรออปซิส (Bryopsis) -รูปร่างเปน็ เกลียว พบใน สไปโรไจรา (Spirogyra) -รูปร่างเป็นคลา้ ยรา่ งแห พบใน อีโดโกเนียม (Oedogonium)

ชุดการสอนเร่อื ง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) -รปู รา่ งเป็นแผ่น พบใน ยโู ลทรกิ ซ์ (Ulothrix) Page | 25 -รูปรา่ งเปน็ รูปดาว พบใน ซิกนีมา (Zygnema) -รูปรา่ งเปน็ เกอื กม้าหรอื รปู ตัว U พบใน คลอเรลลา (Chlorella) ในคลอโรพลาสมีอาหารท่ีเก็บสะสมไว้นอกจากแป้งคือ ไพรีนอยด์ (Pyrenoids) ซ่ึงเป็น โครงสร้างที่มีโปรตีนเป็นแกนกลาง และมีแผ่นแป้งหุ้มล้อมรอบอยู่ นอกจากคลอโรพลาสในไซโทพลา ซึมยังมีออรแ์ กเนล ตา่ ง ๆ มากมาย ผนังเซลล์มี 2 ชั้น ชั้นนอกบางชนิดมีเพกติน (Pectin) เคลือบอยู่ภายนอกบาง ๆ บาง ชนิดจะสร้างสารเมือกห่อหุ้มผนังเซลล์ ช้ันในประกอบด้วย เซลลูโลส (Cellulose) บางชนิดมี แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) หรือ ซิลิกา (Silica) หรือไคติน (Chitin) แทรกอยู่ แตบ่ างชนิดกอ็ าจจะไม่มผี นงั เซลล์เลยกไ็ ด้ การสืบพนั ธพุ์ บไดท้ ั้งแบบแบบไมอ่ าศัยเพศและแบบอาศัยเพศ แบบไม่อาศัยเพศจะใช้วิธีแบ่งเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน (Binary fission) ในพวกเซลล์เดียว หรือหักสาย (Fragmentation) หรือสร้าง สปอร์ ส่วนแบบอาศยั เพศ โดยคอนจเู กชัน (Conjugation) หรือการปฏสิ นธิ (Fertilization) สิ่งมีชีวิตเหล่าน้ีมีบทบาทสาคัญในการเพ่ิมออกซิเจนให้กับแหล่งน้า บางชนิดอยู่รวมกับ สาหร่ายสีแดงสามารถผลิตเกลือแคลเซียมก่อให้เกิดหินโสโครกในทะเล บางชนิดเป็นอาหารเช่น เทา นา้ (Spirogyra) Ulva (Sea lettuce) Chlorella และ Scenedesmus ภาพที่ 36 สาหร่ายไฟ (ท่มี าภาพ : http://www.fishfarmsupply.ca/images/Plants/Chara/chara2.jpg http://members.lycos.nl/ahospers/chara/chara_ze.jpg)

ชดุ การสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 26 ภาพที่ 37 Chlamydomonas (ท่ีมาภาพ : http://www.ucmp.berkeley.edu/greenalgae/chlamydomonas.jpg http://biology.missouristate.edu/phycology/images/Chlamydomonas.JPG) ภาพที่ 38 Chlorella (ท่มี าภาพ : http://www.rbgsyd.nsw.gov.au/__data/assets/image/47350/chlorella2.gif) ภาพท่ี 39 (ซ้าย) Spirogyra (ขวา) Volvox (ทมี่ าภาพ : http://www.aquarium-kosmos.de/bilder/biotope/spirogyra.jpg http://www.eeslmu.de/wiki/images/Volvoxweb.jpg)

ชุดการสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) Page | 27 ภาพที่ 40 Ulva (ทีม่ าภาพ :http://www.solpugid.com/cabiota/ulva_lobata.jpg) ภาพที่ 41 Scenedesmus (ท่ีมาภาพ :http://www.biol.tsukuba.ac.jp/~inouye/ino/g/chl/Scenedesmus.GIF http://www.rbgsyd.nsw.gov.au/__data/assets/image/48235/Scenedesmus.gif) 7. ไมซีโทซัว (Mycetozoa) ไมซีโทซัว หรือเรียกโพรทิสต์กลุ่มน้ีว่า ราเมือก (slime molds) พบในบริเวณท่ีช้ืนแฉะและ ตามขอนไม้เน่าเปลือ่ ย มี 2 กลมุ่ คอื 7.1 ราเมือกชนิดพลาสโมเดยี ม (plasmodium slime molds) ซ่งึ เป็นเซลลท์ ม่ี หี ลายนิวเคลียส 7.2 ราเมือกชนิดเซลลูลาร์ (cellular slime molds) เป็นเซลล์ที่มี 1 นิวเคลียสและอยู่ได้ อยา่ งอสิ ระ ราเมือกมีบทบาทเป็นผู้ย่อยสลายท่ีสาคัญในระบบนิเวศ ตัวอย่างเช่น สเตโมนิทิส (Stempnitis sp.) ไฟซาลมั (Physarum sp.)

ชุดการสอนเร่ือง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 28 ภาพท่ี 42 วฏั จักรชวี ติ ของราเมือก (ทีม่ า : สสวท., 2548, หนา้ 18ุ) นอกจากโพรทิสต์ท้ัง 7 กลุ่มแล้ว ยังมีโพรทิสต์อีกกลุ่มหน่ึงที่มีการศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการ น้อยมาก ทาให้นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถจัดอยู่ในสายวิวัฒนาการของโพรทิสต์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ ได้แก่ ไรโซโพดา (Rhizopoda) เป็นโพรทิสต์ที่มีการเคลื่อนท่ีหรือกินอาหารโดยการสร้างเท้าเทียม เช่น อะมีบา อาศัยอยู่ได้ท้ังในดิน แหล่งน้าจืดและแหล่งน้าเค็ม ส่วนใหญ่ดารงชีวิตแบบอิสระ แต่ บางสปีชสี เ์ ป็นปรสิตทส่ี าคญั เชน่ Entamoeba histolytica ทเ่ี ป็นสาเหตขุ องโรคบดิ ในคน เป็นต้น

ชุดการสอนเรอ่ื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) บตั รกจิ กรรมท่ี 1 Page | 29 ตอน กาเนิด ลกั ษณะสาคัญ การดารงชีวติ และการสืบพนั ธขุ์ องส่ิงมีชีวติ อาณาจกั รโพรทสิ ตา คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามเก่ยี วกับกาเนิด ลกั ษณะสาคญั การดารงชีวิต และการสืบพันธ์ุ ของ ส่ิงมีชวี ิตอาณาจกั รโพรทสิ ตาตามหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) 1. จับคคู่ า และข้อความที่มคี วามหมายสอดคลอ้ งและสัมพันธ์กันมากท่ีสุด ขอ้ ท่ี ตอบ คา ข้อความ 1 เอิรน์ แฮคเคล(Ernst (A) เป็นโครงสร้างทใ่ี ช้ในการเคลอื่ นทข่ี องโพรทิสต์บาง Haeckel) ชนิดมลี กั ษณะเป็นขนเส้นส้ันเล็กๆจานวนมาก 2 ความหมายของคาวา่ (B) เซลล์ของโพรทิสตท์ ี่มีชดุ โครโมโซม 2 ชุด (2n) protista 3 ยนู เิ ซลลูลาร์ (C) เป็นสว่ นท่ใี ช้ในการเคลือ่ นทขี่ องโพรทิสต์บางชนิดเกดิ (Unicellular) จากการไหลของไซโทรพลาสซึม 4 โคโลนี (colony) (D)เซลล์ของโพรทสิ ต์ทมี่ ชี ดุ โครโมโซมเพยี งชดุ เดยี ว (n) 5 ฟลิ าเมนต์ (E) เซลลท์ ุกเซลลท์ ี่เปน็ องค์ประกอบของร่างกายของ (filament) ส่ิงมชี วี ติ มโี ครโมโซมท่ีเหมอื นกัน2ชุด เรียก Diploid หรอื 2n 6 ซีเลยี (Cilia) (F) บคุ คลท่ีเปน็ ผเู้ สนอคาว่า โพรทิสตา 7 แฟลเจลลมั (G) สิง่ มชี ีวติ พวกแรก (Flagellum) 8 ซูโดโปเดียม (H) เซลลข์ องโพรทิสตท์ ี่เซลล์รวมกันเป็นกลุ่ม (Pseudopodium) 9 ซูโอสปอร์ (I) เซลล์ของโพรทิสตท์ อี่ ยู่เป็นเซลล์เดี่ยวๆ (zoospore) 10 เซลลเ์ วจเกตเททฟี (J) เซลลข์ องโพรทสิ ตท์ ี่เซลล์เรียงต่อกันเป็นสาย (vegetative cell) 11 ไซโกสปอร์ (K) เปน็ โครงสร้างที่ใชใ้ นการเคลือ่ นที่ของโพรทิสตบ์ าง (zygospore) ชนดิ มีลักษณะเปน็ ขนเส้นยาว

ชดุ การสอนเร่อื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) 2. ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ Page | 30 2.1 หากนักเรยี นพบส่ิงมชี ีวติ เซลล์เดียวชนิดหนึ่งแล้ว อยากจดั ไวใ้ นกลุ่มของส่ิงมชี ีวติ ในอาณาจกั ร โพรทิสตา ส่ิงมีชีวิตชนิดนัน้ ควรมีลักษณะสาคัญอยา่ งไรบ้าง ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- 2.2 ส่งิ มชี วี ิตในอาณาจักรโพรทสิ ตา ใช้สิ่งใดในการเคลอื่ นท่ีบ้าง ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- 2.3 ให้นักเรยี นยกตัวอยา่ งสงิ่ มชี ีวติ ในอาณาจักรโพรทิสตา ท่ีดารงชวี ติ เป็นผผู้ ลิต , ผบู้ รโิ ภค ,ผยู้ ่อย สลาย และโพรทิสตท์ ี่เปน็ ท้ังผู้ผลิตและผู้บรโิ ภค --------------------------------------------------------------------------------- -------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------------------------------- 2.4 พจิ ารณาภาพการสบื พันธ์ขุ องโพรทิสตต์ ่อไปนีแ้ ลว้ ใช้ข้อความที่กาหนดให้ในตาราง เพือ่ ใชเ้ ป็นคาตอบในคาถามของแตล่ ะหมายเลข Asexual Reproduction Sexual Reproduction Zygospore Zoospore

ชดุ การสอนเรือ่ ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 31 2.4.1 หมายเลข 1 การสบื พันธด์ุ งั ภาพเป็นการสืบพันธุแ์ บบใด…………………………………... 2.4.2 หมายเลข 2 การสบื พันธด์ุ ังภาพเป็นการสบื พันธ์ุแบบใด…………………………………... 2.4.3 หมายเลข 3 ตามลูกศรชเี้ ปน็ สปอร์ระยะใด……………………………………………….. 2.4.4 หมายเลข 4 ตามลกู ศรช้เี ป็นสปอร์ระยะใด……………………………………………….. 2.4.5 หมายเลข 5 ตามลูกศรช้เี ปน็ สปอร์ระยะใด……………………………………………….. คะแนนท่ไี ด้ ลงช่ือผตู้ รวจ

ชดุ การสอนเรอ่ื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) บตั รกจิ กรรมท่ี 2 Page | 32 ตอน ความหลากหลายของส่ิงมชี วี ติ ในอาณาจักรโพรทิสตา คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามเกยี่ วกับความหลากหลายของสง่ิ มีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตา ตาม หัวขอ้ ต่อไปน้ี (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) 1. ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาแผนผังการจาแนกส่ิงมีชวี ิตในอาณาโพรทิสตา แล้วใชข้ ้อความในตารางท่ี กาหนดใหต้ ่อไปนี้ตอบคาถาม แอลวโี อลาตา ยกู ลนี า ไดอะตอม สาหร่ายสีแดง สาหร่ายสีนา้ ตาล ทรปิ พาโนโซมา สไปโรไจรา ไตรโคโมแนส สาหร่ายสีเขยี ว ไดโพลโมนาดิดา ไดโนแฟลเจลเลต กราซลิ าเรีย ไฟซารมั เอพิคอมเพลซา Giardia sp. พอร์ไฟรา สตรามีโนไพล์ ซลิ เิ อต สเตโมนทิ ิส คลอเรลลา พาราบาซาลา ยกู ลโี นซัว คาโรไฟต์ ไมซโี ทซัว ไตรโคนิมฟา

ชุดการสอนเรอ่ื ง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) 1.1 หมายเลข 1 คือ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..P. age | 33 1.2 หมายเลข 2 คือ 1.3 หมายเลข 3 คือ ………………………………………………………….…………….. 1.4 หมายเลข 4 คือ ………………………………………………………….…………….. 1.5 หมายเลข 5 คอื …………………………………………………………...…………… 1.6 หมายเลข 6 คือ ……………………………………………………………...………… 1.7 หมายเลข 7 คือ ………………………………………………………………...……… 1.8 หมายเลข 8 คอื …………………………………………………………………...…… 1.9 หมายเลข 9 คือ ……………………………………………………………………… 1.10 หมายเลข 10 คอื ……………………………………………………………………… 1.11 หมายเลข 11 คือ ………………………………………………………………….…… 1.12 หมายเลข 12 คอื ……………………………………………………………………… 1.13 หมายเลข 13 คอื ……………………………………………………………………… 1.14 หมายเลข 14 คือ ……………………………………………………………………… 1.15 หมายเลข 15 คือ ……………………………………………………………………… 1.16 หมายเลข 16 คอื ……………………………………………………………………… 1.17 หมายเลข 17 คอื ……………………………………………………………………… 1.18 หมายเลข 18 คือ ……………………………………………………………………… 1.19 หมายเลข 19 คือ ……………………………………………………………………… 1.20 หมายเลข 20 คอื …………………………………………………………………...… 1.21หมายเลข 21 คือ ……………………………………………………………………...… 1.22 หมายเลข 22 คอื ……………………………………………………………………… 1.23 หมายเลข 23 คือ …………………………………………………………………… 1.24 หมายเลข 24 คือ ……………………………………………………………………… 1.25 หมายเลข 25 คือ ……………………………………………………………………

ชดุ การสอนเรอื่ ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) 2.พิจารณาภาพตอ่ ไปนีพ้ รอ้ มระบุว่าโพรทิสต์ที่เห็นในภาพ ชือ่ วา่ อะไร และจัดอยูใ่ นกลุ่มใด โดย Page | 34 พิจารณาช่อื กล่มุ จากตารางที่กาหนดให้ ไดโพลโมนาดิดา ตารางชอ่ื กลมุ่ ยูกลีโนซวั แอลวีโอลาตา สาหร่ายสแี ดง สาหรา่ ยสีเขียว พาราบาซาลา ไรโซโพดา สตรามีโนไพล์ ไมซโี ทซวั 2.1 ช่ือ……………………………………2.2 ช่อื …………………………………… กลุม่ …………………………………… กลุม่ ……………………………………… 2.3 ชือ่ ……………………………………2.4 ชอ่ื …………………………………… กลุ่ม……………………………………… กลุ่ม………………………………………

ชุดการสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) Page | 35 2.5 ช่อื ……………………………………2.6 ช่ือ…………………………………… กลุม่ ……………………………………… กลุ่ม……………………………………… 2.7 ชือ่ ……………………………………2.8 ชอ่ื …………………………………… กลุม่ ………………………………………กล่มุ ……………………………………… 2.9 ชอื่ ……………………………………2.10 ช่อื …………………………………… กลมุ่ ………………………………………กลุม่ ………………………………………

ชดุ การสอนเรอ่ื ง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) Page | 36 2.11 ชอ่ื ……………………………………2.12 ชื่อ…………………………………… กลุ่ม……………………………………… กลมุ่ ……………………………………… 2.13 ช่อื ……………………………………2.14 ชื่อ…………………………………… กล่มุ ………………………………………กลุ่ม……………………………………… 2.15 ชอ่ื ……………………………………2.16 ช่อื …………………………………… กลุม่ ………………………………………กลุ่ม………………………………………

ชุดการสอนเร่อื ง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) Page | 37 2.17 ช่ือ……………………………………2.18 ชื่อ…………………………………… กลมุ่ ………………………………………กลมุ่ ……………………………………… 3. ให้นักเรยี นตอบคาถามเกี่ยวกบั ความหลากหลายของส่งิ มีชวี ติ ในอาณาจักรมอเนอราดังต่อไปนี้ 3.1 พจิ ารณาภาพ สบื ค้น แลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1) ปรากฏการณ์ตามภาพเรียกวา่ อะไร 2) สาเหตขุ องปรากฏการณต์ ามภาพ เกิดจากอะไร 3) ปรากฏการณน์ มี้ ผี ลต่อสิง่ มชี ีวติ ในน้า และบนบกอย่างไร และส่งผลต่อระบบนเิ วศอยา่ งไร ? คะแนนท่ไี ด้ ลงช่ือผู้ตรวจ

ชดุ การสอนเร่ือง อาณาจักรโปรทสิ ตา (kingdom Protista) แบบทดสอบกอ่ นเรียน Page | 38 คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบแบบปรนยั 4 ตัวเลือก มีจานวนทัง้ หมด 5 ขอ้ คะแนนเตม็ 5 คะแนน 2. ใหน้ กั เรียนทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงในชอ่ งตัวเลือกท่ีถูกตอ้ งทส่ี ุด 1.ส่ิงมชี ีวติ กลุ่มไหนจัดอยใู่ นอาณาจักรโพรทิสตา ก.สาหร่ายสนี า้ ตาลแกมเหลือง – วอลวอกซ์ – แอนบีนา ข.พลาสโมเดียม – สาหร่ายสีแดง – ยกู ลนี า – ค.ลิเวอร์เวริ ์ต – สาหรา่ ยสีเขียว – อะมบี า ง.เห็ดโคนไลโคโปดียม – สาหร่ายสีน้าตาล – แอนาบนี า 2. ข้อใดกล่าวถงึ ส่ิงมชี วี ิตในอาณาจักรโพรทิสตาถูกตอ้ ง 1. เป็นยูคาริโอตกลุ่มแรก อยู่ในโดเมนอาร์เคีย 2. มกี ารดารงชวี ิตท้ังแบบอิสระ แบบปรสิต และแบบพงึ่ พา 3. มคี วามหลากหลายท้ังชนิดและขนาด มีตั้งแต่ เซลล์เดียวไปจนถงึ หลายเซลล์ แต่ยงั ไม พัฒนา เปน็ เนอื้ เยือ่ ก.ข้อ 1. ข.ข้อ 2. ค.ข้อ 3. ง.ขอ้ 2. และ 3. ถกู 3.สาหรา่ ยทีน่ าเอามาสกดั วุ้นใช้ทาอาหารของมนษุ ย์และใชเ้ ป็นอาหารเล้ยี งจุลินทรยี ์คอื ข้อใด ก.กลาซลิ าเรีย (Gracilaria) ข.ลามินาเรีย(Laminaria) ค.พาไดนา(Padina) ง.สไปโรไจรา(Spirogyra) 4.กลมุ่ ของสาหรา่ ยข้อใดมีบทบาทมากท่สี ุดในการเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของอาณาจักรส่งิ มีชีวิตในนา้ ก.สาหรา่ ยสนี า้ ตาล ข.สาหร่ายสีเขียว ค.สาหรา่ ยสนี ้าตาลแกมเหลือง ง.สาหร่ายสีเขยี วแกมนา้ เงนิ 5. ปรากฏการณ์ขป้ี ลาวาฬ (red tide) เกิดจากโพรทิสต์ชนิดใด ก.พลาสโมเดยี ม ข.ไดโนแฟลเจลเลต ค.พารามีเซยี ม ง.ยกู ลีนา กระดาษคาตอบ ขอ้ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 คะแนนที่ได้ ลงช่อื ผตู้ รวจ

ชดุ การสอนเรือ่ ง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) เอกสารอา้ งองิ Page | 39 สมบญุ เตชะภิญญาวฒั น.์ (2537). พฤกษศาสตร.์ พมิ พ์ครงั้ ท่ี 3. สานักพมิ พ์รวั้ เขยี ว. พมิ พท์ ี่โรงพมิ พส์ หมิตร ออฟเซท. กรงุ เทพ. 277 หน้า. บพธิ จารุพรรณ และนนั ทพร จารุพรรณ. (2549). โพรโทซวั ในแหลง่ น้าจดื . พมิ พ์ครง้ั ที่ 2. สานักพิมพ์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์ กรงุ เทพ. 214 หนา้ . บพธิ จารุพรรณ และนันทพร จารุพรรณ. (2547). สตั ววิทยา. พิมพค์ รัง้ ที่ 4. สานักพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์ กรงุ เทพ. 458 หนา้ . โครงการตาราวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตรม์ ลู นิธิ สอวน. (2548). ชีววทิ ยา 1. พมิ พ์คร้ังที่ 2. พิมพท์ ี่บรษิ ัท ด่านสุทธาการพมิ พ.์ กรงุ เทพ. Mader S. Sylvia. (2007). Biology. The ninth edition. The McGraw-Hill Companies, Inc. McGraw-Hill International edition. USA. 1016 p.

ชุดการสอนเรื่อง อาณาจักรโปรทิสตา (kingdom Protista) Page | 40


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook