ความเขา้ ใจในการใชด้ ิจทิ ัล บทท่ี 2 - 3
คาํ นํา E-BOOK น้ีจดั ทําขนึ้ เพ่ือประกอบการเรียนวิชา ความเขา ใจในการใชดจิ ทิ ลั โดยมจี ดุ ประสงคเพ่ือใหผูจดั ทาํ ไดฝ ึ กการศึกษาคน ควา และนําส่งิ ท่ไี ดศกึ ษาคน ความาสรา งเป็ นช้นิ งานเกบ็ ไวเป็ นประโยชนต อ การเรยี นการสอนของตนเองและครูตอไป ท้ังน้ี เน้ือหาไดร วบรวมมาจากหนังสอื แบบเรยี น ผูจดั ทาํหวงั วาE-BOOKน้ีคงมีประโยชนต อผูท่นี ําไปใชใ หเ กดิ ผลสัมฤทธติ์ ามความคาดหวงั หากมีขอมูลผดิ พลาดประการใดตองขออภัยไว ณ ท่ีน่ีดวย ไตรภพ เวทมนต ผูจ ดั ทํา
สารบัญ 1 4บทท่ี 2 แนวคดิ ดา นสธิ แิ ละเสรภี าพ 5สิทธิบนส่ือสาธารณะยคุ ดจิ ิทัล 7การใชเสรีภาพอยา งถูกตองความรับผดิ ชอบตอ สังคมยุคดิจทิ ลั 8บทท่ี 3 การเขาถงึ ส่อื ดิจิทัล 9ความหมายและองคป ระกอบของส่อื ดิจทิ ลัส่ือดจิ ทิ ัลในปั จจุบนั 14ประเภทของส่อื และส่ือดจิ ทิ ัล 16ขอ ดีและขอเสยี ของส่ือดิจิทลั 18อินเทอรเ น็ตกบั ส่ือดิจิทลั 20
บทท่ี 2 แนวคดิ ด้านสทิ ธแิ ละเสรภี าพ 1 1. ความเป็ นมาของสทิ ธิและเสรีภาพ ประเทศไทยมีการประกาศใชรฐั ธรรมนญู ทั งฉบับถาวรและฉบบั ช่วั คราวมาแลว ทั งสิ น รวม 20 ฉบบั และฉบับท่ีบังคบั ใชอยูใ นปั จจบุ นั เป็ น รัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 2560 โดยมีผลบังคับใช ตั งแตว ันพฤหสั ท่ี 6 เมษายน 2560 เป็ นตนมา ถือเป็ นกฎหมายสูงสุดของ ประเทศไทย อาจกลาวไดอ ีกนัยหน่ึงวา “รัฐธรรมนูญเป็ นกฎหมายสูงสุด ของประเทศ บทบญั ญตั ิใดของกฎหมาย กฎหรอื ขอบังคบั หรอื การกระทา ใด ขดั หรือแยง ตอ รัฐธรรมนญู บทบญั ญตั หิ รอื การกระทา นั นเป็ นอันใช บงั คับมิได” ความเป็ นกฎหมายสงู สุด หรอื Supremacy of Law หมายถงึ สภาวะสงู สดุ ของกฎหมาย ซ่ึงแสดงใหเห็นสถานะของกฎหมายนั นๆ วาอยู ในลา ดับสงู เหนือกฎหมายอ่นื ใดทั งปวง สวนกฎหมายลา ดับรองหรอื ประ เภทอ่ืนๆ ก็มีช่ือเรยี กท่แี ตกตา งออกไป เชน พระราชบญั ญตั ิ พระราช กฤษฎีกา ระเบยี บ ขอ บังคับ เป็ นตน ซ่ึงในเนื อหาของกฎหมาย รฐั ธรรมนูญจะมีการกา หนดสิทธิและเสรภี าพไวภายใน ทั งสองเร่อื ง ถอื วา เป็ นเร่อื งสา คัญในความเป็ นมนษุ ยแ ละเป็ นการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษตั ริยทรงเป็ นประมุข ซ่งึ เป็ นหลกั ประกัน เพ่ือคุมครองประชาชนทีอาศัยอยูรวมกนั ในสงั คม และประเทศชาติไทย ทา ให สงั คมท่ีอาศัยอยูรวมกนั มคี วามอยางสงบและสันติ นอกจากจะมี กฎหมายเป็ นเคร่ืองมอื สา หรบั ใชใ นการจดั ระเบียบแลว ขนบธรรมเนียม2ปแ. ขคร็งะวเสากพิทมาณหธริีพม(สRาัฒงั ยiคgนขมhาอtแ)งเลหจสะรมิทวญิ าธัฒยเิแตนถลิบธึงะโรเปสตรรรขมะภีอแโงาลยปพวชรนยะทงัเทส่กี ศะฎทไหดอ มดนาว ถยยงึ รคับวราอมงมแ่ันลคะคงมุ คควราอมงเใขหม แกบคุ คลในอนั ท่ีจะกระทาการเก่ยี วกบั ทรพั ยสินหรอื บคุ คลอ่นื เชน สิทธใิ นทรัพยสิน สิทธใิ นชีวติ และรา งกาย เป็ นตน ส่งิ ใดท่รี ัฐธรรมนญู กา หนดเป็ นสทิ ธิ หมายความวา รัฐใหสิทธิแกป ระชาชน โดยรัฐมีพันธกรณีหรือ หนา ท่ีท่ีจะตองทาใหประชาชนไดร บั สิทธินั นเปรยี บประดุจดงั รฐั เป็ นลกู หนีประชาชนเป็ นเจาหนี (มานิตย จมุ ปา, 2560)สทิ ธิ (Right) หมายถงึ อา นาจท่ีกฎหมายรบั รองคมุ ครองใหแกบ ุคคลในอนั ท่จี ะเรยี กรอ งใหบคุ คลอ่นื กระทาการอยางใดอยา งหน่ึง สิทธจิ งึ กอ ใหเกดิ หนา ท่ีแก บุคคลอ่นื ดวย ศาสตรา(บรรเจดิ สงิคะเนติ, 2558)จากความหมายดังกลา วขางตนนั นสามารถสรุปไดว าสิทธิ(Right) หมายถงึ การรับรอง และคุมครองโดยกฎหมายโดยรัฐและประชาชนโดยเฉพาะเสรภี าพ (Liberty) หมายถงึ ภาวะของมนษุ ยท่ไี มอ ยูภายใตก ารครอบงา ของผูอ ่นื มอี สิ ระท่ีจะกระทาการหรืองดเวน กระทา การ เชน เสรีภาพในการตดิ ตอ ส่ือสาร เสรี ภาพในการเดินทาง เป็ นตน ส่งิ ใดรฐั ธรรมนูญกาหนดเป็ นเสรีภาพ หมายความวา ประชาชนมเี สรภี าพเชนนั น โดยรัฐมหี นา ท่ีท่วั ไปท่จี ะงดเวนไมข ัดขวางการใชเ สรี ภาพนั นของประชาชนแตร ฐั ไมม ี
3. สิทธแิ ละเสรีภาพของปวงชนชาวไทย 2รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2560 ไดแ สดงใหเ หน็ถงึ ความกา วหนา ในการคมุ ครองสทิ ธิและเสรภี าพของปวงชนชาวไทย มีทังหมด 25 มาตรา (ตั งแตมาตรา 25 ถึง มาตรา 49) แบง ออกเป็ น 4 กลมุสรุปไดด งั นีกลมุ ท่ี 1 วาดวยเร่อื งสทิ ธแิ ละเสรภี าพคูก ัน สามารถสรุปสาระเนื อหาตามเจตนารมณไ ดด ังนีมาตรา 25 สิทธแิ ละเสรภี าพของปวงชนชาวไทย นอกจากท่บี ญั ญัติคุม ครองไวเ ป็ นการเฉพาะในรฐั ธรรมนูญแลว การใดท่มี ไิ ดห ามหรอื จากัดไวใ นรฐั ธรรมนญู หรือในกฎหมายอ่ืน บุคคลยอ มมสี ิทธิและเสรีภาพท่จี ะทาการนันไดและไดร บั ความคมุ ครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 26 การตรากฎหมายท่ีมีผลเป็ นการจา กดั สิทธหิ รอื เสรีภาพของบุคคลตอ งเป็ นไปตามเง่ือนไขท่ีบญั ญัตไิ วในรฐั ธรรมนญูมาตรา 27 บคุ คลยอ มเสมอกันในกฎหมาย มีสทิ ธแิ ละเสรภี าพและไดร ับความคมุ ครองตามกฎหมายเทา เทยี มกันชายและหญงิ มีสทิ ธิเทา เทยี มกนัมาตรา 28 บคุ คลยอ มมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและรางกายมาตรา 49 บคุ คลจะใชสทิ ธิหรอื เสรภี าพเพ่อื ลม ลางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริยทรงเป็ นประมุขมิไดกลมุ ท่ี 2 วาดวยเร่อื งสิทธอิ ยา งเดียว สามารถสรปุ สาระเนื อหาตามเจตนารมณไ ดด ังนีมาตรา 32 บุคคลยอมมีสิทธใิ นความเป็ นอยูส วนตัว เกียรตยิ ศ ช่อื เสยี ง และครอบครวัมาตรา 37 บคุ คลยอมมสี ิทธิในทรพั ยส ินและการสบื มรดกมาตรา 41 บุคคลและชุมชนยอ มมสี ทิ ธิ ไดรับทราบและเขา ถึงขอมลู หรือขา วสารสาธารณะ หรือเสนอเร่อื งราวรองทกุ ขตอหนวยงานของรัฐไดตามท่ีกฎหมายบญั ญัติมาตรา 43 บคุ คลและชมุ ชนยอ มมีสิทธิ อนรุ ักษ ฟ้ื นฟู หรอื สง เสรมิภมู ิปั ญญา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และจารตี ประเพณี จดั การบา รงุ รกั ษา และใชประโยชนจ ากทรพั ยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดลอม หรอื เขา ช่ือกันเพ่อื เสนอแนะตอหนวยงานของรฐั ใหดา เนินการใดอันจะเป็ นประโยชนต อ ประชาชนหรือชุมชน หรอื งดเวน การดาเนินการใดอันจะกระทบตอความเป็ นอยูอยา งสงบสขุ ของประชาชนหรือชมุ ชน โดยใหป ระชาชนท่ีเก่ียวขอ งมสี ว นรวมในการพจิ ารณาดว ยตามวธิ ีการท่กี ฎหมายบัญญตั ิกลุมท่ี 3 วา ดว ยเร่อื งเสรีภาพอยางเดยี ว สามารถสรปุ สาระเนื อหาตามเจตนารมณไ ด ดงั นีมาตรา 31 บคุ คลยอ มมเี สรภี าพบริบรู ณใ นการถือศาสนาและยอมมีเสรีภาพในการปฏบิ ตั ิหรอื ประกอบพธิ กี รรมตามหลักศาสนาของตน
3มาตรา 33 บุคคลยอมมีเสรีภาพในเคหสถานการเขาไปในเคหสถานโดยปราศจากความยนิ ยอมของผูค รอบครอง หรือการคนเคหสถานหรอื ท่ีรโหฐานจะกระทามไิ ดมาตรา 34 บคุ คลยอมมีเสรีภาพในการแสดงความคดิ เห็น การพูด การเขียน การพมิ พ การโฆษณา และการส่อื ความหมายโดยวิธีอ่ืน การจากดัเสรภี าพดังกลา วจะกระทา มิได เวนแตโ ดยอาศยั อานาจ ตามบทบัญญัติแหงกฎหมายท่ตี ราขึ นเฉพาะเพ่อื รักษาความม่นั คงของรัฐมาตรา 35 บุคคลซ่ึงประกอบวิชาชีพส่ือมวลชนยอ มมเี สรีภาพในการเสนอขา วสารหรอื การแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแหงวิชาชีพมาตรา 36 บุคคลยอมมเี สรภี าพในการติดตอ ส่อื สารถงึ กนั ไมวา ในทางใด ๆมาตรา 38 บคุ คลยอ มมีเสรีภาพในการเดนิ ทางและการเลอื กถ่นิ ท่อี ยูมาตรา 40 บคุ คลยอมมเี สรภี าพในการประกอบอาชพีมาตรา 42 บุคคลยอ มมเี สรีภาพในการรวมกันเป็ นสมาคม สหกรณสหภาพ องคกร ชุมชนหรือหมคู ณะอ่นืมาตรา 44 บคุ คลยอ มมีเสรีภาพในการชุมนมุ โดยสงบและปราศจากอาวุธมาตรา 45 บคุ คลยอมมีเสรีภาพในการรวมกันจดั ตั งพรรคการเมอื งตามวถิ ีทางการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท รงเป็ นประมุข ตามท่ีกฎหมายบญั ญัติกลุมท่ี 4 วาดว ยเร่อื งการรับโทษ บทบญั ญตั ิ และสัญชาติ สามารถสรปุ สาระเนื อหาตามเจตนารมณไ ด ดังนีมาตรา 29 บคุ คลไมตองรบั โทษอาญา เวนแตไดก ระทาการอันกฎหมายท่ีใชอ ยูในเวลาท่กี ระทา นั นบญั ญัติเป็ นความผิดและกา หนดโทษไว และโทษท่จี ะลงแกบ ุคคลนั นจะหนักกวาโทษท่บี ญั ญัติไวในกฎหมายท่ใี ชอยูในเวลาท่ีกระทาความผดิ มไิ ดใ นคดีอาญามาตรา 30 การเกณฑแ รงงานจะกระทามิได เวน แตโ ดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญัติ แหงกฎหมายท่ตี ราขึ นเพ่อื ปองกันภัยพบิ ตั ิสาธารณะ หรือในขณะท่ีมกี ารประกาศสถานการณฉ กุ เฉินหรอื ประกาศใชก ฎอัยการศกึ หรอืในระหวางเวลาท่ีประเทศอยูใ นภาวะสงครามหรอื การรบมาตรา 39 การเนรเทศบคุ คลสญั ชาติไทยออกนอกราชอาณาจักร หรือหา มมิใหผ ูม ีสัญชาติไทยเขามาในราชอาณาจกั ร จะกระทามิไดก ารถอนสัญชาติของบุคคลซ่ึงมีสัญชาติไทยโดยการเกิด จะกระทา มิไดเ พ่ิมขอความในสว นเน้ือหาเลก็ นอ ย ท่มี าของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/democrcy
4สทิ ธบิ นสื่อสาธารณะยคุ ดจิ ทิ ัล1. ความหมายของส่ือสาธารณะยคุ ดจิ ทิ ลัส่อื สาธารณะ คอื ส่ือท่ีเป็ นพื นท่สี า หรบั การแสดงความคิดเหน็ อยา งมีเสรภี าพมีลักษณะการดา เนินงานท่ีไมไดเ ป็ นส่ือเชิงพาณิชย โดยเป็ นส่อื ท่ีปราศจากอิทธพิ ลจากกลุมทนุ และรฐั บาล ประชาชนทุกคนมโี อกาสเขาถึงพืนท่ีนี ไดโ ดยไมเ สยี คาบรกิ าร และเป็ นส่อื ท่มี ุงสรางคณุ ภาพใหก บั สงั คม ทาใหก ลุม ชนหลากหลายฝ ายรวมไปถึงคนชายขอบสามารถนา เสนอความคดิเหน็ หรือเร่อื งราวของตนผานส่อื สาธารณะไดอ ยา งเสรี โดยไมถ กู ปิ ดกันจากอา นาจรฐั อกี ทั งยงั เป็ นท่พี ่งึ และเป็ นส่ือท่ใี หโอกาสทางพื นท่แี กผอู ่นื ไดม ีประชาธปิ ไตยในการส่ือสาร สามารถแสดงความคดิ เหน็ และขอ เสนอแนะตลอดจนการมสี ว นรว มและการดา เนินชวี ิตของบุคคล และชมุ ชนเพ่ือท่จี ะชว ยนา เสนอความหมายใหมท่ีดีของผูคนในสงั คมได2. สทิ ธกิ ารใชงานขอมลู บนส่อื สาธารณะยคุ ดจิ ทิ ลัสทิ ธกิ ารใชง านขอ มลู บนส่ือสาธารณะยคุ ดจิ ทิ ัล มักจะเก่ยี วของกับการกระทา ผดิ ท่ถี อื เป็ นความผดิ ตาม พ.ร.บ. วาดวยการกระทาผดิ เก่ียวกบัคอมพิวเตอร พ.ศ. 2550 และท่ีปรับปรุง พ.ศ. 2560 โดยท่ผี ูใชงานทุกคนตอ งเขา ใจ และตระหนักถึง สทิ ธทิ ่ีเก่ยี วของกับตัวเองและผอู ่นื เพ่มิ ขอ ความในสว นเน้ือหาเลก็ นอ ยซ่งึ สามารถสรุปสาระเนื อหาตามเจตนารมณไ ด ดังนี1. สิทธใิ นการเขา ถึงระบบ หรือขอมลู ทางคอมพิวเตอร2. สทิ ธใิ นแกไ ข หรอื ดดั แปลงขอ มูล3. สิทธใิ นการสงขอมูลหรืออเี มล4. สิทธิในการจาหนายหรือเผยแพรช ุดคา ส่งั5. สิทธิในการนา ขอมลู เขา ถงึ ระบบ หรอื ขอ มูลท่ีเก่ียวขอ งกับความม่ันคงของ ประเทศ6. สทิ ธใิ นการตดั ตอ เติม ตัดแปลงภาพ ของผูอ่ืนท่ีมาของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/digital
5การใชเ้ สรภี าพอย่างถกู ต้อง ความกาวหนา ของเทคโนโลยีในปั จจุบนั โดยเฉพาะส่ืออินเทอรเน็ตเป็ นชอ งทางหลกั ในการรบั ขา วสารในยุคดจิ ทิ ัล เป็ นสวนหน่ึงท่เี ขามาเปล่ียนบทบาทและรูปแบบ การนา เสนอขอมูล ขาวสาร โดยมชี อ งทางท่ผี ูใชห รอื แมกระท่ังส่ือมวลชนสามารถรายงานขา วไดอยางรวดเร็ว ไมว า จะเป็ น ส่ือโซเชยี ลมีเดยี ตา งๆ ทั ง เฟซบกุ (Facebook) และทวิตเตอร(Twitter) ซ่ึงความรวดเรว็ ท่ีเกดิ ขึ นนั นทา ใหการเสนอขอมูลขาวสารอาจไมม คี วามรอบคอบเทา ท่ีควรนา มาซ่งึ การกระทา ท่ีไรจ รยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ กอ ใหเ กิดผลกระทบไปยงั สาธารณชน ท่เี ป็ นเชน นีอาจเกิดจากการแขง ขนั ดา นธุรกิจและดานเวลาเป็ นตวั กา หนดทิศทางในการทางาน จนทา ใหจิตสา นึกในความรับผดิ ชอบตอ สงั คมลดนอ ยลง ถงึแมวา จะมีองคก รทางวิชาชพี หลัก เป็ นตวั ชว ยในการกากบั ดแู ลแตใ นสวนของการแกไขปั ญหานั น ตอ งขึ นอยกู บั นโยบายของแตล ะองคก รท่คี วรมีความชัดเจนในการสง เสริมความรับผิดชอบตอสังคม รวมไปถงึ ตวั ผูปฏบิ ตั งิ านเอง ตองเคารพในการทา งานของส่ือตามหลักเสรภี าพบนความรบั ผิดชอบ โลกดิจิทัลเป็ นโลกของเสรภี าพอยางสมบรู ณ ผทู าการส่อื สารมีอิสระท่จี ะทา การส่อื สารผา นชอ งทางออนไลนอ ยางไมม ีขอ จากัด โดยใชทั ง ถอยความ รูปภาพ เสียง ภาพเคล่อื นไหว และวดิ ีโอ หรือใชอยางใดอยา งหน่ึงเป็ นส่ือเพ่อื จะแพรกระจายใหเกิดปฏิสัมพันธกับผูค นในโลกไซเบอร ระบบการตรวจสอบของโลกดจิ ทิ ลั เป็ นกฎเกณฑโดยอตั โนมตั ิและมขี อ ตกลงทางดานศลี ธรรมอยางกวา งๆ เพราะฉะนั นการตรวจสอบความผดิ ปกตขิ องโลกไซเบอรจ งึ กลายเป็ นหนา ท่ีของผใู ชงานเองท่ีจะเป็ นผูรายงานความผดิ ปกตวิ สิ ยั นั นตอ ชมุ ชนออนไลน ซ่งึ แมว า หลายกรณีของตวั อยา งท่ผี ดิ กฎเกณฑทางศลี ธรรมหรอื มารยาทในการส่อื สารออนไลน แตกลับไมไ ดผ ิดกฎหมายท่เี ป็ นการกระทาความผิดของการส่อื สารในโลกไซเบอร หรอื กฎหมายเองมิไดค รอบคลุมเร่ืองนั น การตั งกระทหู รือการแสดงความคดิ เห็นผา นส่อื สังคมก็จะทา ใหป ระเดน็ ดังกลาวเกดิ มิติของการวพิ ากษว จิ ารณแ ละมีความเป็ นประชาธปิ ไตย ในการส่ือสารเป็ นอยา งมาก หลายครั งท่เี สรภี าพของโลกออนไลนน า ไปสูก ารสรา งสรรคหรอื มติ ขิ องการส่ือสารแบบใหมจ นทาใหเกดิ ประโยชนใ นวงกวา ง หากแตห ลายครั งเชนกนั ท่ีเสรภี าพของส่อื ออนไลน นา ไปสูปั ญหาทางสังคมอนั มากมายท่เี ก่ยี วโยงไปถึงอาชญากรรม การฉอ โกง ปั ญหาความขัดแยง ทางการเมือง และรวมไปถึงวัฒนธรรมของสงั คมนั นๆ ซ่ึงพบเห็นไดใ นส่อื สงั คมออนไลนม ากขึ นทกุ วัน ทั งนี เกิดจากผใู ชง านในระบบอินเทอรเน็ตนับวนั จะเพ่ิมขึ นโดยท่รี ะดับอายผุ ใู ชงานจะนอ ยลงเร่อื ยๆ ซ่งึ ยอมเช่อื มโยงไปถึงวุฒภิ าวะทางความคดิ ของผใู ชงานท่จี ะทาการส่ือสารอยางไร และเขาใจในเสรภี าพของส่อื ดิจทิ ัลแคไ หน หรอื เขา ใจ
บนโลกออนไลนท ่ีนับวนั จะย่ิงมีพื นท่อี ันอสิ ระมากขึ นดวย การกระทาผดิ 6บนโลกออนไลนย อมโยงไปถงึ วฒุ ิภาวะของผูใชงานเป็ นสา คัญ ซ่งึ กรณีของผูใชงานอนิ เตอรเ น็ตนั น โดยตวั กฎหมายเองก็มไิ ดจ ากัดหรือมกี ฎเกณฑใ ดในการควบคมุ หรือคัดเลอื กผูทา การใชงานวามีความเหมาะสมหรอื ไม หรือมีวยั วุฒิท่มี ีภาวะของการส่อื สารท่ดี ีหรือไม เพราะฉะนั น การควบคมุ การใชงานของผูท่ียังไมม ีภาวะความเขาในในกระบวนการส่อื สารท่ถี ูกตอ งยอ มตอ งไดรับการชี แนะจากผทู ่มี คี วามรูหรือมีวฒุ ิภาวะท่ีมากกวา หรือในอกี ทางหน่ึงกลมุ ผูทา การส่ือสารในสงั คมออนไลนจ ะกลายเป็ นผูต รวจสอบกันและกนั เองซ่ึงพบเหน็ เป็ นกรณีตา งๆ ในปั จจบุ นั จา นวนไมนอ ย ฉะนั นจาเป็ นอยา งย่งิ ท่จี ะตองพฒั นาบุคคล โดยเฉพาะนิสตินักศึกษา ซ่ึงจะเป็ นกาลังสาคญั ของประเทศชาติในอนาคต ใหม คี วามเขา ใจการใชเสรีภาพอยางถกู ตอ ง โดยแตล ะบคุ คลควรใชแ นวคิดดงั ตอไปนี กอ นท่จี ะกระทาส่ิงใดท่ีเก่ยี วขอ งกบั โลกดจิ ทิ ลั 1. การคิดอยางมวี ิจารณญาณ (Critical Thinking) 1.1 ความสามารถในการระบปุ ระเดน็ ปั ญหา 1.2 ความสามารถในการรวบรวมขอ มลู 1.3 ความสามารถในการพิจารณาความนาเช่อื ถอื ของแหลงขอมลู 1.4 ความสามารถในการระบลุ กั ษณะขอ มลู 1.5 ความสามารถในการตั งสมมตุ ิฐาน 1.6 ความสามารถในการลงขอ สรปุ 1.6.1 การสรุปความโดยใชเหตุผลเชงิ อปุ นัย 1.6.2 การสรปุ ความโดยใชเ หตุผลเชงิ นิรนัย 1.7 ความสามารถในการประเมนิ ผล2. การคดิ อยางเป็ นระบบ (System Thinking)2.1 เป็ นการคิดท่มี อง2.2 สรางความสมดุลระหวา งมุมมองระยะสั นและระยะยาว2.3 ยอมรบั ในความมพี ลวตั ความสลับซบั ซอ นและความเก่ียวพันกันของระบบ ธรรมชาติ2.4 ยอมรับและใชขอ มูลทั งจากปั จจยั ท่วี ัดไดจ ากเชงิ ปริมาณและเชิงคุณภาพ การคิดอยา งเป็ นระบบยอมรับและใชข อ มลู เพ่อื การปรบั ปรงุระบบทั งท่เี ป็ น ขอ มลู เชงิ ปรมิ าณและขอมูลท่เี ป็ นคณุ ภาพ2.5 ทกุ สวนมีสวนสนับสนุนระบบในภาพรวม
ความรับผิดชอบตอ่ สงั คมยคุ ดจิ ิทลั 7 อยา งท่ที ราบกนั ดวี าในยคุ ปั จจบุ ันเทคโนโลยที างการส่ือสารไดพ ัฒนาเขาสูระบบดิจิทัล การเช่อื มตอ ท่ที นั สมัย รวดเร็ว ทนั ตอเหตกุ ารณ สามารถเขาถึงกลมุ ผูเ ชา ชมเป็ นจา นวนมากและหลากหลายไดท่วั โลก เป็ นสงั คมยคุดิจติ อล ท่ีประชาชนมีการติดตอส่อื สารกันผา นส่ือดจิ ทิ ัลบนระเครอื ขายอินเทอรเ น็ตขนาดใหญ โดยประชาชนหรอื คนในสงั คม ยอมรบั รปู แบบการตดิ ตอส่อื สารผานชอ งทางในหลากหลายรปู แบบเชน ส่อื วิทยุ ส่อื โทรทศั นโทรศัพท หรอื และทางอินเทอรเน็ต โดยมกี ารส่ือสารแบบโตต อบกนั ทุกท่ีทกุ เวลา ไมจ า กัดระยะทาง หรอื ขอมูลท่ีสงผา นในแตล ะวนิ าที ขึ นอยกู ับความสามารถของอุปกรณห รือส่อื ท่ีใชต ิดตอ ส่อื สารระหวางกนั โดยปั จจุบันมีโปรแกรมส่อื สงั คมออนไลนอ ยมู ากมายท่ีไดรบั ความนิยม เชน เฟซบกุ(Facebook) ทวติ เตอร (Twister) อนิ สตาเกรม(Instagram) หรือไลน (Line)เป็ นตน ดังนั น ทกุ หนวยงาน ทั งภาครัฐและภาคเอกชน ประชาชน หรอื ตวับคุ คล จะตองแสดงความรับผิดชอบ ตอ ส่ิงตา งๆ ไดกระทา ลงไป ผานส่ือสังคมออนไลนห รอื ตอสงั คมยุคดจิ ิทลั ทุกรปู แบบ เชน 1. ความรับผิดชอบตอตนเอง ไดแ ก การสงขอ ความ (text) ภาพ(image) เสียง (voice) หรือ วดิ โี อ (video) ท่ีทาการโพสต แสดงความคิดเหน็ ทศั นคติ สง ตอ หรอื จัดเกบ็ ขอ มูล 2. ความรับผิดชอบสังคม ไดแก การปฏิบตั ติ ามพระราชบญั ญัตวิ า ดว ยการกระทาความผิดเก่ยี วกับคอมพิวเตอร พ.ศ. 2550 และฉบับแกไ ขเพ่มิเตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2560 และพระราชบญั ญัติวา ดวยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส พ.ศ. 2544 และฉบบั แกไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2551สรุปไดวา การพัฒนาอุปกรณท างเทคโนโลยกี ารส่อื สารนวัตกรรมดจิ ิทลั มีความทันสมัย อา นวยความสะดวกตรงกบั ความตองการของกลุมผบู รโิ ภคในสังคมยุคดิจิทลั ท่ีติดตาม ขาวสาร ดิจทิ ัลเป็ นส่อื ส่งิ ใหมม ีความกา วหนาส่ือสารกวา งไกลเขาถงึ กลุมประชาชนผูร ับสารไดหลากหลาย การเลือกใชเพ่อื ใหเ กดิ ประโยชนอ ยางสรา งสรรค ก็จะเกิดคณุ คา ในเชงิ บวกตอสังคมและคนสวนรวม แตว า การใชผ ิดประเภทท่ไี มกอ เกดิ การสรางสรรคแ ละคุณประโยชนแ กส งั คม กจ็ ะสง ผลกระทบตามมาได พึงใชวจิ ารณญานในการเลอื กใชส่อื ดจิ ทิ ัลอยางถูกตอ งใหเ หมาะสมกบั งาน ดังนั นสงั คมจะดา รงอยูไดบ นพื นฐานของความดงี าม ความถูกตอ ง และความสงบสุขไดมากนอ ยแคไ หน กข็ ึ นอยูก บั ความแขง็ แกรงทางดา นจติ ใจของมนษุ ยท ่จี ะมศี ลีธรรม จรยิ ธรรมในการใชเทคโนโลยีทางการส่ือสารเพ่ือสรางสรรคสงั คมในทางท่ถี ูกตอง โดยเฉพาะการรเู ทาทันส่อื ดจิ ิทลั จะเป็ นทักษะท่ีสาคัญในการเรยี นรูและใชช วี ิตของมนุษยใหสามารถวิเคราะหและจัดการขอมลู ขอเทจ็ จริง มีการคิดและวิธีการคดิ อยา งเป็ นระบบ และแกไขปั ญหาไดอ ยางมีเหตุมีผล ซ่ึงจะชว ย นา พาชีวติ และสังคมไปสคู วามสา เร็จและความสขุ ใน
8บทที่ 3 การเข้าถึงสื่อดจิ ทิ ลั ปั จจบุ นั เป็ นยคุ ท่มี คี วามเจรญิ กา วหนา ทางดานเทคโนโลยเี ป็ นอยา งมาก เกดิ การพัฒนาดานเทคโนโลยหี ลายแขนง เชน เทคโนโลยดี า นการโทรคมนาคม เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร เทคโนโลยีอินเทอรเน็ต และเทคโนโลยีการกระจายภาพและเสยี ง ทกุ ส่งิ มีการประสานรวมกันเป็ นหน่ึงเดียว หรอื ท่ีเรยี กวา การหลอมรวมของส่ือดจิ ิทลั (DigitalConvergence) ทา ใหเกิดบริการรูปแบบใหม ท่ีใชเทคโนโลยดี งั กลา วออกมามากมาย ตัวอยา งเชน โทรศพั ททางไกลผานเครือขายไอพี (IP phone)โทรทัศนท ่ีรบั ชมผา นทางอินเทอรเ น็ต (IPTV) วทิ ยุออนไลนห รอื คลิปวดิ ีโอออนไลนบ นเว็บไซต เชน เวบ็ ไซตยูทูป (youtube.com) หรอื แมแ ตการดูโทรทศั นผ า นมือถือ ในชวี ติ ประจาวนั ของผูค นสมยั ใหม มีการใชส่อื ดจิ ทิ ลัเป็ นจานวนมาก ทั งเพ่อื ความบันเทงิ หรือการประชาสมั พันธเ ผยแพรขาวสารสาระตา งๆ เน่ืองจากส่อื ในรูปแบบดิจทิ ัลนั นสามารถเผยแพรและเขาถึงไดง าย แสดงใหเ หน็ วาส่อื ดิจิทัลกาลังเขา มาเป็ นสว นหน่ึงในชวี ิตประจาวันของผูบรโิ ภคมากขึ นเร่ือยๆ ทา ใหท ุกคนตองมกี ารปรบั ตัวใหทนัตอ โลกดิจทิ ลั ไมว า จะเป็ นการโฆษณาผา นในรูปแบบส่ือดิจทิ ลั ท่ีปั จจุบนั มีการแฝงโฆษณาดงั กลา วในส่อื ดจิ ทิ ัลในรูปแบบตา งๆ ไมวาจะเป็ นรปู แบบดังเดมิ ท่มี กี ารใชส่อื มลั ติมเี ดียหรอื ส่ือดจิ ทิ ัลมาประชาสัมพนั ธผานเว็บไซตตา งๆ โฆษณาผา นส่อื สังคมออนไลน (social media) หรือเผยแพรผ านส่อืออนไลนต างๆ บนอุปกรณท ่ีหลากหลายไมว าจะเป็ นเคร่อื งคอมพวิ เตอรโทรศพั ทม อื ถอื หรืออปุ กรณส วมใส (Wearable device) ท่มี ีจานวนเพ่ิมมากขึ นในอนาคตเพ่ือใหต อบสนองความตอ งการของผบู ริโภคและความกา วหนา ของยุคแหงส่ือดิจทิ ลั ส่อื ดจิ ทิ ลั เป็ นส่ือในรูปแบบใหม หรอื เรียกอีกอยางไดว าเป็ น “ส่ือใหม”ท่ีมาของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/digital
ความหมายและองคป์ ระกอบของสื่อดิจทิ ลั 9 แนวคิดเก่ยี วกบั ส่อื ใหมใ นยคุ ดจิ ิทัล (New Media in digital society) ในชวงสองทศวรรษ ท่ีผา นมานี สังคมโลกมกี ารเปล่ยี นแปลงในเชงิ เทคโนโลยกี ารส่อื สารอยา งกาวกระโดด ซ่ึงมผี ลสบื เน่ืองไปท่ีการ เปล่ียนแปลงกรอบความคดิ เก่ียวกบั การส่ือสารท่ีผคู นธรรมดาซ่ึงเคยเป็ น ผรู บั สารท่รี อคอยรับรูขา วสารแตเพียงอยา งเดียวจากส่อื ดั งเดมิ ทั งหลาย เชน หนังสอื พมิ พ วิทยกุ ระจายเสียงหรือโทรทัศน มาขยายโอกาสและ บทบาทตนเองใหเ ป็ นผูส ง สารและผผู ลิตเนื อหาขา วสารมากขึ น สาหรับ ความหมายของคาวา ส่ือใหม หรอื new media นี ยงั คงมีความหมายท่ี หลากหลายนิยามและมมุ มอง เชน “รปู แบบของการส่ือสารอิเลก็ ทรอนิกส ท่หี ลากหลายและใชเ ทคโนโลยคี อมพวิ เตอรและอินเทอรเน็ต เป็ นส่ือ กลาง” “เนื อหาของการส่ือสารท่ีสามารรถเขาถงึ ไดโดยผา นทางเคร่ืองมอื ดิจทิ ลั ” “ส่ือใหมคอื ส่อื ท่ีมีคณุ สมบัตสิ าคัญอยูท ่ีการมปี ฏิสัมพนั ธ (interactive) ซ่งึ เป็ นตวั ชวยใหผ ใู ชสามารถมสี วนรว มซ่ึงกนั และทาใหต าง ฝ ายตา งสามารถผลติ เนื อหาของตนเองได” เป็ นตน ทั งนี แมวาความ หมายยังมคี วามหลากหลายและไมม นี ิยามใดตายตวั แตโดยภาพรวม กม็ ี ความเห็นรว มในเร่ืองคณุ ลกั ษณะเฉพาะทางเทคโนโลยขี องส่ือใหมว า มี ลกั ษณะ 2 ประการ คือ การเป็ นส่ือท่ใี ชชองทางเทคโนโลยีการส่ือสารหรอื อนิ เทอรเน็ต และเป็ นการส่อื สารสองทาง ซ่งึ คุณลกั ษณะ ทางเทคโนโลยี ดงั กลาว ไดทาใหเ กดิ รปู แบบการส่อื สารแบบใหมท ่ีมลี กั ษณะตา งๆ คอื 1) เป็ นการส่อื สารท่ีสามารถมีปฏกิ ิรยิ าโตตอบกนั ได 2) ไมจ ากดั พื นท่ีและ เวลาในการส่อื สาร 3) เป็ นการส่ือสารท่ไี มเปิ ดเผยผูสง สารและผูรับสาร (Anonymous) 4) มีตนทุนการเขาถึงสูง 5) ไมสามารถปิ ดกั นได 6) เป็ นก ระแสท่จี ะไมหยดุ ยั งส่อื หลกั และรัฐตอ งปรับตัวใหทัน และ 7) ไมไ ดรับการ ยอมรับในฐานะ ท่ีเป็ นส่ือ (ชวู ัส ฤกษศ ิริสขุ , 2554) ปั จจุบนั การเขาถึงเนื อหาตามความตองการทกุ ท่ีทกุ เวลาและทุก อุปกรณด ิจิทลั ซ่งึ รวมไปถงึ ขอมลู ปอนกลับของผูใ ชท ่ีโตต อบระหวา งกัน การมสี วนรว มอยา งสรา งสรรค และการรวมตวั เป็ นชุมชน เป็ นท่ีมาของ “ส่อื ดิจทิ ัล” ซ่งึ เป็ นส่ือใหมอยา งหน่ึง ซ่งึ ทาการสรางสรรค การเผยแพร การกระจาย และการบรโิ ภคเนื อหาส่อื ตางๆ มีความสะดวกรวดเร็วมาก ย่งิ ขึ น มักมีคา นิยามของส่อื ใหมวาเป็ นดิจทิ ัล ท่ีสามารถโยงใยเครอื ขา ยได สามารถบบี อดั ได และสามารถโตต อบระหวางกันได ตัวอยา ง เชน อินเทอรเ น็ต เว็บไซต ส่อื ประสมในคอมพวิ เตอร วิดโี อเกม ซดี ีรอม และ ดีวดี ี แตไ มรวมไปถงึ รายการโทรทศั น ภาพยนตร นิตยสาร หนังสอื หรือ ส่ิงอ่ืนท่ีเผยแพรแบบตีพิมพบ นกระดาษ เวน แตจะมเี ทคโนโลยีท่ีทา ใหใช งานการโตต อบในระบบดจิ ิทัลได
1. ความหมายของส่ือดิจทิ ัล 10 ส่อื ดจิ ิทลั มาจากคาวา ส่อื กับ ดิจทิ ัล หมายถงึ ส่ือท่มี กี ารนา เอาขอความ ภาพกราฟิ ก ภาพเคล่ือนไหว วดิ ีโอ และเสยี ง เชนเดยี วกบั ส่อืประสม (Multimedia) แตส่อื ดจิ ิทลั จะอาศยั เทคโนโลยี ความเจรญิกาวหนา ทางดา นคอมพิวเตอรและเทคโนโลยกี ารส่ือสารขอ มูล โดยการนา เอาขอ ความ ภาพกราฟิ ก ภาพเคล่ือนไหว วดิ โี อ และเสียง มาจัดการตามกระบวนการดิจทิ ัล โดยนา มาเช่อื มโยงกนั เพ่อื ใหเ กิดประโยชนใ นการใชงาน โดยส่อื ดิจิทัลเป็ นนวตั กรรมท่ีสรา งขึ นมาทดแทนส่ือในรปู แบบเดมิ ท่ีเป็ นอนาลอ็ ก เพ่ือใหส ามารถรักษาไวซ ่ึงคณุ ภาพของส่ือไวไ ด เอือประโยชนต อการใชสอยท่มี ากกวาเดิม โดยส่ือดจิ ทิ ลั สามารถทาสา เนาซาไดโดยคุณภาพยังคงเหมอื นตนฉบบั ส่ือดิจิทลั เป็ นส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกสซ ่งึทางานโดยใชรหัสดิจติ อล ก็คือการแยกแยะระหวางคา “0” กับ “1” โดยคอมพิวเตอรจะทา หนา ท่ีในการแปลผลขอมลู เป็ นส่อื ดจิ ทิ ลั (ไพฑูรย มะณู,2559) “ส่ือ” หรอื “media” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ไดให ความหมายวาคนหรือส่ิงท่ตี ดิ ตอ ใหขอ มูลถงึ กันหรือชกั นา ใหรูจ ักกัน เชน เขาใชจดหมายเป็ นส่อืติดตอ กนั เรียกคนท่ที าหนา ท่ชี ักนา ใหชายหญิงไดแ ตงงานกนั วา พอส่อืหรอื แมส ่อื ศาสตราจารย Heinich นักเทคโนโลยภี าควชิ าเทคโนโลยีระบบการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยอนิ เดยี นา (Indiana University)ไดใ หคาจา กัดความของ “ส่ือ” วา “Media is a channel of communicationหรือ ส่ือ คือ ชองทางในการติดตอ ส่ือสาร” media มีรากศพั ทม าจากภาษาลาตนิ มคี วามหมายวาระหวา ง (between) หมายถงึ อะไรกต็ ามท่ีทา หนา ท่ีบรรทุกนา พาขอมลู หรืสารสนเจากแหลงกา เนิดสารไปยงั ผูรับสาร”สอดคลอ งกับศาสตราจารย Romiszowski ผเู ช่ยี วชาญทางดานการออกแบบการพัฒนาและการประเมนิ ผลส่ือการเรียนการสอนของมหาวิทยาลยั ซรี าควิ ส (Syracuse University) กลาววา “ส่อื ” เป็ นตวั นาสารจากแหลง กา เนิดของการส่อื สาร (ซ่งึ อาจจะเป็ น มนษุ ยหรอื วตั ถทุ ่ีไมม ีชวี ิต) ไปยงั ผรู ับสาร “media is the carriers of messages, from sometransmitting source (which may be a human being or an inanimateobject) to the receiver of the message (which in our case is thelearner)” สรุปไดวา ส่อื หมายถึง ส่ิงใดๆ ก็ตามท่เี ป็ นตวั กลางระหวา งแหลงกา เนิด ของสารกบั ผูรับสาร มีหนา ท่นี า พาสารจากแหลงกา เนิดไปยงัผรู บั สาร เพ่ือใหเ กิดผลใดๆ ตามวัตถุประสงค ของการส่ือสาร ในสวนของ“ส่อื ดิจทิ ลั ” หากจะนิยามความหมายคงตองทา ความเขาใจคา วา “ดจิ ทิ ลั ”เสยี กอ นเพ่อื เช่อื มโยงความหมายส่อื ดิจิทลั ไดง ายขึ น “ดิจทิ ัล” หรือ“Digital” มาจากภาษาละตนิ วา digit มีความหมายวา นิ ว ดิจทิ ัลเป็ นระบบท่ีใชค าตวั เลขฐาน 2 สา หรบั การสง ผาน ประมวลผล จัดเก็บหรอื แสดงผลของขอ มลู ซ่งึ ตาง จากระบบแอนะล็อกท่ใี ชคา ตอเน่ืองของขอ มูลในการทา
ท่ีชัดเจนของทังสองระบบคือ การสง ผานขอมูลและการจดั เกบ็ ขอมูล โดย 11ท่วั ไปเลขฐานสองมกั ใชใ นเชิงคอมพิวเตอรและอเิ ลก็ ทรอนิกส โดยเฉพาะการนา คาใดๆ เก็บเขา สรู ะบบคอมพวิ เตอรห รืออิเล็กทรอนิกส จึงพอสรุปไดว าส่อื ดจิ ิทัล หมายถงึ อะไรก็ตามท่ีเป็ นตวั กลางถา ยทอดขอ มลู เลขฐาน2 คือ ตวั เลข 1 และ 0 สา หรับประมวลผล จดั เก็บหรือแสดงผลของขอ มลูเพ่ือใชประโยชนใ นการสง ตอ ขอมูล สารสนเทศ จากแหลงกาเนิดสารหรือผสู ง สารไปยังผรู บั สาร ตวั อยางส่อื ดจิ ทิ ัลท่พี บเหน็ อยูเป็ นประจาแสดงไวในตารางท่ี 3.1 ตารางท่ี 3.1 ตวั อยางของส่อื ระบบดิจิทลัส่อื ตวั กลาง สัญญาณธรรมชาติ รปู แบบท่ถี ูกจัด Digital เก็บและบันทึกบนขอ ความใน ส่ ือ E-mail ตวั อกั ษร ขอ มูลเลขฐาน 2(0,1) กลอ งถา ย ภาพ ขอมลู เลขฐาน 2(0,1) ภาพน่ิงดจิ ทิ ลั เสียง ขอมูลเลขฐาน 2(0,1) DVD เพลง,Mp3เพ่มิ ขอ ความ ภาพ เสียง ขอ มลู เลขฐาน 2(0,1)ในสวนเน้ ือหาเล็ก นอ ย VDO, Mp4
12จากตารางจะพบวา ถงึ แมสญั ญาณธรรมชาติจะอยูในลักษณะใดก็ตามรูปแบบการจดั เก็บของดิจทิ ัล จะเป็ นคา ระหวา ง คา 1 และ คา 0 และในหลายโอกาสท่คี า วา ดิจิทลั จะถกู เรียกแทนท่ดี ว ยคาวา “อี” (e-) ซ่งึ ยอมาจากอิเลก็ ทรอนิกส เชน อีเมล (ไปรษณียอิเล็กทรอนิกส) อบี กุ (หนังสอือิเล็กทรอนิกส) ฯลฯ 2. องคป ระกอบของส่อื ดิจิทลั เพ่ิมขอความในสวนเน้ือหาเลก็ นอ ย องคประกอบของส่อื ดจิ ทิ ลั นั นมอี งคป ระกอบเบื องตนเหมอื นกับองคประกอบของส่ือมลั ตมิ ีเดยี ซ่งึ ประกอบไปดวยพื นฐาน 5 ชนิด ไดแกขอความ (Text) เสยี ง (Audio) ภาพน่ิง (Still Image) ภาพเคล่ือนไหว(Animation) และภาพวดิ โี อ (Video) เพยี งแตรปู แบบของส่ือมคี วามเป็ นดิจทิ ลั ในการใชงานและเผยแพรส ่ือดังกลา ว 2.1 ขอความ (Text) ขอความเป็ นสว นท่ีเก่ยี วของกับเนื อหาของมัลติมเี ดยี โดยใชแ สดงรายละเอียด หรือเนื อหาท่ีจะนา เสนอ ถอื วา เป็ นองคป ระกอบพื นฐานท่ีสาคัญของมลั ตมิ เี ดยี ระบบมลั ตมิ เี ดียท่ีนา เสนอผา นคอมพิวเตอร นอกจากจะมีรูปแบบและสขี องตัวอกั ษรใหเ ลือกมากมายตามความตองการแลว ยงั สามารถกา หนดลกั ษณะของการปฏสิ ัมพนั ธร ะหวางการนา เสนอไดอีกดวย ซ่งึ ปั จจุบัน มีหลายรูปแบบไดแ ก 2.1.1 ขอความท่ีไดจากการพมิ พ เป็ นขอความปกตทิ ่ีพบไดท ่ัวไปไดจากการพมิ พดว ยโปรแกรมประมวลผลงาน (Word Processor) เชนNotepad, Text Editor, Microsoft Word โดยตวั อกั ษรแตล ะตวั เกบ็ ในรหสัเชน รหสั ASCII (American Standard Code for InformationInterchange) ท่มี าของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/ASCLL Table
13 2.2 เสยี ง (Audio) เสียงถกู จดั เกบ็ อยูในรูปแบบของสัญญาณดิจิตอลซ่ึงสามารถเลน ซา กลบั ไปกลับมาได โดยใชโปรแกรมท่อี อกแบบ มาโดยเฉพาะสาหรบั ทางานดา นเสยี ง หากในงานมัลตมิ ีเดยี มีการใชเสยี งท่ีเราใจและสอดคลอ งกับเนื อหาใน การนา เสนอ จะชว ยใหระบบมลั ตมิ ีเดยีนั นเกิดความสมบูรณแ บบมากย่งิ ขึ น นอกจากนี ยังชวยสรา งความนาสนใจและนาตดิ ตามในเร่อื งราวตางๆ ไดเป็ นอยา งดี ทั งนี เน่ืองจากเสยี งมีอิทธพิ ลตอผูใชมากกวา ขอ ความหรอื ภาพน่ิงดังนั น เสยี งจึงเป็ นองคประกอบท่ีจาเป็ นสาหรับมัลติมเี ดยี ซ่งึ สามารถนา เขาเสยี งผานทางไมโค2ร.โ3ฟภนาแพผนน่ิงซ(Sีดtดี illวี Iดี mี เaทgปe)แภลาะพวิทน่ิยงเุ ปเป็ น็ นภตานพท่ไี มมกี ารเคล่อื นไหว เชนภาพถาย ภาพวาด และภาพลายเสน เป็ นตน ภาพน่ิงนับวา มีบทบาทตอระบบงานมัลตมิ ีเดยี มากกวาขอ ความหรอื ตวั อักษร เน่ืองจากภาพจะใหผลในเชิงการเรียนรูห รอื รบั รูด ว ยการมองเห็นไดดีกวา นอกจากนี ยังสามารถถา ยทอดความหมายไดล ึกซ่งึ มากกวาขอ ความหรอื ตวั อกั ษรซ่ึงขอ ความหรือตัวอกั ษรจะมีขอจากดั ทางดานความแตกตา งของแตล ะภาษา แตภ าพนั นสามารถส่อื ความหมายไดก ับทกุ ชนชาติ ภาพน่ิงมกั จะแสดงอยูบนส่อื ชนิดตางๆ เชน โทรทศั น หนังสอื พิมพห รอื วารสารวิชาการ เป็ นตน 2.4 ภาพเคล่อื นไหว (Animation) ภาพกราฟิ กท่ีมกี ารเคล่ือนไหวเพ่ือแสดงขั นตอนหรอื ปรากฏการณต างๆ ท่เี กดิ ขึ น อยา งตอ เน่ือง เชน การเคล่ือนท่ีของลกู สูบของเคร่ืองยนต เป็ นตน ทั งนี เพ่ือสรา งสรรคจนิ ตนาการใหเกิดแรงจงู ใจจากผูชม การผลติ ภาพเคล่อื นไหวจะตองใชโปรแกรมท่ีมคี ณุ สมบัตเิ ฉพาะทางซ่ึงอาจมปี ั ญหาเกดิ ขึ นอยบู า งเก่ียวกับขนาดของไฟลท่ีตอ งใชพ ื นท่ใี นการจดั เก็บมากกวาภาพน่ิงหลายเทา ท่ีมาของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/Runcycle sequence
2.5 วดิ โี อ (Video) วิดีโอเป็ นองคป ระกอบของมลั ติมเี ดียท่ีมคี วาม 14สาคัญเป็ นอยา งมาก เน่ืองจากวดิ โี อในระบบดจิ ติ อล สามารถนา เสนอขอ ความหรือรปู ภาพ (ภาพน่ิงหรือภาพเคล่ือนไหว) ประกอบกบั เสียงไดสมบรู ณม ากกวาองคประกอบชนิดอ่นื ๆ อยา งไรก็ตาม ปั ญหาหลกั ของการใชว ดิ ีโอในระบบมัลตมิ ีเดยี กค็ อื การสิ นเปลอื งทรัพยากรของพื นท่บี นหนวยความจาเป็ นจา นวนมาก เน่ืองจากการนา เสนอวดิ ีโอดวยเวลาท่ีเกิดขึ นจริง (Real-time) จะตอ งประกอบดว ยจา นวนภาพไมต ้ากวา 30ภาพตอวินาที (Frame/Second) ถา หากการประมวลผลภาพดงั กลา วไมไดผานกระบวนการบบี อดั ขนาดของสัญญาณมากอน การนา เสนอภาพเพียง 1 นาที อาจตอ งใชหนวยความจามากกวา 100 MB ซ่งึ จะทา ใหไฟลมขี นาดใหญเกนิ ขนาดและมปี ระสิทธิภาพในการทางานท่ีดอยลงนั นเอง(ไพฑรู ย มะณู, 2559)ส่ือดิจทิ ลั ในปั จจุบนั ในปั จจบุ นั ส่อื ดิจทิ ลั เขามามบี ทบาทตอ ชีวติ ประจา วนั ของผคู นมากขึ นเร่ือยๆ ส่อื ดิจิทลั ไมเพียงแตเขา ถงึ ผูคนท่ีอยูอ าศัยในชมุ ชนเมอื งเทา นั น แตส่ือดจิ ิทัลไดมกี ารขยายตวั ไปสกู ลุมผคู นในชนบทอีกดวย จึงทา ใหผ ผู ลติ ส่ือดจิ ทิ ลั ตองปรับแนวทางการเขาถงึ ขอ มูลผูบริโภคในแตละกลุมใหม จากเดมิ ท่ีการส่อื สารแบบดจิ ทิ ัลนั นมีเขา ถึงสวนใหญเฉพาะกลมุ วยั รุนท่ีอยูอาศยั ในเมืองเทา นั น หรอื จากเดมิ ท่ีเราเคยใหความสา คญั กับการส่อื สารผา นทางโทรทศั นม ากกวาส่อื ดจิ ิทัล เน่ืองจากเขาถึงกลุม บริโภคในจา นวนมากลวนเปล่ียนแปลงไปแลว ทั งสิ นสา นักงานพัฒนาธรุ กรรมอเิ ล็กทรอนิกส (องคก ารมหาชน) หรือ ETDA ไดทาการสา รวจพฤติกรรมผใู ช อนิ เตอรเน็ตในประเทศไทยในปี 2557 พบวาคนไทยใชเ วลาทองอินเตอรเ น็ตเฉล่ียถงึ วันละ 7.2 ช่วั โมง นอ ยกวาคาเฉล่ยีของช่ัวโมงการทา งานเพียงเลก็ นอ ยเทานั น และขอ มลู ในปี 2556 พบวา คนไทยเราใชเ วลาออนไลนเ ฉล่ยี วนั ละ 4.6 ช่ัวโมง เพ่มิ ขึ นวนั ละ 2.6 ช่วั โมงนับไดว า อินเตอรเน็ต ไดเพ่มิ บทบาทการใชช วี ิตประจา วนั ของคนไทยมากขึนกวา เดมิ มาก ย่ิงกวา นั นยังพบวา เพศท่สี าม ทองอนิ เตอรเ น็ตเฉล่ียวันละ8.8 ช่วั โมง แนนอนวา ในยคุ สมารทโฟนท่ีนิยมใชง านจากความคลองตัวท่ีสามารถพกพาติดตวั ใชงานสะดวกประกอบกบั ผูใ ห บรกิ ารเครือขายท่ไี ดปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพและความเรว็ ใหส งู ขึ นเร่ือยๆ สมารท โฟนจึงเป็ นอปุ กรณท ่ใี ชออนไลนม ากท่ีสุดเกือบทั งวันเฉล่ียสูงถึงวนั ละ 6.6 ช่ัวโมง(หนุมดจิ ติ อล, 2557)ขอมลู จาก MEC Global ไดท า การสา รวจและเปรยี บเทียบพฤตกิ รรมในการใชส่อื ดิจิทัลผานทางโทรศัพทม ือถือและส่ือทางโทรทศั น ระหวา งกลุมผูบรโิ ภคอายุ 18-34 ปี กบั อายุ 35-54 ปี และเปรยี บเทียบเพ่มิ เตมิ ระหวา งผู
15โดยผลการสารวจพฤตกิ รรมและการใชส่ือของผบู ริโภคในกลมุ อายแุ ละท่ีอยูอาศัย ผลสา รวจพบวาความแตกตางของพฤตกิ รรมและการใชส่ือของผูบรโิ ภคในแตละกลุมอายุ มีความแตกตา งเพยี งเลก็ นอ ยเทา นั น โดยกลมุ อายุ 18-34 ปี มีคา เฉล่ยี การใชงานผานทางโทรศัพทม ือถอื มากกวากลุมอายุ 35-54 ปี แตก ลุมอายุ 35-54 ปี ก็มกี ารบริโภคส่ือดจิ ิทัลผา นทางโทรศพั ทม ือถือเป็ นจา นวนช่ัวโมงท่ีเทากับการบรโิ ภคส่ือผา นทางโทรทัศน ซ่งึ ทาใหเห็นวากลมุ ผูใชส่อื ท่มี ีอายชุ วง 35-54 ปี ก็เร่มิ มกี ารใชงานส่อื ดจิ ิทัลเพ่ิมมากขึ น และผลการสารวจนี ชี ใหเ หน็ วา กลุมผอู าศัยในชนบทมปี ริมาณการบริโภคส่อื ทางโทรศัพทม ือถอื มากกวา กลุมอ่นื ๆ(Marketingoops, 2016) และจากผลสารวจมลู คาของการโฆษณาผา นส่อืดิจทิ ัลในปี 2559-2560 โดยสมาคมโฆษณาดิจทิ ลั ประเทศไทย พบวางบประมาณท่ใี ชในการโฆษณาผา นส่ือดจิ ทิ ัลในปี 2559 มอี ัตราการเติบโตอยา งตอเน่ืองโดยเติบโตขึ น 17% จากปี ท่ีผานมา และคาดวา จะเติบโตขึนอีกเป็ น 24% ในปี 2560 ซ่ึงแสดงใหเห็นวาส่ือดจิ ทิ ลั ไมวา จะเป็ นการใชในรปู แบบใด ทั งดา นการส่ือสาร ดานการศกึ ษา เพ่อื ความบนั เทิง หรือวงการการโฆษณา กล็ วนแตมกี ารเตบิ โตในดานการใชส่อื ดจิ ทิ ลั ทงั สินการเขาสยู คุ ของส่ือดิจทิ ัลนั นจะเป็ นการเพ่มิ โอกาสและขีดความสามารถของส่ือในการเขาถงึ ผูบริโภคส่อื ตา งๆ ดว ยความรวดเร็วและการเขาถึงผรู บั ไดอ ยา งเป็ นสว นตัวเฉพาะบุคคลมากขึ น เพราะฉะนั นผูส รา งส่ือดิจทิ ลั ตอ ง เพ่อื พฒั นาเนื อหาและรปู แบบของส่อื ใหมีความเฉพาะเจาะจงสอดคลองกับพฤติกรรมของกลุมเปาหมาย เพ่อื เป็ นการเรียนรูพฤตกิ รรมของผบู รโิ ภคส่อื ไดม ากขึ น นอกจากนี เครอื ขา ยสังคมออนไลน (SocialNetworking) กเ็ ป็ นส่อื ท่กี า ลงั ไดรับความนิยมอยางมาก และมีแนวโนม วาเว็บไซตเ ครือขา ยสงั คมออนไลนจ ะเป็ นปั จจัยสา คญั ท่ีทาใหโฆษณาออนไลน (Online Advertising) เติบโตขึ นตามไปดว ย ในปี 2556 มีจา นวนสมาชกิ ของเวบ็ ไซตเ ครือขายสงั คมออนไลนท่ัวโลกกวา 500 ลานราย และคาดกนั วาในประเทศไทยจะมจี า นวนสมาชกิ ของเว็บไซตเ ครอื ขา ยสงั คมออนไลนม ากถงึ 10 ลา นราย โฆษณาออนไลน (Online Advertising) จึงไดรบั การตอบรบั มากขึ นไปพรอ มๆ กบัการเติบโตของการส่อื สารผา นเครอื ขา ยสงั คมออนไลน โดยผทู ่ใี ชส ่ือสงั คมออนไลนส วนใหญจะอยูใ นชวงอายุ 18-24 ปี ท่มี าของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/digital
16ประเภทของส่ือและส่อื ดจิ ทิ ัลส่ือดิจิทลั มีหลายประเภทสามารถจา แนก ไดด ังนี 1. ส่อื ด้งั เดมิ (Traditional Media) ส่ือดั งเดมิ หมายถงึ ส่อื มวลชนท่มี ีมาแตด ั งเดิม ไดแ ก ส่อื ส่งิ พมิ พ ส่ือวิทยุ กระจายเสียง ส่อื โทรทัศน และส่ือภาพยนตร เป็ นตน 2. ส่อื กระแสหลกั (Mainstream Media)ส่อื กระแสหลกั หมายถึง ส่อื มวลชนท่ีพิจารณาจากความเป็ นเจาของส่อื นั นๆ(Ownership) อนั มีเปาหมายทางธรุ กิจ เนน ผลกา ไร เป็ นองคก รเชงิ พาณิชย 3. ส่อื เกา (Old Media)ส่ือเกา หมายถงึ ส่ือท่ีมมี าแตเดมิ ในลักษณะเดียวกนั กบั ส่ือดั งเดิม 4. ส่อื ใหม (New Media)ส่ือใหม หมายถงึ ส่ือมวลชนท่ีเกิดขึ นใหม เกิดจากการหลอมรวมเทคโนโลยีการส่ือสาร ภายใตพ ัฒนาการของเทคโนโลยกี ารส่ือสารและภาษาระบบตวั เลข (Digital Language) กลา วคอื เทคโนโลยีการส่ือสาร 3 กลุม หลักไดแก เทคโนโลยดี า นการพมิ พ (Printing Technology) เทคโนโลยกี ารแพรภาพและกระจายเสยี ง (Broadcast Technology) และเทคโนโลยีส่อื สารโทรคมนาคม และคอมพวิ เตอร (Information and CommunicationTechnology) เชน หนังสอื พิมพ ออนไลน โปรแกรม CHAT: Skype, Lineรวมถงึ เครอื ขายสงั คม (Social Media Network) เชน Facebook, Twitter,Instagram, Web board, Website, นักขาวมอื ถอื (Mobile Journalist), E-Magazine, E-book, Blog, นักขาวพลเมือง (Citizen Reporter), วิดีโอเกมและโลกเสมือนจริง ซดี รี อมมลั ติมีเดยี อุปกรณพ กพาหรอื อุปกรณเ คล่ือนท่ีเชน โทรศพั ทมอื ถือ พอดแคสต นวนิยายแบบขอ ความหลายมิติ (hypertextfiction) ปั จจัยเรงใหเ กดิ ส่ือใหม ไดแก ความแพรห ลายของอินเทอรเ น็ต และการบรรจบหลอมรวม เทคโนโลยีส่อื (Convergence) 5. ส่ือออนไลน (Online Media)ส่อื ออนไลน หมายถงึ ส่อื ท่เี ป็ นส่ือทางเลอื ก ส่ือเสรมิ หรือส่ือใหม เขาถงึ ไดตลอดเวลา โตตอบกับผูรบั สารไดในทนั ที จัดเก็บสารสนเทศไวไดโดยงายเชน เครอื ขายอนิ ทราเน็ต (Intranet) เอก็ ซทราเน็ต (Extranet) บริการสงขอความสั น (SMS) บรกิ ารสง ขอความส่อื ผสม (MMS)เนน ความสดใหมข องขอมูล เนน ความมีสว นรว มของผูอา นผานกระดานขาว(web board) เนน สว นรวมโดยสรา งพื นท่ีสว นตัว หรอื Blog เปิ ดโอกาสใหบคุ คลท่ัวไปไดเ ขา มามสี ว นรว มในการรายงานขาว ท่ีเผยแพรผ านทางเวบ็ ไซต
17 6. ส่ืออนิ เทอรเน็ต (Internet Media)ส่อื อินเทอรเ น็ต หมายถึง ส่ือท่ีอาศยั เครือขายคอมพิวเตอร อินเทอรเน็ตเป็ นชอ งทาง การส่อื สารโดยเช่อื มโยงเป็ นเครอื ขา ยใยแมงมุม เช่ือมโยงกนั ไดโดยใชการส่ือสารมวลชนแบบใชส ายและไรสาย เป็ นทั งส่ือบุคคล(Inter-personal Communication) และส่ือมวลชน (MassCommunication) ไรพรมแดน ส่อื สาร แบบสองทาง (Interactive) และส่อื ผสม (Multimedia) 7. ส่อื ดิจิทัล (Digital Media)ส่อื ดิจทิ ลั หมายถึง ส่ือท่อี าศยั ระบบคอมพิวเตอรเ ป็ นชองทางในการส่ือสาร คา วา “ดิจทิ ลั ” เป็ นคา ศพั ทบัญญัตขิ องราชบณั ฑติ ยสถาน แตเกิดขึ นภายหลงั คา วา “ดจิ ติ อล” ท่ีใชในส่อื มวลชนอยา งแพรห ลายอยกู อน โดยบริษทั ผใู หบ ริการโทรศัพทม อืถือ ทา ส่ือโฆษณาเผยแพรใ นส่อื จนคนไทยคนุ เคยมากกวา คา วา“ดจิ ิตอล” มากกวาคา วา “ดจิ ทิ ัล” (medialiteracy-th, 2018) จะเหน็ ไดว าส่อื ดั งเดมิ (Traditional Media) ส่อื กระแสหลกั (Mainstream Media)และส่อื เกา (Old Media) นั นมคี วามหมายใกลเ คยี งกันจดั เป็ นส่ือในยคุกอ นท่จี ะมกี ารใชอนิ เทอรเน็ตมาใชในการนา เสนอเผยแพรขอมูล และเชนเดียวกบั ส่อื ใหม (New Media) ส่ือออนไลน (Online Media) ส่ืออินเทอรเ น็ต (Internet Media) และส่ือดิจิทัล (Digital Media) ท่ีมีความหมายคลา ยคลงึ กัน แตเ หมือนกันตรงท่ีบางประเภทเร่มิ มีการใชอินเทอรเน็ตเขามาเป็ นส่อื กลางในการเผยแพรและอกี หลายประเภทท่ีมใี ชอ ินเทอรเ น็ตเป็ นหลกั ในการเป็ นส่ือกลางในการเผยแพรแ ละนาเสนอขอมลู ไปยังผรู ับส่อืโดยส่ือดิจทิ ลั นั นสามารถแบงออกไดเ ป็ น 4 ประเภทประกอบดวย 1)CD Training 2) CD Presentation 3) VCD/DVD และ 4) E-book และE-document ท่ีมาของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/digital
18ขอ ดแี ละขอเสยี ของส่อืดิจทิ ัล1. ขอดีของส่อื ดิจทิ ลั ขอ ดีของส่อื ดจิ ิทลั มีดงั นี 1) ความคงทน คณุ ภาพของส่ิงท่ีอยใู น “Digital Media” การเส่อื มสภาพจะใชเ วลานานกวา เพราะรปู แบบของขอมูลท่จี ดั เก็บแบบสองระดบัคอื 0 กับ 1 โอกาสท่ีจะผดิ เพี ยนจะเกดิ ขึ นไดยากกวา ขอมลู แบบตอเน่ืองเชน การบันทึกขอ มูลภาพลงในวดิ ทิ ัศนแ บบอนาล็อก กบั การบันทึกภาพลงวดิ ิทัศนใ นระบบดจิ ทิ ลั เม่ือเสน เทปยดื การอา นขอมูลกลบั มาในแบบดจิ ิทลั นั น จะทา ไดงายกวา และสามารถทาใหไดข อมูลกลับมาไดเ หมอื นเดมิไดง า ยกวา แตสา หรับขอมูลแบบอนาลอ็ ก จะใหคณุ ภาพของภาพท่ีลดลงโดยทันทีอยา งเหน็ ไดชดั เป็ นเพราะการจา แนกในระบบอนาล็อกทาแบบรปู คล่ืนซายนเ วฟ (Sine Wave) หรอื รูปคล่ืนท่มี ีความโคงสูงต้าหลายระดับ ตา งกับรูปคล่ืนแบบเหล่ยี ม (Square Wave) ซ่ึงมีลกั ษณะเป็ นส่ีเหล่ียมเทานั น ทา ใหแยกแยะไดท นั ทวี ารปู คล่ืนหรือขอมลู ใดเป็ น 0 หรือ 1ทาใหก ารทา สา เนาและการเก็บรักษาทา ไดงายกวา ท่มี าของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/Sound wave
19 2) ประยุกตใ ชไดห ลากหลาย รูปแบบของการนา ไปใชงานทาไดหลากหลายวธิ ี ขอ มลู ท่ีจัดเกบ็ ในแบบ ดิจทิ ัล ถอื ไดวา เป็ นขอมูลกลางท่ีสามารถแปลงไปสรู ปู แบบอ่ืนไดงาย เชน ถายรปู ดว ยกลองดิจิทลั เม่อื ไดเป็ น ขอ มูลภาพออกมาแลว จะ สามารถพิมพภ าพลงบนกระดาษหรอื การแสดงภาพบนจอคอมพิวเตอร หรือแสดงภาพบนจอทวี ี ก็ไดเ ชนกนั หรอื สามารถเปล่ียนแปลงชนิด ของไฟล เชน จากไฟลนามสกลุ AVI เป็ นรปู แบบอ่ืน เชน .MP4, .WMV และอ่ืนๆ ไดงายโดยไมตองมีเคร่ืองมอื อ่ืนท่ซี ับซอน ใชเพยี งเคร่ือง คอมพวิ เตอรใ นการเปล่ียนแปลงชนิดของไฟล 3) ผสมผสานกบั ส่ืออ่ืนไดงายการนา ไปผสมผสานกบั ส่ือรปู แบบอ่นื เชน ภาพถา ย นา มารวมกับเสียง มกี ารแสดงแบบมลั ติมเี ดยี (Multi media) ไดงายมากขึน 4) การปรบั แตงการปรบั แตง (edit) เป็ นการปรับแตงส่ือท่ีเป็ น ภาพถาย วดิ โี อ นา มาปรับแตงใหด ีขึ นกวา เดมิ สามารถการสอดแทรก ส่ืออ่ืนๆ เขา มานา เสนอรว มกนั ไดสะดวก และมีคุณภาพท่ดี ี2. ขอเสยี ของส่ือดจิ ทิ ลั ส่อื ดจิ ิทัลนั นสามารถทาสา เนาซาไดงา ย เผยแพรไดง ายและรวดเร็วจึงเป็ นสาเหตุ ท่ีทาใหงายตอการกระทาผิดศลี ธรรม การละเมิดลขิ สทิ ธิ์หรอื การละเมดิ ในสิทธขิ องผูอ ่นื เชน การนา เอาภาพของบคุ คลหน่ึง มาตดัตอ กับภาพเปลือยกายของอีกคนหน่ึง หรือการทา ซา (Copy) กับงานส่อื ท่ีมีลขิ สิทธถิ์ กู ตอง เป็ นตน จากขอ ดีท่ีมีคณุ สมบัตเิ ดนตา งๆ มากมายเหลานีทา ใหม ีแนวโนม ในการพัฒนาส่ือดจิ ิตอล (Digital Media) และการพัฒนาใหมีคุณภาพดีขึน้ ทุกขณะ รวมทั งสามารถเขา ถึงไดง ายขึ นอกี ดว ย (ประจกั ษจิตเงินมะดัน, 2561) ท่ีมาของภาพ : https://pixabay.com/en/photos/digital
อินเทอร์เน็ตกบั สอ่ื ดิจิทัล 20 ในโลกยคุ ดจิ ิตอลอยา งเชน ในปั จจบุ นั นี ส่อื รูปแบบใหมๆ อยา งเชนดิจิทลั มเี ดยี หรือ ส่ือดจิ ิทลั โซเชยี ลมเี ดยี และเวบ็ ไซตอ อนไลน คือเคร่ืองมือท่ีสาคญั ย่งิ ในการนา เสนอขอ มลู ตา งๆ รวมทั งใชเ ป็ นส่อื ในการเผยแพรขอมูลขา วสารไปสูผ ูคนท่วั โลก เพราะมีความสอดคลองกบั วิถีชีวติของผคู นในปั จจบุ นั นี ท่ใี ชเวลาอยกู บั โลกออนไลนน านมากขึ นเร่ือยๆจนเดก็ ท่ีเกดิ ขึ นในปั จจบุ ันมกั จะถูกเรยี กวา เด็กยคุ สกรนี เอจ (Screenage) เน่ืองจากมคี วามเก่ียวขอ งกบั การใชคอมพวิ เตอร และเคร่ืองมอืส่อื สารตา งๆ มาตั งแตวยั เด็ก ไมวา จะเป็ นส่ือการสอนสาหรับเดก็ เลก็เกมการศึกษา ส่ือวดิ ีทัศนเ พ่อื ความบนั เทิง การตูน เกม และโปรแกรมตางๆ ซ่ึงตองมกี ารใชอ ุปกรณท ่ีมีหนา จอทั งสิ น แตส ่อื การสอนหรอืหนังสอื ออนไลนต า งๆ ทั งหมดท่ีกลาวมานี ลว นแตมกี ารใชงานผานระบบอนิ เทอรเ น็ตเป็ นหลกั ทั งสิ น เน่ืองจากในปั จจุบนั คนทกุ เพศ ทุกวัยสามารถเขาถึงส่อื อินเทอรเ น็ตได ดว ยมือถอื สมารทโฟนท่ีตอนนี มีราคาถกู ลงมาก รวมทั งอินเทอรเน็ตความเร็วสงู ทั งแบบมสี ายและไรส าย ท่ีมคี วามเร็วมากขึ นเร่อื ยๆ เพ่ือรองรับส่ือดจิ ิทลั ท่ีมีจานวนมากมายมหาศาลบนอินเทอรเ น็ต รวมทั งส่ือหลายๆ ประเภท เชน ส่อื วดิ โี อออนไลนใ นปั จจุบนั มีความละเอยี ดเพ่มิ ขึ น ทาใหมขี นาดของขอ มลู วดิ ีโอใหญต ามขึ นไปดว ย ซ่ึงจา เป็ นตอ งใชร ะบบอนิ เทอรเ น็ตความเร็วสงู ในการอพั โหลดและดาวนโ หลดขอ มลู ดังกลา ว ในปั จจบุ ันส่ือออนไลนเ ร่ิมมีจานวนสถติ กิ ารรับส่ือออนไลนข องผูบ รโิ ภคเพ่มิ ขึ นมาใกลเ คยี งกับส่อืหลักอยา งโทรทัศนใ นปั จจุบันถงึ แมว า ระบบโทรทัศนใ นปั จจุบนั ไดเปล่ยี นเป็ นระบบดจิ ทิ ัล แทนระบบอนาลอ็ ก ทาใหจา นวนชอ งท่ีมใี หรบัชมเพ่ิมขึ นหลายเทาตวั แลว ก็ตาม แตส่อื ออนไลนต างๆ บนอินเทอรเน็ตก็ยังเขา ถงึ ไดง า ย สะดวกและรวดเรว็ มีทวี อี อนดีมานด (TV onDemand) ซ่งึ สามารถรับชมเม่ือไหรกไ็ ด รับชมซา ไดตามความตอ งการซ่ึงในประเทศไทยเอง ทั ง YouTube, Line TV, Facebook Live และเว็บไซตด หู นัง ละคร ซรี สี อ อนไลนต า งๆ ลว นแยง ฐานคนดขู องโทรทศั นลงไปอยา งมาก ขณะเดียวกันจานวนของผทู ่ใี ชอินเทอรเน็ตผานคอมพวิ เตอรตั งโตะ โนตบคุ และแทบ็ เล็ตตางๆ กม็ ีสัดสวนทใี กลเ คยี งกับ ผใู ชงานอนิ เทอรเ น็ตผา นมอื ถอื แลว ความนาสนใจของส่ือดิจิทัลก็คือสามารถเขา ถึงไดงา ย สะดวก ไมยงุ ยากในการใชงาน รวมถงึ มชี มุ ชนออนไลนท ่ีสามารถแสดงความคิดเห็น เป็ นส่ือกลางในการแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ กนั แบบออนไลนไ ดอ ีกดวย และท่สี าคญั ท่ีสุดคือตนทุนในการนา เสนอต้า สามารถเผยแพรส ่อื ไปไดทกุ ท่ีท่วั โลกท่มี อี นิ เทอรเ น็ตเพ่มิ ขอ ความในสว นเน้ือหาเล็กนอ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: