แกแงกเผงเ็ดขียแวลหะวแากนงคั่ว สำนกั พิมพแ สงแดด
แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด และแกงค่วั บรรณาธิการ อบเชย อม่ิ สบาย ประสานงานบรรณาธกิ าร บปุ ผา กิตติกลุ บรรณาธิการตน ฉบบั สิรริ กั ษ บางสุด พิสจู นอกั ษร วัลยา ทบั ทมิ ศรี, ธนวรรณ นาคินทร ISBN 978-616-7016-66-5 พมิ พค ร้งั ที่ 1 สิงหาคม 2554 จำนวนพมิ พ 3,000 เลม ราคา 195 บาท สงวนลิขสทิ ธิเ์ รือ่ งและภาพโดย © บริษทั สำนักพิมพแ สงแดด จำกัด 320 ซอยลาดพรา ว 94 (ทาวน อิน ทาวน) แขวงพลบั พลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 www.sangdad.com กรรมการผูจดั การ นดิ ดา หงษวิวฒั น ผูจัดการทั่วไป นาน หงษว ิวัฒน บรรณาธิการศลิ ป ตุลย หงษว วิ ัฒน ถา ยภาพ ศิรภพ แกวกรวชิ ญ ศิลปกรรม ดุจฤดี ชมบญุ , วันวิสาข หมเี งิน แตง ภาพ วรนารถ พันธุเสือ ฝายเตรยี มภาพ ทองพนู มาลาศร,ี อรณุ ลกั ษณ เผอื่ นพินจิ , สรุ ยี ยงวิสาลสุข ผจู ดั การฝา ยการตลาด ปราณี พงษพ ันธ ฝายการตลาด บุญเจรญิ หมื่นศร,ี ฉัตรชัย กางมันต, ยทุ ธชยั พมิ สาลี ฝา ยการเงิน ชลธชิ า อว มดวง, วรรณี ทองสม, มลวิ รรณ เจนจบ หัวหนาสายสง ชาญชยั พยอม ฝา ยผลติ นภาการ ขำชัยภมู ,ิ กนกวรรณ สอนสุคนธ แยกสี บริษทั สแกนอารต จำกดั โทร. 0-2292-0279-81 พมิ พท ี่ บรษิ ทั พิมพด ี จำกัด โทร. 0-2401-9401 จัดจำหนา ยโดย บริษทั สำนักพิมพแ สงแดด จำกัด 320 ซอยลาดพรา ว 94 (ทาวน อนิ ทาวน) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2934-4414 ตอ 102-110 แฟกซ 0-2538-1499, 0-2934-4415 e-mail : [email protected] ฝายบรรณาธิการสำนกั พมิ พ โทร. 0-2934-4414 ตอ 404-405 แฟกซ 0-2538-7576 e-mail : [email protected]
ตำราอาหารชุด “เคล็ดลับครัวบาน home-cooking recipes” เปนการ รวบรวมสูตรอาหารไทยทีเ่ ราทำกินเองที่บาน เปนความอรอยแบบสูตรใคร สูตรมัน แตละสูตรจึงบรรจุเทคนิควิธีการ ตลอดจนเคล็ดลับการปรุงทีม่ ี ลักษณะเฉพาะ คงตองยอมรับวา ความหลากหลายและรสชาติความอรอย ของอาหารไทย แตเดิมมีพื้นฐานมาจากครัวของแตละบานแตละครัวเรือน โดยตลอดมา จนกระทั่งเมือ่ ไมกี่สิบปมานี้ ตำรับรสวิเศษจึงเริม่ มีมาจากราน อาหารดวย แตก็ยังกลาวไดวาอาหารไทยจากรานก็ยังเปนสไตลครัวบานหรือ home-cooking อยูน่ันเอง ตำราอาหารชุด “เคลด็ ลับครัวบา น home-cooking recipes” จึงเหมาะ สำหรับเปนคูมือประจำครัวของทุกบาน เปนคูคิดมิตรคูบานในยามตอง วางแผนทำอาหารรสวิเศษใหสมาชิกในครอบครัวไดกินดวยกัน หรือเพือ่ เลี้ยง เพื่อนฝูง ตลอดจนจดั เลี้ยงในงานบญุ งานมงคล และโอกาสพิเศษตา งๆ “แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด และแกงคัว่ ” เปนหนังสือเลมแรกในชุด เคล็ดลับครัวบาน แกงกะทิทีร่ สเผ็ดหวานมันและหอมเครื่องแกง เปนกับขาว ยอดนิยมในสำรับกับขาวไทยมาชานาน นอกจากนัน้ ยังแถมดวยตำรับ หอหมกและทอดมันตางๆ ซึ่งลวนอรอยดวยเครือ่ งแกงที่โขลกใหมๆสดๆ ลองทำกินดูเถอะ ทานจะไมผิดหวัง เพราะทุกตำรับไดผานการทดสอบ มาอยางดีวาทำไดจรงิ รสชาตดิ ี อรอ ยแนๆ สำนกั พิมพแ สงแดด สิงหาคม 2554
แกงเขียวหวานเปนแกงกะทิยอดนิยมทีใ่ ชน้ำพริกแกงและกะทิเปน เครื่องปรุงหลักในการทำ นอกจากนีแ้ กงกะทิในอาหารไทยยังมีแกงเผ็ด หรือแกงแดง แกงคัว่ แกงมัสมัน่ แกงกะหรี่ เปนตน แกงกะทิแตละชนิดมี เอกลักษณ เฉพาะตัว ในเรือ่ งสี กลิน่ รส และลักษณะ แกงแตละพื้นถิ่น ยังมีความแตกตางกันอีกดวย แกงกะทิมีเอกลักษณคือ น้ำแกงมีความขนพอดี ปรุงรสกลมกลอม ถึง เครือ่ งแกงและมีกลิน่ หอมของสมุนไพรสดและเครือ่ งเทศ น้ำพริกแกงถือเปน เครื่องปรุงสำคัญ ตองเลือกเครือ่ งแกงที่สดใหม เมือ่ นำไปโขลกจนละเอียด จะ ไดกลิ่นหอมดี น้ำพริกแกงทีโ่ ขลกจนละเอียดดีเมื่อนำไปผัดกับหัวกะทิหรือปรุง เปนน้ำแกงจะไดกลิ่นหอมและไดรสที่เขมขน กะทิยังเปนเครือ่ งปรุงสำคัญมาก ในแกงกะทิ ควรเลอื กใชก ะททิ ่คี น้ั สดใหม นำ้ กะทจิ ะมคี วามมนั รสหวาน กล่นิ หอม ชวยเสริมใหแกงกะทินั้นๆอรอยยิง่ ขึ้น
แกงเขียวหวาน ใชเครือ่ งแกงเหมือนน้ำพริก แกงเผ็ด แตเปลีย่ นจากพริกแหงมาเปนพริกขี้หนูสด สีเขียวเพื่อใหน้ำแกงเปนสีเขียว และมีกลิน่ หอม เฉพาะ หรือเรียกวาน้ำพริกแกงเขียว แกงเขียวหวาน ทีด่ ีน้ำแกงขนกำลังดี ไมขนจนเปนโคลนหรือใสจน เกินไป น้ำแกงมีสีเขียวของน้ำพริกแกง แตกมันสี เขียวลอยหนาเล็กนอย (ถาสีไมเขียวใหโขลกใบพริก หรือผักชี คั้นเอาแตน้ำสีเขียวใสในน้ำพริกที่ผัด) มี กลิน่ หอมของยี่หรานำ มีรสเผ็ดนำเล็กนอย เค็มพอดี หวานมันกะทิ แกงเขียวหวานที่นิยมทำมีทัง้ แกงเขียว หวานลูกชิ้นปลากราย แกงเขียวหวานไก แกงเขียว หวานลูกชิ้นปลาอินทรี ลูกชิ้นปลากะพง และแกง เขียวหวานเนือ้ เปนตน แกงเผ็ด ใชน้ำพริกแกงเผ็ดโดยใชพริกแหง หรือเรียกวาน้ำพริกแกงแดง แกงเผ็ดปรุงสองรสคือ เค็มหวานกลมกลอม และปรุงสามรสกลมกลอม เชน แกงเผ็ดเปดยาง ซึง่ เปนแกงเผ็ดยอดนิยม นอกจากนี้ ยังนิยมทำแกงเผ็ดไกใสหนอไม แกงเผ็ดซีโ่ ครงหมู แกงเผ็ดปลาหมึกยัดไส เปนตน แกงเผ็ดทีด่ ีน้ำแกง ขน พอดี ไมข น จนเปน ครมี หรอื ไมใ สจนเปน นำ้ แกงสม น้ำแกงสีแดง และแตกมัน มีน้ำมันสีแดงลอยหนา หอมกลิน่ เครื่องเทศ รสเผ็ดเค็มหวานมันกะทิ แกงคัว่ ใชน้ำพริกแกงคั่ว จะมีเครื่องแกงนอย กวาน้ำพริกแกงเผ็ด เครือ่ งปรุงน้ำพริกแกงเผ็ด ซึ่งมี พริกแหงเม็ดใหญ หอมแดง กระเทียม ขา ตะไคร รากผักชี พริกไทยเม็ด ผิวมะกรูด ลูกผักชี ยีห่ ราคั่ว เกลือ กะป เปนหลัก บางตำรับก็ไมใสเครือ่ งเทศ สำหรับน้ำพริกแกงคัว่ ไมใสลูกผักชี ยีห่ รา รากผักชี ผิวมะกรูด พริกไทยเม็ด แกงเผ็ดมีเครือ่ งแกงหลัก 12 อยาง แกงคั่วมี 7 อยาง แกงคั่วที่ดีน้ำแกงมีสีสม ขนพอดี แตกมันสีสมลอยหนาเล็กนอย รสหวานมัน กะทิ แกงคัว่ มีทั้งปรุงสองรส และสามรส เชน แกง คั่วสม ทีป่ รุงออกสามรสทัง้ เปรี้ยวเค็มและหวาน ใสใบมะกรูดฉีก
แกงมัสมั่น ใชน้ำพริกแกงมัสมัน่ หรือใชผง เครื่องเทศแบบอินเดีย แกงมัสมั่นแบบไทย น้ำแกง ขน มีสีน้ำตาล แตกมันสีน้ำตาลลอยหนา กลิน่ หอม เครือ่ งเทศ ปรุงสามรสเขมขน กลมกลอม คือ เค็ม เปรีย้ ว หวาน เสมอกัน ไมมีรสใดรสหนึง่ นำ เนือ้ เปอ ย นมุ เขา เคร่อื งแกงดี หอมใหญส กุ หวาน มนั ฝร่งั สกุ นมุ ดี และใสถั่วลิสงคัว่ สวนแกงมัสมั่นแบบอินเดียของ ชาวไทยมสุ ลมิ ปรงุ รสออกเคม็ มนั ไมห วานนำ เหมอื น มัสมั่นไทย และใชผงเครื่องเทศชนิดตางๆมารวมกัน ไมไ ดนำมาโขลกรวมกนั เหมอื นแกงมัสมั่นไทย แกงกะหรี่ ใชน้ำพริกแกงกะหรี่ เครื่องแกงจะ ใสผงขมิ้นและผงกะหรี่เปนเอกลักษณ น้ำแกงขน มี สีเหลืองของขมิน้ เนื้อเปอยนุมเขาเครื่องแกง กลิ่น หอมขม้นิ รสเผ็ดเล็กนอ ย ปรงุ รสกลมกลอ มเคม็ หวาน มันกะทิ หอมใหญสุกหวาน มันฝรั่งสุกนุม ดี สำหรับ แกงกะหรี่แบบอินเดียใสผงเครื่องเทศอินเดียตางๆ ใส แตผงขมิน้ ไมใสผงกะหรี่ ตอนแกงก็เจียวหอมแดง กระเทียม และใสผงเครือ่ งเทศผัดใหหอม จึงใสกะทิ ปรุงรสกลมกลอม ไมหวาน แลวใสมะเขือเทศ และ มนั ฝรั่ง การทำแกงกะทิจำเปนตองรูจ ังหวะ รูจ ักสังเกต เพราะกะทิมีไขมันและน้ำตาลเปนสวน ประกอบ เมื่อนำไปตมเคี่ยวไมถูกวิธี อาจทำใหแตกมันไดงาย หากเปนอาหารทีต่ องการให แตกมันก็ถือวาไมเปนไร เชน แกงเผ็ด นิยมใหมีมันสีแดงลอยหนาเพือ่ ใหดูสวย มันทีล่ อยหนา ไดมาจากกะทิซึ่งผัดเขากับน้ำพริกแกงจนจาม แสดงวาผัดน้ำพริกแกงจนโชยกลิ่นหอมฉุนเขา จมูก กระทัง่ ตองจามออกมา เปนอันใชได แลวจึงใสเครือ่ งปรุงอืน่ ๆตามลงไปผัดตอ กะทิทีผ่ ัด กับเครือ่ งแกงเปรียบไดกับน้ำมัน และอาหารประเภทแกงเผ็ด มีความมันของกะทิทีเ่ ขาไปชวย เพิ่มกลิน่ ของสมุนไพรเครือ่ งเทศในน้ำพริกแกงใหมีความโดดเดนมากขึ้น น้ำมันในกะทิชวย ทำใหน้ำมันหอมระเหยซึง่ อยูในสมุนไพรเครือ่ งเทศออกมาไดดี 9
อาหารจานเคร่อื งแกงตา งๆ นอกจากแกงกะทแิ ลว หอ หมกและทอดมนั ปลายงั เปน อาหารไทย ยอดนิยมทีใ่ ชน้ำพริกแกง แตจะใชวิธีการนึ่งและทอดใหสุก หอหมก ทำโดยนำเนอ้ื ปลาชอนห่นั ช้ิน หรอื เนอ้ื ปลาบด เนอ้ื หมู เน้อื ปู มากวนกับนำ้ พรกิ แกง และหัวกะทิ แลวใสไข กวนจนไดทีจ่ ึงปรุงรสดวยน้ำปลา ใสใบมะกรูด หอดวยใบตอง หรือใสใน กระทงใบตอง หรือใสถวย แลวนำไปนึ่ง บางตำรับอยางภูเก็ตนำไปปง ดวย น้ำพริกแกงหอหมก ประกอบไปดวยเครื่องแกงหลักดังนี้ พริกแหง พริกขีห้ นูสด ขา ตะไคร ผิวมะกรูด กระชาย กระเทียม กะป บางตำรับเพิม่ ขมิน้ (ปกษใต) เพื่อดับกลิน่ คาวและเพิม่ กลิ่นหอม วิธีการกวนหอหมกใหกวนน้ำพริกแกงเขากะทิ โดยกวนรวมกับเนื้อปลาหรือเนือ้ สัตวอืน่ ๆ กวนไปทางเดียว หากเปนการกวนหอหมกปลาหมึก กุง หอย เครือ่ งปรุงสำคัญทีข่ าดไมไดคือ เนื้อ ปลากรายหรือปลาอินทรีซึ่งจะชวยดูดน้ำกะทิและเครื่องแกงใหจับตัวกัน ชวยใหเนื้อหอหมกเขา เครื่องแกงมากขึน้ การกวนหอหมกของคนโบราณจะใชอางทีท่ ำจากดินเผาและไมพาย เพื่อชวย ใหน้ำพริกแกง น้ำกะทิ และเนื้อปลา ครูดไปกับอางดินเผา และดวยผิวทีส่ ากของอางดินเผานีเ่ อง ที่ชวยใหเครื่องแกงและกะทิซึมเขาเนื้อปลาไดดี เวลากินเนือ้ ปลาจะไดรสเครือ่ งแกง เนือ้ หอหมก ทีด่ ีตองกวนจนขนเหนียวกำลังดี ยกไมพายขึ้นตองติดไมพาย ระหวางกวนจะใสไขไกหรือไขเปด เพื่อใหเนือ้ หอหมกนุม พองตัว ฟูและอยูตัวเวลานึ่ง กะระยะเวลากวนประมาณ 30-40 นาที กวน ไดทีก่ ็ปรุงรสดวยน้ำปลา เกลือ ใหรสหนักเค็มสักหนอย นึง่ นานประมาณ 10-15 นาที หยอดหัว กะทิ โรยใบมะกรูด พริกชีฟ้ าซอย หอหมกที่กวนดีหลังนึ่งเนือ้ จะเกาะตัวลอนออกจากใบตอง แต ถากวนไมดีเนือ้ จะเหลว ไมเกาะตัวกัน หอหมกที่ดีควรเขาถึงรสเครื่องแกง เค็มนำ หวานมันกะทิ ถึงจะอรอย
ทอดมัน ทำจากเนื้อปลาทีม่ ีเนือ้ เหนียวมาขูดหรือบด โขลกหรือใชวิธีการฟาดผสมกับ น้ำพริกแกงจนเหนียว ใสไข ปรุงรสดวยน้ำปลา แลวปน กอนกลมแบนหรือกอนรีแลวนำไปทอด น้ำพริกแกงทอดมันมีเครือ่ งแกงคือ พริกแหง ขา ตะไคร ผิวมะกรูด กระเทียม หอมแดง กะป และ เกลือสมุทร บางตำรับเสริมความหอมดวยรากผักชี พริกไทย ทอดมันมีรสเผ็ดเค็ม เจือหวานออนๆ จากเนื้อปลาสด ทอดมันนอกจากจะนิยมใชเนือ้ ปลากรายมาทำแลว ยังมีเนือ้ ปลาสลาดที่มีความเนียน ละเอยี ด เหนยี วกวา ปลากรายแตหายาก แลเนื้อปลาออกเปน สว นๆ ใชชอนขดู เอาเน้อื ปลาออกมา เวลาขูดเนือ้ ปลาใหขูดลูไ ปตามแนวกาง เพือ่ ไมใหกางปลาเดงติดออกมากับเนือ้ เนือ้ ปลาขูดมี สชี มพอู มแดงออ นๆ ใส สวย จบั ดแู ลว เหนยี วหนบึ ตดิ มอื ทอดมนั แถบชลบรุ เี รอ่ื ยไปจนจรดภาคใต นิยมใชเนอ้ื ปลาอินทรดี วยมีเนอื้ เหนียวไมแพป ลากราย ย่ิงโขลกก็ยงิ่ เหนียว รองลงมาจะเปน ปลาทู ที่มีกลิน่ หอมเปนเอกลักษณ แตดวยปลาทะเลมีความคาวมาก น้ำพริกแกงพืน้ ถิน่ จึงมีรสเผ็ด จัดจานกวา เมือ่ โขลกเครือ่ งแกงเสร็จก็ตักเนื้อปลาใสลงไปโขลกพรอมกันในครก ใสเกลือปรุงรส โขลก ไปเรือ่ ยๆ เนือ้ ปลาจะยิง่ เหนียวหนืดติดสาก แลวยังนิยมใชวิธีการนวดและฟาดแทนจนทำให เนื้อปลาจับกันเหนียวเอามือกวาดสวนผสมใสอุง มือแลวฟาดลงกับอาง ฟาดแบบนีไ้ ปเรื่อยๆ เครอ่ื งแกงจะคอ ยๆซมึ เขา เนอ้ื ปลาและเหนยี วข้นึ เร่อื ยๆ ชมิ รสใหไ ดเ ผด็ เคม็ ถา ฟาดไปแลว เนอ้ื ปลา ไมเหนียวติดมือแปลวาใชได นอกจากนีย้ ังนิยมใสไขไกลงไปดวยเพือ่ ใหเนื้อทอดมันขึน้ ฟู 111
ทอดมันใสถัว่ พู เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ หรือจะใชถั่วฝกยาวแทน ผักอีกชนิดที่ขาดไมไดคือ ใบมะกรูดซอยละเอียด ที่จะชวยเพิม่ กลิ่นหอมของสมุนไพร และดับคาวปลาไดดีนัก บางบาน นิยมใสใบกะเพรา หรือใบโหระพาแทน ดวยมีกลิน่ หอมไมแพกัน ผสมผักเสร็จเอาลงทอดดวย ไฟกลาง ควรใชน้ำมันที่มีจุดเดือดสูง เชน น้ำมันปาลม เพือ่ ไมใหอมน้ำมัน ทอดมันทีท่ อดแลว เนื้อจะยุบตัวลงเล็กนอย แตถาโขลกไมดี ทอดมันจะแบนบาง ไมฟูนากิน ทอดมันทีด่ ีควรกัดขาด ในคำเดียว เหนียวนุม เนือ้ ปลา และหอมทัง้ เครือ่ งแกงกับใบมะกรูด น้ำจิม้ ทอดมันปรุงออกสามรส เปรีย้ วหวานนำ เค็มออนๆจากเกลือ จิม้ กินเคียงกันแลวชวยตัดรสเผ็ดเค็มของทอดมันไดดีนัก บางสูตรใสแตงกวาและถั่วลิสงคัว่ ปนลงไปเพิม่ ความหอมมันของน้ำจิม้ บางครั้งกินคูกับอาจาด ไปเลย น้ำกะทิจะชวยใหแกงมีกลิ่นหอมมากขึ้น คือ นำหัวกะทิไปเคี่ยวใหแตกมันกอนแลวจึงนำน้ำ พริกแกงลงผัดจนมีกลิ่นหอม หลังจากนั้นจึงคอยๆใสกะทิไปเรือ่ ยๆ กะทิจะคอยๆเขาเนื้อ แลวจึง ใสเครื่องปรุงอื่นๆตามจนสุก ปรุงรสใหไดที่ กอนยกลง ใสหัวกะทิปดทาย เพือ่ ชวยใหน้ำแกงมีรส หวานมันของกะทิมากขึ้น กะทิไดจากมะพราวแก นำมาขูดแลวคั้นจนไดน้ำกะทิสีขาว รสหวาน กลิน่ หอม ยิ่งถานำมา ขูดแลวคัน้ ใชเลย น้ำกะทิจะสดใหม รสจะหวานมันหอมแบบธรรมชาติ นำไปแกงอรอย มะพราว แกที่นำมาคั้นกะทิไดดี คือ มะพราวแกเปลือกแหง คลอนน้ำ กะลาดำ เนือ้ แข็ง เปลือกแหง หมายถึง มะพราวแกกำลังดี มะพราวยังมีเปลือกสีเหลืองอยู แตจะใหดีตอง เปลือกแหงคาตน มะพราวยิ่งแกยิง่ มีความมัน เมือ่ สอยไดมะพราวเปลือกเหลืองแลว หากยังไม ใชก็สามารถเก็บไวได สีของเปลือกจะคอยๆกลายเปนสีน้ำตาลออน แตไมควรทิง้ ไวเกิน 3 เดือน เพราะหากทิง้ ไวนานกวานีล้ ูกมะพราวจะเริม่ งอกเปนตน
คลอนน้ำ คือ มะพราวแก น้ำจะพอมีอยูใน ผลมะพราวบาง น้ำในลูกจะไมเต็มเหมือนตอนที่ มันออน ถาออนจะไมคลอนน้ำเลย จะหนัก เขยาแลวเสียงไมดัง กะลาดำ เมื่อปอกเปลือกและนำเยื่อ ม ะ พ ร า ว อ อ ก จ น ห ม ด จ ะ เ ห็ น ก ะ ล า ข อ ง ลู ก มะพราวเปนสีดำ ซึ่งแสดงวาเปนมะพราวแก เหมาะสำหรับคั้นน้ำกะทิแลว เนือ้ แข็ง มะพราวที่แกเนือ้ จะแข็ง หนา และแนน มีสีขาวขุนทัง้ ลูก มะพราวแบบนีเ้ มือ่ นำมาคัน้ กะทิจะไดปริมาณน้ำมันมาก เนือ้ ขน หอมหวานมัน การคัน้ กะทิ คั้นเอาหัวกะทิแบบขนมากจะ คัน้ โดยไมใสน้ำ ใชมือบีบ คั้นบิดหลายๆครัง้ โดยปกติมะพราวขูด 100 กรัม จะไดหัวกะทิขนๆ ประมาณ 1/4 ถวย หากคั้นหัวกะทิแบบใสน้ำควร ใสน้ำอุน มะพราวขูด 1 กิโลกรัม ใสน้ำอุน ประมาณ 1 ถวย หรือใสน้ำอุนประมาณ 1/4 ของ เนือ้ มะพราว คั้นออกมาครัง้ แรก ไดเปน “หัว กะทิ” นำกากที่ไดคัน้ กับน้ำอุนอีกเปนครั้งที่ 2 ได เปน “กะทิกลาง” หลังจากนีห้ ากคั้นอีกจะไดเปน “หางกะทิ” บางที่คั้นน้ำครัง้ ที่ 2-3 ผสมกันก็เรียก “หางกะทิ” ปจจุบันรานโมมะพราวจะคั้นใหเลย คือ มะพราวโม 1 กิโลกรัม สามารถคั้นหัวกะทิ ไดประมาณ 6 ขีด การเก็บกะทิ นำน้ำกะทิตั้งไฟพอใหเดือด แลวใสเกลือลงไป เขาวาเกลือนี้ชวยถนอมอายุ ของกะทิใหอยูไ ดนานขึ้น พักไวใหเย็น กอนใสถุง นำเขาชองแชแข็งในตูเ ย็น เมื่อจะใชจึงนำมาอุน ใหละลาย ใชไดเทียบเทาน้ำกะทิคัน้ สด ผิดกันก็ แตกลิน่ ที่ไมหอมเหมือนเดิม และเนือ้ ไมเนียน เทากับกะทิที่คัน้ สดใหม 133
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: