Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรียงความแก้กระทู้ธรรม นักธรรมชั้นตรี Deconstruction

เรียงความแก้กระทู้ธรรม นักธรรมชั้นตรี Deconstruction

Published by mahakor.2018, 2021-05-08 11:30:45

Description: เรียงความแก้กระทู้ธรรม นักธรรมชั้นตรี Deconstruction

Keywords: กระทู้ธรรม

Search

Read the Text Version

หลกั ปฏิบตั ิ และระเบยี บการตรวจ หลกั ปฏิบตั ิในการสอบสนามหลวง วิชา กระทู้ธรรม ๑. แต่งตามกระทธู้ รรมสภุ าษติ ทกี ําหนดให้ ๒. อธบิ ายขยายเนือความกระทธู้ รรมสุภาษติ นนั ใหส้ มเหตุสมผล ๓. อ้างสุภาษิตบทอืนพร้อมบอกทมี า มาอธิบายประกอบด้วย ๑ สุภาษิตใน หนงั สอื พุทธสุภาษติ เล่ม ๑ ๔. เชอื มความระหว่างสุภาษิตทนี ํามาเชอื มกบั สุภาษิตบทตงั ให้สนิทติดต่อสม เรอื งกนั ดว้ ยเหตุผล ๕. ใหเ้ ขยี นลงในกระดาษสอบ ตงั แต่ ๒ หน้า (เวน้ บรรทดั ) ขนึ ไป ระเบียบการตรวจกระท้ธู รรมสนามหลวง แม่กองธรรมสนามหลวง ไดก้ ําหนดแนวทางในการตรวจวชิ าเรยี งความแก้กระทู้ ธรรม และพจิ ารณาใหค้ ะแนน โดยมหี ลกั เกณฑ์ ดงั นี ๑. แต่งไดค้ รบตามกําหนด (ตงั แต่ ๒ หน้ากระดาษขนึ ไป) ๒. อา้ งสภุ าษติ เชอื มไดต้ ามกฎ (๑ สุภาษติ ) ๓. เชอื มความกระทไู้ ดด้ ี ๔. อธบิ ายความสมกบั กระททู้ ตี งั ไว้ ๕. ใชส้ าํ นวนสุภาพเรยี บรอ้ ย ๖. ใชต้ วั สะกดการนั ตถ์ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษา ๗. สะอาดไมเ่ ปรอะเปือน ฯ ในวชิ านี ผขู้ อเขา้ สอบธรรมสนามหลวง ต้องไดค้ ะแนนตงั แต่ ๒๕ คะแนนขนึ ไป จงึ ถอื ว่าสอบผา่ น ๔๓

ตวั อย่างปัญหาวิชาเรยี งความแก้กระทู้ธรรม ๔๔

ตวั อย่างการเขียนเรยี งความแก้กระทู้ธรรม ปาปานํ อกรณํ สขุ ํ การไมท่ าํ บาป นําสขุ มาให้ ณ บดั นี จักได้อรรถาธิบายขยายความแห่งกระทู้ธรรมภาษิต ทีได้ลิขติ ไว้ ณ เบอื งต้น พอเป็นแนวทางแห่งการศกึ ษา และประพฤตปิ ฏบิ ตั สิ ําหรบั ผสู้ นใจใคร่ในธรรม สบื ต่อไป คําว่า บาป หมายถึง ความไม่ดีทุกอย่าง เช่น อกุศล โทษ ความผดิ ทุจรติ เวร ธรรมดาํ ทุกข์ ยาก ลาํ บาก เหน็ดเหนือย เจบ็ ปวดความชวั เป็นตน้ หรอื ถา้ จะแปลกม็ กั จะ แปลว่า ความชัว อันหมายถึงความไม่ดีนันเอง ส่วนท่านผู้รู้คัมภีร์ศัพทศาสตร์ให้ ความหมายของคําว่า บาป ไว้หลายนัย เช่น สงิ ทคี นดที งั หลายพงึ ป้องกนั ตวั เอาไว้ให้ ห่างไกล หรอื สงิ ทเี ป็นเหตุให้คนถึงอบาย คอื กลายสภาพเป็นดริ จั ฉาน เปรต สตั ว์นรก และ อสุรกาย เป็นตน้ สงิ ทจี ดั วา่ เป็นบาปนนั พระพทุ ธศาสนาจดั สงิ ทเี ป็นบาปไวต้ ามโทษ หนักเบา ดงั นี บาปทมี โี ทษหนกั ทสี ุด คอื นิยตมจิ ฉาทฏิ ฐิ แปลว่า ความเหน็ ทแี น่นอนดงิ ลงไป แกไ้ ขไมไ่ ด้ ๓ อยา่ ง คอื อกริ ยิ ทฏิ ฐิ เหน็ ว่า ทาํ บาปหรอื ทาํ บญุ กเ็ ป็นเพยี งแต่กริ ยิ า ทที าํ เท่านนั ไมไ่ ดเ้ ป็นบาปหรอื เป็นบุญ ดงั ทศี าสนาทงั หลายสอนเลย ๑ อเหตกุ ทฏิ ฐิ เหน็ ว่าความสุขหรอื ความทุกขข์ องมนุษยล์ ว้ นเกดิ ขนึ เอง ไม่ไดเ้ กดิ มาจากเหตุใด ๆ ทงั สนิ ๑ นัตตกิ ทฏิ ฐิ เหน็ ว่าไม่มอี ะไร คอื บาปก็สูญ บุญก็สูญ คนตายแล้วกส็ ูญ ๑ ส่วนบาปทมี ี โทษหนักรองจากนันได้แก่ อนันตริยกรรม ๕ อย่าง คือ มาตุฆาต ฆ่ามารดา ๑ ปิตุฆาต ฆ่าบดิ า ๑ อรหนั ตฆาต ฆ่าพระอรหนั ต์ ๑ โลหติ ุปบาท ทํารา้ ยพระศาสดา จนถงึ พระโลหติ หอ้ ขนึ ๑ สงั ฆเภท ทาํ ลายสงฆใ์ หแ้ ตกกนั ๑ ทงั ๕ ประเภทนี ใครทาํ หลงั จากตายไปต้องตกนรกทนั ที บาปทมี โี ทษถึงนําไปสู่อบายก็ได้ หรอื ทีทําให้ได้รบั ความทุกขค์ วามเดอื ดรอ้ น เช่น ทําใหอ้ ายุสนั มโี รคมาก ยากจนเขญ็ ใจ เป็นต้นกไ็ ด้ มี ๑๐ อยา่ ง เป็นการกระทาํ ทางกาย ๓ อยา่ ง คอื ฆา่ สตั ว์ ๑ ลกั ทรพั ย์ ๑ ประพฤตผิ ดิ ใน กาม ๑ เป็นการพูดทางวาจา ๔ อย่าง คือ พูดเท็จ ๑ พูดส่อเสยี ดทําให้คนแตก สามคั คีกนั ๑ พูดคําหยาบ ๑ พูดเพ้อเจ้อ ทําให้ผู้อืนเชือถือเองไร้สาระ ๑ เป็น ความคดิ ชวั ทางใจ ๓ อยา่ ง คอื โลภอยากไดข้ องคนอนื อยา่ งผดิ ศลี ธรรม ๑ คดิ รา้ ยทาํ ลาย ผอู้ นื ๑ มคี วามเหน็ ผดิ ไม่เชอื เรอื งบาปบุญคุณโทษ ๑ การทําบาป หมายถงึ การทํา การพดู และการคดิ สงิ ทจี ดั ว่าเป็นบาปเหล่านีเอง คอื ถอื มนั มจิ ฉาทฏิ ฐทิ งั ๓ อย่าง ๔๕

หรอื อย่างใดอย่างหนึง กระทําอนันตรยิ กรรมมกี ารฆ่ามารดาบดิ าเป็นต้น หรอื ทํากาย ทุจรติ ๓ พดู วจที ุจรติ ๔ และมใี จประกอบดว้ ยมโนทจุ รติ ๓ ดงั กลา่ วแลว้ การทาํ บาป ต่าง ๆ ดงั กล่าวมานีลว้ นแต่ก่อใหเ้ กดิ ความทกุ ข์ ความเดอื ดรอ้ นทงั แก่ผทู้ ําและบุคคลอนื ผู้เกียวข้องทงั สิน แต่ก็ยงั มคี นอีกเป็นจํานวนมากทีชอบทํา ทีเป็นเช่นนี ก็เพราะคน ส่วนมากยงั มบี าปอยู่ในใจ คนทมี เี ชอื บาปอยู่ในใจย่อมทําความชวั ได้ง่าย สมดงั ทอี งค์ สมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั ไวใ้ น ขทุ ฺทกนกิ าย อุทาน วา่ ปาปํ ปาเปน สกุ รํ ความชวั อนั คนชวั ทาํ งา่ ย บาปทีทํานัน อย่างหนักทําให้ตกโลกันตริกนรก รองลงมาทําให้ตกนรกอเวจี รองลงมาจากนนั ทําใหก้ ลายสภาพเป็นดริ จั ฉาน เป็นเปรต เป็นอสุรกาย หรอื เบากวา่ นนั ถ้าเกิดมาเป็นมนุษย์ ก็จะทําให้มีอายุสัน มีโรคเบียดเบียน ทํากินไม่ขึนมีอุปสรรค ประสบภยนั ตรายต่าง ๆ เป็นตน้ สว่ นการไมท่ าํ บาป คอื เป็นคนทปี ระกอบดว้ ยสมั มาทฏิ ฐิ มคี วามคดิ เหน็ ทีส่งเสรมิ ศีลธรรม งดเว้นเด็ดขาดจากอนันตรยิ กรรม และเว้นขาดจาก การฆา่ สตั ว์ การลกั ทรพั ย์ การประพฤตผิ ดิ ในกาม การพดู เทจ็ การพดู สอ่ เสยี ด การพดู คาํ หยาบ การพดู เพอ้ เจอ้ การโลภอยากไดอ้ ย่างผดิ ศลี ธรรม ความคดิ รา้ ยทาํ ลายผอู้ นื ยอ่ ม นําความสุขมาให้ทังแก่ตนเอง ครอบครัวและสังคม จากหลักธรรมคําสอนของ พระพทุ ธศาสนา ดงั ไดบ้ รรยายมาแต่โดยยอ่ นี พอสรุปใจความไดว้ ่า ความสุขทแี ทจ้ รงิ จะเกดิ ขนึ ได้ อนั ดบั แรกตอ้ งเวน้ จากการทําบาป คอื ความชวั เสยี ก่อน เหมอื นคนจะแต่งตวั ใหส้ วยงาม ต้องอาบนําชําระกายใหส้ ะอาดเสยี ก่อน เพราะถา้ เนือตวั สกปรก จะแต่งอย่างไรกค็ งไม่ งาม ความสุขของมนุษย์ก็เช่นเดียวกนั ถึงแม้จะมที รพั ย์สนิ เงนิ ทอง ยศศกั ดมิ ากมาย อยา่ งไร ถา้ ไมม่ กี ารงดเวน้ จากการทาํ บาป เชน่ ฆา่ ฟัน ประหดั ประหารกนั เป็นตน้ กย็ าก ทจี ะหาความสุขไดอ้ ย่างแทจ้ รงิ สมดงั ธรรมสุภาษติ ทไี ดย้ กมาเป็นนิกเขปบท ณ เบอื งตน้ นนั วา่ ปาปานํ อกรณํ สขุ ํ การไมท่ าํ บาปนําความสขุ มาให้ ดงั ไดอ้ รรถาธบิ ายมาดว้ ยประการฉะนี ฯ ๔๖

พทุ ธศาสนสภุ าษิตทีควรจาํ สาํ หรบั นักธรรมชนั ตรี ๑. อตั ตวรรค หมวดตน อตฺตา หเว ชติ ํ เสยฺโย. ชนะตนนนั แหละ เป็นด.ี ข.ุ ธ. ๒๕/๒๙. อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ. ตนแล เป็นทพี งึ ของตน. ข.ุ ธ. ๒๕/๓๖,๖๖. นตฺถิ อตฺตสมํ เปม.ํ ความรกั (อนื ) เสมอดว้ ยตนไมม่ .ี ส.ํ ส. ๑๕/๙. อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑติ า. บณั ฑติ ยอ่ มฝึกตน. ม. ม. ๑๓/๔๘๗. ข.ุ ธ. ๒๕/๒๕. ข.ุ เถร. ๒๖/๓๘๙ ปฏมิ เํ สตมตฺตนา. จงพจิ ารณาตนดว้ ยตนเอง. ข.ุ ธ. ๒๕/๖๖. อตฺตานํ นาตวิ ตฺเตยฺย. บุคคลไมค่ วรลมื ตน. ข.ุ ชา. ตสึ . ๒๗/๕๐๓. ๔๗

๒. อปั ปมาทวรรค หมวดไมป่ ระมาท อปปฺ มาทํ ปสสํ นฺต.ิ บณั ฑติ ยอ่ มสรรเสรญิ ความไมป่ ระมาท. ส.ํ ส. ๑๕/๑๒๖. องฺ. ป ฺจก. ๒๒/๕๓. ข.ุ ธ. ๒๕/๑๙. ข.ุ อติ .ิ ๒๕/๒๔๒. อปปฺ มาเทน สมฺปาเทถ. ท่านทงั หลายจงยงั ความไมป่ ระมาทใหถ้ งึ พรอ้ ม. ท.ี มหา. ๑๐/๑๘๐. ส.ํ ส. ๑๕/๒๓๑. อปปฺ มาทรตา โหถ. ทา่ นทงั หลายจงเป็นผยู้ นิ ดใี นความไมป่ ระมาท. ข.ุ ธ. ๒๕/๕๘. อปปฺ มาทญฺจ เมธาวี ธนํ เสฏฐํว รกฺขติ. ปราชญย์ อ่ มรกั ษาความไมป่ ระมาทไว้ เหมอื นทรพั ยป์ ระเสรฐิ สุด. ม. ม. ๑๓/๔๘๘. ส.ํ ส. ๑๕/๓๖. ข.ุ ธ. ๒๕/๑๘. ข.ุ เถร. ๒๖/๓๙๐. ๓. กมั มวรรค หมวดกรรม สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทคุ ฺคต.ึ กรรมชวั ของตนเอง ยอ่ มนําไปสทู่ คุ ต.ิ ข.ุ ธ. ๒๕/๔๗. สุกรํ สาธนุ า สาธ.ุ ความดี อนั คนดที าํ งา่ ย. ว.ิ จลุ . ๗/๑๙๕. ข.ุ อุ. ๒๕/๑๖๗. สาธุ ปาเปน ทกุ ฺกร.ํ ความดี อนั คนชวั ทาํ ยาก. ว.ิ จลุ . ๗/๑๙๕. ข.ุ อ.ุ ๒๕/๑๖๗. ๔๘

กลฺยาณการี กลฺยาณํ. ปาปการี จ ปาปก.ํ ทาํ ดไี ดด้ ี ทาํ ชวั ไดช้ วั . ส.ํ ส. ๑๕/๓๓๓. ข.ุ ชา. ทกุ . ๒๗/๘๔. กมฺมนุ า วตฺตตี โลโก. สตั วโ์ ลกยอ่ มเป็นไปตามกรรม. ม. ม. ๑๓/๖๔๘. ข.ุ ส.ุ ๒๕/๔๕๗. นิสมฺม กรณํ เสยฺโย. ใคร่ครวญกอ่ นแลว้ จงึ ทาํ ดกี ว่า. ว. ว. ๔. จิตตวรรค หมวดจิต จติ ฺตํ ทนฺตํ สขุ าวห.ํ จติ ทฝี ึกแลว้ นําสุขมาให.้ ข.ุ ธ. ๒๕/๑๙. วิหญฺญตี จิตฺตวสานวุ ตฺตี. ผปู้ ระพฤตติ ามอาํ นาจจติ ยอ่ มลาํ บาก. ข.ุ ชา. ทุก. ๒๗/๙๐. สจติ ฺตมนุรกฺขถ. จงตามรกั ษาจติ ของตน. ข.ุ ธ. ๒๕/๕๘. จติ ฺตํ รกฺเขถ เมธาว.ี ผมู้ ปี ัญญาพงึ รกั ษาจติ . ข.ุ ธ. ๒๕/๑๙. ๔๙

๕. ปัญญาวรรค หมวดปัญญา นตฺถิ ปญญฺ าสมา อาภา. แสงสว่างเสมอดว้ ยปัญญา ไมม่ .ี ส.ํ ส. ๑๕/๙. ปญญฺ า โลกสฺมึ ปชฺโชโต. ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก. ส.ํ ส. ๑๕/๖๑. ปญญฺ า นรานํ รตนํ. ปัญญาเป็นรตั นะของนรชน. ส.ํ ส. ๑๕/๕๐. สุสสฺ สู ํ ลภเต ปญฺญํ อปปฺ มตฺโต วจิ กขฺ โณ. ผไู้ มป่ ระมาท พนิ จิ พจิ ารณา ตงั ใจฟัง ยอ่ มไดป้ ัญญา. ส.ํ ส. ๑๕/๓๑๖. ข.ุ สุ. ๒๕/๓๖๑. ๖. ปมาทวรรค หมวดประมาท ปมาโท มจฺจุโน ปท.ํ ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย. ข.ุ ธ. ๒๕/๑๘. ข.ุ ชา. ตสึ . ๒๗/๕๒๔. ปมาทมนุยญุ ฺชนตฺ ิ พาลา ทุมเฺ มธิโน ชนา. คนพาลมปี ัญญาทราม ยอ่ มประกอบแตค่ วามประมาท. ม. ม. ๑๓/๔๘๘. ส.ํ ส. ๑๕/๓๖. ๗. ธมั มวรรค หมวดธรรม ธมฺโม สุจณิ ฺโณ สุขมาวหาต.ิ ธรรมทปี ระพฤตดิ แี ลว้ นําสุขมาให.้ ส.ํ ส. ๑๕/๕๘. ข.ุ ส.ุ ๒๕/๓๖๐. ๕๐

ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺจาร.ึ ธรรมแล ยอ่ มรกั ษาผปู้ ระพฤตธิ รรม. ข.ุ ชา. ทสกฺ ๒๗/๒๙๐. ข.ุ เถร. ๒๖/๓๑๔. ๘. ปญุ ญวรรค หมวดบุญ ปญุ ญฺ ํ สุขํ ชีวิตสงฺขยมหฺ ิ. บญุ นําสขุ มาใหใ้ นเวลาสนิ ชวี ติ . ข.ุ ธ. ๒๕/๕๙. ปญุ ฺญานิ ปรโลกสมฺ ึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ. บุญเป็นทพี งึ ของสตั วใ์ นโลกหน้า. ส.ํ ส. ๑๕/๒๖. องฺ. ป ฺจก. ๒๒/๔๔. ปญุ ญฺ านิ กยิราถ สขุ าวหานิ. ควรทาํ บญุ อนั นําสุขมาให.้ ส.ํ ส. ๑๕/๓. องฺ. ตกิ . ๒๐/๑๙๘. สโุ ข ปญุ ญฺ สฺส อจุ ฺจโย. ความสงั สมขนึ ซงึ บญุ นําสขุ มาให.้ ข.ุ ธ. ๒๕/๓๐. ๙. สีลวรรค หมวดศีล สขุ ํ ยาว ชรา สลี .ํ ศลี นําสขุ มาใหต้ ราบเทา่ ชรา. ข.ุ ธ. ๒๕/๕๙. สลี ํ รกฺเขยฺย เมธาว.ี ปราชญพ์ งึ รกั ษาศลี . ข.ุ อติ .ิ ๒๕/๒๘๒ ๕๑

๑๐. ปาปวรรค หมวดบาป ปาปานํ อกรณํ สขุ .ํ การไมท่ าํ บาป นําสุขมาให.้ ข.ุ ธ. ๒๕/๕๙. มาลา เว ปาปกา ธมฺมา อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ. บาปธรรมเป็นมลทนิ แท้ ทงั ในโลกนี ทงั ในโลกอนื . องฺ. อฏฺฐก. ๒๓/๑๙๘. ข.ุ ธ. ๒๕/๔๗. ๑๑. สติวรรค หมวดสติ สตมิ โต สทา ภทฺท.ํ คนผมู้ สี ติ มคี วามเจรญิ ทุกเมอื . ส.ํ ส. ๑๕/๓๐๖. สตมิ า สขุ เมธต.ิ คนมสี ติ ยอ่ มไดร้ บั ความสุข. ส.ํ ส. ๑๕/๓๐๖. ๑๒. ทานวรรค หมวดทาน พาลา หเว นปปฺ สสํ นฺติ ทานํ. คนพาลเท่านนั ยอ่ มไมส่ รรเสรญิ ทาน. ข.ุ ธ. ๒๕/๓๘. ททโต ปญุ ฺญํ ปวฑฒฺ ต.ิ เมอื ให้ บญุ กเ็ พมิ ขนึ . ท.ี มหา. ๑๐/๑๕๙. ข.ุ อ.ุ ๒๕/๒๑๕. ๕๒

๑๓. มจั จวุ รรค หมวดมฤตยู สพฺเพว นิกฺขปิ ิสฺสนฺติ ภูตา โลเก สมุสฺสย.ํ สตั วท์ งั ปวง จกั ทอดทงิ ร่างไวใ้ นโลก. ท. มหา. ๑๐/๑๘๑. ส.ํ ส. ๑๕/๒๓๒. อฑฺฒา เจว ทฬทิ ฺทา จ สพฺเพ มจฺจปุ รายนา. ทงั คนมที งั คนจน ลว้ นมคี วามตายเป็นเบอื งหน้า. ท.ี มหา. ๑๐/๑๔๑. ข.ุ ชา. เอก. ๒๗/๓๑๗. ๑๔. สมณวรรค หมวดสมณะ น หิ ปพพฺ ชิโต ปรูปฆาตี สมโณ โหติ ปรํ วเิ หฐยนฺโต. บรรพชติ ฆา่ ผอู้ นื เบยี ดเบยี นผอู้ นื ไมเ่ ป็นสมณะเลย. ท.ี มหา. ๑๐/๕๗. ข.ุ ธ. ๒๕/๔๐. สมโณ อสฺส สุสฺสมโณ. สมณะ พงึ เป็นสมณะทดี .ี ว.ิ มหาวภิ งฺค. ๑/๒๙๘. สามญเฺ ญ สมโณ ติฏฺเฐ. สมณะ พงึ ตงั อยใู่ นภาวะแหง่ สมณะ. ส. ส. อสญญฺ โต ปพพฺ ชิโต น สาธุ. บรรพชติ ผไู้ มส่ าํ รวม ไมด่ .ี ข.ุ ชา. วสี . ๒๗/๔๔๖. ๑๕. ปกิณณกวรรค หมวดเบด็ เตลด็ ยงกฺ ญิ จฺ ิ สมุทยธมมฺ ํ สพพฺ นฺตํ นโิ รธธมมฺ .ํ สงิ ใดสงิ หนึงมคี วามเกดิ ขนึ เป็นธรรมดา สงิ นนั ลว้ นมคี วามดบั ไปเป็นธรรมดา. ส.ํ มหา. ๑๙/๕๓๑. ๕๓

สงฺขารา สสฺสตา นตฺถ.ิ สงั ขารทยี งั ยนื ไมม่ .ี ข.ุ ธ. ๒๕/๔๙. กาโล ฆสติ ภูตานิ สพพฺ าเนว สหตฺตนา. กาลเวลา ยอ่ มกนิ สรรพสตั วพ์ รอ้ มทงั ตวั มนั เอง. ข.ุ ชา. ทุก. ๒๗/๙๕. วโส อสิ ฺสรยิ ํ โลเก. อํานาจเป็นใหญใ่ นโลก. ส.ํ ส. ๑๕/๖๐. หิรโิ อตตฺ ปฺปยิ ญเฺ ญว โลกํ ปาเลติ สาธกุ ํ. หริ แิ ละโอตตปั ปะ ยอ่ มรกั ษาโลกไวเ้ ป็นอนั ด.ี ว. ว. กจิ ฺโฉ มนุสฺสปฏลิ าโภ. ความไดเ้ ป็นมนุษย์ เป็นการยาก. ข.ุ ธ. ๒๕/๓๙. ๕๔

บรรณานุกรม กรมพระยาวชิรญาณวโรรส, สมเด็จพระมหาสมณเจ้า. (๒๕๕๗). พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๑. พมิ พค์ รงั ที ๓๖. นครปฐม: โรงพมิ พม์ หามกฏุ ราชวทิ ยาลยั . คณาจารยส์ ํานักพมิ พเ์ ลยี งเชยี ง. (๒๕๔๖). หนังสือบูรณาการแผนใหม่ นักธรรมชนั ตรี รวมทกุ วิชา. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พเ์ ลยี งเชยี ง. พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). (๒๕๓๘). พจนานุกรมพทุ ธศาสน์ ฉบบั ประมวลศพั ท.์ พมิ พค์ รงั ที ๘. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั สหธรรมกิ จาํ กดั . พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). (๒๕๓๘). พจนานุกรมพทุ ธศาสน์ ฉบบั ประมวลธรรม. พมิ พค์ รงั ที ๘. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั สหธรรมกิ จาํ กดั . พทิ ูร มลิวลั ย์. (๒๕๓๙). แนะแนวเรียงความแก้กระทู้ธรรม นักธรรมและธรรม ศึกษาชนั ตรี. พมิ พค์ รงั ที ๓. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พก์ ารศาสนา. ๕๕


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook