แผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยที่ 1 สาระการเรียนภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหัสวิชา อ23102 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 How Often Do You Work Out? เรือ่ ง Leisure เวลา 9 ช่ัวโมง ครูผู้สอน นางสมหมาย สอ่ ยสแี สง สอนวนั ท่ี 13 พฤษภาคม 2562- 27พฤษภาคม 2562 ________________________________________________________________________________ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 : เข้าใจและสามารถตีความเร่ืองท่ีฟงั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และสามารถแสดงความ คดิ เห็นอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ตัวชีว้ ดั ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวข้อเรอ่ื ง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เรอื่ งทีฟ่ ัง และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่างๆ พรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างอยา่ งประกอบ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถระบุใจความสำคัญจากการอา่ นและฟงั ข้อมลู เก่ยี วกบั ส่ิงทช่ี อบหรอื ไม่ชอบ และความถี่ในการทำส่ิง นัน้ ๆ 3. สาระสำคัญ หนว่ ยการเรียนรูน้ ้ีมีจุดมงุ่ หมายให้นักเรยี นฟังข้อความเก่ียวกบั การทำงานบ้านช่วยเหลือพ่อแม่ พูดตอบ คำถามเกย่ี วกบั กจิ กรรมยามว่างทชี่ อบและไม่ชอบทำ อ่านบทอ่านเกย่ี วกับประเภทของนักเรยี น และเขียนบรรยาย เก่ยี วกับกจิ วตั รประจำวนั ของตนเอง รวมท้งั หนา้ ที่ภาษา โครงสรา้ งประโยค และไวยากรณ์ทเ่ี ป็นพ้นื ฐานของกิจกรรม การฟงั พดู อา่ น และเขยี นในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ้ี
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) คำศัพท์ - extreme sports (n.): sports that are exciting and dangerous (กีฬาโลดโผนและเสยี่ งอนั ตราย) - hobby (n.): an activity for pleasure (งานอดิเรก) - motorcycle riding (n.): sitting on and controlling a motorcycle (การขับข่ีมอเตอร์ไซค์) - social media (n.): forms of electronic communication through which users create online communities to share information, idea, message, etc. (สงั คม ออนไลน์) - bake (v.): to cook something in an oven (อบ) - exercise (v.): to do physical activity that is done in order to become stronger (ออกกำลังกาย) - jog (v.): to run slowly and steadily for a long time (วงิ่ เหยาะ ๆ) - work out (v.): to do physical exercise as a way of keeping fit (ออกกำลงั กาย) - สำนวนภาษา - surf the Internet หมายถึง เล่นอินเทอรเ์ น็ต - be crazy about หมายถงึ คลงั่ ไคล้ ใชบ้ อกว่าชอบส่งิ ใดส่งิ หน่ึงมากเปน็ พเิ ศษ - spend (hours) + Gerund หมายถงึ ใชเ้ วลาไปกับ... ใชบ้ อกว่า เราใชเ้ วลาในการทำกิจกรรมใดกจิ กรรม หน่ึงไปเปน็ จำนวนเวลาเท่าไร - หน้าทภี่ าษา - To talk about how often one does everyday activities - To express likes and dislikes - โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Frequency Adverbs - Gerunds as Objects of Verbs
5.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) 1. ความสารถในการส่ือสาร สรุปใจความสำคัญ ระบุข้อมลู เฉพาะจากการฟัง 2. ความสามารถในการคดิ ระบุใจความสำคญั 3. ความสามรถแกป้ ญั หา พูดตอบคำถาม 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ใช้โทรศพั ท์คันหาข้อมูลเพ่ิมเติมจากสือ่ แหลง่ ต่าง ๆจาก Internet 5.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ขยนั หม่นั เพยี ร : เห็นคณุ ค่าของความพากเพยี รให้บรรลเุ ป้าหมายท่ตี ้องการ 6. จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น(เลอื กเฉพาะจดุ เนน้ ขอ้ ที่มใี นแผนการจัดการเรยี นรู้ สามารถเพ่ิมเตมิ จุดเน้น ตามนโยบายอนื่ ๆได้) 6.1 ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและรเู้ ทา่ ทนั สื่อ (Communications, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change)
6.2 ทักษะด้านชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี 21 ความยืดหยุ่นและการปรับตวั การริเริม่ สร้างสรรค์และเปน็ ตวั ของตัวเอง ทกั ษะสงั คมและสังคมข้ามวัฒนธรรม การเปน็ ผ้สู ร้างหรอื ผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability) ภาวะผ้นู ำและความรับผิดชอบ (Responsibility) 6.3 คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ 21 คุณลักษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การปรับตวั ความเปน็ ผนู้ ำ คุณลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรยี นร้ขู องตนเอง คณุ ลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อน่ื ความซ่ือสัตย์ ความสำนึกพลเมอื ง 7. การบูรณาการ(เลือกเฉพาะข้อท่สี ามารถบูรณาการในแผนการจดั การเรียนรู้ สามารถเพมิ่ เตมิ เรื่องอ่ืนๆได)้ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม อาเซียนศึกษา คุณธรรม ค่านยิ ม 12 ประการ อนุรักษ์พลังงานและสิง่ แวดล้อม อน่ื ๆ(ระบุ)..................................................................................... - การบูรณาการและเตรียมความพร้อมในการสอบ Pre O-NET, O-NET, PISA มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ัด ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน ต 1.1 ม.3/4 8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 8.1 ภาระงาน สอบกอ่ นเรยี นด้วยแบบทดสอบกอ่ นเรียนเป็นรายบคุ คล ศึกษาใบความรู้ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมใน แบบฝึกหดั ท่ี 1 และ 2 ปฏบิ ัติกิจกรรมตามแบบปฏิบตั ิกิจกรรมกลุ่ม และสอบหลังเรียน 8.2 ชนิ้ งาน การแสดงบทบาทสมมุติ เอกสารอา้ งอิง - รูปภาพกิจกรรม - แบบฝกึ หัด - แบบทดสอบ - Mind mapping
9. กิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 ข้นั ตอนการเรยี นรู้ ข้ันท่ี 1 เสนอส่ิงเร้าและรบุคำถามสำคัญ (Stimulating and Key questioning) - ครูแนะนำตัวเองและบอกข้อมูลเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน ความชอบหรือไม่ชอบ และทำกิจกรรมนั้นบ่อยแค่ ไหน ในการใช้เวลาวา่ ง เป็นตน้ เช่น - I always watch movies on TV. - I sometime clean the bathroom. - On Sunday, I usually go shopping. - ซกั ถามนักเรยี นบางคน เพอื่ เป็นตัวอย่างในการถาม-ตอบเกีย่ วกบั กจิ วัตรประจำวนั ลกั ษณะนสิ ัย การใชเ้ วลา วา่ งและความสนใจ เช่น - What do you usually do after school? - What do you like doing? ขั้นท่ี 2 แสวงหาสารสนเทศและวเิ คราะห์ (Searching and Analyzing) แบ่งนักเรยี นออกเปน็ กล่มุ กลุ่มละ 4-5 คน โดยคละนกั เรียนอ่อน ปานกลาง เก่ง ศกึ ษาข้อมลู คำท่ีใชบ้ อก ความถี่ จากใบความรูท้ ่ีครูแจกใหเ้ ร่อื ง Frequency Adverbs และค้นควา้ เพมิ่ เติม รวบรวมขอ้ มูลจาก Internet เสริมความรดู้ า้ นคำศพั ท์ - ครูให้นักเรียนบอกคำศัพทท์ ่ีนักเรยี นไม่คนุ้ เคยและหาความหมาย จากนัน้ ใหน้ กั เรียนเขียนคำศัพท์บนกระดาน และอธบิ ายความหมายให้เพอ่ื นฟัง ขน้ั ที 3 อภปิ รายและแสวงหาความรู้ (Discussing and Contracting) นกั เรยี นอภิปรายและวเิ คราะหข์ ้อมลู ออกแบบแผนผงั ความคิด (Mind mapping) วิธีใช้ ชนดิ หรอื ประเภทของคำ Frequency Adverbs เพื่อใช้เป็นข้อมลู ในการเขียนประโยคและพดู เกยี่ วกับความถขี่ องกิจกรรม หรือกิจวตั ร ประจำวนั ที่นักเรยี นทำได้ ขนั้ ท่ี 4 สื่อสารและสะท้อนคิด (Communicating and Reflecting) นักเรียนตวั แทนนำเสนอแผนผังความคิด (Mind mapping) ผลงานกลมุ่ ของตนเองแลว้ นำไปตดิ ท่ีผนงั ห้องเม่ือ นำเสนอครบทุกกลมุ่ แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ เปลีย่ นกันตรวจผลงานโดยใชก้ ิจกรรม gallery walk ข้ันที่ 5 ประยุกต์และตอบแทนสงั คม (Applying and Serving) ครแู ละนกั เรียนสรปุ รว่ มกนั และใหน้ ักเรียนบอกกจิ กรรมที่นกั เรยี นเคยทำเพื - ครูให้นกั เรยี นจับคู่ ใช้เวลา 2 นาทีดขู ้อมูลของบุคคล นกั เรยี นต้องจำกจิ กรรมทแ่ี ตล่ ะคนชอบทำให้ได้มากที่สุด ครูใหน้ ักเรียนปดิ หนงั สอื และแตล่ ะคู่ชว่ ยกนั เขียนประโยคใหไ้ ด้มากท่ีสุด - ครูใหน้ กั เรยี นตรวจสอบการเขียนประโยคของในชน้ั เรียนพรอ้ มกัน และหาคู่ที่เขียนได้ถูกต้องและมากทสี่ ดุ
10. สื่อการสอน กิจกรรม New Language เกมส์ บัตรคำศัพท์ ใบความรู้ แบบฝกึ หัด 11. แหลง่ เรียนรู้ - แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน เช่น ห้องสมดุ ห้องปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศการศึกษา ทางไกลผา่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (DLIT) เว็บไซตส์ ืบค้น www.google.co.th - สอบถามจากบุคลคล เช่น ครู เจา้ หน้าที่ทั้งในและนอกโรงเรียน โดยสามารถติดต่อสอบถาม แลกเปล่ียน เรียนรกู้ ับครูผา่ นระบบเครอื ข่ายสังคม (Social Network) และเพื่อนได้ท่ี โทรศัพทม์ ือถือครู, Line ID 12. การวัดและประเมนิ ผล ความกา้ วหน้า วิธีวัด เครื่องมือ คะแนน เกณฑ์ผา่ น ของผู้เรียน 10 คะแนน ข้นั ตำ่ 1. ด้านความรู้ (K) - ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น - แบบทดสอบหลงั เรยี น 10 คะแนน 2. ดา้ นทักษะ จำนวน 10 ขอ้ 10 คะแนน 5 คะแนน กระบวนการ (P) - ตรวจผลงานตามแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั ท่ี 1 - สงั เกตพฤติกรรม - แบบฝึกหัดที่ 2 10 คะแนน 5 คะแนน 3. ดา้ นสมรรถนะสำคัญ และประเมนิ ผลงานและการ - แบบปฏิบตั กิ ิจกรรมกล่มุ 20 คะแนน 5 คะแนน ของผเู้ รียน 5 ประการ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลุ่ม - แบบประเมนิ ทักษะการ 10 คะแนน - ประเมินช้ินงาน ปฏบิ ัติกจิ กรรมกลุ่ม 5 คะแนน - แบบประเมินช้ินงาน 10 คะแนน - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - แบบประเมนิ สมรรถนะ - ประเมนิ ผลงานและการปฏิบตั ิ สำคัญของผู้เรียน 5 ประการ 5 คะแนน กิจกรรมกลุ่ม
ความกา้ วหน้า วิธีวัด เครอ่ื งมอื คะแนน เกณฑผ์ า่ น ของผเู้ รียน ข้ันต่ำ 4. ด้านทกั ษะผเู้ รยี นใน - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - แบบประเมนิ ทักษะผ้เู รียน ศตวรรษที่ 21 (21st 5 คะแนน Century Skills) - ประเมินผลงานและการปฏิบัติ ในศตวรรษที่ 21 (21st 5. ด้านการนำหลกั 5 คะแนน ปรชั ญาของเศรษฐกจิ กจิ กรรมกลุ่ม Century Skills) 10 คะแนน พอเพียงมาใช้ 5 คะแนน 6. ด้านคุณลักษณะอนั - สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ - แบบประเมินการนำหลกั พึงประสงค์ (A) 40 คะแนน - ประเมนิ ผลงานและการปฏิบตั ิ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวม กิจกรรมกลุม่ มาใช้ 10 คะแนน - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ คุณลักษณะอัน การเรยี นรู้ และการร่วมกิจกรรม พึงประสงค์ - ประเมนิ คณุ ลักษณะ 10 คะแนน อนั พงึ ประสงคจ์ ากการเรยี นรู้ และการรว่ มกจิ กรรม 80 คะแนน
13.กจิ กรรมเสนอแนะ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 14. บันทกึ ผลหลังการสอน 14. 1. ผลการจดั การเรียนการสอน 1. นักเรยี นจำนวน .....................................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ .................................................. ไม่ผา่ นจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. .......................................................................................................................... .. 2. ............................................................................................................................ นักเรียนทม่ี ีความสามารถพิเศษ/นักเรียนพิการได้แก่ 1. ............................................................................................................................ 2. .......................................................................................................................... .. 2. นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ ................................................................................................................................................... ..................... ............................................................................................................. ........................................................... 3. นักเรียนมคี วามร้เู กิดทักษะ ............................................................................................................................. ........................................... ............................................................................................................................. ........................................... 4. นกั เรียนเจตคติ คา่ นยิ ม 12 ประการ คณุ ธรรมจริยธรรม ....................................................................................................................................... ................................. ............................................................................................................................. ........................................... 14.2 ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................... 14.3 เสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................................... ................................................................................................................................................................ ........ (ลงชื่อ)............................................... (นางสมหมาย สอ่ ยสีแสง) ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสมหมาย ส่อยสแี สง แลว้ มคี วามคิดเห็นดงั นี้ 1. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ ครบถว้ นและถูกต้อง ยังไม่ครบถว้ นหรือไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 2. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรยี นรกู้ บั หลกั สูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ยงั ไม่สอดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 3. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ยังเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป 4. สอื่ การเรยี นรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป 5. การประเมินผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมประสงคก์ ารเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป 6. ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงช่ือ ................................................................ (นายสเุ มธ หน่อแกว้ .) ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนน้ำปลีกศกึ ษา
ใบความรู้ Adverbs of frequency Adverbs of frequency คือ คำวิเศษณ์ท่บี อกความถี่ของการกระทำและตอบคำถาม How often? เชน่ A : How often do you go to the cinema? B : I go to the cinema twice a month. ตารางสรปุ ชนดิ ของ Adverbs of frequency ชนดิ ทเ่ี ปน็ คำ ชนิดที่เป็นกลุ่มคำ Always (เสมอ ๆ,สมำ่ เสมอ ) Every day (ทกุ ๆวัน) Sometimes (บางครง้ั ) Every week (ทุก ๆ สปั ดาห)์ Often (บ่อย ๆ ) Every month (ทุก ๆ เดอื น) Usually (โดยปกต)ิ Every year (ทกุ ๆ ปี) Regularly (โดยปกติ) Once a week (หนึง่ ครง้ั ต่อสัปดาห)์ Frequency (สมำ่ เสมอ) Several times (หลายคร้งั ) Generally (โดยทั่วไป) Many times (หลายครั้ง) Hardly (ไม่ค่อยจะ,แทบจะไม)่ Twice a day (สองคร้งั ตอ่ วนั ) Rarely (ไม่ค่อยจะ,แทบจะไม่) Twice a week (สองครง้ั ตอ่ สปั ดาห์) Seldom (ไม่ค่อยจะ,แทบจะไม)่ Twice a month (สองครั้งตอ่ เดือน) Never (ไมเ่ คย) In the morning (ในตอนเช้า) In the afternoon (ในตอนบา่ ย) In the evening (ในตอนเยน็ ) Once in a while (นานๆครั้ง) ตำแหน่งของ Adverbs of frequency A : วางไว้หน้าคำกรยิ า เชน่ He goes to the cinema. (sometimes) ……………………………………………………………………. They go sailing. (often) ……………………………………………………………………. I see him. (hardly) ……………………………………………………………………. We have dinner at six o’clock. (usually) …………………………………………………………………….
B : Adverbs ท่ีเป็นกลุ่มคำวางไว้ท้ายประโยค เช่น Winai goes to Chiengmai . (twice a month) ……………………………………………………………………. I go to work . (every day) ……………………………………………………………………. c. วางไว้หลงั verb to be ( is , am , are) เช่น Kanya is at home on Saturday. (always) ……………………………………………………………………. Wipa is absent from school. (seldom) ……………………………………………………………………. d. วางไว้ระหวา่ งกริยาช่วยและกรยิ าแท้ หรือ หลังกริยาช่วย + ประธานในประโยคคำถาม เช่น I have sold my car. (recently) ……………………………………………………………………. Chitra has eaten eels. (never) ……………………………………………………………………. e. ในประโยคปฏิเสธ ใหว้ างคำแสดงความถี่ หรือความบ่อยไว้หลังคำแสดงปฏิเสธ (not) *** ประธาน + (do/does) not + adverbs of frequency + คำกริยาแท้ *** เช่น The manager does not drive his car to work. (often) ……………………………………………………………………. f. ในประโยคคำถาม คำแสดงความถ่ี หรือความบ่อย จะอยหู่ ลังประธานของประโยค 1. (Do/Does) + ประธาน + adverbs of frequency + กรยิ าแท้ 2.(Is, Am, Are)+ ประธาน + adverbs of frequency + … เชน่ Do your sons travel by train? (sometimes) ……………………………………………………………………. Does your father walk to the office? (usually) ……………………………………………………………………. Is your brother late for work? (often) ……………………………………………………………………. ข้อสงั เกต **** sometimes, often และ usually ยงั สามารถวางไว้ต้นหรือทา้ ยประโยคก็ได้ เชน่ Sometimes they come and stay with us. I play tennis sometimes. Usually I do my homework in the evening.
แบบฝกึ หัด Work 1 เขยี นประโยคใหม่โดยนำคำในวงเล็บมาใสใ่ ห้ถกู ตำแหนง่ 1. What do you have for breakfast? (usually) ………………………………………………………………………………………………………….. 2. Well, I have coffee, cereal, and juice. (often) ………………………………………………………………………………………………………….. 3. Jenny drinks milk. (always) ………………………………………………………………………………………………………….. 4. Tom and Lucy are together. (often) ………………………………………………………………………………………………………….. 5. My brother is at home on Sundays. (never) ………………………………………………………………………………………………………….. Work 2 เรยี งประโยคใหมใ่ หถ้ ูกตอ้ ง 1. I have weekends breakfast never on ………………………………………………………………………………………………………….. 2. work I snacks eat at hardly ever ………………………………………………………………………………………………………….. 3. eat for pasta dinner sometimes I ………………………………………………………………………………………………………….. 4. have I dinner with often family my ………………………………………………………………………………………………………….. 5. Dig, my dog barks when usually the strangers come. ………………………………………………………………………………………………………….
แบบฝกึ หดั Adverb of frequency 1) Bees _________ fly. 7) Which sentence is in the correct order? 1) never 1) He never has eaten Indian food. 2) sometimes 2) He has never eaten Indian food. 3) rarely 3) He has eaten Indian food never. 4) always 4) He has eaten never Indian food 2) I go to church __________. 8) Which sentence is in the correct order? 1) every Sunday 1) We do our homework always carefully. 2) every evening 2) We do homework always our carefully. 3) every night 3) We always do our homework carefully. 4) every day 4) We do our homework carefully always. 3) Which sentence is in the correct order? 9) Pandas _____________ fly. 1) She usually go shopping with her mother. 1) never 2) She go shopping usually with her mother. 2) often 3) She go with her mother usually shopping. 3) always 4) She go shopping with her mother usually. 4) sometimes 4) Which sentence is in the correct order? 10) A lion _________ eats grass. 1) I go to school sometimes by car. 1) always 2) Sometimes I go to school by car. 2) often 3) I sometimes go to school by car. 3) never 4) 2 and 3 4) sometimes 5) The farmer ___________; work in the field 11) We go to school ___________. 1) never 1) every week 2) seldom 2) every weekday 3) generally 3) every Sunday 4) hardly 4) every day 6) She _________ speak Spanish. 12) I have dinner at home __________. 1) don’t often 1) every morning 2) doesn’t often 2) every evening 3) did often not 3) every week 4) not often 4) every month
Name …………………………………………………………….. No. ……………………… Class. ………….. Exercises A: Put the adverb of frequency on the right place 1. He listens to the radio. (often) ________________________________________________ 2. They read a book. (sometimes) ________________________________________________ 3. Pete gets angry. (never) ________________________________________________ 4. Tom is very friendly. (usually) ________________________________________________ 5. I take sugar in my coffee. (sometimes) ________________________________________________ 6. Ramon is hungry. (often) ________________________________________________ 7. My grandmother goes for a walk in the evening. (always) ________________________________________________ 8. Walter helps his father in the kitchen. (usually) ________________________________________________ 9. They watch TV in the afternoon. (never) ________________________________________________ 10. Christine smokes after dinner. (seldom) ________________________________________________
Answers Key 1. He often listens to the radio. 2. They sometimes read a book. 3. Pete never gets angry. 4. Tom is usually very friendly. 5. I sometimes take sugar in my coffee. 6. Ramon is often hungry. 7. My grandmother always goes for a walk in the evening. 8. Walter usually helps his father in the kitchen. 9. They never watch TV in the afternoon. 10. Christine seldom smokes after dinner.
Name …………………………………………………………….. No. ……………………… Class. ………….. B. Put the adverb of frequency on the right place 1. He plays golf on Sundays. (sometimes) ________________________________________________ 2. The weather is bad in November. (always) ________________________________________________ 3. It rains in California. (never) ________________________________________________ 4. We have fish for dinner. (seldom) ________________________________________________ 5. She will see him. (rarely) ________________________________________________ 6. Peter doesn´t get up before seven. (usually) ________________________________________________ 7. They do not play tennis on Sundays. (always) ________________________________________________ 8. Mary watches TV. (hardly / ever) ________________________________________________ 9. I go to school by bus. (always) ________________________________________________ 10. I get up at seven. (usually) ________________________________________________ 11. I watch TV in the evening. (often / frequently) ________________________________________________ 12. I have lunch in a restaurant. (sometimes) ________________________________________________ 13. I have breakfast. (seldom) ________________________________________________ 14. I arrive late. (never) ________________________________________________ 15. I have homework. (every day)
แบบประเมินทักษะการปฏิบัตกิ จิ กรรมกลุ่ม (10 คะแนน) สำหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผูร้ ับการประเมิน/กลุ่ม .............................................................................. ระดับช้ัน/หอ้ ง.................. ผู้ประเมนิ ตอนเอง เพอ่ื น ครู ประเมินครั้งท่ี ..............................วันที่ ......................เดอื น ......................................... พ.ศ............... เรื่องท่เี รียนรู้......................................................................................................................................... คำช้แี จง : ให้ผู้ประเมินสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน แล้วทำเคร่อื งหมาย ✓ ให้ตรงกบั ระดบั คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ พฤติกรรม ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย นอ้ ย พฤติ (5) (4) กลาง ท่สี ดุ กรรมทีส่ งั เกต (3) (2) (1) 1. การทบทวนตรวจสอบความรู้เดมิ 2. การแสวงหาความรใู้ หม่ 3. การศกึ ษาและสรา้ งความเข้าใจข้อมูลความรู้ใหม่ 4. การแลกเปลี่ยนความรู้กับความเข้าใจกบั กลุ่ม 5. การสรุปและจดั ระเบียบความรู้ 6. การปฏิบัติ การแสดงความรแู้ ละผลงาน 7. การประยุกต์ใชค้ วามรู้ 8. การนำเสนอหน้าชนั้ เรยี น 9. การแสดงความคดิ เหน็ -ถาม-ตอบ 10. การใช้ เก็บรกั ษาอปุ กรณ์ รวมคะแนน ขอ้ สังเกต หลักฐาน รอ่ งรอย อน่ื ๆ ............................................................................................................................. ....................................... ............................................................................................................................. .......................................
เกณฑก์ ารให้คะแนน - พฤตกิ รรมทดี่ ีเด่นเป็นทยี่ อมรับและเปน็ แบบอยา่ งที่ดี ให้ 5 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชัดเจน ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี มป่ ฏบิ ัติเลย ให้ 0 คะแนน หมายเหตุ นำคะแนนท่ีได้ 50 คะแนน มาหารดว้ ย 5 จะได้คะแนนเต็ม 10 คะแนน แลว้ แปลความหมายตามเกณฑด์ งั น้ี เกณฑ์การแปลความหมายของช่วงคะแนน ช่วงคะแนน ความหมาย 9 -10 ดมี าก 7 - 8 ดี 5 – 6 ปานกลาง 3 – 4 นอ้ ย 0 – 2 นอ้ ยทส่ี ดุ ผลการประเมนิ ทักษะการปฏิบัตกิ ิจกรรมกล่มุ อย่ใู นระดับ ดมี าก ดี ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยทสี่ ดุ สรปุ ผลการประเมินทักษะการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม (ผา่ น ต้องมีคะแนนตงั้ แต่ 5 คะแนนขึ้นไป) ผา่ น ไม่ผา่ น ลงช่ือ …………………………….………………….ผปู้ ระเมนิ (..................................................) ………../……………../…….….
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 5 ประการ (10 คะแนน) สำหรบั นักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่3 ผูร้ บั การประเมิน/กลมุ่ .............................................................................. ระดับชนั้ /ห้อง.................. ผูป้ ระเมิน ตอนเอง เพอื่ น ครู ประเมินคร้ังที่ ..............................วนั ที่ ......................เดือน ......................................... พ.ศ............... เรือ่ งที่เรยี นร้.ู ........................................................................................................................................ คำชแี้ จง : ใหผ้ ้ปู ระเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แล้วทำเครอื่ งหมาย ✓ ใหต้ รงกับระดบั คณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ สมรรถนะดา้ น รายการประเมิน ดี ดี ปาน นอ้ ย น้อย ปรับ หลักฐาน มาก กลาง ทสี่ ุด ปรงุ ที่เดน่ ชดั (5) (4) (3) (2) (1) (0) 1. ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร ในการส่ือสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา อยา่ งเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการสอ่ื สารทเ่ี หมาะสม 1.4 วิเคราะห์แสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตผุ ล 1.5 เขียนบนั ทึกเหตุการณ์ประจำวันแลว้ เลา่ ให้เพอื่ นฟังได้ 2. ความสามารถ 2.1 มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ ในการคิด สงั เคราะห์ 2.2 มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอย่าง สรา้ งสรรค์ 2.3 สามารถคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 2.4 มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมรี ะบบ 2.5 ตดั สินใจแกป้ ัญหาเกี่ยวกับตนเองได้
ระดบั คุณภาพ สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดี ดี ปาน น้อย นอ้ ย ปรับ หลักฐาน มาก กลาง ท่ีสดุ ปรงุ ทเี่ ดน่ ชดั (5) (4) (3) (2) (1) (0) 3. ความสามารถ 3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในการแก้ปญั หา ท่เี ผชิญได้ 3.2 ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3.3 เขา้ ใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปล่ียนแปลง ในสงั คม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรมู้ าใช้ใน การป้องกันและแก้ไขปัญหา 3.5 สามารถตัดสนิ ใจได้เหมาะสมตามวยั 4. ความสามารถ 4.1 เรยี นรู้ดว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย ในการใช้ทักษะ 4.2 สามารถทำงานกลมุ่ ร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ ชวี ติ 4.3 นำความร้ทู ่ีได้ไปใช้ประโยชนใ์ น ชวี ติ ประจำวัน 4.4 จัดการปญั หาและความขัดแย้งได้ เหมาะสม 4.5 หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ท่ี ส่งผลกระทบต่อตนเอง 5. ความสามารถ 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตาม ในการใช้ วยั เทคโนโลยี 5.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ ง สร้างสรรค์ 5.5 มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี ขอ้ สังเกต หลกั ฐาน รอ่ งรอย อ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ....................................... ...................................................................................................................................................................
เกณฑ์การให้คะแนน - พฤตกิ รรมที่ดีเด่นเปน็ ทย่ี อมรบั และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี ให้ 5 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน - พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจน ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัติบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตบิ างครั้ง ให้ 1 คะแนน - พฤตกิ รรมทไ่ี มป่ ฏบิ ัติเลย ให้ 0 คะแนน นำคะแนนทั้งหมดรวมกนั ได้คะแนนเตม็ 125 คะแนน แล้วหาร 12.5 จะได้คะแนนเตม็ 10 คะแนน เกณฑก์ ารแปลความหมายของช่วงคะแนน ความหมาย ช่วงคะแนน ดีมาก 9 -10 ดี 7-8 5–6 ปานกลาง 3–4 นอ้ ย 0–2 น้อยท่ีสดุ ผลการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 5 ประการ อยู่ในระดบั ดีมาก ดี ปานกลาง น้อย น้อยทีส่ ดุ สรปุ ผลการประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 5 ประการ ผา่ น ไมผ่ า่ น (ผ่าน ตอ้ งมคี ะแนนตั้งแต่ 5 คะแนนข้ึนไป) ลงชือ่ …………………………….………………….ผู้ประเมิน (..................................................) ………../……………../…….….
แบบประเมินทักษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) (10 คะแนน) สำหรบั นักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี3 ผู้รับการประเมิน/กล่มุ .............................................................................. ระดบั ชัน้ /ห้อง.................. ผปู้ ระเมิน ตอนเอง เพอื่ น ครู ประเมนิ คร้ังที่ ..............................วนั ท่ี ......................เดอื น ......................................... พ.ศ............... เรอื่ งที่เรียนรู้......................................................................................................................................... คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้ประเมินสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี น แลว้ ทำเคร่ืองหมาย ✓ ให้ตรงกับระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ ทกั ษะผูเ้ รียน รายการประเมนิ ดี ดี ปาน นอ้ ย นอ้ ย ปรบั หลกั ฐาน ดา้ น มาก กลาง ทส่ี ดุ ปรุง ทีเ่ ดน่ ชัด (5) (4) (3) (2) (1) (0) ทกั ษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) ทักษะในสาระ 1. Reading (อา่ นออก) วิชาหลัก (Core 2. (W)Riting (เขียนได้) Subjects–3Rs) 3. (A)Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทักษะการเรียนรู้ 1. Critical Thinking and Problem และนวัตกรรม Solving (ทักษะด้านการคดิ อย่างมี (Learning and วจิ ารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ัญหา) Innovation 2. Creativity and Innovation (ทกั ษะ Skills – 8Cs) ดา้ นการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม) 3. Cross-cultural Understanding (ทักษะ ดา้ นความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ ง กระบวนทัศน์) 4. Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผูน้ ำ) 5. Communications, Information, and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เทา่ ทันสือ่ ) 6. Computing and ICT Literacy (ทกั ษะ ด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโน โลยี สารสนเทศและการสื่อสาร)
ทักษะผเู้ รียน รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ หลักฐาน ดา้ น ดี ดี ปาน น้อย น้อย ปรบั ท่ีเดน่ ชดั มาก กลาง ทส่ี ดุ ปรงุ (5) (4) (3) (2) (1) (0) 7. Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นร)ู้ 8. Compassion (มคี ณุ ธรรม มเี มตตา กรณุ า มรี ะเบยี บวินัย) ทกั ษะการเรยี นรแู้ ละภาวะผู้นำ (2Ls) ทกั ษะการ 1. Learning (ทักษะการเรยี นรู้) เรียนร้แู ละ 2. Leadership (ภาวะผนู้ ำ) ภาวะผนู้ ำ(2Ls) ขอ้ สงั เกต หลักฐาน รอ่ งรอย อ่ืน ๆ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ............................................ .................................................................................................... .................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ... เกณฑ์การใหค้ ะแนน - พฤติกรรมที่ดีเดน่ เป็นทยี่ อมรบั และเปน็ แบบอย่างทดี่ ี ให้ 5 คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัติชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชดั เจน ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัติบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั บิ างครง้ั ให้ 1 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ไม่ปฏิบัติเลย ให้ 0 คะแนน นำคะแนนทงั้ หมดรวมกันได้คะแนนเต็ม 65 คะแนน แลว้ หาร 6.5 จะได้คะแนนเตม็ 10 คะแนน
เกณฑ์การแปลความหมายของช่วงคะแนน ช่วงคะแนน ความหมาย 9 -10 ดมี าก 7 - 8 ดี 5 – 6 ปานกลาง 3 – 4 นอ้ ย 0 – 2 น้อยทสี่ ุด ผลการประเมนิ ทักษะผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 อยใู่ นระดับ ดมี าก ดี ปานกลาง น้อย นอ้ ยทีส่ ุด สรปุ ผลการทกั ษะผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 ผา่ น ไม่ผา่ น (ผา่ น ตอ้ งมีคะแนนตั้งแต่ 5 คะแนนขน้ึ ไป) ลงชื่อ …………………………….………………….ผูป้ ระเมิน (..................................................) ………../……………../…….….
แบบประเมนิ การนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ (10 คะแนน) สำหรับนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่3 ผ้รู ับการประเมนิ /กลุ่ม .............................................................................. ระดบั ชนั้ /หอ้ ง.................. ผูป้ ระเมนิ ตอนเอง เพื่อน ครู ประเมินคร้ังท่ี ..............................วนั ที่ ......................เดอื น ......................................... พ.ศ............... เร่อื งทเี่ รียนรู.้ ........................................................................................................................................ คำช้ีแจง : ให้ผ้ปู ระเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แล้วทำเครอื่ งหมาย ✓ ใหต้ รงกบั ระดับคณุ ภาพ ระดบั พฤตกิ รรม ท่ี คณุ ลักษณะ / พฤตกิ รรมบ่งชี้ เกดิ เกิด ไม่เกิด คะแนน เสมอ บางคร้งั ท่ีได้ (2) (1) (0) 1. ความพอประมาณ 2. ความมเี หตมุ ีผล 3. มีภูมคิ มุ้ กนั ทดี่ ีในตัว 4. เง่ือนไขความรู้ (รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ) 5. เง่อื นไขคุณธรรม รวมคะแนน ขอ้ สงั เกต หลกั ฐาน ร่องรอย อ่นื ๆ ............................................................................................................................. ....................................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน คณุ ลกั ษณะเกดิ บอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน บางครัง้ ให้ 1 คะแนน ไมเ่ กดิ เลย ให้ 0 คะแนน สรุปผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผา่ น ไมผ่ า่ น (ผ่าน ตอ้ งมีคะแนนต้งั แต่ 5 คะแนนขน้ึ ไป) ลงชื่อ …………………………….………………….ผ้ปู ระเมนิ (..................................................) ………../……………../…….….
การหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ ครผู ู้สอนใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ในขัน้ เตรียมการสอน/จัดการเรยี นรู้ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมีภมู คิ ุม้ กนั ที่ดีในตวั อปุ กรณ์ จัดเตรยี มเครื่อง อุปกรณ์ใน จัดเตรยี มเคร่ืองมือ จดั เตรยี มเครื่องมืออปุ กรณ์ การเรยี นการสอน ให้ อุปกรณ์ให้เหมาะสมกบั ใหง้ านสำเรจ็ ตาม เหมาะสมกบั กิจกรรม และ กิจกรรม เพื่อให้กิจกรรม วัตถุประสงค์ จำนวนผเู้ รียน ดำเนนิ บรรลวุ ัตถุประสงค์ เวลา วเิ คราะห์กจิ กรรมให้ ให้กจิ กรรมสำเร็จภายใน ให้กจิ กรรมสำเร็จภายใน สอดคล้องกบั เวลา 2 ชว่ั โมง เวลาทเ่ี กิด เวลาท่เี กิด สอ่ื จดั เตรียมสื่อ ให้มี ให้เกิดกระบวนการเรยี นรู้ที่ เตรยี มส่ือให้สอดคลอ้ งกับ ความสัมพนั ธ์ ถกู ต้องตามรปู แบบ กจิ กรรมเพื่อให้เกดิ ช้นิ งาน กับกิจกรรมการเรียนสอน ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ เงื่อนไขความรู้ รอบรเู้ นือ้ หา กระบวนการถา่ ยทอด ความร้สู ผู่ ู้เรยี น เงื่อนไขคุณธรรม มคี วามขยนั หมน่ั เพียร รับผิดชอบ และเอาใจใสน่ ักเรยี น นักเรยี นได้ เรียนร้ทู ่จี ะอยอู่ ย่างพอเพยี ง อย่างไรบา้ ง จากกจิ กรรมการเรียนรนู้ ้ี ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมภี มู ิคมุ้ กันท่ดี ีในตวั • การใชว้ ัสดุ สิ่งของเหลือใช้ • เหน็ คณุ คา่ ของวัสดเุ หลอื ใชท้ ี่มีอยู่ • มีความรู้ในการคดั เลือกวัสดุ ภายในท้องถน่ิ ในท้องถน่ิ ในทอ้ งถ่นิ • จัดสรรเวลาใหพ้ อประมาณ • นักเรยี นเกดิ ทักษะกระบวนการ • วางแผนในการทำกจิ กรรม กับกจิ กรรม คดิ การแกป้ ญั หาข้ันตอนการ เปน็ ลำดบั ขั้นตอน • จัดกิจกรรมใหเ้ หมาะสมกบั ทำงานตามกระบวนการทำงาน • มกี ารจดั เตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ นกั เรยี น • มกี ารใช้ทรัพยากรอย่างค้มุ คา่ เพื่อใช้ในการทำกจิ กรรม • นกั เรยี นเกดิ ประสบการณต์ รง • มีการจดบนั ทึก ลำดบั • นกั เรยี นเกิดความภาคภูมิใจใน ขน้ั ตอนการทำงาน ตนเอง • มที ักษะกระบวนการทำงาน เงอ่ื นไขความรู้ นกั เรียนเรียนรวู้ ธิ กี ารเลือกใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และขนั้ ตอนใช้การทำงาน เง่อื นไขคุณธรรม นักเรียนมีคุณธรรม มรี ะเบยี บวนิ ัยในการทำงาน
มิติวัตถุ มิติสงั คม มติ สิ ง่ิ แวดล้อม มติ ิวัฒนธรรม • มีความรใู้ นการ • มที ักษะกระบวนการ • มคี วามรูใ้ นการเลือก • สรา้ งผลิตภณั ฑ์ เลอื กวัสดุ ทำงานอย่างเป็น วสั ดุเหลือใชจ้ าก จากวัสดเุ หลือใช้ • มคี วามรใู้ นการ • ระบบ มกี ารวาง ออกแบบ แผนการทำงาน ชุมชน เปน็ เอกรักษ์ของ อย่างเป็นขั้นตอน • มกี ารวางแผน ชว่ ยเหลอื เก้อื กลู • ช่วยลดขยะ ภายใน ทอ้ งถน่ิ ลำดบั ขนั้ ตอนการ แบง่ ปัน ต่อผู้อน่ื ทำงาน ชุมชน ลดปัญหา • เลือกใชว้ สั ดมุ าใช้ มลพิษต่อสิง่ แวดล้อม ทำกลอ่ งใสด่ นิ สอ • มที กั ษะในการ บำรุงรักษา อุปกรณ์ • เหน็ คณุ คา่ ของ วสั ดเุ หลอื ใชใ้ น ชมุ ชน
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (10 คะแนน) สำหรับนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี3 ผรู้ บั การประเมิน/กลุ่ม .............................................................................. ระดับชัน้ /ห้อง.................. คำช้ีแจง : ให้ผปู้ ระเมินสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น แล้วทำเครอ่ื งหมาย ✓ ใหต้ รงกับระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ 3 2 10 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรกั และภูมใิ จในความเป็นชาติ กษตั รยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามหลักของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ 2. ซื่อสตั ยส์ ุจรติ 2.1 ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัติตรงต่อความเป็นจรงิ ต่อผู้อื่น 3. มีวินยั 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝห่ าความรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ด้อยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพย์สินและสงิ่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั พอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คณุ คา่ 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมัน่ ในการ 6.1 มคี วามตั้งใจ และพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำงาน 6.2มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสำเร็จ 7.รักความเปน็ 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย ไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั การให้เพอื่ สว่ นรวม และเพ่ือผ้อู ืน่ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การให้ความช่วยเหลอื ผูอ้ ื่น 8.3 เข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญตนเพอื่ ส่วนรวมเม่ือมโี อกาส ลงช่อื ......................................................................ผู้ประเมนิ (.....................................................................) ............. /................./...............
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิบางครง้ั ให้ 0 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ีไมไ่ ดป้ ฏิบัติ ข้อสงั เกต หลกั ฐาน รอ่ งรอย อนื่ ๆ .................................................................................. .................................................................................. เกณฑ์การให้คะแนน คุณลักษณะเกิดบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน บางคร้งั ให้ 1 คะแนน ไม่เกดิ เลย ให้ 0 คะแนน สรุปผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผ่าน ไม่ผ่าน (ผา่ น ตอ้ งมีคะแนนตั้งแต่ 5 คะแนนขึน้ ไป) ลงชือ่ …………………………….………………….ผู้ประเมนิ (..................................................) ตำแหน่งครู วิทยฐานะ....................
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: