เอกสารแนะนาการจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคป ภายใต้โครงการไรซ์ไทยแลนด์ สา ห รั บ บุ ค ค ล ห รื อ ห น่ ว ย ง า น ที่ ส น ใ จ เ ข้ า ศึ ก ษ า ก ร ะ บ ว น ก า ร ทา ง า น เอกสารแนะนาการจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคปภายใต้โครงการไรซ์ไทยแลนด์ ประกอบดว้ ย 1. ตารางกจิ วัตรประจาวนั 2. วงล้อแหง่ การเรยี นรู้ 3. ตัวบ่งช้ีพัฒนาการ (Key Developmental Indicators)
ตารางกจิ กรรมป เวลา กจิ กรรม 07.00 - 8.00 - รับเด็ก - ครสู วสั ดี ทักทายผปู้ กครอง ร - เด็กเก็บกระเปา๋ ของใช้สว่ นต - เดก็ ฟงั นทิ าน/ทาความสะอาด 08.00 - 08.30 เข้าแถวเคารพธงชาติ และกิจกรรม - เด็กรอ้ งเพลง/เคารพธงชาติ/ส หนา้ เสาธง - ครูพาเดก็ กายบรหิ าร ออกกา - ครูเวรอบรมหน้าเสาธง/สวสั ด 08.30 - 08.45 เตรยี มตวั ก่อนเรียนรู้ - เด็กด่มื นม/รับประทานอาหาร 08.45 - 09.00 กิจกรรมเชา้ วนั ใหมส่ ดใสแข็งแรง - ครูจดั กิจกรรมเคลื่อนไหวและ 09.00 - 09.15 กจิ กรรมกลุ่มใหญ่ - ครจู ัดกิจกรรมกลุ่มใหญ่ทสี่ ัม 09.15 - 09.45 กิจกรรมสรา้ งสรรค์ - ครจู ัดกิจกรรมสรา้ งสรรค์ทส่ี มั RIECE T 09.45 - 10.45 กิจกรรมเสรี และ กิจกรรมกล่มุ ย่อย - วางแผน (5นาที) เดก็ เลอื กม - ปฏบิ ตั ิ (40นาที) เดก็ ลงมือท - เลน่ แลว้ เกบ็ (5นาที) ครรู อ้ ง - ทบทวน (10นาที) เด็กนาเสน 10.45 - 11.15 กจิ กรรมเล่นสนกุ นอกห้องเรยี น - ครพู าเดก็ ทากิจกรรมเลน่ สนุก - เด็กลา้ งมอื ทาความสะอาดร่า 11.15 - 12.00 - พักเที่ยง - เด็กๆ รับประทานอาหารกลา
Thailandประจาวัน รายละเอียด รับเด็ก สงั เกตและตรวจสุขภาพเดก็ ตัว และคืนหนงั สือนิทาน ดหอ้ งเรียน/ทาความสะอาดบรเิ วณทีร่ บั ผิดชอบ สวดมนตไ์ หว้พระ าลังกาย ดีทักทายกัน รว่าง,ลา้ งมอื ,เข้าห้องนา ะจังหวะท่ีสัมพันธก์ ับหนว่ ยการเรยี นรู้ มพนั ธก์ บั หน่วยการเรียนรู้ มพันธก์ บั หน่วยการเรียนรู้ มมุ ประสบการณต์ ามความสนใจ ทากิจกรรมตามมุมทว่ี างแผน งเพลง หรือเปิดเพลงเบาๆ ให้สญั ญาณ เดก็ เก็บของเล่นและทาความสะอาดดว้ ยตนเอง นอความคดิ และผลงาน บอกเลา่ สงิ่ ท่ไี ปปฏบิ ัติในมุม และตอบคาถาม กนอกห้องเรียนหรือการเล่นกรรมกลางแจง้ างกาย เตรยี มตวั รับประทานอาหารกลางวนั างวนั
เวลา กิจกรรม - เดก็ ลา้ งมอื ล้างหน้า แปรงฟัน 12.00 - 12.10 - เตรียมตัวกอ่ นนอน 12.10 - 12.20 - รบั การบา้ น - เด็กรับการบ้านท่ีสัมพันธก์ ับห - พานิทานกลับบา้ น - เด็กเลอื กนิทานท่ีสนใจมาเตร 12.20 - 14.20 - นอนพักผ่อน 14.20 - 14.30 - ต่นื นอน - ครเู ล่านทิ านกอ่ นนอน, พาเด็ก 14.30 - 15.00 - กจิ กรรมสดชืน่ หลงั ต่นื นอน - เดก็ เก็บทนี่ อน ลา้ งหน้า ทาแป 15.00 - 16.00 - สง่ เด็กกลบั บา้ น - ครพู าเด็กร้องเพลง,เลา่ นทิ าน - ครูแจกหนงั สอื นิทานพร้อมสม - ครูชกั ชวนใหเ้ ดก็ เล่นเกมการศ - เด็กๆชว่ ยกันทาความสะอาดห - ครูสนทนา พูดคยุ กบั ผ้ปู กครอ RIECE T
รายละเอยี ด น เขา้ ห้องนา ปทู ี่นอน หนว่ ยการเรียนรใู้ ส่แฟม้ การบ้าน รียมไว้ให้ครูลงบันทึกเพ่ือยืมกลบั บา้ น กสวดมนต์, เปดิ เพลงบรรเลงเบาๆ และใหเ้ ด็กนอนพักผอ่ น ป้ง น,ทบทวนการบา้ น, สนทนาทบทวนถึงเรื่องดๆี ที่เด็กๆ ทา,สะท้อนการเรยี นรู้กอ่ นกลบั บา้ น มุดบันทึก (เลม่ สฟี ้า) ให้เด็กเอาไปใสก่ ระเป๋า ศึกษาท่สี อดคลอ้ งกบั หนว่ ยและเรอ่ื งทเี่ รียนรู้ในวนั นี ห้องเรียน รอผูป้ กครองมารับ องทีม่ ารับเดก็ กลับบ้าน Thailand
ตวั บ่งช้พี ัฒนาการ (Key Developmental Indicators) เด็กปฐมวัย มีธรรมชาติการเรยี นรู้ท่ีแม้มีความแตกต่างกันเป็นรายบุคคล แต่มีลักษณะพฤติกรรมที่สะท้อนถงึ ความสามารถตามพัฒนาการด้านต่างๆ ท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ที่สังเกตและเช่ือมโยง ความสมั พันธก์ ับศักยภาพตามวยั ได้ ตัวบ่งช้พี ฒั นาการจะปรากฏข้นึ ระหว่างท่เี ด็กได้มปี ฏิสัมพันธ์กบั ผูค้ น วสั ดอุ ปุ กรณ์ เหตุการณ์ และความคิดต่างๆ หลักสูตรน้จี ึงได้กาหนด ตัวบ่งชี้พฤติกรรมและ คุณลกั ษณะ ตามวัยโดยจาแนกตามการ เรียนรูแ้ ละพัฒนาการของเด็ก 2 ชว่ งอายุ คอื แรกเกดิ -3 ขวบ และ 3-6 ขวบ ได้แก่ 1. เดก็ แรกเกดิ -3 ขวบ ครอบคลมุ ตัวบง่ ช้พี ัฒนาการ 6 ด้าน A. การสร้างกระบวนการเรียนรู้ B. อารมณ์ และสังคม C. รา่ งกาย และสุขภาพ D. การส่อื สาร ภาษา และการรูห้ นังสอื E. พฒั นาการด้าน สตปิ ญั ญา F. ศลิ ปะสร้างสรรค์ 2. เดก็ อายุ 3-6 ขวบ ครอบคลุมตัวบง่ ชพ้ี ัฒนาการ 8 ดา้ น ไดแ้ ก่ A. การสรา้ งกระบวนการเรยี นรู้ B. บุคลิกภาพ อารมณ์ และสงั คม C. ร่างกาย สุขภาพ และสุขนิสยั D. การสื่อสาร ภาษา และ การรหู้ นังสอื E. พ้ืนฐานทางคณิตศาสตร์ F. ศลิ ปะสร้างสรรค์ G. พน้ื ฐานทางวทิ ยาศาสตร์ H. พ้นื ฐานทางสังคม RIECE Thailand
ระดบั อายุ 0-3 ขวบ (6 ด้าน 42 ตัวบง่ ช)ี้ พฒั นาการ ตัวบ่งช้ี A. การสร้างกระบวนการเรยี นรู้ 1. การริเร่ิม: เด็กแสดงถึงการริเริม่ ทา ส่ิงที่สนใจ 2. การแกป้ ัญหา: เดก็ แสดงการแกป้ ญั หา จากการสารวจและการ B. อารมณ์ และสงั คม เลน่ 3. การชว่ ยเหลือตนเอง: เดก็ ทาสงิ่ ต่างๆ เพ่ือตนเอง 4. การรบั รถู้ ึงความแตกตา่ ง: เด็กแยกแยะ ความแตกต่างระหวา่ ง ตนเองกับผอู้ นื่ RIECE Thailand 5. ความผกู พัน: เดก็ แสดงออกถึง ความผูกพัน กับผทู้ ใ่ี กลช้ ิด 6. ความสัมพนั ธ์กับผู้ใหญ:่ เดก็ ปรับตัว สรา้ ง ความสัมพนั ธ์กบั ผใู้ หญ่คนอืน่ 7. ความสัมพันธ์กับเดก็ : เด็กปรับตัว สรา้ งความสมั พนั ธ์กับเด็กคน อ่นื 8. อารมณ:์ เด็กแสดงออกถงึ อารมณต์ ่างๆ 9. การเขา้ ใจผู้อนื่ : เด็กแสดงออกถงึ การเขา้ ใจความร้สู ึกและความ ตอ้ งการของผูอ้ น่ื 10. การเลน่ กับผูอ้ นื่ : เด็กเลน่ กับผู้อ่นื C. ร่างกาย และสขุ ภาพ 11. การร่วมกจิ กรรมกลุ่ม: เดก็ มสี ่วนรว่ มใน กจิ กรรมกลมุ่ ในกจิ วตั ร ประจาวนั 12. การเคล่ือนไหวรา่ งกาย: เด็กเคลอ่ื นไหว ส่วนตา่ งๆของรา่ งกาย (การหนั ศีรษะ, การหยบิ จบั , การเตะ) D. การส่ือสาร ภาษา และการรหู้ นังสอื 13. การเคลอื่ นไหวรา่ งกายโดยรวม: เด็กเคลอ่ื นไหว (การคบื , การ คลาน, การเดนิ , การวิ่ง, การทรงตวั ) 14. การเคลือ่ นไหวพร้อมอุปกรณ์: เดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายพรอ้ ม อุปกรณ์ต่างๆ 15. ความคงทนในกลไกทางรา่ งกาย: เด็กรสู้ ึกและมีความคงทนใน การสรา้ ง ประสบการณ์ทางร่างกาย 16. การฟังและการตอบสนอง: เด็กฟงั และแสดงการตอบสนอง
พัฒนาการ ตวั บง่ ชี้ E. พฒั นาการดา้ นสติปัญญา 17. การสอื่ สารดว้ ยภาษาท่าทาง: เด็กส่ือสารดว้ ยสีหน้า ท่าทางต่างๆ RIECE Thailand 18. การสื่อสารแบบ 2 ทาง: เด็กแสดงการ สื่อสาร สนทนา โต้ตอบ แบบ 2 ทาง 19. การพดู : เดก็ พูด 20. การสารวจสอ่ื สง่ิ พมิ พ์: เดก็ สารวจ หนงั สือภาพและนิตยสาร ตา่ งๆ 21. การสนกุ กบั ภาษา: เด็กสนุกกับเร่อื งราว บทกลอน คาคล้องจอง และเพลงต่างๆ 22. การสารวจวัตถุ: เดก็ สารวจวตั ถุอุปกรณ์ โดยใช้มือ ความรสู้ ึก ปาก เท้า ตา หู และจมูก 23. การคงอย่ขู องวัตถุ: เดก็ คน้ พบการคงอยู่ ของวตั ถุ 24. การสารวจความเหมือนและความต่าง: เด็กสารวจและ รับรู้ถึง ความเหมอื นและ ความแตกต่างของสิ่งรอบตัว 25. การรบั รถู้ ึงส่งิ ท่ีมากขึ้น : เดก็ มปี ระสบการณ์ เกีย่ วกับการเพ่มิ “มากขน้ึ ” 26. ความสัมพนั ธ์แบบหน่ึงต่อหน่ึง: เดก็ มปี ระสบการณ์เกย่ี วกบั ความสัมพันธ์ แบบหน่ึงต่อหน่ึง 27. จานวน : เดก็ มปี ระสบการณเ์ กย่ี วกบั จานวนของสิง่ ต่างๆ 28. ตาแหนง่ ของวัตถ:ุ เดก็ สารวจและรับรูถ้ งึ ตาแหน่ง ท่ตี ัง้ ของวัตถุ 29. การมีและการไม่มี : เดก็ รบั ร้เู กยี่ วกับการมี และไม่มี การเพ่ิมและ การลด 30. การแยกส่วนและประกอบเข้าดว้ ยกัน: เด็กแยกชนิ้ สว่ นและนามา ประกอบ เข้าด้วยกัน 31. การสงั เกตจากมุมมองทแ่ี ตกต่างกัน : เดก็ สังเกตเห็นผู้คนและ ส่งิ ของจากมมุ มอง ทีแ่ ตกตา่ งกนั 32. การเข้าร่วมงาน : เดก็ เขา้ รว่ มในงานท่ีคุน้ เคย 33. ชว่ งเวลา: เด็กรบั รเู้ กี่ยวกบั การเริ่มต้นและ การหมดเวลา
พฒั นาการ ตัวบ่งช้ี F. ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 34. ความเรว็ : เดก็ มปี ระสบการณ์เกย่ี วกบั “เร็ว” และ “ชา้ ” 35. สาเหตุและผลลพั ธ์: เดก็ แสดงพฤติกรรมซ้าเพ่ือทาใหเ้ กิดส่ิง ต่างๆขนึ้ อกี เพื่อสังเกตสาเหตุและผลลพั ธ์ 36. การเลยี นแบบและการสมมุติ: เดก็ เลียนแบบ และเล่นสมมุติตาม จินตนาการ 37. การสารวจวัสดอุ ุปกรณ์ศิลปะ: เดก็ สารวจสถานทีแ่ ละวัสดุ อปุ กรณ์ศลิ ปะ 38. การแยกแยะการรบั รภู้ าพ : เดก็ ตอบสนอง และแยกแยะภาพท่ี เหน็ และภาพถา่ ย 39. การฟงั เสยี งเพลง: เด็กฟังเพลง 40. การตอบสนองต่อเสียงเพลง: เด็กแสดง การตอบสนองต่อ เสียงเพลง 41. เสยี ง: เดก็ สารวจและเลียนเสยี งต่างๆ 42. ระดบั เสยี ง: เดก็ สารวจระดับเสียงของสิง่ ทไี่ ดย้ ิน RIECE Thailand
ระดับอายุ 3-6 ขวบ (8 ด้าน 59 ตัวบ่งช้ี) พฒั นาการRIECE Thailand ตวั บ่งช้ี A. การสรา้ งกระบวนการเรียนรู้ 1. การริเรม่ิ : เดก็ แสดงถึงการคิดริเริ่มในการสารวจโลกรอบตวั B. บคุ ลกิ ภาพ อารมณ์ และสังคม 2. การวางแผน : เด็กวางแผน และทาสง่ิ ต่างๆตามการตัดสนิ ใจของ ตนเอง 3. การปฏิบัติ : เดก็ ตั้งใจลงมือ ทาสิ่งตา่ งๆ ทีต่ นเองสนใจ 4. การแกป้ ัญหา : เดก็ ลงมอื แก้ปัญหาทเ่ี กิดขึน้ ในขณะเล่น 5. การใชแ้ หล่งเรียนรู้ : เด็กค้นหา รวบรวมขอ้ มลู และ สร้าง ความคดิ เกี่ยวกับ โลกรอบตัว 6. การสะท้อนความคดิ : เด็กสะทอ้ นความคิดเก่ียวกบั ประสบการณ์ของตนเอง 7. การรบั รู้เกี่ยวกับตนเอง : เดก็ มีการรบั ร้ตู ่อตนเองในเชิงบวก 8. การตระหนักในความสามารถของตน : เดก็ มีความมนั่ ใจและทา สง่ิ ต่างๆ ด้วยความสามารถของตนเอง 9. อารมณ์ : เดก็ แสดงออก บอก ความรสู้ กึ และจดั การอารมณข์ อง ตนเอง 10. การเขา้ ใจผู้อ่นื : เด็กแสดงถึงการรบั รู้และเข้าใจความรสู้ ึกของ ผอู้ ่ืน 11. ความเปน็ ชุมชน : เดก็ มสี ่วนร่วมใน กิจกรรมทางสงั คมภายใน ห้องเรยี น 12. การสรา้ งสมั พันธภาพ : เดก็ สรา้ งความสัมพนั ธ์ท่ีดีในการอยู่ รว่ มกบั เดก็ และผใู้ หญ่คนอ่นื ๆ 13. การเล่นร่วมมือ : เด็กให้ความรว่ มมือ ในการเลน่ ร่วมกบั ผอู้ ่ืน 14. การมคี ุณธรรมในจิตใจ : เด็กแสดงออกถึงการร้จู ักแยกแยะ ส่ิงท่ี ผดิ และ สง่ิ ที่ถกู 15. การแก้ไขความขดั แยง้ : เด็กแก้ไขความขัดแย้งทางสังคม ด้วย เหตุผล
RIECE Thailandพัฒนาการ ตวั บง่ ช้ี C. รา่ งกาย สุขภาพ และสขุ นสิ ยั 16. ความมวี นิ ัย: เด็กรบั รู้เละปฏบิ ัติตามข้อตกลงของส่วนรวม D. การสอ่ื สาร ภาษา และ การร้หู นังสอื 17. ทกั ษะการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ : เด็กแสดงออกถงึ ความแข็งแรง ความยดื หย่นุ ความสมดุล และ การควบคุมการใชก้ ล้ามเน้ือใหญ่ ในการเคลื่อนไหว 18. ทักษะการใชก้ ลา้ มเน้ือเลก็ : เดก็ แสดงออกถงึ ความแข็งแรง การ ประสาน ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง ตากบั มือ และการควบคุมการใช้ กล้ามเนือ้ เล็กทากิจกรรม 19. การตระหนักร้ใู นร่างกาย : เด็กรับรู้เกยี่ วกับร่างกายของตนเอง และควบคุม การใชง้ าน ในพื้นทต่ี า่ งๆ 20. การดแู ลสุขอนามยั : เดก็ รักษาความสะอาด ดแู ลสุขอนามัยสว่ น ตน ตาม กจิ วตั รประจาวนั 21. พฤติกรรมการมสี ขุ ภาพดี : เด็กปฏิบตั ิตนในการรักษาสุขภาพ ออกกาลงั กาย และดแู ลความ ปลอดภัยของตนเอง 22. ความเข้าใจความหมาย : เด็กเข้าใจและแสดงการตอบสนอง ต่อ สง่ิ ทฟ่ี ังไดต้ รงกบั ความหมาย 23. การพูด : เด็กใช้ภาษา แสดงความคิด ความรสู้ ึกของตนเอง 24. การใชค้ าศัพท์ : เดก็ เขา้ ใจ และใชค้ าศัพท์ ประโยค ขอ้ ความ ต่างๆ ถูกต้องตามความหมาย 25. การตระหนักรูใ้ นเสียง : เดก็ แยกแยะความแตกตา่ งของเสียงทไ่ี ด้ ยนิ ในภาษาพูด 26. ความรู้เก่ยี วกบั ตัวหนงั สือ : เด็กระบุชอื่ เรยี กตวั อักษรและเสียง ไดต้ รง ตามพยัญชนะ 27. การอา่ น : เด็กอ่านสิง่ ตา่ งๆ เพอื่ ความสขุ และเพื่อคน้ หาข้อมูล 28. การมคี วามคิดรวบยอด เก่ียวกบั สัญลักษณ์ตวั หนังสอื : เดก็ แสดง ถงึ ความรเู้ กย่ี วกบั ตวั อักษร ที่พบเหน็ ในชีวิตประจาวัน 29. ความร้เู กีย่ วกับหนังสือ : เด็กแสดงออกถึงความรู้เกย่ี วกับ หนงั สือ 30. การเขยี น: เดก็ เขยี นตาม จดุ มุ่งหมายที่หลากหลาย
RIECE Thailandพัฒนาการ ตวั บ่งช้ี E. พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ 31. การเรยี นรภู้ าษาอังกฤษ : เด็กใช้คาศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ ใน การ ส่ือความหมาย F. ศิลปะสร้างสรรค์ 32. คาศัพทจ์ านวนและ สัญลักษณ์ ตัวเลข: เดก็ เขา้ ใจ ความหมาย และใช้คาศัพท์ เกีย่ วกับตัวเลข จานวนและ สัญลักษณ์ตา่ งๆ 33. การนบั : เดก็ นบั จานวนของ สิง่ ต่างๆ 34. ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง ส่วนยอ่ ยและท้ังหมด: เด็กประกอบ และ แยกส่วนตา่ งๆ ของวตั ถุ 35. รูปร่าง รปู ทรง: เดก็ จาแนก, บอกชอื่ และอธิบายลักษณะ ของ รูปร่าง รูปทรงตา่ งๆ 36. การตระหนักในเร่ือง มิติสัมพันธ์: เดก็ ระบคุ วามสัมพนั ธ์ ของ ระยะ ตาแหน่ง ทิศทาง พ้นื ท่ี ระหว่างผ้คู นกับวัตถุตา่ งๆ 37. การวดั : เด็กวดั เพอื่ อธบิ าย เปรียบเทียบ จดั ลาดบั ส่งิ ต่างๆ 38. หน่วย: เด็กเข้าใจและใช้ มโนทศั น์เกีย่ วกับหน่วย 39. แบบรูป: เดก็ จาแนก อธิบาย ทาตามแบบ ต่อเติมให้สมบรู ณ์ และสรา้ งแบบรปู ตา่ งๆ 40. การวิเคราะห์ข้อมลู : เด็กใช้ ข้อมลู เกย่ี วกบั คุณลักษณะต่างๆ ใน การสรปุ ตัดสินใจ และแก้ปัญหา 41. ศิลปะ: เดก็ แสดงออกและ ถา่ ยทอดสงิ่ ที่สังเกตพบ ความคิด จินตนาการ และความรสู้ ึกผ่าน ผลงานทางศิลปะแบบ 2 มิติ และ3 มติ ิ 42. ดนตร:ี เดก็ แสดงออกและ ถ่ายทอดส่งิ ท่สี ังเกตพบ ความคดิ จนิ ตนาการ และความรสู้ ึก ผ่านดนตรี 43. การเคล่ือนไหว: เด็กแสดงออก และถา่ ยทอดส่งิ ท่ี สงั เกตพบ ความคดิ จินตนาการ และความรู้สกึ ผ่านการเคลื่อนไหว 44. การเลน่ สมมตุ ิ: เด็กแสดงออก และ ถ่ายทอดสิ่งทสี่ งั เกตพบ ความคิด จนิ ตนาการ และ ความรสู้ ึกผ่าน การเลน่ บทบาท สมมติ 45. การช่ืนชมศิลปะ: เดก็ แสดงความ ชืน่ ชมในศิลปะสร้างสรรคต์ ่างๆ
RIECE Thailandพฒั นาการ ตวั บง่ ชี้ G. พน้ื ฐานทางวทิ ยาศาสตร์ 46. การสงั เกต: เดก็ สังเกตวัตถุ และกระบวนการเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ ในส่ิงแวดลอ้ ม H.พื้นฐานทางสงั คม 47. การจดั หมวดหม่:ู เด็กจัด หมวดหมูส่ ่ิงของตามลักษณะ การใช้ งาน ผูค้ น และสถานการณ์ 48. การทดลอง: เด็กทาการทดลอง เพื่อทดสอบความคดิ ของตนเอง 49. การทานาย: เด็กคาดเดาสง่ิ ที่ คิดว่าจะเกิดขนึ้ 50. การสรปุ ผล: เดก็ สรุปข้อมูล จากประสบการณ์และการสังเกต ด้วยตนเอง 51. การสือ่ สารความคดิ : เดก็ สื่อ ความคิดเกย่ี วกับลกั ษณะสาคัญและ กลไกการทางาน ของวัตถุตา่ งๆ 52. ธรรมชาตแิ ละโลกรอบตวั : เด็กรวบรวมความรเู้ กยี่ วกับ ธรรมชาติ และโลกรอบตัว 53. เครอื่ งมือและเทคโนโลย:ี เด็กสารวจและใชเ้ ครื่องมือและ เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 54. ความแตกตา่ ง: เดก็ เข้าใจใน ความแตกต่างของผู้คนด้าน ลกั ษณะภายนอก ความสนใจ และความสามารถต่างๆ 55. บทบาทในชมุ ชน: เดก็ แสดงถึง การเข้าใจบทบาทและหนา้ ที่อนั แตกต่างกัน ของผคู้ นในชมุ ชน 56. การตัดสนิ ใจ: เดก็ มีสว่ นรว่ ม ในการตดั สนิ ใจเรอ่ื งต่างๆในห้อง 57. ภูมศิ าสตร์: เดก็ เขา้ ใจและระบุ องค์ประกอบตา่ งๆ และตาแหน่ง พืน้ ท่ี ในสิง่ แวดล้อม 58. ประวัติศาสตร์: เดก็ เข้าใจเก่ยี วกบั สิ่งทม่ี ใี นอดีต ปัจจบุ ัน และ อนาคต 59. ระบบนเิ วศ: เดก็ เข้าใจถึงความสาคญั และมสี ่วนรว่ มในการดูแล รกั ษา สง่ิ แวดล้อม
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: