Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เจนจิรา สังฆะทิพย์ 016

เจนจิรา สังฆะทิพย์ 016

Published by jirajitsupa, 2018-09-28 04:12:18

Description: เจนจิรา สังฆะทิพย์ 016

Search

Read the Text Version

บทท่ี4

ส่ิงจำเป็ นในกำรเข้ำถงึ สื่อดจิ ทิ ลั1. อุปกรณ์ท่ีใชเ้ ขา้ ถึงสื่อดิจิทลั การเขา้ ถึงส่ือดิจิทลั จา้ เป็นตอ้ งใชอ้ ุปกรณ์คอมพิวเตอร์ท่ีมีอยู่มากมายหลายแบบ หลายรูปร่าง จึงควรทา้ ความรู้จกั กบั อุปกรณ์เหล่านี 1.1 คอมพิวเตอร์ต้งั โต๊ะ(Desktop) เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีถูกออกแบบใหว้ างไวใ้ ชง้ าน บนโต๊ะ มกั ประกอบไปดว้ ย หนา้ จอ(Monitor) กล่องซีพยี ู (Case CPU) คียบ์ อร์ด (Keyboard) ท่ีแยกออกจากกนั อยา่ งชดั เจน สามารถใชอ้ ุปกรณ์อื่นเช่ือมต่อผา่ นช่องเช่ือมต่อต่างๆ (Ports) ได้ เช่น เมาส์ (Mouse) ชุดลา้ โพงและไมโครโฟน (Speaker and Microphone Set) เคร่ืองพมิ พ์ (Printer) เป็นตน้ ทา้ งานโดยใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ากระแสตรงเป็นหลกั ภาพที่ 4.1 คอมพวิ เตอร์ Desktopข้อดขี องคอมพวิ เตอร์ Desktop ข้อเสียของคอมพวิ เตอร์ Desktop- ราคาไม่สูงมาก - ลา้ บากในการโยกยา้ ยเครื่อง- สามารถเปล่ียนอุปกรณ์ต่างๆ คอมพิวเตอร์ไปใช้(Upgrade) ได้ งานสถานที่ต่างๆ- การซ่อมบารุงเฉพาะบางอุปกรณ์ได้ - ตอ้ งใชพ้ ้ืนท่ีจดั วางคอมพิวเตอร์มาก พอสมควร

ข้อมูลและสำรสนเทศในรูปของสื่อดิจิทลัขอ้ มูล (Data) คือ ขอ้ เทจ็ จริงต่างๆ ที่อาจอยใู่ นรูปของตวั อกั ษร ตวั เลข สัญลกั ษณ์ รูปภาพ เสียงซ่ึงจะเปล่ียนสถานะไปเป็นสารสนเทศ (Information) เมื่อนา้ ขอ้ มูลที่มีอยไู่ ปผา่ นกระบวนการประมวลผล หรือการวเิ คราะห์ หรือสังเคราะห์ หรือวธิ ีการใดๆ ที่สามารถนา้ ผลลพั ธ์ที่เกิดข้ึนใหม่ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการทา้ สิ่งใดส่ิงหน่ึงการดาเนินชีวติ ทุกวนั น้ี เกี่ยวขอ้ งกบั ขอ้ มูล และสารสนเทศอยา่ งเล่ียงไม่ได้ และใชค้ อมพวิ เตอร์ในการทา้ งาน ดงั น้นั ขอ้ มูลและสารสนเทศที่เกิดข้ึนจึงอยใู่ นรูปแบบดิจิทลั จึงเป็นเหตุและผลที่สนบั สนุนวา่ ปัจจุบนั กาลงั ดาเนินชีวติ อยใู่ นสังคมดิจิทลั (Digital society)ดงั น้นั ขอ้ มูลและสารสนเทศในรูปของสื่อดิจิทลั จึงเป็นขอ้ มูลที่อาศยั ระบบคอมพิวเตอร์เป็นช่องทางในการส่ือสารนนั่ เอง สื่อดิจิทลั ที่มีใหเ้ ห็นไดใ้ นชีวติ ประจา้ วนั ไดแ้ ก่1. ส่ือดิจิทลั ในรูปแบบตวั อกั ษร (Text) หรือไฟลเ์ อกสารที่เกิดจากการสร้างงานดว้ ยคอมพิวเตอร์ดว้ ยโปรแกรมที่ม่ีผใู้ ชม้ ากท่ีสุด นนั่ คือ โปรแกรมในกลุ่ม Microsoft ท่ีประกอบดว้ ย Word,Excel และ PowerPoint ผลงานท่ีเกิดจากการสร้างสรรคด์ ว้ ยโปรแกรมกลุ่มนี มกั มีนามสกลุ ของไฟล์ คือ .TXT, .DOC, .DOCX, .XLS, .XLSX, .PPT, .PPTX

2. สื่อดิจิทลั ในรูปแบบภาพ (Image) ท่ีมีการนา้ เขา้ สู่คอมพวิ เตอร์มีไดห้ ลายวธิ ี ซ่ึงแต่ละวธิ ีจะทา้ใหเ้ กิดภาพท่ีมีลกั ษณะแตกต่างกนั คือ2.1 ภาพน่ิง (Picture) ภาพวาด (Drawing) เกิดจากการถ่ายดว้ ยกลอ้ งดิจิทลั (Digital camera) หรือการใชเ้ ครื่องสแกน (Scanner) แลว้ ถ่ายโอนเขา้ สู่คอมพิวเตอร์2.2 ภาพกราฟิ ก (Graphic) ภาพคลิปอาร์ต (Clipart) เกิดจากการสร้างลายเส้นเรขาคณิตโดยอาศยัโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ทา้ ใหเ้ กิดเป็นภาพต่างๆ ซ่ึงแบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 1) ภาพบิตแมพ (Bitmap) เป็นภาพท่ีเกบ็ ขอ้ มูลเป็นจุดเลก็ ๆ หลายๆ จุดประกอบกนั ข้ึนเป็นภาพ หรือเรียกวา่ พกิ เซล (Pixel) มีนามสกลุ ของไฟลท์ ี่รู้จกั กนั ดี คือ .BMP, .PCX, .GIF, .JPG, .TIF, .PNG,.PSD, .PDF และ 2) ภาพเวกเตอร์ (Vector) เป็นภาพท่ีสร้างจากการคา้ นวณทางคณิตศาสตร์กาหนดลงไปในคุณลกั ษณะของเสน้ และสี ประกอบขึ นเป็นภาพ เม่ือมีการแกไ้ ขภาพคุณลกั ษณะของเสน้ และสีจะเกิดการคา้ นวณใหม่ใหเ้ หมาะสม ซ่ึงจะช่วยใหภ้ าพไม่สูญเสียความละเอียด มีนามสกลุ ของไฟลท์ ่ีรู้จกั กนั คือ .WMF, EPS (Jaonoi, 2560) 623. ส่ือดิจิทลั ในรูปแบบเสียง (Sound) เป็นขอ้ มูลท่ีเกิดจากการบนั ทึกเสียงดว้ ยคอมพิวเตอร์ลกั ษณะต่างๆ ซ่ึงจะทา้ ใหเ้ กิดส่ือดิจิทลั ที่มีคุณภาพของเสียงท่ีต่างกนั นามสกลุ ของไฟลเ์ สียงที่พบเห็นไดบ้ ่อย ไดแ้ ก่ .M4A, .GSM, .WAV, .MPA, .MP2, .MP3, .MPEG, .MIDI, .WMA เป็นตน้4. ส่ือดิจิทลั ในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว (Animation) และภาพยนตร์ (Movie) เกิดจากการสร้างส่ือดิจิทลั ดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สาหรับตดั ต่อวดิ ีโอ หรือการใชก้ ลอ้ งวิดีโอ (Video camera)สร้างสรรคง์ านท่ีเกิดจากการถ่ายภาพต่อเนื่องดว้ ยความรวดเร็ว เม่ือผา่ นการประมวลผลจึงทา้ ให้ตาเราเห็นเป็นภาพเคล่ือนไหวต่อเนื่องกนั นามสกลุ ของไฟลภ์ าพยนตร์ที่พบเห็นไดบ้ ่อย ไดแ้ ก่.MOV, .AVI, .DIVX, .DAT, .FLA, .FLY, .MP4, .RMV, .SWF, .3GP

โปรแกรมหรือแอพพลเิ คชันทใี่ ช้เข้ำถงึ ส่ือดิจิทลัโปรแกรม (Program) เป็นชุดคา้ สง่ั ที่เขียนข้ึน เพ่อื ใหค้ อมพวิ เตอร์ทา้ งานต่างๆ ไดต้ ามความตอ้ งการ ต่างจาก แอพพลิเคชน่ั (Application) หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกส้ันๆ วา่ แอพ (App.) ท่ีเป็นชุดคา้ ส่งั ท่ีเขียนข้ึนเพ่อื ใชง้ านกบั สมาร์ทโฟน แทบ็ เลต็ หรืออุปกรณ์เคล่ือนท่ีต่างๆในฐานะผใู้ ชง้ าน โปรแกรมที่ใชใ้ นการเขา้ ถึงสื่อดิจิทลั จะมี 2 กลุ่ม คือ 1. โปรแกรมที่ใชใ้ นการเขา้ ถึงแหล่งของสื่อดิจิทลั เป็นโปรแกรมท่ีนา้ ผใู้ ชไ้ ปยงั สื่อดิจิทลั ที่ ตอ้ งการ อาจจะเขา้ ถึงเน้ือหาภายในสื่อดิจิทลั ไดเ้ ลย หรืออาจเป็นการดาวนโ์ หลดไฟลส์ ื่อ ดิจิทลั น้นั ๆ มาก่อน แลว้ จึงนา้ ไปเปิ ดใชง้ านในโปรแกรมเฉพาะอีกครั งหน่ึง โปรแกรม ในลกั ษณะน้ี ไดแ้ ก่ โปรแกรมเบราวเ์ ซอร์ต่างๆ (Browser) ซ่ึงมกั ใชร้ ่วมกบั เวบ็ ไซตท์ ่ีมี เครื่องกลคน้ หา (Search engine) ปัจจุบนั ไดม้ ีการพฒั นาโปรแกรมเสริม (Extension ใน Google Chrome หรือ Add-ons ใน Firefoxและ Internet explorer) เพอ่ื สนบั สนุนการทา้ งานของเบราวเ์ ซอร์ใหส้ ามารถใชง้ านสื่อดิจิทลั น้นั ๆ ไดเ้ ลยทนั ที2. โปรแกรมที่ใชใ้ นการเขา้ ถึงเน้ือหาของส่ือดิจิทลั เป็นโปรแกรมท่ีใชส้ าหรับเปิ ดใชส้ ื่อดิจิทลั ที่ดาวนโ์ หลดมา หรือไดร้ ับมาจากช่องทางต่างๆ โดยตอ้ งเลือกใชแ้ ละติดตั งโปรแกรมน้นั ๆ ในคอมพวิ เตอร์ก่อน จึงจะสามารถใชง้ านได้ ท้งั นี ตอ้ งพจิ ารณาวา่ โปรแกรมใดท่ีรองรับนามสกลุของไฟลส์ ่ือดิจิทลั น้นั ๆ ตวั อยา่ งเช่น ไฟล์ .DOC หรือ .DOCX ตอ้ งเปิ ดดว้ ยโปรแกรมจดั การเอกสาร/ไฟล์ .XLS หรือ .XLSX ตอ้ งเปิ ดดว้ ยโปรแกรมสเปรดชีต/ไฟล์ .PPT หรือ .PPTX ตอ้ งเปิ ดดว้ ยโปรแกรมการนา้ เสนอ/ไฟล์ .PDF ตอ้ งเปิ ดดว้ ยโปรแกรมอ่านไฟลพ์ ดี ีเอฟ เป็นตน้อยา่ งไรกต็ ามการเลือกใชโ้ ปรแกรมใดมาติดต้งั ในคอมพิวเตอร์น้นั จา้ เป็นตอ้ งพจิ ารณาถึงความจา้ เป็น ปริมาณการใชง้ าน และความสามารถของคอมพิวเตอร์ดว้ ย เนื่องจากไม่ใช่ทุกโปรแกรมจะสามารถติดต้งั ในคอมพวิ เตอร์ทุกเคร่ืองได้ อีกท้งั อุปกรณ์อยา่ ง Tablet หรือ Smartphone มีหน่วยความจา้ ค่อนขา้ งจา้ กดั จึงไม่สามารถติดต้งั แอพพลิเคชน่ั ท่ีตอ้ งใชป้ ริมาณพ้ืนที่มากๆ โปรแกรมที่ใชใ้ นการเขา้ ถึงสื่อดิจิทลั มีหลายโปรแกรม ซ่ึงแต่ละโปรแกรมมีวธิ ีการใช้งานที่แตกต่างกนั จึงจา้ เป็นตอ้ งมีคู่มือการใชง้ านเพื่อใหส้ ามารถเขา้ ถึงสื่อดิจิทลั ไดโ้ ดยง่าย หากเรียนรู้และทา้ ความเขา้ ใจการใชง้ านของเวบ็ ไซตน์ ้นั ๆ ใหด้ ี จะยงิ่ ทา้ ใหก้ ารเขา้ ถึงสื่อดิจิทลั มีประสิทธิภาพมากยงิ่ ข้ึน เน่ืองจากปริมาณส่ือดิจิทลั ท่ีมีอยใู่ นระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีจา้ นวนมหาศาล ซ่ึงมีท้งั ท่ีตรงและไม่ตรงกบั ความตอ้ งการ แสดงตวั อยา่ งวธิ ีคน้ หาใน Google

สรุปอินเทอร์เน็ต นอกจากประโยชนท์ ่ีใชเ้ พ่ือสื่อสารถึงกนั เพือ่ ความบนั เทิง เพ่ือสร้างโอกาส ยงั มีประโยชนส์ าหรับการคน้ หาขอ้ มูลท่ีอยากรู้ไดอ้ ยา่ งง่ายดาย ต้งั แต่พยากรณ์อากาศ เรื่องราวของสถานท่ีท่องเที่ยวท่ีน่าสนใจ พร้อมภาพประกอบที่สมบูรณ์ ท้งั ภาพน่ิงและภาพเคลื่อนไหว แค่พมิ พค์ า้ หรือขอ้ ความท่ีตอ้ งการสืบคน้ ในเวบ็ ไซต์ Google หรือเวบ็ ไซตท์ ่ีเป็นเครื่องกลคน้ หา(Search engine) อ่ืนๆ เช่น อยากเรียนรู้วธิ ีการทา้ คลิปวดิ ีโอ กพ็ ิมพค์ า้ วา่ ทา้ คลิปง่ายๆ เพียงเท่านัน รายละเอียดเกี่ยวกบั การทา้ คลิปวดิ ีโอจะปรากฎออกมาใหเ้ ลือกนา้ ไปใชอ้ ยา่ งมากมายแมก้ ระทง่ั ความเป็นไปในโลกปัจจุบนั กส็ ามารถบอกชาวโลกผา่ นกลอ้ งดิจิทลั ท่ีติดอยกู่ บัโทรศพั ทไ์ ปยงั ที่ต่างๆ ไดต้ ลอดเวลา ดงั น้นั เราจึงสามารถเขา้ ถึงขอ้ มูล หรือเหตุการณ์ต่างๆ บนโลกใบน้ี ไดอ้ ยา่ งไม่อยากเยน็ โดยส่ิงจา้ เป็นใน

การเขา้ ถึงส่ือดิจิทลั โดยการเขา้ ถึงสื่อดิจิทลั น้นั จา้ เป็นตอ้ งใชอ้ ุปกรณ์คอมพิวเตอร์ท่ีมีอยู่มากมายหลายแบบ หลายรูปร่าง เราจึงควรทา้ ความรู้จกั กบั อุปกรณ์เหล่านี ไดแ้ ก่ 1) Desktopหรือคอมพวิ เตอร์ต้งั โตะ๊ 2) Laptop หรือที่บางคนนิยมเรียก Notebook และ 3) Tabletขอ้ มูลกค็ ือขอ้ เทจ็ จริงต่างๆ ท่ีอาจอยใู่ นรูปของตวั อกั ษร ตวั เลข สัญลกั ษณ์ รูปภาพ เสียง ซ่ึงจะเปลี่ยนสถานะไปเป็นสารสนเทศ (Information) เมื่อนา้ ขอ้ มูลที่มีอยไู่ ปผา่ นกระบวนการประมวลผล หรือการวเิ คราะห์ หรือสังเคราะห์ หรือวธิ ีการใดๆ ที่สามารถนา้ ผลลพั ธ์ท่ีเกิดข้ึนใหม่ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการทา้ ส่ิงใดส่ิงหน่ึง โดยในการดาเนินชีวติ ทุกวนั น้ีเก่ียวขอ้ งกบั ขอ้ มูลและสารสนเทศอยา่ งเลี่ยงไม่ได้ ซ่ึงมกั ใชค้ อมพิวเตอร์ในการทางาน ดงั น้นั ขอ้ มูล และสารสนเทศที่เกิดข้ึนกม็ กั อยใู่ นรูปแบบดิจิทลั และนน่ั เองจึงเป็นเหตุและผลท่ีสนบั สนุนวา่ เรากาลงั ดาเนินชีวติ อยใู่ นสังคมดิจิทลั (Digital society) ดงั น้นั ขอ้ มูลและสารสนเทศในรูปของส่ือดิจิทลั จึงเป็นขอ้ มูลท่ีอาศยั ระบบคอมพิวเตอร์เป็นช่องทางในการสื่อสารโดยสื่อดิจิทลั ท่ีมีให้เห็นไดใ้ นชีวติ ประจา้ วนั ไดแ้ ก่ 1) ส่ือดิจิทลั ในรูปแบบตวั อกั ษร 2) ส่ือดิจิทลั ในรูปแบบภาพ 3)สื่อดิจิทลั ในรูปแบบเสียง 4) สื่อดิจิทลั ในรูปแบบภาพเคล่ือนไหว และภาพยนตร์

บทบทที่5ท่ี5

กำรส่ือสำรยุคดจิ ทิ ลัการส่ือสาร เป็นการส่งขอ้ มูลจากที่หน่ึงไปยงั อีกท่ีหน่ึงจากผสู้ ่งสารถึงผรู้ ับสารดว้ ยวธิ ีการต่างๆท้งั การสื่อสารดว้ ยภาษาพดู ภาษาเขียน หรือภาษาท่าทาง ซ่ึงปัจจุบนั การส่ือสารของมนุษยไ์ ดร้ ับการพฒั นาใหส้ ื่อสารถึงกนั อยา่ งรวดเร็ว อนั เป็นผลมาจากความกา้ วหนา้ ดา้ นเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ ที่ไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทในชีวติ ประจา้ วนั ของมนุษยม์ ากข้ึนเป็นการสื่อสารในยคุดิจิทลั ทา้ ใหม้ ีการส่ือสารถึงกนั อยา่ งรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหลกั กำรของกำรส่ือสำรกระบวนการส่งข่าวสารขอ้ มูลจากผสู้ ่งข่าวสารไปยงั ผรู้ ับข่าวสาร มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือชกั จูงให้ผรู้ ับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลบั มา โดยคาดหวงั ใหเ้ ป็นไปตามท่ีผสู้ ่งตอ้ งการ เป็นการที่บุคคลในสังคมมีปฏิสมั พนั ธ์โตต้ อบกนั ผา่ นทางขอ้ มูลข่าวสาร สญั ลกั ษณ์และเคร่ืองหมายต่างๆดว้ ยหลกั การส่ือสารที่ดีไม่ควรสื่อสารอะไรใหย้ ากเกินไปหรือง่ายเกินไป

1. ควำมหมำยของกำรสื่อสำรราชบณั ฑิตยสถาน (2554) อธิบายความหมายของการส่ือสารไวว้ า่ หมายถึง วธิ ีการนา้ ถอ้ ยคา้ขอ้ ความ หรือหนงั สือ เป็นตน้ จากบุคคลหน่ึงหรือสถานที่หน่ึงไปยงั อีกบุคคลหน่ึงหรืออีกสถานท่ีหน่ึงสรุปไดว้ า่ การส่ือสาร หมายถึง การถ่ายทอดหรือส่งขอ้ มูลข่าวสารจากบุคคลหน่ึงสู่บุคคลหน่ึงไปสู่บุคคลหน่ึง ดว้ ยภาษาพูดหรือภาษาเขียน2. องค์ประกอบของกำรส่ือสำรการสื่อสารประกอบดว้ ยส่วนสาคญั 4 ส่วน ไดแ้ ก่ ผสู้ ่งสาร (Sender) สาร (Message) ช่องทางการสื่อสารหรือส่ือ (Channel) และผรู้ ับสาร (Receiver) สามารถอธิบายแต่ละองคป์ ระกอบไดด้ งั น้ี (ขนิษฐา จิตชินะกลุ 2557, หนา้ 3-4, 6-7)2.1 ผสู้ ่งสาร (Sender)ผสู้ ่งสาร (Sender) คือ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลท่ีถ่ายทอดข่าวสารไปยงั บุคคลอีกฝ่ ายหน่ึงที่เรียกวา่ผรู้ ับสาร ซ่ึงบุคคลท้งั สองฝ่ ายอาจทา้ หนา้ ท่ีผลดั เปลี่ยนกนั ในขณะสื่อสาร โดยเฉพาะการส่ือสารระหวา่ งบุคคลท่ีผสู้ ่งสารเม่ือส่งสารไปยงั ผรู้ ับสาร ผรู้ ับสารจะรับทราบ ตีความและมีปฏิกิริยาตอบกลบั ไม่วา่ จะต้งั ใจ เพอ่ื ใหผ้ สู้ ่งสารไดร้ ับรู้และเกิดการส่ือสารต่อไป โดยผสู้ ่งสารอาจจะใช้คา้ วา่ แหล่งขอ้ มูลข่าวสาร ผสู้ ่ือสาร ผเู้ ขา้ รหสั เป็นตน้2.2 สาร (Message)สาร (Message) คือ เร่ืองราวที่ผสู้ ่งสารตอ้ งการสื่อความหมายไปยงั ผรู้ ับสาร สารนั นอาจเป็นขอ้ เทจ็ จริงหรือขอ้ คิดเห็นที่ผสู้ ่งสารไดใ้ ชภ้ าษาหรือสญั ลกั ษณ์ที่จะทาใหผ้ สู้ ่งสารและผรู้ ับสารเกิดการรับรู้ร่วมกนั และเม่ือผรู้ ับสารเกิดการรับรู้ความหมายแลว้ จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง โดยคา้วา่ สารน้นั มีการใชค้ า้ ท่ีมีความหมายใกลเ้ คียงกนั เช่น ข่าว ขอ้ มูล ความคิดเห็น เป็นตน้2.3 ช่องทางการส่ือสารหรือสื่อ (Channel or Media)ช่องทางการสื่อสารหรือสื่อ (Channel or Media) คือ ช่องทางที่จะนา้ ขอ้ มูลข่าวสารจากผสู้ ่งสารไปยงั ผรู้ ับสาร ซ่ึงหากการสื่อสารไม่ส่ือ การส่ือสารน้นั ยอ่ มเกิดข้ึนไม่ได้ ซ่ึงสื่อหมายถึง คลื่นแสง คลื่นเสียง อากาศ รวมถึงประสาทสัมผสั ท้งั 5 ของมนุษย์ ที่สามารถรับรู้ความหมายได้ ซ่ึงไดแ้ ก่ การมองเห็น การไดย้ นิ การดมกล่ิน การสมั ผสั และการลิ มรส2.4 ผรู้ ับสาร (Receiver)

ผรู้ ับสาร (Receiver) คือ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลท่ีผสู้ ่งสารตอ้ งการส่งสารเพอื่ ใหเ้ กิดการรับรู้ร่วมกนั กบั ผสู้ ่งสาร ดงั น้นั ผรู้ ับสารจะมีบทบาทพ้ืนฐานที่สาคญั 2 ประการ คือ การกาหนดรู้ความหมายของเรื่องราวท่ีส่งสารและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อผสู้ ่งสารเม่ือมีการสื่อสารเกิดข้ึนแลว้ ยอ่ มมีผลของการส่ือสารซ่ึงกค็ ือการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึนหลงั จากที่ผรู้ ับสารไดร้ ับรู้หรือตอบสนองต่อสารของผสู้ ่งสาร ซ่ึงการรับรู้และการตอบสนองน้นั อาจทา้ ให้ผรู้ ับสารมีพฤติกรรมท่ีเปลี่ยนไปท้งั ทางดา้ นดีและไม่ดี3. หลกั สำคญั ทคี่ วรคำนึงถึงในกำรสื่อสำรดวงทอง พิสุทธยางกรู (2560) ไดอ้ ธิบายหลกั สาคญั 7 ประการที่ควรคา้ นึงถึงในการส่ือสารไดแ้ ก่3.1 Creditability ความน่าเชื่อถือ ท้งั ของผสู้ ่งสาร ตวั สาร ตลอดจนวธิ ีการนา้ เสนอสาร3.2 Context บริบท สถานการณ์ หรือสภาพแวดลอ้ ม ณ เวลาที่ทาการส่ือสารบริบท รวมไปถึงการปฏิบตั ิตวั ของผสู้ ่งสารในส่ิงที่คาดหวงั จากผรู้ ับสารดว้ ย3.3 Content เน้ือหา ควรเหมาะกบั ความสามารถในการรับรู้และตีความ สอดคลอ้ งกบั ความเชื่อและทศั นคติในระบบสงั คม และวฒั นธรรม ของผรู้ ับสาร3.4 Clarity ความชดั เจน โดยเน้ือหาของสารควรทา้ ความเขา้ ใจง่าย และไม่คลุมเครือ3.5 Capability ศกั ยภาพในการรับและส่งสาร ซ่ึงมีความแตกต่างกนั

3.6 Chanel ช่องทาง ควรเลือกใชช้ ่องทางท่ีเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั วถิ ีชีวติ ของผรู้ ับสารท่ีเป็ นกลุ่มเป้าหมาย3.7 Continuity & Consistency ความต่อเน่ือง และความสม่าเสมอ การส่ือสารท่ีดีควรมีการส่งสารอยา่ งต่อเนื่องซ่ึงอาจเป็นสารเดิมผา่ นช่องทางที่เปล่ียนไป หรืออาจปรับเปลี่ยนรายละเอียดปลีกยอ่ ยของสาร แต่ตอ้ งคงความสม่าเสมอของสาระสาคญั ของสารเอาไว้พฤตกิ รรมกำรใช้ Social Media ของคนไทยสานกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสังคม เผยผลสารวจพฤติกรรมผใู้ ชอ้ ินเทอร์เน็ตปี 2560 ซ่ึงการสารวจชีใหเ้ ห็นวา่ คนไทยมีไลฟ์ สไตลด์ ิจิทลั มากข้ึนเรื่อยๆ โดยเปลี่ยนวธิ ีทา้ กิจกรรมต่างๆ ท่ีเคยทา้ ในแบบออฟไลนม์ าเป็นออนไลนม์ ากข้ึน เช่น การจองและซ้ือตวั๋ โดยสาร การจองหอ้ งพกั โรงแรมการฟังเพลง การดูภาพยนตร์ และการบริการรับส่งเอกสาร สาหรับโซเชียลมีเดียท่ีคนไทยนิยมใชม้ ากท่ีสุด ไดแ้ ก่ YouTube (97.1%), Facebook (96.6%), Line (95.8%), Instagram (56%),Pantip (54.7%), Twitter (27.6%) และ WhatsApp (12.1%) (สานกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน), 2560)กำรใช้ประโยชน์จำกส่ือสังคมออนไลน์

จากงานวจิ ยั ของ ฉฐั มณฑน์ ต้งั กิจถาวร (2557) ที่ไดท้ า้ งานวจิ ยั เร่ืองการใชป้ ระโยชนแ์ ละความพงึ พอใจในการเปิ ดรับขอ้ มูลที่ถูกแชร์ผา่ นเฟซบุก๊ พบวา่ การใชป้ ระโยชนส์ ่วนมากนิยมใช้ประโยชนจ์ ากขอ้ มูลข่าวสารที่ถูกแชร์ผา่ นเฟซบุ๊กในดา้ นการนา้ ขอ้ มูลข่าวสารที่ไดจ้ ากเฟซบุก๊ไปช่วยตดั สินใจในการเลือกสินคา้ หรือบริการ1. ประโยชน์ของเครือข่ำยสังคมออนไลน์ประโยชนข์ องเครือข่ายสังคมออนไลนส์ ามารถใชใ้ นการสื่อสารแลกเปล่ียนขอ้ มูลความรู้ในส่ิงที่สนใจร่วมกนั ไดส้ ามารถเสนอและแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ หรือตั งคา้ ถามในเรื่องต่างๆ เพ่อื ใหบ้ ุคคลอื่นท่ีสนใจหรือมีคา้ ตอบไดเ้ ขา้ มาช่วยกนั ตอบคา้ ถาม เป็นการส่ือสารที่สะดวกรวดเร็ว สามารถใชเ้ ป็นส่ือในการนา้ เสนอรูปภาพ หรือวดี ิโอต่างๆ การโฆษณาและการประชาสัมพนั ธ์ เพือ่ ใหผ้ อู้ ่ืนไดเ้ ขา้ มารับชมและแสดงความคิดเห็น2. ข้อดี-ข้อเสีย ของสื่อสังคมออนไลน์แสงเดือน ผอ่ งพฒุ (2556) และ Williamson (2013) ไดส้ รุปขอ้ ดีและขอ้ เสียของสื่อสังคมออนไลน์ ไวด้ งั น้ี2.1 ข้อดขี องสื่อสังคมออนไลน์1) สามารถใชส้ ร้างเป็นพ้ืนท่ีในการสนทนาหรือสื่อสารแก่สาธารณะได้2) หน่วยงานหรือองคก์ รต่างๆ สามารถเขา้ ไปใกลช้ ิดกบั สาธรณชนไดม้ ากขึ น3) สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ และความไวว้ างใจ4) สนบั สนุนความโปร่งใสและธรรมาภิบาล5) สร้างโอกาสใหบ้ ุคคลหรือกลุ่มท่ี 3 ในการเขา้ มามีส่วนร่วม และสนบั สนุนเผยแพร่6) การส่งต่อขอ้ มูลในลกั ษณะทา้ ซ้าตวั เอง (Viral Distribution) ทา้ ใหม้ ีการกระจายขอ้ มูลอยา่ งรวดเร็ว7) ลดตน้ ทุนการดาเนินการ8) ช่วยใหเ้ ขา้ ใจความคิดเห็นของประชาชนไดม้ ากข้ึน9) สามารถติดตามความเคล่ือนไหวไดต้ ลอดเวลา10) ลดเวลาท่ีจะไดร้ ับขอ้ มูลข่าวสาร11) สามารถที่จะนา้ มาเป็นส่วนหน่ึงของกลยทุ ธใ์ นการสื่อสาร และเป็นส่ือกลางในการขายการเขา้ ถึงขอ้ มูลข่าวสารและเผยแพร่ข่าวสาร2.2 ข้อเสียของสื่อสังคมออนไลน์

1) มารยาทและรูปแบบการใชง้ านแตกต่างจากส่ือรูปแบบอ่ืน2) มีความเส่ียงของความไม่แทจ้ ริง การหลอกลวง ความซ่ือสัตย์ และความไมโ่ ปร่งใสในการใช้งาน3) มีศกั ยภาพในการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็วและอยเู่ หนือการควบคุมของเจา้ ของ4) การหาเครือข่ายใหม่ การสร้างเร่ืองใหม่ๆ เป็นเรื่องยากท่ีจะคาดเดาได้ วา่ จะมีจา้ นวนผใู้ ช้เท่าใดและไม่มีการรับรองผลวา่ การส่ือสารจะเกิดข้ึนและส่งสารไปยงั ผรู้ ับสื่อ5) ส่ือสงั คมออนไลนไ์ ม่ใช่ทางลดั ท่ีมีประสิทธิภาพเพียงอยา่ งเดียว แต่ยงั ตอ้ งนา้ ส่ือหลกั และหลกั การส่ือสารท่ีดีมาใชค้ วบคู่กนั ไปสรุปกระบวนการส่งข่าวสารขอ้ มูลจากผสู้ ่งข่าวสารไปยงั ผรู้ ับข่าวสาร มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อใหผ้ รู้ ับข่าวสารมีการตอบกลบั มาซ่ึงกระบวนการดงั กล่าวประกอบดว้ ยผสู้ ่งสาร สาร ช่องทางการสื่อสารหรือสื่อ และผรู้ ับสาร ในประเภทของการสื่อสารแบ่งออกเป็นดงั น้ี การส่ือสารลกั ษณะทางเดียว และการสื่อสารลกั ษณะสองทาง ปัจจุบนั สื่อสังคมออนไลนเ์ ป็นรูปแบบการสื่อสารขอ้ มูลท่ีเขา้ ถึงผคู้ นไดท้ ุกระดบั และมีแนวโนม้ จะกลายเป็นส่ือหลกั ในอนาคต ซ่ึงมีการพฒั นาดา้ นซอฟตแ์ วร์เพ่ือนา้ มาใชใ้ นการส่ือสารในสังคมออนไลนใ์ หม้ ีประสิทธิภาพมากข้ึน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook