ความแตกต่างระหว่างบุคคล

ความแตกต่าง ระหว่างบุคคล จิตวิทยาสำหรับครู

สมาชิก กลุ่มที่ 2 1.นางสาวเมธาพร รุ่งแสง เลขที่ 4 รหัส 64109650031 2. นายอาทิตย์ หาญรุ่งเรืองกิจ เลขที่ 5 รหัส 64109650032 3. นายภุชงค์ เจริญศรีหัศนา เลขที่ 7​ รหัส 64109650037 4. นางสาวภาวดี แสนสีมน เลขที่ 8 รหัส 64109650038

ความหมายของความแตกต่างระหว่างบุคคล คือ บุคคลที่มีความแตกต่างกันในด้านต่าง ๆ ทั้งทางด้านร่างกาย สังคม เพศ อายุ สติปัญญาและความสนใจที่แตกต่างกัน

ประเภทความแตกต่าง 2 ระหว่างบุคคล ควาด้มาแนตอการต่มาณง์ทาง 1 3 ควาดม้าแนตร่กางตก่าางยทาง ทาคงดว้าามนแสตติกปัต่ญางญา

ประเภทความแตกต่าง 5 ระหว่างบุคคล คทวาางมดแ้าตนกอตา่ายุง 4 6 คทวาางมด้แาตนกเพต่าศง ทาคงดว้าามนแสตติกปัต่ญางญา

สาเหตุที่ทำให้มนุษย์ มีความแตกต่างกัน พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม หมายถึง สิ่งที่มนุษย์ได้รับการถ่ายทอดจากสายเลือด หมายถึง สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเราและทำให้คนเราแตกต่างกัน ได้แก่ การอบรมเลี้ยงดู การคบเพื่อน การสังคม ของบิดามารดา และปู่ย่าตายาย โดยมียีน (Gene) ประเพณี วัฒนธรรม เป็นตัวทำหน้าที่สืบทอดลักษณะต่างๆที่ได้รับถ่ายทอด จากบรรพบุรุษทางพันธุกรรม จะทำให้คนเราแตกต่างกัน

สิ่งแวดล้อม 1.สภาวะขณะอยู่ในครรภ์ มีผลต่อบุคลิกภาพมาก เช่น ถ้ามารดาบริโภคอาหารดี ถุงมดลูกดี อยู่สภาพสมบูรณ์ เด็กจะเจริญเติบโตได้ดี 3.สื่อมวลชน ได้แก่ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ 2.การเลี้ยงดูของบิดามารดา ฯลฯ มีอิทธิพลต่อเจตคติความสนใจ อาหารดี มีคุณภาพ อนามัยดี บำรุงรักษา ความคิด ศีลธรรม ค่านิยม ทำให้ ถ้าเด็กได้รับความรักความเข้าใจ เกิดบุคลิกภาพและพฤติกรรมแตกต่างกัน จะทำให้เด็กเจริญเติบโตทั้งทางกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา

ความแตกต่างระหว่างบุคคลในชั้นเรียน ความแตกต่างระหว่างบุคคล เกิดขึ้น ได้ 2 ลักษณะคือ 1.มีมาแต่กำเนิด เช่น สติปัญญา อวัยวะ ความเจริญเติบโต ความสามารถด้านภาษา ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู 2.เกิดขึ้นทีหลัง ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสิ่งต่างๆ เช่น ความสนใจ ประสบการณ์ การปรับตัว ทัศนคติ ความสำเร็จทางการเรียน ซึ่งเกิดจากคุณภาพของผู้สอน แรงสนับสนุนจากครอบครัว

1. ความแตกต่างด้านร่างกาย บุคคลเกิดมาพร้อมด้วยองค์ประกอบทางพันธุกรรมที่แตกต่างกัน และด้วยเหตุ นี้จึงทำให้มีลักษณะทางร่างกายแตกต่างกัน แนวทางแก้ไขปัญหาความแตกต่างระหว่างบุคคลด้านร่างกาย -เรียนรู้ได้ด้วยการสัมผัส จับต้อง การเคลื่อนไหวร่างกาย และการปฏิบัติจริง -สนับสนุนให้เล่นกีฬา การแสดง เต้นรำ การเคลื่อนไหวร่างกาย -จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรง หรือได้ปฏิบัติจริง -ให้เล่นเกม เดิน วิ่ง หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวร่างกาย -ให้เล่นหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง กีฬา

2. ด้านเชาว์ปัญญา ความแตกต่างทางเชาว์ปัญญา คือ ความแตกต่างของบุคคลในความสามารถที่ เกี่ยว กับการคิดและความสามารถในที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในเชิงนามธรรม และรูปธรรมที่ แตกต่างกัน แนวทางแก้ไขปัญหาความแตกต่างระหว่างบุคคลด้านเชาว์ปัญญา -ส่งเสริมให้ทำงานสร้างสรรค์งานศิลปที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ -ให้เล่นเกมที่ฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เช่น เกมไพ่ เกมตัวเลข ปริศนาตัวเลข ฯลฯ -ให้ช่วยทำงานบ้าน งานประดิษฐ์ ตกแต่ง -ฝึกการใช้เหตุผล การแก้ปัญหา การศึกษาด้วย โครงงานในเรื่องที่นักเรียนสนใจ

3. ด้านอารมณ์ ความแตกต่างทางอารมณ์ คือ ความแตกต่างของบุคคลในความสามารถที่จะควบคุม พฤติกรรมต่าง ๆ ขณะเกิดอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง แนวทางแก้ไขปัญหาความแตกต่างระหว่างบุคคลด้านอารมณ์ -ครูจึงมีหน้าที่ที่ต้องแนะนำ ให้ผูเ้เรียนแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม สมเหตุสมผล -ฝึกให้นั่งสมาธิหรือกิจกรรมที่ทำให้ผู้เรียนสงบนิ่ง -สวดมนต์หรือร่วมกิจกรรมทางศาสนา

4. ด้านสังคม ความแตกต่างทางด้านสังคม คือ ความแตกต่างของบุคคลในความสามารถที่จะปรับ ตนให้เข้ากับบุคคลและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของสังคมที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ และของสังคมอื่น ๆ แนวทางแก้ไขปัญหาความแตกต่างระหว่างบุคคลด้านสังคม -จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เข้ากลุ่ม ทำงานร่วมกัน -ส่งเสริมให้อภิปราย เรียนรู้ร่วมกัน แก้ปัญหาร่วมกัน

5. ด้านเพศ ความแตกต่างทางเพศมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างเพศหญิงและเพศชายมี ความแตกต่างด้านฮอร์โมน ผู้ชายมีฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ผู้หญิงมี ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) แนวทางแก้ไขปัญหาความแตกต่างระหว่างบุคคลด้านเพศ -ให้ผู้เรียนเข้าใจในความแตกต่างระหว่างเพศ ทั้งชายและหญิง และร่วมมือกันช่วย เหลือด้วย เสริมความเชื่อมั่นในตนเองของเด็ก -ส่งเสริมให้เล่นกิจกรรมเหมาะกับเพศตนเอง ครูอาจเลือกกิจกรรมที่มีลักษณะกลางๆ ไม่รุนแรง เช่นศิลปะ ดนตรี

ทฤษฎีความแตกต่างระหว่างบุคคล ทฤษฎีนี้ได้รับการพัฒนามาจากแนวความคิด อธิบายว่า บุคคล มีความแตกต่างกันหลายประการ เรื่องสิ่งเร้าและการตอบสนอง เช่น บุคลิกภาพ ทัศนคติ สติปัญญา และความสนใจ หรือทฤษฎี เอส-อาร์ (S-R theory) และความแตกต่างนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาพทางสังคม และวัฒนธรรม ทำให้มีพฤติกรรมการสื่อสารและ การเลือกเปิดรับสารที่แตกต่างกัน

หลักการพื้นฐานเกี่ยวกับทฤษฎีที่สำคัญ 1. บุคคลมีความแตกต่างกันในด้านบุคลิกภาพและสภาพจิตวิทยา 2. ความแตกต่างกันดังกล่าวนี้เป็นเพราะบุคคลมีการเรียนรู้ 3. บุคคลที่อยู่ต่างสภาพแวดล้อมกันจะได้รับการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน 4. การเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันทำให้บุคคลมีทัศนคติ ค่านิยม ความเชื่อถือ และบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน

ทฤษฎีความแตกต่างระหว่างบุคคล ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจท์ ได้อธิบายว่าการพัฒนาสติปัญญา และความคิดของผู้เรียนนั้น เกิดจากการปรับตัว กับสิ่งแวดล้อม และผู้สอนควรจะต้องจัดสภาพแวดล้อม ทางการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับความพร้อม ของผู้เรียนด้วย

ทฤษฎีความแตกต่างระหว่างบุคคล ทฤษฎีพัฒนาการของบรูนเนอร์ ได้มีแนวคิดว่าความพร้อมของเด็กสามารถจะปรับได้ ซึ่งสามารถจะเสนอเนื้อหาใดๆ และวิธีการสอนที่ เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กเหล่านั้น ดังนั้นผู้สอนจึงจำเป็นจะต้องเข้าใจเด็ก และรู้จัก กระตุ้นโดยการจัดสภาพการเรียนการสอนให้เหมาะสม

การศึการเรียนการสอนรายบุคคล (Individualized Instruction) แนวคิดทางการศึกษาแผนใหม่จึงเน้นในเรื่องการจัดการศึกษา โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Differences) เรียกการเรียนการสอนลักษณะนี้ว่า \"การจัดการเรียนการสอนรายบุคคล\"

การศึการเรียนการสอนรายบุคคล (Individualized Instruction) โดยเป็นการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนหรือ เรียนตามความสามารถ ความสนใจของตนเอง โดยคำนึงถึงหลักของ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ซึ่งได้แก่ความแตกต่างในด้านความสามารถ สติปัญญา ความต้องการ ความสนใจ ด้านร่างกาย อารมณ์และสังคม

โดยการเรียนด้วยตนเองเป็นการประยุกต์ ระหว่างเทคนิคและสื่อการสอนให้สอดคล้อง กับความแตกต่างระหว่างบุคคล เช่น การสอนแบบโมดูล การสอนแบบ PSI ซึ่งวิธีการเรียนเหล่านี้จะช่วยเสริม ประสิทธิภาพของการดำเนินการ จัดการเรียนการสอนได้อย่างเต็มที่

ความสำคัญของความต่างระหว่างบุคคล ด้านการใช้ชีวิตประจำวัน ด้านการเรียนการสอน ความแตกต่างระหว่างบุคคลทำให้เราเข้าใจ ความแตกต่างระหว่างบุคคลทำให้ครูผู้สอน เพื่อนมนุษย์มากยิ่งขึ้นและเข้าใจธรรมชาติ เข้าใจในตัวผู้เรียนมากขึ้นว่า ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน \" ผู้เรียนทุกคนมีความต่างกัน \" ควรจัดการเรียนการสอนให้หลากหลาย และคำนึงถึงผู้เรียนเป็นหลัก

Thyoaunk See you next time!