Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 4454545454 (1)

4454545454 (1)

Published by Guset User, 2021-09-26 06:23:25

Description: 4454545454 (1)

Search

Read the Text Version

รายงาน วชิ า วทิ ยาการณ์คาํ นวณ รหสั วชิ า ว34556 จดั ทาํ โดย 1.นายวริศ มีศรี เลขท6ี 78 7.นายภทั รดนยั คงมาก เลขท6ี 8= 8.นายพรภทั ร์ โทนแกว้ เลขท6ี 8B C.นายกฤษณ วงษใ์ บแกว้ เลขท6ี CI ช$นั มธั ยมศึกษาปี ที1 2/4 เสนอ ครูจิรายุ ทองดี รายงานเล่มน$ีเป็นส่วนหน1ึงของรายวชิ าวทิ ยาการคาํ นวณ รหสั ว30118 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษานอ้ มเกลา้ ภาคเรียนที1 1 ปี การศึกษา 2564 สงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ

ก ก คาํ นํา รายงานฉบบั น+ีเป็นส่วนหน4ึงของรายวชิ าวทิ ยาการคาํ นวณรหสั ว30118 ช+นั มธั ยมศึกษาปี ท4ี 5 โดยมีจุดประสงคเ์ พ4ือศึกษาเก4ียวกบั วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ กระบวนการเทคโนโลยี พ+ืนฐาน ของภาษาซี เทคโนโลยปี ระยกุ ต์ ในการจดั ทาํ รายงานประกอบสื4อการเรียนรู้ในคร+ังน+ี ผจู้ ดั ทาํ ขอขอบคุณ ครูจิรายุ ทองดี ผใู้ หค้ วามรู้ และแนวทางการศึกษา และเพ4ือนๆ ท4ีใหค้ วามช่วยเหลือมาโดยตลอด คณะผจู้ ดั ทาํ หวงั เป็นอยา่ งยง4ิ วา่ รายงานฉบบั น+ีจะอาํ นวยประโยชนต์ ่อผทู้ ี4สนใจและศึกษาเน+ือหาเพ4ิมเติม และ พฒั นาศกั ยภาพ และบรรลุตามเป้าหมาย ภทั รดนยั คงมาก ผจู้ ดั ทาํ

สารบญั ข เร4ือง ข คาํ นาํ หนา้ สารบญั ก 1. วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ข 2. กระบวนการเทคโนโลยี 3. พ+ืนฐานของภาษาซี - 4. เทคโนโลยปี ระยกุ ต์ 5. ภาคผนวก 1

ก 1 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ การนาํ วชิ าคอมพิวเตอร์ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั เป็นการนาํ ความรู้ในวชิ าคอมพิวเตอร์ไปใชใ้ นดา้ นต่าง ๆ ในชีงิตประจาํ วนั การสื&อสาร (Communication) เช่น การส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-mail) การพูดคุยและส่งข้อความทางอนิ เทอร์เน็ต โซเซียลเน็ตเวริ ์ก (facebook) และไลน์ (Line) เป็ นต้น การเลือกซืYอสินค้า (shopping) การเยย&ี มชมร้านค้าต่างๆบนอนิ เทอร์เน็ตท&ี เรียกว่า ไซเบอร์มอลล์ (cybermall)เพื&อเลือกชมสินค้าผ่านระบบการบริการทาง อนิ เทอร์เน็ตทาํ ให้ประหยดั เวลาและค่าใช้จ่ายได้ การสืบค้นข้อมูล (searching) การสืบค้นข้อมูลต่างๆผ่านเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต โดยมโี ปรแกรมในการค้นหาเวบ็ ไซต์ทเ&ี รียกว่า “Search Engine” เช่น www.google.co.th, www.bing.com เป็ นต้น เพ&ือค้นหาบทความ เอกสาร ข่าว รูปภาพ ตามความสนใจ ความบนั เทงิ (entertainment) สามารถอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ผ่านการ เชืEอมต่ออนิ เทอร์เน็ต 2

ข 2 ด้านการศึกษา (education) เช่น การนาํ คอมพิวเตอร์มาใชเ้ พื6อพิมพร์ ายงาน นาํ เสนองาน ทาํ ส6ือการเรียนการสอน ทาํ งานหรือทาํ การบา้ นส่งอาจารย์ รวมถึงการ เรียนผา่ นส6ืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-learning) สื6อดิจิทลั ในชีวติ ประจาํ วนั สื6อดิจิทลั หมายถึง สื6อท6ีมีการนาํ เอาขอ้ ความ กราฟิ ก ภาพเคล6ือนไหว เสียง มา จดั รูปแบบ โดยอาศยั เทคโนโลยคี วามเจริญกา้ วหนา้ ทางดา้ นคอมพิวเตอร์ ส6ือสารทาง ออนไลน์ หรือ ตวั กลางท6ีถูกสร้างขfึนโดยอาศยั ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ที6นาํ เอาขอ้ ความ กราฟิ กภาพเคลื6อนไหว เสียง และ วดิ ีโอ มาจดั การตาม กระบวนการ และวธิ ีการผลิตโดยนาํ มาเชื6อมโยงกนั เพื6อใหเ้ กิดประโยชนใ์ นการใชง้ าน และตรงกบั วตั ถุประสงค์ การใช้ส&ือดจิ ทิ ลั ในชีวติ ประจาํ วนั โดยทวั6 ไปบุคคลจะรับรู้เนfือหาต่างๆจากสื6อรูปแบบต่างๆเช่น โทรทศั น์ วทิ ยุ หนงั สือพิมพ์ ปัจจุบนั คอมพิวเตอร์เขา้ มาพฒั นากระบวนการต่างๆของสื6อ ทาํ ให้ รูปแบบการสื6อสารสามารถโตต้ อบกนั ไดง้ ่ายและรวดเร็วขfึน

ก 3 เทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology: IT) หรือเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื6อสาร (Information and Communication Technologies: ICTs) ก็ คือ เทคโนโลยสี องดา้ นหลกั ๆ ที6ประกอบดว้ ยเทคโนโลยรี ะบบคอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยสี ื6อสารโทรคมนาคมที6ผนวกเขา้ ดว้ ยกนั เพ6ือใชใ้ นกระบวนการจดั หา จดั เกบ็ สร้าง และเผยแพร่สารสนเทศในรูปต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นเสียง ภาพ ภาพเคล6ือนไหวขอ้ ความหรือตวั อกั ษร และตวั เลข เพื6อเพิ6มประสิทธิภาพ ความถูกตอ้ ง ความแม่นยาํ และความรวดเร็วใหท้ นั ต่อการนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ ในระบบสารสนเทศนfนั ประกอบดว้ ย 5 ส่วนหลกั ๆ ไดแ้ ก่ บุคลากร ขfนั ตอนการ ทาํ งาน ซอฟตแ์ วร์ ฮาร์ดแวร์ และขอ้ มูล 1) บุคลากร เป็นองคป์ ระกอบที6สาํ คญั เพราะบุคลากรท6ีมีความรู้ ความสามารถ และ เขา้ ใจวธิ ีการในการดาํ เนินการ และจดั การเก6ียวกบั สารสนเทศทfงั หมด บุคลากรจึงตอ้ ง มีความรู้ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 2) ขfนั ตอนการปฏิบตั ิ หมายถึง ระเบียบวธิ ีการปฏิบตั ิงานในการจดั เกบ็ รักษาขอ้ มูลให้ อยใู่ นรูปแบบที6จะทาํ ใหเ้ ป็นสารสนเทศได้ เช่น การกาํ หนดใหม้ ีการป้อนขอ้ มูลทุกวนั การปรับปรุงแกไ้ ขขอ้ มูลใหถ้ ูกตอ้ งอยเู่ สมอ

ข 4 3) เคร6ืองคอมพิวเตอร์ หรือฮาร์ดแวร์ เป็นอุปกรณ์ท6ีประมวลผลขอ้ มูลเพื6อสร้างขอ้ มูล สารสนเทศ ซ6ึงประกอบดว้ ยคียบ์ อร์ด เมาส์ จอภาพ หน่วยระบบ และอุปกรณ์อ6ืนๆ เคร6ืองคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์ จะถูกควบคุมโดยซอฟตแ์ วร์เป็นเครื6องมือท6ีช่วยในการจดั การสารสนเทศ 4) ซอฟตแ์ วร์ หรือโปรแกรมในระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบดว้ ยซอฟตแ์ วร์ระบบ (System Software) และซอฟทแ์ วร์แอพพลิเคชนั6 (Application Software) เป็นชุดคาํ สง6ั ที6เรียงเป็นลาํ ดบั ขfนั ตอน มีหนา้ ท6ีสง6ั ใหเ้ ครื6องคอมพิวเตอร์ทาํ งานตามวตั ถุประสงค์ และประมวลผลเพื6อใหไ้ ด้ สารสนเทศที6ตอ้ งการ 5) ขอ้ มูล ขอ้ เทจ็ จริง หรือเร6ืองราวท6ีเกี6ยวขอ้ งกบั บุคคล วตั ถุหรือสถานที6 ขอ้ มูลมี ความสาํ คญั อยา่ งยง6ิ เพราะใชเ้ ป็นเคร6ืองช่วยในการวางแผนงานการบริหารจดั การ ดงั นfนั ขอ้ มูลจะตอ้ งมีความถูกตอ้ ง มีความเท6ียงตรง สามารถเช6ือถือได้ มีความเป็น ปัจจุบนั สามารถตรวจสอบได้ และมีความสมบูรณ์ชดั เจน บทบาทของเทคโนโลยสี ารสนเทศในปัจจุบนั ในปัจจุบนั เทคโนโลยสี ารสนเทศทาํ ใหก้ ารกระจายขอ้ มูลข่าวสารเป็นไปอยา่ งรวดเร็ว และยงั ส6ือสารแบบสองทิศทาง ดว้ ยเหตุนfีผลกระทบต่อการเปลี6ยนแปลงทางดา้ น เศรษฐกิจ การเมืองและสงั คมจึงแตกต่างจากในอดีตมาก ดงั จะเห็นไดจ้ ากวกิ ฤตการณ์ ทางดา้ นเศรษฐกิจจากประเทศหน6ึงมีผลกระทบต่อประเทศอ6ืน ๆ อยา่ งรวดเร็วและ กวา้ งขวาง ผลของความกา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศทาํ ใหเ้ กิดแนวโนม้ การ เปล6ียนแปลงที6สาํ คญั หลายดา้ น อาทิเช่น

ก 5 - การเปล6ียนเป็นสงั คมสารสนเทศ ปัจจุบนั สงั คมโลกกาํ ลงั เปล6ียนแปลงเขา้ สู่ สงั คมสารสนเทศ โดยคอมพิวเตอร์และระบบสื6อสารมีบทบาทในการดาํ เนินกิจกรรม ต่าง ๆ เช่น การซfือสินคา้ และบริการทางอินเทอร์เน็ต การทาํ งานผา่ นเครือข่าย คอมพิวเตอร์ รวมถึงก่อใหเ้ กิดสงั คมออนไลนท์ fงั เวบ็ บลอ็ ก (Web Blog) เวบ็ ไซตว์ ดี ิโอ ออนไลน์ เวบ็ ไซตโ์ ซเชียลเน็ตเวริ ์ค เป็นตน้ - การทาํ งานที6ไร้เง6ือนไขของเวลาและสถานท6ี เทคโนโลยสี ารสนเทศทาํ ใหเ้ กิดสภาพ ทางการทาํ งานแบบทุกสถานท6ีและทุกเวลา โดยการโตต้ อบผา่ นระบบเครือข่าย ทาํ ให้ ขยายขอบเขตการทาํ งานไปทุกหนทุกแห่งและดาํ เนินการไดต้ ลอด 24 ชว6ั โมง การจดั การขอ้ มูล 1. การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล ควรประกอบดว้ ย 1.1 การรวบรวมขอ้ มูล เป็นเร6ืองของการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลซ6ึงมีจาํ นวนมาก และตอ้ งเกบ็ ใหไ้ ดอ้ ยา่ งทนั เวลา เช่น ขอ้ มูลการลงทะเบียนเรียนของนกั เรียน ขอ้ มูล ประวตั ิบุคลากร ปัจจุบนั มีเทคโนโลยชี ่วยในการจดั เกบ็ อยเู่ ป็นจาํ นวนมาก เช่น การ ป้อนขอ้ มูลเขา้ เคร6ืองคอมพิวเตอร์ การอ่านขอ้ มูลจากรหสั แท่ง การตรวจใบลงทะเบียน ที6มีการฝนดินสอดาํ ในตาํ แหน่งต่าง ๆ เป็นวธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเช่นกนั 1.2 การตรวจสอบขอ้ มูล เม6ือมีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลแลว้ จาํ เป็นตอ้ งมีการ ตรวจสอบขอ้ มูล เพ6ือตรวจสอบความถูกตอ้ ง ขอ้ มูลท6ีเกบ็ เขา้ ในระบบจะตอ้ งมีความ น่าเช6ือถือ หากพบท6ีผดิ พลาดตอ้ งแกไ้ ข การตรวจสอบขอ้ มูลมีหลายวธิ ี เช่น การใช้ ผปู้ ้อนขอ้ มูลสองคนป้อนขอ้ มูลชุดเดียวกนั เขา้ เคร6ืองคอมพิวเตอร์แลว้ เปรียบเทียบกนั หรือตfงั กฎเกณฑใ์ หค้ อมพิวเตอร์ตรวจสอบ

ข 6 2. การประมวลผลข้อมูล ประกอบดว้ ยกิจกรรมดงั ต่อไปนfี 2.1 การจดั กลุ่มขอ้ มูล ขอ้ มูลที6จดั เกบ็ จะตอ้ งมีการแบ่งแยกกลุ่ม เพื6อเตรียมไว้ สาํ หรับการ ใชง้ าน การแบ่งแยกกลุ่มมีวธิ ีการที6ชดั เจน เช่น ขอ้ มูลในโรงเรียนมีการ แบ่งเป็นแฟ้มประวตั ินกั เรียน และแฟ้มลงทะเบียน เพ6ือความสะดวกในการคน้ หา 2.2 การจดั เรียงขอ้ มูล เมื6อจดั แบ่งกลุ่มเป็นแฟ้มแลว้ ควรมีการจดั เรียงขอ้ มูล ตามลาํ ดบั ตวั เลข หรือตวั อกั ษร หรือเพื6อใหเ้ รียกใชง้ านไดง้ ่าย ประหยดั เวลา ตวั อยา่ ง การจดั เรียงขอ้ มูล เช่น การจดั เรียงบตั รขอ้ มูลผแู้ ต่งหนงั สือ ในตูบ้ ตั รรายการของ หอ้ งสมุดตามลาํ ดบั ตวั อกั ษร การจดั เรียงช6ือคนในสมุดรายนามผใู้ ชโ้ ทรศพั ทต์ ามลาํ ดบั ตวั อกั ษร 2.3 การสรุปผล บางครfังขอ้ มูลท6ีจดั เกบ็ มีจาํ นวนมาก จาํ เป็นตอ้ งมีการสรุปผล หรือสรุปรายงาน เพื6อนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ ขอ้ มูลที6สรุปไดน้ fีอาจสื6อความหมายไดด้ ีกวา่ เช่น สถิติจาํ นวนนกั เรียนแยกตามชfนั เรียนแต่ละชfนั 2.4 การคาํ นวณขอ้ มูลท6ีเกบ็ รวบรวมมีเป็นจาํ นวนมากขอ้ มูลบางส่วน เป็นขอ้ มูล ตวั เลขท6ีสามารถนาํ ไปคาํ นวณ เพื6อหาผลลพั ธ์บางอยา่ งได้ ดงั นfนั การสร้างสารสนเทศ จากขอ้ มูลจึงอาศยั การคาํ นวณขอ้ มูลท6ีเกบ็ ไวด้ ว้ ย เช่น การคาํ นวณเกรดเฉลี6ยของ นกั เรียนแต่ละคน 3. การดูแลรักษาข้อมูล ประกอบดว้ ยกิจกรรมต่อไปนfี 3.1 การเกบ็ รักษาขอ้ มูล การเกบ็ รักษาขอ้ มูล หมายถึง การนาํ ขอ้ มูลมาบนั ทึก เกบ็ ไวใ้ นส6ือบนั ทึกต่าง ๆ เช่น แผน่ บนั ทึกขอ้ มูล นอกจากนfียงั รวมถึงการดูแล และทาํ สาํ เนาขอ้ มูล เพื6อใหใ้ ชง้ านต่อไปในอนาคตได้

ก 7 3.2 การทาํ สาํ เนาขอ้ มูล การทาํ สาํ เนาเพ6ือที6จะนาํ ขอ้ มูลเกบ็ รักษาไว้ หรือนาํ ไป แจกจ่ายในภายหลงั จึงควรคาํ นึงถึงความจุและความทนทานของส6ือบนั ทึกขอ้ มูล 3.3 การส6ือสารและเผยแพร่ขอ้ มูล ขอ้ มูลตอ้ งกระจายหรือส่งต่อไปยงั ผใู้ ชง้ านท6ี ห่างไกลไดง้ ่าย การส6ือสารขอ้ มูลจึงเป็นเร6ืองสาํ คญั และมีบทบาทท6ีสาํ คญั ยงิ6 ท6ีจะทาํ ให้ การส่งข่าวสารไปยงั ผใู้ ช้ ทาํ ไดร้ วดเร็วและทนั เวลา 3.4 การปรับปรุงขอ้ มูล ขอ้ มูลท6ีจดั เกบ็ ไวม้ ีจุดประสงคท์ ี6จะเรียกใชง้ านไดต้ ่อไป ดงั นfนั ขอ้ มูลจึงตอ้ งมีการปรับปรุงใหท้ นั สมยั อยตู่ ลอดเวลา และจดั เกบ็ อยา่ งเป็นระบบ เพื6อการคน้ หาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ประเภทข้อมูล ขอ้ มูลที6อยรู่ อบตวั เรา สามารถแบ่งไดเ้ ป็น 5 ประเภท ดงั นfี 1. ขอ้ มูลตวั อกั ษร (ขอ้ มูลตวั อกั ขระ) ขอ้ มูลตวั อกั ษร หมายถึง ขอ้ มูลที6ประกอบดว้ ยตวั อกั ษรทfงั ภาษาไทยหรือ ภาษาต่างประเทศ เช่น ชื6อ - นามสกลุ ประวตั ิโรงเรียน เป็นตน้ และขอ้ ความที6เป็น ตวั เลขซ6ึงไม่นาํ ไปใชใ้ นการคาํ นวณ เช่น ป้ายทะเบียนรถ บา้ นเลขท6ี เลขที6บตั ร ประชาชน เป็นตน้ 2. ขอ้ มูลภาพ ขอ้ มูลภาพ หมายถึง ขอ้ มูลที6เป็นภาพในลกั ษณะต่าง ๆ ที6เรามองเห็นซ6ึงอาจเป็นภาพน6ิง เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย เป็นตน้ หรือภาพเคลื6อนไหว เช่น ภาพจากโทรทศั น์ ภาพจากวดี ิ ทศั น์ ภาพจากคอมพิวเตอร์ เป็นตน้

ข 8 3. ขอ้ มูลตวั เลข ขอ้ มูลตวั เลข หมายถึง ขอ้ มูลท6ีประกอบดว้ ยตวั เลข 0 - 9 ที6เราสามารถนาํ มาใชค้ าํ นวณ ได้ หรือนาํ มาประมวลผลได้ เช่น ราคาสินคา้ คะแนนสอบวชิ าต่าง ๆ จาํ นวนเงิน เป็น ตน้ 4. ขอ้ มูลเสียง ขอ้ มูลเสียง หมายถึง ขอ้ มูลท6ีเกิดจากการไดย้ นิ เช่น เสียงคนพดู เสียงสตั วร์ ้อง เสียงจาก ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือเสียงจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ท6ีสามารถแสดงผลขอ้ มูลใน รูปแบบเสียงได้ เช่น แผน่ ซีดี โทรทศั น์ วทิ ยุ เป็นตน้ 5. ขอ้ มูลอ6ืน ๆ ขอ้ มูลอื6น ๆ หมายถึง ขอ้ มูลที6นอกเหนือจากขอ้ มูลทfงั 4 ประเภท ท6ีกล่าวมาแลว้ เช่น ขอ้ มูลกล6ิน ขอ้ มูลรสชาติ ขอ้ มูลเก6ียวกบั อุณหภูมิ เป็นตน้ การประมวลผลข้อมูล การประมวลผล(Data Processing) เป็นการประมวลผลทางขอ้ มูลเป็นการนาํ ขอ้ มูล ท6ีเกบ็ รวบรวมไดม้ า ผา่ นกระบวนการต่าง ๆ เพื6อแปรสภาพขอ้ มูลใหอ้ ยใู่ นรูปแบบที6ตอ้ งการ เรียกวา่ ขอ้ มูลสนเทศหรือสารสนเทศ (Information)

ก 9 Information คือ ผลลพั ธ์ท6ีไดจ้ ากขอ้ มูลท6ีไดร้ วบรวมและนาํ เขา้ สู่กระบวนการ ประมวลผล ซ6ึงผลลพั ธ์ที6ไดน้ fี สามารถนาํ ไปใชเ้ ป็นแนวทางในการวเิ คราะห์ทิศทาง หรือการตดั สินใจไดท้ นั ที ในขfนั ตอนการประมวลนfนั กต็ อ้ งมี หน่วยรับเขา้ ก่อน ต่อมากป็ ระมวลขอ้ มูลท6ี รับเขา้ และส่งผา่ นไปยงั หน่วยส่งออกขอ้ มูลต่อๆไป ประเภทของขอ้ มูล ถา้ จาํ แนกขอ้ มูลออกเป็นประเภท จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ใหญ่ ๆ คือ 1. ข้อมูลปฐมภฺมิ (Primary Data) หมายถึง ขอ้ มูลท6ีไดจ้ ากการรวบรวม หรือบนั ทึก จากแหล่งขอ้ มูลโดยตรง ซ6ึงอาจจะไดจ้ ากการสอบถาม การสมั ภาษณ์ การสาํ รวจ และการจดบนั ทึก ตลอดจน การจดั หามาดว้ ยเคร6ืองจกั ร อตั โนมตั ิ เช่น เคร6ืองอ่านรหสั แท่ง เคร6ืองอ่านแถบแม่เหลก็ 2. ข้อมูลทุตยิ ภูมิ (Secondary Data) หมายถึง ขอ้ มูลที6มีผอู้ ื6นรวบรวมไวใ้ หแ้ ลว้ บางครfังอาจมีการประมวลผล เพ6ือเป็นสารสนเทศ เช่น สถิติจาํ นวนประชากรแต่ละจงั หวดั สถิติการนาํ สินคา้ เขา้ และ การส่งสินคา้ ออก เป็นตน้

ข 10 พ8ืนฐานภาษาซี ภาษาซีเกิดขfึนในปี ค.ศ.1972 โดย Dennis Ritchie แห่ง Bell Labs โดยภาษาซีนfนั พฒั นามาจาก ภาษา B และจากภาษา BCPL ซ6ึงในช่วงแรกนfนั ภาษาซีถูกออกแบบใหใ้ ชเ้ ป็นภาษาการเขียนโปรแกรมในระบบ UNIX และเร6ิมมีคนสนใจมากขfึนในปี ค.ศ.1978 เม6ือ Brain Kernighan ร่วมกบั Dennis Ritchie พฒั นามาตรฐานของภาษาซีขfึนมา คือ K&R (Kernighan & Ritchie) และทfงั สองยงั ไดแ้ ต่งหนงั สือช6ือวา่ \"The C Programming Language\" โดยภาษาซีนfนั สามารถ จะปรับใชก้ บั เคร6ืองคอมพิวเตอร์รูปแบบต่างๆได้ ต่อ มาในช่วง ปี ค.ศ.1988 Ritchie และ Kernighan ไดร้ ่วมกบั ANSI (American National Standards Institute) สร้างเป็นมาตรฐานของภาษาซีขfึนมาใหม่มี ช6ือวา่ \"ANSI C\"

ก 11 Dennis Ritchie ภาษา ซีนfนั จดั เป็นภาษาที6ใชใ้ นการเขียน โปรแกรมท6ีนิยมใชง้ าน ซ6ึงภาษาซี จดั เป็นภาษาระดบั กลาง (Middle-Level Language) เหมาะกบั การเขียนโปรแกรมแบบ โครงสร้าง (Structured Programming) โดยมีคุณสมบตั ิโดดเด่นอยา่ งหน6ึงคือ มีความ ยดื หยนุ่ มาก กล่าวคือ สามารถทาํ งาน กบั เครื6องมือต่างๆ สามารถปรับเปลี6ยนการเขียน โปรแกรมในรูปแบบต่างๆได้ เช่น สามารถเขียนโปรแกรมที6มีความยาวหลายบรรทดั ใหเ้ หลือความยาว 2-3 บรรทดั ได้ โดยมีการผลการทาํ งานที6เหมือนเดิมครับ จาก C สู่ C++ ถูกพฒั นาโดย Bjarne Stroustrup แห่ง Bell Labs โดยไดน้ าํ เอาภาษา C มาพฒั นา และใส่แนวคิดการเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถุ หรือ OOP (Object Oriented Programming) เขา้ ไปดว้ ย ซ6ึงเป็นที6มาของ C++ กค็ ือ นาํ ภาษา C มาพฒั นาปรับปรุงใหม้ ีประสิทธิภาพ มากขfึน

ข 12 เทคโนโลยปี ระยกุ ต์ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี ในชีวติ ประจาํ วนั ในชีวติ ประจาํ วนั ของเรามีการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี ยมู่ ากมาย ไม่วา่ จะเป็น เทคโนโลยที ี6เห็นมากในปัจจุบนั คือ ส6ิงท6ีเรียกวา่ โทรศพั ท์ มือถือ I-PAD ,Computer หรือเคร6ืองมือต่าง ๆ ท6ีจาํ เป็นในวงการธุรกิจ การแพทยแ์ ละการศึกษาซ6ึงสามารถ ประยกุ ตแ์ ละใหค้ วามสะดวกสบายและประสิทธิภาพท6ีมากขfึนอยา่ งลงตวั เทคโนโลยปี ระยกุ ตค์ ืออะไร เทคโนโลยขี องการสื6อสารและโทรคมนาคมในปัจจุบนั กา้ วไกลไปมาก มี บริการมากมายท6ีทนั สมยั และตอบรับกบั การนาํ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาํ เนินธุรกิจ ตวั อยา่ งการใชโ้ ทรศพั ทใ์ นปัจจุบนั นfีกม็ ิไดมีไวเ้ พียงสาํ หรับคุยสนทนาเพียงอยา่ งเดียว อีกต่อไป แต่มนั สามารถช่วยงานไดม้ ากขfึน โดยอา้ งอิงขอ้ มูลและการเปิ ดใหบ้ ริการ ของบริษทั มีติดต่อส6ือสารผา่ นดาวเทียมทfงั ภาพและเสียง มีโทรศพั ทม์ ือถือรุ่นต่าง ๆ ออกมามากมาย พฒั นาทfงั หน่วยงานของภาครัฐและเอกชน เช่นเทเลคอม เอเชีย คอร์ ปอร์เรชนั6 จาํ กดั (มหาชน) กล่าวคือ กรประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยใี นชีวติ คือ การนาํ พfืนฐานทางดา้ น เทคโนโลยี ในดา้ นต่างๆ มาผสมผสานกนั ทาํ ใหเ้ กิดประโยชนท์ ี6สูงขfึนไปเพื6อใหเ้ กิด ความสะดวกสบายและประสิทธิภาพที6มากขfึน

ก 13 การประยกุ ตด์ า้ นเทคโนโลยี ดา้ นการศึกษา การนาํ เทคโนโลยสี ารสนเทศที6นาํ มาใชส้ าํ หรับการเรียนการศึกษา เป็นการใช้ เทคโนโลยสี มยั ใหม่หลายอยา่ ง ซfึงไดร้ ับความนิยมอยา่ งแพร่หลาย การประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยกี บั การศึกษา โดยปัจจุบนั นิยมใชก้ บั ระบบ Internet , email เช่น E- Learning , E-book การประยุกต์ด้านเทคโนโลยี ด้านการแพทย์ คือการใชเ้ ทคนิคดา้ นการสร้างเทคโนโลยมี าประยกุ ตก์ บั การแพทยเ์ พื6อใหไ้ ดอ้ ุป กรณืท6ีมีประสิทธิภาพมากขfึนและมีความสะดวกสบายรวมถึงความแม่นยาํ ที6เพิ6มมาก ขfึน การประชุกตเ์ พ6ือใชท้ างดา้ นการแพทย์ เช่น เคร6ืองปfัมหวั ใจ การแสกนสมอง การฉายรังสี รวมถึงการสร้างยาต่างๆเพื6อใชใ้ นการรักษาโรค การทาํ แอปพลิเคชนั เพ6ือใหค้ วมรู้หรือลงทะเบียนทางการแพทย์ การประยกุ ตด์ า้ นเทคโนโลยี ดา้ นธุรกิจ คือการนาํ เทคโนโลยี มาปรับใชใ้ นทางธุรกิจไม่วา่ จะเป็นการคา้ ขายทางออนไล์ หรือ การตลาดต่างๆ เพื6อใหผ้ บู้ ริโภค เขา้ ถึงไดง้ ่ายขfึน รวมถึงสามารถใชส้ ร้างเป็นจุด ขายของแบรนดต์ ่าง ๆ ไดด้ ว้ ย

ข 14 ระบบงานในองคก์ รและงานดา้ นบริหารในโลกยคุ ใหม่มีการแข่งขนั กนั อยา่ ง รุนแรง ทาํ ใหก้ ารคา้ และการดาํ เนินธุรกิจมีการเปล6ียนแปลงองคก์ รต่างๆเร6ิมพยายาม เปล6ียนแปลงใหก้ า้ วทนั สู่ยคุ ของการคา้ รูปแบบใหม่ โดยผา่ นเคืรอข่ายอินเตอร์เน็ต เพ6ือ เพิ6มช่องทางการคา้ ขายการตลาดและการบริการไปสู่กลุ่มลูกคา้ ทfงั เก่าและใหม่ เป็นการ สร้างความพึงพอใจแก่ลูกคา้ คาํ วา่ “อีคอมเมิร์ซ”จดั เป็นทางเลือกหน6ึงท6ีช่วยใหอ้ งคก์ ร ไดเ้ ปรียบคู่แข่งขนั ความหมายของอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) หรือชื6อที6แปลเป้นไทยวา่ “พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์” หมายถึงการดาํ เนินธุรกิจซfือขาย โดยใชส้ 6ืออิเลก็ ทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ซ6ึงเป็รส่วนหน6ึงของ E-Business หมายถึง การทาํ กิจกรรมทุกๆอยา่ งทุกขfนั ตอนผา่ นสื6ออิเลก็ ทรอนิกส์ ซ6ึงมีขอบเขตที6กวา้ งกวา่ อี คอมเมิร์ซที6เป็นการดาํ เนินธุรกิจโดนอาศยั เทคโนโลยสี ารสนเทศและโทรคมนาคม เป็นโครงสร้างพfืนฐานเพ6ือใหส้ ามารถติดต่อส6ือสารกบั ลูกคา้ คน้ หาขอ้ มูลหรือทาํ งาน ร่วมกนั ได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook