รายงานการฝึ กโครงการพฒั นาทักษะวชิ าชีพ ชุมชนหมู่ที่ 8 ตาบลกรุงหยนั อาเภอท่งุ ใหญ่ จังหวดั นครศรีธรรมราช นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล รหัสประจาตัวนักศึกษา 611250021 รายงานฉบบั นีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของวชิ าโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูงปฏิบัตกิ ารฉุกเฉินการแพทย์ ช้ันปี ท2่ี รุ่นที 15 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จังหวดั ยะลา
คานา รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชาโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ของนกั ศึกษาหลกั สูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ วิทยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา โดยการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพคร้ังน้ี นกั ศึกษาไดฝ้ ึกประสบการณ์ในพ้นื ที่ชุมชนหมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช เป็นการศึกษาชุมชนในดา้ นต่างๆ มีการเกบ็ รวบรวม ขอ้ มูลจากชุมชน โดยการสมั ภาษณ์ สงั เกต และจากขอ้ มูลทุติยภูมิเพอื่ ใหท้ ราบ และเขา้ ใจถึงวถิ ีของคนใน ชุมชน และมองเห็นสภาพปัญหาต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนภายในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาดา้ นการแพทยแ์ ละนาํ ไปสู่ การวางแผนในชุมชน อนั นาํ ไปสู่การมีสุขภาพ และคุณภาพชีวติ ที่ดีภาพในชุมชน ซ่ึงทาํ ใหเ้ กิดการพฒั นา อยา่ งยง่ั ยนื เพอื่ เตรียมความพร้อมสู่การฝึกประสบการณ์จริง และเป็นบุคลากรทางดา้ นสาธารณสุขต่อไป ผจู้ ดั ทาํ หวงั วา่ เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ ขอ้ มูลต่างๆ ในเล่มรายงานฉบบั น้ีจะสามารถนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์ และเป็นแนวทางในการพฒั นาแกป้ ัญหาในดา้ นต่างๆ ของชุมชน และเพอ่ื เป็นแนวทางใน การศึกษาต่อไป ผจู้ ดั ทาํ นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล
กติ ตกิ รรมประกาศ การฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพในคร้ังน้ี นักศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง ปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 วิทยาลยั การสาธารณสุขสิริธร จงั หวดั ยะลา ไดท้ าํ การศึกษา ในพ้ืนท่ีของตนเอง โดยการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ีนักศึกษาไดฝ้ ึ กประสบการณ์ในพ้ืนท่ี ชุมชนหมู่ที่8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ไดส้ ําเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี โดยไดร้ ับ ความกรุณาจากบุคคลหลายท่าน ทางกลุ่มนกั ศึกษารู้สึกซาบซ้ึงในความกรุณาที่มีให้ จึงใคร่ขอขอบพระคุณ เป็นอยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ภคั ณัฐ วีรขจร ท่ีไดใ้ หค้ าํ แนะนาํ ที่ไดป้ ระสิทธ์ิประสาทวิชา ก่อใหเ้ กิด ความรู้ในการฝึกปฏิบตั ิงาน จนสามารถปฏิบตั ิงานไดเ้ ป็นอยา่ งดี ขอขอบพระคุณเจา้ หนา้ ท่ีอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาํ หมู่บา้ นในชุมชนหมู่ที่ 8 ที่คอยให้ความ ช่วยเหลือ แนะนาํ ให้คาํ ปรึกษา ตลอดการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพและใหค้ วามช่วยเหลือ แนะนาํ ใหค้ าํ ปรึกษา ตลอดการฝึกปฏิบตั ิงานในคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณชาวบา้ นชุมชน หมู่ท่ี8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ที่ให้ ขอ้ มูลในการศึกษาคร้ังน้ี และเขา้ มามีส่วนร่วมในการดาํ เนินโครงการ ในทุกกิจกรรมที่นกั ศึกษาจดั ข้ึนและ สาํ เร็จลุล่วงไปไดด้ ว้ ยดี สุดทา้ ยน้ี นกั ศึกษาขอขอบพระคุณทุกท่านท่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ทาํ ให้การฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะ วิชาชีพในคร้ังน้ี ประสบความสาํ เร็จลุล่วงไปดว้ ยดี
สารบัญ หน้า เร่ือง ก ข คาํ นาํ ค กิตติกรรมประกาศ 1 สารบญั 1 บทที่ 1 บทนาํ 2 2 1.1 ความเป็นมาและความสาํ คญั ของการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 3 1.2 วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั 3 1.3 กระบวนการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 4 บทที่ 2 บริบทชุมชน 6 2.1 เเผนท่ีเดินดิน 11 2.2 ฝังเครือญาติ 12 2.3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน 13 2.4 ระบบสุขภาพชุมชน 14 2.5 ปฏิทินชุมชน 17 2.6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชน 17 2.7 ประวตั ิบุคคลสาํ คญั 18 บทที่ 3 การวินิจฉยั ชุมชน 18 3.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 28 3.2 การวิเคราะห์ขอ้ มูล 29 3.3 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล 3.4 การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา 30 3.5 ปัญหาและการจดั ลาํ ดบั ของปัญหา 30 39 บทท่ี 4 แผนงาน/โครงการ 44 4.1 แผนงาน/โครงการ 4.2 ระดบั ความพงึ พอใจต่อโครงการ 4.3 สรุปผลการดาํ เนินโครงการ
สารบญั ( ต่อ ) หนา้ 47 เรื่อง 47 บทท่ี 5 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 48 5.1 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 48 5.2 อภิปรายผล 49 5.3 ขอ้ เสนอแนะการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 50 ภาคผนวก 52 ภาคผนวก ก ภาพทาํ กิจกรรมโครงการไขเ้ ลือดออกป้องกนั ไดด้ ว้ ยชุมชน 54 ภาคผนวก ข แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน ภาคผนวก ค แบบทดสอบความรู้เรื่องไขเ้ ลือดออก 56 ภาคผนวก ง แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ ไขเ้ ลือดออกป้องกนั ไดด้ ว้ ยชุมชน 57 ภาคผนวก จ แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครง 59 การไขเ้ ลือดออกป้องกนั ไดด้ ว้ ยชุมชน บรรณานุกรม
บทท่ี 1 ส่ วนนาโครงการ 1.1ความเป็ นมาและความสาคญั ของการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ โรคไขเ้ ลือดออกนบั เป็ นปัญหาสาธารณสุขไทยตลอดมาเพราะไขเ้ ลือดออกเป็ นโรคติดต่อที่สร้าง ความสูญเสียชีวิต ค่าใชจ้ ่ายในการรักษาพยาบาลและความความสูญเสียทางดา้ นเศรษฐกิจของประเทศท้งั ท่ี ทุกฝ่ ายไดช้ ่วยกนั รณรงคป์ ้องกนั และควบคุมมาโดยตลอด และไดร้ ับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างท้งั ภาครัฐและเอกชน พบวา่ ปัญหาโรคไขเ้ ลือดออกไม่ไดล้ ดลงมากนกั ยงั คงเป็นปัญหาสาํ คญั ในระดบั ประเทศ เรื่อยมา จากการสํารวจขอ้ มูลครัวเรือน หมู่ที่ 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช เดือนมีนาคม 2563 มีจาํ นวนครัวเรือนท้งั สิ้น 350 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสาํ รวจครัวเรือน พบวา่ มีลูกน้าํ ยงุ ลาย จาํ นวน 256 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสาํ รวจภาชนะ พบลูกน้าํ ยุงลายในภาชนะ 280ใบ โดยมีค่าร้อยละของ ภาชนะสาํ รวจที่พบลูกน้าํ ยงุ ลาย (Container Index) คิดเป็นร้อยละ 16% จากสถานการณ์และความสําคญั ดงั กล่าวนางสาวสุธาสินี นุ่มนวล นกั ศึกษาช้นั ปี ท่ี 2 หลกั สูตรฉุกเฉิน การแพทย์ รุ่นท่ี 15 เลง็ เห็นวา่ ประชาชนหมู่8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช มีความ เส่ียงที่จะเป็นโรคไขเ้ ลือดออก เพราะจากการสาํ รวจครัวเรือนพบว่า ครัวเรือนท่ีมีลูกน้าํ ยงุ ลาย มีจาํ นวนเกิน คร่ึงของจาํ นวนครัวเรือนท้งั หมด จึงไดจ้ ดั โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่8 ตาํ บล กรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ข้ึนเพ่ือให้ประชาชนในชุมชนมีความรู้เร่ืองการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกเพ่ือลดอตั ราการป่ วยดว้ ยโรคไขเ้ ลือดออก ในหมู่บา้ น และเพื่อใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมใน การป้องกนั และทาํ ลายแหล่งเพาะพนั ธุล์ ูกน้าํ ยงุ ลายในชุมชน
1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออก 1.2.2เพ่ือให้ประชาชนตระหนักและเห็นความสําคญั ของการป้องกันและควบคุมโรค ไขเ้ ลือดออก 1.2.3 เพื่อใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และทาํ ลายแหล่งเพาะพนั ธุ์ลูกน้าํ ยงุ ลายใน ครัวเรือน 1.3 กระบวนการเตรียมฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 1.3.1 กรอบแนวคดิ การฝึ กโครงการพฒั นาทักษะวชิ าชีพ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ปัญหาดา้ นสุขภาพดา้ นในชุมชนหมู่ที่ 8ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ภาพท่ี 1.1 กรอบแนวคดิ การเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ
บทที่ 2 บริบทชุมชน เคร่ืองมือ 7 ชิ้น เคร่ืองมือ 7 ชิ้น เป็นเครื่องมือที่ใชใ้ นการเขา้ ถึงพ้ืนท่ีของชุมชน และบ่งบอกถึงความสาํ คญั ของกลุ่ม ผูค้ นว่ามีความผูกพนั ธุ์ในวงศส์ กุลเดียวกนั สามารถช่วยแนะนาํ ปัญหาบางอย่างของครอบครัวที่สามารถ เกิดข้ึนไดแ้ ละยงั ทาํ ใหร้ ู้จกั กลุ่มงานต่างๆ ในชุมชน เขา้ หาชุมชนไดง้ ่ายข้ึน ไดเ้ รียนรู้การรักษาตนเองของคน ในชุมชน เขา้ ใจวิถีชีวิตของคนในชุมชนและที่สาํ คญั เป็นเครื่องมือท่ีใชเ้ ป็นใบเบิกทางเพ่ือการกลมกลืนเขา้ กบั ชุมชนน้นั 1.แผนทเ่ี ดนิ ดนิ
2.ผงั เครือญาติ ผงั เครือญาติคือ การถอดความสัมพนั ธ์ในเชิงเครือญาติ หรือเชิงสายเลือดในชุมชน มีความสาํ คญั ต่อการทาํ ความเขา้ ใจชุมชนและสงั คม ไมว่ า่ จะเป็นสงั คมเมืองหรือสงั คมชนบท เพราะเครือญาติเป็น ความสมั พนั ธท์ ่ีเป็นรากฐานที่สุดของชีวิตครอบครัว การทาํ ผงั เครือญาติจึงมีส่วนสาํ คญั ในการทาํ ความ เขา้ ใจระบบความสัมพนั ธใ์ นครอบครัวและชุมชน เป้าหมายสาคญั ของผงั เครือญาติ 1.เขา้ ใจโครงสร้างความสัมพนั ธเ์ ชิงเครือญาติซ่ึงเป็นรากฐานของครอบครัวและชุมชน 2.รู้จกั ตวั บุคคลและความสมั พนั ธท์ างสงั คมของเขาไดใ้ นระยะเวลาอนั ส้นั 3.ช่วยสร้างความสมั พนั ธ์และความสนิทคุน้ เคยระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีกบั ชาวบา้ นไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 4. ทาํ ใหท้ ราบเกี่ยวกบั สุขภาพหรือโรคติดต่อของคนในครอบครัว เพอ่ื ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสุขภาพน้นั ๆ สัญลกั ษณ์แทนในผงั เครือญาติ สญั ลกั ษณ์แทนบิดามารดาท่ีเสียชีวติ แลว้ สญั ลกั ษณ์แทนผชู้ าย สญั ลกั ษณ์แทนผหู้ ญิง สญั ลกั ษณ์แทนการแต่งงาน
ผงั เครือญาติ นายสมบูรณ์ นุ่มนวล / นางพร้อม นุ่มนวล นางธวฒั ชยั นุ่มนวล นายสมโชค นุ่มนวล นายทวปี นุ่มนวล นางประทุมทิพย์ สงทิพย์ นายสมชาย นุ่มนวล นางนิยม นุ่มนวล นางวรรณ นุ่มนวล นางสุพร นุ่มนวล นายสมศกั ด์ิ สงทิพย์ นางสุจินต์ นุ่มนวล นายประวทิ ย์ นุ่มนวล นางวสิ ันชยั นุ่มนวล นางกลุ นยั นุ่มนวล นางสิริพร นุ่มนวล นายณฐั พงศ์ นุ่มนวล นายณฐั พล นุ่มนวล นางสาวจุฑามณี นุ่มนวล นายปรัชญา นุ่มนวล นายพิทกั ษ์ สงทิพย์ นางสาวออ้ ยทิพย์ สงทิพย์ นายเชาวลิตร นุ่มนวล นางสาวปริศนา นุ่มนวล ด.ช.ธีรภทั ร นุ่มนวล ด.ญ.สุภาพศิ นุ่มนวล นางสาวณฐั วดี นุ่มนวล นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล
3. โครงสร้างองค์กรชุมชน รายช่ือประธานและอาสาสมัครชุมชน นางสาวกรภทั ร ศรีเทพ ประธาน นางดลกมนต์ พฒั ศรีเรือง รองประธาน นายมนตรี สุขจิต นางเรณู ศรีสุขใส เลขานุการ กรรมการฝ่ายสวสั ดิการสงั คม นายสุพจน์ ฉิมสังข์ นายณรงศกั ด์ิ รักษายศ กรรมการฝ่ ายพฒั นา กรรมการฝ่ ายป้องกนั นางอะไร สุขบางนพ นางศลธยา ดาราอาด กรรมการฝ่ ายกลุ่มสตรี กรรมการฝ่ ายการคลงั นางสาวหิรญญา หลุ่ยจ๋ิว นายสุรศกั ด์ิ ชูขนั กรรมการฝ่ ายกลุ่มสตรี กรรมการฝ่ ายการศึกษา
รายชื่อคณะกรรมการทป่ี รึกษาชุมชน นางสาวกรภทั ร ศรีเทพ ท่ีปรึกษา นางดลกมนต์ พฒั ศรีเรือง ท่ีปรึกษา นางเรณู ศรีสุขใส ท่ีปรึกษา นางจิยพร ชุมคง ที่ปรึกษา คณะกรรมการที่ปรึกษามี นางสาวกรภทั ร ศรีเทพ นางดลกมนต์ พฒั ศรีเรือง นางเรณู ศรีสุขใส นาง จิยพร ชุมคง บทบาทการทาํ งานของคณะกรรมการท่ีปรึกษาส่วนใหญ่มีหนา้ ท่ีปรึกษากบั ประธานชุมชน รอง ประธาน และ คณะกรรมการ ซ่ึงประธานกรรมการมีบทบาทในการบริหารชุมชนโดยมีประชาชนเป็ น ผสู้ นบั สนุน
รายช่ือประธานอาสาสมคั รสาธารณสุขชุมชน หมู่ที่ 8 ตาบลกรุงหยนั อาเภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช นายอาํ นาจ สุวรรณ ประธานอาสาสมคั รสาธารสุข นางผอน เครือจนั ทร์ นางณี สิริพนั ธ์ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นายสมชาย ศรีวิเชียร นายแคลว้ เมฆาถาค สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางภทั รวดี บุญแนบ นางสาวจิราพนั ธ์ สมจิตร สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางมนญั ญา ไทยราช นางกนกพรรณ ธราพร สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข อาสาสมคั รสาธารณสุขชุมชนหมู่ที่ 8 เป็นองคก์ รท่ีดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชน เฝ้าคอย ระวงั โรคต่าง ๆ ในชุมชน มีบทบาทใหค้ วามรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพของชุมชน โดยมี นายอาํ นาจ สุวรรณ เป็นประธาน โดยบทบาทหลกั ๆ ของ อาสาสมคั รสาธารณสุขในชุมชนหมู่ที่ 8 ส่วนใหญ่จะประชาสัมพนั ธ์ เก่ียวกบั การตรวจสุขภาพของประชาชน รวมท้งั เชิญชวนใหป้ ระชาชนเขา้ รับการอบรมใหค้ วามรู้เก่ียวกบั การ ดูแลสุขภาพของตนเองและสมาชิกในครัวเรือน
กล่มุ สตรี นางรุ่งฤดี ทองจติ ต์ หัวหน้ากลุ่มสตรี คณะกรรมการพฒั นาสตรีเป็ นกลุ่มเป้าหมายในการดาํ เนินการขบั เคล่ือนการดาํ เนินงานจดั ประชุม สตรีในหมู่บา้ นเพ่อื แนะนาํ การจดั ทาํ ครอบครัวพฒั นาตามคุณลกั ษณะที่กาํ หนดร่วมกบั ครอบครัวเป้าหมายที่ เขา้ ร่วมโครงการวางแผนการพฒั นาประสานองค์กรหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งเพื่อ ร่วมส่งเสริม/และพฒั นา ครอบครัว กล่มุ ผู้สูงอายุ นางเอมพกิ า แก้วกระจก หัวหน้ากล่มุ ผู้สูงอายุ ชมรมผูส้ ูงอายเุ ป็ นการรวมกลุ่มของผูส้ ูงอายทุ ่ีมีอายเุ กิน ๖๐ ปี ข้ึนไป อยา่ งนอ้ ย ๒๐ คน และอาจมี คนวยั อ่ืน ท้งั วยั ทาํ งาน เด็ก เยาวชน เขา้ ร่วมเป็ นสมาชิกสมทบ แต่ไม่ควรเกิน ๑ ใน ๔ ของสมาชิกที่เป็นวยั สูงอายุโดยมีวตั ถุประสงค์ตรงกนั ในการดาํ เนินกิจกรรมที่เป็ นประโยชน์ท้งั ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และมีการกาํ หนดระเบียบขอ้ บงั คบั ในการบริหารชมรม ท้งั น้ี ชมรมผูส้ ูงอายุอาจอยู่ภายใตส้ ังกัด หน่วยงาน องคก์ ร หรืออาจเป็นชมรมอิสระที่ไม่สงั กดั หน่วยงานใดกไ็ ด้
วดั เขาหน้าเหรียง อนามยั บ้านควนฝามี ศาสนา ควนฝ สถานพยาบาล ระบบสุขภาพชุมชน หมู่ท8ี่ ตาบลกรุงหยนั อาเภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ร้านขายยา สถานทีอ่ อกกาลงั กาย ร้านขายยาหมอนัท สนามกฬี าโรงเรียน บ้านบ่อปลา
5. ปฏทิ นิ ชุมชน กมุ ภาพนั ธ์ มีนาคม เมษายน -วนั สงกรานต์ มกราคม -รดนา้ ดาหัวผู้ใหญ่ -วนั ปี ใหม่ -ประเพณีชักพระ พฤษภาคม มถิ ุนายน กรกฎาคม สิงหาคม -แข่งกฬี าชุมชน กนั ยายน ตุลาคม พฤศจิกายน -บุญสาทรเดือนสิบ -ลอยกระทง ธันวาคม -วนั สิ้นปี กจิ กรรมภายในแต่ละเดือน เดือน กจิ กรรม มกราคม -ตกั บาตรวนั ข้นึ ปี ใหม่ เมษายน -รดน้าํ ดาํ หวั ผใู้ หญ่ -ประกวดนางนพมาศ -ประเพณีชกั พระ สิงหาคม -แขง่ กีฬาสีของแต่ชุมชน กนั ยายน -กิจกรรมบุญสาทรเดือนสิบ -กิจกรรมแห่หมบั พฤศจกิ ายน -กิจกรรมลอยกระธง ธันวาคม -ประกวดนางนพมาศ -สวดมนตข์ า้ มปี -ตกั บาตรเทโว
6. ประวตั ศิ าสตร์ชุมชน ประวัติความเป็ นมา หม8ู่ อยใู่ นตาํ บลกรุงหยนั มีจาํ นวนหมู่บา้ นท้งั สิ้น 8 หมู่บา้ นไดแ้ ก่ หมู่1 บา้ นบาง ปรน หม2ู่ บา้ นกรุงหยนั หมู่3 บา้ นกรุงหยนั ใต้ หม4ู่ บา้ นป่ าไม้ หมู่5 บา้ นป่ าคลองกรุงหยนั หม6ู่ บา้ นทะเล สองหอ้ ง หม่7ู บา้ นถ้าํ เพดาน หมู่8 บา้ นบ่อปลา เขตพืน้ ที่ ทิศเหนือ ติดกบั ม.1 ทิศใต้ ติดกบั ม.5 และ ม.6 ทิศตะวนั ตกติด ม.1 ทิศตะวนั ออกติดกบั ม.4 สาธารณูปโภค จาํ นวนครัวเรือนที่มีไฟฟ้าใชใ้ นเขต อบต. 2228 ครัวเรือน จาํ นวนบา้ นท่ีมีโทรศพั ท์ 2000 หลงั คาเรือน การเดินทาง 1.จากยะลาใชท้ างหลวงหมายเลขเอเชีย 41 แยกเขา้ สู่ทางหลวงสายทุ่งสง-ทุ่งใหญ่ ผา่ นม.8 จากทุ่งสงมา ม.8 ประมาณ 38 กิโลเมตร งานประเพณี - ประเพณีการรดน้าํ ดาํ หวั ผใู้ หญ่ - ประเพณีสาทรเดือนสิบ -ประเพณีชกั พระ สถานที่สาคญั - ศาลาประชาคมประจาํ หม่บู า้ น
7.ประวตั ชิ ีวติ 1.ประวัติชีวติ นายสมบูรณ์ นุ่มนวล ข้อมูลทวั่ ไป -ชื่อ สมบูรณ์ นุ่มนวล -เกิดเม่ือวนั ท่ี 2 กรกฎาคม พ.ศ.2477 ปัจจุบนั อายุ 86 ปี -สัญชาติ ไทย นบั ถือศาสนา พทุ ธ -ที่อยอู่ าศยั 142 หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช -มีพนี่ อ้ งท้งั หมด 4 คน เป็นบุตรคนท่ี 2 สมรสกบั นางพร้อม นุ่มนวล มีบุตรดว้ ยกนั 7 คน -โรคประจาํ ตวั ความดนั โลหิตสูง ประวัติด้านการศึกษา - จบช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 จากโรงเรียนบา้ นบางปรน ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ประวัติด้านการทางาน -เคยดาํ รงตาํ แหน่งประธานชุมชนหมู่ท่ี 8 ตงั แต่ปี พ.ศ.2523 -อายกุ ารทาํ งาน 19ปี
2.ประวัตชิ ีวติ นายวสิ นั ตช์ ยั นุ่มนวล ข้อมูลทว่ั ไป -ช่ือนายวสิ นั ตช์ ยั นุ่มนวล -เกิดเม่ือวนั ท่ี 5 กนั ยายน พ.ศ.2511 ปัจจุบนั อายุ 52 ปี -สัญชาติ ไทย นบั ถือศาสนา พุทธ -ท่ีอยอู่ าศยั 142/1 หมู่ที่ 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช -มีพี่นอ้ งท้งั หมด 7 คน เป็นบุตรคนที่ 6 สมรสกบั นางสิริพร นุ่มนวล มีบุตรดว้ ยกนั 2คน -ไม่มีโรคประจาํ ตวั ประวัตดิ ้านการศึกษา -จบช้นั ประถมศึกษาปี ที่6 จากโรงเรียนบา้ นบ่อปลา อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช -จบช้นั มธั ยมโรงเรียนทุ่งใหญ่วทิ ยาคม อาํ เภอพิปนู จงั หวดั นครศรีธรรมราช ประวตั ดิ ้านการทางาน - ดาํ รงประธานกลุ่มสจั จะตาํ บลกรุงหยนั -อายกุ ารทาํ งาน 10 ปี
3. ประวัตชิ ีวติ นายแคลว้ เมทาภาค ข้อมูลทว่ั ไป -นายแคลว้ เมทาภาค -เกิดเม่ือวนั ท่ี 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2507 ปัจจุบนั อายุ 56 ปี -นบั ถือศาสนา พทุ ธ -ที่อยอู่ าศยั 248 หมู่ที่ 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช -มีพนี่ อ้ งท้งั หมด 7 คน เป็นบุตรคนที่ 2 มีบุตร 3 คน -ไม่มีโรคประจาํ ตวั ประวตั ิด้านการศึกษา -จบช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 จากโรงเรียนบา้ นบางปรน อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช -จบช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ กศน .จงั หวดั นครศรีธรรมราช ประวตั ดิ ้านการทางาน -เป็น อ.บ.ต.ประจาํ หมู่บา้ น หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช
บทที่ 3 การวนิ ิจฉัยชุมชน การศึกษาชุมชนหมู่ที่ 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ในคร้ังน้ีเป็น การศึกษาในรูปแบบ การสาํ รวจ สงั เกต การสมั ภาษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในการวินิจฉยั ชุมชนมี ดงั น้ี 3.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3.2 การวิเคราะห์ขอ้ มูล 3.3 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล 3.4 ปัญหา และการจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั ของปัญหา 3.5 การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา 3.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ เป็นการเกบ็ ขอ้ มูลเพม่ิ เติมจากแหล่งทุติยภูมิ ซ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวมี ความสาํ คญั มาก เพราะช่วยใหม้ องเห็นสภาพปัญหาในชุมชนชดั เจนข้ึน และขอ้ มูลที่ไดเ้ ป็นขอ้ มูลปัจจุบนั มาก ที่สุด วธิ ีการเกบ็ รวมรวบขอ้ มูลปฐมภูมิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสงั เกต เป็นการสงั เกตสภาพทวั่ ไปของชุมชนและพฤติกรรมต่าง ๆ ของ ประชาชน ในชุมชน โดยที่ผถู้ ูกสงั เกตไม่รู้ตวั เพ่อื นาํ ขอ้ มูลมาสนบั สนุนในการวเิ คราะห์ปัญหา 3.1.1.2 การสมั ภาษณ์ เป็นการสมั ภาษณ์จากแบบสอบถามที่เตรียมคาํ ถามต่าง ๆ ไวพ้ ร้อม แลว้ และจดั พมิ พไ์ วเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สาํ หรับใชก้ บั ผถู้ ูกสมั ภาษณ์ทุกคน โดยคาํ ถามจะเป็น ท้งั คาํ ถาม แบบปลายปิ ดและแบบปลายเปิ ด เพื่อเปิ ดโอกาสใหผ้ ถู้ ูกสมั ภาษณ์แสดงความคิดเห็น 3.1.2 การรวบรวมขอ้ มูลทุติยภูมิ เป็นการรวบรวมขอ้ มูลทุติยภูมิ หรือขอ้ มูลที่รวบรวมไวท้ ่ีองคก์ ร ในหมู่บา้ น ซ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวน้นั ทาํ ใหท้ ราบวา่ ควรหาขอ้ มูลดา้ นใด เพม่ิ เติม เพื่อนาํ มาใชใ้ น การสนบั สนุน ในกระบวนการวเิ คราะห์ปัญหา การเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามแบ่งออกเป็ น 5 ตอน ดังนี้ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป ตอนที่ 2 ขอ้ มูลความรู้เกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออก ตอนท่ี 3 ขอ้ มูลดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนท่ี 4 ขอ้ มูลความรู้เก่ียวกบั โรค ตอนที่ 5 ขอ้ มูลความรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้
3.2 การวเิ คราะห์ข้อมูล ขอ้ มูลที่ไดจ้ าการรวบรวมน้นั จะนาํ มาวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนการวิเคราะห์ขอ้ มูล ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มูลดิบเป็นการตรวจสอบความถูกตอ้ งและความสมบูรณ์ของขอ้ มูล 3.2.2 การแจกแจงความถ่ี โดยใชโ้ ปรแกรมสาํ เร็จรูป แลว้ นาํ มาวิเคราะห์ขอ้ มูลในรูปแบบ ร้อยละ และนาํ เสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพื่อความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มูลสาํ หรับขอ้ มูลเชิง ปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มูลเชิงคุณภาพ นาํ เสนอในรูปแบบบทความ เพอ่ื ความเขา้ ใจ 3.3 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล จากการศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช จาํ นวน ครัวเรือน โดยประมาณ 10 หลงั คาเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มูลจากรายงานต่าง ๆ จากสาํ นกั งานกระทรวง สาธารณสุข จงั หวดั นครศรีธรรมราชและอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาํ หมู่บา้ นในชุมชน ซ่ึงจะนาํ เสนอ ตามลาํ ดบั ดงั ต่อไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มูลทวั่ ไป จากการสาํ รวจแบบสอบถามประชาชนในชุมชน หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอ ทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ทาํ ใหท้ ราบถึงบริบทของชุมชน และปัญหาดา้ นสุขภาพ
การวเิ คราะห์ข้อมูล ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านเพศ N = 10 เพศ จานวน ร้อยละ เพศชาย 4 40% เพศหญิง 6 60 % รวม 10 100 % จากตารางท่ี 1 พบวา่ สถานภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงร้อยละ 60 ผตู้ อบ แบบสอบถามเพศชายร้อยละ 40 สรุปไดว้ า่ คนในชุมชน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ตารางท่ี 2 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอายุ อายุ จานวน ร้อยละ ตา่ กวา่ 20ปี 1 10 % 20-30ปี 5 50 % 31-40ปี 2 20% 40ปีขนึ ้ ไป 2 20% รวม 10 100% จากตารางท่ี 2 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอายสุ ่วนใหญ่อยใู่ นช่วงอายตุ ่าํ กวา่ 20 ปี ร้อยละ 10 ช่วงอายุ 20-30ปี ร้อยละ 50 ช่วงอาย3ุ 1-40ปี ร้อยละ20 ช่วงอายุ 40ปี ข้ึนไป ร้อยละ10 สรุปไดว้ า่ ประชากร ในชุมชนท่ีทาํ แบบสอบถามอยใู่ นช่วงอายุ 20-30ปี มากท่ีสุด
ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพสมรส N = 10 สถานภาพสมรส จานวน ร้ อยละ โสด 6 60 % สมรส 4 40 % หยา่ - - แยกกนั อยู่ -- รวม 10 100 % จากตารางที่ 3 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามดา้ นสถานภาพโสด ร้อยละ 60 รองลงมาอยใู่ นสถานภาพ สมรส ร้อยละ 40 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญท่ ่ีทาํ แบบสอบถามมีสถานโสด ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของระดับการศึกษาสูงสุด N = 10 ระดบั การศกึ ษาสงู สดุ จานวน ร้ อยละ ต่ากวา่ ประถมศกึ ษา - - ประถมศกึ ษา -- มธั ยมศกึ ษาตอนต้น (ม.1-ม.3) 2 20 % มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) 2 20 % ประกาศนียบตั รวิชาชีพชนั้ สงู 4 40 % (ปวส.) หรือ เทียบเทา่ ปริญญาตรี 2 20 % อื่นๆ - - รวม 10 100 %
จากตารางที่ 4 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นการศึกษาประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง(ปวส) ร้อยละ 40 รองลงมาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) ร้อยละ 20 รองลงมาระดบั การศึกษามธั ยมศึกษา ตอนปลาย(ม.4-ม.6) ร้อยละ 20 ระดบั ปริญญาตรี ร้อยละ 20 ตามลาํ ดบั สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วน ใหญ่ที่ทาํ แบบสอบถามมีระดบั การศึกษามธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) ตารางท่ี 5 แสดงค่าร้อยละของอาชีพหลกั ของครอบครัว N = 10 อาชีพหลกั ของครอบครัว จาํ นวน ร้อยละ 20 % รับจา้ งทว่ั ไป 2 10 % - เกษตรกร 1 40 % - ประมง - 20 % 10 % ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งานของรัฐ 4 - 100 % พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ - คา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตวั 2 วา่ งงาน/ไม่มีงานทาํ 1 อื่นๆ - รวม 10 จากตารางท่ี 5 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอาชีพหลกั ของครอบครัวอาชีพขา้ ราการ/ลูกจา้ ง หรือพนกั งานของรัฐมากที่สุด ร้อยละ 40 รองลงมาอาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตวั ร้อยละ 20 รองลงมาเกษตร ร้อยละ10 รองลงมาวา่ งงาน/ไม่มีงานทาํ ร้อยละ10 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ที่ทาํ แบบสอบถาม อาชีพหลกั ของครอบครัวคือ ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งานของรัฐ
ตารางที่6แสดงค่าร้อยละของประวตั กิ ารมโี รคประจาตวั N = 10 ประวตั ิการมีโรคประจาํ ตวั จาํ นวน ร้อยละ 100 % ไม่มีโรคประจาํ ตวั 10 - 100 % มีโรคประจาํ ตวั - รวม 10 จากตารางที่ 6 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นโรคประจาํ ตวั เป็นผทู้ ี่มีไม่มีโรคประจาํ ตวั ร้อยละ 100 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญท่ ี่ทาํ แบบสอบถามไม่มีโรคประจาํ ตวั ตารางท่ี7แสดงค่าร้อยละของปัญหาด้านเศรษฐกจิ ปัญหาด้านเศรษฐกจิ มากที่สดุ (%) มาก(%) ปานกลาง(%) น้อย(%) น้อยที่สดุ (%) 54 3 21 รายได้ไม่เพียงพอตอ่ คา่ ใช้จ่าย 30 % 20 % 30 % 10 % 0 ประชาชนขาดอาชีพเสริม 20 % 30 % 40 % 20 % 0 10 % 0 ราคายาง/ปาล์มตกต่า 20% 40 % 50 % 20 % 10 ประชาชนก้เู งินจากหนีร้ ะบบ 10 % 30 % 40 % ประชาชนมีการตกงาน 30 % 50 % 10 % 10 % 0 การเลน่ การพนนั ในชมุ ชน 30 % 20 % 20 % 20 % 10 % 20 % 10 % ขาดความรู้เกี่ยวกบั เศรษฐกิจ 20 % 50 % 20 %
จากตารางที่ 7 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนดา้ นเศรษฐกิจ สรุปได้ วา่ ปัญหาปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีคา่ เฉล่ียเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.22 และมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.54 ตารางที่8แสดงค่าร้อยละของปัญหาด้านสังคม ปัญหาด้านสังคม มากท่ีสดุ (%) มาก(%) ปานกลาง(%) น้อย(%) น้อยที่สดุ 5 4 32 (%) 1 ยาเสพตดิ ระบาดในชมุ ชน 40 % 20 % 30 % 10 % 0 คนในชมุ ชนขาดจิตสานกึ ในการ 10 % 30 % 40 % 20 % 0 พฒั นาตนเอง 40 % 50 % 10 % 0 คนในชมุ ชนขาดความเช้าใจซง่ึ กนั 0 และกนั 60 % 10 % 20 % 0 20 % 20 % 20 % 10 % วยั รุ่นตง่ั กลมุ่ กินนา้ ทอ่ ม 10 % 50 % 20 % 20 % 10 % การลกั เลก็ ขโมยน้อย 30 % มีการเลน่ การพนนั 0 จากตารางท่ี 8 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนดา้ นสงั คม สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ นสงั คม มีค่าเฉล่ียเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.47
ตารางที่9แสดงค่าร้อยละของปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมและการท่องเทยี่ ว ปัญหาด้านการจัดการ มากท่ีสุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม 5 4 3 21 และการท่องเทย่ี ว มีการทาํ ลายทรัพยากรธรรมชาติใน 1 1 5 31 ชุมชน ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการ 0 1 5 31 ดูแลความสะอาดของหมู่บา้ น ป่ าเส่ือมโทรมเพ่ิมข้ึน 1 5 3 21 น้าํ เน่าเสียในคลองแม่น้าํ ตาปี 2 3 2 40 ระบบสาธารณรูปโภคของชุมชน เช่น 0 5 1 2 2 ประปาไม่เพยี งพอ แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนขาดการ 1 2 2 3 2 ส่งเสริมสนบั สนุน ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหาร 3 3 2 3 1 จดั การทรัพยากรธรรมชาติ ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการ 1 4 3 2 1 บริหารจดั การ ประชาชนในชุมชนขาดจิตสาํ นึกใน 0 3 4 21 การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ มไม่เอ้ือต่อ 0 2 5 11 การบริหาร
จากตารางท่ี 9 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มและการท่องเที่ยว สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มและ การท่องเที่ยว มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.12 และมีคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.19 ตารางท่ี10แสดงค่าร้อยละของปัญหาด้านสุขภาพ มากท่ีสุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด 4 3 21 ปัญหาด้านสุขภาพ 5 3 3 11 พฤติกรรมท่ีส่งต่อสุขภาพ เช่นการ 2 รับประทานอาหาร สามารถเตือนผอู้ ่ืนท่ีมีพฤติกรรมเสี่ยง 0 3 4 3 0 ต่อสุขภาพ เช่น ไม่สูบบุหร่ีในที่ สาธารณะ ใชช้ อ้ นกลาง ใหใ้ ชผ้ า้ ปิ ด 1 2 5 3 0 ปากเวลาไอจาม เป็นตน้ 0 0 6 3 1 2 0 มีการจดั การโครงการอบรมดา้ นสุขภาพ ใหก้ บั ประชาชนในชุมชน สามารถไปพบแพทย์ หรือบุคลากร สาธารณะสุขตามที่ตอ้ งการ สามารถควบคุมกาํ กบั สุขภาพตนเอง 1 3 4 เช่น ตรวจสุขภาพประจาํ ปี ชง่ั น้าํ หนกั ลดอาหารที่ทาํ ลายสุขภาพ ออกกาํ ลงั กายสม่าํ เสมอ ในรอบ 1 ปี สมาชิกในครอบครัวมีอาการเจ็บป่ วยด้วยอาการ/โรค
เจบ็ ป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวด 0 40 2 3 1 กลา้ มเน้ือ/ปวดทอ้ ง/โรคกระเพาะ 4 3 2 1 โรคติดต่อ เช่น อุจจาระร่วง 00 3 2 0 ไขเ้ ลือดออก วณั โรค ฯลฯ 2 2 โรคไม่ติดต่อ เช่น ความดนั โลหิตสูง 0 1 6 1 0 โรคเบาหวาน โรคหวั ใจ 1 1 2 0 ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วติ กกงั วล/เครียด 0 2 5 ติดยา/สารเสพติด ติดสุราเร้ือรัง 2 0 1 1 อื่นๆ เช่น โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดูก 0 0 6 วธิ ีการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว ( สมาชิกในครอบครัวมีการเจบ็ ป่ วยเลก็ น้อย) ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากิน 2 1 8 เอง เชด็ ตวั ลดไข้ ปรึกษา/ขอคาํ แนะนาํ จาก อสม. 10 7 ใชบ้ ริการสุขภาพท่ีสถานพยาบาล เช่น 0 3 5 รพ.สต./คลินิก/โรงพยาบาล วธิ ีการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว (สมาชิกในครอบครัวมกี ารเจบ็ ป่ วยรุนแรง/หมดสติ) ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากิน 1 3 5 เอง เชด็ ตวั ลดไข้ มีความรู้พ้ืนฐานดา้ นการแพทยฉ์ ุกเฉิน 0 5 3 สามารถปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ ได้ เช่น การช่วยฟ้ื นคืนชีพข้นั พ้ืนฐาน(CPR)
ใชบ้ ริการสุขภาพที่สถานพยาบาล เช่น 1 2 5 30 รพ.สต./คลินิก/โรงพยาบาล รีบโทร1669 24 3 13 จากตารางท่ี 10 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาดา้ นอื่นๆ สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นอ่ืนๆ มีค่าเฉล่ียเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.11 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.2 ตารางที่ 11 แสดงค่าเฉลย่ี ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานของปัญหาในชุมชน ปัญหา x S.D. 0.54 ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 2.22 0.47 0.19 ปัญหาดา้ นสงั คม 2.00 0.20 ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มและ 2.12 0.18 การท่องเที่ยว 2.11 ปัญหาดา้ นสุขภาพ 2.11 ค่าเฉลย่ี รวม จากตารางท1ี่ 1 สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจมีค่าเฉล่ียเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ2.22 และมีคา่ เบี่ยงเบน มาตรฐานอยทู่ ่ี0.54 รองลงมาคือปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มและการท่องเที่ยว มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตอยทู่ ่ี2.12และมีคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี0.19 สรุปการทาประชาคม ชุมชนหมู่ที่ 8ตาบลกรุงหยนั อาเภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช วนั อาทิตย์ ที่ 7 เมษายน 2563 เวลา 13.00-15.00 น. ท่ีหอประชุมประจาํ หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ผตู้ อบแบบสอบถาม 10 ชุด สรุปปัญหาของชุมชนหมู่ ที่ 8 ตาํ บล กรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ไดด้ งั น้ี 1. ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีคา่ เฉล่ีย 2.22 มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง
2. ปัญหาดา้ นสังคม มีคา่ เฉล่ีย 2 มีค่าระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 3. ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มและการท่องเที่ยว มีค่าเฉล่ีย 2.012 มีค่าระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 4. ปัญหาดา้ นอ่ืนๆ มีคา่ เฉลี่ย 2 มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 5. ปัญหาดา้ นสุขภาพ มีคา่ เฉล่ีย 2.11 มีคา่ ระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑน์ อ้ ย นกั ศึกษาไดเ้ ลง็ เห็นวา่ ปัญหาดา้ นสุขภาพ ที่มีค่าระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑน์ อ้ ย ท่ีควรไดร้ ับการแกไ้ ข ทางนกั ศึกษาจึงไดม้ าทาํ ประชาคมในวนั และเวลาดงั กล่าว การคดิ คะแนนเพ่ือจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหาด้านสุขภาพ เกณฑ์การจัดลาดับความสาคญั ของปัญหาของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏิบตั ิงาน ให้คะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จาํ กดั ใหค้ ะแนน 0-1 สูตร คะแนนรวม Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 คะแนนขององค์ประกอบ ปัญหา ขนาดของ ความ ความยาก ความ วธิ ีบวก วธิ ีคูณ ปัญหา รุนแรง ง่าย สนใจ 1.ไขเ้ ลือดออก 7 9 4 1 23 256 2.อุจจาระร่วง 5 6 4 1 16 120 3.ไขห้ วดั ใหญ่ 3 6 3 1 13 54 4.วณั โรค 1 4 6 1 12 24 5.อิสุกอิใส 2 2 5 1 10 20
จากตาราง พบวา่ ปัญหาชุมชนอนั ดบั ที่ 1 คือ ไขเ้ ลือดออก อนั ดบั ที่ 2 คือ อุจจาระร่วง อนั ดบั ที่ 3 คือ ไขห้ วดั ใหญ่ อนั ดบั ท่ี 4 วณั โรค อนั ดบั ท่ี 5 อิสุกอิใส ตามลาํ ดบั ที่มา:จากอ้างองิ ทฤษฏีวธิ ีของภาควชิ าบริหารสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล จาก วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข
บทท4ี่ แผนงานโครงการ จากการสาํ รวจชุมชนหมู่ที่ 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราชไดล้ งสาํ รวจ พ้ืนที่โดยใชแ้ บบสอบถามขอ้ มูลวิเคราะห์เพื่อจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั ของปัญหา เพ่ือหาวิธีการแกป้ ัญหาใหก้ บั ชุมชน จากการศึกษาพบวา่ ชุมชนมีปัญหาดา้ นสุขภาพของคนในชุมชน เป็นอนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนาํ ปัญหาดา้ นสุขภาพ โรคไขเ้ ลือดออก มาจดั โครงการเพือ่ ใหค้ วามรู้กบั คนในชุมชน เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกท่ีถูกวิธีและเหมาะสม ลดค่าดชั นี ลูกน้าํ ยุงลายในชุมชน และเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และทาํ ลายแหล่งเพาะพนั ธุ์ลูกน้าํ ยงุ ลายในครัวเรือน 4.1 แผนงาน / โครงการ จากปัญหาที่พบ พบวา่ เป็นปัญหาท่ีทางชุมชนมีความตอ้ งการใหด้ าํ เนินการ จากปัญหาดงั กล่าว จึงได้ จดั ทาํ โครงการเพอื่ แกป้ ัญหาสุขภาพของชุมชน 1 โครงการ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ช่ือกจิ กรรม/โครงการ : ไขเ้ ลือดออกป้องกนั ไดด้ ว้ ยชุมชน ช่ือ-สกลุ ผู้เสนอกจิ กรรม/โครงการ : นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล สังกดั : หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2
1. หลกั การและเหตุผล/ทม่ี า/ปัญหา 1.1 หลกั การและเหตุผล โรคไขเ้ ลือดออกนบั เป็ นปัญหาสาธารณสุขไทยตลอดมาเพราะไขเ้ ลือดออกเป็ นโรคติดต่อที่สร้าง ความสูญเสียชีวิต ค่าใชจ้ ่ายในการรักษาพยาบาลและความความสูญเสียทางดา้ นเศรษฐกิจของประเทศท้งั ที่ ทุกฝ่ ายไดช้ ่วยกนั รณรงค์ป้องกนั และควบคุมมาโดยตลอด และไดร้ ับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างท้งั ภาครัฐและเอกชน พบวา่ ปัญหาโรคไขเ้ ลือดออกไม่ไดล้ ดลงมากนกั ยงั คงเป็นปัญหาสาํ คญั ในระดบั ประเทศ เรื่อยมา จากการสํารวจขอ้ มูลครัวเรือน หมู่ที่ 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช เดือนมีนาคม 2563 มีจาํ นวนครัวเรือนท้งั สิ้น 350 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสาํ รวจครัวเรือน พบวา่ มีลูกน้าํ ยงุ ลาย จาํ นวน 256 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสาํ รวจภาชนะ พบลูกน้าํ ยงุ ลายในภาชนะ 280ใบ โดยมีค่าร้อยละของ ภาชนะสาํ รวจท่ีพบลูกน้าํ ยงุ ลาย (Container Index) คิดเป็นร้อยละ 16% จากสถานการณ์และความสาํ คญั ดงั กล่าวนางสาวสุธาสินี นุ่มนวล นกั ศึกษาช้นั ปี ที่ 2 หลกั สูตรฉุกเฉิน การแพทย์ รุ่นท่ี 15 เลง็ เห็นวา่ ประชาชนหมู่8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช มีความ เส่ียงที่จะเป็นโรคไขเ้ ลือดออก เพราะจากการสาํ รวจครัวเรือนพบว่า ครัวเรือนท่ีมีลูกน้าํ ยงุ ลาย มีจาํ นวนเกิน คร่ึงของจาํ นวนครัวเรือนท้งั หมด จึงไดจ้ ดั โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่8 ตาํ บล กรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ข้ึนเพ่ือให้ประชาชนในชุมชนมีความรู้เรื่องการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกเพื่อลดอตั ราการป่ วยดว้ ยโรคไขเ้ ลือดออก ในหมู่บา้ น และเพื่อใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมใน การป้องกนั และทาํ ลายแหล่งเพาะพนั ธุ์ลูกน้าํ ยงุ ลายในชุมชน 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออก 1.2.2เพ่ือให้ประชาชนตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ของการป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก 1.2.3 เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และทาํ ลายแหล่งเพาะพนั ธุ์ลูกน้าํ ยุงลายใน ครัวเรือน
1.3 กล่มุ เป้าหมาย อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช จาํ นวน 30คน 1.4 เป้าหมาย 1.4.1 เป้าหมายเชิงคุณภาพ -ร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมายมีความพึงพอใจต่อการจดั โครงการอยใู่ นระดบั มาก - ร้อยละ 60 ของผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม มีความรู้เร่ืองการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกท่ีถูกวิธีและ เหมาะสม 1.4.2 เป้าหมายเชิงปริมาณ -กลุ่มเป้าหมายเขา้ ร่วมโครงการไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 1.5 ระยะเวลาดาเนินการ ต้งั แต่วนั ที่ 5 เมษายน – 8 เมษายน 2563 1.6 ดชั นีตวั ชี้วดั ความสาเร็จ 1.6.1 เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออก 1.6.2เพื่อให้ประชาชนตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ของการป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก 1.6.3 เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และทาํ ลายแหล่งเพาะพนั ธุ์ลูกน้าํ ยุงลายใน ครัวเรือน 1.7 ผู้รับผดิ ชอบโครงการ นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 1.8 สถานที่ดาเนินโครงการ หอประชุมหมทู่ ี่ 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอท่งุ ใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช 1.9 ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ 1.8.1 อตั ราป่ วยดว้ ยโรคไขเ้ ลือดออกของประชากรในชุมชนลดลง
1.8.2 ทาํ ให้ประชาชนในชุมชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออกและมีพฤติกรรมท่ี ถูกตอ้ งเหมาะสม 1.8.3 ประชาชนใหค้ วามร่วมมือในการดาํ เนินการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก 2. แผนการดาเนินงาน 2.1 วธิ ีการดาเนินงาน กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผู้รับผดิ ชอบ การวางแผน (P) 1. ประชุมวางแผน กําหนดวัตถุประสงค์ 5 เมษายน 2563 นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล งบประมาณ ดัชนีช้ีวดั ความสําเร็จ พฒั นา นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน โครงการฉบบั สมบูรณ์เพ่อื ขออนุมตั ิ การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 2. เม่ือโครงการได้รับอนุมัติแล้วจึง มอบหมายหน้าท่ีรับผิดชอบภายในกลุ่ม พร้อมท้งั ประสานผูท้ ี่เกี่ยวขอ้ งประสานงาน ชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ที่ตอ้ งใช้ การปฏิบตั ิ 1.จดั โครงการตามกาํ หนดการ 6 เมษายน 2563 นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล (D) 1.1 วนั จัดกจิ กรรม นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 1.1.1 ทาํ แบบทดสอบก่อนใหค้ วามรู้ การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 1.1.2 การบรรยายให้ความรู้เก่ียวกับโรค ไ ข้เ ลื อ ด อ อ ก แ ล ะ วิ ธี ก า ร ป้ อ ง กัน โ ร ค ไขเ้ ลือดออกตามหลกั 5 ป 1 ข 1.1.3 กิจกรรมตอบคาํ ถามเกี่ยวกบั ความรู้โรค ไขเ้ ลือดออก 1.1.4 จดั กิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) ระดมสมองภายในกลุ่ม 1.1.5 ทาํ แบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ 1.1.6 ทาํ แบบประเมินความพึงพอใจ 1.2 วนั เดนิ รณรงค์ 1.2.1 ใหค้ วามรู้เร่ืองโรคไขเ้ ลือดออก 1.2.2 เดินรณรงคป์ ้องกนั โรคไขเ้ ลือดออก
กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผู้รับผดิ ชอบ 1.2.3 แจกแผน่ พบั และทรายTemephos การประเมินผล ประเมินผลตามวตั ถุประสงคด์ ว้ ย 7 เมษายน 2563 นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล (C) 1. แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการ 8เมษายน 2563 นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 2. ประเมินความรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 3. สงั เกตการมีส่วนร่วมของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล ก า ร ป รั บ ป รุ ง 1.ประชุมผจู้ ดั ทาํ โครงการเพอ่ื สรุปผลการ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน หรื อนําผลการ ดาํ เนินงานและเสนอแนะแนวทางเพื่อ การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 ประเมิ นไปใช้ ปรับปรุงพฒั นา ประโยชน์ (A) 2.2 ผลการดาเนินงาน 2.2.1 การดาเนินงานในข้ันตอนการวางแผน (P) - ประสานงานกับแกนนํา อสม.หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จังหวดั นครศรีธรรมราช นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 ประสานงานกบั แกนนํา อสม. หมู่ 8 เพ่อื จดั การทาํ ประชาคมหาปัญหาที่ตอ้ งแกไ้ ขเพ่อื จดั ทาํ โครงการ -ประชุมวางแผนกาํ หนดการดาํ เนินงานและเขียนโครงการเพอ่ื ขออนุมตั ิ นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทยจ์ ดั ประชุมกนั กบั แกนนาํ อสม.หมู่ 8 เพื่อสอบถามปัญหาต่างๆท่ีเกิดข้ึนในชุมชน และไดม้ ีการประชุมกนั ภายในกลุ่มเพื่อวางแผนการดาํ เนินงาน กาํ หนดวตั ถุประสงค์ วางแผนการใชง้ บประมาณ หนา้ ที่รับผิดชอบ เพื่อให้การดาํ เนินงานโครงการเป็ นไป อยา่ งมีประสิทธิภาพ -ติดต่อประสานงาน กบั ผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งในชุมชน นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดต้ ิดต่อจดั การขอสถานที่ในการทาํ กิจกรรม เพือ่ ใหก้ ารดาํ เนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ติดต่อขอใชส้ ถานท่ี
2.2.2. การดาเนินงานในข้ันตอนการปฏบิ ัติ (D) - เสนอร่างโครงการ และปรับแกไ้ ข โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช - จดั เตรียมเอกสารในการทาํ โครงการ - จดั เตรียมสถานที่ในการจดั ทาํ โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช - ดาํ เนินงานกิจกรรมโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออกหมู่ท่ี 8 ตาํ บล กรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ดว้ ยการบรรยายใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออก นางสาวสุธาสินี นุ่มนวล หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดเ้ ขา้ รับการอบรมใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั การ ดูแลตวั เองการรักษา อาการ และการป้องกนั เกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออก - รณรงคใ์ หค้ วามรู้เรื่องโรคไขเ้ ลือดออก 2.3 จานวนผู้เข้าร่วมโครงการ อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมู่ที่ 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช จาํ นวน 30คน 2.4 สถานท่ีดาเนินการ ศาลาประชุมประจาํ หมู่บา้ น หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช 2.5 งบประมาณ 1. คา่ อาหารวา่ งและเคร่ืองด่ืมของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ คนละ 20 บาท x 47 คน X 1 ม้ือ เป็นเงิน 940 บาท 2. ค่าถ่ายเอกสาร และ คา่ อุปกรณ์ ค่าถ่ายเอกสาร และ ค่าอุปกรณ์ เป็นเงิน 1,060 บาท รวมเป็ นเงนิ ท้งั สิ้น 2,000 บาท (เงินสองพนั บาทถว้ น) หมายเหตุ : ทกุ รายการสามารถถวั เฉลี่ยได้
3.เครื่องมือและวธิ ีการในการประเมนิ ผล หลงั จากที่ไดด้ าํ เนินงานตามแผนของโครงการแลว้ น้ัน ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทา้ ยจะเป็ นกิจกรรมใน การประเมินผลโครงการ หากพิจารณาถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างการวางแผนกบั การประเมินผลโครงการ พบวา่ กิจกรรมท้งั สองมีความสมั พนั ธท์ ี่ตอ้ งดาํ เนินการควบคู่กนั โดยการวางแผนโครงการเป็นกิจกรรมของ การกาํ หนด แนวทางการนําไปปฏิบตั ิเพ่ือการบรรลุวตั ถุประสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเป็ น กิจกรรมสุดทา้ ยในการพิจารณาผลการดาํ เนินงานเป็นไปตามแผนที่กาํ หนดหรือไม่ 3.1 เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการเกบ็ ข้อมูล 3.1.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติและพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือการประเมินในคร้ังน้ี เป็ นแบบสอบถามที่ผรู้ ับผดิ ชอบ โครงการไดส้ ร้างข้ึนใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ และตวั ช้ีวดั ของโครงการ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐานส่วนบุคคล ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ ส่วนที่ 2 ความรู้เร่ืองไขเ้ ลือดออก แบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาํ ตอบเพียงคาํ ตอบเดียว คือ ถูก หรือ ผดิ จาํ นวน 10 ขอ้ กาํ หนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถูก ไดค้ ะแนนเท่ากบั 1 คะแนน ตอบผดิ ไดค้ ะแนนเท่ากบั 0 คะแนน ส่วนที่ 3 ทศั นคติตอ่ การป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออกแบบสอบถามเป็นแบบเลือก คาํ ตอบเพยี งคาํ ตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ เห็นดว้ ย ไม่แน่ใจ ไม่เห็นดว้ ย ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ขอ้ คาํ ถามมี ท้งั ดา้ นบวกและดา้ นลบจาํ นวน 10 ขอ้ กาํ หนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี คาํ ถามเชิงบวก คาํ ถามเชิงลบ คะแนน ได้ 1 เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ได้ 5 คะแนน ได้ 2 คะแนน คะแนน ได้ 3 คะแนน เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 4 คะแนน คะแนน ได้ 5 คะแนน ไม่แน่ใจ ได้ 3 คะแนน ไม่เห็นดว้ ย ได้ 2 ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 1 ส่วนท่ี 4 พฤติกรรมการปฏิบตั ิตวั ป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกแบบสอบถามเป็นแบบเลือกตอบเพียงคาํ ตอบเดียว คือ ปฏิบตั ิเป็ นประจาํ 7 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง 5-6 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง 3-4 วนั /สัปดาห์
ปฏิบตั ิบางคร้ัง 1-2 วนั /สัปดาห์ ไม่ไดป้ ฏิบตั ิเลย ขอ้ คาํ ถามเชิงบวก จาํ นวน 10 ขอ้ กาํ หนดเกณฑก์ ารให้ คะแนน ดงั น้ี ปฏิบตั ิเป็นประจาํ (7 วนั /สปั ดาห์) ได้ 5 คะแนน ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง (5-6 วนั /สปั ดาห์) ได้ 4 คะแนน ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง (3-4 วนั /สปั ดาห์) ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิบางคร้ัง (1-2 วนั /สัปดาห์) ได้ 2 คะแนน ไม่ไดป้ ฏิบตั ิเลย ได้ 1 คะแนน 3.1.2 แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพึงพอใจ ดงั น้ี ระดบั ความพงึ พอใจมากท่ีสุด 5 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจมาก 4 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง 3 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ย 2 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ยที่สุด 1 คะแนน 3.2 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.4.1 ประเมินโดยการใหท้ าํ แบบทดสอบก่อนใหค้ วามรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จดั ทาํ แบบบนั ทึก การสาํ รวจ เป็นสมุดบนั ทึกการสาํ รวจและกาํ จดั ลูกน้าํ โดยมีรายละเอียดการจดบนั ทึก ดงั น้ี 3.4.1.1 ชนิดภาชนะ 3.4.1.2 จาํ นวนภาชนะ 3.4.1.3 ภาชนะท่ีพบลูกน้าํ 3.4.1.4 การคาํ นวณคา่ CI (Container index) 3.4.2 นาํ สมุดบนั ทึกการสาํ รวจและกาํ จดั ลูกน้าํ ใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการบนั ทึก ณ วนั ทาํ โครงการ 3.4.3 ให้ทาํ แบบทดสอบหลงั ให้ความรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จดั เก็บสมุดบนั ทึกการสาํ รวจคืน จากผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ นาํ มาประเมินผล 3.4.4 หลงั จดั ทาํ โครงการ 7 วนั ทางผูจ้ ดั ทาํ โครงการลงพ้ืนท่ีท่ีจดั ทาํ โครงการอีกคร้ังโดยทาํ แบบ บนั ทึกการสาํ รวจและกาํ จดั ลูกน้าํ นาํ ผลการสาํ รวจคร้ังที่ 1 จากการสาํ รวจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ กบั คร้ังที่ 2 จากการลงสาํ รวจเองของทางผจู้ ดั ทาํ โครงการ นาํ มาเปรียบเทียบและประเมินผล 3.4.5 สรุปผลจากแบบทดสอบก่อนและหลงั ใหค้ วามรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จากแบบบนั ทึกการ สาํ รวจและกาํ จดั ลูกน้าํ คร้ังท่ี 1 และคร้ังที่ 2
3.3 การวเิ คราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูลดงั รายละเอียดต่อไปน้ี 1. การวเิ คราะห์ขอ้ มูลส่วนบุคคล ใชส้ ถิติการแจกแจงความถี่ ( Frequency ) และร้อยละ ( Percentage ) 2. การประเมินความพงึ พอใจ การประเมินความรู้ ใชส้ ถิติค่าเฉลี่ย ( Ẋ ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D.) 3.4 เกณฑ์ทใี่ ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล 3.4.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ 3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สําหรับเกณฑ์การประเมินระดับความรู้เก่ียวกับเร่ือง ไขเ้ ลือดออก แบ่งออกเป็ น 3 ระดบั โดยใชว้ ิธีการกาํ หนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของบลูม Bloom (1964อา้ งถึงใน สมนึก แกว้ วิไล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดงั น้ี ระดบั ความรู้ ร้อยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ดี 80.00 ข้ึนไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปานกลาง 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1.00 - 49.99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2 การแปลผลคะแนนสําหรับเกณฑ์การประเมินทศั นคติเก่ียวกบั การป้องกันและควบคุมโรค ไขเ้ ลือดออกโดยใชว้ ิธีการกาํ หนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงใน กลุ ธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั ทศั นคติ คา่ ระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่าํ 1.00 - 2.33 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนสําหรับเกณฑบ์ ่งช้ีพฤติกรรมการออกกาํ ลงั กาย โดยใชว้ ิธีการ กาํ หนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงในกุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั พฤติกรรม คา่ ระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่าํ 1.00 - 2.33
3.4.2 แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพงึ พอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉลี่ยสูงกวา่ 4.50 มีความพึงพอใจในระดบั มากที่สุด คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 3.50 – 4.49 มีความพึงพอใจในระดบั มาก คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 2.50 – 3.49 มีความพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 1.50 – 2.49 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉล่ียต่าํ กวา่ 1.50 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ยท่ีสุด 4.ผลการประเมนิ การดาเนินโครงการ 4.1 ข้อมูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบประเมนิ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมี 30 คน จากจาํ นวนท้งั หมด 30 คน คิดเป็ นร้อยละ100ซ่ึงขอ้ มูลทว่ั ไปใน เรื่องเพศ อายรุ ะดบั การศึกษา อาชีพ สถานภาพ มีขอ้ มูลดงั ตารางต่อไปน้ี ตารางท่ี 4.1.1 เพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ เพศ จานวน ร้อยละ หญิง 20 67.00 ชาย 10 33.00 รวม 30 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลเพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ เพศหญิง มีจาํ นวน 20คน คิดเป็นร้อยละ67 และเพศชายมีจาํ นวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 33 ตารางที่ 4.1.2 อายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อายุ จานวน ร้อยละ ต่าํ กวา่ 20 ปี 3 10 20-30 3 10 31-40 12 40 41-50 10 33 51 ปี ข้ึนไป 2 7 30 100 รวม จากตารางแสดงขอ้ มูลอายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบว่า อายุ 51 ปี ข้ึนไป มีจาํ นวน 2 คน คิดเป็ น ร้อยล7 อายุ 41-50 ปี มีจาํ นวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 33 อายุ 31-40 ปี มีจาํ นวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 40 อายุ 20-30 ปี มีจาํ นวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 10 และอายตุ ่าํ กว่า 20 ปี มีจาํ นวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 10 ตามลาํ ดบั
ตารางท่ี 4.1.3 ระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ระดบั การศึกษา จานวน ร้อยละ 13.4 ประถมศึกษา 4 20 33.3 มธั ยมศึกษา 6 33.3 0 อนุปริญญา 10 100 ปริญญาตรี 10 อ่ืน ๆ 0 รวม 30 จากตารางแสดงขอ้ มูลระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ ระดบั ประถมศึกษา มีจาํ นวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 13.4 ระดบั มธั ยมศึกษา มีจาํ นวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ระดบั ปริญญาตรีมีจาํ นวน 10 คน คิดเป็ นร้อยละ 33.3 ระดบั อนุปริญญา มีจาํ นวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3และ ระดบั อ่ืน ๆ มีจาํ นวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลาํ ดบั ตารางท่ี 4.1.4 อาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อาชีพ จานวน ร้อยละ นกั เรียน/นกั ศึกษา 1 3.3 ขา้ ราชการ 3 10 เกษตรกรรม 10 33.4 คา้ ขาย/ธุรกิจ 5 16.7 รับจา้ งทวั่ ไป/ลูกจา้ ง 1 3.3 ไม่ไดป้ ระกอบอาชีพ/ทาํ งานบา้ น 10 33.3 อ่ืน ๆ 0 0 รวม 30 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ อาชีพเกษตรกรรม มีจาํ นวน 10 คน คิด เป็นร้อยละ 33.4 ไม่ไดป้ ระกอบอาชีพ/ทาํ งานบา้ น มีจาํ นวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 อาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจ มีจาํ นวน 5 คน คิดเป็ นร้อยละ 16.7 อาชีพขา้ ราชการ มีจาํ นวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 10 อาชีพนกั เรียน/ นกั ศึกษา มีจาํ นวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.3 อาชีพรับจา้ งทวั่ ไป/ลูกจา้ ง มีจาํ นวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.3 อาชีพอื่น ๆ มีจาํ นวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลาํ ดบั
4.2 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ ตารางท่ี 4.2.1 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ รายการ สูงสุด ตา่ สุด เฉลย่ี ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ก่อนเขา้ อบรม 6 2 0.04 - - - - ผลการทดสอบ - - - 14 46.7 16 53.3 หลงั เขา้ อบรม 10 8 0.02 - - - - ผลการทดสอบ - - - 25 83.3 5 16.7 จากตารางท่ี 4.2.1 พบว่า แกนนาํ อสม.ที่เขา้ ร่วมโครงการมีคะแนนทดสอบความรู้ก่อนเขา้ รับ การบรรยายเก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออก ไดค้ ะแนนสูงสุด 6 คะแนน คะแนนต่าํ สุด 2 คะแนน และมี คะแนนเฉลี่ย 0.04 คะแนน มีจาํ นวนผผู้ า่ นเกณฑจ์ าํ นวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 46.7 มีจาํ นวนผไู้ ม่ผา่ นเกณฑ์ จาํ นวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 53.3 และหลงั จากการเขา้ รับการบรรยายเกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออก มีผทู้ ดสอบ ความรู้ไดค้ ะแนนสูงสุด 10 คะแนน คะแนนต่าํ สุด 8 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ย 0.02 คะแนน มีจาํ นวนผู้ ผา่ นเกณฑจ์ าํ นวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 83.3 ซ่ึงผา่ นตามตวั ช้ีวดั ในหวั ขอ้ จุดประสงคม์ ีผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ร้อยละ 8๐ มีความรู้เก่ียวกบั การควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกในระดบั ดี ตารางที่ 4.2.2 คะแนนการทดสอบประเมินความรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 2 6 20 3 5 16.7 4 5 16.7 5 10 33.3 6 4 13.3 รวม 30 100 จากตารางที่ 4.2.2 พบว่าคะแนนทดสอบการประเมินความรู้ก่อนเขา้ ร่วมโครงการ มี คะแนนสูงสุด 5 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 33.3 และคะแนนต่าํ สุด 6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 13.3
ตารางที่ 4.2.3 คะแนนการทดสอบประเมินความรู้หลงั เข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 8 7 23.3 9 10 33.3 10 13 43.4 รวม 30 100 จากตารางที่ 4 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้หลงั เขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนน สูงสุด 10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 43.4 และคะแนนต่าํ สุด 8 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 23.3 4.3 ผลการทาแบบประเมินความพงึ พอใจ ระดบั ความพงึ พอใจ ตารางท่ี 4.3.1 ค่าเฉลย่ี ของความพงึ พอใจต่อโครงการภาพรวม x S.D แปลผล ลาดับท่ี ประเดน็ 4.673 0.193 มากที่สุด 4.786 0.173 มากท่ีสุด 1. ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม 4.678 0.219 มากที่สุด 2. ความพึงพอใจดา้ นวิทยากร 4.743 0.183 มากที่สุด 3. ความพึงพอใจดา้ นสิ่งอาํ นวยความสะดวก 4. ความพึงพอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม จากตารางที่ 4.3.1 ค่าเฉล่ียของความพึงพอใจต่อโครงการภาพรวม พบว่ามีความพึงพอใจดา้ น คุณภาพการใหบ้ ริการมากท่ีสุด( x = 4.833 ) รองลงมา ความพึงพอใจดา้ นเจา้ หนา้ ท่ีผใู้ หบ้ ริการ ( x = 4.786 ) และ ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ / ข้นั ตอนการดาํ เนินโครง การ ( x = 4.673 ) นอ้ ยที่สุด
ตารางท่ี 4.3.2 ค่าเฉลยี่ ของผลประเมินความพงึ พอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ รายละเอยี ด ระดับความพงึ พอใจ x S.D แปลผล 1. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กจิ กรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 4.55 0.52 สูง 1.2 ลาํ ดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 สูง 1.3 ระยะเวลาที่ใชใ้ นการจดั กิจกรรม 4.41 0.57 สูง 1.4 เอกสารและสื่อประกอบในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 ต่าํ 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 4.50 0.55 สูง 2. ความพงึ พอใจด้านวทิ ยากร 2.1 การถ่ายทอดความรู้ของวทิ ยากรมีความชดั เจน 4.56 0.59 สูง 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 4.45 0.54 สูง 3. ความพงึ พอใจด้านส่ิงอานวยความสะดวก 3.1 สถานท่ีจดั กิจกรรม 4.43 0.61 สูง 3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 2.11 1.09 ต่าํ 4. ความพงึ พอใจด้านคุณภาพการจัดกจิ กรรม 4.1 ท่านไดร้ ับประโยชนจ์ ากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ งคุม้ คา่ 4.29 0.72 สูง 4.2 ท่านสามารถนาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น 4.29 0.65 สูง ชีวิตประจาํ วนั 3.84 0.34 สูง ผลรวม
4.4 สรุปผลการดาเนินงานโครงการ โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จังหวดั นครศรีธรรมราช มีวตั ถุประสงค์เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในการควบคุมป้องกันโรค ไขเ้ ลือดออกที่ถูกวธิ ีและเหมาะสม เพือ่ ลดคา่ ดชั นีลูกน้าํ ยงุ ลายในชุมชน (HI,CI) และเพ่อื ใหป้ ระชาชนมีส่วน ร่วมในการป้องกนั และทาํ ลายแหล่งเพาะพนั ธุล์ ูกน้าํ ยงุ ลายในครัวเรือน เป้าหมายเชิงคุณภาพ คือประชาชนมี ความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกไดใ้ นระดบั ดี และเป้าหมายเชิงปริมาณ คือ อสม. และตวั แทนครัวเรือน หมู่ที่ 8ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช เขา้ ร่วมโครงการร้อย ละ 100 และมีค่าดชั นีลูกน้าํ ยุงลาย (HI,CI) ลดลงร้อยละ 10 รับผิดชอบโครงการโดยนางาสาววุธาสินี นุ่มนวล หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 รุ่นท่ี 15 โครงการน้ีไดด้ าํ เนินโครงการที่หมู่ท่ี 8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ต้งั แต่วนั ที่ 5เมษายน – 8 เมษายน 2563 ข้นั ตอนการดาํ เนินงานท่ีสาํ คญั คือ วนั จดั กิจกรรม ใหผ้ เู้ ขา้ ร่วม โครงการทาํ แบบทดสอบก่อนและหลงั ให้ความรู้ มีการบรรยายให้ความรู้เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออกและ วิธีการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกตามหลกั 5 ป 1 ข รวมท้งั ทาํ กิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) เพื่อระดมสมอง และทาํ แบบประเมินความพึงพอใจ ส่วนวนั เดินรณรงค์ มีใหค้ วามรู้เร่ืองการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออก พร้อม ท้งั แจกแผน่ พบั และทราย Temephos จากการสาํ รวจขอ้ มูลครัวเรือนหมู่ท่ี8 ตาํ บลกรุงหยนั อาํ เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช เดือนเมษายน 2563 มีจาํ นวนครัวเรือนท้งั สิ้น 350 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสาํ รวจครัวเรือน พบวา่ มีลูกน้าํ ยงุ ลาย จาํ นวน 256 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสาํ รวจภาชนะ พบลูกน้าํ ยงุ ลายในภาชนะ 280 ใบ มีค่าร้อยละของภาชนะ สาํ รวจท่ีพบลูกน้าํ ยุงลาย (Container Index) คิดเป็นร้อยละ 16 ซ่ึงเกินจากเกณฑท์ ่ีกระทรวงสาธารณสุข กาํ หนดไว้ (HI<10 %, CI = 0 %) หลงั จากดาํ เนินโครงการไดท้ าํ การสาํ รวจครัวเรือน เดือนเมษายน 2563 จาํ นวนครัวเรือนท้งั สิ้น 350 ครัวเรือน พบว่า มีลูกน้าํ ยงุ ลาย จาํ นวน 80 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสาํ รวจภาชนะ พบลูกน้าํ ยงุ ลายในภาชนะ 80ใบ โดยมีค่าร้อยละของบา้ นสาํ รวจที่พบลูกน้าํ ยงุ ลาย (House Index) และมีค่า ร้อยละของภาชนะสาํ รวจท่ีพบลูกน้าํ ยงุ ลาย (Container Index) คิดเป็นร้อยละ 1.04 ดงั น้นั จะเห็นไดว้ ่าค่า ดชั นีลูกน้าํ ยงุ ลาย (HI,CI) มีค่าลดลง สรุปจากการทาํ โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออกในคร้ังน้ี พบว่าหลงั จากท่ี กลุ่มเป้าหมายที่เขา้ ร่วมรับฟังการให้ความรู้เร่ืองการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออก กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความ เขา้ ใจและรู้จกั เลือกใชว้ ิธีการป้องกนั ตนเองและครอบครัวใหห้ ่างไกลจากโรคไขเ้ ลือดออก โดยอาศยั หลกั 5
ป 1 ข และวิธีการป้องกนั ตนเองแบบอ่ืนร่วมดว้ ย ทาํ ใหอ้ ตั ราป่ วยและค่าดชั นีลูกน้าํ ยงุ ลายของชาวบา้ นหมู่ 4 ลดลง 4.5 ประโยชน์จากการทาโครงการ - ทาํ ใหเ้ กิดการพฒั นาความคิดและไดฝ้ ึกทกั ษะการวางแผนอยา่ งเป็นระบบและการกาํ หนด รูปแบบ ต่างๆใหส้ อดคลอ้ งกนั - ทาํ ใหไ้ ดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั การทาํ งาน ประสานงาน และติดต่อกบั หน่วยงานต่าง ๆ พร้อมท้งั มี การ วางแผนการทาํ งานอยา่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะการทาํ งานร่วมกบั คนในชุมชน เพอ่ื ใชเ้ ป็นแนวทางแก่การทาํ งานในอนาคต - การรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืนรวมไปถึงการประสานงานหรือการติดต่อกบั หน่วยงานต่างๆ - ทาํ ใหร้ ู้จกั การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เม่ือเจอเหตุการณ์ท่ีไม่ไดเ้ ป็นไปตามแผนที่กาํ หนดไว้ 4.6 ปัญหาและอปุ สรรค - การดาํ เนินโครงการไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กาํ หนด - ผสู้ ูงอายมุ ีเวลาจาํ กดั ทาํ ใหต้ อ้ งเร่งการจดั กิจกรรม - นกั ศึกษาผบู้ รรยายใหค้ วามรู้มีความต่ืนเตน้ พดู เร็ว จึงทาํ ใหผ้ สู้ ูงอายฟุ ังไม่ทนั - เน่ืองจากกลมุ่ เป้าหมายมีจาํ นวนมาก นกั ศึกษาผบู้ รรยายจึงไม่สามารถตอบขอ้ ซกั ถามไดอ้ ยา่ ง ทวั่ ถึง 4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีความพร้อมในการดาํ เนินโครงการ 2. การทาํ กิจกรรมควรใชร้ ะยะเวลาใหส้ ้นั กระชบั 3. ควรใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการมีส่วนร่วมมากข้ึน เช่น การถาม-ตอบ เป็นตน้ 4. ส่ือท่ีใชค้ วรเนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ รวมถึงควรใชต้ วั อกั ษรท่ีเห็นชดั เจน 5. ปรับการพดู ใหช้ า้ ลง
5.แนวทางการพฒั นางาน 5.1 แนวทางการพฒั นางาน จากการจดั ประชุมกลุ่มเพือ่ พิจารณาหาขอ้ ผดิ พลาด ปัญหาและอุปสรรคของการทาํ งานรวม ไปถึงขอ้ เสนอแนะจากผดู้ ูแลโครงการ ซ่ึงนาํ มาสะทอ้ นถึงขอ้ ผดิ พลาดและสาเหตุท่ีเกิดข้ึน และนาํ มาพฒั นา ในการจดั โครงการหรือกิจกรรมอ่ืน ๆ ร่วมกบั ชุมชนต่อไป ปัญหา สาเหตุ แนวทางการแก้ไข ก า ร พู ด ต้อ ง มี ค ว า ม มั่น ใ จ เน่ืองจากขาดประสบการณ์ จึงทาํ ให้ การดาํ เนินงานในคร้ังต่อไปจะ ใบหน้ายิ้มและการใช้น้ําเสียง การพูดติดขดั และสถานท่ีเป็ นลานกวา้ ง มีการวางแผน การเตรียมความ ตอ้ งสม่าํ เสมอ จึงทาํ ใหเ้ วลาพดู จะไม่คอ่ ยไดย้ นิ พร้อมก่อนการดาํ เนินกิจกรรม การดําเนินโครงการที่ไม่ เวลาในการประสานงาน รวมไปถึง การดําเนินงานคร้ังต่อไป เป็ นไปตามระยะเวลาท่ีกาํ หนด การบรรยายปรับแก้ล่าช้าและการไม่รู้ จะต้องมีการวางแผนและ และการประชาสัมพนั ธ์ยงั ไม่ กาํ หนดการ ทาํ ให้ระยะเวลาดาํ เนินงาน จดั สรรเวลาในการดาํ เนินงาน ทว่ั ถึง ไม่สัมพนั ธ์กับระยะเวลาที่กาํ หนด และ ให้เป็ นระบบไม่ยืดย้ือเกินไป การประชาสมั พนั ธไ์ ม่ทวั่ ถึง เพื่อให้ระยะเวลาเหมาะสม ตามท่ีกาํ หนด นาํ เสนอวิชาการส่ือที่ใชค้ วร เนื่องจากขาดประสบการณ์ในการ นํา ในการวางแผนจดั ทาํ กิจกรรม เนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ เสนองานในแหล่งชุมชน จึงมีการเนน้ ไป ค ร้ั ง ต่ อ ไ ป จ ะ ต้อ ง มี ก า ร ท่ีวชิ าการ คํานึงถึง กลุ่มเป้าหมายและ ระดบั ความรู้ ความสนใจของ กลุ่มเป้าหมาย ท้งั น้ี สื่อจะตอ้ ง มีเน้ือหาที่กระชับและส่ือ ให้ เขา้ ใจไดง้ ่าย
Search