Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปเนื้อหาศึกษาดูงาน นบต.ปปส. 14

สรุปเนื้อหาศึกษาดูงาน นบต.ปปส. 14

Published by Guset User, 2021-10-20 04:32:29

Description: สรุปเนื้อหาศึกษาดูงาน นบต.ปปส. 14

Search

Read the Text Version

สรุปการศึกษา ดูงานในพื้นที่ หลักสูตร นักบริหารงานป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดระดับต้น (นบต.ปปส. ) รุ่นที่ ๑๔

คำนำ สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สพบ.) ได้ดำเนินการจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร นักบริหารงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับต้น รุ่นที่ ๑๔ ขึ้น เพื่อให้ผู้บริหารระดับต้น มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องหลักการบริหารที่ทันสมัย มีวิสัยทัศน์ ที่กว้างไกล มีลักษณะของผู้นำยุคใหม่ ตลอดจนมีคุณธรรมและจริยธรรมในการครองตนให้เหมาะสมกับ การเป็นผู้บริหารในยุคของการเปลี่ยนแปลง สามารถสร้างแรงจูงใจ และแนะนำวิธีการทำงานให้บรรลุ วัตถุประสงค์ให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนทำให้การทำงานระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา เกดิ การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ระหวา่ งกนั และพัฒนาไปสกู่ ารทำงานทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ มีการส่งผลใหก้ ารบริหารงาน บรรลุผลตามเป้าหมายที่ตั้งใจ รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนให้การดำเนินงาน ป้องกัน และปราบปรามยาเสพตดิ เกิดประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลสงู สดุ การฝึกอบรมกิจกรรมช่วงที่ ๓ เป็นการศึกษาดูงานพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างวันอังคารท่ี ๒๑ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และศึกษาดูงานพื้นที่ภาคเหนือ ระหว่างวันพุธที่ ๒๙ กันยายน - วันศุกร์ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ณ จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะเป็นการศึกษาดูงาน ในพื้นที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน คณะผู้จัดขอขอบคุณผู้เข้ารับการฝึกอบรม ทุกท่าน ที่ได้ให้ความร่วมมือในการจัดทำสรุปสาระสำคัญในการศึกษาดูงานในพื้นที่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึง่ คณะผู้จดั ทำหวังเป็นอยา่ งยิง่ ว่า รายงานสรุปสาระสำคัญเล่มน้ี จะเป็นประโยชนก์ ับผูเ้ ขา้ รับการฝึกอบรม ใน การทบทวนบทเรียน และสามารถนำความรทู้ ่ีได้ไปปรบั ใช้การดำเนนิ งานและพัฒนางานต่อไป ส่วนพฒั นาบคุ ลากรด้านบรหิ าร สถาบนั พฒั นาบุคลากรด้านการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ตลุ าคม ๒๕๖๔

เอกสารรายงาน การศึกษาดงู านในหลกั สูตร นกั บรหิ ารงานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติดระดับต้น (นบต.ปปส.) รุ่นที่ ๑๔ ณ กองบนิ ๗ จังหวัดสุราษฎร์ธานี วนั ที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๔ หวั ข้อการศกึ ษาดูงาน แนวทางการฟนื้ ฟูสมรรถภาพผตู้ ิดยาเสพตดิ อย่างไรใหไ้ ด้ผล จดั ทำโดย กลมุ่ ปงิ เอกสารรายงานน้ี เป็นสว่ นหน่งึ ของการฝึกอบรม หลกั สตู ร นักบรหิ ารงานปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติดระดับตน้ ร่นุ ที่ ๑๔ สถาบนั พฒั นาบุคลากรดา้ นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.

รายชื่อสมาชกิ กลมุ่ ปงิ ลำดับที่ ช่อื – สกุล ตำแหนง่ / สังกดั ๑ พันโท วสันต์ ทองสกุ ดี กรมการสารวัตรทหารบก ๒ นางสาวกวีธิดา ใจศริ ิ กรมการพัฒนาชุมชน ๓ นางสาววีรภทั รา ปั้นศรี สำนกั งาน ป.ป.ส. ๔ นายมานพ กาหลง สำนักงาน ป.ป.ส. ๕ นายสรุ พิชญ์ อัตตนาค สำนกั งาน ป.ป.ส. ๖ นางสาวมัชฌมิ า คงเมอื ง สำนักงาน ป.ป.ส. ๗ นางสาวเบญจวรรณ รตั นมงคลกุล สำนักงาน ป.ป.ส. ๘ นายธงไทย สมเกียรติกลุ สำนักงาน ป.ป.ส. ๙ นายภณภัค กนั ทรากรณ์ สำนักงาน ป.ป.ส. ๑๐ นายธรรมรัตน์ ธรรมยาฤทธิ์ สำนักงาน ป.ป.ส. ๑๑ นายวิทวรรณ นชุ แผน สำนักงาน ป.ป.ส. ๑๒ นางสาวขวญั แกว้ ธาลโชติ สำนกั งาน ป.ป.ส. ๑๓ นางกรวรรณ ใสยจติ ต์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน

รายงานสรปุ สาระสำคัญ หลกั สตู ร นกั บรหิ ารปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ ระดับต้น (นบต.ปปส.) รนุ่ ที่ ๑๔ 1. สรุปสาระสำคญั ของเนอ้ื หาวิชา นาวาอากาศโท จรุญ รามอ้น หัวหน้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด กองบิน 7 บรรยายชี้แจง ความเป็นมาการจัดตั้งศูนย์ขึ้นเมื่อปี 2546 ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พุทธศักราช 2545 ให้ถือว่าผู้ติดยาเสพติดสมองเป็นผู้ป่วย จึงให้ชะลอการฟ้องคดีแต่ต้องจัดให้เข้าไปอยู่ในสถานที่บำบัด ยาเสพตดิ เพ่ือเป็นการสนองนโยบายของรฐั บาล ทางกองทพั อากาศจึงจดั ตัง้ ศูนย์ฟ้นื ฟูประเภทบังคับบำบัดแบบ ควบคุมตัวเข้มงวด เขา้ สู่โครงการบังคับบำบดั ผ่านสำนักงานคุมประพฤติ ในรปู แบบบงั คับบำบัด โดยใช้การสุ่ม ตรวจบำบัด 16 ครั้ง โดยบรรยายสรุปผลการดำเนินการร้อยละ 95 ของผู้ที่ผ่านกระบวนการฟื้นฟูสามารถ เลิกเสพยาและไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำ โดยได้รับความพึงพอใจจากการบำบัดรักษาจากการประเมินของ ผู้ปกครอง ซึ่งทางศูนย์จะมีการติดตามประเมินผลหลังการฟื้นฟูและกลับไปอยู่ที่บ้าน โดยใน 1 เดือนจะให้ กลับมารายงานตัวและตรวจปัสสาวะที่ศูนย์ ด้วยความรว่ มมอื จากทางผู้ปกครองครอบครัวร่วมใจกัน เป็นตาม แนวทางจิราสา กองทัพอากาศอย่างมีมาตรฐาน การบริหารการฟ้นื ฟูสมรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพติด โดยกำหนดสีเสอื้ ของผ้เู ขา้ รับการบำบัด ตามระยะดูแล ทีก่ ำหนด เช่น ระยะแรกรับ ระยะฟน้ื ฟูสมรรถภาพ ระยะเตรียมตวั ก่อนกลับสสู่ ังคม โดยกำหนดเป็นเส้ือสีแดง ส้ม เหลือง เขียว ตามลำดับ ทั้งนี้ศูนย์กำหนดผู้ช่วยด้วยเสื้อสีม่วงเพื่อช่วยในการจัดกิจกรรมและสร้างคุณค่า มกี ารกำหนดตารางเวลากิจกรรมเสริมสร้างสมรรถร่างกาย จติ ใจใหเ้ ข้มแขง็ และฟน้ื ฟทู ศั นคตแิ ละเตรียมความ พร้อมด้านอาชีพภายหลังครบกระบวนการการบำบัด ผ่านการจัดกิจกรรมภายในศูนย์ อาทิเช่น โครงการ อาชีวะบำบัดเพื่อสร้างอาชีพหรือรายได้เสริมด้วยการปลูกดาวเรือง เพาะเห็ดนางฟ้า และเลี้ยงสัตว์ และ สอดแทรกกิจกรรมพื้นฐานเพื่อช่วยเหลอื สังคม อาทิเช่น การฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพืน้ ฐาน (CPR) การปฐม พยาบาล การใช้อุปกรณเ์ คร่อื งชว่ ยหายใจ/ออกซิเจน และการฝกึ อบรมดบั เพลิง เปน็ ตน้ 2. ขอ้ คดิ และประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ 1. การดำเนินการฟ้นื ฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพตดิ ให้ไดผ้ ล ต้องปฏิบตั ิตามแนวทางมาตรฐานแบบควบคุม ตัวตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูฯ พ.ศ. 2545 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทราบวิธีการปฏบิ ัติตามขั้นตอนผ่านการ ฝกึ อบรม จดั กิจกรรมกระบวนการกล่มุ การให้ความรู้ และการสรา้ งงานอาชีพ 2. การพิจารณาการดำเนินการส่งเสริมอาชีวะบำบัดให้มีประสิทธิภาพ ควรพิจารณาจัดกิจกรรมให้ สอดคล้องกับพื้นฐานความรู้ความสามารถหรือภูมิหลังของผู้เข้ารับการบำบัด เพื่อให้ง่ายต่อการฝึก ปฏบิ ตั แิ ละนำไปใช้ในอนาคต 3. ประสิทธิภาพการติดตามผู้ผ่านการบำบัดให้ประสบผลสำเร็จ เกี่ยวข้องกับทัศนคติของผู้เข้ารับการ บำบัด และครอบครัวญาติของผู้เข้าบำบัดที่มีต่อเป้าหมายการบำบัด ทั้งนี้ควรดำเนินการปรับความ เข้าใจต้งั แตเ่ ร่ิมเขา้ สกู่ ระบวนการบำบัด 3. การนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการปฏิบัตงิ าน จากนโยบายยาเสพติดแนวใหม่ ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย ภาครัฐเปิดโอกาสใหผ้ ูป้ ่วยยาเสพติดสามารถเข้ารับ การบำบัดรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสพสามารถเข้ารับการบำบัดใน สถานพยาบาล ภายใต้การดูแลเอาใจใสจ่ ากผเู้ ชี่ยวชาญและบุคคลากรทางการแพทย์ ด้วยแนวทางการลดทอน

ความเป็นอาชญากรรมของผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ให้เข้าสู่ระบบบังคบั บำบัด เป็นการนำมาตรการอืน่ แทน การลงโทษจำคุกมาใช้ ผ่านการกำกับดูแลรว่ มกันระหว่างกรมคุมประพฤติและศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ การดำเนนิ การฟืน้ ฟูสมรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพตดิ ให้ไดผ้ ล จำเป็นตอ้ งอาศยั การนำกระบวนการมสี ว่ นร่วม ของผู้เข้ารับการบำบัด ครอบครัว ผู้ปกครอง ผ่านการชีแ้ จงทำความเข้าใจปรับเปลี่ยนมุมมอง เข้ามาใช้ในการ ติดตามผู้ผ่านการบำบัด นอกจากนี้การปฏิบัติงานของศูนย์มีความจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจาก ผู้บังคับบัญชา งบประมาณและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติงานของศูนย์ให้เป็นไปอย่างเต็ม ประสทิ ธิภาพ

เอกสารรายงาน การดงู านในหลกั สูตร นกั บริหารงานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติดระดับตน้ (นบต.ปปส.) รุ่นที่ 14 พ้ืนที่จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี วนั ท่ี 21 กันยายน 2564 หัวขอ้ การศกึ ษาดงู าน เรื่อง การปลดลอ๊ คกระท่อมและการส่งเสรมิ พัฒนาปลกู พชื เศรษฐกจิ ณ ตำบลน้าํ พุ อำเภอบ้านนาสาร จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี จัดทำโดย กลมุ่ วงั เอกสารรายงานนี้เป็นส่วนหนึง่ ของการฝึกอบรม หลักสูตรนักบริหารงานปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติดระดบั ต้น รุน่ ที่ 14 สถาบันพัฒนาบคุ ลากรด้านการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ สำนกั งาน ป.ป.ส.

รายชือ่ สมาชกิ กล่มุ 1. พนั โท ชัยรตั น์ สุจิตราพทิ ักษ์ ตำแหน่ง หัวหนา้ ฝา่ ยปฏบิ ตั ิการและขา่ วยาเสพตดิ สังกัดศูนยป์ ฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ 2. นายภราดร บุญจนั ทร์คง ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 3. นางสาวศิริรกั นันแก้ว ตำแหน่ง พนักงานคุมประพฤตชิ ำนาญการ สังกดั กรมคุมประพฤติ 4. นายบุญมา วรรณบุตร ตำแหน่ง พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ 5. นายประกาญจน์ ชอบไพบูลย์ สังกัด ศนู ยฝ์ กึ และอบรมเด็กและเยาวชนสริ นิ ธร 6. นายดวงจันทร์ สบื เชอ้ื กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 7. นางชลธชิ า แกว้ ไชยะ ตำแหนง่ นกั วชิ าการคอมพวิ เตอรช์ ำนาญการ 8. นายสวโรจน์ จักกภมู ิ สงั กดั ศนู ยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศ สำนักงาน ป.ป.ส. 9. นางสาวสายสมร รอดแก้ว ตำแหนง่ นิติกรชำนาญการ 10. นางสาวปยิ ะวรรณ เก็มเดน็ สังกดั กองกฎหมาย สำนกั งาน ป.ป.ส. 11. นายกฤตภาส บุญฤทธิ์ ตำแหน่ง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ 12. นายธติ ิ ดวงสรอ้ ยทอง สงั กัด สำนกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 2 ตำแหน่ง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ 13. นางสาวอุดาการ กหุ ลาบเหลอื ง สังกดั สำนกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 ตำแหน่ง นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ สงั กัด สำนักงานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 6 ตำแหน่ง นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ สงั กัด สำนกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 ตำแหน่ง นักวเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ สงั กัด สำนักงานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 ตำแหน่ง นกั สบื สวนสอบสวนชำนาญการ สงั กัด สำนกั ปราบปรามยาเสพตดิ สำนักงาน ป.ป.ส. ตำแหนง่ นายแพทยช์ ำนาญการพิเศษ สังกัดสถาบนั บำบดั รักษาและฟนื้ ฟูผู้ตดิ ยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตำแหน่ง นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ สงั กัด กองนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนกั งานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ

เรอื่ ง การปลดล๊อคกระท่อมและการสง่ เสริมพัฒนาปลกู พชื เศรษฐกิจ ณ ตำบลน้าํ พุ อำเภอบ้านนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี วันท่ี 21 กันยายน 2564 บรรยาย โดย 1. นายกมั ปนาท กลนิ่ เสาวคนธ์ นายอำเภอบา้ นนาสาร 2. นายพรี ะ กาญจนพงศ์ ผู้อำนวยการ สำนกั งาน ปปส. ภาค 8 3. นายสงคราม บัวทอง กำนนั ตำบลบา้ นน้ำพุ 4. นายเศรษฐพร รามรงค์ ผอ.รพ.สต.บ้านยางอุง 5. นายศุภวฒั น์ กลอ่ มวเิ ศษ ปราชญช์ าวบ้าน

ข้อมูลทั่วไปของตำบลนำ้ พุ และความเปน็ มาของน้ำพโุ มเดล ตำบลนํา้ พุ อำเภอบา้ นนาสาร จังหวดั สุราษฎร์ธานี ตำบล \"น้ำพุ\" อำเภอบ้านนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี แยกมาจากตำบลท่าชี เมื่อวนั ที่ 27 ธนั วาคม พ.ศ. 2529 และได้ยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ เม่ือวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 มีหมู่บ้าน ทงั้ หมด จำนวน 6 หมบู่ ้าน คือ - หมู่ที่ 1 บา้ นยางอุง - หมู่ท่ี 2 บา้ นน้ำพุ - หมู่ท่ี 3 บ้านนายาว-ดอนสร้อยทอง - หมู่ที 4 บ้านดอนทราย - หมู่ท่ี 5 บ้านหนองต้อ - หมู่ท่ี 6 บา้ นควนใหม่ อาณาเขตของตำบล ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลบ้านนา อำเภอบ้านนาเดมิ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทิศตะวันออก ตดิ ต่อกับเทศบาลเมืองนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี ทิศใต้ ติดต่อกบั ตำบลควนศรี อำเภอบา้ นนาสาร จังหวัดสุราษฎรธ์ านี ทศิ ตะวันตก ติดต่อกับตำบลทา่ ชี อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี ภมู ปิ ระเทศ ลักษณะภูมิประเทศ พื้นทสี่ ่วนใหญ่เป็นที่ราบ จึงเหมาะสำหรับการทำการเกษตร เชน่ สวนผลไม้ สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน สภาพดินเป็นลกั ษณะดินเหนยี วและดนิ ร่วน น้าํ พุโมเดล เป็นรูปแบบการควบคุมพืชกระท่อม โดยการมีส่วนรว่ มของชุมชนทพ่ี ัฒนาขึ้นใน พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กับพ้ืนท่ี ตำบลน้ําพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดย นายสงคราม บัวทอง กำนันตำบลนํ้าพุ พร้อมด้วย ภาคประชาชน นักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐระดับพื้นที่ และระดบั สว่ นกลาง ความรว่ มมือน้ีมีวตั ถุประสงคห์ ลักในการลดความขดั แย้งระหว่าง ประชาชนที่ยังคงใช้พืชกระท่อมตามวิถีการดำรงชีวิต กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ต้องรักษากฎหมาย รวมถึงเป็นการ แก้ไขปัญหาพืชกระท่อมในระดับพ้ืนที่และการค้นหารูปแบบการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของระดับนโยบาย เพ่ือพัฒนาให้กลายเป็นโมเดลต้นแบบหรือพื้นที่ต้นแบบของประเทศ ในการเป็นแหล่งเรียนรู้เพ่ือขยายผลรูปแบบ การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ โดยนำ “แนวคิดชุมชนเป็นศูนย์กลาง ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด แนวคิด ธรรมนูญสุขภาพและกระบวนการมีส่วนรว่ ม” เปน็ กรอบพฒั นารวมถงึ นำนวตั กรรมและเทคโนโลยีทที่ นั สมยั มาใช้

สรุปผลการบรรยายของวิทยากร พระราชบัญญัติยาเสพติดใหโ้ ทษ (ฉบบั ท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๖๔ มีผลบังคับใช้ในวนั ท่ี ๒๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔ ซ่ึงนโยบายการถอดพืชกระท่อม ออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ มีวัตถุประสงค์เพ่ือลดความผิด ที่เป็นคดีด้านยาเสพติด ทำให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์สูงสุด ท้ังภาคประชาชน และนักวิชาการ แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องควบคมุ และกำกับดแู ลเพ่อื ไมใ่ ห้มกี ารนำพชื กระท่อมไปใชใ้ นทางทผี่ ดิ “พืชกระท่อม” เป็นพืชพื้นท้องถิ่นที่พบมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณเขตป่าฝนของ ประเทศไทย ชาวบ้านในภาคใต้เคี้ยวใบกระท่อมมาตั้งแต่ด้ังเดิม โดยใช้เป็นตัวกระตุ้นเพื่อช่วยในการทำงานให้ ทนทานมากข้ึน ใช้เป็นยารักษาโรค และในการสังสรรค์กับเพ่ือน ๆ กระท่อมจึงเป็นพืชที่แสดงบทบาทหน้าท่ี ทางสังคม วัฒนธรรมของท้องถ่ินภาคใต้อย่างชัดเจน ท้ังในด้านการใช้ เป็นเครื่องเสริมแรง เพ่ิมประสิทธิภาพในการ ทำงาน ทำนา ทำสวน และการทำประมง นอกจากน้ี กระท่อมยังถูกใช้เป็นยารักษาโรค เป็นของขบเคี้ยวระหว่าง เพื่อนฝูง และเป็นของเพื่อต้อนรับแขกท่ีมาเยือน รวมท้ังถูกใช้ให้ทำหน้าท่ีสนับสนุน กิจกรรมสร้างสรรค์ ศลิ ปวัฒนธรรม สรา้ งความสัมพันธข์ องผ้คู นในสังคม ท้ังในการแสดงพื้นเมือง เชน่ หนังตะลุง การเล่นกีฬาพ้ืนบา้ น เช่น ชนวัว ชนไก่ เป็นต้น และใบกระท่อมถูกใช้เพ่ือการบูชาส่ิงศักด์ิสิทธ์ิ หรือเซ่นไหว้บรรพบุรุษ หรือใช้บนบาน ศาลกลา่ วกบั วิญญาณเทพยดา เจ้าท่ตี ามความเชื่อและศรทั ธาของแต่ละบุคคล ผลกระทบหลังจากการได้รบั สารสกัดจากใบกระท่อมเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป โดยเบ้ืองต้น อาการที่ พบได้บ่อยหลังจากการเค้ียวใบกระท่อมหรือ ด่ืมน้ำต้มใบกระท่อม ได้แก่ ปากแห้ง คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก น้ำหนักลด กระสับกระส่าย วิตกกังวล ผู้ใช้ ใบกระท่อมบางรายอาจจะมีอาการใจส่ัน เหง่ือออกมาก ส่ัน เกร็ง ก้าวร้าวเพ่ิมข้ึน ระดับความรู้สึกตัวเปล่ียนแปลง พิษระยะยาว การสะสมสารสกัดจากพืชกระท่อม ไว้ในร่างกายเป็น ระยะเวลานาน โดยผู้ที่ใช้พืชกระท่อม เป็นประจำ อาจมีอาการตากระตุก (nystagmus) หรือ มีอาการส่ันได้ และใน ผทู้ ีใ่ ช้พืชกระทอ่ ม เปน็ ระยะเวลานาน ทำใหม้ ีสผี วิ คลํ้าขึ้น (เน่ืองจากผูใ้ ช้พชื กระทอ่ มสว่ นใหญ่ ใชเ้ พ่ือการทำงาน ให้ ทำ งานได้นานข้ึนและทนแดด มากข้ึน) นอกจากนี้ยังมีผิวแห้ง ปากแห้ง ท้องอืด ท้องผูก สีอุจจาระเปล่ียน ปัสสาวะบ่อย นํ้าหนักลดเน่ืองจาก เบื่ออาหารหรือทำงานจนลืมความอยากอาหาร และอาจ มีผลต่อจิตประสาท ทำให้เกิดความผิดปกติทางจิตได้ กระท่อมมีฤทธ์ิทำ ใหเ้ กิดการเสพติดไดเ้ มื่อหยุดเสพ กะทันหันจะเกิดอาการถอน (withdrawal symptom) ข้ึนได้ และมีรายงานการเกิดภาวะไทรอยด์ทำงานตํ่าในคนที่ใช้พืชกระท่อมเป็นระยะ เวลานานหลายเดือน

สายพันธ์ุพืชกระท่อมที่กินใบได้ จำแนกเป็น 3 สายพันธ์ุหลัก โดยจำแนกตามสีของก้านใบ คือ พันธุ์ก้านแดง พันธุ์ก้านเขียว และจำแนกตามลักษณะใบที่โดดเด่นกว่าพันธุ์อื่น คือ ที่ขอบใบมีติ่งแหลม 3 - 5 ติ่ง โดยเรียกสายพันธุ์นีว้ ่าหางกั้ง (ท่ีน้ำพุ ชาวบ้านเรียกว่า “พันธน์ุ างฟ้าหย่อนบันได” ซึ่งหมายถึง นางฟา้ หย่อนบันได มาให้ดังท่ีเห็นต่ิงใบเป็นช้ัน ๆ) แต่จากการสำรวจสายพันธ์ุพืชกระท่อมในตำบลน้ำพุ พบว่า ส่วนใหญ่คือ พันธ์ุก้าน แดง แต่ทง้ั นีก้ ็พบว่ามกี า้ นเขยี วในตน้ เดียวกัน โดยใบคแู่ รกจากปลยี อดจะมีกา้ นสีแดง คูถ่ ดั ไปจะมีกา้ น ชาวบ้านจะขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดเพ่ือจะได้จำนวนต้นอ่อนมากที่สุดการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอ่ืน ๆ เช่น การชำกิ่ง การเสียบยอด โดยใช้ต้นกระทุ่มนาเป็นต้นตอ การติดตา สามารถกระทำได้ แต่ได้จำนวนต้นพันธุ์น้อย การนำกิ่งมาขยายพันธุ์โดยแช่โคนกิ่งในขวดน้ำท่ีปิดมิให้อากาศเข้า สามารถงอกรากได้ ภายใน 1 เดือน แต่ถือว่า ทำยาก และให้ผลช้าการขยายพันธุ์เพ่ือเตรียมปลูกเป็นแปลงควรขยายพันธุ์ด้วยการเพาะกล้าจากเมล็ด และการ โคลนนง่ิ

การพัฒนาความรว่ มมือในการแกไ้ ขปญั หาพืชกระทอ่ มร่วมกับกำนันตำบลนํ้าพุ - การสำรวจข้อมูล ในการสำรวจพ้ืนที่หมู่ที่ ๔ บ้านดอนทราย ตำบลนํ้าพุ อำเภอบ้านนาสาร จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี พบครัวเรอื นท่ีมีพืชกระทอ่ มจำนวน ๗๒ ครัวเรอื น (ร้อยละ ๕๕.๘๑) จาก ๑๒๙ ครัวเรือน มีพืชกระท่อมจำนวน ๑๘๕ ตน้ เพอื่ ใชใ้ นการกำกับ ตดิ ตาม และควบคุม - การจัดเวทีประชาคม เพ่ือคืนข้อมูลจากการสำรวจและรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านและรว่ มกัน จัดทำกฎประชาคมของหมู่บ้านอย่างมีส่วนร่วม เพ่ือควบคุมพืชกระท่อมไม่ให้ส่งผลต่อเยาวชนและวิถีชีวิตความ เป็นอยู่ ซ่ึงได้ข้อสรุปในรูปแบบของกฎประชาคมหรือกติกาของหมู่บ้าน เช่น อนุญาตให้ครัวเรือนครอบครอง ต้นกระท่อมไดไ้ ม่เกิน ๓ ต้น ห้ามจำหน่ายและจ่ายแจกให้เยาวชนและบุคคลทัว่ ไป ประชาชนทุกคนตอ้ งมีสว่ นร่วม ในการควบคมุ เฝ้าระวังเยาวชนไม่ใหเ้ สพนาํ้ ต้มกระท่อมท่ีมีส่วนผสมอ่นื เป็นตน้

สร้างกระบวนการมสี ว่ นรว่ ม - การจัดเก็บข้อมูล โดยถ่ายทอดความรู้และฝึกปฏิบัติขั้นตอนการสำรวจและจัดเก็บข้อมูลพืช กระท่อมให้แก่ คณะกรรมการหมู่บ้านทั้ง ๖ หมู่บ้าน และร่วมวางแผนสำรวจ ดำเนินการสำรวจ พร้อมจัดเก็บ ข้อมูล เช่น บ้านเลขที่ ช่ือเจ้าบ้าน พิกัดตำแหน่งครัวเรือน ความสูง/ขนาด/พิกัดตำแหน่งต้นกระท่อม และ บนั ทกึ ภาพการดำเนินงาน เป็นตน้ และติด QR code ต้นกระท่อมทลี่ งทะเบียน เพอื่ ใช้ในการกำกับ ตดิ ตาม และควบคุม - การกำหนดและพัฒนากติกาและมาตรการ เพื่อควบคุมพืชกระท่อมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยจัดเวทีประชุม ยกร่างโดยนำกติกาของหมู่ที่ ๔ บ้านดอนทราย มาพัฒนาและปรับปรุงเป็นธรรมนูญตำบลเพื่อ การควบคุมพืชกระท่อมและสร้างชุมชนเข้มแข็งปลอดยาเสพติดพืชกระท่อมพ้ืนที่ตำบลน้าพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย ๖ หมวด ได้แก่ หมวดท่ี ๑ บททั่วไป หมวดที่ ๒ ข้อห้ามสำหรับการเสพ การผลิต และการจำหน่ายพืชกระท่อม หมวดที่ ๓ การควบคุมพืชกระท่อม หมวดที่ ๔ การคงไว้ของพืชกระท่อม ในพ้ืนที่ หมวดที่ ๕ การปฏิบัติของผู้เสพพืชกระท่อม หมวดท่ี ๖ บทลงโทษ โดยนำเข้าสู่เวทีประชาคมระดับ หมู่บ้านทั้ง ๖ หมูบ่ ้านเพือ่ รับฟังความเห็น ตอ่ ด้วยการจัดประชุมเพอ่ื พิจารณาปรับปรุง ธรรมนูญตำบลคร้ังสุดท้าย และจดั พมิ พเ์ ปน็ เอกสารเผยแพร่ - การรับรองธรรมนูญตำบล โดยมีการจัดเวทีประชาคมระดับตำบล มีผู้เข้าร่วม ๘๐๐ คน ท่ีประชุม มีมติเป็นเอกฉันท์ ในการรับร่างธรรมนูญตำบลฉบับดังกล่าว และตัวแทนภาคประชาชนร่วมกับหน่วยงานในพ้ืนท่ี รว่ มลงนามรับรอง - การปฏิบัติตามข้อตกลงธรรมนูญตำบล เช่น ให้ความร่วมมือคณะกรรมการหมู่บ้านเข้าตัดทำลาย พชื กระทอ่ มทีเ่ กิน ๓ ต้น และผใู้ ช้พชื กระท่อมเข้ารบั ตรวจสุขภาพตามข้อตกลงในธรรมนูญตำบล เป็นต้น - การติดตามและประเมินผลการควบคุมพืชกระท่อม โดยการออกตรวจติดตามระดับครัวเรือนและ นำผลการติดตาม ประชุมหารือและรวบรวมปัญหาอุปสรรคท่ีเกิดข้ึนในแต่ละหมู่บ้าน พร้อมท้ังร่วมกันหาแนว ทางแก้ไขให้เปน็ ไปตามแนวทางที่เหมาะสม โดยยึดกรอบของธรรมนูญตำบลเป็นหลกั พฒั นาโปรแกรมการตดิ ตาม และตรวจสอบพืชกระท่อมในรูปแบบ Mobile Application เพื่อใช้ในการติดตามประเมินผล การควบคุมพืช กระท่อมและถ่ายทอดความรู้ และฝึกปฏิบัติการใช้ Mobile Application ให้แก่คณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อใช้ใน การตดิ ตามและควบคมุ พืชกระท่อม สรปุ บทเรียนเพ่ือวิเคราะหป์ ัจจัยและเงื่อนไขทม่ี ีผลกระทบต่อประสิทธิภาพใน การควบคุมพืชกระท่อมโดยการมีส่วนร่วม ของชุมชนผ่านธรรมนูญตำบล นำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนารูปแบบ ให้เหมาะสม - มีการกำหนดขอบเขตการปลูกว่าไม่เกินบ้านละ 3 ต้น (พืชกระท่อมต้องปลูกใกล้น้ำ) มีการสำรวจ พน้ื ท่ีโดยใชโ้ ดรน มกี ารติด Qr - code ท่ตี ้นกระทอ่ ม และมีการระบุพกิ ัด GPS

- ทัง้ นี้ปัญหาด้านยาเสพติดจะลดลงถ้าแก้ปัญหาในชุมชนได้ ภาคใต้ มคี วามใกล้ชิดกับวถิ ชี ีวติ การใช้ ประโยชนก์ บั พืน้ กระทอ่ ม เพื่อเสรมิ พละกำลังในการทำงานกลางแจ้ง การสังสรรค์ การทำบุญนำ้ พุ รวมทัง้ ชว่ ยด้าน การรักษาโรค ความดนั เบาหวาน แต่พ้นื กระท่อมได้ถูกควบคุมเนื่องจากเกรงว่าจะเปน็ ค่แู ข่งกับฝิ่น - การบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียวอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ อาทิ ปัญหาจากการจับกุมการใช้พืช กระท่อม จึงไดพ้ ยายามลดทอนโทษจากการใชพ้ ืชกระท่อม เนน้ ให้เกิดความสมดุล - หากเป็นการใช้ท่ีผิดวัตถุประสงค์ การจำหน่ายเชิงพาณิชย์ และปลอมแปลงสารเสพติดอื่นเข้ามา อาทิ 4 × 100 หรอื การใช้กบั กลมุ่ เปราะบาง ก็จะต้องดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมาย - ข้อมูลจำเพาะพ้นื ที่บา้ นนาสาร : จำนวนพืชกระท่อม 1,500 ตน้ ผ้บู ริโภคพืชกระท่อม 500 คน - การวิจัยด้านสุขภาพของผู้ใช้พืชกระท่อม ร่วมกับ มอ. และ ม.วลัยลักษณ์ จะมีการตรวจสุขภาพ ประจำปีให้กับผู้เสพพืชกระท่อม เพ่ือดูค่าน้ำตาลในเลือด ความดัน ท้ังน้ีผลออกมาไม่ได้ช่วยรักษาโรคได้โดยตรง เพราะมีพฤติกรรมส่วนตัวของผบู้ รโิ ภคร่วมดว้ ย หากมีโรคประจำตัวก็จะตอ้ งใช้ยาแผนปัจจบุ ันควบค่ดู ้วย ส่วนด้าน การวิจัยด้านสมนุ ไพร อยรู่ ะหว่างจะทำการศึกษาวิจัยในอนาคตร่วมกบั ม.เกษตร เพอ่ื ดปู ระโยชน์ดา้ นการสมานแผล - การบำบดั รักษาในพื้นท่ีตำบลน้ำพุ ได้มกี ารใช้ชุมชนในการบำบัด ระยะเวลา 3 เดือน มีการบันทึก ตดิ ตามผล และคนื เยาวชนสู่ครอบครัว โดยดำเนินการบำบัดสำเรจ็ แลว้ 1 รนุ่ - ธรรมนูญตำบลน้ำพุ ในการควบคุมสำรวจดูแลพืชกระท่อม โดยการใช้หลักนิติศาสตร์ควบคู่กับ หลักรัฐศาสตร์ กำหนดและพัฒนากติกาและมาตรการ เพ่ือควบคุมพืชกระท่อมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยจัดเวทีประชุมสร้างชุมชนเข้มแข็งปลอดยาเสพติดพืชกระท่อมพื้นที่ตำบลน้าพุ อำเภอบ้านนาสาร จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี - ไดร้ ับการสนับสนุนการวิจยั ทางด้านสังคมจาก ม.จฬุ า พบวา่ พืชกระท่อมช่วยสร้างสรรคส์ งั คม - ได้รับรางวลั ธญั ลกั ษณ์ Award - หลกั สูตร CBTX ในการบำบัดรักษาในชุมชน - มีการร้องขอให้กำนันผู้ใหญ่บ้านใช้เครื่องมือตรวจปัสสาวะได้ เน่ืองจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อยใู่ กล้ชดิ ประชาชนในพ้นื ทีม่ ากท่สี ุด - วิธีการใช้ : เคยี้ วใบสด , ตม้ น้ำด่มื

ผลผลติ และผลสัมฤทธ์ิ - รูปแบบหลักนํ้าพุโมเดลถูกนำไปถอดบทเรียน โดย สพส. สำนักงาน ป.ป.ส. ในการนำ มาเป็น รปู แบบหลัก ในการเตรยี มพื้นท่นี ำรอ่ งท่ีทำการเสพและครอบครอง พืชกระท่อมโดยไม่เป็นความผิด รองรบั มาตรา ๕๘/ ๒ แห่ง พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ระบุว่า คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติดตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด อาจมีมติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ควบคุมยาเสพติดให้โทษ ประกาศให้ท้องที่ใดเป็นท้องท่ีท่ีทำการเสพพืชกระท่อมได้ โดยไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัตนิ ้ี การเสพและการครอบครองพืชกระทอ่ มท่ีกระทำตามวรรคหน่ึงให้เปน็ ไป ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่อื นไขท่กี ำหนดในกฎกระทรวง - พ้ืนท่ีขยายส่งผลให้มพี ้ืนที่ในลักษณะนา้ํ พุโมเดล เพมิ่ ขึ้น โดยคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปราม ยาเสพติด มมี ตเิ หน็ ชอบพื้นท่ีท่ีจะประกาศให้เป็นท้องทท่ี ่ีใหเ้ สพและครอบครองพืชกระท่อม ไดโ้ ดยไม่เป็นความผิด จำนวน ๑3๕ หมู่บ้าน/ชุมชน และมอบหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ประกาศให้พ้ืนท่ีจำนวน ๑๓๕ หมู่บ้าน/ ชุมชน เป็นท้องที่ท่ีให้เสพพืช กระท่อมได้โดยไมเ่ ป็นความผิด ตามมาตรา ๕๘/ ๒ แห่งพระราชบญั ญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และท่ีแกไ้ ข เพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญัติ ยาเสพติดใหโ้ ทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ - พน้ื ที่ทุนทางวจิ ัย จากการท่ตี ำบลนํ้าพุเปน็ พ้นื ท่ี ศกึ ษาวจิ ยั ของสำนกั งาน ป.ป.ส. และไดร้ บั อนุญาต มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ จาก อย. จึงเป็นพ้ืนท่ีที่สำนักงาน อย. ม่ันใจและไว้วางใจให้ เป็นพื้นท่ี หลักในการอนุญาตให้สถาบันทางการศึกษาท่ีขอครอบครอง ใบกระท่อมเพ่ือนำไปศึกษาวิจัยแต่ต้องผ่าน ความเห็นจาก สำนักงาน ป.ป.ส. ในการให้ตัวอย่างใบกระท่อม เน่ืองจากเป็นผู้ได้รับอนุญาตครอบครอง ต้นกระท่อม โดยท่ีผ่านมามีสถาบันทางการศึกษามาขอใช้ตัวอย่างใบกระท่อม มากกว่า ๕ หน่วยงาน มากกว่า ๑๐ โครงการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการนำไปพฒั นาวิธีการสกัดสาร และสกัดสารเพ่ือศึกษาคุณสมบัตทิ างเภสัชของ พืชกระท่อม รวมถึงการศึกษาเพ่ือ จำแนกสายพันธุ์ และค้นหาสายพันธ์ุดีที่ให้ค่าสารไมทราไจนีน ในปริมาณที่สูง เพอ่ื พัฒนาและนำพืชกระท่อมมาใชป้ ระโยชนท์ างการแพทย์และสร้างโอกาสทางเศรษฐกจิ - นวัตกรรมและเทคโนโลยี น้ําพุโมเดลถือว่าได้สร้าง ผลผลิตด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพ่ือใช้ใน การสนับสนุน การควบคุมพืชกระท่อมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน คือระบบสารสนเทศควบคุมพืชกระท่อมท่ีใช้ ร่วมกับ Mobile Application ท่ีใช้ในการสำรวจและติดตามพืชกระท่อม และผู้ใช้และครอบครองพืชกระท่อม ข้อมูลจากการสำรวจและขึ้นทะเบียนผู้เสพและครอบครองพืชกระท่อม ทั้ง ๖ หมู่บ้าน ในพ้ืนท่ีตำบลน้ําพุ พบครัวเรือน ทีม่ ีพืชกระท่อมจำนวน ๖๕๕ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๓๓ ของครัวเรือนท้ังหมด ๑,๙๒๐ ครัวเรือน จำนวนต้นกระท่อม ๑,๙๑๒ ต้น ตัดทำลาย จำนวน ๓๓๔ ต้นเนื่องจากเกินจากข้อตกลงในธรรมนูญตำบล คงเหลือที่ขึน้ ทะเบียนติด QR - code จำนวน ๑,๕๗๘ ต้น และมีผใู้ ช้พชื กระท่อมท่ีข้ึนทะเบียน จำนวน ๕๘๘ ราย คิดเป็นร้อยละ ๑๐ ของประชากรทัง้ หมด ๕,๖๕๙ ราย โดยผู้ใชพ้ ืชกระท่อมที่ขึ้นทะเบียนจะได้รับการดูแลสุขภาพ อย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง

- นายศุภวฒั น์ กล่อมวเิ ศษ ปราชญ์ชาวบ้าน เล่าว่า ได้พบเห็นและร้จู ักพืชกระท่อมในตำบลน้ำพุ มาต้ังแต่จำความได้ ต้นไมช้ นิดนี้มันมีอยใู่ นธรรมชาติ โดยเฉพาะในทล่ี าดลมุ่ ช่มุ น้ำ และพื้นท่ีริมน้ำตำบลน้ำพุมลี ำคลองฉวาง ไหลผ่านกลางพื้นที่ตำบล สายน้ำพัดพาเมล็ดกระท่อมมางอกในพื้นท่ีริมน้ำ โดยเฉพาะท่ีที่เป็นตระพักดินตะกอนเลน พืชกระท่อมที่มีต้ังแต่ต้นกระท่อมขี้หมู ต้นกระท่อมนา และต้นกระท่อมที่ชาวบ้าน นำใบมาเคี้ยวและนำมาทำเป็นยา ตอนที่ผมยังเด็ก ผมเห็นคนรุ่นทวด รุ่นปู่ ปีนต้นกระท่อมเพื่อเก็บใบมาใช้ประโยชน์ หลังโรงเรียนวัดน้ำพุ หลังวัดน้ำพุ ตอนนนั้ ยงั ไมม่ ีการปลูกต้นกระทอ่ มภายในบรเิ วณบ้านหรือตามเรือกสวน เพราะในพนื้ ทสี่ าธารณะ เช่น ทอน มตี ้น กระท่อมอยมู่ าก ต่อมาเมื่อพ้ืนที่ทอนสาธารณะถูกบุกรุกทำลาย ต้นกระท่อมในธรรมชาติลดลง ชาวบ้านจงึ เอากล้า จากธรรมชาติมาปลูกริมบ้านในเรือกสวน ชาวบ้านต้องใช้แรงงานถางป่าเป็นสวน ต้องใช้แรงงานหนัก และต้อง ช่วยกันท้ัง ครอบครัว รวมทั้งจะต้องขอแรงจากเพื่อนร่วมสังคม เช่น การจุดไฟเผาไร่ ท่ีได้แผ้วถาง ความเหน็ดเหน่อื ย เม่อื ยล้า ทำใหช้ าวบา้ นต่างใช้พืชกระท่อมเค้ียวเพื่อบรรเทาอาการเหนื่อยลา้ และใช้กันมาอยา่ ง ต่อเน่ือง นอกเหนือจากการใช้เป็นยาตามภูมิปัญญาด้ังเดิม และยังใช้เพ่ือประกอบพิธีกรรมเป็นบางครั้งบางคราว ต้นกระท่อมซ่ึงเดิมขึ้นในธรรมชาติ กลายเป็นพืชประจำบ้านนับแต่สภาพพ้ืนท่ีสาธารณะถูกทำลายและเกิดการ เปล่ียนแปลงในวิถีการผลิตทางการเกษตร นอกเหนือจากการต้องการคลายจากการเหน็ดเหนื่อยแล้ว ชาวบ้านยัง ทราบดีว่า หากไม่ได้ใช้พืชกระท่อมอย่างต่อเน่ืองจะมีอาการถอนยา นับต้ังแต่ ไอ จาม มีน้ำมูก ท้องร่วง อุณหภูมิ ขึน้ สงู ปวดกล้ามเน้ือ กล้ามเน้ือกระตุก ฯลฯ จึงเห็นวา่ ควรจะมีกระท่อมเป็นพชื สามัญประจำบ้านเพอ่ื ใช้ประโยชน์ และได้ใช้ต่อเน่ือง เป็นปกติกาล เม่ือมีการปลูก ก็มีการพัฒนาคุณภาพ เนื่องจากต้นกระท่อมแต่ละต้นออกฤทธิ์ ต่างกัน และ ชาวบ้านต่างพูดว่า “ต้นนั้นเมาดี” “ต้นน้ีไม่เมา” คำว่า “เมา” ในความหมายของชาวบ้านคือ กินเค้ียวแล้ว สนองต่อความต้องการเร็ว มีพละกำลัง คลายเหนื่อยได้เร็ว ให้ผลได้นาน ไม่ต้องเคี้ยวบ่อย ด้านรสชาติท่ีต้องการ คือ ไม่ขมจนเกินไป มีรสออกหวาน ใบนิ่มไม่แข็งกร้าน เค้ียวแล้วฉ่ำปาก ไม่ฝืดหรือแฉะ จนเกินไป การพัฒนาพันธุ์นั้น ชาวบ้านจะคัดเอายอดของต้นที่คิดว่า เมาดี มีรสชาติดี มาเสียบยอด โดยใช้ กล้ากระท่อมในธรรมชาติ และกล้ากระท่อมนามาเป็นต้นตอ และใชว้ ิธีเสียบเปลือกข้างลำต้น (วธิ ีนี้จะได้ คุณภาพ เฉพาะกิ่ง) และมีภูมิปัญญาการบำรุงดูแลพืชกระท่อมอีกมากมาย และต่อไปน้ีคือรายละเอียด ในด้านต่าง ๆ ของ พชื กระทอ่ มตามทีผ่ มพบเห็นมา

ข้อคดิ และประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ จากการศึกษาดูงานการปลดล็อคกระท่อมและการส่งเสริมพัฒนาปลูกพืชเศรษฐกิจ ตำบลนํ้าพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี มขี ้อคดิ และประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั ดังนี้ 1. การจัดการปัญหาต่าง ๆ ในชุมชนควรมีการหาทางออกร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องยาเสพติด ดังเช่นในตำบลน้ำพุ สามารถลดความขัดแย้งกับผู้ใช้พืชกระท่อมในพื้นท่ี จากการให้ความร่วมมือของผู้ใช้พืช กระท่อมที่ให้ความร่วมมือในการสำรวจและยอมแสดงตัวเพื่อข้ึนทะเบียน ได้รับการดูแลสุขภาพจากข้อตกลงใน ธรรมนูญตำบล โดยสามารถรับบริการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านยางอุง และสามารถ ปรับเปลีย่ นพฤติกรรมของเยาวชนท่ีใช้ ๔ × ๑๐๐ โดยสามารถพิจารณาได้จากคดีท่เี ก่ียวกับนา้ํ ตม้ กระทอ่ ม รวมถึง ป้องกันปัญหายาเสพติดชนิดอื่น เป็นพื้นที่ต้นแบบหรือแหล่งเรียนรู้ให้แก่พ้ืนท่ีอ่ืน ๆ ท่ีมีบริบทใกล้เคียงในการ ควบคุมพืชกระท่อม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยท่ีผ่านมามีคณะหรือหน่วยงานต่าง ๆ เข้าศึกษาดูงาน รวมถึงไดร้ ับโอกาสเป็นพื้นท่ีที่มีนักวิชาการลงพ้ืนท่ีเพ่ือศึกษาวิจัยทางสุขภาวะในการใช้พืชกระท่อมและการค้นหา พันธ์ุกระท่อมท่ีเหมาะสมต่อการพัฒนาและเพ่ิมมูลค่าในอนาคต ส่งผลให้พื้นท่ีเกิดเป็นพ้ืนที่แห่งการเรียนรู้ บนฐานความรู้ท่ีถูกต้อง เป็นพื้นท่ีต้นแบบการพัฒนาการผลิตใบกระท่อมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติทาง การเกษตรท่ีดี (Good Agricultural Practices: GAP) เพ่ือพัฒนาแปลงต้นแบบการผลิต พืชกระท่อมตาม มาตรฐาน GAP เกิดชุดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการพืชกระท่อมพรอ้ มถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ การ ผลิตพืชกระท่อมสู่ชมุ ชน ส่งผลให้เกิดพ้ืนท่ีผลิตใบกระท่อมคุณภาพตามมาตรฐาน GAP เพ่ือส่งเข้าโรงงานต้นแบบ ในการ ผลติ สารสกัดมาตรฐานจากสมนุ ไพรเพอื่ ใชใ้ นทางการแพทย์และอาหารที่ได้มาตรฐาน GMP ต่อไป 2. สามารถนำเอาความสำเร็จท่ีเกิดจากการแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ในตำบลน้ำพุไปเปน็ โมเดลต้นแบบ แก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนอื่น ๆ โดยนำมาทบทวนปรับปรุงมาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้ โดยการสร้างองค์ความรู้ให้ชุมชน ใช้ชุมชนเป็นเคร่ืองมือในการเฝ้าระวังและเตือนภัยกันในชุมชน เพ่ือให้ชุมชน มีความเขม้ แข็ง รู้เทา่ ทันและไม่ตกเปน็ ทาสยาเสพตดิ การนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบตั ิงาน จากการศึกษาดูงานการปลดล็อคกระท่อมและการส่งเสริมพัฒนาปลูกพืชเศรษฐกิจ ตำบลน้ําพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี สามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานได้ คือ 1. การปรับเปล่ียนมุมมองของพืชกระท่อม ที่เดิมมองว่าเป็นพืชเสพติด แต่เมื่อพิจารณาถึงข้อดีและ ข้อเสียของพืชชนิดน้ีแล้ว จึงมองแต่เพียงข้อเสียอย่างเดียวไม่ได้ เพราะประโยชน์ของพืชชนิดนี้อาจเป็นประโยชน์ ทางการแพทย์ที่อาจให้คุณมากกว่าโทษ เช่นเดียวกับพืชเสพติดอื่น ๆ ท่ีอาจมีประโยชน์มากกว่าโทษก็เป็นได้ ซึ่ง จะต้องศกึ ษาถึงคุณและโทษของพืชอ่ืน ๆ ท่ีอาจจะเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ สังคม หรือทางเศรษฐกิจอื่นใดใน อนาคตด้วย 2. การนำชุมชนตำบลนํ้าพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้นแบบในการศึกษาถึง ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการปลดล็อกพืชกระท่อม และศึกษาถึงผลกระทบทางบวกและผลกระทบทางลบท่ีอาจ เกิดขึ้นในอนาคต 3. การนำความรู้ที่ไดจ้ ากชุมชนตำบลนำ้ พุในการกำหนดหลักธรรมนูญตำบล การควบคุมสำรวจดแู ล พืชกระท่อม นำไปศึกษาเพ่ือพัฒนามาตรการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพต่อไป โดยจะตอ้ งใช้หลกั นิติศาสตร์ควบคู่กับหลกั รฐั ศาสตร์จึงจะมปี ระสทิ ธผิ ลมากที่สุด

เอกสารรายงาน การศกึ ษาดูงานในหลกั สตู ร นักบริหารงานปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติดระดับต้น (นบต.ปปส.) รนุ่ ที่ ๑๔ พน้ื ท่จี ังหวัดสรุ าษฎร์ธานี วนั ที่ 22 กนั ยายน 2564 หัวขอ้ การศกึ ษาดงู าน เรอื่ ง การบำบัดรักษาผู้เสพโดยการมีสว่ นรว่ มของชุมชน (CBTx) ณ โรงแรมไดมอนดพ์ ลาซา่ จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี จัดทำโดย กล่มุ ที่ 4 กลุ่มยม เอกสารรายงานนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกอบรม หลกั สตู ร นักบรหิ ารงานปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติดระดบั ต้น รนุ่ ที่ ๑๔ สถาบนั พฒั นาบุคลากรดา้ นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนกั งาน ป.ป.ส.

รายชอื่ สมาชิกกล่มุ ยม 1. NMP1411 นางสาวทัศวรรณ กอเศรษฐพงศ์ (ทชั ) สถาบันวิชาการและตรวจพสิ ูจนย์ าเสพตดิ 2. NMP1413 นายเสริมชัย สุดประเสริฐ (ไก)่ สำนักงานปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติดกรงุ เทพมหานคร 3. NMP1415 นายธรากร ประเสริฐเตชาโต (บอล) สำนักงานปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 1 4. NMP1416 นายสมพงษ์ แจง้ กระจ่าง (เค) สำนกั งานปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 2 5. NMP1418 นางสาวศลษิ า ธรรมโหร (ษา) สำนกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 3 6. NMP1423 นายวรากร ทนนั ชยั (บว๊ ย) สำนกั งานป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ ภาค 5 7. NMP1429 นายธมนต์ สีห์รา (โจ้) สำนักงานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 8 8. NMP1436 นางสาวน้องนชุ พันธุ์สทิ ธเิ ดช (เจี๊ยบ) สำนกั ปราบปรามยาเสพติด 9. NMP1433 นายพรี ะพงศ์ สวนแกว้ (พงศ์) สำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด 10. NMP1443 นายนฤเทพ ใจสทุ ธิ (เทพ) ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั สระเกศ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 11. NMP1447 นายสงวนพงษ์ คำบบุ ผา (เปด็ ) กองข่าวกรองทางการเงนิ สำนกั งานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ 12. NMP1450 นางจุฑามาศ นวลพริ้ง (ตอ้ ) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม ธนาคารแห่งประเทศไทย --------------------------------------------

1. ชือ่ หน่วยงาน วันเดือนปี ทีศ่ ึกษาดงู าน หวั ข้อวิชาการศกึ ษาดงู าน เรอ่ื ง การบำบัดรกั ษาผู้เสพโดยการมสี ่วนรว่ มของชุมชน (CBTx) ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี วันทศี่ ึกษาดงู าน 22 กันยายน ๒๕64 บรรยายโดย พ.ต.อ.วิชยสัณห์ บญุ ณรงค์ ผกก.สภ.เขาพนม จังหวัดกระบี่ พ.ต.ต.วโิ รจน์ โรจนพ์ ัฒนสขุ สวฯ ปรก.สภ.ทรายขาว จังหวดั กระบ่ี

2. ขอ้ มูลทัว่ ไปของหนว่ ยงาน บา้ นบางเหรยี ง หมู่ท่ี 3 ตำบลพรเุ ตียว อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ มจี ำนวน 287 หลงั คาเรือน ประชากร จำนวน 757 คน 3. สรุปผลการบรรยายของวิทยากรตามหวั ข้อทกี่ ำหนด ปรัชญาของการบำบัดรักษาโดยมีสว่ นรว่ มของชุมชน การบำบัดรกั ษาและฟ้ืนฟูผปู้ ่วยยาเสพตดิ โดยการมีสว่ นร่วมของชมุ ชน หรอื การบำบัด รักษาและฟ้ืนฟผู ูต้ ิด ยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community Based Treatment and Rehabilitation: CBTx) คือ รูปแบบ การบำบัดรักษาเชิงบูรณาการโดยเฉพาะต่อผู้ใช้ยาเสพติด และติดยาในชุมชน เพ่ือให้เกิดการรักษาอย่างต่อเน่ือง ต้ังแต่การรักษาในระยะเริ่มต้นจนถึงการ บำบัดรักษาฟ้ืนฟูด้วยระบบการดูแลต่อเน่ืองจนถึงการติดตามผลการรักษา ตามแนวคิดการคืน ผู้ป่วยสู่สงั คม มีการประสานความร่วมมอื กับภาคีเครือข่ายท้ังดา้ นสุขภาพ สังคมและการบริการ อื่นๆ โดยบุคคลที่ให้ความร่วมมืออาจจะไม่ใช่ผู้เช่ียวชาญ แต่มีความพร้อม มีความมุ่งม่ันตั้งใจ ท่ีจะช่วยเหลือผู้ใช้ยา และสารเสพติดบนพ้ืนฐานของความเข้าใจถึงความต้องการของผู้ป่วย ตลอดจนให้การสนับสนุนครอบครัว และ ชุมชนของผู้ป่วยอย่างจริงจังในการแก้ปัญหายาและ สารเสพติด เพ่ือให้เกิดผลลัพธ์ในระยะยาว (UNODC, 2014) การบำบดั รกั ษาและฟืน้ ฟผู ู้ติด ยาเสพตดิ โดยชุมชนมีส่วนรว่ มมีลกั ษณะ ดังนี้ - มีการดำเนินการในชุมชน - มกี ารระดมทรัพยากรและการมีส่วนรว่ มของชมุ ชน - เป็นเสมอื นแผนกผปู้ ่วยนอกของโรงพยาบาล - มกี ารดแู ลรกั ษาอย่างตอ่ เนื่อง - มกี ารบรู ณาการ การรักษาฟ้นื ฟูเขา้ กับบรกิ ารทางสังคมและสขุ ภาพในชุมชน - การเขา้ รับการบำบดั รักษาด้วยความสมคั รใจและชมุ ชนรองรับค่าใชจ้ ่ายได้ ท้ังน้ีการดำเนินการบำบัดรักษาผู้ป่วยเสพติดโดยชุมชนมีส่วนร่วม มีเป้าหมายสำคัญ เพื่อให้เกิด กระบวนการบำบัดฟ้ืนฟูในชุมชน ด้วยการดำเนินการของชุมชนเองภายใต้แนวคิด การวางแผน การออกแบบ การกำหนดวิธีการดำเนินงานตามศักยภาพและบริบทของชุมชนน้ัน ๆ โดยการสนับสนุนด้านวิชาการในการดำเนิน กิจกรรมจากหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญคือ หน่วยงาน ของกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ท่ีใกล้ชิดชุมชน เช่น รพ.สต. รพช.และมีการบูรณาการให้เกิด การดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ กรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) รวมถึงต้องมีความร่วมแรงร่วมใจให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ทางด้านสังคมจากพหุภาคีทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีเป้าหมายสำคัญร่วมกัน คือ ความร่วมมือ ในการแก้ไขปัญหา ยาและสารเสพติดในชมุ ชน ความหมาย การบำบัดรักษาและฟ้ืนฟูผู้ป่วยยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน (Community Based Treatment and Rehabilitation: CBTx) มีเป้าหมายหลักท่ีสำคัญ คือ เพ่ือให้เกิดการ ดูแลผู้ใช้ยาเสพติดแบบ องค์รวมด้วยความเข้มข้นที่แตกต่างกันไปตามแต่บริบทและความซับซ้อน ของปัญหาในผู้ใช้ยาเสพติดแต่ละราย ซง่ึ เปน็ สง่ิ ทม่ี าจากกรอบแนวคิดการดูแลและใหบ้ รกิ าร ทางดา้ นสขุ ภาพจิตขององคก์ ารอนามัยโลกทว่ี า่

การให้บริการโดยอาศัยสถานพยาบาลเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นฟูในสถานบำบัดระยะยาว (Long residential rehabilitation) มีต้นทุนค่าใช้จ่ายท่ีสูง สามารถเปิดให้บริการได้จำนวนน้อย ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการ รุนแรงถึงระดับท่ีควรได้รับการดูแล สถานบำบัดระยะยาวก็มีจำนวนไม่มาก การสนับสนุน ให้มีการดูแลได้ด้วยตนเองหรือการดูแลแบบไม่เป็นทางการในชุมชนมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า ครอบคลุม ผูร้ ับบริการได้มากกว่า ดังน้ันในการดูแลผู้ใชย้ าเสพติดเองก็ควรจะพัฒนาการบำบัด รักษาและฟ้ืนฟูผู้ป่วยยาเสพติด โดยการมสี ่วนร่วมของชุมชนเพอื่ ลดตน้ ทุนคา่ ใชจ้ า่ ย เพ่ิมความ ครอบคลุมการบรกิ าร โดยมแี นวคดิ สำคัญดังน้ี - เน้นความต่อเน่ืองของกระบวนการดูแลต้ังแต่กระบวนการค้นหาผู้ป่วย (outreach) การช่วยเหลือ พ้ืนฐาน (basic support) การลดอันตราย (harm reduction) และ การกลับคืนสู่สังคม (social reintegration) โดยไม่เข้าผดิ ช่องทางในการเขา้ สู่ระบบ - จัดบรกิ ารตา่ งๆ ในชมุ ชนใหใ้ กล้ชิดกับสถานที่ท่ผี ู้ใช้ยาเสพติดอาศยั อย่ใู ห้มากทสี่ ดุ เท่าทจ่ี ะเป็นไปได้ - รบกวนความเชอื่ มโยงทางสังคมและการทำงานของผู้ใช้ยาเสพติดให้นอ้ ยท่ีสุด - บรู ณาการรูปแบบการดูแลเขา้ กบั ระบบบริการสุขภาพและระบบบริการทางสังคม ท่ีมีอยเู่ ดมิ - จัดต้ังรูปแบบการดูแลผู้ใช้ยาเสพติดบนทรัพยากรของชุมชนที่มีอยู่แล้ว รวมไปถึง ทรัพยากรทาง ครอบครวั - อาศัยการมีส่วนร่วมของบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยาเสพติด ครอบครัว และชุมชนในการ วางแผนและรปู แบบบรกิ าร - อาศัยการจัดการแบบองค์รวม โดยการกำหนดบัญชีความต้องการที่จำเป็นของ แต่ละบุคคล (สุขภาพ ครอบครัว การศึกษา การจ้างงานและท่ีอย่อู าศยั ) - มีการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของภาคประชาสังคม ผู้บังคับใช้กฎหมาย และผู้ให้บริการ ทางด้านสุขภาพ กำหนดเคร่ืองมอื ในการดแู ลผูใ้ ชย้ าเสพตดิ บนหลกั ฐานเชิงประจักษ์ - ผู้ใช้ยาเสพติดไดร้ บั การแจง้ ข้อมูลการบำบดั รกั ษาและสมคั รใจมสี ว่ นร่วมในการ บำบดั รักษา - เคารพสทิ ธมิ นุษยชน ศกั ด์ศิ รีความเปน็ มนษุ ย์ และพิทกั ษค์ วามลับของผู้ใชย้ าเสพติด - ยอมรบั ว่าการติดซ้ำเป็นขัน้ ตอนหนึ่งในกระบวนการรกั ษาและไม่ควรหยุด กระบวนการนำผู้ใช้ยาเสพติด ให้เข้าถึงบริการอีกครั้ง ลักษณะที่สำคัญของการดูแลที่ดีคือ การดูแลที่จะบูรณาการการรักษาฟื้นฟูผู้ใช้ ยาเสพติด และเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์เข้าสู่การบริการทางสังคมและสุขภาพในชุมชนอย่างยั่งยืน และ ชมุ ชน สามารถตรวจสอบได้ องค์ประกอบสำคัญ องค์ประกอบสำคัญของรูปแบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของ ชุมชน แบ่ง ออกเปน็ สามองค์ประกอบ คือ 1. องค์กรชุมชน ประกอบด้วย องค์กรพัฒนาเอกชนท่ีจะช่วยระบุตัวผู้ท่ีใช้ยาและ สารเสพติด โดยมี การ คัดกรองปัญหายาเสพติด และส่งต่อไปยังหน่วยบริการสาธารณสุข เม่ือจำเป็น องค์กรชุมชนเน้นเชิงป้องกัน และส่งเสริมสุขภาพรวมถงึ สนับสนุนช่วยเหลือให้ผู้ป่วย เสพติดสามารถใช้ชีวิตขั้นพ้ืนฐานในชุมชนได้โดยการส่งเข้าสู่ สังคม และการบรกิ ารฟน้ื ฟูสภาพ จติ ใจ 2. ศูนย์สุขภาพ ให้การบริการการตรวจคัดกรองและให้คำปรึกษา โดยมีการให้บริการ ตรวจสุขภาพ เบื้องต้นและการบริการอื่นๆ ตามความต้องการ และความเหมาะสม ผู้ป่วยเสพติด บางรายอาจถูกนำส่งไปรักษาท่ี โรงพยาบาลหรือคลนิ ิกในกรณีจำเปน็ เท่านั้น เช่น การรักษาโรค เฉพาะทางยาเสพติด ในผู้ป่วยท่ีมีอาการทางจิตจาก การตดิ ยา อาการเพอ้ สับสน (Delirium) โรคตดิ เชอ้ื และความผิดปกตทิ างจติ อืน่ เป็นต้น

3. หน่วยสวัสดิการทางสังคมและองค์กรพัฒนาเอกชน ท่ีให้การศึกษา ให้คำปรึกษา ฝึกอบรมอาชีพและ ทกั ษะ สรา้ งโอกาสในการหารายได้ใหส้ นิ เชือ่ ขนาดเล็กกับบคุ คลทมี่ ฐี านะ ยากจน ให้การสนับสนุนทางด้านจติ ใจและ สงั คมอ่ืนๆ ทีส่ อดคล้องเหมาะสมกบั บริบทในพนื้ ที่ สถานีตำรวจภูธรเขาพนม ร่วมกับชุดปฏิบัติการชุมชนย่ังยืนฯ องค์การบริหารส่วนตำบลพรุเตียว คณะกรรมการกลางหมู่บ้านบางเหรียง และคณะกรรมการตามโครงการพลังกองทุนแม่ของแผ่นดินสร้างชุมชน (CBTx) ปลอดยาเสพติด บ้านบางเหรียง จัดทำ “โครงการพลังกองทุนแม่ของแผ่นดินสร้างชุมชน (CBTx) ปลอดยาเสพติด” ณ บ้านบางเหรียง หมู่ 3 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบ่ี โดยมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน และค้นหาผู้เสพผู้ใช้ผู้ติดยาเสพติด เพื่อนำสู่กระบวนการบำบัดใน หมู่บ้าน องค์ประกอบของชุดปฏิบตั กิ าร 1. ชุดปฏบิ ัตกิ ารบรู ณาการร่วมปฏิบตั ิงาน 2. คณะกรรมการประจำหมบู่ ้าน/ชมุ ชน 3. คณะกรรมการประจำคุม้ /เขต 4. คณะกรรมการกลนั่ กรองบุคคล/ครัวเรือนสขี าว 5

กระบวนการทำงาน ประกอบดว้ ย 3 ขั้นตอน คอื ขัน้ ตอนท่ี 1 ขั้นเตรยี มการ 1. การประชุมวางแผน สืบสภาพชุมชน และแตง่ ตงั้ ชดุ ปฏบิ ตั ิการ - จัดทำคำสงั่ และแตง่ ต้งั คณะทำงาน - การสบื สภาพชมุ ชนและพบปะแกนนำ 2. การพบผ้นู ำชุมชน/แกนนำชมุ ชนและการแสวงหาความร่วมมอื จากประชาชน - จัดประชมุ รว่ มกับผู้นำชมุ ชน/แกนนำ/หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง - กำหนดวนั เรมิ่ โครงการ - ร่าง MOU

3. พิธีเปิดและการประชาคม ณ ศูนยป์ ฏบิ ัตกิ ารในพืน้ ท่ี - มอบหมายหน้าที่ในวันพธิ ีเปดิ - ทำประชาคม กำหนดขอ้ ตกลง/ทำคมุ้ และคณะกรรมการ/รปู แบบคัดกรอง/เอกซเรย์ - กำหนดกตกิ ากับผู้เสพ - ตรวจปัสสาวะ/ทำ MOU - ทำป้าย/บัตรพลเมอื งสีขาว/ครวั เรือนทีข่ าว/คุม้ สีขาว/หม่บู า้ นสีขาว/ป้าย คกก. ข้ันตอนที่ 2 ขน้ั ปฏิบัตกิ าร 1. เข้าพกั แรมในพนื้ ที่ - มอบหมายหนา้ ทเ่ี วรยาม - กำหนดตารางทำงาน ประจำวนั ประจำเดือน - กำหนดกจิ กรรม - กำหนดวันพบปะผูเ้ สพ - ตรวจปสั สาวะ - จัดพกั แรมมธี งชาติ ป้ายโครงการใหช้ ัดเจน - ประชาสมั พนั ธ์การทำงาน จดุ ประสงค์ - เกบ็ ข้อมลู เปน็ ระบบ - ตรวจปัสสาวะถา่ ยภาพ ไวท้ ำบตั รพลเมอื งสีขาว - สรุปผลงานบนกระดานตรวจสอบได้ 2. กระบวนสรา้ งแนวร่วม - ชดุ ปฏบิ ตั ิการออกพบปะประชาชน อย่างต่อเนอื่ ง - จดั ทำแผนทเ่ี ดินดิน - จัดทำคุ้ม ใชห้ ลักภูมปิ ระเทศ/แตง่ ตงั้ คณะกรรมการคมุ้ - ทำป้ายคุ้ม - สำรวจขอ้ มูลปญั หาชมุ ชน เรียงลำดบั ความเร่งดว่ น - เปิดโอกาสใหช้ มุ ชน แกนนำ อาสาสมัคร เข้ามารว่ มทำงาน

3. กระบวนการคน้ หาผเู้ สพหรอื การเอกซเรย์ 100% - ดำเนนิ การลง MOU ใหค้ รบทกุ ครัวเรอื น - ตรวจปสั สาวะบุดคล 100% /ก่อนตรวจตอ้ งลง MOU ก่อน/ถือเป็นประชามติ/มียกเวน้ ไม่ต้องตรวจ เช่น เดก็ คนชรา ปว่ ยติดเตยี ง - ตรวจปัสสาวะใหเ้ ปน็ รูปแบบคณะกรรมการ - บุคคลที่ตรวจไมไ่ ด้เพราะอยไู่ กลประสานหนว่ ยอื่นตรวจให้ - กดดนั ในการออกตรวจ - ต้ังจดุ สกัดชัว่ คราวตามท่ีเหมาะสม 4. กระบวนการกลั่นกรองและรบั รองบุคคล - การคดั กรองผเู้ สพ/ประสาน รพ.สต./สาธารณสขุ ดำเนนิ การ - ใชร้ ะบบบำบัด CBTx - กระบวนการกลั่นกรองบุคคลและครวั เรอื นสีขาว - ผู้เสพนำเขา้ สู่กระบวนการ - ทำการกลั่นกรองบคุ คล ครัวเรือน สขี าว โดยคณะกรรมการระดับชุมชน/หมบู่ า้ น 5. กระบวนการติดตาม ช่วยเหลือ เยี่ยมบ้าน สร้างกฎชุมชน ฟ้ืนฟสู ังคม - ประชุมคณะทำงานสรา้ งความเขม้ แข็งในหมบู่ า้ น - สรา้ งภูมิคุ้มกนั - สรา้ งคณะกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชนให้เขม้ แข็ง - มีการตง้ั กฎหรอื ธรรมนูญหมูบ่ ้านเพอ่ื บังคบั ใช้ - กดดนั จับกุม ผคู้ ้า ผู้ทีย่ ังไมเ่ ลิก - หนว่ ยงานราชการ เอกชนเสรมิ กิจกรรมได้ 6. กระบวนการดำรงความเข้มแข็ง/เฝา้ ระวัง - เสรมิ ความรู้ความเขา้ ใจคณะกรรมการหมู่บา้ น - ต้ังชดุ รักษาความปลอดภยั ในหมบู่ า้ น - ปรับสภาพแวดล้อมชุมชนใหเ้ หมาะสมเป็นพนื้ ทีป่ ลอดภัย - ดำรงการใช้มาตรการทางสงั คมในชุมชนตอ่ เน่ือง - ตดิ ตามเฝ้าระวังผ้คู า้ ผู้เกี่ยวข้องทยี่ งั ไม่เลกิ - ผลติ สายขา่ ว/แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ถา่ ยทอดผลงาน

ข้นั ตอนที่ 3 ขั้นสง่ ต่อความสำเร็จ/ย่งั ยนื

ปัจจัยความสำเรจ็ 1. ผบู้ รหิ าร ให้ความสำคัญกับงานยาเสพติด 2. คนทำงาน ต้องมคี วามมุ่งม่ัน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก 3. การวางแผน บรหิ ารทรัพยากรอย่างคุ้มค่าคุ้มทุน วางระบบการทำงานสู่ความยัง่ ยนื 4. มีผ้ปู ระสานงานต้ังแต่ระดับนโยบาย ระดบั จังหวดั ระดับพ้นื ท่ีอยา่ งชัดเจน 5. การปรับเปล่ียนทัศนคติมุมมองของคนทำงาน เป็นเรื่องสำคัญควบคู่กับการพัฒนา องค์ความรู้ท่ีใช้ ในการดำเนนิ งาน 6. สรา้ งระบบการใหค้ ำปรึกษาของคนทำงานอย่างเปน็ กลั ยาณมิตร ผลการดำเนนิ การโครงการได้รับความร่วมมือและพึงพอใจจากประชาชนในพ้ืนท่ี

๔. ประโยชน์ท่ไี ด้รบั และขอ้ เสนอแนะเพื่อการพฒั นานโยบายการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ

การทำงานยาเสพติดกบั ชมุ ชน ส่ิงสำคัญ คือ เร่ืองทัศนคตมิ ุมมองคนทำงาน รวมถึง ผู้บังคบั ใช้กฎหมายยัง มีมุมมองเชิงลบ ควรมีกระบวนการปรับทัศนคติให้คนทำงานเกิดทัศนคติ เชิงบวก เก่ียวกับการดูแลช่วยเหลือผู้ใช้ ยาเสพติด งานยาเสพติดเป็นงานท่ีมีความยุ่งยากซับซ้อน ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน สำหรับพ้ืนท่ีการ แพร่ระบาด มีความเส่ียงจะมีความ ยากลำบากในการดำเนินงาน คนในชุมชน หวาดกลัว วิตกกังวล ไม่เข้าใจ และ ไม่ให้ความร่วมมือ เพราะคิดว่า ปัญหายาเสพติดไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง แต่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่ต้อง เข้ามาดูแลฉะน้ันการสร้างความตระหนักให้คนในชุมชนลุกขึ้นมามีใจในการแก้ปัญหาต้องขจัด ความกลัวต่าง ๆ ตลอดจนการเสรมิ พลังใหช้ มุ ชนก้าวขา้ มความคดิ เดมิ ๆ ซึง่ ต้องใช้ระยะเวลา พอสมควร ทั้งน้ี การแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการแก้ไขปัญหา คือ การมองเห็น ปัญหา ร่วมกัน จากเสียงสะท้อนของชุมชน ประกอบกับการท่ีหน่วยงานภาครัฐและเครือข่าย ที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้เอ้ืออำนวย ใหเ้ กดิ กระบวนการแก้ไขปญั หาแบบบูรณาการ ตามแนวคิด Community based approach โดยกำหนดเป้าหมาย และแผนการทำงานที่ชัดเจน ต่อเน่ือง ทำให้ชุมชนสามารถจัดการแก้ไขปัญหาโดยชุมชน นอกจากน้ันควรมองถึง การบูรณาการร่วมกัน ระหว่างการแก้ไขปัญหาอ่ืนๆ ท่ีอาจมีสาเหตุทำให้เกิดปัญหาด้านยาเสพติดเช่น ปัญหาทาง สังคม ปัญหาทางเศรษฐกิจ และควรมีการขยายการดำเนินการตามแนวคิด Community based approach ในพ้ืนท่ีอ่ืนท่ีมีปัญหาด้านยาเสพติดท่ีรุนแรง โดยคำนึงถึงความพร้อม ศักยภาพของ ชุมชน และบุคลากรเครือข่าย ในพ้นื ที่ ---------------------------------------------------------

เอกสารรายงาน การดงู านในหลกั สูตร นกั บริหารงานปอ้ งกัน และปราบปรามยาเสพตดิ ระดบั ตน้ (นบต.ปปส.) รุ่นที่ 14 พื้นที่จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี วนั พุธท่ี ๒๒ กนั ยายน ๒๕6๔ หวั ขอ้ การศกึ ษาดงู าน เร่ือง งานการขา่ วการลกั ลอบลำเลยี งยาเสพติดในพื้นท่ีทางทะเล ณ โรงแรมไดมอนดพ์ ลาซา่ จังหวดั สุราษฎรธ์ านี จดั ทำโดย กลมุ่ นา่ น เอกสารรายงานน้เี ป็นส่วนหนง่ึ ของการฝึกอบรม หลักสตู รนกั บริหารงานปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ ระดับตน้ รนุ่ ท่ี 14 สถาบันพฒั นาบคุ ลากรด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ สำนักงาน ป.ป.ส.

รายช่ือสมาชกิ กลมุ่ นา่ น (ด้านการบริหารจัดการ) นกั บริหารงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับต้น รุ่นท่ี ๑๔ สำนักงาน ป.ป.ส. สถาบนั พฒั นาบุคลากรดา้ นการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด สำนกั งานปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค ๓ 1. นางสาวขวัญฤทัย สุวรรณ สำนักงานปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ภาค ๔ 2. นางสาวธนั ยาภรณ์ จรี ะพงษ์ สำนกั งานปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค ๕ 3. นางสาวกันยากร ศรชี ัยมลู สำนกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 4. นายปริญญา ปญั ญานาม สำนกั ปราบปรามยาเสพตดิ 5. นางสาวฐิติวรรณ เทยี นถวาย สำนักตรวจสอบทรพั ยส์ นิ คดยี าเสพตดิ 6. นายภชู ชิ ย์ บญุ ประสงค์ สำนกั ตรวจสอบทรัพยส์ นิ คดยี าเสพตดิ 7. นายปรเมษฐ์ โพนทอง สำนักยทุ ธศาสตร์ 8. นางสาวจตุราภรณ์ รอดเกลี้ยง 9. นายธรี พงศ์ โพธ์เิ จริญ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิตมัธยม 10. นายเทพฤทธ์ิ ยอดใส สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ 11. พันตำรวจโท ทัตพล อริยานนท์ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนกั งานปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงิน 12. นางสาวศกนุ า เก้านพรตั น์ กองคดี 3

รายงานสรปุ สาระสำคัญ หลักสตู ร นกั บริหารงานปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติดระดับตน้ (นบต.ปปส.) รนุ่ ที่ ๑๔ หวั ข้อวิชา : งานการขา่ วการลักลอบลำเลียงยาเสพตดิ ในพ้ืนทที่ างทะเล วันที่ : วนั พุธที่ ๒๒ กันยายน ๒๕6๔ วิทยากร : นาวาเอกณัฐเกียรติ มนขนุ ทด ผูอ้ ำนวยการกองข่าวกองบญั ชาการทัพเรอื ภาค 2 ๑. สรุปสาระสำคญั ของเนื้อหาวิชา 1.๑ ภารกิจ ขอบเขตความรับผดิ ชอบ ทรภ.2 มหี นา้ ทป่ี ้องกนั ราชอาณาจักรทางทะเล วิทยากรไดก้ ลา่ วถึงการวดั นา่ นนำ้ ภายใน และแต่ละ ชาติสามารถหาผลประโยชน์ไดถ้ งึ 200 ไมล์ทะเล แต่มีอำนาจเตม็ ร้อยได้แค่ 24 ไมล์ทะเล ๑.2 สถานการณก์ ารลักลอบเขา้ ทำการประมงของ รปม.ตา่ งชาติ มีกลุ่มประมงเวียดนามเป็นหลกั มีการลักลอบเข้ามา เป็นจำนวนมากเป็นร้อยลำในแต่ละปีโดยมี เรือต่างประเภท เช่นเรือเบ็ด เรือราดปลิงทะเล เรืออวนลาก มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยส่วนใหญ่จากการสอบสวน พบว่า ชาวเวียดนามมักถูกหลอกว่าสามารถทำประมงได้โดยติดต่อจากเจ้าหน้าท่ี ท่ีไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ๑.3 สถานการณล์ กั ลอบคา่ น้ำมันหลบเลย่ี งภาษที ะเล มีทั้ง 2 ฝั่งของไทยท่ีมีการขนน้ำมันเถอ่ื น โดยจำหนา่ ยใหแ้ กช่ าวประมง และนำขน้ึ บก ขบวนการ เรือจำหน่ายน้ำมันเถื่อนส่วนใหญ่อยู่ในเศรษฐกิจเฉพาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจในการเข้าจับกุม เป็นช่องโหว่ ทางกฎหมาย ๑.4 สถานการณล์ ักลอบยาเสพตดิ ทางทะเล มีหนาแน่นต้งั แต่ปี 2563 เปน็ ต้นมา แหล่งผลิตทรี่ ัฐฉาน สามเหล่ยี มทองคำ เนื่องจากทางบก เรมิ่ สง่ ลำบากจงึ หนั มาสง่ ทางทะเล มี 2 ปัจจยั คอื โควดิ ระบาด และสงครามในพมา่ ใน 2 ปีที่ผ่านมามีการจับกุมการขนส่งยาเสพติดทางทะเลมีจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะมีการ พักยาเสพตดิ ท่ีสุราษฎร์ธานีและนครศรธี รรมราช แล้วนำไปส่งที่ทะเลเขตเศรษฐกิจเฉพาะและคาดว่าจะมีแนวโน้ม สูงขึ้นตั้งแต่ ปี 2564 เพราะการคงส่งทางทะเลสามารถขนได้เป็น จำนวนมากถึง 10,000 กิโลกรัม โดยเฉพาะ การจะเข้าถึงกระบวนการค้าอย่างแท้จริงจำเป็นต้องใช้กระบวนการทางการข่าว ปัญหาของกองทัพเรือคือ การมี ข่าวสารน้อย และการมีเรือเป็นจำนวนจำกัด ทำให้ไม่สามารถปราบปรามได้เท่าที่ควรจะเป็น ข้อจำกัดในการ ปฏิบัติงาน คือ 1. บัตรประจำตัว เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. มีจำนวนน้อย 2. ขาดแคลนอุปกรณ์พิเศษในการตรวจหา ยาเสพติด 3. มีขอ้ จำกัดในการตรวจสอบยาเสพตดิ ทางทะเล

๒. ข้อคิดและประโยชน์ท่ไี ด้รับ ๑. สามารถนำรปู แบบการลำเลยี งยาเสพติดทางทะเล การซุกซอ่ นยาเสพตดิ ของผ้กู ระทำความผิด หรอื เครือข่ายการค้ายาเสพติด มาใช้เป็นกรณีศึกษาสำหรับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสืบสวน จับกุม ผู้กระทำความผิด เก่ยี วกับยาเสพติด ๒. สามารถนำมากำหนดเป็นมาตรการ นโยบายในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ในพื้นที่ทางทะเล รัฐบาลไทย ต้องเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงขนส่งทางทะเล เพอื่ ส่งตอ่ ไปยังประเทศที่ 3 อยา่ งเขม้ งวด ๓. การนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นการปฏิบัติงาน ๑. จากการรับฟังการบรรยายในหัวข้อ งานการข่าวการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ทางทะเล เกิดแนวทางในการพัฒนาเทคนิคและรูปแบบในการสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ที่มีความสอดคล้องเหมาะสมในการปฏิบัติ ตามบริบทแวดล้อมในปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถยกระดับไปสู่การ ถ่ายทอดเทคนิคและรูปแบบไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในภาคส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานด้านปราบปราม ยาเสพติดในภาพรวม สอดคล้องตามบทบาทและตามเจตนารมณ์สำคัญของสำนักงาน ป.ป.ส. ที่เป็นคลังควา มรู้ ดา้ นยาเสพตดิ ของประเทศ ๒. กำหนดมาตรการ และนโยบายในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการสกัดกั้นยาเสพติด ทางน่านน้ำไทย โดยขอความร่วมมือจากต่างประเทศ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงาน ******************************************************************

ภาพประกอบการฝึกอบรม

เอกสารรายงาน การดงู านในหลักสตู ร นักบรหิ ารงานปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ระดบั ตน้ (นบต.ปปส.) รุ่นที่ 14 พื้นท่ีจังหวดั สรุ าษฎร์ธานี วันท่ี 23 กนั ยายน 2564 หวั ขอ้ การศกึ ษาดูงาน เรื่อง การบงั คับใช้กฎหมายขยายผลเครือข่ายในพ้นื ท่ภี าคใตต้ อนบน ภาค 8 จดั ทำโดย กลมุ่ วงั เอกสารรายงานน้ีเปน็ สว่ นหนึง่ ของการฝึกอบรม หลกั สตู รนักบรหิ ารงานปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติดระดบั ต้น รนุ่ ท่ี 14 สถาบนั พัฒนาบุคลากรดา้ นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนกั งาน ป.ป.ส.

รายชือ่ สมาชกิ กล่มุ 1. พนั โท ชัยรตั น์ สุจิตราพทิ ักษ์ ตำแหน่ง หัวหนา้ ฝา่ ยปฏบิ ตั ิการและข่าวยาเสพตดิ สังกัดศูนยป์ ฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ 2. นายภราดร บุญจนั ทร์คง ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 3. นางสาวศิริรกั นันแก้ว ตำแหน่ง พนักงานคุมประพฤตชิ ำนาญการ สังกดั กรมคุมประพฤติ 4. นายบุญมา วรรณบุตร ตำแหน่ง พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ 5. นายประกาญจน์ ชอบไพบูลย์ สังกัด ศนู ยฝ์ กึ และอบรมเด็กและเยาวชนสิรนิ ธร 6. นายดวงจันทร์ สบื เชอ้ื กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 7. นางชลธชิ า แกว้ ไชยะ ตำแหนง่ นกั วชิ าการคอมพวิ เตอรช์ ำนาญการ 8. นายสวโรจน์ จักกภมู ิ สงั กดั ศนู ยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศ สำนักงาน ป.ป.ส. 9. นางสาวสายสมร รอดแก้ว ตำแหนง่ นิติกรชำนาญการ 10. นางสาวปยิ ะวรรณ เก็มเดน็ สังกดั กองกฎหมาย สำนกั งาน ป.ป.ส. 11. นายกฤตภาส บุญฤทธิ์ ตำแหน่ง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ 12. นายธิติ ดวงสรอ้ ยทอง สงั กัด สำนกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 2 ตำแหน่ง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ 13. นางสาวอุดาการ กหุ ลาบเหลอื ง สังกดั สำนกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 ตำแหน่ง นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ สงั กัด สำนักงานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 6 ตำแหน่ง นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ สงั กัด สำนกั งานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 ตำแหน่ง นักวเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ สงั กัด สำนักงานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 ตำแหน่ง นกั สบื สวนสอบสวนชำนาญการ สงั กัด สำนกั ปราบปรามยาเสพตดิ สำนักงาน ป.ป.ส. ตำแหนง่ นายแพทยช์ ำนาญการพิเศษ สังกัดสถาบนั บำบดั รักษาและฟนื้ ฟูผู้ตดิ ยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตำแหน่ง นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ สงั กัด กองนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนกั งานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ

เรือ่ ง การบงั คับใช้กฎหมายขยายผลเครอื ข่ายในพืน้ ทภ่ี าคใต้ตอนบน ภาค 8 ณ โรงแรงไดมอนด์พลาซ่า จังหวดั สุราษฎร์ธานี วันที่ 23 กันยายน 2564 หัวข้อวิชา การบังคับใช้กฎหมายขยายผลเครือขา่ ยในพ้ืนที่ภาคใต้ตอนบน ภาค 8 เสวนา โดย 1. พ.ต.อ. กวินศักด์ิ พีรยศธนนนท์ รอง ผบก.ตชด. ภาค 4 2. พ.ต.ต. จริ ายุ ประดิษฐส์ าร สารวตั ร สภ.บ้านนาสาร 3. พ.ต.ท. สวุ ิทย์ หัสนันท์ สารวตั ร กอง 2 4. นายสวาท หงึ ษาชู ป.ป.ส. ภาค 8 5. นายอรรถพล เพชรน้ำแดง ผดู้ ำเนนิ รายการ ข้อมูลทั่วไปของหน่วยงานในพ้ืนท่ีภาคใตต้ อนบน ภาค 8 1. กองบังคบั การตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 สถานที่ตงั้ ถนนไทรบรุ ี ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา 90000 โทรศัพท/์ โทรสาร 074-311667 วิสัยทัศน์ “กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค ๔ เปน็ หน่วยงานทม่ี ีความเชย่ี วชาญในการสร้างความมั่นคง และความสงบเรยี บร้อยในพื้นที่ชายแดนและพน้ื ท่ีท่มี ปี ัญหาความมั่นคงในภาคใต้ใหเ้ กดิ สันตสิ ุขอย่างยง่ั ยนื ” พนื้ ท่รี ับผดิ ชอบ กองบงั คับการตำรวจตระเวนชายเเดน ภาค ๔ มพี ื้นทีใ่ นเขตความรบั ผิดชอบ ๑๔ จังหวดั ภาคใต้ เป็นหน่วยบังคบั การการปฏบิ ัติงานของกองบังคบั การตำรวจตระเวนชายเเดน จำนวน ๔ หนว่ ยดงั นี้ 1. กองกำกับการตำรวจตระเวนชายเเดนท่ี ๔๑ จ.ชุมพร ๒. กองกำกบั การตำรวจตระเวนชายเเดนที่ ๔๒ จ.นครศรีธรรมราช ๓. กองกำกับการตำรวจตระเวนชายเเดนที่ ๔๓ จ.สงขลา ๔. กองกำกับการตำรวจตระเวนชายเเดนท่ี ๔๔ จ.ยะลา ภารกจิ และหนา้ ทีร่ ับผดิ ชอบของหนว่ ยงาน ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) (Border Patrol Police) เป็นตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นกำลังเสริม แทนการใช้กำลังทหาร ในรักษาความสงบตามแนวตะเข็บชายแดน อันเน่ืองจากสนธิสัญญากรงุ เจนีวาระหว่างไทย กับฝร่ังเศสกำหนดห้ามไม่ให้มีกำลังทหารในระยะ 25 กิโลเมตรจากแนวชายแดน จุดประสงค์หลักในการจัดต้ัง ตชด. ในช่วงแรกคอื ป้องกันกองกำลังคอมมิวนิสต์ท่ีเข้ามารุกรานในประเทศ ในปัจจุบัน ตชด. มีหน้าที่ปราบปราม ยาเสพติดท่ีเข้ามาในประเทศไทย โดยจุดเร่ิมในการพิจารณาจัดต้ังหน่วยกำลัง \"ตำรวจตระเวนชายแดน\" ขึ้นในปี พ.ศ. 2494 โดยกำหนดให้หนว่ ยจะตอ้ งมีคุณลักษณะ 3 ประการ ดังน้ี ๑ .สามารถทำการรบไดอ้ ยา่ งทหาร ๒. สามารถป้องกนั และปราบปรามอาชญากรรมได้อย่างตำรวจ ๓. สามารถดำเนินการพฒั นาและชว่ ยเหลอื ประชาชนไดเ้ ชน่ เดียวกับขา้ ราชการพลเรือน ๒. สภ.บา้ นนาสาร สถานทตี่ ง้ั 22 ถนนเทศบาล 1 ตำบล นาสาร อำเภอบา้ นนาสาร สรุ าษฎร์ธานี 84120 โทรศัพท:์ 077-341782 วสิ ัยทัศน์ “เปน็ ตำรวจมืออาชีพ เพอื่ ความผาสกุ ของประชาชน”

พื้นทรี่ ับผดิ ชอบ อ.บา้ นนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ภารกิจและหน้าทรี่ บั ผดิ ชอบของหน่วยงาน สถานตี ำรวจภูธรบา้ นนาสาร มีหน้าท่ีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และตามกฎหมายอ่ืนอัน เกี่ยวกับความผิดในคดีอาญา ภายในเขตอำนาจการรับผิดชอบหรือเขตพ้ืนท่ีการปกครอง รวมตลอดถึงการ รับผิดชอบในด้านการงาน และการปกครองบังคับบัญชาถัดรองลงไปจากกองบังคับการตำรวจนครบาล (1 - 9) หรือตำรวจภูธรจังหวัด เพ่ือรกั ษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ความมั่นคงภายใน บรกิ ารทางสังคม ชุมชน และมวลชนสัมพันธ์ การพัฒนางานบรหิ ารและงานจเรตำรวจ การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และการรักษา ความสงบเรียบร้อย รวมตลอดจนถึงงานกิจการพิเศษ และงานอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานีตำรวจ งานใน สถานีตำรวจ แบ่งออกเปน็ 5 ลักษณะ ดังนี้ คือ 1. งานบรกิ าร 2. งานปกครองป้องกนั 3. งานจราจร 4. งานสืบสวนปราบปราม 5. งานสบื สวนสอบสวน ๓. สำนักงาน ปปส.ภ.๘ สถานทต่ี งั้ 102/27 ม.9 นิคมพัฒนาซอย 2 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84100 โทรศพั ท์ 077-602927-30 วสิ ยั ทศั น์ “เป็นองค์กรนำในการพัฒนาและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ และอาเซียนเพ่อื สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพตดิ \"” พ้ืนท่รี บั ผิดชอบ พนื้ ท่ี ภาค ๘ ภาคใต้ตอนบน จำนวน 7 จังหวดั ไดแ้ กจ่ ังหวัดชมุ พร, สุราษฎรธ์ านี, นครศรธี รรมราช, ระนอง, พังงา, กระบ่ี, และภูเก็ต ภารกิจและหน้าทร่ี ับผิดชอบของหนว่ ยงาน 1. กำหนดยุทธศาสตร์ แนวทางและบูรณาการ ด้านนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนและงบประมาณด้าน ยาเสพตดิ ในพน้ื ทีร่ ับผดิ ชอบ 2. ประสานและสนับสนุนเทคนิควิชาการด้านยาเสพติดให้แก่หน่วยงานและองค์กรในพื้นท่ี รับผดิ ชอบ 3. ประสานและดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับยาเสพติดและกฎหมายว่าด้วย มาตรการ ในการปราบปรามผูก้ ระทำความผดิ เกย่ี วกับยาเสพตดิ ในพ้ืนที่รบั ผิดชอบ 4. ติดตาม ประเมินผลและเฝ้าระวงั สถานการณ์ ปัญหายาเสพติดในพ้นื ท่ีรับผดิ ชอบ 5. เสริมสร้างความเข้มแข็งและสนับสนุนชุมชน องค์กรภาคเอกชนและองค์กรประชาชนในการ ดำเนินงานป้องกันและแกไ้ ขปัญหายาเสพติดในพ้นื ท่ี รับผดิ ชอบ 6. ประสานและสนับสนนุ การตัดฟันทำลายพชื เสพติด ปฏิบัติภารกจิ และปฏิบัติการร่วมในการแก้ไข ปัญหายาเสพตดิ ในพืน้ ท่ีรับผิดชอบ 7. ปฏบิ ตั งิ านรว่ มหรือสนบั สนุนการปฏบิ ัติงานของ หนว่ ยงานอืน่ ทเี่ กี่ยวขอ้ งหรือที่ไดร้ บั มอบหมาย

ความเป็นมาของการบังคับใช้กฎหมายขยายผลเครอื ข่ายในพน้ื ท่ีภาคใตต้ อนบน ภาค 8 การบังคับใช้กฎหมายขยายผลเครือข่ายในพื้นท่ีภาคใต้ตอนบน ภาค 8 ในปี 2557 - 2558 ในช่วงดังกล่าวในพื้นที่รับผิดชอบของ ปปส.ภ.๘ พบปัญหาการการแพร่ระบาดของยาเสพติดและการส่ังการค้า ยาเสพติดจากในเรือนจำรุนแรง ซ่ึงในพื้นที่ ภาค ๘ มีเรือนจำทั้งหมด 16 โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์บางส่วนเป็น กลไกสำคัญในการสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องขังในการค้ายาเสพติดเพ่ือแลกกับเงินและผลประโยชน์ต่าง ตอบแทน โดยผู้ต้องขังจะใช้มีวิธีการต่าง ๆ เช่น การโทรศัพท์ การเข้าเยย่ี ม ผ้ตู ้องขงั ทพี่ ้นโทษ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ในการติดตอ่ กับเครือขา่ ยภายนอกเรอื นจำ ซึ่งแมผ้ ูต้ อ้ งขงั จะถูกจบั กมุ แลว้ แต่ยังสามารถค้ายาเสพติดไดป้ กติ จงึ ทำ ให้ปัญหาการค้ายาเสพติดในพื้นท่ีรุนแรง จากปัญหาข้างต้น ป.ป.ส.ภาค 8 จึงต้องประสานงานกับหน่วยงานที่ เก่ียวข้องหลายฝ่าย เพ่ือร่วมกันแก้ไขปัญหาการค้ายาเสพติดของกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ ได้ทำการขยายผล การสบื สวนสอบสวนจนสามารถนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายนักค้านอกเรือนจำ และขยายผลออกหมายจับผู้ต้องขัง ในเรอื นจำผ้สู ั่งการได้ สำหรับการดำเนินการในหมู่บ้านชุมชนแพร่ระบาดน้ัน ปปส.ภ.๘ เป็นหน่วยงานกลาง ในการ ประสานกบั หนว่ ยงานต่าง ๆ ในพืน้ ทเี่ พ่ือบูรณาการทำงานงานร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยมกี ารต้ังชุดเฉพาะกจิ รว่ มใน การสืบสวนและปิดล้อมตรวจค้นกลมุ่ เป้าหมาย โดยปัจจยั ที่ทำให้การทำงานร่วมกันประสบความสำเรจ็ คอื การขา่ ว ท่ีดี และหลังจากมีคัดกรองกลุ่มผู้เสพแล้ว ก็ได้มีการนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในค่ายบำบัด แต่พบว่ากลุ่มผู้เสพยังกลับไปเสพยาเสพติดและรู้จักเครือข่ายค้ายาเสพติดภายนอกพ้ืนที่มากขึ้น ปัจจุบัน จึงได้มกี ารบำบัดเนน้ การมีสว่ นรว่ มของชุมชน (CBTx) ซง่ึ เชอ่ื วา่ จะมปี ระสิทธภิ าพดีกว่าการบำบัดในรปู แบบเดมิ สาระสำคญั เนื้อหาวชิ า พยานหลกั ฐานท่ีใชใ้ นการสบื สวนขยายผลและดำเนินคดีกับขบวนการค้ายาเสพติด 1. ข้อมูลทางด้านการเงิน คือ การโอนเงินชำระค่ายาเสพติด/ค่าขนส่งยาเสพติดจากผู้ค้ารายย่อย มาผคู้ ้าชั้นใน จนไปสผู่ คู้ ้าตอนบน/เจ้าของยาเสพติด และไหลออกไปสผู่ ผู้ ลติ 2. ข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ ซ่ึงในขบวนการท้ังหมดใช้ติดต่อกัน เพื่อตกลงกันกระทำความผิด เกยี่ วกบั ยาเสพติด 3. พยานหลักฐานอื่น ๆ ซ่ึงอาจได้มาจากการสืบสวนก่อนจับกุมหรือท่ีตรวจค้นได้ภายหลังการจับกุม เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด ข้อมลู การเดินทาง ใบเสร็จตา่ ง ๆ ค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าใช้จา่ ยอืน่ ๆ สญั ญาเช่ารถ/เช่าบา้ น บทบาทหนา้ ท่ีของผ้กู ระทำความผดิ เกย่ี วกับยาเสพตดิ 1. โรงงาน/ผผู้ ลติ ตั้งอยู่ภายนอกประเทศ 2. ผู้คา้ ตอนบน/เจา้ ของยา 3. ผู้ขน/ทีมลำเลียง 4. ผู้คา้ ตอนใน/ผ้ซู ื้อ 5. ผู้คา้ รายยอ่ ย/ผู้เสพ ขน้ั ตอนการสบื สวนขยายผลคดยี าเสพตดิ ซักถามผู้ต้องหาให้ทราบว่าใครมีหน้าที่อย่างไร กรณีมีผู้ต้องหาที่จับกุมได้หลายคน ต้องสอบถาม ให้ทราบรายละเอียด ซึ่งในชั้นจับกุมโดยส่วนใหญ่คำให้การของผู้ต้องหาจะมีส่วนท่ีเป็นความจริงอยู่ด้วยเสมอ ซักถามใหท้ ราบวา่ ใครมหี น้าทอ่ี ยา่ งไร ในขบวนการขนลำเลียง *ผู้ต้องหาท่ีสำคัญ คือ ผู้ท่ีชักชวนผู้ต้องหาคนอื่นในทีม ให้มาขนลำเลียงยาเสพติด* จะเป็นบุคคลที่ ตดิ ต่อกบั ผวู้ ่าจา้ ง ทีมขน และเมอ่ื ทราบตัวผู้ว่าจา้ งกส็ ามารถจะเช่อื มโยงไปถึงนายทุน หรือผ้คู ้าได้

กรณีชุดสืบสวนขยายผล ไม่ได้ร่วมจับกุมและสอบปากคำในเบื้องต้น แต่มีเอกสารที่ได้จาก ชุดจับกุม คือ บันทึกจับกุม , บันทึกตรวจยึดโทรศัพท์, คำให้การเบื้องต้น ซึ่งภายหลังจากได้ข้อมูลโทรศัพท์หรือ ข้อมูลทางการเงินมาประกอบแล้ว จำเป็นจะต้องไปสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมท่ีเรือนจำ เพ่ือให้ข้อมูลท่ีได้มา มีความชดั เจนมากข้ึน การใชข้ ้อมูลโทรศัพทเ์ พอ่ื สนับสนุนการสืบสวนขยายผลคดียาเสพตดิ ขอ้ มูลโทรศัพทเ์ ปน็ พยานหลักฐานอย่างหน่งึ ท่ีใช้ในการดำเนนิ คดีกับขบวนการค้ายาเสพติด สิ่งท่ตี ้อง ทำภายหลังการตรวจยึดโทรศัพท์ คือ การคัดลอกข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหา ส่ิงที่จะต้องคัดลอกเพื่อใช้เป็น พยานหลักฐานและนำไปขยายผลการสืบสวน ดงั น้ี 1. ข้อมูลการโทรเข้า - ออก ซึ่งข้อมูลการโทร (Call Detail Record หรือ CDR) จะสามารถ ขอจากเครือข่ายผู้ให้บริการภายหลังได้ แต่หากเป็นข้อมูลการโทรจากแอพพลิเคชั่น อื่น ๆ เช่น line หรือ face book จะไม่ปรากฏในข้อมูลการโทร (Call Detail Record หรือ CDR) ที่ได้จากผู้ให้บริการ จะปรากฏ เฉพาะที่เครอ่ื งเทา่ น้นั จึงมีความจำเป็นต้องคดั ลอกหรือถ่ายรูปไว้เป็นพยานหลักฐาน 2. ขอ้ ความการสนทนา ผา่ นชอ่ งทางต่าง ๆ เช่น SMS Line Messenger หรือชอ่ งทางอื่น ๆ 3. รายช่อื ของบุคคลในเครื่องทง้ั หมด 4. ภาพถ่ายภายในเครอื่ ง 5. หมายเลขอีมี่เครื่อง (กด*#06#) เพ่ือเราจะนำไปตรวจสอบว่าโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวเคยใช้งาน กับเบอร์โทรหมายเลขใดมาแล้วบ้าง เนื่องจากเครือข่ายนักค้ายาเสพติดมักจะเปล่ียนซิมโทรศัพท์หลังจากกระทำ ความผิดสำเร็จเพ่ือหลบเล่ียงการถูกตรวจสอบของเจ้าหน้าท่ี การตรวจสอบข้างต้นจะทำให้พบความเช่ือมโยงใน การติดต่อกับคดกี ารจับกุมอืน่ ได้ *จัดทำบันทกึ ยินยอมใหเ้ ข้าถึงอุปกรณ์คอมพวิ เตอรไ์ ว้ด้วยทุกคร้ัง* ปัจจุบันมีเครื่องมือพิเศษที่สามารถถอดข้อมูลทางโทรศพั ท์ได้ และสามารถใช้อ้างเป็นพยานหลักฐาน ในชนั้ ศาลไดโ้ ดยเคร่ืองมือสว่ นใหญ่อยูท่ ี่ บก.สส.ภาค นำหมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ เช่น หมายเลขของผู้ต้องหา หมายเลขของผู้ว่าจ้าง หรืออาจมี หมายเลขของผู้รับ ยาเสพติดปลายทาง ขอข้อมูลการโทร (Call Detail Record หรือ CDR) จากผู้ให้บริการ สิ่งสำคัญคือ ตอ้ งออกเปน็ หมายเรยี กพยานเอกสาร เพือ่ จะไดน้ ำขอ้ มูลใช้เปน็ พยานหลกั ฐานในชนั้ ศาลได้ หลังจากได้ข้อมูลการโทร (Call Detail Record หรือ CDR) จากผู้ให้บริการ จะนำข้อมูลดังกล่าว มาจัดทำแผนผังความเชื่อมโยงกันของแต่ละหมายเลข ด้วยโปรแกรม I2 Analyst’s Notebook ซึ่งเป็นโปรแกรม ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและแสดงผลในรูปแบบการเชื่อมโยงข้อมูล เป็นผังให้เห็นรูปแบบการติดต่อ เพ่ือใช้ ประกอบกบั คำให้การท่ผี ้ตู อ้ งหาได้ให้ไว้ ** ข้อจำกัดในการขอข้อมูลการใช้โทรศัพท์คือกับผู้ให้บริการ ในบ้างคร้ังไม่สามารถขอข้อมูลโดยเร็ว ซึ่งอาจจะได้ภายใน 1 - 3 วัน หรืออาจจะเป็น 1 - 3 สัปดาห์ ข้ึนอยู่กับผู้ให้บริการเป็นหลัก และในการขอข้อมูล Call Detail Record หรือ CDR จะมีระยะเวลาจำกัดในการขอข้อมูลการใช้ย้อนหลัง สามารถขอย้อนหลังได้ ไมเ่ กิน ๒-๓ เดือน ข้นึ อย่กู ับหลักเกณฑก์ ารเก็บข้อมูลของลกู ค้าจากผ้ใู หบ้ รกิ ารคา่ ยตา่ ง ๆ Timeline ของการสบื สวนขยายผล โดยสรปุ 1. จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ตรวจยดึ โทรศพั ท์, บตั รเอทเี อม็ สมุดบัญชี (ถา้ มี) ซกั ถาม/สอบปากคำ 2. นำหมายเลขโทรศัพท์ท่ีตรวจยึดได้ ไปขอข้อมูลการโทร (Call Detail Record หรือ CDR) จากผู้ให้บริการ และ นำชื่อผู้ต้องหา บัตรเอทีเอ็ม หรือสมุดบัญชีท่ีตรวจยึดได้ ทำหนังสือสอบถามขอข้อมูลจาก ธนาคารผูใ้ ห้บรกิ ารของบญั ชดี งั กล่าว

3. นำข้อมูลท้ังโทรศัพท์และการเงินมาทำการวิเคราะห์ โดยจัดทำแผนผงั ความเชื่อมโยง (I2) นำขอ้ มูลมา วเิ คราะห์เพอื่ หาตัวผูร้ ว่ มขบวนการ ซ่งึ โดยสว่ นใหญค่ ือผูท้ ตี่ ดิ ต่อกันเวลาขนลำเลียงยาเสพตดิ 4. ลงพื้นท่ีเพอ่ื พสิ ูจน์ทราบตัวบคุ คลและสบื สวนเกีย่ วกับตัวเปา้ หมายรวมถึงทรัพย์สิน สามารถระบุหน้าท่ี ของตัวบุคคลเป้าหมายได้ว่าเกี่ยวข้องอย่างไร เช่นเป็นนายทุน/เจ้าของยาฯ เป็นผู้รับจ้างทำธุรกรรมทางการเงิน กลมุ่ รบั จ้างขน ผู้ค้าตอนใน อ่ืน ๆ 5. รวบรวมพยานเอกสารต่าง ๆ ทำรายงานการสืบสวน ส่งพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติจับกุมและหมายจับต่อไป ระหว่างรออนุมัติหมายจับ สืบสวนหาแหล่งที่อยู่ประจำของตัวบุคคลและ ทรพั ยส์ นิ ของเป้าหมาย 6. วางแผนการจับกุม/เข้าจบั กุม/ยดึ ทรัพย์ อาจได้พยานหลักฐานเพมิ่ เติมในขณะเข้าตรวจคน้ จับกุม เช่น สมุดบญั ชี ซมิ การด์ บัตรเอทีเอม็ สำเนาบัตรประชาชนบุคคลอื่น ๆ 7. เตรยี มตวั อา่ นคำใหก้ าร รายงานการสบื สวน เอกสารท่เี ก่ียวขอ้ งเพือ่ เตรยี มตัวไปเปน็ พยานศาล ปญั หาและอปุ สรรค - ความรวดเร็วในการได้รับข้อมูล ผู้ให้บริการบางรายอาจใช้เวลานานในการส่งข้อมูลกลับมาให้ และการ ขอขอ้ มลู มีระยะเวลาจำกดั ขอย้อนหลงั ไดไ้ ม่เกิน 2 เดือน - การสร้างความสมั พนั ธก์ ับผใู้ ห้บริการตา่ ง ๆ ทงั้ ผู้ให้บริการโทรศพั ท์ ธนาคาร ฯลฯ - ขาดงบประมาณในการสบื สวน - งานขยายผลคดยี าเสพตดิ ตอ้ งใชเ้ วลาในการสบื สวนนาน การดำเนินการเครือข่ายการค้ายาเสพตดิ แนวคดิ เชงิ ประยุกต์ Now Events เหตุการณ์ Now Near past Pattens การมองเป็นรปู แบบ ขยายผล ต่อยอดให้ได้อีก 1 ชั้น บน-ลา่ ง Past Structures โครงสรา้ ง องคก์ ร เครือข่าย ผคู้ า้ รายย่อย รายใหญ่ จุดพกั คอย สิง่ สำคญั ในการขยายผล คอื การแสวงหาและรวบรวมพยานหลกั ฐานให้ครบทง้ั 9 คือ 1. พยานบุคคล 2. พยานเอกสาร รวบรวมให้เปน็ ระบบ 3. พยานวตั ถุ 4. ข้อมูลการติดต่อทุกชอ่ งทาง เช่น โทรศัพท์ ภาพถ่าย สือ่ social ตา่ ง ๆ 5. เสน้ ทางการเงิน ขอขอ้ มูลจากธนาคาร 6. กล้องวงจรปดิ 7. พยานหลกั ฐานทางวิทยาศาสตร์ เชน่ ผลการตรวจหาสารเสพตดิ DNA เป็นต้น 8. พยานหลกั ฐานอ่ืน เชน่ สรุปผังเครือข่าย ประวัตคิ ดี 9. รายงานสืบสวน ดำเนนิ คดีกับใครบ้าง อัยการสง่ ฟ้อง ศาลฯส่งั ลงโทษ

2. ข้อคดิ และประโยชนท์ ไี่ ด้รบั การแก้ไขปัญหายาเสพติดทุกมิติจะต้องอาศัยความร่วมมือและการบูรณาการจากหลายภาคส่วน ที่เก่ียวข้อง ในการระดมทรัพยากรในหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ในมิติการปราบปราม เครือขา่ ยค้ายาเสพตดิ ของ ป.ป.ส. ภาค๘ และหน่วยงานบังคับใชก้ ฎหมายในพื้นที่ ภาค ๘ (ภาคใต้ตอนบน) พบว่า ในช่วงปี 2557 - 2558 ประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ชุมชนรุนแรง และเชื่อมโยงกับ การค้ายาเสพติดภายในเรือนจำของกลุ่มผู้ต้องขัง ซ่ึงติดต่อสั่งการบุคคลในเครือข่ายค้ายาเสพติดภายนอกเรือนจำ ดำเนินการแทน จากสภาพปัญหาข้างต้น ป.ป.ส. ภาค ๘ ในฐานะหน่วยงานกลางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดใน พ้ืนที่ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ร่วมบูรณาการ การทำงานร่วมกัน มีการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจร่วมเพื่อ ทำหน้าท่ีสืบสวนขยายผลจนสามารถนำไปสู่การจับกุมเครอื ข่ายนักค้ายาเสพติดภายนอกเรือนจำ และขยายผลจน รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องขังในเรือนจำผู้ส่ังการได้ รวมทั้งการดำเนินการในหมู่บ้าน ชุมชนแพร่ระบาดนั้น ป.ป.ส. ภาค ๘ ร่วมบูรณาการสืบสวน การข่าว นำไปสู่การปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มเป้าหมาย จนสามารถคัดกรองกลุ่มผู้เสพเพ่ือนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดเพื่อปรับเปล่ียนพฤติกรรมบำบัดเน้นการมีส่วนร่วม ของชมุ ชน (CBTx) ท้งั นี้ในการขยายผลการสืบสวนจนนำไปสูก่ ารทลายเครือข่ายเรือนจำในพ้ืนท่ี ภ. ๘ ได้สำเร็จ มาจาก การรวบรวมพยานหลักฐานท่ีใช้ในการดำเนินคดีอย่างเป็นระบบและครบถ้วน จึงทำให้เห็นข้อมูลความเช่ือมโยงของ บคุ คลในเครอื ข่าย จากข้อมูลทางด้านการเงิน ข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ รวมท้ังพยานหลักฐานอื่น ๆ ซึ่งอาจได้มา จากการสืบสวนก่อนจับกุม ขณะจับกุม หรือหลังจบั กุม เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด ขอ้ มูลการเดินทาง ใบเสร็จต่าง ๆ ค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ สัญญาเช่ารถ/เช่าบ้าน เป็นต้น ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่าน้ีมีปริมาณมาก จึงได้นำ โปรแกรม I2 Analyst’s Notebook ซ่ึงเป็นโปรแกรมในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและแสดงผลข้อมูลเป็นผังให้เห็น ถึงความเช่ือมโยงท้ังการติดต่อทางโทรศัพท์และบัญชีธนาคาร หรือจัดทำผังเครือข่ายเพ่ือให้เห็นว่าบุคคลใน เครือข่าย คนใดทำหน้าที่อะไร มีความเช่ือมโยงกันอย่างไร เพื่อใช้ประกอบเป็นพยานหลักฐานในการแสดงให้ศาล พิจารณาอนุมัตอิ อกหมายจับ ในการจะนำพยานหลักฐานบางกรณีใชป้ ระกอบการดำเนินคดี ผู้สืบสวนจะตอ้ งมกี าร นำข้อมูลจากการสืบสวนทั้งก่อนการจับกุม ขณะจับกุม และหลังการจับกุม มาจัดทำเป็นรายงานสืบสวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการจับกุมเพ่ือจะแสดงให้เห็นศาลเห็นพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาท่ีนำมาสู่การจับกุมได้ ชัดเจนขน้ึ 3. การนำไปประยกุ ต์ใช้ในการปฏิบตั งิ าน หวั ใจสำคัญท่ีนำไปสู่ความสำเร็จในการแกป้ ัญหาการค้ายาเสพติดและการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในพ้ืนท่ี ภาค ๘ คือ การบูรณาการในการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันการแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติด ทุกหน่วยงานที่เก่ยี วข้องจะต่างคนต่างทำ และมองภาพแคเ่ พียงในอำนาจหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบของหนว่ ยงาน ตนเองเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการทำงานด้านยาเสพติดจะต้องระดมทรัพยากรของหน่วยงานต่าง ๆ มา บูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อเป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติอย่างมีประสิทธิผล รวมท้ังได้เห็นภาพรวมของการสืบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดียาเสพติด ทำให้เห็นกลไก ของการทำงานด้านปราบปราม รวมท้ังอุปสรรคปัญหา ซ่ึงผู้เข้ารับการอบรม นบต. ๑๔ ท้ังผู้ท่ีปฏิบัติงานด้าน ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดยตรง และผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในมิติอื่น ๆ สามารถนำไปประยกุ ตแ์ ละปรับใชก้ ับการทำงาน เพ่ือเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้มีประสิทธภิ าพมากยิ่งข้ึน

ภาพประกอบการศึกษาดูงาน หลกั สตู ร นบต.๑๔ การอภปิ รายการบงั คับใชก้ ฎหมาย : สืบสวนขยายผลเครือขา่ ยยาเสพตดิ ในพื้นท่ี ภาค ๘ (ภาคใตต้ อนบน) วนั ท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔ ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซา่ จ.สุราษฎรธ์ านี ภาพผงั โครงสร้างบทบาทของผกู้ ระทำความผดิ ในคดียาเสพติด ภาพผังโครงสร้างการติดต่อกันทางโทรศัพท์ของผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติด โดยนำข้อมูล ก ารโท ร (Call Detail Record ห รือ CDR) จ าก ผู้ ให้ บ ริก าร จะน ำข้ อ มู ล ดั งก ล่ าว ม าจั ด ท ำแ ผ น ผั ง

ความเช่ือมโยงกันของแต่ละหมายเลข ด้วยโปรแกรม I2 Analyst’s Notebook ซ่ึงเป็นโปรแกรมในการช่วย วิเคราะหข์ ้อมูลและแสดงผลในรูปแบบการเชอื่ มโยงขอ้ มลู ภาพประกอบการศึกษาดูงาน หลกั สูตร นบต.๑๔ การอภปิ รายการบังคับใชก้ ฎหมาย : สบื สวนขยายผลเครอื ขา่ ยยาเสพตดิ ในพน้ื ท่ี ภาค ๘ (ภาคใตต้ อนบน) วนั ท่ี ๒๓ กนั ยายน ๒๕๖๔ ณ โรงแรมไดมอนดพ์ ลาซา่ จ.สรุ าษฎร์ธานี โปรแกรม I2 Analyst’s Notebook ใช้ในการจัดทำผังเครือข่าย วิเคราะห์ข้อมูล ประมวลผลข้อมูล และแสดงผล ในรูปแบบผังความเช่ือมโยง แผนภาพ กราฟ ในรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือช่วยให้เจ้าหน้าท่ีสืบสวนวิเคราะห์ความเชื่อมโยง บทบาท หน้าที่ ของบคุ คลในเครอื ขา่ ยยาเสพตดิ ไดช้ ัดเจนมากข้ึน

ภาพประกอบการศึกษาดูงาน หลักสูตร นบต.๑๔ การอภิปรายการบงั คับใชก้ ฎหมาย : สืบสวนขยายผลเครือขา่ ยยาเสพตดิ ในพ้ืนที่ ภาค ๘ (ภาคใต้ตอนบน) วนั ที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๖๔ ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎรธ์ านี ภาพผังความเชื่อมโยงการติดต่อกันทางโทรศัพท์ของผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติด ที่แสดงให้เห็นข้อมูล การโทรเข้า - ออก ในช่วงวันท่ีและเวลาใด จำนวนกี่คร้ัง เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าแต่ละบุคคลและผู้ใช้หมายเลขที่มี การตรวจสอบพบว่ามีบทบาทและทำหน้าท่ีใดในเครือข่าย ซ่ึงเป็นประโยชน์ในการจะนำมากำหนดแผนการสืบสวน ขยายผล รวมท้งั รวบรวมพยานหลกั ฐานในการดำเนนิ คดี ภาพตัวอยา่ งขอ้ มูลการโทร (Call Detail Record หรือ CDR) ท่ีได้รับจากผู้ใหบ้ ริการ ซ่งึ ขอ้ มลู ขา้ งตน้ จะนำมาวิเคราะห์ความเช่ือมโยงด้วยโปรแกรม I2 Analyst’s Notebook เพื่อใหเ้ ห็นภาพความเช่ือมโยง

ภาพประกอบการศกึ ษาดูงาน หลกั สูตร นบต.๑๔ การอภิปรายการบงั คับใช้กฎหมาย : สืบสวนขยายผลเครอื ขา่ ยยาเสพติดในพืน้ ท่ี ภาค ๘ (ภาคใตต้ อนบน) วนั ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔ ณ โรงแรมไดมอนดพ์ ลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี ภาพตัวอยา่ งข้อมูลการโทร (Call Detail Record หรือ CDR) ท่ีไดร้ บั จากบริษัท TRUE จะมีข้อมลู พกิ ดั พื้นทีเ่ สาสญั ญาณ ซงึ่ เป็นประโยชนใ์ นการสบื สวน ในการสืบสวนหาบุคคลผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์เป้าหมาย จะใช้พื้นท่ีตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์เป็นจุด ในการค้นหา โดยจะแบ่งรัศมีสัญญาณที่มีลักษณะเป็นวงกลมออกเป็นสามส่วน ด้าน (SECTOR) ละ 120 องศา โดยจะทราบว่าหมายเลขโทรศัพท์เป้าหมายอยู่ในด้าน (SECTOR) ให้ดูจากค่า CI ท่ีปรากฎในพิกัดสัญญาณ โทรศพั ท์

ภาพประกอบการศึกษาดูงาน หลักสตู ร นบต. ๑๔ การอภปิ รายการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย : สบื สวนขยายผลเครือข่ายยาเสพตดิ ในพืน้ ท่ี ภาค ๘ (ภาคใต้ตอนบน) วนั ที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๖๔ ณ โรงแรมไดมอนดพ์ ลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี ข้อมูลโทรศัพท์เป็นพยานหลักฐานอย่างหนึ่งท่ีใช้ในการดำเนินคดีกับขบวนการค้ายาเสพติด สง่ิ ที่ต้องทำภายหลังการตรวจยึดโทรศัพท์ คือ การคัดลอกข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหา ส่ิงที่จะต้องคัดลอกเพื่อใช้ เป็นพยานหลักฐานและนำไปขยายผลการสบื สวน ซึ่งในการคัดลอกข้อมูลโทรศัพท์จะต้องจัดทำบันทึกยินยอมให้เข้าถึง อปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ไว้ด้วยทุกคร้งั วิธีการตรวจสอบวา่ หมายเลขใด อย่คู า่ ยไหน ใช้วธิ ีการตามภาพข้างตน้ โดยจะนิยมให้ใชห้ มายเลขในระบบ ดีแทคเช็ค เพราะดีแทคสามารถตรวจสอบได้ทุกค่าย และวิธเี ช็คหมายเลขเคร่ืองคือ กด *#06# เม่ือพิสูจน์ทราบผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์ท่ีสำคัญได้แล้วประกอบกับประสานข้อมูลทางด้านการเงิน จนทราบว่ามีบุคคลใดบ้างที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือสนับสนุนหรือสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดบ้าง สามารถระบุหน้าท่ีของแต่ละเป้าหมายได้จัดทำรายงานการสืบสวนเสน อพนักงานสอบสวนเพ่ือขออนุมัติออก หมายจับ

ภาพประกอบการศกึ ษาดูงาน หลักสตู ร นบต. ๑๔ การอภิปรายการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย : สบื สวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดในพืน้ ท่ี ภาค ๘ (ภาคใตต้ อนบน) วนั ที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๖๔ ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี ภาพผังความเชือ่ มโยงทางการเงินของผู้กระทำความผดิ ในคดียาเสพติด ที่แสดงให้เห็นข้อมลู การโอนเงินของบญั ชี จำนวนมาก นำโปรแกรม I2 Analyst’s Notebook มาวิเคราะห์จะพบบัญชีท่ีเป็นจุดเชื่อมโยงของเครือข่ายได้อย่าง ชัดเจน ซ่ึงเป็นประโยชน์ในการจะนำมากำหนดแผนการสืบสวนขยายผล รวมท้ังรวบรวมพยานหลักฐานใน การดำเนินคดี กรณีชุดสืบสวนขยายผลไม่ได้เป็นชุดร่วมจับกุมและสอบปากคำในเบ้ืองต้น แต่มีเอกสารที่ได้จาก ชุดจับกุม คือ บันทึกจับกุม , บันทึกตรวจยึดโทรศัพท์ , คำให้การเบื้องต้น ซ่ึงภายหลังจากได้ข้อมูลโทรศัพท์หรือ ข้อมูลทางการเงินมาประกอบแล้ว จำเป็นจะต้องไปสอบปากคำผู้ต้องหาเพ่ิมเติมที่เรือนจำ เพื่อให้ข้อมูลที่ได้มามี ความชดั เจนมากข้นึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook