Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาการเลี้ยงไก่ไข่

วิชาการเลี้ยงไก่ไข่

Published by สิรวิชญ์ เฉียบแหลม, 2021-02-03 12:13:54

Description: เนื้อหาสอบกลางภาค

Search

Read the Text Version

บทที่ 1 ความสำคัญและรูปแบบการเลีย้ งไกไ่ ข่ การเลี้ยงไกไ่ ข่ ไกไ่ ขน่ บั เปน็ สัตวเ์ ศรษฐกจิ ท่มี คี วามสำคัญตอ่ ชวี ิตประจำวันของคนไทยเป็นอย่างย่ิง เน่ืองจากไข่ไก่เป็น อาหารที่มีประโยชน์มาก นิยมรับประทานกันทุกครัวเรือน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง ท้ัง อาหารคาวและขนมหวาน ตลาดจงึ มีความตอ้ งการไขไ่ กส่ งู ตลอดทัง้ ปี และมแี นวโนม้ ความตอ้ งการที่สูงข้นึ เรื่อย ๆ การเลี้ยงไก่ไข่ในปัจจุบันมคี วามกา้ วหน้าไปมากและมกี ารพัฒนาอยูต่ ลอดเวลา โดยได้มีการนำเอาวทิ ยาการ ใหมๆ่ เขา้ มาช่วยในทุกๆด้านเชน่ การปรับปรงุ พันธ์ุ โรงเรอื นและอุปกรณ์การเลยี้ ง อาหารท่ีใช้เล้ียงการป้องกัน รักษาโรค รูปแบบการเลี้ยง และวิธีการเลี้ยงดูที่ถูกต้อง จึงทำให้อาชีพการเลี้ยงไก่ไข่ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไดข้ ยายการเลีย้ งออกไปอยา่ งกวา้ งขวาง และได้กลายเป็นอาชพี ทสี่ ำคัญอาชพี หนึ่งของคนไทยสำหรับระบบ รปู แบบการเล้ียงไก่ไข่ การเลี้ยงไก่ไข่เป็นการค้าที่ได้รับความนิยมสูงใน ปจั จุบันมอี ยู่ 2 แบบดว้ ยกนั คอื การเลี้ยงแบบรวมฝูง และการเลีย้ งแบบ ขังกรงหรือกรงตบั การเล้ยี งแบบรวมฝงู การเลีย้ งแบบกรงตับ

บทที่ 2 พันธุไ์ ก่ไข่ พันธไุ์ ก่เป็นปัจจยั สำคัญอย่างหนึ่งทที่ ำให้การเล้ียงไก่ไขป่ ระสบความสำเรจ็ แตพ่ ันธไุ์ ก่ไขท่ ่ีนิยมเล้ียงใน เมืองไทยในปัจจุบันส่วนใหญ่เปน็ ไก่สายพันธุ์ลูกผสมเกือบทั้งสิ้น ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้รับการคัดเลือกและปรับปรงุ พนั ธม์ุ าเปน็ อยา่ งดีแลว้ เชน่ ใหไ้ ข่ดก ไขฟ่ องโต ให้ไขท่ นกินอาหารนอ้ ย เป็นต้น 1. ไก่พันธแุ์ ท้ ไก่พันธุ์แท้เป็นไก่ที่ได้รับการคัดเลือกและผสมพันธุ์เป็นอย่างดีมาอย่างต่อเนื่อง จนลูกหลานในรุ่น ตอ่ ๆมามลี ักษณะประจำพันธ์คุ งที่แตใ่ นปจั จุบันไก่พนั ธ์ุแท้ไม่ไดร้ บั ความสนใจและเล้ยี งเปน็ การค้ามากนักเพราะ ผู้เล้ียงไก่ไข่นยิ มเล้ียงไก่ลูกผสมซงึ่ ใหผ้ ลผลติ ไข่ท่ดี ีกวา่ ไกพ่ ันธุ์แท้มาก สำหรบั พนั ธไ์ุ ก่ไขพ่ นั ธแุ์ ท้ทย่ี ังมีเล้ียงกันใน ประเทศไทย ได้แก่ 1.1. พนั ธุโ์ ร๊ดไอส์แลนดเ์ รด หรอื ทเี่ รียกกนั ส้นั ๆวา่ “ไกโ่ ร๊ด” ไก่โรด๊ ทน่ี ิยมเลย้ี งกันแพร่หลายเป็นชนิด หงอนจกั ร ซงึ่ เป็นไกป่ ระเภทก่ึงเน้ือก่ึงไข่ มขี นาดกลาง มีรปู รา่ งคอ่ นข้างยาวและลึก เป็นรูปสเ่ี หล่ียมผืนผ้า ขน ตามลำตัวมีสีน้ำตาลแดงเข้ม ขนปีกขนหางมีสีดำเหลือบเขียวผิวหนังและหน้าแข้งมีสีเหลืองจัด ปากมีสีแดง เหลือง หงอนจกั ร 5 แฉกเปลอื กไขส่ ีน้ำตาล เปน็ พันธุ์ท่สี ามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เร่ิมให้ไข่เมื่อ อายุ 51-6 เดือน ให้ไข่ปีละ 280-300 ฟอง ปัจจบุ ันนิยมเล้ยี งไกโ่ รด๊ ไวเ้ พ่ือใชเ้ ป็นพันธุต์ ้งั ต้นในการผลติ ไก่ไข่ ลกู ผสมไฮบรดิ เพื่อให้ได้ลกู ผสมท่ี สามารถคัดเพศเมอ่ื แรกเกดิ ได้ โดยใช้ไก่โรด๊ เพศผผู้ สมกับบาร์พลมี ทั ร็อคเพศเมีย ลูกผสมที่ได้จะสามารถคัดเพศ ไดเ้ ม่ืออายุ 1 วัน โดยลกู ไก่เพศเมยี จะมขี นสีดำตลอดตวั ส่วนลูกไกเ่ พศผ้จู ะมขี นสดี ำท้ังตัวแต่จะมจี ุดสีขาวท่หี ัว ไก่ไข่ลูกผสมท่ีเล้ยี งเปน็ การค้าในปัจจุบนั ท่ใี ห้ไขเ่ ปลือกสีน้ำตาลนัน้ ส่วนใหญม่ าจากการผสมขา้ มพนั ธ์ุ ของไก่โรด๊ ไอส์แลนด์เรดหงอนจกั รกับไกพ่ นั ธบ์ุ าร์พลีมทั ร็อค ลกู ผสมที่ได้จะใหไ้ ขด่ ก ไข่มีเปลือกสีนำ้ ตาล และ ให้ไข่ฟองโต พันธุโ์ ร๊ดไอสแ์ ลนดเ์ รด หรือ“ไก่โร๊ด”

1.2. พันธบ์ุ าร์พลีมัทรอ็ ค หรือที่เรยี กกนั วา่ “ไก่บาร”์ เปน็ ไก่ประเภทกง่ึ เน้อื ก่งึ ไข่ มสี ดี ำสลบั กับสีขาว ตามขวางของขน ลักษณะลำตัวยาว หงอนจักร ปากสีเหลือง ตาสีน้ำตาล หงอนเหนียงและตุ้มหูมีสีแดง หนังสี เหลอื ง ขาและนว้ิ เทา้ สีแดง ให้ไข่เปลือกสีนำ้ ตาล ทนตอ่ สภาพแวดล้อมได้ดี โดยเรม่ิ ให้ไข่เม่อื อายุ 521 - 6 เดือน ปัจจุบันนิยมใช้แม่พันธุ์ไก่บาร์พลมี ัทร็อคผสมกับพ่อพันธุ์โร๊ด-ไอส์แลนด์เรดหรือนิวแฮมเชียร์ เพื่อผลิตลูกผสม ไฮบริดเป็นการค้าชนิดคัดเพศได้เมื่อแรกเกิดโดยดูจากสีของขน โดยลูกผสมเพศเมียจะมีขนสีดำและให้ไข่ดก ส่วนลกู ผสมเพศผู้จะมีขนสีบารเ์ ล็ก ไก่พันธบ์ุ าร์พลมี ัทรอ็ ค หรือ “ไกบ่ าร์ 1.3. พนั ธ์เุ ล็กฮอรน์ ขาวหงอนจักร เป็นไก่พันธ์เุ บาท่ีมีขนาดลักษณะว่องไว ปราดเปรียว เจริญเติบโต เร็ว ขน มีสีขาวทั้งตัวหงอนจักร 5 แฉกขนาดใหญ่ หงอนมีสีแดง ปากเหลือง ตุ้มหูสีขาวผิวหนังและหน้าแข้งสี เหลอื ง ให้ไข่เร็ว ให้ไข่ดก ไข่มีเปลอื กสขี าว ทนตอ่ อากาศรอ้ นได้ดี มีประสิทธภิ าพในการเปลย่ี นอาหารค่อนข้าง สงู เริม่ ให้ไขเ่ มอื่ อายุ 421 - 5 เดือน ให้ไข่ปีละประมาณ 300 ฟองปัจจบุ ันไกพ่ ันธเ์ุ ล็กฮอร์นขาวหงอนจกั ร นิยมใช้ ผสมข้ามสายพันธุ์ตั้งแต่ 2 สายพันธุ์ขึ้นไป เพื่อผลิตไก่ไข่ลูกผสมเพื่อการค้าทีใ่ ห้ไข่ดก ไข่ฟองโตและกินอาหาร น้อย ไก่พันธ์เุ ลก็ ฮอร์นขาวหงอนจกั ร

2. ไกพ่ ันธลุ์ ูกผสม เป็นไก่พันธ์ุไข่ท่ีนยิ มเลย้ี งกันในเชิงการค้ามากที่สุดในปัจจุบันเนื่องจากเป็นพันธุ์ไก่ที่ผสมข้ึนเป็นพิเศษ เพ่อื พัฒนาและปรับปรุงพนั ธ์ุให้มีประสิทธิภาพในการให้ผลผลิตไขส่ ูง และมคี ณุ ภาพตรงตามความต้องการของ ตลาดคือ ให้ไข่ดก เปลือกไข่สีน้ำตาล ไข่ฟองโต และไข่ทนนั้น จะต้องเลี้ยงด้วยอาหารที่มีคุณภาพสูงเช่น การ ควบคมุ น้ำหนกั ตวั แสงสวา่ ง ตลอดทง้ั การสุขาภิบาลและการป้องกนั โรคที่ดกี ารเลีย้ งไก่ลูกผสมให้ได้ผลผลิตตรง ตามลักษณะประจำพันธุ์และมีการจัดการที่ถูกต้องการควบคุมในปัจจุบันการควบคุมการกินอาหารไก่ไข่พันธุ์ ลูกผสม ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ เอ.เอ.บราวน์ (A.A. Brown) รอสบราวน์ (Ross Brown) ไฮเซคบราวน์(Hisex Brown) อีซ่าบราวน์(Isa Brown) ซุปเปอร์ฮาร์โก้(Super Harco) ดีคาร์ บวอร์เรน(Dekalb Voren) ฮับบารด์ โกลเด้นคอมเมท(Hubbard Golden Commet) เซพเวอรส์ ตารค์ รอส579 (Shaver Starcross 579) แบ๊บค๊อกบี-380 (BabcockB-380) บาโบลนาเตตร้า-เอสแอล(Babolna Tetra-SL) เป็นต้น ไก่พนั ธล์ุ ูกผสม

บทที่ 3 โรงเรือนไก่ไข่ เนื่องจากโรงเรือนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการควบคุมสิ่งและราคาไม่แพงเหมาะสมส่งผลให้ไก่ เจริญเติบโตเร็วแวดล้อมต่างๆให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงไก่ ดังนั้นการออกแบบโรงเรือนได้อย่าง ถูกต้องทำให้ไก่อยู่ได้อย่างสบายจะให้ผลผลิตไข่ได้มาก มีอัตราการตายต่ำ อีกทั้งยังทำให้การสุขาภิบาลและ การป้องกันโรคสามารถทำไดง้ ่าย และต้นทนุ การผลิตลดลง โรงเรือนท่ดี ีควรสร้างให้ความยาวอยู่ในแนวทิศตะวันออก - ตะวันตก มีลักษณะท่สี ามารถกันแดด กัน ฝน และลมแรงได้ดีสบาย มีการระบายอากาศได้ดีป้องกันศัตรูต่าง ๆ ได้ไม่อับลมและไม่ถึงกับลมโกรกเย็น ให้ แสงแดดในช่วงเช้าและช่วงเย็นส่องเข้าถึงพื้นโรงเรอื นได้ สามารถรักษาความสะอาดได้ง่าย ระบายน้ำได้ดี น้ำ ไม่ขังแฉะ และไม่รกรุงรังสะดวกต่อการเข้าไปปฏิบัติงานต่างๆได้สะดวกควรให้โรงเรือนแต่ละหลังอยู่ห่างกัน ประมาณ 50 เมตร และอยู่ห่างจากบ้านพักพอสมควร นอกจากน้ีควรเป็นแบบที่สร้างง่ายและสะดวกแข็งแรง ทนทาน และมีราคาถกู 1. รปู แบบของโรงเรือน โรงเรือนการเลี้ยงไก่ไข่ท่ีมกี ารสร้างกันในเมืองไทยมี 5 แบบ ได้แก่ 1. เพิงหมาแหงน 2.แบบเพิงหมา แหงนกลาย 3.แบบหน้าจั่ว 4.แบบหน้าจั่วกลาย และ5.แบบหน้าจั่วสองชั้น แต่แบบของโรงเรือนที่ดีที่สุดและ เหมาะที่สุดสำหรับการเลี้ยงไก่ไข่เป็นอาชีพคือแบบหน้าจั่วสองชั้น เพราะเป็นแบบโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน ถูกต้องตามหลกั การสุขาภิบาล

2. โรงเรอื นสำหรบั ไกแ่ ต่ละชว่ งวยั 2.1 โรงเรือนสำหรับไก่เล็ก เป็นโรงเรือนสำหรับใชเ้ ลี้ยงไก่ตั้งแต่ระยะแรกเกิดจนถึงอายุ 5-6 สัปดาห์ โรงเรือนเลี้ยงไก่ไขเ่ ล็กนีจ้ ะมีลักษณะเช่นเดียวกันกับโรงเรือนที่ใช้เลี้ยงไก่เนื้อ คือ จะต้องระบายอากาศไดด้ แี ต่ ลมไม่โกรกไม่ชื้นแฉะพื้นเป็นซีเมนต์ สามารถป้องกันนก หนู สุนัข และสัตว์อื่นได้ ควรอยู่ห่างจากโรงเรือนไก่ รุ่น-ไก่สาวและไก่ไข่พอสมควร และควรอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ30 เมตร นอกจากนี้ควรตั้งอยู่เหนือลม เพอ่ื ปอ้ งกันการติดเชือ้ ของเชอ้ื โรคจากไก่ใหญแ่ ละจากคน 2..2 โรงเรือนสำหรับไก่รุ่น-ไก่สาว เป็นโรงเรือนสำหรับใช้เลี้ยงไก่ตั้งแตอ่ ายุ 6-17 สัปดาห์ โรงเรือน ไก่รุ่น-ไก่สาวจะมพี ื้นท่กี วา้ งกว่าไกเ่ ลก็ มที ี่ให้นำ้ และอาหารขนาดใหญ่ขึน้ พ้ืนอาจเปน็ พืน้ คอนกรีตมวี ัสดรุ องพื้น ปูทบั พนื้ สแลท พ้ืนสแลทบางสว่ น พื้นตาข่ายบางสว่ น หรือพืน้ ตาขา่ ยลว้ น ไก่รุ่น-ไก่สาวจะถูกเลี้ยงอยู่ในโรงเรือนนี้ไปจนถึงอายุประมาณ 18-20 สัปดาห์ หรือก่อนไก่เริ่มไข่ ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นจึง ย้ายไปเลี้ยงในโรงเรือนสำหรับไก่ไข่หรือเลี้ยงในกรงตับต่อไปแต่เนื่องจาก ปจั จบุ นั มรี ะบบการป้องกันโรคทที่ ันสมัย จงึ สามารถเลยี้ งไกต่ ง้ั แตร่ ะยะแรกเกดิ จนถึงอายุ 20 สปั ดาหไ์ ด้ โดยใช้ โรงเรือนเพียงโรงเรือนเดียว แต่จำนวนลูกไก่ที่นำมาเลี้ยงต้องคำนวณจากจำนวนไก่สาวที่สามารถเลี้ยงได้ เทา่ นั้น 2.3 โรงเรือนสำหรับไก่ไข่ โดยทั่วไปผู้เลี้ยงไก่ไข่จะย้ายไกส่ าวไปเลีย้ งในโรงเรือนไก่ไขเ่ ม่ืออายุได้ 18- 20 สัปดาห์ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผู้เลี้ยงอาจจะย้ายไก่สาวเข้าไปเลี้ยงในโรงเรือนไก่ไข่เมื่อไก่อายุ 15-20 สัปดาหก์ ็ได้ สำหรับการเลี้ยงไก่ไข่แบบฝูงปล่อยพื้นนั้น สามารถเลี้ยงไก่ตั้งแตร่ ะยะกกจนถึงระยะให้ไข่ในโรงเรือน เดียวกันได้ แต่จำนวนลูกไก่ที่จะนำมาเลี้ยงต้องคำนวณจากจำนวนไก่ไข่ที่สามารถเลี้ยงได้เท่านั้นโดยเพิ่มรงั ไข่ เข้าไปวางในโรงเรือนในอัตราไก่ไข่ 4-5 ตัวต่อรังไข่ 1 รัง และภายในรังไข่ต้องมีวัสดุรองรังที่แห้งและสะอาด พอสมควร ซึ่งอาจใช้แกลบ ขี้กบ หรือฟางข้าว โดยนำรังไข่เข้าไปวางในโรงเรือนเพื่อให้ไก่ทำความคุ้นเคยสัก ระยะหน่ึงก่อนทแ่ี มไ่ ก่จะวางไข 3. ขนาดของโรงเรือน เนื่องจากโรงเรือนสำหรับเลี้ยงไก่ไข่ที่นิยมมีอยู่ 2 แบบคือ โรงเรือนสำหรับเลี้ยงบนกรงตับ และ โรงเรือนสำหรับการเลยี้ งแบบรวมฝูง ดงั นั้นขนาดของโรงเรอื นกจ็ ะแตกต่างกัน เพราะมีวิธีการเล้ยี งท่ีตา่ งกัน 3.1. โรงเรือนสำหรับการเลี้ยงบนกรงตับ เป็นโรงเรือนที่ค่อนข้างถาวร เหมาะสำหรับการเลี้ยงไก่ไข่ เป็นอาชีพอย่างจริงจัง สามารถสร้างได้หลายขนาดแต่โดยทั่วไปแล้วนิยมสร้างโรงเรือนกว้าง6-8 เมตรยาว ประมาณ 40-50 เมตรหรอื ขน้ึ อยู่กับความเหมาะสม และขึ้นอยกู่ บั ปจั จัยต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง หลงั คาเป็นแบบจั่ว

สองช้ัน มงุ ด้วยกระเบ้ือง พ้ืนเปน็ พืน้ ซีเมนตผ์ นังทั้งส่ีดา้ นกรุด้วยลวดตาขา่ ยโดยตลอด หลงั คาสูงจากพ้ืนไม่น้อย กว่า2 เมตร ภายในโรงเรอื นกนั้ เป็นหอ้ งยาวห้องละ 10-15 เมตร กรงตบั มลี ักษณะเปน็ กรงส่ีเหลี่ยมขนาดเล็ก ทำดว้ ยลวดตาข่ายขนาดกรงกวา้ ง 20 เซนติเมตร ยาว 45 เซนติเมตร ลึก 45เซนติเมตร สามารถใช้เลี้ยงไก่ไข่ได้ 2 ตัว พื้นกรงตับจะเป็นลวดตาข่ายขนาดใหญ่ วางใน ลกั ษณะเอียงให้ไข่ไหลมาด้านหน้า ตดิ ตัง้ ต่อกนั ไปตามความยาวของโรงเรือนจำนวน 2 แถว หันหน้าเข้าหากัน และมีช่องทางเดนิ ตรงกลาง กรงตบั อาจวางซ้อนไดแ้ ตไ่ มค่ วรเกนิ 2 ช้นั 2. โรงเรือนสำหรับการเลี้ยงแบบรวมฝูง อาจเป็นโรงเรือนขนาดเล็กสร้างแบบชั่วคราวด้วยไม้ไผ่ หลังคามงุ ดว้ ยจากหรอื หญ้าคา พน้ื อัดดนิ แนน่ แลว้ ปูด้วยแกลบหรือขเ้ี ลื่อย โดยคำนวณขนาดโรงเรอื น 1 ตาราง เมตรต่อไก่ 3 ตัว หรือขนาดกว้าง 3 เมตรยาว 4 เมตร ต่อไก่ 20 ตัว หากเลี้ยงไก่แน่นเกินไปจะเกิดปัญหาพื้น คอกแฉะ ปัญหาการจิกกันเอง การจิกกินขน ไข่สกปรก ไก่เกิดความเครียดและมีอัตราการตายสูงสำหรับ อุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ในโรงเรือนแบบนี้คือ รังไข่ซึ่งอาจใช้แผ่นไม้บางๆตีเป็นกล่องขนาดกว้าง 30 เซนตเิ มตร ลึก 45 เซนติเมตร ยาว 45 เซนติเมตร วางเรียงกนั เปน็ แถว หรือจะใชต้ ะกรา้ หรอื กลอ่ งไมแ้ ทนกไ็ ด้

บทท่ี 4 อปุ กรณ์ทส่ี ำคญั ในการเลี้ยงไกไ่ ข่ อปุ กรณ์การเลยี้ งไก่ในระยะต่างๆจะมีความแตกต่างกันบ้างทัง้ ขนาดและปรมิ าณ แตจ่ ะต้องจัดใหม้ ี จำนวนท่ีเหมาะสมกบั ขนาดของโรงเรอื นและจำนวนไกท่ ี่เลี้ยง สำหรับอปุ กรณ์การเล้ยี งไกไ่ ข่ที่สำคัญนับต้ังแต่ ระยะกกลูกไก่ไปจนถึงระยะให้ไขม่ ี ดังน้ี 1. เครอื่ งกก เปน็ อุปกรณท์ ีส่ ำคัญมากสำหรับการเลย้ี งลูกไก่ในระยะกกโดยเครื่องกกจะทำหน้าที่ให้ความอบอนุ่ แก่ ลกู ไก่แทนแม่ไก่ สำหรับเครอื่ งกกลกู ไก่ท่ีนยิ มใชใ้ นปจั จบุ ันมี 2 ชนิดคอื เครื่องกกแบบใช้แก๊สและเครอ่ื งกก แบบใช้ไฟฟ้า ในการกกลูกไกจ่ ำเปน็ จะต้องมแี ผงลอ้ มกกให้ลูกไก่อยู่ในบริเวณที่จำกัด เพือ่ รับความอบอุ่นจากเคร่ือง กกอย่างเพียงพอ ซงึ่ ลกั ษณะของแผงลอ้ มกกอาจทำด้วยไมก้ ระดาน ไม้ไผ่สานทเี่ รียกวา่ เสยี ม ยาว 8-12 เมตร หรอื ทำดว้ ยสังกะสแี ผ่นเรยี บยาวแผ่นละประมาณ 1.20 เมตร ส่วนความสงู ของแผงล้อมกกประมาณ 50-60 เซนติเมตร การต่อแผงล้อมกกเขา้ ด้วยกนั ควรตอ่ อยา่ งหนาแนน่ เพอื่ ป้องกันมใิ หล้ ้มทับลูกไก่ สว่ นการจดั รูปทรงของแผงล้อมกกควรจัดใหเ้ ปน็ รูปวงกลมโดยแผงล้อมกกควรวางให้ห่างจากขอบ เครือ่ งกกโดยรอบประมาณ60-80 เซนติเมตร และจะต้องขยายใหเ้ ปน็ วงกลมใหญ่ขึ้นทุก 3-5 วนั ตามระยะ การเจริญเติบโตของลูกไก่ เพ่ือเป็นการป้องกนั การขังแนน่ เครอ่ื งกกแบบใชแ้ กส๊ เคร่อื งกกแบบใชไ้ ฟฟ้า 2. ภาชนะให้อาหาร ควรเลือกใชภ้ าชนะให้อาหารทม่ี คี ุณภาพดี โดยในการเลือกใชน้ ัน้ ให้พิจารณาชนดิ ขนาด และจำนวนท่ี เหมาะสมกบั จำนวนไกท่ ่เี ลี้ยง สำหรบั ภาชนะให้อาหารไกแ่ บง่ ออกเป็น 4 ชนดิ คือ 2.1 ถาดอาหาร มลี ักษณะแบนกว้าง ลกู ไก่สามารถมองเห็นอาหารได้งา่ ย และเขา้ ออกเพ่ือกนิ อาหาร ไดส้ ะดวก เหมาะสำหรับใช้กับลกู ไก่ ซึ่งถาดอาหารขนาด 48x72x6.5 เซนตเิ มตร(กว้างxยาวxสงู ) จำนวน 1

ถาด ใช้เล้ียงลูกไก่อายุ 1-7 วันได้จำนวน 100 ตัว นอกจากนอ้ี าจใช้ฝากล่องทบี่ รรจลุ กู ไก่มาใชแ้ ทนถาดอาหาร ก็ได้ โดยฝากล่อง 1 ฝาใช้กบั ลกู ไก่ได้ 100 ตัว ถาดอาหารไก่ 2.2 รางอาหาร อาจทำดว้ ยไม้ พลาสติก เอสล่อน หรอื สังกะสี ทำเปน็ รางยาวใหไ้ กย่ ืนกินอาหารได้ ขา้ งเดยี วหรือสองขา้ งนอกจากน้ีอาจทำจากลำไม้ไผ่ขนาดใหญ่ผ่าซีกแทนกไ็ ด้ เพ่ือลดค่าใช้จา่ ย สำหรบั พนื้ ทร่ี างอาหารในการใหอ้ าหารไกไ่ ขร่ ะยะตา่ ง ๆ เปน็ ดังน้ี - ไกอ่ ายุ 0-4 สัปดาห์ ใชร้ างอาหารยาว 8 ฟตุ /ลูกไก่ 100 ตัว - ไกอ่ ายุ 5-8 สัปดาห์ ใชร้ างอาหารยาว 12 ฟตุ /ลกู ไก่ 100 ตวั - ไกอ่ ายุ 9 สปั ดาห์ขน้ึ ไป ใชร้ างอาหารยาว 33 ฟตุ /ไก่ 100 ตวั รางอาหารไก่พลาสติก รางอาหารไกจ่ ากไม้ไผ่ 2.3 ถังอาหาร อาจทำดว้ ยเอสล่อนหรอื พลาสติก เปน็ ถงั แขวนมีขนาดเสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง 16 นว้ิ มเี ส้น รอบวงประมาณ 50 นิ้ว สำหรบั จำนวนถงั อาหารที่ใชจ้ ะแตกต่างไปตามอายขุ องไก่ดงั น้ี - ไก่อายุ 2-3 สัปดาห์ ใช้ 3-4 ถัง/ลูกไก่ 100 ตวั - ไก่อายุ 4-8 สปั ดาห์ ใช้ 4-5 ถัง/ลกู ไก่ 100 ตัว - ไกอ่ ายุ 9-23 สปั ดาห์ ใช้ 8 ถงั /ไก่ 100 ตัว - ไก่อายุ 24 สัปดาห์ขึ้นไป ใช้ 5-6 ถงั /ไก่ 100 ตัว

2.4 ภาชนะให้อาหารแบบอัตโนมัติ เหมาะกับการเล้ยี งไก่ไขเ่ ปน็ การคา้ มีขอ้ ดีคอื ประหยัดแรงงาน ไดม้ ากและไก่จะได้กนิ อาหารใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่การลงทุนครั้งแรกจะสงู ซึ่งรางอาหารอัตโนมัติมีอยู่หลาย แบบ แต่แบบท่นี ิยมใช้กบั การเล้ยี งไก่ไข่บนกรงตบั ก็คือ แบบทอ่ และราง (auger and trough) เคร่ืองให้อาหารอัตโนมัติ 3. ภาชนะใหน้ ้ำ ภาชนะให้น้ำที่ดีควรรักษาให้น้ำสะอาดและเย็นอยู่เสมอ สะดวกในการล้าง และน้ำไม่หกเรี่ยราดตาม พื้นโดยรอบ ซึ่งอุปกรณ์ให้น้ำไกม่ หี ลายประเภทดว้ ยกัน ไดแ้ ก่ 3.1 รางน้ำเอสล่อน มีความยาวไม่จำกัด มีก๊อกปล่อยน้ำลงรางอยู่ทางหัวรางและมีก๊อกปล่อยน้ำทิ้ง อยู่ท้ายราง เป็นอุปกรณ์ให้น้ำที่ทำความสะอาดง่ายการเลี้ยงลูกไก่อายุ 1-3 สัปดาห์ให้ใช้รางน้ำเอสล่อนยาว 2-2.5 ฟุต/ลกู ไก่ 100 ตัว สว่ นไก่อายุ 3 สัปดาห์ขึ้นไป ให้เพม่ิ ความยาวข้นึ อีก 3 เท่าและไกร่ ะยะให้ไข่ควรให้มี เน้อื ท่ีรางประมาณ 1 น้ิว/ไก่ 1 ตวั รางนำ้ เอสลอ่ น 3.2 รางน้ำอตั โนมตั ิ มีทั้งแบบตั้งและแบบแขวน โดยท้ัง 2 แบบ จะมวี าล์วเปน็ ตวั ควบคมุ ระดบั น้ำ ซ่ึง จะสัมพันธ์กับปริมาณน้ำที่มีอยู่ในราง มีความยาว 8 ฟุต เมื่อคิดความยาว 2 ด้านจะได้เนื้อที่ให้น้ำยาว 16 ฟุต สามารถให้นำ้ ไกไ่ ดป้ ระมาณ 200 ตัว

3.3 ถงั นำ้ อตั โนมัติ มขี นาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 15 นิ้ว ในจำนวน 1 ถัง สามารถใชเ้ ล้ยี งไก่ได้ 45 ตวั ถังน้ำอตั โนมัติ 3.4 ที่ให้น้ำแบบถ้วยน้ำหรือจุ๊บน้ำ ถ้าเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยพื้น ใช้เลี้ยงไก่ได้ 10-12 ตัว/อันแต่ถ้า เลย้ี งแบบกรงตับใชเ้ ลยี้ งไกไ่ ด้ 2-4 ตัว/อนั ทีใ่ หน้ ้ำแบบถ้วยนำ้ หรือจ๊บุ น้ำ 3.5 กระปุกนำ้ หรือขวดน้ำควำ่ นยิ มใช้กนั มาก เพราะใช้สะดวก ราคาไม่แพง มหี ลายขนาดให้เลือกใช้ และรักษาความสะอาดของน้ำได้ดี สำหรับปริมาณและขนาดที่ใช้จะต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำและเนื้อที่ให้น้ำ ควบค่กู นั ไปดงั น้ี - ขวดน้ำขนาดความจุ 1 แกลลอน ใช้ 1 ขวด/ลูกไก่ 10 - 15 ตวั 4 - ขวดนำ้ ขนาดความจุ 1 แกลลอน ใช้ 1 ขวด/ลูกไก่ 100 ตัว หรือไกใ่ หญ่ 12-15 ตวั - ขวดน้ำขนาดความจุ 2 แกลลอน ใช้ 1 ขวด/ไก่ใ หญ่ 17- 35 ตัว กระปุกนำ้ หรือขวดน้ำคว่ำ

4. อุปกรณใ์ ห้แสงสวา่ ง เนื่องจากแสงเป็นปัจจัยที่สำคัญและจำเป็นต่อการเลี้ยงไก่ไข่ เพราะแสงสว่างมีความจำเป็นต่อการ มองเห็นของไก่ไม่วา่ เวลาไกก่ ินอาหาร กินน้ำ หรอื อน่ื ๆ แสงมีผลตอ่ อัตราการเจริญเตบิ โตของไก่ อายุเริ่มไข่ของ ไก่ และอตั ราการไขด่ ังนน้ั ภายในโรงเรือนเล้ยี งไก่จะตอ้ งมีอุปกรณ์การใหแ้ สงสว่างอยา่ งเพยี งพอ โดยท่วั ไปนิยม ติดตงั้ หลอดไฟ สำหรับหลอดไฟทน่ี ยิ มใช้กนั มากคือ หลอดกลมธรรมดา หลอดฟลูออเรสเซนต์หรอื หลอดนีออน และหลอด LED 5. วัสดุรองพ้ืนคอก มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการกกลูกไก่และการเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยพื้น วัสดุรองพื้นที่ดีนั้นจะต้องดูด ซับความชื้นจากพื้นคอกได้ดี ลักษณะค่อนข้างหยาบ แต่ขนาดต้องไมใ่ หญ่จนเกินไปหรอื ละเอียดจนเป็นฝุ่น ไม่ อดั แนน่ ง่าย ไม่เปน็ ฝนุ่ และช้นื ราง่าย คายความช้นื ไดด้ ี แหง้ เร็ว ควรเปน็ วสั ดทุ ่ีใหม่ แห้งสะอาดปราศจากเช้ือรา และฝนุ่ ละออง มนี ำ้ หนักเบา ควรหาได้ง่ายในท้องถิ่นและราคาถกู วัสดุรองพื้นที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป ได้แก่ แกลบ ขี้เลื่อย ขี้กบ ชานอ้อย ต้นข้าวโพด ฟางข้าว ซังฝัก ข้าวโพด เปลือกฝ้าย เปลือกถั่วลิสง เปลือกไม้และทราย แต่ถ้าใช้แกลบควรมีฟางข้าวโรยหน้าบางๆ เพ่ือ ป้องกันไกค่ ุ้ยแกลบลงไปในรางน้ำและรางอาหาร 6. คอนนอน การเลี้ยงไก่แบบปล่อยพื้นโดยเฉพาะระยะไก่สาวและระยะไก่ไข่ จำเป็นจะต้องทำคอนนอนไว้สำหรับ ให้ไก่ได้นอน ส่วนการเลี้ยงไก่แบบกรงตับ คอนนอนก็ไม่มีความจำเป็น คอนนอนทำด้วยไม้ขนาด 1x4, 1x3, 2x4, 2x3 หรอื 2x2 นวิ้ สว่ นความยาวตามความตอ้ งการ ลบเหลย่ี มไม้ใหก้ ลม คอนนอนควรสร้างให้ติดขา้ งฝาด้านใดด้านหนึ่งของโรงเรือนที่ฝนไม่สาดและลมผ่านไมแ่ รง แต่ควรอยู่ ดา้ นตรงกันข้ามกับรงั วางไข่ โดยวางเอาดา้ นแคบขึน้ วางห่างกนั ประมาณ 30-40 เซนตเิ มตรใหม้ ีพ้ืนทค่ี อนนอน ประมาณ 15-20 เซนตเิ มตรตอ่ ไก่ 1 ตัวสำหรับไกส่ าว และ 25-30 เซนตเิ มตรต่อไก่ 1 ตวั สำหรับไกร่ ะยะให้ไข่

คอนนอนไก่ 7. รงั ไข่ เป็นอปุ กรณ์ทส่ี ำคญั สำหรบั การเล้ียงไก่ไข่แบบปล่อยพ้นื รวมฝูง โดยผู้เลยี้ งจะต้องจัดเตรียมรังไข่ไว้ให้ เพยี งพอกับจำนวนไก่ท่ีไข่ เพ่ือปอ้ งกันไม่ให้ไกแ่ ย่งรังไขก่ นั รงั ไข่ท่นี ิยมใช้กนั มีอยู่ 2 ชนดิ คือ 7.1 รงั ไขเ่ ดยี่ ว นิยมใชก้ นั ท่วั ไป มลี กั ษณะเป็นแถวยาวโดยทำเป็นแบบสองแถวๆละ 4-6 ชอ่ ง หันหลัง ชนกันและซ้อนกัน 2-3 ชั้น โดยทั่วไปทำเป็นช่องขนาดกว้าง 25-30 เซนติเมตร สูง35-40 เซนติเมตร และลึก 30-35 เซนติเมตร ด้านหน้าเปิดและมีขอบสูงขึ้นมาประมาณ 8-10 เซนติเมตร ส่วนด้านหลังอาจเปิดหรือปิด ด้วยลวดตาข่ายตาห่างเพื่อช่วยให้มีการระบายอากาศได้ดีขึ้นหลังคาของรังไข่ชั้นบนสุดควรให้ลาดลงแบบ หลงั คาจั่วหรอื มีตาข่ายปดิ ก้ัน ด้านหนา้ รังไข่ควรมีคอนให้ไก่ได้เกาะก่อนเข้าและออกจากรงั ไข่ และรงั ไขค่ วรจะปิดไดใ้ นเวลากลางคืน วางเรียงเป็นแถวโดยให้ชั้นล่างสูงจากพื้นคอกประมาณ 45 เซนติเมตร สำหรับอัตราส่วนท่ีเหมาะสมคือ รังไข่ เดย่ี ว 1 ชอ่ งตอ่ แม่ไก่ 4-5 ตวั

7.2 รังไข่รวม มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมกว้างประมาณ 50-60 เซนติเมตรยาวประมาณ 150-200 เซนติเมตร พื้นอาจทำด้วยตาข่ายตาถี่และแข็งหรือไม้กระดานแล้วปูด้วยวัสดุรองรังข้างในไม่กั้นเป็นช่อง มี ทางเข้าออกด้านหัวและท้าย วัสดุรองรังที่นิยมใช้ ได้แก่ ฟางข้าว แกลบ ขี้กบ เศษผ้า หญ้าแห้ง เป็นต้น รังไข่ รวมไมเ่ หมาะสำหรับประเทศไทย เพราะอากาศรอ้ น การระบายอากาศภายในรังไขไ่ มด่ ี สำหรบั ตำแหน่งการวางน้ันควรตงั้ หรอื แขวนไว้ในด้านตรงข้ามกบั คอนนอน และจะต้องเปน็ ท่ีร่มมิดชิด เงียบสงบ อากาศถ่ายเทได้ดี ฝนสาดไม่ถึง และแม่ไก่สามารถเดินเข้าออกได้สะดวก ซึ่งรังไข่รวม 1 รัง จะ เพยี งพอสำหรบั ไกไ่ ข่ 50-60 ตวั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook