Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Final คู่มือหลักสูตร ผบก. ปี2564_12 มิย 64

Final คู่มือหลักสูตร ผบก. ปี2564_12 มิย 64

Published by Somkiat Lertprasert, 2021-06-13 04:13:35

Description: Final คู่มือหลักสูตร ผบก. ปี2564_12 มิย 64

Search

Read the Text Version

๑ ค่มู ือผเู้ ขา้ รบั การอบรม หลกั สูตรผบู้ รหิ ารการสาธารณสุข ระดบั กลาง รุน่ ท่ี ๓๔ ปี งบประมาณ ๒๕๖๔ การเรียนร้แู บบผสมผสาน (Blended learning) วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี นครลาปาง คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

ก๒ คำนำ คู่มือผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร ผู้บริหารการสาธารณสุขระดับกลาง (ผ.บ.ก.) รุ่นท่ี 3๔/256๔ ฉบับน้ี จัดทาขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รับทราบข้อมูลต่างๆ รวมท้ังระเบียบและข้อปฏิบัติที่เกี่ยวกับการอบรม หลักสูตรผู้บริหารการสาธารณสุขระดับกลาง ท่ีจัดโดยวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครลาปาง ซึ่งจะเป็น แนวทางในการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านวิชาการ ด้านร่างกายและจิตใจในการเข้าอบรมอย่างมีความสุข ตลอดระยะเวลาของการอบรม บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการจัดอบรมอย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ ตอ่ ไป คู่มือฉบับนี้ประกอบด้วย โครงสร้างหลักสูตร รายละเอียดของหลักสูตรการอบรมผู้บริหารการ สาธารณสุขระดับกลางท่ีประกอบด้วย การเตรียมความพร้อมในการอบรม การเรียนรู้ทางทฤษฏีและปฏิบัติ การประเมินผลการอบรมและการรับรองผลการอบรม ข้อมูลพ้ืนฐานวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครลาปาง รวมทั้งข้อมูลอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้องกับผู้อบรมท่ีจะนาไปใช้ประโยชน์ก่อนการอบรมและระหว่าง การอบรมในครั้งน้ี การระบาดของโควดิ ๑๙ ระลอกใหม่ในเดือนเมษายน ๒๕๖๔ มกี ารตดิ เชือ้ อย่างรวดเร็ว ในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อหลายด้านท้ังการเดินทางไปเข้ารบั การอบรมของบุคลากรทอี่ าจเป็นการเพิม่ การแพร่กระจาย เช้อื การจัดอบรมตามมาตรการการการเว้นระยะห่าง ทาใหต้ ้องปรับการอบรมจากรปู แบบเดิม คือ การอบรม แบบเผชญิ หนา้ (Face-to-face training) ในสถานที่อบรม เป็นการเรยี นร้แู บบผสมผสาน (Blended learning) เพอ่ื ใหผ้ ู้เข้าอบรมได้รับการพฒั นาอย่างต่อเน่ือง โดยปรับตารางการอบรมและกิจกรรมการอบรม ให้เหมาะสมกับรปู แบบการอบรม แต่ยังคงไว้ซง่ึ มาตรฐานหลักสตู ร คณะผู้จัดการอบรมหวังเป็นอย่างย่ิงว่า คู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์สาหรับผู้เข้าอบรมในการเตรียม ความพร้อมเพื่อการเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสาธารณสุขระดับกลาง รุ่นท่ี 3๔/256๔ ทีว่ ทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี นครลาปาง อยา่ งมีความพร้อมและมคี วามสขุ ต่อไป คณะกรรมการดาเนินการจดั อบรม วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี นครลาปาง คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

สารบญั ข๓ คานา หนา้ สารบัญ หลกั สูตรผบู้ ริหารการสาธารณสขุ ระดบั กลาง ก หลกั การและเหตผุ ล ข ปรัชญาของหลักสตู ร 1 วัตถปุ ระสงค์หลักสตู ร 1 สมรรถนะท่ีพงึ ประสงค์ 1 คุณสมบตั ิของผูเ้ ข้าอบรม 2 การเตรยี มตัวอบรมตามรูปแบบเรียนรแู้ บบผสมผสาน (Blended learning) 2 รปู แบบการอบรม 3 โครงสร้างหลักสตู ร 3 สรปุ โครงสร้างหลกั สตู รผบู้ รหิ ารการสาธารณสุขระดบั กลาง 3 รายละเอยี ดหลักสตู รการอบรมผบู้ ริหารการสาธารณสุขระดับกลาง 4 แอพพลิเคช่นั เพือ่ การเรียนออนไลน์ สอ่ื เครอื่ งมือ และแหล่งเรียนรู้ 6 การวัดและประเมนิ ผลของหลักสูตร 7 การรบั รองผลการอบรม 18 ผลงานที่ต้องจดั ทาเพ่ือเป็นผลผลติ ของหลกั สตู ร 18 แนวทางการอบรมออนไลน์ 19 การเตรียมความพร้อมในการอบรม 20 21 - การเตรียมเอกสารก่อนการอบรม 23 - การเตรียมความพร้อมสว่ นตัว 23 - คา่ ใช้จ่ายในการอบรม 23 - การรายงานตัวสาหรับการอบรม 23 - ข้อตกลงเวลาในการอบรม 24 - บทบาทหนา้ ที่ของผเู้ ข้ารบั การอบรม 24 24 ภาคผนวก 27 ใบงาน 3๑ การประเมินตนเอง 3๗ แบบประเมนิ 4๔ รายชอื่ ผู้เข้ารบั การอบรม ๕๔ ตารางการอบรม

๑ หลักสตู รผ้บู ริหารการสาธารณสุขระดบั กลาง กระทรวงสาธารณสขุ ************************ 1. ชื่อหลกั สูตร ภาษาไทย : ผบู้ รหิ ารการสาธารณสขุ ระดับกลาง (ผ.บ.ก.) ภาษาอังกฤษ : Middle Level Public Health Administrators Training Program 2. ช่ือประกาศนยี บตั ร ภาษาไทย : ประกาศนียบัตรผ้บู รหิ ารการสาธารณสุขระดับกลาง (ผ.บ.ก.) ภาษาองั กฤษ : Certificate in Middle Level Public Health Administrators Training Program ๓. หน่วยงานทีร่ ับผิดชอบ วทิ ยาลัยนกั บริหารสาธารณสขุ สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสุข ๔. หลักการและเหตผุ ล กระทรวงสาธารณสุขให้ความสาคัญกับการพัฒนาผู้บริหารมาอย่างต่อเน่ือง เพ่ือให้ผู้บริหารมี ความสามารถในการขับเคล่ือนองค์กร จึงไดม้ อบหมายให้วิทยาลยั นักบริหารสาธารณสุข พัฒนาหลกั สูตรอบรม ผู้บริหารทุกระดับ ทั้งระดบั สูง ระดับกลาง และระดับต้นให้ทันสมัย ตอบสนองนโยบาย และความต้องการของ ผู้เข้าอบรม และเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของหน่วยงาน สามารถ บริหารจัดการตนเอง ทีมงาน และองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนาองค์กรบรรลุเป้าหมาย และ วิสัยทัศน์ท่ีกาหนด ผู้บริหารระดับกลางมีบทบาทหลักในการนานโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง สู่การกาหนดกลยุทธ์และกลวิธกี ารดาเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ นโยบาย และพันธกิจของหน่วยงาน รวมท้ัง เปน็ ผู้ประสานเช่ือมต่อระหว่างผู้บริหารระดับสูงและระดับต้น วิทยาลัยนักบริหารสาธารณสุขได้พัฒนา หลักสูตรผู้บริหารการสาธารณสุขระดับกลาง ให้ครอบคลุมความรู้ ทักษะ และสมรรถนะในการบริหารจัดการ บุคลากร ทั้งด้านการเป็นผู้นาการเปลี่ยนแปลงรองรับภารกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต การขับเคล่ือนนโยบาย สาคัญด้านสาธารณสขุ พร้อมทั้งการเป็นผ้นู าที่มีคณุ ธรรมจริยธรรม โดยยึดหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง และ มอบหมายให้เครือข่ายจัดอบรม นาหลักสูตรไปใช้ในการฝึกอบรมผู้บริหารระดับกลาง ในหน่วยงานสังกัดกรม ตา่ ง ๆ ของกระทรวงสาธารณสุข ทง้ั ในสว่ นกลางและส่วนภมู ภิ าค ต่อไป ๕. ปรัชญาของหลักสูตร พัฒนาผู้เข้ารับการอบรมให้มีความรู้ ความสามารถทางการบริหาร ให้ เป็น“ผู้นารุ่นใหม่” ที่มีการคิดเชิงกลยุทธ์ สามารถจัดการข้อมูลและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม เรียนรู้ทักษะในการสื่อสารเพ่ือสร้าง แรงบันดาลใจให้กับทีมและมีความสามารถในการสร้างเครือข่าย เป็นแบบอย่างที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม และมีความสุข

๒ ๖. วตั ถุประสงค์ เพอ่ื ให้ผูเ้ ขา้ รบั การอบรมมีสมรรถนะ ดังนี้ 6.1 สมรรถนะดา้ นการเปน็ ผูน้ า 1. รจู้ กั เขา้ ใจตนเอง และผ้อู นื่ เพือ่ บรหิ ารการเปลีย่ นแปลง 2. มที ักษะการส่ือสารเพ่อื สรา้ งแรงบันดาลใจให้กับทีม 3. สามารถสร้างเครือขา่ ยการบริหารงาน เพ่ือการขับเคลอื่ นภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข 6.2 สมรรถนะดา้ นการบรหิ าร 1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับแนวคิดเชิงกลยุทธ์ และสามารถประยกุ ตใ์ ช้เพอื่ การ บรหิ ารงานเชงิ กลยทุ ธ์ 2. สามารถประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีและนวตั กรรมเพือ่ การบรหิ ารงาน 3. เปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ๗. สมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ ผบู้ รหิ ารการสาธารณสุขระดับกลาง ควรมสี มรรถนะการเป็นผู้บริหาร ดังนี้ 7.๑ สมรรถนะดา้ นการเป็นผู้นา 1. สามารถร้จู ัก เขา้ ใจตนเอง และผู้อ่นื เพอ่ื บรหิ ารการเปล่ยี นแปลง 2. สามารถสอ่ื สารเพอ่ื สร้างแรงบันดาลใจให้กับทีม และเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการดาเนนิ งาน 3. สามารถตดั สินใจทางการบรหิ ารโดยใช้กระบวนการคิดท่เี หมาะสม 4. สามารถบริหารความขัดแยง้ 5. สามารถสร้างเครอื ขา่ ยเพอ่ื การบริหารงาน 6. มีบคุ ลิกภาพทงั้ ภายใน และภายนอกทเี่ หมาะสม 7.2 สมรรถนะดา้ นการบริหาร 1. สามารถประยุกต์นโยบายด้านสาธารณสุข สู่การบริหารเชิงกลยทุ ธ์แบบมุง่ ผลสมั ฤทธิ์ โดย ใชก้ ระบวนการคิดเชิงกลยุทธ์ 2. สามารถประยุกต์เทคโนโลยดี ิจทิ ัล และนวตั กรรมเพอื่ การขับเคล่ือนระบบสขุ ภาพ 3. สามารถใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การบริหารและการตัดสินใจ 4. สามารถบรหิ ารการเงิน บัญชี พสั ดุ ตามระเบียบราชการ ๘. คณุ สมบตั ิของผู้เข้าอบรม เป็นผู้ท่ีดารงตาแหน่งทางการบริหารหรือปฏิบัติหน้าที่ทางการบริหารและอายุไม่เกิน ๕๕ ปี นับถึง เดอื นมกราคมของปีทส่ี มคั ร ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) ผู้ดารงตาแหน่งหรือรักษาการหรือได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีผู้อานวยการโรงพยาบาล ชมุ ชน สาธารณสุขอาเภอ ๒) หัวหนา้ กลุ่มภารกิจหรือหัวหน้ากลมุ่ งานหรอื หวั หนา้ ฝา่ ย สงั กดั โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลท่วั ไป สานักงานสาธารณสขุ จังหวดั โรงพยาบาลชมุ ชน กอง กรมตา่ งๆ และหน่วยงานนอกสงั กัดกระทรวงสาธารณสุข ๓) ผูช้ ว่ ยสาธารณสุขอาเภอ ๔) ผู้ดารงตาแหน่งชานาญการพิเศษ สังกัดโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สานักงาน สาธารณสขุ จังหวัด โรงพยาบาลชมุ ชน กอง กรมต่างๆ

๓ ๕) ผู้อานวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ท่ีดารงตาแหน่งระดับชานาญการพิเศษ หรือหัวหน้าสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ หรือหัวหน้าสถานีอนามัยที่ได้รับพระราชทานนาม หรือ ผู้อานวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลที่เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือผู้จัดการเครือข่ายหน่วยบริการ ปฐมภูมิ ๙. สถานทอี่ บรม ๑. ออนไลน์ ๒. สถานทีร่ าชการ หรือสถานทีเ่ อกชนตามทห่ี น่วยงานรบั จัดอบรมกาหนด 1๐. วิทยากร เปน็ ผู้ท่ีมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในวิชาทีบ่ รยาย ๑๑. การเตรยี มตัวอบรมตามรปู แบบเรียนรแู้ บบผสมผสาน (Blended learning) โดยหน่วยงานทจี่ ัดอบรมดาเนนิ การ ดังนี้ ๑๑.๑ ประสานและเตรียมความพร้อมผเู้ ข้าอบรม โดย จัดสง่ คู่มือ แจ้งกาหนดการอบรม แจง้ แนวทาง การอบรมออนไลน์ แจง้ การใช้แอพพลิเคชัน่ เพื่อการเรยี นแบบผสมผสาน แจ้งวนั ปฐมนเิ ทศ และทดลอง ใชแ้ อพพลิเคช่นั ก่อนอบรม ๑๑.๒ ปฐมนเิ ทศและทดลองการใชแ้ อพพลิเคชน่ั เพอื่ การเรียนแบบผสมผสานตามวันท่ีทน่ี ดั หมาย โดยทดลองทง้ั ห้องเรยี นออนไลน์ (Online classroom) และหอ้ งเรียนเสมือนจริง (Virtual classroom) 1๒. กาหนดการอบรม ตามระยะเวลาท่กี าหนดในแผนการจัดอบรม 13. รูปแบบการอบรม เปน็ การเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended learning) ระหวา่ งการอบรมแบบออนไลน์ (Online training) และการอบรมแบบเผชญิ หนา้ (Face-to-face training) เน้นให้เกดิ การเรยี นรู้แบบ Active learning เพือ่ ให้ผู้เขา้ อบรมมีส่วนรว่ มและมีปฏสิ ัมพนั ธ์กบั กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏบิ ตั ิทห่ี ลากหลายรปู แบบ ให้เหมาะสมกบั เน้ือหา และกิจกรรมการอบรมในแต่ละประเดน็ ดงั น้ี 1. การใชช้ ุมชนเปน็ ฐาน (Community-based learning) 2. การประชมุ ระดมสมอง (Brainstorming) 3. การฝกึ ปฏิบัติ (Practicing) 4. การอภิปราย (Discussion) 5. การแลกเปลยี่ นความคิด (Think – Pair – Share) 6. การสะท้อนความคิด (Reflection) 7. การวิเคราะห์กรณีศกึ ษา (Case study) 8. การใชเ้ กม (Games-based Learning)

๔ 14. โครงสร้างหลกั สตู ร หลักสูตรผู้บริหารการสาธารณสุขระดับกลาง เป็นหลักสูตรท่ีพัฒนาความรู้ ทักษะ และสมรรถนะ ผู้บริหารระดับกลาง ในประเด็นที่ผู้บริหารต้องมีและใช้ในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยผู้บริหารต้องพัฒนาตนเอง ตลอดเวลาให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง บริบท และสถานการณ์ ซ่ึงโครงสร้างหลักสูตรผู้บริหาร การสาธารณสุขระดับกลางประกอบด้วย ๓ หนว่ ยการเรียน รวม ๑๕๕ ช่วั โมง (๔ สัปดาห์) ดงั รายละเอียดต่อไปนี้ หน่วยการเรียนที่ 1 การเตรยี มความพรอ้ มในการอบรม ๒๒ ชัว่ โมง เป็นการเตรียมผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับกลางให้พร้อมต่อการพัฒนาตนเองด้านความเป็นผู้นา และดา้ นการบริหาร ดงั รายละเอยี ดต่อไปน้ี ลาดับที่ หัวข้อ จานวน ชั่วโมง/นาที 1 กิจกรรมกลุ่มสมั พนั ธ์ 1๒ 2 การชีแ้ จงหลกั สตู ร/ การปฏิบัตติ น/ การกาหนดบรรทัดฐานในการอบรม ๒ 3 กิจกรรมแนะนาตนเอง “บอกตวั ตนใน ๒ นาที” 2 4 การพัฒนาสมรรถนะทางร่างกายและทดสอบสมรรถนะ ๖ รวม 22 หน่วยการเรยี นท่ี 2 การเรียนรู้ทางดา้ นทฤษฎี และการฝึกปฏิบตั ิ จานวน ๑๑๒ ช่ัวโมง เปน็ การพฒั นาความรู้ ทักษะ และสมรรถนะการเป็นผนู้ า และสมรรถนะการเป็นผู้บรหิ าร ประกอบด้วย 2 หมวดวิชา ได้แก่ หมวดวิชาท่ี 1 หมวดการพฒั นาตนเอง และภาวะผนู้ า จานวน ๓๙ ชวั่ โมง หมวดวิชาท่ี 2 หมวดการพฒั นาทกั ษะดา้ นบริหาร จานวน ๗๓ ชั่วโมง ประกอบด้วยรายละเอียดของแต่ละหมวด ดงั นี้ ลาดับท่ี หวั ข้อ จานวน ชั่วโมง/นาที หมวดวิชาท่ี 1 หมวดการพัฒนาตนเอง และภาวะผู้นา จานวน ๓๙ ชวั่ โมง 1 ภาวะผู้นายุคใหม่กับการบริหารการเปล่ียนแปลงในศต วรรษท่ี ๒๑ 6 (Leadership for change) (เน้นการรู้จกั เข้าใจตนเอง และผู้อื่น การส่อื สาร สาหรับผู้นา) 2 กระบวนการคดิ ในการตดั สินใจทางการบรหิ าร (System Thinking) ๑ / 30 3 การสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วม (Network Management) ๑ / 30 4 การบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management) ๓ 5 ผ้บู ริหารและการขัดกนั แห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ๓ 6 การพัฒนาบุคลิกภาพ ๓ 7 ธรรมาภบิ าลสาหรบั ผบู้ รหิ าร ๓ 8 เทคนิคการนาเสนออยา่ งมีประสิทธภิ าพ (ศึกษาด้วยตนเอง) ๒ 9 ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง (ศึกษาด้วยตนเอง) ๑ 10 การพฒั นาจิต (กิจกรรมเสรมิ โดยผ้เู ข้าอบรม) ๔

๕ ลาดับท่ี หวั ข้อ จานวน ช่ัวโมง/นาที 11 การออกกาลงั กาย (กิจกรรมเสรมิ โดยผู้เข้าอบรม) 12 การพฒั นาทกั ษะการนาเสนอ (“วชิ าการ ๕ นาท”ี ) ๕ ๖ รวมหมวดที่ 1 39 หมวดวชิ าท่ี 2 หมวดการพัฒนาทกั ษะด้านบริหาร จานวน ๗๓ ชว่ั โมง ๓ 1 นโยบายที่สาคัญดา้ นสาธารณสขุ (เช่น ระบบบริการสุขภาพแบบวิถีชวี ติ ใหม่ ๑๕ (New Normal of Health Service System) / ผลกระทบของการปฏริ ปู ระบบสขุ ภาพปฐมภูมิตอ่ การดาเนนิ งานดา้ นสุขภาพ (The Impact of ๓ Primary Care Reform on Health System Performance) / นโยบายคน ๓ ไทยทุกครอบครัว มหี มอประจาตัว 3 คน) ๓ 3 2 การบรหิ ารเชงิ กลยุทธ์ การบรหิ ารงานมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ และเครอ่ื งมอื การบริหาร ๖ จดั การ (Tools and Technical Management) ๓๗ 3 เทคโนโลยีดจิ ิทลั และนวตั กรรมกบั ระบบสุขภาพ ๗๓ ๑๑๒ 4 เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การบริหารและการตัดสินใจ 5 การบรหิ ารดา้ นการเงนิ (Financial Management) 6 การบรหิ ารความเสี่ยงด้านการเงิน บัญชี และพัสดุ 7 หลุมพรางทางการบรหิ าร 8 การฝกึ ทักษะการคดิ เชิงกลยุทธ์โดยใช้การเรยี นรแู้ บบ CBL (Community- based Learning) รวมหมวดที่ 2 รวมทั้ง 2 หมวด หนว่ ยการเรยี นที่ ๓ การแลกเปลี่ยน สรปุ ผลการเรยี นรแู้ ละรบั ประกาศนยี บัตร จานวน ๒๑ ชวั่ โมง เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และตกผลึกส่ิงที่ได้เรียนรู้จากการอบรม บูรณาการความรู้ ทักษะท่ีได้รบั จาก การอบรมไปประยุกต์ใชใ้ นการทางานของผู้อบรม ดงั รายละเอียดต่อไปนี้ ลาดับที่ หวั ข้อ จานวนชวั่ โมง/ นาที 1 การนาเสนอและแลกเปลย่ี นผลการเรยี นรู้ จาก CBL ๓ 2 การแลกเปลี่ยนและจดั การความรู้ (Knowledge Management) ๓ 3 การประเมนิ โครงการ (AAR) ๓ 4 สรุปผลการเรยี นรตู้ ลอดหลกั สูตร และนาเสนอผลการเรยี นรู้ ๖ 5 กิจกรรมเสรมิ หลักสูตรเพอ่ื กระชับความสัมพันธ์ ๔ 6 พิธมี อบประกาศนยี บัตร ๒ รวม 21 หมำยเหตุ กำหนดให้มกี ิจกรรมเสรมิ หลักสูตรตำมควำมตกลงของผู้เข้ำรับกำรอบรมและหน่วยงำนผู้จัด ในกำร อบรมภำคกลำงคนื หรือตำมควำมเหมำะสม เพื่อเป็นกำรพฒั นำทกั ษะที่สนับสนนุ กำรบรหิ ำรและสร้ำงเครือขำ่ ย

หน่วยการเรยี นที่ ๑ สรปุ โครงสรา้ งหลกั สตู รผ การเตรยี มความพรอ้ มในการอบรม (๒๒ ชม.) หนว่ ยการเรียนที่ ๒ การเรยี น ๑) กิจกรรมกลุ่มสมั พันธ์และการทางาน หมวดวชิ าท่ี 1 หมวดการพฒั นาตนเอง และภา เปน็ ทีม 12 ชม. ผ้นู า ๓๙ ชม. ๒) การช้ีแจงหลักสูตร / การปฏิบตั ิตน ๑.๑) ภาวะผนู้ ายคุ ใหม่กบั การบรหิ ารการเปล่ียน / การกาหนดบรรทดั ฐานในการอบรม ในศตวรรษที่ ๒๑ (Leadership for Change) ๖ ๒ ชม. ๑.๒) กระบวนการคิดในการตดั สนิ ใจทางการบริห ๓) กิจกรรมแนะนาตนเอง “บอกตัวตน (System Thinking) ๑ ชม. 30 นาที ใน ๒ นาที” ๒ ชม. ๑.๓) การสร้างเครือขา่ ยและการมสี ว่ นรว่ ม (Net ๔) การพฒั นาสมรรถนะทางร่างกาย management) ๑ ชม. 30 นาที และทดสอบสมรรถนะ ๖ ชม. ๑.๔) การบรหิ ารความขัดแย้ง (Conflict Management) ๓ ชม. ๑.๕) ผ้บู ริหารและการขดั กนั แห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ๓ ชม. ๑.๖) การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ ๓ ชม. ๑.๗) ธรรมาภบิ าลสาหรบั ผบู้ ริหาร ๓ ชม. ๑.๘) เทคนคิ การนาเสนออยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (ศ ดว้ ยตนเอง) ๒ ชม. ๑.๙) ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ศกึ ษาด้วยตนเอง) ๑ ชม ๑.๑๐) การพฒั นาจิต (กจิ กรรมเสริมโดยผู้เข้าอบ ๔ ชม. ๑.๑๑) การออกกาลงั กาย (กิจกรรมเสรมิ โดยผู้เข อบรม) ๕ ชม. ๑.๑๒) การพฒั นาทกั ษะการนาเสนอ (“วชิ าการ นาที”) ๖ ชม.

6 ผบู้ รหิ ารการสาธารณสขุ ระดบั กลาง หนว่ ยการเรียนท่ี ๓ แลกเปลย่ี นการเรยี นรแู้ ละรับประกาศนียบตั ร นรทู้ างด้านทฤษฎแี ละฝึกปฏิบัติ (๑๑๒ ชม.) (๒๑ ชม.) าวะ หมวดวิชาที่ 2 หมวดการพฒั นาทกั ษะดา้ น บรหิ าร ๗๓ ชม. ๑) การนาเสนอและแลกเปลี่ยนผลการ เรยี นรู้ จาก CBL ๓ ชม. นแปลง ๒.1) นโยบายสาคัญด้านสาธารณสุข ๓ ชม. ๒) การแลกเปลยี่ นและจัดการความรู้ ๖ ชม. ๒.๒) การบริหารเชงิ กลยทุ ธ์ การบริหารงาน (Knowledge Management) ๓ ชม. หาร ม่งุ ผลสมั ฤทธแิ์ ละเครอื่ งมอื การบรหิ ารจัดการ ๓) การประเมินโครงการ (AAR) ๓ ชม. (Tools & Technical Management) ๑๕ ชม. ๔) สรุปผลการเรียนรตู้ ลอดหลกั สตู ร twork ๒.๓) เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลและนวัตกรรมกับระบบ และนาเสนอผลการเรียนรู้ 6 ชม. ๕) กจิ กรรมเสรมิ หลักสตู รเพ่ือกระชบั สุขภาพ ๓ ชม. ความสมั พนั ธ์ (เช่น Sport day) ๔ ๒.๔) เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การบริหารและ ชม. การตดั สินใจ ๓ ชม. ๖) พิธีมอบประกาศนยี บัตร ๒ ชม. ๒.๕) การบริหารด้านการเงิน (Financial Management) ๓ ชม. ๒.๖) การบรหิ ารความเสย่ี งด้านการเงิน บญั ชี และพัสดุ 3 ชม. ศกึ ษา ๒.๗) หลุมพรางทางการบริหาร ๖ ชม. ๒.๘) การฝกึ ทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์โดยใช้ ชม. การเรยี นรู้แบบ Community-based Learning บรม) (CBL) ๓๗ ชม. ข้า ๕

๗ 15. รายละเอยี ดหลกั สูตรผู้บริหารการสาธารณสขุ ระดบั กลาง 15.๑ หน่วยการเรียนที่ ๑ การเตรยี มความพร้อมในการอบรม ๒๒ ช่วั โมง 15.1.1 วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ เตรยี มความพรอ้ มของผเู้ ข้ารับการอบรม สร้างความสัมพันธ์ /เครอื ขา่ ยท่ีไม่เปน็ ทางการ และเรียนรู้การทางานเปน็ ทีม รบั ทราบกฎ กติกา รายละเอียดหลกั สูตร การพัฒนาสมรรถนะทางกาย 15.1.2 ขอบเขตเนอ้ื หาและกิจกรรม ประกอบด้วย 4 รายวชิ า ดังนี้ ช่อื วิชา ๑. กิจกรรมกลุ่มสัมพนั ธ์ วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมได้ร้จู ักซ่งึ กนั และกนั สร้างความสัมพนั ธท์ ีด่ ี มคี วามเขา้ ใจ เห็นใจกัน กระชับความสัมพนั ธ์ สรา้ งทีมงานเพ่ือการทางานกลุ่ม ขอบเขตเน้อื หา การปรับกระบวนการทางความคดิ (Mind set) กิจกรรมกลุ่มเพ่ือละลายพฤติกรรม เทคนคิ ในการทางานร่วมกันเปน็ ทีม การแกป้ ญั หาและอุปสรรคอยา่ งสร้างสรรค์ จานวนชว่ั โมง ๘ ชั่วโมง ลกั ษณะกจิ กรรม การทากลุ่มสัมพันธ์ walk rally หรอื การเขา้ ค่าย/กิจกรรมอนื่ ๆ ตามบริบทของพน้ื ที่ แบบตอ่ หนา้ รูปแบบ ชอ่ื วิชา ๒. การช้แี จงหลกั สตู ร/ การปฏิบตั ิตน/ การกาหนดบรรทดั ฐานในการอบรม วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตเน้อื หา เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจรายละเอียดของหลักสูตรกฎระเบียบต่าง ๆ ท่ตี อ้ งปฏบิ ัติระหว่างการอบรม ลกั ษณะกิจกรรม รูปแบบ ช้ีแจงรายละเอยี ดหลักสูตร การประเมนิ ผล ระเบียบเกยี่ วกับการฝึกอบรม การ ปฎบิ ตั ิตนระหวา่ งการอบรม การกาหนดบรรทัดฐาน และกติกากลมุ่ เพอ่ื การอยู่ รว่ มกัน อย่างมรี ะเบียบและมีความสุข 2 ช่วั โมง การบรรยาย ออนไลน์ ชอ่ื วิชา ๓. กิจกรรมแนะนาตนเอง “บอกตัวตนใน ๒ นาที” วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อให้ผู้เขา้ รบั การอบรมไดร้ ู้จักและค้นุ เคยกนั โดยนาเสนอจุดเด่นของตนเอง ขอบเขตเน้ือหา ตลอดจนฝกึ การคิดรวบยอด/ สรุปความ (Conceptualization) ภายในเวลาจากดั ใหผ้ เู้ ข้ารับการอบรมแตล่ ะคนแนะนาตนเองและบอกวา่ ตนเองมีดีหรือจุดเดน่ อะไร จานวนช่วั โมง ภายในเวลา ๒ นาที โดยการเร่ิมกิจกรรมครั้งแรกใหผ้ อู้ บรม ทมี่ ีความมัน่ ใจในการ ลักษณะกิจกรรม นาเสนอหรือใหว้ ิทยากรพ่ีเล้ยี งเป็นผู้เปดิ ประเด็นทาเป็นตัวอย่าง รูปแบบ ๓ ช่ัวโมง การฝกึ ปฎิบัติ โดยการนาเสนอ ออนไลนแ์ บบมสี ่วนร่วม (Interactive online learning)

๘ ช่ือวิชา ๔. การพัฒนาสมรรถนะทางร่างกาย วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ ใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรมเข้าใจหลักการในการออกกาลังกายสาหรับผบู้ ริหารท่เี หมาะ ขอบเขตเนื้อหา สมตามวยั จานวนชว่ั โมง การพัฒ นาสมรรถนะทางกายสาหรับผู้บริหาร เพ่ือให้ผู้เข้ารับการอบรม ลกั ษณะกิจกรรม ไ ด้ ท ร า บ ถึ ง ห ลั ก ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ย ข อ ง ต น เอ ง แ ล ะ ต ร ะ ห นั ก ถึงความสาคญั ของการพฒั นาสมรรถนะทางกายสาหรบั ผบู้ รหิ ารต่อไป รปู แบบ ไมจ่ ากัดเวลา การศึกษาด้วยตนเอง ศกึ ษาดว้ ยตนเอง 15.2 หน่วยการเรยี นที่ ๒ การเรียนรทู้ างด้านทฤษฎแี ละฝึกปฏิบัติ ๑๑๒ ชว่ั โมง 15.2.1 วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ พัฒนาผู้เขา้ รบั การอบรมให้มสี มรรถนะ 1. ดา้ นการเป็นผูน้ า ดังนี้ (๑) รจู้ กั เขา้ ใจตนเอง และผูอ้ ่นื เพ่อื บรหิ ารการเปลี่ยนแปลง (2) มที ักษะการสอื่ สารเพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจให้กบั ทมี (3) สามารถสร้างเครือข่ายการบริหารงาน เพื่อการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวง สาธารณสุข 2. ดา้ นการบริหาร ดงั น้ี (1) มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับแนวคิดเชิงกลยุทธ์ และสามารถประยุกต์ใช้เพื่อการ บริหารงานเชงิ กลยุทธ์ (2) สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมเพอ่ื การบริหารงาน (3) เป็นแบบอย่างทด่ี ีด้านคณุ ธรรม จริยธรรม 15.2.2 ขอบเขตเน้อื หาและกิจกรรม ความรู้ ทักษะ และสมรรถนะผู้นา และผบู้ รหิ าร ประกอบด้วย ๒ หมวดวชิ า คอื หมวดวิชาท่ี 1 หมวดการพฒั นาตนเอง และภาวะผนู้ า และหมวดวชิ าท่ี 2 หมวดการพัฒนาทักษะด้านบรหิ าร ดงั น้ี หมวดวิชาที่ 1 หมวดการพัฒนาตนเอง และภาวะผูน้ า จานวน ๓๐ ช่ัวโมง ประกอบด้วย ๑๒ รายวชิ า ดงั นี้ ชอ่ื วิชา 1. ภาวะผูน้ ายุคใหมก่ ับการบรหิ ารการเปล่ยี นแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ (Leadership for Change) วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรมเพิม่ พนู ความรู้ ความเข้าใจในคณุ ลกั ษณะและบทบาทของผู้นา ยุคใหมก่ ารปรับบทบาทผ้นู าใหเ้ หมาะสมท่ามกลางสภาวะการเปลย่ี นแปลงในศตวรรษที่ 21 ขอบเขตเน้อื หา คณุ ลกั ษณะและบทบาทหน้าทขี่ องผู้นายคุ ใหม่ ลักษณะของผนู้ าที่จะทาให้ การบริหารงานมปี ระสทิ ธิภาพสงู สุด ผูน้ ากบั การบรหิ ารการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษท่ี ๒1 (เน้นการร้จู ัก เข้าใจตนเองและผู้อืน่ การส่ือสารสาหรับผ้นู า) จานวนช่วั โมง ๖ ช่ัวโมง ลกั ษณะกิจกรรม การบรรยายและการศึกษากรณตี วั อยา่ ง รปู แบบ ออนไลน์แบบมสี ว่ นรว่ ม (Interactive online learning)

๙ ชอ่ื วิชา 2. กระบวนการคิดในการตัดสนิ ใจทางการบรหิ าร (System Thinking) วัตถุประสงค์ เพอื่ ใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรมเพิม่ พนู ความรู้ ความเขา้ ใจในรูปแบบ และวิธกี ารคดิ แบบต่างๆ ขอบเขตเนอ้ื หา ตลอดจนการนามาใช้ประกอบการตดั สินใจทางการบริหาร จานวนชวั่ โมง รปู แบบและวิธคี ดิ แบบผู้บริหารทน่ี ามาใชป้ ระกอบการตดั สินใจในสถานการณ์หรือการบ ลักษณะกิจกรรม รหิ ารต่างๆ เช่น การคดิ แบบหมวก ๖ ใบ (Six Thinking Hats) การคิดเชิงบวก การคิดเชิงสร้างสรรค์ การคดิ เชิงวพิ ากษ์/วิเคราะห์ การคิดนอกกรอบ การคิดเชิงระบบ รูปแบบ ฯลฯ ๑ ช่วั โมง 30 นาที การบรรยายและการศึกษากรณตี ัวอย่าง /เปดิ โอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ออนไลน์แบบมสี ่วนร่วม (Interactive online learning) ชอื่ วิชา ๓. การสร้างเครอื ข่ายและการมสี ว่ นรว่ ม (Network Managment) วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตเน้ือหา เพ่ือให้ผู้เข้ารับการอบรมมีแนวทางในการสร้างเครือข่ายในการทางาน ตลอดจนการ แสวงหาเครอื ข่ายจากภายนอกหน่วยงาน จานวนชัว่ โมง ลักษณะกจิ กรรม การสร้างและพฒั นาเครือข่ายรวมถึงการส่งเสรมิ การมีส่วนร่วมของสมาชิกในเครือข่าย องค์ประกอบของเครือขา่ ยที่มีประสทิ ธิภาพ การสร้างความสัมพนั ธ์ ทดี่ ีระหวา่ ง รปู แบบ สมาชิกในเครือขา่ ย การส่ือสารการแสวงหาความรว่ มมือ และเทคนิคการสรา้ ง เครอื ข่ายในการทางาน โดยเน้นระบบการทางานเพอ่ื รว่ มแกไ้ ขปัญหาสาธารณสขุ (District Health System) ๑ ชม. 30 นาที การบรรยายและการศึกษากรณตี วั อยา่ ง /เปิดโอกาสในการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ ออนไลนแ์ บบมสี ่วนรว่ ม (Interactive online learning) ชอ่ื วิชา 4. การบรหิ ารความขัดแย้ง (Conflict management) วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ ให้ผูเ้ ขา้ รบั การอบรมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ สามารถบรหิ ารความขัดแยง้ ขอบเขตเนอ้ื หา วิธกี ารแกไ้ ขปญั หา การเจรจาไกล่เกล่ยี /การเจรจาตอ่ รอง ในการแก้ไขปัญหา ความขดั แย้ง การให้ข้อมลู ต่อส่อื มวลชนในกรณตี กเป็นขา่ ว จานวนชวั่ โมง ลกั ษณะกจิ กรรม ลกั ษณะของความขดั แยง้ และผลทีเ่ กิดขน้ึ แนวทาง/เทคนิคการบรหิ าร ความขัดแย้ง ทักษะทีจ่ าเป็นต่อการแก้ไขปัญหาความขดั แย้ง การใช้รูปแบบการเจรจาไกล่เกลีย่ / รปู แบบ การเจรจาต่อรองในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนการให้ข้อมูลตอ่ สอื่ มวลชน ในกรณี ตกเปน็ ขา่ ว ๓ ช่วั โมง การบรรยายและการศึกษากรณีตวั อย่าง /เปิดโอกาสในการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ออนไลน์แบบมีสว่ นร่วม (Interactive online learning)

๑๐ ชือ่ วิชา 5. ผู้บรหิ ารและการขดั กนั แหง่ ผลประโยชน์ (Conflict of Interest) วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ให้ผเู้ ข้ารบั การอบรมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการขัดกันแห่งผล ขอบเขตเนอื้ หา ประโยชน์ การจัดการกับการขัดกันแหง่ ผลประโยชน์ จานวนช่ัวโมง ความหมาย ลกั ษณะ องค์ประกอบของการขดั กนั แหง่ ผลประโยชน์ (ผลประโยชน์ ลักษณะกจิ กรรม ขดั กัน หรอื conflict of interest) ผลเสียหายที่เกดิ ข้ึนจาก COI ผู้บริหารกับการจดั การกบั COI รปู แบบ ๓ ชว่ั โมง การบรรยายและการศึกษากรณีตวั อย่าง /เปดิ โอกาสในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ออนไลน์แบบมสี ว่ นรว่ ม (Interactive online learning) ชอื่ วิชา 6. การพฒั นาบุคลกิ ภาพ วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้ เข้าใจความสาคัญของการมีบุคลิกภาพที่ดี ขอบเขตเนื้อหา หลักและวิธีการสร้างเสริมบุคลิกภาพ ตลอดจนมารยาทเบื้องต้นในการเข้าสังคม เป็นแนวทางในการปฏิบตั ติ ่อไป จานวนชั่วโมง ลกั ษณะกิจกรรม ความสาคญั ของการมีบุคลกิ ภาพทดี่ ี ประเภทของบคุ ลิกภาพ หลกั และวิธกี าร เสริมสร้างบุคลกิ ภาพ มารยาทตา่ ง ๆ ในการเขา้ สงั คม รูปแบบ ๓ ช่ัวโมง การบรรยายและการฝึกปฏบิ ัติ ออนไลนแ์ บบมสี ่วนร่วม (Interactive online learning) ชอ่ื วิชา 7. ธรรมาภิบาลสาหรับผู้บริหาร วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ใหผ้ ูเ้ ขา้ รับการอบรมรู้และเขา้ ใจความหมายของธรรมาภบิ าล การบรหิ ารตาม ขอบเขตเน้อื หา พ้ืนฐานของหลกั ธรรมาภิบาล วธิ ีการเสริมสรา้ งธรรมาภิบาลในการทางานใหผ้ ูใ้ ต้บังคบั บญั ชา จานวนชวั่ โมง ลกั ษณะกิจกรรม ความหมายและองคป์ ระกอบของธรรมาภิบาล หลักของธรรมาภิบาลในภาครฐั องค์กรท่เี กย่ี วข้องกบั การปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตของไทย การบริหาร รูปแบบ บนพนื้ ฐานของหลักธรรมาภิบาล การสร้างธรรมาภิบาลในองค์กรและผ้ใู ต้บังคับบัญชา ๓ ชว่ั โมง การบรรยายและการศึกษากรณตี วั อย่าง /เปดิ โอกาสในการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ออนไลนแ์ บบมสี ่วนร่วม (Interactive online learning)

๑๑ ชอ่ื วิชา 8. เทคนิคการนาเสนออย่างมปี ระสิทธภิ าพ (ศึกษาด้วยตนเอง) วัตถุประสงค์ เพอ่ื ให้ผูเ้ ขา้ รบั การอบรมสามารถนาเสนออย่างมีประสทิ ธิภาพ ขอบเขตเนอื้ หา หลักการ และเทคนิคเกยี่ วกับการนาเสนออยา่ งมีประสทิ ธิภาพ จานวนช่ัวโมง ความหมายและวัตถุประสงค์ของการนาเสนอ รูปแบบของการนาเสนอ ลักษณะกจิ กรรม การเตรียมความพร้อมก่อนนาเสนอ สื่อและอุปกรณป์ ระกอบการนาเสนอ ทกั ษะและบคุ ลกิ ภาพของผนู้ าเสนอ เทคนิคการตอบคาถาม และข้อพึงระวงั รูปแบบ ไมจ่ ากัดเวลา การศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง และสง่ รายงาน ๑ หน้ากระดาษ ศึกษาด้วยตนเอง ชื่อวิชา 9. ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ศึกษาด้วยตนเอง) วตั ถุประสงค์ เพ่ือใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมมีความรูแ้ ละเขา้ ใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขอบเขตเนื้อหา ความหมายของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตัวอย่างความสาเรจ็ การนาปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี งมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัตงิ าน จานวนช่ัวโมง ไมจ่ ากัดเวลา ลักษณะกจิ กรรม การศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง และสง่ รายงาน ๑ หนา้ กระดาษ ศกึ ษาด้วยตนเอง รูปแบบ ชอ่ื วิชา 10. การพัฒนาจิต (กจิ กรรมเสริมโดยผู้เข้าอบรม) วัตถุประสงค์ เพื่อใหผ้ ู้เขา้ รบั การอบรมไดฝ้ ึกปฏบิ ัติการพัฒนาจติ เพอื่ เตรียมพร้อมกอ่ นการอบรมประจาวนั ขอบเขตเนอื้ หา การดาเนินกจิ กรรมการพัฒนาจติ เชน่ การสวดมนต์ การน่ังสมาธิ การบรหิ ารจิต จานวนชวั่ โมง ไม่จากัดเวลา ลกั ษณะกจิ กรรม การฝึกปฏบิ ัติ การพฒั นาจิต ในตอนเชา้ ก่อนเริ่มกจิ กรรมการอบรม วนั ละประมาณ ๕ นาที รปู แบบ ศึกษาด้วยตนเอง ช่อื วิชา 11. การออกกาลงั กาย (กจิ กรรมเสรมิ โดยผ้เู ข้าอบรม) วตั ถุประสงค์ เพ่ือกระตุ้นใหผ้ ้เู ข้ารับการอบรมใหค้ วามสาคัญและทากิจกรรมการออกกาลงั กาย ขอบเขตเน้อื หา และสรา้ งการมสี ่วนรว่ มในกลุ่มผู้เข้ารบั การอบรม การดาเนินกิจกรรมการออกกาลังกาย เชน่ ว่งิ ข่ีจักยาน แอร์โรบิค ตามความถนัด จานวนชั่วโมง หรือการออกกาลงั กายร่วมกันทางออนไลน์ ลกั ษณะกจิ กรรม ไม่จากัดเวลา รปู แบบ การฝกึ ปฏิบตั ิ การออกกาลังกาย ในชว่ งเชา้ หรือเยน็ ระหวา่ งการอบรมท้ังปฏิบตั เิ อง และร่วมกันทางออนไลน์ ปฏิบตั ดิ ว้ ยตนเอง

๑๒ ชื่อวิชา 12. การพัฒนาทกั ษะการนาเสนอ (“วิชาการ ๕ นาที”) วัตถุประสงค์ ขอบเขตเนอื้ หา เพ่อื ให้ผูเ้ ข้ารับการอบรมเพม่ิ พูนทักษะการนาเสนอ และการพฒั นาความคิดรวบยอด (Conceptualization) โดยสรปุ ประเด็นเนอื้ หาเพื่อนาเสนอภายในเวลาที่กาหนด (time จานวนช่ัวโมง limited activity) และการวิพากษ์อย่างสรา้ งสรรค์ (positive & creative criticism) ลกั ษณะกจิ กรรม นาเสนอวชิ าการ ๕ นาที ในเรื่องท่ีผู้เข้าอบรมสนใจและเกย่ี วข้องกับการบรหิ ารงาน รูปแบบ แนวใหม่ หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัลในการบรหิ าร เช่น Internet of Things, Big Data ฯลฯ พร้อมสง่ เนื้อหา ๑ หน้ากระดาษ A ๔ (One Page) เป็ น ก า ร จ า ล อ ง ส ถ า น ก า ร ณ์ ก า ร น า เส น อ ต่ อ ผู้ บ ริ ห า ร ร ะ ดั บ สู ง เช่ น การประชุมระดับจังหวัด, ระดบั เขต เสนอต่อ นพ. สสจ/ ผู้ตรวจราชการ/ อนื่ ๆ ๙ ชัว่ โมง การฝึกปฏิบตั ิ ผู้รบั การอบรมแต่ละคนนาเสนอวชิ าการ ๕ นาที โดยใชส้ ื่อท่ีเหมาะสมในการนาเสนอ และให้ผูเ้ ขา้ อบรมสับเปลี่ยนกันทาหนา้ ที่ผูว้ พิ ากษ์ในส่วนของการนาเสนอ (๑ นาที) เพอื่ ฝึกการวพิ ากษ์อย่างสร้างสรรค์ วทิ ยากรท่ที าหนา้ ทว่ี พิ ากย์ให้วพิ ากย์ในภาพรวมและดึงจดุ เด่นของแตล่ ะคนออกมาเปน็ การวพิ ากษ์อย่างสร้างสรรค์ ออนไลนแ์ บบมีส่วนรว่ ม (Interactive online learning) หมายเหตุ ในหมวดการพฒั นาตนเอง และภาวะผนู้ าอาจใช้การศึกษาดงู านแทนการบรรยาย ในบางประเด็นหรือครอบคลุมทั้งหมวดกส็ ามารถดาเนนิ การได้ หมวดวชิ าท่ี 2 หมวดการพัฒนาทกั ษะดา้ นบริหาร จานวน ๗๔ ช่ัวโมง ประกอบด้วย 8 รายวิชา ดงั น้ี ชื่อวิชา 1. นโยบายสาคัญดา้ นสาธารณสขุ วตั ถุประสงค์ เพื่อใหผ้ เู้ ข้ารับการอบรม ๑. เพิ่มพนู ความรู้ ความเข้าใจในนโยบายและยุทธศาสตร์ท่ีสาคัญของชาติ และกระทรวง สาธารณสขุ ตลอดจนแนวทางการปฏบิ ตั เิ พื่อสนองตอบนโยบาย ๒. เพ่มิ พูนความรู้ ความเข้าใจสถานการณ์ปจั จบุ นั โดยเฉพาะปัจจยั ท่ีสาคัญ ต่องาน สาธารณสขุ ขอบเขตเนอื้ หา ยุทธศาสตร์ นโยบายสาคัญด้านสาธารณสุข และปัจจัยที่สาคัญต่อการ บรหิ ารงาน สาธารณสขุ การแปลงนโยบายสกู่ ารปฏบิ ัติ (เช่น ระบบบริการสุขภาพแบบวิถีชีวิตใหม่ (New Normal of Health Service System) / ผลกระทบของการปฏริ ูป ระบบสุขภาพปฐมภมู ิตอ่ การดาเนนิ งานดา้ นสขุ ภาพ (The Impact Of Primary Care Reform on Health System Performance) / นโยบายคนไทยทกุ ครอบครวั มีหมอประจาตวั 3 คน) จานวนชั่วโมง ๓ ชว่ั โมง ลกั ษณะกิจกรรม การบรรยายและการศึกษากรณตี วั อย่าง /เปิดโอกาสในการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ รปู แบบ ออนไลน์แบบมีสว่ นรว่ ม (Interactive online learning)

๑๓ ชือ่ วิชา ๒. การบรหิ ารเชิงกลยุทธ์ การบรหิ ารงานมงุ่ ผลสมั ฤทธ์แิ ละเคร่อื งมือการบริหารจดั การ วตั ถุประสงค์ (Tools and Technical Management) ขอบเขตเน้อื หา เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ ข้ารบั การอบรม ๑. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ หลกั การและวิธีการวางแผน เชิงกลยุทธ์ตลอดจน จานวนชัว่ โมง การแปลงกลยุทธส์ ่กู ารปฏิบัติ ลักษณะกิจกรรม ๒. เพิ่มพนู ความรู้ ความเข้าใจแนวคดิ หลักการ รปู แบบของ RBM และการกาหนดตัวช้ีวดั ผลการดาเนินงานหลกั (Key Performance Indicators – KPIs) สามารถประยุกต์ รปู แบบ ใช้ความรู้เพ่ือปรับปรงุ พัฒนา วิธที างานของหน่วยงานได้อยา่ งมีประสิทธผิ ล ๓. เพิ่มพนู ความรู้ ความเข้าใจ หลักการของเครื่องมือทางการบรหิ ารใหม่ๆ และการนา ไปใชใ้ หเ้ หมาะสม กระบวนการบรหิ ารเชงิ กลยุทธ์ เช่น การวเิ คราะหเ์ ชิงกลยทุ ธ์ การวางแผนเชงิ กลยุทธ์ การนากลยทุ ธ์ไปสู่การปฏิบัติ การประเมินเชงิ กลยุทธ์ ๖ Building Blocks, ๗ S Model and TOWS Matrix - แนวคดิ และกระบวนการบริหารมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ การวัดและประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานตามแนวทางการบรหิ ารแบบม่งุ ผลสมั ฤทธิ์ - แนวคิด วธิ ี และรูปแบบใหม่ๆ ในการบริหารจดั การองคก์ ร เชน่ Benchmarking, Blue and White Ocean, Lean Management, Big Data Analytics ฯลฯ ๑๒ ชั่วโมง การบรรยาย การศึกษากรณีตัวอยา่ ง และการฝึกปฏิบตั ิ ออนไลนแ์ บบมีสว่ นร่วม (Interactive online learning) ช่อื วิชา 3. เทคโนโลยดี ิจทิ ลั และนวัตกรรมกับระบบสขุ ภาพ วตั ถุประสงค์ เพือ่ ให้ผู้เขา้ รับการอบรมเข้าใจการเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยีและนวตั กรรมท่ีมผี ลกระท ขอบเขตเนอื้ หา บตอ่ สงั คม เศรษฐกิจ ระบบสุขภาพ จานวนช่วั โมง เทคโนโลยีดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยดี ิจทิ ัลตอ่ สงั คม ลักษณะกจิ กรรม เศรษฐกจิ และระบบสุขภาพ เชน่ การประมวลผลแบบ Cloud การวเิ คราะห์ขอ้ มูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) การเชอ่ื มต่อของสรรพสง่ิ รูปแบบ (Internet of Things) ตัวอยา่ งของนวัตกรรมที่มีประโยชน์กับระบบสุขภาพ ๓ ชว่ั โมง การบรรยายและการศึกษากรณีตวั อย่าง /เปิดโอกาสในการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ออนไลน์แบบมสี ว่ นร่วม (Interactive online learning)

๑๔ ชื่อวิชา 4. เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การบรหิ ารและการตัดสนิ ใจ วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรมเพิม่ พนู ความรู้ ความเขา้ ใจในกระบวนการบริหารข้อมูล สารสนเทศ และสามารถนาข้อมูลสารสนเทศใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดในการ บริหารงาน ขอบเขตเน้อื หา โดยเฉพาะนามาประกอบการตัดสนิ ใจ จานวนช่ัวโมง เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศ ลักษณะกจิ กรรม การใชเ้ ทคโนโลยใี นการบริหารงาน (Management Information System: MIS) การนาเสนอข้อมูลทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพเพ่อื ประกอบการตัดสินใจในระดับนโยบาย รปู แบบ ๓ ชั่วโมง การบรรยายและการศึกษากรณตี วั อยา่ ง /เปดิ โอกาสในการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ออนไลนแ์ บบมสี ่วนร่วม (Interactive online learning) ชอื่ วิชา 5. การบริหารด้านการเงิน (Financial Management) วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อใหผ้ เู้ ข้ารบั การอบรมเพิม่ พนู ความรู้ ขอบเขตเน้อื หา ความเขา้ ใจในการบรหิ ารจดั การการเงนิ ของเขตสขุ ภาพ บทบาทหน้าท่ีและความรบั ผิดชอบของผบู้ ริหารด้านการเงิน จานวนชว่ั โมง หลักการบริหารการเงินการคลงั ภาครัฐ หลักเศรษฐศาสตร์เบอ้ื งต้นในงานสาธารณสขุ ลกั ษณะกจิ กรรม (Basic Microeconomic in Health) การบริหารการเงนิ และเป้าหมาย ในการบริหาร การเงนิ ของกระทรวงสาธารณสุขและเขตสุขภาพ รูปแบบ ๓ ชัว่ โมง การบรรยายและการศึกษากรณตี วั อย่าง /เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ออนไลน์แบบมสี ่วนร่วม (Interactive online learning) ช่อื วิชา 6. การบริหารความเสย่ี งด้านการเงิน บญั ชี และพสั ดุ วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตเนื้อหา เพ่ือให้ผู้เข้ารับการอบรมเพิ่มพูนความรู้ และสร้างความตระหนักในกระบวนการ บริหารความเสี่ยงและขอ้ ควรระวงั ด้านการเงินบัญชี และพสั ดุ จานวนชว่ั โมง ลักษณะกิจกรรม – ระเบียบการเงนิ และหลกั การบญั ชีสว่ นราชการเบื้องตน้ การบริหารการเงินการคลงั ภาครฐั ด้วยระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ (GFMIS) รูปแบบ กระบวนการบริหารความเสี่ยงด้านการเงนิ และบัญชี – พ.ร.บ.การจดั ซ้ือจดั จ้างและการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ ระเบยี บ กระทรวงการคลงั ว่าด้วยการจัดซื้อจดั จ้างและการบรหิ ารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ และกฎกระทรวงต่าง ๆ ท่เี กย่ี วข้อง กระบวนการบรหิ ารความเสีย่ งดา้ นพัสดุ ๓ ชัว่ โมง การบรรยายและการศึกษากรณตี ัวอย่าง /เปิดโอกาสในการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ ออนไลน์แบบมสี ่วนร่วม (Interactive online learning)

๑๕ ชือ่ วิชา 7. หลุมพรางทางการบรหิ าร วตั ถุประสงค์ เพื่อให้ผูเ้ ข้ารับการอบรมเสริมสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจในวินัย กฎระเบียบตา่ งๆ ข้อผดิ พลาดที่มักเกิดบอ่ ยๆ และแนวทางป้องกนั /แก้ไข ขอบเขตเนือ้ หา วินัยขา้ ราชการ ปัญหาเกยี่ วกับกฎหมาย จานวนช่วั โมง ความผดิ /ขอ้ ผดิ พลาดท่ีพบบ่อยทางการบรหิ ารและแนวทางปอ้ งกัน/แก้ไข ลักษณะกิจกรรม (การแลกเปล่ยี นประสบการณ์) รูปแบบ 6 ชั่วโมง อภิปราย และการศกึ ษากรณีตัวอย่าง /เปดิ โอกาสในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ออนไลนแ์ บบมสี ว่ นร่วม (Interactive online learning) ช่ือวิชา 8. การฝกึ ทกั ษะการคดิ เชิงกลยุทธโ์ ดยใชก้ ารเรยี นรู้แบบ CBL วัตถุประสงค์ ขอบเขตเน้ือหา เพอื่ ใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมไดฝ้ ึกทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์จากสถานการณจ์ ริง (สสอ.) จานวนชว่ั โมง ผ้เู ขา้ รับการอบรมฝกึ ทักษะการคิดเชงิ กลยุทธ์ในสถานการณ์จริงระดับอาเภอ ลักษณะกจิ กรรม เป็นการเรียนรู้แบบ Community-based Learning ไดแ้ ก่ (๑) วเิ คราะหป์ ัญหาและสาเหตขุ องปัญหาสาธารณสขุ หรือปัญหาที่ส่งผลต่อสขุ ภาพ ในระดับอาเภอ (๒) วเิ คราะหป์ จั จยั ทางด้านการบริหารทส่ี ง่ ผลต่อการจัดการสาเหตุของปญั หา ในข้อ (1) (๓) วเิ คราะหแ์ ละเสนอกลยทุ ธ์ และแผนปฏิบัติการ โดยใช้แผนยทุ ธศาสตร์ ๓ – ๕ ปี ในการแก้ไขปัญหาในข้อ (๒) มงุ่ เนน้ แผนดา้ นการบรหิ ารจัดการ โดยวิเคราะห์แผนการดาเนินการเดิมของพ้ืนที่ ทาการ แกไ้ ข/ปรับปรงุ และเสนอแผนยุทธศาสตร์เพิ่มเตมิ ในกรณีท่ีแผนฯ เดมิ ไม่ครอบคลุมการจดั การสาเหตุของปญั หา หวั ข้อหรือประเดน็ ในการเรียนรู้แบบ CBL “ใหท้ ่านศกึ ษาปญั หาสาธารณสุขหรือปัญหาท่ีส่งผลต่อสุขภาพ ในระดับอาเภอ (ทที่ ่านไปฝึกปฏิบตั ิงาน) และเสนอกลยุทธ์ และแผนปฏบิ ัติการ ในการแก้ไขปัญหาระดับพนื้ ที่เพ่อื พัฒนาระบบการบริหารงานสาธารณสุข” หมายเหตุ กลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการ โดยใชย้ ทุ ธศาสตร์กระทรวง เป็นกรณศี ึกษา/ศึกษาตวั อยา่ ง เพ่อื วิเคราะห์องคป์ ระกอบและความชดั เจนด้านกลยทุ ธ์และมาตรการ ๔๑ ชัว่ โมง การเรยี นรู้แบบ CBL โดยใหม้ ีกิจกรรมดังนี้ -ศึกษาขอ้ มลู พนื้ ท่เี บื้องต้นเพื่อวิเคราะห์หาปัญหาและสาเหตขุ องปัญหาสาธารณสุขหรอื ปัญหาทีส่ ง่ ผลตอ่ สขุ ภาพ - ให้ความรู้เรื่องแนวคิดและกระบวนการ CBL กอ่ นลงเกบ็ ขอ้ มูลในพื้นทจ่ี ริง -วางแผนและสร้างเคร่ืองมือเพมิ่ เตมิ เพื่อเกบ็ ขอ้ มูลทจี่ าเป็นสาหรบั การวิเคราะห์ (ดาเนนิ การ ณ วทิ ยาลัย) - ลงพ้ืนทีเ่ พื่อเก็บขอ้ มลู เพิ่มเติมเพื่อหาปจั จยั ทางด้านการบริหารท่สี ่งผลต่อการจดั การ สาเหตขุ องปัญหาสาธารณสุขหรอื ปัญหาท่สี ่งผลต่อสุขภาพ

๑๖ รปู แบบ - รวบรวมและวเิ คราะหข์ ้อมลู ทไ่ี ด้/แผนการดาเนินการเดิมของพ้นื ที่เพอ่ื แก้ไขหรือปรับ ปรุงแผนยทุ ธศาสตร์ฯ เดมิ (ณ วทิ ยาลยั ท่ีจดั อบรม) -จัดทารายงานและนาเสนอกลยุทธแ์ ละแผนปฏบิ ตั กิ าร ในสัปดาหส์ ุดทา้ ยของการอบรม เพ่ือเป็นข้อมลู ป้อนกลับเพ่ือการพัฒนา -การวิพากษ์จากวทิ ยากรเชิงสร้างสรรค์เพ่ือการเรียนร้แู ละการสะทอ้ นคดิ ของผเู้ ข้ารับ การอบรม ออนไลน์แบบมสี ว่ นรว่ ม (Interactive online learning) 15.๓ หน่วยการเรียนที่ ๓ การแลกเปลีย่ น สรุปผลการเรียนรู้และรบั ประกาศนียบัตร จานวน ๒๒ ชวั่ โมง 15.๓.1 วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือให้ผู้เขา้ รบั การอบรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ บรู ณาการความรทู้ ไี่ ด้สู่การนาไปประยุกต์ใช้และดาเนนิ การพิธีมอบประกาศนียบตั ร 15.๓.2 ขอบเขตเนือ้ หาและกจิ กรรม ประกอบด้วย 6 รายวิชา/หวั ข้อ ดงั นี้ ช่ือวิชา 1. การนาเสนอและแลกเปลี่ยนผลการเรียนรู้ จาก CBL วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือให้ผเู้ ขา้ รับการอบรมได้นาเสนอผลการเรยี นรู้ แบบ CBL และแลกเปลีย่ นเรียนรรู้ ะหวา่ งกล่มุ เพ่ือให้งานมคี วามสมบูรณ์มากย่งิ ข้นึ อกี ทั้งยงั เป็นการคนื ข้อมลู ให้กับพ้นื ท่ี ขอบเขตเน้อื หา ผลการเรียนรู้จากการฝกึ แบบ CBL จานวนชั่วโมง ๖ ชวั่ โมง ลักษณะกิจกรรม การนาเสนอและการฝึกปฏิบัติ /เปดิ โอกาสในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ให้ผู้เขา้ รับการอบรมแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการศึกษาและเรียนรูจ้ ากการฝกึ ภาคสนามแ บบ CBL โดยเชญิ แหลง่ ฝึก (หน่วยงานทเี่ ป็นกรณศี ึกษา) และผูเ้ ชี่ยวชาญมาวพิ ากษ์และใหข้ ้อเสนอแนะ เพื่อร่วมกนั แลกเปล่ียนเรยี นรู้และเตมิ เต็มซึ่งกนั และกัน อีกทั้งยังเป็นการใหข้ ้อมูลป้อนกลบั แกห่ นว่ ยงานที่เปน็ กรณีศกึ ษา รูปแบบ แบบเผชญิ หนา้ (Face-to-face) ช่ือวิชา ๒. การแลกเปล่ยี นและจัดการความรู้ (Knowledge Management) วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตเน้อื หา เพือ่ ใหผ้ ูเ้ ขา้ รบั การอบรมเกดิ การแลกเปลี่ยนและจัดการความรู้ สรา้ ง Explicit Knowledge จานวนชว่ั โมง ลักษณะกิจกรรม คน้ หาประเด็นความรูท้ นี่ า่ สนใจ จาก - ประเด็นทีผ่ เู้ ข้ารบั การอบรมเสนอ รปู แบบ - ประเดน็ ที่วิทยากรพเี่ ลีย้ งเล็งเห็นจากผูเ้ ขา้ รับการอบรม - ผลการศกึ ษา CBL ทมี่ ีความโดดเดน่ ๓ ชวั่ โมง จดั กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ระหวา่ งผู้เขา้ รับการอบรมโดยการดึง Knowledge ที่เป็น Good practice แลว้ จัดทาเป็น Explicit Knowledge (KM paper) ซ่งึ อาจจดั เปน็ กลุม่ ใหญ่หรือแบ่งเป็นกลมุ่ ย่อยโดยทมี วิทยากรพเี่ ลีย้ งและผู้เขา้ รับการอบ รมร่วมกันคน้ หาประเด็นความรู้ แบบเผชิญหน้า (Face-to-face)

๑๗ ชอ่ื วิชา ๓. การประเมนิ โครงการ (AAR) วตั ถุประสงค์ เพ่ือใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมไดป้ ระเมินโครงการทงั้ ในด้านวชิ าการและการบริหารจดั การ ขอบเขตเนื้อหา และ สะท้อนข้อมลู /ความคิดเห็น และชแี้ จงวัตถปุ ระสงคใ์ นการทากจิ กรรมตา่ งๆ จานวนช่วั โมง ของผจู้ ัด (เฉลยเจตนาของผจู้ ัดอบรม) เพ่ือสร้างความประทับใจก่อนจบหลักสตู ร ลักษณะกิจกรรม ให้ผเู้ ข้ารบั การอบรมได้แสดงความคดิ เห็นเพือ่ ประเมินโครงการอบรม รปู แบบ และสะท้อนความรสู้ ึก ๓ ชั่วโมง ผ้จู ัดอบรมไดช้ ีแ้ จงวัตถุประสงค์ในการทากิจกรรมตา่ ง ๆ โดยอาจพจิ ารณารปู แบบใน การดาเนินกิจกรรม โดยให้ผู้เข้ารับการอบรมอภิปรายในเบอ้ื งตน้ โดยกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมเองและสรุปประ เด็นเสนอตอ่ หนว่ ยงานรับจดั อบรม โดยเชิญหนว่ ยงานรับจัดอบรมมารบั ฟังข้อเสนอในชว่ งท้าย หรือผู้เข้ารับการอบรมและหน่วยงานรบั จดั อบรม ร่วมกันอภิปรายตัง้ แต่เร่มิ กจิ กรรม แบบเผชญิ หน้า (Face-to-face) ช่ือวิชา ๔. สรุปผลการเรียนรตู้ ลอดหลักสตู ร และนาเสนอผลการเรียนรู้ วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตเน้ือหา เพอื่ ใหผ้ เู้ ข้ารบั การอบรมไดต้ กผลกึ สิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ และการนาไปประยุกตใ์ ช้ จานวนช่วั โมง สรปุ ผลการเรยี นรูต้ ลอดหลกั สูตร และนาเสนอผลการเรยี นรู้ ลกั ษณะกิจกรรม ๖ ชัว่ โมง ผเู้ ขา้ รับการอบรมร่วมกันวเิ คราะห์ สังเคราะหส์ ่งิ ท่ีไดเ้ รียนร้ตู ลอดการอบรม รูปแบบ และการนาไปประยุกต์ใช้ โดยจัดทาเป็นเอกสารรายงานของชั้นเรยี น และนาเสนอในวนั พิธีมอบประกาศนียบตั ร แบบเผชญิ หน้า (Face-to-face) ช่อื วิชา ๕. กจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร วัตถปุ ระสงค์ เพื่อให้ผู้เขา้ รับการอบรมกระชบั ความสัมพันธร์ ะหวา่ งผ้เู ข้ารบั การอบรม ผ้จู ดั การอบรมและทีมวิทยากรพีเ่ ลีย้ ง สง่ ผลต่อการสร้างเครือข่ายการเรยี นรู้ ขอบเขตเนอื้ หา จดั กิจกรรมเสรมิ หลักสูตร จานวนช่วั โมง ๒ ชว่ั โมง ลกั ษณะกิจกรรม ผ้เู ขา้ อบรม ผจู้ ดั การอบรม และทีมวทิ ยากรพีเ่ ล้ยี ง มสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรม แบบเผชิญหน้า (Face-to-face) รปู แบบ หมายเหตุ กาหนดใหม้ ีกจิ กรรมเสริมหลักสูตรตามความตกลงของผู้เข้ารับการอบรมและหนว่ ยงานรับจัดอบรมตามความเหมา ะสม เพ่ือเปน็ การพฒั นาทกั ษะที่สนับสนนุ การบริหารและสรา้ งเครือขา่ ย ๖) พธิ ีมอบประกาศนยี บัตร จานวน ๒ ช่วั โมง

๑๘ 16. แอพพลิเคชัน่ เพ่ือการเรยี นออนไลน์ สอ่ื เครอ่ื งมอื และแหลง่ เรยี นรู้ 16.1 แอพพลเิ คชั่นเพ่อื การเรยี นออนไลน์ ๑. หอ้ งเรียนออนไลน์ (Online classroom) เช่น Google classroom, Facebook group ๒. ห้องเรียนเสมอื นจรงิ (Virtual classroom) เชน่ Zoom, WebEx, Microsoft team, Google meet ๑6.๒ สือ่ เครอื่ งมอื เช่น ๑. คอมพวิ เตอรแ์ ละเครื่องฉาย ๒. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ๓. เอกสารประกอบการสอน ๔. Flip chart ๕. อปุ กรณเ์ ครอื่ งเขยี น 16.๓ แหลง่ เรยี นรู้ เชน่ 1. ห้องสมุด 2. เว็บไซตท์ ่ีเกีย่ วข้อง ๑7. การวัดและประเมินผลการอบรม หน่วยงานรับจัดอบรมดาเนินการประเมินผลผู้เข้าอบรม วิทยากร วิทยากรพี่เลี้ยง และศักยภาพความพร้อม ของหนว่ ยงาน และอนื่ ๆ โดยใชเ้ ครอื่ งมือตามท่วี ิทยาลัยนักบริหารสาธารณสุขกาหนด แบ่งเป็น ๒ สว่ น คือ ๑. หน่วยงานรับจดั อบรมประเมินผลผเู้ ข้ารับการอบรมรายบุคคล ๒. ผู้เข้ารบั การอบรมประเมินผลการจดั การอบรม ซึ่งมีรายละเอยี ด ดังน้ี ๑. หน่วยงานรับจัดอบรมประเมินผลผู้เข้ารับการอบรมรายบุคคล แบ่งเป็นภาควิชาการ ๕๐ คะแนน และภาคพฤตกิ รรม ๕0 คะแนน ๑.๑ การประเมินผลภาควชิ าการ ๕0 คะแนน ประกอบด้วย 1) การพัฒนาทักษะการนาเสนอรายบุคคล (๑๐ คะแนน) ได้แก่ การนาเสนอ ๕ คะแนน เอกสาร/รายงาน ๕ คะแนน 2) การเรียนรู้แบบ CBL (๔๐ คะแนน) ได้แก่ เอกสารวิชาการ ๓0 คะแนน การนาเสนอ 10 คะแนน ๑.๒ การประเมนิ ผลภาคพฤตกิ รรม ๕0 คะแนน ประกอบด้วย 1) กระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบ CBL (๓๐ คะแนน) จาแนกเป็น การประเมิน กระบวนการกลุ่มคร้ังละ ๑๐ คะแนน ๓ คร้งั (ประเมนิ CBL จานวน ๓ ครง้ั ) แบ่งเปน็ คะแนนรายบคุ คล (โดยวิทยากรพี่เลี้ยง) ๑๕ คะแนน (คร้ังละ ๕ คะแนน ๓ ครั้ง) และการประเมินกระบวนการกลุ่ม (โดยสมาชิก กลุ่ม) ๑๕ คะแนน (ครง้ั ละ ๕ คะแนน ๓ ครง้ั ) ๒) พฤตกิ รรมรายบุคคล (๒0 คะแนน) ประเมนิ โดย ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ/วิทยากรพี่เล้ียง หมายเหตุ ในการประเมินรายกิจกรรม ผู้เข้ารับการอบรม ต้องได้คะแนนไม่ต่ากว่า ร้อยละ ๗0 จึงจะถือว่าผ่าน และหน่วยงานรับจัดอบรมต้องจัดทารายงานผลการประเมินผู้เข้าอบรมให้ผู้บังคับบัญชาของผู้เข้าอบรมทราบ โดยใช้ แบบรายงานผล ๐๔

๑๙ เครอ่ื งมือ/ วัตถุประสงค์ ผูใ้ ชเ้ ครอื่ งมือ/ เวลาทใ่ี ช้ แบบประเมิน ๑. แบบประเมิน 0๑ แบบประเมิน แบบประเมินการ นาเสนอ/เอกสาร เพือ่ การพฒั นาความรู้ ทักษะการ วิทยากรพเ่ี ลี้ยง - การพฒั นาทักษะการนาเสนอ วิชาการ ๒. แบบประเมนิ 0๒ นาเสนอ และบุคลกิ ภาพผู้เขา้ รบั การ หรอื ผ้ทู ่ีไดร้ บั (“วิชาการ 5 นาท”ี ) แบบประเมิน กระบวนการกลุ่ม อบรม และการจัดทาเอกสารวชิ าการ/ มอบหมาย - การนาเสนอและเอกสารสรปุ ๓. แบบประเมิน 0๓ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม รายงาน การเรียนรูแ้ บบ CBL รายบคุ คล เพื่อพฒั นาทักษะการทางานกลุ่ม/ วทิ ยากรพ่เี ล้ยี ง/ - การประชุมกลุ่ม CBL จานวน ๔. แบบรายงาน 0๔ แบบรายงานผลการ การทางานเปน็ ทมี ผ้เู ขา้ รับการ ๓ ครัง้ อบรมรายบุคคล อบรม เพ่อื ประเมินพฤติกรรมของผู้เข้ารบั การ ผ้รู ับผิดชอบ สัปดาห์สุดทา้ ยของการอบรม อบรมรายบุคคล ตลอดเวลาการอบรม โครงการ และ หรือวทิ ยากร พีเ่ ล้ยี ง เพือ่ รายงานผลการประเมินของ ผู้รบั ผดิ ชอบ เม่ือเสรจ็ สน้ิ การอบรม ผเู้ ขา้ รับการอบรมใหผ้ ูบ้ งั คับบัญชา โครงการ ทราบ ๒. ผ้เู ขา้ รบั การอบรมประเมินผลการจดั การอบรม เครื่องมือ/ วตั ถุประสงค์ ผใู้ ช้เคร่ืองมือ/ เวลาที่ใช้ แบบประเมิน แบบประเมิน ๑. แบบประเมนิ 0๕ 1.เพ่ือประเมินทักษะ และ ผู้เข้ารบั การ ขณะการอบรม (ตามความ แบบประเมนิ วทิ ยากร ความสามารถของวิทยากรพ่ีเลย้ี ง อบรม เหมาะสม) และสปั ดาห์สดุ ท้าย พ่ีเล้ียง 2.เพ่ือเปน็ ข้อมูลประกอบการพฒั นา ของการอบรม วทิ ยากรพี่เลย้ี งต่อไป ผ้เู ข้ารับการ ๒. แบบประเมนิ 0๖ เพ่ือประเมนิ ความเหมาะสมของหวั ขอ้ อบรม ทุกคร้งั ทมี่ ีการบรรยายหรอื แบบประเมนิ หัวข้อวชิ า วิชาและวทิ ยากรที่กาหนดในหลักสตู ร อภิปราย และวิทยากร 18. การรับรองผลการอบรม กระทรวงสาธารณสุข มอบวุฒิบตั รพรอ้ มเข็มวิทยฐานะแก่ผูท้ มี่ คี ณุ สมบัติครบ ดงั นี้ ๑๑.1 เป็นผทู้ ่ไี ด้รบั การอนมุ ัติใหเ้ ขา้ รบั การอบรมหลักสูตรผบู้ รหิ ารการสาธารณสุขระดับกลาง ๑๑.2 เป็นผู้ทเี่ ขา้ รว่ มกจิ กรรมการฝกึ อบรมในแตล่ ะหมวดวชิ าไมต่ ่ากว่าร้อยละ 80 ของเวลาในหน่วยการเรียนนั้น ๆ ๑๑.3 เป็นผ้ทู ผี่ า่ นการประเมินจากหนว่ ยงานรบั จดั อบรมทั้งภาควชิ าการและภาคพฤติกรรม ได้คะแนน โดยรวมไมต่ า่ กวา่ ร้อยละ ๗0

๒๐ ๑9. ผลงานทต่ี อ้ งจดั ทาเพือ่ เปน็ ผลผลติ ของหลกั สตู ร ประกอบด้วย ๑9.๑ ผลงานรายบคุ คล - การประเมนิ ตนเอง ก่อนการอบรม ระหว่างการอบรม (สัปดาหล์ ะครง้ั ) และสปั ดาหส์ ดุ ทา้ ยของ การอบรม - เอกสาร “วชิ าการ ๕ นาท”ี ๑ หนา้ กระดาษ ประกอบการนาเสนอ “วิชาการ ๕ นาท”ี - เอกสารสรุปผลการศึกษาด้วยตนเองในหัวข้อ “เทคนิคการนาเสนออย่างมีประสิทธิภาพ” ๑ หนา้ กระดาษ และ “ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง” ๑ หน้ากระดาษ ๑9.๒ ผลงานของกลุ่ม - รายงานผลการทากรณีศึกษา (CBL) รายงานควรบรรจุเนื้อหาทีแ่ สดงถึง * ผลการวิเคราะห์สถานการณ์ – ปญั หาและสาเหตุของปัญหาสาธารณสุขหรือปญั หาท่สี ง่ ผลต่อสุขภาพ ในระดบั อาเภอ หากมีหลาย ปญั หาใหท้ า Priority Setting แลว้ เลอื ก ๑ ปญั หาทีส่ าคัญทส่ี ดุ – วิเคราะห์ปจั จยั ทางด้านการบรหิ ารท่ีสง่ ผลต่อการจดั การสาเหตุของปัญหาน้นั - วิเคราะห์กลยุทธ์ และแผนปฏิบัติ เดิมของพ้ืนที่ ท่ีเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการแก้ไขปัญหา สาธารณสุขหรือปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพ ทาการแก้ไข/ปรับปรุง โดยเสนอกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติ เพ่ิมเติมในกรณีท่ี แผนฯ เดิมไมค่ รอบคลุมการจดั การสาเหตขุ องปัญหา * กลยทุ ธ์ ๑แ9ละ.๓แผผนลปงฏานิบขัตอิ (งทรี่ไนุ่ ด้ทาการแกไ้ ข/ปรบั ปรุง) รวมถึงชอื่ ของแผนงานโครงการ จานวนเน้อื หา ๑๐ – ๑๕ หนา้ - รายงานสรปุ ผลการเรียนรู้ตลอดหลกั สตู ร - รายงาน KM จากกิจกรรมการแลกเปล่ียนและจัดการความรู้ (Knowledge Management) จานวนไม่เกิน ๑๐ หน้า

๒๑ แนวทางการอบรมออนไลน์ สาหรบั ผูเ้ ขา้ รับการอบรมหลักสตู รผู้บรหิ ารการสาธารณสุขระดับกลาง รุ่นท่ี 34 ประจาปงี บประมาณ 2564 แนวทางการอบรมออนไลน์นี้ จัดทาข้ึนเพ่ือให้ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสาธารณสุข ระดับกลาง รุ่นที่ 34 ใช้ในการเตรียมความพร้อมก่อนการอบรม และขณะเข้าอบรม โดยขอให้ผู้เข้ารับการอบรม ศึกษาและปฏบิ ตั ติ ามแนวทางการอบรมออนไลน์ ดงั นี้ 1. เข้ารับการอบรมด้วยตนเองตลอดระยะเวลาการอบรม โดยรับรองว่าการอบรมหลักสูตรออนไลน์น้ี ไม่สามารถให้บุคคลอ่ืนเข้ารับการอบรมหรือมีส่วนร่วมในการอบรมไม่ว่าเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ทั้งน้ี ผู้เข้ารับการ อบรมต้องยนื ยันตัวตนผ่านสอื่ การอบรมออนไลน์ เชน่ การยืนยันตัวตนด้วยชอื่ ผูใ้ ชง้ าน (Username) และรหสั ผ่าน (Password) หรอื การใช้รหัสผา่ นแบบใชค้ รัง้ เดียว (One Time Password) เป็นต้น 2. แต่งกายสุภาพ จัดเตรียมสถานที่ เวลาสาหรับการอบรม และอุปกรณ์ใด ๆ สาหรับการอบรมออนไลน์ และเตรยี มตนเองใหพ้ รอ้ ม ในขณะเขา้ อบรมต้องงดกิจกรรมอืน่ ที่ไม่เกย่ี วข้องกบั การอบรม 3. การส่งคาถาม ข้อสงสัย หรือบทสนทนากับวิทยากรหรือหน่วยงานท่ีจัดฝึกอบรม ในขณะอบรมได้ทาง ห้องสนทนา ทั้งน้ี ผู้เข้ารับการอบรมตกลงว่าจะต้องใช้คาและวาจาที่สุภาพ โดยไม่เป็นคาหยาบ คาหม่ินประมาท หรือละเมดิ สิทธิ์ทางกฎหมายกบั บุคคลอื่น และจะสอบถามหรอื สนทนาท่เี กย่ี วขอ้ งกับหลักสูตรท่อี บรมเท่านั้น 4. เข้าอบรมแบบออนไลน์ตามตารางการอบรม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจานวนชัว่ โมงการอบรม 5. หากประสงค์จะขอลาการอบรม ให้แจ้งผู้จัดการอบรมก่อนล่วงหน้า และกรอกแบบฟอร์มลาการ อบรมตามทีห่ นว่ ยจดั การฝึกอบรมกาหนด 6. เปิดกล้องให้เห็นท่านระหว่างการอบรมตลอดเวลา หากท่านหายจากหน้าจอเกินกว่า 15 นาที ถอื ว่าขาดการอบรมในชว่ั โมงนนั้ ๆ 7. จัดเตรียมและใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การอบรมที่เช่ือมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) ตลอดเวลา เพื่อพร้อมสาหรับการอบรมหลักสตู รออนไลนน์ ี้ ท้ังนี้ การใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ หรือระบ บ การป ระชุมท างไกลสาห รับ การอบ รม นั้ น ให้ เป็ น ไป ตามที่ แต่ละวิท ยาลัยกาห น ด โดยวิทยาลัยสามารถจดั ทาคู่มือการใชง้ านระบบการฝึกอบรมแบบออนไลนเ์ พิ่มเติมได้ตามบริบทและความเหม าะสมของแต่ละวิทยาลยั หมายเหตุ ข้อแนะนาสาหรับอปุ กรณ์และเทคโนโลยขี ้ันต่าท่ผี เู้ ข้ารับการอบรมจะต้องใช้ตลอดระยะเวลาการอบรม มดี ังน้ี

๒๒ 1. แพลตฟอรม์ (Platform) ของระบบจัดอบรมหลกั สตู รออนไลน์ จะรองรบั การใชง้ านผา่ น Web Browser Version ในแต่ละระบบปฏบิ ตั ิการ ดังนี้ Web browser Minimum version Recommended version Chrome Version 53 Version ลา่ สุด Safari Version 11 Version ล่าสดุ Chrome for mobile (android) Version 81 Version ล่าสุด Safari for mobile (iOS) Version 11 Version ลา่ สุด 2. อปุ กรณ์คอมพวิ เตอรท์ ใี่ ช้งาน Minimum Recommended Computer system requirement Intel Premium 4 processor Intel core i3 ขนึ้ ไป CPU 2 GB 4GB ขน้ึ ไป Memory 3. ความเร็วของอินเตอร์เน็ต (Internet) ขน้ั ตา่ ที่แนะนา ระดบั ความชัด Minimum download speed Recommended speed 480p 2Mbps 4Mbps Latency < 500 ms Latency < 800 ms 6Mbps 720p 4Mbps Latency < 500 ms Latency < 800 ms 8Mbps Latency < 500 ms 1080p 6Mbps Latency < 800 ms 4. อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์หรืออุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกสต์ อ้ งมกี ลอ้ งตดิ ต้ัง 5. มีอุปกรณ์สนับสนุน ได้แก่ หูฟังหรอื ลาโพง ไมโครโฟน

๒๓ การเตรียมความพร้อมในการอบรม การเตรียมตัวของผู้เข้ารับการอบรมเพ่ือให้การดาเนินการอบรมบรรลุเป้าหมายตามที่ได้กาหนดไว้ พร้อมทงั้ ผูเ้ ขา้ อบรมไดเ้ ตรยี มความพรอ้ มก่อนเขา้ อบรม จึงควรมกี ารเตรียมตัวของผเู้ ข้ารบั การอบรม ดงั น้ี 1. การเตรยี มเอกสารกอ่ นการอบรมดังต่อไปนี้ 1.1 Portfolio No. 1 และการประเมินตนเอง (self assessment) แบบฟอร์มที่ ๑ การประเมินตนเอง กอ่ นการอบรม จัดทาก่อนการเข้ารบั การอบรมและสง่ เอกสารวันแรกของการอบรมแบบออนไลน์ 1.2 กิจกรรมพัฒนาทักษะการนาเสนอวิชาการ 5นาที (เอกสาร 1 หน้ากระดาษ A4 และสามารถ นาเสนอภายในเวลา 5 นาที) ขอให้ผบก.ทุกท่าน กรุณาเตรียมข้อมูลทางด้านการบริหารที่ประโยชน์สาหรับ ผู้บริหาร เพื่อนาเสนอในช้ันเรียน และเริ่มนาเสนอในสัปดาห์ที่ 2 ของการอบรมตามกาหนดในตาราง การนาเสนอสารคดี / วิชาการ 5 นาที ซึ่งแต่ละท่านจะฝึกทักษะในการนาเสนอเชิงวิชาการคนละ 1 คร้ัง และ ฝกึ ทกั ษะการประเมนิ ผนู้ าเสนอคนละ 1 ครง้ั ๒. การเตรยี มความพร้อมส่วนตวั ผเู้ ขา้ รบั การอบรมควรปฏิบัติดังน้ี 1) มอบหมายหน้าที่รบั ผดิ ชอบใหเ้ รียบร้อยก่อนเขา้ รับการอบรม 2) ตรวจสอบสขุ ภาพของตนเองเพือ่ ประเมินว่ามีความพร้อมที่จะเข้าอบรมตลอดหลกั สตู ร 3) เอกสารประกอบการรายงานตวั เขา้ รับการอบรม ณ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี นครลาปาง มดี งั นี้ - หนงั สือส่งตัวจากต้นสังกดั ทง้ั นโ้ี ปรดตรวจสอบกบั ต้นสงั กดั ว่า ได้สง่ หนงั สือส่งตวั ของท่าน เข้าอบรม มาทว่ี ทิ ยาลัยหรือยัง หากยงั ไมไ่ ดส้ ่งมาขอให้ทา่ นนาหนังสือส่งตัวมาด้วย 4) คอมพวิ เตอร์ Note Book สามารถ Set Wireless กบั ศนู ยค์ อมพวิ เตอร์ของโรงแรมได้ 5) รถยนต์ส่วนตวั หากทา่ นนารถยนต์สว่ นตัวมา ท่านสามารถจอดภายในโรงแรมได้ 6) เตรยี มอปุ กรณ์ / เคร่ืองใชส้ ว่ นตัว (๑) เสอื้ ผา้ ชดุ สภุ าพสาหรบั การอบรม (ผชู้ ายใส่เส้ือเชิ้ตผูกเนคไทสวมรองเท้าหุ้มสน้ ผหู้ ญิง ชุดสภุ าพกระโปรง สวมรองเท้าห้มุ สน้ ) ทกุ วนั อังคารและศุกร์ จงั หวดั ลาปางสวมชดุ ไทย/ผา้ พนื้ เมือง (๒) ชุดกีฬาพร้อมรองเทา้ กฬี า (มีกจิ กรรมออกกาลังกายทกุ วัน) (๓) ยารักษาโรคประจาตัว ฯลฯ หมายเหตุ – ช่วงกิจกรรมกลุ่มสมั พันธ์ให้แต่งกายตามสบายและสภุ าพ งดกำรใสก่ ำงเกงขำสั้นและรองเทำ้ แตะ - การแตง่ กายอาจจะมกี ารเปลีย่ นแปลงได้ตามข้อตกลงของกล่มุ 3. ค่าใชจ้ ่ายในการอบรม คา่ ใชจ้ ่ายในการเขา้ รับการอบรม ให้เบิกค่าใช้จ่ายจากงบประมาณต้นสังกัดตามหลกั เกณฑ์ และอัตราท่กี าหนดในระเบยี บกระทรวงการคลัง 1. ชาระค่าลงทะเบียนเข้ารับการอบรมให้กับสถาบันพระบรมราชชนก โดยดาเนินการโอนเงิน ค่าลงทะเบียนทางเว็บไซด์ http://pimtis.pi.ac.th/ ตามข้ันตอนของระบบ ก่อนวันเปิดการอบรมอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ค่าลงทะเบียน คนละ ๒๒,000 บาท (สองหม่ืนสองพันบาทถ้วน) เป็นค่าใช้จ่ายในการดาเนินการ ค่าวัสดุ อุปกรณ์ คา่ ตอบแทนวทิ ยากร ค่าที่พัก ณ โรงแรม ทรธี ารา ค่าอาหาร ตลอดหลกั สตู รการอบรม ๒. ค่าพาหนะจากทพ่ี ักถงึ สถานท่ีฝึกอบรม ไป-กลบั / ค่าเบี้ยเลี้ยงในวนั เดินทาง ไป-กลบั เบกิ จากตน้ สงั กัด ตามทจ่ี า่ ยจรงิ

๒๔ ๔. การรายงานตวั สาหรบั การอบรม วันอาทติ ย์ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕6๔ เวลา ๑๓.00 – 16.30 น.ลงทะเบยี นเข้าพัก ณ โรงแรม ทรีธารา ๕. ขอ้ ตกลงเวลาในการอบรม 06.00– 06.30 น. - กจิ กรรมการออกกาลังกาย 0๖.๓0–08.00 น. - รับประทานอาหารเช้า 08.00–08.15 น. - บรหิ ารจติ 08.15 –08.30 น - สรปุ ผลการเรยี นรูป้ ระจาวนั 08.30 –09.00 น. - การพฒั นาทกั ษะการนาเสนอ “สารคดีวชิ าการ 5 นาที” 09.00–12.00 น. - อบรมอยา่ งเปน็ ทางการ 12.00–13.00 น. - รบั ประทานอาหารกลางวัน 13.00–16.30 น. - อบรมอย่างเปน็ ทางการ 16.30–18.00 น. - กจิ กรรมเสริมหลกั สูตร 18.00–19.00 น. - รบั ประทานอาหารเยน็ 19.00–22.00 น. - กจิ กรรมกลมุ่ หมายเหตุ: จัดอาหารว่างและเคร่ืองด่ืมในระหว่างการอบรม เวลา ๑๐.๓๐-๑๐.๔๕ น. และ ๑๔.๓๐-๑๔.๔๕ น. ๖. บทบำทหน้ำที่ของผเู้ ขำ้ รับกำรอบรมหลกั สตู รผู้บรหิ ำรกำรสำธำรณสขุ ระดับกลำง ผู้เข้ารบั การอบรม หลักสูตรผบู้ ริหารการสาธารณสุขระดบั กลางท่เี ขา้ รบั การอบรม แบบออนไลนแ์ ละออนไซท์ ณ โรงแรม ทรี ธารา มบี ทบาทท่ตี อ้ งรับผิดชอบดงั น้ี ๖.1 ความรับผดิ ชอบรายสัปดาห์ ๖.1.1 เนอ่ื งจากสัปดาห์การอบรม มี ๔ สปั ดาห์ ผเู้ ขา้ รับการอบรมมี ๕ กลุ่ม (แบ่งตามกลุ่ม (CBL) ให้แตล่ ะกล่มุ รบั ผดิ ชอบงานบรหิ ารจัดการและงานบริหารวิชาการ ตามตารางและภารกจิ ท่ีกาหนด ดงั น้ี สปั ดาห์ Training งานบรหิ ารจดั การ งานบริหารวชิ าการ สปั ดาห์ที่ 1 ( ๒๘ – ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.256๔) วทิ ยาลัย วิทยาลัย สปั ดาห์ที่ 1 (๑ – ๒ กรกฎาคม พ.ศ.256๔) กลมุ่ ที่ 1 กลมุ่ ท่ี 1 สปั ดาห์ท่ี 2 (๕ – ๙ กรกฎาคม พ.ศ.256๔) กลุ่มท่ี 2 กลมุ่ ท่ี 2 สัปดาห์ท่ี 3 (๑๒ – ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ.256๔) กลมุ่ ที่ ๓ กล่มุ ท่ี ๓ สปั ดาห์ที่ 4 ( ๑๙ – ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.256๔) กลุ่มท่ี ๔ และ 5 กลมุ่ ท่ี ๔ และ 5

๒๕ ๖.๑.๒ ภารกจิ สมาชกิ กล่มุ ในงานบริหารจดั การ และงานบรหิ ารวชิ าการ ดงั น้ี งานบรหิ ารจัดการ งานบรหิ ารวชิ าการ 1. ต้อนรับวทิ ยากร 1. นาเสนอสรปุ ผลการเรียนรปู้ ระจาวนั (10นาท)ี 2. พิธกี รประจาวนั 2. จับเวลาผู้นาเสนอ 5 นาทแี ละผปู้ ระเมิน 1 นาที 3. กลา่ วแนะนาวิทยากรและกลา่ วขอบคุณวิทยากร 3. รวบรวมเอกสารวิชาการ ๕ นาที ส่งใหว้ ิทยากร 5. ตรวจสอบผู้เข้ารบั การอบรมลงทะเบยี นประจาวัน พ่เี ลย้ี งประจาวัน/ผู้ประสานงานประจาวนั 6. ดาเนินการกจิ กรรมการบรหิ ารจิต ๔. ประสานเอกสารของวทิ ยากรจากอาจารย์ ๗. จัดการบนั เทิง การแขง่ ขนั กีฬาเป็นคร้งั เปน็ คราวให้ ผู้ประสานงานประจาวัน เหมาะสมตามควรแก่โอกาส เพื่อเปน็ การบารุงขวัญและ ๕. รวบรวมแบบประเมินผลวทิ ยากรประจาวนั / พักผอ่ นหย่อนใจของผู้รับการอบรม ประเมนิ ผลกระบวนการกลมุ่ ส่งใหว้ ิทยากรพ่เี ลย้ี ง ๘. ดแู ลทกุ ขส์ ุขท่วั ไปของผรู้ บั การอบรม และเปน็ ส่อื กลาง ประจาวนั /ผู้ประสานงานประจาวนั ระหวา่ งผูร้ ับการอบรมและข้อควรแกไ้ ขในการปฏิบตั ิ ๖. จัดทารายงานสรปุ ผลการเรยี นรู้ตลอดหลกั สตู ร ให้แก่เจ้าหนา้ ทร่ี บั ผิดชอบได้ทราบ ๗. จดั ทา KM Paper ๙. ดาเนนิ การกจิ กรรมเสริมหลกั สตู รรว่ มกับ ๘. ดาเนินการกิจกรรมเสรมิ หลกั สตู รรว่ มกบั ผ้ปู ระสานงานประจาวนั ผ้ปู ระสานงานประจาวัน ๑๐. รับผดิ ชอบในการจดั ทาหนังสอื รุน่ ๖.2 ความรับผิดชอบโดยรวมตลอดระยะเวลาการฝกึ อบรม ใหผ้ ู้รับการอบรมเลือกต้งั คณะกรรมการคณะหน่ึงเรียกวา่ “คณะกรรมการผรู้ บั การอบรม” ประกอบดว้ ย 2.1 ประธานกรรมการ 1 คน 2.2 รองประธานกรรมการ ๑ คน 2.3 เลขานุการและผู้ชว่ ยเลขานุการ ๒ คน 2.4 เหรัญญิกและผู้ช่วยเหรัญญกิ ๒ คน 2.5 หวั หน้ากลมุ่ วิชาการ 1 คน 2.6 หัวหนา้ กลุม่ บรหิ ารจัดการ 1 คน 2.7 กรรมการอนื่ อีกไมเ่ กิน 2 คน ผู้อบรมท่านอื่น ๆ ท่ีเหลือ สมัครเป็นสมาชิกกลุ่มวิชาการ หรือ กลุ่มบริหารจัดการโดยให้มีจานวนเท่ากัน หรือใกล้เคียงกันมากที่สุดและเลือกตั้งคณะกรรมการภายในสัปดาห์แรกของการฝึกอบรม เป็นไปตามระเบียบกระทรวง สาธารณสุขว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2532

๒๖ ภาคผนวก

๒๗ ใบงาน

๒๘ ใบงาน การพัฒนาทกั ษะการนาเสนอ (“วชิ าการ ๕ นาที”) วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรมเพมิ่ พนู ทกั ษะการนาเสนอ และการพัฒนาความคิดรวบยอด (Conceptualization) โดยสรปุ ประเดน็ เน้ือหาเพ่ือนาเสนอภายในเวลาท่ีกาหนด (Time-limited Activity) และการวิพากษ์อย่างสรา้ งสรรค์ (Positive and Creative Criticism) กิจกรรม ๑. ให้ผู้เข้ารับการอบรมแต่ละคนเตรียมเน้ือหาเพ่ือนาเสนอวิชาการ ๕ นาที ในเรื่องท่ีผู้เข้ารับการอบรม สนใจ และเก่ยี วข้องกับการบรหิ าร หรือเทคโนโลยดี จิ ิทลั ๒. จัดพิมพเ์ อกสารวชิ าการเพ่ือใช้ในการนาเสนอ ๑ หนา้ กระดาษ A๔ (ตัวอกั ษร TH Sarabun ขนาด ๑๖ pt) ๓. นาเสนอหน้าในห้องเรียนเสมือนจรงิ ในชว่ งเวลาทก่ี าหนด ๔. ผู้เขา้ รบั การอบรมท่านอนื่ ทาหนา้ ทผี่ ู้วพิ ากษ์ ๑ นาที เพ่ือฝึกการวิพากษอ์ ยา่ งสร้างสรรค์ (Positive and Creative Criticism) โดยสับเปล่ียนกนั ๕. วทิ ยากรพ่เี ล้ียงใหข้ ้อเสนอแนะต่อผ้นู าเสนอ โดยดึงจดุ เด่น ของแตล่ ะคนออกมาเปน็ การวิพากษ์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ การประเมินผล ประเมนิ การนาเสนอโดยวิทยากรพ่เี ลีย้ ง และใช้แบบประเมิน ๐๑

๒๙ ใบงาน การศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง วัตถุประสงค์ ๑. เพอ่ื ใหผ้ เู้ ข้ารบั การอบรมเรียนรู้ และสามารถนาเสนอได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๒. เพอ่ื ให้ผู้เข้ารบั การอบรมมีความรู้และเขา้ ใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรม ๑. ผ้เู ข้ารับการอบรมศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง ในประเด็นท่เี ก่ียวกบั เทคนคิ การนาเสนอ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ และปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ๒. ผู้เข้ารบั การอบรมจดั ทาเอกสารสรุปองค์ความรู้ที่ได้ หวั ข้อละ ๑ หนา้ กระดาษ A๔ (ตัวอกั ษร TH Sarabun ขนาด ๑๖ pt) การประเมนิ ผล เป็นการประเมินเพื่อพัฒนาตนเอง

๓๐ ใบงาน การฝกึ ทักษะการวางแผนเชงิ กลยุทธโ์ ดยใช้การเรียนรู้แบบ CBL วตั ถุประสงค์ เพือ่ เรียนรูแ้ ละฝกึ ทักษะการคิดเชงิ กลยทุ ธ์ (Strategic Thinking Skill) และนาเสนอแผน ยทุ ธศาสตร์ (Strategic Planning) โดยใช้สถานการณ์จริง (Community-based Learning) เนน้ “การกระต้นุ ความรู้ท่ีมีอยู่ (Tacit Knowledge) เสรมิ ความรู้ใหม่จากวิทยากรและการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ในระหว่างผ้เู ขา้ อบรม” กิจกรรม 1. ศึกษาข้อมูลพ้ืนท่ีเบ้ืองต้นเพื่อวิเคราะห์หาปัญหาและสาเหตุของปัญหาสาธารณสุขหรือปัญหาที่ ส่งผลต่อสุขภาพ 2. ให้ความรู้เร่อื งแนวคิดและกระบวนการ CBL ก่อนลงเกบ็ ขอ้ มูลในพื้นที่จริง 3. วางแผนและสร้างเครื่องมือเพิ่มเติมเพ่ือเก็บข้อมูลที่จาเป็นสาหรับการวิเคราะห์ (ดาเนินการ ณ วิทยาลยั ) 4. ลงพ้ืนท่ีเพ่ือเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหาปัจจัยทางด้านการบริหารที่ส่งผลต่อการจัดการสาเหตุของ ปญั หาสาธารณสขุ หรือปัญหาทสี่ ่งผลตอ่ สขุ ภาพ 5. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้/แผนการดาเนินการเดิมของพื้นท่ีเพ่ือแก้ไขหรือปรับปรุงแผน กลยุทธ์ เดมิ ณ หน่วยงานรับจัดอบรม การประเมินผล ๑. ประเมินผลกระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบ CBL จานวน ๓ ครั้ง โดยใช้แบบประเมิน ๐๒ เป็นรายบุคคลครั้งละ ๑๐ คะแนน รวม ๓๐ คะแนน จาแนกเป็นโดยวิทยากรพี่เล้ียง ๑๕ คะแนน (คร้ังละ ๕ คะแนน ๓ ครัง้ ) และโดยสมาชกิ กลมุ่ ๑๕ คะแนน (คร้งั ละ ๕ คะแนน ๓ ครงั้ ) 2) ประเมนิ จากเอกสารรายงานและการนาเสนอ ๔๐ คะแนน ได้แก่ เอกสารวชิ าการ ๓0 คะแนน การนาเสนอ 10 คะแนน โดยใช้แบบประเมิน ๐๑

๓๑ การประเมนิ ตนเอง (self assessment)

๓๒ การประเมนิ ตนเอง (self assessment) แบบฟอรม์ ที่ ๑ การประเมินตนเอง ก่อนการอบรม ช่อื ผอู้ บรม .............................................................................................................................................................. ขอใหท้ า่ นเขียนการทางานของท่านในบทบาทผู้บรหิ ารทีแ่ สดงถึงคณุ ลกั ษณะ ๓ ดา้ น ดังน้ี “การครองตน การครองคน และการครองงาน” (โดยนามาสง่ วนั แรกของการอบรม) ครองตน ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ....................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ครองคน ........................................................................................................................................................ ... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. ................................................................................................................................................................. ......... ........................................................................................................................ ................................................... ครองงาน ............................................................................................................................. ............................ ................................................................................................................................................................... ........ ......................................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................................................. .............. ลงชื่อ ............................................ ผู้บันทึก ................/............................../.............. ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของวิทยากรพเ่ี ลี้ยง ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................... ................................ ................................................................................................. ......................................................................... ลงชื่อ ............................................ วิทยากรพเี่ ลย้ี ง ................/............................../..............

๓๓ แบบฟอร์มท่ี ๒ การประเมนิ ตนเอง ระหวา่ งการอบรม ช่อื ผู้อบรม .............................................................................................กลุ่มที.่ ................สปั ดาห์ที่...................... สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ในสัปดาห์ท่ีผ่านมามีอะไรบ้าง ท่านนาสง่ิ ที่ได้เรียนร้มู าพฒั นาตนเองอย่างไร ในประเด็น “ครองตน ครองคน ครองงาน” ประเด็น สง่ิ ท่ไี ดเ้ รียนรูใ้ นสปั ดาห์ที่ผ่านมา การนาสิง่ ท่ีได้เรยี นรู้มาพฒั นาตนเอง ครองตน ครองคน ครองงาน ลงชอื่ ............................................ ผู้บนั ทึก ................/............................../.............. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของวิทยากรพีเ่ ลี้ยง ............................................................................................................................. ................................................... ............................................................................................................................. ................................................... ............................................................................................................................................................... ................. ลงชื่อ ............................................ วิทยากรพเ่ี ลีย้ ง ................/............................../..............

๓๔ แบบฟอร์มท่ี ๓ การประเมินตนเอง หลังการอบรม ชื่อผ้อู บรม ......................................................................................................กลุม่ ที่..................................... หลังผา่ นการอบรมแลว้ ทา่ นไดพ้ ัฒนาตนเองหรือไดร้ ับการเติมเต็มให้ท่านเปน็ ผู้บริหารท่ีมีประสิทธภิ าพใน ประเด็นต่อไปน้ีอย่างไร “ครองตน ครองคน ครองงาน” ครองตน ............................................................................................................................ ............................... ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ครองคน ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. ......................................................................................................................................................................... . ............................................................................................................................. .............................................. ครองงาน ............................................................................................................................. ............................ ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. .............................................. ..................................................................................................................................................................... ...... ลงชื่อ ............................................ ผู้บนั ทึก ................/............................../.............. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของวิทยากรพเ่ี ลี้ยง ............................................................................................................................. ............................................. .................................................................................................................................................. ........................ ......................................................................................................... ................................................................. ลงชอ่ื ............................................ วทิ ยากรพีเ่ ล้ยี ง ................/............................../..............

๓๕ แฟม้ สะสมผลงาน(Portfolio) Portfolio No.1 ขอ้ มูลส่วนบุคคล 1. ขอ้ มูลสว่ นบคุ คล ชอ่ื ……………………………………………………..นามสกุล........................................................................................................ หมายเลขประจาตัวประชาชน................................................................เพศ.................ศาสนา..................................... วนั เดอื น ปีเกดิ ..................................อายุ...............ปตี าแหน่ง..................................... อัตราเงนิ เดอื น....................บาท สถานที่ปฏบิ ัตงิ าน.....................................................................ฝ่าย / กล่มุ งาน............................................................... เลขที่...............หมู่……........ซอย........................ถนน...........................ตาบล.......................อาเภอ................................... จงั หวดั .............................. รหสั ไปรษณีย์....................โทรศัพท.์ ......................... โทรสาร............................................... สถานภาพสมรส ( ) โสด ( ) สมรส ( ) หย่ารา้ ง ( ) หม้าย ชอ่ื คู่สมรส.......................................................................................จานวนบุตร..........................คน ทีอ่ ยู่ปัจจุบัน เลขท่ี............หม่ทู ี่.............ซอย.....................ถนน.....................................ตาบล......................................... อาเภอ.......................จงั หวัด..............................รหัสไปรษณยี ์.........................โทรศพั ท.์ ................................................ .โทรสาร..............................โทรศพั ทม์ ือถอื ................................E-mail address………………………..……………..….……… ความสามารถพเิ ศษ......................................................................................................................................................... คติ หรอื หลกั ในการทางาน ........................................................................................................................................... ความสนใจในดา้ นต่างๆ ระบุ ......................................................................................................................................... 2. หนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบ ตามบทบาทภารกิจในปจั จบุ นั ของทา่ น(ระบุงานทีท่ า่ นได้ทาความตกลงไว้กับ องค์กรหรือผู้บงั คับบญั ชา( PA= Performance Agreement) ………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………….…….…….. ………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………..…….. ………………………………….………………………………………………………………………………………………………………………..……….. ………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………..….. ………………………………….……………………………………………………………………………………………………………….………….….... ………………………………….………………………………………………………………………………………………………………..…………..….. 3. ประวตั ิการศึกษา(ระดบั อดุ มศกึ ษา) ลาดับ วุฒิ / วชิ าเอก สถานศึกษา ปี พ.ศ. ทสี่ าเร็จ

4. ประวัตกิ ารรบั ราชการ ๓๖ เงนิ เดอื น วัน เดือน ปี ตาแหนง่ สถานที่ 5. ประวตั ิการฝกึ อบรม / การศึกษาดูงาน วนั เดอื น ปี หลกั สูตร สถานทจี่ ัด หมายเหตุ 6. ความสามารถพิเศษ / ความชานาญ/ ความเชยี่ วชาญ ประเดน็ สาคญั เรอ่ื ง

๓๗ แบบประเมนิ

๓๘ แบบประเมนิ 0๑ แบบประเมนิ การนาเสนอ/เอกสารวชิ าการ หลกั สตู รผูบ้ ริหารการสาธารณสุขระดบั กลาง ผใู้ ช้แบบประเมนิ คาชแี้ จง (......) 1.วิทยากรพเ่ี ล้ยี ง แบบประเมนิ การนาเสนอ/เอกสารวิชาการ เพอ่ื (…….) 2. ผ้เู ข้ารับการอบรม 1. เป็นข้อมูลให้ผ้ปู ระเมนิ แจง้ ผลการประเมนิ ย้อนกลบั กบั ผู้เข้ารบั การอบรม เพือ่ การพัฒนาทด่ี ขี ้ึน 2. ใชป้ ระกอบการประเมนิ ผลภาควชิ าการ รายบุคคล และรายกลมุ่ ๒.๑ (......) การพัฒนาทักษะการนาเสนอรายบุคคล ๒.๒ (…...) การนาเสนอและเอกสารสรปุ การเรยี นรู้แบบ CBL เรอ่ื ง/ประเดน็ ทนี่ าเสนอ …………………….……..…........…ชื่อผ้นู าเสนอ...................................………..................... กลมุ่ ท่ี..........ชือ่ วทิ ยากรผู้ประเมิน............................................................วนั ท.ี่ .........เดือน....................พ.ศ. 25...... กจิ กรรม/รายละเอียด คะแนน ควรปรบั ปรุง ส่วนท่ี 1 การนาเสนอ / สื่อ/ บคุ ลิกภาพ 1.1 นาเสนอตรงกับช่ือเรื่อง ( 10 คะแนน) 1.2 ลาดับขน้ั ตอนการนาเสนอเหมาะสม (ข้ึนต้น เน้ือหา และสรปุ ) ( ๒0 คะแนน) 1.3 ใชส้ ่ือเหมาะสมกบั เนื้อหาทีน่ าเสนอ ( ๑๕ คะแนน) 1.4 มกี ารควบคุมเวลาได้เหมาะสม ( ๑๐ คะแนน) 1.5 ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เหมาะสมกับเรื่องทนี่ าเสนอ ( ๒0 คะแนน) 1.6 การแตง่ กายถูกกาลเทศะ ( ๑๐ คะแนน) 1.7 การใช้ภาษากาย และท่าทางเหมาะสม ( ๑๕ คะแนน) รวมคะแนน(๑๐0 คะแนน) สว่ นที่ 2 เอกสาร/รายงาน 2.1 การจัดลาดับขัน้ ตอนของเนอ้ื หาเหมาะสม (2๐ คะแนน) 2.2 เนือ้ หาสอดคลอ้ งกับเร่ืองทีน่ าเสนอ (๒0 คะแนน) 2.3 เน้ือหาครอบคลมุ ได้ใจความ (๒0 คะแนน) ๒.๔ ความเหมาะสมและถูกต้องของภาษา (๒0 คะแนน) 2.๕ ความถกู ตอ้ งของการอ้างอิง (๒๐ คะแนน) รวมคะแนน( 100 คะแนน) ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ ...................................................……………………………………..………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓๙ ระยะเวลาประเมิน แบบประเมนิ 0๒ -หลังการประชมุ กลมุ่ แบบประเมนิ กระบวนการกลุม่ ผู้ใชแ้ บบประเมนิ CBL (ผบก.) หลกั สตู รผ้บู รหิ ารการสาธารณสุขระดับระดบั กลาง (......) 1.วทิ ยากรพี่เล้ียง จานวน ๓ คร้งั คาชแ้ี จง (…...) 2. ผเู้ ข้ารับการอบรม แบบประเมนิ กระบวนการกลุ่ม เพอ่ื 1. เป็นขอ้ มลู ให้ผู้ประเมินแจง้ ผลการประเมินย้อนกลับกับผู้เข้ารบั การอบรม เพ่ือการพัฒนาทดี่ ขี ึน้ 2. ใชป้ ระกอบการประเมินผลกระบวนกลุ่ม การทางานผูเ้ ข้ารับการอบรมรายบุคคล และรายกลุ่ม การประชมุ กล่มุ CBL (ผ.บ.ก.) คร้ังท…ี่ …............ กลมุ่ ที่...........ช่อื วิทยากรพเ่ี ลี้ยง......................................................วนั ที่.............เดือน.......................พ.ศ. 25...... คะแนนการทางานกลุม่ รายบคุ คล** คะแนน ลา กิจกรรม/รายละเอียด ดบั กล่มุ * 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ๑๐ ๑๑ 12 1 การวางแผนการทางานกลมุ่ (30 คะแนน) 1.1 มกี ารทาความเขา้ ใจวตั ถปุ ระสงคข์ องการทางานกล่มุ (10 คะแนน) 1.2 มีการกาหนดบทบาทสมาชกิ ในการประชุม (10 คะแนน) 1.3 มกี ารกาหนดกฎกติกาการดาเนินงานของกลมุ่ (10 คะแนน) ๒. บรรยากาศของการทางาน (๓0 คะแนน) ๒.1 สร้างบรรยากาศสง่ เสรมิ การเรียนรู้ (1๐ คะแนน) ๒.๒ ใช้หลกั ประชาธปิ ไตยในการทางานรว่ มกนั เชน่ แสดงถึงการ ยอมรบั สิทธิ์ และเสรีภาพในการแสดงความคดิ เหน็ ของผูอ้ ื่น รับ ฟังความคิดเห็นของผ้อู น่ื (๒๐ คะแนน) ๓ กระบวนการทางานกลุ่ม (๔0 คะแนน) ๓.1 มีการปฏิบัตติ ามบทบาทหนา้ ท่ีของตน (1๕ คะแนน) ๓.2 มีการมีส่วนรว่ มกันปฏิบตั งิ านตามท่ีได้รบั มอบหมาย (1๕ คะแนน) ๓.3 มกี ารมสี ว่ นรว่ มแสดงความคิดเหน็ แลกเปลย่ี นข้อมูล ความร้แู ละประสบการณ์ (๑0 คะแนน) รวมคะแนน (100 คะแนน) ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม...................................................……………………………………..………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… *ประเมินโดยผอู้ บรม **ประเมนิ โดยวทิ ยากรพเ่ี ล้ยี ง

๔๐ แบบประเมิน 0๓ ระยะเวลาประเมิน แบบประเมินพฤตกิ รรมรายบคุ คล ผ้ใู ชแ้ บบประเมนิ สปั ดาหส์ ุดทา้ ย หลกั สตู รผบู้ รหิ ารการสาธารณสุขระดับระดบั กลาง (..........)วิทยากรพี่เลี้ยง/ คาชีแ้ จง ผ้รู ับผิดชอบโครงการ ใช้ประเมนิ พฤติกรรมผเู้ ข้ารับการอบรมในภาพรวมตลอดระยะเวลาโดยวทิ ยากรพ่ีเล้ยี งอาจแจง้ ผลการประเมิน ย้อนกลับกับผู้อบรมทันทีเพอื่ การพฒั นาทดี่ ขี ึ้น ตามความเหมาะสม ชอ่ื ผู้อบรม………………………….…………………..กลุม่ ท…ี่ ………ชอ่ื ผ้ปู ระเมนิ .................................วนั ท.ี่ ................................... รายการพฤตกิ รรม คะแนน หมายเหตุ 1. มบี ุคลกิ ภาพท่ีดี แตง่ กายเหมาะสมตามกาลเทศะ 2. สามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม ๓. รับฟัง/รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ๔. กริ ิยาวาจาสุภาพ ๕. มีมนษุ ยส์ ัมพันธ์ทด่ี ี ๖. มนี ้าใจใหค้ วามช่วยเหลือเก้ือกูลคนอื่นด้วยความเต็มใจ ๗. มคี วามรับผิดชอบต่องาน/กจิ กรรมทไี่ ดร้ ับมอบหมาย รวมถงึ การบนั ทกึ สรุปผล การเรยี นรปู้ ระจาสปั ดาห์ ๘. มวี นิ ยั รกั ษาระเบียบ กตกิ า ของชั้น ๙. สามารถบริหารเวลาในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในขณะอบรมได้อยา่ งเหมาะสม ๑๐. มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการเรยี นรู้ รวมคะแนน (๑๐๐ คะแนน) ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม...................................................……………………………………..………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

41 แบบรายงาน ๐๔ แบบรายงานผลการอบรมรายบคุ คล คาชแ้ี จง หลกั สูตรผู้บริหารการสาธารณสุขระดบั ระดบั กลาง วิทยาลยั ดาเนนิ การประเมินผลผเู้ ขา้ รบั การอบรมฯ เปน็ รายบุคคลตามทไี่ ด้กาหนดในมาตรฐานการอบรม แล้ว สง่ สรุปผลรายบุคคล ให้หน่วยงานตน้ สงั กัด 1. ช่ือ ...........................................................................สกุล………………..............………..................……………..…... 2. ตาแหน่ง…………………………………………………..……………………………………………………………………………………… 3. สถานที่ปฏิบัตริ าชการ…………..………………………………..…………………………….……………..…………………………... 4. อบรม ณ วทิ ยาลัย…………………..……….……………….………….……………………………………..……………………….… ระหวา่ งวนั ที่ …………………………………....………………………………………………………………………………….………. ไดผ้ ่านการประเมินผลการเข้ารับการฝึกอบรมหลักสตู รผู้บริหารการสาธารณสุขระดบั กลาง รุน่ ที่ …………………….. ประจาปี …………………….. คิดเป็นร้อยละ..................................................................... สรุปผลการประเมินได้ว่า ผ่านการอบรม ไมผ่ า่ นการอบรม ผ่ ผ่านการอบรมอย่างมีเงื่อนไข โดยผ้เู ขา้ อบรมต้องไปพัฒนาตนเองต่อเน่ืองในประเด็น ดงั ตอ่ ไปน้ี 1…………………………………………………………………………………………………………………….………… 2…………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………….ผรู้ ายงานผลการประเมนิ ผูอ้ านวยการวิทยาลยั …………………..…………………….

42 แบบประเมนิ ๐๕ แบบประเมนิ วิทยากรพเี่ ลีย้ ง หลักสตู รผ้บู รหิ ารการสาธารณสุขระดบั ระดับกลาง ผ้ใู ช้แบบประเมนิ ผ้เู ข้ารับการอบรม คาชแี้ จง 1. แบบประเมนิ วิทยากรพ่ีเลย้ี งในฐานะ Facilitator มีวัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื เป็นข้อมูลป้อนกลบั ในการ พัฒนาศักยภาพของวิทยากรพ่ีเล่ียงใหเ้ หมาะสมยิ่งข้ึนโดยผ้ปู ระเมินส่งผลการประเมินให้ผรู้ ับผิดชอบโครงการ 2. โปรดทาเครื่องหมาย / ในช่องทตี่ รงกบั ความเป็นจริงในความคิดเหน็ ของทา่ นมากท่ีสดุ ช่อื วิทยากรพี่เลี้ยง…………………………..………………...... กล่มุ ท่ี………………….… รายการ / กจิ กรรม มาก ระดับความเหมาะสม น้อย ขอ้ มูล ทสี่ ุด ที่สดุ สนับสนนุ 1. มีการกระตุน้ ใหผ้ ู้เขา้ อบรมมสี ว่ นร่วมในการเรยี นรู้ มาก ปาน น้อย 2. โน้มน้าว /จงู ใจผ้เู ขา้ อบรมให้อยใู่ นประเดน็ ที่กาหนด กลาง 3. ให้ข้อเสนอแนะทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อการประชุมกลุ่ม 4. สอ่ื สารได้ชัดเจน ตรงประเดน็ 5. รับฟงั ความคดิ เหน็ ของกลุ่ม 6. สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี 7. มีมนุษยสมั พันธท์ ่ีดี 8. อยูร่ ว่ มการประชมุ กลุ่มทุกครัง้ ตามท่ีกาหนด 9. ความสามารถในการเป็นที่ปรกึ ษาและพเี่ ลี้ยงในภาพรวม ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ .................................................................................................................... ......................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. .............................................

43 ระยะเวลาการประเมิน แบบประเมินหวั ขอ้ วิชาและวทิ ยากรบรรยาย/อภิปราย แบบประเมนิ ๐๖ ทกุ ครั้งทมี่ ีการบรรยาย/ หลกั สตู รผู้บริหารการสาธารณสขุ ระดับระดับกลาง ผใู้ ชแ้ บบประเมนิ อภิปราย ผู้เข้ารบั การอบรม คำช้ีแจง 1. แบบประเมนิ วิทยากร เพือ่ การปรบั ปรงุ การจัดอบรมใหเ้ หมาะสมย่ิงข้นึ 2. โปรดทาเครื่องหมาย / ในชอ่ งทต่ี รงกับความเปน็ จรงิ ในความคิดเหน็ ของทา่ นมากที่สุด วนั ท่ี……………………………………………….................……… เวลา…………..............................…..........น. วิชา…………………..............……………………………………ชอื่ วิทยากร………………………………………………………………….………… ระดบั ความเหมาะสม ขอ้ เสนอแนะ รายการ/กิจกรรม มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ท่สี ุด กลาง ทสี่ ุด 1. ความคดิ เหน็ เกยี่ วกับหวั ข้อวิชา 1.1 หวั ขอ้ วชิ ามคี วามสอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์ของ หลักสตู ร 1.2 ความทนั สมัยของเนอ้ื หาวิชา 1.3 ความรู้ ความเขา้ ใจวิชาน้ีเพิม่ ขึน้ หลังการอบรม 1.4 เนื้อหาสาระของวชิ านม้ี ปี ระโยชน์ตอ่ การปฏบิ ตั งิ านจริง 2. ความคิดเห็นเก่ียวกับวทิ ยากรบรรยาย/อภปิ ราย 2.1 ความรู้ความสามารถในหัวขอ้ ทีบ่ รรยาย 2.2 สามารถถา่ ยทอดเน้อื หาวชิ าได้ชดั เจน 2.๓ การลาดับขนั้ ตอนความสมั พนั ธ์ของเน้ือหา 2.๔ ความสามารถในการตอบปญั หา / ข้อสงสัย 2.5 สอ่ื /เอกสารประกอบการบรรยายมคี วามเหมาะสม 2.6 รกั ษาเวลาในการบรรยายไดเ้ หมาะสม ๓.ความเหมาะสมของเวลาทกี่ าหนด เหมาะสม ไม่เหมาะสม ควรเป็น...........................ชว่ั โมง สิง่ ท่ที ่านประทับใจ ………………………….......................................................................................…………….……… ……………………….………………………………….………………………………………………..…………………….…....………………… ……………………….………………………………….…………………………………………………………………….…....………………… สง่ิ ทตี่ ้องการแก้ไข ……………………………………………………………………………………………….……….....………………… ……………………….……………………………………………………………………………………………………….………………………… ………………….…………………………………………………………………………………………………………….…………...…………… ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ……………………………………………………………………………………………………..…………...........…… .............................................................................................................................................................................

44 รายชือ่ ผูเ้ ขา้ รับการอบรม หลกั สูตร ผ้บู ริหารการสาธารณสขุ ระดบั กลาง รุ่นท่ี ๓๔ ประจาปีงบประมาณ 2564

45 รายช่ือผ้เู ข้ารบั การอบรมหลกั สตู รผ้บู รหิ ารการสาธารณสขุ ระดับกลาง รุ่นท่ี ๓๔ ประจาปงี บประมาณ 2564 ระหว่างวนั ที่ 28 มถิ ุนายน - ๒๓ กรกฎาคม 2564 ณ โรงแรม ทรีธารา จังหวดั ลาปาง (Online ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 16 กรกฎาคม 2564 และ On Site วันท่ี 19 - 23 กรกฎาคม 2564) ลาดบั ชื่อ นามสกลุ ตาแหน่ง ช่ือสถานที่ทางาน จังหวดั ๑ นาย กฤษฎา เทพบรุ ี นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชานาญการ สกลนคร ๒ นาง กาญจนา โรงพยาบาลสมเด็จ ๓ นาย เกรียงศักด์ิ ดาวประเสริฐ พยาบาลวิชาชพี ชานาญการพเิ ศษ พระยพุ ราชสวา่ งแดนดนิ ลาปาง ๔ นาง จารณุ ี โรงพยาบาลมะเรง็ ลาปาง ๕ นางสาว จนิ ตนา ๖ นาง จรุ ยี ์ ลอื กาลัง ทนั ตแพทยช์ านาญการ โรงพยาบาลทงุ่ หัวชา้ ง ลาพูน ๗ นาง จรุ ีรัตน์ ๘ นาง แจว๋ แวว๋ รศั มีสวุ วิ ัฒน์ พยาบาลวชิ าชพี ชานาญการ โรงพยาบาลสวนปรุง เชียงใหม่ ๙ นาง ณปภัช นาย ณรงคศ์ กั ด์ิ โพธท์ิ ิพย์ พยาบาลวิชาชพี ชานาญการ โรงพยาบาลศรสี ังวาลย์ แม่ฮ่องสอน ๑๐ ถนัดศรี กุศล นักจัดการงานทว่ั ไป โรงพยาบาลนา่ น นา่ น ๑๑ นาย ทรวงทิพย์ ๑๒ นางสาว ทศพล ประวาลลัญฉกร พยาบาลวิชาชพี ชานาญการ สานกั งานสาธารณสุขจงั หวัด เลย ๑๓ นาย ธนชล ๑๔ นาย นันทน์ ลิน เลย ๑๕ นาง เนตรชนก ๑๖ นาง ประวตั ิ จาฟู นักเทคนิคการแพทยช์ านาญการ โรงพยาบาลแจห้ ่ม ลาปาง ๑๗ นาย พงษ์เทพ ธนทั วรกมล พยาบาลวชิ าชพี ชานาญการ ๑๘ นาย พงษศ์ ักด์ิ ทองธรรมชาติ นกั วชิ าการสาธารณสุขชานาญการพิเศษ โรงพยาบาลห้างฉตั ร ลาปาง ๑๙ นาย ภาผอูน ๒๐ นาง มณั ฑนา สานักงานปอ้ งกันควบคุมโรคท่ี ชลบุรี 21 นางสาว 6 จงั หวัดชลบรุ ี มะโนตา นายแพทยช์ านาญการ โรงพยาบาลแมล่ าว เชียงราย วงศพ์ นั ธุ์ พยาบาลวิชาชพี ชานาญการ เมอื งอนิ ทร์ นกั วิชาการสาธารณสุขชานาญการ โรงพยาบาลเจา้ พระยายมราช สุพรรณบรุ ี สานักงานสาธารณสขุ อาเภอ เชยี งราย เวยี งแกน่ วงศห์ ริ ญั เดชา นายแพทยช์ านาญการ โรงพยาบาลเชียงดาว เชยี งใหม่ นาคะกุล พยาบาลวชิ าชีพระดบั ชานาญการพิเศษ รกั ษาวงศ์ พยาบาลวชิ าชพี ชานาญการ โรงพยาบาลลาปาง ลาปาง บัวศรี นักวิชาการสาธารณสขุ ชานาญการ โรงพยาบาลยุวประสารท สมุทรปราการ นามวงค์ นกั วิชาการสาธารณสุขชานาญการ ไวทโยปถมั ภ์ บุรีรมั ย์ สสอ.โนนสุวรรณ สานักงานสาธารณสขุ อาเภอ แพร่ เมอื งแพร่ นาต๊ะ เภสชั กรชานาญการ โรงพยาบาลเทงิ เชียงราย โซน่ี เภสชั กรชานาญการพิเศษ กลุม่ งานเภสชั กรรม ลาปาง บุศยเ์ มือง นกั เทคนคิ การแพทยช์ านาญการ โรงพยาบาลลาปาง เชยี งราย โรงพยาบาลแมล่ าว

46 ลาดบั ชอ่ื นามสกลุ ตาแหน่ง ชอื่ สถานทที่ างาน จังหวดั 22 นาย ยอด คุณยศยิ่ง นักวิชาการสาธารณสุขชานาญการ เชียงใหม่ สานักงานสาธารณสขุ อาเภอ 23 นาย ยุทธนา เตมศี กั ดิ์ นกั วิชาการสาธารณสุขชานาญการ ดอยสะเก็ด ลาพูน 24 นาย วรวัตต์ ชาญวิรัตน์ สานักงานสาธารณสขุ อาเภอลี้ 25 นาย วันเฉลมิ ฤทธิมนต์ นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชานาญการ สานักงานปอ้ งกันควบคมุ โรคที่ อดุ รธานี นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชานาญการ 8 จงั หวดั อดุ รธานี พยาบาลวิชาชีพชานาญการ ศนู ย์อนามัยกลมุ่ ชาติพันธ์ุ ลาปาง ชายขอบและแรงงานข้ามชาติ กรมอนามยั 26 นาง วิไลพร มาลีเจริญ โรงพยาบาลสันป่าตอง เชยี งใหม่ 27 นางสาว วไิ ลวรรณ ปาลี 28 นางสาว ศริ ิลักษณ์ สขุ ศริ ิ นกั จดั การงานท่ัวไปชานาญการ โรงพยาบาลหางดง เชียงใหม่ 29 นาย ศุภณัฐกรณ์ มลู ฟู นักวิชาการสาธารณสขุ ชานาญการ สานักงานสาธารณสขุ อาเภอ พษิ ณโุ ลก วดั โบสถ์ ลาปาง 30 นาง สมบุญ ทับประดษิ ฐ์ นักวิชาการสาธารณสขุ ชานาญการ สานกั งานสาธารณสขุ อาเภอ ตาก เมอื งปาน อดุ รธานี 31 นาย สมภพ สทุ ศั น์วริ ิยะ พยาบาลวชิ าชีพชานาญการ โรงพยาบาลสมเด็จพระเจา้ เชียงราย ตากสินมหาราช ชัยนาท 32 นาย สรญั อินตะวัน นักวเิ คราะหน์ โยบายและแผนชานาญการ ศูนย์อนามัยท่ี ๘ อุดรธานี ลาปาง พเิ ศษ 33 นาง สรญั ญา สาลผี ล นักวิชาการสาธารณสุขชานาญการ สานักงานสาธารณสุขจังหวัด เชียงราย 34 นาง สลลิ เอียงเทศ เจ้าพนกั งานธุรการชานาญงาน สานกั งานสาธารณสุขจงั หวัด 35 นาย สวสั ดิ์ ดวงใจ ชัยนาท เภสชั กรชานาญการพิเศษ โรงพยาบาลเกาะคา 36 นาย สนั ติ บุญดา นักวิชาการสาธารณสขุ ชานาญการ สานักงานสาธารณสขุ อาเภอ แพร่ เจา้ พนกั งานสาธารณสุข สอง แพร่ 37 นาย สาราญ เช้อื เมืองพาน นักวิชาการสาธารณสขุ ชานาญการ เชยี งราย นกั วชิ าการสาธารณสุขชานาญการ สานักงานสาธารณสขุ อาเภอ เลย 38 นาง สิริพร สาลีศรี นายแพทยช์ านาญการ สงู เม่น สมุทรสาคร 39 นางสาว สิริรตั น์ พทุ ธศิริวฒั น สานกั งานสาธารณสขุ จังหวัด 40 นาย สใี ส ยส่ี ุน่ แสง เชยี งราย สานักงานาธารณสขุ จงั หวดั เลย โรงพยาบาลสมุทรสาคร 41 นาง สทุ ธิมา ยลโสภณ นักวิชาการสาธารณสขุ ชานาญการพิเศษ สานกั งานป้องกนั ควบคมุ โรค พษิ ณโุ ลก พยาบาลวชิ าชพี ชานาญการ ที่ 2 จังหวัดพษิ ณุโลก ขอนเเกน่ 42 นาย สุบนิ กวาวหนึ่ง นักวิชาการสาธารณสขุ ชานาญการ แพร่ นักวชิ าการสาธารณสขุ สานักงานสาธารณสขุ จงั หวัด ตาก 43 นาย สุพจน์ ต๊ะมลู ขอนเเก่น สานักงานสาธารณสุขอาเภอ หนองม่วงไข่ โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพ ตาบลหนองหลวง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook