วชิ า อนิ เทอร์เน็ตและพาณิชย์อเิ ล็กทรอนิกสพ์ ้ืนฐาน มหาวทิ ยาลยั ราชมงคลรตั นโกสนิ ทร์ วทิ ยาลยั เพาะช่าง นายจามร ตง้ั พงศ์วศนิ รหสั นกั ศกึ ษา4631071141131 สาขาออกแบบภายในปี 3 ภาคปกติ นางสาวอารยี า งามเจรญิ รหสั นกั ศกึ ษา4631071141137 สาขาออกแบบภายในปี 3 ภาคปกติ แบบฝึ กหดั บทท5ี่ เรอื่ ง องคป์ ระกอบพื้นฐานของระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ อภปิ รายและตอบคาถามในหวั ขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอรม์ ีอะไรบา้ ง จงอธบิ าย ตอบ ระบบเครอื ขา่ ย คอมพวิ เตอร์ มอี งค์ประกอบพืน้ ฐานทแี่ ตกตา่ งกนั ไปหลายชนิดแตล่ ะชนิดมหี น้าทกี่ ารทางา นทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไป เพอื่ ใหส้ ามารถเลอื กใช้งานได้ ตามความเหมาะสมและสามารถเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการทางานไดอ้ ยา่ งสงู สุด การทคี่ อมพวิ เตอรจ์ ะสามารถเชื่อมตอ่ กนั เป็ นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ได้ ตอ้ งมีองคป์ ระกอบพนื้ ฐานดงั ตอ่ ไปนี้ 1. คอมพวิ เตอร์ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอรต์ อ้ งมคี อมพวิ เตอรอ์ ยา่ งน้อย 2 เครือ่ งทเี่ ชือ่ มตอ่ กนั ซงึ่ คอมพวิ เตอรเ์ หลา่ นี้ไมจ่ าเป็ นตอ้ งเป็ นเครอื่ งทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพสูงมากนกั และไมจ่ าเป็ นตอ้ งมีแพลตฟอรม์ เดยี วกนั คอมพวิ เตอรแ์ ตล่ ะเครอื่ งควรมีประสทิ ธภิ าพเพยี งพอในการรองรบั การทางาน ของผใู้ ชข้ องเครอื่ งนน้ั ๆ สว่ นการเชือ่ มตอ่ เขา้ กบั เครือขา่ ยไมไ่ ดใ้ ชท้ รพั ยากรของเครอื่ งเพม่ิ มากนกั แตถ่ า้ เป็ นเซริ ์ฟเวอร์เครอื่ งคอมพวิ เตอรค์ วรมปี ระสทิ ธภิ าพสูงพอในการรองรั บการใหบ้ รกิ ารตา่ งๆ กบั ผใู้ ช้เครอื ขา่ ยได้ (Coner, D.E., 2003) 2.เน็ตเวริ ค์ การ์ด เน็ตเวริ ค์ การด์ จะเป็ นจุดเชือ่ มตอ่ ระหว่างคอมพวิ เตอร์ และระบบเครือขา่ ย สว่ นใหญจ่ ะเรียกวา่ “NIC (Network Interface Card)”หรือบางทกี ็เรียกวา่ “LAN การ์ด (LAN Card)” อปุ กรณ์เหลา่ น้ีจะทาการแปลงขอ้ มลู เป็ นสญั ญาณทสี่ ามารถสง่ ไปตามสายสญั ญ
าณหรือสอื่ แบบอนื่ ได้ ปจั จบุ นั น้ีก็ไดม้ กี ารแบง่ การ์ดออกเป็ นหลายประเภท ซงึ่ จะถูกออกแบบใหส้ ามารถใชไ้ ดก้ บั เครอื ขา่ ยประเภทแบบ ตา่ ง ๆ เช่น อเี ธอร์เน็ตการด์ โทเคนรงิ การ์ด เป็ นตน้ การด์ ในแตล่ ะประเภทอาจใชก้ บั สายสญั ญาณบางชนิดเทา่ นน้ั หรืออาจจะใช้ไดก้ บั สายสญั ญาณหลายชนดิ เน็ตเวริ ์คการด์ จะตดิ ตง้ั อยกู่ บั คอมพวิ เตอร์ โดยเตา้ เสยี บเขา้ กบั ช่องบนเมนบอรด์ ของคอมพวิ เตอร์ สว่ นมากคอมพวิ เตอรท์ ผี่ ลติ ในปจั จบุ นั จะมเี ฉพาะชอ่ ง PCI ซง่ึ ก็ใชบ้ สั ทมี่ ีขนาด 32 บติ อยา่ งไรก็ตาม ยงั มคี อมพวิ เตอรร์ นุ่ เกา่ ทยี่ งั มชี อ่ งแบบ ISA อยู่ ซงึ่ มบี สั ขนาด 16บติ และมีการด์ ทเี่ ป็ นแบบ ISA จะประมวลผล ขอ้ มลู ชา้ กวา่ แบบ PCI 3. สอื่ กลางและอุปกรณ์สาหรบั การรบั สง่ ขอ้ มลู ไดแ้ ก่ สายสญั ญาณ สายสญั ญาณแตล่ ะประเภทมที ง้ั ขอ้ ดีขอ้ เสยี แตกตา่ งกนั และเหมาะกบั การใชง้ านในรปู แบบทแี่ ตกตา่ งกนั ซง่ึ การเลือกใชส้ ญั ญาณเหลา่ นี้จะขน้ึ อยกู่ บั ประเภทและแบรนด์ วธิ ีของเครอื ขา่ ย รวมทง้ั งบประมาณดว้ ย โดยสายสญั ญาณทใี่ ชเ้ ป็ นมาตรฐานในระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์อยู่ 3 ประเภท คอื - 3.1 สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) เป็ นตวั กลางการเชื่อมโยงทมี่ ีลกั ษณะเชน่ เดยี วกบั สายทีวีทมี่ กี ารใชง้ านกั นอยเู่ ป็ นจานวนมากไมว่ า่ จะใชใ้ นระบบเครือขา่ ยเฉพาะที่ และใช้ในการสง่ ขอ้ มูลระยะทไี่ กลระหวา่ งชุมสายโทรศพั ทห์ รือการสง่ ขอ้ มลู สญั ญาณวีดีทศั น์ ซง่ึ สายโคแอกเชียลทใี่ ชท้ ่วั ไปก็มอี ยู่ 2 ชนิด คือ 50 โอหม์ ซงึ่ ใช้สง่ ขอ้ มลู แบบดจิ ทิ อล และชนดิ 75โอห์ม ซงึ่ ก็จะใช้สง่ ขอ้ มลู สญั ญาณอนาล็อก สายโคแอก- เชียลมฉี นวนหมุ้ เพอื่ ป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ สญั ญาณแมเ่ หล็กไฟฟ้ า และก็เพอื่ ป้ องกนั สญั ญาณรบกวนอนื่ ๆ ซง่ึ ก็เป็ นสว่ นหน่ึงทที่ าใหส้ ายแบบนี้มชี ่วงความถที่ ีส่ ญั ญาณไฟฟ้ าสามาร ถสง่ ผา่ นไดก้ วา้ งถงึ 500 Mhz จงึ สามารถสง่ ขอ้ มูลดว้ ยอตั ราของการสง่ สงู ขน้ึ - 3.2 สายคบู่ ดิ เกลียว (Twisted Pairs) ในแตล่ ะคูข่ องสายทองแดงซง่ึ จะถูกพนั กนั ตามมาตรฐาน เพอื่ ตอ้ งการลดการรบกวนจากคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ ากบั คสู่ ายขา้ งเคยี งได้ แลว้ ผา่ นไปยงั สายเคเบลิ เดียวกนั หรือจากภายนอกเทา่ นน้ั
เนื่องจากสายคบู่ ดิ เกลยี วนน้ั มรี าคาไมแ่ พงมากใช้สง่ ขอ้ มูลไดด้ ี แลว้ น้าหนกั เบา งา่ ยตอ่ การตดิ ตง้ั จงึ ทาใหถ้ กู ใช้งานอยา่ งกวา้ งขวางตวั อยา่ งคือสายโทรศพั ทส์ ายแบบน้ีมี 2 ชนิดคอื ก. สายคบู่ ดิ เกลยี วชนดิ หมุ้ ฉนวน (Shielded Twisted Pair : STP) เป็ นสายคบู่ ดิ เกลยี วทหี่ มุ้ ดว้ ยฉนวนชน้ั นอกทหี่ นาอกี ชน้ั ดงั รปู เพอื่ ป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ าและสายใยแกว้ นาแสง เป็ นตน้ และอปุ กรณ์เครอื ขา่ ย เชน่ ฮบั สวติ ช์ รพี ีตเตอร์ บรดิ จ์ เราต์เตอร์ และเกตเวย์ เป็ นตน้ ข. สายคเู่ กลียวชนิดไมห่ มุ้ ฉนวน (Unshielded Twisted Pair : UTP) เป็ นสายคบู่ ดิ เกลยี วทหี่ ุม้ ดว้ ยฉนวนชน้ั นอกดว้ ยซง่ึ บางทกี ห็ มุ้ อกี ชน้ั ดงั รู ป ซงึ่ ทาใหส้ ะดวกในการโคง้ งอ แตก่ ็สามารถป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ าไดน้ ้อยกวา่ ชนดิ แรก - 3.3 เสน้ ใยแกว้ นาแสง ( fiber optic ) เป็ นสายทใี่ ชแ้ สงเป็ นสญั ญาณและแกว้ หรือพลาสตกิ ใส เป็ นสอื่ นาสญั ญาณ ในขณะทสี่ ายคเู่ กลียวบดิ และสายโคแอกเชยี ลใชส้ ญั ญาณไฟฟ้ าและโลห ะ เป็ นสอื่ ขอ้ เสียของสายสญั ญาณประเภทโลหะคอื จะถกู รบกวนจากแหลง่ แมเ่ หล็ก ไฟฟ้ าตา่ งๆ ไดง้ า่ ย เชน่ ฟ้ าผา่ มอเตอร์ไฟฟ้ า เป็ นตน้ แตส่ ายใยแกว้ นาแสงใชส้ ญั ญาณแสง ดงั นน้ั จงึ ไมถ่ ูกรบกวนโดยคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ า จงึ ทาใหส้ ายใยแกว้ นาแส งสามารถสง่ ขอ้ มลู ไดใ้ นอตั ราสูงและระยะไกลกวา่ แตก่ ารผลติ การตดิ ตง้ั และดูแลรกั ษาจะยงุ่ ยาก และราคาแพงกวา่ สายทเี่ ป็ นโลหะ ดงั นน้ั สายใยแกว้ นาแสงจงึ เหมาะสาหรบั ลงิ คท์ ตี่ อ้ งการแบนรดว์ ธิ สูง และมคี วามเชือ่ ถือไดส้ งู เหมาะสาหรบั การสง่ ขอ้ มูลระยะไกล เชน่ ลงิ คห์ ลกั (Backbone) ของระบบเครือขา่ ย 4. โปรโตคอล (Protocol) โปรโตคอลเป็ นภาษาทคี่ อมพวิ เตอรใ์ ช้สอื่ สารกนั ผา่ นเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ทสี่ ามารถสอื่ สารกนั ไดน้ น้ั จาเป็ นตอ้ งใชภ้ าษา หรือโปรโตคอลเดียวกนั เชน่ OSI, TCP/IP, IPX/SPX เป็ นตน้
5. ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครือขา่ ย หรือ NOS (Network Operating System) ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครือขา่ ยจะเป็ นตวั ทคี่ อยจดั การเกยี่ วกบั การใชง้ านเครอื ขา่ ยข องผใู้ ช้แตล่ ะคน หรือเป็ นตวั จดั การและควบคุมการใชท้ รพั ยากรตา่ งๆ ของเครือขา่ ย ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครอื ขา่ ยทเี่ ป็ นทนี่ ิยม เช่น Windows Server 2008, Windows Server20012, Novell NetWare, Sun Solaris และ Red Hat Linux เป็ นตน้ 2.ลกั ษณะการทางานของคอมพวิ เตอรท์ ีเ่ ชื่อมตอ่ ในการทางานระบบเ ครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์จะแบง่ เครื่องคอมพวิ เตอร์เป็ น 2 ประเภท คือประเภทใดบา้ ง ตอบ 1.ประเภททใี่ ชเ้ ป็ นเซริ ์ฟเวอรข์ องเครอื ขา่ ย (Server Computer) หรอื เรยี กอกี อยา่ งหนึ่งวา่ เครอื่ งแมข่ า่ ย เป็ นเครอื่ งคอมพวิ เตอรห์ ลกั ในเครอื ขา่ ย ทที่ าหน้าทจี่ ดั เก็บและใหบ้ รกิ ารไฟล์ขอ้ มลู และทรพั ยากรอนื่ ๆ กบั คอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งอนื่ ๆ ใน เครอื ขา่ ย โดยปกตคิ อมพวิ เตอร์ทนี่ ามาใช้เป็ นเซริ ์ฟเวอร์มกั จะเป็ นเครอื่ งทมี่ สี มรรถนะสู ง และมีฮาร์ดดสิ กค์ วามจาสงู กวา่ คอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งอนื่ ๆ ในเครือขา่ ย เป็ นคอมพวิ เตอรท์ สี่ นบั สนุนการทางานของคอมพวิ เตอร์ 2.ประเภททใี่ ชเ้ ป็ นเครอื่ งลกู ขา่ ย (Client) หรือเรียกอกี อยา่ งหนึ่งวา่ ไคลเอนต์ เป็ นคอมพวิ เตอรใ์ นเครอื ขา่ ยทรี่ อ้ งขอบรกิ ารและเขา้ ถงึ ไฟล์ขอ้ มลู ทจี่ ดั เกบ็ ในเ ซริ ์ฟเวอร์ หรือพดู งา่ ย ๆ ก็คอื ไคลเอนต์ เป็ นคอมพวิ เตอร์ ของผใู้ ช้แตล่ ะคนในระบบเครือขา่ ย 3. ใหน้ กั ศกึ ษาอธบิ ายหน้าทขี่ องอปุ กรณ์เหลา่ นี้ ตอบ 3.1 แลนการด์ ทาหน้าทอี่ ะไร เป็ นอปุ กรณ์ทใี่ ชส้ าหรบั รบั สง่ ขอ้ มูลจากเครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งหน่ึงไปยงั อกี เครอื่ งหน่ึง หรือไปยงั อปุ กรณ์อืน่ ๆ ในระบบเครอื ขา่ ย
ดงั นน้ั คอมพวิ เตอรท์ ุกเครอื่ งก็จะตอ้ งมกี าร์ดแลนเป็ นสว่ นประกอบสาคญั อกี อย่ างหน่ึง และโดยเฉพาะการเชื่อมตอ่ อนิ เตอรเ์ น็ต ADSL ตามบา้ น มกั จะใชก้ ารด์ แลนเป็ นตวั เชื่อเมตอ่ อกี ดว้ ย การใชก้ ารด์ แลน จะใชค้ วบคกู่ บั สายแลนประเภท UTP หรอื สายทหี่ ลายๆ คนอาจเคยไดย้ นิ คือสาย CAT5, CAT5e, CAT6 เป็ นตน้ การด์ แลน(LAN Card) เป็ นชือ่ ทเี่ รียกกนั ตดิ ปากท่วั ไป ชือ่ อยา่ งเป็ นทางการมชี ือ่ วา่ การ์ดอีเธอร์เน็ต มไี วส้ าหรบั รบั /สง่ ขอ้ มูลระหวา่ งเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ซง่ึ จะมสี ายทีใ่ ช้เชื่อมตอ่ เครือขา่ ยเขา้ ดว้ ยกนั เรยี กวา่ สายแลน การเชือ่ มตอ่ เครือขา่ ยและจะทาใหเ้ ราสามารถและเปลยี่ นขอ้ มลู กนั ระหวา่ งเครื่ องไดส้ ะดวกมากขนึ้ อกี ทง้ั สามารถดเชื่อมตอ่ อนิ เตอร์เน็ตไดง้ า่ ยๆ โดยใช้เครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งหลกั เชือ่ มตอ่ อนิ เตอร์เน็ตสว่ นเครอื่ งอนื่ ก็ใชก้ ารแชรอ์ นิ เตอรเ์ น็ตผา่ นทางเครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งหลกั ความเร็วในการด์ แลนจะอยทู่ ปี่ ระมาณ 100 Mbps และเรมิ่ เขา้ สู่ 1000 Mbps หรือเรยี กกนั วา่ กกิ ะบติ แลน(Gigabit LAN) การเชือ่ มตอ่ แบบแลนคือการแชร์ บางคนอาจจะเปิ ดมาก หรอื เปิ ดน้อยขน้ึ อยวู่ า่ จะเลน่ แบบไหน อาจทาใหเ้ กดิ การดงึ กนั ระหวา่ งเครือ่ ง เครอื่ งทเี่ ลน่ ไฟลท์ ตี่ อ้ งใชก้ ารดาวน์โหลดมากๆ ก็จะทาใหเ้ ครอื่ งอนื่ เลน่ ไดช้ ้าลง สายแลนมี 2 แบบ คือแบบตรง กบั แบบไขว้ -แบบตรง ใชส้ าหรบั ตอ่ อุปกรณ์โดยใช้ Switch หรอื Hub เป็ นตวั แยกสญั ญาณ -แบบไขว้ ใชส้ าหรบั ตอ่ อปุ กรณ์ประเภทเดยี วกนั เชน่ เครื่องคอมพวิ เตอร์ ตอ่ กบั เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ 3.2 ฮบั (Hup) ทาหน้าทอี่ ะไร ฮบั (Hub) เป็ นอุปกรณ์พน้ื ฐานทใี่ ชใ้ นการเชื่อมตอ่ เครอื่ งจานวน มากเขา้ ดว้ ยกนั ในเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ โดยทฮี่ บั จะมพี อร์ต (Port) หรือช่องสาหรบั ตอ่ สาย RJ-45 เขา้ มาจากเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ และทาหน้าทเี่ ป็ นศนู ยก์ ลางในการกระจาย ขอ้ มลู ไปยงั เครอื่ งอนื่ ๆ ในระบบเครือขา่ ย ความเร็วของฮบั มีหน่วยเป็ น Megabit per second (Mbps) โดยเรม่ิ ตน้ ที่ 10 Mbps จนถงึ ความเร็ว100 Mbps การท างานของฮบั จะใช้วธิ ีแบง่ ช่องทางการสง่ ผา่ นขอ้ มูล หรอื กลา่ วไดว้ า่ ฮบั ความเร็ว 10 Mbps ทมี่ พี อร์ต สาหรบั เชื่อมตอ่ อยู่ 24 พอร์ต มีเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ตอ่ อยทู่ แี่ ตล่ ะพอรต์ และ ทาการสง่ ขอ้ มลู อยใู่ นขณะนน้ั ความเร็วตอ่ พอรต์ ทจี่ ะสามารถสง่ ขอ้ มูลไดจ้ ะมีความเร็วเพียง 10/24 หรอื
0.416 Mbps เทา่ นน้ั นอกจากนน้ั เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ทกุ เครอื่ งทตี่ อ่ มายงั ฮบั ตวั เดยี วกนั ทาใหข้ อ้ มลู ทสี่ ง่ ออกมามโี อกาสทจี่ ะชนกนั สูงเนื่องจากอยใู่ นระดบั ของ กลมุ่ คอมพวิ เตอรท์ จี่ ะสง่ ขอ้ มูลชนกนั ได้ (Collision Domain) การทฮี่ บั สง่ ขอ้ มูลจากเครอื่ งตน้ ทางไปยงั เครอื่ งปลายทาง จะทาโดยการ แพรก่ ระจายสญั ญาณ หรือบอรด์ คาสต์ (Broadcast) ซงึ่ เป็ นการสง่ ไปโดยทีเ่ ครือ่ ง คอมพวิ เตอรท์ กุ เครือ่ งในเครือขา่ ยจะไดร้ บั แตจ่ ะมเี ฉพาะเครอื่ งทรี่ ะบปุ ลายทางเทา่ นน้ั ที่ จะนาขอ้ มลู นน้ั ไปใชไ้ ด้ การทเี่ ครอื่ งใดจะทราบวา่ ขอ้ มลู ทสี่ ง่ มานน้ั เป็ นของตน คอื ในการสง่ เครอื่ งทที่ าการสง่ จะเลือกแลว้ วา่ เครอื่ งปลายทางคือเครอื่ งใด ดงั นน้ั เครอื่ งทไี่ มไ่ ดถ้ กู ระบุ จะไมร่ บั ขอ้ มูลนน้ั มา จากขา้ งตน้ สามารถสรปุ รปู แบบการสง่ ขอ้ มลู ของฮบั ไดค้ อื การสง่ ขอ้ มลู ของฮบั จะทาในลกั ษณะทเี่ รยี กวา่ “บอรด์ คาสต์” คือขอ้ มลู จะถกู แพรก่ ระจายไปยงั ทกุ พอรต์ ของฮบั แตข่ อ้ มลู นน้ั จะถกู รบั ไปทางานเฉพาะในพอรต์ ซงึ่ มีเครอื่ งทีเ่ ป็ นเครือ่ ง ปลายทางตดิ ตอ่ อยเู่ ทา่ นน้ั การทางานในลกั ษณะน้ีจะเป็ นการสน้ิ เปลอื งแบนด์วดิ ธ์จานวนหน่ึงเนื่องจากข้ อมูลจะถูกสง่ ไปยงั เครอื่ งทง้ั หมดทาการตดิ ตอ่ อยู่ ฮบั มอี ยู่ 2 ชนิดคอื Active HUB และ Passive HUB โดย Active HUB จะตอ้ งการไฟเลย้ี งวงจรปรบั ปรงุ สญั ญาณขอ้ มลู เมอื่ ไดร้ บั สญั ญาณขอ้ มูลเขา้ มาวงจรนี้จะทาการสรา้ งสญั ญาณขอ้ มลู เหมอื นเดมิ ทมี่ คี ณุ ภาพเพอื่ สง่ ตอ่ ออกไป ฮบั ชนิดน้ีจงึ ทาหน้าทเี่ หมอื นรพี ีตเตอร์ (Repeater) ทชี่ ว่ ยในการขยายระยะการเชือ่ มตอ่ ระบบเครอื ขา่ ยออกไปได้ ดงั นน้ั ใน บางครง้ั จงึ เรยี ก Active HUB วา่ Multi-Port Repeater สว่ น Passive HUB จะเป็ นเพยี ง ศนู ย์กลางการเชื่อมตอ่ ระบบเครอื ขา่ ยโดยไมม่ วี งจรจดั การปรบั ปรงุ สญั ญาณข้ อมลู จงึ ไม่ ตอ้ งการไฟเล้ยี ง 3.3 รพี ตี เตอร์ (Repeater) ทาหน้าทอี่ ะไร เป็ นอุปกรณ์ทวนสญั ญาณ เพอื่ ใหส้ ญั ญาณไฟฟ้ าทรี่ บั สง่ กนั ในสาย LAN สามารถสง่ ไดไ้ กลขนึ้ เทา่ นน้ั ใช้ในกรณีทตี่ อ้ งการตอ่ สาย LAN ใหไ้ ดไ้ กลเกนิ กวา่ มาตรฐานปกตแิ ตไ่ มไ่ ดท้ าหน้าทชี่ ่วยจดั การาจราจรบน LAN แตอ่ ยา่ งใด การทางานของ Repeater อุปกรณ์ Repeater ถกู นามาใชง้ านในกรณีทเี่ ครอื ขา่ ยนน้ั ตอ้ งการเพม่ิ จานวนของเครอื่ งลูกขา่ ยมา กขนึ้
แตล่ ากสายสญั ญาณไมไ่ ดเ้ พราะระยะทางมากกวา่ ขอ้ กาหนดทกี่ าหนดทใี่ หล้ าก สายไดย้ ง่ิ ระยะทางไกลมากสญั ญาณทถี่ กู สง่ ออกไปก็จะเรมิ่ เพย้ี นและจางลงจน หายไปในทสี่ ดุ อุปกรณ์ Repeater จะช่วยจดั การขยายสญั ญาณใหแ้ รงขนึ้ และจดั รปู สญั ญาณทเี่ พี้ยนไปใหก้ ลบั เห มอื นเดมิ จากนน้ั จงึ สง่ ตอ่ ไปในสายสญั ญาณ ขอ้ เสยี ของอุปกรณ์ Repeater ก็คอื ไมส่ ามารถกล่นั กรองสญั ญาณทไี่ มจ่ าเป็ น เช่น ขอ้ มลู ทผี่ รู้ บั อยฝู่ ่งั เดยี วกบั ผสู้ ง่ จงึ ไมจ่ าเป็ นตอ้ งขยายและสง่ ตอ่ ออกไปยงั เครือ ทีอ่ ยอู่ กี ฟากหน่ึงออกไปได้ สญั ญาณตา่ งๆ ทเี่ ขา้ มาก็จะถกู สง่ ออกไปเหมอื นเดมิ พดู งา่ ยๆ ก็คอื ไมว่ า่ จะเป็ น Packet อะไรสง่ ออกมาในเครือขา่ ย Repeater จะไมส่ นใจทหี่ มายปลายทางวา่ เป็ นเครอื่ งทอี่ ยคู่ นละฟากกนั หรอื ไมถ่ า้ มสี ญั ญา ณมาก็จะสง่ ตอ่ ไปยงั อีกฟากหนึ่งใหเ้ สมอ ดงั นน้ั ถา้ มกี ารเชื่อมตอ่ เครอื่ งลูกขา่ ยจานวนมากเขา้ กบั Repeater ทมี่ หี ลายๆ พอรต์ ก็จะมสี ญั ญาณกระจายไปในเครอื ขา่ ยมากขนึ้ ดว้ ย ทาใหป้ ระสทิ ธภิ าพของเครอื ขา่ ยลดลงได้ 3.4 บรดิ จ์ (Bridge) ทาหน้าทอี่ ะไร บรดิ จ์เป็ นสง่ิ ทใี่ ชแ้ กไ้ ขปญั หาในเรอื่ งสญั ญาณทวี่ ง่ิ อยใู่ นเครือขา่ ยมากเกนิ ไปไ ดโ้ ดยจะจดั แบง่ เครอื ขา่ ยออกเป็ นเครือขา่ ยยอ่ ยหรือ Network Segment และจะทาการกลน่ ั กรองสญั ญาณเทา่ ทจี่ าเป็ นเพอื่ สง่ ใหก้ บั เครือขา่ ยยอ่ ยทถี่ ูกตอ้ งได้ ทาใหส้ ญั ญาณไมม่ ารบกวนกนั หรือมีสญั ญาณทไี่ มเ่ กยี่ วขอ้ งมาในเครือขา่ ยยอ่ ย โดยไมจ่ าเป็ น แตใ่ นทางกลบั กนั ถา้ มคี วามจาเป็ นตอ้ ง การสอื่ สารกนั ขา้ มเครอื ขา่ ยเป็ นจานวนมากแลว้ อุปกรณ์ Bridge ก็อาจกลายเป็ นเสมอื นคอขวดทที่ าใหเ้ ครอื ขา่ ย มกี ารทางานช้าลงได้ บรดิ จ์ เป็ นอปุ กรณ์เชื่อมโยงเครือขา่ ยของเครอื ขา่ ยทแี่ ยกจากกนั แตเ่ ดมิ บรดิ จไ์ ดร้ บั การออกแบบมาใหใ้ ชก้ บั เครือขา่ ยประเภทเดียวกนั เชน่ ใชเ้ ชื่อมโยงระหวา่ งEthernet กบั Ethernet (อเี ทอรเ์ น็ต) บรดิ จม์ ใี ช้มานานแลว้ หลงั จากนน้ั บรดิ จจ์ งึ เปลยี่ นมาเป็ นเสมอื นสะพานเชือ่ มระหวา่ งสองเครือขา่ ยกา รตดิ ตอ่ ภาย ในเครือขา่ ยเดยี วกนั มีลกั ษณะการสง่ ขอ้ มลู แบบกระจาย Broadcasting (บรอดแคส) ดงั นน้ั จงึ กระจายไดเ้ ฉพาะเครอื ขา่ ยเดยี วกนั เทา่ นน้ั การรบั สง่ ภายในเครือขา่ ย
มขี อ้ กาหนดใหแ้ พ็กเกจทสี่ ง่ กระจายไปยงั ตวั รบั ไดท้ กุ ตวั แตถ่ า้ มกี ารสง่ มาทแี่ อดเดรสตา่ งเครอื ขา่ ยบรดิ จ์จะนาขอ้ มลู เฉพาะแพ็กเกจนน้ั สง่ ใหบ้ รดิ จจ์ งึ เป็ นเสมอื นตวั แบง่ แยกขอ้ มลู ระหวา่ งเครอื ขา่ ยใหม้ กี ารสอื่ สารภา ยในเครือขา่ ย ของตน ไมป่ ะปนไปยงั อกี เครอื ขา่ ยหนึ่ง เพอื่ ลดปญั หาปรมิ าณขอ้ มูลกระจายในสายสอื่ สารมากเกนิ ไป ในระยะหลงั มผี พู้ ฒั นาบรดิ จใ์ หเ้ ชือ่ มโยงเครือขา่ ยตา่ งชนิดกนั ได้ เชน่ อเี ทอรเ์ น็ตกบั โทเก็นรงิ เป็ นตน้ หากมกี ารเชื่อมตอ่ เครือขา่ ยมากกวา่ สองเครือขา่ ยเขา้ ดว้ ยกนั และเครือขา่ ยทเี่ ชื่อมมลี กั ษณะหลากหลาย ซงึ่ เป็ นทง้ั เครือขา่ ยแบบ LAN และ WAN อปุ กรณ์ทนี่ ิยมใชใ้ นการเชือ่ มโยงคอื Router (เราต์เตอร์ ) บรดิ จ์ทาหน้าทเี่ หมอื นเป็ นสะพาน เชือ่ มระหวา่ งวงแลนเขา้ หากนั จะเรียกงา่ ยๆ ก็คอื Bridge Mode (บรดิ จ์ โหมด) ทาใหว้ งแลน 2 วง ทตี่ า่ งคนตา่ งทางานกนั เป็ นปกตอิ ยแู่ ลว้ สามารถเชือ่ มตอ่ เขา้ หากนั ได้ และตา่ งก็สามารถเขา้ ถงึ อุปกรณ์ของอกี วงแลนหนึ่งได้ 3.5 เราต์เตอร์ (Router) ทาหน้าทอี่ ะไร เป็ นอปุ กรณ์ทที่ าหน้าทีเ่ ชื่อมตอ่ ระบบเครือขา่ ยอยา่ งหนึ่ง ซง่ึ ถา้ แปลความหมายคาวา่ Route ก็คอื ถนน ดงั นน้ั การเชือ่ มตอ่ คอมพวิ เตอรด์ ว้ ย Router ทาใหเ้ ราสามารถเชื่อมตอ่ คอมพวิ เตอร์ไดม้ ากกวา่ หน่ึงเครือ่ งในเวลาเดียวกนั ซงึ่ Router นน้ั จะมซี อฟตแ์ วรท์ ใี่ ช้ในการควบคมุ การทางานเรยี กวา่ Internetwork Operating System (IOS) และตวั Router จะมีช่องทใี่ ชเ้ สยี บตอ่ สายสญั ญาณเรยี กวา่ Port LAN ซงึ่ โดยท่วั ไปมกั มี 4 Ports หรอื มากกวา่ ใน Router 1 ตวั หน้าทหี่ ลกั ของ Router คือการหาเสน้ ทางในการสง่ ผา่ นขอ้ มลู ทดี่ ที สี่ ุด และเป็ นตวั กลางในการสง่ ตอ่ ขอ้ มลู ไปยงั เครือขา่ ยอนื่ ทง้ั น้ี Router สามารถเชื่อมโยงเครือขา่ ยทใี่ ช้สอื่ สญั ญาณหลายแบบแตกตา่ งกนั ไดไ้ มว่ า่ จะเป็ น Ethernet, Token Rink หรอื FDDI ทง้ั ๆทใี่ นแตล่ ะระบบจะมี packet เป็ นรูปแบบของตนเองซง่ึ แตกตา่ งกนั โดยโปรโตคอลทที่ างานในระดบั บนหรอื Layer 3 ขนึ้ ไปเชน่ IP, IPX หรอื AppleTalk เมอื่ มกี ารสง่ ขอ้ มลู ก็จะบรรจุขอ้ มูลนน้ั เป็ น packet ในรปู แบบของ Layer 2 คอื Data Link Layer เมอื่ Router ไดร้ บั ขอ้ มูลมาก็จะตรวจดใู น packet เพอื่ จะทราบวา่ ใช้โปรโตคอลแบบใด จากนน้ั ก็จะตรวจดูเสน้ ทางสง่ ขอ้ มลู จากตาราง Routing Table วา่ จะตอ้ งสง่ ขอ้ มลู นี้ไปยงั เครือขา่ ยใดจงึ จะตอ่ ไปถงึ ปลายทางได้
แลว้ จงึ บรรจขุ อ้ มลู ลงเป็ น Packet ของ Data Link Layer ทถี่ กู ตอ้ งอกี ครง้ั เพอื่ สง่ ตอ่ ไปยงั เครือขา่ ยปลายทาง คณุ สมบตั ขิ อง Router 1.ทาหน้าทคี่ ลา้ ย Swich ทาใหเ้ ชือ่ มตอ่ ไดห้ ลายเครอื่ งพรอ้ มกนั 2.บางรนุ่ รองรบั การทางาน Wire หรอื Wireless 3.เป็ น ADSL Modem ในตวั (เฉพาะบางรนุ่ เทา่ นน้ั ) 4.Firewall /IPsec VPN (รองรบั การเชอื่ มตอ่ ทางไกลแบบมี security) 5.Antivirus (รนุ่ ใหมๆ่ ของ Router บางรนุ่ จะมี antivirus program ฝงั อยดู่ ว้ ย) 3.6 เกตเวย์ (Gateway) ทาหน้าทอี่ ะไร เกตเวย์ Gateway เป็ นจุดตอ่ เชือ่ มของเครอื ขา่ ยทาหน้าทเี่ ป็ นทางเขา้ สรู่ ะบบเครือขา่ ยตา่ ง ๆ บนอนิ เตอร์เน็ต ในความหมายของ router ระบบเครอื ขา่ ยประกอบดว้ ย node ของ เกตเวย์ gateway และ node ของ host เครอื่ งคอมพวิ เตอรข์ องผใู้ ช้ในเครอื ขา่ ย และคอมพวิ เตอรท์ เี่ ครอื่ งแมข่ า่ ยมีฐานะเป็ น node แบบ host สว่ นเครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ คี่ วบคมุ การจราจรภายในเครอื ขา่ ย หรอื ผใู้ หบ้ รกิ ารอนิ เตอรเ์ น็ต คอื node แบบ เกตเวย์ gateway ในระบบเครอื ขา่ ยของหน่วยธรุ กจิ เครอื่ งแมข่ า่ ยทเี่ ป็ น node แบบ เกตเวย์ gateway มกั จะทาหน้าทเี่ ป็ นเครอื่ งแมข่ า่ ยแบบ proxy และเครอื่ งแมข่ า่ ยแบบ firewall นอกจากนี้ เกตเวย์ gateway ยงั รวมถงึ router และ switch ลกั ษณะการทางานของเกตเวย์ Gateway เกตเวย์ Gateway เป็ นประตูสอื่ สาร ช่องทางสาหรบั เชื่อมตอ่ ขา่ ยงานคอมพวิ เตอร์ทตี่ า่ งชนดิ กนั ใหส้ ามารถตดิ ตอ่ สื่ อสารกนั ได้ โดยทาใหผ้ ใู้ ชบ้ รกิ ารของคอมพวิ เตอรห์ นง่ึ หรอื ในขา่ ยงานหน่ึงสามารถตดิ ตอ่ เ ขา้ สเู่ ครอื่ งบรกิ ารหรือขา่ ยงานทตี่ า่ งประเภทกนั ได้ ทง้ั นี้โดยการใช้อปุ กรณ์ทเี่ รียกวา่ “บรดิ จ์” (bridges) โดยโปรแกรมคอมพวิ เตอรจ์ ะทาใหก้ ารแปลขอ้ มลู ทจี่ าเป็ นให้ นอกจากในดา้ นของขา่ ยงาน เกตเวย์ยงั เป็ นอุปกรณ์ในการเชือ่ มตอ่ ขา่ ยงานบรเิ วณเฉพาะที่ (LAN) สองขา่ ยงานทมี่ ีลกั ษณะ ไมเ่ หมือนกนั ใหส้ ามารถเชื่อมตอ่ กนั ได้ หรือจะเป็ นการเชือ่ มตอ่ ขา่ ยงานบรเิ วณเฉพาะทเี่ ขา้ กบั ขา่ ยงานบรเิ วณกวา้ ง
(WAN) หรอื ตอ่ เขา้ กบั มนิ ิคอมพวิ เตอรห์ รือตอ่ เขา้ กบั เมนเฟรมคอมพวิ เตอรก์ ็ได้เช่นกั น ทง้ั น้ีเนื่องจากเกตเวยม์ ีไมโครโพรเซสเซอรแ์ ละหน่วยความจาของตนเอง 4. สายสญั ญาณทใี่ ช้เป็ นมาตรฐานในระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรม์ กี ปี่ ระ เภท อะไรบา้ ง ตอบ 1.สายคบู่ ดิ เกลยี ว (twisted pair) สายคบู่ ดิ เกลยี ว แตล่ ะคูส่ ายทองแดงจะถกู พนั กนั ตามมาตรฐานเพอื่ ลดการรบกวนจากคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ าจากคสู่ ายขา้ งเคยี งภายในเคเบลิ เดียวกนั หรือจากภายนอกสาหรบั อตั ราการสง่ ขอ้ มูลผา่ นสายคบู่ ดิ เกลยี วจะขน้ึ อยกู่ บั ความหนาของสายดว้ ย กลา่ วคอื สายทองแดงทมี่ เี สน้ ผา่ นศูนยก์ ลางกว้างจะสามารถสง่ สญั ญาณไฟฟ้ ากาลงั แรงไ ดแ้ ละสามารถใช้สง่ ขอ้ มลู ไดห้ ลายเมกะบติ ตอ่ วนิ าที ในระยะทางไดไ้ กลหลายกโิ ลเมตรซงึ่ มี 2 ชนดิ คอื - สายคบู่ ดิ เกลยี วชนดิ หมุ้ ฉนวน (Shielded Twisted Pair : STP) สายคบู่ ดิ เกลียวชนิดหมุ้ ฉนวนเป็ นสายคบู่ ดิ เกลยี วทหี่ มุ้ ดว้ ยฉนวนชน้ั นอ กทหี่ นาเพอื่ ป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ า - สายคบู่ ดิ เกลยี วชนิดไมห่ มุ้ ฉนวน (Unshielded Twisted Pair :UTP)สายคบู่ ดิ เกลยี วชนิดไมห่ มุ้ ฉนวนเป็ นสายคบู่ ดิ เกลยี วทหี่ มุ้ ดว้ ยฉน วนชน้ั นอกทบี่ างทาใหส้ ะดวกในการโคง้ งอแตส่ ามารถป้ องกนั การรบกว นของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ าไดน้ ้อยกวา่ ชนดิ แรก 2.สายโคแอกเชียล (coaxial) สายโคแอกเชียลเป็ นตวั กลางเชื่อมโยงทมี่ ลี กั ษณะเชน่ เดยี วกบั สายทีวีทมี่ กี ารใช้ งานกนั มาก ไมว่ า่ ในระบบเครือขา่ ยเฉพาะที่ ในการสง่ ขอ้ มูลระยะไกลระหวา่ งชุมสายโทรศพั ทห์ รือการสง่ ขอ้ มูลสญั ญาณวีดิ ทศั น์ สายโคแอกเชยี ลทใี่ ชท้ ่วั ไปมี 2 ชนิด คอื 50 โอหม์ ซง่ึ ใชส้ ง่ ขอ้ มลู แบบดจิ ทิ ลั และชนิด 75 โอห์มซงึ่ ใชส้ ง่ ขอ้ มลู สญั ญาณแอนะล็อก สายโคแอกเชียลจะมีฉนวนหมุ้ ป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ า และสญั ญาณรบกวนอนื่ ๆ ซง่ึ เป็ นสว่ นหนึ่งทีท่ าใหส้ ายแบบนี้มีช่วงความถที่ ีส่ ญั ญาณไฟฟ้ าสามารถผา่ นไ ดก้ วา้ งถงึ 500 Mhz จงึ สามารถสง่ ขอ้ มลู ดว้ ยอตั ราสง่ สูง
3.เสน้ ใยนาแสง (fiber optic) เสน้ ใยนาแสง เป็ นการใชแ้ สงเคลอื่ นทไี่ ปในทอ่ แกว้ ซง่ึ สามารถสง่ ขอ้ มูลดว้ ยอตั ราความหนาแน่นของสญั ญาณขอ้ มลู สูงมาก ปจั จบุ นั ถา้ ใชเ้ สน้ ใยนาแสงกบั ระบบอเี ธอร์เน็ตจะใช้ไดด้ ว้ ยความเร็ว 10 เมกะบติ ถา้ ใช้กบั FDDI จะใช้ไดด้ ว้ ยความเร็วสูงถงึ 100 เมกะบติ เสน้ ใยนาแสงมีลกั ษณะพเิ ศษทใี่ ชส้ าหรบั เชือ่ มโยงแบบจดุ ไปจดุ ดงั นน้ั จงึ เหมาะทจี่ ะใชก้ บั การเชือ่ มโยงระหวา่ งอาคารกบั อาคาร ระยะความยาวของเสน้ ใยนาแสงแตล่ ะเสน้ ใช้ความยาวไดถ้ งึ 2 กโิ ลเมตร เสน้ ใยนาแสงจงึ ถกู นาไปใช้เป็ นสายแกนหลกั เสน้ ใยนาแสงน้ีจะมบี ทบาทมากขนึ้ เพราะมีแนวโน้มทจี่ ะใหค้ วามเร็วทสี่ ูงมาก 5. โปรโตคอล (Protocol) หมายถงึ อะไร ปจั จบุ นั โปรโตคอลใดทนี่ ิยมใชท้ สี่ ดุ ตอบ โปรโตคอล คือ ขอ้ กาหนดหรือขอ้ ตกลงในการสอื่ สารระหวา่ งคอมพวิ เตอร์ หรือภาษาสอื่ สารทใี่ ชเ้ ป็ น ภาษา กลางในการสอื่ สารระหวา่ งคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยกนั การทเี่ ครือ่ งคอมพวิ เตอร์ทถี่ ูกเชื่อมโยงกนั ไวใ้ นระบบจะสามารถตดิ ตอ่ สอื่ สาร กนั ไดน้ น้ั จาเป็ นจะตอ้ งมกี ารสอื่ สารทเี่ รียกวา่ โปรโตคอล (Protocol) เชน่ เดยี วกบั คนเราทตี่ อ้ งมภี าษาพดู เพอื่ ใหส้ อื่ สารเขา้ ใจกนั ได้ โปรโตคอลช่วยใหร้ ะบบคอมพวิ เตอรส์ องระบบ ทแี่ ตกตา่ งกนั สามารถสอื่ สารกนั อยา่ งเขา้ ใจได้ คอื ขอ้ ตกลงทกี่ าหนดเกยี่ ว กบั การสอื่ สารระหวา่ งเครอื่ งคอมพวิ เตอรต์ า่ งๆ ทง้ั วธิ ีการสง่ และรบั ขอ้ มูล วธิ กี ารตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของการสง่ และรบั ขอ้ มูล การแสดงผลขอ้ มูลเมอื่ สง่ และรบั กนั ระหวา่ งเครอื่ งสองเครอื่ ง ดงั นน้ั จะเห็นไดว้ า่ โปรโตคอลมีความสาคญั มากในการสอื่ สารบนเครอื ขา่ ย หากไมม่ โี ปรโตคอลแลว้ การสือ่ สารบนเครือขา่ ยจะไมส่ ามารถเกดิ ขน้ึ ได้ ปจั จุบนั โปรโตคอลทนี่ ยิ มใช้ทสี่ ดุ คอื โปรโตคอล TCP/IP หรือ Transfer Control Protocol/Internet Protocolคือเครอื ขา่ ยโปรโตคอลทสี าคญั มากทสี่ ดุ เนื่องจากเป็ นโปรโตคอลทใี่ ช้ในระบบเครอื ขา่ ย Internet รวมทง้ั Intranet ซง่ึ ประกอบดว้ ย 2 โปรโตคอลคือ TCP และ IP
1. คอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งน้อย 2 เครอื่ ง เชือ่ มตอ่ กนั 2. เน็ตเวริ ค์ การ์ด หรอื NIC (Network Interface Card) เป็ นการด์ ที่ เสยี บเขา้ กบั ชอ่ งบนเมนบอรด์ ของคอมพวิ เตอร์ ซงึ่ เป็ นชุดเชือ่ มตอ่ ระหวา่ งคอมพวิ เตอร์ และเครือขา่ ย 3. สอื่ กลางและอุปกรณ์ส าหรบั การรบั สง่ ขอ้ มูล เชน่ สายสญั ญาณ สายสญั ญาณทนี่ ิยมใช้ในระบบเครอื ขา่ ย เช่น สายโคแอก็ เชียล สายคบู่ ดิ เกลยี ว และสายใย แกว้ น าแสง เป็ นตน้ สว่ นอุปกรณ์เครือขา่ ย เชน่ ฮบั สวติ ช์ เราท์เตอร์ เกตเวย์ เป็ นตน้ หน่วยที่ 2 ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์และโครงสรา้ งพนื้ ฐาน 64 4 . โปรโตคอล (Protocol) โปรโตคอลเป็ นภาษาทคี่ อมพวิ เตอรใ์ ช้ สอื่ สารกนั ผา่ นเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ทสี่ ามารถสอื่ สารกนั ไดน้ น้ั จ าเป็ นตอ้ งใช้ภาษา หรือ โปรโตคอลเดยี วกนั เชน่ OSI TCP/IP IPX/SPX เป็ นตน้ 5. ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครือขา่ ย หรอื NOS (Network Operating System) ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครอื ขา่ ยจะเป็ นตวั ทคี่ อยจดั การเกยี่ วกบั การใชง้ านเครือขา่ ย ของผใู้ ชแ้ ตล่ ะคน หรอื เป็ นตวั จดั การและควบคมุ การใชท้ รพั ยากรตา่ งๆ ของเครือขา่ ย ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครือขา่ ยทเี่ ป็ นทนี่ ยิ ม เชน่ Windows Server 2007 Novell NetWare Sun Solaris และ Red Hat Linux เป็ นตน้
2.ลกั ษณะการท างานของคอมพวิ เตอรท์ เี่ ชือ่ มตอ่ ในการท างานระบบเครือขา่ ย คอมพวิ เตอร์จะแบง่ เครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ป็ น 2 ประเภท คือประเภทใดบา้ ง 3. ใหน้ กั ศกึ ษาอธบิ ายหน้าทขี่ องอุปกรณ์เหลา่ นี้ 3.1 แลนการด์ ท าหน้าทอี่ ะไร 3.2 ฮบั (Hup) ท าหน้าทอี่ ะไร 3.3 รีพตี เตอร์ (Repeater) ท าหน้าทอี่ ะไร
3.4 บรดิ จ์ (Bridge) ท าหน้าทอี่ ะไร 3.5 เราตเ์ ตอร์ (Router) ท าหน้าที่ อะไร 3.6 เกตเวย์ (Gateway) ท าหน้าทอี่ ะไร 4. สายสญั ญาณทใี่ ช้เป็ นมาตรฐานในระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์มกี ปี่ ระเภท อะไรบา้ ง 5. โปรโตคอล (Protocol) หมายถงึ อะไร ปจั จบุ นั โปรโตคอลใดทนี่ ิยมใช้ทสี่ ดุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: