Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

Published by noppa7146, 2020-10-31 09:47:26

Description: พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

Search

Read the Text Version

กรุงรัตนโกสินทร์

พระราชประวตั ิ

พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

พระราชสมภพ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช มีพระนามเดมิ วา่ ทองด้วง เสดจ็ พระราชสมภพเมื่อวนั ท่ี 20 มีนาคม พ.ศ. 2279 (วนั ท่ี 20 เดือน 4 ตามปีจนั ทรคติ) ในแผน่ ดนิ สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั บรมโกศแหง่ อาณาจกั รอยธุ ยา พระองค์เป็นบตุ รคนท่ี 4 ของพระอกั ษรสนุ ทรศาสตร์ (ทองดี) ซงึ่ ตอ่ มาได้รับการสถาปนา ขนึ ้ เป็นสมเดจ็ พระปฐมบรมมหาชนก กบั พระอคั รชายา (หยก) เมื่อเจริญวยั ขนึ ้ ได้ถวายตวั เป็นมหาดเลก็ ใน สมเดจ็ เจ้าฟา้ กรมขนุ พรพนิ ิต (ตอ่ มาคือสมเดจ็ พระเจ้าอทุ มุ พร) ครัน้ พระชนมายคุ รบ 21 พรรษา กเ็ สดจ็ ออก ผนวชเป็นภกิ ษุอยวู่ ดั มหาทลาย 1 พรรษา แล้วลาผนวชเข้ารับราชการเป็นมหาดเลก็ หลวงในสมเดจ็ พระเจ้า อทุ มุ พรดงั เดมิ เม่ือพระชนมายไุ ด้ 25 พรรษา พระองค์เสดจ็ ออกไปรับราชการท่ีเมืองราชบรุ ีในตาแหน่ง \"หลวงยกกระบตั ร\" ในแผน่ ดินสมเดจ็ พระที่นงั่ สรุ ิยาศน์อมรินทร์ และได้สมรสกบั คณุ นาค (ภายหลงั ได้รับการสถาปนาท่ีสมเดจ็ พระอมรินทราบรมราชินี) ธิดาในตระกลู เศรษฐีมอญท่ีมีรกรากอยทู่ ่ีบ้าน อมั พวา เมืองสมทุ รสงคราม

สวรรคต หลงั จากการฉลองวดั พระแก้วแล้ว ก็ประชวรทรงพระโสภะอยู่ 3 ปี พระอาการทรุดลงไปเรื่อย ๆ จนกระทง่ั เสด็จสวรรคตเม่ือวนั ที่ 7 กนั ยายน พ.ศ. 2352 ณ พระที่นง่ั ไพศาลทกั ษิณ รวมพระ ชนมพรรษาได้ 73 พรรษา เสดจ็ อยใู่ นราชสมบตั ิ 27 ปี พระบรมศพถกู เชิญลงสพู่ ระลองเงินประกอบด้วยพระโกศทองใหญ่แล้วเชิญไปประดษิ ฐานไว้ ณ พระที่นงั่ ดสุ ติ มหาปราสาท ภายใต้พระมหาเศวตฉตั ร ตงั้ เครื่องสงู และเครื่องราชปู โภคเฉลมิ พระ เกียรติยศตามโบราณราชประเพณี พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม โคมกลองชนะตามเวลา ดงั เช่นงานพระ บรมศพพระเจ้าแผน่ ดนิ สมยั กรุงศรีอยธุ ยาทกุ ประการ จนกระทง่ั พ.ศ. 2354 พระเมรุมาศซงึ่ สร้างตาม แบบพระเมรุมาศสาหรับพระเจ้าแผ่นดินสมยั กรุงศรีอยธุ ยาได้สร้างแล้วเสร็จ จงึ เชญิ พระบรมโกศจาก พระที่นง่ั ดสุ ติ มหาปราสาทขนึ ้ ประดษิ ฐาน ณ พระเมรุมาศ แล้วจกั ให้มีการสมโภชพระบรมศพเป็น เวลา 7 วนั 7 คืน จงึ ถวายพระเพลงิ พระบรมศพ หลงั จากนนั้ มีการสมโภชพระบรมอฐั ิและบาเพ็ญพระ ราชกศุ ล เมื่อแล้วเสร็จจงึ เชญิ พระบรมอฐั ิประดษิ ฐาน ณ หอพระธาตมุ ณเฑียร ภายใน พระบรมมหาราชวงั สว่ นพระบรมราชสรีรางคารเชิญไปลอยบริเวณหน้าวดั ปทมุ คงคาราชวรวิหาร

ผลงานที่โดดเด่น เป็นเอกลกั ษณ์

พระราชกรณียกิจ พระราชกรณียกจิ ด้านการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็ นราชธานี

พระราชกรณียกิจประการแรกทพ่ี ระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชทรงจดั ทาเมือ่ เสดจ็ ขนึ ้ ครองราชย์ คอื การโปรดเกล้าฯ ให้ตงั้ กรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีใหม่ ทางตะวนั ออกของแมน่ า้ เจ้าพระยา แทนกรุงธนบรุ ี ด้วย เหตผุ ลทางด้านยทุ ธศาสตร์ เน่ืองจากกรุงธนบรุ ีตงั้ อย่บู นสองฝั่งแมน่ า้ ทาให้การลาเลียงอาวุธยทุ ธภณั ฑ์ และการรักษา พระนครเป็นไปได้ยาก อีกทงั้ พระราชวงั เดิมมีพนื ้ ที่จากดั ไมส่ ามารถขยายได้ เน่ืองจากติดวดั อรุณราชวราราม และวดั โมฬีโลกยาราม สว่ นทางฝ่ังกรุงรัตนโกสินทร์นนั้ มคี วามเหมาะสมกวา่ ตรงทีม่ พี นื ้ แผ่นดนิ เป็นลกั ษณะหวั แหลม มีแมน่ า้ เป็นคเู มืองธรรมชาติ มีชยั ภมู ิเหมาะสม และสามารถรับศกึ ได้เป็นอย่างดี การสร้างราชธานีใหม่นนั้ ใช้เวลาทงั้ สิน้ ๓ ปี โดยพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ทรงทาพธิ ียกเสา หลกั เมอื ง เม่ือวนั อาทติ ย์ เดือน ๖ ขนึ ้ ๑๐ ค่า ปีขาล จศ.๑๑๔๔ ตรงกบั วนั ที่ ๒๑ เมษายน พศ.๒๓๒๕ และโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระบรมมหาราชวงั สืบทอดราชประเพณี และสร้างพระอารามหลวงในเขตพระบรมมหาราชวงั ตามแบบกรุง ศรีอยธุ ยา ซงึ่ การสร้างเมืองและพระบรมมหาราชวงั เป็นการสืบทอดประเพณี วฒั นธรรม และศลิ ปะกรรมดงั้ เดิมของ ชาติ ซง่ึ ปฏิบตั ิกนั มาตงั้ แตส่ มยั กรุงศรีอยธุ ยา และได้พระราชทานนามแกร่ าชธานีใหมน่ ีว้ า่ กรุงเทพมหานคร บวร รัตนโกสินทร์ มหินทรา ยทุ ธยา มหาดลิ ก ภพนพรัตนราชธานีบรุ ีรมย์ อดุ มราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สกั กะทตั ตยิ ะวิษณกุ รรมประสิทธิ์ นอกจากนีย้ งั โปรดเกล้าฯให้ สร้างสิง่ ตา่ งๆ อนั สาคญั ตอ่ การสถาปนาราชธานีได้แก่ ปอ้ มปราการ, คลอง ถนนและสะพานตา่ งๆ มากมาย

พระราชกรณียกจิ ด้านการป้องกันประเทศ

สงครามครัง้ ท่ี ๑ พ.ศ. ๒๓๒๘ สงครามเก้าทพั สงคราม ครัง้ ย่ิงใหญ่ที่สดุ ระหว่างไทยกบั พมา่ โดยในครัง้ นนั้ พระเจ้าปดงุ แหง่ ราชวงศ์อลองพญาของพมา่ มีพระประสงค์จะเพ่ิมพนู พระเกียรตยิ ศ และชือ่ เสยี งให้ขจรขจายด้วยการการาบ ประเทศไทย จงึ รวบรวมไพร่พลถงึ ๑๔๔,๐๐๐ คน กรีธาทพั เข้าตปี ระเทศไทยโดยแบ่งเป็น ๙ ทพั ใหญ่ เข้าตี จากกรอบทิศทางสว่ นทพั ของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชมีกาลงั เพียงคร่ึงหนึง่ ของทหารพมา่ คือมีเพียง ๗๐,๐๐๐ คนเศษเทา่ นนั้ ด้วยพระปรีชาสามารถในการทาสงคราม ได้ทรงให้ทพั ของกรมพระราชวงั บวรมหาสรุ สิงหนาทไปสกดั ทพั พมา่ ทบี่ ริเวณทงุ่ ลาดหญ้า ทาให้พมา่ ต้องชะงกั ตดิ อยบู่ ริเวณช่องเขา แล้วทรงสง่ั ให้จดั ทพั แบบกองโจรออกปล้นสะดม จนทพั พมา่ ขดั สนเสบียงอาหาร เม่อื ทพั พมา่ บริเวณทงุ่ ลาดหญ้าแตก พ่ายไปแล้วกรมพระราชวงั บวรมหาสรุ สิงหนาทจงึ ยกทพั ไปช่วยทางอนื่ และได้รับชยั ชนะตลอดทกุ ทพั ตงั้ แตเ่ หนือจรดใต้ สงครามครัง้ ท่ี ๒ พ.ศ. ๒๓๒๙ สงครามทา่ ดนิ แดงและสามสบ ครัง้ นีท้ พั พมา่ เตรียมเสบียงอาหารและเส้นทางเดนิ ทพั อย่างดที ่ีสดุ โดยแก้ไขข้อผิด พลาดตา่ งๆ จากศกึ ครัง้ กอ่ น โดยพม่าได้ยกทพั เข้ามาทางดา่ น เจดยี ์สามองค์ มาตงั้ คา่ ยอยทู่ ท่ี า่ ดนิ แดงและสวนสามสบ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชได้ทรงยกทพั หลวงเข้าตีท่ีคา่ ยดินแดง พร้อมกบั ให้ทพั ของกรมพระราชวงั บวรมหาสรุ สิงหนาทเข้าตีคา่ ยพมา่ ท่ีสามสบ หลงั จากรบกนั ได้ ๓ วนั คา่ ยพมา่ ก็แตกพา่ ยไปทกุ คา่ ย และพระองค์ยงั ได้ทาสงครามขบั ไลอ่ ทิ ธิพลของพมา่ ได้โดยเดด็ ขาด และตีหวั เมืองตา่ งๆ ขยายราชอาณาเขต ทาให้ราชอาณาจกั รไทยมอี าณาเขตกว้างใหญ่ท่สี ดุ ใน ประวตั ศิ าสตร์ ตงั้ แตด่ ินแดนล้านนา ไทยใหญ่ สบิ สองปันนา หลวงพระบาง เวียงจนั ทร์ กมั พชู า และด้านทศิ ใต้ไปจนถงึ เมอื ง กลนั ตนั ตรังกานู ไทรบรุ ี ปะริด และเประ สงครามครัง้ ท่ี ๓ พ.ศ. ๒๓๓๐ สงครามตีเมืองลาปางและเมืองป่าซาง หลงั จากที่พมา่ พา่ ยแพ้แกไ่ ทยกส็ ง่ ผลทาให้เมืองขนึ ้ ทงั้ หลายของพม่า เช่น เมืองเชียงรุ้งและเชียงตงุ เกิดกระด้างกระเด่ือง ตงั้ ตนเป็นอสิ ระ พระเจ้าปดงุ จงึ สงั่ ให้ยกทพั มาปราบปราม รวมถงึ เข้าตลี าปางและป่าซาง เม่อื พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชทราบเร่ืองจงึ สง่ั ให้กรม พระราชวงั บวรมหาสรุ สงิ หนาทคมุ ไพร่พล ๖๐,๐๐๐ นาย มาชว่ ยเหลอื และขบั ไลพ่ มา่ ไปเป็นผลสาเร็จ

สงครามครัง้ ท่ี ๔ พ.ศ. ๒๓๓๐ สงครามตเี มอื งทวาย ครัง้ นนั้ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้เกณฑ์ไพร่พล ๒๐, ๐๐๐ นาย ยกทพั ไปตเี มอื งทวาย แตส่ งครามครัง้ นีไ้ มม่ ีการรบพ่งุ เพราะตา่ งฝ่ายตา่ งก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร รีพ้ ลก็บาดเจ็บจงึ โปรดเกล้าฯ ให้ถอยทพั กลบั กรุงเทพ สงครามครัง้ ท่ี ๕ พ.ศ. ๒๓๓๖ สงครามตเี มืองพมา่ ในครัง้ นนั้ เมอื งทวาย ตะนาวศรี และมะริด ได้เข้ามาขอสวามภิ กั ดต์ิ อ่ ไทย พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชจงึ โปรดเกล้าฯ ให้ ยกทพั ไปชว่ ยปอ้ งกนั เมือง แตเ่ ม่ือพระเจ้าปดงุ ยกทพั มาปราบปรามเมืองทงั้ สามกห็ นั กลบั เข้ากบั ทางพมา่ อกี พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ า โลกมหาราชจงึ โปรดเกล้าฯ ให้ถอยทพั กลบั กรุงเทพฯ สงครามครัง้ ท่ี ๖ พ.ศ. ๒๓๔๐ สงครามพมา่ ทเี่ มืองเชียงใหม่ เนื่องจากสงครามในครัง้ ก่อนๆ พระเจ้าปดงุ ไมส่ ามารถตีหวั เมอื งล้านนาได้ จงึ ทรงรับสง่ั ไพร่พล ๕๕,๐๐๐ นาย ยกทพั มาอีกครัง้ โดยแบ่งเป็น ๗ ทพั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชจงึ โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวงั บวรมหาสรุ สงิ หนาทคมุ ไพร่พล ๒๐,๐๐๐ นาย ขนึ ้ ไป รวมไพร่พลกบั ทางเหนือเป็น ๔๐,๐๐๐ นาย ระดมตีคา่ ยพมา่ เพียงวนั เดียวเท่านนั้ ทพั พมา่ กแ็ ตกพา่ ยยบั เยิน สงครามครัง้ ท่ี ๗ พ.ศ. ๒๓๕๕ สงครามพมา่ ท่ีเมอื งเชียงใหม่ ครัง้ ท่ี ๒ ในครัง้ นนั้ พระยากาวิละได้ยกทพั ไปตีเมอื งสาด หวั เมืองขนึ ้ ของพมา่ พระเจ้าปดงุ จงึ ยกทพั ลงมาตีเมอื งเชียงใหมเ่ พ่ือแก้แค้น เม่อื พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชทรงทราบ จงึ โปรดเกล้าฯ ให้สง่ กองทพั ไปชว่ ยเหลอื และสงครามครัง้ นีก้ จ็ บลงด้วยชยั ชนะของ ฝ่ ายไทย

พระราชกรณยี กจิ ด้านการชาระประมวลกฎหมาย พระราชกรณียกิจด้านการชาระประมวลกฎหมาย เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๓๔๗ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ตงั้ คณะกรรมการขนึ ้ มาพิจารณาชาระกฎหมายที่มอี ย่ใู ห้ถกู ต้องและสมบรู ณ์ เพ่ือนามาใช้เป็นหลกั การปกครองตอ่ ไป ซง่ึ กฎหมายที่ชาระขนึ ้ ใหมม่ ีช่ือวา่ กฎหมายตรา สามดวง มคี วามยาวเป็นสมดุ ยกแปด ๓ เลม่ รวม ๑,๖๗๗ หน้า ใช้เวลาในการชาระ ๑๑ เดือน ซง่ึ กฎหมายตราสามดวงนีไ้ ด้ใช้มาอย่างยาวนานจนถงึ รัชสมยั พระบาทสมเด็จพระ จลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั (รัชกาลท่ี ๕) รวมระยะเวลา ๑๓๑ ปี

พระราชกรณยี กจิ ด้านการปกครอง การปกครองสมยั นนั้ แบง่ เป็นหวั เมอื งชนั้ ในและชนั้ นอก ตาแหน่งที่รองลงมาจาก พระมหากษัตริย์ คือตาแหน่งกรมพระราชวงั บวรสถานมงคล ระบบการบริหารมีอคั รเสนาบดี ๒ ตาแหน่ง คอื สมหุ พระกลาโหม มหี น้าที่ถวาย คาปรึกษาแกพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั และสมหุ นายกมหี น้าท่ปี กครองดแู ลความสงบ เรียบร้ อยในพระนคร เสนาบดจี ตสุ ดมภ์ ดแู ลด้านตา่ งๆ มี ๔ ตาแหนง่ ประกอบด้วย ๑. เสนาบดีกรมเมือง หรือ กรมเวียง มีตราพระยมทรงสงิ ห์เป็นตราประจาตาแหนง่ มี หน้าท่บี งั คบั บญั ชารักษาความปลอดภยั ให้แก่ราษฎรทว่ั ไปในราชอาณาจกั ร ๒. เสนาบดกี รมวงั มีตราเทพยดาทรงพระนนทกิ ร(โค) เป็นตราประจาตาแหน่งมีหน้าท่ีบงั คบั บญั ชาภายในพระบรมมหาราชวงั และพิจารณาความคดแี พ่ง ๓. เสนาบดีกรมพระคลงั มตี ราบวั แก้วเป็นตราประจาตาแหน่งมีหน้าท่ใี นการรับ-จ่าย และเกบ็ รักษาพระราชทรัพย์ท่ีได้จากการเก็บสว่ ยอากร รวมถงึ บงั คบั บญั ชากรมท่าและการค้า ขายกบั ตา่ งประเทศ รวมถงึ กรมพระคลงั ตา่ งๆ เช่น กรมพระคลงั สินค้า ๔. เสนาบดกี รมนา มตี ราพระพิรุณทรงนาคเป็นตราประจาตาแหน่ง มหี น้าที่บงั คบั บญั ชาเกี่ยวกบั กิจการไร่นาทงั้ หมด

พระราชกรณยี กจิ ด้านการทานุบารุงพระศาสนา พระราชกรณียกิจที่สาคญั ในการทานบุ ารุงพระศาสนา ได้แก่ การสงั คายนาพระไตรปิฎก เป็นพระราชกรณียกิจที่สาคญั ทีส่ ดุ โดยตงั้ คณะสงฆ์ประกอบด้วยสมเดจ็ พระสงั ฆราชและพระราชาคณะ ขนึ ้ มาเพ่ือชาระพระไตรปิฎก เน่ืองจากพระไตรปิฎกทมี่ ี อย่มู คี วามผิดเพีย้ น และบนั ทกึ เป็นหลายอกั ษร ทงั้ อกั ษรลาว รามญั จงึ โปรดเกล้าฯ ให้ชาระให้ถกู ต้อง และบนั ทกึ เป็นอกั ษรขอมจารึกลงบนใบลาน แล้วเก็บไว้ท่หี อพระมณเฑียรธรรม แล้วสร้างพระไตรปิฎกถวายพระสงฆ์ตาม พระอารามหลวงตา่ งๆ เพ่ือได้ใช้ศกึ ษาตอ่ ไป การกวดขนั สมณปฏิบตั ิ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชทรงสถาปนาพระเถระชนั้ ผ้ใู หญ่ ให้ดารงสมณศกั ดิร์ ับผิดชอบ ศาสนาให้รุ่งเรืองตอ่ ไป และได้ทรงตราพระราชกาหนดกฎหมายกวดขนั ความประพฤตขิ องพระสงฆ์ไว้อย่างเคร่งครัด การสร้างวดั และการบรู ณปฏิสงั ขรณ์ ทรง มีรับสง่ั ให้มกี ารกอ่ สร้างและซอ่ มแซมปฏิสงั ขรณ์วดั วาอารามจานวนมากโดยเฉพาะ อยา่ งยิ่ง คอื การสร้างวดั พระศรีรัตนศาสดาราม (วดั พระแก้ว) พร้อมกบั การสถาปนาพระบรมมหาราชวงั ในปี พ.ศ.๒๓๒๕ ทรงสร้างวดั สทุ ศั นเทพวรา ราม และทรงปฏิสงั ขรณ์วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลารามราชวรมหาวหิ าร (วดั โพธ์ิ)

พระราชกรณยี กจิ ด้านการฟื้ นฟูศิลปวฒั นธรรม การฟื น้ ฟศู ลิ ปวฒั นธรรมในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช สว่ นใหญ่จะเป็นการฟื น้ ฟูในด้าน วรรณกรรมเป็นสาคญั โดยทรงพระราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เองบ้าง กวีและผ้รู ู้เขียนขนึ ้ มาบ้าง และด้วยความท่พี ระองค์ ทรงสนพระทยั ในงานด้านวรรณศลิ ป์ เป็นอยา่ งมาก จงึ ได้ทรงพระราชนิพนธ์งานวรรณกรรมที่ทรงคณุ คา่ ไว้จานวนหนงึ่ ท่ี รู้จกั กนั ดไี ด้แก่ พระราชนิพนธ์เร่ืองรามเกียรต์ิ อนั เป็นสดุ ยอดวรรณคดี เอกของไทย ดงั จะเหน็ ได้วา่ เรื่องราวของวรรณคดี เร่ืองนีป้ รากฏอย่ใู นงานศลิ ปะแขนงตา่ งๆ มากมาย เช่น จิตรกรรมฝาผนงั ตามโบสถ์วหิ ารตา่ งๆ หรือการแสดงโขน เป็นต้น ซง่ึ รามเกียรติ์ฉบบั รัชกาลที่ ๑ นีพ้ ระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชทรงพระราชนิพนธ์ลงในสมดุ ปกดาแบบ โบราณ ความยาวประมาณ ๑๐๒ เลม่ จบ นบั วา่ เป็นวรรณคดีไทยทม่ี คี วามรามเกียรติ์ยาวมากเรื่องหนึ่ง

แบบอยา่ งความดีสู่การปฏิบตั ิตน

ความเสียสละ คอื พระองค์โปรดเกล้าฯให้ฟืน้ ฟขู นบธรรมเนียมและราชประเพณีต่างๆ แตค่ รัง้ กรุงศรีอยุธยา เชน่ พระ ราชพิธีบรม ราชาภิเษก พระราชพิธีโสกนั ต์และพระราชพิธีถือนา้ พระพิพฒั น์สตั ยา การนาไปปรับใช้ 1.การรู้จกั แบง่ ปันส่ิงของ 2.การมีนา้ ใจตอ่ ผ้อู ่นื 3.รู้จกั การรักษาขนมธรรมเนียมของไทย

ความรู้ คือ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมพงศาวดารและเอกสารสาคญั ของบ้านเมอื งมาชาระเรียบเรียงใหม่ อีกทงั้ ทรงริเริ่ม สร้างสรรค์วรรณกรรม ดงั พระราชนิพนธ์หลายเรื่อง ได้แก่ บทละครเร่ืองรามเกียรติ์อณุ รุท อิเหนา ดาหลงั และกลอนเพลงยาว นิราศเร่ืองรบพมา่ ท่ีทา่ ดนิ แดง นอกจากนีพ้ ระองค์ทรงสง่ เสริมนกั ปราชญ์ราชบณั ฑิตให้สร้างสรรค์ผลงานตา่ งๆ การนาไปปรับใช้ 1.ถ้าสนใจเกี่ยวกบั ประพนั ธ์วรรณคดีให้ศกึ ษาอย่เู สมอ และ ก็ศกึ ษาดผู ลงานของทา่ นเป็นแนวทาง 2.ไมห่ ยดุ พฒั นาตนเอง หาความรู้ใหมๆ่ อยเู่ รื่อยๆ

ความมีกฎระเบียบ คอื พระราชกรณียกิจทสี่ าคญั คือ การปอ้ งกนั พระราชอาณาจกั รให้ดารงอย่มู นั่ คง การศกึ ครัง้ ใหญ่ ทรงจดั ระเบียบ การปกครองภายในพระราชอาณาจกั ร โดยยดึ แบบอยา่ งแตค่ รัง้ อยธุ ยา การนาไปปรับใช้ 1.การมกี ฎระเบียบในครอบครัว 2.การชว่ ยปอ้ งกนั สถานที่ตา่ งๆ 3.มกี ฎระเบียบกบั ตนเองและสงั คม

ความดี คอื พระองค์มีพระราชดาริเร่งฟืน้ ฟพู ระพทุ ธศาสนาเพ่ือเป็นที่ยดึ เหนี่ยวจิตใจของพทุ ธศาสนิกชนจงึ ทรงสถาปนาพระ เถระทมี่ นั่ คงอย่ใู นพระวนิ ยั เป็นพระราชาคณะผ้ใู หญ่จนตาแหนง่ พระสงั ฆราช ทรงกวดขนั สมณปฏิบตั อิ ีกทงั้ ทรงตรากฎข้อปฏบิ ตั ิ สาหรับภกิ ษุสงฆ์หลายฉบบั นอกจากนีโ้ ปรดเกล้าฯให้มีการสงั คายนาพระไตรปิฎก เม่ือ พ.ศ. ๒๓๓๑อกี ทงั้ โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง และปฏิสงั ขรณ์พระอารามตา่ งๆสว่ นวดั ประจาารัชกาล คือ วดั พระเชตพุ นวิมลมงั คลาราม การนาไปปรับใช้ 1.ช่วยทานบุ ารุงบริเวณวดั หรือสถานทปี่ ฏิบตั ธิ รรม 2.เคารพพระพทุ ธศาสนาอยา่ งใจจริง 3.ไม่ทาลายสิ่งของบริเวณวดั

ความคดิ สร้างสรรค์ คอื พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างปราสาทราชมณเฑียร และพระอารมตา่ งๆ เช่น พระบรมมหาราชวงั วดั พระศรีรัตนศาสดาราม วดั ราชบรุ ณ วดั พระเชตพุ นวมิ ลลงั คลารา วดั ระฆงั โฆสิตาราม วดั ดสุ ดิ าราม เป็นต้น รวมทงั้ ศลิ ปวตั ถตุ ่างๆ ซง่ึ เป็นสมบตั ิของชาตสิ บื มาจนปัจจบุ นั การนาไปปรับใช้ 1.การสร้ างสรรค์ผลงาน 2.การศกึ ษาหาความรู้นาไปใช้ในงาน 3.การรู้จกั อนรุ ักษ์ศิลปะของไทย

สมาชิกกลมุ่ 1) นาย นพรุจ ขาฉวี เลขที่2 2) น.ส.กนกพร คงสมรส เลขท่ี22 3) น.ส.ธิติพร เรืองณรงค์ เลขท่ี28 4) น.ส.ภสั ศวิ รรณ ชมุ รัมย์ เลขท่ี29 5) น.ส.บษุ บา สวนสนิ เลขท่ี32 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5/2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook