Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เกษตรปลอดภัย

เกษตรปลอดภัย

Published by kruhoneyj, 2021-07-30 08:13:31

Description: เกษตรปลอดภัย

Search

Read the Text Version

( เอกสารทางวิชาการ เลขท่ี /2564) สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการเศรษฐกิจพอเพียงรเู้ ร่อื งพืชผกั สวนครัว หลกั สูตรการปลกู ผักสวนครัวสร้างความมัน่ คงทางอาหาร ปีงบประมาณ 2564 (ไตรมาส 3) วนั ที่ 24 มถิ ุนายน 2564 ณ ศาลาประชาคม หมู่5 ตาบลหนองตาลงึ อาเภอพานทอง จงั หวัดชลบุรี ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอพานทอง สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัดชลบุรี สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ การจัดการกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่ประชาชน ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั เมืองชลบุรี ไดใ้ ห้ความสาคญั และมอบหมาย กศน.ตาบลหนองตาลงึ จัดโครงการ โครงการเศรษฐกิจพอเพียงรู้เรื่องพืชผักสวนครัวให้แก่ประชาชน กศน.ตาบลหนองตาลึงเพ่ือให้ ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการปลูกผักสวนครัวในครัวเรือนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และส่งเสริมให้ประชาชนปลูกผักไว้รับประทานเอง และเสริมสร้างรายได้จากการปลูกผัก สวนครัว รวมท้ังสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับบุคคลอ่ืนได้ ตลอดจนส่งเสริมให้มีการสร้างองค์ความรู้ท่ี หลากหลาย มีความถูกต้องและสอดคล้องกับความจาเป็นและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี จึงได้จัดโครงการขน้ึ มผี ูเ้ ขา้ รว่ มโครงการ จานวน 15 คน ดงั นน้ั ทางคณะทางาน ไดจ้ ัดโครงการเศรษฐกจิ พอเพียงรเู้ ร่ืองพืชผักสวนครวั ใหก้ บั ประชาชน ตาบลหนองตาลึง เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรายละเอียดผลการดาเนินงานต่างๆ ตลอดจน ปัญหาอุปสรรค ในการดาเนินงานเพ่ือรวบรวมกระบวนการดาเนินงาน ผลท่ีได้นาไปใช้ ตลอดจนการ พัฒนาเพ่ือให้สอดคล้องกับสภาพวิถีชีวิต และการตอบสนองความต้องการของผู้เข้ารับโครงการ ท้าย คอื การนาไปใชป้ ระโยชน์อยา่ งแทจ้ รงิ และสามารถแนะนาผู้อื่นไดใ้ หเ้ กดิ การพัฒนาคุณภาพชวี ติ ทั้งน้ี คณะทางานทุกท่านต้องขอขอบคุณ กศน.อาเภอพานทองและผู้เกี่ยวข้องให้คาปรึกษา แนะนาการจัดโครงการ หากมีข้อบกพร่อง ผู้จัดทาต้องขออภัยมา ณ ที่น้ีและจะปรับปรุงใหด้ ีย่งิ ข้ึนใน โอกาสตอ่ ไป คณะทางาน

สำรบัญ หนา้ บทที่ 1 2 1 บทนา 2 หลกั การและเหตุผล 2 วตั ถปุ ระสงค์ 2 เปา้ หมาย ผลลัพธ์ 3 ตัวชี้วดั ผลสาเรจ็ ของโครงการ 12 18 2 เอกสารการศกึ ษาและรายงานทีเ่ ก่ียวข้อง ยทุ ธศาสตร์และจดุ เน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. 22 กรอบการจดั กิจกรรมการเรียนรตู้ ามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 32 เอกสารงานเกี่ยวข้อง 23 23 3 วธิ กี ารดาเนนิ งาน 23 ประชุมปรึกษาหารือการจดั โครงการ 24 แตง่ ตัง้ คณะทางาน 29 ประสานงานเครือข่ายทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ดาเนินการตามแผนงาน สรุปผลและรายงาน 4 ผลการดาเนนิ งานและการวิเคราะห์ข้อมลู 5 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ บรรณานุกรม

สำรบัญตำรำง หน้า ตารางท่ี 1 แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม 24 ตารางท่ี 2 แสดงค่าร้อยละผตู้ อบแบบสอบถาม 25 ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี 25 ตารางที่ 4 ผลการประเมนิ โครงการ ฯ 26

บทท่ี 1 บทนำ หลกั กำรและเหตผุ ล ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 นโยบายแนวทางหลักในการดาเนินงาน และโครงการสาคัญของ กระทรวงศกึ ษาธิการ และจากนโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงานของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ปงี บประมาณ 2564 ได้กาหนด การดาเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์คือ “คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรยี นรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพสามารถดารงชีวติ ที่เหมาะสม กบั ชว่ งวัย สอดคลอ้ งกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและมีทกั ษะท่จี าเป็นในโลกศตวรรษท่ี 21” มุ่งเน้นส่งเสริมการจัดการศึกษาโดยเน้นการประสานเช่ือมโยงระหว่างชุมชนและภาคีเครือข่ายใช้ กศน.ตาบลเป็นฐาน เพ่ือให้คนไทยได้รับการศึกษาตลอดชีวิต ส่งเสริมการเรียนรู้หลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หมท่ เี่ หมาะสมสาหรบั ทกุ กลมุ่ เป้าหมาย ปจั จบุ นั ผักท่ีนามาใช้ปรุงอาหารจดั ซ้ือจากท้องตลาด ซง่ึ ผักส่วนใหญ่มีการปนเปื้อน สารเคมี โดยปกติก่อนการปรุง แม่ครัวก็จะล้างทาความสะอาดอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถ ชะล้างสารตกค้างออกได้ท้ังหมด ส่งผลให้เด็กในวัยก่อนเรียนอยู่ในภาวะความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ อย่างน่าเป็นห่วงท้ังน้ีเนื่องจากเด็กบริโภคพืชผักและผลไม้ที่ไม่ปลอดภัยทาให้มีการสะสมสารพิษ ภายในร่างกายอาจกอ่ ใหเ้ กดิ ภาวะความเสย่ี งต่อการเจบ็ ป่วยและการเกดิ โรคชนดิ ต่าง ๆ ไดซ้ ่งึ เปน็ การ บ่ันทอนทรพั ยากรมนษุ ยร์ ะยะยาวหากเด็กรับประทานผักมีสารเคมปี นเปื้อน แมว้ า่ ในปัจจบุ ันจะมีการ รณรงค์ส่งเสริมในเรื่องการลดละเลิกการใช้สารพิษในการเกษตรแต่เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงชินกับรูป แบบเดิมโดยไม่คานึงถึงความปลอดภัยทางด้านสุขภาพของผู้บริโภคการปลูกพืช ผักสวนครัวท่ีไร้ สารพิษตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทาให้ผู้บริโภคมีสุขภาพร่างกายท่ีดีสมาชิกในครอบครัวมี กิจกรรมร่วมกันใช้เป็นอาหารในครัวเรือนลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนพ่ึงพาตนเองและสามารถดาเนิน ชีวิตให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ลดความเส่ียงจากสารเคมีสะสมในร่างกาย เพ่ือให้สุขภาพ สมบรู ณ์แขง็ แรง จากการไดร้ ับประทานผักปลอดสารพษิ ในปรมิ าณทเ่ี พยี งพอ ดังน้ัน กศน.ตาบลหนองตาลึง ได้เล็งเห็นความสาคัญ จึงได้จัดทาโครงการอบรมส่งเสริม ทักษะตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง หลกั สตู รเกษตรปลอดภัย ก้าวไกลส่อู นิ ทรีย์ ข้นึ

2 วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมรับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผักสวนครัวใน ครัวเรือนตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. เพื่อน้อมนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวนั อย่างยงั่ ยนื เป้ำหมำย เชงิ ปริมำณ ประชาชนตาบลหนองตาลงึ ท่ีมคี วามสนใจ จานวน 15 คน เชิงคุณภำพ ประชาชนท่เี ข้ารว่ มโครงการมีความรู้ ความเข้าใจเร่ืองการนอ้ มนาหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นชีวติ สามารถดารงชีวติ แบบพออยู่พอกิน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง พัฒนาคุณภาพชวี ิตในการดารงชวี ิตอยู่ภายใตห้ ลักการกินอยู่อย่างพอเพียง ส่งเสรมิ การปลูก พืชผกั สวนครัวปลอดสารเคมี ผลลพั ธ์ ประชาชนท่เี ข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 80 มีความรู้ ความเข้าใจ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการปลกู ผักสวนครวั ในครวั เรือนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และปลูกผกั ไวร้ ับประทานเอง และเสรมิ สร้าง รายไดจ้ ากการปลกู ผกั สวนครัว ดัชนีตัวช้ีวดั ผลสำเรจ็ ของโครงกำร 1 ตวั ชี้วดั ผลผลติ (Outputs) - มีผ้เู ขา้ ร่วมโครงการฯ ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเป้าหมาย - ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการฯมีความพงึ พอใจในระดบั ดีขึน้ ไปไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 2 ตวั ชี้วดั ผลลัพธ์ (Outcomes) - ผู้เขา้ รว่ มโครงการฯไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 20 สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ - ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการฯสามารถไปขยายผลได้ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 5 ของเปา้ หมาย

บทท่ี 2 เอกสำรกำรศึกษำและรำยงำนทเี่ กีย่ วขอ้ ง ในการจดั ทารายงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงรู้เร่ืองพชื ผักสวนครวั ครง้ั นี้ ผ้จู ัดทา โครงการได้ทาการคน้ คว้าเนื้อหาเอกสารการศกึ ษาทีเ่ กีย่ วข้อง ดงั นี้ 1.ยทุ ธศาสตร์และจดุ เน้นการดาเนินงานสานกั งาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 2. กรอบการจดั กิจกรรมการเรยี นรหู้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3. ความรูเ้ ก่ยี วกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 4. เอกสารการศกึ ษาทเ่ี กี่ยวข้อง 1. ยุทธศำสตรแ์ ละจดุ เนน้ กำรดำเนนิ งำน สำนักงำน กศน.ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 วสิ ัยทศั น์ คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพสามารถ ดารงชีวิตท่ีเหมาะสมกับช่วงวัยสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะที่จาเป็น ในโลกศตวรรษท่ี 21 พนั ธกจิ 1. จัดและส่งเสรีมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ เพ่ือ ยกระดับการศึกษาพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประซาซนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย พรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลงบริบททางสงั คม และสร้างสงั คมแหง่ การเรียนร้ตู ลอดชีวติ 2. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ และประสานภาคเี ครอื ข่าย ในการมสี ว่ นรว่ มจัดการศึกษานอก ระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชวี ติ รวมท้ังการดาเนินกิจกรรมของศูนย์การ เรียนและ แหลง่ การเรยี นรู้อ่ืน ในรปู แบบตา่ ง ๆ 3. ส่งเสริมและพัฒนาการนาเทคโนโลยที างการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้ เกิดประสิทธิภาพในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประซาซนอย่าง ทว่ั ถึง 4. พฒั นาหลักสตู ร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และนวัตกรรม การวัดและ ประเมินผล ในทุกรูปแบบใหส้ อดคล้องกบั บริบทในปัจจบุ นั 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งจัด การศึกษา และ การเรยี นรทู้ ีม่ ีคุณภาพ โดยยดึ หลกั ธรรมาภบิ าล

4 เป้ำประสงค์ 1. ประซาซนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมท้ังประซาซนทั่วไป ไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานการศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษา ตามอัธยาศัย ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความ ต้องการของแตล่ ะกลุม่ เปา้ หมาย 2. ประซาซนได้รับการยกระดับการศึกษาสร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และ ความเปน็ พลเมอื ง อันนาไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งใหช้ ุมซน เพื่อ พัฒนาไปสู่ ความมั่นคงและย่ังยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และส่ิงแวดลอ้ ม 3. ประซาซนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที,เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน รวมทั้งแก้ปัญหาและพั ฒนา คุณภาพชวี ิต ได้อย่างสร้างสรรค์ 4. ประซาซนได้รับการสร้างและส่งเสริมให้มีนิสัยรักการอ่านเพ่ือการแสวงหาความรู้ ดว้ ยตนเอง 5. ชมุ ซนและภาคเี ครอื ขา่ ยทุกภาคสว่ นรว่ มจัด สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การดาเนินงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย รวมทงั้ การขับเคล่อื นกิจกรรมการเรยี นรูข้ องชุมชน 6. หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรยี นรแู้ ละเพ่มิ โอกาสการเรียนรใู้ ห้กับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหา และพฒั นาคณุ ภาพชีวิตทีต่ อบสนองกบั การเปลย่ี นแปลงบรบิ ทดา้ นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตร์และส่งิ แวดลอ้ มรวมทัง้ ตามความต้องการของประขาซนและชุมซนในรปู แบบท่ีหลากหลาย 8. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการท่ีเป็นไปตามหลกั ธรรมาภบิ าล บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพ่ิมสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตัวชว้ี ดั ตวั ช้วี ดั เซงิ ปริมำณ 1. จานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานท่ีได้รับการ สนบั สนุนค่าใช้จ่ายตาม สทิ ธิท่กี าหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับ บริการกิจกรรม การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา และ ความต้องการ 3. รอ้ ยละของกาลังแรงงานทส่ี าเรจ็ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขน้ึ ไป 4. จานวนภาคีเครอื ข่ายท,ี เขา้ มามีสว่ นร่วมในการจัด/พัฒนา/ส่งเสรมิ การศึกษา(ภาคี เครอื ขา่ ย : สถานประกอบการ องคก์ ร หนว่ ยงานที'มาร่วมจดั /พัฒนา/สง่ เสริมการศึกษา)

5 5. จานวนประซาซน เด็ก และเยาวชนในพ้ืนท่ีสูง และซาวไทยมอแกน ในพื้นท่ี 5 จังหวัด 11 อาเภอ ได้รับบริการการศึกษาตลอดชีวิตจากศูนย์การเรียนชุมซนสังกัดสานักงาน กศน. 6. จานวนผู้รับบริการในพื้นท่ีเป้าหมายได้รับการส่งเสริมด้านการรู้หนังสือและการ พัฒนาทักษะชีวติ 7. จานวนนักเรยี น/นักศกึ ษาที่ไดร้ ับบริการติวเขม้ เติมความรู้ 8. จานวนประขาซนที่ได้รับการฝึกอาซีพระยะส้ัน สามารถสร้างอาชีพเพื่อสร้าง รายได้ 9. จานวน ครู กศน. ตาบล จากพ้ืนที่ กศน. ภาค ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการ จดั การเรียน การสอนภาษาองั กฤษเพื่อการล่อื สาร 10. จานวนประซาชนท่ีได้รับการ,ฝึกอบรมภาษาต่างประเทศเพ่ือการส่ือสารด้าน อาชพี 11.จานวนผู้สูงอายุภาวะพ่ึงพิงในระบบ Long Term Care มีผู้ดูแลท่ีมีคุณภาพและ มาตรฐาน 12. จานวนประซาซนที่ผ่านการอบรมจากศนู ย์ดจิ ิทลั ชุมซน 13. จานวนศูนย์การเรียนชุมซน กศน. บนพื้นที่สูง ในพ้ืนที่ 5 จังหวัด ที่ส่งเสริมการ พฒั นาทักษะ การฟง้ พดู ภาษาไทยเพื่อการลื่อสาร ร่วมกันในสถานศกึ ษาสงั กดั สพฐ. ตซด. และกศน 14. จานวนบุคลากร กศน. ตาบลที่สามารถจัดทาคลังความรู้ได้ 15. จานวนบทความเพื่อการเรียนรตู้ ลอดชวี ิตในระดบั ตาบลในหัวขอ้ ตา่ ง ๆ 16. จานวนหลักสูตรและสื่อออนไลน์ที่ให้บริการกับประซาซน ท้ังการศึกษานอก ระบบระดับ การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน การศกึ ษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอธั ยาศัย ตวั ช้ีวัดเซิงคณุ ภำพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับซาติ การศึกษานอก ระบบ (N-NET) ทุกรายวซิ าทุกระดบั 2. ร้อยละของผู้เรียนท่ีได้รับการสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเทียบกับค่า เปา้ หมาย 3. ร้อยละของประซาซนกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรม การศกึ ษา ต่อเนื่องเทียบกบั เปา้ หมาย 4. รอ้ ยละของผูผ้ ่านการ‘รกอบรม/พัฒนาทักษะอาชีพระยะส้ันสามารถนาความรู้ไป ใช้ ในการประกอบอาชพี หรือพัฒนางานได้ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเซตพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ท่ีได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรอื ทกั ษะ ดา้ นอาชพี สามารถมีงาบทาหรือนาไปประกอบอาชพี ได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมท่ีสามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตาม จดุ มุ่งหมาย ซองหลักสตู ร/กจิ กรรม การศึกษาตอ่ เนื่อง

6 7. ร้อยละของประซาซนท่ีได้รับบริการมีความพึงพอใจต่อการบริการ/เข้าร่วม กจิ กรรมการเรยี นรู้ การศึกษาตามอธั ยาศยั 8. ร้อยละของประซาซนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมท่ีมีความรู้ ความเขา้ ใจ/เจตคติ/ ทกั ษะ ตามจุดมุ่งหมายของกจิ กรรมท่กี าหนด ของการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 9. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาท่ีมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นในวิซาท่ีได้รับบริการติว เขม้ เตม็ ความรู้เพิม่ สูงขน้ึ 10. ร้อยละของผู้สูงอายุท่ีเป็นกลุ่มเป้าหมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษา ตลอดชวี ติ นโยบำยเรง่ ด่วนเพ่อื รว่ มขบั เคล่ือนยทุ ธศำสตร์กำรพฒั นำประเทศ 1.ยุทธศำสตร์ดำ้ นควำมมั่นคง 1.1 พัฒนำและเสริมสร้ำงควำมจงรักภักดีต่อสถำบันหลักของชำติ โดยปลูกฝัง และ สร้างความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและ ความภาคภูมิใจ ในความเป็นคนไทยและชาติไทย น้อมนาและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง รวมถงึ แนวทางพระราชดาริตา่ ง ๆ 1.2 เสริมสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจท่ีถูกต้อง และกำรมีส่วนร่วมอย่ำงถูกต้องกับ กำรปกครอง ระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริย์ทรงเป็นประมุข ในบริบทของไทย มคิ วาม เป็นพลเมืองดี ยอมรับ และเคารพความหลากหลายทางความคดิ และอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหำภัย คุกคำม ในรูปแบบใหม่ ท้ังยาเสพติด การค้ามนุษย์ ภัยจากไซเบอร์ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ โรคอุบัติ ใหม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดับคณุ ภำพกำรศึกษำและสรำ้ งเสรมิ โอกำสในกำรเขำ้ ถงึ บริกำร กำรศึกษำ การพัฒนา ทักษะ การสร้างอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดน ภาคใต้ และพน้ื ที่ชายแดนอืน่ ๆ 1.5 สร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของ ประเทศเพื่อนบ้ำน ยอมรับและเคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ และชาวต่างชาติที่มี ความหลากหลาย ในลักษณะพหสุ งั คมทอี่ ยู่รว่ มกัน 2. ยุทธศำสตร์ดำ้ นกำรสรำ้ งควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขนั 2.1 เรง่ ปรบั หลักสตู รกำรจดั กำรศึกษำอำชพี กศน. เพือ่ ยกระดบั ทกั ษะตำ้ นอำชีพ ของประซำซน ให้เป็นอำชีพที่รองรับอุตสำหกรรมเป้ำหมำยของประเทศ (First - curve และ New - curve) โดยบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาและเสริมทักษะใหม่ต้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมุ่งเน้นสร้างโอกาสในการสร้างงานสร้างรายใต้และตอบสนองต่อความต้องการของ ตลาดแรงงาน ทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการโดยเฉพาะในพ้ืนที่เขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขต

7 พัฒนาพิเศษตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ สาหรับพ้ืนท่ีปกติให้พัฒนาอาชีพท่ีเน้นการต่อยอด ศักยภาพและตามบรบิ ทชองพ้ืนที่ 2.2 จัดกำรศึกษำเพื่อพัฒนำพ้ืนท่ีภำคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประซา ซนให้จบการศึกษาอยา่ งนอ้ ยการศกึ ษาภาคบงั คับ สามารถนาคุณวุฒิทใ่ี ด้รับไปต่อยอดในการประกอบ อาชีพ รวมทั้ง พัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพตามความต้องการของประซาซน สร้างอาชีพ สร้าง รายใต้ ตอบสนองต่อ บรบิ ทของสังคมและชุมชน รวมทงั้ รองรบั การพัฒนาเขตพื้นท่ีระเบียบเศรษฐกิจ ภาคตะวนั ออก (EEC) 2.3 พัฒนำและส่งเสริมประซำซนเพื่อต่อยอดกำรผลิตและจำหน่ำยสินค้ำและ ผลิตภัณฑ์ออนไลน์ 1. เร่งจัดตั้งศูนย์ให้คาปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพ่ือ ยกระดับคุณภาพ ของสินค้าและผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการท่ีครบวงจร (การผลิต การตลาด การ ส่งออก และสร้างซ่องทาง จาหน่าย) รวมทั้งส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการ เผยแพร่และจาหน่ายผลิตภัณฑ์ 2. พัฒนาและคัดเลือกสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับสถานีบริการน้ามันในการเป็นซ่องทางการจาหน่ายสุดยอดสินค้า และผลิตภัณฑ์ กศน. ใหก้ ว้างขว้างยิ่งข้นึ 3. ยทุ ธศำสตรด์ ำ้ นกำรพฒั นำและเสริมสรำ้ งศักยภำพทรพั ยำกรมนษุ ย์ 3.1 พัฒนำครูและบุคลำกรท่ีเกี่ยวซ้องกับกำรจัดกิจกรรมและกำรเรียนรู้ เป็นผู้ เชื่อมโยงความรู้กับผู้เรียนและผู้รับบริการ มีความเป็น “ครูมืออาชีพ” มีจิตบริการ มีความรอบรู้และ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเปน็ “ผู้อานวยการการเรียนรู้” ท่ีสามารถบริหารจัดการความรู้ กิจกรรม และการเรียนรู้ท่ีดี 1. เพมิ่ อตั ราข้าราชการครูให้กับ กศน. อาเภอทกุ แห่ง โดยเรง่ ดาเนนิ การเร่ือง การหาอัตราตาแหน่ง การสรรหา บรรจุ และแตง่ ต้ัง ช้าราชการครู 2. พัฒนาข้าราชการครูในรูปแบบครบวงจร ตามหลักสูตรที่เชื่อมโยงกับวิทย ฐานะ 3. พัฒนาครู กศน.ตาบลให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย เน้นเรื่องการพัฒนา ทักษะการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ทักษะภาษาต่างประเทศ ทักษะการจัด กระบวนการเรียนรู้ 4. พัฒนาศึกษานิเทศก์ ให้สามารถปฏิบัติการนิเทศไค้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. พัฒนาบุคลากรกศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรู้เรื่องการใช้ ประโยชนจ์ ากดจิ ิทัลและ ภาษาต่างประเทศทีจ่ าเป็น 3.2 พัฒนำแหล่งเรียนรู้ให้มีบรรยำกำศและสภำพแวดล้อมที่เอ้ือต่อกำรเรียนรู้ มี ความพร้อม ในการให้บริการกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งสารสนเทศสาธารณะที่ง่าย

8 ต่อการเช้าถึง มีบรรยากาศ ท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นคาเฟ่พ้ืนที่การเรียนรู้สาหรับคนทุกช่วงวัย มีสิ่ง อานวยความสะดวก มีบรรยากาศสวยงาม มีชีวิต ที่ดึงดูดความสนใจ และมีความปลอดภัยสาหรับ ผู้ใชบ้ รกิ าร 1. เรง่ ยกระดับ กศน.ตาบลนาร่อง 928 แห่ง (อาเภอละ 1 แห่ง) ให้เปน็ กศน. ตาบล 5 ดี พรีเมยี่ ม ท่ีประกอบดว้ ย ครดู ี สถานทดี่ ี (ตามบริบทของพ้ืนท่ี) กจิ กรรมดี เครือขา่ ยดี และ มีนวตั กรรมการเรยี นรทู้ ดี่ ีมีประโยชน์ 2. จดั ใหม้ ีศูนย์การเรียนรตู้ น้ แบบ กศน. เพ่ือยกระดับการเรยี นรู้ ใน 6 ภมู ภิ าค เป็นพ้ืนที่การเรียนรู้ (Co - Learning Space) ที่ทันสมัยสาหรับทุกคน มีความพร้อมในการให้บริการ ต่าง ๆ อาทิ พ้ืนท่ีสาหรับการทางาน/ การเรียนรู้ พื้นท่ีสาหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเลก็ รวมทั้งทางานร่วมกับห้องสมุดประซาซนในการ ให้บริการในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริการ อนิ เทอร์เน็ต ส่อื มลั ติมเี ดีย เพ่อื รองรับการเรยี นรแู้ บบ Active Learning 3. พัฒนาห้องสมุดประซาซน “เฉลิมราชกุมารี” ให้เป็น Digital Libraryโดย ให้มีบริการหนังสือ ในรูปแบบ e - Book บริการคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมท้ัง Free Wi-fi เพ่ือการสืบค้นขอ้ มูล 3.3 ส่งเสริมการจัดการเรยี นร้ทู ่ีทนั สมยั และมีประสิทธภิ าพ เอ้อื ต่อการเรียนรู้สาหรับ ทุกคน สามารถ เรียนได้ทุกท่ีทุกเวลา มีกิจกรรมที่หลากลาย น่าสนใจ สนองตอบความต้องการของ ชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ของประซาซน รวมทั้งใช้ประประโยชน์จากประซาซนในชมุ ซน ในการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ของคนในชุมซนไปสู้การจัดการความรู้ ของชมุ ซนอยา่ งยง่ั ยืน 1. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีปลูกผิงคุณธรรม สร้างวินัย จิต สาธารณะ ความรบั ผดิ ชอบ ต่อส่วนรวม และการมีจิตอาสา ผ่านกจิ กรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรม ลูกเสือ กศน. กจิ กรรมจติ อาสา ตลอดจน สนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพอ่ื ปลกู ผงิ คุณธรรม จริยธรรม ให้กับบุคลากรในองค์กร 2. จัดให้มหี ลกั สูตรลูกเสอื มคั คเุ ทศก์ โดยใหส้ านักงาน กศน.จงั หวัดทุกแหง่ / กทม. จัดตั้งกองลูกเสือ ที่ลูกเสือมีความพร้อมด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เป็นลูกเสือมัคคุเทศก์ จังหวดั ละ 1 กอง เพ่ือสง่ เสริมลูกเสือจิต อาสาพัฒนาการท่องเทีย่ วในแตล่ ะจงั หวัด 3.4 เสริมสร้ำงควำมร่วมมือกับภำคีเครือข่ำย ประสาน ส่งเสริมความร่วมมือภาคี เครือข่าย ท้ังภาครัฐ เอกซน ประซาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมทั้งส่งเสริมและ สนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมซน เพ่ือสร้างความเช้าใจ และให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริม สนบั สนนุ และจดั การศึกษาและการเรียนรูใ้ ห้กบั ประซาซนอยา่ งมคี ุณภาพ 1. เร่งจัดทาทาเนียบภูมิปัญญาท้องถิ่นในแต่ละตาบล เพ่ือใช้ประโยชน์จาก ภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการสร้างการเรียนรู้จากองค์ความรู้ในตัวบุคคลให้เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญา สรา้ งคุณค่าทางวฒั นธรรมอยา่ ง ยั่งยนื

9 2. สง่ เสริมภูมปิ ัญญาท้องถิน่ สกู่ ารจัดการเรียนร้ชู ุมซน 3. ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อการขยายและพัฒนาการศึกษา นอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยให้เช้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลุ่มผูส้ ูงอายุ กลุ่ม อสม. 3.5 พัฒนำนวัตกรรมทำงกำรศึกษำเพื่อประโยชน์ต่อกำรจัดกำรศึกษำและ กล่มุ เป้ำหมำย 1. พัฒนาการจัดการศึกษาออนไลน์ กศน. ทั้งในรูปแบบของการศึกษาข้ัน พื้นฐาน การพัฒนาทักษะ ชีวิตและทักษะอาชีพ การศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการพัฒนาซ่องทาง การคา้ ออนไลน์ 2. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน การบริหารจัดการ และการ จัดการเรยี นรู้ 3. ส่งเสริมให้มีการใช้การวจิ ัยอย่างงา่ ยเพือ่ สร้างนวัตกรรมใหม่ 3.6 พัฒนำศักยภำพคนด้ำนทักษะและควำมเข้ำใจในกำรใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 1. พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษา เพ่อื พฒั นา รปู แบบการจดั การเรยี นการสอน 2. ส่งเสรมิ การจดั การเรียนรูด้ า้ นเทคโนโลยีดิจิทัล เพ่อื ใหป้ ระซาซนมีทักษะ ความเช้าใจและ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลท่ีสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน รวมท้ังสร้างรายได้ ให้กับตนเองได้ 3.7 พฒั นำทกั ษะภำษำต่ำงประเทศเพ่ือกำรสื่อสำรของประซำซนในรูปแบบต่ำง ๆ อย่ำงเป็นรูปธรรม โดยเน้นทักษะภาษาเพ่ืออาชีพ ทั้งในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเท่ียว รวมท้งั พัฒนาส่อื การเรยี นการสอนเพ่อื ส่งเสริมการใช้ภาษาเพ่ือการสอ่ื สารและการพัฒนาอาชพี 3.8 เตรยี มควำมพรอ้ มกำรเข้ำสสู่ งั คมผู้สูงอำยุทเ่ี หมำะสมและคุณภำพ 1. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้กับประซาซนเพื่อสร้างความตระหนักถึงการ เตรียมพร้อมเช้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) มีความเช้าใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมท้ัง เรยี นรูแ้ ละมีส่วนรว่ มในการดแู ล รบั ผดิ ชอบผสู้ ูงอายใุ นครอบครัวและชุมซน 2. พัฒนาการจัดบริการการศึกษาและการเรียนรู้สาหรับประซาซนในการ เตรียมความพรอ้ ม เชา้ สวู่ ยั สงู อายทุ เ่ี หมาะสมและมีคุณภาพ 3. จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตสาหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด “Active Aging” การศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาทักษะชีวิต ให้สามารถดูแลตนเองท้ัง สขุ ภาพกายและสุขภาพจิต และรู้จกั ใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยี

10 4. สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ เปิด'โอกาส,ไห้มี การเผยแพรภ่ ูมปิ ญั ญา ของผู้สูงอายุ และให้มีสว่ นร่วมในกจิ กรรมด้านตา่ ง ๆ ในชุมซน เซ่น ดา้ นอาชีพ กีฬา ศาสนาและวฒั นธรรม 5. จัดการศึกษาอาชพี เพ่ือรองรบั สังคมผูส้ งู อายุ โดยบรู ณาการความร่วมมือ กบั หนว่ ยงาน ท่เี กี่ยวชอ้ ง ในทกุ ระดับ 3.9 กำรสง่ เสริมวทิ ยำศำสตรเ์ พ่อื กำรศกึ ษำ 1. จัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เซงิ รุก และเน้นให้ความรู้วทิ ยาศาสตร์อย่างงา่ ย กับประซาซนในชมุ ซน ท้ังวทิ ยาศาสตร์ในวิถีชีวติ และวิทยาศาสตรใ์ นชีวติ ประจาวนั 2. พัฒนาสื่อนิทรรศการและรูปแบบการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ให้มี ความทนั สมัย 3.10 สง่ เสริมกำรร้ภู ำษำไทยให้กบั ประซำซนในรูปแบบต่ำง ๆ โดยเฉพาะประซา ซนในเขตพน้ื ท่สี ูง ให้สามารถฟ้ง พูด อา่ น และเขียนภาษาไทย เพอื่ ประโยชน์ในการใช้ชวี ติ ประจาวัน ได้ 4. ยทุ ธศำสตรด์ ้ำนกำรสรำ้ งโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสงั คม 4.1 จัดตั้งศูนย์กำรเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัย ท่ีเป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ สามารถให้บริการ ประชาชนได้ทุกคน ทุกช่วงวัย ท่ีมีกิจกรรมท่ีหลากหลาย ตอบสนองความต้องการ ในการเรียนรู้ในแต่ละวัย และเป็นศูนย์บริการความรู้ ศูนย์การจัดกิจกรรมท่ีครอบคลุมทุกช่วงวัย เพือ่ ให้มีพฒั นาการเรยี นรทู้ เี่ หมาะสมและมีความสุขกับการเรียนรตู้ ามความสนใจ 1. เร่งประสานกับสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่ือจัดทา ฐานข้อมลู โรงเรยี น ทีถ่ ูกยุบรวม หรือคาดวา่ นา่ จะถกู ยบุ รวม 2. ให้สานักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งที่อยู่ในจังหวัดท่ีมีโรงเรียนทถ่ี ูกยบุ รวม ประสานซอใช้ พืน้ ทเ่ี พ่ือจัดตง้ั ศูนยก์ ารเรียนรู้สาหรบั ทุกช่วงวัย กศน. 4.2 สง่ เสริมและสนับสนุนกำรจดั กำรศึกษำและกำรเรียนรู้สำหรบั กลุ่มเป้ำหมำยผู้ พิกำร 1. จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะ อาชีพ และการศึกษา ตามอธั ยาศัย โดยเน้นรปู แบบการศึกษาออนไลน์ 2. ให้สานักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทาความร่วมมือกับศูนย์ การศึกษาพิเศษประจา จังหวัด ในการใช้สถานท่ี วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้านการศึกษา เพ่ือ สนับสนุนการจัดการศึกษาและการ เรยี นรูส้ าหรบั กลุ่มเปา้ หมายผ้พู ิการ 4.3 ยกระดับกำรศึกษำให้กับกลุ่มเป้ำหมำยทหำรกองประจำกำร รวมท้ั ง กลุ่มเป้ำหมำย พิเศษอื่น ๆ อาทิ ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประซากรวัยเรียนที่อยู่นอก ระบบการศึกษา ให้จบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สามารถนาความรู้ที่ได้รับไป พัฒนาตนเองได้อยา่ ง ตอ่ เนื่อง

11 4.4 พัฒนำหลักสูตรกำรจัดกำรศึกษำอำชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมยั เหมาะสมกบั บรบิ ทของพน้ื ท่ี และตอบสนองความต้องการของประซาซนผรู้ บั บริการ 5. ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรสรำ้ งกำรเตบิ โตบนคุณภำพชวี ติ ท่ีเปน็ มติ รต่อส่ิงแวดล้อม 5.1 สง่ เสริมให้มกี ำรใหค้ วำมรูก้ ับประชำซน ในการรบั มือและปรบั ตัวเพ่ือลดความ เสยี หาย จากภัยธรรมซาตแิ ละผลกระทบทเ่ี กยี่ วช้องกบั การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ 5.2 สร้ำงควำมตระหนักถึงควำมสำคญั ของกำรสร้ำงลังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ ให้กับประซาซน เกี่ยวกับการคัดแยกต้ังแต่ด้นทาง การกาจัดขยะ และการนากลับมาใช้ซ้า เพ่ือลด ปริมาณและต้นทุนในการ จัดการขยะของเมือง และสามารถนาขยะกลับมาใช้ประโยซน์ได้โดยง่าย รวมทัง้ การจดั การมลพิษในชุมซน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงำนและสถำนศึกษำใช้พลังงำนทีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ ทรพั ยากรทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม เซ่น รณรงค์เรอื่ งการลดการใช้ถุงพลาสติก 6. ยุทธศำสตร์ดำ้ นกำรปรับสมดลุ และพัฒนำระบบกำรบรหิ ำรจัดกำรภำครฐั 6.1 พัฒนำและปรับระบบวธิ ีกำรปฏบิ ัติรำชกำรใหท้ ันสมัย มีควำมโปร่งใส ปลอด กำรทุจริตและ ประพฤติมิชอบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเซิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์ ความโปร่งใส การประหยดั ไฟฟ้า เป็นตน้ 6.2 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบกำรทำงำนที่เป็นดิจิทัลมำใช้ในกำรบรหิ ำร และพัฒนำงำน สามารถเชื่อมโยงกับระบบฐานขอ้ มูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พรอ้ มทงั้ พฒั นา' โปรแกรมออนไลน์ที่ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่ทาให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างต่อเนื่องกนั ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ และให้ประซาซนกลุ่มเป้าหมายสามารถเช้าถึงบริการได้อย่างทันที ทุกที่ และทุกเวลา 6.3 ส่งเสริมกำรพัฒนำบุคลำกรทุกระดับอย่ำงต่อเนื่อง ให้มีความรู้และทักษะตาม มาตรฐาน ตาแหนง่ ให้ตรงกับสายงาน ความชานาญ และความตอ้ งการของบคุ ลากร กรอบแนวคดิ กำรจัดกำรศึกษำตอ่ เนอ่ื ง

12 จากกรอบแนวคิดการจัดการศึกษาต่อเน่ือง จะเหน็ ว่า การเตรยี มความพร้อมก่อนดาเนินการ จัดกิจกรรมการศึกษาต่อเน่ืองให้แก่ผู้เรียน จะต้องคานึงถึงความต้องการ ความจาเป็น และความ แตกตา่ งของผู้เรียนแต่ละคน สถานศกึ ษาจึงควรต้องศึกษาข้อมลู และดาเนินการตามกระบวนการ โดย ฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ตนเองให้แก่ผู้เรียน เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถค้นหาสภาพปัญหาและความ ต้องการท่ีแท้จริงของตนเอง อันจะนาไปสู่การเลือกเรียนกิจกรรม กศน.ได้อย่างเหมาะสมเป็น ประโยชน์ต่อตนเองมากที่สุด ในการฝึกกระบวนการคิด วิเคราะห์ตนเอง เป็นการบูรณาการ “หลัก ปรัชญาคิดเปน็ ” และ “หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ในกระบวนการเลอื กและการตัดสนิ ใจของผู้เรยี น ซ่ึงสามารถประมวลได้เป็น 2 ด้าน คือ 1. ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ผู้เรียนท่ีมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ สามารถที่จะหาทางช่วย ตนเองเปน็ เบื้องต้น โดยการจัดทาบัญชคี รวั เรือน เพ่อื น าไปสู่การจดั การชวี ติ ด้านการลดรายจ่าย และ การเพม่ิ รายได้ 2. ปัญหาท่ัวไปในชีวิตประจาวัน ผู้เรียนสามารถนาผลจากการวิเคราะห์สู่กิจกรรม การศึกษาทเ่ี หมาะสมกบั ผูเ้ รียนแต่ละคน เปน็ รายบคุ คล ซึ่งสถานศึกษา กศน. จะได้จัดเป็นกจิ กรรมการศึกษาใน 2 รปู แบบ คือ 1. รูปแบบกลุ่มสนใจ เป็นการจัดการศึกษาหลักสูตรที่สถานศึกษาจัดข้ึน เพื่อมุ่ง พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน โดยหลักสูตรมีความยืดหยุ่นด้านเนื้อหา สาระ ระยะเวลาเรียน และสถานท่ีตามความต้องการและความจาเป็นของกลุ่มเป้าหมาย หรือชุมชน หรือนโยบายของทางราชการ 2. รูปแบบชัน้ เรยี นวิชาชีพ เป็นการจดั การศกึ ษาหลักสตู รวิชาชพี ท่สี ถานศึกษาจัดขึ้น เพ่ือมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ และพัฒนาต่อ ยอด อันจะนาไปสู่การพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต แก้ปัญหาของผู้เรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม การพ่งึ พาตนเอง อยา่ งยงั่ ยนื และชมุ ชนเข้มแขง็ ต่อไป แนวทำงกำรจัดกจิ กรรมกำรศกึ ษำต่อเน่ือง การจัดการศึกษาต่อเน่ือง ประกอบไปด้วยกิจกรรม การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนา อาชีพ การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตและการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน ซึ่งสถานศึกษา สามารถเลือกจัดในรปู แบบกลุ่มสนใจ และช้ันเรียนวิชาชพี ได้ตามความเหมาะสมโดยใชห้ ลกั สูตรจาก แหลง่ ต่างๆ ดงั น้ี - หลกั สตู รทีส่ ถานศึกษาจดั ทาข้ึนเอง - หลักสูตรกลางทสี่ านกั งาน กศน. จดั ทาขึ้น - หลกั สตู รทส่ี ถานศึกษาอื่นในสังกัด สานักงาน กศน. จัดทาข้ึน - หลกั สูตรของสถานศึกษาอน่ื ท่ไี ม่สงั กัด สานักงาน กศน. - หลักสตู รของหน่วยงานอื่น โดยไดร้ ับความเห็นชอบจากหนว่ ยงานน้ัน ๆ

13 ทั้งน้ี หลักสูตรต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา และ ได้รบั อนุมัติจากผู้บริหารสถานศึกษาซึง่ มแี นวทางการจดั กจิ กรรมการจัดการศึกษาต่อเนื่อง ดังน้ี 1. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ เป็นการจัดการศึกษาท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมี ความรู้ เจตคติ และมีทกั ษะในอาชีพ ตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ประกอบดว้ ย ทกั ษะเกยี่ วกับการ ปฏบิ ตั ิงาน การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศพื้นฐานการคิดแก้ปัญหา การสอื่ สาร และทกั ษะเก่ียวกับความ ปลอดภัยในอาชีพ มีคุณลักษณะที่สาคัญในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริตความคิดเชิงบวก ความมุ่งมั่นใน การทางาน การทางานรว่ มกับผู้อ่ืน การรักษาสงิ่ แวดล้อม และการคานึงถงึ ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ส่วนตน การจัดกระบวนการเรียนรู้เน้นการปฏิบัติจริง และการเรียนรู้จากวิทยากรหรือผู้รู้ท่ีประกอบ อาชพี นน้ั ๆ การจดั การศกึ ษาเพือ่ พฒั นาอาชีพ แบง่ เปน็ 2 ระดบั คือ - ระดับการพัฒนาอาชพี เพอื่ การทามาหากนิ - ระดบั การพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิม แนวทำงกำรจดั กจิ กรรม 1. ใหผ้ ู้เรยี นวิเคราะห์ตนเอง ตามความสนใจเรยี นในอาชพี นั้น ๆ 2. สถานศกึ ษาจัดหา หรอื พฒั นาหลักสูตรทส่ี อดคลอ้ งกับความต้องการของผู้เรียน 3. ผู้สอน วทิ ยากร วิเคราะหผ์ ้เู รียนเกย่ี วกับความรู้พนื้ ฐาน เปา้ หมายทผี่ ู้เรยี นตอ้ งการ 4. ดาเนินการจัดกระบวนการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู ร 5. ประเมินผลการเรยี น 6. ติดตามผลหลังจากจบหลกั สตู ร 2. กำรจัดกำรศกึ ษำเพ่ือพัฒนำทักษะชีวิต เป็นกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ให้ควำมสำคัญกับกำร พัฒนำคนทุกช่วงวัย ให้มีความรู้ เจตคติ และทักษะท่ีจาเป็นสาหรับการดารงชีวิตในสังคมปัจจุบัน สามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อม สาหรบั การปรบั ตัวใหท้ นั ต่อการเปลยี่ นแปลงของข่าวสารข้อมลู และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในอนาคต โดย เน้นการฝึกปฏบิ ตั ใิ หผ้ เู้ รยี นเกดิ ทักษะชีวิต 10 ประการ คือ 1. ทักษะการตัดสินใจ หมายถึง ความสามารถในการตัดสินใจเก่ียวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในชวี ติ ได้อย่างรอบคอบ 2. ทักษะการแก้ปัญหา หมายถึง ความสามารถในการจัดการกับปัญหาท่ีเกิดขึ้นใน ชวี ิตได้อยา่ งมีระบบไมเ่ กดิ ความเครียด 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ หมายถึง ความสามารถในการวิเคราะห์ แยกแยะข้อมูล ขา่ วสาร ปัญหาและสถานการณต์ ่าง ๆ รอบตวั ได้ 4. ทกั ษะการคดิ สร้างสรรคห์ มายถงึ ความสามารถในการใชค้ วามคดิ อยา่ งสร้างสรรค์ ช่วยในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหา เพื่อค้นหาทางเลือกต่าง ๆ และผลท่ีจะเกิดข้ึนในแต่ละทางเลือก

14 และสามารถนาประสบการณ์มาปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างมีพลังในการต่อสู้ และอย่างเหมาะสม กบั วยั 5. ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ หมายถึง ความสามารถในการใช้คาพูด และ ท่าทางเพอื่ แสดงออกถงึ ความคิดและความรู้สึกของตนเองอยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม เชน่ การแสดงความ คิดเห็น ความต้องการ ความชื่นชมการขอร้อง การเจรจาต่อรอง การตักเตือน การช่วยเหลือ การ ปฏเิ สธ ฯลฯ 6. ทักษะการสร้างสัมพันธภาพ หมายถึง ความสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหวา่ งบคุ คล และรกั ษาความสัมพันธน์ นั้ ไว้ได้ 7. ทักษะการตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเอง หมายถึง การรู้จักและเข้าใจตนเอง เช่น ร้ขู ้อดี ข้อเสีย ของตนเองรคู้ วามต้องการ และส่ิงทีไ่ ม่ต้องการของตนเอง ซงึ่ จะชว่ ยให้รู้ตัวเองเวลา เผชญิ กับความเครยี ด หรือสถานการณต์ ่าง ๆ 8. ทักษะความเห็นใจผู้อ่ืน หมายถึง มีความเข้าใจความเหมือนหรือความแตกต่าง ระหว่างบุคคล ในด้านความสามารถ เพศ วัย ระดับการศึกษา ศาสนา ความเชื่อ สีผิว อาชีพ ฯลฯ เขา้ ใจความรู้สึก และยอมรับบุคคลอ่นื ทต่ี ่างจากตนเอง 9. ทกั ษะการจัดการกับอารมณต์ ่าง ๆ หมายถงึ การรับรูอ้ ารมณ์ของตนเองและผู้อื่น รู้ว่าอารมณ์มีผลต่อการแสดงพฤติกรรมอย่างไร รู้วิธีจัดการกับอารมณ์โกรธหรือโศกเศร้าท่ีส่งผลทาง ลบตอ่ รา่ งกาย และจิตใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 10. ทักษะการจดั การกบั ความเครียด หมายถงึ การรับรู้ถงึ สาเหตุของความเครยี ด รู้ วิธีผ่อนคลายความเครียดและแนวทางในการควบคุมระดับความเครียดแนวคิดในเร่ืองการจัด การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต ให้จัดกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถและ เจตคติเก่ียวกับเน้ือหาใน 7 เร่ือง โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้นาทักษะชีวิต 1 – 10 ทักษะ มา บรู ณาการให้ผเู้ รยี นมีเจตคติและมีทักษะชีวิตเพื่อนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ทง้ั นี้ เม่อื จัดครบทกุ เน้ือหา แล้วผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาทักษะชีวิต ครบทั้ง 10 ทักษะ ส่วนเนื้อหาท่ีสถานศึกษานาไปจัด กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชวี ติ เน้นใน 7 เรื่อง คือ 1. สขุ ภาพกาย-จิต 2. ยาเสพตดิ 3. เพศศกึ ษา 4. คุณธรรมและคา่ นยิ มท่พี งึ ประสงค์ 5. ความปลอดภัยในชีวติ และทรพั ยส์ ิน 6. ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม 7. ประชาธิปไตยในวถิ ชี ีวิต

15 โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้อง เห็นความสาคัญที่จะต้องเรียนรู้เพือ่ นาไปใชป้ ระโยชนห์ รอื ปรับเปล่ียนพฤติกรรม มีทศั นคติ คา่ นิยมที่ถูกตอ้ ง ไดฝ้ กึ ทักษะชวี ติ ท่ีจาเป็นเพื่อ ป้องกันแก้ไขปัญหา ทเ่ี กดิ ขนึ้ ตวั อย่าง เช่น - ผู้สูงอายุในชุมชน มีปัญหาป่วยเป็นโรคเบาหวาน/หัวใจ สามารถรวมกลุ่มจัด กิจกรรมทักษะชีวิต โดยฝึกทักษะคิดวิเคราะห์หาสาเหตุ ผลกระทบของโรคต่อการดาเนินชีวิต คิด แนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารฝึกทักษะการคิดสร้างสรรค์เมนูอาหารต้านโรค ฝึก คิดวิเคราะห์ว่าตนเองเหมาะกับการออกกาลังกายแบบไหนเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง และฝึกท่าออกก า ลังกายทีเ่ หมาะสมกบั วยั เป็นตน้ - ผู้สูงอายุในชุมชน ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ท้อแท้ ขาดกาลังใจ รู้สึกว่าตนเองไม่มี คุณค่า สามารถจัดกิจกรรมทักษะชีวิต โดยฝึกทักษะการตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเอง เช่น ให้ เลา่ ถึงความหลงั ความภมู ใิ จ ความสาเรจ็ ในการเล้ยี งลูก เพ่อื ให้เกิดความภาคภูมใิ จ คน้ หาความสนใจ ในงานอดิเรกเพ่ือแก้เหงา หรือทาอาชีพได้ หากมีปัญหาเร่ืองการพูดคุยส่ือสารกับคนในครอบครัว ให้ ฝกึ ทกั ษะการพูดคุยเพ่ือสร้างความเขา้ ใจระหว่างกนั หากมีปญั หาความเครยี ด ใหฝ้ ึกทักษะการจัดการ ความเครยี ด โดยหาสาเหตุของความเครยี ดและวธิ กี ารผ่อนคลายความเครยี ด เป็นต้น - กลุ่มเป้าหมายในชุมชน มีปัญหาความขัดแย้ง ทาผิดกฎจารจร ไม่รู้จักสิทธิหน้าท่ี ของพลเมืองดีตัดไม้ทาลายป่า ท้ิงขยะจนล้นเมือง ติดยาเสพติด ท้องก่อนวัยอันควร ทุจริตคอรับช่ัน ถูกทาร้าย ขโมยทรัพย์สิน หลงเชื่องมงายในเร่ืองท่ีไม่ถูกต้อง ฯลฯ สามารถจัดกิจกรรมทักษะชีวติ โดย ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์จากข่าวหนังสือพิมพ์หรือสถานการณ์จริงท่ีเป็นปัญหาในชุมชน เพ่ือค้นหา สาเหตุ ผลเสียท่ีเกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน ฝึกทักษะการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยคิดหาทางเลือกที่ปฏิบัติได้ ฝกึ ทักษะการสอื่ สารพูดคยุ เพอ่ื สร้างความเขา้ ใจระหวา่ งกัน เป็นต้น แนวทำงกำรจัดกิจกรรม 1. วิเคราะห์สภาพปัญหา ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ชุมชน และนโยบายของแต่ละ ระดบั 2. การจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต เป็นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ เน้นการชวนคิด ชวนคุยเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ให้ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ การสร้างเสริมเจตคติที่ดี และการฝกึ ทักษะชีวติ ท่ีจาเปน็ เพ่ือแกป้ ญั หาท่ีเกดิ ขนึ้ ในชีวิต สามารถปรับตวั อยรู่ ่วมกับผูอ้ ่ืนได้อย่างมี ความสขุ 3. สื่อที่ใช้ในการจัดกิจกรรม อาจใช้ข่าวหนังสือพิมพ์ บทความ กระทู้จากเว็บไซต์ ละคร รวมถึงสื่อบุคคลที่เป็นประเด็นปัญหาเร่งด่วนในปัจจุบัน เพื่อเรียนรู้เร่ืองชีวิตในลักษณะ “บทเรียน ชวี ติ ”ท่ีจะนามาพูดคุยเพอ่ื ร่วมกันคิดรว่ มกนั ระมัดระวงั ป้องกนั และหาทางแกไ้ ข

16 4. กลุม่ เป้าหมายที่เปน็ จดุ เน้น ไดแ้ ก่ - ผ้สู ูงอายุ - เยาวชนกลมุ่ เฉพาะ เช่น คณุ แมว่ ัยใส กลุ่มเส่ยี งยาเสพตดิ - กลมุ่ อน่ื ๆ 3. การจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน เป็นการจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่ม เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน สร้างกระบวนการจิตสาธารณะ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนา สังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวปฏิบัติตลอดจนการ เรียนรูก้ ารใช้เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม โดยเนน้ การจดั การเรยี นรผู้ า่ นกจิ กรรม ดงั น้ี 3.1 การส่งเสรมิ การดาเนนิ ชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ได้แก่ - หมู่บ้านเรียนร้ตู ามรอยพระยคุ ลบาท - การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และเกษตรทฤษฎใี หม่ - การทาบัญชีครัวเรอื น - วิสาหกิจชมุ ชน/สหกรณ์ แนวทางการจัดกิจกรรม หมู่บา้ นเรยี นรตู้ ามรอยพระยคุ ลบาท ประกอบด้วย 1. สารวจชุมชน หมู่บ้าน ตาบลท่ีมีโครงการตามพระราชดาริ หรือพ้ืนท่ีทรงงาน ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั 2. ถอดองคค์ วามร้จู ากสงิ่ ท่ีพระองค์ทรงงาน ร่วมกบั ประชาชนและภาคเี ครือข่าย ในพ้นื ท่ี ซ่งึ ควรมีหวั ข้อหลักในการถอดองคค์ วามรู้ ดังนี้ - หลกั การ วธิ กี ารในการแก้ปัญหา - ผลสาเร็จจากโครงการ - แนวทางในการนาไปประยกุ ต์ใช้ 3. เผยแพร่และนาไปสู่การปฏิบัติในชุมชน โดยการวิเคราะห์สภาพปัญหาความ ต้องการของกลุม่ เป้าหมายและชมุ ชน - จดั ตงั้ หมบู่ ้าน/ชมุ ชนเรียนรตู้ ามรอยพระยุคลบาท - กระบวนการดาเนินการควรครอบคลุมการเรียนรู้ด้านทฤษฎี การฝึก ปฏิบัติ และการสร้างเสริมเจตคติที่ดี ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข) - ประสานความรว่ มมอื การดาเนินงานกบั วิสาหกจิ ชุมชน/สหกรณ์ 3.2 การเรียนรู้การใช้เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม เป็นการจัดกระบวนการเรยี นรูเ้ พ่ือเน้น การแกป้ ัญหาการดารงชวี ติ การประกอบอาชีพ ส่งิ แวดลอ้ ม และวิกฤติพลังงาน โดยเน้นการประหยัด พลังงาน การใช้พลังงานทดแทนและการใช้เครื่องทุ่นแรง โดยให้ผู้เรียนนา องค์ความรู้จากภูมิปัญญา จากการศึกษาค้นคว้านวัตกรรมที่มีอยู่ หรืออาจประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมา เพ่ือปรับใช้ในครัวเรือน เช่น การนาขยะหรอื มลู สัตว์ มาผลติ เปน็ กา๊ ชชวี ภาพ การถนอมอาหารโดยใชพ้ ลงั งานแสงอาทิตย์ เป็นตน้

17 แนวทำงกำรจัดกิจกรรม 1. สารวจภูมิปัญญา นวัตกรรม เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม และสอดคล้องกับแนวโน้ม การพัฒนาของพ้ืนที่ เช่น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ด้านพลังงานสะอาด ด้านการอนุรักษ์ สงิ่ แวดล้อม ดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. เลือกพ้นื ทแ่ี ละกลมุ่ เป้าหมายท่ีเหมาะสมในการดาเนนิ งาน 3. ประสานความร่วมมือกับภูมิปัญญา ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการจัด กิจกรรม 4. จัดทาหลักสตู รและดาเนินการจดั กิจกรรมตามรปู แบบทเี่ หมาะสม จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของ การฝึกอบรม การประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ การจัดกิจกรรม จิตอาสา การสร้าง ชุมชนนกั ปฏิบัติ และรปู แบบอื่นๆ ทเ่ี หมาะสมกับกลุม่ เปา้ หมาย และบริบทของชุมชน แตล่ ะพนื้ ที่ โดย จัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่มเพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน สร้างกระบวนการจิตสาธารณะ การ สร้างจิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย ความเป็นพลเมืองดี การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม การ บาเพ็ญ ประโยชน์ในชุมชน การบริหารจัดการน้าการรับมือกับสาธารณภัย การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ชว่ ยเหลือซงึ่ กันและกนั ในการพัฒนาสงั คมและ 3. กรอบ/แนวทำงกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนร้ตู ำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพียง ผ่าน กระบวนการเรยี นรตู้ ลอดชีวิตในรปู แบบต่างๆ ให้กบั ประชาชน เพ่ือเสรมิ สรา้ งภมู คิ ุ้มกนั สามารถยืน หยดั อยไู่ ด้อย่างมนั่ คงั่ และมีการบริหารจัดการความเส่ยี งอย่างเหมาะสม ตามทิศทางการพฒั นา ประเทศสู่ความสมดลุ และยัง่ ยืน 4. เอกสำรงำนท่ีเกี่ยวข้อง หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดารัส ชี้แนะแนวทาง การดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิด วิกฤตกิ ารณท์ างเศรษฐกจิ และเมอ่ื ภายหลงั ได้ทรงเน้นย้า แนวทางการแกไ้ ขเพ่อื ใหร้ อดพ้นและสามารถ ดารงอยไู่ ดอ้ ย่างมนั่ คงและยัง่ ยืนภายใต้กระแสโลกาภิวตั น์และความเปลย่ี นแปลงมีหลักพจิ ารณา ดังนี้ กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาท่ีชี้แนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางท่ีควรจะเป็น โดยมีพ้ืนฐานมาจากวิถีชีวิตด้ังเดิมของสังคมไทย สามารถนามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการ มองโลกเชิงระบบที่มีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติ เพ่ือความ มนั่ คงและความยง่ั ยืนของการพัฒนา คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏบิ ตั ิบนทางสายกลาง และการพัฒนาอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน คานยิ าม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คณุ ลกั ษณะพร้อม ๆ กนั ดงั นี้

18 1.ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกิดไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียน ตนเองและผ้อู ่ืน เช่น การผลิตและการบริโภคทอ่ี ยูใ่ นระดบั พอประมาณ 2.ความมเี หตผุ ล หมายถงึ การตัดสินใจเกยี่ วกับระดับของความพอเพียงน้ันจะต้องเป็นไปอย่าง มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคานึงถึงผลท่ีคาดว่าจะเกิดข้ึนจากการกระทา น้ัน ๆ อย่างรอบคอบ 3.การมภี มู คิ ุม้ กนั ท่ดี ีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พรอ้ มรับผลกระทบ และการเปลยี่ นแปลง ด้านต่าง ๆ ท่ีจะเกิดข้ึนโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคต ทัง้ ใกลแ้ ละไกล เงือ่ นไข การตัดสนิ ใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยใู่ นระดับพอเพียงน้ัน ต้องอาศัย ท้งั ความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคอื 1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่าง ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เช่ือมโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผนและความ ระมัดระวงั ในข้ันปฏิบัติ 2. เงื่อนไขความธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความ ชือ่ สัตยส์ ุจรติ และมคี วามอดทน มีความพากเพียร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชีวิต แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การ พัฒนาที่สมดุลและย่ังยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ให้บูรณาการเข้ากับหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง เป้าหมายสาคัญของการจัดการศกึ ษาตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง คอื การปลูกฝังให้เดก็ และเยาวชนรู้จักการใช้ชีวิตท่ีพอเพียง เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆ ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง เอ้ือเฟื้อ เผ่ือแผ่และแบ่งปัน มีจิตสานึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม ค่านิยม เอกลักษณ์ และ ความเป็นไทย กำรจดั กำรศึกษำตำมหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ดาเนินการได้ใน 2 สว่ น 1. การบริหารสถานศกึ ษาในดา้ นตา่ งๆ 2. การจัดการเรยี นร้ขู องผเู้ รียน ซ่ึงประกอบด้วย - การสอดแทรกสาระเศรษฐกิจพอเพียงในหลักสตู รและสาระเรียนรใู้ นหอ้ งเรียน - การประยุกต์หลักเศรษฐกจิ พอเพียงในการจดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นนอกหอ้ งเรยี น การบรรลุเป้าหมายดังกล่าวข้างตน้ ครูเปน็ บคุ ลากรที่สาคัญในการถ่ายทอดความรู้ และปลกู ฝงั หลกั คิดต่างๆ ให้แก่เด็ก โดยครูตอ้ งเขา้ ใจอย่างถูกตอ้ ง สามารถวิเคราะหค์ วามพอเพียง ไม่พอเพียงของ ตนเองและครอบครัวไดแ้ ละทาตัวเปน็ แบบอย่างที่ดใี นการดาเนินชีวติ แบบพอเพียง

19 เศรษฐกิจพอเพียงและกำรประยกุ ตใ์ ชด้ ้ำนกำรศกึ ษำ หลกั แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือการพัฒนาท่ีต้ังอยู่บนพ้ืนฐานของทางสาย กลาง และความไม่ประมาท โดยคานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสร้างภูมคิ มุ้ กนั ที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทา ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มหี ลักพจิ ารณาอยู่ 5 สว่ น ดงั นี้ กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ช้ีแนะแนวทางการดารงอยู่ และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพ้ืนฐานมาจากวิถีชีวิตด้ังเดิมของสังคมไทย สามารถนามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการ มองโลกเชงิ ระบบทมี่ ีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชิงระบบที่มีการเปล่ียนแปลง อยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต เพื่อความมั่นคง และความย่ังยืนของการพัฒนา คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการ ปฏบิ ตั บิ นทางสายกลาง และการพฒั นาอย่างเป็นขั้นตอน คานิยาม ความพอเพยี งจะต้องประกอบด้วย 3 คณุ ลักษณะ พรอ้ ม ๆ กนั ดงั นี้ ควำมพอประมำณ หมายถึง ความพอดที ่ีไม่น้อยเกินไป และไม่มากเกนิ ไปโดยไม่เบียดเบียน ตนเอง และผอู้ ื่น เช่นการผลติ และการบริโภคท่ีอยู่ในระดบั พอประมาณ ควำมมีเหตผุ ล หมายถึง การตดั สินใจเกย่ี วกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่าง มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เก่ียวข้องตลอดจนคานงึ ถึงผลท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทา นน้ั ๆ อย่างรอบคอบ กำรมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลง ด้าน ต่าง ๆ ท่ีจะเกิดข้ึนโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน อนาคตทั้งใกล้ และไกล เงื่อนไข การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงน้ัน ต้องอาศัยทั้ง ความรู้ และคุณธรรมเปน็ พื้นฐาน กล่าวคือ เง่ือนไขควำมรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่าง รอบด้าน ความรอบคอบที่จะนาความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขน้ั ปฏิบตั ิ เง่ือนไขคุณธรรม ท่ีจะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มี ความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชีวติ แนวทางปฏบิ ตั ิ / ผลทีค่ าดวา่ จะได้รบั จากการนาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คอื การ พัฒนาที่สมดลุ และยัง่ ยนื พรอ้ มรบั ต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทงั้ ด้านเศรษฐกจิ สังคม สงิ่ แวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยี

บทที่ 3 วิธกี ำรดำเนินงำน กศน.ตาบลหนองตาลึง ไดเ้ ลง็ เห็นความสาคัญจึงได้จดั ทาโครงการอบรมสง่ เสริมทกั ษะตาม แนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักสูตรเกษตรปลอดภัย ก้าวไกลสู่อินทรีย์ ตามความเหมาะสมของ พื้นที่และเห็นชอ่ งทางหรอื การพฒั นาอาชีพ โดยมีข้นั ตอนดังน้ี 1.ประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.อาเภอพานทอง 2.จดั ตั้งคณะทางาน/คณะอนุกรรมการและคณะทางานเพ่ือดาเนินงาน 3.ประสานงาน/ประชาสมั พนั ธแ์ ละเปิดรับสมัคร 4.ดาเนินงานตามแผน 5.วัดผล/ประเมนิ ผล/สรปุ ผลและรายงาน 1. ประชุมบคุ ลำกรกรรมกำร กศน.อำเภอพำนทอง กศน.ตาบลอา่ งศลิ า ไดว้ างแผนประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.ตาบลหนองตาลึง เพื่อหา แนวทางในการดาเนนิ งานและกาหนดวตั ถุประสงค์ร่วมกัน 2. จัดตงั้ คณะทำงำน จดั ทาคาสัง่ แต่งตงั้ คณะทางานโครงการ เพ่ือมอบหมอบหมายหนา้ ที่ในการทางานให้ ชดั เจน เช่น 2.1 คณะกรรมการทปี่ รึกษา/อานวยการ มีหน้าที่อานวยความสะดวก และให้ คาปรึกษาแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้น 2.2 คณะกรรมการฝ่ายจัดสถานที่ มหี น้าที่ จัดโต๊ะ เก้าอ้ี เวทกี ารดาเนินงานให้ เรยี บร้อย รวมท้งั จัดหาเคร่ืองเสียง อานวยความสะดวก ตลอดการจดั กิจกรรม 2.3 คณะกรรมการฝ่ายบันทึกภาพและประชาสัมพันธ์ มีหน้าทบ่ี นั ทกึ ภาพกจิ กรรม ตลอดโครงการ และประชาสัมพันธก์ ิจกรรมใหส้ าธารณชนไดท้ ราบ 2.4 คณะกรรมการฝา่ ยรับลงทะเบยี นและประเมนิ ผลหนา้ ท่ีจัดทาหลักฐานการ ลงทะเบยี นผูเ้ ขา้ รว่ ม โครงการ และรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดาเนินการ 3. ประสำนงำนกบั ผูเ้ รยี น/ประชำสมั พนั ธ์ ประสานงานกบั ผู้เรียน วิทยากร และคณะครู เช่น ประสานเรอ่ื งสถานท่ีใชท้ ากิจกรรม รปู แบบการจดั กจิ กรรมโครงการ วัน เวลา สถานที่ รายละเอยี ดการเข้าร่วมกจิ กรรม พร้อมท้ัง ประชาสัมพนั ธก์ ารจดั กิจกรรม

21 4. ดำเนินกำรตำมแผนงำนโครงกำร โครงการอบรมส่งเสรมิ ทกั ษะตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักสูตรเกษตรปลอดภัย ก้าวไกลสู่อินทรีย์ วนั ที่ 24 มิถุนายน 2564 ณ ศาลาประชาคม หมู่ 5 ต.หนองตาลึง อาเภอพานทอง จงั หวัดชลบรุ ี มผี ู้เขา้ รว่ มโครงการ จานวน 15 คน 5. สรุปผลและรำยงำน โครงการอบรมส่งเสรมิ ทักษะตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักสูตรเกษตรปลอดภัย ก้าวไกลสู่อินทรีย์ วนั ที่ 24 มถิ ุนายน 2564 ณ ศาลาประชาคม หมู่ 5 ต.หนองตาลงึ อาเภอพานทอง จงั หวัดชลบุรี มีผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ จานวน 15 คน จะนาแนวทางไปใช้ข้อมูลพจิ ารณารูปแบบการ จดั กิจกรรมต่างๆ เพ่ือให้ตอบสนองความต้องการของผ้เู ขา้ ร่วมกจิ กรรมความรูค้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งการ เบิกจา่ ยเงินงบประมาณ กศน.ตาบลอา่ งศลิ า ได้ดาเนนิ การตามข้นั ตอนและไดร้ วบรวมข้อมลู จากแบบสารวจสถติ ิที่ ใช้ในการวเิ คราะห์ คือโดยกาหนดค่าลาดับความสาคัญของการประเมนิ ผลออกเปน็ 5 ระดับ ดังน้ี มากที่สดุ ใหค้ ะแนน 5 มาก ใหค้ ะแนน 4 ปานกลาง ใหค้ ะแนน 3 น้อย ให้คะแนน 2 น้อยท่ีสดุ ใหค้ ะแนน 1 ในการแปลผล ผ้จู ดั ทาได้ใช้เกณฑก์ ารพิจารณาจากคะแนนเฉลีย่ ตามแนวคดิ ของ บุญชม ศรสี ะอาด และบญุ สง่ นิวแกว้ (2535, หน้า 22-25) 4.51-5.00 หมายความว่า ดมี าก 3.51-4.50 หมายความว่า ดี 2.51-3.50 หมายความว่า ปานกลาง 1.51-2.50 หมายความวา่ นอ้ ย 1.00-1.50 หมายความว่า ตอ้ งปรบั ปรงุ

บทท่ี 4 ผลกำรดำเนินงำนและกำรวิเครำะหข์ อ้ มูล โครงการอบรมส่งเสรมิ ทกั ษะตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักสูตรเกษตรปลอดภัย ก้าวไกลสู่อินทรีย์ วันที่ 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ณ กศน.ตาบลหนองตาลึง ต.หนองตาลึง อาเภอเมือง พานทอง จังหวัดชลบุรี มผี ูเ้ ข้ารว่ มโครงการ จานวน 15 คน ซึง่ ไดส้ รุปผลจากแบบสอบถามและ นาเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมูล จากการกาหนดขนาดของกลมุ่ ตัวอยา่ งโดยใช้ตารางซ่ึงได้สรปุ ผลจาก แบบสอบถามและนาเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู จากผู้เรยี น จานวน 15 ชดุ ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผตู้ อบแบบถามของผเู้ ข้าร่วมโครงการเศรษฐกิจพอเพียงรู้เรื่อง พืชผักสวนครัว หลักสูตรการปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหาร วันท่ี 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ผ้เู ข้าร่วมกิจกรรมท่ีตอบแบบสอบถามได้นามาจาแนกตามเพศ อายุ และอาชพี ผจู้ ัดทาได้ นาเสนอจาแนกตามข้อมลู ดังกล่าว ดังปรากฏตามตารางที่ 1 ดงั ตอ่ ไปนี้ ตำรำงท่ี 1 แสดงคำ่ ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมเพศ เพศ ชาย หญิง ความคิดเห็น จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ โครงการอบรมส่งเสริมทกั ษะตามแนวปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1 10.00 14 90.00 จากตารางท่ี 1 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการเศรษฐกิจพอเพยี งรู้ เร่ืองพืชผกั สวนครวั เปน็ ชาย 1 คน ร้อยละ 10 เป็นหญิง 14 ร้อยละ 90

23 ตำรำงท่ี 2 แสดงคำ่ รอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมอำยุ อายุ 15- 39 ปี 40 - 59 ปี 60 ปี ขึ้นไป ความคิดเห็น จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมโครงการอบรมส่งเสรมิ ทักษะ ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 1 6.66 6 40.00 8 53.34 จากตารางที่ 2 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเศรษฐกิจ พอเพยี งรเู้ รื่องพืชผักสวนครวั ในชว่ งอายุ 15 -39 ปี มีจานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.66 ช่วงอายุ 40-59 ปี จานวน 40.00 และชว่ งอายุ 60 ปีขึ้นไป มีจานวนสูงสุด 8 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 53.34 ตำรำงท่ี 3 แสดงค่ำรอ้ ยละของผูต้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมอำชพี ประเภท รบั จา้ ง คา้ ขาย แมบ่ ้าน เกษตรกรรม อนื่ ๆ(วา่ งงาน) ความคิดเห็น จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ ผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรม โครงการอบรม 7 46.66 2 13.33 5 13.33 1 6.66 - - ส่งเสริมทักษะตาม แนวปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ตอนท่ี 2 ขอ้ มลู เกยี่ วกับควำมคดิ เห็นของผเู้ ข้ำรว่ ม ความคดิ เหน็ ของผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมทา อาชพี รับจ้าง จานวน 7 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 46.66 อาชีพคา้ ขาย จานวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 13.33 อาชพี แมบ่ า้ นจานวน 5 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 13.33 และอาชีพเกษตรกรรม จานวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ย ละ 6.66 จากแบบสอบถามท้ังหมดทม่ี ีต่อ ดังปรากฏในตารางที่ 3

24 ตำรำงท่ี 4 ผลการประเมินโครงการอบรมส่งเสรมิ ทักษะตามแนวปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง เนือ้ หาโครงการอบรมสง่ เสริมทกั ษะตามแนวปรัชญา X̄ N = 15 เศรษฐกจิ พอเพียง S.D. อนั ดับท่ี ระดบั ผลการประเมนิ 3.88 ควำมพึงพอใจดำ้ นเน้อื หำ 4.13 0.83 3 ดี 3.75 0.83 3 ดี 1.เน้อื หาตรงตามความตอ้ งการ 4.00 1.04 1 ดี 2.เนื้อหาเพียงพอต่อความตอ้ งการ 0.93 2 ดี 3.เนอ้ื หาปัจจุบันทนั สมยั 3.75 4. เนื้อหามปี ระโยชน์ต่อการนาไปใชใ้ นการพฒั นา 4.00 0.89 2 ดี คุณภาพชีวติ 3.88 0.76 5 ดี ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำรจดั กจิ กรรม 4.13 0.99 1 ดี 5.การเตรยี มความพร้อมก่อนจดั กจิ กรรม 4.13 0.83 3 ดี 6. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ 0.83 3 ดี 7. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา 4.00 8. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย 4.00 0.76 3 ดี 9. วธิ ีการวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับการอบรม 3.75 0.93 2 ดี ควำมพงึ พอใจต่อวทิ ยำกร 1.04 1 ดี 10.วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในเรือ่ งที่ถ่ายทอด 11.วทิ ยากรมีเทคนคิ การถา่ ยทอดใชส้ อื่ เหมาะสม 12.วทิ ยากรเปดิ โอกาสใหม้ สี ว่ นร่วมและซักถาม

25 เนอื้ หาโครงการอบรมสง่ เสริมทักษะตามแนวปรชั ญา X̄ N = 15 เศรษฐกิจพอเพยี ง S.D. อันดับที่ ระดับผลการประเมิน 4.13 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก 4.13 0.83 3 ดี 13. สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณ์และสง่ิ อานวยความสะดวก 0.83 3 ดี 14. การส่ือสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อใหเ้ กดิ การ 3.88 4.00 0.99 1 ดี เหมาะสม 3.97 0.93 2 ดี 15. การบริการ การชว่ ยเหลือและการแกป้ ัญหา 16. ความพึงพอใจในภาพรวมของผรู้ ับการอบรม ค่าเฉลย่ี จากตาราง 4 พบว่า 1.1 ผู้ตอบแบบสอบถามของโครงการอบรมส่งเสริมทักษะตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ตาบลหนองตาลึงจานวนท้ังหมด 15 คน เป็นชาย 1 คน ร้อยละ 10 เป็นหญิง 14 ร้อยละ 90 ซ่ึงแบบเป็นช่วงอายุ 15 -39 ปี มีจานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 6.66 ช่วงอายุ 40-59 ปี จานวน 40.00 และชว่ งอายุ 60 ปีขึ้นไป มีจานวนสงู สดุ 8 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 53.34ตามลาดับ 1.2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เข้ารับการอบรมใน มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับ ดี (x̄= 3.97. ) เมอื่ วเิ คราะหเ์ ปน็ รายขอ้ พบว่า ด้านความพงึ พอใจดา้ นเน้ือหา ลาดับท่ี 1 เน้อื หาปัจจุบันทนั สมยั (x=̄ 3.75 ) ลาดบั ที่ 2 เนอ้ื หามปี ระโยชนต์ ่อการนาไปใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ (x=̄ 4.00) ลาดบั ท่ี 3 เน้ือหาเพียงพอตอ่ ความตอ้ งการ (x̄=4.13) ลาดับที่ 4 เนอ้ื หาตรงตามความตอ้ งการ (x=̄ 3.88) ดา้ นความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรม ลาดับที่ 1 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา (x=̄ 3.88) ลาดบั ท่ี 2 การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นจดั กิจกรรม (x=̄ 3.75 ) ลาดบั ท่ี 3 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกล่มุ เปา้ หมาย (x̄=4.13) วธิ กี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกบั การอบรม (x̄=4.13) ลาดับที่ 5 การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ (x̄=.4.00)

26 ดา้ นความพึงพอใจต่อวทิ ยากร ลาดบั ที่ 1 วทิ ยากรเปดิ โอกาสใหม้ ีสว่ นรว่ มและซกั ถาม (x̄= 3.75 ) ลาดับที่ 2 วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใชส้ ื่อเหมาะสม (x=̄ 4.00 ) ลาดับท่ี 3 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในเรือ่ งทถ่ี ่ายทอด (x̄=4.00 ) ด้านความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก ลาดบั ท่ี 1 การบรกิ าร การช่วยเหลอื และการแกป้ ญั หา (x=̄ 3.88) ลาดบั ท่ี 2 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ บั การอบรม (x=̄ 4.00) ลาดบั ที่ 3 สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และสง่ิ อานวยความสะดวก (x=̄ 4.13) ลาดับที่ 4 การสอื่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพื่อให้เกดิ การเหมาะสม (x̄=4.13) โดยเฉล่ียแล้วผู้เข้ารับการอบรมในโครงการเศรษฐกิจพอเพียงรู้เรื่องพืชผักสวนครัว ตาบลหนองตาลึง อยู่ในระดับ ดี (X̄ = 3.97)

บทที่ 5 สรุป อภปิ รำยผล และขอ้ เสนอแนะ โครงการเศรษฐกจิ พอเพียงรูเ้ รื่องพชื ผักสวนครวั ตาบลหนองตาลงึ ซง่ึ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ ผู้เข้าร่วมรับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการปลูกผักสวนครัวในครัวเรือนตามแนว เศรษฐกิจพอเพียง และ เพ่ือส่งเสริมให้ประชาชนปลูกผกั ไว้รับประทานเอง และเสริมสร้างรายได้จาก การปลูกผัก สวนครัวจัดเมื่อวันท่ี 27 กุมภาพันธ์ 2564 ณ กศน.ตาบลหนองตาลึง ต.หนองตาลึง อาเภอเมืองพานทอง จังหวัดชลบุรี มีผู้เข้าร่วมโครงการ จานวน 15 คน ท้ังนี้ ขอสรุปและอภิปราย ผลและข้อเสนอแนะดังนี้ 1. สรุปผล 1.1 ผู้ตอบแบบสอบถามของโครงการเศรษฐกิจพอเพียงรู้เรื่องพืชผักสวนครัว จานวน ทั้งหมด 15คน เป็นชาย 2 คน ร้อยละ 80 เป็นหญิง 13 ร้อยละ 80 ซ่ึงมีในช่วงอายุ 40 -59 ปี มี จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ในช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีจานวนสูงสุด 13 คน คิดเป็นร้อยละ 80 ตามลาดบั 1.2 ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความคิดเห็นของผูเ้ ข้ารบั การอบรมในโครงการเศรษฐกิจพอเพียงรู้เรื่อง พืชผักสวนครวั มีความพงึ พอใจในภาพรวมอยู่ในระดับ ดี (x=̄ 3.97 ) เม่อื วิเคราะหเ์ ป็นรายข้อพบวา่ ดำ้ นควำมพงึ พอใจดำ้ นเนือ้ หำ ลาดับท่ี 1 เนอื้ หาปจั จบุ ันทันสมยั (x̄=3.75 ) ลาดบั ท่ี 2 เน้อื หามปี ระโยชน์ต่อการนาไปใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ (x̄=4.00) ลาดบั ที่ 3 เนื้อหาเพยี งพอตอ่ ความต้องการ (x̄=4.13) ลาดบั ท่ี 4 เนือ้ หาตรงตามความต้องการ (x̄=3.88) ดำ้ นควำมพึงพอใจดำ้ นกระบวนกำรจดั กจิ กรรม ลาดบั ท่ี 1 การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา (x̄= 3.88) ลาดับท่ี 2 การเตรยี มความพร้อมก่อนจดั กิจกรรม (x=̄ 3.75 ) ลาดับที่ 3 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย (x=̄ 4.13) วิธกี ารวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั การอบรม (x̄=4.13) ลาดบั ที่ 5 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ (x̄=.4.00) ดำ้ นควำมพึงพอใจต่อวิทยำกร ลาดับท่ี 1 วทิ ยากรเปดิ โอกาสให้มีสว่ นร่วมและซักถาม (x=̄ 3.75 ) ลาดบั ที่ 2 วทิ ยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใชส้ ือ่ เหมาะสม (x=̄ 4.00 ) ลาดับท่ี 3 วทิ ยากรมคี วามรูค้ วามสามารถในเรื่องทถ่ี า่ ยทอด (x̄=4.00 )

28 ด้ำนควำมพึงพอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก ลาดับท่ี 1 การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา (x=̄ 3.88) ลาดับท่ี 2 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ับการอบรม (x=̄ 4.00) ลาดับที่ 3 สถานที่ วัสดุ อปุ กรณ์และส่งิ อานวยความสะดวก (x=̄ 4.13) ลาดบั ที่ 4 การส่ือสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกดิ การเหมาะสม (x̄=4.13) 2. อภปิ รำยผล จากโครงการเศรษฐกิจพอเพยี งรเู้ รอื่ งพชื ผักสวนครวั พบวา่ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ความ เข้าใจเกยี่ วกับการปลกู ผักสวนครวั ในครวั เรือนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และปลกู ผักไว้รับประทาน เอง และเสริมสรา้ งรายไดจ้ ากการปลูกผกั สวนครัว และสามารถนาความรู้ที่ได้รับไปใชใ้ นการดาเนิน ชวี ิตประจาวันได้ มคี วามพึงพอใจอยู่ในระดบั ดี คดิ เปน็ 3.97 3. ปัญหำและอปุ สรรค - 4. ข้อเสนอแนะ -

ภาคผนวก


































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook